รีวิวฉบับที่ 950 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ Sena Avenue บางกะดี – ติวานนท์ โฮมออฟฟิศที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันกับโครงการคอนโด The Kith Lite บางกะดี – ติวานนท์ ที่เราเคยพาไปดูกันมาแล้ว โครงการนี้มีความพิเศษตรงที่เค้าติด Solar cell ไว้บนหลังคา สำหรับเป็นพลังงานใช้ในเวลากลางวันค่ะ โครงการตั้งอยู่บนถนนติวานนท์ มีแบบเดียวจำนวน 41 ยูนิต เค้าจะทำออกมาเป็นยังไงไปดูกันเลยค่าา

Fact @ 6 October 2015

  • Sena Avenue Bangkadi – Tivanon (เสนา อเวนิว บางกะดี – ติวานนท์)
  • บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี
  • เนื้อที่โครงการ 3-4-1 ไร่ จำนวน 41 ยูนิต
  • อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น หน้ากว้าง 4.4 เมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 188 ตารางเตร
  • ที่ดินแปลงมาตรฐาน 17.70 ตร.วา
  • ราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท
  • Update 1/8/2017 ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี พฤศจิกายน 2558
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ธันวาคม 2558
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 086-378-7789, 02-501-2710
  • Call Center : 1775 กด 27

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด :13.988393, 100.552271

ข้อมูลคอนโด

แผนที่จากทางโครงการค่ะ โครงการ Sena Avenue บางกะดี – ติวานนท์ ตั้งอยู่บนถนนติวานนท์ ฝั่งมุ่งหน้าปากเกร็ด โดยในแผนที่จะแสดงให้เห็นว่าโครงการอยู่ใกล้กับสวนอุตสาหกรรมบางกะดี, ตลาดพูนทรัพย์, ตลาดวัดมะขาม และสถานีรถไฟฟ้า MRT ที่ใกล้ที่สุด คือ สถานีปากเกร็ดและสถานีรังสิต เป็นสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีแดงเข้มซึ่งเป็นเส้นทางในอนาคตค่ะ

Sena Avenue บางกะดี - ติวานนท์ Map ใหญ่

โครงการ Sena Avenue  บางกะดี – ติวานนท์ ตั้งอยู่บนถนนติวานนท์มุ่งหน้าปากเกร็ด ทำเลโครงการอยู่ใกล้นิคมบางกะดี รอยต่อกรุงเทพ – ปทุมธานีเรียกได้ว่าเป็นชานเมืองแท้ๆ ด้วยความที่อยู่ใกล้นิคมบางกะดีจึงทำให้แถวๆนี้ มีรถใหญ่วิ่งผ่านไปมาเยอะ ทำให้บนถนนใหญ่มีเสียงค่อนข้างดังค่ะ พื้นที่รอบๆส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ มีทั้งหมู่บ้านดั้งเดิมและเพิ่งเกิดขึ้นมาใหม่อยู่หลายแห่ง ทำเลแถวนี้จึงเป็นทำเลที่ค่อนข้างเฉพาะเหมือนกันค่ะ เพราะใกล้แหล่งนิคมอุตสาหกรรมพื้นที่บริเวณนี้ในอนาคตอาจมีการพัฒนาไปได้อีกถ้ามีแหล่งงานเพิ่มมากขึ้นก็จะดึงคนมาอยู่อาศัยกันมากขึ้นด้วยเช่นกัน โครงการนี้จึงเหมาะสำหัรบคนที่ต้องติดต่อธุรกิจกับโรงงานในนิคมหรือต้องการหาออฟฟิศใกล้ๆนิคม

เส้นทางหลักที่จะใช้เข้าถึงโครงการจะเป็นถนนติวานนท์ ซึ่งถนนเส้นนี้เป็นถนน 6 เลนที่วิ่งยาวขนานกับแม่น้ำเจ้าพระยา มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่กรุงเทพมหานคร ผ่านอำเภอเมืองนนทบุรี ปากเกร็ด และสิ้นสุดที่จังหวัดปทุมธานี ถนนเส้นนี้จึงเป็นเส้นทางหลักที่ใช้เข้าออกกรุงเทพ – ปทุมธานี สามารถเชื่อมต่อสู่ถนนสายสำคัญได้หลายสาย ไม่ว่าจะเป็น ถนนแจ้งวัฒนะ, ถนนสรงประภา, ถนนรังสิต-ปทุมธานี และ ถนนวิภาวดีรังสิต เพราะฉะนั้นการเดินทางด้วยรถยนต์จึงถือว่าสะดวกเลยค่ะ ถ้ามาจากในเมืองก็สามารถมาทางถนนแจ้งวัฒนะ ลอดใต้อุโมงค์ผ่านห้าแยกปากเกร็ด เข้าเส้นติวานนท์มุ่งหน้าปทุมธานี หรือถ้ามาจากฝั่งรังสิตก็วิ่งมาเส้นรังสิต – ปทุมธานี มุ่งหน้าปทุมธานีเลี้ยวซ้ายเข้าถนนติวานนท์ที่แยกบ้านกลางค่ะ

หรือถ้าหากใครอยากหนีรถติดบริเวณห้าแยกปากเกร็ดก็สามารถวิ่งมาทางแจ้งวัฒนะมุ่งหน้าสะพานพระราม 4 แล้วเข้าซอยแจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 39 จะสามารถวิ่งผ่านเมืองทอง แล้วมาออกถนนประชาชื่น – ปากเกร็ดแล้วตรงไปจะมาออกเส้นติวานนท์มุ่งหน้าปากเกร็ด ที่แยกสวนสมเด็จ แล้วเลี้ยวขวาเพื่อเข้าเส้นติวานนท์มุ่งหน้าปทุมไปโครงการค่ะ

Sena Avenue บางกะดี - ติวานนท์ Map ทางด่วน

ส่วนจุดขึ้นลงทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็น จุดขึ้นลงทางด่วนอุดรรัถยาโดยออกจากโครงการวิ่งไปบนถนนติวานนท์มุ่งหน้าปทุมธานีไปประมาณ 2.4 กิโลเมตร ถึงบริเวณโรงพยาบาลเซนต์คาร์ลอสจะมีทางแยกเลี้ยวขวาขับไปบนถนนรังสิต – ปทุมธานี ขับไปประมาณ 1.3 กิโลเมตรจะถึงทางแยกเลี้ยวซ้าย ถ้าต้องการใช้ทางด่วนออกนอกเมืองให้เลี้ยวซ้าย แต่ถ้าหากต้องการใช้ทางด่วนเข้าเมืองให้เลี้ยวขวาลอดใต้ทางด่วน รวมระยะทางจากโครงการถึงทางขึ้นทางด่วนขาเข้าเมืองประมาณ 5.2 กิโลเมตร และขาออกจากเมืองประมาณ 4.4 กิโลเมตร

ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์อาจจะลำบากหน่อยค่ะเพราะมีรถเมลล์ผ่านแค่สายเดียวคือสาย 90 ปทุมธานี-นนทบุรี ซึ่งนานๆทีจะมาซักคันหนึ่ง หน้าโครงการก็ไม่มีพี่วิน ดังนั้นการเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวที่สะดวกที่สุดตอนนี้คงไม่พ้นเรียกใช้บริการพี่ Taxi ค่ะ ซึ่งค่อนข้างสะดวกเพราะผ่านหน้าโครงการบ่อย ถ้าจะเข้าเมืองก็นั่งมาลงแถวห้าแยกปากเกร็ด, เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ หรือที่เดอะมอลล์งานวงศ์วานก็จะมีรถตู้และรถเมลล์หลายสายเลยค่ะ แต่ในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าสายสีชมพู และแดงเข้มเสร็จการเดินทางอาจจะสะดวกขึ้นกว่านี้ แต่คงต้องรออีกหลายปีหน่อยค่ะ

The Kith Lite บางกะดี - ติวานนท์ Map ความอุดม

ความอุมสมบูรณ์ของบริเวณโครงการในระยะเดินมีน้อย แต่ถ้าขับรถขึ้นไปทางปทุมอีกหน่อยก็ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์พอสมควร เพราะมีทั้ง ตลาดพูลทรัพย์, ตลาดน้ำวัดมะขาม, รพ.เซนต์คาร์ลอส และ ม.ปทุมธานี แต่ถ้าหากอยากเดินห้างอาจจะต้องขับออกไปไกลหน่อยบนเส้นรังสิต – ปทุมธานี จะมีฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, เซียร์รังสิต, Tesco Lotus และย่านม.ธรรมศาสตร์, ม.กรุงเทพและ ม.รังสิต หรือจะขับลงมาทางแยกปากเกร็ดก็จะมีความอุมสมบูรณ์ค่อนข้างสูงเพราะมีทั้งตลาดสดศรีปากเกร็ด, ตลาดสดพิชัย, รพ.วิภารามปากเกร็ด ขยับมาอีกหน่อยบนเส้นแจ้งวัฒนะจะมี BigC Extra, HomePro และเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะแต่ขอบอกไว้นิดนึงว่าการจราจรแถวนี้ค่อนข้างคับคั่ง รถติดเป็นกิจวัตรเลยค่ะ

