อยู่สบายกับคุณนายสวนหลวงตอน -10 วิธีดีท็อกซ์บ้าน
สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน TOL วันนี้คุณนายจะมาชวนคุยเรื่องการ ดีท็อกซ์บ้าน หรือการกำจัดล้างมลพิษภายในบ้านของเรากันค่ะ เพราะบ้านของเราก็เหมือนร่างกายเรานะคะ ถ้าระบบข้างในไม่ได้รับการรักษาดูแล ปล่อยปะละเลย ก็จะทำให้เกิดความไม่สบาย เกิดโรคภัย ของผู้อยู่อาศัยได้ค่ะ วันนี้คุณนายจึงข้อเสนอ 10 ประการ ที่ไม่ยุ่งยากเลย ในการล้างพิษ (ดีท็อกซ์ = Detox = Detoxify = ล้างพิษ) ให้กับบ้านของเรา (ย้อนไปอ่านตอนเก่าๆได้ที่นี่นะคะ)
ข้อ 1 ปิดแอร์เปิดหน้าต่างให้ลมผ่านบ้างนะจ๊ะ
มีใครทราบบ้างไหมคะว่าที่จริงแล้ว อากาศภายในบ้านเรามีโอกาส เกิดอัตราอากาศที่ไม่บริสุทธิ์สูงกว่าอากาศภายนอกบ้านถึง 2-5 เท่า ดังนั้นถึงแม้อากาศบ้านเราจะร้อนปรอทแตกขนาดไหน ไม่ควรเปิดเครื่องปรับอากาศกันตลอดเวลานะคะ ควรเปิดช่องการถ่ายเทให้ลมในบ้านได้มีการผลัดเปลี่ยนออกไปบ้าง จะได้มีการหมุนเวียนอากาศใหม่เข้ามาทดแทน แต่การเปิดหน้าต่างที่ดีจริงๆนั้น ก็ไม่ใช่สักแต่ว่าเปิดนะคะ เราต้องคำนึงถึงการเปิดในตำแหน่งที่ถูกต้องด้วย บางคนอาจเคยคิดว่าการที่ลมตีแรงๆเข้าบ้านนั้นเป็นเรื่องที่ดี บางบ้านเปิดช่องทางให้ลมเข้ามาวนอยู่ในตัวบ้าน เกิดเป็นลักษณะการหมุนเวียนของลมที่ไม่เหมาะสม ลมที่เข้ามาพัดผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือสิ่งกักเก็บฝุ่นต่างๆ ทำให้ลมเก็บสะสมความร้อน สิ่งสกปรก หรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก่อนที่จะมาถึงเรา นั่นเป็นเหตุผลมาจากการจัดสรรตำแหน่งหน้าต่าง และ Zoning ที่ไม่เหมาะสม
การเปิดหน้้้้้้้้าต่าง เปิดช่องทางระบายลมในลักษณะทิศทางตรงกันข้าม จะช่วยเพิ่มแรงดูดในการระบายอากาศได้และควรเขยิบย้ายสิ่งกีดขวางที่เห็นว่าจะไม่ส่งผลดี อย่างเช่นพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์ เฟอร์นิเจอร์ ภายในบ้านที่มักจะกักเก็บฝุ่นออกไม่ควรวางหรือกั้นอยู่ในทิศทางลม
ข้อ 2 ปลูกต้นไม้กันฝุ่นเข้าบ้านได้นะ
ต้นไม้นอกจากจะทำให้บรรยากาศของบ้านเราสดชื่น และน่าอยู่มากขึ้นแล้ว ยังสามารถทำหน้าที่เหมือนเป็นป้อมปราการป้องกันฝุ่นแบบธรรมชาติอีกด้วย ถ้าบ้านใครอยู่ใกล้ถนนใหญ่หรือถนนที่มีการจราจรเยอะนะคะ การปลูกต้นไม้ในแถบหน้าบ้านจะช่วยลด การกระจายตัวของฝุ่น
ไม้ประเภทพุ่มความสูงระดับปลานกลางจะทำหน้าที่นี้ได้ดีทีเดียวคะ เพราะตัวพุ่มจะมีความหนา และอยู่ในระดับพอดี เพราะฝุ่นที่มาจากถนนที่เกิดจาการขับเคลื่อนของยานพาหนะนั้น จะไม่ลอยสูง นอกจากนั้นยังมีส่วนช่วยเป็นที่กรองเสียงอีกชั้นนึงด้วยนะคะ ยกตัวอย่างเช่น ต้นเล็บครุฑ ดอกเข็ม เทียนทอง วิธีปลูกเพื่อประโยชน์สูงสุดคือปลูกชิดๆกันเป็นแนวคะ
