รีวิวฉบับที่ 1512…สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมทำเลโครงใหม่จาก MJD ที่ร่วมทุนกับทางสิงค์โปร์ มีมูลค่าโครงการถึง 3 พันล้านบาททีเดียว กับโครงการ Muniq หลังสวน คอนโด High Rise ขายแบบ Freehold ทำเลตั้งอยู่ในซอยต้นสน ใกล้กับช่วงถนนสารสิน และสวนลุมพินีค่ะ บรรยากาศทำเลโครงการจะเป็นอย่างไร เราจะพาไปชมกันค่ะ
รีวิวเจาะลึกโครงการมาแล้วค่ะ สามารถอ่านรายละเอียดโครงการทั้งหมดได้โดย (คลิกที่นี่)
Fact @ 26 December 2017
- Muniq Langsuan (มิวนีค หลังสวน)
- MJD – JV1 Company a Subsidiary of Major Development PCL
- ULTIMATE CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ : ถนนต้นสน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน
- คอนโด High Rise 28 ชั้น 166 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต (MJD Office)
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด n/a ยูนิตที่อาคาร n/a
- ที่จอดรถแบบ Automatic Parking ช่องจอด 185 คัน คิดเป็น 111%
- ที่ดินประมาณ 1-1-66.5 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : พฤษภาคม 2018
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : สิงหาคม 2021
- 1 Bedroom 50-57 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus 64-78 ตร.ม.
- 2 Bedroom 83-113 ตร.ม.
- 2 Bedroom Plus 96-101 ตร.ม.
- 3 Bedroom 121-133 ตร.ม.
- 3 Bedroom Plus 176-179 ตร.ม.
- The Collection
- ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น n/a ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ n/a บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตร.ม.
- เวปไซต์โครงการ : n/a
- โทร : n/a
พิกัด : 13.735018, 100.544069
โครงการ Muniq หลังสวน ตั้งอยู่ในซอยต้นสน ช่วงปลายซอยใกล้กับถนนสารสิน โดยอยู่ถัดไปจากอาคารสินธรประมาณ 1 แปลงที่ดิน ห่างประมาณ 38 ม. เท่านั้นค่ะ
สำหรับซอยต้นสนเดิมทีเป็นถนนซอยเล็กๆ ที่เดินรถแบบ 2 Way ต้นซอยเชื่อมกับถนนสุขุมวิท แต่เป็นซอยตันไม่ทะลุผ่านถนนสารสินด้านหลัง จึงไม่ใช่ถนนเส้นหลักที่ทุกคนใช้เท่าไหร่นัก เมื่อเทียบกับถนนวิทยุ หรือถนนหลังสวน ถนนที่คู่ขนานกัน ทำให้บรรยากาศของซอยนี้ค่อนข้างเงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัยไม่พลุ่กพล่าน ส่วนใหญ่เป็นอพาร์ทเม้นท์ คอนโดมิเนียม สถานทูต โรงเรียน และร้านอาหารประปราย
ถัดมาในปัจจุบันบรรยากาศก็ยังคงเงียบสงบเช่นเดิม ที่เพิ่มเติมคือซอยต้นสนจะไม่ได้เป็นนซอยตันอีกต่อไป เพราะในอนาคตอันใกล้นี้ทางกทม.กำลังจะเปิดให้ถนนต้นสนสามารถเชื่อมเข้าถนนสารสินด้านหลังได้ เช่นเดียวกับถนนหลังสวน เพิ่มศักยภาพในการเดินทางให้กับโครงการมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องไปออกซอยย่อยเพื่อเชื่อมเข้าถนนหลังสวน แล้วไปออกถนนสารสินอีกทีแล้วค่ะ
