Main

 

อยู่สบายกับคุณนายสวนหลวงตอน- แต่งบ้านจากศูนย์ถึงสวย

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่าน TOL ที่รัก วันนี้คุณนายกลับมานำเสนอเรื่องตามที่สัญญาไว้นะคะ คือพาไปดูการแต่งบ้านจากบ้านเปล่าๆ เลยตั้งแต่เริ่มต้นจนออกมาเสร็จสวย ว่ามีขั้นตอนการทำงานอะไรอย่างไรบ้าง

คุณนายเองก็แต่งบ้าน แต่งคอนโดมาหลายหลังค่ะ มีทั้งของที่เป็นส่วนตัวและของโครงการ ดั้งนั้นงบประมาณและวิธีการทำงานก็มีหลายรูปแบบค่ะ สำหรับคุณผู้อ่านที่มีบ้านที่ต้องการจะตกแต่งก็ต้องตั้งต้นก่อนค่ะว่า โจทย์เราเป็นยังไง  มีงบประมาณขนาดไหน และเราจะเลือกวิธีการทำงานอย่างไร (ย้อนไปอ่านตอนเก่าๆได้ที่นี่นะคะ)

วิธีการทำงานแบบแรกเลย คือแบบที่ว่าจ้างอินทีเรียดีไซเนอร์เอาแบบจัดเต็ม! แบบนี้ต้องมีงบประมาณค่อนข้างสูงค่ะ มีการเปลี่ยนวัสดุจากบ้านมาตรฐานแหลก เช่น พวกงานพื้น งานกระเบื้อง สุขภัณฑ์ งานฝ้าเพดาน งานไฟ และบิ้วอินเฟอร์นิเจอร์แบบจัดเต็ม คุณนายกะคร่าวๆ ว่า ถ้าต้องการอะไรจัดเต็มแบบนี้ควรมีงบประมาณตกแต่งภายในซัก 20,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไป อินทีเรียดีไซเนอร์ที่ว่าจ้างก็จะต้องเป็นเรื่องเป็นราวซักหน่อย อาจเป็นในรูปแบบบริษัท คือเขาแทบจะเลือกและจัดวางทุกอย่างให้เลย เรามีแค่หน้าที่อนุมัติแบบเท่านั้น ข้อดีก็คือ ไม่เหนื่อย ไม่วุ่นค่ะ และออกมาค่อนข้างจะสวยแน่นอน (แหงล่ะ…อัดงบกันไปเต็มๆ) ข้อเสียคือ ต้องมีงบประมาณสูง และเรามีส่วนร่วมน้อย คนเป็นเจ้าของงานบางทีต้องการเลือกและคิดอะไรด้วยตนเองบ้างใช่ไหมคะ ^^

วิธีการต่อมาคือ ทำเองทุกสิ่งอย่าง วิธีนี้คุณนายก็ใช้บ่อยค่ะ สำหรับคอนโดหรือบ้านที่ไม่ใหญ่โต ไม่ต้องการเปลี่ยนวัสดุมาตรฐานอะไรเลย แค่เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ให้ดูเข้ากันเท่านั้น ฟังดูไม่ยากใช่ไหมค่ะ แต่ช้าก่อน หากท่านไม่มีประสบการณ์อาจพลาดได้สูงค่ะ เรื่องที่พลาดๆ กันมักเป็นเรื่องขนาดของเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะกับขนาดของพื้นที่ และการเลือกใช้สีและสไตล์ของเฟอร์นิเจอร์ วอลเปเปอร์และผ้าม่านให้เข้ากัน ข้อดีของวิธีนี้คือประหยัดและเร็วค่ะ เฟอร์ฯ ลอยซื้อสำเร็จยังไงก็ถูกและเร็วกว่าเอาช่างเข้ามาทำงานบิ้วอินค่ะ ข้อเสียคือ โอกาสพลาดมี เวลาซื้อเฟอร์ชิ้นใหญ่ๆ แล้วพลาด มันไม่รู้จะหาที่ไปตั้งตรงไหนคะ ลำบาก….นอกซะจากว่าคุณนายจะแอบเอาที่เราซื้อใส่บ้านตัวเองแล้วพลาด ขายให้บ้านตัวอย่าง….อุปส์ ไม่ช่ายยยย หนูไม่เคยทำนะ

