สวัสดีค่ะ ปัจจุบันสังคมของประเทศไทยเราก็อยู่ในช่วงสังคมผู้สูงอายุมากขึ้นนะคะ หลายคนก็กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในยามเกษียณของตัวเอง หรือกำลังปรับปรุงบ้านเพื่อให้คุณพ่อ คุณแม่มาอยู่ด้วย จะได้ดูแลได้ทั่วถึง แล้วไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี ลองมาอ่านบทความนี้กันก่อนค่ะ เพราะเราได้รวบรวม เทคนิคต่างๆที่ช่วยปรับพื้นที่บ้านธรรมดา ให้เหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุ รวมถึงได้หาค่าใช้จ่ายเบื้องต้นเอาไว้ให้ครบเลยค่ะ
สำหรับการปรับบ้านผู้สูงอายุในบทความนี้จะขอโฟกัสกลุ่มผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่อาจจะมีการเสื่อมสมรรถภาพทางร่างกาย มีปัญหาสุขภาพเล็กน้อย หรือผู้สูงอายุที่นั่งรถเข็นแต่ยังช่วงเหลือตัวเองได้ ไม่ต้องมีคนมาดูแลตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ
เรามาดูพื้นที่การใช้งานของผู้สูงอายุภายในบ้านกันก่อนค่ะ หลักๆเลยผู้สูงอายุมักจะใช้เวลาอยู่ในห้องนอน มีการใช้ห้องน้ำบ่อยๆ ออกมานั่งเล่นกับลูกหลานที่พื้นที่ส่วนกลางทั้งห้องนั่งเล่น และห้องรับประทานอาหารบ้าง มีออกไปเดินชมสวนปลูกต้นไม้บ้าง ดังนั้น เราจึงขอแยกพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้
- ห้องนอน
- ห้องน้ำ
- พื้นที่ส่วนกลาง (Common Area)
- พื้นที่ภายนอกบ้าน
ห้องแต่ละห้องจะมีการจัดพื้นที่การใช้งานที่แตกต่างกัน รวมถึงผู้สูงอายุแต่ละคนก็มีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน ขอแนะนำให้คนในบ้านสอบถามความเห็นจากผู้สูงอายุก่อนทำการเปลี่ยนแปลงภายในบ้านนะคะ ในตอนท้ายของบทความจะมีการแนะนำเทคโนโลยีทางด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมสำหรับบ้านที่ต้องการดูแลผู้สูงอายุตลอด 24 ชั่วโมงและป้องกันเหตุฉุกเฉินให้ด้วย จะมีอะไรที่ปรับบ้านธรรมดาให้เหมาะกับผู้สูงอายุได้บ้างเราไปชมกันเลยค่ะ
การจัดพื้นที่ห้องนอน
ห้องนอน เป็นห้องที่ผู้สูงอายุใช้เวลาอยู่เป็นส่วนมาก และส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้สูงอายุ เนื่องจากในเวลากลางคืนนั้นไม่มีแสงไฟให้มองเห็นสิ่งต่างๆได้สะดวก
บ้านพักอาศัยขนาดใหญ่ส่วนมากจะมีห้องที่ชั้น 1 สามารถใช้งานเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุได้ แต่บ้านไหนที่ไม่มี ขอแนะนำให้มีการกั้นห้องหรือต่อเติมเพิ่ม เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ จากการเดินขึ้น-ลงบันได ทำให้ผู้สูงอายุเข้าใช้งานได้สะดวก และเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน คนในบ้านก็จะได้สามารถเคลื่อนย้ายพาไปโรงพยาบาลได้ง่ายค่ะ