และอีกจุดเด่นของโครงการคือเรื่องกรรมสิทธิการถือครองนั่นเองค่ะ เพราะที่นี่เป็นที่ดิน Freehold คือ ผู้ซื้อจะได้ครอบครองกรรมสิทธิ์ของอสังหาริมทรัพย์ที่ตนซื้อไป ซึ่งก็เหมือนกับคอนโดอื่นที่พบได้ทั่วไป แต่จะค่อนข้างพิเศษกับโครงการในย่านนี้ที่มีบางส่วนของย่านเป็นที่ดินทรัพย์สินด้วย ดังนั้นเราจะเห็นโครงการที่เป็นลักษณะ Leasehold กันพอสมควร ซึ่งจุดต่างกันคือ Leasehold จะเป็นสิทธิในการเช่า ผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้จะไม่ได้กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่ตนซื้อ และเมื่อครบกำหนดสัญญาเช่า ผู้ซื้อก็จะต้องคืนอสังหาริมทรัพย์นั้นให้กับเจ้าของที่ดินนั้นๆ ต่อไปค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์จัดว่ามีความสะดวกมากขึ้นหลังจากที่ถนนต้นสนได้เชื่อมระหว่างถนนเพลินจิตและถนนสารสินแล้ว ทำให้เพิ่มศักยภาพในการเดินทางหลากหลายมากขึ้น ทั้งจากถนนเพลินจิตที่เป็นถนนสายหลักเชื่อมจากถนนสุขุมวิทและถนนพระราม 1 วิ่งตรงเข้าสยาม ได้แล้ว อีกฝั่งเป็นถนนสารสินที่เชื่อมระหว่างถนนราชดำริ และถนนวิทยุ ไปออกถนนพระราม 4 ได้บริเวณช่วง สีลม-สาทร จัดเป็นทำเลที่ตอบโจทย์กลุ่มคนทั้ง 2 ฝั่งเลยค่ะ
และอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้น-ทางด่วนเฉลิมมหานครอีกด้วย โดยจุดขึ้นที่ใกล้มีอยู่ 2 จุดด้วยกัน จุดแรกอยู่ตรงถนนเพลินจิต ใกล้ BTS เพลินจิต มีทั้งทางลงและทางขึ้น ถ้าเราใช้ทางขึ้น สามารถเลี้ยวซ้ายจากถนนเพลินจิตเข้าด่านเก็บเงินได้เลย แต่ถ้าเรามาจากทางลง จะบังคับเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าอโศก ทำให้ต้องไปกลับรถสักระยะ ส่วนอีกจุดอยู่บริเวณถนนพระราม 4 วิ่งออกถนนวิทยุแล้วทะลุเข้าพระราม 4 ได้เช่นกันค่ะ
ในส่วนของการเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ ค่อนข้างสะดวกทีเดียวเพราะอยู่ไม่ไกลจากถนนสารสิน เดินออกไปเรียกรถได้ง่าย หากจะใช้บริการรถไฟฟ้าอาจจะไม่ได้อยู่ในระยะเดินนะคะ อาศัยเรียกรถแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์ไปขึ้นได้อยู่ค่ะ โดย BTS ที่ใกล้ที่สุดคือสถานีชิดลม และในส่วนของ MRT อยู่ระหว่างสถานีสีลมและลุมพินีค่ะ
ในแง่ของความอุดมสมบูรณ์ในละแวกจัดว่าเป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง ผนวกกับความ First Class เข้าไปอีกด้วยนะคะ แม้ซอยต้นสนเองจะไม่ได้มีร้านค้าร้านอาหารมากมายนัก จะเน้นไปที่ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยมากกว่าแต่ถนนข้างๆ ที่ทะลุไปออกได้ง่ายอย่างถนนหลังสวนนี่ไม่ธรรมดาเลยนะคะ มีร้านอาหารดังๆมากมาย อย่าง Gaggan ร้านอาหารอินเดีย All six to Twelve, Eat meat sweets, ร้านอาหารฝรั่งเศสชื่อดังอย่าง Le Boeuf และ Starbucks ก็ล้วนแต่อยู่ในซอย มีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 และสปาเปิดรองรับลูกค้าฝรั่งที่มาพักอาศัยโรงแรมในซอยเป็นระยะๆ ช่วงต้นซอยก็มีห้างขนาดกลางอย่าง Mercury Ville รวมถึงฝั่งตรงข้ามที่มีห้างใหญ่ยักษ์อย่าง Central ชิดลม และ Central Embassy ช่วงต้นถนนหลังสวนก็มีโรงเรียนหญิงล้วนอย่างมาแตร์เดอี เลยไปไม่กี่สถานีก็เป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และขาดไม่ได้เลยกับสวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่างสวนลุมพินี ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าของทำเลได้ดีมาก ออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ง่ายมาก และการที่ได้วิวจากสวนลุมพินีนั้นถือว่าไม่ได้หาได้ง่ายๆ เช่นกัน
การเดินทางในวันนี้ของเราเริ่มต้นจาก BTS สถานีเพลินจิตเดินตรงไปยัง BTS ชิดลม ไปดูความอุดมสมบูรณ์และบรรยากาศระหว่างทางบนถนนเพลินจิต ว่าบริบทโดยรอบมีอะไรบ้าง และเป็นอย่างไรกันค่ะ
เริ่มต้นจากสถานีเพลินจิตบริเวณทางออก 2 กันค่ะ
เดินออกมาหน่อยเจอทางเข้าอาคาร Park Ventures และเป็นทางเข้าเดียวกับโรงแรม The Okura Prestige Bangkok อีกด้วย
เราเดินตรงไปอีกหน่อยตามทางเดิน Sky Walk ด้านบนนะคะ จะเห็นป้ายอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ โรงแรม และห้างสรรพสินค้าเยอะแยะทีเดียว เดี๋ยวเราเดินไปดูกันค่ะ
เดินผ่าน Park Ventures บริเวณทางเดินมีการตกแต่งบรรยากาศด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ดูร่มรื่นและสวยงาม ช่วยสร้างบรรยากาศบริเวณนี้ได้ดีทีเดียวค่ะ
ตัวอาคาร Park Ventures เองเป็นอาคาร Mixed Use ที่มีทั้งอาคารสำนักงานและโรงแรม ซึ่งตัวอาคารเองจัดเป็นอาคารที่ผ่านการประเมิณ LEED ระดับ Gold เลยทีเดียว ซึ่ง LEED นี้จัดเป็นเกณฑ์การประเมิณอาคารเขียว จากองค์ USGBC (U.S. Green Building Council) จากอเมริกาค่ะ นอกเหนือจากนี้ที่ชอบคือรูปลักษณ์การดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์และสวยงามทีเดียว
ฝั่งตรงข้ามอาคาร Park Ventures เป็นอีกอาคารสำนักงานเก่าแก่บนถนนวิทยุเลยก็ว่าได้ คืออาคาร Wave Place นี่เองค่ะ ที่นี่มีทางเชื่อมรถไฟฟ้าเชื่อมเข้าชั้น 2 เรียบร้อย สะดวกสบาย
ภายในอาคาร Wave Place นี้นอกจากเป็นอาคารสำนักงานแล้วในชั้น 2 ก็มีสาขาของ HomePro อยู่ที่นี่ด้วยนะคะ
ถัดมาทางเดิน Sky Walk ก็กว้างขวางขึ้นอย่างชัดเจนเลย โดยทางเดินนี้จะสิ้นสุดลงที่ห้าง Central Embrassy โดยหลักๆ แล้วก็เพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้าของห้างนั่นเอง ซึ่งเราคนใช้งานรถไฟฟ้า หรืออยู่ในย่านนี้ก็ได้อานิสงค์ความสะดวกสบายไปด้วยเช่นกัน สำหรับบริเวณนี้จะอยู่บริเวณแยกที่ตัดกับถนนวิทยุนะคะ
หันมาทางฝั่งขวามือระหว่างอาคาร Waveplace และ Central Embassy ก็จะเป็นถนนวิทยุฝั่งเหนือมุ่งหน้าถนนเพชรบุรีแบบ one-way ขนาด 4 เลน ที่มีสถานฑูตอังกฤษ โรงแรมปาร์คนายเลิศ และเลี้ยวขวาเข้าซอยนายเลิศได้ นอกจากนั้นก็จะมีท่าเรืออยู่ที่คลองแสนแสบ
ถัดมาเป็นห้างใหม่ระดับ Luxury ในย่านเพลินจิต อย่าง Cemtral Embrassy
ภายในห้าง Cemtral Embraasy เรียกว่าเป็นศูนย์ที่รวบรวมแบรนด์เนมชื่อดังต่างๆ มากมาย รวมไปถึงร้านค้าร้านอาหารชื่อดังเช่นเดียวกันค่ะ การตกแต่งภายในหรูหราสวยงามสมชื่อ Embrassy ทีเดียว เป็นหนึ่งห้างในย่านที่ไม่ไกลจากโครงการค่ะ
ส่วนฝั่งซ้ายมือเป็นถนนวิทยุเช่นกันแต่จะเป็นนถนน 6 เลนช่วงกลาง แต่พอไม่มีเกาะกลางก็จะขยายเป็น 7 ช่องได้ แบ่งออกเป็น 2 เลนมุ่งหน้าไปทางพระรามสี่ และอีก 5 เลนมุ่งหน้าไปทางถนนเพชรบุรี บรรยากาศของถนนวิทยุนี้จัดเป็นอันดับต้นๆ เรื่องความสวยงามและความร่มรื่นเลยทีเดียว จากภาพเราจะเห็นต้นจามจุรีขนาดใหญ่เกือบตลอดเส้นของถนนทีเดียว
ด้านข้างเป็นอาคารสำนักงานของธนาคารกรุงศรี ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการก่อสร้างนะคะ
เราลงเดินกันต่อด้านล่างกันนะคะ บริเวณด้านล่างก็มีฟุตบาทที่มีความกว้างพอสมควรเดินได้ไม่ยากค่ะ อาจจะมีบางจุดที่พื้นไม่เสมอบ้าง มีส่วนจากการอยู่ใกล้หน้างานบริเวณก่อสร้าง
ถัดมาอีกหน่อยเป็นพื้นที่ Embrassy Park Plaza ภายในเป็นร้านค้าร้านอาหารต่างๆ ค่อนข้างหลากหลายพอสมควรนะคะ
ถัดมาอีกหน่อย เจอแหล่งขุมสมบัติของเหล่าพนักงานออฟฟิศในย่านนี้เลยทีเดียว เพราะด้านหลังตึกแถวเป็นเต้นท์อาหารที่มีร้านรถเข็นขายอาหารมากมายทีเดียวค่ะ
บรรยากาศภายในของเต้นท์อาหารและร้านขายของต่างๆ ค่อนข้างคึกคักมากทีเดียว ด้านในมีร้านค้าที่ขายอาหารทั้งของคาวหวานในราคาย่อมเยา
ถัดมาอาคารสำนักงานตึกสูง ต้นสน ทาวเวอร์ ด้านหน้ามีป้ายรถเมล์ เป็นอาคารสำนักงานชื่อดังที่มีออฟฟิศหลายบริษัท เนื่องจากติดถนนใหญ่เพลินจิตและอยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้า BTS ทั้งสองสถานีคือชิดลมและเพลินจิต
และตรงมาอีกหน่อยก็ถึงซอยต้นสนหน้าปากซอยของโครงการแล้วค่ะ บริเวณหน้าปากซอยช่วงพักเที่ยงนี้คึกคักมากๆ ช่วงต้นๆ ซอยมีพี่วินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการและยังมีร้านอาหารรถเข็นอีกประมาณ 5-6 ร้านอีกด้วยนะคะ และข้ามซอยต้นสนมาจะเป็นอาคารเพลินจิตค่ะ เป็นอาคารสำนักงานเช่นกัน
บริเวณหน้าอาคารเพลินจิตมีสะพานลอยข้ามไปยังหน้าห้าง Central ชิดลมได้
บริเวณด้านหน้าอาคารเพลินจิต เป็นพื้นที่เปิดโล่งเชื่อมกับฟุตบาท เดินได้สะดวกและร่มรื่นดี เพราะด้านข้างฟุตบาทมีต้นไม้ใหญ่คอยให้ร่มเงาดีทีเดียวค่ะ สำหรับภายในอาคารเพลินจิตก็จะมีบริษัทขนาดใหญ่พอสมควรเลยนะคะ ทั้ง Cathay Pacific, ศรีอยุธยา และ Eastern Star
เดินถัดจากอาคารเพลินจิตเราจะเห็นอาคารสีแดงสะดุดตานั่นคือ The Mercury Ville @ Chidlom เป็นศูนย์การค้าที่รวมร้านอาหารร้านค้าต่างๆ ไว้ภายในซึ่งเดี๋ยวเราจะพาเข้าไปเดินดูบรรยากาศภายในกันในลำดับถัดไปนะคะ และถัดมาด้านนอกติดๆ กันนั้นเป็นทางขึ้น BTS ชิดลมแล้วค่ะ
เดินมาที่บริเวณหน้าห้าง The Mercury Ville @ Chidlom กันต่อนะคะ ช่วงเวลาพักเที่ยงห้างนี้ก็คึกคักไม่แพ้กว่าห้าง Central ใหญ่ๆ ทั้ง 2 ห้างเลย ด้วยความที่เป็นห้างที่เข้า-ออกง่าย ส่วนใหญ่ภายในก็เป็นร้านอาหารอยู่แล้ว ไม่ได้เน้นเดินช็อปปิ้งซื้อของเป็นหลัก
บรรยากาศภายในห้างมีร้านอาหารหลากหลายทีเดียวให้เลือกค่ะ ช่วงกลางวันเราก็จะเห็นพนักงานออฟฟิศมานั่งรับประทานอาหารตามร้านพอสมควรเลยนะคะ ร้านดังหน่อยก็มีต่อคิวเลยทีเดียว บรรยากาศค่อนข้างคึกคักทีเดียวค่ะ นอกจากร้านอาหารแล้วที่นี่ก็มี Lawson ร้านเวชสำอางค์ญี่ปุ่นอย่าง Matsumoto Kiyoshi และธนาคารต่างๆ ด้วย
ออกมาด้านนอกกันต่อนะคะ จาก The Mercury Ville @ Chidlom นี้ก็จะอยู่บริเวณหัวมุมจุดตัดกับถนนหลังสวน และซอยชิดลมแล้ว ซึ่งหากมุ่งหน้าตรงไปก็จะเป็นแยกราชประสงค์ค่ะ
สำหรับถนนหลังสวนนี้เป็นถนนคู่ขนานกับซอยต้นสนที่เป็นซอยที่ตั้งโครงการนะคะ ซอยต้นสนจะมีซอยเล็กๆ ที่สามารถเชื่อมเข้าซอยต้นสนได้เช่นกันค่ะ สำหรับถนนหลังสวนนี้เป็นทาง one-way จากฝั่งถนนเพลินจิตไปทางซอยสารสินเท่านั้นนะคะ ช่วงต้นซอยทางขวามือคือโรงเรียนมาแตร์เดอี โรงเรียนหญิงล้วนชื่อดังอันดับต้นๆ ของประเทศไทยเลยทีเดียว ส่วนฝั่งทางซ้ายมือยังเป็นศูนย์การค้า Mercury เมื่อสักครู่ที่เราพาเดินกันไป หากจะจอดรถต้องเลี้ยวเข้าถนนหลังสวนก่อนเพราะอยู่ติดกับทางเข้า-ออกที่จอดรถของห้างนี้ค่ะ ส่วนถัดไปเป็นร้านค้าที่มี 7-11, ร้านปิ้งย่าง Kingkong และร้านขายผ้าต่างๆ
ส่วนสิ่งปลูกสร้างที่อยู่สองฝั่งของถนนหลังสวนส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรม, คอนโดและ Service apartment ทั้งหมดซึ่งแน่นอนว่าเป็นแบบ highrise ทั้งสิ้น โดยอัตรา Occupacy rate ของถนนหลังสวนในส่วนของคอนโดและ Service apartment ถือว่าสูงมากถ้าเปรียบเทียบกับย่านอื่นๆ ทีเดียวค่ะ
มาที่อีกฝั่งของถนนเป็นซอยชิดลม ซอยนี้เป็น One Way เช่นเดียวกับถนนหลังสวนนะคะ มีทั้งหมด 4 เลน จะวิ่งมาจากถนนเพชรบุรี ส่วนบริเวณจุดตัดกับถนนเพลินจิตหรือต้นซอยฝั่งขวามือของรูปนี้ก็คือห้างเก่าแก่ประจำย่านอย่าง Central ชิดลมนั่นเองค่ะ
ภายใน Central ชิดลม จะแตกต่างกับห้าง Central Embrassy นะคะ ที่นี่จะเดินช็อปปิ้งได้ง่ายดายมากกว่าหน่อยเพราะร้านค้าจัดพื้นที่เปิดโล่งเดินเลือกของได้สะดวกดี ส่วน Central Embrassy จะเน้นเป็นช็อปแบรนด์ดังเป็นช็อปๆ ไปเป็นหลักมากกว่าค่ะ ซึ่งจุดเด่นก็คือเราอยากจะไปซื้อของแบรนด์ไหนก็ตรงเข้าร้านนั้นได้เลย และอาจจะมีของให้เลือกมากกว่าด้วยขนาดของพื้นที่ร้านค้าที่ไม่ได้รวมกันเป็นโซนๆ
หลังจากเราเดินไปดูบรรยากาศความอุดมสมบูรณ์และคึกคักบริเวณถนนเพลินจิตกันแล้ว เราจะกลับเข้ามาดูบรรยากาศภายในซอยต้นสนซึ่งเป็นซอยโครงการกันค่ะ ว่าจะเป็นอย่างไร
เริ่มต้นเส้นทางที่ 2 กันที่บริเวณต้นซอยต้นสนนี้นะคะ ตัวซอยเองจะขนานยาวไปกับคลอง ทำให้สิ่งปลูกสร้างฝั่งซ้ายไม่นิยมที่จะหันหน้าอาคารมาฝั่งซอยต้นสนที่เป็นซอยตัน ส่วนใหญ่จะเป็นส่วนประตูหลังหรือประตูรองของอาคาร ที่จะต้องสร้างสะพานข้ามคลองเชื่อมออกมาอีกด้วย ส่วนสิ่งปลูกสร้างทางฝั่งซ้ายมือส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย มีเปิดเป็นร้านอาหาร สปา และอพาร์ตเมนท์บ้างประปราย
เขยิบลึกเข้ามาก็เป็นโรงเรียน Mulberry International School เป็นโรงเรียนที่เหมือนนำเอาพื้นที่บ้านพักอาศัยขนาดใหญ่ปรับเป็นพื้นที่โรงเรียนขนาดเล็ก จัดเป็นโรงเรียนอนุบาลที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดด้วยนะคะ ผู้ปกครองนำเด็กๆ มาเรียนที่นี่ไม่ต้องกังวลเรื่องรถติดเสียเวลาเดินทางเลย
ถัดมาก็เป็นอพาร์ทเม้นท์ในซอยชื่อ Piya Place
โรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ Bliston Suwan Park View สูง 20 กว่าชั้น
ซอยต้นสนเป็นซอยที่มีความกว้าง 2 เลนถนน รถสวนเข้า-ออกกันได้ มีทางเดินเท้าแค่ทางฝั่งซ้ายเลียบคลอง มีต้นไม้ใหญ่และต้นไม้พุ่มตลอดแนวร่มรื่นและเงียบสงบดีค่ะ
ภายในซอยนี้มีร้านอาหารไทยน่ารักๆ อย่างร้าน Tummy Yummy ให้มาฝากท้องกันด้วยนะคะ
เดินเข้ามาอีกจะเจอ The Pine Crest เป็นอพาร์ตเมนท์สูง 7 ชั้น ด้านในจะเน้นขนาดเป็นห้องใหญ่ ตั้งแต่ 3 ห้องนอนขึ้นไป ถือว่าเป็นอพาร์ตเมนท์ที่สวยหลบในมาอยู่ในซอยนี้ค่ะ
เดินเลียบตามทางเดินไปเรื่อยๆ นะคะ ช่วงกลางๆ ซอยแล้วบรรยากาศจะเงียบสงบมากขึ้น โดยซอยนี้จะมีโซนคึกคักอยู่ 2 จุดคือช่วงต้นซอยที่มีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่และห้างฝั่งตรงข้ามอย่าง Central ชิดลม และอีกจุดคือบริเวณด้านหลังของอาคารสินธรที่เป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่มีทางเข้า-ออกรถยนต์ติดกับซอยต้นสนเช่นกันค่ะ
เดินมาอีกหน่อยก็เจอกับสถานเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์
ประตูด้านหลังของสถานฑูตเนเธอร์แลนด์ เป็นประตูปิดแน่นหนา ความจริงแล้วผืนที่ดินตรงนี้เป็นบ้านพักอาศัยของท่านฑูต ที่เวลามองจากถนนวิทยุจะเห็นพื้นที่สีเขียวกว้างๆ ส่วนพื้นที่ทำการสถานฑูตจริงๆจะอยู่ฝั่งตรงข้ามที่เป็นรั้วเหล็กตั้งสูง
ถัดมาหน่อยก็เจออพาร์ทเม้นท์ Tonson Court สูง 7 ชั้น
และติดๆ กันเป็นโครงการ Sindhorn Residence คอนโดมิเนียม High Rise อีกหนึ่งโครงการในซอยต้นสนนี้ค่ะ
ถัดมาจะมีซอยลัดเชื่อมไปออกถนนหลังสวนซอย 2 ได้ โดยอยู่ติดกับโครงการ Sindhorn Residence
ถนนนี้ทางเป็นถนนที่ทางสินธรเปิดให้คนทั่วไปใช้เข้า-ออกไปทะลุออกถนนหลังสวนได้ เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางมากขึ้น
ถัดมาเป็นโครงการ หลังสวน วิลเลจ โปรเจกใหญ่ยักษ์จากสยามสินธร บริษัทในเครือสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ทั้งหมด 6 โครงการ รวม 11 อาคาร ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม 4 อาคาร (leased hold 30 ปี), Service Apartment 3 อาคาร, โรงแรม 1 อาคาร, หอศิลป์-พิพิธภัณฑ์ศิลปะ 1 อาคาร, Walking Street 1 อาคาร และศูนย์สุขภาพ 1 อาคาร บนเนื้อที่ดินกว่า 56 ไร่ เลยทีเดียว ช่วยยกระดับให้พื้นที่บริเวณนี้มีความครบครันมากขึ้นไปอีก ลูกบ้านโครงการ Muniq หลังสวนก็ได้รับความสะดวกสบายจากที่นี่ได้เลยเมื่อโครงการเสร็จเพราะอยู่ในระยะที่ใกล้มาก เดินได้ง่ายเลยทีเดียวค่ะ
ถัดมาก็จะเจอทางเข้า-ออกของอาคารสินธร สามารถเดินไปทะลุออกถนนหลังสวนได้เช่นกัน และบริเวณนี้ก็มีจุดรับ-ส่งของพี่วินมอเตอร์ไซค์อยู่ด้วยนะคะ เป็นระยะที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการเลย เดินมาเรียกรถได้ค่ะ
อาคารสินธรจัดเป็นอาคารสำนักงานในเช่าเก่าแก่ในย่านนี้ มีทั้งหมด 3 ทาวเวอร์ด้วยกัน โดยมีความสูงสูงสุดอยู่ที่ 29 ชั้น
ถัดจากอาคารสินธรมาอีกหน่อย ฝั่งซ้ายมีจะเป็นที่ดินโครงการแล้วนะคะ เดี๋ยวเราพาไปดูบรรยากาศโดยรอบโครงการก่อน ค่อยพาไปดูบริเวณที่ดินโครงการกันตามลำดับค่ะ
สำหรับฝั่งตรงข้ามของที่ดินโครงการจะเป็นหลังสวนวิลเลจนะคะ ปัจจุบันมีการกั้นพื้นที่เป็นสัดส่วนชัดเจน เพราะกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ด้านข้างไซต์หลังสวนวิลเลจ ปัจจุบันเป็นเต้นท์อาหาร มีร้านอาหารมาเปิดให้บริการพนักงานออฟฟิศอยู่หลายร้านทีเดียวค่ะ
สุดถนนปัจจุบันมีการกั้นพื้นที่ไม่ให้ใช้อยู่นะคะ เพราะยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยเมื่อเสร็จสิ้นแล้วจะเปิดให้ซอยต้นสนสามารถเชื่อมเข้าถนนสารสินได้ เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางให้กับลูกบ้านในโครงการเพิ่มขึ้นมากๆ ทีเดียวค่ะ
บริเวณด้านหน้าที่ตั้งโครงการปัจจุบันยังไม่ได้มีการล้อมรั้วโครงการชัดเจนนะคะ (ซึ่งเราได้ทำขอบเขตที่ดินคร่าวๆ ให้ดูกันก่อน) เดิมทีตรงที่ดินโครงการเป็นแหล่งรวมร้านอาหารมาก่อน แต่ปัจจุบันได้ปิดตัวลงเรียบร้อยแล้ว
ด้านข้างของที่ดิน ติดกันเลยคือพื้นที่อาคารเคี่ยนหงวน และอพาร์ทเม้นท์สูง 8 ชั้น
บริเวณด้านหน้าที่ดินโครงการ ติดกับคลองนะคะ ลักษณะน้ำในคลองอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่สกปรกไม่มีขยะและกลิ่นเหม็นแต่อย่างใดค่ะ ทางเข้า-ออกโครงการคือวิ่งข้ามสะพานเข้ามายังที่ดินโครงการด้านใน
สภาพแวดล้อมโครงการจัดเป็นแปลงที่ดินที่ยังคงเป็น Freehold ท่ามกลางโครงการ Leasehold เกือบทั้งหมด เพราะโดยรอบก็ล้อมไปด้วยที่ดินทรัพย์สินเกือบทั้งหมดแล้วด้วยกันค่ะ ซึ่งใครที่มองหาโครงการใกล้สวนลุมพินี ในซอยต้นสนและยังเป็น Freehold ก็คงตัดตัวเลือกทั้งหมดได้เป็นโครงการนี้แล้ว ในส่วนเรื่องวิวโดยรวมแล้วถูกบล็อกวิวระยะใกล้ทั้งฝั่งทิศเหนือ ทิศตะวันออก ที่ติดกับอาคารสินธรและเคี่ยนหงวนนะคะ ส่วนทิศใต้ในชั้นล่างๆ ตั้งแต่ชั้น 2 ไปถึงชั้น 17 ก็จะถูกคอนโดมิเนียมและอพาร์ทเม้นท์บล็อกวิวอยู่ ใครอยากได้วิวสวยๆ ต้องเลือกชั้นสูงกว่า 17 ขึ้นไปค่ะ ซึ่งวิวก็จะได้เป็นวิวสวนลุมพินีและ City View ที่เป็นอาคารสูงฝั่งถนนพระราม 4 นะคะ จัดเป็นทิศที่วิวสวยที่สุดของโครงการ ในส่วนของฝั่งทิศตะวันตกอยู่ติดกับโครงการหลังสวน วิลเลจ ซึ่งในที่ดินแปลงใหญ่นี้ถูกซอยมาทำเป็นโครงการต่างๆ หลายโครงการทีเดียว ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าฝั่งทิศตะวันตกจะถูกบล็อกวิวหรือได้วิวประมาณไหนนะคะ อาจจะต้องรอทางสินธรอัพเดตเพิ่มเติมอีกหน่อยก่อนนะคะ
ปิดท้ายด้วยที่ดินโครงการจากกล้องโดรนเห็นขอบเขตที่ดินโครงการได้ชัดเจนมากขึ้นค่ะ ลักษณะของที่ดินเป็นรูปทรงสี่เหลื่ยมด้านหน้าจะแคบหน่อยและขยายออกด้านใน รวมขนาดที่ดินอยู่ที่ประมาณไร่กว่า หากลองวิเคราะห์ตัวอาคารจากผังแล้ว ห้องมุมที่อยู่ฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะได้วิวสวยที่สุด เพราะสามารถหลบคอนโดสินธร ต้นสน มองไปทางสวนลุมพินีได้ค่ะ
สรุปภาพรวมทำเลโครงการ
ทำเลโครงการ MUNIQ หลังสวน ตั้งอยู่ในซอยต้นสน ซึ่งในย่านนี้หลายคนก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าโครงการคอนโดมิเนียมขายในรูปแบบ Leasehold กันเป็นส่วนมาก มีเพียงไม่กี่โครงการที่ขายในรูปแบบ Freehold ซึ่งโครงการนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นเดียวกันค่ะ จัดว่าหาได้ยากและแทบจะไม่มีแล้วในย่านนี้ก็ว่าได้ จึงเป็นตัวชูโรงให้ตัวโครงการได้ดีทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ซอยต้นสนเองในอนาคตก็จะมีความสะดวกในการเดินทางมากขึ้น เพราะอีกไม่นานทางกทม.ก็จะเปิดให้ซอยต้นสนสามารถเชื่อมออกถนนสารสินได้แล้ว ไม่ใช่ซอยตันอีกต่อไป ประกอบกับอยู่ไม่ไกลจากสวนลุมพินี สวนขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่นอกเหนือจากการเดินไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนได้ง่ายๆ แล้ว ที่เด็ดคือเรื่องของวิวจากโครงการ ใครเลือกฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้แม้จะเป็นทิศที่ได้รับแดดร้อนช่วงบ่าย แต่แลกมากับวิวสวนลุมพินีที่หาไม่ได้ง่ายๆ เช่นเดียวกันค่ะ อย่างไรก็ดี เรื่องความอุดมสมบูรณ์ในละแวกก็จัดว่ามีความอุดมสมบูรณ์ดีมากอยู่แล้ว มีทั้งห้างระดับหรูขนาดใหญ่ถึง 2 ห้างและร้านค้าร้านอาหารดัง แต่หากมองไปในอนาคตอีกในซอยนี้ก็จะมีโปรเจ็กยักษ์ใหญ่อย่างสินธร วิลเลจ เกิดขึ้นซึ่งช่วยยกระดับความอุดมสมบูรณ์และความเจริญใกล้โครงการมากยิ่งขึ้นไปอีกด้วยค่ะ
นี่คือรีวิวทำเลของคอนโด MUNIQ หลังสวน โครงการใหม่ในย่านใจกลางเมืองจาก MJD (Major Development) สำหรับรีวิวฉบับเต็มที่จะเจาะลึกรายละเอียดของตัวโครงการอดใจรอกันอีกหน่อยนะคะ เมื่อสำนักงานขายเสร็จเรียบร้อยและมีรายละเอียดของโครงการที่ครบถ้วน ทางทีมงานจะเข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิวตัวเต็มอีกทีเพื่อทำเป็นรีวิวฉบับเต็มให้อ่านกันค่ะ