รีวิวฉบับที่ 905 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ บ้านศิรินรัตน์ หทัยราษฎร์ โครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนถนนหทัยราษฎร์ ซอย 37 สามารถเข้าได้จากทั้งถนนสุวินทวงศ์ ถนนสายไหม ถนนเลียบคลองสอง และใกล้กับถนนตัดใหม่พหลโยธิน-รัตนโกสินทร์สมโภช บนที่ดินเริ่มต้น 100 ตารางวา ในราคาเริ่มต้น 6.49 ล้านบาท
Facts @ 21 August 2015
- Baan Sirinrat Hatairat 37 (บ้านศิรินรัตน์ หทัยราษฎร์ 37)
- massTIGE development co., ltd
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : คลองสามวา
- เนื้อที่โครงการประมาณ 17-1-00 ไร่ จำนวน 49 ยูนิต
- แบบบ้านมีแบบเดียว บ้าน 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 252 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว และที่จอดรถ 2 คัน
- ที่ดินแปลงมาตรฐาน 100 ตร.วา
- ที่ดินราคาเพิ่มลดตารางวาละ 35,000 บาท
- ราคาเริ่มต้น 6.49 ล้านบาทหรือ 64,900 บาท/ตร.วา (โปรโมชั่น)
- โครงการเริ่มก่อสร้าง : กลางปี 2557
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : กลางปี 2559
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02-906-5060-2
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.876553, 100.715501
แผนที่โครงการนะคะ โครงการบ้านศิรินรัตน์ตั้งอยู่ในซอยหทัยราษฎร์ 37 ซึ่งสามารถเข้าได้จากหลายเส้นทาง แต่ทุกเส้นทางก็จะต้องมาบรรจบกันที่ถนนหทัยราษฎร์แล้วเลี้ยวเข้าซอย 37 ลึกประมาณ 750 เมตร ทางเข้าโครงการจะอยู่ทางด้านซ้าย และมีทางลัดอีกเส้นทางหนึ่งคือจากซอยไทยรามัญที่จะเป็นเส้นทางที่ใกล้กับทางขึ้น-ลงทางด่วนด่านจตุโชติ
จากแผนที่จะเห็นว่ามีถนนที่ Hi-light เป็นเส้นสีน้ำตาล เส้นนั้นคือถนนที่กำลังจะตัดใหม่ ชื่อว่าพหลโยธิน-รัตน์โกสินทร์สมโภช เป็นถนนที่ตัดจากถนนพหลโยธินที่เป็นที่ตั้งของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ระหว่าง BigC และโรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัลขึ้นมาทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีบางส่วนที่ผ่านซอยหทัยราษฎร์ 39 ทำให้เพิ่มช่องทางการเดินทางในอนาคตอีกทางหนึ่ง
บ้านศิรินรัตน์ หทัยราษฎร์ ตั้งอยู่ในเขตคลองสามวา ตอนเหนือของกรุงเทพ ทางเข้าโครงการอยู่ในซอยหทัยราษฎร์ 37 ต้องเข้าจากถนนหทัยราษฎร์ ที่เป็นทางเข้า-ออกหลักของโครงการ และอีกเส้นทางหนึ่งที่ได้กล่าวไปคือทางรองจากซอยหทัยราษฎร์ 39 ด้วยตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ สามารถเดินทางได้จากถนนใหญ่หลายเส้น ไม่ว่าจะเป็นถนนรามอินทราทางใต้ โดยสามารถเลือกเข้าได้ทั้งถนนเลียบคลองสองต่อกับถนนคู้บอนที่ลอดใต้มอเตอร์เวย์ เป็นถนนเส้นที่ยาวต่อเนื่องกัน หรือถ้ามาจากมีนบุรีก็เข้าถนนสุวินทวงศ์เข้าถนนหทัยราษฎร์ได้จากทางใต้ หรือมาจากรามคำแหงก็เข้าเส้นปัญญาอินทรา ส่วนถ้ามาจากปทุมธานีก็เส้นลำลูกกา แล้วเข้าสายไหม แต่แถบนี้ก็จะมีปัญหาเรื่องการจราจรค่อนข้างติดขัดที่ถนนเส้นใหญ่อย่างรามอินทราตลอดทั้งวัน แต่พอเข้ามาในถนนเส้นที่เล็กลง การเดินรถก็จะคล่องตัว เดินรถได้เรื่อยๆ
ส่วนทางขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุด คือ ด่านจตุโชติที่ขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์มีจุดเชื่อมต่อไปยังวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก หรือถนนกาญจนาภิเษก ชื่อเต็มๆเลยคือ ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 สามารถไปได้โดยเข้าที่ถนนเลียบคลองสอง ตรงไปเรื่อยๆเข้าถนนคู้บอน แล้วเลี้ยวขวาที่ทางลอดมอเตอร์เวย์ ตรงไปเรื่อยๆที่ถนนที่ขนานกันกับมอเตอร์เวย์แล้วเลี้ยวซ้ายที่เส้นเชื่อมต่อมอเตอร์เวย์และวงแหวนตะวันออก จะเจอด่านขึ้นทางด่วนอยู่ทางด้านหน้า หรืออีกทางคือไปทางซอยหทัยราษฎร์ 39 แล้วเข้าซอยไทยรามัญ จากด่านจตุโชติ ถ้าขึ้นเหนือ สามารถไปถึงปทุมธานี อยุธยา หรือว่าจะเข้าเมืองด้วยการลงใต้ไปยังถนนเพชรบุรี ส่วนถ้าไปทางตะวันตกบนทางด่วนจะผ่านแยกวัชรพลไปยังลาดพร้าวและพระรามสี่
สำหรับคนไม่ใช้รถ ในปัจจุบันยังไม่มีเส้นทางที่จะเข้าถึงตัวโครงการได้อย่างเส้นทางรถไฟฟ้าหรือรถใต้ดินต่างๆ แต่ในอนาคตจะมีเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพูตลอดถนนรามอินทรา โดยสถานีใกล้เคียงก็จะมีตั้งแต่สถานีคู้บอน ที่เราสามารถลงจากสถานีเข้าถนนคู้บอนและยาวไปถึงถนนเลียบคลองสองได้ ส่วนสถานีวงแหวนตะวันออกจะอยู่ใกล้แยกปัญญารามอินทราที่ใกล้กับศูนย์การค้า และโรงพยาบาลต่างๆ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าที่ถนนพระยาสุเรนทร์ก็ได้ หรือจะเป็นสถานีตลาดมีนบุรีที่สามารถตรงขึ้นถนนหทัยราษฎร์ได้เลย ส่วนการเรียกรถ Taxi แถวหน้าโครงการก็มีบ้าง แต่ถือว่าไม่ใช่ถนนที่เป็นเส้นทางหลัก แต่ก็เป็นถนนใหญ่ มีป้ายรถเมล์ทั้งสองฝั่ง ส่วนพี่วิน รถตู้ สองแถวไม่ค่อยมีให้เห็นบนถนนเลียบคลองสอง
ความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้มีพอสมควร ถ้าใกล้ๆเลยอย่างถนนเลียบคลองสอง ก็จะมีตลาดนัดแยกพระพรหมคลองสอง, Lotus Express ร้านสะดวกซื้อ ร้านโชว์ห่วยทั่วไป แต่ถ้าไกลออกมาหน่อยในระยะขับรถก็จะเกาะกลุ่มกันอยู่ตามแนวถนนรามอินทราสองข้างทาง ร้านอาหารต่างๆให้เห็นเป็นระยะ พอให้เราได้พึ่งพาอาศัยได้ อย่าง The Promenade และ Fashion Island ใกล้กับจุดตัดวงแหวนตะวันออก และยังมีโรงพยาบาลขนาดกลางอยู่ในระยะไม่ไกล
ส่วนเส้นทางที่เราจะพาไปกันในวันนี้คือเส้นทางหลักจากถนนรามอินทรา ที่มาจากหลักสี่ ตรงมาเรื่อยๆเลี้ยวซ้ายเข้าที่ถนนคู้บอน ที่อยู่ก่อนจะถึงจุดรถติดแถวจุดตัดเส้นมอเตอร์เวย์ที่มีศูนย์การค้า ร้านอาหารเกาะกลุ่มกัน เข้าถนนคู้บอนมาเรื่อยๆ ลอดใต้ผ่านมอเตอร์เวย์ แล้วตรงมาเรื่อยๆเข้าถนนเลียบคลองสอง ตรงมาจนสุดเจอสามแยก เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหทัยราษฎร์ แล้วตรงไป ทางซ้ายมือจะมีซอยหทัยราษฎร์ 37 ก็ตรงเข้าไปประมาณ 750 เมตร ทางเข้าโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ
เราเร่ิมต้นการเดินทางกันที่ถนนรามอินทรามุ่งหน้ามีนบุรีเกือบถึงแยกรามอินทรา จะมีป้ายบอกทางคือตรงไปมุ่งหน้ามีนบุรี เลี้ยวซ้ายเข้าถนนวัชรพล ถ้าขึ้นสะพานแล้วเลี้ยวซ้ายจะขึ้นวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก และถ้าขึ้นสะพานแล้วแยกขวาไปจะเป็นทางด่วนไปยังพระราม 9-เอกมัย หรือบางนา-ดาวคะนอง
ขับมาเรื่อยๆจะถึงทางแยก ซ้ายมือจะเบี่ยงเพื่อเข้าต้นถนนวัชรพล ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเข้าซอยรามอินทรา 47 ส่วนเราจะตรงไปตามถนนรามอินทราต่อไป ด้านหน้าจะมีทางขึ้นทางด่วนอยู่ซ้ายมือ
ตรงมานิดเดียวทางซ้ายมือจะมีทางขึ้นทางวนรถเพื่อขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เดี๋ยวเราจะตรงไปลอดใต้ทางด่วนด้านหน้านะคะ ทางซ้ายมือใกล้ทางด่วนจะมีลานกิจกรรมอย่างสนามกีฬาที่ปูด้วยพื้นยาง