ในตัวอย่างนี้คุณนายจึงขอนำเสนอวิธีการแบบผสมผสานค่ะ และคิดว่าน่าจะเป็นวิธีการที่เหมาะกับคุณผู้อ่านหลายๆ คนที่ซื้อบ้านจากโครงการจัดสรรทั่วไป โจทย์มีอยู่ว่าคุณนายต้องการนำบ้านเปล่าหลังหนึ่งของโครงการ บ้านริมสวน ซีนเนอรี่ (บางนา-สุวรรณภูมิ) มาทำให้เป็นบ้านตัวอย่างโดยเร็วที่สุด เพราะเดิมบ้านรูปแบบนี้ไม่ได้มีแผนที่จะมีบ้านตัวอย่าง แต่ฉับพลันทันใดก็เกิดอยากจะมีบ้านตัวอย่างสำหรับแบบบ้านนี้ขึ้นมา ก็เลยต้องเอาบ้านมาตรฐานที่สร้างเสร็จแล้ว มาคุยกับอินทีเรียดีไซเนอร์ บอกเขาว่า ห้ามปรับ ห้ามทุบ ห้ามแก้ อะไรทั้งสิ้น บิ้วอินขอน้อยที่สุด ที่เหลือซื้อลอย เพราะต้องการบ้านเร็วจี๋ เดี๋ยวไม่มีอะไรให้ลูกค้าดูแปลนบ้านเป็นแบบนี้นะคะ ตามรูปด้านล่าง เป็นบ้านขนาดไม่ใหญ่โตค่ะ พื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 155 ตารางเมตร  3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน

1

หน้าตาบ้านเปล่าๆ เป็นแบบนี้

2

มุมที่มองเข้าบ้านจากประตูทางเข้าค่ะ

3

มองจากส่วนครัวออกมาด้านข้างบ้าน

4

มุมที่มองเข้าไปทางส่วนครัว

4.1

บันไดทางขึ้นชั้นสอง

5

ห้องนอนใหญ่

พอดีไซเนอร์รับโจทย์ไป ก็กลับมาภายในหนึ่งอาทิตย์พร้อมเสนอแปลนแบบนี้

6

ดีไซน์เนอร์พยายามทำตามโจทย์ของคุณนาย คือมีบิ้วอินให้น้อยที่สุดและไม่เปลี่ยนแปลงอะไรจากบ้านมาตรฐานเลย ส่วนที่เป็นบิ้วอินจะเป็นตัว B นะคะ ส่วนที่เป็นตัว F ทั้งหมดคือเฟอร์ฯ ลอย ซื้อสำเร็จ จะเห็นว่ามีบิ้วอินแค่สี่จุดเท่านั้นค่ะ คือ 1. ครัว 2. Closet ห้องนอนใหญ่ 3. ผนังที่เดินขึ้นมาเห็นจากโถงบันได 4. บัวฝ้าเพดานรอบบ้าน ซึ่งข้อ 1 และ 2 ถ้าให้พอดีกับพื้นที่ ยังไงมันต้องสั่งทำอยู่แล้วค่ะ เพียงแต่ว่าเราจะให้ช่างผู้รับเหมาเฟอร์ฯทำหรือเราจะใช้บริการพวกแบรนด์เฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูป ซึ่งเขาก็ต้องมาวัดพื้นที่เพื่อเอาไปทำเป็น custom made ให้เราอยู่ดี ส่วน 3 กับ 4 เป็นการตกแต่งเพิ่มเพื่อความสวยงาม ถ้างบจำกัด ของพวกนี้จะตัดออกก็ได้ค่ะ

