สวัสดีอีกครั้งค่ะ วันนี้ร้อยแต่งพันสไตล์ขอย้ายจากพื้นที่อาศัยมาว่ากันด้วยเรื่อง Home Office หรือจะเป็น Small Office สำหรับสไตล์การตกแต่งที่นำเสนอได้แก่ Industrial Style ตรงๆตัวก็คือสไตล์อุตสาหกรรม ซึ่งแน่นอนว่าการตกแต่ง จะถูกแสดงออกด้วการจำลองสภาพให้เสมือนบรรยากาศของโรงงานหรือโกดัง เพื่อเติมความเท่ให้กับพื้นที่ หรือสถานที่ทำงานของคุณๆ
เริ่มต้นกันกับคอนเซปหลักๆของ Industrial Style การตกแต่งสไตล์นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยุคอุตสาหกรรม ประมาณปี 1970 ที่โลกของการผลิตถูกเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรม การนำเอาวัสดุใหม่ๆมาใช้ในการผลิตข้าวของเครื่องใช้ รูปแบบของโรงงานอุตสาหกรรมในยุคนั้น ถูกแสดงออกผ่านการตกแต่งที่มีลักษณะของความดิบ, วัสดุที่ไม่ได้ถูก finish ผิว, ลักษณะความด้านของโลหะ และการโชว์พื้นผิวรวมถึงรูปแบบสีที่แท้จริงของตัววัสดุนั้น
นอกจากพื้นผิวหรือวัสดุที่กล่าวมา เรื่องของพื้นที่ก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ความรู้สึกแบบอุตสาหกรรมชัดขึ้น โถงสูงแบบ Loft รวมถึงการไม่ปิดฝ้าเพดาน เพื่อโชว์โครงสร้างของระบบการเดินท่อ ยังเป็นหัวใจหลักที่ช่วยให้ลุค Industrial ชัดขึ้น รวมถึงการจัดวางการตกแต่งแบบ Open Space มีโครงสร้างหลักเป็นเหล็กและกระจกบานกว้าง เพื่อให้แสงธรรมชาติ ได้ผ่านเข้ามา
มาเริ่มต้นง่ายๆกับพื้นที่ที่เรามีค่ะ แนะนำว่าถ้าใครมีผนังที่ยังไม่ได้ทำให้เสร็จจะเวิร์คมาก ถ้าได้ผนังที่ยังเห็นเป็นอิฐก็จะ ช่วยขับความดิบให้ออกมา หากผนังถูกฉาบมาแล้ว สามารถปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นลักษณะปูนดิบโดยไม่ต้องทาสีทับ ในกรณีที่มีพื้นผิวไม้ให้ขัดลอกของเดิมออก แล้วทาเคลือบผิวแบบด้าน หรือจะเลือกทาสีดำก็ได้ค่ะ ส่วนฝั่งที่เป็นหน้าต่าง และประตู ตามที่กล่าวมาด้านต้นค่ะ ให้นำโครงสร้างเหล็กและกระจกเข้ามาเสริมได้เลยค่ะ
เมื่อโครงสร้างหลักๆเป็นไปตามแนวคิดที่วางไว้ คราวนี้เรามาลงรายละเอียดกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลัก รวมถึงการตกแต่งย่อยๆ ต่อไปได้เลยค่ะ เฟอร์นิเจอร์ที่นำมาใช้ เช่นโต๊ะทำงาน แนะนำรูปแบบโปร่ง อาจจะมีขาโลหะสีดำด้าน หากเป็นวัสดุไม้ขอให้เลือก สีไม้ธรรมชาติเป็นหลัก ในส่วนของตู้หรือชั้น เป็นสีดำหรือสีไม้ธรรมชาติได้เช่นกัน แต่ถ้าสามารถหาตู้เหล็กได้ก็จะยิ่งเพิ่ม ความเท่ในแบบ Industrial Style ได้เต็มที่