ผ่านทางด่วนมาก็ยังอยู่บนถนนรามอินทรากว้าง 10 เลน กั้นการเดินรถด้วยเกาะกลางที่มีไฟถนนและต้นไม้สูง ซอยทางซ้ายมือคือซอยรามอินทรา 57 ด้านหน้าจะมีสะพานลอย ป้ายรถเมล์อยู่เรื่อยๆตามระยะต่างๆ และมีรถสองแถวเดินอยู่ตามความยาวของถนนรามอินทรา
ป้ายรถเมล์ตามระยะต่างๆ ซ้ายมือเป็นทางลัดเข้าสุขาภิบาล 5 ที่สามารถแยกออกไปยังถนนวัชรพลและถนนเพิ่มสิน
นอกจากนั้น บนถนนรามอินทรายังมีแยกไฟเขียวไฟแดงอยู่เรื่อยๆ อย่างด้านหน้าเป็นทางสามแยก เลี้ยวซ้ายเข้าซอยรามอินทรา 40
ตรงมาเรื่อยๆจะมีป้ายบอกเส้นทางถ้าเบี่ยงซ้ายจะไปออกถนนคู้บอน แต่ถ้าตรงไปจะเข้ามีนบุรีหรือไปเข้าถนนกาญจนาภิเษก
จะมีเส้นทางเบี่ยงด้านหน้า เราจะเบี่ยงซ้ายออกมาเพื่อเลี้ยวซ้ายอีกทีเข้าถนนคู้บอน ถ้าตรงไปขึ้นสะพานข้ามแยกจะยังอยู่บนถนนรามอินทราที่เป็นจุดตัดกับวงแหวนตะวันออกที่การจราจรติดขัด มีศูนย์การค้าและโรงพยาบาลกระจุกตัวกันอยู่อย่าง Fashion Island และ The Promenade
เมื่อชิดซ้ายมาแล้ว เราจะเจอป้ายเลี้ยวซ้ายเข้าถนนคู้บอน เราก็จะทำตามอย่างว่าง่ายค่ะ จะเห็นว่ามีรถต่อแถวรอเลี้ยวขวาเข้าถนนนวมินทร์ที่ไปตัดกับถนนประเสริฐมนูกิจเยอะเลย
เลี้ยวซ้ายเข้ามาก็จะเป็นส่วนของตลาดที่มีทั้งที่ตั้งเป็นเต็นท์ และที่ขายอยู่ตรงชั้น 1 ของตึกแถว 3-4 ชั้น มีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 และพี่วินตั้งรกรากให้บริการอยู่ แท๊กซี่แถบนี้ก็เรียกง่ายดีค่ะ
ลึกเข้ามาก็จะเป็นซอยย่อย อย่างทางซ้ายมือก็จะเป็นซอยคู้บอนเลขคี่ เร่ิมต้นที่ซอย 1 ริมถนนคู้บอนก็ยังเป็นตึกแถวสูง 3-4 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นร้านบริการอย่างร้านแว่น ร้านขายทอง ร้านอาหาร ถนนคู้บอนกว้าง 4 เลน โดยสองข้างทางก็จะมีรถจอดส่งของ ซื้อของ ทำธุรกรรมแบงค์ต่างๆบ้าง ส่วนใหญ่ก็จะเหลือเลนการเดินรถสะดวกอยู่เส้นทางละ 1 ช่อง
เข้ามาอีกก็จะมี BigC ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ขวามือก็เป็นร้านขายของทั่วไป ตรงเข้าไปก็จะเป็นซอยคู้บอนซอยย่อยเรื่อยๆจนไปถึงทางลอดใต้มอเตอร์เวย์
จะมีทางโค้งขวาเล็กน้อย
ตรงมาจะเจอสามแยกที่ซ้ายมือจะเป็นซอยคู้บอน 27 ที่จะเป็นซอยใหญ่หน่อย เข้าไปจะเจอหมู่บ้านต่างๆ
เราตรงมาบนถนนคู้บอนเรื่อยๆ สองข้างทางก็จะมีทั้งพื้นที่ที่ได้รับการปรับปรุงโฉมเป็นตึกแถวสูง 3 ชั้น ยังดูใหม่ๆอยู่ และพื้นที่บางส่วนที่เป็นเจ้าของเดินก็เป็นบ้านพักอาศัยทั่วไป
ไกลขึ้นมาอีกก็จะเริ่มเป็นที่ดินว่างเปล่างบ้าง ที่อยู่อาศัยประปราย
ตรงเข้ามาใกล้จะถึงทางลอดใต้มอเตอร์เวย์ จะเจอสถานีตำรวจคันนายาวอยู่ทางซ้ายมือ และสะพานข้ามคลองก่อนจะถึงวันคู้บอนทางซ้ายมือ
ข้ามสะพานมาจะเจอวัดคู้บอนที่ข้างๆจะเป็นโรงเรียนวัดคู้บอน เราจะตรงไปเรื่อยๆไปก่อนนะคะ
มาถึงทางวนรถใต้มอเตอร์เวย์ที่ทำทางเหมือนจะเป็นวนเวียนขนาดใหญ่อยู่ใต้ทางยกระดับ เราจะเลี้ยวซ้ายตามทางกันที่ตรงนี้
เหมือนป้ายทางขวามือที่เห็นในภาพ ทางวนรถจะมีขนาดใหญ่ และสามารถแยกออกไปยังเส้นทางต่างๆอย่างชิดซ้ายไปเรื่อยๆ ไม่วนรถใต้สะพานยกระดับ เรียบไปกับเส้นมอเตอร์เวย์เพื่อไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ที่ด่านจตุโชติได้ ส่วนทางไปโครงการ จะชิดซ้ายเข้าแถวเพื่อวนรถไปทางขวาลอดใต้มอเตอร์เวย์ค่ะ
เมื่อเรามาอยู่เลนขวากันแล้ว เราก็จะเลี้ยวขวาอีกทีเพื่อเข้าถนนคู้บอน มุ่งหน้าถนนเลียบคลองสอง การเดินรถตรงจุดนี้ต้องระวังนิดนึงนะคะ เพราะจะมีรถทั้งอยากเข้าและอยากออกตรงจุดต่างๆ ถ้าเข้าผิดก็ต้องวนรถกลับมาตั้งสติวนกันอีกที แถมยังชะลอรถไม่ได้เพราะว่ามีรถคันข้างหลังและข้างๆจี้อยู่ด้วย
ลอดผ่านใต้มอเตอร์เวย์กันมาแล้วก็จะมีทางแยกซ้าย-ขวาให้เลือกอีก เราจะเลือกที่จะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนคู้บอน มุ่งหน้าถนนเลียบคลองสอง
เลี้ยวขวาจากทางแยกมาก็จะมีป้ายบอกเส้นทางว่าถ้าเลี้ยวขวาอีกที นอกจากจะเข้าถนนเลียบคลองสองแล้ว ก็ยังสามารถไปถึงถนนพระยาสุเรนทร์และถนนหทัยราษฎร์ที่อยู่เลยไปอีกได้
เราจะเลี้ยวขวาอีกทีตามป้ายเมื่อสักครู่นะคะ ส่วนถ้าเราตรงไปก็จะเป็นถนนเลียบมอเตอร์เวย์ไปเรื่อยๆ
ตรงมาบนถนนคู้บอนช่วงปลายๆก็จะมี Max Value แบบมีที่จอดรถ ที่ต่างจากร้านที่เห็นทั่วไปที่จะอยู่ใต้คอนโด เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
ตรงมาเรื่อยๆก็ยังเป็นพื้นที่เรียบๆ ที่มีร้านขายอาหารบ้าง แปลงพื้นที่ว่างบ้าง มีจุดกลับรถบนถนนคู้บอนกว้าง 6 เลนแบบมีเกาะกลางคั่นบ้าง
ด้านหน้าจะเป็นจุดต่อเนื่องระหว่างถนนคู้บอนและถนนเลียบคลองสอง ส่วนทางขวาจะเข้าถนนพระยาสุเรนทร์มุ่งหน้าถนนปัญญาอินทราที่สามารถไปเข้าถนนใหญ่รามอินทราได้ หรือจะเลี้ยวซ้ายไปยังถนนพระยาสุเรนทร์ทางฝั่งเหนือ หัวมุมทางซ้ายจะคึกคักขึ้นมาหน่อย มีร้านขายอาหาร ร้านสะดวกซื้อ พี่วิน และตลาดนัดสี่แยกพระพรหมคลองสอง
เราตรงเข้ามาผ่านแยก ทางขวาจะเป็นทางเข้าโครงการบ้านจัดสรร ที่มีบ้านเดี่ยวอยู่ด้านใน และมีตึกแถวอยู่ส่วนหน้าโครงการ ส่วนทางขวาจะเป็นร้านแก๊ส และมีรถจอดอยู่ประปรายที่เลนซ้ายสุด
ตรงมาเรื่อยๆก็จะมีบ้านจัดสรรอีกโครงการทางขวามือ ที่นิยมตั้งโครงการแนวราบอยู่บนถนนเลียบคลองสองฝั่งมุ่งหน้าคู้บอนมากกว่ามุ่งหน้าถนนหทัยราษฎร์ก็เพราะใกล้เส้นทางที่ลัดเลาะไปถนนรามอินทราง่ายกว่า
ตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอป้ายบอกทาง เราจะไปถนนหทัยราษฎร์ที่เป็นจุดหมายของเรา
เลยมาหน่อยก็จะมีแยกไฟเขียงไฟแดง ซึ่งช่องทางซ้ายเป็นเลนที่จะเลี้ยวเข้าซาฟารีเวิร์ล
ทางเข้าซาฟารีเวิร์ล
ส่วนเราก็จะตรงมาเรื่อยๆ ทางซ้ายมือก็จะมีทางกลับรถที่มีอยู่ทุกๆ 3 กิโลเมตร สามารถกลับไปมาได้ทั้งสองฝั่ง
ตรงมาอีกก็จะเจอ BigC Market อยู่ทางซ้ายมืออีกที่หนึ่ง ตรงนี้ติดหน่อยนะคะ เพราะใกล้สามแยกแล้ว
ตรงมาจนสุดถนนเลียบคลองสอง ก็จะเจอกับสามแยก ที่ทั้งเลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวาก็จะเข้าถนนหทัยราษฎร์เหมือนกันหมด แต่เลี้ยวขวาจะไปออกถนนสุวินทวงศ์ ส่วนทางซ้ายเลี้ยวไปจะไปออกสายไหม เราจะเลี้ยวซ้ายกันตรงนี้ค่ะ
พอเลี้ยวซ้ายเข้าถนนหทัยราษฎร์แล้วก็จะเหมือนเปลี่ยนบรรยากาศไปเลย เงียบสงบขึ้นกว่าถนนเลียบคลองสองมากๆเป็นถนน 3 เลน มีเกาะกลางถนน และมีจุดกลับรถเรื่อยๆ สิ่งปลูกสร้างก็จะเป็นที่ว่างและบ้านพักอาศัยหลังเล็กเป็นหลัก
ตรงมาเรื่อยๆทางซ้ายก็จะเป็นร้านให้บริการอย่างร้านรับจ้างซ่อมประปา ทาสี ไฟฟ้า ล้างรถ เช็คเรื่อง ตรงนี้ถนนจะแคบลงเหลือ 2 เลน
เลยมาหน่อยก็จะมีป้ายรถเมล์อยู่ทั้งสองฝั่ง การข้ามถนนไปมาก็จะเป็นทางม้าลายซะเป็นส่วนใหญ่
ทางซ้ายมือก็จะเป็น 7-11 และร้านอาหารประปราย เราจะชิดซ้ายกันที่ตรงนี้นะคะ แล้วเราจะเลี้ยวเข้าซอยหทัยราษฎร์ 37 ที่หัวมุม 7-11 นี้เลย
ซอยหทัยราษฎร์ 37 ตัวถนนด้านหน้าอาจจะดูเงียบเหงาหน่อย แต่หน้าปากซอยมี 7-11 และร้านขายผลไม้ ร้านอาหาร ร้านก๋วยเตี๋ยวช่วงกลางคืน