Sena Avenue บางกะดี - ติวานนท์ Map Route

การเดินทางไปโครงการของเราวันนี้จะเริ่มจากถนนแจ้งวัฒนะ บริเวณหน้าเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ เลี้ยวขวาที่ห้าแยกปากเกร็ดแล้วลอดอุโมงค์ออกไปยังเส้นติวานนท์ วิ่งตามทางผ่านแยกสวนสมเด็จ แยกปู่โพธิ์ แล้วกลับรถเข้าโครงการค่ะ ไปลุยกันเลย

เริ่มต้นเดินทางจากถนนแจ้งวัฒนะมุ่งหน้าสะพานพระราม 4 บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะอยู่ทางซ้ายมือนะคะ

เลยห้างเซ็นทรัลแจ้งมาหน่อยก็จะเห็นโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอลเซ็นเตอร์ทางซ้ายมือ สองฝั่งแถวนี้ก็จะมีทั้งร้านอาหารยิบย่อย โชว์รูมรถ และบ้านพักอาศัยส่วนตัวในซอยเหมือนพื้นที่ชานเมืองปกติ

ขับตามทางไปสักพักจะมีเส้นทางให้ออกไปถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ดซึ่งจะไปสิ้นสุดที่ถนนสามัคคี ส่วนสะพานที่เห็นด้านบนนั้นคือถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ดที่วิ่งมาจากถนนติวานนท์ค่ะ

ตรงไปเรื่อยๆมุ่งหน้าห้าแยกปากเกร็ด เราจะผ่าน Home Pro แวะช็อปของแต่งบ้านได้นะคะ

ผ่าน BigC Extra

ก่อนถึงห้าแยกปากเกร็ดจะเจอสะพานข้ามแยกทางขวามือ ที่จะเป็นถนนชัยพฤกษ์ เส้นทางไปยังสะพานพระราม 4 ค่ะ ส่วนเราจะยึดเส้นทางติวานนท์-ปากเกร็ดทางฝั่งซ้ายไว้นะคะ

The Kith Lite - เดินทาง8

ขวามือคือทางไปสะพานพระราม 4 อย่าเผลอขึ้นสะพานนะคะ ไม่งั้นไปยาวเลย

ขับตรงมาเรื่อยๆเห็นป้ายบอกทางทางซ้ายมือ เราเตรียมชิดขวาได้เลยค่ะ เราใกล้จะถึงห้าแยกปากเกร็ดกันแล้ว

ถึงห้าแยกปากเกร็ดเลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่ถนนติวานนท์

เมื่อเข้าสู่ถนนติวานนท์ ขับมาสักพักจะเจอโรงพยาบาลกรุงไทยทางซ้ายมือ

เห็นป้ายบอกทางไปปทุมธานีก็ขับตรงยาวไปเลยค่ะ จะเห็นว่าบนถนนสายนี้จะเริ่มมีรถบรรทุก รถส่งของขนาดใหญ่วิ่งกันแล้ว

ขับมาสักพักจะมีทางเบี่ยงออกซ้ายให้ ตรงนี้จะเบี่ยงออกไปเป็นถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ดเพื่อไปออกแจ้งวัฒนะค่ะ ส่วนเราก็ยังจะตรงไปเหมือนเดิม

ขวามือข้างศูนย์โตโยต้าจะเป็นถนนติวานนท์ – ปากเกร็ด 36 ที่สามารถลัดไปออกแจ้งวัฒนะได้อีกเช่นกันค่ะ

ขับมาเรื่อยๆจะเห็นวัดสลักเหนือในซอยติวานนท์ – ปากเกร็ด 31 ทางซ้ายมือ ใครอยากไหว้พระธรรมบุญก็แวะเข้าไปได้นะคะ

ถึงแยกสวนสมเด็จซ้ายมือไปบางบัวทอง ขวามือไปดอนเมือง ส่วนสะพานที่เห็นด้านบนคือสะพานข้ามแยกสวนสมเด็จ ส่วนเราตรงผ่านแยกไปเลยค่า

ผ่านแยกสวนสมเด็จมานิดนึงจะเห็น Tesco Lotus อยู่ทางซ้ายมือ

ตรงมาอีกหน่อยจะเห็นวัดอีกแห่งชื่อวัดโพธิ์ทองบนด้านซ้ายมือ สองข้างทางเร่ิมค่อนข้างเงียบเหงานะคะ แต่ว่าบนถนนเส้นนี้ทั้งซ้าย-ขวามือก็จะเห็นหมู่บ้านจัดสรรทั้งจากเจ้าใหญ่และเจ้าถิ่นเยอะมาก แต่กลับไม่ค่อยมีสิ่งปลูกสร้างให้ได้เดินเล่นเท่าไร

The Kith Lite - เดินทาง23

ขับมาเรื่อยๆพอเห็นป้ายนี้ก็ชิดขวาขึ้นสะพานเลยค่ะ ถ้าเราออกซ้ายจะเป็นถนนที่ไปบางบัวทองนะ

สะพานที่เราข้ามมานี้คือสะพานข้ามแยกปู่โพธิ์ค่ะ

เราตรงลงจากสะพาน  ส่วนทางซ้ายมือคือทางวนเพื่อกลับไปเส้นบางบัวทองอีกเส้นนึงค่ะThe Kith Lite - เดินทาง27

ตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอสามแยกไฟเขียวไฟแดง ซึ่งแยกขวาไปคือทางเข้าสวนอุตสากรรมบางกะดี

The Kith Lite - เดินทาง28

ตรงไปเรื่อยๆจะเห็นโครงการอยู่ทางขวามือ ก็ชิดขวาเตรียมตัวกลับรถเข้าโครงการได้เลยค่า

ทางเข้าโครงการจะอยู่ตรงกับที่กลับรถพอดี สามารถเลี้ยวเข้าโครงการได้เลย ที่เห็นเป็นที่เป่าลมโค้งๆสีน้ำเงิน แต่ค่อนข้างอันตรายถ้าใครขับไม่ถนัดแนะนำให้เลยไปหน่อย เพื่อไปกลับรถใต้สะพานตรงบริเวณรพ.เซ็นคาร์ลอสจากตรงนี้ประมาณ 2 กิโลมตร เพื่อเข้าโครงการนะคะ

The Kith Lite บางกะดี - ติวานนท์ Site Surrouding

บริบทโดยรอบโครงการจะมีทางเข้าหลักมาจากถนนติวานนท์ ฝั่งตรงข้ามถนนของโครงการจะเป็นที่ดินเปล่าแปลงไม่ใหญ่มาก เยื้องๆกันมีหมู่บ้านแนวราบโครงการใหญ่ที่เปิดอยู่ก่อนแล้ว ทิศเหนือของโครงการติดถนนข้างๆกับทางเข้าโครงการจะมีอพาร์ทเมนท์สูง 8 ชั้น เป็นอาคารที่สร้างมานานแล้วพอสมควร ส่วนที่ลึกเข้าไปหน่อยจะเป็นอาคารขนาดเล็กสูง 1 ชั้น ทิศตะวันตก คือฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นถนนและที่ดินเปล่าและโครงการ ของพฤกษา ทางทิศใต้ ติดกับที่ดินว่างเปล่าของเสนาเอง เป็นพื้นที่ที่รอการพัฒนาเป็นโครงการในอนาคต ส่วนทางทิศตะวันออก จะติดกับบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว ความสูง 2 ชั้น

ก่อนเข้าไปดูในตัวโครงการเรามาดูพื้นที่รอบๆกันอีกสักหน่อยนะคะ ด้านหน้าโครงการติดกับถนนติวานนท์ ฝั่งตรงข้ามคือที่ดินเปล่ารอการพัฒนา 

ถนนหน้าโครงการเป็นถนน 3 เลน เป็นเส้นมีรถใหญ่ผ่านบ่อย ทำให้มีเสียงดังรบกวนเข้ามาในโครงการบ้าง

ด้านขวามือติดกับอพาร์ทเม้นท์บ้านสวยมีบริการซักรีด และนวดแผนไทยด้วยนะ ส่วนเยื้องๆไปฝั่งตรงข้ามคือโครงการหมู่บ้านของพฤกษาค่ะ 

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • สวนอุตสาหกรรมบางกะดี 600 เมตร
  • ตลาดน้ำวัดมะขาม 3 กิโลเมตร
  • ทางด่วนอุดรรัถยา 3.4 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยปทุมธานี 3.2 กิโลเมตร
  • Riverdale golf club  1.3 กิโลเมตร
  • ตลาดพูนทรัพย์ 2 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ 14.2 กิโลเมตร
  • เดอะมอลล์งามวงศ์วาน 18.8 กิโลเมตร

 

 