ห้องนอนใหญ่อินทีเรียแนะนำให้กั้นส่วนที่เป็น walk-in closet ขึ้นมาเพราะห้องมีขนาดใหญ่เพียงพอ และการกั้นก็ทำให้มีผนังที่สามารถวางตำแหน่งทีวีได้ลงตัวมากขึ้น นอกจากนี้ แม้ว่าจะกั้นไปแล้ว ทั้งส่วนที่เป็น walk-in closet และส่วนที่นอนก็ยังมีแสงธรรมชาติเพียงพอ เพราะมีหน้าต่างบานใหญ่ทั้งสองจุด เราสามารถใช้การตกแต่งภายในมาช่วยแบ่งฟังค์ชั่นของบ้านให้เป็นสัดส่วนและลงตัวมากขึ้นด้วยค่ะ

ห้องนอนเด็กสองห้องตามสูตรของบ้านตัวอย่างค่ะ ก็จะเป็นห้องลูกชายห้องนึง ห้องลูกสาวห้องนึง คุณนายอยากให้มันมีความแตกต่างเพิ่มขึ้น ก็จัดเป็นห้องของเด็กวัยที่แตกต่างกัน ในที่นี้ห้องลูกสาวก็เป็นวัยเรียนหนังสือ ส่วนห้องลูกชายก็เป็นเบบี๋ มีวางเตียงเด็กอ่อนและเก้าอี้สำหรับให้นมอยู่

เมื่อคุณนายตกลงโอเคกับแบบวางเฟอร์และบิ้วอิน ก็ทำการตกลงราคากับผู้รับเหมาและให้เขาเตรียมงานบิ้วอินนอกพื้นที่ก่อนได้เลย แล้วค่อยนัดวันเข้ามาทำที่หน้างานเมื่อพร้อม โดยผู้รับเหมาจะใช้เวลาเข้าทำที่หน้างานทั้งหมดไม่เกินหนึ่งอาทิตย์ค่ะ สำหรับค่าทำบิ้วอินหลังนี้ก็อยู่ที่ประมาณแสนห้าค่ะ ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้านะจ๊ะ

7

อันนี้พี่ช่างมาทำบิ้วครัว จะเสร็จแล้วค่ะ

สำหรับส่วนที่เป็นบิ้วทั้งหมดอินทีเรียเลือกให้เป็นการทำสีขาวฟอกเสี้ยนสีเทานะคะ เพื่อให้มันดูนุ่มนวลหวานๆ หน่อยนึง

8

ทำการติดบัวฝ้าเพดานรอบบ้าน

9

ตั้งโครงส่วนผนังบิ้วที่ผนังที่บันไดจบขึ้นมาชน

10

กั้นผนังเบาสำหรับส่วน walk-in Closet ในห้องนอนใหญ่

เนื่องจากเป็นโปรเจคเร่งด่วน ระหว่างนั้นคุณนายก็นัดแนะวันกับดีไซเนอร์เพื่อทำการเลือกวอลเปเปอร์และผ้าม่านด้วยกันและไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ลอยต่อเลยให้เสร็จภายในวันเดียว!

การเลือกวอลเปเปอร์จะเป็นการกำหนดอารมณ์และโทนของห้องได้เป็นอย่างดี  หลักการง่ายๆ ที่คุณนายชอบใช้อยู่บ่อยๆ ก็คือ มักจะใช้วอลเปเปอร์ที่เป็นลวดลายหรือสีที่มีน้ำหนัก และโดดเด่นในผนังที่เน้น ส่วนผนังที่เหลือในห้องเดียวกันก็จะใช้สีพื้นที่แมทช์กันได้ หรือมีน้ำหนักของสีที่เบากว่า แล้วถ้าวอลเปเปอร์สีอ่อนก็อาจใช้ผ้าม่านสีเข้ม ถ้าวอลเปเปอร์สีเข้มหรือมีลวดลายเยอะแล้วก็จะใช้ผ้าม่านสีอ่อนเรียบๆ อาจมี texture ในตัวซักหน่อย แต่การเลือกกวอลล์เลือกม่านเป็นงานขั้นตอนที่ปวดหัวชวนมึนเป็นที่สุด เพราะว่าเราต้องพยายามเทียบโทนสีในหัวแล้วจินตนาการเอาว่าถ้าปูออกมาเต็มห้องแล้วจะเป็นอย่างไร และพอเลือกไปหลายๆ ห้องก็จะเริ่มมึน แถมยังต้องยกเล่มวอลล์หนักๆ พลิกไปมาจนกล้ามขึ้น เป็นกิจกรรมที่กว่าจะเลือกเสร็จทั้งบ้านก็ใช้เวลาหลายชั่วโมงอยู่ ถ้ามีวอลล์และม่านให้เลือกครบๆ นะคะ

