จ้างผู้รับเหมา หรือ บริษัทรับสร้างบ้านดีกว่ากัน ?

“บ้าน” นับเป็นสิ่งที่หลายๆ คนใฝ่ฝันว่าสักวันจะต้องมีเป็นของตัวเองสักหลัง และหากต้องการบ้านที่ออกแบบตรงตามความต้องการของเรามากที่สุด บนทำเลที่ตรงใจ หรือมีที่ดินอยู่แล้ว การปลูกบ้านเอง แทนการซื้อบ้านจัดสรรจากโครงการ ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด แต่การปลูกบ้านเองก็มีเรื่องที่ต้องคำนึงถึงมากมายไม่ว่าจะเป็น แบบบ้าน การขออนุญาตก่อสร้าง การหาแรงงาน การสั่งซื้อวัสดุ การควบคุมการก่อสร้าง ตรวจสอบบ้านก่อนเข้าอยู่ เป็นต้น

ทำให้เจ้าของบ้านส่วนใหญ่มักจะต้อง จ้างผู้รับเหมา หรือบริษัทรับสร้างบ้าน มาช่วยดำเนินงานการก่อสร้างต่างๆ ให้บ้านเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้อย่างราบรื่น และถูกต้องตามหลักวิศวกรรม ในราคาและระยะเวลาที่เหมาะสม ซึ่งทั้งสองรูปแบบมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป แต่แบบไหนกันล่ะที่เหมาะกับเรามากที่สุด? วันนี้เราจะพามาหาคำตอบกันค่ะ

จ้างผู้รับเหมา

รูปแบบนี้เจ้าของบ้านจะต้องทำการว่าจ้างสถาปนิก และวิศวกร เพื่อทำการออกแบบ เขียนแบบขออนุญาต และแบบก่อสร้าง ที่ตรงใจก่อน หลังจากนั้นจึงนำแบบที่ได้ไปให้ผู้รับเหมา ทำการประมาณราคา และเสนอราคารับเหมา กลับมาให้เจ้าของบ้านพิจารณา ซึ่งสามารถเปรียบเทียบราคาจากผู้รับเหมาหลายรายได้

ข้อดี

  • ได้แบบบ้านที่ถูกใจ เหมาะสมกับที่ดิน เนื่องจากต้องจัดหาสถาปนิกเอง จึงสามารถเลือกสถาปนิกที่มีสไตล์การออกแบบที่ตรงใจได้ อีกทั้งยังได้สไตล์บ้านที่ชื่นชอบ เหมาะสมกับรูปแบบพฤติกรรมการใช้สอยพื้นที่ของสมาชิกในบ้าน และทิศทางแดดลม เพื่อให้บ้านอยู่สะดวกสบายมากที่สุด และสามารถเลือกใช้วัสดุได้หลากหลาย ตามใจชอบเลย แต่หากเลือกวัสดุที่หาได้ยาก หรือไม่ค่อยเห็นในท้องตลาด ก็อาจจะเสี่ยงเป็นวัสดุที่ช่างมีความชำนาญไม่มากพอ อาจเกิดความผิดพลาดในการก่อสร้างได้
  • งบประมาณถูกกว่าบริษัทรับสร้างบ้าน สามารถพูดคุยต่อรองราคากันได้ และเนื่องจากต้องดำเนินการเองหลายส่วน จึงตัดค่าดำเนินการส่ออกไปได้บ้าง แต่ก็ต้องเตรียมงบประมาณสำหรับการจ้างสถาปนิก และวิศวกรในการออกแบบเขียนแบบด้วย
  • ได้บ้านที่ต่อเติมภายหลังได้สะดวก เนื่องจากระบบการก่อสร้างจากผู้รับเหมาส่วนใหญ่เป็นระบบ Conventional ก่ออิฐฉาบปูน ทำให้สามารถ ทุบ ต่อเติม ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันในอนาคตได้ง่าย


ข้อจำกัด

  • มีความยุ่งยากกว่า เนื่องจากเจ้าของบ้านจะต้องเลือกสถาปนิกและวิศวกรด้วยตัวเอง รวมถึงต้องจัดหาผู้รับเหมา และผู้ควบคุมงานก่อสร้างเอง ไปจนถึง ต้องดำเนินเรื่องเอกสารขออนุญาตการก่อสร้างเองด้วย
  • งบประมาณอาจบานปลายได้ในภายหลัง อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงแบบ วัสดุ หรือแบบที่ไม่สมบูรณ์ อาจจะทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากผู้รับเหมา ควรวางแผนควบคุมเรื่องงบประมาณค่าก่อสร้างบ้านให้รัดกุม ไม่เช่นนั้นค่าใช้จ่ายอาจบานปลายได้ง่าย จึงควรตรวจสอบใบเสนอราคาว่ามีรายละเอียด ราคา และมาตรฐานของวัสดุที่ใช้ชัดเจน เพื่อสามารถตรวจสอบ และควบคุมงบประมาณการก่อสร้างทั้งหมดได้
  • ควบคุมระยะเวลาได้ยาก อาจใช้เวลานานกว่า ทั้งจากปัญหาของการออกแบบ ซึ่งกว่าจะได้แบบที่ถูกใจอาจใช้เวลาปรับแก้หลายรอบ ไปจนถึงปัญหาในช่วงการก่อสร้าง ที่มีโอกาสผิดพลาดบ้าง เนื่องจากผู้ออกแบบกับผู้ก่อสร้างไม่ได้ร่วมงานกันตั้งแต่ต้น