รูปแบบของโซฟา หรือเก้าอี้ที่ถูกเลือกมาใช้กับการตกแต่ง Industrial Style สมัยใหม่ มักนิยมเลือกรูปแบบย้อนยุคหรือ Retro เข้ามาผสม ลักษณะโซฟาย้อนยุคก็มักจะเป็นหนังแท้หรือหนังเทียมที่ให้สีใกล้เคียงกับสีหนังแท้ รวมถึงทรงที่ค่อนข้างตัน อาจประดับด้วยหมุดเล็กๆ หรือรอยเย็บบุ เพื่อสะท้อนความย้อนยุค
ส่วนเก้าอี้สไตล์เรทโทรที่ถูกหยิบมาผสมผสานย่อยครั้ง นั้นก็จะเป็นเก้าอี้นั่งสบาย เช่น Barcelona Chair ของ Mies Van der Rohe
หรือเก้าอี้พลาสติกที่มีดีไซน์ เช่น Eames Eiffel Chair ของ Charles and Ray Eames ซึ่งสามารถหาซื้อรูปแบบใกล้เคียงได้ตามร้านเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำ
ส่วนของตกแต่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ โคมไฟห้อยเพดาน เนื่องจากเพดานของการตกแต่งรูปแบบนี้จะสูงโปร่ง ดังนั้นควรหา โคมไฟขนาดค่อนข้างใหญ่มาประดับเป็นตัวหลัก แขวนไว้อยู่ตำแหน่งกึ่งกลางพื้นที่ใช้สอย ซึ่งคุณสามารถเลือกใช้โคมไฟเก่าจริงๆหรือที่ทำเสมือนโบราณก็ได้ ถ้าเลือกใช้เป็นโคมไฟขนาดเล็กกับพื้นที่เช่นโต๊ะประชุม ที่ค่อนข้างยาว ก็ให้ติด 2-3 โคมเล็กเป็นแนวเรียงกัน โคมไฟเลือกแบบวัสดุโลหะสีเทาหรือดำ แต่หากทั้งห้องทั้งหมดถูกคุมโทนด้วยสีเทาและดำแล้ว สามารถหยอดเป็นโคมสีขาวหรือสีอื่นได้ แนะนำว่าไม่ควรใช้เกิน 1 สี ข้อดีของโคมไฟเพดานก็คือ สามารถเป็นจุดนำสายตาและสร้างคาแรคเตอร์ให้กับออฟฟิศของคุณได้อย่างเด่นชัด
เนื่องจากพื้นที่ในสไตล์ Industrial จะค่อนข้างโปร่ง ในกรณีที่สามารถออกแบบให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาเยอะ ก็อาจใช้โคมไฟบนโต๊ะหรือ โคมไฟตั้งพื้น แทนโคมไฟแขวนจากเพดานได้ ซึ่งข้อดีก็คือสามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งของการใช้งานได้สะดวก ในกรณีที่มีการปรับการใช้สอยของพื้นที่ในอนาคต รวมถึงสามารถเลือกรูปแบบที่มีลูกเล่นมากขึ้นได้
ทั้งหมดนี้คุณๆสามารถเลือกผสมผสานและนำเอา Industrial Style มาเติมแต่งและประยุคสำหรับพื้นที่ทำงานไม่ว่าจะใน รูปแบบ Home Office หรือจะเป็น Office จริงๆ เพื่อเป็นการเพิ่มสไตล์และบุคลิกพิเศษ ให้กับพื้นที่ทำงานที่ไม่จำเจกับความเนี้ยบกริบในแบบ Modern แบบเดิมๆ อย่าลืมว่าบรรยากาศออฟฟิศที่ตกแต่งสวยงามสามารถเพิ่มความกระตือรือร้นในการทำงานได้ ขอให้สนุกกับการทำงานในพื้นที่ทำงานเท่ๆนะคะ
ขอบคุณ
- http://www.houzz.com
- http://theinspiredroom.net
- www.marienichols.co.uk