ทีนี้มาดูกันว่าคุณนายเลือกได้อะไรมั่ง

11

12

ชั้นล่างก็เอาเป็นแบบดูกลางๆ ค่ะ เลยใช้สีเขียวพาสเทลลายตารางเล็กๆ ในส่วนรับประทานอาหารและสีโทนน้ำตาลในส่วนของห้องรับแขก

13

 

ห้องนอนใหญ่ ผนังด้านข้างและผนังหัวเตียงก็ใช้เป็นลายดอกไม้อ่อนช้อยโทนสีฟ้าม่วง ส่วนผนังที่เหลือก็เป็นสีพื้นโทนน้ำตาลเทาค่ะ

14

ห้องนอนเด็กผู้หญิงเลือกลายนกน้อยหวานแหวว คิกขุน่ารักดี ตัดกับผ้าม่านสีแรงๆ เป็นแดงลายจุด

15

ห้องนอนเบบี๋เด็กชายก็ใช้สีฟ้าพื้นกับวอลล์ลายทางสีฟ้าน้ำเงินแดง เพื่อเพิ่มความมีชีวิตชีวาของห้องค่ะ

กว่าจะเลือกหมดก็มึนอยู่ค่ะ บางทีตัวโน้นตัวนี้ของก็ไม่มีอีก ต้องกลับมาเปลี่ยน เปลี่ยนนึงก็อาจจะต้องกระทบเปลี่ยนทั้งสองหรือสามลายเพื่อให้เข้ากันหรือต้องเปลี่ยนม่านด้วย กว่าจะสรุปลงตัวได้ติดก็ใช้เวลาหลายวันอยู่ค่ะ สำหรับค่าเสียหายของวอลล์เปเปอร์และม่านทั้งหลังเบ็ดเสร็จก็ประมาณแสนนึงค่ะ

ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนการเลือกเฟอร์นิเจอร์ค่ะ พวกเฟอร์ลอยที่คุณนายอุดหนุนประจำก็แทบจะพวกที่มีโชว์รูมใหญ่ๆทุกเจ้านั่นแหละค่ะ ไม่ว่าจะเป็น SB, Index, Modern Form, Central Department Store, IKEA, ChicRepublic พวกตามบางโพหรือจตุจักรก็มีบ้างนะคะ บางครั้ง แต่ถ้าใช้แบบนั้นมักจะให้อินทีเรียดีไซเนอร์จัดการมาเลย เพราะมักต้องสั่งผลิตตามแบบไม่มีของโชว์ให้ดูเท่าไหร่

เพื่อเลือกเฟอร์นิเจอร์สำหรับบ้านหลังนี้ คุณนายนัดแนะกับดีไซเนอร์ไปเจอกันที่ Chic Republic ตรงเลียบด่วนเอกมัย รามอินทรา กะว่านี่แหละจะเลือกทีเดียวให้จบทั้งบ้านเลย คุณนายไปถึง Chic ประมาณสี่โมงเย็นค่ะ ไม่รอช้า เดินดุ่มๆ ไปเรียกคุณน้องพนักงานขายให้เดินตามจดโพยเลย คุณนายกับดีไซเนอร์ก็ช่วยกันดู เลือก ชี้เอาตัวนั้นตัวนี้อย่างเมามัน เหมือนมันจะสนุกนะคะคุณผู้อ่าน ช้อปปิ้งด้วยเงินบริษัท แต่มันก็ไม่สนุกตรงมีข้อจำกัดด้านเวลานี่แหล่ะค่ะ บางตัวพอพนักงานขายเช็คสต๊อกแล้วแจ้งว่าต้องรอสินค้านานเกิน dead line วันเปิดตัวบ้าน เราก็ต้องเปลี่ยนแบบ หรือไม่ก็ต้องยอมเอาตัวโชว์ กว่าจะเสร็จได้เกือบๆ จะครบ ขาดก็แค่ห้องนอนเบบี๋ คุณนายก็ออกจาก Chic ประมาณสองทุ่มแหนะค่ะ ค่าเสียหายประมาณสองแสนห้า รูดจนคุณนายหมดตัวเรยทีเดียว สรุปคุณนายได้