นอกจากนั้นยังควรเว้นระยะด้านข้างของเตียงนอนให้มีพื้นที่เดินได้สะดวก สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องใช้รถเข็นควรมีที่กว้างมากกว่า 90 เซนติเมตร
ภายในห้องนอน สามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับการใช้งานของผู้สูงอายุได้ ดังนี้
- พื้น
พื้นของห้องทุกห้องของผู้สูงอายุควรเป็นพื้นระนาบเดียว ไม่มีพื้นยกระดับหรือ ขอบพื้นที่ทำให้สะดุดล้มได้นะคะ นอกจากนั้นวัสดุพื้นควรจะมีความฝืด ไม่มันเงา เพราะจำทำให้ลื่นล้มได้ง่าย ซึ่งพื้นที่เหมาะสมกับการปูภายในห้องนอนของผู้สูงอายุก็คือ
พื้นกระเบื้องยางรองรับแรงกระแทก (Shock Absorbtion Floor)
พื้นกระเบื้องยาง(ไวนิล) มีคุณสมบัติช่วยดูดซับแรงกระแทกได้ ช่วยลดการบาดเจ็บเมื่อเกิดการล้มกระแทกพื้นค่ะ ช่วยได้แค่ส่วนหนึ่งนะคะ เคยทดลองล้มดูแล้วก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่เหมือนกันค่ะ > < แต่พื้นชนิดนี้จะให้ความรู้สึกในการสัมผัสนุ่มกว่าพื้นกระเบื้อง ไม่เย็นเท้าในเวลากลางคืน และมีความฝืดพอให้ไม่รู้สึกลื่นแม้จะใส่รองเท้าเดินในบ้านค่ะ ซึ่งปัจจุบันมีหลายรุ่น หลายขนาด สามารถปูทับพื้นกระเบื้องเดิมได้เลย ซึ่งจะสะดวกมากๆไม่ต้องเตรียมปรับพื้นรื้อกระเบื้องออกมาให้วุ่นวาย
ราคา
ราคาของกระเบื้องยางขึ้นอยู่กับขนาด ความหนาของแผ่นกระเบื้อง และเฉดสี รวมถึงรุ่นที่สามารถรองรับแรงกระแทกได้สำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
- ช่วงราคา ประมาณ 600 – 1,000 บาท/ตารางเมตร
- ค่าแรงสำหรับปูกระเบื้อง (ไม่รวมค่าเตรียมพื้นที่ให้พร้อมปู) 100-150 บาท/ตร.ม. ส่วนใหญ่หลายเจ้าจะคิดค่าแรงรวมกับค่ากระเบื้องไปเลยอยู่ที่ประมาณ 900 – 1,000 บาท/ตารางเมตร
- เตียงนอน
เตียงนอนของผู้สูงอายุไม่ควรใช้เตียงที่นุ่มจนเกินไป เพราะจะทำให้ลุกเคลื่อนไหวได้ลำบากและเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ค่ะ
ขนาดเตียงควรใช้เตียง 3.5 ฟุต จะทำให้ลุกนั่งสะดวกกว่าเตียงขนาดใหญ่ ความสูงของเตียงควรอยู่ในระดับปกติ เตียงรวมฟูกสูงประมาณ 50 เซนติเมตร หรือมากกว่า จะทำให้เวลานั่ง และลุกขึ้นยืนสะดวกกว่าเตียงที่อยู่ต่ำ ซึ่งสามารถใช้เตียงเดิมที่ผู้สูงอายุมีอยู่แล้วได้ค่ะ
สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการตัวช่วยในการลุกขึ้นนั่งมากขึ้น อย่างเตียงไฟฟ้าสามารถปรับระดับยกหัว หรือปลายเท้าให้สูงได้ ด้วยการใช้ปุ่มกดหรือรีโมท ก็มีให้เลือกหลายแบบส่วนใหญ่เป็นเตียงโครงเหล็กและจะมีราคาค่อนข้างสูง
ราคา
- เตียงปกติ ช่วงราคา ประมาณ 3,000 – 10,000 บาทเป็นต้นไป
- เตียงไฟฟ้าปรับระดับ ช่วงราคาประมาณ 39,900 – 100,000 บาทเป็นต้นไป
- ไฟ Motion Sensor
ผู้สูงอายุแค่ลุกนั่งก็มีความลำบากแล้วใช่ไหมคะ เวลานอนๆอยู่แล้วจะลุกไปเข้าห้องน้ำสักทีถ้าจะต้องเดินไปเปิดไฟ ท่ากลางความมืดก็อาจจะทำให้สะดุดล้มได้ จึงควรติดตั้งไฟแบบตรวจจับการเคลื่อนไหว (Motion Sensor) ส่องสว่างเวลาใช้งาน
ตำแหน่งที่ติดตั้งควรจะเป็นบริเวณฐานของเตียงนอน เวลาลุกจากเตียงก็จะได้มีแสงไฟมองเห็นพื้นได้เลย และอีกจุดหนึ่งควรติดบริเวณประตูทางเข้าห้องน้ำค่ะ
ราคา
ไฟ Motion Sensor ปัจจุบันมีหลากหลายแบบให้เลือก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหลอด LED ประหยัดพลังงานและไม่ให้ความร้อน ซึ่งราคาไม่แพงเลยค่ะ
- ช่วงราคา ประมาณ 120 – 450 บาท
การจัดพื้นที่ห้องน้ำ
ห้องน้ำ เป็นห้องที่ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้สูงอายุเป็นอันดับแรกเลยค่ะ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีน้ำเปียก มีความลื่นอยู่เกือบตลอดเวลา หากมีห้องน้ำอยู่ในห้องนอนได้จะสะดวกต่อการใช้งานค่ะ แต่สำหรับบ้านไหนที่ห้องน้ำอยู่ด้านนอกก็ไม่เป็นไรนะคะ แต่ควรคำนึงถึงจัดพื้นที่ภายในห้องน้ำของผู้สูงอายุ โดยการแบ่งส่วนเปียก – ส่วนแห้งออกจากกันให้ชัดเจน ส่วนที่แห้งจะเป็นส่วนอ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ ไม่ให้มีน้ำขัง ส่วนอาบน้ำก็มีฉากกั้นชัดเจนไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาเลอะด้านนอกค่ะ
สำหรับผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็น ควรมีพื้นที่เส้นผ่านศูนย์กลางวงกลม 1.50 เมตรให้สามารถกลับตัวได้สะดวกภายในห้องน้ำ พื้นห้องน้ำไม่ควรมีขอบยกระดับเพราะจะทำให้สะดุดล้ม หรือไม่สะดวกในการใช้รถเข็น
ภายในห้องน้ำ สามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับการใช้งานของผู้สูงอายุได้ ดังนี้
- ประตู
ประตูห้องน้ำควรเป็นประตูบานเลื่อน ที่มีความกว้างมากกว่า 90 เซนติเมตรเพื่อให้รถเข็นสามารถเข้า – ออกได้สะดวก แม้ผู้สูงอายุอยู่คนเดียวก็เปิด-ปิดได้เอง ไม่จำเป็นต้องมีตัวล็อคประตู เผื่อเวลาฉุกเฉินคนในบ้านจะได้เข้าช่วยเหลือได้ทันเวลา โดยประตูบานเลื่อนสามารถติดตั้งเพิ่มเติมที่หลังได้นะคะ โดยการนำประตูบานเปิดออก และติดตั้งราวเพิ่มเติมที่ฝั่งด้านนอก หรือด้านในห้องน้ำแทน ช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากขึ้นด้วย