จ้างบริษัทรับสร้างบ้าน

รูปแบบนี้ เจ้าของบ้านจะได้รับบริการแบบครบวงจรตั้งแต่ ให้บริการออกแบบ ไปจนถึงการก่อสร้างเบ็ดเสร็จไปในตัว ซึ่งส่วนมากบริษัทรับสร้างบ้านมักจะมีแบบบ้านสำเร็จให้เลือกอยู่แล้ว โดยเจ้าของบ้านสามารถปรับเปลี่ยนแบบ และวัสดุต่างๆ ได้เล็กน้อย หรือจะให้ทางบริษัทรับสร้างบ้าน ออกแบบให้ใหม่เลยก็ทำได้เช่นกันค่ะ แต่อาจมีข้อจำกัดอยู่บ้าง ดังนี้

  1. กรณีใช้แบบบ้านสำเร็จรูป ที่ทางบริษัทรับสร้างบ้านออกแบบไว้แล้ว ซึ่งแต่ละบริษัทจะมีแบบให้เลือกหลากหลายขนาด หลากหลายสไตล์ เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบริษัทแตกต่างกันไป แต่ก็ต้องคำนึงถึงขนาดของที่ดินที่ด้วย ทำให้อาจจะมีข้อจำกัดที่อาจจะไม่ได้แบบที่ตรงใจมากนัก อีกทั้งแบบบ้านสำเร็จรูปจะไม่สามารถปรับแก้แบบ หรือปรับแก้ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็มีข้อดีตรงที่ช่วยให้ประหยัดค่าแบบ และประหยัดเวลาไปได้เยอะเลย
  2. กรณีออกแบบบ้านให้ใหม่ โดยปกติแล้วบริษัทรับสร้างบ้านจะมีสถาปนิกคอยให้บริการออกแบบบ้านให้ด้วย แต่แบบบ้านที่ได้อาจจะไม่ได้ตรงตามสไตล์ความชอบของเจ้าของบ้านมากนัก เพราะทางบริษัทรับสร้างบ้าน จะต้องคำนึงให้แบบบ้านที่สอดคล้องกับวิธีก่อสร้างที่ทางบริษัทชำนาญเป็นหลัก


ข้อดี

  • สะดวกสบาย เจ้าของบ้านติดต่อประสานงานกับบริษัทรับสร้างบ้านเพียงแห่งเดียว ไม่ต้องติดต่อสถาปนิก วิศวกร ผู้รับเหมา
  • ลดปัญหาความผิดพลาดในการก่อสร้างได้ดี เนื่องจากผู้ออกแบบ เขียนแบบ และผู้ก่อสร้างเป็นบริษัทเดียวกัน มีการทำงานอย่างเป็นระบบ ลดปัญหาทางด้านเทคนิคในการก่อสร้าง หรือการผิดพลาดต่างๆ ไปได้เยอะทีเดียว
  • ควบคุมระยะเวลาได้ดี ตั้งแต่ออกแบบจนถึงเสร็จสิ้นการก่อสร้าง ซึ่งจะสั้นกว่าระบบออกแบบ หาผู้รับเหมา ประมูล ก่อสร้าง อีกทั้งถ้าเลือกใช้แบบสำเร็จ ก็จะตัดช่วงเวลาออกแบบ-ปรับแก้แบบไปได้ อีกทั้งบริษัทรับสร้างบ้านส่วนใหญ่ใช้ระบบก่อสร้างกึ่งสำเร็จรูป ผลิตโครงสร้างหลักๆจากโรงงาน ก่อสร้างได้รวดเร็วในทุกฤดูกาล ทำให้ประหยัดเวลาได้มากยิ่งขึ้นเลยค่ะ
  • งบประมาณไม่บานปลาย เนื่องจากบริษัทรับสร้างบ้านมีแบบบ้านที่ชัดเจน และรู้ค่าใช้ล่วงหน้าที่ต้องเตรียมค่อนข้างแน่นอน แต่ก็ควรตรวจสอบใบเสนอราคาด้วยเช่นกัน ว่าวัสดุต่างๆ มีรายละเอียด ราคา และมาตรฐานของวัสดุที่ใช้ชัดเจน เพื่อสามารถตรวจสอบ และควบคุมงบประมาณการก่อสร้างทั้งหมดได้


