ใกล้จะสิ้นปีแล้ว ใครที่กำลังวางแผนตกแต่งบ้านและมองหาเฟอร์นิเจอร์ที่มีทั้งความสวยงามและความทนทานกันอยู่ วันนี้เรามีแบรนด์เฟอร์นิเจอร์น้องใหม่ “HAMPTON LIVING” ที่ผลิตจากไม้โอ๊คแท้ๆ ออกแบบโดย Designer ชาวอังกฤษ มีมาให้เลือก  3 Collection โดยทุก Collection สามารถ Mix&Match ได้กับทุกสไตล์การแต่งบ้าน มีขนาดพอเหมาะ สามารถจัดวางได้ในพื้นที่จำกัดอย่างเช่น บ้านขนาดเล็ก หรือ คอนโดมิเนียม ว่าแล้วก็อย่ารอช้าเราไปชมกันเลยค่ะ

บรรยากาศโชว์รูม HAMPTON LIVING เฟอร์นิเจอร์ไม้โอ๊ค

HAMPTON LIVING เป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตจากไม้โอ๊ค (Oak) ซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็งทำให้ตัวเฟอร์นิเจอร์เองมีความทนทาน สามารถใช้งานได้นาน โดยปกติแล้วไม้ที่เรานิยมนำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์นั้นมีอยู่ 4 ประเภทด้วยกันได้แก่

  • ไม้ Particle Board – สร้างมาจากเศษชิ้นไม้ นำมามาประสานกันโดยสารเคมีและบดอัดด้วยความดันสูง มีราคาถูกกว่าไม้จริงและไม้อัด แต่อาจจะไม่แข็งแรงเท่าไรเพราะไม่สามารถโดนน้ำได้ ถ้าโดนอาจจะทำให้เปื่อยยุ่ยได้
  • ไม้ MDF ย่อมาจากคำว่า “Medium-Density Fiberboard” ไม้ชนิดนี้มีความคล้ายคลึงกับไม้ Particle แต่ว่า ไม้ MDFจะต้องผ่านกระบวนการอัดไม้ด้วยเครื่องบดอัดไม้เฉพาะที่มีแรงอัดสูงมากพร้อมกับความร้อน จึงทำให้เนื้อไม้มีความแน่น และผิวเนียนมากกว่าไม้ Particle จึงมีราคาที่สูงกว่าตามไปด้วยแต่ก็ต้องระวังเรื่องความชื้นและการโดนน้ำเช่นกัน นอกจากนั้นยังมีไม้ HDF “High Density Fiberboard” ที่มีขบวนการผลิตไม่ต่างจากไม้ MDF เท่าไหร่แต่จะมีความหนาแน่นที่มากว่าค่ะ
  • ไม้อัด (Plywood) ถือเป็นไม้ที่มีคุณภาพดีขึ้นมาอีกระดับ ในแง่ของความทนทาน แข็งแรง และคุณสมบัติพิเศษต่างๆ เช่น การกันน้ำ กันปลวกและสามารถนำมาปิดผิวเองได้
  • ไม้จริง (Wood) เป็นไม้จากธรรมชาติ  ไม่ได้ถูกนำมาบีบอัดเหมือนไม้ที่เรากล่าวถึงข้างต้น ดังนั้นความทนทานจะสูงมากๆ และมีลวดลายที่สวย สามารถขัดทำสีได้โดยที่ความสวยงามของลายไม้ยังอยู่ ไม้จริงสามารถแยกออกไปได้อีกหลากหลายชนิด โดยไม้ที่ HAMPTON LIVING เลือกใช้คือไม้โอ๊คนั่นเองค่ะ 

ขอบคุณภาพประกอบจาก Pinterest

“ไม้โอ๊ค” ถือเป็นไม้ยอดนิยมในการทำเฟอร์นิเจอร์ เพราะเป็นไม้เนื้อแข็ง ที่มีลายเสี้ยนชัดเจนเป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับการนำมาใช้ผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์หลากหลายชนิด