ราคา
ราคาของประตูนั้นมีหลากหลายมาก ขึ้นอยู่กับวัสดุและการออกแบบที่เราต้องการ แต่ถ้าต้องการใช้งานทั่วไปก็จะอยู่ที่หลักพัน ไม่เกินหมื่นค่ะ
- ช่วงราคา ประมาณ 2,500 – 7,000 บาทเป็นต้นไป
- พื้น
พื้นห้องน้ำเป็นส่วนที่สำคัญในเรื่องความปลอดภัย ไม่ควรมีพื้นต่างระดับสูงๆ จะทำให้เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น ซึ่งการทำพื้นห้องน้ำในเป็นระนาบเดียวกันกับห้องอื่นๆ ซึ่งจะต้องมีการออกแบบไว้ก่อนล่วงหน้านะคะ
โดยห้องน้ำควรมีความลาดเอียงที่ 1 : 200 เป็นอย่างน้อย กล่าวคือ ห้องน้ำกว้าง 2 เมตร ควรมีความต่างระดับของพื้นแนวดิ่ง 1 เซนติเมตร หรือทำรางระบายน้ำแบบฝังด้านในพื้นเพื่อช่วยให้น้ำไม่ไหลออกมานอกห้องค่ะ นอกจากนั้นกระเบื้องห้องน้ำยังควรมีค่ากันลื่นของพื้น (Ramp) อยู่ที่ R10
รางระบายน้ำสเตนเลส
ปัจจุบันนี้ในหลายๆบ้านมักจะมีการทำรางระบายน้ำแบบฝังที่พื้นไม่ใช่แค่สำหรับการใช้รถเข็นหรือผู้สูงอายุเท่านั้น ยังมีการทำรางฝังพื้นเพื่อความสวยงามด้วยค่ะ ซึ่งตะแกรงที่เป็นส่วน Floor Drain นั้นนิยมใช้วัสดุ สเตนเลส (Stainless) เพราะโดนน้ำได้สบายๆ ปลอดสนิม ทำความสะอาดง่าย มีความทนทานสามารถใช้งานได้ทั้งกลางแจ้งและในร่ม และทำรูตะแกรงได้หลายแบบ กันสัตว์เลื้อยคลาน และแมลงเข้ามาได้
ราคา
ราคารางระบายน้ำสเตนเลสขึ้นอยู่กับรูปแบบ และความยาวที่เราต้องการจะติดตั้ง
- ช่วงราคา ประมาณ 1,000 – 4,500 บาท/ ความยาว 1.00 เมตร
ยางลบมุมปรับระดับพื้น
สำหรับบ้านไหนที่ไม่ได้มีการออกแบบให้พื้นเป็นระนาบเดียวกัน ก็สามารถปรับเพื่ออำนวยความสะดวกของผู้สูงอายุเพิ่มเติมได้นะคะ โดยการใช้ยางสามเหลี่ยมมาติดบริเวณขอบประตูเพื่อให้มีทางลาดเล็กๆสะดวกต่อการใช้รถเข็นมากขึ้น
ราคา
ยางสามเหลี่ยมลบมุมจะคิดราคาขึ้นอยู่กับความยาวสามารถตัดแบ่งได้ตามความยาวหน้างานค่ะ
- ช่วงราคา ประมาณ 225 – 300 บาท/ ความยาว 1.00 เมตร
พื้นยางกันลื่น
พื้นยางกันลื่นเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สามารถติดเพิ่มเติมภายหลังได้โดยไม่ต้องเตรียมหน้างานใหม่ค่ะ ตัวพื้นจะมีความยืดหยุ่น เหนียว เมื่อโดนน้ำจะไม่ลื่นเหมือนกับพื้นกระเบื้อง มีทั้งแบบเป็นรูพรุนเพื่อให้น้ำไหลผ่านลงไปได้ กับแบบแผ่นตันปูทับพื้นกระเบื้องไปเลย สำหรับคนที่ไม่ชอบร่องเยอะๆทำความสะอาดยาก
ราคา
พื้นยางกันลื่นมีทั้งแบบแผ่นเล็กๆ เหมือนกับแผ่นกระเบื้องเซรามิคทั่วไป ขนาด 30 x 30 เซนติเมตร และแบบแผ่นขนาดใหญ่ 100 x 100 เซนติเมตร
- ช่วงราคา ประมาณ 200 – 1,000 บาท/ พื้นที่ 1.00 ตารางเมตร
- สุขภัณฑ์
นอกจากเรื่องของประตูและพื้นแล้ว สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งเลยคือสุขภัณฑ์ค่ะ สำหรับผู้สูงอายุบางคนสามารถใช้สุขภัณฑ์ร่วมกับคนในบ้านได้ก็จะไม่ต้องเปลี่ยนสุขภัณฑ์ที่มีอยู่ในยุ่งยาก แต่ถ้าเป็นผู้สูงอายุที่ต้องนั่งรถเข็นคงจะต้องมีตัวช่วยเพิ่มเติม หรือเปลี่ยนสุขภัณฑ์ให้มีขนาดที่เหมาะสมเพื่อมความปลอดภัยมากขึ้น
โถสุขภัณฑ์
โถสุขภัณฑ์ในตลาดมีหลายแบบ ซึ่งผู้สูงอายุสามารถใช้ได้ทั้งหมดค่ะ แต่ควรคำนึงถึงเรื่องความสูงของโถควรมีระดับสูงกว่าปกติเล็กน้อย อยู่ที่ 42 เซนติเมตรขึ้นไป ถ้าอยู่ต่ำเกินไปจะทำให้ลุก – นั่งได้ลำบาก นอกจากนั้นยังมีฝารองนั่งขนาดใหญ่ มีราวจับสองฝั่งช่วยพยุงตัว สำหรับผู้สูงอายุ และที่กดควรเป็นแบบคันโยกด้านข้างให้กดได้ง่าย ไม่ต้องเอื้อมไปกดด้านหลังค่ะ
ราคา
- ฝารองนั่งเสริมสำหรับผู้สูงอายุ ช่วงราคา ประมาณ 500 – 1,300 บาท
อ่างล้างหน้า
อ่างล้างหน้าที่เหมาะกับการใช้รถเข็นของผู้สูงอายุ คืออ่างที่ติดแบบลอยตัว ไม่มีช่องเก็บของทางด้านล่าง บางอันที่ออกแบบมาเพื่อผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็นโดยตรงจะมีส่วนเว้าด้านหน้าโค้งรับกับตัวและเฉียงด้านใต้ เพื่อที่จะให้คนที่ใช้รถเข็นสอดตัวเข้าไปได้ และควรติดตั้งอยู่สูงจากพื้นประมาณ 75 – 80 เซนติเมตร
สำหรับคนที่ทำห้องเองแนะนำให้ติดตั้งอ่างล้างมือด้านนอกห้องน้ำนะคะ บริเวณห้องนอนของผู้สูงอายุได้เลย เพราะเวลาที่ผู้สูงอายุใช้งาน จะลดการเดินเข้า-ออกห้องน้ำ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น
ราคา
- อ่างล้างหน้าสำหรับผู้สูงอายุใช้รถเข็น ช่วงราคาประมาณ 8,000 – 9,000 บาท
กระจกเงา
กระจกเงาถ้าติดตั้งเป็นบานขนาดใหญ่อยู่แล้วผู้สูงอายุจะสามารถใช้ได้ปกติค่ะ ถ้าเป็นบานเล็กจะให้ดีควรเลือกแบบที่ปรับระดับองศาให้เอียงลงได้เล็กน้อย ผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็นจะมองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น
ราคา
- กระจกเงาปรับได้ มีช่วงราคาตั้งแต่ 200 บาทเป็นต้นไป
อุปกรณ์เสริม
นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้วยังมีตัวช่วยเพิ่มเติมสำหรับอำนวยความสะดวกผู้สูงอายุให้มากขึ้น ดังนี้
ราวจับ