ข้อจำกัด

  • แบบบ้านมีข้อจำกัดมากกว่า ยืดหยุ่นน้อยกว่าการว่าจ้างผู้ออกแบบ ถึงแม้บริษัทรับสร้างบ้านส่วนใหญ่ จะมีแบบบ้านสำเร็จให้เลือกค่อนข้างเยอะ แต่ก็ต้องคำนึงถึงขนาดที่ดินว่าสามารถปลูกบ้านแบบไหนได้บ้าง ทำให้อาจจะมีแบบบ้านให้เลือกน้อยลงสักหน่อย หรือจะให้ออกแบบให้ใหม่ ก็อาจมีข้อจำกัดที่ต้องคำนึงให้แบบบ้าน สอดคล้องกับวิธีก่อสร้างอยู่ดี อีกทั้งตัวบ้านอาจจะปรับเปลี่ยนทุบต่อเติมได้ยากกว่า เนื่องจากบริษัทรับสร้างบ้านเจ้าใหญ่ๆ ใช้ระบบก่อสร้างที่ผลิตโครงสร้างหลักๆ มาจากโรงงาน ทำให้การทุบต่อเติมภายหลังอาจทำให้โครงสร้างของบ้านเสียหายได้ จึงอาจมีข้อจำกัดในการต่อเติม ซึ่งต้องปรึกษาวิศวกรผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง ส่วนในเรื่องของการใช้วัสดุ บริษัทรับสร้างบ้านเจ้าใหญ่ๆมักจะจำกัดวัสดุให้เลือกได้เฉพาะบางแบรนด์ซึ่งก็มีตัวเลือกอยู่เยอะพอสมควรเลย แต่ก็มีหลายเจ้าที่สามารถเลือกวัสดุได้ความความต้องการเลยเช่นกัน
  • งบประมาณแพงกว่า และอาจมีค่าดำเนินการอื่นๆเพิ่มเติมด้วย แต่ก็แลกมาด้วยความสะดวกสบาย ที่เจ้าของบ้านไม่ต้องปวดหัวในการดำเนินการต่างๆ เองอย่าง เลือกสถาปนิก ดำเนินเรื่องเอกสารขออนุญาตการก่อสร้าง ประมูล หาผู้รับเหมา
  • ขาดถ่วงดุลในการตรวจสอบจากผู้ออกแบบ เนื่องจากกระบวนการตั้งแต่ออกแบบจนถึงบ้านสร้างเสร็จ ใช้บริการเพียงบริษัทเดียว ทำให้อาจมีโอกาสที่จะปิดบังข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้นจึงต้องหาบริษัทรับสร้างบ้านที่น่าเชื่อถือ และไว้ใจได้ ซึ่งตรงนี้ควรจ้างวิศวกร หรือสถาปนิก ที่เชี่ยวชาญมาตรวจบ้าน เพื่อเป็นการถ่วงดุลเพิ่มเติมค่ะ

สรุป

บริษัทรับสร้างบ้าน กับ ผู้รับเหมาก่อสร้าง แตกต่างกันที่รูปแบบของการให้บริการนั่นเองค่ะ โดยบริษัทรับสร้างบ้านมีรูปแบบการให้บริการที่ครบวงจร ตั้งแต่เริ่มต้นจนได้บ้านพร้อมเข้าอยู่โดยมีทีมงานต่างๆ คอยให้คำปรึกษาทุกกระบวนการครบจบที่เดียว เจ้าของบ้านเพียงคอยตรวจสอบว่าเป็นไปตามแบบ และในระยะเวลาตามแผนที่ตกลงกันไหม ถูกต้องตามความต้องการหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ควรจ้างวิศวกร หรือสถาปนิก ที่เชี่ยวชาญมาตรวจบ้าน เพื่อเป็นการถ่วงดุลเพิ่มเติมค่ะ ส่วนผู้รับเหมาก่อสร้าง เราจะต้องว่าจ้าง ติดต่อประสานงานเองหลายส่วน ตั้งแต่กระบวนการจ้างสถาปนิกในการออกแบบบ้าน จัดหาผู้รับเหมาที่มีความน่าเชื่อถือ รวมถึงอาจจะต้องจ้างวิศวกรมาช่วยในการควบคุมการก่อสร้าง แต่ก็จะได้แบบบ้านที่ถูกใจ เหมาะสมกับที่ดิน สภาพแวดล้อม และพฤติกรรมของคนในบ้าน

นอกจากนั้นประเด็นที่ควรคำนึงถึงคือ ทั้งผู้รับเหมา และ บริษัทรับสร้างบ้าน ควรต้องมีใบเสนอราคาชัดเจน ซึ่งจะต้องมีรายละเอียดและมาตรฐานของวัสดุที่ใช้ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบ และควบคุมงบประมาณการก่อสร้างทั้งหมดได้

8 บริษัทรับสร้างบ้านที่น่าสนใจ

พามาชมบริษัทรับสร้างบ้านในไทยที่น่าสนใจกันบ้างค่ะ ซึ่งยกมาเพื่อเป็นตัวอย่างเท่านั้น โดยบริษัทที่เราเลือกมาจะเป็นบริษัทที่มีบริการตั้งแต่เริ่มต้นออกแบบ-เลือกแบบ ไปจนถึงสร้างเสร็จพร้อมส่งมอบ รวมถึงมีบริการหลังการขาย อย่างการรับประกันโครงสร้าง และงานสถาปัตยกรรมให้ด้วย ซึ่งแต่ละเจ้าก็มีจุดเด่นแตกต่างกันออกไปทั้งในเรื่องเทคโนโลยีระบบการก่อสร้าง และการให้บริการหลังการขาย หรือมีแบบบ้านสำเร็จรูปที่มีให้เลือกเยอะ ดีไซน์หลากหลาย ซึ่งจะมีบริษัทอะไรบ้าง และแต่ละเจ้ามีจุดเด่นอะไรไปชมกันค่ะ