ข้อ 3 สร้างบรรยากาศแบบอโรม่าด้วยกลิ่นหอมจากต้นไม้รอบตัวบ้าน ^^
การวางต้นไม้หรือดอกไม้บนทิศทางลมก็เป็นอีกส่วนนึงที่จะช่วยปรับให้อากาศในบ้านของเราสดชื่นและบริสุทธิ์มากขึ้นคะ ต้นไม้บางชนิดนอกจากจะให้แสงเงาลดความร้อนที่จะเข้ามาในตัวบ้านแล้ว ยังสามารถช่วยเพิ่มออกซิเจนให้แก่ตัวบ้าน ทำให้อากาศบริสุทธิ์ยิ่งขึ้นอีกด้วยคะ ถ้าอยากสร้างบรรยากาศสดชื่นมากยิ่งขึ้น การปลูกไม้หอมก็เป็นอีกวิธีนึงนะคะ อย่างเช่น ต้นสายหยุด ต้นราตรี เป็นต้น
ข้อ 4 ปลูกต้นไม้บางชนิดเจ๋งกว่าติดเครื่องฟอกอากาศอีก
คุณนายจะขอแนะนำต้นไม้ที่มีประสิทธิภาพในการดูดสารพิษค่ะ โดยเจ้าต้นพวกนี้จะดูดก๊าซพิษเช่น ฟอร์มาดีไฮด์ กาวอาซีโตน ซึ่งมีอยู่ในเครื่องสำอางค์ น้ำยาทาเล็บ น้ำยาลบคำผิด ไตรคลอโรเอทีลีน ซึ่งมีอยู่ในเครื่องพิมพ์ เตาแก๊ส และน้ำยาเคลือบเงาไม้ ต้นไม้พวกนี้จะทำหน้าที่ดึงก๊าซพิษรอบๆลงสู่ดิน และรากจะทำหน้าที่เปลี่ยนสารไม่ดีพวกนี้เป็นอาหารของต้นนั่นเองคะ ไม้ที่มีคุณสมบัติดีเลิศในการทำหน้าที่เหล่านี้ก็ได้แก่ ต้นหมากเหลือง สาวน้อยประแป้ง วาสนาราชินี ลิ้นมังกร ลองหามาปลูกไว้รอบๆตัวบ้านกันเถอะค่ะ
ข้อ 5 เก็บรองเท้าไว้นอกบ้านกันเถอะ
ข้อนี้เป็นเรื่องง่ายๆที่คุนผู้อ่านสามารถปฎิบัติตตามกันได้เลยนะคะ อย่างแรกเลยก่อนเราจะเข้าบ้านเราควรถอดรองเท้า และไม่นำรองเท้าเข้าบ้าน เพราะสิ่งต่างๆที่เราเก็บสะสมมาทั้งวันจากถนนภายนอก จะมาสะสมอยู่ในบ้านของเราคะ เพิ่มสิ่งป้องกันอีกชั้นนึงคือการวางพรมเช็ดเท้าก่อนเข้าตัวบ้าน และหมั่นทำความสะอาดพรมบ่อยๆ
ข้อ 6 ทำความสะอาดกวาดๆดูดๆเป็นกินวัตร
การดูแลรักษาความสะอาดบ้านและตัวพื้นก็ป็นสิ่งสำคัญคะ ควรกวาดถูเป็นประจำ อย่างน้อยสองสามวันครั้ง และอย่าลืมดูดฝุ่นในพื้นที่ๆทีลักษณะเป็นพรมอย่างน้อยที่สุดสองอาทิตย์ครั้ง เพราะที่เรานี้จะเป็นแหล่งกักเก็บฝุ่น และเชื้อโรคชั้นดีที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ ไม่รู้ว่าคุณผู้อ่านยังจำคุณชายใหญ่แห่งวังทองหลางของคุณนายได้รึเปล่านะคะ (ฟังดูคล้ายคุณชายวังจุฑาเทพเนอะ) รายนั้นน่ะ โคตะระสะอาดตัวพ่อเลย พี่แกมีไม้ถูพื้นส่วนตัวประจำห้องค่ะ เมื่อใดที่คิดว่าแม่บ้านยังถูพื้นได้ไม่สะอาดพอ จะรีบเอาไม้ม๊อบออกมาถูพื้นเองทันทีแล้วขอตรวจฝ่าเท้าคุณนายดูว่าเป็นตัวการทำพื้นเหนียวรึเปล่า นอกจากนั้นฟิลเตอร์แอร์นี่พี่แกล้างตลอดๆๆๆๆ แบบว่าเอาออกมาล้างทุกอาทิตย์ค่ะ คุณผู้อ่านลองทำตามดูนะคะ ><
ข้อ 7 กำจัดความชื้นในบ้านด้วยการบริหารการระบายอากาศในพื้นที่ชื้น