ไม้โอ๊คนั้นมีทั้งที่ยุโรปและอเมริกาเป็นไม้พื้นถิ่นของเขาที่ขึ้นตามธรรมชาติรวมไปถึงการปลูกและมีการจัดการอย่างเป็นระบบในป่าของต่างประเทศ ลักษณะเด่นของต้นโอ๊คคือเมื่อเติบโตเต็มที่จะสูงใหญ่ได้กว่า10เมตร แผ่กิ่งก้านร่มเงากว้าง และกิ่งอยู่สูง ทำให้ต้นโอ๊คอายุมากๆจะมีไม้คุณภาพสูงและมีความยาว ในขณะที่ลักษณะของเซลของไม้โอ๊คและองค์ประกอบทางเคมียังทำให้ไม้โอ๊คมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดี จะเห็นได้ว่าไม้โอ้คถูกนำมาดัดเป็นถังบ่มไวน์และวิสกี้ชั้นดี ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ที่ใช้ไม้โอ๊คมากที่สุดอุตสาหกรรมหนึ่ง เนื่องจากในตัวไม้โอ๊คมีสารเคมีที่จะค่อยๆปล่อยออกมาทำให้ไวน์และวิสกี้มีรสชาดละมุนขึ้นได้ตามระยะเวลาการบ่ม นอกจากจะเป็นถังบ่มเครื่องเดื่มรสเลิศแล้ว โอ๊คยังถูกทำมาทำเป็นอาวุธในสมัยโบราณทั่วโลก ตั้งแต่เครื่องยิงหินขนาดใหญ่ที่ใช้ต้นโอ๊คทั้งต้นมาทำ หรืออาวุธอื่นๆตั้งแต่ด้ามหอก ไม้กระบอง ด้ามปืน และอื่นๆอีกมาก และที่ขาดไม่ได้เลยคือเฟอร์นิเจอร์ไม้ชั้นยอดต่างๆ

จุดเด่นของไม้โอ๊คสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์นั้นมีดังนี้

  • ไม้โอ้คมีความแข็งแรงทนทาน เหมาะกับนำมาทำเป็นโครงสร้างสำหรับเฟอร์นิเจอร์
  • ไม้โอ๊คมีลวดลายธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์สวยงาม ตกแต่งที่อยู่อาศัยแล้ว ทำให้มีความรู้สึกอบอุ่น น่าอยู่
  • ไม้โอ๊คมีค่าความแข็งและยืดหยุ่นที่เหมาะสมกับงานของเฟอร์นิเจอร์ที่มีความโค้งมน สวยงาม
  • ไม้โอ๊คเหล่านี้มาจากป่าปลูก ที่มีการจัดการที่ดีเป็นส่วนมาก ไม่ได้เกิดการตัดไม้จากป่าธรรมชาติ

เฟอร์นิเจอร์ของ HAMPTON LIVING นอกจากจะมีความแข็งแรงทนทานแล้ว ยังมีความสวยงามสามารถนำไปตกแต่งได้กับทุกสไตล์  เช่น MINIMAL , COUNTRY , CONTEMPORARY และ VINTAGE โดยปัจจุบันจะมีอยู่ 3 Collection ได้แก่

  • THE URBAN COLLECTION
  • THE COTTAGE COLLECTION
  • THE FRENCH COLLECTION

ทุก Collection สามารถนำไปใช้กับบ้านขนาดเล็กหรือคอนโดมิเนียมได้ด้วย ขนาดที่ออกแบบมาให้ไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป ยกตัวอย่างเช่น ตู้ที่ออกแบบให้มีความลึกไม่มากสามารถวางได้โดยไม่กินพื้นที่ และ มีความสูงที่พอเหมาะพอวางในห้องแล้วไม่รู้สึกอึดอัด อีกทั้งยังเลือกใช้โทนสีที่สว่าง เวลานำเอามาตกแต่งบ้านแล้วไม่ทำให้บ้านดูทึบตันค่ะ  เดี๋ยวเราจะพาไปชมแต่ละ Collection กันนะคะ

