รีวิวฉบับที่ 2613 กับ Private Nirvana MATII (ไพรเวท เนอวานา มาธิ) โครงการโฮมออฟฟิศสูง 4.5 ชั้น บนทำเลติดถนนลาดปลาเค้า ได้พื้นที่ใช้สอยเยอะ พร้อมลิฟต์ในตัว เหมาะสำหรับเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหาออฟฟิศที่สามารถใช้ทำธุรกิจก็สะดวก ใช้อยู่อาศัยก็ได้ความเป็นส่วนตัว ในราคาเริ่มต้น 25 – 30 ล้านบาท* โดย Highlights ที่น่าสนใจ จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันค่ะ

  • ทำเลติดถนนใหญ่ : โครงการตั้งอยู่ติดถนนลาดปลาเค้า โดยเป็นถนนหลักที่ไปเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย อยู่กึ่งกลางระหว่างความอุดมสมบูรณ์ย่านลาดพร้าว – รามอินทรา ใกล้รถไฟฟ้าทั้งสายสีเขียวและสายสีชมพู
  • การออกแบบส่วน Commercial : จัดมาได้เป็นสัดส่วน โดยเฉพาะพื้นที่ชั้น 2 และชั้นลอยที่ได้บันไดหลักอยู่ด้านนอก แตกต่างกับโครงการอื่นๆ ทำให้สามารถเดินขึ้น – ลงเชื่อมต่อกันได้ ไม่ปะปนกับพื้นที่ภายใน สะดวกในการใช้งานและแยกเพื่อปล่อยเช่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจ
  • บรรยากาศโปร่งโล่ง : การออกแบบเน้นการถ่ายเทอากาศที่ดี ฟังก์ชันภายในได้ช่องแสงมาทุกจุด มีพื้นที่ Double Volume เพิ่มความโปร่งโล่ง ด้านหน้าและด้านหลังอาคารยังมีระเบียงให้ทุกชั้น โดยจุดเด่นอยู่ที่ Courtyard ชั้น 3 ที่ได้เป็นพื้นที่สวน สามารถปลูกต้นไม้ ใช้งานได้จริง

ข้อมูลโครงการ

Private Nirvana MATII (ไพรเวท เนอวานา มาธิ) ณ วันที่ 29 กันยายน 2566

 ชื่อโครงการ   Private Nirvana MATII (ไพรเวท เนอวานา มาธิ)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท ไพรเวท เนอวานา จำกัด
 SEGMENT CLASS   HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนนลาดปลาเค้า เขตบางเขน กรุงเทพฯ
 ที่ดิน 12 – 0 – 45.7 ไร่
 จำนวนยูนิต  30 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • Home Office 4.5 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 36 – 45.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 470 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / พื้นที่สำนักงานชั้น 2 และชั้นลอย / 6 ที่จอดรถใต้อาคาร (2 ที่จอดรถภายนอก) / 1 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ
    – ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท*

 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   ชั้น 1 (ส่วนจอดรถสูง) 2.7 เมตร ชั้น 2 สูง 4.65 เมตร ชั้นลอยสูง 2.3 เมตร ชั้น 3 – 4 สูง 2.6 เมตร
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ                      350,000 บาท
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2565
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2568 (บางส่วน)
 เว็บไซต์โครงการ   คลิกที่นี่
 โทร   085 – 368 – 2003

 

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.849927, 100.604906
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากโครงการ แสดงตำแหน่งที่ตั้งของ Private Nirvana MATII (ไพรเวท เนอวานา มาธิ) โครงการโฮมออฟฟิศตั้งอยู่ติดถนนลาดปลาเค้า ซึ่งเป็นถนนที่สามารถไปเชื่อมต่อถนนได้ถึง 3 สาย คือ ถนนรามอินทรา , ถนนเกษตร – นวมินทร์และถนนพหลโยธินได้ รอบๆจัดเป็นย่านที่มีศักยภาพสูง มีแนวรถไฟฟ้าวิ่งผ่านทั้งสายสีเขียวและสีชมพู อยู่ห่างจากโครงการในระยะประมาณ 4 – 5 กิโลเมตร

ส่วนความอุดมสมบูรณ์จะอยู่บริเวณต้นซอย สำหรับคนที่ใช้รถส่วนตัวในการเดินทางจะสะดวกทีเดียวค่ะ หรือหากใครอยากเลือกใช้บริการรถสาธารณะ หน้าโครงการก็มีทั้งรถสองแถว แท็กซี่และวินมอเตอร์ไซต์ให้เลือกใช้ได้นะคะ ซึ่งจากทำเลของโครงการก็จัดว่าเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย สามารถใช้ถนนลาดพร้าว – วังหิน ถนนพหลโยธินวิ่งเชื่อมต่อเข้าสู่ใจกลางเมืองได้เลย หรือใครอยากจะไปใช้ทางด่วน ก็มีทางพิเศษฉลองรัชที่มีจุดขึ้น – ลงอยู่บนถนนประดิษฐ์มนูญธรรมอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 8 กิโลเมตร

สำหรับทำเลย่านนี้ โซนลาดปลาเค้าจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยซะส่วนใหญ่ มีโครงการให้เลือกทั้งแนวราบและคอนโด Low Rise แต่จะเป็นโครงการเก่าที่มีอายุ 5 – 10 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะโครงการโฮมออฟฟิศ หากเทียบกับฝั่งเลียบด่วนรามอินทราก็จะมีความคึกคักมากกว่า แต่โครงการ Private Nirvana MATII จะได้เปรียบในเรื่องพื้นที่ใช้สอยที่เยอะกว่า เมื่อเทียบกับราคาที่จ่าย และได้ความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนเพียง 30 ยูนิต

สำหรับความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ สามารถแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆที่มีความคึกคักไม่แพ้กันเลย นั่นก็คือ

  • โซนเกษตรนวมินทร์ เป็นเส้นที่มีร้านค้า ร้านอาหาร และ Community Mall ให้เลือกหลากหลาย ทั้ง The Walk , ตลาดหัวมุม และ Navamin City Avenue ทั้งยังเป็นโซนที่เชื่อมต่อไปฝั่งพหลโยธิน และลาดพร้าว – วังหินได้
  • โซนเลียบด่วนรามอินทรา หรือบนถนนประดิษฐ์มนูญธรรม เป็นเส้นที่มีความคึกคักตลอดทั้งสาย มีห้างใหญ่ติดถนนหลักอย่าง Central Festival East Ville , CDC , The Crystal ฝั่งถนนรามอินทราก็มี Central รามอินทรา , Lotus , Big C ให้เลือกจับจ่ายกันได้หลากหลาย

ส่วนถนนลาดปลาเค้าเองก็มี Community อย่าง The Jas รามอินทรา , ตลาดเดินเพลิน , Big C Extra และตลาด กม.2 อยู่ด้วย