เจาะลึกตัวโครงการ

tive

ภาพจำลองบรรยากาศ หน้าตาโดยรวมของโครงการ Sena Avenue บางกะดี-ติวานนท์ เป็น Home Office 3 ชั้น มีทั้งหมด 6 กลุ่มอาคาร รวม 41 ยูนิต โดยจะแบ่งได้เป็น 2 โซน คือโซนด้านหน้าที่เข้าถึงได้เลยไม่ต้องผ่านป้อมยาม ติดถนนภาระจำยอม  เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทำธุรกิจค้าขายเปิดหน้าร้าน จะได้ลูกค้าทั้งจากภายนอกและจากคอนโดด้านในค่ะ ส่วนโซนด้านในที่ต้องแลกบัตรเข้าไปจะเหมาะกับคนที่จะทำออฟฟิศ หรือเปิดบริษัท เพราะได้ความเป็นส่วนตัวและการคัดกรองคนเข้าออกขึ้นมาอีกระดับหนึ่งค่ะ ทุกยูนิตของโครงการนี้จะหันหน้าอาคารไปทางเดียวกันคือทางทิศใต้เฉียงไปทางทิศตะวันตกนิดหน่อยเพราะฉะนั้นหน้าอาคารจะได้รับแสงอาทิตย์และร้อนในช่วงเย็นมากกว่าช่วงกลางวัน แต่ไม่ร้อนมากเพราะไม่ได้หันไปทางทิศตะวันตกตรงๆ ส่วนที่จอดรถจะอยู่บริเวณด้านหน้าและด้านข้างของอาคาร เป็นที่จอดรถกลางแจ้งทั้งหมดค่ะ

garden_cms-upload_BFA22FBDDB2B5B50AA35A5B2959BD15B

ภาพจำลองบรรยากาศสวนหย่อมบริเวณป้อมยามด้านหน้าของโครงการ จะมีการลงหญ้า, ต้นไม้และทำทางเดินสั้นๆไว้ให้ ซึ่งเดี๋ยวจะมีของจริงให้ดูด้านล่างนะคะ

swim_cms-upload_6BCCBC8BAC77A4A523804741D0141EEA

ส่วนกลางอย่าง Club House, สระว่ายน้ำผู้ใหญ่ สระว่ายน้ำเด็ก, ห้องซาวน่าและห้องออกกำลังกายจะใช้ร่วมกันกับโครงการ The Kith Lite โดยเก็บค่าบริการแยกต่างหาก ไม่รวมในค่าส่วนกลางค่ะ

ข้อมูลคอนโด

แปลงที่ดินของโครงการ Sena Avenue จะอยู่บนที่ดินผืนใหญ่ของ Sena Development โดยผืนที่ดินแปลงใหญ่นี้จะแบ่งออกเป็นโครงการ Sena Avenue ซึ่งเป็นโครงการโฮมออฟฟิศอยู่ด้านหน้าและ The Kith Lite บางกะดี – ติวานนท์ อยู่ลึกเข้ามาด้านใน ซึ่งทั้ง 2 โครงการจะใช้ทางเข้าหลักเดียวกันแล้วมาแยกทางเข้าแต่ละโครงการด้านใน ทำเลตรงนี้มีข้อเสียเปรียบและได้เปรียบกว่าอาคารพาณิชย์ที่ติดถนนใหญ่อยู่นะคะ ข้อเสียเปรียบคือการมองเห็นหน้าร้านของคนที่ผ่านไปมาจะมีน้อยกว่าพวกที่อยู่ติดถนนใหญ่เลย ส่วนข้อได้เปรียบคือสภาพแวดล้อมจะดูเป็นสัดส่วนมากกว่าและมีที่จอดรถที่สะดวกกว่า

ทางเข้าหลักของโครงการจะอยู่บนถนนติวานนท์ ทางเข้าหลักตรงนี้จะมีป้าย Pole Sign ไว้ติดป้ายโฆษณา แต่ไม่มีป้อมยามนะคะ ป้อมยามจะอยู่ถัดเข้ามาด้านใน และมีรั้วโปร่งเปิด – ปิดได้ ที่ด้านหลังโครงการ เมื่อเข้ามาจากถนนใหญ่แล้ว ก็สามารถตรงต่อไปเพื่อไปอาคารโซนด้านหน้าหรือเลี้ยวไปทางซ้ายเพื่อแลกบัตรเข้าโซนด้านในค่ะ ส่วนการเดินรถจะแบ่งเป็นช่วงกลางวันและกลางคืน โดยช่วงกลางวันจะเป็นการเดินรถทางเดียวคือแลกบัตรเข้าโครงการแล้ววนออกมาทางถนนภาระจำยอม ส่วนกลางคืนโครงการจะปิดรั้วด้านหลังทำให้ต้องกลับรถวนมาออกที่ป้อมยามค่ะ

เนื้อที่ของโครงการ Sena Avenue จะอยู่ที่ประมาณ 3 ไร่เศษ มีทั้งหมด 6 กลุ่มอาคาร  ช่องว่างของแต่ละกลุ่มอาคารจะเว้นที่ไว้สำหรับการจัดสวนขนาดเล็กๆ หรือ Pocket Garden ส่วนพื้นที่จอดรถสามารถจอดรถยนต์ไม่รวมซ้อนคันได้ 78 คัน โดยที่จอดรถจะใช้การแบ่งซองบนถนนอาจจะต้องระวังนิดนึงเวลาถอยเข้าถอยออกนะคะ ซึ่งที่จอดรถ 78 คันเทียบกับ 41 ยูนิตแล้วเหลือเฟือค่ะ แต่ถ้าหากมองในแง่ของการพาณิชย์อาจจะพอดีๆ ค่อนไปทางน้อยถ้าเกิดทุกยูนิตมีลูกค้านำรถมาจอดพร้อมๆกันอาจจะไม่เพียงพอได้ค่ะ

สำหรับส่วนกลางของตัวโครงการ มีแค่สวนหย่อมบริเวณนิติ และ Pocket Garden ระหว่างกลุ่มอาคารเท่านั้นค่ะ ส่วนตัว Club House  จะต้องใช้ร่วมกันกับ The Kith Lite ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายแยกต่างหาก สำหรับคนที่เข้ามาใช้งาน ไม่รวมอยู่กับค่าส่วนกลางนะคะ (ซึ่งตอนนี้รายละเอียดราคายังไม่ออก ต้องรอประชุมลูกบ้านเพื่อตกลงค่าใช้จ่ายกันก่อน ถ้ามีรายละเอียดเพิ่มเติมแล้วจะมาอัพเดทให้นะคะ) การจัดการแบบนี้มีข้อดีตรงที่ค่าส่วนกลางที่ต้องจ่ายทุกๆเดือนจะมีอัตราการเพิ่มน้อยเพราะไม่ต้องรับผิดชอบตัว Club House ถ้าคนที่ไม่ได้ใช้ Club House หรือสระว่ายน้ำ เป็นประจำอยู่แล้วก็ถือว่าลดภาระค่าใช้จ่ายลงไปค่ะ

มาดูของจริงกันค่ะ ด้านหน้าโครงการจะมีป้าย Pole Sign ไว้ให้สำหรับติดชื่อร้านหรือบริษัทของลูกบ้าน ส่วนซุ้มโค้งจะเอาออกเมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ค่ะ

ทางเข้าโครงการซ้ายมือเป็นเลนรถเข้า ขวามือเป็นเลนรถออกจากโครงการ

หันไปดูทางขวานิดนึงจะเห็นป้อมยามชั่วคราว และสำนักงานขายของโครงการ The Kith Lite ซึ่งจะถูกรื้อเมื่อสิ้นสุดการขายค่ะ

เข้ามาในโครงการจะเจอถนนภาระจำยอมกว้าง 10 เมตร เป็นถนนเส้นหลักที่ใช้สำหรับเข้าโครงการ The Kith Lite ด้วยค่ะ

พื้นที่ติดกันคือที่ดินโล่งๆของเสนาที่ในอนาคตจะมีการพัฒนาเป็นเฟสอื่นๆค่ะ

สวนหย่อมและนิติของโครงการตอนนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์อาจจะดูแห้งเหี่ยวไปหน่อย แต่ตอนเสร็จเรียบร้อยแล้วอาจจะเขียวขจีกว่านี้นะคะ

ตรงนี้จะเป็นทางเข้าของโครงการ เป็นส่วนที่มีป้อมยามนะคะ อาคารที่กำลังก่อสร้างด้านในก็เป็นของโครงการค่ะ

หน้าตาโดยรวมของอาคารที่เกือบเสร็จแล้ว ชุดนี้เป็นชุดที่อยู่ติดถนนภาระจำยอม สามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องแลกบัตร  หน้าตาอาคารเรียบง่าย โทนสีที่ใช้คือน้ำตาลขาวมีระแนงพาดเชื่อมที่ระเบียงชั้น 2 และ 3 สำหรับตกแต่งไม่ช่วยในการกันแดดเท่าไหร่ค่ะ

ช่องที่เว้นระหว่างอาคารจะถูกจัดเป็น Pocket Garden สำหรับชุดนี้จะมีรั่วกั้นที่ด้านหลังด้วยนะคะ

ตรงเข้าไปอีกหน่อยจะเป็นส่วนของ Club House และ  The Kith Lite ค่ะ

ที่จอดรถของโครงการจะอยู่บนถนนด้านหน้าและด้านข้างของอาคาร ใช้การตีเส้นเป็นการแบ่งช่องจอด

ฟุตบาทหน้าอาคารแปลกดีค่ะ ปูพื้นราบ ไม่ยกระดับขึ้นมาแต่มีความกว้างพอสมควรตรงนี้ลูกบ้านอาจต้องต่อเติมหลังคากันสาดเองนะคะ เพราะถ้าช่วงไหนฝนตกหนักๆก็อาจจะเดินลำบากหน่อยนะคะ

อาคารแปลงมุมจะได้ช่องแสงเพิ่มขึ้นเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งสี่บานตามรูปค่ะ

สำหรับหลังคาของโครงการนี้จะมีการติดแผงโซลาร์ เซลล์ให้ทุกหลัง เป็นนโยบายใหม่ของเสนาที่จะเน้นเรื่องการประหยัดพลังงานค่ะ