การบริหารการระบายอากาศในพื้นที่ชื้น อย่างเช่นห้องน้ำ ถ้าเป็นห้องน้ำที่มีหน้าต่างและแสงสว่างเข้าถึงดีอยู่แล้ว ก็ควรหมั่นเปิดหน้าต่างระบายความชื้น และให้แสงแดดส่องเข้ามาฆ่าเชื้อโรคบ้าง ส่วนถ้าไม่มีหน้าต่างก็สามารถระบายอากาศได้โดย การเลือกใช้ประตูชนิดที่มีช่องบานเกล็ดหรือช่องระบายอากาศ เสริมด้วยพัดลมดูดอากาศ (อยู่ในตำแหน่งเหนือที่ๆมีความชื้นมากที่สุดจะดี เช่น บริเวณลานshower หรือ เหนือชักโครก) ก็จะช่วยระบายความชื้นได้ดีขึ้น และทำให้ห้องน้ำแห้งเร็วขึ้น ลดปัญหากลิ่นอับลงได้มาก
ข้อ 8 การเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสมสำหรับพื้นที่ชื้น
การเลือกใช้วัสดุผนังในพื้นที่ชื้นง่าย อย่างเช่น ห้องน้ำ ก็มีส่วนสำคัญในการลดปัญหาการเกิดคราบเชื้อรา เช่น วัสดุจำพวก กระเบื้อง เซรามิค จะดูแลได้ง่าย และทำความสะอาดได้ง่ายกว่าวัสดุประเภทอื่นๆ การใช้กระจกกั้นสัดส่วนที่อาบน้ำแทนม่าน ก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่มีส่วนช่วยได้มาก เพราะเจ้าม่านนี้ล่ะมักก่อให้เกิดคราบรา ส่วนพวกวัสดุทำชั้นวางก็ควรจะเป็นโลหะชนิดตะแกรงเผื่อลดการกักขังของน้ำและเป็นบ่อเกิดของความชื้นและเชื้อราคะ
ข้อ 9 ขัดถูคราบตามซอก
ปัญหาที่คุณนายมั่นใจว่าคุนผู้บ้านจะพบเจอได้บ่อยแน่ๆ ถึงแม้คุณผู้อ่านจะหลักเลี่ยงมาใช้วัสดุกระเบื้องกันแล้วนั้น แต่ยาแนวกระเบื้องก็ยังตามมารุกรานขึ้นราดำกันได้อีก ไม่ต้องตกใจคะ เพียงใช้น้ำส้มสายชูขัดถูๆ จนขาวสะอาด แล้วล้างออกจนสะอาดหมดจด เท่านี้บ้านของเรามีแหล่งกักเก็บสะสมเชื้อราและเชื้อโรคต่างๆน้อยลงแล้วคะ
ข้อ 10 ทำความสะอาดระเบียง
อีกที่หนึ่งที่คุณผู้อ่านไม่ควรจะมองข้ามกันนะคะ นั่นคือระเบียงของเรานั่นเอง เพราะเป็นพื้นที่กึ่งภายนอก โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนเช่นนี้ ระเบียงต้องรับฝนอยู่ตลอด ความอับชื้นจากการกักขังของน้ำฝนก็อาจจะทำให้เกิดเชื้อรา และการเพาะตัวของยุงได้ ดังนั้นการดูแลรักษาระเบียงก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันนะคะ ควรหมั่นดูแลไม่ให้น้ำกักขังเป็นเวลานาน และทำความสะอาดอย่างเป็นประจำ
สุขภาพของผู้อยู่อาศัยในบ้านนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก การเพิ่มคุณภาพของอากาศในอากาศ ลดแหล่งสะสมเชื้อโรค จะทำให้คุนภาพการอยู่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยคะ มาลองดีท็อกซ์บ้านเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นของเรากันเถอะค่ะ
XOXO
คุณนายสวนหลวง
ผู้บริหาร สวนหลวงบ้านและที่ดิน
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
บทความ “20 Ways to Detox Your Home” by Frank Lipman
http://www.drfranklipman.com/20-ways-to-detox-your-home/
เอกสาร เรื่อง “ต้นไม้ประดับ…การควบคุมมลพิษในที่ทำงาน”
http://portal.nurse.cmu.ac.th/fonoffice/adminoffice/kmblog/DocLib1/ระบบกายภาพ%20สิ่แวดล้อม/ไม้ประดับควบคุมมลพิษในที่ทำงาน.pdf