“ไมโครเวฟ…” จัดเป็นไอเทมสำคัญประจำห้องครัวในยุคปัจจุบัน ด้วยลักษณะการใช้งานที่เน้นความง่ายและรวดเร็ว ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการทำอาหารได้เพียงแค่กดปุ่มเท่านั้น เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตหมดไปกับการทำงาน ไม่มีเวลามากพอที่จะเข้าครัวแบบจริงจัง หรือมีครัวแต่ไม่มีพื้นที่ให้วางเตา หม้อหรือกระทะด้วยซ้ำ แต่เมื่อเรามีไมโครเวฟสักเครื่องล่ะก็ จะมีพื้นที่เท่าไร หรือเป็นเวลาไหน คุณก็สามารถทานอาหารอุ่นร้อนง่ายๆได้ในเวลาแค่ไม่กี่นาที

แม้เจ้าเครื่องใช้ไฟฟ้านี้จะได้รับความนิยมมาก แต่ว่าคนที่มีประสบการณ์การเลือกซื้อด้วยตัวเอง อาจจะไม่ได้มีมากนัก และคนที่คิดว่าเตาเหล่านี้ใช้งานได้ไม่ครบครันเท่าการทำอาหารด้วยหม้อหรือกระทะ สาเหตุมาจากฟังก์ชันพื้นฐานของไมโครเวฟที่คนทั่วไปรู้จักก็คือ ใช้ในการอุ่นอาหาร หรือละลายน้ำแข็งเท่านั้น แต่ความจริงปัจจุบัน ไมโครเวฟรุ่นใหม่ก็มี Feature ที่ออกมาตอบโจทย์คนทำอาหารได้หลากหลายมากขึ้นก็คือ “เตาอบไมโครเวฟ”

ทำความรู้จักกับไมโครเวฟ

ไมโครเวฟที่หลายคนรู้จัก จะใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นในช่วงไมโครเวฟ ( 300MHz – 300GHz ) ในการทำความร้อน เพราะคลื่นชนิดนี้ถูกดูดกลืนได้ดีในวัตถุที่มีความชื้น เมื่อเจอกับอาหารที่มีโมเลกุลของน้ำเป็นส่วนประกอบ จึงเกิดการสั่นและเสียดสีกันทำให้อาหารร้อนขึ้นได้นั่นเอง และจากหลักการทำงานนี้ จึงทำให้สามารถแบ่งไมโครเวฟออกได้เป็น 3 ประเภท คือ

  • ไมโครเวฟระบบอุ่น ( Solo Microwave Oven ) คือระบบทั่วไปที่ใช้หลักการทำงานของแม็กนีตรอนในการปล่อยคลื่นไมโครเวฟเพียงอย่างเดียว ใช้สำหรับอบอาหาร , อุ่นอาหาร , ละลายน้ำแข็งและต้มได้ เหมาะกับทำอาหารเมนูง่ายๆ หรืออุ่นอาหารแช่แข็งที่ใช้เวลาไม่นานค่ะ
  • ไมโครเวฟระบบย่าง ( Grill Microwave Oven ) มาพร้อมขดลวดความร้อนอยู่ด้านบนของช่องอบ คล้ายกับการทำงานในเตาอบไฟฟ้า โดยในระบบนี้ยังมีแม็กนีตรอนที่ทำหน้าที่ปล่อยคลื่นไมโครเวฟได้อยู่ด้วย ซึ่งก็สามารถเลือกใช้ได้ตามประเภทอาหาร แต่เมื่อมีระบบย่างเพิ่มเข้ามาก็ช่วยให้เราสามารถทำเมนูได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น
  • ไมโครเวฟระบบอบลมร้อน ( Convection Microwave Oven ) เป็นกลไกที่เกิดจากการทำงานร่วมกันของเตาอบไฟฟ้าที่ใช้วิธีพาความร้อนกับคลื่นไมโครเวฟ จึงทำให้อาหารได้รับความร้อนจากภายในอย่างรวดเร็ว ควบคู่กับพื้นผิวของอาหาร สามารถตั้งอุณหภูมิได้แม่นยำ เหมาะสำหรับคนที่ชอบอบขนมแต่มีพื้นที่จำกัด ไม่สามารถใช้เตาอบขนาดใหญ่ได้

ซึ่ง เตาอบไมโครเวฟ จริงๆแล้วคือระบบการทำงานที่ผสมระหว่างเตาอบไฟฟ้า + ไมโครเวฟ  นอกจากจะมีฟังก์ชันพื้นฐานอย่างการอุ่น ก็ยังสามารถย่าง อบ หรือปิ้ง ( Grill , Convection Microwave Oven ) เหมือนเตาอบได้ด้วย เทียบกับไมโครเวฟธรรมดา ( Solo Microwave Oven ) ได้ขนาดที่เท่ากัน แต่บางรุ่นมีจำนวนวัตต์มากกว่า แต่ก็ยังน้อยกว่าเตาอบไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งก็จะกินไฟและใช้เวลาในการอบนานกว่า ราคาโดยทั่วไปก็มีให้เลือกตั้งแต่ 2,000 – 20,000 บาทเลย