แผงโซลาร์ เซลที่ติดเป็นของบริษัท First Solar ชนิด Thin Film ซึ่งเป็นแบบที่มีความสวยงามกว่าแบบทั่วไปและมีพื้นที่สัมผัสแสงอาทิตย์โดยตรงมากกว่าจึงผลิตไฟได้มากกว่าแผงโซลาเซลล์แบบทั่วไป ซึ่งแผงโซลาเซลที่ว่านี้จะถูกติดไว้บนหลังคาของโฮมออฟฟิศทุกหลังค่ะ เรียกว่า โซลาร์รูฟ การติดโซลาร์รูฟจะช่วยผลิตไฟให้ใช้ในช่วงกลางวัน แต่เก็บพลังงานไว้ใช้ช่วงกลางคืนไม่ได้นะคะ มีขนาดกำลังการผลิต 3.5 kw (525 หน่วย/เดือน) จะช่วยประหยัดเงินค่าไฟได้เฉลี่ย 3,200 บาท/เดือน และแผงโซลาร์นี้มีอายุการใช้งาน 25 ปี จึงทำให้ช่วยประหยัดเงินค่าไฟทั้งหมดไปได้ประมาณ 970,000 บาทค่ะ

สำหรับงานแถลงข่าวนโยบายติดแผงโซลาเซลล์ของเสนาสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Pocket Garden
  • ที่จอดรถ 73 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน 73  คัน คิดเป็น 178%
  • ระบบ CCTV 3 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • รปภ. 24 ชั่วโมง

ตัว Club House ที่ต้องจ่ายค่าบริการแยกไม่รวมกับส่วนกลาง

  • Club House
  • สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ สระผู้ใหญ่ขนาด 6.9 x 16.35 ลึก 1.5 เมตร สระเด็ก 4 x 11.4  ลึก 0.6 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย
  • Multi Purpose Room

 


Product Walkthrough

 

House Plan

 

ส่วนใหญ่แล้วการออกแบบ โฮมออฟฟิศ จะมีจุดเด่นตรงที่มีการออกแบบให้เราสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่การใช้สอยตามความต้องการได้ โดยส่วนมากมักจะจัดพื้นที่มาให้โล่งๆเผื่อให้กั้นห้องกันเอง หรือไม่ก็เตรียมโครงสร้างมาเผื่อการต่อเติมในอนาคตค่ะ สำหรับโครงการ Sena Avenue จะมีแบบบ้านเพียงแบบเดียว  เป็นโฮมออฟฟิศ 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 1 ห้องอเนกประสงค์ บนที่ดิน 17 – 27.80 ตารางวา หน้ากว้าง 4.4 เมตร ทุกอาคารจะหันหน้าติดถนนของโครงการ ไม่มีรั้วหน้าบ้านนะคะ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่จัดให้เห็นในแปลนเป็นเพียงแนวทางในการจัดพื้นที่ใช้สอยเท่านั้น บ้านมาตรฐานที่ซื้อขายกันจริงๆจะเป็นบ้านเปล่าไม่มีแถมเฟอร์นิเจอร์มาให้ มีแต่ปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 เซนติเมตรที่ชั้น 1 กระเบื้องเซรามิค 30 x 30 เซนติเมตร ที่ห้องน้ำ, ลานซักล้าง, เฉลียง และระเบียง พื้นลามิเนตที่ชั้น 2 และชั้น 3 ส่วนกำแพงเป็นกำแพงฉาบเรียบทาสี และติดตั้งสุขภัณฑ์ห้องน้ำยี่ห้อ Cotto ให้ค่ะ

มาดูที่แปลนบ้านกันค่ะ เริ่มที่ชั้น 1 เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอส่วนออฟฟิศ เป็นห้องขนาดประมาณ 8.80 x 4.0 เมตร สามารถเปิดเป็นหน้าร้านได้เอาของมาลงได้สำหรับธุรกิจค้าขาย หรือจะจัดเป็นส่วนต้อนรับหรือส่วนทำงานก็ได้ค่ะสำหรับใครที่จะทำบริษัทนะคะ ถัดไปด้านหลังจะเป็นห้องน้ำรวมของชั้นนี้, ส่วนทานอาหาร และครัวที่สามารถจัดเป็นแค่เคาน์เตอร์สำหรับชงกาแฟ อุ่นอาหารเล็กๆน้อยๆ หรือจะทำเป็นครัวแบบจริงจังก็ได้ค่ะ แต่แนะนำให้กั้นเป็นครัวปิดเพื่อป้องกันกลิ่นเข้ามาในส่วนของออฟฟิศด้วยนะคะ ส่วนหลังบ้านจะมีลานซักล้างและพื้นที่เหลือสามารถต่อเติมเป็นห้องเก็บของได้ค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 แปลนของชั้นนี้จะแบ่งเป็น 2 ห้องทำงานที่ใช้ห้องน้ำร่วมกัน การจัดแปลนดูง่ายๆค่ะ ขึ้นมาจะเจอห้องน้ำบริเวณโถงบันได ตรงนี้เนื่องจากตำแหน่งบันไดอยู่ตรงกลางบ้านทำให้การแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นด้านหน้าและด้านหลังอาคารอย่างชัดเจนค่ะ ห้องทำงานด้านหน้าจะเป็นห้องทำงานที่มีระเบียงในตัว ส่วนทางด้านหลังก็จะเป็นห้องทำงานอีกห้องที่ไม่มีระเบียงในตัวแต่จะมีช่องแสงมาให้ระบายอากาศค่ะ

สุดท้ายชั้น 3 การจัดวางแปลนจะเหมือนกับชั้น 2 มีห้องนอน 2 ห้องและห้องน้ำ 1 ห้อง แต่ห้องน้ำของชั้นนี้จะสามารถเข้าได้ 2 ทางคือจากโถงบันไดและห้องนอนด้านหลังค่ะ ถึงแม้ว่าการแบ่งห้องของชั้นนี้จะเหมือนกับชั้น 2 แต่เนื่องจากชั้นนี้จะมีความเป็นส่วนตัวที่มากกว่าจึงสามารถที่จะจัดเป็นห้องนอนหรือส่วนพักผ่อนได้ค่ะ หรือถ้าไม่ได้อาศัยที่นี่ก็สามารถทำสำนักงานทั้งหลังโดยให้ห้องบนสุดเป็นห้องผู้จัดการก็ได้ค่ะ

ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว การจัดฟังก์ชั่นของบ้านตัวอย่างก็เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้สนใจโครงการ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ อย่างเช่นต้องการจัดให้ทั้งหลังเป็นบ้านหมดเลย หรือต้องการให้เป็นที่ทำงานหมดเลยก็ยังได้ค่ะ เพราะพื้นที่ในโครงการค่อนข้างเปิด หากจะปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานก็สามารถทำได้ไม่ยากค่ะ นอกจากนั้นถ้าหากซื้อ 2 หลังติดกันก็สามารถทุบกำแพงเพื่อเชื่อมต่อกันเป็นห้องใหญ่ได้ไม่มีปัญหาค่ะ 

เรามาเริ่มที่ตัวบ้านกันบ้างค่ะ โดยบ้านตัวอย่างที่เราจะพามาดูเป็นบ้านแปลงมุม เฉลียงหน้าบ้านยกระดับขึ้นมาจากฟุตบาทประมาณ 15 เซนติเมตร และตัวบ้านจะยกระดับขึ้นมาอีกประมาณ 10 เซนติเมตร  ที่หน้าบ้านจะติดตั้งกริ่ง, มาตรวัดน้ำ และเต้าเสียบพร้อมฝาครอบมาให้ ส่วนประตูทางเข้าจะเป็นบานเลื่อนคู่ผสมบานติดตายชุดบน บานกรอบทั้งบานเป็นอลูมิเนียมอบขาว ซึ่งประตูแบบนี้จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียนะคะ ข้อดีคือมีความสวยงาม ประหยัดเนื้อที่ สามารถโชว์สินค้าด้านในได้ แต่ด้วยความที่เป็นเพียงกระจกหนา 5 มิลลิเมตร ทำให้ความปลอดภัยลดลงมาก ยิ่งเป็นอาคารพาณิชย์ที่ไม่มีการสแกนคนเข้าออกอย่างชุดนี้อาจจะเสี่ยงต่อการโดนงัดแงะได้นะคะ เพราะแค่หาอะไรมาทุบ กระจกก็แตกแล้ว แนะนำว่าควรติดประตูเหล็กดัดและสัญญาณกันขโมยด้วยจะปลอดภัยขึ้นค่ะ ส่วนบ้านโซนด้านในที่ต้องแลกบัตรเข้าออกก็จะมีความปลอดภัยขึ้นมาในอีกระดับนึง แต่ก็แนะนำให้ติดสัญญาณกันขโมยหรือกล้องวงจรปิดไว้ด้วยจะได้สบายใจกันนะคะ

ตรงเฉลียงทางเข้ามีไฟฝังฝ้ามาให้ 2 ดวง ใครที่คิดว่าแสงสว่างไม่เพียงพอก็สามารถติดเพิ่มได้ค่ะ

เฉลียงทางเข้ากว้างประมาณ 45 เซนติเมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร พร้อมขอบยางกันลื่น ระยะยื่นของเฉลียงตรงนี้ค่อนข้างแคบพอรองเท้าและวางที่เก็บร่มได้บ้าง แต่ไม่สามารถติดตั้งตู้วางรองเท้าได้นะคะ และเนื่องจากไม่มีทางลาด ถ้าหากว่ามีการขนของด้วยรถเข็นอาจก็ลำบากหน่อยแนะนำว่าทำทางลาดเพิ่มก็ได้ในกรณีที่ต้องขนย้ายด้วยรถเข็นค่ะ