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สภาพแวดล้อมรอบ Private Nirvana MATII (ไพรเวท เนอวานา มาธิ) โครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ พื้นที่โดยรอบเป็นชุมชนที่อยู่อาศัย จึงเป็นทำเลที่มีความคึกคัก มีรถสัญจรผ่านเข้า – ออกตลอด ด้านหน้าฝั่งที่ติดถนนลาดปลาเค้าจะเป็นร้านค้าและอาคารพาณิชย์สูง 3 – 4 ชั้น ในซอยติดกันมีอพาร์ทเม้นอยู่ 2 – 3 แห่ง แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด จึงไม่รบกวนการอยู่อาศัยมากนักค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ อาคารแนวราบ , บ้านพักอาศัย
  • ทิศใต้ ติดกับ ถนนลาดปลาเค้า
  • ทิศตะวันออก ติดกับ อาคารพาณิชย์สูง 3 – 4 ชั้น ,  อพาร์ทเม้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินเปล่า ,  อาคารแนวราบ

Image 1/3
บรรยากาศด้านหน้าโครงการ ฝั่งติดถนนลาดปลาเค้า

บรรยากาศด้านหน้าโครงการ ฝั่งติดถนนลาดปลาเค้า

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • The JAS รามอินทรา ~ 1.5 กิโลเมตร
  • Nawamin City Avenue ~ 3.4 กิโลเมตร
  • Big C Extra รามอินทรา ~ 4.1 กิโลเมตร
  • Central รามอินทรา ~ 4.6 กิโลเมตร
  • The Walk เกษตร – นวมินทร์ ~ 5.5 กิโลเมตร
  • Chic Republic ~ 7.3 กิโลเมตร
  • Crystal Design Center (CDC) ~ 8 กิโลเมตร
  • Central Eastville ~ 8.8 กิโลเมตร
  • ตลาดเลียบด่วนรามอินทรา ~ 8.8 กิโลเมตร
  • Central ลาดพร้าว ~ 8.9 กิโลเมตร
  • ตลาดหัวมุม ~ 9.2 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลเปาโล เกษตร ~ 5.2 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลเฉพาะทางกระดูกและข้อ kdms ~ 5.9 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลวิภาวดี งามวงศ์วาน ~ 6.2 กิโลเมตร
  • Navavej International Hospital ~ 7.5 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ~ 6 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยศรีปทุม ~ 4.3 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 8.3 กิโลเมตร

การเดินทาง

  • รถไฟฟ้าสายสีชมพู ~ 4 กิโลเมตร
  • รถไฟฟ้าสายสีเขียว ~ 5 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

Private Nirvana MATII (ไพรเวท เนอวานา มาธิ) เป็นโฮมออฟฟิศ 30 ยูนิต ติดถนนลาดปลาเค้า บนเนื้อที่กว่า 13 ไร่ เป็นโครงการใหม่จาก Private Nirvana จาก Masterplan จะเห็นว่าที่ดินโครงการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนโฮมออฟฟิศอยู่ด้านหน้าติดถนนใหญ่ และด้านหลังเป็นโครงการบ้านเดี่ยว (Private Nirvana 19 Residence) จะมีซุ้มประตูทางเข้า – ออกแยกกันอย่างชัดเจน ลักษณะเป็นเหมือน Double Gate ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวให้กับส่วนพักอาศัย

การวางผังอาคาร โฮมออฟฟิศจะวางตัวขนานไปกับแนวทิศเหนือ – ใต้ ได้ข้อดีคือหน้าบ้านไม่ต้องรับแดดร้อนในช่วงบ่าย ทิศเหนือจะร่มตลอดวัน ส่วนทิศใต้เป็นทิศที่ได้ลมเข้าทางหน้าบ้าน ด้วยจำนวนยูนิตที่น้อย ทำให้โครงการยังได้ความสงบ ไม่พลุกพล่านมาก ด้านหน้าและด้านข้างมี Public Parking ไว้รองรับบุคคลภายนอกที่มาติดต่อ หรือพนักงานในบริษัททำให้ไม่ต้องจอดรถออหน้าบ้าน กีดขวางการสัญจร

สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวมากหน่อย ก็มีตำแหน่งของโฮมออฟฟิศที่ไม่หันหน้าชนกับใคร (กรอบสีขาว) โดยจะอยู่บริเวณด้านหน้าติดกับที่จอดรถสาธารณะ ได้ข้อดีอีกอย่างคือเข้าถึงได้ง่าย สะดวกกับผู้มาติดต่อ อีกฝั่งจะอยู่บริเวณด้านหลังโครงการ หันหน้าหาถนน โดยในโซนนี้จะได้วิวพื้นที่สวนหย่อม ซึ่งอยู่ติดกับโครงการบ้านเดี่ยว

อีกจุดที่น่าสนใจของโครงการ Private Nirvana MATII คือพื้นที่ Future Development ด้านหน้าโครงการ โดยข้อมูลเบื้องต้นจะมี Facility ที่จัดมาเพื่อเสิร์ฟลูกบ้านที่อยู่ด้านในได้ อาจเป็นฟิตเนส หรือ Community ขนาดเล็ก สำหรับรายละเอียด ก็ต้องรอติดตามกันต่อในอนาคตนะคะ

บรรยากาศซุ้มประตูทางเข้าด้านหน้าโครงการ จากถนนลาดปลาเค้า มองเห็นได้อย่างชัดเจน รูปทรงอาคารดูเรียบง่าย แต่มีการใช้วัสดุที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติอย่างหินและไม้มาตัดกันทำให้ดูโดดเด่น

ด้านหน้าทางเข้ามีป้ายของทั้งโครงการ Private Nirvana MATII และ Private Nirvana 19 Residence ที่อยู่ด้านใน มองเห็นได้ง่าย

ทางเข้า – ออกโครงการแยกเป็น 2 ฝั่งชัดเจน ตรงกลางคั่นด้วยป้อมรปภ.มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้ 24 ชั่วโมง การเข้า – ออกจะใช้ระบบ Bluetooth ควบคู่กับไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ ด้านข้างมีทางเดินให้คนเข้า – ออก สะดวกกับพนักงานที่ใช้รถสาธารณะ ก็สามารถมาลงที่หน้าโครงการ แล้วเดินเข้าไปทำงานได้เลย

เข้ามาภายในโครงการจะเจอกับถนนหลักกว้าง 10 เมตร ซึ่งเป็นถนนเชื่อมต่อไปยังโครงการบ้านเดี่ยวที่อยู่ด้านหลัง ส่วนถนนซอยภายในโครงการกว้าง 9 เมตร รถขับสวนกันได้สะดวก ด้านหน้าและด้านข้างโครงการจะมีพื้นที่จอดรถสาธารณะเอาไว้รองรับ

รอบๆตกแต่งด้วยไม้พุ้มและต้นไม้ขนาดใหญ่ ช่วยให้ร่มเงาและเพิ่มความสดชื่น โดยภายในโครงการจะเอาสายไฟลงดินทั้งหมด ทำให้บรรยากาศโดยรวมดูเรียบร้อย ไม่มีสิ่งรบกวนสายตา

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการและอาคารนิติบุคคล
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 10 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • การเข้า – ออกโครงการใช้ระบบ Bluetooth ควบคู่กับไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ

แบบบ้าน

Private Nirvana MATII (ไพรเวท เนอวานา มาธิ) เป็นโฮมออฟฟิศสูง 4.5 ชั้น ได้ฟังก์ชันชั้นลอย มาในสไตล์ MINIMAL NATURAL MODERN ดูเรียบง่าย แต่ทันสมัย ได้บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ ส่วนฟังก์ชันเน้นการใช้สอยที่สะดวก เอื้อต่อการทำธุรกิจ แต่ก็ยังได้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย สังเกตได้จากลักษณะอาคาร ตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้นลอย ซึ่งสามารถจัดเป็นสำนักงาน จะได้ความเปิดโล่ง ให้ความรู้สึกของพื้นที่ Public Space เข้าถึงง่าย

ส่วนชั้น 3 – 4 จะมีการใช้ระแนงบังสายตาที่ด้านหน้า เพิ่มความเป็นส่วนตัว เหมาะเป็นพื้นที่พักผ่อน โดยรูปแบบบ้านจะได้พื้นที่ใช้สอย 470 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 36 ตร.วา รองรับฟังก์ชัน  2 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 8 ที่จอดรถ ในราคาเริ่มต้น 25 – 30 ล้านบาท* จัดเป็นโฮมออฟฟิศขนาดใหญ่ในโซนลาดปลาเค้า ที่มาพร้อมลิฟต์ในตัวทุกยูนิต ได้ระบบรักษาความปลอดภัยมาแบบครบครัน และ Solar System ติดตั้งมาให้บนชั้นดาดฟ้า โดยรายละเอียดที่น่าสนใจในบ้าน จะมีอะไรอีกบ้าง ไปชมกันเลยค่ะ

วัสดุต่างๆ ในบ้าน

  • โครงสร้างหลังคา : คอนกรีตเสริมเหล็ก , ทำระบบกันซึมหลังคา
  • โครงสร้าง Conventional ก่ออิฐมอญตัน และอิฐมวลเบา ผิวฉาบเรียบทาสี
  • พื้นชั้น 1 ส่วนจอดรถปูกระเบื้อง MDC
  • พื้นชั้น 2 – ชั้นลอย : กระเบื้องยาง SPC
  • พื้นชั้น 3 – 4 : Engineering Wood
  • บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก  : กระเบื้อง MDC
  • ลิฟต์โดยสาร HITACHI (ความจุ 4 คน รับน้ำหนักรวม 280 กิโลกรัม) ใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือ
  • สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจากยี่ห้อ KOHLER , ENGLEFIELD (ที่ห้องแม่บ้าน)
  • เครื่องทำน้ำร้อน 2 เครื่อง (STIEBEL ELTRON) ในห้อง Master Bedroom
  • สวนชั้น 3 ให้สวนมาตรฐาน + ต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น และระบบกันซึมเพื่อทำสวน
  • กระจกเขียวตัดแสงหนา 6 มม. และ 8 มม. , กระจกชั้น 2 หน้าอาคารเป็นกระจก INSULATED GLASS
  • วงกบประตู – หน้าต่าง YKK ชั้น 3 – 4 , วงกบไม้เนื้อแข็งและ WPC , วงกบเหล็กภายใน – ภายนอก
  • ชั้น 2 แอร์แบบ 4 ทิศทาง 24000 Btu จำนวน 2 เครื่อง จาก Daikin
  • ชั้นลอย แอร์ดัก 18000 Btu จำนวน 1 เครื่อง จาก Daikin
  • ชั้น 3 แอร์แบบ 4 ทิศทาง 24000 Btu จำนวน 2 เครื่อง จาก Daikin
  • ชั้น 4 แอร์ Wall Type 24000 Btu และ 1800 Btu จำนวน 2 เครื่อง
  • ระแนงอลูมิเนียมลายไม้ทำสี
  • ปั๊มน้ำ GRUNDFOS (เยอรมัน)
  • รั้วกำแพงด้านหน้าภายนอกได้รับการเผื่อโครงสร้างไว้เพื่อการต่อเติมหลังคาในอนาคต
  • ตู้จดหมายรองรับกล่องพัสดุได้
  • สวิตช์และปลั๊กไฟจาก Panasonic (หรือเทียบเท่า)

เทคโนโลยีในบ้าน

  • Digital Door Lock 1 ตัว จากยี่ห้อ Hafele ที่ชั้น 3 (ใช้ได้ 5 ระบบคีย์การ์ด , กดรหัส , สแกนลายนิ้วมือ , Bluetooth , กุญแจ)
  • กล้อง CCTV 4 จุด
  • ระบบ Fire Alam System (แจ้งเหตุเพลิงไหม้)
  • ระบบ Surge Protection Device (ระบบกันไฟกระชาก)
  • ระบบกันขโมย Burglar Alarm System
  • สัญญาณกันขโมย 6 จุดชั้น 3 และ 4 , Smoke Detector 1 จุด
  • ม่านไฟฟ้าชั้น 2 ควบคุมด้วยรีโมท
  • Auto Door ระบบ Touchless ที่ชั้น 2 และชั้นลอย
  • ระบบ Solar system ติดตั้งให้บนชั้นดาดฟ้า
  • ระบบเติมอากาศสะอาดในห้อง Master Bedroom ชั้น 4
  • ระบบไฟฟ้าใต้ดิน มี Junction รองรับการติดตั้ง Ev Charger ได้ 2 จุด

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ


Home Office หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 470 ตร.ม.

แปลนของอาคารเริ่มที่ชั้น 1 จะแบ่งการใช้งานเป็น 2 ฝั่ง คือส่วนพื้นที่จอดรถที่สามารถจอดได้ถึง 8 คัน , ห้องแม่บ้าน พร้อมห้องน้ำในตัว , ห้องเก็บของ และโถงลิฟต์โดยสาร สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ใช้ชั้น 3 – 4 เป็นส่วนพักอาศัย เมื่อจอดรถเสร็จก็กดลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนได้ทันที ไม่ต้องอ้อมมาด้านหน้า โดยจุดเด่นของโครงการนี้จะอยู่ที่บันไดหลัก ตั้งแต่ชั้น 1 – 3 จะเป็นแบบ Semi Outdoor เมื่อขึ้นมาจะเจอโถงทางด้านนอก ก่อนถึงประตูทางเข้า – ออก ทำให้ช่วยแบ่งพื้นที่การใช้งานได้อย่างชัดเจน

ในกรณีที่เจ้าของบ้านซื้อมาเพื่อทำธุรกิจหรือปล่อยเช่า ก็สามารถแยกพื้นที่ชั้นลอยเป็นพื้นที่อีกธุรกิจหนึ่งได้ โดยทั้ง 2 ชั้นจะได้ความเป็นส่วนตัว สามารถเดินเข้าถึงได้ง่าย ไม่ปะปนกันอีกด้วย ส่วนห้องน้ำก็มีไว้รองรับที่บริเวณชั้น 2 แยกใช้งานอยู่ด้านในออฟฟิศและโถงด้านนอก สำหรับคนที่อยู่บนชั้นลอยก็เดินลงมาใช้งานได้ง่าย โดยทั้ง 2 ชั้นนี้มี Double Space ขนาดใหญ่ (เพดานสูง 4.65 เมตร) เชื่อมต่อมุมมองให้ดูโปร่งโล่ง ทำให้บรรยากาศภายในออฟฟิศดูผ่อนคลาย ไม่อึดอัด จัดเป็นพื้นที่ทำงานแบบคนรุ่นใหม่ที่เน้นความสบายๆได้เลย

ขั้นมาที่ชั้น 3 จะเริ่มมีความ Private มากขึ้น จากส่วนชั้นลอยจะมีประตูกั้น 1 ชั้นก่อนขึ้นบันได เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัย และสแกนคนจากภายนอก เหมาะกับการใช้งานที่วางฟังก์ชันให้ทั้ง 2 ชั้นนี้เป็นพื้นที่สำหรับอยู่อาศัย มี Courtyard ขนาดใหญ่ ใช้ปลูกต้นไม้ได้จริง โดยเป็นส่วนเปิดโล่งเชื่อมต่อไปถึงชั้น 4 พื้นที่พักผ่อนได้มาเป็น Open Plan ปรับเปลี่ยนการใช้งานเองได้ มีฟังก์ชันครบทั้งห้องครัวและห้องน้ำแบบ Powder Room

อีกจุดเด่นที่น่าสนใจก็คือทุกห้องในอาคารจะได้ช่องแสงทั้งหมด ทั้งด้านหน้าและด้านหลังมีระเบียงให้ออกไปใช้งานได้ ขึ้นมาชั้น 4 เป็นพื้นที่ห้องนอน ได้ Master Bedroom 2 ห้อง มี Walk – in Closet และห้องน้ำในตัว เหมาะสำหรับเจ้าของธุรกิจที่มีครอบครัว ใช้อยู่อาศัยได้ 2 – 4 คนกำลังดี หรือกลุ่ม Partner ที่ต้องการบ้านหลังที่ 2 ไว้รองรับเวลาอยากขึ้นมาพักผ่อน ก็ได้ทั้งความสะดวกและเป็นส่วนตัวค่ะ

บรรยากาศบริเวณหน้าบ้านตัวอย่าง มีประตูรั้วแบบบานพับติดตั้งมาให้เรียบร้อย ประตูทางเข้า – ออกแยกเป็น 2 ฝั่ง สำหรับส่วนจอดรถและคนเดินสัญจร ด้านข้างมีกริ่งและตู้จดหมายรองรับกล่องพัสดุขนาดใหญ่ได้

บ้านตัวอย่างหลังแรกที่เราจะพาไปชมกัน ได้จัดฟังก์ชันที่ชั้น 2 และชั้นลอยให้เป็นร้านกาแฟหรือคาเฟ่ โดยลูกค้าสามารถนำรถมาจอดรถชั้นล่างได้ ติดกับบันไดทางขึ้นจัดเป็นม้านั่งยาว วางต้นไม้ตกแต่งเพิ่มสีสัน ใช้เป็นมุมถ่ายรูป Check – in สวยๆกับป้ายร้าน

Image 1/4
บรรยากาศพื้นที่ชั้น 1 ภายในบ้านตัวอย่าง

บรรยากาศพื้นที่ชั้น 1 ภายในบ้านตัวอย่าง

ส่วนจอดรถได้ความกว้างประมาณ 5 เมตร ยาว 17.8 เมตร สามารถจอดในร่มใต้อาคารได้ 6 คันและด้านนอก 2 คัน โครงสร้างลงเข็มมาให้รองรับการต่อเติมได้ พื้นปูด้วยกระเบื้องจาก MDC ดูสวยงาม ทนทาน ด้านข้างมีจุดติดตั้งหัวชาร์จ EV เตรียมไว้ให้ถึง 2 จุด ด้านหลังบ้านเป็นพื้นที่วางงานระบบ สามารถ Maintenance ได้ง่าย

Image 1/2
พื้นที่ใช้งานภายในห้องแม่บ้าน ได้ห้องน้ำในตัว

พื้นที่ใช้งานภายในห้องแม่บ้าน ได้ห้องน้ำในตัว

โดยฟังก์ชันชั้น 1 จะประกอบด้วนส่วน Service เป็นหลัก ทั้งพื้นที่งานระบบ ส่วนจอดรถ และห้องแม่บ้าน ที่ได้มาพร้อมห้องน้ำในตัว (สุขภัณฑ์ครบชุดจาก ENGLEFIELD) จะใช้อยู่อาศัยแบบจริงจัง หรือใช้เป็นห้องพักผ่อนระหว่างวันก็สะดวกทีเดียวค่ะ

ติดกันเป็นโถงลิฟต์ มีลิฟต์โดยสารติดตั้งมาให้ในตัวทุกยูนิต ด้านข้างเป็นห้องเก็บของ ใช้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด หรือของชิ้นใหญ่ๆได้สบาย

Image 1/3
ลิฟต์โดยสารภายในอาคารจากยี่ห้อ HITACHI

ลิฟต์โดยสารภายในอาคารจากยี่ห้อ HITACHI

ลิฟต์ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน จากยี่ห้อ HITACHI มีการตกแต่งด้านในและด้านนอกเหมือนในบ้านตัวอย่าง ความจุ 4 คน รองรับน้ำหนักได้ 280 กิโลกรัม มีการติดตั้งระบบสแกนลายนิ้วมือมาให้ เพื่อความสะดวกและปลอดภัยสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ชั้นบนค่ะ

จากประตูทางเข้าและที่จอดรถ เดินขึ้นบันไดมาจะเจอกับชานพักของโถงทางเข้าหลัก มีต้นไม้ขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า คอยให้ร่มเงา และเสริมบรรยากาศให้ดูสดชื่น

โถงบันไดเป็นแบบ Semi Outdoor ฝ้าเพดานสูง ดูโปร่งโล่ง ด้านบนติดตั้งแผงกระจกขนาดใหญ่ (Insulated Glass) ช่วยป้องกันฝนและความร้อน แต่ก็ยังทำให้แสงและลมธรรมชาติถ่ายเทเข้า – ออกได้อย่างเต็มที่

Image 1/3
พื้นที่ใช้งานบริเวณโถงบันไดชั้น 2 ภายในบ้านตัวอย่าง

พื้นที่ใช้งานบริเวณโถงบันไดชั้น 2 ภายในบ้านตัวอย่าง

ชั้น 2 เป็นส่วนสำนักงาน แต่ในบ้านตัวอย่างจัดเป็นร้านกาแฟ ส่วนตัวเราชอบการออกแบบพื้นที่โถงบันได ในกรณีที่ชั้นลอยถูกแบ่งเช่าเป็นอีกธุรกิจ ลูกค้าภายนอกก็สามารถเดินตรงขึ้นไปได้เลย ไม่ต้องผ่านส่วนสำนักงานอื่นๆ ถือเป็นการแบ่งพื้นที่ใช้สอยภายในและภายนอกได้เป็นสัดส่วน

ด้วยโครงสร้างที่สามารถทุบต่อเติมได้ ในบ้านตัวอย่างจึงเชื่อมโฮมออฟฟิศ 2 หลังเข้าด้วยกัน และทำประตูเปิดเชื่อมตรงกลาง เป็นไอเดียที่ดีสำหรับคนที่อยากขยับขยายพื้นที่ได้นะคะ ส่วนประตูทางเข้า – ออกที่ชั้น 2 และชั้นลอย จะเป็น Auto Door ระบบ Touchless ช่วยลดการสัมผัส และช่วยเพิ่มความทันสมัยให้กับพื้นที่โฮมออฟฟิศได้

เข้ามาด้านในเป็นพื้นที่ร้านกาแฟ ได้ฝ้าเพดานสูง 4.65 เมตร เพิ่มความโปร่งโล่งด้วยผนังกระจก Full Height ด้านในเป็นมุมเคาน์เตอร์ ไว้รับออเดอร์ ทำเครื่องดื่ม รอบๆยังวางชุดโต๊ะ – เก้าอี้ได้หลากหลาย รองรับได้ 15 – 20 ที่นั่งสบายๆเลย

วัสดุพื้นชั้น 2 และชั้นลอยจะปูด้วยกระเบื้อง SPC (Stone Plastic Composite) มีคุณสมบัติที่แข็งแรง และทนทานมากกว่ากระเบื้องยางและลามิเนตทั่วไป โดยในชั้นนี้ทางโครงการจะติดตั้งแอร์แบบ 4 ทิศทาง ขนาด 24000 Btu จำนวน 2 เครื่อง จาก Daikin มาให้ พร้อมม่านไฟฟ้า ที่สามารถเปิด – ปิดด้วยรีโมทคอนโทรลได้อีกด้วย

ชั้นลอย ประตูทางเข้าเป็น Auto Door เหมือนชั้น 2 ติดกันเป็นโถงบันไดที่จะขึ้นไปชั้น 3 โดยด้านหน้าจะมีประตูกั้นมาให้อีกชั้น ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวให้กับชั้นพักอาศัย

พื้นที่ชั้นลอยได้ขนาด 5×3.65 เมตร มาพร้อมเพดานสูง 2.3 เมตร ผนังทั้ง 2 ข้างได้เป็นช่องแสงกระจกขนาดใหญ่ มีหน้าต่างติดตั้งมาให้ ใช้เปิดเพื่อรับลมหรือระบายอากาศได้ โดยชั้นนี้ยังได้แอร์ดักท์ 18000 Btu จำนวน 1 เครื่อง จาก Daikin ติดตั้งมาให้เช่นกัน

Image 1/3
บรรยากาศพื้นที่ชั้นลอยภายในบ้านตัวอย่าง

บรรยากาศพื้นที่ชั้นลอยภายในบ้านตัวอย่าง

โถงบันไดขึ้นชั้น 3 โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง 1.17 เมตร ลูกตั้งสูง 18 เซนติเมตร ลูกนอนกว้าง 27 เซนติเมตร วางเท้าได้พอดีๆ ชานพักมีพื้นที่ให้สำหรับวางต้นไม้ตกแต่ง โดยบนผนังจะมีโคมไฟติดตั้งมาให้ทั้ง 2 ด้านเหมือนในบ้านตัวอย่างเลย

Image 1/4
บริเวณประตูทางเข้าส่วนพักอาศัยที่ชั้น 3

บริเวณประตูทางเข้าส่วนพักอาศัยที่ชั้น 3

ชั้น 3 – 4 จัดฟังก์ชันเป็นส่วนพักอาศัย ประตูทางเข้าเป็นประตูเหล็กติดตั้งมาพร้อม Digital Door Lock ใช้งานได้ 5 ระบบ ทั้งระบบคีย์การ์ด , กดรหัส , สแกนลายนิ้วมือ , Bluetooth และกุญแจ ด้านข้างมีตู้รองเท้า Built – in มาให้ สามารถเก็บรองเท้าได้ 10 – 15 คู่เลยนะคะ

ฟังก์ชันภายในได้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้าน 2 ชั้น โดยชั้นแรกเป็นส่วนนั่งเล่น , รับประทานอาหาร มีห้องครัว และห้องน้ำในตัว วัสดุพื้นเป็น Engineering Wood ที่ให้ความรู้สึกเหมือนไม้จริง แต่ทนทาน และดูแลรักษาได้ง่ายกว่า

เพดานได้ความสูง 2.6 เมตร มีแอร์แบบ 4 ทิศทาง 24000 Btu ติดตั้งมาให้ 2 เครื่อง โดยในชั้นนี้จะมีระบบ Burglar Alarm System ใช้ควบคุมความปลอดภัยในบ้าน ซึ่งจะมีสัญญาณกันขโมยติดตั้งมาให้ 6 จุดที่ชั้น 3 และ 4

ส่วนรับประทานอาหาร สามารถวางโต๊ะขนาด 6 – 8 ที่นั่ง จัดตำแหน่งไว้อยู่ใกล้ส่วนทางเข้าและห้องครัว ทำอาหารเสร็จก็สามารถยกมาเสิร์ฟได้ง่าย สะดวกเวลารับแขก และส่วนนั่งเล่นภายในยังได้ความเป็นส่วนตัว

ห้องครัวและห้องน้ำได้ประตูบานเลื่อนติดตั้งมาให้จากโครงการเหมือนในบ้านตัวอย่าง ใช้งานได้สะดวก ไม่เปลืองพื้นที่

ภายในห้องครัว พื้นจะปูเป็นกระเบื้องมาให้ เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย การตกแต่งสามารถ Built – in เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว C แบ่งเป็นพื้นที่เตรียมอาหาร ทำอาหารและทำความสะอาดได้อย่างเป็นสัดส่วน ในห้องยังได้ช่องแสงเป็นหน้าต่างบานเลื่อนกระจก ใช้เปิดรับแสงและระบายกลิ่นได้ดี

ห้องน้ำได้มาเป็นแบบ Powder Room ได้สุขภัณฑ์มาแบบครบชุดจากยี่ห้อ KOHLER ด้านข้างได้ประตูบานเลื่อนกระจกที่สามารถเปิดออกไปใช้งานระเบียงด้านนอกได้

Image 1/7
ห้องน้ำแบบ Powder Room ชั้น 3 ภายในบ้านตัวอย่าง

ห้องน้ำแบบ Powder Room ชั้น 3 ภายในบ้านตัวอย่าง

พื้นที่ใช้งานในห้องน้ำแยกเป็น 2 ฝั่ง คือส่วนเคาน์เตอร์ที่ติดตั้งอ่างล้างมือแบบฝัง ด้านข้างเหลือพื้นที่ให้วางของใช้เล็กๆได้เยอะ ส่วนกระจกได้เป็นแบบเต็มบาน ช่วยทำให้ห้องดูกว้าง และสว่างมากขึ้น โดยโครงการจะตกแต่งและประดับไฟซ่อนมาให้เหมือนในบ้านตัวอย่าง

อีกฝั่งเป็นพื้นที่วางโถสุขภัณฑ์ ด้านหลังเป็น Low Wall ใช้วางของได้ และยังทำให้สะดวกต่อการซ่อมแซมในภายหลังอีกด้วย ด้านนอกเป็นระเบียงได้มาขนาด 0.76×1.77 เมตร ใช้เปิดประตูออกไปเพื่อระบายอากาศ หรือจะจัดพื้นที่ด้านนอกให้เป็นมุมสวนเล็กๆ ก็ช่วยเพิ่มความสดชื่นได้

ส่วนนั่งเล่น สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ รองรับได้ 4 – 6 ที่นั่ง ผนังด้านหน้าและด้านข้างได้เป็นกระจก Full Height ช่วยเปิดมุมมองในบ้านให้ดูโปร่งโล่ง

Image 1/6
บรรยากาศส่วนนั่งเล่น บริเวณชั้น 3 ภายในบ้านตัวอย่าง

บรรยากาศส่วนนั่งเล่น บริเวณชั้น 3 ภายในบ้านตัวอย่าง

เพดานมีการทำเป็นช่องไว้สำหรับซ่อนรางม่าน ดูเรียบร้อย ด้านหน้าเป็นประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ สามารถเปิดออกไปใช้งานระเบียงได้ โดยด้านหน้าตัวบ้านจะมีระแนงบังสายตามาให้อีกชั้น ส่วนด้านข้างจะเป็น Courtyard ที่โครงการตกแต่งสวนให้เป็นมาตรฐาน ได้ต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น พร้อมทำระบบกันซึม จัดเป็นพื้นที่ทำสวน ปลูกต้นไม้ได้จริง

บันไดส่วนพักอาศัยดู Private แตกต่างกับชั้นล่างชัดเจน โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กได้มากว้าง 1.25 เมตร ลูกตั้งสูง 18 เซนติเมตร ลูกนอกกว้าง 27 เซนติเมตร ผนังชานพักเป็นหน้าต่างบานเลื่อนกระจก มองออกไปเห็นวิวสวน Courtyard ด้านนอก ดูร่มรื่น

Image 1/5
พื้นที่ใช้งานส่วนโถงบันไดชั้น 3 - 4 ในบ้านตัวอย่าง

พื้นที่ใช้งานส่วนโถงบันไดชั้น 3 - 4 ในบ้านตัวอย่าง

ชั้น 4 ประกอบด้วย Master Bedroom 2 ห้อง มีพื้นที่อเนกประสงค์ที่ด้านหน้าจัดเป็นมุมนั่งเล่นได้ จากโถงลิฟต์จะเชื่อมต่อไปยังระเบียงด้านหลัง ซึ่งจะมีบันไดหนีไฟติดตั้งมาให้ตามมาตรฐาน โดยความสูงจะไม่ได้ขึ้นไปจนสุดอาคาร และไม่ได้ลงถึงพื้น เพราะคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกบ้าน ป้องกันไม่ให้มีคนลอบปีนขึ้น – ลง หรือใช้ปีนไปยังอาคารข้างเคียง

เริ่มกันที่ห้อง Master Bedroom ด้านหลังอาคาร ภายในจัดฟังก์ชันมาให้เป็นสัดส่วน มี Walk – in Closet และห้องน้ำในตัวแยกใช้งาน โดยชั้นนี้จะได้แอร์ Wall Type 24000 Btu และ 1800 Btu พร้อมระบบเติมอากาศสะอาดมาให้ทั้ง 2 ห้องเลยนะคะ

Image 1/5
ห้อง Master Bedroom บนชั้น 4 ในบ้านตัวอย่าง

ห้อง Master Bedroom บนชั้น 4 ในบ้านตัวอย่าง

ด้านหน้าติดกับประตูทางเข้า เป็นส่วนพักผ่อนวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้สบายๆ ปลายเตียงยังเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะเขียนหนังสือ ตู้เก็บของหรือชั้นวางทีวีได้ โดยในห้องนี้ยังได้ระเบียงที่ด้านนอก ราวกันตกเป็นแบบทึบ เพื่อความเป็นส่วนตัว

ด้านข้างจัดเป็นมุม Walk – in Closet สามารถซื้อเป็นตู้สำเร็จ หรือ Built – in เป็นตู้แบบเข้ามุมพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้ ตรงกลางเหลือพื้นที่ใช้งานกว้างประมาณ 0.92 เมตร

Image 1/5
ห้องน้ำภายใน Master Bedroom ชั้น 4

ห้องน้ำภายใน Master Bedroom ชั้น 4

ห้องน้ำได้เป็นแบบหน้ากว้าง แยกพื้นที่ส่วนเปียก ส่วนแห้งมาให้ชัดเจน ภายในได้หน้าต่างบานกระทุ้งติดตั้งมาให้ 1 จุด ใช้เปิดระบายกลิ่นและความชื้นได้ดี อ่างล้างมือ , โถสุขภัณฑ์ สายฉีดชำระและอุปกรณ์ต่างๆได้จาก KOHLER พร้อมเครื่องทำน้ำร้อนจากยี่ห้อ STIEBEL ELTRON สามารถกระจายน้ำร้อนให้ใช้ได้ในก็อกน้ำและฝักบัวทุกจุด

Image 1/5
อุปกรณ์ภายในห้องน้ำ Master Bedroom

อุปกรณ์ภายในห้องน้ำ Master Bedroom

ส่วนอาบน้ำขนาด 0.90×1.44 เมตร ฝักบัวได้มาทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower หยิบใช้งานได้สะดวกจากยี่ห้อ KOHLER เช่นเดียวกัน

Master Bedroom บริเวณด้านหน้าอาคาร ได้ขนาดมาใกล้เคียงกัน แตกต่างที่ห้องนี้ จะได้ช่องแสงเยอะกว่า เหมาะกับคนที่ชอบความสว่าง โปร่งโล่ง และสามารถมองเห็นวิวสวนด้านนอกได้

Image 1/4
ห้อง Master Bedroom บนชั้น 4 ในบ้านตัวอย่าง

ห้อง Master Bedroom บนชั้น 4 ในบ้านตัวอย่าง

ภายในตกแต่งมาได้ดูอบอุ่น น่าใช้งาน ด้านข้างเป็นประตูระเบียง ออกไปยืนสูดอากาศ หรือวางกระถางต้นไม้ใหญ่สักต้น จัดเป็นมุมสวนเล็กๆช่วยเพิ่มความผ่อนคลาย ส่วน Walk – in Closet โครงการกั้นเป็นประตูบานเลื่อนกระจกมาให้เป็นไอเดีย ช่วยทำให้ห้องดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น

บรรยากาศในห้องน้ำดูโปร่งโล่ง ด้วยช่องแสงและกระจกเงาบานใหญ่ที่ติดตั้งมาให้แบบเต็มบาน พื้นที่อาบน้ำแยกเป็นสัดส่วน ได้พื้นที่วางของเยอะมากขึ้น

Image 1/6
อุปกรณ์ภายในห้องน้ำ Master Bedroom

อุปกรณ์ภายในห้องน้ำ Master Bedroom

อ่างล้างมือเป็นแบบฝังเคาน์เตอร์ติดตั้งมาให้พร้อมก็อกน้ำจากยี่ห้อ KOHLER ด้านล่างได้เป็นตู้เก็บของขนาดใหญ่ ดึงออกมาเป็นลิ้นชัก ด้านข้างเป็นตู้บานเปิด ข้างในติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนจาก STIEBEL ELTRON มาให้ กระจกเงามีไฟซ่อนมาให้ด้านล่าง ข้างๆเป็นตู้ที่เปิดออกมาใช้งานได้ ภายในติดตั้งชั้นวางมาให้เรียบร้อย

Image 1/5
อุปกรณ์ภายในห้องน้ำ Master Bedroom

อุปกรณ์ภายในห้องน้ำ Master Bedroom

ส่วนอาบน้ำขนาด 1.09×1.45 เมตร ฝักบัวได้ทั้งแบบ Rain Shower และ Hand Shower มาให้เหมือนห้องที่แล้วเลย แต่ในห้องนี้จะได้พื้นที่วางของด้านข้างมาด้วย เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน

ถัดมาเราจะพามาชมโฮมออฟฟิศที่แต่งฟังก์ชันสำนักงานมาให้ครบทั้ง 4.5 ชั้น ซึ่งเรามองว่าสามารถรองรับพนักงานได้ 20 – 30 คนเลยนะคะ เหมาะกับเจ้าของธุรกิจ SME ที่มีพนักงานไม่เยอะมาก อยากได้ออฟฟิศที่มีความอบอุ่น ผ่อนคลายเหมือนบ้าน แต่ได้อุปกรณ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานแบบครบครัน พร้อมลิฟต์ในตัวและพื้นที่ใช้งานที่สามารถปรับเปลี่ยนเองได้

ชั้น 2 เป็นพื้นที่ Double Volume ฝ้าเพดานสูง ในบ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นโชว์รูมสินค้า วางเฟอร์นิเจอร์จาก PDM BRAND พร้อมโต๊ะทำงาน และชั้นวางที่สามารถวางอุปกรณ์สำนักงาน ทั้งคอมพิวเตอร์ และเครื่องถ่ายเอกสารได้

Image 1/3
บรรยากาศภายในสำนักงานชั้น 2

บรรยากาศภายในสำนักงานชั้น 2

ด้านหน้าอาคารเป็นผนังกระจกแบบ Full Height คนภายนอกมองเข้ามาเห็นสินค้าที่อยู่ด้านใน จัดเป็นมุม Showcase สวยๆได้ หรือหากใครใช้เป็นพื้นที่นั่งทำงานจริงจัง ก็สามารถใช้รีโมทกดเลื่อนม่านไฟฟ้าให้ปิดลงมาได้ สะดวกสบายทีเดียวค่ะ

จากภายในชั้น 2 มองไปเห็นชั้นลอยที่เป็นผนังกระจก ด้านบนจัดเป็นห้อง Meeting Room ได้บรรยากาศโปร่งโล่งที่ดูเชื่อมต่อกัน น่าใช้งาน

Image 1/4
บรรยากาศภายในสำนักงานชั้น 2

บรรยากาศภายในสำนักงานชั้น 2

พื้นที่ใช้สอยภายในได้มาขนาดใหญ่ สามารถจัดเป็นมุมรับแขก , นั่งเล่น หรือ Pantry เล็กๆก็ดีค่ะ ด้านหลังมีระเบียงเปิดออกไปรับลม หรือระบายอากาศระหว่างวันได้ ติดกันเป็นห้องน้ำได้อุปกรณ์ครบชุด พร้อมใช้งานจากยี่ห้อ KOHLER

ชั้นลอย จัดเป็น Meeting Room ได้บรรยากาศสบายๆ แต่เป็นสัดส่วนและได้ความเป็นส่วนตัว ภายในวางโต๊ะประชุมขนาด 6 – 8 ที่นั่งได้เลย

ชั้น 3 พื้นที่ยังมีลักษณะเป็น Open Plan ขนาดใหญ่ ได้ข้อดีก็คือ สามารถจัดฟังก์ชันเองได้หลากหลาย  ทั้งมุมโต๊ะทำงาน ชั้นวางของ และพื้นที่สำหรับรับแขกหรือพักผ่อน โดยในชั้นนี้จะจัดให้อยู่ติดกับส่วน Courtyard ได้บรรยากาศสดชื่น

Image 1/4
บรรยากาศภายในสำนักงานชั้น 3

บรรยากาศภายในสำนักงานชั้น 3

บ้านตัวอย่างหลังก่อนหน้านี้ จัดฟังก์ชันชั้น 3 ให้เป็นส่วนพักอาศัย ในสำนักงานก็จะได้ห้องครัวและห้องน้ำในตัวมาด้วย ซึ่งก็สะดวกกับพนักงานที่สามารถขึ้นมาใช้เตรียมอาหาร หรือทำอาหารทานเองได้ หรือจัดเป็นโซนใช้งานสำหรับผู้บริหาร ก็สะดวกสบายทีเดียวค่ะ

Image 1/5
บรรยากาศภายในสำนักงานชั้น 3

บรรยากาศภายในสำนักงานชั้น 3

ด้านหน้าเป็นประตูบานเลื่อนกระจก 2 ด้านเปิดออกไปใช้งานระเบียงด้านนอกได้ ในบ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นสวนพร้อมต้นไม้ใหญ่มาให้ถึง 2 จุด ช่วยเพิ่มความร่มรื่นให้กับส่วนออฟฟิศได้ดีเลย

Image 1/3
บรรยากาศภายในสำนักงานชั้น 4

บรรยากาศภายในสำนักงานชั้น 4

ชั้น 4 ห้องด้านหลังจัดเป็นห้องทำงานของผู้บริหาร วางโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ได้ ได้ห้องน้ำในตัว พร้อมส่วนอาบน้ำ ด้านหน้ามีประตูกั้นเป็นสัดส่วน ใช้เป็นมุมเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือห้องเก็บของส่วนตัวก็ได้

บรรยากาศห้องด้านหน้าบนชั้น 4 สามารถจัดเป็นห้องประชุมอีกจุด หรือแยกเป็นพื้นที่ทำงานของอีกแผนกก็ได้ ภายในมีห้องน้ำในตัว ไม่ต้องเดินลงไปใช้ชั้นล่าง

 

ราคา

Private Nirvana MATII (ไพรเวท เนอวานา มาธิ) ณ วันที่ 29 กันยายน 2566

  • Home Office 4.5 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 36 – 45.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 470 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / พื้นที่สำนักงานชั้น 2 และชั้นลอย / 6 ที่จอดรถใต้อาคาร (2 ที่จอดรถภายนอก) / 1 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ
    – ราคาเริ่มต้น 25 – 30 ล้านบาท*
  • จอง 200,000 บาท และทำสัญญา 800,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 350,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 90 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

ที่ตั้งของโครงการ Private Nirvana MATII (ไพรเวท เนอวานา มาธิ) ตั้งอยู่บนถนนลาดปลาเค้า ซึ่งเป็นทำเลที่อยู่กึ่งกลางระหว่างโซนลาดพร้าว – รามอินทรา เป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง และเป็นถนนที่สามารถไปเชื่อมต่อกับถนนหลักได้อีกหลายสาย ใกล้สถานีรถไฟฟ้าทั้งสายสีเขียวและสายสีชมพู ใกล้ทางด่วนฉลองรัชขับเข้าเมืองไปโซนพระราม 9 – อโศกได้ง่าย

โครงการเหมาะกับเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหาออฟฟิศที่อยู่ในโซนใกล้ตัวเมือง แต่ยังเป็นทำเลที่มีความสงบ สำหรับพนักงานที่อยู่ในโซนลาดพร้าว – รามอินทราอยู่แล้ว ก็เดินทางมาทำงานง่าย โดยเฉพาะคนที่ใช้รถส่วนตัวในการเดินทาง ด้านหน้าโครงการยังมีร้านค้า ร้านอาหาร อยู่ในระยะที่สามารถเดินออกมาทานช่วงกลางวันได้ด้วย

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

การเข้า – ออกโครงการใช้ระบบ Bluetooth ควบคู่กับไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและกล้อง CCTV คอยบันทึกภาพ 24 ชั่วโมงที่ Main Gate โดยทางเข้า – ออกโครงการส่วนโฮมออฟฟิศและบ้านจะแยกจากกันชัดเจน ช่วยลดความพลุกพล่าน และเพิ่มความเป็นส่วนตัว

ส่วนความปลอดภัยภายในบ้านหรือโฮมออฟฟิศ ตั้งแต่ส่วนลิฟต์จะใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือ เพื่อคัดกรองคนเข้า –  ออก พื้นที่สำนักงานได้กล้อง CCTV ติดตั้งมาให้ 4 จุด ส่วนชั้นพักอาศัย 3 – 4 มีระบบ Burglar Alarm System ได้สัญญาณกันขโมย 6 จุด พร้อม Smoke Detector 1 จุด

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

Private Nirvana MATII เป็นโฮมออฟฟิศจำนวน 30 ยูนิต จัดเป็นโครงการขนาดเล็ก ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ฟังก์ชันเน้นพื้นที่ใช้สอยของส่วน Commercial เป็นหลัก ใช้เป็นออฟฟิศ หรือปล่อยเช่าแบบแยกชั้นได้ แต่ก็ยังสามารถรองรับการอยู่อาศัยได้ด้วย การออกแบบตัวอาคารมาในไสตล์ MINIMAL NATURAL MODERN  เน้นความเรียบง่าย ได้บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ ตาม Concept ของ Private Nirvana (สะอาด สว่าง สงบ และเป็นส่วนตัว)

ฟังก์ชันจัดมาได้ลงตัวเป็นสัดส่วน โดยเฉพาะพื้นที่ชั้น 2 และชั้นลอยที่ได้บันไดหลักอยู่ด้านนอก สามารถเดินขึ้น – ลงเชื่อมต่อกันได้ โดยไม่ปะปนกับพื้นที่ภายใน สะดวกในการใช้สอยและแยกเพื่อปล่อยเช่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจ โดยฟังก์ชันทุกส่วนในอาคารจะได้ช่องแสงทุกจุด ทำให้ภายในดูโปร่งโล่ง ทั้งด้านหน้าและด้านหลังมีระเบียงให้ออกมาใช้งานได้ ชั้น 3 ยังมีพื้นที่ Courtyard ตกแต่งเป็นสวนที่สามารถปลูกต้นไม้ได้จริง ช่วยเสริมให้บรรยากาศดูผ่อนคลายร่มรื่น จะใช้เป็นสำนักงานก็ดี เป็นส่วนพักอาศัยก็เหมาะเลยค่ะ

วัสดุ :

จัดมาให้ตามมาตรฐานของระดับราคา และเลือกใช้วัสดุได้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละส่วน ตัวโครงสร้างบ้านเป็น Conventional สามารถทุบต่อเติมหรือปรับเปลี่ยนได้ แตกต่างกับโครงการอื่นๆในปัจจุบันที่ส่วนใหญ่จะเป็นระบบ Precast โดยสิ่งที่โครงการให้มาเพิ่มเติมก็มีอีก เช่น Solar system ติดตั้งให้บนชั้นดาดฟ้า , จุดติดตั้ง EV Charger 2 จุด , ลิฟต์ในตัวทุกยูนิต , Auto Door ระบบ Touchless , ม่านไฟฟ้า , สัญญาณกันขโมย , ระบบเติมอากาศสะอาดในห้อง และเครื่องปรับอากาศที่ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานในทุกชั้น

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

สายไฟภายในโครงการทั้งหมดจะถูกนำลงดิน ทำให้ทัศนียภาพโดยรอบดูโปร่งโล่ง ไม่มีสิ่งรบกวนสายตา ถนนภายในค่อนข้างกว้าง รถขับสวนกันได้สะดวก โดยรอบๆโครงการยังมีแนวต้นไม้ และสวนหย่อมคอยแซมตามจุด ทำให้บรรยากาศดูสดชื่น ไม่แห้งแล้ง

สาธารณูปโภค :

เนื่องจาก Private Nirvana MATII เป็นโครงการขนาดเล็ก จึงไม่ได้มีพื้นที่ส่วนกลางจัดไว้รองรับ แต่ก็มีส่วน Public Parking ไว้คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้านและผู้มาติดต่อได้ เหมาะกับโครงการประเภทโฮมออฟฟิศ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 25 – 30 ล้านบาท , 29 กันยายน 2566

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – ติดถนนใหญ่ลาดปลาเค้า
  • ความปลอดภัย 8/10 – การเข้า – ออกโครงการใช้ระบบ Bluetooth ในบ้านได้สัญญาณกันขโมย ชั้น 3 – 4
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – พื้นที่ใช้สอยเยอะ แยกทางเข้าเป็นสัดส่วน ได้ความเป็นส่วนตัว
  • วัสดุ 8/10 – ได้ตามมาตรฐานของระดับนี้ เหมาะสมกับการใช้งาน
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – สายไฟลงดินทั้งหมด มีพุ่มไม้และต้นไม้ใหญ่ตกแต่งรอบๆโครงการ
  • สาธารณูปโภค 7.75/10 – โครงการขนาดเล็ก มีพื้นที่สวนหย่อมมาให้ ภาพรวมดูเรียบร้อย น่าใช้งาน
  • 7.91 / 10.00

Private Nirvana MATII (ไพรเวท เนอวานา มาธิ) เหมาะกับใคร

โครงการ Private Nirvana MATII เหมาะกับเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหาโฮมออฟฟิศได้พื้นที่ใช้สอยเยอะ ในโซนลาดปลาเค้า มีฟังก์ชันที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่อยู่อาศัยได้ ต้องการความเป็นส่วนตัว อยู่ในย่านที่มีความสงบ แต่ยังเดินทางได้ง่าย ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ มีงบประมาณเริ่มต้น 25 – 30 ล้านบาท*