 

สิ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อเลือกไมโครเวฟ

เมื่อได้รู้จักประเภทและความแตกต่างของไมโครเวฟ ก็จะเห็นได้ว่าฟังก์ชันแบบไหนที่เหมาะกับการใช้งานของเรา อย่างคนที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบ ชอบความไวก็จะเลือกไมโครเวฟทั่วไปที่แค่ตื่นมาอุ่นอาหารทานก็ออกไปทำงานได้เลย ส่วนเตาอบไมโครเวฟก็จะเหมาะกับคนที่ชอบความหลากหลาย อยากทำปีกไก่ย่างหรืออบขนมแบบง่ายๆ แต่ไม่อยากเสียพื้นที่ให้เตาย่างหรือเตาอบขนาดใหญ่ เตาอบไมโครเวฟก็ถือว่าตอบโจทย์ค่ะ

ซึ่งนอกจากการเลือกประเภทของเตาที่เราต้องทราบแล้ว ก่อนจะซื้อไมโครเวฟ ก็ยังต้องทราบถึง 4 ปัจจัยเหล่านี้ เพื่อให้ได้เตาที่เหมาะสมกับครัวของเรา

1 ) การเลือกไมโครเวฟจากขนาด

ความจุมาตรฐาน มีให้เลือกตั้งแต่ขนาดเล็กสุด 15 ลิตร และใหญ่สุด 40 ลิตร การเลือกพิจารณาจากสมาชิกในบ้านและเมนูต่างๆที่เราต้องการใช้งานในไมโครเวฟ ซึ่งสามารถจำแนกได้เป็น 3 ขนาดดังนี้

  • เตาขนาดเล็ก ขนาด 15 – 20 ลิตร เหมาะกับสมาชิก 1 – 2 คน ไม่เน้นการปรุงอาหาร มีขนาดกระทัดรัด เคลื่อนย้ายง่าย เหมาะกับห้องครัวที่มีพื้นที่จำกัดหรือในคอนโด
  • เตาขนาดกลาง ขนาด 20 – 29 ลิตร เหมาะกับการใช้งานในครอบครัวขนาดเล็กประมาณ 3 – 4 คน เป็นไซส์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีฟังก์ชันหลากหลาย ใช้ทำอาหารได้
  • เตาขนาดใหญ่ ขนาด 30 ลิตรขึ้นไป ใช้ในครอบครัวขนาดใหญ่ มีสมาชิกมากกว่า 4 คน หรือร้านจำหน่ายอาหารแช่แข็งที่มีบริการอุ่นอาหารให้แบบพร้อมทาน

2 ) กำลังไฟของไมโครเวฟ

จำนวนเลขวัตต์ แสดงค่าความสามารถใช้ไฟเริ่มต้นของเตา ยิ่งกำลังไฟมากเครื่องก็สามารถทำความร้อนได้เร็วขึ้น หากต้องการทำอาหารจำนวนมาก การเลือกรุ่นที่มีกำลังไฟสูง จะช่วยเร่งกระบวนการทำอาหารให้ไวขึ้นได้ แต่การเลือกนี้ก็ต้องสัมพันธ์กับหม้อแปลงไฟบ้าน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาไฟไหม้ หรือไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งโดยทั่วไปไมโครเวฟจะมีกำลังไฟอยู่ที่ 600 – 1,500 วัตต์ ส่วนเตาอบไมโครเวฟอาจมีวัตต์รวมสูงสุด 2,000 วัตต์ และยิ่งมีกำลังไฟสูงมาก สิ่งที่จะตามมาก็คือค่าไฟนั่นเอง…

3 ) การติดตั้งไมโครเวฟ

  • แบบวางตั้งโต๊ะ มีให้เลือกหลายขนาด แล้วแต่ความสะดวกในการจัดวาง ข้อดีก็คือสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย โดยขนาดเตาทั่วไป ( 20 – 30 ลิตร ) จะมีความกว้างสูงสุด 50 เซนติเมตร ความสูง 30 เซนติเมตร และความลึก 40 เซนติเมตร การเตรียมพื้นที่ก็ค่อนข้างง่าย เพราะขนาดเคาน์เตอร์จะกว้าง 60 เซนติเมตรเป็นมาตรฐาน จึงสามารถวางได้สบายๆค่ะ
  • แบบฝังตู้หรือผนัง ( Built – in ) ในปัจจุบันก็มีการทำเคาน์เตอร์ครัวแบบ Built – in กันมากขึ้น นอกจากจะได้ความสวยงาม ยังสามารถออกแบบฟังก์ชันให้เหมาะสมกับการใช้ของเราด้วย และสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษก็คือ การเลือกรุ่นของเตาที่ต้องมีขนาดพอดีกับพื้นที่ เพื่อไม่ให้เสียเงินและเวลาจากการแก้ไขภายหลัง ซึ่งเตาแบบ Built – in จะมีขนาดใหญ่กว่าแบบตั้งโต๊ะ ช่องที่เตรียมไว้ติดตั้งจะต้องมีขนาดประมาณ 60x60x40 เซนติเมตร โดยประมาณ

*Tips การวางไมโครเวฟ ตำแหน่งของเตาควรอยู่ใกล้เต้าเสียบ ต้องมีระยะห่างจากผนังและวัตถุอื่นๆไม่น้อยกว่า 5 เซนติเมตร และไม่ควรวางใกล้เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เช่น โทรทัศน์หรือวิทยุ* 

4 ) ฟังก์ชันพิเศษที่น่าสนใ

Feature บางตัวที่เพิ่มเข้ามา ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจเลือกซื้อไมโครเวฟ เพราะโปรแกรมเหล่านี้เป็นตัวช่วยให้เราสามารถใช้อุปกรณ์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งยิ่งตัวเครื่องมีฟังก์ชันเยอะเท่าไร ราคาก็จะสูงตามขึ้นเท่านั้น ยกตัวอย่างการใช้งานพื้นฐานอย่างระบบ Manual สวิตช์หมุนหรือลูกบิด ที่ใช้คนกำหนดความร้อนและเวลา ก็มีราคาที่ต่างกับระบบ Digital แป้นกดหรือสัมผัสแล้วนะคะ ซึ่งฟังก์ชันบางตัวที่น่าสนใจ เราได้ยกตัวอย่างมาให้ชมดังนี้

  • ระบบ Auto Cook เตาบางรุ่นสามารถเลือกเมนูได้เลย แล้วเครื่องจะคำนวนทั้งความร้อนและระยะเวลาในการทำให้เรียบร้อย
  • เซนเซอร์เตือนความร้อน เครื่องจะส่งเสียงเตือนเมื่ออุณหภูมิของเตาสูงเกินไป หรือเมื่อเกิดมีไฟฟ้าลัดวงจรในตัวเครื่อง ถือเป็นฟังก์ชันที่ช่วยเซฟความปลอดภัยในการใช้งาน
  • นวัตกรรม Air Cook เหมาะกับสายรักสุขภาพที่อยากทานอาหารคลีน ด้วยฟังก์ชันทอดไร้น้ำมันและโหมดไอน้ำ
  • ฟังก์ชัน Child Lock เป็นการทำงานเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกับเด็ก ที่อาจจะมากดปุ่มเล่นในขณะที่เครื่องกำลังทำงาน ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายได้
  • Inverter ประหยัดไฟ คล้ายกับ Inverter ในเครื่องปรับอากาศที่เราคุ้นเคย มีคุณสมบัติเพื่อช่วยประหยัดไฟ โดยระบบนี้จะเข้ามามีส่วนช่วยในการทำความร้อน ทำให้อาหารสุกเร็วขึ้นด้วยกำลังไฟที่น้อยลง และควบคุมปริมาณความร้อนได้อย่างคงที่

มีงบ 5,000 บาท เลือกเตาแบบไหนได้บ้าง

งบ 5,000 บาทเป็นจำนวนที่ผู้เขียนมองว่าค่อนข้างครอบคลุมกับฟังก์ชันทั้งไมโครเวฟระบบอุ่นทั่วไปและเตาไมโครเวฟที่มีระบบอบ ย่างเพิ่มเข้ามา เทียบจาก 3 แบรนด์ดังทั้ง TOSHIBA , SAMSUNG และ Electrolux

ซึ่งปัจจุบันการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าสักชิ้นทำได้ง่าย เพราะมีห้างจัดจำหน่ายใกล้บ้าน และเว็บไซต์ออนไลน์ให้เลือกและเปรียบเทียบรุ่นที่เหมาะสมกับตนเอง ยังไม่รวมโปรโมชันต่างๆที่ออกมาเอาใจสายช้อปปิ้ง ซึ่งจากข้อมูลที่เรารวบรวมมาให้ชมวันนี้ หวังว่าจะมีประโยชน์กับคนที่กำลังมองหาไมโครเวฟเหมาะๆสักเครื่องนะคะ

สำหรับใครที่กำลังมองหาแหล่งซื้อของตกแต่งบ้าน วัสดุก่อสร้าง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ในยุคออนไลน์แบบนี้ชีวิตเราง่ายขึ้นเยอะ แค่โหลดแอป NocNoc หรือเข้าไปที่ Website https://bit.ly/45HPnrk ก็มีข้าวของเครื่องใช้ในบ้านให้เราเลือกเยอะมากมาย หลายสไตล์ให้เลือกซื้อ พิเศษสำหรับทุกคนที่อ่านบทความนี้ อย่าพลาดที่จะมางาน Living Expo 2023 วันที่ 23-26 พ.ย. ที่ สยามพารากอน เพราะ Nocnoc มีโปรโมชัน ของรางวัล รวมถึง Voucher ราคาพิเศษ เฉพาะในงานนี้เท่านั้น รับรองว่าถูกใจคนอยากมีบ้านแน่นอน

สามารถแชร์ประสบการณ์ หรือพูดคุยกันต่อได้ที่ comment ด้านล่างนี้ได้เลย ส่วนคราวหน้า Think of Living จะมีบทความอะไรดีๆมาฝากกันอีก อย่าลืมติดตามชมกันด้วยนะ <3