มือจับประตูด้านนอกและด้านใน จับได้สะดวกดีค่ะ

เข้ามาในตัวบ้านจะเจอห้องโล่งๆอย่างนี้เลยค่ะ ที่เห็นคือส่วนออฟฟิศที่มีพื้นที่เชื่อมต่อไปยังส่วนทานอาหาร และส่วนครัวที่ด้านหลัง โดยโซนออฟฟิศด้านหน้านี้จะมีขนาดประมาณ 8.80 x 4.40 เมตร ฝ้าเพดานสูงประมาณ 3.4 เมตร ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาวครีม 60 x 60 เซนติเมตร (เปลี่ยนสเป็คจากพื้นลามิเนตเดิม) สามารถจัดเป็นส่วนงานต้อนรับและงานธุรการได้ หรือใครทำธุรกิจค้าขายจะจัดเป็นตู้โชว์ของก็ได้เช่นกันค่ะ

หันมาทางขวามือสามารถวางชุดโซฟาสำหรับนั่งคอยขนาดประมาณ 3 -4 ที่นั่งกำลังดี พร้อมโต๊ะกลางเล็กๆ ในกรณีที่จะทำชั้น 1 เป็นส่วนต้อนรับ หรือ จะถ้าจะวางชุดโต๊ะสำนักงานก็จะวางได้ประมาณ 2 ชุด  นอกจากนั้นจะเป็นตู้โชว์ของ ชั้นวางของสำหรับธุรกิจค้าขายก็ได้ค่ะ

ซ้ายมือมีที่สำหรับจัดเป็นเคาน์เตอร์ของพนักงานต้อนรับได้ 1 ชุด และหลังเคาน์เตอร์ต้อนรับก็ยังสามารถวาง ชุดโต๊ะสำนักงานได้ประมาณ 2 – 3 ชุดค่ะ จะเห็นว่าที่ชั้นนี้ให้เต้าเสียบมาด้านละ 1 – 2 ชุดเท่านั้น ซึ่งค่อนข้างน้อยไปสำหรับการเป็นโฮมออฟฟิศ ถ้าจะใช้ไฟเยอะคงต้องเดินสายไฟเพิ่มหรือใช้ปลั๊กพ่วงต่อกันเอานะคะ

จากหน้าบ้านสามารถเห็นท้องบันไดได้ชัดเจนเลยค่ะใครที่ไม่ชอบให้เห็นท้องบันไดแบบนี้จะกั้นเป็นห้องเก็บของก็ได้ แต่พื้นที่ใช้สอยด้านหน้าก็จะลดลง ได้อย่างเสียอย่างต้องเลือกเอานะคะ

ถัดมาจะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างส่วนออฟฟิศด้านหน้ากับส่วนหลังบ้านซึ่งจะเป็นครัวและส่วนทานอาหาร ซึ่งตรงนี้เป็นตำแหน่งที่เราสามารถกั้นผนังเป็นครัวปิดได้เพื่อป้องกันกลิ่นรบกวนค่ะ

เข้ามาส่วนหลังบ้านจะมีห้องน้ำรวมอยู่ทางขวา ส่วนพื้นที่โล่งด้านซ้ายคือส่วนทานอาหารที่สามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาดประมาณ 4 -6 ที่นั่งได้ค่ะ ติดกับส่วนทานอาหารด้านขวาจะเป็นครัว ส่วนช่องแสงจะให้มา 1 จุด ประตูที่อยู่ติดกันคือประตูออกไปยังลานซักล้างค่ะ

ห้องน้ำรวมจะอยู่ถัดมาจากบันได ผนังหน้าห้องน้ำจะเป็นพื้นที่สำหรับติดตั้งกล่องควบคุมวงจรต่างๆในบ้าน

ประตูห้องน้ำที่ได้จะเป็นบานประตูและวงกบไม้สำเร็จรูป

ห้องน้ำรวมลดระดับลงไปประมาณ 7 เซนติเมตร พื้นปูกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ผนังปูกระเบื้องลายหินอ่อนสีตามภาพ ห้องน้ำชั้นนี้ไม่มีส่วนอาบน้ำแต่มีโถสุขภัณฑ์ครบทั้งของผู้ชายและผู้หญิงค่ะ

อ่างล้างมือแบบลอยตัวพร้อมกระจกเงา ตัวอ่างล้างมือไม่มีเคาท์เตอร์เก็บของด้านล่าง แต่จะมีบ่าด้านหลังอ่างยาวไปจนสุดผนังไว้สำหรับวางของนิดๆหน่อยๆค่ะ

อ่างล้างมือกลมและก๊อกน้ำของ Cotto ขนาดอาจจะเล็กไปหน่อยนะคะ

โถสุขภัณฑ์ของ Cotto ตำแหน่งการติดตั้งสายชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่ถูกต้องตามมาตรฐาน

โถสุขภัณฑ์ของผู้ชายยี่ห้อ  Cotto

ในห้องน้ำจะมีท่อดูดกลิ่นและไฟฝังฝ้ามาให้ 1 ดวง

มาที่ส่วนครัวขนาดประมาณ 2.10 x 4.40 เมตร มีเต้าเสียบและเดินท่อน้ำมาให้เรียบร้อยพร้อมรองรับการติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวค่ะ พื้นที่ส่วนนี้ไม่ใหญ่เท่าไหร่ เราสามารถทำเป็นเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L ได้ค่ะเพื่อเพิ่มพื้นที่ส่วนเตรียมอาหารและติดตั้งอ่างล้างจานและเตา แต่ถ้าไม่ได้คิดจะทำครัวอะไรแบบจริงจังอยู่แล้วจะติดเคาน์เตอร์ที่ผนังฝั่งเดียว ไว้เป็น Pantry สำหรับอุ่นอาหาร ชงกาแฟนิดๆหน่อยๆก็ได้ค่ะ

สำหรับครัวจะมีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยวกรอบอลูมิเนียมอบขาว ข้างกันคือประตูออกไปลานซักล้างและพื้นที่สวนหลังบ้านค่ะ

ตัวล็อคหน้าต่างหน้าตาทั่วไปแบบนี้

ประตูหลังบ้านจะได้เป็นบานประตูสำเร็จรูป วงกบไม้สีขาว

ลูกบิดประตูหน้าตาธรรมดาๆ ซึ่งมีความปลอดภัยค่อนข้างน้อยแนะนำว่าให้ติดตัวล็อกเพิ่มเติมจะดีกว่าค่ะ

ลานซักล้างลดระดับจากตัวบ้านประมาณ 7 เซนติเมตร

เปิดประตูออกมาต้องยั้งมือหน่อยไม่มีตัวกันกระแทก เดี๋ยวผนังจะมีรอยลูกบิดประตูนะคะ

หลังประตูมีเต้าเสียบพร้อมฝาครอบมาให้ พร้อมก๊อกน้ำสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าค่ะ

พื้นลานซักล้างเป็นพื้นกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30 เซนติเมตร โดยจะปูมาให้เพียงครึ่งเดียวสำหรับเป็นพื้นวางตัวแทงค์น้ำ, ปั๊มน้ำ และเครื่องซักผ้า ส่วนอีกครึ่งจะปูเป็นหญ้าไว้ค่ะ นอกจากนั้นยังมีติดตั้งปั๊มน้ำและแทงค์น้ำมาให้ตามมาตรฐานบ้านทั่วไป

พื้นที่ส่วนที่ปูเป็นหญ้าจะมีบ่อบำบัดอยู่ตรงกลางไม่แนะนำให้ต่อเติมอะไรคร่อมบ่อบำบัดน้ำเสียนะคะ ถ้าจะเทปูนทับอย่าลืมทำฝาไว้สำหรับซ่อมบำรุงนะคะ

ฝั่งที่ปูกระเบื้องก็จะปูสุดแนวรั้ว รั้วหลังบ้านสูงประมาณ 2 เมตรค่ะ

พื้นที่หลังบ้านจะติดหลอดไฟฟลูออเรสเซนท์มาให้ 1 หลอดบริเวณเหนือประตูและหน้าต่าง ซึ่งดวงเดียวคงจะไม่เพียงพอ ต้องติดไฟเพิ่มเองนะคะ

ดูด้านบนกันหน่อยเราจะเห็นบันไดหนีไฟทางซ้ายและที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์บริเวณนอกหน้าต่างของชั้น 2 และ 3 ซึ่งการวางคอมเพรสเซอร์ในลักษณะนี้เวลามีการซ่อมแซมก็จะต้องให้ช่างเข้าไปในห้องเพื่อออกมาซ่อมจากทางหน้าต่างนะคะ

กลับมาที่บันไดขึ้นชั้น 2 จะอยู่กลางบ้านระหว่างส่วนออฟฟิศด้านหน้าและส่วนครัวด้านหลัง ตัวบันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตลูกตั้งและลูกนอนปิดด้วยไม้ทาสีค่ะ

ราวจับไม้ทาสี ขนาดมือจับพอดีๆแต่ผิวสัมผัสไม่ค่อยสบายมือเท่าไหร่ค่ะ ส่วนราวกันตกเป็นเหล็กทาสีขาว