ตรงเข้ามาทางซ้ายก็จะเป็นที่จอดรถของ 7-11 ทางขวาก็จะเป็นร้านค้าขายของเล็กๆน้อยๆ และเป็นบ้านพักอาศัยไปด้วยในตัว จากปากซอยเราจะตรงเข้าไปตามทางเป็นระยะ 750 เมตรนะคะ
ตรงเข้ามาเรื่อยๆก็จะมีสิ่งปลูกสร้างจำพวกบ้านพักอาศัยแนวราบอย่างทาวน์เฮ้าส์ที่เปิดชั้นล่างเป็นร้านขายของและบริการบ้าง ส่วนชั้นบนก็เป็นที่อยู่อาศัย มีพี่แท๊กซี่จอดอยู่เยอะเลย ตรงนี้ถือว่าดูคึกคักนะคะ
ผ่านจากจุดคึกคักมาก็ตรงมาเรื่อยๆ สองฝั่งจะเป็นที่ดินว่างเปล่าทั้งสิ้น เราก็จะตรงไปเรื่อยๆ ถนนตรงนี้ค่อนข้างแคบนะคะ ถ้ามีรถสวนก็ค่อยๆชิดข้างทางแล้วขยับๆกันไป
ตรงมาอีกหน่อยก็จะมีป้ายบอกทางโครงการบ้านศิรินรัตน์ ขวามือจะมีทางเข้าโรงเรียนนานาชาติเกวลีอยู่
เยื้องๆกันกับทางเข้าโรงเรียนนานาชาติก็จะเป็นทางเข้าโครงการบ้านศิรินรัตน์ ถึงแล้วค่ะ มีป้ายชื่อโครงการบอกอยู่ทางขวามือของทางเข้าเรียบร้อย
จากหน้าโครงการหันออก มองไปยังฝั่งซ้ายที่เราเข้าซอยหทัยราษฎร์ 37 มา อาคารทางซ้ายมือคืออาคารเรียนของโรงเรียนนานาชาติเกวลี ที่ดินหน้าโรงเรียนที่ติดกับซอยยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่าปล่อยรถอยู่
ฝั่งตรงข้ามกับทางเข้าโครงการคือซอยทางลัดจากซอยหทัยราษฎร์ 37 ไปยัง 39 สามารถต่อไปยังซอยไทยรามัญไปขึ้นทางด่วนที่ด่านจตุโชติได้ เป็นทางที่ใกล้กว่าอ้อมไปถนนเลียบคลองสอง
และหันไปทางซ้ายมือของโครงการก็จะเป็นถนนหทัยราษฎร์ 37 เหมือนเดิม แต่ก็จะเป็นบ้านพักอาศัยขนาดเล็ก และเป็นส่วนหลังของหมู่บ้านจัดสรรหลายๆแห่ง
เรามาดูเพื่อนบ้านใกล้เคียงกันนะคะ ทางทิศเหนือฝั่งทางเข้าโครงการจะติดกับซอยหทัยราษฎร์ 37 และมีซอยย่อยที่สามารถวิ่งออกไปยังซอย 39 ได้ นอกนั้นพื้นที่โดยรวมแล้วจะเป็นพื้นที่ว่างเปล่าที่รอรับการพัฒนาและบ้านพักอาศัยทั้งส่วนที่เป็นหมู่บ้านจัดสรรและบ้านเดี่ยวพักอาศัยอย่างทิศตะวันตกและทิศใต้ของโครงการ ที่แปลกหน่อยก็คือมีโรงเรียนนานาชาติเกวลีอยู่เยื้องๆกับหน้าโครงการ สร้างเป็นอาคารหลังใหญ่
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- โรงเรียนนานาชาติเกวลี 200 เมตร
- 7-11 750 เมตร
- Big C หทัยราษฏร์ 2.7 กิโลเมตร
- ตลาดหทัยมิตร 2.9 กิโลเมตร
- BigC mini 3.7 กิโลเมตร
- วิทยาลัยบริหารธุรกิจและท่องเที่ยว 4.1 กิโลเมตร
- ซาฟารีเวิล์ด 4.8 กิโลเมตร
- ตลาดนัดสี่แยกพระพรหมคลองสอง 5.6 กิโลเมตร
- สนามกอล์ฟ เดอะ เลกาซี่ กอล์ฟ คลับ 6.6 กิโลเมตร
- โรงเรียนโสมาภานุสสรณ์ รามอินทรา 6.8 กิโลเมตร
- วัดสัมมาธัญญาวาส 7.3 กิโลเมตร
- วัดพระยาสุเรนทร์ 7.8 กิโลเมตร
- ตลาดมีนบุรี 10.1 กิโลเมตร
- โรงเรียนสารสาสน์ วิเทศ นิมิตใหม่ 11.5 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลสินแพทย์ 11.8 กิโลเมตร
- Fashion Island 12.5 กิโลเมตร
- Promenade 13 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล นวมินทร์ 13.2 กิโลเมตร
โครงการ บ้านศิรินรัตน์ หทัยราษฎร์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น รวมจำนวนทั้งหมด 49 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการประมาณ 17-1-0 ไร่ สามารถเข้าถึงได้จากซอยหทัยราษฎร์ 37 เป็นโครงการที่แล้วเสร็จประมาณ 50% โดยไล่ก่อสร้างจากส่วนทางเข้าโครงการเข้าไปด้านในสุด ในส่วนที่สร้างเสร็จแล้ว โอนกรรมสิทธิ์แล้วก็มีลูกบ้านเข้าอยู่แล้วจำนวนหนึ่งและกำลังต่อเติมอยู่บางส่วน
การวางผังโครงการคือจากทางเข้าซอยหทัยราษฎร์ 37 จะมีป้อมยามอยู่ตรงกลาง โดยฝั่งซ้ายมือของป้อมยามจะเป็นที่นั่งของแขกและที่จอดรถ 2 ช่อง ส่วนทางขวาจะเป็นทางเข้า-ออกของรถลูกบ้าน ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นแบบไม้กระดก โดยเปิด-ปิดได้จาก Key Card Access ระยะใกล้ ผ่านเข้าไปในโครงการก็จะเป็นถนนกว้าง 12 เมตร มีบ้านพักอาศัยเรียงอยู่ทั้งสองฝั่งหันหน้าเข้าหาถนนโครงการ เลยเข้าไปหน่อยจะเป็นถนนกว้าง 9 เมตร ทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ Clubhouse และสวนสาธารณะ การวางตัวบ้านถัดจาก Clubhouse จะมีถนนตรงกลางเหมือนเดิม แต่ฝั่งซ้ายของถนนจะมีซอยย่อย 4 ซอย ในแต่ละซอยก็จะมีบ้านพักอาศัยอยู่ 4 หลัง ส่วนฝั่งขวาหันหน้าเข้าถนนเหมือนเดิม เข้าซอยไปจนสุดจะมีถนนจะมีช่วงที่ถนนที่หักเลี้ยวไปหน่อย จะมีบ้านเดี่ยวฝั่งขวาฝั่งเดียวหันหน้าเข้าถนนโครงการ ฝั่งซ้ายจะเป็นถนนและรั้วโครงการสูง 2 เมตร
พื้นที่ Clubhouse และสวนสาธารณะขนาด 53.6 ตารางวา ภายในพื้นที่ Clubhouse ก็จะมีส่วนสระว่ายน้ำแบบ Outdoor ระบบเกลือสระผู้ใหญ่ขนาด 5 x 12 เมตร ลึก 1.2 เมตร แบ่งสระเด็กขนาด 3.0 x 8.6 เมตร ลึก 0.6 เมตร มีห้องน้ำชาย-หญิงแยกกัน ส่วนภายในอาคาร Clubhouse 2 ชั้น ด้านล่างก็จะเป็นห้อง Lobby สำหรับนั่งพักทำกิจกรรมของลูกบ้าน ปัจจุบันเปิดเป็น Sales Office และชั้น 2 ในอนาคตเป็นห้องนิติบุคคลและห้องฟิตเนส
การจัดวางตัวบ้านส่วนใหญ่จะหันไปทางทิศตะวันออกซึ่งดีสำหรับห้องนอนที่อยู่หน้าบ้านจะได้แสงเช้า แต่ก็จะมีบ้านบางส่วนที่อยู่ฝั่งซ้ายตอนต้นของโครงการ 5 หลังที่หันไปทางทิศตะวันตก และบ้านในซอยที่หันไปทางทิศเหนือและทิศใต้ บ้านที่อยู่ส่วนใกล้ทางเข้าก็จะใกล้พื้นที่ส่วนกลางอย่าง Clubhouse และสวนสาธารณะมากกว่า แต่ส่วนที่อยู่ท้ายโครงการ 8 หลังที่ไม่มีเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะจะไม่มีเพื่อนบ้านผ่านเข้าออกเยอะ
ทางเข้าโครงการเข้าซอยหทัยราษฎร์ 37 มา 750 เมตร จะอยู่ทางซ้ายมือ มีถนนตัดเข้าไปหาป้อมพี่ยามด้านหน้าเรียบร้อย มีป้ายชื่อโครงการติดอยู่ฝั่งขวามือ
พื้นที่ทางซ้ายมือก่อนเข้าโครงการจะมีการเว้นช่องไว้ให้จอดรถได้ 2 ช่อง เป็นพื้นที่จอดของแขกลูกบ้าน ที่จะต้องจอดรถตรงนี้เพื่อเดินเข้ามาติดต่อพี่ยาม แล้วพี่ยามก็จะ Intercom เข้าบ้านของลูกบ้านเพื่อสอบถาม โดยจะต้องแลกบัตรที่จะต้องได้การแสตมป์ในขาออก
ถนนทางเข้าโครงการกว้าง 12 เมตร ตรงกลางคือป้อมพี่ยามที่จะต้องคอยดูแลความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ทางซ้ายมือคือพื้นที่นั่งรอสำหรับแขกลูกบ้านระหว่างที่ยามติดต่อกับลูกบ้านผ่าน Intercom ส่วนทางขวาก็จะเป็นทางเข้า-ออกรถของลูกบ้าน เป็นระบบรักษาความปลอดภัยแบบไม้กระดก โดยการใช้ Keycard Access ระยะใกล้
พื้นที่นั่งรอของแขกลูกบ้าน แม้จะเป็นพื้นที่ Outdoor แต่ก็มีหลังคาและชุดเก้าอี้ให้นั่งได้
ส่วนทางขวาเป็นทางเข้า-ออกรถลูกบ้าน ฝั่งซ้ายเป็นช่องทางเข้า ส่วนทางขวาเป็นช่องทางออก
ตัวแสกนระบบ Keycard Access ระยะใกล้ จะอยู่ฝั่งคนขับด้านขวา
และก็จะมีกล้อง CCTV จับป้ายทะเบียนรถเข้า-ออก
ผ่านระบบรักษาความปลอดภัยหน้าโครงการเข้ามาก็จะเป็นถนนหลักภายในโครงการกว้าง 12 เมตร โดยช่วงแรกจะมีบ้านทั้งสองฝั่งหันเข้าหาถนนตรงกลาง ฝั่งละประมาณ 5 หลังรวมสองฝั่งเป็น 10 หลัง เสาไฟหลักจะอยู่ส่วนหน้าโครงการที่จะโยงเชื่อมเข้ามาภายใน โดยจะอยู่ที่ฝั่งซ้ายของถนนบนทางเดินเท้าหน้าบ้าน
