สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ เนื่องจากช่วงนี้กระแสรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายกำลังมาแรงเพราะใกล้จะเปิดให้บริการกันแล้ว ทางทีมงานเลยจะพาไป Update แต่ละสถานีกันซักหน่อยนะครับ
ถ้าใครสนใจอยากอ่านฉบับเต็มเป็นหนังสือ 4 สี พร้อมแผนผังรถไฟฟ้า สามารถลงทะเบียนฟรี!! และรับเล่มจริงได้ที่งาน Think of Living Condo Expo 2016 วันที่ 25 – 28 กุมภาพันธ์ 2559 ณ สยามพารากอน, ชั้น 1, แฟชั่นฮอลล์
สำหรับสายสีเขียวต่อขยายช่วง สำโรง-สมุทรปราการ จะแตกต่างจากสายสีม่วงและสายสีน้ำเงินที่ส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งชุมชนแล้วการใช้งานก็จะเป็นการขนส่งผู้คนเข้าออกเมืองเป็นหลัก แต่สายสีเขียวส่วนต่อขยายนี้จะไม่ได้ทำหน้าที่แค่เชื่อมต่อแหล่งชุมชนกับแหล่งงานในเมืองแต่จะเป็นการเชื่อมต่อพื้นที่อุตสาหกรรมเข้าด้วยกันตั้งแต่ย่านสำโรง, เทพารักษ์, ปู่เจ้าสมิงพราย, แพรกษา และนิคมอุตสาหกรรมบางปู ซึ่งคนที่ทำงานในแหล่งงานต่างๆเหล่านี้จะสะดวกขึ้นในการเข้าออกเมืองยิ่งช่วงรถติดๆนี่น่าจะประหยัดเวลาได้เยอะ ถึงแม้จำนวนสถานีจะเยอะถ้านับจากสำโรงไปสยามก็ 15 สถานีราวๆ 30 นาทีได้
สำหรับใครที่คิดจะหาที่อยู่ในสายสีเขียวเส้นนี้ต้องเข้าใจก่อนนะครับว่าตั้งแต่สถานีแบริ่งมาไม่ได้จะเป็นพื้นที่ของจังหวัดสมุทรปราการแล้วไม่ได้อยู่ในพื้นที่เขต กทม. ค่าโดยสารของช่วงนี้น่าจะทุกคิดเพิ่ม 10 บาท(นอกเหนือจากค่าโดยสารปกติ)เหมือนช่วงต่อขยาย บางจาก – แบริ่ง ส่วนศักยภาพของทำเลหรือสภาพแวดล้อมในอนาคตนั้น การพัฒนาจะเป็นลักษณะเฉพาะซึ่งแต่ละสถานีจะแตกต่างกันไปพอสมควรอย่าง 3 สถานีแรก (สำโรง-ปู่เจ้าสมิงพราย-เอราวัณ) จะเป็นโซนความอุดมสมบูรณ์และแหล่งโรงงานขนาดใหญ่ 3 สถานีถัดมา (นายเรือ-สมุทรปราการ-ศรีนครินทร์) จะเริ่มเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยแนวราบและเป็นตัวเมืองหลักมีชุมชนเก่าแก่และสถานที่สำคัญทางราชการอยู่เยอะ ส่วน 3 สถานีที่เหลือ (แพรกษา-สวยลวด-เคหะสมุทรปราการ) โซนนี้ยังเป็นแหล่งชุมชนอยู่นะครับแต่จะมีห้างใหญ่อย่าง Robinson ให้เดินอยู่บ้างถ้าอยากเดินห้างก็ไม่ต้องลำบากไปถึงสำโรง สถานีสุดท้ายจะมีอาคารจอดรถไว้รองรับผู้คนที่รอบนอกที่จะมาใช้งานรถไฟฟ้า ดังนั้นสถานีนี้จึงมีโอกาสในการพัฒนามากกว่าสถานีอื่นเพราะจะเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญกับแหล่งชุมชน
สำหรับส่วนต่อขยายที่ไปถึงนิคมบางปูนั้นถือเป็นช่วงที่สำคัญมากอีกจุด เพราะหากทำจนครบแล้วถือว่าเป็นสถานีเดียวที่สามารถเดินทางจากนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เข้าตัวเมืองได้โดยตรงแบบไม่ต้องเปลี่ยนไปต่อรถไฟฟ้าสายสีอื่นๆเลย เรียกว่าเพิ่มโอกาสในในการทำธุรกิจเป็นอย่างดีเพราะนักธุรกิจหรือนักลงทุนชาวต่างชาติไม่จำเป็นต้องหาที่พักใกล้ๆกับตัวโรงงานอีกต่อไป สามารถไปพักในย่านสุขุมวิทแล้วมาดูงานตรงนี้ได้ง่ายขึ้นและใช้เวลาในการเดินทางไม่มากจนเกินไป
มาดูความคืบหน้าการก่อสร้างกันครับ รูปนี้เอามาจากเพจใน Facebook ของ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ จะเห็นว่าการก่อสร้างทำไปได้เยอะพอสมควรแล้วประมาณ 72% ถ้ายังคงความเร็วในการก่อสร้างไว้แบบนี้คงได้ใช้กันในปี 2563 หรืออีก 5 ปีข้างหน้านั่นเอง ใครที่ดูคอนโดไว้ก็อย่าลืมดูนะครับว่าจะสร้างเสร็จใกล้ๆกันรึเปล่าจะได้เข้าอยู่พร้อมใช้งานทันที
มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย BTS สำโรง (E15), ปู่เจ้าสมิงพราย (E16), พิพิธภัณฑ์เอราวัณ (E17) … 3 สถานีนี้เป็นส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ รวมเป็นระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร และเป็นสถานี BTS ที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เขตกรุงเทพแต่เริ่มเข้าสู่พื้นที่จังหวัดสมุทรปราการแล้ว สำหรับพื้นที่ในบริเวณนี้ต้องบอกว่ามีลักษณะเป็นเขตพื้นที่อุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ และมีสภาพแวดล้อมค่อนข้างใกล้เคียงกันพอสมควร
ตำแหน่งของสถานีทั้ง 3 ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทคร่อมอยู่บนเกาะกลางถนนทั้งหมดและอยู่ห่างกันในระยะที่ไม่แตกต่างกันมากนัก โดยจากสถานี สำโรง ถึง ปู่เจ้าสมิงพรายห่างกันเป็นระยะ 1.2 กม. และจากปู่เจ้าสมิงพรายถึงพิพิธภัณฑ์เอราวัณ 1.8 กม. ตอนนี้ทั้ง 3 สถานียังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2560 พื้นที่บริเวณนี้มีความสำคัญเพราะเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ที่มีผู้ประกอบทั้งรายเล็กไปจนถึงรายใหญ่ตั้งอยุ่ พอมีแหล่งงานขนาดใหญ่แล้วสิ่งที่ตามมาก็คือแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัย ทำให้เกิดการอยู่อาศัยที่หนาแน่นมากขึ้นแต่การพัฒนาของพื้นที่ในบริเวณอาจก้าวไม่ทันตามการขยายตัว ทำให้ปัญหาด้านการจราจรค่อนข้างหนัก การเพิ่มสะพานภูมิพลกับสะพานวงแหวนอุตสาหกรรมเพื่อเชื่อมต่อโซนสำโรงกับฝั่งธนบุรีย่านพระประแดง-สุขสวัสดิ์อาจไม่พอเพียงต่อปริมาณรถยนต์ที่วิ่งอยู่บนถนนเส้นนี้ การสัญจรไปมาของคนแถวนี้มีทั้งรถมอเตอร์ไซด์, รถยนต์ขนาดเล็ก, รถกระบะ และรถบรรทุกขนาดใหญ่ เรียกว่าครบทุกแขนง การมาถึงของรถไฟฟ้าอาจช่วยให้การเดินทางเข้าออกในพื้นที่นี้มีความเบาบางขึ้นบ้าง
เรามาเริ่มต้นที่สถานีแรกกันก่อนเลย สถานีสำโรง เป็นสถานีต้นทางของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่งสมุทรปราการ ตั้งอยู่ระหว่างสะพานข้ามคลองสำโรงกับแยกเทพารักษ์เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังถนนเทพารักษ์ รอบๆสถานีนี้เป็นแหล่งชุมชนอาศัยหนาแน่นและเป็นแหล่งการค้าขนาดใหญ่ สถานที่สำคัญหลักๆรายรอบแบบติดสถานีจะมี ไปรษณีย์ กับสน.สำโรง ห้างอิมพีเรียลสำโรงและ Big C อยู่ด้วยกัน ห้างนี้จะเป็นห้างหลักๆของคนที่ทำงานในย่านนี้เลยก็ว่าได้ นอกจากจะสามารถจับจ่ายซื้อของภายในห้างได้แล้วด้านหน้าและด้านข้างของตัวห้างเองก็มีตลาดนัด กับตลาดของกินตั้งตอนเย็นๆ หรือถ้าจะเดินข้ามถนนด้านข้างของตัวห้างไปจะเจอ สำโรงเซ็นเตอร์ เป็นตลาดอาหารสดและตลาดผลไม้ และอู่รถสองแถว กับ Taxi ช่วงต้นๆของถนนเส้นนี้จะเป็นอาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่จะขายเครื่องใช้ต่างๆภายในบ้าน และเสื้อผ้า
รอบๆตัวห้างจะมีการเชื่อมต่อไปยังรถสาธารณะต่างๆได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์, รถตู้, รถกระป๋อง, รถสองแถว และรถแท็กซี่ อีกจุดที่สำคัญคือการเชื่อมต่อกับถนน เทพารักษ์ ถนนเส้นนี้จะเป็นแหล่งอุตสาหกรรมขนาดเล็ก-ขนาดกลางเกือบตลอดเส้นทางและเป็นถนนที่ยาวไปจนถึงฉะเชิงเทราเลย ถ้ารถไฟฟ้าเสร็จเมื่อไหร่แยกเทพารักษ์จะเปลี่ยนไปอีกพอสมควรแต่ตอนนี้พื้นที่รอบๆยังคงเป็นอาคารพาณิชย์ทั้งหมดจะมีคอนโดใหม่ๆเพียงแค่โครงการเดียวคือ The Metropolis สำหรับการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่นจะมีสายสีเหลืองที่มีต้นทางคือ รัชดา – ลาดพร้าว และวิ่งเลาะเส้นศรีนครินทร์มาจนถึงเทพารักษ์
ถ่ายมาให้ดูอีกมุมว่าตัวสถานีนั้นพอไม่ได้อยู่หน้า Big C แล้วมันก็ดูแปลกๆหน่อยนะครับเพราะการเชื่อมต่อจากแหล่งขนส่งต่างๆรอบตัวห้างจะต้องให้ผู้โดยสารเดินข้ามคลองไปขึ้นสถานี รูปแบบของสถานีที่สร้างจะคล้ายๆกับสถานี BTS ทั่วไปแต่จะมีการทำทางเดินเชื่อมต่อมายังบริเวณตลาดสำโรง และเชื่อมต่อกับอิมพีเรียลสำโรงได้ การสร้างสะพานแบบนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการในย่านนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะแหล่งชุมชนตรงย่านตลาดสำโรงถือว่าเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่มีโรงเรียนวัดด่านสำโรงอยู่ใกล้ๆ
จุดสังเกตอีกอย่างที่บ่งบอกได้ถึงความหนาแน่นของผู้คนแถวนี้ก็คือร้านค้าแผงลอยต่างๆ อย่างที่เห็นในรูปจะเห็นว่าขายกันตั้งแต่ในห้างไหลมาจนถึงสะพานลอยสุดทางเลยครับ
ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆเป็นตลาดสำโรงและมีตลาดขายของทั่วไปหลายอย่าง พื้นที่ตรงข้ามอิมพีเรียลสำโรงนี่ค่อนข้างพิเศษหน่อยครับ ตรงที่มีพื้นที่ป้ายรถเมล์และพื้นที่ค้าขายเยอะและยาวมาก รวมถึงแหล่งต่อรถต่างๆจะมีการจัดระเบียบว่ารถอะไรต้องจอดตรงไหนมีป้ายเขียนบอกไว้ที่ริมถนนเลย โดยพื้นที่จะเริ่มตั้งแต่ซอยสุขุมวิท 111 ลากยาวมาถึง 113 ซึ่งซอยนี้เป็นซอยใหญ่ที่คับคั่งและหนาแน่นมาก เพราะห่างจากปากซอยไม่ไกลจะเป็นวัดและโรงเรียนวัดด่านสำโรง
พอลงสะพานก็เจอร้านอาหารตามทางอีกเพียบร้านแถวนี้จะเป็นทั้งแบบห้องแถวและแผงลอย
ถ้าวิ่งลึกๆเข้าไปด้านในจะสามารถไปทะลุถึงถนนศรีนครินทร์ได้เลยซึ่งเป็นซอยที่ยาวมาก ซอยย่อยต่างๆด้านในก็จะแตกแขนงออกไปเป็นหมู่บ้านต่างๆเกือบเต็มพื้นที่ทำให้ช่วงต้นซอยนี่เป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่ใหญ่มากๆครับ มีร้านขายของขายอาหารทุกรูปแบบที่ตอบสนองต่อการอยู่อาศัยของชุมชนได้อย่างครบถ้วน
พื้นที่ตลาดสดนั้นสำโรงที่อยู่ติดกันก็สามารถเดินทะลุถึงกันได้หมดไปจนถึงริมคลองสำโรงขายอาหารสดแทบทุกประเภทเลยครับ ส่วนการเดินทางภายในซอยนี้ก็มีทั้ง รถสองแถว วินมอเตอร์ไซด์ หรือสามล้อถีบแบบดั้งเดิมก็มีเลือกใช้บริการกันได้ตามสบายเลยครับ
สถานี ปู่เจ้าสมิงพราย (E16) เป็นสถานีที่ต่อมาจากสำโรงแบบไม่ไกลมากตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทเช่นกัน แต่มีความสำคัญกับแหล่งโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในซอยปู่เจ้าสมิงพราย ซึ่งภายในซอยนี้จะเป็นมีอุตสาหกรรมหนักหลายรูปแบบแต่หลักๆจะเป็นโรงงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ ตัวสถานีเองนั้นแม้จะใช้ชื่อซอยปู่เจ้าสมิงพรายแต่ตำแหน่งจริงๆจะอยู่เลยซอยปู่เจ้าสมิงพรายไปพอสมควรโดยมีระยะห่างจากตัวสถานีประมาณ 630 เมตร คือไปอยู่ด้านหน้าปั๊ม ปตท. เยื้องๆกับ Big C จับโบ้ สำโรง พื้นที่รายรอบสถานีนี้จะไม่มีแหล่งที่อยู่อาศัยมากนักนอกจากซอยสุขุมวิท 115 กับ 117 ที่เป็นซอยทะลุถึงกันและไปออกถนนเทพารักษ์ได้ พื้นที่รอบๆสถานีในตอนนี้จะเหลือพื้นที่ให้พัฒนาเป็นอยู่อาศัยได้ค่อนข้างลำบากแล้วเพราะส่วนใหญ่ถูกเอาไปทำเป็นโรงงานหรือสำนักงานไปซะหมด โรงงานที่อยู่ติดกับสถานีเลยคือโรงงาน Panasonic กับ โกดังสินค้า Hitachi พื้นที่ว่างตอนนี้ที่เหลือก็อยู่ในระยะที่เกิน 300 เมตรขึ้นไปแล้ว โครงการที่เปิดใหม่อยู่ใกล้ๆสถานีก็จะมี หลายตัวเลือกพอสมควรประเภทที่อยู่ติดสถานีเลยจะเป็น Ideo สุขุมวิท 115 และ Excellence สุขุมวิท หรือจะเข้าไปในซอยหน่อยก็เป็น Pause 115 หรือ B Loft สุขุมวิท 115 เป็นต้น
ตัวสถานีตอนนี้ก็สร้างกันถึงหลางคา รอบๆสถานีนี้ส่วนใหญ่จะเป็นโรงงานทั้งหมดมีแหล่งที่อยู่อาศัยบ้างแต่ก็ไม่หนาแน่นเหมือนแถวๆสำโรงหรือแถบตัวเมืองสมุทรปราการ
ถึงแม้ตัวสถานีจะใช้ชื่อปู่เจ้าสมิงพรายแต่จริงๆก็ไม่ได้อยู่ติดกับถนนปู่เจ้าสมิงพรายสักเท่าไหร่นะครับ แต่จะอยู่กลางๆระหว่างสถานีนี้กับถสานีสำโรง ซึ่งถนนเส้นนี้มีความสำคัญในการเชื่อมต่อไปยังสะพานภูมิพลไปออกพระราม 3 และเส้นสุขสวัสดิ์ในย่านพระประแดงได้ หรือจะใช้สะพานวงแหวนอุตสาหกรรมไปออกถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันตกก็ได้ ในสมัยก่อนที่ยังไม่มี 2 สะพานนี้ผู้คนที่รถข้ามไปมาระหว่าง 2 ฝั่งนี้จะต้องใช้ท่าเรือพระประแดงเป็นหลัก และการจะข้ามในแต่ละครั้งก็ต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ตอนนี้สะพานเสร็จแล้วก็ช่วยประหยัดเวลาได้เยอะเลย
ว่าแล้วก็พาเข้ามาดูด้านในสุดของถนนเส้นนี้ที่เป็นท่าเรือกันครับ มาได้จังหวะเรือกำลังเข้าเทียบท่าเรือพอดี
จะเห็นว่ารถที่มาใช้บริการเกือบทั้งหมดจะเป็นมอเตอร์ไซด์เพราะไม่สามารถวิ่งขึ้นสะพานวงแหวนอุตสาหกรรมได้ แต่รถยนต์วิ่งขึ้นสะพานได้เลยสะดวกกว่า
เลยจากช่วงสถานีปู่เจ้ามาหน่อยจะเป็นโรงงานของ Toyota และ Honda ที่กินพื้นที่ใหญ่พอสามควร ส่วนสะพานที่เห็นตัดขวางจากซ้ายไปขวาเป็นทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษกที่ไปเชื่อมต่อกับสะพานภูมิพล ส่วนรถไฟฟ้าจะเป็นเส้นแนวทั้งที่นกสูงคร่อมทางด่วนไปอีกที ดังนั้นตัวรางช่วงนี้จะมีความสูงมากกว่าปกติพอสมควรนะ
เลยช่วงโค้งมาจะเห็นพิพิธพัณฑ์ช้างเอราวัณเป็นอันดับแรกเลย แต่ตัวสถานีจะอยู่เลยไปหน่อยถ้ามองในรูปดีๆจะเห็นอยู่ทางด้านขวามือนั่นแหละครับ
สถานี พิพิธภัณฑ์เอราวัณ (E17) สภาพแวดล้อมส่วนใหญ่จะพลุกพล่านน้อยหน่อยไม่เหมือนกับสถานีก่อนหน้านี้ที่อยู่ใกล้กับแหล่งชุมชน หรือ แหล่งอุตสาหกรรม สถานที่สำคัญรอบๆจะมี กศน.อำเภอเมือง สมุทรปราการ อยู่ห่างประมาณ50 ม.และพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณจะห่างออกไปประมาณ 750 เมตร สภาพแวดล้อมรอบๆสถานีนี้จะเป็นโรงงานแหล่งที่อยู่อาศัยรวมๆกัน มีโกดังเก็บสินค้าและตู้คอนเทนเนอร์อยู่ใกล้ๆ มีอาคารพาณิชย์ตั้งอยู่เป็นระยะๆ ถ้าดูจากภาพนี้จะเห็นได้ชัดว่าพื้นที่ฝั่งด้านขวามือจะติดกับคลองบางนางเกร็งและอยู่ใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยาทำให้ความหนาแน่นของชุมชนจะไปกระจุกตัวอยู่ทางซอยซ้ายซะหมด สำหรับโครงการคอนโดตอนนี้ที่อยู่ติดสถานีเลย จะมี The Trust Condo @ BTS Erawan กับ Aspire เอราวัณ ตั้งอยู่คู่กันถ้าเลือกมุมและชั้นดีๆจะได้วิวแม่น้ำด้วยนะ สำหรับอีกโครงการที่อยู่ไกลออกไปอีกหน่อยคือ Tropicana Condo ที่อยู่ใกล้ๆกับโรงงาน Honda และ Toyota นั่นแหละครับ
สุดท้ายมีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผู้ใช้สถานีในย่านชานเมืองหลายๆสถานีจะต้องคำนึงไว้ คือระบบการขนส่งและพื้นที่จอดรถต่างๆที่จะมารองรับ สิ่งนี้สำคัญมากๆในการออกแบบตัวสถานีเพราะพื้นที่ในย่านชานเมืองจะมีการเดินทางที่แตกต่างจากในเมือง สำหรับชานเมืองนั้นการเดินทางไปไหนมาไหนจะมีระยะทางเป็นหลักกิโลเมตรขึ้นไป สถานที่ต่างๆเช่นห้างหรือที่ทำงาน โรงงาน จะอยู่ห่างจากกันพอสมควร ถ้าไม่มีการเตรียมพื้นที่ไว้สำหรับจอดรถรับส่ง หรืออาคารจอดแล้วจร หรือที่จอดรถสำหรับจักรยานและจักรยานยนต์ ไม่อย่างนั้นประชาชนที่มาใช้งานรถไฟฟ้าจะลำบากในเรื่องหาที่จอดและอาจมีปัญหากับผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงสถานีก็เป็นได้
สรุป สถานี BTS สำโรง, สถานี ปู่เจ้าสมิงพราย และสถานี พิพิธภัณฑ์เอราวัณ เป็นสถานีส่วนต่อขยายโซนสุขุมวิทตอนปลายที่จะเริ่มเปิดใช้บริการกันเร็วๆนี้แล้ว(ประมาณปี 2563) การพัฒนาพื้นที่ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางรองรับแหล่งงานในย่านอุตสาหกรรมเป็นหลัก แต่ละสถานีจะมีความแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมเดิม สถานีไหนใกล้แหล่งชุมชนก็จะได้เปรียบเรื่องความอุดมสมบูรณ์ สถานีไหนใกล้กับแหล่งโรงงานก็จะเหลือพื้นที่ให้พัฒนาแหล่งที่อยู่อาศัยได้ไม่มากแต่ณปัจจุบันก็มีทั้งแบบติดและไม่ติดสถานีมาให้เลือกนะ ดังนั้นใครที่ต้องการคอนโดแบบติด BTS สายสุขุมวิทโดยที่ราคาไม่แรงมากหยิบจับได้ง่ายหน่อยสถานีแถวนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกได้เช่นกัน แต่แนะนำว่าเหมาะกับคนที่คุ้นเคยพื้นที่แถวนี้อยู่แล้วจะดีกว่าเพราะราคาคอนโดบางแห่งยังพอเอาไปเทียบมือสองย่านแบริ่งหรือบางนาได้อยู่นะ
การคมนาคมโดยรอบทั้ง 3 สถานีจะเน้นการใช้งานเส้นสุขุมวิทเป็นหลักมีทางด่วนไปโซนพระราม 3 และข้ามไปฝั่งธนย่านสุขสวัสดิ์ได้แต่รถใหญ่แถวนี้เยอะนะเวลาขับก็ต้องระวังหน่อย สำหรับการใช้รถไฟฟ้าเพื่อเข้าเมืองอาจจะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางหน่อยเพราะจากส่วนต่อขยายบริเวณนี้กว่าจะวิ่งถึงสถานีสยามก็ต้องวิ่งผ่านเกือบยี่สิบสถานีเลยนะครับ