Image 1/10
แบบบ้านจาก SCG HEIM

แบบบ้านจาก SCG HEIM

1. SCG HEIM (เอสซีจี ไฮม์)

เป็นบริษัทที่เกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง SCG ที่เป็นผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างในไทย ที่มีประสบการณ์มากกว่า 100 ปี กับเซกิซุย เคมิคอล ผู้ชำนาญด้านเทคโนโลยีการสร้างบ้านจากญี่ปุ่น โดยให้บริการทั้งให้คำปรึกษา รื้อถอนบ้านเดิม ถมดิน ออกแบบ ควบคุมงานก่อสร้าง จนไปถึงบริการหลังการขาย โดยช่างทุกคนที่นี่จะได้ผ่านการฝึกอบรมเป็นอย่างดี และมีทีมตรวจสอบคุณภาพงานในทุกขั้นตอน

  • ระบบการก่อสร้าง Modular 80% ของโครงสร้างหลักทำในโรงงานด้วยหุ่นยนต์ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น ด้วยเหล็ก SS400 ซึ่งเคลือบสาร ZAM มีประสิทธิภาพในการป้องกันสนิมดีกว่าสารป้องกันสนิมทั่วไป พร้อมระบบที่สามารถป้องกันฝุ่น เชื้อโรค สารก่อภูมิแพ้ และเสียงรบกวนจากภายนอก มาให้ครบเลย ซึ่งระบบก่อสร้างแบบนี้มีข้อดีคือได้รวดเร็ว เนี๊ยบ ดูเรียบร้อย แต่มีข้อจำกัดตรงที่ปรับเปลี่ยนฟังก์ชัน ขยาย ทุบต่อเติมในภายหลังไม่ได้ค่ะ
  • แบบอาคารสำเร็จให้เลือกหลากหลายประเภทกว่า 100 แบบ ตั้งแต่บ้านเดี่ยว 1-3 ชั้น ทาวน์โฮม 2-3 ชั้น อาคารสำนักงาน ซึ่งแบบบ้านเดี่ยวของที่นี่มีตั้งแต่บ้านชั้นเดียวไปจนถึงบ้าน 3 ชั้นหลังใหญ่ มีให้เลือกหลายสไตล์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านหลังคาปั้นหยา หรือหลังคาจั่ว จะมีแบบหลังคาลาดเอียง (Lean to Roof) ให้เลือกอยู่บ้างเหมือนกัน โดยแบบบ้านสำเร็จ มีตั้งแต่ 99 ตร.ม. ไปจนถึง เกือบ 1,000 ตร.ม. ส่วนแบบก็สามารถปรับเปลี่ยนได้บ้างเล็กน้อยตามความเหมาะสม หรือจะให้ทีมสถาปนิกออกแบบให้ใหม่ก็สามารถทำได้ค่ะ
  • รับประกันโครงสร้างบ้าน 20 ปี โดยมีบริการเข้าทำการตรวจสอบและเช็กสภาพบ้าน ตลอดระยะเวลา 20 ปี โดยมีการรับประกันส่วนประกอบที่สำคัญของตัวบ้านดังนี้
    – ปีที่ 1-2 อุปกรณ์อื่น ๆ
    – ปีที่ 5 ประตูหน้าต่าง
    – ปีที่ 20 ฐานรากและโครงสร้างเหล็ก
  • แบบบ้านสำเร็จ ราคาเริ่มต้นประมาณ 4.8-11 ล้านบาท / ออกแบบใหม่ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณ 5% ของมูลค่าบ้าน (โปรดสอบถามข้อมูลจากทางบริษัทอีกครั้ง)

 

Image 1/11
แบบบ้านจาก LANDY HOME

แบบบ้านจาก LANDY HOME

2. LANDY HOME (แลนดี้โฮม)

อีกหนึ่งบริษัทรับสร้างบ้านที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี เป็นที่รู้จักมานาน ใช้ทุนจดทะเบียนมากถึง 200 ล้านบาท มีบริการทั้งออกแบบ ก่อสร้าง ประสานงาน ขออนุญาต และให้คำปรึกษาตั้งแต่เริ่มต้นจนบ้านเสร็จ จุดเด่นของที่นี่คือมีแบบบ้านให้เลือกเยอะหลากหลายสไตล์มากกว่า 300 แบบ อีกทั้งมีบริการในต่างจังหวัดด้วย (แต่จะมีค่าบริการเพิ่มเติมโปรดสอบถามข้อมูลจากทางบริษัทอีกครั้ง)

สิ่งที่เราชอบคือหน้าเว็บไซต์ของ LANDY HOME จะมีเครื่องมือช่วยหาแบบบ้านที่เหมาะสมกับขนาดที่ดินของเราได้เองเลย เพียงกรอกขนาดที่ดินของเราลงไป จากนั้นแบบบ้านที่สามารถวางบนที่ดินของเราได้ ก็จะถูกคัดสรรมาให้เราเลือกทุกแบบที่มีเลย สะดวกดีค่ะ

  • ระบบการก่อสร้างกึ่งสำเร็จรูป คิดค้น และพัฒนามาจากเทคโนโลยีการก่อสร้างของประเทศญี่ปุ่น ให้แข็งแรงกว่าระบบก่อสร้างแบบหล่อในที่ทั่วไป โดยหล่อชิ้นส่วนเสาและคาน จากโรงงานโดยใช้คอนกรีตอัดแรงกำลังสูง ชนิดเดียวกับงานก่อสร้างขนาดใหญ่ แล้วนำมาประกอบหน้างานด้วยเหล็กรูปพรรณ ทำให้ก่อสร้างได้เร็ว เรียบร้อย แต่ก็จะมีข้อจำกัดในเรื่องของกาารต่อเติมภายหลังได้ยาก นอกจากนั้นยังมีนวัตกรรมในบ้านให้มาด้วย เช่น เทคโนโลยีเติมอากาศบริสุทธิ์ พร้อมควบคุมคุณภาพอากาศ นวัตกรรมบ้านเพื่อผู้สูงอายุ นวัตกรรมบ้านเย็นอยู่สบาย และ นวัตกรรมบ้านปลอดแมลงสาบ เป็นต้น
  • แบบบ้านมีให้เลือกกว่า 300 แบบ สามารถปรับแบบ และสเปควัสดุได้ตามความต้องการ ตามงบประมาณที่ตั้งไว้ โดยแบบบ้านมีให้เลือหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่บ้านชั้นเดียว ราคา 5 ล้าน ไปจนถึงบ้านหลังใหญ่ราคา 50 ล้านเลยค่ะ
  • รับประกันโครงสร้าง 20 ปี และมีการรับประกันส่วนประกอบอื่นๆ ที่สำคัญของตัวบ้านดังนี้
    – การรับประกันที่มีระยะเวลา 1 ปี : คุณภาพตัวอาคารภายในและภายนอก / รอยร้าวปูนฉาบพร้อมบริการซ่อมแซ่ม / วัสดุปูพื้นผิวและผนังหลุดร่อน / ไฟฟ้าลัดวงจร / น้ำประปารั่วซึม / การอุดตันของระบบสุขาภิบาล
    – การรับประกันที่มีระยะเวลา 3-5 ปี : หลังคารั่วซึม หรือการแตกร้าวของแผ่นหลังคา 5 ปี (สำหรับหลังคา Metal Sheet รับประกัน 3 ปี)
  • แบบบ้านสำเร็จช่วงราคา 5-50 ล้านบาท / มีแบบเอง เริ่มต้น 23,000 บาท/ตรม. ขั่นต่ำ 3.xx ล้านบาทขึ้นไป (โปรดสอบถามข้อมูลจากทางบริษัทอีกครั้ง)

 

Image 1/10
แบบบ้านจาก Trendy Home

แบบบ้านจาก Trendy Home

3.Trendy Home (เทรนดี้ โฮม)

Trendy Home เป็นบริษัทรับสร้างบ้านในเครือแลนดี้โฮม แต่จะเน้นเป็นแบบบ้านไซส์เล็กในช่วงราคา 2.5 – 5 ล้านบาท ให้เลือกเยอะที่สุด และจะใช้ระบบการก่อสร้างกึ่งสำเร็จรูป เหมือนกันเลย พร้อมรับประกันโครงสร้าง 20 ปีด้วยเช่นกันค่ะ

  • ระบบการก่อสร้างกึ่งสำเร็จรูป คิดค้น และพัฒนามาจากเทคโนโลยีการก่อสร้างของประเทศญี่ปุ่น ให้แข็งแรงกว่าระบบก่อสร้างแบบหล่อในที่ทั่วไป โดยหล่อชิ้นส่วนเสาและคาน จากโรงงานโดยใช้คอนกรีตอัดแรงกำลังสูง ชนิดเดียวกับงานก่อสร้างขนาดใหญ่ แล้วนำมาประกอบหน้างานด้วยเหล็กรูปพรรณ ทำให้ก่อสร้างได้เร็ว เรียบร้อย แต่ก็จะมีข้อจำกัดในเรื่องของกาารต่อเติมภายหลังได้ยาก ส่วนนวัตกรรมภายในบ้านก็มีมาให้เหมือนกันแต่จะมีเฉพาะ นวัตกรรมบ้านปลอดแมลงสาบ และ นวัตกรรมบ้านเพื่อผู้สูงอายุค่ะ
  • แบบบ้านสำเร็จเยอะ เน้นช่วงราคา 2.5 – 5 ล้าน มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ เป็นบ้าน 1- 4 ชั้น ขนาด 76-462 ตร.ม. และสามารถปรับแบบ และสเปควัสดุได้ด้วยเช่นกันค่ะ
  • รับประกันโครงสร้าง 20 ปี และมีการรับประกันส่วนประกอบอื่นๆ ที่สำคัญของตัวบ้านดังนี้
    – การรับประกันที่มีระยะเวลา 1 ปี : คุณภาพตัวอาคารภายในและภายนอก / รอยร้าวปูนฉาบพร้อมบริการซ่อมแซม / วัสดุปูพื้นผิวและผนังหลุดร่อน / ไฟฟ้าลัดวงจร / น้ำประปารั่วซึม / การอุดตันของระบบสุขาภิบาล
    – การรับประกันที่มีระยะเวลา 3-5 ปี : หลังคารั่วซึม หรือการแตกร้าวของแผ่นหลังคา 5 ปี (สำหรับหลังคา Metal Sheet รับประกัน 3 ปี)
  • แบบบ้านสำเร็จช่วงราคา 2-16.5 ล้านบาท / มีแบบเอง เริ่มต้น 23,000 บาท/ตรม. ขั้นต่ำ 3.xx ล้านบาทขึ้นไป (โปรดสอบถามข้อมูลจากทางบริษัทอีกครั้ง)

