“ยาแนวหลุดร่อน” เป็นปัญหาในห้องน้ำที่เราพบเจอเป็นประจำแทบทุกบ้าน ทุกคอนโดมิเนียมเลยนะคะ ..เห็นปัญหาดูเหมือนเล็กๆ แบบนี้ แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็สามารถลามไปเป็นปัญหาใหญ่อย่างพื้นห้องน้ำรั่วซึมได้ด้วยเช่นกัน ปัญหานี้จึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจที่จะมองข้ามไปได้เลยทีเดียว วันนี้ทางทีมงานก็มีวิธีรับมือกับ “ปัญหายาแนวหลุดร่อน” มาฝากกัน เพื่อให้เพื่อนๆ ได้รู้ถึงสาเหตุและวิธีการแก้ไข เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหากวนใจในการอยู่อาศัยค่ะ
สาเหตุ –> ก่อนอื่นเรามาพูดถึงสาเหตุของยาแนวหลุดล่อนกันก่อนเพื่อที่จะได้ระมัดระวังการใช้งานได้อย่างถูกวิธี จากรูปเป็นห้องน้ำที่ผ่านการใช้งานมาร่วมสิบปี รอยยาแนวเก่าๆ แบบนี้ก็เริ่มเสื่อมคุณสภาพตามอายุการใช้งาน และยาแนวบางช่วงก็ไม่เหลือยาแนวระหว่างกระเบื้องแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วยาแนวที่เสื่อมสภาพก็มีสาเหตุมาจากการทำความสะอาดห้องน้ำของเรานี่แหละ เพราะน้ำยาล้างห้องน้ำต่างๆ จะมีสภาพความเป็นกรดสูง ทีนี้พอเราใช้กรดล้างห้องน้ำเป็นประจำ กรดนี่ก็จะกัดผิวปูนยาแนวออกทุกครั้งจนกาวยาแนวนั้นขาวสะอาด พอนานๆ เข้าจะสังเกตเห็นได้ชัดว่าปูนยาแนวมันเป็นร่องลึกลงไปเรื่อยๆ จนหมด หลังจากนั้นน้ำก็จะซึมลงไปที่ใต้กระเบื้องและโครงสร้างพื้นคอนกรีตผ่านตามรอยยาแนวเหล่านี้ และหากทิ้งไว้นานจะเกิดสนิมที่เหล็กเสริมโครงสร้าง จนทำให้คอนกรีตแตก หลุดร่อน และอาจเกิดปัญหากับโครงสร้างพื้นอาคารได้
ต่อไป..มาทำความรู้จักกับ “กาวยาแนว” กันสักหน่อย เนื่องจากขั้นตอนยาวแนวถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากในการปูกระเบื้อง เพราะเป็นตัวเชื่อมระหว่างกระเบื้องแต่ละแผ่นให้แนบสนิทกัน หน้าที่หลักๆ ของยาแนวคือการรองรับความยืดหยุ่นจากการหดขยายของกระเบื้องในอุณหภูมิที่เปลี่ยนไปได้ ทำให้กระเบื้องเชื่อมติดกันจนสามารถป้องกันน้ำ ฝุ่น และสิ่งสกปรก ไม่ให้ไหลลงไปเกาะตามร่องกระเบื้องหรือโครงสร้างบ้านด้านล่างพื้น แต่สิ่งที่ต้องระวังคือเมื่อใช้ไปสักพักหนึ่งอาจเกิดคราบสกปรกฝังแน่นบนยาแนว หรือมีการเสื่อม กระเทาะหลุดบ้าง โดยอายุการใช้งานของยาแนวที่อยู่นอกอาคารจะไม่ค่อยทนความร้อนสักเท่าไหร่ อยู่ได้ไม่เกิน 2-3 ปี แต่ถ้าเป็นยาแนวภายในบ้านจะอยู่ได้นานถึง 10 ปี การดูแลรักษาแค่หมั่นคอยเช็คว่ามีตรงไหนที่หลุดล่อนบ้างแค่นั้นก็พอแล้ว และที่หลายคนไม่ค่อยทราบกันก็คือ ปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์ในห้องน้ำ บางครั้งก็มาจากยาแนวตามขอบสุขภัณฑ์หลุดจนกลิ่นรั่วขึ้นมา
เนื่องจากพื้นห้องน้ำเป็นส่วนที่มักจะเปียกชื้นเสมอๆ และเป็นส่วนที่จะต้องโดนน้ำยาทำความสะอาด คราบสบู่ แชมพู และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายต่างๆ ทำให้กาวยาแนวที่เหมาะสมคือกาวยาแนวที่มีคุณสมบัติใช้ได้กับพื้นที่ที่เปียกชื้น ป้องกันเชื้อรา ตะไคร่น้ำ และการรั่วซึม เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหรือความชื้นลงไปใต้ร่องกระเบื้อง ส่วนกาวยาแนวบริเวณรอบๆ โถสุขภัณฑ์ก็ต้องเลือกที่มีคุณสมบัติเหมือนกับกาวยาแนวพื้นห้องน้ำเช่นกันค่ะ
สำหรับวิธีใช้กาวยาแนวในการปูกระเบื้องก็เป็นเรื่องที่จะต้องควบคุมช่างให้ดี ต้องเว้นระยะร่องยาแนวให้เหมาะกับการปูกระเบื้องแต่ละแบบ โดยทั่วไปควรเว้นร่องยาแนวอย่างน้อย 3 มิลลิเมตรขึ้นไป ส่วนกระเบื้องตัดขอบต้องเว้นร่องยาแนวอย่างน้อย 2 มิลลิเมตร และควรยาแนวแบบเต็มร่องให้เรียบสนิท ไม่มีรูอากาศ ที่สำคัญควรผสมส่วนผสมต่างๆ ตามอัตราส่วนที่ผู้ผลิตแต่ละรายกำหนดเพื่อให้ได้ ประสิทธิภาพสูงสุดของกาวยาแนวนั้นๆ ดังนั้นการควบคุมตั้งแต่ขั้นตอนการก่อสร้างจึงถือเป็นการป้องกันที่ดีเลยนะคะ
วิธีการแก้ไขเบื้องต้น –> เริ่มจากลอกยาแนวเดิมที่เสื่อมสภาพออก แล้วจึงเตรียมหน้างานเพื่อลงยาแนวใหม่ โดยทำความสะอาดร่องยาแนวให้เรียบร้อย รอให้ความชื้นระเหยออกมาให้มากที่สุด (อาจตรวจสอบความชื้นโดยใช้แผ่นพลาสติกปิดบริเวณร่องยาแนว ต้องรอจนไม่ให้มีไอน้ำเกาะ) หากพบว่าไม่มีความชื้นแล้ว ให้ใช้ปูนยาแนวที่มีคุณภาพอุดบริเวณร่องยาแนวกระเบื้องต่อไป วิธีนี้จะช่วยระงับปัญหาได้ประมาณ 1-2 ปี
สรุปเบื้องต้นของอาการยาแนวหลุดร่อนก็มีสาเหตุมาจากการเสื่อมสภาพของกาวยาแนวนั่นเอง อาการแบบนี้ส่งผลโดยตรงให้เกิดการรั่วซึมของพื้นห้องน้ำ เมื่อน้ำรั่วตามยาแนวกระเบื้องลงไปยังโครงสร้าง ทำให้เกิดความเสียหายต่อพื้น ผนัง และบางทีก็ทำให้พื้นทะลุจนเฟอร์นิเจอร์ด้านล่างเสียหาย ดังนั้น เมื่อกาวยาแนวหลุดร่อนก็ควรซ่อมแซมทันที ไม่ควรปล่อยไว้ให้ปัญหาบานปลาย รวมถึงใช้บริการติดตั้งจากทีมช่างที่มีความชำนาญ เพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตให้ได้มากที่สุด
สาเหตุและการแก้ไขสำหรับปัญหายาแนวหลุดร่อนก็ได้อธิบายไปหมดแล้ว ก็หวังว่าจะช่วยหาวิธีแก้ไขให้กับเพื่อนๆ ได้พอสมควร แต่หากไม่ได้เตรียมการรับมือไว้อย่างที่กล่าวมา ปัญหาเหล่านี้ก็อาจบานปลายจนทำความเสียหายต่อส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะพื้นที่อยู่ชั้นล่างที่ตำแหน่งตรงกับห้องน้ำพอดี แล้วจะมีวิธีอย่างไรอีกบ้างในการรับมือกับปัญหานี้ ?.. ” การทำประกันภัยบ้าน “ ถือเป็นอีกทางออกหนึ่งที่จะทำให้เราไม่ต้องเสียเงินก้อนโตไปกับการซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้น หากวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ฝ้าเพดานเปียกน้ำจากน้ำที่รั่วมาจากห้องน้ำด้านบนตามร่องยาแนว ทำให้ฝ้าพัง เฟอร์นิเจอร์โดนน้ำเสียหาย ..หากใครยังไม่เข้าใจถึงเรื่องของประกันภัยบ้านว่าทำหน้าที่อะไร บทความนี้จะยก Case Study ที่เกิดขึ้นจริงมาเล่าให้ฟังกันค่ะ
จาก Case Study เป็นสภาพพื้นลามิเนตและผนังของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งที่เสียหายเนื่องจากน้ำ สำหรับคอนโดฯ นี้ทำประกันไว้จึงแจ้งไปทางประกันภัย ก็จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบสาเหตุ เมื่อทราบว่ามีสาเหตุมาจากยาแนวกระเบื้องหลุดร่อน จนทำให้น้ำไหลลงสู่โครงสร้างด้านล่างแล้วไหลไปยังพื้นที่ด้านข้าง ซึ่งถือว่าเป็นสาเหตุที่ครอบคลุมอยู่ในประกันบ้าน ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นเพื่อชดเชยความเสียหายให้ต่อไป
อย่างเหตุการณ์น้ำที่เข้ามาในบ้านหลังนี้ จะได้รับความเสียหายบริเวณพื้นและผนังในส่วนที่ใกล้กับห้องน้ำ ทางประกันภัยก็จะรับเคลมพื้น ผนัง และพวกเฟอร์นิเจอร์ที่เสียหายเนื่องจากน้ำ เช่น เตียงนอน ซึ่งทางประกันภัยจะรับผิดชอบกับค่าความเสียหายพวกนี้ให้ แต่จะไม่ได้รับผิดชอบกับตัวต้นเหตุของเรื่องอย่างกาวยาแนวกระเบื้องนะคะ ในส่วนนี้ทางเจ้าของบ้านจะต้องไปซ่อมยาแนวเองค่ะ
นี่คือสภาพของกาวยาแนวกระเบื้องห้องน้ำที่หลุดร่อน จนเป็นสาเหตุของปัญหาพื้นลามิเนตที่หลุดร่อนและผนังที่ได้รับความชื้น ถ้ากระเบื้องห้องน้ำที่บ้านหรือคอนโดฯ ใครเป็นแบบนี้ก็อย่านิ่งนอนใจ หรือปล่อยไว้นานจนเป็นปัญหาบานปลายนะคะ
*ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจรายละเอียดของประกันภัยก่อนซื้อทุกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
www.scgbuildingmaterials.com
www.cotto.co.th