ตัวบันไดจะมีชานพัก 2 ช่วง เป็นชานพัก 3 เหลี่ยมทั้งคู่ค่ะ ซึ่งชานพักแบบนี้ต้องเดินระวังนิดนึงนะคะ ถ้ารีบๆเดี๋ยวจะสะดุดล้มตกบันไดเอาได้

ขึ้นมาที่ชั้น 2 พื้นเป็นลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร ลายไม้สีตัดกับบันไดมาก

จากโถงบันไดไปเดี๋ยวเราจะพาไปดูห้องทำงาน 1 ห้องทำงาน 2 และห้องน้ำนะคะ

ก่อนจะเข้าห้องมาดูพื้นที่ตรงโถงบันไดกันก่อน พื้นที่ตรงนี้จะยื่นออกไปตามรูปทรงของบันไดทำให้เหลือพื้นที่สามารถวางตู้เก็บของเล็กๆได้ค่ะ ส่วนราวกันตกจะเชื่อมไปถึงบันไดขึ้นชั้น 3 ค่ะ

มาดูห้องทำงานห้องแรกกัน ห้องนี้ขึ้นบันไดมาจะอยู่ซ้ายมือ ความสูงฝ้าเพดานชั้น 2 และ 3 จะสูง 2.5 ค่ะ

พื้นเป็นลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตรสีเดียวกับโถงบันได เก็บงานด้วยตัวจบสีใกล้เคียงกับพื้น

ห้องทำงานห้องแรกนี้จะอยู่ส่วนหน้าของอาคาร มีระเบียงในตัว ห้องที่ได้มาจะเป็นห้องเปล่ามีชุดประตูกระจกบานเปิดคู่เป็นช่องแสงหลักสามารถติดม่านไว้กันแสงและบังสายตาได้ถ้าหากอยากได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มนะคะ

ห้องนี้จะได้ไฟฝังฝ้ามา 4 ดวง

ประตูที่ออกไปยังส่วนระเบียงเป็นกระจกบานเปิดคู่และบานติดตายกรอบอลูมิเนียม กระจกเขียวตัวแสง

ระเบียงลดระดับลงไปประมาณ 10 เซนติเมตร รางเลื่อนฝังไว้บนพื้นห้องเก็บงานด้วยตัวจบลามิเนตเรียบร้อยดีค่ะ

ระเบียงมีรูปร่างเป็นแนวยาว มีความกว้างประมาณ 90 เซนติเมตร สามารถวางไม้กระถางขนาดเล็กๆได้ค่ะ

รั้วระเบียงมีพื้นก่อขึ้นมา ทำให้ถ้าเกิดฝนสาดหรือล้างระเบียงจะมีน้ำขังอยู่ด้านใน แต่เนื่องจากมีจุดระบายน้ำเพียง 1 จุด อาจจะทำให้การระบายน้ำช้าซักนิดนะคะ

มุมมองจากระเบียงเป็นพื้นที่ว่างเปล่า ซึ่งในอนาคตจะมีการพัฒนาเป็นโครงการของเสนาค่ะ

มองไปทางขวาจะเห็นถนนติวานนท์และทางเข้าหลักของโครงการค่ะ

พื้นที่ห้องนี้สามารถจัดเป็นห้องทำงานของพนักงานซึ่งด้านนี้สามารถวางโต๊ะสำนักงานได้ประมาณ 2 – 3 ชุด หรือถ้าเป็นห้องของผู้จัดการก็จะมีพื้นที่สามารถวางโซฟา 2 -3 ท่ีนั่ง ไว้เผื่อเป็นส่วนรองรับแขกได้ค่ะ และเนื่องจากหลังที่เรามาดูกันเป็นแปลงริมจึงได้ช่องแสงด้านข้างเพิ่มอีก 2 จุด ถ้าเป็นหลังกลางก็จะเป็นผนังทึบไปนะคะ

ช่องแสงด้านข้างที่ได้จะเป็นชุดหน้าต่างบานกระทุ้งและบานติดตายกรอบอลูมิเนียมอบขาว เอาไว้ช่วยระบายอากาศให้ลมถ่ายเทได้ดีขึ้น

อีกด้านนึงก็สามารถวางชุดโต๊ะสำนักงานได้ 2 – 3 ชุดหรือเป็นโต๊ะใหญ่ของผู้จัดการก็ได้ค่ะ

หันกลับมาดูตรงประตูทางเข้าห้องกันหน่อย สำหรับห้องนี้สามารถเปิดประตูได้กว้างสุดโดยไม่ติดผนังส่วนไหนนะคะ และด้านหลังประตูจะมีพื้นที่เหลือเป็นช่องอยู่ ตรงนี้เราสามารถจะเอาตู้วางของมาวาง หรือจะ Built-in เป็นชั้นวางของเลยก็ได้นะคะ

ไปต่อกันที่ห้องน้ำและห้องทำงาน 2

พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ลดระดับลงมาประมาณ 7 เซนติเมตร  แยกส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจน

กระจกเงาขนาดพอดีๆ อ่างล้างมือของ Cotto ท็อปหินแกรนิต ไม่มีที่เก็บของด้านล่างแต่มีบ่าวางของให้ยาวไปจนถึงส่วนอาบน้ำค่ะ

สุขภัณฑ์ของ Cotto ตำแหน่งการติดตั้งโถสุขภัณฑ์ถูกต้องตามมาตรฐาน

ส่วนอาบน้ำมีธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 7  เซนติเมตร พื้นที่อาบน้ำพอดีๆไม่คับแคบเกินไปค่ะ ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้สามารถติดเพิ่มเองได้ และทางโครงการทำกำแพงกั้นมาให้ส่วนหนึ่งแล้ว

ฝักบัวอาบน้ำ Cotto ขนาดค่อนข้างเล็กไปนิด

มาต่อกันที่ห้องทำงาน 2 จะอยู่ติดกับบันไดขึ้นชั้น 3 ค่ะ

ห้องทำงานห้องนี้จะอยู่ส่วนหลังของอาคาร ห้องที่ได้มาจะเป็นห้องเปล่ามีช่องแสงบานใหญ่เพียงจุดเดียว ห้องนี้มีขนาดที่ใหญ่เพียงพอให้ทำเป็นห้องประชุมหรือห้องผู้จัดการได้ค่ะ

ห้องนี้จะได้ไฟฝังฝ้ามา 4 ดวง

หน้าต่างบานเปิดคู่และบานติดตาย วิวด้านหลังจะเป็นอาคารอื่นๆของโครงการแนะนำให้ติดมู่ลี่หรือม่านบังสายตาเพื่อกันแสงแดดและเพิ่มความเป็นส่วนตัวนะคะ

ห้องนี้สามารถวางโต๊ะประชุมขนาด 8 -10 ที่นั่ง และเนื่องจากห้องทำงานห้องนี้มีขนาดใกล้เคียงกันกับห้องทำงานห้องแรก ทำให้ถ้าจัดเป็นห้องทำงานก็สามารถวางชุดโต๊ะสำนักงานได้ประมาณ 2 -3 ชุดเท่าๆกันกับห้องทำงานห้องแรกค่ะ

กลับมาดูตรงประตูทางเข้าจะเหลือซอกเล็กๆสามารถวางตู้ใส่ของ, ตู้เก็บเอกสาร หรือโต๊ะวางอาหารว่างสำหรับห้องประชุมได้ค่ะ

บันไดขึ้นชั้น 3 และโถงบันได จะมีสเปคเดียวกันกับบันไดที่ขึ้นมาจากล่าง

ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเป็นชั้นที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งชั้นนี้ทางโครงการก็จัดแปลนมาให้เป็นห้องนอน 2  ห้องและห้องน้ำ 1 ห้อง ถ้าใครจะทำเป็นห้องนอนก็สามารถทำประตูกั้นปิดแยกชั้นไปเลยก็ได้จะมีความปลอดภัยและเป็นสัดส่วนมากขึ้น

โถงบันไดมีที่เหลือมากกว่าชั้น 2 เนื่องจากไม่ต้องเสียพื้นที่ให้กับบันไดขึ้นชั้น 2 พื้นที่ตรงนี้เรามารถวางโต๊ะเล็กๆ 1 – 2 ที่นั่งหรือเป็นตู้เก็บของก็ไต้ค่ะ

มาดูห้องนอนห้องแรกกันก่อนค่ะ

ห้องนอนห้องแรกถูกวางไว้ด้านหน้าของอาคาร ห้องนี้เป็นห้องเปล่ารายละเอียดเหมือนห้องทำงาน 1 ที่ชั้น 2  คือมีระเบียงในตัว มีช่องแสงเป็นประตูกระจกบานเลื่อนคู่ถ้าหากจะจัดห้องนี้ให้เป็นห้องนอนแนะนำว่าควรติดม่านเพื่อความเป็นส่วนตัวด้วยนะคะ ส่วนตำแหน่งการวางเตียงสามารถวางเตียงขนาดคิงส์ไซส์ หัวเตียงชิดผนังด้านซ้ายและขวา และยังมีพื้นที่เหลือข้างเตียงสามารถวางโต๊ะวางโคมไฟ นอกจากนั้นยังสามารถวางโต๊ะวางทีวีไว้ที่ปลายเตียงได้ด้วยค่ะ

ห้องนี้จะได้ไฟฝังฝ้ามา 4 ดวง

ฝั่งประตูทางเข้าก็จะเหลือซอกไว้เหมือนเดิม สามารถทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง, ชั้นวางของ หรือจะวางเป็นตู้เสื้อผ้าก็ได้ค่ะ

ส่วนระเบียงก็มีขนาดไม่ใหญ่เอาไว้วางคอมเพรสเซอร์แอร์หรือจะวางไม้กระถางเล็กๆก็ได้จะได้เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ดูสดชื่นขึ้นด้วย

ระเบียงมีไฟฝังมาให้ 2 ดวงทั้งชั้น 2 และ 3

มุมมองเดิมในระดับที่สูงขึ้น

วิวที่ได้จากชั้นนี้ก็จะเป็นที่ดินว่างเปล่ารอการพัฒนาของเสนา

ส่วนทางขวาจะเป็นตัว Club House และคอนโด The Kith Lite ที่กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ

ไปต่อกันที่ห้องน้ำและห้องนอน 2

พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ลดระดับลงมาประมาณ 7 เซนติเมตร  แยกส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจน อ่างล้างมือ สุขภัณฑ์ของ และฝักบัวของ Cotto ส่วนอาบน้ำไม่มีฉากกั้นมาให้ ส่วนตำแหน่งการติดตั้งเหมือนห้องน้ำที่ชั้น 2

ความต่างของห้องน้ำในชั้นนี้คือสามารถเข้าถึงได้จากโถงบันได และห้องนอน 2 ซึ่งจากตำแหน่งการวางประตูจะวางติดมุมห้องทั้ง 2 บาน เวลาเปิดมาอาจจะชนกันได้ ถ้าหากบานนึงถูกเปิดทิ้งไว้นะคะ

มาต่อกันที่ห้องนอนด้านหลังอาคาร มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนคู่เป็นช่องแสงขนาดใหญ่ถ้าจะจัดเป็นห้องนอนแนะนำว่าให้ติดม่านเพื่อความเป็นส่วนตัวด้วยนะคะ ส่วนตำแหน่งการวางเตียงสามารถวางเตียงขนาดคิงส์ไซส์ หัวเตียงชิดผนังด้านซ้ายและขวา และยังมีพื้นที่เหลือข้างเตียงสามารถวางโต๊ะวางโคมไฟ นอกจากนั้นยังสามารถวางโต๊ะวางทีวีไว้ที่ปลายเตียงได้ด้วยค่ะ หรือถ้าไม่จัดเป็นห้องนอน ห้องนี้ก็เหมาะกับการจัดเป็นห้องพักผ่อนได้เหมือนกันนะคะ โดยวางโซฟาขนาดประมาณ 3 – 4 ที่นั่ง และโต๊ะวางทีวีไว้ทางซ้ายและขวา อาจจะวางเก้าอี้นวดไว้ด้วยก็ได้ เพื่อผ่อนคลายหลังทำงานมาทั้งวันนะคะ

หันมาด้านประตูทางเข้าห้องบ้าง จะเห็นประตูเข้าห้องน้ำทางด้านขวา การที่มีประตูเข้าห้องน้ำตรงนี้ทำให้พื้นที่ด้านหน้าห้องน้ำไม่สามารถติดตั้งตู้หรือวางโต๊ะได้เหมือนห้องอื่นๆแล้ว สามารถวางไว้บริเวณหัวเตียงก็ได้ค่ะ แต่จะไม่เหลือพื้นที่สำหรับโต๊ะวางโคมไฟแล้วนะคะ

ประตูห้องน้ำที่เข้าจากห้องนอน ถึงแม้ว่าพื้นที่ที่เหลืออยู่หน้าประตูจะไม่สามารถวางตู้หรือโต๊ะได้แต่ก็ยังสามารถวางถังขยะหรือที่แขวนผ้าขนหนูได้ค่ะ

 

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 6 October 2015

  • อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 4 ห้องนอน 3  ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 188 ตารางเมตร
  • ห้อง HF – 32 ที่ดิน 17.70 ตารางวา ราคา 4.738 ล้านบาท  หรือ 267,683 บาท/ตร.วา
  • ห้อง HF – 33 ที่ดิน 17.60 ตารางวา ราคา 5.192 ล้านบาท หรือ 295,000 บาท/ตร.วา
  • ห้อง HF – 39 ที่ดิน 17.70 ตารางวา ราคา 5.60 ล้านบาท หรือ 316,384 บาท/ตร.วา
  • ห้อง HF – 38 ที่ดิน 17.80 ตารางวา ราคา 5.608 ล้านบาท หรือ 315,056 บาท/ตร.วา
  • ห้อง HF – 41 ที่ดิน 27.80 ตารางวา ราคา 6.708 ล้านบาท หรือ 241,294 บาท/ตร.วา

  • จอง 50,000 ทำสัญญา 200,000 บาท (ภายใน 7 วัน)
  • ดาวน์ 40,000 ผ่อนดาวน์ 1-3 งวด
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 80,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 95 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

โครงการ Sena Avenue บางกะดี – ติวานนท์ เป็นโครงการในโซนปทุมธานี ติดถนนใหญ่ติวานนท์ พื้นที่รอบๆส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ แต่เนื่องจากใกล้นิคมอุตสาหกรรมบางกะดี จึงทำให้พื้นที่แถวนี้จะเน้นการพัฒนาเพื่อรองรับนิคมอุตสาหกรรมบางกระดีบริษัทขนาดเล็ก-กลางก็จะกระจายตัวอยู่รอบๆเพื่อเป็น Supplier ให้กับบริษัทอีกที ส่วนอาคารอาคารณิชย์ก็ คล้ายๆกับคอนโดที่เติบโตตามขนาดของนิคมอุตสาหกรรม ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินมีน้อยมาก ต้องใช้รถหรือมอเตอร์ไซด์ในการเดินทาง แหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่อยู่ในระยะใกล้ที่สุดจะเป็นเส้นที่มุ่งหน้าปทุมธานี คือ ตลาดน้ำวัดมะขามและตลาดพูนทรัพย์ ถัดออกไปอีกหน่อยฝั่งรังสิตจะเป็นฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, เซียร์รังสิต และ Tesco Lotus หรือถ้าลงมาทางแยกปากเกร็ดก็จะมีทั้งตลาดสดศรีปากเกร็ด, ตลาดสดพิชัย, รพ.วิภารามปากเกร็ด ขยับมาอีกหน่อยบนเส้นแจ้งวัฒนะจะมี BigC Extra, HomePro และเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ

การเดินทางโดยใช้รถยนต์ดูจะเป็นทางที่สะดวกที่สุดสำหรับโครงการนี้ เพราะสามารถเดินทางเข้าออกเมืองได้ทั้งจากถนนติวานนท์ที่สามารถเชื่อมต่อสู่ถนนสายสำคัญได้หลายสาย ไม่ว่าจะเป็น ถนนแจ้งวัฒนะ, ถนนสรงประภา, ถนนรังสิต-ปทุมธานี และ ถนนวิภาวดีรังสิต นอกจากนั้นยังใกล้จุดขึ้นทางด่วนอุรรัถยาทั้งขาออกและขาเข้าเมือง ซึ่งห่างออกไปเพียง 4.4 และ 5.2 กิโลเมตร ส่วนเส้นทางการเดินทางบนถนนโซนนี้จะเป็นรถบรรทุกส่วนใหญ่ การจราจรขาออกจากเมืองมาโครงการคล่องตัว มีติดบ้างเป็นช่วงๆ ตรงบริเวณก่อนถึงแยกสมเด็จที่เป็นทางลัดเข้าอิมแพคเมืองทองธานี แต่การจราจรขาเข้าเมืองค่อนข้างติดหนักบริเวณห้าแยกปากเกร็ด และถ้าจะผ่านไปเส้นงามวงศ์วานบริเวณเดอะมอลล์งามวงศ์วานก็รถติดเยอะเช่นกันค่ะในช่างเช้าและช่วงเย็นๆหลังเลิกงาน

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ เรียกได้ว่าลำบากเลยทีเดียวค่ะ เพราะรถประจำทางที่ผ่านมีแค่สาย 90 สายเดียว พี่วินหน้าโครงการก็ไม่มี ถ้ารีบร้อนก็ต้องอาศัยพี่ Taxi เพื่อมาต่อรถอย่างเดียวเลย แต่ก็ยังดีที่หน้าโครงการมีพี่ Taxi ผ่านบ่อยนะ

วัสดุที่ได้มาส่วนใหญ่เกรดมาตรฐานปานกลางปกติทั่วไป ประตูและหน้าต่างเป็นวงกบอลูมิเนียมอบขาว บานกระจกสีเขียวตัดแสง ประตูทั้งหลังเป็นบานประตูสำเร็จรูป วงกบไม้ ส่วนพื้นห้องน้ำ, เฉลียง, ลานซักล้างปูกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร พื้นชั้น 1 ทั้งชั้นปูกระเบื้องเซรามิคขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ส่วนพื้นชั้น 2 และชั้น 3 ทั้งชั้นปูด้วยลามิเนต หนา 8 มิลลิเมตร ชุดอ่างล้างมือ สุขภัณฑ์ และฝักบัวที่ได้เป็นของ Cotto ไม่ได้ฉากกั้นอาบน้ำนะคะ ฝ้าเป็นยิปซั่มบอร์ด 9 มิลลิเมตร ฉาบเรียบทาสีชนิดกันชื้น สำหรับจุดเด่นของโครงการอยู่ที่ติดหลังคา Solar Cell มาให้ช่วยในการประหยัดค่าไฟต่อเดือนได้ค่ะ ส่วนในเรื่องการจัดฟังก์ชั่น นั้นคงจะต้องเลือกตกแต่งเองตามใจชอบเนื่องจากโครงการขายแบบ Standard คือเป็นแบบห้องเปล่าๆ และส่วนใหญ่ผู้ซื้อก็จะตกแต่งเองอยู่แล้วเพื่อให้เหมาะสไตล์ของธุรกิจที่แตกต่างกัน