– โซฟาสีเขียวพาสเทลสองตัวซึ่งโชคดีมากๆ โดยบังเอิญ สีเข้ากับวอลล์เปเปอร์ห้องกินข้าวเด๊ะๆ พร้อมโต๊ะข้าง โต๊ะกลาง โต๊ะทีวีสีเทา

– ห้องกินข้าว ได้ชุดทานข้าว เป็นโต๊ะไม้สี่เหลี่ยมผืนผ้า หกที่นั่ง สองที่นั่งใช้เป็น bench แบบที่เขาโชว์ ก็น่าจะทำให้บ้านดูโล่งๆ ดี และ cupboard สูงสีขาวมาหนึ่งตัว

– ห้องนอนใหญ่ได้ เตียงนอนหัวเตียงสีน้ำตาลเทา ที่บังเอิญเข้ากับวอลล์นอนใหญ่ ดีจริง พร้อมตู้ลิ้นชักมาวางทีวีสีขาว

– ห้องนอนเด็กหญิง ได้เตียงหัวเตียงหวายสีขาวดูหญิ้งหญิง และโต๊ะเขียนหนังสือตัวนึง

– ส่วนห้องนอนเบบี๋ คุณนายไปเก็บตกรอบสองจาก SB บางนาตราดค่ะ ได้ เตียงเบบี๋สีขาว เก้าอี้ arm chair สีฟ้า และตู้ลิ้นชักสีขาว และก็แถมเก้าอี้หวายขาวมาให้ห้องเด็กผู้หญิงตัวนึง ค่าเสียหายสำหรับเฟอร์ที่ SB ราวๆหกหมื่นค่ะ

16

เอ้า…เฟอร์ฯ มากองแล้วยังติดวอลล์กันอยู่เรย

หลังจากนั้นพวกของตกแต่งจุกจิกคุณนายให้คุณอินทีเรียดีไซเนอร์และคุณเจ๊สุดสวยที่ออฟฟิสช่วยซื้อค่ะ เพราะบอกตรงๆ คุณนายซื้อพวกของตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ ไม่เป็นค่ะ

ฮั่นแน่….อยากดูรูปตอนจัดวางของแต่งเสร็จแล้วล่ะซี มาดูกันเลยค่ะ J (แต่ต้องขอออกตัวเล็กน้อย อันนี้ยังไม่เรียบร้อยดีนะคะ ถ้าผู้อ่านอยากเห็นตอนเรียบร้อย 100% ให้มาดูของจริงพร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษได้ที่โครงการ บ้านริมสวน ซีนเนอรี่ ในวันเปิดตัว 26 กค – 4 สค นี้ค่ะ ^^ )

17

ห้องรับแขกค่ะ ออกมาประมาณนี้ให้ดูสบายๆ โฮมมี่ๆ

18

วางทีวี แฮะๆ แต่ยังไม่มีทีวีวาง…ยกเว้นว่า จองในงานเปิดตัวเรา รับทีวี 40 นิ้ว ยกกลับบ้านไปเลยค่ะ!

19

มองไปยังส่วนรับประทานอาหาร เห็นไหมค่ะเขียวโซฟาเดียวกับวอลล์อย่างไม่น่าเชื่อ โชคดีจริง

20

ห้องนอนเด็กผู้หญิงหวานแหวว

21

มุมเขียนหนังสือชัดๆ

22

ห้องนอนเบบี๋เด็กชาย

24

ห้องนอนใหญ่ มองจากเตียงเข้าไปที่ walk-in Closet

23

ห้องนอนใหญ่

เป็นไงกันบ้างค่ะกับโปรเจคแต่งบ้านจากศูนย์ถึงสวยของคุณนายภายในสามสัปดาห์ (พอจะแข่งกับมีร่องอกภายในหกวินาทีของชมได้ไหมคะ) ขอบคุณที่ติดตามนะคะ แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ

XOXO

คุณนายสวนหลวง