THE URBAN COLLECTION

สำหรับ Collection นี้ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจมากจาก Scandinavian Style หรือ Nordic Style เป็นสไตล์การตกแต่งบ้านของคนในแถบยุโรปเหนือ ได้แก่ สวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก และฟินแลนด์ จริงๆแล้วแต่ละประเทศก็มีสไตล์ที่เป็นเอกลัษณ์เฉพาะตัว แต่เมื่อมองภาพรวม ในส่วนของงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์แล้วประเทศทั้ง 4 มีเอกลัษณ์ร่วมกันที่โดดเด่นจนสะท้อนเป็น Scandinavian Design เนื่องจากประเทศเหล่านี้ตั้งอยู่ทางเหนือที่มีอากาศหนาวเย็น จึงเป็นที่มาของการใช้เฟอร์นิเจอร์สีอ่อนหรือสีขาวเป็นหลัก เดิมทีสไตล์ Scandinavian จะมีลักษณะ 2 รูปแบบใหญ่ๆ คือ Country ในบ้านแบบ Log Home นิยมใช้ไม้ Pine หรือ Birch แบบดิบๆ เพื่อเผยให้เห็นสีแท้ๆของไม้มาทำเฟอร์นิเจอร์  ส่วนอีกรูปแบบ Gustavian จะได้รับอิทธิพลจากศิลปะฝรั่งเศสและอิตาลี ทำให้มีความเป็นยุโรปสูง มีการนำเอาวัสดุหรูหราเช่นโคมไฟ มาตกแต่ง และรูปทรงของเฟอร์นิเจอร์จะมีความโค้งและดีไซน์ที่ละเอียดขึ้น รวมถึงการนำเอาสีพาสเทล (Pastel Color) มาผสมผสานในลายผ้าบุของเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่างๆ

ต่อมาได้เกิด Scandinavian Modern ในช่วงยุค 1930 เป็นต้นมา เป็นรูปแบบที่ผสมผสานและลดทอนเข้าสู่ยุค Modern  การตกแต่งสไตล์นี้ยังคงใช้โทนสีสว่างอบอุ่นอย่างสีขาวเป็นหลัก เน้นวัสดุธรรมชาติ โดยหัวใจหลักที่สะท้อนเอกลัษณ์ของสไตล์นี้คือ ความนิยมการใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน แต่มีการลดทอน เส้นสายและรูปทรงให้มีความเรียบง่ายมากขึ้น ทั้งหมดนี้คือจุดเด่นที่ทำให้เฟอร์นิเจอร์ Scandinavian ยังคงได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน ส่วนข้อได้เปรียบอีกประการของเฟอร์นิเจอร์ Scandinavian คือการสามารถกลมกลืนกับการแต่งบ้านทุกๆสไตล์ ตั้งแต่การตกแต่งแบบย้อนยุค  แบบ Country จนถึงการตกแต่งในแบบ Modern

THE COTTAGE COLLECTION

Cottage Style  เป็นการตกแต่งบ้านแนว Country  ในฝั่งตะวันตก หรือบ้านหลังคาจั่วสีอ่อนๆที่เราเห็นในภาพยนตร์นั่นเองค่ะ บ้านที่ตกแต่งสไตล์นี้จะมีบรรยากาศที่ดูน่าผ่อนคลาย เนื่องจากวัสดุที่ใช้จะเน้นความเป็นธรรมชาติและดูเรียบง่าย การตกแต่งจึงมักจะใช้วัสดุจากธรรมชาติ เช่น ไม้ที่โชว์ให้เห็นผิวสัมผัสที่แท้จริง บ้านที่ตกแต่งในสไตล์นี้นิยมใช้สีกลางๆ ไม่จัดจนเกินไป เช่น ขาว เทา ดำ น้ำตาล และครีม เป็นต้น ของตกแต่งสามารถเลือก กรอบรูปไม้ กระถางใส่ต้นไม้ หรือของเก่าที่แสดงถึงเรื่องราว เพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูอบอุ่นมากขึ้นได้  สไตล์นี้ยังสามารถแบ่งเป็น Style ย่อยๆได้อีก โดยจะมีการผสมผสานกับกลิ่นอายของท้องที่นั้นๆ เช่น English cottage  American cottage เป็นต้น สไตล์นี้สามารถนำไป Mix & Match กับสไตล์อื่นๆได้ไม่ยาก เช่น Country Style , Minimal Style , Contemporary Style , Vintage Style ที่มีความคล้ายกับ Cottage Style มากๆแต่เฟอร์นิเจอร์จะมีความสวยงามเน้นโชว์ลวดลายมากกว่า หรือ Modern Style ที่สามารถนำเอาเฟอร์นิเจอร์ที่ดูอบอุ่นของ Cottage Style ไปช่วยลดความเรียบ นิ่งได้

สำหรับ THE COTTAGE COLLECTION นี้ได้มีการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ให้ดูเรียบง่าย ใช้ไม้โอ๊คทำสีธรรมชาติผสมกับโทนสีขาว มีดีเทลเล็กๆตรงตะกร้าหวายและมือจับเหล็กโครเมี่ยมเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับตัวบ้าน สามารถดูรายละเอียดเฟอร์นิเจอร์ใน Collection ได้ด้านล่างเลยค่ะ

THE FRENCH COLLECTION

Collection นี้ออกแบบมาให้มีกลิ่นอายของ French Country Style ที่มีจุดเด่นคืออยู่แล้วมีความผ่อนคลาย ของแต่งบ้านใช้วัสดุที่เป็นธรรมชาติและมีกลิ่นอายของบ้านในชนบท แต่มีดีเทลและความอ่อนช้อยที่มากกว่า โทนสีที่นิยมใช้คือสีอ่อน โดยเฉพาะสีขาว ส่วนสีอื่นๆที่นำมาใช้มักจะเป็นสีที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภูมิทัศน์ของชนบทในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมักจะเป็นสีโทนร้อนที่สื่อถึงความอบอุ่น ไม่ว่าจะเป็น สีเหลืองอ่อนที่มาจากกองฟาง สีส้มอ่อนและสีทองจากแสงแดดของดวงอาทิตย์ สีเขียวอ่อนจากทุ่งหญ้า ก็ถูกนำมาใช้ในองค์ประกอบของการตกแต่งต่างๆ เพื่อให้บ้านมีความน่าสนใจมากขึ้น

สำหรับเฟอร์นิเจอร์ของการออกแบบในสไตล์นี้นิยมใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีกลิ่นอายของอดีตหรือ Vintage furniture ซึ่งมีความสวยงามและประณีต มีดีเทลที่อ่อนหวานเช่น การออกแบบให้เฟอร์นิเจอร์มีความโค้งเล็กน้อยและเลือกใช้มือจับที่มีลวดลายที่อ่อนหวาน ให้อารมณ์ความเรียบหรูได้อย่างลงตัว วัสดุใช้เป็นไม้โดนสีอ่อนขัดทำสีโชว์ลาย และถ้าอยากเพิ่มเรื่องราวให้กับตัวบ้านแนะนำให้หาของตกแต่งเป็นของเก่าหรือผ้าที่มีลวดลาย และเพิ่มดอกไม้ก็จะทำให้บ้านดูสวยงาม น่าอยู่มากๆเลยค่ะ สไตล์นี้ก็สามารถนำไปผสมผสานกับการตกแต่งในสไตล์อื่นๆได้อย่างหลากหลายเช่นเดียวกัน

เฟอร์นิเจอร์ของ HAMPTON LIVING นอกจากความทนทานและสวยงามแล้ว ยังมีรับประกันสินค้า 1 ปี และมีบริการจัดส่งฟรี “ไม่มีขั้นต่ำ”ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ถ้าซื้อตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31ธันวาคม2562 หลังจากนั้นจะจัดส่งฟรีต่อเมื่อซื้อสินค้าครบ 5,000 บาทค่ะ

ใครที่สนใจสามารถเข้าไปชมสินค้าและราคาเพิ่มเติมได้ที่ Website >>  www.hamptonliving.biz

ถ้าใครอยากชมเฟอร์นิเจอร์ของจริงพบกับเราได้ในงานบ้านและสวนที่จะจัดขึ้นในวันที่ 18-27 ตุลาคม 2562 ที่ CHALLENGER HALL 1 – 3 IMPACT เมืองทองธานี  โดยบูทของ HAMPTON LIVING  คือ F65-F68  zone furniture

หรือสามารถเข้ามาชมสินค้าของจริงได้ที่ Showroom ร้าน USA furniture ตามแผนที่ด้านล่างหรือ คลิกที่นี่ เพื่อดูแผนที่ google ค่ะ