 

Image 1/10
แบบบ้านจาก Royal House

แบบบ้านจาก Royal House

4.Royal House (รอแยลเฮ้าส์) 

เป็นบริษัทรับสร้างบ้าน ที่มีประสบการณ์รับสร้างบ้านมากกว่า 35 ปี มีทีมวิศวกร สถาปนิก มัณฑนากร และบุคลากรที่ชำนาญด้านการก่อสร้างภายในองค์กรครบ ให้บริการครบวงจรตั้งแต่สำรวจที่ดิน ออกแบบ ก่อสร้าง ติดต่อหน่วยงานราชการ และติดต่อสถาบันทางการเงิน ส่วนแบบบ้านก็มีให้เลือกเยอะ หลากหลายสไตล์ ซึ่งส่วนตัวเราว่าแบบบ้าน Modern ที่นี่ออกแบบมาได้น่าสนใจดีทีเดียวค่ะ หรือจะใช้บริการของสถาปนิกที่นี่ในการออกแบบบ้านใหม่ให้ก็ได้ รวมถึงหากเรามีแบบจากสถาปนิกท่านอื่นมาก็ได้เช่นกัน พร้อมทั้งมีสาขาให้บริการในต่างจังหวัดอยู่หลายสาขาเลยด้วยค่ะ

  • ระบบโครงสร้างหล่อในที่ ผนังก่ออิฐฉาบปูน ต่อเติมปรับเปลี่ยนฟังก์ชันในอนาคตได้ง่าย ด้านการออกแบบ สามารถยืดหยุ่นออกแบบบ้านตามที่เจ้าของบ้านต้องการ ต่างจากระบบที่ใช้ระบบผลิตโครงสร้างในโรงงาน ของบริษัทรับสร้างบ้านเจ้าใหญ่ๆ แต่ก็แลกด้วยเวลาก่อสร้างที่นานกว่าระบบก่อสร้างกึ่งสำเร็จรูปค่ะ
  • แบบบ้านสำเร็จเยอะ หลากหลายสไตล์ ตั้งแต่แบบ Classic, Tropical, Colonial Contemporary และ Modern โดยเป็นบ้าน 1-6 ชั้น ขนาดตั้งแต่ 70-3,650 ตร.ม.  ซึ่งแบบบ้านที่นี่ สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้บ้างตามความเหมาะสมค่ะ
  • รับประกันโครงสร้าง 20 ปี (โครงสร้างไม่แข็งแรงเนื่องจากความผิดพลาดของบริษัท)
    – รับประกันหลังคา 5 ปี
    – รับประกันเก็บรายละเอียดในตัวบ้าน 1 ปี
    หมายเหตุ* เงื่อนไขการรับประกัน เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
  • แบบบ้านสำเร็จช่วงราคา 2-88 ล้านบาท / มีแบบเอง เริ่มต้น 2x,xxx บาท/ตรม. (โปรดสอบถามข้อมูลจากทางบริษัทอีกครั้ง)

 

Image 1/10
แบบบ้านจาก Built To Build Group

แบบบ้านจาก Built To Build Group

5.Built To Build Group (กลุ่ม บิวท์ ทู บิวด์) 

เป็นบริษัทรับสร้างบ้าน ที่ผู้ก่อตั้งที่ทำธุรกิจการก่อสร้างสำเร็จรูปสำหรับที่อยู่อาศัยมาก่อน โดยแบ่งระดับการให้บริการออกเป็น 3 บริษัท บริษัท บิวท์ ทู บิวด์ จำกัด รับสร้างบ้านตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยเน้นคนที่ต้องการบ้านที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว, บริษัท บางกอกเฮ้าส์บิวเดอร์ จำกัด รับสร้างบ้านในระดับราคา 5-10 ล้านบาท เน้นแบบบ้านมาตรฐาน ดีไซน์ทันสมัย, บริษัท สมอลล์เฮ้าส์บิวเดอร์ จำกัด รับสร้างบ้านขนาดกะทัดรัดในระดับราคา 1-5 ล้านบาท

  • ระบบก่อสร้างกึ่งสำเร็จรูปผนังก่ออิฐมวลเบา ชิ้นส่วนโครงสร้างทำการผลิต และควบคุมคุณภาพจากโรงงาน แล้วจึงนำมาประกอบที่หน้างาน พร้อมมีการควบคุม และตรวจสอบคุณภาพในทุกขั้นตอน กว่า 400 รายการ ส่วนผนังที่นี่ใช้เป็นก่ออิฐมวลเบาทำให้สามารถทุบเจาะได้บ้าง แต่ก็ยังคงมีข้อจำกัดหากต้องการทุบ ต่อเติม ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันในภายหลัง
  • แบบบ้านสำเร็จ มีให้เลือกกว่า 100 แบบ ส่วนใหญ่เป็นบ้าน 2-3 ชั้น หลากหลายสไตล์ เน้นเป็นบ้าน 2-10 ล้าน ค่อนข้างเยอะ ขนาดตั้งแต่ 1xx-1,5xx ตร.ม. โดยแบบบ้านที่นี่ สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้บ้างเล็กน้อยตามความเหมาะสมค่ะ
  • รับประกันโครงสร้าง 20 ปี สถาปัตยกรรม 1 ปี
  • แบบบ้านสำเร็จช่วงราคา 2-2x ล้านบาทขึ้นไป / ออกแบบใหม่ เริ่มต้น 22,xxx บาท/ตรม. ขึ้นไป (โปรดสอบถามข้อมูลจากทางบริษัทอีกครั้ง)

 

Image 1/10
แบบบ้านจาก W House

แบบบ้านจาก W House

6.W House (ดับบลิว เฮ้าส์)

เป็นบริษัทรับสร้างบ้านที่มีประสบการณ์กว่า 24 ปี มีสถาปนิก วิศวกร ที่มีประสบการณ์และได้รับการฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอ คอยดูแลให้คำปรึกษา และสร้างบ้านครบวงจร ส่วนแบบบ้านสำเร็จที่นี่จะเป็นบ้านไซส์ใหญ่ทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่มาในสไตล์โมเดิร์น ขนาดตั้ง 4xx-12xx ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาทขึ้นไป หรือจะให้สถาปนิกของที่นี่ออกแบบให้ใหม่ หรือหากมีแบบบ้านจากสถาปนิกมาอยู่แล้วก็สามารถนำมาให้ที่นี่ดำเนินก่อสร้างให้ได้ค่ะ

  • ระบบการก่อสร้างแบบหล่อในที่ มีความแข็งแรง ทนทาน สามารถต่อเติม ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันในอนาคตได้ง่าย โดยที่ไม่กระทบกับโครงสร้าง แต่ก็แลกมากับการที่อาจจะใช้เวลาในการก่อสร้างนานกว่าบริษัทรับสร้างบ้านเจ้าใหญ่ๆ ที่ใช้ระบบผลิตโครงสร้างในโรงงาน ส่วนด้านการออกแบบ ก็สามารถยืดหยุ่นตามที่เจ้าของบ้านต้องการได้มากกว่าค่ะ
  • แบบบ้านสำเร็จกว่า 100 แบบ เน้นเป็นแบบบ้านสไตล์โมเดิร์นขนาดใหญ่ 4xx-12xx ตร.ม. ซึ่งเราว่าแบบบ้านที่นี่ทำมาได้มีเอกลักษณ์น่าสนใจโดยเฉพาะแบบบ้านโมเดิร์นที่มีการทำซุ้มประตูโค้ง หรือมีการลบมุมอาคาร ไปจนถึงแบบแปลนบ้านที่โค้งดู Futuristic ก็มีให้เลือกค่ะ
  • รับประกันโครงสร้าง 20 ปี และมีการรับประกันส่วนประกอบอื่นๆ ที่สำคัญของตัวบ้านดังนี้
    – การรับประกันโครงสร้าง เป็นระยะเวลา 20 ปี
    – การรับประกันหลังคา เป็นระยะเวลา 5 ปี
    – การรับประกันงานสถาปัตยกรรมและงานระบบไฟฟ้าและประปา เป็นระยะเวลา 1 ปี 
  • แบบบ้านสำเร็จ ราคาเริ่ม 15 ล้านบาทขึ้นไป / มีแบบเอง เริ่มต้น 34,xxx บาท/ตรม. (โปรดสอบถามข้อมูลจากทางบริษัทอีกครั้ง)

 

Image 1/10
แบบบ้านจาก Seacon

แบบบ้านจาก Seacon

7. Seacon (ซีคอน) 

เป็นอีกหนึ่งบริษัทเก่าแก่ ที่อยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้านมานาน เป็นบริษัทรับสร้างบ้านที่ใช้ระบบก่อสร้างกึ่งสำเร็จรูป เรียกว่า ระบบซีคอน สำหรับบ้านพักอาศัย และอาคารที่มีความสูงขนาดปานกลาง เน้นให้งานก่อสร้างมีคุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน สร้างได้รวดเร็ว และประหยัด มีแบบบ้านให้เลือกเยอะ ซึ่งสามารถปรับแบบบ้าน และสเปควัสดุได้ตามความเหมาะสมเลยค่ะ

  • ระบบก่อสร้างกึ่งสำเร็จรูปผนังก่ออิฐมวลเบา ชิ้นส่วนโครงสร้างทำการผลิต และควบคุมคุณภาพจากโรงงาน แล้วจึงนำมาประกอบที่หน้างาน พร้อมมีการควบคุม และตรวจสอบคุณภาพในทุกขั้นตอน กว่า 400 รายการ ส่วนผนังที่นี่ใช้เป็นก่ออิฐมวลเบาทำให้สามารถทุบเจาะได้บ้าง แต่ก็ยังคงมีข้อจำกัดหากต้องการทุบ ต่อเติม ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันในภายหลัง
  • มีแบบบ้านให้เลือกกว่า 200 แบบ และมีแบบทาวน์โฮมให้เลือกด้วย ขนาดตั้งแต่ 12x-1,9xx ตร.ม. หลากหลายสไตล์ตั้งแต่บ้านหลังคาทรงปั้นหยาไปจนถึงแบบบ้านหลังคา Flat โมเดิร์นคลีนๆ 
  • รับประกันโครงสร้าง 20 ปี และงานสถาปัตยกรรม 1 ปี
  • แบบบ้านสำเร็จ ราคาเริ่ม 2.5 ล้านบาทขึ้นไป / มีแบบเอง เริ่มต้น 18,xxx บาท/ตรม. โดยต้องเป็นบ้านขนาด 400 ตร.ม. หรือ 8 ล้านบาท ขึ้นไป (โปรดสอบถามข้อมูลจากทางบริษัทอีกครั้ง)

 

Image 1/10
บ้านจาก Four Pattana Group

บ้านจาก Four Pattana Group

8.Four Pattana Group (โฟร์พัฒนา กรุ๊ป)

เป็นกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านที่มีประสบการณ์กว่า 40 ปี จุดเด่นคือ ที่นี่ใช้ช่างของตัวเองทั้งหมด ไม่ใช้ผู้รับเหมาช่วง จึงมั่นใจได้ในคุณภาพ และมาตรฐานได้ โดยมีให้บริการทั้งแบบบ้านที่ดีไซน์ใหม่ให้แต่ละคนโดยเฉพาะ และแบบบ้านสำเร็จที่มีให้เลือกจะเป็นบ้านเดี่ยว 2-3 ชั้น ขนาดตั้งแต่ 250-1,xxx ตร.ม. ขึ้นไป หรือจะใช้บริการของสถาปนิกในการออกแบบบ้านใหม่ให้ก็ได้ รวมถึงหากเรามีแบบจากสถาปนิกท่านอื่นมาก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังรับออกแบบและตกแต่งภายในให้กับบ้าน คอนโด ร้านค้า โรงแรม และสำนักงานอีกด้วยค่ะ

  • โครงสร้างบ้านมีให้เลือกหลายระบบ ทั้งระบบหล่อในที่ ผนังก่ออิฐฉาบปูน ซึ่งจะแข็งแรง ต่อเติมภายหลังได้ง่าย แต่ก็ใช้เวลานานสุด หรือระบบเสา คาน สำเร็จรูป ผนังก่ออิฐฉาบปูนก็จะมีราคาย่อมเยาลงมาหน่อย และที่น่าสนใจคือที่นี่มีระบบบ้านโครงสร้างเหล็กสำเร็จรูปซึ่งระบบนี้ได้รับความนิยมจากต่างประเทศมานานแล้ว โดยเหล็กถูกเคลือบกันสนิมด้วยเทคโนโลยีจากญี่ปุ่น โครงสร้างถูกตัดเจาะ ด้วยเครื่อง CNC ประกอบเป็นชิ้นงานจากโรงงานก่อน แล้วจึงขนส่งไปติดตั้งที่หน้างานก่อสร้างด้วยระบบสลักเกลียว ประหยัดเวลาการก่อสร้างกว่างานคอนกรีตเสริมเหล็ก ถึง 2 เท่า ใช้แรงงานน้อย ติดตั้งง่าย รวดเร็ว มีน้ำหนักเบา ทำให้ลดปริมาณเสาเข็มรับน้ำหนักลง แต่ยังคงมีความแข็งแรงต้านพายุและแผ่นดินไหวได้
  • แบบบ้านสำเร็จให้เลือกกว่า 50 แบบ บ้านเดี่ยว 2-3 ชั้น ขนาดตั้งแต่ 250-1,xxx ตร.ม. ขึ้นไป มีให้เลือกหลายสไตล์ส่วนใหญ่เป็นแบบบ้านหลังคาปั้นหยา แต่บ้านโมเดิร์นหลังคา Flat  ก็มีให้เลือกอยู่บ้างเหมือนกันค่ะ
  • รับประกันโครงสร้าง 20 ปี หลังคา 5 ปี และงานสถาปัตยกรรมบางส่วน 1 ปี พร้อมมีทีม Service หลังการขาย กรณีเกิดการชำรุด*
  • แบบบ้านสำเร็จ ราคาเริ่มต้น 8  ล้านบาทขึ้นไป / ออกแบบให้ใหม่ เริ่มต้นประมาณ 28,000 บาท/ตรม. หรือ 10 ล้านบาทขึ้นไป (โปรดสอบถามข้อมูลจากทางบริษัทอีกครั้ง)

สำหรับบทความ “สร้างบ้านใหม่ทั้งที จ้างผู้รับเหมา หรือ บริษัทรับสร้างบ้านดี ?” มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูล และบทวิเคราะห์เปรียบเทียบข้อดี-ข้อจำกัดต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกใช้บริการเท่านั้น ทั้งนี้การตัดสินใจขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าของบ้านว่าแบบไหนเหมาะกับเราที่สุด หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกคนนะคะ ถ้าใครชอบบทความนี้ มีคำแนะนำ ติชม หรือว่าอยากรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องการออกแบบเพิ่มเติม ก็สามารถพูดคุยกันต่อได้ที่ comment ด้านล่างนี้ได้เลย ส่วนคราวหน้า Think of Living จะมีบทความอะไรดีๆ มาฝากกันอีก อย่าลืมติดตามชมกันด้วยนะคะ : )