สวัสดีครับ ผมนาย Starfish ผู้บริหารบริษัทลัคกี้เฟลม ได้รับเกียรติอย่างสูงจาก Think of Living ให้เป็นผู้เขียน “คอลัมน์เจาะลึกเครื่องครัว” ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง สำหรับบ้านและคอนโดของทุกๆท่านครับ 😀
วันนี้ฤกษ์ดี ขอเปิดตัวด้วยเครื่องดูดควันแล้วกันครับ เนื่องจากหลังๆครัวสมัยใหม่จะอยู่ในตัวบ้านกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยวหรือสตูดิโอ เครื่องดูดควันจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับครับ ไม่งั้นกลิ่นและคราบน้ำมันนี่จะทำให้ครัวของท่านไม่เป็นครัวอีกต่อไป มีคราบเลอะเทอะไม่น่าดูแน่นอน
คำถามก็มีอยู่ที่ว่า แล้วที่วางขายกันอยู่เป็นสิบยี่ห้อ เป็นสิบๆแบบมันต่างกันยังไงเนี่ยยยย
เบื้องต้นก็ต้องแยกเครื่องดูดควันออกเป็น 2 แบบก่อนครับ
1. Recirculation type คือแบบที่ดูดอากาศผ่านแผ่นคาร์บอนแล้วปล่อยอากาศออกมาวนอยู่ในห้อง
ข้อดี ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเจาะผนัง เหมาะสำหรับคอนโดมิเนียมหรืออพาร์ตเมนต์
ข้อเสีย ต้องมีแผ่นกรองคาร์บอน เพื่อกรองควันและกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ซึ่งควรเปลี่ยนปีละครั้ง นอกจากนั้นแผ่นคาร์บอนจะอยู่หน้าเครื่อง ซึ่งขวางทางลม ทำให้แรงดูดลดลงไปประมาณ 20-30% ยิ่งถ้าใช้ไปนานๆไม่เปลี่ยน แผ่นคาร์บอนตัน จะทำให้มอเตอร์ยิ่งทำงานหนัก เปลืองไฟขึ้นเยอะเลยครับ
2. Extraction type คือ แบบเดินท่อ exhaust ออกไปนอกบ้าน
ข้อดี
- กำจัดกลิ่นและน้ำมันได้ดีมากถึงมากที่สุด เพราะดูดออกไปนอกห้องหมด
- ไม่ต้องเปลี่ยนแผ่นคาร์บอน ค่าใช้จ่ายระยะยาวจึงถูกกว่า
- แรงดูดดีกว่าเพราะไม่มีแผ่นกรอง
ข้อเสีย
- อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มในการติดตั้งและเดินท่อต่อปล่องสู่ภายนอก
- บางโครงการหรือคอนโดมิเนียมไม่อนุญาตให้เจาะผนัง
ปลาดาวฟันธง ถ้าบ้านคุณสามารถเจาะช่องได้ เลือกแบบ Extraction type ต่อท่อออกนอกบ้าน เถอะครับ 😀
จากนั้น อีกสิ่งที่ควรจะคำนึงถึงในการซื้อคือ แรงดูด ครับ มีบางแหล่งบอกว่า
กำลังดูดอากาศที่เหมาะสม = ปริมาตรของห้องครัว (กว้าง x ยาว x สูง) x 10 โดยผลลัพธ์มีหน่วยเป็นลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง
แต่ถ้าขี้เกียจคิด ให้ผมฟังธงให้ บอกเลยว่า ถ้ามีทำอาหารไทยอาหารจีนผัดๆ ต้องจัดตัวที่แรงดูดเกิน 1000 ลบม./ชม. ไว้ก่อนเลยครับ ไม่งั้นดูดไม่หมด
อีกส่วนที่น่าสนใจ คือ มอเตอร์สำหรับดูดอากาศ ทั่วไปๆจะมีสองแบบคือ แบบหนึ่งมอเตอร์ blower (มอเตอร์หอยโข่ง) กับ แบบสองมอเตอร์ธรรมดา โดยความเห็นส่วนตัวผมว่าตรงนี้ไม่ต่างกันมาก ถ้าแบบหนึ่งมอเตอร์ blower จะได้เครื่องดูดควันที่บาง รูปทรงทันสมัยกว่า เพราะมอเตอร์ซ่อนอยู่ในปล่อง แต่ถ้าเป็นแบบสองมอเตอร์ธรรมดาจะได้เปรียบคือเมื่อมอเตอร์เสียไปหนึ่งตัวก็ยังสามารถใช้งานอีกข้างได้ครับ แต่ราคาก็จะสูงกว่าเล็กน้อย ตรงนี้ผมไม่ฟันธงแล้วแต่คนชอบแล้วกันครับ อิอิ
มาถึงสุดท้ายแล้ว ที่ต้องพิจารณาคือ ตัวรองน้ำมัน ครับ
- แบบฟิลเตอร์ ส่วนมากทำจากอลูมิเนียมหรือสเตนเลส สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ เนื่องจากความเป็นฟิลเตอร์อันถี่ยิบของมัน ทำให้ขวาง flow เล็กน้อย ส่วนมากแบบฟิลเตอร์นี้จะมากับครัวสไตล์ยุโรปครับ
- แบบถ้วยพลาสติก ส่วนมากแบบนี้จะมากับเครื่องดูดควันสไตล์เอเชีย เหมาะสำหรับครัวไทยที่ทำอาหารตามปกติ มีทอดบ้างผัดบ้าง สะดวกในการถอดถ้วยออกมาล้างได้ แต่เนื่องจากเป็นพลาสติก ใช้ไปนานๆก็จะเหลืองครับ
- แบบถาดสเตนเลส ส่วนมากแบบนี้จะใช้กับเครื่องดูดควันตามร้านอาหาร เหมาะสำหรับครัวที่ต้องทำอาหารตลอดเวลามีน้ำมันมากๆ เพราะจะสามารถรองรับน้ำมันได้มากที่สุด ถอดมาทำความสะอาดได้ แต่ราคาก็จะแพงขึ้นพอสมควรครับ
ปลาดาวฟันธง ถ้าไม่ค่อยได้ทำอาหาร หรือเป็นครัวสำหรับโชว์ เลือกแบบยุโรปฟิลเตอร์ครับ ดูดีกว่า แต่ถ้าเน้นทำอาหารหนักๆเช่นอาหารไทย อาหารจีน ต้องแบบแรงดูดเยอะๆ มีถาดรองน้ำมันหรือถาดเสตนเลสครับ
ได้ข้อมูลกันไปพอสมควรนะครับ เดี๋ยววันนี้ขอตัวไปแบกกระสอบทรายต่อก่อนครับ >.< คราวหน้าจะมารีวิวเครื่องดูดควันของแต่ละยี่ห้อให้ทุกท่านชมกันนะครับ