เนื่องจากโครงการบ้านศิรินรัตน์เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ เนื่องจากเป็นโครงการบ้านเดี่ยวจำนวนยูนิตไม่มาก อยู่ที่ 49 หลัง และมีการก่อสร้างแบบ Conventional คือก่ออิฐฉาบปูนลงเสา ทำให้การก่อสร้างจะใช้เวลานานกว่าแบบ Pre-cast ที่ยกมาวางๆ โดยปัจจุบันมีการก่อสร้างไปแล้วประมาณ 50% โดยไล่ก่อสร้างตั้งแต่ส่วนหน้าเข้าไป โดยบ้านพักอาศัยที่อยู่ด้านหน้าจะเห็นว่ามีลูกบ้านเข้าอยู่เรียบร้อย และมีการให้ช่างมาต่อเติมบางส่วน แต่ช่วงหลังของโครงการก็ยังมีการเก็บรายละเอียดกันอยู่
กลับมาที่ถนนหลักโครงการ มองไปไกลหน่อยเป็นอาคารสีส้มคืออาคาร Clubhouse ที่มี Facilities ต่างๆอยู่รอบๆ สังเกตว่าตั้งแต่หน้า Clubhouse ความกว้างของถนนจะแคบลงอยู่ที่ 9 เมตร
ปัจจุบันพื้นที่ชั้นล่างของ Clubhouse เป็นพื้นที่ของ Sales Office ทำให้ด้านหน้ามีรถกอล์ฟจอดเพื่อรับ-ส่งลูกบ้านหรือผู้ที่สนใจเข้าไปดูบรรยากาศภายในโครงการรอบๆ หลังรถกอล์ฟไปหน่อยก็จะเป็นสวนสาธารณะที่อยู่หน้า Clubhouse
เดินผ่านที่จอดของรถกอล์ฟเข้ามาก็จะเป็นสวนสาธารณะขนาด 53.6 ตารางวา มีการปูพื้นหญ้าจริง และการวางต้นไม้ใหญ่ไว้เป็นแนว
มองเข้าไปด้านในก็จะเห็นในส่วนของสระว่ายน้ำด้านหน้า พื้นที่ข้างสระ และห้องน้ำแยกชาย-หญิงข้างๆอาคารที่กำลังก่อสร้างอยู่
ข้างๆกับพื้นที่ข้างสระก็จะเป็นพื้นที่สวนสาธารณะต่อเนื่องจากด้านหน้า มีต้นไม้ปลูกบังสายตานิดหน่อย ด้านข้างจะเห็นเป็นรั้งโครงการทาสีเขียวอ่อนสูงประมาณ 2 เมตร
เราจะมาเข้าอาคาร Clubhouse สูง 2 ชั้นกันนะคะ ด้านหน้าทางเข้าก็จะมีบ่อน้ำที่เปิดเป็นน้ำพุ เราก็ต้องเดินผ่านเข้าไป
เดินผ่านเข้ามาก็จะมีสระว่ายน้ำ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนที่ใกล้อาคารกว่าจะเป็นสระเด็กขนาด 3.0 x 8.6 เมตร ลึก 0.6 เมตร และส่วนที่อยู่ไกลกว่าและเป็นกลางแจ้งทั้งหมดคือสระผู้ใหญ่ ขนาด 5 x 12 เมตร ลึก 1.2 เมตร เป็นสระน้ำล้นที่มีพื้นที่รองรับน้ำอยู่รอบๆขอบสระ
ข้างๆกับสระเด็กก็จะมีทางเดินบันไดขึ้นไปหาประตูทางเข้าอาคารได้ แต่พื้นจะปูด้วยกระเบื้องผิวลาย ไม่ใช่พื้นทรายล้าง ทำให้เวลาเดินจะลื่นๆหน่อย
ถ่ายจากพื้นที่ข้างสระ มองไปยังส่วนทางเข้าที่เป็นถนนโครงการ ต่อไปเราจะเข้าไปดูภายในอาคาร Clubhouse กันค่ะ
เปิดประตูบานเลื่อนเข้ามาภายในก็จะเป็นส่วนชั้น 1 ของอาคาร Clubhouse ที่ปัจจุบันเปิดเป็น Sales Office ที่ภายในก็จะตกแต่งออกแนวคลาสสิก ต่อไปก็จะปรับเปลี่ยนพื้นที่ชั้นล่างเป็น Lobby ของลูกบ้านที่สามารถเข้ามาใช้งานได้
จากมุมด้านในของ Sales Office ที่เป็นความสูงแบบ Double Ceiling Height เพิ่มความอลังการ ก็จะเห็นทางขึ้นบันไดไปยังชั้น 2 ที่ต่อไปจะเป็นห้องนิติบุคคลและห้องฟิตเนส
ออกมาที่ถนนหลังโครงการอีกครั้ง ก็จะเห็นว่าหลังจากส่วนของ Clubhouse เข้าไป บ้านส่วนใหญ่อยู่ในช่วงเก็บรายละเอียดงานนิดๆหน่อย และมีส่วนหลังโครงการ 8 หลังที่ยังอยู่ในส่วนของโครงสร้างหลักค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5 x 12 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร แบ่งสระเด็กขนาด 3.0 x 8.6 เมตร ลึก 0.6 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ขนาด 5.6 x 5.7 เมตร
- สวนสาธารณะหน้า Clubhouse ขนาด 53.6 ตารางวา
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 16 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 2 เมตร
- Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
- Key Card Access ระยะใกล้
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก สองฝั่งเข้า-ออก
- มีระบบและเครื่อง Intercom ให้ทุกหลัง
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Shock Sensor ทุกหลัง หลังละ 4 จุด
- ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
บ้านเดี่ยวของโครงการมีแบบเดียวนะคะ บนขนาดที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 252 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว และที่จอดรถ 2 คัน ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถและมีพื้นที่สีเขียวรอบบ้าน จากผังสามารถเข้าถึงในบ้านได้จากสามทางหลัก คือบานประตูเลื่อนหน้าบ้านทางห้องรับแขก, ประตูเปิด-ปิดหลังบ้านจากส่วนซักล้างเข้ามาเจอครัว และเฉลียงข้างบ้านใกล้กับส่วนทานอาหาร
จากทางเข้าหลักหน้าบ้านส่วนห้องรับแขกหน้าบ้าน ลึกเข้าไปคือห้องทานข้าว หันไปทางขวาจะเจอกับประตูบานเลื่อนออกไปยังข้างบ้าน และหันไปทางซ้ายจะเจอกับครัวฝั่งที่อยู่ด้านหน้าห้องครัวแบบปิดที่มีประตูบานเลื่อนติดตั้งให้ ภายในเป็นงานระบบแบบไม่มีเคาท์เตอร์ และมีประตูเปิดออกไปยังพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน พื้นที่ข้างๆกับครัวฝรั่งด้านนอกจะมีห้อง 2 ห้อง คือห้องน้ำของชั้น 1 และห้องนอนของชั้น 1 ที่ภายในบ้านตัวอย่างแต่งเป็นห้องทำงาน ข้างๆห้องนอนก็จะเป็นห้องเก็บของที่อยู่ใต้บันได
บนชั้น 2 หลังจากเดินขึ้นบันไดรูปตัว U ขึ้นมาแล้วตรงกลางก็จะเป็นพื้นที่ว่าง หันไปทางขวามือจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นบนชั้น 2 ที่มีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปยังระเบียงรูปตัว L ได้ กลับมาส่วนตรงกลางจะเจอกับประตู 4 บานแบ่งออกเป็นห้องนอนใหญ่ที่อยู่ส่วนหน้าบ้าน มีห้องน้ำในตัว แต่ไม่มีระเบียง และห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องที่ไม่มีระเบียง และต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกันที่เปิดได้จากทางเดินตรงกลาง ไม่มีประตูเปิดได้จากห้องนอน
ภายนอกของบ้านจะเน้นดีไซน์เรียบง่าย ตกแต่งด้วยสีน้ำตาล-ฟ้ากลาง ตัดด้วยกระจกเขียวตัดแสงสีออกเขียวๆ ดูขรึมๆหน่อย ด้านหน้ามีทางเดินเท้ายกระดับจากถนนหลักโครงการขึ้นสูง มีท่อระบายน้ำอยู่เป็นจุดๆ และปลูกต้นไม้พุ่มด้านหน้าให้ ข้างๆกันคือประตูเข้า-ออกรถและประตูเล็ก ด้านหลังเป็นที่จอดรถ 2 คันอยู่ด้านซ้ายมือ กว้างประมาณ 5.5 เมตร ส่วนหลังคาของพื้นที่จอดรถ ไม่ได้ปกคลุมกันแดดกันฝนให้รถทั้งคัน แค่ส่วนหน้ารถเท่านั้นที่หลังคาจะบังถึง จากที่จอดรถจะไม่มีประตูบานเปิดเข้าบ้าน แต่จะต้องมาเข้าประตูบานเลื่อนที่อยู่ส่วนห้องรับแขก ด้านบนที่เป็นเป็นระเบียงรูปตัว L สามารถเปิดได้จากห้องนั่งเล่นบนชั้น 2 และข้างๆกันคือหน้าต่างบานใหญ่จากห้องนอนใหญ่
เรามาเริ่มเดินรอบๆบ้านกันดีกว่าตั้งแต่หน้าบ้าน ประตูใหญ่เข้า-ออกรถเป็นประตูแบบเลื่อนเก็บไปฝั่งใดฝั่งหนึ่ง สามารถนำเอาระบบเลื่อนอัตโนมัติมาติดตั้งได้เลยเพราะเดินสายไฟไว้ให้ เป็นรั้วโปร่งซี่ห่างๆ ไม่กันสายตา ใช้เป็นแค่เหมือนการแบ่งพื้นที่ และข้างๆเป็นประตูเล็กสำหรับเดินเข้าออก
ประตูเล็กเข้าออกก็จะก่อปูนขึ้นมาเป็นซุ้มมีหลังคากันฝน ด้านบนมีไฟดวงโคมแบบซาลาเปาติดไว้ ข้างๆมีแผ่นป้ายเลขที่บ้าน และกริ่งกดออด ประตูเล็กเป็นแบบเปิดผลักเข้าไป
ตัวมือจับและที่เสียบกุญแจบ้านประตูเล็ก
กริ๊งกดออดหน้าบ้านติดอยู่ที่เสา
ถังขยะจากด้านในของบ้าน ซึ่งส่วนหน้าบ้านจะเป็นแบบประตูดึงเปิด สะดวกทั้งคนทิ้งและคนเก็บ
ด้านหน้าของบ้านจะเป็นทางเดินเท้าที่ยกระดับขึ้นมาจากถนนหลักของโครงการ ด้านหน้าจะเว้นที่ไว้สำหรับปลูกไม้พุ่ม ความสูงของรั้วบ้านอยู่ที่ 1.8 เมตร อาจจะดูไม่สูงเท่าไรนะคะ
จากประตูรั้วหน้าบ้านเลื่อนเปิดออกไปเก็บข้างๆก็จะเป็นส่วนพื้นที่จอดรถที่สามารถจอดได้ประมาณ 2 คัน แต่ก็ยังมีพื้นที่เหลือจอดจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์ได้อีก พื้นปูด้วยกระเบื้องทับซีเมนต์ขัดหยาบอีกที
ส่วนข้างบ้านฝั่งขวามือ มีการปูพื้นหญ้าทั้งหมด และมีกระเบื้องปูเป็นก้าวๆทำเป็นทางเดินเข้าไปยังประตูเลื่อนหน้าบ้าน บนสนามหญ้าสามารถวางชุดเก้าอี้สนามพร้อมร่วมคันใหญ่ได้ หน้าบ้านของบ้านศิรินรัตน์จะค่อนข้างลึกกว่าบ้านจัดสรรโครงการอื่นๆ สามารถกางเป็นเต้นท์ทำกิจกรรมภายในครอบครัวได้เลย
ตรงกับสนามหญ้าหน้าบ้านก็จะเป็นประตูบานเลื่อนเข้าพื้นที่บ้านส่วนที่เป็นห้องรับแขก มีไฟติดผนังให้ทั้งสองเสา
มาถึงส่วนพื้นที่ข้างบ้านใกล้กับห้องรับแขกและพื้นที่ทานข้าว ก็จะมีพื้นที่กว้างมากกว่า 3 เมตร รอบๆรั้วจะปลูกเป็นไม้พุ่มบังกำแพงระหว่างบ้านไว้ ให้ความรู้สึกที่มีชีวิตชีวามากกว่าเห็นกำแพงปูนธรรมดา ข้างๆตัวบ้านก็สามารถปลูกต้นไม้ดอกได้อย่างในบ้านตัวอย่าง
เดินลึกเข้ามาหน่อยจะเจอกับเฉลียงข้างบ้านที่เป็นบานเลื่อนเปิดเข้าไปยังส่วนพื้นที่ทานข้าวได้ สังเกตว่าความสูงของเฉลียงที่ยกขึ้นไปจะอยู่สูงกว่าพื้นที่ข้างบ้านที่ปูด้วยหญ้าพอสมควร
ความสูงของเฉลียงข้างบ้านอยู่ที่ประมาณ 30 เซนติเมตร ทางที่ดีความจะมีบันไดอีกขั้นหนึ่งตรงกลางเพราะขาขึ้นคงก้าวได้ แต่ขาลงจะรู้สึกว่าสูงไปหน่อย ถ้าเป็นผู้ใหญ่อาจจะลำบาก
มาถึงพื้นที่ด้านหลังของบ้านก็จะเป็นผนังส่วนพื้นที่ทานข้าวและห้องครัว ระยะจากตัวบ้านถึงรั้วด้านหลังอยู่ที่ 3 เมตร มีที่ตั้ง Compressor แอร์ที่ยกขึ้นสูงจากพื้นกันน้ำเจิ่งนอง ลึกเข้าไปเป็นพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน
พื้นที่ซักล้างหลังบ้านเทเป็นคอนกรีตเรียบระดับเท่ากับหน้าดิน แต่น่าจะยกสูงขึ้นหน่อย แล้วเทไปฝั่งใดฝั่งหนึ่งให้น้ำระบาย เพราะถ้าวันหนึ่งเกิดฝนตกพื้นที่ซักล้างหลังบ้านก็จะใช้ไม่ได้ไปด้วย ข้างๆผนังก็จะมีที่เสียบปลั๊กและปลอกกันน้ำให้ และอีกครั้งที่ระดับความสูงในตัวบ้านและความสูงของพื้นที่ซักล้างต่างกันไปนิด โดยอยู่ที่ประมาณ 30 เซนติเมตรเช่นกัน
ที่มุมด้านในหลังบ้านเทปูนเป็นที่วางของแท๊งค์น้ำและปั้มน้ำที่ทางโครงการให้มาด้วยเป็นแท๊งค์น้ำขนาด 1,200 ลิตรและ ปั้มน้ำ 360 W
มาที่ด้านข้างของบ้านอีกฝั่งหนึ่งก็จะเป็นหน้าต่างส่วนห้องครัว สามารถเดินลัดเลาะไปยังหน้าบ้านได้ กว้างประมาณ 1.5 เมตร
กลับมาที่หน้าบ้านอีกครั้งนะคะ จากหน้าบ้านที่เห็นจะขอมาชี้ข้อแตกต่างจากแบบบ้านในหมู่บ้านจัดสรรปกติกัน
- จากรั้วบ้านจะถึงตัวบ้านค่อนข้างลึกกว่าทั่วไป เนื่องจากเนื้อที่ดินแต่ละแปลงขั้นต่ำจะอยู่ที่ 100 ตารางวา ซึ่งถือว่าใหญ่มากด้วยระดับราคา
- ทางเข้าบ้านจะมีแค่จุดเดียวคือประตูบานเลื่อนเข้าห้องรับแขก จากที่จอดรถจะไม่มีประตูบานเปิดเข้า
- ระเบียงชั้น 2 ที่เห็นคือระเบียงจากห้องนั่งเล่นชั้น 2 เป็นระเบียงรูปตัว L แต่ห้องข้างๆคือห้องนอนใหญ่หน้าบ้านกลับไม่มีระเบียง เป็นการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลางมากกว่าห้องนอนเดี่ยวๆ
เดินเข้ามาด้านในที่พื้นที่จอดรถก็จะมีไฟดวงซาลาเปาติดอยู่ด้านบน แต่ความสว่างอาจจะไม่มากเท่าไรนัก หน้าต่างบานเลื่อนข้างๆคือจากห้องนอนชั้น 1 หรือที่บ้านตัวอย่างแต่เป็นห้องทำงาน เพื่อเพิ่มช่องแสง ส่วนจุดสี่เหลี่ยมด้านขวาคือจุดระบายอากาศจากห้องน้ำชั้น 1
ด้านซ้ายของพื้นที่จอดรถจะมีตู้เก็บของที่เป็นแบบบานดึงออกทั้งสองฝั่ง สามารถเก็บพวกสายยาง ไม้กวาดที่กวาดบริเวณภายนอก และอุปกรณ์ทำความสะอาดรถยนต์
มาถึงส่วนประตูทางเข้าด้านหน้าบ้านแล้วก็จะเป็นบันไดขึ้น 1 ชั้นก่อนจะถึงพื้นที่เฉลียงหน้าบ้านที่ปูด้วยกระเบื้องเคลือบกว้าง 4.5 เมตร ประตูทางเข้าเป็นแบบประตูบานเลื่อน กรอบ UPVC ตรงกลางเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง เป็นแบบบานเลื่อนเปิดออกไปยังซ้าย-ขวา หน้าเสาทั้งสองฝั่งมีโคมไฟติดให้
ประตูเป็นบานเลื่อนแบบดึงออกไปสองฝั่งซ้าย-ขวา
เปิดประตูเข้ามายังภายในก็จะเป็นห้องรับแขกที่ฝั่งหนึ่งจัดเป็นชุดโซฟารูปตัว L ขนาดใหญ่ ส่วนฝั่งที่เป็นผนังทึบก็จะเป็นจุดวางทีวี ที่สามารติดชั้นวางของหรือตู้โชว์เข้าไปได้ ด้านบนเพดานติดเป็นไฟซาลาเปาเหมือนเดิม ความกว้างอยู่ที่ 4.6 เมตร ระยะดูทีวีก็จะประมาณ 3.5 เมตร
ฝั่งหน้าต่างข้างบ้านก็จะเป็นกรอบ UPVC สีขาว ตรงกลางเป็นกระจกตัดแสงสีเขียว วางโซฟาไว้ด้านหน้าแล้วดูทีวีอาจจะทำให้แสงสะท้อนเข้าหน้าจอได้ ดังนั้นแนะนำเหมือนกับที่บ้านตัวอย่างติดเลยค่ะ คือติดม่าน 2 ชั้นคือส่วนที่โปร่งแสงและส่วนทึบแสง ให้สำหรับวันที่ฝนตกต้องการแสงบ้าง และวันที่แดดแรงมากจนรับไม่ไหว
ส่วนฝั่งที่ผนังทึบก็ค่อยข้างกว้างมากเลยค่ะ ถ้าเป็นคนเก็บของสะสมก็สามารถ Built-in ชั้นแล้ววางๆๆให้เต็มผนัง หรือว่าถ้ามีลูกเล็กๆก็สามารถแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่โต๊ะทำการบ้านได้
พื้นที่ที่ต่อเนื่องจากห้องรับแขกเข้าไปอีกคือพื้นที่ทานข้าว ในบ้านตัวอย่างไม่ได้ก่อผนังมาให้ ทำให้ดูบ้านดูโล่ง แต่ก็สามารถกั้นให้เป็นสัดส่วนต่อไปได้นะคะ
มองไปทางขวาส่วนข้างบ้านก็จะเจอกับประตูบานเลื่อนออกข้างบ้าน เลื่อนได้ทั้งสองฝั่ง
จากด้านในก็จะเป็นแบบตัวล็อกกดขึ้น-ลง และมีที่จับเรียวๆ ส่วนจากภายยอกก็จะไม่มีที่บิดกุญแจเปิด-ปิดนะคะ จะเป็นแค่ที่จับเพื่อเลื่อนธรรมดา
เปิดออกมาจะได้ประมาณนี้เลื่อนได้ทั้งสองฝั่ง
พื้นจากส่วนด้านในจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 เซนติเมตร แต่ส่วนเฉลียงด้านนอกจะปูด้วยกระเบื้องเคลือบสีเข้ม มีลายด้านด้วย ทำให้ไม่ลื่น
ขนาดเฉลียงข้างบ้านอยู่ที่ 1.5 x 3.5 เมตร
หันหลังกลับมาจากส่วนที่เป็นประตูข้างบ้าน ดูรูปบ้านตัวอย่างด้านล่างนะคะ ทางขวามือก็จะเป็นเคาท์เตอร์ครัวฝรั่ง สำหรับทำอาหารเช้าให้คุณลูกง่ายๆ ด้านหลังจะเป็นห้องครัวไทยที่มีประตูบานเลื่อนปิด ตรงกลางเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 ด้านล่างเป็นห้องเก็บของ ส่วนทางซ้ายมือเป็นห้องนอนชั้นล่างที่อยู่ข้างกับบันได และห้องน้ำที่อยู่ในส่วนกลางบ้านที่ใกล้กว่า
เคาท์เตอร์ครัวรูปตัว L ที่อยู่นอกห้องครัวไทย เป็นที่เก็บของนิดๆหน่อยๆ มีเก้าอี้สตูลยกสูงไว้สำหรับมื้อเร็วๆ
ประตูห้องครัวที่เป็นแบบประตูบานเลื่อนไปฝั่งเดียว เป็นแบบบรางบน ไม่มีรางล่าง ทำให้พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ที่ปูต่อเนื่องเข้าไปถึงห้องครัวด้านใน ประตูมีมือจับทั้งจากด้านในและด้านนอก ลูกฟักติดกระจกขุ่น
ประตูบานเลื่อนห้องครัวแบบไม่มีรางล่าง ทำให้พื้นกระเบื้องปูต่อเนื่องเข้าไป เรียบสนิทดี
ห้องครัวปิดขนาด 2.7 x 3.4 เมตร ที่ให้มาจะเป็นส่วนงานระบบ ไม่มีเคาท์เตอร์มาให้ แต่ในบ้านตัวอย่างจะจัดเคาท์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว L ไล่ตั้งแต่ซ้ายไปขวาคือตู้เย็น คั่นด้วยพื้นที่เตรียมอาหาร แล้วถึงเป็น Hob and Hoob แล้วเข้ามุมด้วยพื้นที่เตรียมอาหาร ต่อด้วยอ่างล้างจานแบบ 1 หลุม แล้วเป็นพื้นที่ของเครื่องซักผ้า ที่วางได้ทั้งฝาหน้าและฝาบน อยู่ข้างๆกับประตูบาน HDF ออกไปยังพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน
ห้องครัวจากมุมในสุด
ประตูหลังบ้านบาน HDF
มีมือจับแบบกดลงแล้วผลักออก มีตัดล็อกอยู่ภายในที่จับเลย
ความสูงของพื้นที่ห้องครัวและพื้นที่เทปูนส่วนซักล้างต่างกันค่อนข้างเยอะนะคะ ประมาณ 30 เซนติเมตร เนื่องจากประตูเป็นบาน HDF ที่ค่อนข้างเบา ทำให้เวลาเปิดผลักออกไปแล้วมีลมปะทะเข้ามาแรงๆ ทำให้ตัวบานประตูกระแทกเข้ากับผนังหลังบ้านได้ และด้วยความที่ระยะต่างกันเยอะ จะรีบกระโดดลงไปคว้าไว้ก็ไม่ทันค่ะ กระแทกเรียบร้อย
กลับมาที่พื้นที่ข้างบ้านกันอีกรอบ เราจะพาไปดูห้องอื่นๆภายในบ้านกันต่อ ห้องทางซ้ายคือห้องน้ำ ส่วนห้องทางขวาคือห้องนอนชั้น 1 เรามาเริ่มที่ห้องน้ำกันก่อนเลย
พื้นห้องน้ำเป็นแบบลดระดับลงไปนิดหน่อย ไม่เกิน 3 เซนติเมตร พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเคลือบสีกลางๆ ยาแนวสีขาว
ภายในห้องน้ำขนาด 1.8 x 2.4 เมตร ก็จะแบ่งพื้นที่ออกเป็นสามส่วนปกติ แต่ด้วยรูปร่างของห้องน้ำที่เป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส ทำให้การจัดวางออกจะดูแปลกตาไปหน่อย คือส่วนที่เปิดเข้าไปเจอเลยอยู่ตรงหน้าคือพื้นที่เปียกอาบน้ำ ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้ ข้างๆกันคือโถสุขภัณฑ์จาก American Standard และฝั่งตรงข้ามคืออ่างล้างหน้าพร้อมกระจก รูปล่างเป็นรูปจากบ้านตัวอย่าง ส่วนรูปบนเป็นรูปจากบ้านจริง ที่ต่างกันคือพวกสเปควัสดุกระเบื้องภายในห้องน้ำที่เป็นล็อตใหม่ อัพเกรดให้เท่าเทียมกับโครงการอื่นๆ แต่สีและลายขึ้นกับความชอบนะคะ
มาดูดีเทลกันค่ะ อ่างล้างหน้าเป็นแบบหลุมสี่เหลี่ยมฝังอยู่ในเคาท์เตอร์ลอย ไม่มีบานประตูปิดพื้นที่ด้านล่าง มีกระจกส่องหน้าขนาดไม่ใหญ่ให้
โถสุขภัณฑ์เป็นแบบ 2 ชิ้น มีที่ใส่ทิชชู สายชำระ และมีจุดของท่อระบายน้ำอยู่ข้างๆ ด้านหลังที่เพิ่มเข้ามาคือก่อปูนออกมาสามารถใช้เป็นที่วางข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องน้ำได้
พื้นที่เปียกขนาด 0.9 x 0.9 เมตร มีการลดระดับลงนิดหน่อย มีท่อระบายน้ำอยู่มุมด้านใน ฝักบัวมาพร้อมกับมือจับ พร้อมกับที่เปิด-ปิดแบบหัวเดียว ต่อท่อสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้เรียบร้อย
ฝักบัวหัวไม่ใหญ่มากนะคะ ไม่หนักด้วย
ต่อมาเป็นห้องนอนบนชั้น 1 ที่บ้านตัวอย่างปรับเป็นห้องทำงานแทน พื้นก็จะเปลี่ยนเป็นปูด้วยลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร
ขนาดห้องคือ 3.0 x 3.3 เมตร มีช่องแสงสองส่วนคือส่วนหน้าบ้านที่เล็กหน่อย และส่วนข้างบ้านที่เป็นหน้าต่างบานใหญ่กว่า เพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวเผื่อว่าจะใช้งานเป็นห้องนอน
ผนังที่เป็นฝั่งทึบคือฝั่งเดียวกับห้องน้ำ สามารถวางทีวีได้ หรือถ้าเป็นห้องนอนก็ใส่โต๊ะเครื่องแป้งเอย ตู้เสื้อผ้าเอยเข้าไปได้
จากมุมด้านในของห้องทำงาน
ต่อมาเราจะขึ้นไปบันไดไปรูปตัว U กว้าง 90 เซนติเมตร ไปบนชั้น 2 กัน ข้างๆกับทางขึ้นก็จะเป็นห้องเก็บของใต้บันได เพดานเตี้ย
เงยหน้าขึ้นไปก็จะเป็นส่วนชานพักบันได มีช่องแสงจากข้างบ้านเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ แต่ถ้ากลัวว่าความร้อนจากแดดตอนกลางวันจะเข้ามาในตัวบ้านทำให้อุณหภูมิในบ้านสูงขึ้นก็ติดม่านเหมือนในบ้านตัวอย่างได้ แต่ก็จะถอดมาทำความสะอาดยากเช่นกัน
พื้นบันไดลูกตั้งเป็นทาสีขาวปกติ แต่ลูกนอนเป็นพื้นลายไม้ ชานพักบันไดขนาด 1.2 x 2.0 เมตร
จากชานพักบันไดมองขึ้นไปยังพื้นที่ชั้น 2 ก็จะเจอกับพื้นที่ตรงกลางบ้าน ที่เป็นทางเดินตรงกลางก่อนจะแยกเข้าห้องต่างๆ
ระหว่างลูกนอนของบันไดที่เป็นลายไม้ และพื้นลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตรบนชั้น 2 ก็สีและลายใกล้เคียงกันดี ค่ะ
มองจากทางเดินตรงกลางชั้น 2 ไปยังโถงบันได สามารถซื้อโคมไฟระย้าแบบยาวๆมาติดได้นะคะแล้วแต่ความชอบ หรือจะชอบแบบเรียบๆก็เท่ดี
ขึ้นมาบนชั้น 2 หันไปทางขวามือก็จะเจอกับส่วนพื้นที่นั่งเล่นตรงกลาง ไม่ได้มีผนังกั้น จัดวางเป็นชุดโซฟารูปตัว L และฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวี ในบ้านตัวอย่างที่มีฝ้าวงกลมก่อขึ้นมาในบ้านจริงจะไม่มีให้นะคะ มีแอร์อยู่เหนือชุดโซฟา ซึ่งแอร์ตัวนี้น่าจะเป็นตัวที่ BTU เยอะหน่อย จะได้เย็นทั่วถึง
มุมนั่งเล่นบนชั้น 2 ขนาด 3 x 3.7 เมตร ฝั่งตรงข้ามสามารถติดเป็นชั้นวางของได้ หรือชั้นวางหนังสือต่างๆที่แชร์กันในครอบครัว ข้างๆส่วนหน้าบ้านก็จะมีบานประตูเลื่อนออกไปยังระเบียงได้
ประตูบานเลื่อนหน้าบ้านเปิดออกไปจะเจอระเบียงหน้าบ้านขนาดใหญ่ เป็นประตูแบบ 2 บาน กรอบ UPVC ตรงกลางเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง
จากพื้นลามิเนตหนา 8 มิลลเมตรด้านใน ออกไปด้านนอกจะเป็นกระเบื้องเคลือบ ลดระดับลงนิดหน่อย ตัวกรอบประตูวางอยู่บนพื้นส่วนที่เตี้ยกว่า ทำให้ระดับเวลาเดินไม่ต้องยกเท้าก้าว รายละเอียดการเก็บงานถือว่าทำได้ดี
มุมจากระเบียงชั้น 2 ของบ้านตัวอย่าง มองออกไปยังถนนหลังโครงการที่กว้าง 9 เมตร ฝั่งตรงข้ามเป็นสวนสาธารณะที่อยู่หน้า Clubhouse พอดี
มองไปทางซ้ายก็จะเป็นส่วนหน้าต่างช่องแสงของห้องนอน แต่ก็จะสุดเท่าที่เห็น ไม่ได้ต่อเนื่องไป เพราะห้องนอนใหญ่ไม่มีระเบียงนะคะ ความกว้างของระเบียงอยู่ที่ 2.4 เมตร แต่ถ้าส่วนที่เป็นหน้าของช่องแสงห้องนอนบีบเข้าไปเหลือ 1.4 เมตร
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมไม่ทำระเบียงห้องนอนนะคะ ทั้งที่พื้นที่บางส่วนด้านหน้าก็ยังเหลืออยู่ จะว่าเป็นที่วาง Compressor แอร์ก็ไม่ใช่ เพราะที่จุดวางอยู่ข้างๆบ้าน
หันหลังกับไปยังระเบียงหน้าห้องนั่งเล่น ก็จะเจอกับมุมราวระเบียงที่เป็นรูปตัว L เดินไปเดินมารู้สึกจริงๆถึงความกว้างของระเบียงที่มากกว่าปกติ สามารถวางชุดเก้าอี้นั่งเล่นได้สบายๆ เผื่อวันที่อยากรับลม ด้านบนก็จะมีไฟซาลาเปาติดให้ และที่เสากลมก็จะมีดวงโคมติดกับเสาเลย
เดินมาที่ตรงมุมระเบียงมองไปทางขวาก็จะเจอกับส่วนที่เป็นช่องที่เล็กลงกว้าง 0.7 เมตร ข้างๆก็จะมีที่วาง Compressor แอร์เป่าไปในส่วนข้างบ้าน ซึ่งการทำให้มีระเบียงเข้าถึง Compressor แอร์ก็จะทำให้การซ่อมแซมทำได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องให้ช่างไปค่อยปีนป่ายเพื่อแก้ไข
ที่มุมของระเบียงก็จะมีจุดท่อน้ำอยู่ เผื่อเวลาฝนตก แต่ถ้ามองให้ดี จะเห็นว่ารอบๆขอบระเบียงจะไม่มีปูนก่อขึ้นมากันน้ำ นั้นแปลว่า ถ้าเกิดฝนตก แล้วฝนสาดเข้ามายังระเบียงชั้น 2 การไหลของน้ำมีสองอย่าง คือเจิ่งนองบนระเบียง หรือไหลไปตามขอบระเบียงลงไปยังชั้น 1
จากระเบียงมองเข้าไปยังกลางบ้านส่วนที่เป็นทางเดินค่ะ
กลับมาที่ส่วนทางเดินตรงกลางบ้านอีกครั้ง ขนาดประมาณ 3.0 x 3.3 เมตร ดูจากรูปบ้านตัวอย่างด้านล่าง จากขวาไปซ้ายคือห้องนอนใหญ่ ห้องนอนกลาง ห้องน้ำที่ห้องนอนกลางและห้องนอนเล็กต้องใช้ร่วมกัน และห้องนอนเล็กสุดอยู่ทางซ้ายมือ
หน้าห้องน้ำก็จะมี Intercom ติดอยู่ 1 ตัว เป็นส่วนที่จะใช้ติดต่อกับพี่ยามด้านหน้า ถ้ามีแขกมาหาพี่ยามก็จะกดเข้ามา เราก็จะรับว่าให้แขกเข้ามาได้ หรือถ้าเป็นแขกที่ไม่ได้นัดหมายไว้ก่อน ก็บอกให้เขารอด้านหน้า เดี๋ยวเราจะออกไปหา พี่ยามก็จะเป็นคนที่รับหน้าก่อนเรา
ต่อมาที่ส่วนห้องนอนใหญ่ ประตูเป็นบาน HDF สีขาว แบบผลักเข้าไป
พื้นเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตรเหมือนกับทางเดินด้านนอก มีตัวคั่นระหว่างพื้นทั้งสองเป็นลายไม้เช่นกัน
เข้ามาในห้องนอนใหญ่ก็จะเป็นห้องขนาด 3.7 x 6.0 เมตร ด้านในสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้ รอบๆเตียงก็จะเป็นช่องแสงจากข้างบ้านและหน้าบ้าน มีทั้งบานหน้าต่างแบบเลื่อน บานกระทุ้ง และบาน Fixed ที่รับแสงธรรมดา
เตียงขนาดใหญ่วางตรงกลางก็จะยังมีพื้นที่เหลือทั้งสองฝั่ง สามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้ทั้งคู่ มีตำแหน่งแอร์อยู่ที่หัวเตียงฝั่งซ้าย อาจจะทำให้คนนอนฝั่งนั้นหนาวนิดนึง ส่วนอีกฝั่งหนึ่งก็จะเป็นฝั่งที่โดนแดดเยอะหน่อย
บานเปิดในห้องนอนส่วนที่ใกล้กับหัวเตียงส่วนหน้าบ้านก็จะมีบานกระทุ้งขนาดใหญ่ 2 บาน นอกนั้นก็จะเป็นบาน Fixed รวมทั้งตรงมุมห้องด้วย
ช่องแสงบาน Fix เข้ามุมที่ห้องนอนใหญ่ แต่ก็จะมีส่วนเสาที่ต้องปักหลักอยู่ตรงมุมเหมือนกัน ทำให้เกิดช่องเล็กๆที่อาจจะต้องเอื้อมมือเข้าไปทำความสะอาดยากซักหน่อย
ดูกันเต็มๆที่บ้านหลังจริง
ฝั่งตรงข้ามกับหัวเตียงก็จะเป็นที่วางทีวี ที่สามารจัดตู้แล้ววางทีวีด้านบน หรือจะเป็นแบบทีวีติดผนัง ระยะดูทีวีจะไกลซะหน่อยอยู่ที่เกือบ 6 เมตร มีทางเลือก 2 ทางคือขนาดทีวีต้องใหญ่ขึ้น มากกว่า 50 นิ้วแน่นอน หรือว่าจะขยับที่ติดทีวี เป็นฉากกั้นขึ้นมาในระยะที่ใกล้กับเตียง ประมาณ 4 เมตร จะได้อยู่ในระยะที่พอดี
ข้างๆกับชั้นวางทีวีก็จะมีหน้าต่างบานเลื่อน 2 บาน
ส่วนกลางของห้องนอนในบ้านตัวอย่างก็จะมีการกั้นบานประตูทึบเป็น Walk-in Closet
แต่ในความจริงแล้วบ้านมาตรฐานที่ขายจะให้มาเป็นพื้นที่โล่งๆ ขนาด 2.0 x 2.7 เมตร
ตัวบานประตูเลื่อนก็สามารถติดแบบรางบนด้วยรางล่างด้วย หรือว่าจะติดแบบรางบนอย่างเดียวทำให้การเดินเป็นไปได้สะดวกขึ้น
ภายในก็สามารถจัด Walk-in Closet แบบรูปตัว L แล้วติดกระจกเต็มตัวไว้เป็นบานปิดด้วยก็ได้ หรือถ้าอยากได้โล่งๆไม้กลัวฝุ่นก็ไม่ต้องมีบานปิด ตรงนี้อาจจะเติมโต๊ะเครื่องแป้งเข้าไปทำให้เป็นสัดส่วน แต่ก็อาจจะทำให้พื้นที่เก็บเสื้อผ้าไม่พอ
เข้ามาใน Walk-in Closet หันไปทางขวามือก็จะเจอกับทางเข้าห้องน้ำในตัวของห้องนอนใหญ่
ห้องน้ำขนาด 1.8 x 2.4 เมตร ในบ้านมาตรฐานกระเบื้องจะเลือกเป็นสีออกชมพู-เหลืองหวานๆหน่อย แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนปกติคืออ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำแบบไม่มีฉากกั้น แต่มีการเซาะร่องเป็นพื้นที่วางสบู่ แชมพูได้ในตัวเลย
อ่างล้างหน้าแบบเต็มผนัง กว้างดีค่ะ เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่ข้าวของเยอะ สามารถวางที่พื้นที่ข้างๆอ่างได้ กระจกก็จะบานใหญ่ขึ้นกว่าห้องน้ำด้านล่าง
โถสุขภัณฑ์จาก American Standard มีสายชำระและที่ใส่ทิชชูให้ ด้านบนก็จะมีบานกระทุ้งสองบานเล็กๆ เปิดออกไปยังข้างบ้าน ช่วยในเรื่องการระบายอากาศได้ดี
ต่อมาเป็นส่วนอาบน้ำ ในบ้านตัวอย่างติดฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจก Temperred มาให้เป็นแบบเลื่อนเปิด ทำให้ไม่กระแทกกับกระเบื้องที่ผนัง
ระดับความสูงพื้นระหว่างพื้นที่เปียกและพื้นที่แห้งต่างกันนิดหน่อย
พื้นที่เปียกอยู่ที่ 0.9 x 1.7 เมตร มีจุดท่อน้ำอยู่มุมด้านใน
ฝักบัวจาก American Standard เช่นกัน เป็นแบบเปิด-ปิดหัวเดียว มีการเซาะร่องกำแพงความสูงขนาดพอดีกับขวดเลย
ออกมาจากห้องนอนใหญ่ จะไล่จากขวาไปซ้ายกันต่อนะคะ
ห้องนอนกลางที่อยู่หลังบ้านขนาด 4.0 x 4.2 เมตร มีช่องแสง 2 จุดคือส่วนข้างบ้านและหลังบ้าน เป็นแบบหน้าต่างบานเลื่อนทั้งคู่ กรอบเป็น UPVC สีขาว ลูกฟักคือกระจกสีเขียวตัดแสง
จากมุมด้านในของห้องนอนกลาง มองออกไปยังประตูทางเข้า
ข้างๆเตียงก็ยังเหลือพื้นที่ใส่ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ ทางที่ดีถ้าเป็นตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนก็จะทำให้ประหยัดเนื้อที่ และไม่ต้องระวังระยะประตูที่จะเปิดไปชนกับอะไร
ต่อมาจะเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนกลางและห้องนอนเล็ก
ภายในห้องน้ำขนาด 2.0 x 2.7 เมตร ขนาดสีเหลี่ยมผืนผ้า จากส่วนที่ใกล้คืออ่างล้างหน้าพร้อมกระจก ตรงกลางคือโถสุขภัฑณ์ และในสุดคือพื้นที่เปียกอาบน้ำ ที่แปลกขึ้นมากว่าห้องน้ำห้องอื่นๆคือช่องแสงขนาดใหญ่หลังบ้าน ลูกฟักเป็นกระจกขุ่น
ที่สามารถทำเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ได้เพราะว่าพอเลื่อนเปิดแล้วจะมีระแนงไม้ซี่กั้นบังสายตาอีกที
ซึ่งพื้นที่ระหว่างหน้าต่างและระแนงไม้คือพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้ข้างๆ หรือจะไว้สำหรับตากผ้าเล็กๆน้อยที่ต้องการแค่ลม แต่ไม่ต้องการแดดจ้า
ต่อมาห้องสุดท้ายคือห้องนอนเล็ก พื้นเป็นลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตรเช่นกัน
ห้องนอนเล็กขนาด 3.2 x 3.3 เมตร มีช่องแสง 2 ฝั่งคือจากข้างบ้านและหลังบ้าน แม้จะเป็นห้องนอนเล็กแต่ก็ยังสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้ และมีพื้นที่รอบๆเตียงเหลือเดินได้สบายๆ
พื้นที่ข้างเตียงนอกจากจะวางโต๊ะข้างเตียงได้ ความกว้างก็ยังวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ด้วย
ปลายเตียงก็สามารวางชั้นหนังสือ ชั้นของสะสม โต๊ะทำงานเล็กๆ หรือชั้นเก็บของที่สามารถวางทีวีได้
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 21 August 2015
- แปลงที่ 9 เนื้อที่ดิน 100 ตร.วา ราคาขาย 6,540,000 บาท หรือ 65,400 บาทต่อตารางวา (โปรโมชั่น)
- แปลงที่ 49 เนื้อที่ดิน 100 ตร.วา ราคาขาย 6,490,000 บาท หรือ 64,900 บาทต่อตารางวา (โปรโมชั่น)
- แปลงที่ 41 เนื้อที่ดิน 101.70 ตร.วา ราคาขาย 8,049,500 บาท หรือ 79,150 บาทต่อตารางวา
- แปลงที่ 42 เนื้อที่ดิน 105.90 ตร.วา ราคาขาย 8,196,500 บาท หรือ 77,400 บาทต่อตารางวา
ทางโครงการมี 2 Packages ให้เลือกนะคะ
- ส่วนลดเงินสด 200,000 บาท
- ฟรี แอร์ขนาด 12,000 BTU จำนวน 3 เครื่องและแอร์ขนาด 18,000 BTU จำนวน 1 เครื่อง ติดตั้งห้องนอน 3 ห้องบนชั้น 2/ เฟอร์นิเจอร์ห้องนอน 3 ห้องจาก SB Furniture ประกอบด้วยฐานเตียงไม่รวมฟูก ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง/ ปูหญ้าจริงรอบบ้านตามสเปคโครงการ
- จอง 20,000 บาท
- ทำสัญญา 80,000 บาท (ภายใน 7 วันหลังจากวันจอง)
- ดาวน์งวดละ 35,000 บาท จำนวนงวดที่ผ่อนดาวน์ขึ้นกับระยะเวลาระหว่างที่ซื้อและกำหนดเสร็จของบ้าน
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 35,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี (แต่ตามโปรโมชั่นจะฟรี 1 ปีแรก)
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อชำระทั้งหมด
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บ้านศิรินรัตน์ หทัยราษฎร์ ตั้งอยู่บนถนนหทัยราษฎร์ ซอย 37 เขตคลองสามวา ตอนเหนือของกรุงเทพ พื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยทั้งจัดสรรและบ้านเดี่ยวพักอาศัย รวมทั้งยังมีพื้นที่รอบๆบริเวณที่อีกเยอะที่เป็นพื้นที่ว่างเปล่ารอการพัฒนา บนถนนหทัยราษฎร์จะดูเงียบเหงาหน่อย แต่พอเข้าถนนเลียบคลองสอง คู้บอน หรือรามอินทราที่อยู่ห่างไปประมาณ 10 กิโลเมตรจะคึกคักขึ้น มี BigC, ร้านขายของตามชั้นล่างของอาคารพาณิชย์ และตลาดนัดตามสามแยกสี่แยกต่างๆ แต่ถ้าจะเอาห้างสรรพสินค้าใหญ่หน่อยต้องไปที่ถนนรามอินทราที่มีทั้ง Fashion Island, The promonade โรงพยาบาลและโรงเรียนต่างๆ
การเดินทางโดยใช้รถนั้น โครงการสามารถเดินทางได้จากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนรามอินทราทางใต้ โดยสามารถเลือกเข้าได้ทั้งถนนเลียบคลองสองต่อกับถนนคู้บอนที่ลอดใต้มอเตอร์เวย์ หรือถ้ามาจากมีนบุรีก็เข้าถนนสุวินทวงศ์เข้าถนนหทัยราษฎร์ได้จากทางใต้ หรือมาจากรามคำแหงก็เข้าเส้นปัญญาอินทรา ส่วนถ้ามาจากปทุมธานีก็เส้นลำลูกกา แล้วเข้าสายไหม แต่เส้นทางส่วนใหญ่ก็จะมาบรรจบกันที่ถนนหทัยราษฎร์ แล้วเลี้ยวเข้าซอยหทัยราษฏร์ 37 เข้าซอยไปลึกประมาณ 750 เมตร โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ เส้นทางจากโครงการไปทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือจากซอย 37 มีทางลัดไปซอย 39 เพื่อออกซอยไทยรามัญไปขึ้นทางด่วนด่านจตุโชติ นอกจากนั้นยังมีถนนเส้นพหลโยธิน-รัตนโกสินทร์สมโภช ที่กำลังเวนคืนที่อยู่ตัดผ่านใกล้กับโครงการ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ในปัจจุบันก็คงจะต้องพึ่งพาพี่แท๊กซี่ สองแถว รถเมล์และพี่วินมอเตอร์ไซค์ที่สามารถเรียกได้ที่ปากซอยโครงการ ส่วนระบบขนส่งอย่างรถไฟฟ้าก็จะต้องเป็นรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่วิ่งทางหลักอยู่บนถนนรามอินทรา สุดที่มีนบุรีพอดี จากโครงการสามารถเลือกขึ้น-ลงได้หลายสถานี แต่ละสถานีก็จะตรงกับถนนเข้าโครงการได้หลายเส้น ถ้าอยากผ่านห้างเยอะๆหน่อยก็จะต้องลงสถานีวงแหวนตะวันออก แต่ถ้าไม่อยากต่อรถแล้วรถติดก็จะต้องลงสถานีคู้บอนเพื่อวิ่งเข้าคู้บอนเลย
การก่อสร้างของบ้านโครงการศิรินรัตน์เป็นแบบ Conventional หรือแบบก่ออิฐฉาบปูน ไม่ใช่แบบ Pre-cast เหมือนโครงการใหญ่ๆปกติ ข้อดีคือโครงสร้างจะแข็งแรงกว่า แต่ก็ต้องขึ้นกับฝีมือแรงงาน ซึ่งทำให้ระยะเวลาก่อสร้างอาจจะนานกว่าแบบยกมาเป็นผนังๆ ส่วนภายในพื้นชั้น 1 ก็จะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร และพื้นชั้นสองและห้องนอนเป็นลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร ประตูเป็นบาน HDF หน้าต่างเป็นกรอบ UPVC ตรงกลางเป็นกระจกตัดแสง ส่วนห้องน้ำเป็นสุขภัณฑ์จาก American Standard หรือเทียบเท่า ถ้าเลือก Package 2 คือจะได้การปูหญ้ารอบบ้านจากปกติที่เป็นหน้าดินธรรมดา ได้แอร์ตามสเปค และเฟอร์นิเจอร์บางส่วนจาก SB Furniture
ขนาดของโครงการถือว่าไม่ใหญ่อยู่ที่ 49 ยูนิต มีถนนหลักอยู่ตรงกลาง สองฝั่งเป็นบ้านพักอาศ้ย มี Facility อยู่ค่อนหน้าของโครงการทำให้ลูกบ้านส่วนหน้าเข้าถึงได้มากกว่า ส่วนหลังโครงการจะเป็นถนนอยู่ทางซ้ายและบ้านแถวเดี่ยวอยู่ทางขวาหันหน้าเข้าถนน ไม่มีบ้านฝั่งตรงข้าม ทำให้อาจจะค่อนข้างเงียบไปหน่อย การออกแบบพื้นที่ในบ้านถือว่าเหมาะกับครอบครัวขยายที่มีสมาชิก 3-6 คน เพราะมีจำนวนห้องนอนอยู่ที่ 4 ห้อง สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามใจชอบ แต่ห้องนอนทุกห้องไม่มีระเบียง ส่วนชั้นล่างก็เป็นพื้นที่ห้องรับแขกต่อเนื่องไปถึงครัวฝรั่ง ไม่ได้กั้นห้องมาให้ รวมๆแล้วถือว่ามีพื้นที่ใช้สอยเยอะอยู่ที่ 252 ตารางเมตร บนพื้นที่ดินขั้นต่ำ 100 ตารางวา ทำให้พื้นที่รอบบ้านมีเยอะโดยเฉพาะส่วนหน้าบ้านที่สามารถวางชุดเก้าอี้นั่งเล่น หรือขุดบ่อปลาได้สบายๆ
ขนาดพื้นที่ของสาธารณูปโภคโครงการถือว่าไม่ใหญ่มาก เพราะเป็นโครงการขนาดกลาง มี Facility อยู่จุดเดียวค่อนมาทางด้านหน้า มี Clubhouse 2 ชั้นที่เป็น Lobby, Fitness และห้องนิติบุคคล ส่วนด้านหน้าจะเป็นสระว่ายน้ำที่แบ่งออกเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่ พื้นที่รอบๆคือสวนสาธารณะรูปตัว L ส่วนการเข้า-ออกโครงการถ้าเป็นรถลูกบ้านจะใช้ Keycard Access ระยะใกล้เพื่อเปิดไม้กระดกเข้าโครงการ ถ้าเป็นแขกลูกบ้านจะต้องจอดรถด้านหน้า และบัตรเพื่อแสตมป์ขาออก ถนนหลักภายในโครงการกว้าง 12 เมตร และลึกเข้าไปหน่อยจะกว้าง 9 เมตร มี CCTV ทั้งหมด 16 จุดรอบโครงการ รั้วโครงการสูง 2 เมตร ส่วนบ้านแต่ละหลังจะมีระบบและเครื่อง Intercom ให้ และสัญญาณกันขโมย ระบบ Shock Sensor หลังละ 4 จุด
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 5 – 8 ล้านบาท, 21 August 2015
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.0/10 – ทำเลค่อนข้างสงบ ต้องเข้าซอยหทัยราษฎร์ 37 มาอีก 750 เมตร
- ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก ระบบ Keycard Access ระยะใกล้, มี CCTV 16 จุด, มีสัญญาณกันขโมยทุกหลัง
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – แบบบ้าน 4 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยและเนื้อที่ดินอย่างน้อย 100 ตารางวา ใหญ่
- วัสดุ 8.25/10 – สร้างแบบ Conventional เสา-คาน วัสดุดี เก็บงานเรียบร้อย เลือกสีเลือกลายบางจุดแปลกไปนิด
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.25/10 – มีสวนหน้า Clubhouse และไม้พุ่มหน้าบ้านทุกหลัง แต่หญ้ารอบบ้านแล้วแต่ Package
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – ด้วยจำนวนยูนิตน้อย ขนาดของ Facility ก็น้อยตาม แต่ก็มีครบ
- 7.50 / 10.00
BOTTOM LINE
บ้านศิรินรัตน์ หทัยราษฎร์ ถือว่าเป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาดค่อนข้างใหญ่ในละแวกใกล้เคียง จำนวนยูนิตไม่เยอะในทำเลที่ค่อนข้างสงบ เหมาะสำหรับคนในพื้นที่ที่ต้องการขยับขยาย ไม่ชอบความวุ่นวายบนถนนใหญ่นัก โดยต้องมีงบประมาณ 6.5-8.5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 45,000 – 60,000 บาท
ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )
