[รีวิวฉบับที่ 2749 ] ถ้าจริงๆแล้วคุณเป็นประธานบริษัท🤩 กำลังมองหาโฮมออฟฟิศใหม่อยู่ วันนี้เรามีโครงการที่น่าสนใจ ได้แก่ DISTRICT Sukhumvit 77 (ดิสทริค สุขุมวิท 77) โฮมออฟฟิศ 3.5-5 ชั้นบนทำเลอ่อนนุชมาให้อ่านกันว่าโดดเด่นและตอบโจทย์เจ้าของธุรกิจยังไงบ้าง งั้นเราพาไปชมรายละเอียดโครงการกันเลยค่ะ

  • ลูกค้าต้องมาติดต่องานได้ง่ายและพนักงานก็มาทำงานได้สะดวก : ตั้งอยู่ใจกลางอ่อนนุช ใกล้ทางพิเศษฉลองรัชและเฉลิมมหานคร อีกทั้งใกล้ BTS อ่อนนุช มีวินมอเตอร์ไซค์ รถสองแถวหรือแท็กซี่ให้เรียกได้ตลอด
  • เรื่องอาหารการกินคือหายห่วง : ใกล้ๆมี 7-Eleven และร้านค้า ร้านอาหารอยู่หลายร้าน ถ้าวันไหนเบื่อๆก็ไป People Park Community Mall ได้สบาย
  • ภาพลักษณ์บริษัทแบบเท่ๆ ไวป์ New York : พื้นที่สำนักงาน 3 ชั้น รองรับพนักงาน 20-30 คนได้ จะกั้นแบ่งเป็นห้องประชุมและห้อง CEO ก็สบาย
  • โฮมออฟฟิศ 3.5-5 ชั้นในรูปแบบ “บ้านแฝด” : ฉีกแนวกับโฮมออฟฟิศที่เป็นทาวน์โฮมได้ดี ไม่ดูเป็นบ้านทึบๆเรียงติดกัน หมดปัญหาเรื่องเสียงดังจากเพื่อนบ้าน มีช่องหน้าต่างถึง 3 ฝั่ง ได้บรรยากาศการทำงานที่โปร่งสบาย รวมถึงมีพื้นที่สวนรอบบ้านเพิ่มขึ้นมา
  • ถึงแม้จะเป็นที่ทำงานก็จริง แต่ก็ได้ฟีลเหมือนอยู่บ้านเหมือนกันนะ : จัดฟังก์ชันในบ้านมาได้น่าอยู่อาศัย มีแบบบ้านที่ได้ระเบียงปลูกต้นไม้บริเวณหน้าบ้านและ Inner Court ตรงกลางบ้านด้วย

ข้อมูลโครงการ

DISTRICT Sukhumvit 77 (ดิสทริค สุขุมวิท 77) ณ วันที่ 4 กันยายน 2567

 ชื่อโครงการ   DISTRICT Sukhumvit 77 (ดิสทริค สุขุมวิท 77)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จํากัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS   LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ซอยอ่อนนุช 21 ถนนสุขุมวิท 77 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
 ที่ดิน 4-3-35 ไร่
 จำนวนยูนิต 26 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • CLINTON โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 18 เมตร
    – ที่ดินเริ่มต้น 75.40 และ 76.50 ตร.วา / พื้นที่ใช้สอย 380 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 1 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, 1 ห้อง Powder, 1 ห้องครัว, 1 ห้องอเนกประสงค์, 1 ห้องเก็บของ, 1 ห้องแม่บ้าน, 6 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 36 ล้านบาท
  • BOROUGH โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 9 เมตร
    – ที่ดินเริ่มต้น 43.90 – 68.10 ตร.วา / พื้นที่ใช้สอย 400 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 1 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, 1 ห้อง Powder, 1 ห้องครัว, 1 ห้องอเนกประสงค์, 2 ห้องเก็บของ, 1 ห้องแม่บ้าน, 5 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 29 ล้านบาท
  • MADISON โฮมออฟฟิศ 5 ชั้น หน้ากว้าง 9 เมตร
    – ที่ดินเริ่มต้น 47.70 – 102.20 ตร.วา / พื้นที่ใช้สอย 536 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 3 ห้อง Powder, 1 ห้องครัว, 1 ห้องอเนกประสงค์, 2 ห้องเก็บของ, 1 ห้องแม่บ้าน, 7 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 33 ล้านบาท

 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2567
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2568
 เว็บไซต์โครงการ  คลิกที่นี่
 โทร   1623

 

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.710865188482426, 100.61411376633086
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

Highlight

  • ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 77 หรือถนนอ่อนนุช เดินทางเชื่อมต่อโซนอื่นๆได้สะดวก
  • ใกล้ทางด่วนฉลองรัชและเฉลิมมหานคร เดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่าย
  • ใกล้ BTS อ่อนนุช และมี MRT สายสีเหลือง สถานีศรีนุช เป็นตัวเลือกในการเดินทาง
  • ทำเลคึกคัก ความอุดมสมบูรณ์สูงมีทั้ง People Park Community, Century The Movie Plaza สุขุมวิท และ Lotus’s สุขุมวิท 50

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

DISTRICT Sukhumvit 77 (ดิสทริค สุขุมวิท 77) เป็นโครงการโฮมออฟฟิศที่ตั้งอยู่ในซอยอ่อนนุช 21 ที่เป็นซอยเดียวกับโครงการเพื่อนบ้านของ AP ทั้ง Aspire สุขุมวิท-อ่อนนุช และ บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ สุขุมวิท 77 ที่อยู่ด้านในเลย ส่วนโครงการนี้จะอยู่ด้านหน้าซอย ติดกับถนนสุขุมวิท 77 หรือถนนอ่อนนุชที่เชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิท ถนนศรีนครินทร์และพัฒนาการได้ด้วย

โครงการนี้ถือว่าโดดเด่นด้วยทำเลเพราะสามารถเดินทางได้สะดวกสบาย ไปโซนทองหล่อ เอกมัยและอโศกได้ อยู่ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานครและฉลองรัชจึงเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก ลูกค้าก็สามารถเดินทางมาติดต่องานได้ง่ายด้วย รวมถึงมีรถสาธารณะให้เลือกใช้งานได้หลากหลาย ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีอ่อนนุชประมาณ 2.1 กิโลเมตร และมีรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง สถานีศรีนุช เป็นตัวเลือกในการเดินทาง นอกจากนั้นยังมีทั้งวินมอเตอร์ไซต์ แท็กซี่ รถสองแถวให้เรียกใช้บริการด้วย ดังนั้นพนักงานของบริษัทก็สามารถเดินทางมาทำงานได้สบายๆเลยไม่ยาก

สำหรับทำเลอ่อนนุชนี้ถือเป็นย่านที่อยู่อาศัยดั้งเดิมที่มีคนอยู่อาศัยกันอย่างหนาแน่น จึงมีความอุดมสมบูรณ์โดยรอบสูง อย่างบริเวณด้านหน้าโครงการ DISTRICT Sukhumvit 77 (ดิสทริค สุขุมวิท 77) ก็ค่อนข้างคึกคักเลยนะคะ เพราะมีทั้งร้านค้า ร้านอาหารตลอดแนวถนนให้เลือกจับจ่ายใช้สอยได้หลากหลาย อีกทั้งตัวโครงการก็ตั้งอยู่ใกล้กับฝั่งสุขุมวิทที่มี Hypermarket และ Community Mall หลายแห่งให้มาเดินเล่นหรือช้อปปิ้งกันได้ง่าย ทั้ง People Park Community, Big C Extra อ่อนนุช, Century The Movie Plaza สุขุมวิท และ Lotus’s สุขุมวิท 50

นอกจากนั้นยังมีโรงพยาบาลขนาดใหญ่และโรงเรียนนานาชาติชื่อดังหลายแห่งในระยะไม่เกิน 5 กิโลเมตร ได้แก่ โรงพยาบาลสุขุมวิท, โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท, รร.นานาชาติบางกอกเพรพ สุขุมวิท 77 และ รร.นานาชาติเซนต์แอนดรูว์ส สุขุมวิท 71

Image 1/2
ทางพิเศษฉลองรัช

ทางพิเศษฉลองรัช

ทางด่วนที่ใกล้กับโครงการจะมีให้เลือกใช้งานได้ทั้งหมด 2 เส้นทาง ได้แก่

  • ทางพิเศษฉลองรัช : ด่านพระโขนง มีระยะห่าง 2.6 กิโลเมตร สามารถใช้เดินทางเข้าเมืองไปทางพระราม 9-รัชดา-ลาดพร้าวได้สบายค่ะ
  • ทางพิเศษเฉลิมมหานคร : สามารถใช้ทางลัดผ่านซอยย่อยต่างๆ เพื่อเลี่ยงรถติดบนถนนสุขุมวิทและมาขึ้นตรงด่านสุขุมวิท 72 มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 3.8 กิโลเมตร เพื่อเดินทางไปโซนพระราม 4, สาทรและเพลินจิตได้

Image 1/3
รถไฟฟ้า BTS สถานีอ่อนนุช

รถไฟฟ้า BTS สถานีอ่อนนุช

อย่างที่เราได้เกริ่นไปนะคะว่าการเดินทางด้วยรถสาธารณะบนทำเลนี้ก็มีให้เลือกใช้งานได้หลากหลาย อย่างรถไฟฟ้า BTS สถานีอ่อนนุช ที่พอออกมาตรงทางออก 3 จะเชื่อมกับสะพานลอยและเจอกับจุดวินมอเตอร์ไซค์กลุ่มใหญ่ตรงปากซอยสุขุมวิท 81 ค่ะ ถ้าวันไหนรีบๆไปทำงานหรืออยากเลี่ยงรถติดก็ขึ้นมอเตอร์ไซค์ตรงบริเวณนี้ได้เลย ราคาอยู่ที่ 30 บาท รวมถึงพี่วินฝากบอกมาด้วยว่าที่นี่รับ-ส่งตลอด 24 ชม.เลยนะ

นอกจากนั้นยังมีรถสองแถววิ่งตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำๆ หรือรถแท็กซี่ก็มีขับผ่านไปมาตลอดให้เราเรียกใช้บริการกันได้ง่ายๆ ดังนั้นไม่ต้องกังวลเลยว่าถ้าทำงานหรือปาร์ตี้จนดึก ก็ยังเรียกรถเพื่อเดินทางกลับบ้านได้สบาย

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ DISTRICT Sukhumvit 77 (ดิสทริค สุขุมวิท 77) ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น ที่เป็นอพาร์ทเม้นท์หรือแมนชั่นต่างๆที่ไม่ได้เกิดเสียงดังรบกวนการอยู่อาศัย รวมถึงออกแบบตัวโครงการมีระยะร่นเข้ามาจากถนนอ่อนนุชนิดหน่อย แต่ก็ช่วยเลี่ยงเสียงดังและกลิ่นควันจากถนนด้านหน้าโครงการค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ คอนโด Aspire สุขุมวิท-อ่อนนุช สูง 8 ชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับ อาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น, ที่ดินเปล่าและอาคารพาณิชย์สูง 3-4 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ ถนนอ่อนนุช
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ถนนภาระจำยอมของโครงการ, ที่ดินเปล่าและอาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น

Image 1/2
ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ เมื่อมองไปทางขวา

ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ เมื่อมองไปทางขวา

ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ DISTRICT Sukhumvit 77 (ดิสทริค สุขุมวิท 77) 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • People Park Community ~ 750 เมตร
  • Big C Extra อ่อนนุช ~ 1.7 กิโลเมตร
  • Century The Movie Plaza สุขุมวิท ~ 2.3 กิโลเมตร
  • Lotus’s สุขุมวิท 50 ~ 3.2 กิโลเมตร
  • J Avenue Thonglor ~ 5.9 กิโลเมตร
  • Emporium ~ 5.9 กิโลเมตร
  • Emsphere ~ 6.3 กิโลเมตร
  • Emquartier ~ 6.8 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลสุขุมวิท ~3.6 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ~ 6.1 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • รร.นานาชาติบางกอกเพรพ สุขุมวิท 77 ~ 2.2 กิโลเมตร
  • รร.นานาชาติเซนต์แอนดรูว์ส สุขุมวิท 71 ~ 4.2 กิโลเมตร
  • รร.อนุบาลนานาชาติเวลล์ส ทองหล่อ ~ 5.5 กิโลเมตร
  • รร.นานาชาติเอกมัย ~ 5.3 กิโลเมตร
  • รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ~ 7.2 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

Highlight

  • โครงการโฮมออฟฟิศสูง 3.5 – 5 ชั้น สไตล์ New York Renaissance
  • เน้นความเป็นส่วนตัว มี 26 ยูนิต เหมาะกับธุรกิจที่ไม่ต้องมีลูกค้า Walk-in ตลอดเวลา

DISTRICT Sukhumvit 77 (ดิสทริค สุขุมวิท 77) เป็นโครงการโฮมออฟฟิศทำเลใกล้เมือง โดยตั้งอยู่ในย่านอ่อนนุชที่เดินทางได้สะดวกสบายทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถสาธารณะ ทำให้ทั้งลูกค้าและพนักงานเดินทางมายังโครงการได้ง่าย ซึ่งโครงการนี้ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 4-3-35 ไร่ มีจำนวนรวม 26 ยูนิต และออกแบบในสไตล์ New York Renaissance Revival ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมใน New York ดูร่วมสมัยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว งั้นเราพามาดู Master Plan ของโครงการกันเลย

ตัวบ้านแต่ละหลังจะอยู่ติดกับถนนภาระจำยอมของโครงการ ทำให้สามารถเดินทางเข้า-ออกโครงการได้สะดวก รวมถึงออกแบบให้มีระยะร่นจากถนนใหญ่เข้ามา ทำให้โซนบ้านมีความสงบและเป็นส่วนตัวขึ้น

เราจึงมองว่าโครงการนี้เหมาะกับธุรกิจที่ไม่ได้ต้องการหน้าร้านให้คนแวะเวียนหรือมีลูกค้า Walk-in ตลอดเวลา แต่เน้นเป็นลูกค้าที่นัดหมายมาล่วงหน้าหรือรู้จักกับทางบริษัทอยู่แล้ว เช่น ธุรกิจ Studio หรือ Production, บริษัทสถาปนิกและบริษัท Start-up ต่างๆ เป็นต้น

โดยโฮมออฟฟิศ CLINTON ที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อยสุดของโครงการ จะตั้งอยู่ด้านในใกล้ๆกับพื้นที่ของทางนิติบุคคล มีจุดเด่นที่เป็นบ้านหน้ากว้าง 18 เมตรและมีขนาดที่ดินใหญ่กว่า 70 ตร.วาเลยนั่นเอง แต่มีให้เลือกเพียง 2 ยูนิตเท่านั้นนะคะ

ส่วนแบบบ้าน BOROUGH และ MADISON มีการออกแบบเป็นบ้านตอนลึกคล้ายกัน มีหน้ากว้างอยู่ที่ 9 เมตร แต่แบบบ้าน BOROUGH จะเป็นโฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ ทำให้เดินทางเข้า-ออกได้ง่ายดีและ MADISON จะเป็นโฮมออฟฟิศ 5 ชั้น มีจำนวนยูนิตมากถึง 16 ยูนิตและตั้งอยู่บริเวณกลางโครงการ ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังเดินทางเข้า-ออกโครงการได้สะดวกอยู่ค่ะ

เรามาเริ่มที่ด้านหน้าโครงการกันเลยนะคะ โดยทางเข้าโครงการจะอยู่ติดถนนอ่อนนุช พร้อมป้ายชื่อโครงการของทาง AP ทั้ง 3 โครงการที่สามารถมองเห็นได้จากถนนใหญ่เลย

ถนนหลักของโครงการนี้จะเป็นถนนภาระจำยอมที่เป็นกรรมสิทธิ์ของทาง AP มีความกว้างอยู่ที่ 9 เมตร รถยนต์จึงสามารถขับสวนกันได้สบาย ซึ่งถนนเส้นนี้เป็นซอยตันมีความยาวประมาณ 640 เมตร เริ่มตั้งแต่บริเวณนี้เข้าไปด้านใน ผ่านโครงการ Aspire สุขุมวิท-อ่อนนุช และสิ้นสุดที่โครงการ บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ สุขุมวิท 77 นั่นเอง ซึ่งทางโครงการได้มีระบบรักษาความปลอดภัยทั้ง CCTV ตามแนวถนนนี้ที่กระจายอยู่ทั้งหมด 5 จุด และมีรั้วทึบรอบโครงการสูง 3 เมตรค่ะ

นอกจากนั้นยังตกแต่งจัดสวนสีเขียวตลอดแนวถนน ช่วยนำสายตาเข้าไปยังด้านในโครงการ รวมถึงมีทางจักรยานอยู่ด้านข้างถนนหลักให้ลูกบ้านทั้ง 3 โครงการ สามารถมาใช้ปั่นออกกำลังกายได้อีกด้วย

Image 1/2
โซน Home Office

โซน Home Office

เมื่อขับรถเข้าไปด้านในจะเจอกับ Sales Gallery ของทาง AP อยู่ด้านข้าง โดยในอนาคตจะรื้อออกและเป็นพื้นที่ของโครงการ DISTRICT Sukhumvit 77 (ดิสทริค สุขุมวิท 77) นั่นเอง

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ระบบ CCTV ตามแนวถนนหลัก 5 จุด
  • รั้วทึบรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • ถนนหลักเป็นถนนภาระจำยอม (กรรมสิทธิ์ของ AP) กว้าง 9 เมตร

แบบบ้าน

Highlight

  • โฮมออฟฟิศในรูปแบบบ้านแฝด ได้ช่องแสงและพื้นที่รอบบ้าน แตกต่างจากโฮมออฟฟิศส่วนใหญ่ที่เป็นทาวน์โฮม
  • ออกแบบสไตล์ New York Renaissance Revival มีความเป็นเอกลักษณ์ ได้ภาพลักษณ์เท่ๆดี
  • โครงสร้างบ้านเป็นแบบ Conventional ก่อด้วยอิฐมวลเบา สามารถทุบกำแพงเชื่อมบ้าน 2 หลังเข้าด้วยกันได้
  • พื้นที่สำนักงานแบบ Double Volume ฝ้าเพดานสูง ทำให้ได้บรรยากาศการทำงานที่โปร่งโล่ง
  • มีแบบบ้านที่ได้ระเบียงปลูกต้นไม้บริเวณหน้าบ้านและ Inner Court ตรงกลางบ้านด้วย

DISTRICT Sukhumvit 77 (ดิสทริค สุขุมวิท 77) เป็นโครงการโฮมออฟฟิศสูง 3.5-5 ชั้น ที่ออกแบบในสไตล์ New York Renaissance Revival ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากสถาปัตกรรมในย่าน Brooklyn เมือง New York มีการลดทอนรายละเอียดและนำมาตกแต่งให้ดูทันสมัยขึ้นทั้งการตกแต่งผนังด้วยกระเบื้อง Kenzai เหมือนอิฐสีส้ม มีความทนแดดทนฝนและดูสวยงาม ได้ภาพลักษณ์แบบเท่ๆดี รวมถึงการใช้กระจกทรงสูงทั้งสี่เหลี่ยมและเส้นโค้ง ช่วยเพิ่มความอ่อนนุ่มให้ตัวอาคารไม่ดูแข็งจนเกินไป

มีใครสังเกตกันมั้ยว่าโดยส่วนใหญ่แล้วโครงการโฮมออฟฟิศจะออกแบบเป็นทาวน์โฮมกันมากกว่า แต่ด้วยผนังบ้านเราที่อยู่ติดกับเพื่อนบ้านทั้ง 2 ฝั่ง จึงมีข้อจำกัดทำให้เปิดรับแสงธรรมชาติได้แค่ด้านหน้า-หลังบ้านเท่านั้น รวมถึงไม่มีพื้นที่รอบบ้าน เพื่อรองรับกิจกรรมต่างๆด้วย

เราว่าโครงการนี้ก็ไอเดียดีในการแก้ข้อจำกัดของทาวน์โฮมทั้งช่องแสงและพื้นที่รอบบ้านมาได้ดีเลย เพราะเลือกออกแบบโฮมออฟฟิศมาในรูปแบบบ้านแฝดแทนนั่นเอง ซึ่งนอกจากจะสร้างความโดดเด่นด้วยรูปแบบบ้านที่ไม่เหมือนใครแล้ว ยังทำให้ได้พื้นที่ใช้สอยในบ้านมาเยอะ จัดฟังก์ชันได้ลงตัวมากขึ้น ช่วยเสริมให้โครงการนี้มีความน่าสนใจ นอกจากนั้นยังมีระเบียงปลูกต้นไม้บริเวณหน้าบ้านและ Inner Court ตรงกลางบ้าน เพิ่มบรรยากาศสดชื่นและเหมือนได้อยู่บ้านจริงๆด้วยค่ะ

ดังนั้นใครที่กำลังมองหาโฮมออฟฟิศใหม่อยู่ เรามองว่าโครงการนี้ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยนะคะ เพราะได้ทั้งสถานที่ประกอบธุรกิจและที่อยู่อาศัยในราคาเริ่มต้นเฉลี่ยต่อตารางเมตรไม่ถึง 100,000 บาท บนย่านอ่อนนุชที่เดินทางได้สะดวกสบายด้วย งั้นเราพาไปดูรายละเอียดของตัวบ้านต่อกันเลยนะคะ

  • CLINTON โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 18 เมตร
    – ที่ดินเริ่มต้น 75.40 และ 76.50 ตร.วา / พื้นที่ใช้สอย 380 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 1 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, 1 ห้อง Powder, 1 ห้องครัว, 1 ห้องอเนกประสงค์, 1 ห้องเก็บของ, 1 ห้องแม่บ้าน, 6 ที่จอดรถ
  • BOROUGH โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 9 เมตร
    – ที่ดินเริ่มต้น 43.90 – 68.10 ตร.วา / พื้นที่ใช้สอย 400 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 1 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, 1 ห้อง Powder, 1 ห้องครัว, 1 ห้องอเนกประสงค์, 2 ห้องเก็บของ, 1 ห้องแม่บ้าน, 5 ที่จอดรถ
  • MADISON โฮมออฟฟิศ 5 ชั้น หน้ากว้าง 9 เมตร
    – ที่ดินเริ่มต้น 47.70 – 102.20 ตร.วา / พื้นที่ใช้สอย 536 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 3 ห้อง Powder, 1 ห้องครัว, 1 ห้องอเนกประสงค์, 2 ห้องเก็บของ, 1 ห้องแม่บ้าน, 7 ที่จอดรถ

โครงสร้างและวัสดุภายในบ้าน

  • หลังคาแบบ Flat Slab
  • โครงสร้างบ้านแบบ Conventional ก่อด้วยอิฐมวลเบา
  • โครงสร้างที่จอดรถ
    – พื้นที่จอดรถในร่มและข้างบ้าน : Slab on Beam ตอกเสาเข็ม ลึก 22 เมตร วัสดุปูพื้นกระเบื้องสีเทาอ่อน 30×60 เซนติเมตร
    – พื้นที่จอดรถกลางแจ้ง : Slab on Beam ตอกเสาเข็มแบบแผ่ ลึก 6 เมตร วัสดุปูพื้นกระเบื้องสีเทาอ่อน 30×60 เซนติเมตร
  • โครงสร้างลานซักล้างเป็น Slab on Beam ตอกเสาเข็ม ลึก 22 เมตร วัสดุปูพื้นกระเบื้องสีเทาอ่อน 30×60 ซม.
  • ประตูรั้วหน้าบ้าน : ประตูรั้วสีดำพร้อมติดตั้งมอเตอร์ประตูรั้วให้ทุกหลังเป็นมาตรฐานโครงการ จาก ON AUTOMATION
  • วัสดุกรอบบานหน้าต่างและประตู : อะลูมิเนียม จาก TOSTEM
  • พื้นชั้น 1-3 : กระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×60 เซนติเมตร
  • พื้นชั้น 4-5 : พื้น SPC ลายไม้ หนา 5 มม.
  • พื้นชั้นดาดฟ้า : พื้นกระเบื้องสีเทาอ่อน 30×60 เซนติเมตร
  • สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจาก KOHLER / อ่างอาบน้ำ จาก CRISTINA / ติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำมาให้เรียบร้อย
  • บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้จริง
  • ก่อกระถางปูนขนาดใหญ่ พร้อมปลูกต้น Silver Oak มาให้ตรงระเบียงทั้ง 2 จุด
  • ผนังภายในฉาบเรียบทาสีขาว
  • ไฟ LED แบบดาวน์ไลท์
  • ระบบน้ำ
    – เตรียม Junction Box สำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นในห้องน้ำชั้น 1, 4 และ 5
    – เตรียม Junction Box สำหรับติดตั้งระบบท่อน้ำร้อน-น้ำเย็น เฉพาะห้องน้ำชั้น 5
  • เตรียม Junction Box สำหรับติดตั้งเครื่องปรับอากาศมาให้
  • เดินระบบไฟตรงพื้นชั้น 2-3 รองรับเป็นพื้นที่ของสำนักงาน

เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยในบ้าน

  • Digital Door Lock จาก KUDOS จำนวน 1 ตัวที่ประตูของบ้านทุกหลัง ( รองรับ 6 ระบบ ได้แก่ 3D Face scan สูงสุด 50 ใบหน้า, Fingerprint, Card, Password รวม 250 สิทธิ์, Key และ Application Wifi Tuya)
  • ลิฟต์โดยสารภายในบ้านแบบระบบสายพานจาก Schneider มาให้ทุกหลัง รองรับได้ 5 คน (400 กิโลกรัม)
  • ระบบไฟในโครงการแบบ 3 เฟส 30(100)A มี Junction Box รองรับ EV Charger ได้ 22 kW. ทุกตัวบ้าน บริเวณที่จอดรถชั้น 1

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

เนื่องจากทางโครงการยังคงอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง วันนี้เราจึงเก็บภาพบรรยากาศของบ้านตัวอย่าง MADISON มาให้แบบเดียวนะคะ ซึ่งเป็นโฮมออฟฟิศสูง 5 ชั้น ที่เป็นแบบบ้านหลังใหญ่และมีจำนวนยูนิตเยอะสุดของโครงการมาฝากกันว่าจะน่าสนใจขนาดไหน


MADISONMADISON โฮมออฟฟิศ 5 ชั้น หน้ากว้าง 9 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 47.70 – 102.20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 536 ตร.ม. ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 3 ห้อง Powder, 1 ห้องครัว, 1 ห้องอเนกประสงค์, 2 ห้องเก็บของ, 1 ห้องแม่บ้าน, 7 ที่จอดรถ ที่นอกจากจะเป็นแบบบ้านหลังใหญ่สุดของโครงการแล้ว ยังมีจำนวนยูนิตเยอะสุดด้วย ซึ่งโซนแบบบ้านนี้จะอยู่ตรงช่วงตรงกลางของโครงการก็จะได้ความสงบขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังเดินทางเข้า-ออกโครงการได้ง่าย มีแปลงที่ดินใหญ่ 100 ตร.วา เหมาะกับคนที่ต้องการใช้พื้นที่รอบบ้านเยอะให้เลือก

โครงสร้างบ้านของโครงการจะเป็นแบบ Conventional ก่อด้วยอิฐมวลเบา มีความแข็งแรงและทนทาน สามารถทุบหรือต่อเติมได้ตามการใช้งานเลย รวมถึงใครที่ซื้อบ้าน 2 หลังติดกันก็สามารถทุบผนังเพื่อเชื่อมพื้นที่เข้าด้วยกันเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ได้ด้วยนะคะ นอกจากนั้นทางโครงการยังคิดเผื่อมาให้โดยทำโครงสร้างบางส่วนมาให้เพื่อรองรับการต่อเติมได้ง่ายดีอย่างตรงพื้นที่จอดรถและดาดฟ้าค่ะ

สำหรับแบบบ้าน BOROUGH และ MADISON จะมี Facade หรือหน้าตาบ้านให้เลือก 2 แบบตามภาพด้านบนเลยนะ มีภาพรวมตัวอาคารทั้งโทนสีและวัสดุคล้ายๆกันและมีเพียงดีเทลบางส่วนที่แตกต่างกัน ทำให้ลูกบ้านสามารถเลือกซื้อได้ตามความชอบเลยค่ะ รวมถึงทั้ง 2 แบบบ้านนี้ก็ถือเป็นยูนิตส่วนใหญ่ของโครงการ พอทางโครงการออกแบบให้มีหน้าตาบ้านที่แตกต่างกันก็ทำให้บรรยากาศบ้านภายในโครงการมีลูกเล่น ไม่ดูซ้ำจนเกินไป

ชั้น 1

  • พื้นที่จอดรถ 7 คัน (จอดในร่มได้ 4 คัน) พร้อมเตรียมโครงสร้างรองรับต่อเติมหลังคาที่จอดรถ
  • พื้นที่เฉลียงหน้าบ้าน พร้อมทางลาดรองรับรถเข็นสินค้าหรือวีลแชร์ได้
  • พื้นที่ Foyer ทำเป็นพื้นที่ต้อนรับรองรับลูกค้า
  • ห้องน้ำออกแบบตามหลัก Universal Design รองรับลูกค้าได้ทุกวัย
  • ห้องอเนกประสงค์ สามารถใช้เป็นพื้นที่รองรับและพูดคุยกับลูกค้า หรือแสดงสินค้าได้
  • ติดตั้งลิฟต์โดยสารมาให้เรียบร้อยและมีบันไดให้ใช้งานได้สะดวก
  • ห้องแม่บ้าน สำหรับดูแลอำนวยความสะดวกต่างๆภายในบ้าน หรือปรับเป็นพื้นที่สต็อกสินค้าได้ด้วย
  • พื้นที่รอบบ้าน ทำเป็นมุมพักผ่อนหรือปาร์ตี้ได้

ชั้น 2

  • ห้องเก็บของอยู่ตรงโถงชั้น 2 ทำให้เก็บของได้เป็นระเบียบเรียบร้อย
  • พื้นที่ Open Plan ขนาดใหญ่ พร้อม Double Volume ทำเป็นพื้นที่สำนักงานและกั้นแบ่งห้องได้
  • พื้นที่ Pantry เป็นมุมสำหรับเครื่องดื่มและขนมทานเล่นของพนักงาน
  • ห้องน้ำแบบ Powder Room แบ่งใช้งานได้ 2 ห้อง
  • ประตูหนีไฟและบันไดหนีไฟอยู่ถัดจากพื้นที่ Pantry

ชั้น 3

  • ออกแบบโถงชั้น 3 เหมือนชั้น 2 มีห้องเก็บของให้ใช้งาน แต่ออกแบบประตูหนีไฟและบันไดหนีไฟอยู่ตรงบริเวณชานพักบันได
  • พื้นที่ Open Plan ขนาดใหญ่ เหมาะทำเป็นพื้นที่สำนักงานและกั้นแบ่งห้องผู้บริหารได้

ชั้น 4

  • ประตูหนีไฟและบันไดหนีไฟอยู่ตรงบริเวณชานพักบันไดเหมือนชั้น 3
  • พื้นที่ Open Plan ขนาดใหญ่เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่ครัวและพื้นที่รับประทานอาหาร พร้อม Double Volume
  • Inner Court พร้อมต้นไม้ใหญ่ บริเวณตรงกลางบ้าน ช่วยเพิ่มแสงธรรมชาติส่องเข้ามาภายในบ้าน
  • พื้นที่ระเบียงพร้อมต้นไม้ขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มบรรยากาศร่มรื่นและผ่อนคลาย
  • ห้องน้ำแบบ Powder Room
  • Junior Bedroom ห้องนอนใหญ่ พร้อม Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว

ชั้น 5

  • ประตูหนีไฟและบันไดหนีไฟอยู่ตรงบริเวณชานพักบันไดเหมือนชั้น 3-4
  • พื้นที่ Master Bedroom ขนาดใหญ่เต็มชั้นแบบ Penthouse
  • Master Bedroom มีพื้นที่นั่งเล่นภายในห้อง, Walk – in Closet และห้องน้ำ
    ในตัว
  • Master Bedroom สามารถมองลงไปเห็น Inner Court ตรงชั้น 4
  • Master Bathroom ขนาดใหญ่ มีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย
  • ระเบียงส่วนตัว ทำเป็นมุมต้นไม้และนั่งเล่น มองลงไปเห็นระเบียงพร้อมต้นไม้ตรงชั้น 4

ชั้นดาดฟ้า

  • โถงชั้นดาดฟ้า ประกอบด้วยลิฟต์โดยสารและห้องน้ำแบบ Powder Room
  • พื้นที่ขนาดใหญ่ พร้อมเตรียมโครงสร้างมาบางส่วน สามารถต่อเติมได้ง่าย

Image 1/2
บริเวณด้านหน้าบ้าน

บริเวณด้านหน้าบ้าน

เราพามาเริ่มกันที่หน้าบ้านกันเลย โดยประตูรั้วหน้าบ้านของตัวบ้านจะเป็นประตูโครงเหล็กรางเลื่อนทำสีดำ ออกแบบเป็นซี่ๆ พร้อมติดตั้งมอเตอร์ประตูรั้วให้ทุกหลังเป็นมาตรฐาน จาก ON AUTOMATION จึงใช้งานเข้า-ออกได้ง่ายดี รวมถึงปัจจุบันคนหันมาใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น ทางโครงการจึงได้เตรียม Junction Box รองรับการติดตั้ง EV Charger ขนาด 22 kW. มาให้ด้วยค่ะ

นอกจากนั้นบริเวณด้านหน้าบ้านได้ติดตั้งกริ่งและถังขยะฝังกำแพงพร้อมกล่องใส่พัสดุ จาก DOS ที่พอออกแบบฝังกำแพงก็ช่วยพรางตาให้หน้าบ้านดูเรียบร้อยดี

แบบบ้านนี้จะสามารถจอดรถได้สูงสุด 7 คัน  โดยพื้นที่จอดรถกลางแจ้งจะจอดได้ 3 คัน ส่วนพื้นที่จอดรถในร่มสามารถจอดได้ 4 คัน ซึ่งจอดเรียงเป็น 2 แถว แถวละ 2 คันค่ะ จึงสามารถรองรับรถของลูกบ้านเอง รวมไปถึงรถของพนักงานและลูกค้าที่มาติดต่อธุรกิจได้เลย

โครงสร้างพื้นที่จอดรถในร่มและข้างบ้านจะเป็น Slab on Beam ตอกเสาเข็มลึก 22 เมตร ส่วนพื้นที่จอดรถกลางแจ้งเป็น Slab on Beam ตอกเสาเข็มแบบแผ่ลึก 6 เมตร จึงทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นทรุดตัวหรือสร้างรอยแตกร้าวให้ตัวบ้านเลย พร้อมปูพื้นเป็นกระเบื้องสีเทาอ่อน 30×60 เซนติเมตร ที่สามารถดูแลรักษาทำความสะอาดได้ง่ายด้วย

อย่างที่เราเกริ่นไปเล็กน้อยแล้วว่าทางโครงการได้คิดเผื่อและทำโครงสร้างบางส่วนมาให้ อย่างตรงพื้นที่จอดรถนี้ก็มีทำคานมารองรับการต่อเติมหลังคาที่จอดรถนั่นเอง ทำให้ลูกบ้านสามารถต่อเติมได้ง่ายดีค่ะ รถของเราจะได้ไม่ต้องตากแดด-ตากฝนด้วย

Image 1/2
พื้นที่รอบบ้าน

พื้นที่รอบบ้าน

โฮมออฟฟิศที่เป็นบ้านแฝดมีความแตกต่างจากโฮมออฟฟิศแบบทาวน์โฮม คือ มีพื้นที่สวนข้างบ้านด้วยนั่นเอง ทำให้สามารถจัดสวน ปลูกต้นไม้ ทำมุมนั่งเล่นเหมือนกับบ้านตัวอย่างที่ตกแต่งเป็นไอเดียได้เลย ช่วยทำให้ได้บรรยากาศสดชื่น ผ่อนคลาย เสริมภาพลักษณ์ให้บริษัทดูดีด้วย รวมถึงสามารถใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์อย่างพื้นที่สังสรรค์หรือปาร์ตี้ของบริษัทให้มากินเลี้ยงกันได้เลย หรืออาจจะใช้เป็นพื้นที่จัดแสดงสินค้าหรือถ่ายงานก็ได้เหมือนกัน

ด้วยตัวโฮมออฟฟิศที่ออกแบบเป็นบ้านแฝดที่มีผนังติดกับเพื่อนบ้านเพียงด้านเดียว จึงทำให้นอกจากมีพื้นที่รอบบ้านแล้ว ตลอดแนวผนังจากชั้นล่างถึงชั้นบนสุดก็มีช่องหน้าต่างเปิดรับแสงธรรมชาติและวิวสวนด้านข้างได้ด้วย ทำให้ได้บรรยากาศภายในบ้านดูโปร่งสบาย ไม่ดูทึบหรืออุดอู้เหมือนสำนักงานอื่นๆ โดยเฉพาะธุรกิจที่เน้นความคิดสร้างสรรค์ สร้างสิ่งแปลกใหม่ ถ้าทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อึดอัดก็อาจจะคิดงานไม่ออกได้

บริเวณด้านหน้าทางเข้าจะมีทางลาดกว้างประมาณ 0.95 เซนติเมตร จึงสามารถรองรับรถเข็นสินค้า กระเป๋าเดินทาง รถเข็นเด็กหรือผู้สูงอายุที่ใช้วีลแชร์ได้สะดวกดี

ประตูทางเข้าหน้าบ้านเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock จาก KUDOS มาให้เรียบร้อย สามารถรองรับการใช้งานได้ 6 ระบบ ทั้ง Fingerprint, Card, Password รวม 250 สิทธิ์, Key, Application Wifi Tuya และ 3D Face scan สูงสุด 50 ใบหน้า ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่พิเศษดี เพราะเราไม่เคยเห็น Digital Door Lock ที่รองรับ Face scan เลยนะ จึงทำให้ทั้งลูกบ้านและพนักงานสามารถใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น อย่างเวลาถือของเต็มสองมือหรือมือไม่สะอาดก็เข้าตัวบ้านได้โดยไม่ต้องใช้มือจับเลย

Image 1/2
พื้นที่ต้อนรับ

พื้นที่ต้อนรับ

เมื่อเข้ามาด้านในจะเจอเป็นพื้นที่โล่งๆขนาด 3.15×3.20 เมตร และมีทางเดินกว้าง 1.20 เมตร ไปยังฝั่งหลังบ้าน ปูพื้นเป็นกระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×60 เซนติเมตร บริเวณนี้เหมาะใช้เป็นพื้นที่ต้อนรับเหมือนที่ทางบ้านตัวอย่างตกแต่งให้เป็นไอเดียได้เลย มีทั้งเคาน์เตอร์ต้อนรับ พร้อมชั้นวางโชว์สินค้า หรือเสริมด้วยชุดโต๊ะเก้าอี้ให้ลูกค้านั่งพักคอยได้ด้วยค่ะ

หลังจากเราเดินผ่านพื้นที่ต้อนรับลูกค้าเข้ามาฝั่งด้านหลังบ้านกันแล้ว จะเจอกับห้องน้ำชั้นล่างและโถงลิฟต์-บันไดอยู่ทางซ้ายเหมือนแบบบ้านมาตรฐานตามภาพด้านบนเลยนะ แต่ทางบ้านตัวอย่างได้ปรับเปลี่ยนให้เป็นไอเดียกันตามภาพด้านล่าง โดยทุบผนังด้านขวาออก ใช้พื้นที่จอดรถบางส่วนมาเป็นพื้นที่รองรับลูกค้าและโชว์สินค้าแทนนั่นเอง

ส่วนที่ทางบ้านตัวอย่างต่อเติมเป็นพื้นที่ขนาด 2.25×3.55 เมตร ได้ตกแต่งเป็นมุมชุดโต๊ะเก้าอี้เพื่อรองรับลูกค้า พร้อมหน้าต่างขนาดใหญ่ที่เปิดรับแสงและวิวสวนข้างบ้าน ให้ระหว่างลูกค้านั่งคอยก็ชมวิวได้ค่ะ

ต่อมาทางบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งเป็นพื้นที่ตั้งโชว์สินค้าให้เป็นไอเดีย มีขนาด 2.25×3.55 เมตร โดย Built-in เป็นชั้นวางของทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งทางโครงการได้ตกแต่งบ้านหลังนี้เป็นธุรกิจทำเครื่องหอม ก็ทำให้ลูกค้าเข้ามาชมสินค้า ทดลองกลิ่นหรือดู Packaging สินค้าตรงบริเวณนี้ได้สะดวกเลย

Image 1/2
พื้นที่อเนกประสงค์

พื้นที่อเนกประสงค์

ห้องนี้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ขนาด 3.25×3.35 เมตร  ซึ่งตามแบบบ้านมาตรฐานจะต้องเข้า-ออกมาจากพื้นที่จอดรถ แต่ทางบ้านตัวอย่างได้ต่อเติมและเชื่อมพื้นที่จากพื้นที่ต้อนรับมาถึงพื้นที่อเนกประสงค์ จึงทำให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกันดีค่ะ โดยทางบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งเป็นห้องประชุมกับลูกค้าหรือทำเป็นพื้นที่ Workshop ได้เหมือนกันนะ

Image 1/3
ลานซักล้าง

ลานซักล้าง

ต่อจากห้องอเนกประสงค์เป็นลานซักล้างขนาดประมาณ 4.45×6.80 เมตร ที่มีโครงสร้างเป็น Slab on Beam ตอกเสาเข็ม ลึก 22 เมตร ส่วนวัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้องสีเทาอ่อน 30×60 ซม. ซึ่งเราสามารถใช้ลานซักล้างนี้เป็นพื้นที่สวนได้นะคะ จะได้เป็นวิวสีเขียวให้กับห้องอเนกประสงค์นั่นเอง สามารถปลูกทั้งไม้พุ่มไปจนถึงต้นไม้ใหญ่ พร้อมหาชุดโต๊ะ-เก้าอี้มาตั้งเป็นมุมนั่งเล่นอีกจุดก็ดีเหมือนกัน ถ้าใครที่ไม่อยากมากังวลกับการดูแลต้นไม้เท่าไหร่ก็จัดเป็นสวนหินแบบญี่ปุ่นหรือต่อเติมเป็นพื้นที่ Pantry ได้ค่ะ

นอกจากนั้นจะมีห้องแม่บ้านมาให้ด้วย สำหรับลูกบ้านที่จ้างแม่บ้านคอยดูแลรักษาความสะอาดพื้นที่สำนักงานและพื้นที่บ้านอยู่ทั้งวัน แต่ใครที่ไม่ได้จ้างแม่บ้านให้อยู่ประจำก็สามารถปรับเป็นห้องเก็บของ สต็อกสินค้าได้ค่ะ

เราพากลับมาดูภายในบ้านกันต่อ หลังจากผ่านพื้นที่ต้อนรับแล้วจะเจอกับห้องน้ำชั้นล่างให้ลูกค้ามาแวะใช้งานได้สะดวก ส่วนด้านข้างห้องน้ำจะเป็นโถงลิฟต์และบันไดไปชั้นบนของบ้าน มีความกว้างของโถงนี้ประมาณ 1.50 เมตร

ด้วยตัวโฮมออฟฟิศที่ออกแบบเป็นบ้านแฝดจึงมีผนังฝั่งนึงที่ติดกับเพื่อนบ้าน ซึ่งเรามองว่าทางโครงการก็ออกแบบฟังก์ชันมาได้ดีเลย เพราะออกแบบเป็นโถงลิฟต์ บันไดหรือห้องน้ำที่ไม่ใช่ฟังก์ชันหลักๆในการทำงานหรืออยู่อาศัย จึงไม่เกิดและได้ยินเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้านนั่นเอง

Image 1/5
ห้องน้ำชั้นล่าง

ห้องน้ำชั้นล่าง

ห้องน้ำชั้นล่างขนาด 1.70×2.35 เมตร ที่ออกแบบตามหลัก Universal Design รองรับการใช้งานได้ทุกวัย โดยติดตั้งเป็นประตูบานเลื่อนกว้างประมาณ 0.95 เมตร และออกแบบพื้นห้องน้ำระดับเดียวกับพื้นด้านนอกเลย จึงสามารถเดินหรือเข็นวีลแชร์เข้าไปในห้องน้ำแบบไม่สะดุด พร้อมทำรางระบายน้ำบริเวณประตูห้องน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำไหลออกไปนอกห้องด้วยค่ะ

ส่วนภายในห้องน้ำจะออกแบบแบ่งฝั่งโซนแห้ง-เปียกชัดเจน พร้อมเดินระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ รวมถึงสุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดมาจาก KOHLER ที่มีความโค้งมน ติดตั้งราวจับช่วยพยุงตัวเวลาลุก-นั่งมาให้ ทำให้คนที่ใช้วีลแชร์ก็สามารถใช้งานได้สะดวก

ทางโครงการได้ติดตั้งลิฟต์โดยสารภายในบ้านมาให้ทุกหลัง โดยเลือกเป็นลิฟต์ระบบสายพานจาก Schneider รองรับได้ 5 คน รวม 400 กิโลกรัม ถึงแม้ว่าลิฟต์ระบบสายพานจะมีความเร็วไม่เท่ากับระบบสลิง แต่จากที่เราลองใช้งานแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่ารอลิฟต์นานนะคะ รวมถึงเสียงเครื่องทำงานก็เบาด้วย

ฝั่งตรงข้ามกับลิฟต์จะเป็นบันไดที่มีโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กที่ปิดผิวด้วยไม้จริง มีความกว้างบันไดประมาณ 1.25 เมตร ส่วนด้านข้างมีราวกันตกเป็นโครงเหล็ก พร้อมมือจับเป็นไม้สำเร็จรูป ทำสีเหมือนตัวบันได มีลูกนอนกว้างประมาณ 27 ซม. ลูกตั้งสูง 18 ซม.

ซึ่งทั้งขนาดความกว้างของบันไดและลูกนอนให้มาใหญ่เลย ทำให้สามารถเดินขึ้น-ลงแบบสวนกันได้สบาย หรือขนย้ายของชิ้นใหญ่ๆก็ง่ายด้วย ส่วนตรงโถงนี้ก็จะมีหน้าต่างบานใหญ่ ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามา ทำให้บรรยากาศตรงโถงบันไดดูสว่าง ไม่มืดทึบ

พอขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับโถงชั้น 2 ขนาดประมาณ 1.45×2.70 เมตร ประกอบด้วยลิฟต์โดยสาร ห้องเก็บของและช่องทางเดินไปยังพื้นที่สำนักงาน ซึ่งจะได้เหมือนตามภาพด้านบนเลยนะคะ เราแนะนำให้ติดตั้งประตูของพื้นที่สำนักงานเพิ่มเหมือนบ้านตัวอย่าง จะได้มีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น รวมถึงช่วยกันเสียงรบกวนและความเย็นของแอร์ลงไปข้างล่างด้วย

พื้นที่ห้องเก็บของด้านข้างลิฟต์มีขนาด 0.95×1.60 เมตร สามารถใช้เป็นพื้นที่สำหรับเก็บอุปกรณ์สำนักงานหรืออุปกรณ์ถ่ายงานต่างๆสำหรับพวก Production House ได้ อย่างบ้านตัวอย่างที่ตกแต่งเป็นธุรกิจเครื่องหอม ก็สามารถใช้เก็บอุปกรณ์ทดลอง สกัดกลิ่นหรือวัตถุดิบปรุงกลิ่นได้ค่ะ

พื้นที่สำนักงานชั้น 2 ออกแบบเป็น Open Plan ขนาดใหญ่ประมาณ 6.70×9.50 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×60 เซนติเมตร เหมือนภาพด้านบนที่เป็นแบบบ้านมาตรฐานเลยนะคะ เราสามารถกั้นแบ่งและจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ยืดหยุ่นตามการใช้งานเลย อย่างทางบ้านตัวอย่างก็ตั้งเป็นโต๊ะยาวและกั้นเพิ่มเป็นห้องประชุมได้ ซึ่งทางโครงการได้เดินระบบไฟตรงพื้นรองรับเป็นพื้นที่ของสำนักงานมาเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนั้นจะได้ช่องแสงที่มาจากด้านหน้า-ด้านหลังบ้านแล้ว ยังมีช่องหน้าต่างอยู่ด้านข้างบ้าน ซึ่งเป็นข้อดีของโครงการนี้ที่ออกแบบมาในรูปแบบบ้านแฝดนั่นเอง รวมถึงมีพื้นที่ฝ้าเพดานสูง ช่วยเพิ่มความโปร่งสบายภายในสำนักงานได้ดี

เรารู้สึกว่าบรรยากาศของที่ทำงานก็มีผลต่อการทำงานเหมือนกันนะ ถ้าเป็นงานที่ต้องการความแปลกใหม่ ไอเดียดีๆ แต่ต้องทำงานอยู่ในห้องทึบๆไม่มีหน้าต่างให้เป็นจุดพักสายตา เราว่าก็เป็นบรรยากาศที่เคร่งขรึมเกินไป แต่โครงการนี้ที่ออกแบบมีหน้าต่างหลายจุดและพื้นที่แบบฝ้าเพดานสูงก็ช่วยเสริมบรรยากาศการทำงานแบบสบายๆมากขึ้น

พื้นที่สำนักงานนี้สามารถออกแบบตกแต่งได้เหมาะสมกับธุรกิจเลย จะวางเรียงเป็นโต๊ะต่อๆกัน หรืออย่างบ้านตัวอย่างได้ตั้งโต๊ะยาว 8 ที่นั่ง เป็นพื้นที่สำหรับทดลองกลิ่นเครื่องหอมต่างๆ ซึ่งจริงๆรองรับได้มากถึง 15 ที่นั่งแบบสบายๆเลยนะคะ ส่วนพื้นที่บริเวณที่ได้ฝ้าเพดานสูงก็กั้นเป็นห้องประชุมได้เป็นสัดส่วนดี

ด้านข้างของพื้นที่นั่งทำงานเมื่อกี้จะเป็นพื้นที่ว่างขนาดประมาณ 2.90×3.25 เมตร ซึ่งทางบ้านตัวอย่างได้ใช้เป็นพื้นที่จัดแสดงสินค้า แต่เราก็สามารถกั้นเป็นห้องประชุมเล็กๆ มีโต๊ะและเก้าอี้ 4 ที่นั่ง สำหรับเป็นพื้นที่ระดมความคิดในการทำงานได้ค่ะ

Image 1/2
ห้องประชุม

ห้องประชุม

ส่วนพื้นที่สำนักงานฝั่งด้านหน้าบ้านมีขนาด 6.70×9.50 เมตร ออกแบบเป็น Double Volume ฝ้าเพดานสูง 6 เมตร พร้อมกระจกเกือบเต็มผนังทั้ง 2 ฝั่งของห้องเลย ทำให้ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในบ้าน รวมถึงเปิดรับวิวด้านนอกด้วย

ทางโครงการได้กั้นประตูแบ่งพื้นที่เป็นห้องประชุมรองรับ 10 ที่นั่งได้สบาย จึงใช้สำหรับการประชุมกับทางลูกค้าได้เป็นทางการดี พร้อมติดตั้งจอทีวีสำหรับการนำเสนอผลงาน รวมถึงกระดานไวท์บอร์ดไว้จดรายละเอียดการถกประเด็นในที่ประชุมด้วย นอกจากนั้นยังมีพื้นที่เหลือให้ตั้งชุดโต๊ะนั่งด้านข้างหน้าต่างได้

บริเวณด้านหลังที่ติดกับโต๊ะทำงานจะเป็นพื้นที่ Pantry ซึ่งทางบ้านตัวอย่างได้ทำเป็นประตูกั้นส่วน Pantry และพื้นที่สำนักงานให้ได้ความเป็นสัดส่วนดีค่ะ

พื้นที่ Pantry มีขนาดประมาณ 1.75×3.65 เมตร โดยเราตกแต่งเป็นเคาน์เตอร์ครัว พร้อมตู้เก็บของด้านบนเหมือนบ้านตัวอย่างได้เลย อาจจะหาซื้อตู้เย็นมาตั้งเพิ่มอีกหน่อยก็ได้ เราจึงเตรียมขนมทานเล่นเพื่อรองรับแขกตรงห้องประชุมได้ รวมถึงเป็นพื้นที่เก็บขนมและเครื่องดื่มของพนักงานด้วย ซึ่งจากพื้นที่ Pantry จะเชื่อมไปห้องน้ำของชั้น 2 และบันไดหนีไฟค่ะ

Image 1/3
ห้องน้ำชั้น 2

ห้องน้ำชั้น 2

ห้องน้ำของชั้น 2 จะเป็นห้องน้ำของพนักงาน มีขนาดห้องประมาณ 1.35×2.00 เมตร พร้อมเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ 2 จุดและห้องน้ำอยู่ 2 ห้องที่ให้ใช้งานร่วมกัน ส่วนสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเลือกติดตั้งจาก KOHLER โดยห้องน้ำนี้ออกแบบเป็น All-Gender Restroom ตามเทรนด์สมัยใหม่ได้ดี เพราะเป็นห้องน้ำที่ไม่แบ่งแยกเพศ ทุกคนสามารถใช้งานร่วมกันได้ แต่เราก็สามารถกำหนดเองได้ว่าห้องน้ำห้องไหนเป็นของผู้หญิง-ผู้ชาย ก็ช่วยแยกการใช้งานได้ในระดับนึงเหมือนกัน

สำหรับชานพักบันไดของชั้น 3-5 จะมีประตูเหล็กทนไฟเพื่อไปยังบันไดหนีไฟที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านหลังอาคาร ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายของอาคารที่สูงเกิน 9 เมตร จะต้องมีบันไดหนีไฟเพื่อความปลอดภัยนั่นเองค่ะ

เมื่อเราเปิดประตูออกไปแล้วจะเจอกับบันไดหนีไฟ มีพื้นที่ชานพักบันไดประมาณ 1.05×2.30 เมตร พร้อมราวกันตกและราวจับบันไดเพิ่มความปลอดภัยด้วยค่ะ

เราพามาต่อที่โถงชั้น 3 กันนะคะ จะออกแบบคล้ายกับโถงตรงชั้น 2 มีห้องเก็บของอยู่ด้านข้างลิฟต์โดยสาร ส่วนบริเวณก่อนถึงพื้นที่สำนักงานจะไม่มีกำแพงหรือประตูกั้นตามภาพด้านบนนี้เลยนะคะ แต่เราก็สามารถกั้นปิดเพื่อให้ได้ความเป็นสัดส่วนก็ดีเหมือนกัน

พื้นที่สำนักงานตรงชั้น 3 ออกแบบเป็น Open Plan ขนาดใหญ่ประมาณ 6.70×9.70 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×60 เซนติเมตร มีหน้าต่างขนาดใหญ่ด้านข้างเปิดรับแสงและวิวได้กว้าง ทำให้ได้บรรยากาศพื้นที่สำนักงานโปร่งโล่งดีมากๆ

Image 1/4
พื้นที่สำนักงานชั้น 3

พื้นที่สำนักงานชั้น 3

พื้นที่สำนักงานนี้สามารถจัดโต๊ะรองรับ 10 ที่นั่งได้สบายเลยค่ะ รวมถึงทางโครงการได้เดินระบบไฟตรงพื้นมาให้เรียบร้อยแล้ว โดยทางบ้านตัวอย่างได้จัดเป็นโต๊ะทำงาน 2 โซน พร้อมชั้นวางของไว้สำหรับเก็บของภายในสำนักงานได้เป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น

สำหรับชั้นนี้จะไม่มีห้องน้ำให้ใช้งานนะคะ ซึ่งเราก็แอบเสียดายเหมือนกันเพราะทำให้พนักงานในชั้นนี้ต้องลงไปเข้าห้องน้ำที่ชั้น 1-2 แทนนั่นเอง รวมถึงห้องน้ำตรงชั้น 2 ก็มีอยู่ 2 ห้องและชั้น 1 มีเพียงห้องเดียว เรารู้สึกว่าจำนวนห้องน้ำมีน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับโฮมออฟฟิศนี้ที่รองรับพนักงาน 20-30 คนได้สบาย

แต่ยังดีที่โครงสร้างบ้านเป็นแบบก่ออิฐมวลเบาอยู่แล้ว จึงสามารถต่อเติมห้องน้ำเพิ่มได้ พนักงานจะได้ใช้งานกันได้สะดวก ยิ่งถ้าออกแบบแบ่งฝั่งหรือแยกชั้นของห้องน้ำชาย-หญิงไปเลยก็ดีเหมือนกันนะ เพราะบางคนอาจจะไม่เคยชินกับ All-Gender Restroom และแอบตกใจเวลาเห็นผู้ชายยืนล้างมือในห้องน้ำเหมือนกันค่ะ

Image 1/3
ห้องทำงานของ CEO

ห้องทำงานของ CEO

ด้านข้างของพื้นที่สำนักงานนี้จะมีพื้นที่ประมาณ 2.65×3.25 เมตร เหมาะกั้นประตูเหมือนบ้านตัวอย่างเป็นห้องทำงานสำหรับ CEO ที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แต่ก็ยังมองเห็นพนักงานที่อยู่ด้านนอกได้ ส่วนด้านข้างของห้องนี้จะเป็นหน้าต่างกระจกยาวตลอดแนวผนัง ทำให้มองลงไปตรงห้องประชุมชั้น 2 ได้

สำหรับชั้น 4-5 เป็นพื้นที่ของชั้นพักอาศัย โถงบันไดจะประกอบด้วยลิฟต์โดยสารและประตูเปิดไปยังส่วนพักอาศัยค่ะ หากใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็สามารถติดตั้งระบบควบคุมลิฟต์ด้วยลายนิ้วมือหรือสแกนหน้าให้มีเฉพาะเจ้าของบ้านที่สามารถขึ้นมาชั้น 4-5 ได้เท่านั้น

เมื่อเข้าไปภายในพื้นที่พักอาศัยจะออกแบบเป็นพื้นที่ Open Plan ขนาดใหญ่ 5.15×8.15 เมตร เชื่อมพื้นที่ครัว พื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น วัสดุปูพื้นเป็น SPC ลายไม้ หนา 5 มม. ซึ่งมีความแข็งแรง ทนความชื้นได้ดี ทำให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นและความเป็นลายไม้ก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเองมากขึ้น

บริเวณด้านหน้าบ้านที่เป็นพื้นที่นั่งเล่นออกแบบเป็นพื้นที่ Double Volume สูง 6.25 เมตร มีหน้าต่างขนาดใหญ่ตลอดแนวผนังทั้ง 3 ฝั่ง ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาในบ้านดูโปร่งและสว่าง

บริวณพื้นที่นั่งเล่นก็สามารถ Built-in ชั้นทีวีและตู้เก็บของ พร้อมวางโต๊ะกลาง โซฟา 3 ที่นั่งและเก้าอี้ด้านข้างได้สบายๆ มีพื้นที่เดินผ่านได้สะดวก พร้อมหน้าต่างเปิดรับแสงและวิวได้กว้าง

พื้นที่ครัวและพื้นที่รับประทานอาหารจะอยู่บริเวณตรงกลางชั้น ระหว่างพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอน พอทางบ้านตัวอย่างได้จัดทั้ง 2 โซนอยู่ใกล้กัน ก็ทำให้สามารถจัดเตรียมและจัดเสิร์ฟอาหารได้ง่ายดีด้วย

พื้นที่รับประทานอาหารสามารถตั้งโต๊ะ 6 ที่นั่งได้สบายๆเลย นอกจากจะร่วมรับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัวแล้ว ยังสามารถเชิญแขกหรือเพื่อนสนิทมาร่วมโต๊ะอาหารกันได้ค่ะ โดยด้านข้างของโต๊ะนี้จะเป็น Inner Court ที่นอกจากจะเป็นพื้นที่ปลูกต้นไม้ เพิ่มวิวสีเขียวแล้ว ยังช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในบ้านด้วย

พื้นที่ครัวก็สามารถตกแต่งเหมือนภาพด้านบนได้เลย ทำเป็นเคาน์เตอร์ครัว พร้อมตู้เก็บของด้านล่างและบน มีเว้นช่องวางตู้เย็น รวมถึงมีพื้นที่ตั้ง Island จัดเตรียมอาหารได้สะดวกดีค่ะ ส่วนด้านข้างของพื้นที่ครัวนี้จะมีทางเดินไปด้านหลังที่เป็นห้องน้ำและระเบียงด้านหน้าบ้าน

ถัดจากพื้นที่ครัวจะเดินมาเจอกับพื้นที่ว่างประมาณ 1.45×1.70 เมตร เราสามารถใช้พื้นที่นี้ตั้งเป็นชั้นวางของหรือตู้เก็บของต่างๆได้ รวมถึงเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าได้ด้วย โดยฝั่งขวาจะเป็นห้องน้ำของชั้น 4 ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นระเบียงด้านหน้าบ้าน

เราพามาดูระเบียงด้านหน้ากันก่อนนะคะ โดยทางโครงการได้ก่อกระถางปูนขนาดใหญ่ พร้อมปลูกต้น Silver Oak มาให้ตรงระเบียงนี้เลย ก็ทำให้เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับตัวบ้าน รวมถึงเราสามารถเปลี่ยนบรรยากาศพักผ่อน หาเก้าอี้มานั่งเล่นตรงนี้ได้

Image 1/3
ห้องน้ำชั้น 4

ห้องน้ำชั้น 4

ห้องน้ำชั้น 4 มีขนาด 1.40×2.15 เมตร ออกแบบเป็น Powder Room คือห้องน้ำที่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำนั่นเอง จะมีเพียงเคาน์เตอร์อ่างล้างมือพร้อมกับโถสุขภัณฑ์จาก KOHLER ทำให้เวลาเรานั่งเล่นหรือใช้งานอยู่ตรงชั้นนี้ก็เข้าห้องน้ำได้สะดวกดี

ทางโครงการยังออกแบบ Inner Court พื้นที่ปลูกต้นไม้อยู่บริเวณกลางชั้นด้วยนะ โดยอยู่ระหว่างพื้นที่นั่งรับประทานอาหารและห้องนอน จึงทำให้ทั้ง 2 ฟังก์ชันได้วิวสวนสีเขียวนี้นั่นเอง

Inner Court มีขนาดประมาณ 2.25×2.70 เมตร เป็นพื้นที่ระเบียงที่ทางโครงการได้ก่อกระถางปูนขนาดใหญ่ พร้อมปลูกต้น Silver Oak มาให้เหมือนระเบียงฝั่งด้านหน้าบ้านเลยและต้นไม้นี้จะโตสูงขึ้นไปเป็นวิวของ Master Bedroom ที่อยู่ชั้น 5 ซึ่งนอกจาก Inner Courty จะเป็นวิวสีเขียว เพิ่มบรรยากาศร่มรื่นและสดชื่นแล้ว ยังช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในบ้าน ทำให้ได้บรรยากาศน่าอยู่อาศัยมากขึ้นด้วยค่ะ

รวมถึงทางโครงการได้เตรียมก๊อกน้ำไว้ให้ตรงระเบียงนี้เลย ทำให้เราสามารถรดน้ำต้นไม้ได้ง่ายๆหรือจะติดตั้งเป็นระบบรดน้ำอัตโนมัติก็สะดวกดีเหมือนกันนะ

หลังจากเราเดินผ่าน Inner Court จะเจอกับห้องนอนรองขนาดประมาณ 3.65×3.75 เมตร มีพื้นที่วางเตียง 5 ฟุตและชั้นวางทีวีตรงปลายเตียง มีพื้นที่กว้างเดินผ่านเข้า-ออกได้ ส่วนด้านในเป็นพื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำในตัวเลย จึงสามารถใช้เป็นห้องนอนของลูกได้สบายค่ะ

พื้นที่เตียงนอนจะสามารถวางโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งสำหรับวางโคมไฟ หนังสือหรือมือถือได้ รวมถึงมีหน้าต่างกระจกเปิดรับแสงธรรมชาติทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งฝั่งนึงของเตียงจะเปิดรับวิวสีเขียวของ Inner Court นั่นเอง

พื้นที่ Walk-in Closet ของห้องนอนนี้เชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัวเลย เราสามารถกั้นกำแพงระหว่างพื้นที่เตียงนอนได้ ทำให้มีความเป็นสัดส่วนดี รวมถึงไม่ให้ฝุ่นจากเสื้อผ้าและความชื้นของห้องน้ำลอยไปตรงบริเวณเตียงนอนค่ะ

เราสามารถตกแต่งเหมือนบ้านตัวอย่างได้เลยนะ ทั้ง Built-in ตู้เสื้อผ้าเป็นรูปตัว I พร้อมโต๊ะแต่งหน้า จะมีพื้นที่หน้าห้องน้ำประมาณ 1.05×2.15 เมตร ทำให้เรายืนเลือกชุดหรือแต่งตัวได้สะดวก

Image 1/5
ห้องน้ำของห้องนอน

ห้องน้ำของห้องนอน

ห้องน้ำของห้องนอนนี้จะมีขนาด 2.05×2.30 เมตร ออกแบบแบ่งโซนแห้ง-เปียกมาได้เป็นสัดส่วนชัดเจนดี เลือกติดตั้งสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมดจาก KOHLER ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.90×1.00 เมตร พร้อมติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำมาให้ด้วย จึงสามารถยืนอาบน้ำได้สะดวกและน้ำไม่กระเด็นไปเลอะบริเวณอื่นค่ะ

นอกจากนั้นทางโครงการได้เดินระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ด้วยนะคะ เราจึงสามารถหาซื้อและเลือกแบรนด์ที่ชื่นชอบเพื่อติดตั้งเองได้เลยค่ะ