รูปแบบของโครงการเป็นโครงการโฮมออฟฟิศบนเนื้อที่ 3 ไร่เศษ มีจำนวนแค่ 41 ยูนิต ถือว่าเป็นโครงการที่เล็กจึงค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวและไม่พลุกล่านค่ะ ในเรื่องสภาพโครงการ ถนนในโครงการกว้าง 10 เมตร และ 8 เมตร ถือว่ามาตรฐานไม่ได้มากกว่าหรือน้อยกว่าโครงการอื่นๆ การสัญจรภายในโครงการจะแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา คือเดินรถทางเดียววนรอบโครงการในกลางวัน ส่วนกลางคืนจะมีการปิดรั้วด้านหลังทำให้ต้องกลับรถมาออกตรงทางเข้า ถ้าใครจะประกอบกิจการที่รองรับการอยู่อาศัยของคอนโดด้านในก็ได้นะคะ อย่างร้านอาหาร, ร้านทำผม หรือร้านซักรีด แถมยังมีโอกาสในการดึงลูกค้าจากด้านนอกมาใช้บริการได้ด้วย

ตัวอาคารทำมาแบบเดียวเหมือนกันทุกหลัง คือเป็นโฮมออฟฟิศ 3 ชั้น 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ห้องทำงาน 2 ห้องนอน และ 3 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 188 ตารางเมตร หน้าตาของตัวอาคารมาในแบบ Modern เรียบง่าย เน้นโทนสีขาวและน้ำตาล ส่วนการออกแบบภายในอาคารเป็นแบบอาคารพาณิชย์ทั่วๆไปค่ะ หน้ากว้าง 4.4 เมตรดูจะเล็กไปหน่อยสำหรับการทำหน้าร้าน

ความปลอดภัยของโครงการ มีป้อมยาม รั้วไม้กระดก และ CCTV 3 จุดทั้งโครงการ โดยการแบ่งโครงการออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนด้านในที่ต้องผ่านป้อมยามและแลกบัตรเพื่อเข้าถึง กับส่วนด้านหน้าติดถนนภาระจำยอมที่สามารถเข้าถึงได้โดยไม่ผ่านป้อมยามเลยสักจุด ทำให้ระดับความปลอดภัยแตกต่างกัน ในแง่ของการอยู่อาศัยส่วนด้านในจะมีความปลอดภัยที่มากกว่าและส่วนที่อยู่ด้านหน้าแทบจะไม่มีการรักษาความปลอดภัยเลยทำให้ค่อนข้างมีความเสี่ยงสูงกว่าค่ะ แต่ถ้ามองในเชิงธุรกิจ การที่สามารถเข้าถึงตัวอาคารได้ง่ายก็จะเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการ ไม่ต้องคอยแลกบัตรวุ่นวาย ทำให้คนที่ตั้งใจทำธุรกิจที่ต้องอาศัยหน้าร้านจะได้ประโยชน์จากจุดนี้ไปเต็มๆนะคะ

Facility ของโครงการนี้จะมีแค่สวนหย่อมบริเวณนิติบุคคล และ Pocket Garden ระหว่างกลุ่มอาคารเท่านั้น ส่วนพื้นที่จอดรถสามารถจอดรถยนต์ไม่รวมซ้อนคันได้ 78 คัน ซึ่งที่จอดรถ 78 คันเทียบกับ 41 ยูนิตแล้วเหลือเฟือค่ะ แต่ถ้าหากมองในแง่ของการพาณิชย์แล้วก็ไม่มีความจำเป็นในการใช้งานสาธารณูปโภคเท่าไหร่ซึ่งถ้าใครที่ตั้งใจจะอยู่แล้วใช้งานจริงก็เสียค่าใช้จ่ายเป็นครั้งๆไปก็ได้ค่ะ เพราะตัว Club House ที่เห็นอยู่บริเวณด้านหลังโครงการ จะใช้ร่วมกันกับโครงการ The Kith Lite ซึ่งตัว Club House นี้จะเป็นกรรมสิทธิ์ของทางเสนาค่ะ การเก็บค่าใช้จ่ายในการใช้งานจะแยกต่างหากไม่รวมกับค่าส่วนกลางที่เราต้องจ่ายทุกๆเดือน จึงไม่นับรวมเป็น Facilitiy ของโครงการนะคะ  ส่วนเรื่องราคาในการใช้ตัว Club house แต่ละครั้งยังไม่มีกำหนด แต่ถ้ามีกำหนดค่าใช้จ่ายออกมาแล้วเราจะมาอัพเดทให้อีกครั้งค่ะ การจัดการแบบนี้มีข้อดีตรงที่ค่าส่วนกลางที่ต้องจ่ายทุกๆเดือนจะไม่รวมกับค่าบำรุงรักษาทุกอย่างใน Club House ถ้าคนที่ไม่ได้ใช้ส่วนกลางเป็นประจำอยู่แล้วก็ถือว่าลดภาระค่าใช้จ่ายในลงไปค่ะ

สรุปแล้ว หากมองในแง่ของนักลงทุน คนที่หาอาคารเพื่อทำธุรกิจสักที่ย่อมต้องการสิ่งสำคัญๆอย่างเช่น ทำเล ความคุ้มทุน การเข้าถึง หากพิจารณาถึงบริบทของพื้นที่โดยรวมแล้ว โครงการ Sena Avenue บางกะดี – ติวานนท์ ค่อนข้างเป็นทำเลที่ห่างไกลตัวเมือง แต่ถึงกระนั้นสภาพแวดล้อมรายรอบโครงการอยู่ในระยะนิคมอุตสาหกรรมบางกระดีและมีโครงการคอนโด The Kith Lite ซึ่งเป็นเครือเดียวกันอยู่ด้านหลัง รวมถึงบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮมที่อยู่เยื้องๆไปบนถนนฝั่งตรงข้าม ก็ถือว่ายังพอมีกลุ่มลูกค้าอยู่บ้าง ส่วนสภาพแวดล้อมในระยะไกลออกมาหน่อยจะเป็นโรงงานและโกดังสินค้ากระจายตัวกันอยู่ เพราะฉะนั้นกลุ่มลูกค้าของที่นี่ส่วนมากก็จะเป็นคนในพื้นที่, หนุ่มสาวที่ทำงานในนิคมฯ, ลูกบ้านของ The Kith Lite และขาจรที่ขับผ่านถนนติวานนท์เส้นติวานนท์ช่วงห้าแยกปากเกร็ดถึงแยกบ้านกลางหรือผู้ที่กำลังมุ่งหน้าไปปทุมธานีค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการที่โครงการจะประสบความสำเร็จได้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการบริหารและประเภทของธุรกิจที่นำมาลงทุนด้วยนะคะ
Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 4 – 6 ล้านบาท, 6 October 2015

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 –ตัวโครงการอยู่ในซอยแต่เข้าถึงง่ายใกล้ทางด่วนและนิคมอุตสาหกรรมบางกระดี ด้านหลังเป็นคอนโด ด้านหน้ามีหมู่บ้านของพฤกษา แต่ความอุมสมบูรณ์ในระยะเดินไม่มี และไกลตัวเมืองไปหน่อย 
  • ความปลอดภัยแยกเป็น

  • ส่วนด้านในที่ต้องผ่านป้อมรปภ.7.0/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน CCTV รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • และส่วนด้านนอกที่เข้าถึงได้เลย 6.5/10 – CCTV รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร

  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.0/10 – แบบธรรมดาหน้าแคบไปหน่อย แต่ให้พื้นที่มาครบ เอื้อกับการจัดฟังก์ชั่นเอง
  • วัสดุ 8.25/10 – ปานกลางสามารถให้ได้ดีกว่านี้
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.0/10 – มีแค่สวนหย่อมตรงนิติ และ Pocket Garden ระหว่างอาคาร
  • สาธารณูปโภค 0.0 /10 –ไม่มี ตัว Club House ที่มีอยู่คือของเสนา ใช้ร่วมกันกับ The Kith Lite จ่ายค่าบริการแยกต่างหาก ส่วนนี้จึงไม่นำมาคิดคะแนนนะคะ
  • 7.36 / 9.00 และ 7.27/9.00
  • BOTTOM LINE

    Sena Avenue บางกะดี – ติวานนท์ เหมาะสำหรับคนที่ต้องอาคารที่ทำเป็นหน้าร้านหรือออฟฟิศอยู่ในย่าน บางกะดี – ปทุมธานี  ทำเลใหล้จากนิคมอุตสาหกรรมอยู่ ไม่ไกลจากทางด่วนมากนัก มีทางเข้าติดถนนใหญ่ มีป้ายให้สังเกตง่ายและเน้นประหยัดพลังงานจาก Solar Cell ไม่ต้องการใช้ส่วนกลางมากนัก มีงบประมาณ 4 – 6 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 33,000 – 54,000 บาทต่อเดือนค่ะ

     

    ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

    สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )