ทำไมถึงต้องใช้ฉากกั้นอาบน้ำ?

ฉากกั้นอาบน้ำ เป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ติดตั้งไว้เพื่อใช้กั้น หรือแบ่งสัดส่วนของห้องน้ำ แยกพื้นที่เป็นส่วนเปียกและส่วนแห้ง ทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างถูกสุขลักษณะ สะดวกสบาย ทำความสะอาดได้ง่าย และยังช่วยลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุที่อาจเกิดในห้องน้ำได้อีกด้วย ทั้งหมดนี้จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่เลือกติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำในที่พักอาศัย ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ทาวน์โฮมหรือคอนโดมิเนียม

หมดปัญหากวนใจอาบน้ำทีไร ก็ต้องเตรียมล้างห้องน้ำต่ออีกชุดใหญ่ เพราะสบู่และละอองน้ำที่กระจายไปทั่วห้อง อาจก่อตัวกลายเป็นคราบสกปรกและเชื้อราที่จะฝังอยู่ตามซอกต่างๆ ให้ต้องมาขัดทำความสะอาดกันภายหลังอีก ซึ่งการติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำก็เป็นวิธีที่ง่ายและช่วยทุ่นแรงเราได้มากที่สุดค่ะ แต่โดยปกติแล้วตามโครงการที่พักอาศัยต่างๆจะไม่ได้มีการติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้ จึงเป็นความรับผิดชอบของลูกบ้านที่ต้องเลือกและจัดหาบริษัทหรือช่างที่ตนเองถูกใจมาดำเนินการเอง

ซึ่งก็มีข้อดีคือ เราจะได้ฉากกั้นอาบน้ำในแบบที่ชอบและเหมาะสมต่อการใช้งานของเราเอง แต่ในการเลือกนอกจากจะคำนึงถึงเรื่องความสวยงามแล้ว สิ่งที่สำคัญก็คือความปลอดภัย อย่างที่เรามักจะได้ยินกันในข่าวนะคะ ว่าหากวัสดุที่ใช้ไม่ได้คุณภาพหรือมีการติดตั้งที่ไม่ถูกต้องแล้วล่ะก็ เมื่อเกิดการชำรุดเสียหายอาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิตได้เลยทีเดียว ดังนั้นการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นก่อนตัดสินใจซื้อ ก็เป็นเรื่องที่เราไม่ควรมองข้าม วันนี้บทความน่าอ่านของเราจึงขอนำเสนอ “งบหลักพันก็ติดฉากกั้นอาบน้ำได้

เพราะการเลือกซื้อสินค้าต้องอาศัยปัจจัยในหลายๆด้าน แล้วเลือกอย่างไรให้ได้ฉากกั้นอาบน้ำที่มีคุณภาพ ในงบประมาณและรูปแบบที่ตรงใจ ไปติดตามอ่านกันต่อได้เลยค่ะ

รู้จักประเภทฉากกั้นอาบน้ำ

สำหรับในคอนโดมิเนียม แน่นอนว่าจะต้องมีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ ทำให้หลายคนมีข้อสงสัยว่าควรเลือกฉากกั้นแบบไหนให้เหมาะกับห้องน้ำ ก่อนอื่นก็ต้องทราบก่อนว่า รูปแบบของฉากกั้นอาบน้ำแบ่งออกตามลักษณะการติดตั้งได้เป็น 2 แบบหลักๆ คือแบบบานเลื่อนและแบบบานเปลือย โดยรูปแบบทั้ง 2 ก็มีข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะสมต่อการใช้งานที่แตกต่างกัน

1) แบบบานเลื่อน

เหมาะกับห้องน้ำที่มีขนาดพื้นที่จำกัด มีกรอบเฟรมและรางเลื่อนสำหรับใช้เปิด – ปิด ข้อดีคือช่วยประหยัดพื้นที่ เพิ่มการใช้งาน โดยในปัจจุบันมีให้เลือกทั้งแบบเลื่อน 2 ตอนและ 3 ตอน แต่ข้อเสียก็คือ กรอบเฟรมและยางอาจจะเสื่อมสภาพเมื่อใช้งานในระยะยาว ทำให้การเลื่อนสะดุดหรือติดขัด รวมถึงการทำความสะอาดที่มักจะต้องเน้นตรงส่วนกรอบ เพราะอาจเป็นจุดสะสมของคราบสกปรกได้ โดยกรอบเฟรมของบานเลื่อนก็มีวัสดุให้เลือก ซึ่งก็จะมีคุณสมบัติที่ช่วยบ่งบอกอายุการใช้งานของฉากกั้นอาบน้ำได้ค่ะ

  • เฟรมอลูมิเนียม

เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมมาก ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูเรียบง่ายแต่ดูทันสมัย มีน้ำหนักเบา ทนต่อความชื้น ไม่ผุกร่อนหรือเปลี่ยนรูป แต่ไม่ทนต่อแรงกดทับหรือแรงกระแทก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดรอยบุบหรือรอยขีดข่วนได้ง่าย และไม่ทนต่อความร้อนหรือความเย็น

  • เฟรมสแตนเลส

มีราคาสูงกว่าเฟรมอลูมิเนียม ด้วยคุณสมบัติที่ดีกว่า มีน้ำหนักมากกว่า ทนต่อความชื้นและการกัดกร่อนได้ดี ไม่เป็นสนิม สามารถทนต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างฉับพลันได้ ติดตั้งง่าย และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานค่ะ

2) แบบบานเปลือย

คือลักษณะของกระจกที่เป็นแบบเปลือย จะให้ความรู้สึกโปร่งโล่งมากกว่า เพราะไม่มีกรอบเฟรม เหมาะกับห้องน้ำที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง องค์ประกอบหลักจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นบาน Fix และบานเปิดหรือบานสวิง แต่บางครั้งก็อาจจะเห็นรูปแบบของบาน Fix เพียงอย่างเดียวอยู่บ้าง โดยจะกั้นเป็นผนังแบบครึ่งเดียว ซึ่งก็เป็นเรื่องของดีไซน์และความชอบเฉพาะบุคคลนะคะ แต่ประสิทธิภาพในการกันน้ำ จะไม่ดีเท่ากับแบบที่มีบานเปิด – ปิดอย่างแน่นอน

ลักษณะในการติดตั้งจะทำการยึดแผ่นกระจกด้วยอุปกรณ์สแตนเลสจากด้านข้างและด้านล่าง หรือหากใครต้องการทำเป็นบานเลื่อนก็สามารถทำได้ โดยจะใช้เป็นรางแขวนคีบกระจกจากด้านบนแทน แต่อาจไม่เป็นที่นิยมเท่าแบบบานสวิงค่ะ ซึ่งข้อเสียหรือข้อจำกัดของฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเปลือยก็คือ เรื่องของการกันน้ำ ที่อาจมีโอกาสเล็ดลอดได้มากกว่าแบบที่มีกรอบเฟรม

โดยอุปกรณ์เสริมที่ควรติดตั้งเพิ่มเข้ามาพร้อมกับบานสวิงก็คือตัวกันกระแทก ซึ่งจะติดตั้งไว้ที่บานจับหรือผนัง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดเวลาเปิด -ปิดประตู และทำให้กระจกชำรุดเสียหายได้  ทั้งนี้สิ่งที่เราจะต้องคำนึงถึงที่สุดก็คือความปลอดภัยในการเลือกใช้กระจกโดยวัสดุนี่แหละค่ะที่จะเป็นตัวบ่งบอกถึงความแตกต่างของคุณภาพและราคาของฉากกั้นอาบน้ำนะคะ

วัสดุที่นิยมนำมาใช้

  • พลาสติก

หรือที่เราเรียกกันว่า ม่านพลาสติก เป็นอีกหนึ่งประเภทของฉากกั้นอาบน้ำที่เรานิยมใช้กันมานาน เพราะมีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง สามารถถอด – เปลี่ยนติดตั้งเองได้ มีน้ำหนักเบา ราคาถูก และสามารถหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดค่ะซึ่งก็มีให้เลือกทั้งแบบเป็นแผ่นพลาสติกและผ้าเคลือบพลาสติก โดยวัสดุนี้จัดว่ามีความทนทานอยู่พอสมควร กันความชื้นได้ แต่อาจกันน้ำได้ไม่ดีเท่าวัสดุแบบอื่นๆ และยังมีข้อควรระวังที่สำคัญก็คือเรื่องของเชื้อรา เพราะเป็นวัสดุที่สกปรกได้ง่ายหากไม่ทำความสะอาดเป็นประจำ ซึ่งหลายคนก็เลือกที่จะแก้ปัญหาด้วยการซื้ออันใหม่มาเปลี่ยนแทน ก็ถือว่าได้เปรียบเรื่องความสะดวก และสามารถเลือกลายและสีสันที่ชอบได้อีกค่ะ

ขอบคุณรูปภาพจาก www.cotto.com

  • อะคริลิค

เป็นวัสดุที่มีความโปร่งใส มีน้ำหนักเบา และสามารถรองรับการกระแทกได้มากกว่ากระจกถึง 15 เท่า แต่ในเรื่องความสวยงามยังแพ้กระจกอยู่ โดยความหนาทั่วไปของอะคริลิคที่ใช้จะอยู่ที่ 6 มม. ขึ้นไป สำหรับราคาก็จะถูกกว่ากว่ากระจกนะคะ ส่วนข้อเสียก็คือเมื่อใช้ไปในระยะยาวอาจเกิดคราบเหลืองบนผิวอะคริลิคได้ และต้องใช้ความระมัดระวังในการทำความสะอาด เพราะผิวของอะคริลิคจะเกิดรอยขีดข่วนได้ง่ายกว่ากระจกค่ะ

  • กระจก

เป็นวัสดุที่คนเลือกนำมาใช้เป็นฉากกั้นอาบน้ำมากที่สุด ด้วยดีไซน์ที่ดูสวยงาม และทำให้ห้องน้ำดูกว้างและโปร่งโล่งมากกว่า โดยราคาของฉากกั้นอาบน้ำประเภทนี้ก็จะขึ้นอยู่กับเกรดของกระจกนั่นเอง ซึ่งกระจกที่เลือกใช้ในปัจจุบันก็จะต้องเป็นกระจกนิรภัยที่มีความปลอดภัยสูง หรือที่รู้จักกันในชื่อ กระจกเทมเปอร์ (Tempered Glass) เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุที่อาจทำให้กระจกแตกขึ้นมา ลักษณะการแตกจะเป็นแบบเม็ดข้าวโพด ช่วยลดอันตรายที่จะเกิดกับเราได้

ส่วนกระจกอีกชนิดคือ กระจกลามิเนต (Laminated Glass) เกิดจากการนำกระจกเทมเปอร์หรือกระจกธรรมดาตั้งแต่ 2 ชิ้นขึ้นไปมาประกบกัน คั่นกลางด้วยแผ่นฟิล์ม SentryGlas แล้วอบด้วยความร้อน จุดประสงค์คือช่วยเพิ่มความแข็งแรงและทนทานให้กับกระจก ซึ่งกระจกประเภทนี้ก็จะมีความปลอดภัยมากกว่ากระจกชนิดอื่นๆ เพราะเมื่อกระจกแตก เศษกระจกจะยังยึดติดกัน ไม่ร่วงหล่น เพราะมีชั้นฟิล์มที่ยึดเกาะระหว่างแผ่นกระจกเหมือนกับใยแมงมุมค่ะ โดยกระจกลามิเนตนี้จะใช้กับฉากกั้นอาบน้ำที่มีความสูงเกิน 2.5 เมตร หรือว่ามีความกว้างมากกว่าปกติค่ะ

การติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำ

ปัจจุบันมีบริษัทที่ผลิตฉากกั้นอาบน้ำอยู่หลายยี่ห้อ ทั้งแบบตู้อาบน้ำสำเร็จรูปที่มีขนาดตามมาตรฐานและแบบสั่งตัด ที่จะวัดขนาดจากพื้นที่ใช้งานจริงโดยสามารถปรับเปลี่ยนวัสดุและเลือกดีไซน์เองได้ ซึ่งห้องน้ำตามบ้านหรือคอนโดส่วนใหญ่ ก็จะมีขนาดที่ไม่แตกต่างกันมาก ซึ่งสามารถแบ่งตามหลักสรีระศาสตร์ออกได้เป็นดังนี้

ขนาดมาตรฐานแบบเข้ามุมสมมาตร

  • 0.90 x 0.90 เมตร
  • 1.00 x 1.00 เมตร
  • 1.10 x 1.10 เมตร
  • 1.20 x 1.20 เมตร

ขนาดมาตรฐานแบบเข้ามุมไม่สมมาตร

  • 1.00 x 0.80 เมตร
  • 1.10 x 0.80 เมตร
  • 1.20 x 0.80 เมตร
  • 1.10 x 0.90 เมตร
  • 1.20 x 0.90 เมตร

โดยลักษณะการติดตั้งแบ่งออกเป็น 3 แบบหลักๆคือ แบบกั้นกระจกด้านเดียว แบบเข้ามุม 90 องศา และแบบมุมป้าน 135 องศา รูปแบบการเปิดก็จะมีทั้งแบบบานสวิง บานเลื่อน 2 ตอน บานเลื่อน 3 ตอน หรือบานเลื่อนแบบเข้ามุมโค้ง ก็เลือกได้ตามการใช้งานและความชอบเลยค่ะ ซึ่งก็อย่างที่ทราบกันว่าการเลือกซื้อฉากกั้นอาบน้ำปัจจุบัน สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่คลิกเข้าเว็บไซต์ หรือว่าจะไปตามห้างอย่าง Homepro , บุญถาวร , ไทวัสดุ IKEA ฯลฯ ก็มีฉากกั้นอาบน้ำให้เลือกหลากหลาย แถมด้วยบริการติดตั้งพร้อมรับประกันให้ด้วย

มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะพอเข้าใจแล้วว่า ทำไมราคาของฉากกั้นอาบน้ำถึงได้แตกต่างกันตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ทั้งวัสดุ ลักษณะการติดตั้ง แล้วยังอุปกรณ์เสริมต่างๆรวมถึงพื้นที่หน้างานของเรา ก็ส่งผลต่อราคาทั้งสิ้นนะคะ และบางคนอาจเริ่มคิดหนักว่าหากต้องการฉากกั้นอาบน้ำที่สวยงาม ปลอดภัยแล้วยังตรงใจคุณอาจต้องใช้งบประมาณที่สูง จากข้อมูลเบื้องต้นที่เรานำเสนอไป แค่เพื่อให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกับฉากกั้นอาบน้ำเพียงเท่านั้นก่อนนะคะ เพราะเรายังมี ‘ฉากกั้นอาบน้ำหลักพัน‘ ยี่ห้อต่างๆมาให้ทุกคนได้พิจารณาก่อนตัดสินใจ ว่าจะเลือกฉากกั้นอาบน้ำแบบไหนมาติดตั้งในบ้านของคุณ

ตารางเทียบยี่ห้อ ฉากกั้นอาบน้ำ

จากยี่ห้อที่ยกตัวอย่างมาจะเห็นได้ว่า มีงบประมาณไม่ถึงหมื่นก็สามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำที่มีคุณภาพได้ โดยราคาเหล่านี้ยังไม่รวมช่วงโปรโมชันที่อาจจะมียี่ห้ออื่นๆลดราคาลงมาให้เลือกกันได้อีกหลากหลายนะคะ อย่างยี่ห้อ Bath&Bath , Cotto , Kohler หรือ American Standard ซึ่งแบรนด์เหล่านี้ราคาส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 10,000 บาทขึ้นไปค่ะ โดยจะเป็นแบบขนาดมาตรฐานหรือตู้อาบน้ำสำเร็จรูปนั่นเอง สามารถเลือกซื้อได้ตามห้าง Homepro , บุญถาวร และไทวัสดุค่ะ

หรือหากใครที่มีส่วนอาบน้ำที่ขนาดไม่พอดีกับไซส์มาตรฐาน แล้วอยากใช้แบบสั่งทำ ราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 15,000 บาทขึ้นไปค่ะ โดยแบรนด์ต่างๆก็มีบริการให้ในด้านนี้อยู่นะคะ หรือใครสะดวกเป็นติดต่อกับช่างหรือผู้เชี่ยวชาญใกล้บ้านโดยตรงก็สามารถทำได้ แต่อย่าลืมศึกษาและนำข้อมูลที่ได้ไปประกอบการตัดสินใจ เพื่อจะได้ฉากกั้นอาบน้ำที่สวยงามและปลอดภัยด้วยนะคะ

Tips ทำความสะอาดอย่างไร เมื่อกระจกกลายเป็นคราบ

เป็นปัญหาสำหรับใครหลายๆคน ที่เมื่อใช้ฉากกั้นอาบน้ำไปนานๆแล้วเกิดคราบฝังแน่นติดอยู่บนกระจก เพราะคราบน้ำ คราบไคล คราบสบู่และเศษฝุ่นละอองที่ถูกเราชำระล้างออกมา รวมตัวกันกลายเป็นคราบขาวที่เกาะหนึบจนทำให้กระจกดูหม่นหมอง ยิ่งปล่อยไว้นาน ก็ยิ่งทำความสะอาดยาก และหากเผลอทำความสะอาดแบบไม่ระวัง ก็อาจทำให้กระจกเกิดเป็นรอยขีดข่วนได้ วันนี้เราจึงมี 5 วิธีดีๆมานำเสนอ เพื่อเปลี่ยนโฉมให้ฉากกั้นอาบน้ำของคุณกลับมาใสเหมือนใหม่ ทั้งยังใช้ได้กับกระจกอื่นๆในห้องน้ำด้วยนะ

1) น้ำส้มสายชู + น้ำยาล้างจาน 

เพราะน้ำยาขัดห้องน้ำอาจไม่ได้เหมาะกับการทำความสะอาดทุกพื้นผิว หนึ่งวิธีง่ายๆเพียงแค่ผสมน้ำยาล้างจานและน้ำส้มสายชูเข้าด้วยกัน ฉีดพ่นลงบนกระจกให้ทั่ว แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ก็สามารถใช้แรงขัดถูเบาๆให้คราบสีขาวฝังแน่นหลุดออกมาได้แล้ว

2) ขี้เถ้าแกรบ + โซดาไฟ

อีกหนึ่งสูตรที่จะมาช่วยเพิ่มความเงาให้กับกระจกห้องน้ำได้ด้วยนะคะ ซึ่งสูตรนี้อาจจะหาส่วนผสมยากกว่าสูตรแรกสักหน่อย และต้องเพิ่มความระมัดระวัง โดยการใส่ถุงมือยางทั้งเวลาที่ผสมน้ำยาและเวลาเช็ดทำความสะอาด เพราะโซดาไฟเป็นสารเคมีอันตรายที่อาจกัดมือเราได้ แต่ประสิทธิภาพก็ค่อนข้างคุ้มค่าเลยทีเดียว

3) น้ำมะนาว + น้ำสบู่ + น้ำส้มสายชู

เพราะคราบที่เกาะอยู่บนกระจกเป็นคราบไขมัน เราจึงต้องใช้สูตรที่สารมีฤทธิ์เป็นกรด อย่างมะนาวมาเป็นตัวช่วยดูบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้มีการใช้น้ำส้มสายชูไปแล้ว พอเอามาผสมกัน แล้วเพิ่มความเป็นด่างจากน้ำสบู่เข้าไปอีกนิด ก็จะทำให้ฉากกั้นอาบน้ำเราดูใส แวววาว น่าใช้งานขึ้นมาอีกครั้งเลยค่ะ

4) แอลกอฮอล์ + น้ำส้มสายชู

สูตรนี้นอกจากจะทำให้กระจกใสไร้คราบแล้ว ยังช่วยลดแบคทีเรียได้อีกด้วย โดยหลังจากทำความสะอาดกระจกด้วยน้ำแล้ว ผสมแอลกอฮอล์ 2 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยน้ำส้มสายชูอีก 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำเปล่าอีกพอประมาณ เขย่าให้ส่วนผสมทำปฏิกิริยากัน เท่านี้ก็จะได้น้ำยาทำความสะอาดง่ายๆ ที่จะช่วยคืนความใสให้กับฉากกั้นอาบน้ำแล้ว

5) แป้งข้าวโพด + น้ำส้มสายชู + แอลกอฮอล์

ไม่น่าเชื่อเลยว่าแป้งข้าวโพดก็สามารถจะนำมาใช้ทำความสะอาดกระจกได้ เพียงแค่ใช้แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำอุ่น 2 ถ้วยตวง ตามด้วยส่วนผสมสำคัญอย่างน้ำส้มสายชูและแอลกอฮอล์ คนให้ละลายเข้ากัน เพียงเท่านี้ก็จะได้น้ำยาสูตรแป้งข้าวโพดที่มีฤทธิ์ดูดซับฝุ่นและละอองคราบไขมัน ทำให้ฉากกั้นอาบน้ำของเรากลับมาใสเหมือนใหม่ได้อีกครั้ง

คราวหน้า Think of Living จะมีบทความอะไรดีๆมาฝากกันอีก อย่าลืมติดตามชมกันด้วยนะคะ