เราพามาที่ชั้น 5 กันแล้วนะคะ โดยชั้นนี้จะเป็น Master Bedroom เต็มชั้นแบบ Penthouse เลยนั่นเอง โดยวัสดุปูพื้นจะเหมือนชั้น 4 เลือกเป็น SPC ลายไม้ หนา 5 มม. ที่ทนความชื้นได้ดี

ตามแบบบ้านมาตรฐานจะออกแบบเป็นพื้นที่ Open Plan ขนาดใหญ่ 5.15×8.15 เมตร โดยฝั่งด้านหน้าบ้านจะเป็นพื้นที่เตียงนอนและพื้นที่นั่งเล่น ส่วนฝั่งหลังบ้านจะเป็นพื้นที่ Walk-in Closet และ Master Bathroom ค่ะ

เราสามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตพร้อมโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งได้สบายเลยนะคะ ส่วนด้านข้างจะเป็นหน้าต่างขนาดใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติ รวมถึงได้วิวสีเขียวจากต้น Silver Oak ตรง Inner Court ที่ชั้น 4 ด้วยค่ะ

บริเวณปลายเตียงนอนสามารถทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นเหมือนทางบ้านตัวอย่างได้เลย โดย Built-in ชั้นวางทีวีและชั้นวางของ วางโซฟา 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลาง มีพื้นที่เดินผ่านไปมาได้สะดวกค่ะ

ข้างๆพื้นที่นั่งเล่นจะมีประตูกระจกบานเลื่อนแบบเข้ามุมเปิดออกไประเบียงฝั่งด้านหน้าบ้านได้ ซึ่งพอทางโครงการออกแบบเป็นประตูแบบเข้ามุมก็ทำให้สามารถเปิดรับแสงและวิวได้กว้างดีค่ะ หรือวันไหนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศนั่งเล่นดูบ้างก็สามารถเปิดเพื่อรับลมได้เต็มที่เลย

พื้นที่ระเบียงฝั่งด้านหน้าบ้านจะออกแบบเป็นรูปตัว L มีขนาดประมาณ 2.70×4.00 เมตร เหมาะทำเป็นมุมปลูกต้นไม้ เพื่อเป็นวิวสีเขียวให้กับพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนค่ะ หรือจะทำเป็นมุมนั่งเล่นแบบ Semi Outdoor ก็ได้นะคะ เพราะทางโครงการได้มีโครงสร้างบางส่วนรองรับการต่อเติมไว้แล้ว

จากตรงระเบียงของ Master Bedroom จะมองลงไปเห็นระเบียงตรงชั้น 4 ที่ทางโครงการได้ปลูกต้น Silver Oak สูงมาถึงชั้น 5 เลยนั่นเอง

ต่อมาเราจะพาไปดูฝั่งหลังบ้านที่เป็นพื้นที่ Walk-in Closet และ Master Bathroom กัน ซึ่งจะอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องเลย ส่วนด้านข้างจะเป็นหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ที่มองลงไปเห็น Inner Court ค่ะ

Image 1/2
Walk-in Closet

Walk-in Closet

Walk-in Closet ของ Master Bedroom มีขนาดประมาณ 2.65×2.85 เมตร สามารถตกแต่งและทำ Built-in เหมือนบ้านตัวอย่างได้เลย โดยทำเป็นตู้เสื้อผ้ารูปตัว I พร้อมโต๊ะแต่งหน้าทั้ง 2 ฝั่ง จะได้แบ่งฝั่งของผู้ชาย-ผู้หญิงไปเลย ส่วน Master Bathroom จะอยู่ด้านในเชื่อมกับ Walk-in Closet ทำให้เวลาอาบน้ำเรียบร้อยแล้วก็มายืนแต่งตัวได้สะดวกดี

Image 1/8
Master Bathroom

Master Bathroom

Master Bathroom มีขนาดประมาณ 2.30×3.90 เมตร โดยออกแบบแบ่งโซนแห้ง-เปียกมาชัดเจน พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก KOHLER ทั้งหมดเลย เลือกใช้เคาน์เตอร์อ่างล้างมือ 2 อ่างแบบ His & Her ออกแบบมีพื้นที่วางของบนเคาน์เตอร์กว้าง มีชั้นเก็บของใต้อ่างล้างมือ ไว้เก็บพวกอุปกรณ์ของใช้ภายในห้องน้ำ ส่วนฝั่งซ้ายของห้องน้ำจะเป็นพื้นที่อาบน้ำและโถสุขภัณฑ์

บริเวณพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.95×1.20 เมตร ติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำมาให้ เพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นเลอะบริเวณอื่น พร้อมติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower และ Rain Shower รวมถึงเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นและเตรียม Junction Box สำหรับติดตั้งระบบท่อน้ำร้อน-น้ำเย็นมาให้เรียบร้อย นอกจากนั้นมีอ่างอาบน้ำจาก CRISTINA มาให้ด้วย จึงสามารถมานอนแช่ผ่อนคลายได้สบาย

ถัดมาเราจะพาไปดูชั้นดาดฟ้ากัน ซึ่งทางโครงการก็ทำเป็นโถงชั้นดาดฟ้ามาแบบในรูปนี้เลยนะคะ แตกต่างกับโครงการส่วนใหญ่ที่พอเดินขึ้นมาชั้นดาดฟ้าจะเจอเป็นพื้นที่โล่งๆกลางแจ้งเลยนั่นเอง รวมถึงเราสามารถใช้ลิฟต์โดยสารขึ้นมายังชั้นนี้ได้ด้วย ส่วนด้านข้างของลิฟต์ก็มีห้องน้ำแบบ Powder Room ให้ใช้งานได้ และมีประตูด้านข้างโถงเปิดออกไปยังพื้นที่ดาดฟ้าแบบกลางแจ้งค่ะ แต่เราขอพาไปดูห้องน้ำกันก่อนนะ

Image 1/3
ห้องน้ำของชั้นดาดฟ้า

ห้องน้ำของชั้นดาดฟ้า

ห้องน้ำของชั้นดาดฟ้าออกแบบเป็น Powder Room ที่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ แต่จะมีเฉพาะเคาน์เตอร์อ่างล้างมือพร้อมกับโถสุขภัณฑ์นั่นเอง โดยทางโครงการได้เลือกติดตั้งสุขภัณฑ์จาก KOHLER สำหรับเราชอบที่ออกแบบมีห้องน้ำอยู่ตรงชั้นดาดฟ้านี้ เพราะว่าเวลาพนักงานมาใช้พื้นที่ดาดฟ้าสำหรับทำงาน ถ่ายงานต่างๆก็สามารถเข้าใช้ห้องน้ำได้ง่าย ไม่ต้องลงไปถึงชั้น 3 นั่นเอง

สำหรับพื้นที่ชั้นดาดฟ้าตามแบบบ้านมาตรฐานจะได้เหมือนภาพด้านบนเลยนะคะ มีการปูพื้นกระเบื้องสีเทาอ่อน 30×60 เซนติเมตรมาให้เรียบร้อย พร้อมก่อโครงสร้างมาให้บางส่วนอย่างกั้นกำแพงและเว้นช่องกระจก

อย่างทางบ้านตัวอย่างก็ได้ต่อเติมเป็นห้องใช้เป็นพื้นที่ทำงานได้อีกจุดเลย อย่างพวก Live Studio สำหรับ Live โปรโมตสินค้าหรือขายของได้นั่นเอง

Image 1/2
ชั้นดาดฟ้า

ชั้นดาดฟ้า

ซึ่งทางโครงการได้ก่อโครงสร้างตรงดาดฟ้ามาแบบนี้เลย เราจึงต่อเติมพื้นที่ได้เต็มชั้น ทำให้มีพื้นที่ใช้งานเพิ่มขึ้นมา รองรับพนักงานได้มากขึ้น หรืออาจจะมีการกั้นห้องบางส่วนและเว้นพื้นที่บางจุดให้เป็นพื้นที่ Outdoor สำหรับมาปาร์ตี้สังสรรค์งานเลี้ยงบริษัทตรงดาดฟ้า ให้พนักงานมานั่งกินหมูกระทะและชาบูกันได้สบายๆเลย

แบบแปลน

นอกจากนั้นทางโครงการยังมีอีก 2 แบบบ้านให้เลือกด้วยนะคะ จะเป็นโฮมออฟฟิศสูง 3.5 ชั้นในรูปแบบบ้านแฝดเหมือนกับที่เราพาไปดูมาเลย แต่ปัจจุบันยังไม่มีภาพจำลองบรรยากาศของ 2 แบบบ้านนี้มาให้ดูนะคะ จะมีเฉพาะแปลนบ้านมาให้ดูกันดังนี้

CLINTON CLINTON โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 18 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 75.40 และ 76.50 ตร.วา / พื้นที่ใช้สอย 380 ตร.ม. ฟังก์ชัน 1 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, 1 ห้อง Powder, 1 ห้องครัว, 1 ห้องอเนกประสงค์, 1 ห้องเก็บของ, 1 ห้องแม่บ้าน, 6 ที่จอดรถ

โดยแบบบ้านนี้จะมีเพียง 2 ยูนิตเท่านั้น ถึงแม้จะมีพื้นที่ใช้สอยน้อยกว่าแบบบ้านอื่นๆในโครงการ แต่ก็มีที่ดินใหญ่กว่า 70 ตร.วาเลย จึงเหมาะกับคนที่ต้องการพื้นที่รอบบ้านใหญ่ รองรับการต่อเติมขยับขยายพื้นที่ได้ เช่น เรือนรับรองลูกค้าที่แยกจากตัวบ้านโดยเฉพาะ เป็นต้น

นอกจากนั้นด้วยรูปร่างที่ดินขอบแบบบ้านนี้ที่เป็นสามเหลี่ยมจึงไม่ได้เป็นบ้านตอนลึกเหมือนแบบบ้านอื่นๆ แต่จะเป็นบ้านหน้ากว้างมากถึง 18 เมตรนั่นเอง อีกทั้งจัดฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วนดี โดยพื้นที่จอดรถ 6 คันอยู่ทางขวาของบ้าน ส่วนฟังก์ชันภายในบ้านก็แบ่งเป็นฝั่งได้ชัดเจนดี สำหรับฝั่งด้านหน้าบ้านออกแบบเน้นเป็นพื้นที่สำนักงานหรือพื้นที่นั่งพักผ่อน และฝั่งด้านหลังบ้านจะเป็นพื้นที่ Service หรือฟังก์ชันที่เน้นความเป็นส่วนตัวอย่างห้องทำงานของ CEO และห้องนอนค่ะ


BOROUGH แบบบ้านหลังกลางของโครงการ ได้แก่ BOROUGH โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 9 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 43.90 – 68.10 ตร.วา / พื้นที่ใช้สอย 400 ตร.ม. ฟังก์ชัน 1 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, 1 ห้อง Powder, 1 ห้องครัว, 1 ห้องอเนกประสงค์, 2 ห้องเก็บของ, 1 ห้องแม่บ้าน, 5 ที่จอดรถ ซึ่งทางโครงการก็แอบกระซิบมานะคะว่าแบบบ้านนี้ก็มี Facade หรือหน้าตาบ้านให้เลือก 2 แบบ แต่จะเป็นยังไงก็รอติดตามกับทางโครงการได้เลยนะ หรือถ้าเราได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาจะรีบมาอัพเดทให้ทุกคนอ่านกันค่ะ

แบบบ้านนี้จะออกแบบคล้ายกับ MADISON ที่เราได้พาชมแบบเจาะลึกกันมา แต่ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่น้อยกว่าและเป็นโฮมออฟฟิศสูง 3.5 ชั้น จึงมีฟังก์ชันบางส่วนที่แตกต่างกันค่ะ โดยแบบบ้าน BOROUGH จะจอดรถได้ 5 คัน มีพื้นที่ต้อนรับอยู่บริเวณทางเข้าบ้านเลย แต่จะต้องไปรองรับแขกที่ห้องอเนกประสงค์ด้านในบ้านแทน ส่วนชั้น 2 และ 2M เป็นพื้นที่สำนักงาน โดยชั้น 2M เหมาะเป็นห้องทำงานของ CEO และห้องประชุม สำหรับชั้น 3 จะออกแบบให้ห้องนอนอยู่ฝั่งด้านหน้าบ้านเปิดรับแสงและวิวด้านนอก ส่วน Common Area จะอยู่ทางด้านหลังบ้าน ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเวลามานั่งเล่นบริเวณนี้ค่ะ

ราคา

DISTRICT Sukhumvit 77 (ดิสทริค สุขุมวิท 77) ราคา ณ วันที่ 4 กันยายน 2567

  • CLINTON โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 18 เมตร
    – ที่ดินเริ่มต้น 75.40 และ 76.50 ตร.วา / พื้นที่ใช้สอย 380 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 1 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, 1 ห้อง Powder, 1 ห้องครัว, 1 ห้องอเนกประสงค์, 1 ห้องเก็บของ, 1 ห้องแม่บ้าน, 6 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 36 ล้านบาท
  • BOROUGH โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 9 เมตร
    – ที่ดินเริ่มต้น 43.90 – 68.10 ตร.วา / พื้นที่ใช้สอย 400 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 1 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, 1 ห้อง Powder, 1 ห้องครัว, 1 ห้องอเนกประสงค์, 2 ห้องเก็บของ, 1 ห้องแม่บ้าน, 5 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 29 ล้านบาท
  • MADISON โฮมออฟฟิศ 5 ชั้น หน้ากว้าง 9 เมตร
    – ที่ดินเริ่มต้น 47.70 – 102.20 ตร.วา / พื้นที่ใช้สอย 536 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 3 ห้อง Powder, 1 ห้องครัว, 1 ห้องอเนกประสงค์, 2 ห้องเก็บของ, 1 ห้องแม่บ้าน, 7 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 33 ล้านบาท
  • ค่าจอง 300,000 บาท
  • ค่าทำสัญญา 1,500,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 29 บาท/ตร.วา/เดือน
  • Promotion (ภายใน 31 ธ.ค. 2567)
    ฟรี เครื่องปรับอากาศพร้อมติดตั้งทั้งหลัง (สามารถติดตั้งได้ทั้งแบบ Wall type และ Cassette type ทางโครงการระบุตำแหน่งไว้ให้)
    – ฟรี ค่าส่วนกลางล่วงหน้า 3 ปี

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

โครงการนี้ตั้งอยู่บนทำเลใจกลางเมือง โดยอยู่บนถนนสุขุมวิท 77 หรือถนนอ่อนนุช ที่เชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิท ถนนศรีนครินทร์และพัฒนาการได้ หรือจะไปโซนทองหล่อ เอกมัยและอโศกก็ง่าย รวมถึงใกล้ทางด่วนและรถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทำให้ทั้งลูกค้าและพนักงานก็สามารถเดินทางมาติดต่อและทำงานได้สะดวก โดยรอบโครงการก็มีรถสาธารณะหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ได้ตลอดทั้งวัน

อีกทั้งตัวโครงการที่ตั้งอิงมาฝั่งสุขุมวิทที่มีความคึกคักและความอุดมสมบูรณ์สูง เช่น People Park Community, Big C Extra อ่อนนุช, Century The Movie Plaza สุขุมวิท และ Lotus’s สุขุมวิท 50 รวมถึงมีโรงพยาบาลขนาดใหญ่และโรงเรียนนานาชาติชื่อดังหลายแห่งในระยะไม่เกิน 5 กิโลเมตร ทำให้สามารถอยู่อาศัยและใช้ชีวิตในโครงการได้สะดวกสบายเลย

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

ด้วยตัวโครงการที่เป็นโฮมออฟฟิศให้ลูกค้าเข้ามาติดต่อได้ง่าย จึงออกแบบเป็นโครงการแบบเปิด แต่ทางโครงการก็เตรียมระบบรักษาความปลอดภัยมาให้ทั้งระบบ CCTV ตามแนวถนนหลัก 5 จุด และรั้วทึบรอบโครงการสูง 3 เมตร

สำหรับตัวโฮมออฟฟิศทุกหลังจะมีติดตั้ง Digital Door Lock ที่ประตูทางเข้าของบ้านทุกหลัง รองรับการใช้งานได้ถึง 6 ระบบ แต่พิเศษที่รองรับ 3D Face scan ได้สูงสุด 50 ใบหน้าเลย ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่เราไม่เคยเห็นในที่อื่น

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

โครงการนี้มีเพื่อนบ้านทั้งหมด 26 ยูนิต โดยบ้านแต่ละหลังจะเรียงจากด้านหน้าถนนอ่อนนุชเข้ามาด้านในซอย ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวดี เหมาะกับบริษัทหรือธุรกิจที่เน้นเป็นลูกค้าที่นัดหมายมาล่วงหน้าหรือรู้จักกับทางบริษัทอยู่แล้ว

ตัวโฮมออฟฟิศมีทั้ง 3.5 ชั้นและ 5 ชั้นให้เลือก โดดเด่นด้วยรูปแบบบ้านแฝดแตกต่างจากโฮมออฟฟิศอื่นที่เป็นทาวน์โฮม ทำให้ได้ช่องแสงและพื้นที่รอบบ้านใหญ่กว่านั่นเอง โดยชั้น 1 จะเป็นพื้นที่จอดรถ ส่วนชั้น 2-3 จะเป็นพื้นที่สำนักงานที่ออกแบบเป็นพื้นที่โล่งๆให้จัดฟังก์ชันได้เหมาะกับธุรกิจของเรา พร้อมพื้นที่ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume เพิ่มบรรยากาศโปร่งสบาย ส่วนพื้นที่อยู่อาศัยจะอยู่ที่ชั้นบนสุดของตัวบ้าน แบ่งพื้นที่ได้เป็นสัดส่วน พร้อม Inner Court ที่พิเศษกว่าโฮมออฟฟิศอื่นๆ ช่วยสร้างบรรยากาศเหมือนอยู่บ้านจริงๆ นอกจากนั้นยังติดตั้งลิฟต์โดยสารและมี Junction รองรับการติดตั้ง EV Charger มาให้ทุกหลังเลย

วัสดุ :

โครงสร้างบ้านแบบ Conventional ก่อด้วยอิฐมวลเบาจึงทุบผนังหรือต่อเติมได้ง่าย สามารถซื้อบ้าน 2 หลังเพื่อทุบเชื่อมต่อกันได้ พร้อมเดินระบบไฟตรงพื้นที่สำนักงานมาเรียบร้อย ส่วนโครงสร้างที่จอดรถและลานซักล้างเป็นแบบ Slab on Beam ไม่ต้องกลัวพื้นทรุด ตรงประตูรั้วหน้าบ้านก็ติดตั้งมอเตอร์มาให้ทุกหลังจาก ON AUTOMATION เลือกวัสดุกรอบบานหน้าต่างและประตูแบบอะลูมิเนียม จาก TOSTEM

สำหรับวัสดุปูพื้นชั้นสำนักงานเป็นกระเบื้องพอร์ซเลนและพื้นชั้นพักอาศัยเป็น SPC ลายไม้ หนา 5 มม. พร้อมปูพื้นกระเบื้องตรงชั้นดาดฟ้ามาให้ด้วย นอกจากนั้นเลือกใช้สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำจาก KOHLER เป็นหลัก

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

ทางโครงการมีการจัดสวนอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการและปลูกต้นไม้ตามแนวถนนหลักมายังภายในโครงการ นอกจากช่วยเสริมบรรยากาศสดชื่น น่าอยู่อาศัยแล้ว ยังช่วยนำสายตาเข้าไปยังด้านในโครงการด้วยค่ะ ส่วนตัวบ้านจะมีพื้นที่รอบบ้านให้ทำสวนสีเขียวได้ และทางโครงการได้ให้ต้น Silver Oak มาตรงระเบียงทั้ง 2 จุดของแบบบ้านหลังใหญ่ ช่วยสร้างบรรยากาศเหมือนอยู่บ้านดีค่ะ

สาธารณูปโภค :

โครงการนี้เป็นโครงการโฮมออฟฟิศขนาดเล็กที่ไม่ได้มีพื้นที่ส่วนกลางมาให้นะคะ จะมีเพียงระบบ CCTV ตรงถนนหลักของโครงการ เพื่อช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยให้ แต่ตัวโฮมออฟฟิศเองก็มีพื้นที่รอบบ้านให้สามารถปรับเปลี่ยนตามการใช้งานได้อยู่แล้วค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 29-36 ล้านบาท, 4 กันยายน 2567

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ใจกลางถนนอ่อนนุช ใกล้ทางด่วนและรถไฟฟ้า 2 สาย
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – CCTV ตรงถนนหลัก 5 จุด, รั้วทึบรอบโครงการสูง 3 เมตร และ Digital Door Lock ที่ประตูทางเข้าทุกหลัง
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.75/10 – โฮมออฟฟิศในรูปแบบบ้านแฝดได้ช่องแสงและพื้นที่รอบบบ้านใหญ่กว่าโฮมออฟฟิศที่เป็นทาวน์โฮม จัดฟังก์ชันเป็นสัดส่วน แยกโซนการใช้งานดี
  • วัสดุ 7.5/10 – เป็นไปตามมาตรฐานของโครงการระดับนี้
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – จัดสวนด้านหน้าและตลอดแนวถนนภายในโครงการ มีให้ต้น Silver Oak มาในบางแบบบ้าน
  • สาธารณูปโภค 7/10 – โครงการขนาดเล็กจึงมีเพียงระบบความปลอดภัยในโครงการมาให้
  • 7.84 / 10.00 คะแนน

DISTRICT Sukhumvit 77 (ดิสทริค สุขุมวิท 77) เหมาะกับใคร

โครงการ DISTRICT Sukhumvit 77 (ดิสทริค สุขุมวิท 77) เหมาะสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ไม่ต้องมีลูกค้า Walk-in ตลอดเวลา โดยมองหาโฮมออฟฟิศเพื่อประกอบธุรกิจและอยู่อาศัยบนทำเลใกล้เมือง รายล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ครบครัน สามารถตกแต่งและปรับฟังก์ชันภายในบ้านได้ตามความต้องการ มีพื้นที่รองรับพนักงาน 20-30 คนได้สบายๆและจอดรถได้ 5-7 คัน ในงบประมาณเริ่มต้นที่ 29-36 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 174,000-252,000 บาท

ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน 

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่