ราวจับจะเป็นตัวช่วยในการพยุงตัวเวลาลุกขึ้นจากโถสุขภัณฑ์ ควรติดตั้งราวจับเป็นรูปตัว L เพราะราวจับแนวดิ่งจะช่วยในการดึงตัวขึ้น ส่วนราวจับแนวนอนจะช่วยเรื่องการทรงตัวตอนจะนั่งนั่นเองค่ะ
ราวจับมีหลายแบบควรเลือกขนาดให้พอดีกับมือของผู้สูงอายุ ให้สามารถกุมจับได้พอดีๆ ไม่ใหญ่เกินไป ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลาย ที่นิยมใช้กันคือแบบ stainless เพราะแข็งแรง ทนทาน มีอายุการใช้งานยาวนานไม่เกิดสนิม
ราคา
- ช่วงราคา ประมาณ 200 – 1,900 บาท
เก้าอี้อาบน้ำ
สำหรับบ้านที่ไม่ได้ออกแบบให้มีพื้นที่นั่งอาบน้ำตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ก็สามารถใช้เก้าอี้เสริมสำหรับนั่งอาบน้ำให้ผู้สูงอายุได้ โดยจะเลือกเป็นติดตั้งบนผนัง หรือแบบลอยตัวยกออกเมื่อไม่ใช้งานได้ค่ะ
เก้าอี้แบบลอยตัวจะนิยมใช้เป็นเก้าอี้ขา stainlessหุ้มด้วยขอบยาง เพื่อการยึดเกาะเวลาอาบน้ำ ข้อดีของเก้าอี้แบบนี้คือเมื่อไม่ใช้งานแล้วสามารถยกไปเก็บได้ ส่วนเก้าอี้แบบติดผนังจะเป็นแบบพับได้
ราคา
- เก้าอี้นั่งอาบน้ำลอยตัว ช่วงราคา ประมาณ 750 – 3,000 บาท
- เก้าอี้ติดผนัง ช่วงราคาประมาณ 4,000 – 10,000 บาท
ห้องนั่งเล่น และห้องรับประทานอาหาร
ผู้สูงอายุสามารถใช้พื้นที่ส่วนนี้ร่วมกับคนภายในบ้านได้โดยไม่ต้องมีการปรับแต่งมากนักค่ะ แต่ควรเป็นพื้นที่ที่ได้รับแสงธรรมชาติ มีแสงสว่างเพียงพอ มีเก้าอี้โยกหรือเก้าอี้ที่เอนหลังได้ให้พักผ่อน ถ้าผู้สูงอายุใช้รถเข็น ก็ควรมีระยะความกว้างทางเดินมากกว่า 90 เซนติเมตรค่ะ
ถ้าต้องการให้ผู้สูงอายุใช้เคาน์เตอร์ พื้นที่เตรียมอาหารด้วย ถ้าเป็นผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็นควรเลือกเคาน์เตอร์ที่มีความสูงประมาณ 65 เซนติเมตร จะพอดีสำหรับผู้ที่นั่งบนรถเข็นค่ะ
ชุดโต๊ะเก้าอี้รับประทานอาหาร
ความสูงโต๊ะรับประทานอาหาร ที่เป็นมาตรฐานในประเทศไทยนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 72-75 เซนติเมตร สำหรับผู้สูงอายุแล้วจะเป็นระยะที่มีความสูงเกินไปสักหน่อย (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสูงของผู้สูงอายุแต่ละคนด้วยนะคะ) ส่วนเก้าอี้เลือกที่มีความลึกสามารถนั่งได้พอดีก้น มีที่พิงหลัง ให้นั่งหลังตรงไม่เอนไปด้านหลัง เมื่อนั่งแล้วเท้าสามารถวางบนพื้นได้ตั้งฉากพอดี จะทำให้ไม่เมื่อยขา และไม่เกิดอาการเหน็บชา
สำหรับใครที่ต้องการใช้ชุดโต๊ะเก้าอี้เดิมที่มีอยู่แล้ว อาจจะเลือกซื้อเป็นที่วางเท้าเล็กๆมาเพิ่มให้ผู้สูงอายุ แทนการปรับเปลี่ยนทั้งหมดก็ได้เช่นกันนะคะ โดยเก้าอี้วางเท้านั้นก็มีให้เลือกหลายแบบ เป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านไปในตัวได้ด้วย
นอกจากนั้นยังเพิ่มเติมเรื่องความปลอดภัยจากเหลี่ยมมุมขอบโต๊ะได้โดยการติดโฟม หรือยางลบมุมขอบโต๊ะ เพราะผิวหนังของผู้สูงอายุจะมีความยืดหยุ่นน้อยลง โดนอะไรนิดหน่อยก็ทำให้เกิดบาดแผลได้ง่ายๆเลยค่ะ
ราคา
- เก้าอี้วางเท้า ช่วงราคาประมาณ 400 – 2,000 บาทเป็นต้นไป
- เก้าอี้โยก หรือเก้าอี้เอนหลังได้ ช่วงราคาประมาณ 500 – 2,500 บาทเป็นต้นไป
- ยางลบมุมขอบโต๊ะ ช่วงราคาประมาณ 10 – 50 บาท / ชิ้น
ปลั๊กไฟ
ตำแหน่งของปลั๊กไฟนั้นก็สำคัญนะคะ เนื่องจากผู้สูงอายุมักจะก้มต่ำไม่ไหว อาจจะทำให้หน้ามืดได้ ตำแหน่งของปลั๊กจึงควรอยู่สูงระดับอกของผู้สูงอายุ บ้านไหนที่มีปลั๊กไฟเดินไว้ในระดับต่ำอยู่แล้ว แนะนำให้ใช้ปลั๊กพ่วง ต่อขึ้นมาติดตั้งในระดับที่ต้องการ หรือวางบนโต๊ะ เคาน์เตอร์ก็ได้ค่ะ
ราคา
- ปลั๊กพ่วง ช่วงราคาประมาณ 160 – 850 บาท
การจัดพื้นที่ภายนอกบ้าน
ผู้สูงอายุมักจะอยากมีพื้นที่เป็นของตัวเองนะคะ โดยเฉพาะพื้นที่สีเขียว อยากแต่งสวน จัดดอกไม้ด้วยตัวเอง คนในบ้านอาจจะแบ่งพื้นที่สวนส่วนหนึ่งที่เชื่อมต่อกับห้องผู้สูงอายุให้ไปเลย จะทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกภูมิใจ มีกิจกรรมให้ทำในชีวิตประจำวัน ซึ่งเราสามารถสนับสนุนเขาได้โดยการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก ดังนี้
ทางลาด
ผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็นจำเป็นต้องมีทางลาด เพื่อให้สามารถเข็นรถได้สะดวก ซึ่งอัตราส่วนที่เหมาะสมในการเข็นรถด้วยตนเองจะอยู่ที่ 1 : 12 หรือก็คือ ความสูงแนวดิ่ง 1 เมตร ควรมีความยาวแนวราบอยู่ที่ 12 เมตร
บันได
ถ้าเป็นบันไดสำหรับผู้สูงอายุที่เดินได้ปกติ (ไม่ใช้รถเข็น) ตัวบันไดควรมีลูกนอนวางได้เต็มเท้า มากกว่า 25 เซนติเมตร ลูกตั้งสูงไม่เกิน 15 เซนติเมตร และต้องมีราวจับที่สามารถจับได้ถนัดมือ แนะนำเป็นราววงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4 – 5 เซนติเมตรค่ะ
เทคโนโลยีอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม
นอกจากวัสดุอุปกรณ์ทั่วไปที่เราสามารถปรับเปลี่ยนได้แล้ว ยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น อย่างการติดตั้งกล้องวงจรปิด ให้คอยส่งภาพ Real Time มาทาง Application ในโทรศัพท์มือถือของเรา และมีสัญญาณฉุกเฉินให้ผู้สูงอายุกดเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด สามารถทำงานร่วมกันทั้งกล้องและสัญญาณเตือนได้ด้วยนะ
กล้อง CCTV
ปัจจุบันมีการติดกล้อง CCTV ภายในบ้านกันมากขึ้นนะคะ นอกจากเรื่องความปลอดภัยจากโจร หรือคนร้ายแล้ว ยังมีการติดตั้งเพื่อดูแลเด็กๆ และผู้สูงอายุให้อยู่ในสายตาของเรา ผ่าน Application โทรศัพท์มือถือในขณะออกไปทำงานด้วย ซึ่งกล้อง CCTV นั้นมีหลายแบบทั้งแบบที่ใช้งานในเวลากลางคืนได้ แบบที่หมุนได้รอบทิศทาง ส่องดูได้ทั่วถึงทุกมุมห้อง ซึ่งก็จะมีราคาที่แตกต่างกันไปค่ะ
ราคา
- กล้อง CCTV ทั่วไป ช่วงราคาประมาณ 600 – 4,000 บาท
เซนเซอร์ตรวจจับการล้ม
นอกจากกล้อง CCTV ทั่วไปแล้ว ปัจจุบันยังมีเทคโนโลยีเซนเซอร์ตรวจจับการหกล้ม(ตรวจจับการเคลื่อนไหว)ได้ด้วยนะคะ โดยการทำงานของเครื่องมีหลายแบบ เช่น
– เซนเซอร์อินฟาเรด เมื่อมีการเดินผ่านหรือมีวัตถุตัดผ่านแสงจะทำให้เซนเซอร์ดับลง และเมื่อเกินระยะเวลาที่ตั้งไว้ เครื่องจะสัญญาณเตือนไปยังผู้ติดต่อให้ทราบและเข้ามาช่วยเหลือได้ทันเวลา
– เซนเซอร์ตรวจจับความดัน จะมีลักษณะเป็นแผ่น ติดตั้งที่ใต้แผ่นพื้น หรือพรม เป็นเซนเซอร์ที่จับค่าน้ำหนัก เมื่อเกิดแรงกดทับถึงค่าที่กำหนดก็จะส่งสัญญาณเตือนค่ะ แต่แบบนี้จะได้เฉพาะจุดเท่านั้นนะคะ ควรเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุแต่ละคนค่ะ
นอกจากเซนเซอร์ติดตั้งแยกแล้ว ยังมีเป็นประเภทนาฬิกาแจ้งเตือนด้วย ซึ่งจะมีอยู่ใน Smart Watch อย่างเช่นใน Apple Watch จะมีฟังก์ชันตรวจจับการล้ม และแจ้งเตือน ติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน เชื่อมต่อกับการเรียกรถพยาบาลได้
ราคา
- เซนเซอร์ตรวจจับการล้ม ช่วงราคาประมาณ 7,000 บาทเป็นต้นไป
สัญญาณเตือนฉุกเฉิน
อุปกรณ์สัญญาณเตือนฉุกเฉินนั้นมีการใช้งานมานานแล้วนะคะ มีทั้งแบบพกพา และแบบติดตั้งอยู่ภายในห้อง การเตือนมีทั้งแบบส่งเสียงอย่างเดียว ไปจนถึงส่งข้อความ ภาพ เสียง ผ่าน Internet ไปยังผู้ติดต่อฉุกเฉินได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีเจ้าที่รับติดตั้งระบบแบบครบวงจร ทั้งกล้องวงจรปิด และปุ่มเตือนฉุกเฉิน ซึ่งจะมีประสิทธิภาพมากกว่าสัญญาณเตือนเดี่ยวๆค่ะ แต่ราคาก็จะสูงตามไปด้วยนั่นเอง
ราคา
- สัญญาณแบบกดปุ่ม ช่วงราคาประมาณ 150 – 1,300 บาท
- สัญญาณแบบดึง ช่วงราคาประมาณ 100 – 2,500 บาท
- ชุดระบบสัญญาณเตือน และกล้อง CCTV ครบวงจร ช่วงราคาประมาณ 30,000 บาทเป็นต้นไป
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ที่
ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving