…ปัจจุบันย่านรามอินทรากำลังมีความเจริญมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากจะมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ มีทางด่วนให้ใช้ แล้วยังจะมีรถไฟฟ้าเข้ามาในพื้นที่อีกด้วย จึงเหมาะที่จะเป็นย่านอยู่อาศัยที่ใครหลายๆคนกำลังเล็งๆกันเอาไว้อยู่ ซึ่งในวันนี้ผมจะพาทุกคนไปตามหาบ้านเดี่ยวในย่านรามอินทรากันครับว่าจะมีโปรดักส์เป็นอย่างไร มีความน่าสนใจหรือเหมาะกับเราหรือป่าว…ไปชมกันเลยครับ

หากพูดถึงถนนรามอินทรานั้นเป็นถนนเส้นที่ค่อนข้างยาว เชื่อมต่อตั้งแต่ถนนพหลโยธิน ไปจนถึงมีนบุรี โดยในวันนี้ผมขอเลือกเป็นช่วง “เลียบถนนกาญจนาภิเษก – มีนบุรี” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งย่านที่คนส่วนใหญ่เลือกอยู่อาศัย เพราะมีราคาที่จับต้องได้ไม่ยากจนเกินไปนัก สามารถขับรถเข้าเมืองได้ง่ายด้วย “ถนนกาญจนาภิเษก” และ “ทางพิเศษฉลองรัช” อีกทั้งยังมีความอุดมสมบูรณ์พร้อม มีห้างใหญ่อย่าง Fashion Island และ Promenade

รวมถึงตามซอยและถนนสำคัญๆต่างๆ ก็จะมีแหล่งจับจ่ายใช้สอยใกล้ๆให้แวะได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเทสโก้โลตัสตลาดบนถนนพระยาสุเรนทร์ และ MaxValu บนถนนคู้บอน เป็นต้น ด้วยเหตุนี้จึงมีโครงการจัดสรรต่างๆเกิดขึ้นมากมาย

และอย่างที่ทุกคนทราบกันแล้วว่า อนาคตถนนเส้นนี้จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูวิ่งผ่าน ซึ่งความสำคัญของรถไฟฟ้าเส้นนี้คือ เป็นสายที่เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพฝั่งตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน พร้อมมีจุดตัดกับรถไฟฟ้าสายอื่นๆได้ค่อนข้างเยอะ จึงถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางเข้าเมืองที่ค่อนข้างสะดวก และยังทำให้ความเจริญของย่านนี้ยิ่งคึกคักมากขึ้นเรื่อยๆครับ ซึ่งคาดการณ์ว่าอีกประมาณ 2 – 3 ปีก็จะแล้วเสร็จ เมื่อถึงเวลานั้นการจราจรที่ติดขัดในปัจจุบันก็อาจจะดีขึ้นกว่านี้นะ

 

รายชื่อโครงการบ้านเดี่ยว

โดยโครงการบ้านเดี่ยวทั้งหมดที่ผมเลือกมาในวันนี้ จะมีช่วงราคาเริ่มต้น 5 – 7 ล้านบาท (เฉพาะมือ 1 ที่ซื้อกับโครงการเท่านั้น) ซึ่งจะมีทั้งหมด 9 โครงการด้วยกัน และเพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถตัดสินใจเลือกโครงการที่ตรงกับความต้องการของตัวเองได้ง่ายที่สุด ผมจึงขอแบ่งโครงการออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ ตามจุดเด่นของแต่ละโครงการซึ่งจะตอบสนอง Lifestyle ของคนที่ไม่เหมือนกัน ประกอบด้วย

  • กลุ่มที่ 1 : ราคาจับต้องง่าย สำหรับคนมีงบจำกัด
  • กลุ่มที่ 2 : บ้านที่มีฟังก์ชันห้องนอน 4 ห้อง สำหรับครอบครัวใหญ่
  • กลุ่มที่ 3 : บ้านมีพื้นที่ใช้สอยและที่ดินเยอะ ทำสวนก็ได้ จอดรถก็ดี
  • กลุ่มที่ 4 : แบบบ้านมีสไตล์โดดเด่น บรรยากาศโครงการดี สำหรับคนเน้นสังคมและคุณภาพชีวิต


กลุ่มที่ 1 : ราคาจับต้องง่าย

สำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัด และกำลังมองหาโครงการบ้านเดี่ยวที่ราคาจับต้องได้ง่ายในโซนรามอินทรานี้ โครงการที่ผมเลือกมาจะมีอยู่ 2 แห่งด้วยกันครับ คือ

  • Lanceo NOV รามอินทรา – คู้บอน 38
  • ภัทรินทร์ 2 รามอินทรา-หทัยราษฎร์

โครงการ Lanceo NOV รามอินทรา – คู้บอน 38 จาก ลลิน พร็อพเพอร์ตี้ ตั้งอยู่ภายในซอยคู้บอน 38 ซึ่งบริเวณปากซอยจะมีร้านอาหารอร่อยๆ และฝั่งตรงข้ามก็จะอยู่เยื้องๆกับ MaxValu บนถนนคู้บอนอีกด้วย โดยโครงการนี้จะมีหลากหลายโปรดักส์ภายในโครงการเดียวกัน ทั้งทาวน์โฮม บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว ทั้งหมด 427 ยูนิต คือว่าค่อนข้างเยอะอยู่พอสมควรครับ

ตัวโครงการจะอยู่สุดซอยคู้บอน 38 เข้ามาจากปากซอยระยะทางประมาณ 500 m. ภายในจัดวางผังโครงการโดยให้สวนและอาคาร Clubhouse อยู่บริเวณตรงกลางเป็นแนวยาว ล้อมรอบไปด้วยบ้านเดี่ยวที่หันหน้าเข้ามาหา ทำให้ได้วิวที่ค่อนข้างดีและมาใช้ส่วนกลางได้ง่าย ในขณะที่โซนของทาวน์โฮมจะแยกออกไปอยู่ด้านซ้ายเป็นสัดส่วน แต่ยังสามารถมาใช้งานส่วนกลางร่วมกันได้อยู่ครับ

บรรยากาศภายในโครงการบริเวณสวนและ Clubhouse ที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งค่อนข้างดูดีเป็นมาตรฐานในรูปแบบโปรดักส์บ้านเดี่ยว ถือเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ซื้อทาวน์โฮมที่ได้อยู่ในโครงการและได้ใช้งานส่วนกลางที่ดูดีในระดับบ้านเดี่ยวด้วยครับ นั่นจึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ทาวน์โฮมโครงการนี้ขายได้ค่อนข้างดี (นอกจากราคาที่จับต้องได้ง่าย) เพราะตอนนี้ทาวน์โฮมเหลือเพียงบ้านตัวอย่างแค่ 2 หลังเท่านั้นครับ แต่ถ้าใครที่มองเป็นบ้านแฝดหรือบ้านเดี่ยวยังพอจะมีให้เลือกอยู่นะ

สำหรับโปรดักส์บ้านเดี่ยวที่ซื้อได้จะมีอยู่ 2 Type ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแปลงที่มีขนาดที่ดินค่อนข้างใหญ่ 70 ตารางวาขึ้นไป รายละเอียดจะเป็นอย่างไรเราไปวิเคราะห์แบบพร้อมๆกันเลยครับ

แบบบ้าน Cozy ขนาด 70.8 ตร.วา 148 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.09 ล้านบาท ตัวบ้านเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ซึ่งผมชอบที่เขาทำหลังคาโรงจอดรถมาให้พร้อมแล้ว แถมประตูยังเปิดได้กว้างทำให้จอดรถได้สะดวกมากขึ้น ภายในฟังก์ชันเป็นสัดส่วนดี แต่ที่ชั้น 2 ยังคงมีห้องน้ำแต่ห้องเดียวเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่ายังคงเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กครับ

แบบบ้าน Charm ขนาด 76.5 ตร.วา 164 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.6 ล้านบาท ตัวบ้านมีขนาดใหญ่และแต่ละฟังก์ชันก็กว้างมากขึ้นครับ ภายในบ้านจึงดูค่อนข้างโปร่งโล่งที่สุดแล้วในทุกแบบบ้านของโครงการนี้ โดยจุดที่ผมชอบและได้เพิ่มเข้ามาคือ “ครัว” ที่นอกจากจะได้ครัวปิดเป็นสัดส่วนแล้ว ยังมีส่วนของพื้นที่เตรียมอาหารหรือ Pantry ครัวเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย จึงเป็นแบบบ้านที่เหมาะกับคนชอบทำอาหารนะ หรือเป็นคนที่มีของเยอะ อาจต้องการพื้นที่เก็บของมากขึ้นก็ได้เช่นกัน

ภัทรินทร์ 2 รามอินทรา-หทัยราษฎร์

โครงการ ภัทรินทร์ 2 รามอินทรา-หทัยราษฎร์ จาก Paragon Land เป็นโครงการเดียวที่ตั้งอยู่บนถนนหทัยราษฎร์ ซึ่งเหมาะกับคนที่ใช้ชีวิตมาทางมีนบุรีบ่อยๆด้วยครับ และยังเป็นโครงการที่มีอายุโครงการประมาณ 7 – 8 ปีเห็นจะได้นะ โดยด้านหน้าเป็นอาคารพาณิชย์ ส่วนด้านในจะเป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดรวมกันทั้งหมด 168 ยูนิต

การวางผังโครงการค่อนข้างเรียบง่าย มีถนนหลักเพียง 3 เส้นเท่านั้น ไม่มีซอยแยกย่อยจึงอาจทำให้ความเป็นส่วนตัวลดลงไปพอสมควร แต่ก็สามารถขับรถวนได้ง่ายไม่หลงทางดีครับ ส่วนกลางจะมีแค่สวนที่อยู่บริเวณกึ่งกลางโครงการเท่านั้น ซึ่งบ้านที่อยู่ใกล้สวน หรืออยู่ในซอยเดียวกับสวนก็จะมีราคาที่สูงขึ้นมาหน่อย

และนี่คือภาพบรรยากาศของสวนโครงการครับ ซึ่งจะมีม้านั่งอยู่ 1 – 2 ชุด ให้มานั่งเล่นได้ ส่วนอาคารตรงกลางจะเป็นที่ทำงานของนิติบุคคลนะครับ

แบบบ้านเดี่ยว ขนาด 50.6 – 63.6 ตร.วา 184 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.21 – 5.83 ล้านบาท ลักษณะเป็นสไตล์โมเดิร์น ซึ่งก็อย่างที่ผมเกริ่นไปแล้วว่าโครงการนี้มีอายุประมาณ 7 – 8 ปี ดังนั้นตัวบ้านจึงอาจทรุดโทรมไปบ้างตามกาลเวลา อาจลองคุยกับทางโครงการให้เขารีโนเวทให้เรียบร้อยก่อนส่งมอบตัวบ้านก็ได้ครับ

โดยจุดเด่นอยู่ที่สามารถจอดรถในร่มได้ทั้ง 2 คัน และยังมี Common area กับครัวที่ค่อนข้างใหญ่ รวมถึงห้อง Master Bedroom ก็จะมีห้องน้ำในตัวจึงได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลางครับ

และจุดเด่นที่แท้จริงของโครงการนี้คือเรื่อง “วัสดุ” ได้แก่ ราวบันไดบ้านจะเป็นอลูมิเนียม และพื้นบนชั้น 2 จะปูด้วยกระเบื้องลายไม้แผ่นใหญ่แบบนี้ครับ มีความแข็งแรงทนทาน ใช้งานได้ในระยะยาว ไม่กลัวน้ำ และทำความสะอาดง่าย (ซึ่งโดยทั่วไปเรามักจะเห็นเป็นการปูด้วยไม้ลามิเนตซะมากกว่า) แต่ก็ต้องแลกมากับอายุบ้าน สภาพโครงการ และระบบรักษาความปลอดภัยที่เป็นรองเพื่อนบ้านอยู่บ้างครับ


กลุ่มที่ 2 : บ้านที่มีฟังก์ชันห้องนอน 4 ห้อง

เป็นโครงการที่จะมีห้องนอน 3 – 4 ห้อง ซึ่งจะเหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ หรือคนที่มีลูก 2 – 3 คน รวมถึงอาจจะเป็นครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วยก็ได้ครับ โดยจะมีอยู่ 2 โครงการด้วยกันที่ผมอยากจะแนะนำ ซึ่งล้วนแต่เป็นบ้านของศุภาลัยทั้งหมดเลย ประกอบด้วย

  • Supalai Bella วงแหวน – รามอินทรา
  • Supalai Ville รามอินทรา 117

โครงการ Supalai Bella วงแหวน – รามอินทรา จาก ศุภาลัย ตั้งอยู่ภายในถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง ซอย 15 ซึ่งเข้ามาจากปากซอยประมาณ 500 m. โดยจะเป็นโครงการที่มีโปรดักส์ทั้งทาวน์โฮม บ้านแฝด และบ้านเดี่ยวอยู่ในโครงการเดียวกัน และมีจำนวนเพื่อนบ้านถึง 440 ยูนิต ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีขนาดใหญ่ครับ

บริเวณปากซอยจะมีเซเว่นพอให้ซื้อของได้ครับ และซอย 15 นี้ก็จะอยู่ใกล้กับฝั่งถนนหทัยราษฎร์มากกว่าฝั่งพระยาสุเรนทร์ ซึ่งถ้าเป็นคนที่เดินทางไปมีนบุรีบ่อยๆจะค่อนข้างสะดวกเลยล่ะ ส่วนการวางผังโครงการจะมี Clubhouse ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้า ประกอบด้วยฟิตเนสและสระว่ายน้ำ จากนั้นจะมีพื้นที่สวนขนาดใหญ่กว่า 1 ไร่ เป็นแนวยาวตลอดถนน Main บริเวณด้านหน้าโครงการ เป็นส่วนต้อนรับที่ทำให้รู้สึกสดชื่นสบายตามากขึ้น  ซึ่งบ้านส่วนใหญ่ก็จะอยู่ภายในซอยย่อยครับ โดยซอยแรกๆด้านหน้าที่อยู่ใกล้สวนจะเป็นโซนบ้านเดี่ยว ที่สามารถมาใช้งานส่วนกลางได้สะดวกมากๆ ส่วนบ้านแฝดและทาวน์โฮมจะอยู่ถัดเข้าไปด้านในโครงการครับ

แบบบ้านเดี่ยวของโครงการจะมีอยู่ทั้งหมด 3 Type ซึ่งจากการสอบถามกับทางโครงการ ปัจจุบันเหลืออยู่เพียงแค่ 4 ยูนิตเท่านั้น โดยจะมีแบบบ้านอยู่ 2 Type ครับที่ราคาอยู่ในช่วงไม่เกิน 7 ล้านบาท คือ ศุภลักขณา และ ศุภฤทธิ์ (มี 2 หลัง) โดยมีรายละเอียดดังนี้

แบบบ้าน ศุภลักขณา ขนาด 54 ตร.วา 150 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.64 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว Type เล็กที่สุดของโครงการ จุดเด่นอย่างแรกคือ รถสามารถจอดใต้ชายคาบ้านได้ทั้ง 2 คัน ไม่ต้องทำหลังคาเพิ่ม ส่วนห้อง Master Bedroom นอกจากจะมีห้องน้ำในตัวแล้ว ยังมีพื้นที่ทำ Walk in closet ได้อีกด้วย ส่วนห้องนอนเล็ก 2 ห้องยังคงต้องใช้ห้องน้ำร่วมกันครับ

ภาพบรรยากาศภายในที่ห้องครัวถูกดันไปอยู่ทางขวาเป็นสัดส่วน และทำให้ Common area ขยายได้ใหญ่เต็มที่ จึงดูแล้วเหมือนบ้านนี้มีพื้นที่ค่อนข้างลึกเลยทีเดียวครับ

แบบบ้าน ศุภฤทธิ์ ขนาด 52.3 ตร.วา 175 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.93 ล้านบาท มีห้องนอนอยู่ที่ชั้นล่างเพิ่มเข้ามา ทำให้เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ อีกทั้งส่วนครัวยังกั้นด้วยประตูกระจก จึงทำให้ Common area ดูโปร่งโล่งมากขึ้นครับ อีกหนึ่งจุดเด่นคือ “โถงบันได” ซึ่งจะมีช่องว่างตรงกลางเชื่อมต่อกับพื้นที่ชั้นล่างได้ ทำให้โถงบันไดมีขนาดใหญ่และโปร่งโล่ง และมีพื้นที่อเนกประสงค์อยู่ชั้นบนซึ่งสามารถกั้นห้องเพิ่มเติมอีกก็ได้ครับ

ภาพบรรยากาศ Common area กับครัวที่เชื่อมต่อกันด้วยประตูกระจกที่ดูโปร่งโล่งมากขึ้น

โครงการต่อมาคือ Supalai Ville รามอินทรา 117 ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยเจริญพัฒนา ที่เชื่อมต่อระหว่างซอยรามอินทรา 117 และซอยพระยาสุเรนทร์ 30 เพื่อไปออกถนนพระยาสุเรนทร์ ถนนสุเหร่าคลอง 1 และถนนหทัยราษฎร์ได้ และยังเป็นโครงการที่อยู่ใกล้กับถนนรามอินทรามากที่สุดในวันนี้อีกด้วยครับ (โดยเข้ามาจากปากซอยประมาณ 1.3 km.)

รูปแบบโครงการจะมีทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดรวมกัน 270 ยูนิต ถือว่าเป็นขนาดปานกลางค่อนไปทางเยอะ ส่วนกลางจะมีแค่สวนและเครื่องเล่นเด็กที่อยู่ทางด้านหน้าเท่านั้น บ้านส่วนใหญ่จะอยู่ภายในซอยย่อย โดยแต่ละซอยจะมีจำนวนยูนิตแค่ 8 หลัง ถือว่ามีความเป็นส่วนตัวพอสมควร ปัจจุบันเหลือแต่แปลงที่อยู่ด้านในครับ

ภาพบรรยากาศถนน Main และสวนบริเวณด้านหน้าโครงการ ซึ่งทำหน้าที่เป็นส่วนต้อนรับและเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้สดชื่นมากขึ้น ด้านในจะมีเครื่องเล่นตั้งอยู่ด้วยครับ สามารถพาลูกๆหลานๆหรือสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นได้

โดยแบบบ้านเดี่ยวของโครงการนี้จะมีทั้งหมด 3 Type ซึ่งช่วงราคา 5 – 7 ล้านบาท ที่เรากำหนดไว้นั้นสามารถซื้อได้ทุก Type ของโครงการนี้เลยนะ รายละเอียดจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันครับ

แบบบ้าน ศุภลักขณา ขนาด 54 ตร.วา 150 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.64 ล้านบาท จะเป็นแบบบ้านเดียวกับโครงการของศุภาลัยเบลล่าก่อนหน้านี้ครับ จุดเด่นอย่างแรกคือ รถสามารถจอดใต้ชายคาบ้านได้ทั้ง 2 คัน ไม่ต้องทำหลังคาเพิ่ม ส่วนห้อง Master Bedroom นอกจากจะมีห้องน้ำในตัวแล้ว ยังมีพื้นที่ทำ Walk in closet ได้อีกด้วย ส่วนห้องนอนเล็ก 2 ห้องยังคงต้องใช้ห้องน้ำร่วมกันครับ

แบบบ้าน ศุภฤทธิ์ ขนาด 52.3 ตร.วา 175 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.93 ล้านบาท เป็นแบบเดียวกับโครงการศุภาลัยเบลล่าก่อนหน้านี้อีกเช่นกันครับ และผมแอบได้ข่าวมาว่าเป็นแบบที่ค่อนข้างขายดีเหมือนกันนะ

จุดเด่นคือ มีห้องนอนอยู่ที่ชั้นล่างเพิ่มเข้ามา ทำให้เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ อีกทั้งส่วนครัวยังกั้นด้วยประตูกระจก จึงทำให้ Common area ดูโปร่งโล่งมากขึ้นครับ อีกหนึ่งจุดเด่นคือ “โถงบันได” ซึ่งจะมีช่องว่างตรงกลางเชื่อมต่อกับพื้นที่ชั้นล่างได้ ทำให้โถงบันไดมีขนาดใหญ่และโปร่งโล่ง และมีพื้นที่อเนกประสงค์อยู่ชั้นบนซึ่งสามารถกั้นห้องเพิ่มเติมอีกก็ได้ครับ

แบบบ้าน ศุภฤทธา ขนาด 53.1 – 69.1 ตร.วา 199 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 6.21 – 7.17 ล้านบาท เป็น Type ที่ใหญ่ที่สุดของโครงการ ฟังก์ชันจะคล้ายๆแบบบ้านศุภฤทธิ์หลังที่แล้วครับ แต่จะกั้นครัวเป็นครัวปิดแยกออกไปเป็นสัดส่วนแทน พร้อมกับเปลี่ยนรูปแบบประตู และเพิ่มพื้นที่ห้องน้ำให้มีขนาดใหญ่มากขึ้นอีกด้วย

โดยประตูห้องนอนชั้นล่างและประตูห้องน้ำจะถูกเปลี่ยนเป็นประตูเลื่อน อีกทั้งพื้นก็จะไม่มีการลดระดับ พร้อมกับมีที่จับในห้องน้ำเพื่อรองรับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี เหมาะกับครอบครัวที่อาจมีคนเฒ่าคนแก่ หรือผู้ที่ต้องใช้รถเข็นอยู่ด้วยก็ได้ครับ รวมถึงห้องน้ำของ Master Bedroom ชั้นบนก็ยังมีขนาดใหญ่มากพอที่จะได้อ่างอาบน้ำเพิ่มขึ้นมาอีกด้วยนะ


กลุ่มที่ 3 : บ้านมีพื้นที่ใช้สอยและที่ดินเยอะ

แบบบ้านของโครงการที่ผมกำลังจะพูดถึงต่อไปนี้ จะมีขนาดที่ดินบ้านตั้งแต่ 80 – 100 ตารางวา ถือว่ามีขนาดค่อนข้างใหญ่ เหมาะกับคนชอบมีพื้นที่บ้านเยอะๆ เอาไว้ปลูกต้นไม้ทำสวนสวยๆ และเผื่อในการต่อเติมบ้านได้ในอนาคต หรืออาจเป็นคนที่มีรถหลายคัน ต้องการที่จอดรถในบ้าน 3 คันเป็นอย่างน้อยครับ ซึ่งจะประกอบด้วย 3 โครงการด้วยกันคือ

  • The Tara รามอินทรา พระยาสุเรนทร์ 35
  • The Sweet Garden พระยาสุเรนทร์ 40
  • Lalin Green Ville Luxe รามอินทรา – นวมินทร์

โครงการ The Tara รามอินทรา (พระยาสุเรนทร์ 35) จาก Nirvana แห่งนี้ หลายๆคนอาจคิดว่าปิดการขายไปแล้ว เนื่องจากสร้างเสร็จมานานหลายปีแล้วเหมือนกันครับ จริงๆแล้วจะมีอยู่ช่วงหนึ่งซึ่งโครงการได้หยุดการขายไปชั่วคราว และได้กลับมาขายใหม่อีกครั้งเมื่อ 2 เดือนก่อนนี้เอง จากการสอบถามที่สำนักงานขายพบว่ายังคงมีบ้านมือ 1 ที่เหลืออยู่อีก 7 ยูนิตสุดท้าย โดยจุดเด่นและเสน่ห์ของโครงการสมัยก่อนจะมีอะไรน่าสนใจ และแตกต่างจากโครงการใหม่ๆอย่างไรบ้างเราไปชมกันครับ

โครงการตั้งอยู่สุดซอยพระยาสุเรนท์ 35 ซึ่งบริเวณกลางซอยจะมีโรงเรียนขนาดใหญ่ชื่อ “โรงเรียนโสมาภาพัฒนา” ตั้งอยู่ (ถ้าใครมีลูกเรียนอยู่ที่นี่อยู่แล้วก็ยิ่งสะดวกเลยครับ) ส่วนภายในโครงการจะมีเพื่อนบ้านทั้งหมด 222 ยูนิต ถือว่ากลางๆไม่เยอะมากนัก จุดเด่นคือพื้นที่สีเขียวที่ให้มาค่อนข้างเยอะ มีสวนทั้งหมด 2 จุด และมีฟังก์ชันส่วนกลางที่หลากหลาย

บรรยากาศภายในถึงแม้จะเป็นโครงการเก่าแต่ก็ยังมีคนอาศัยอยู่เกือบเต็ม เพราะจากที่ไปเดินดูมา ผมไม่ค่อยจะเห็นบ้านร้างหรือติดป้ายขายต่อมากนัก โดยบ้านหลังที่ยังเหลือขายอยู่ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณด้านหลังโครงการ (ใกล้ๆกับสวนและสนามแบด) ซึ่งบ้านที่อยู่ติดรั้วโครงการเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นบ้านที่มีที่ดินหลังบ้านค่อนข้างเยอะ จึงเหมาะกับคนที่ชอบทำสวนหรือมีพื้นที่บ้านเยอะครับ

เรามาดูบรรยากาศส่วนกลางกันก่อน ซึ่งผมคิดว่านี่คือจุดเด่นของโครงการนี้ครับ ถึงแม้ว่าฟิตเนสและสระว่ายน้ำจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่บรรยากาศของสวนถือว่าร่มรื่นน่าเดินดีทีเดียว เหมือนอยู่ในสวนสาธารณะเลยครับ เป็นเพราะต้นไม้ส่วนใหญ่โตเต็มที่แล้วนั่นเอง รวมถึงยังมีพื้นที่กิจกรรมกลางแจ้งที่หลากหลาย ทั้งสตรีทบาสเก็ตบอล สนามแบดมินตัน และสนามเด็กเล่นก็มี

โดยแบบบ้านของโครงการนี้จะมีอยู่ 2 แบบครับ ทั้งหมดยังคงมีราคาเริ่มต้นอยู่ในงบที่เรากำหนดเอาไว้ไม่เกิน 7 ล้านบาทนะ ซึ่งจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

แบบบ้าน MOTIF ขนาด 80 ตร.วา 142 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคา 6.89 ล้านบาท เป็นไซต์เล็กของโครงการ แต่ด้วยขนาดเนื้อที่บ้านที่ใหญ่ กับตำแหน่งแปลงบ้านที่อยู่บริเวณต้นซอย อีกทั้งยังขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง (เนื่องจากเป็นบ้านตัวอย่าง) จึงทำให้อาจมีราคาที่สูงกว่าแบบบ้านที่ใหญ่สักหน่อยครับ โดยปัจจุบันเหลือบ้าน Type นี้แค่หลังเดียวเท่านั้น และส่วนตัวผมชอบตำแหน่งการวางบันไดที่ถูกดันไปอยู่ด้านหลัง สามารถใช้งานง่ายและไม่กินพื้นที่ฟังก์ชันอื่น ทำให้แต่ละห้องมีขนาดใหญ่มากขึ้น โดยจะไม่เน้นระเบียง เพราะต้องการเน้นพื้นที่ภายในเป็นหลักครับ

ฟังก์ชันชั้นล่างให้สังเกตพื้นที่ระหว่าง ห้องนั่งเล่น / ห้องทานอาหาร / ห้องครัว ทั้งหมดจะเป็นพื้นเล่นระดับหมดเลยครับ ถือว่าเป็นความแปลกใหม่สำหรับแบบบ้านที่อายุเกือบ 10 ปีในสมัยนั้นมาก ซึ่งคนที่ใช้งานก็ต้องระมัดระวังกันหน่อย และอาจไม่เหมาะกับบ้านที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่นัก

แบบบ้าน TARA ขนาด 80 ตร.วา 180 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท ก่อนอื่นผมต้องบอกว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่าที่ทางโครงการจะนำมารีโนเวทหรือซ่อมแซม ให้บ้านกลับมาสวยงามเหมือนเดิมก่อนจะนำมาขายใหม่นั่นเองครับ เป็นบ้านหน้ากว้างลักษณะ Modern ที่เน้นความเป็นส่วนตัว เพราะชั้น 1 จะไม่มีประตูกระจกขนาดใหญ่ที่เปิดจากด้านหน้าเหมือนบ้านทั่วไปที่เราคุ้นชิน แต่จะมีแค่ประตูบานเปิดเล็กๆด้านข้างเท่านั้น แล้วจะเน้นช่องแสงที่ด้านหลังบ้านแทนครับ ทำให้สามารถชมวิวสวนสวยๆหลังบ้านได้เต็มที่นั่นเอง

ซึ่งอย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า แปลงที่ยังเหลือขายอยู่ในปัจจุบันจะมีที่ดินหลังบ้านเหลือเยอะ ดังนั้นจึงสามารถจัดสวนได้เต็มที่เลย ส่วนที่จอดรถหากเป็นรถขนาดไม่ใหญ่มากนัก ก็อาจจะจอดซ้อนกันรวมได้ 4 คันอีกด้วยนะ และอีกจุดหนึ่งที่ผมชอบคือ ห้องนอนชั้นบนจะมีห้องน้ำในตัวทุกห้องเลยนั่นเองครับ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวดีทีเดียว เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง มีลูก 1 – 2 คน

โครงการ The Sweet Garden @พระยาสุเรนทร์ 40 จาก สินทวีเคหะภัณฑ์ ซึ่งมีเพื่อนบ้านในโครงการเพียงแค่ 39 ยูนิตเท่านั้น ถือว่าเป็นโครงการที่เป็นส่วนตัวมากที่สุด ที่ผมนำมาฝากกันในวันนี้ครับ

ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยพระยาสุเรนทร์ 40 จะมีเซเว่นตั้งอยู่บริเวณกลางซอย และอยู่ไม่ไกลจากโครงการมากนัก สามารถมาใช้งานได้ค่อนข้างง่าย โดยลักษณะผังโครงการจะเป็นที่ดินยาวลึกเข้าไปด้านใน มีถนน Main แค่เส้นเดียว ไม่มีซอยย่อย ด้านหน้ามีสวนเล็กๆอยู่ และบ้านทุกหลังจะหันหน้ามาทางถนน หรือทางทิศตะวันออก ซึ่งช่วงบ่ายเป็นต้นไปด้านหน้าบ้านจะไม่ร้อนมากนัก

บรรยากาศสวนของโครงการจะเป็นสนามหญ้าเล็กๆ ที่มีเครื่องเล่นเด็กกับศาลาตั้งอยู่ และเนื่องจากเป็นโครงการขนาดเล็ก จึงอาจไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะเหมือนโครงการใหญ่ๆมากนักครับ

ส่วนถนน Main ของโครงการจะเป็นถนน 2 เลนที่ขับรถสวนกันได้ ฝั่งขวามือจะปลูกไม้พุ่มประดับตลอดแนวรั้วเพื่อความสวยงาม

แบบบ้านของโครงการนี้จะมีอยู่ 2 แบบนะครับ ลักษณะฟังก์ชันจะคล้ายๆกันเลย เพียงแต่ว่าแบบ B จะไม่มีห้องนอนชั้นล่างเท่านั้นครับ โดยผมจะขอยกตัวอย่างเป็น บ้านแบบ A ขนาด 100 ตร.วา 215 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ

สิ่งที่ชอบคือที่มีที่จอดรถถึง 3 คัน โดยพื้นที่ของคันที่ 3 เขาก็จะเทพื้นคอนกรีตเอาไว้ให้แล้วด้วยครับ แต่อาจต้องทำหลังคาเพิ่มอีกสักหน่อยหากไม่อยากจอดรถกลางแจ้งนะ ส่วนภายในจะมีพื้นที่ครัวแยกกับส่วนเตรียมอาหาร และที่ชอบคือห้องนอนชั้นล่างจะมีห้องน้ำในตัวด้วยนะ ส่วนพื้นที่ชั้นบนห้อง Master Bedroom จะอยู่บริเวณด้านหน้า กินพื้นที่เต็มความกว้างของตัวบ้านทำให้มีขนาดใหญ่ และมีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องจะต้องใช้งานห้องน้ำร่วมกัน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่อเนกประสงค์ตรงโถงบันไดชั้น 2 ซึ่งขนาดค่อนข้างใหญ่ สามารถกั้นกระจกทำเป็นห้องพระหรือทำงานอื่นๆเพิ่มอีกก็ได้นะครับ

อีกหนึ่งจุดเด่นของบ้านโครงการนี้คือ พื้นที่หน้าบ้านที่เยอะมากๆครับ สามารถจัดเป็นสวนสวยๆ หรือพื้นที่ปิ้งย่างปาร์ตี้ของครอบครัวได้เลย อีกอย่างคือสามารถจอดรถกลางแจ้งซ้อนเพิ่มได้อีกด้วย รวมกันแล้วจอดได้ 5 – 6 คันเลยทีเดียวครับ เหมาะกับครอบครัวที่มีรถหลายๆคันมากๆ

อีกจุดที่อยากให้สังเกตคือ จะมีเสากลางบ้านบริเวณ Pantry ครัวครับ ซึ่งเราอาจต้อง Built in หรือกั้นห้องเพิ่มเติมให้ดูเป็นสัดส่วนกว่านี้อีกสักหน่อย จะได้ดูเรียบร้อยมากขึ้นครับ

โครงการ Lalin Green Ville Luxe รามอินทรา – นวมินทร์ จาก ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยพระยาสุเรนทร์ 40 ใกล้ๆกับสี่แยกพระพรหมคลองสอง มีจำนวนเพื่อนบ้านเพียง 104 ยูนิต ถือว่าเป็นอีกโครงการที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวอยู่พอสมควรครับ

ที่ตั้งโครงการจะอยู่ในซอยพระยาสุเรนทร์ 40 ใกล้ๆกับโครงการเมื่อสักครู่นี้ ส่วนผังโครงการจะวางสวนและ Clubhouse เอาไว้บริเวณตรงกลาง เป็นแนวยาวขนานไปกับตัวบ้านและที่ดินโครงการ ทำให้มีบ้านส่วนหนึ่งหันหน้าเข้ามาชมวิวสวนและต้นไม้ได้ดี และแน่นอนว่าบ้านส่วนใหญ่จะต้องขับผ่านสวนแห่งนี้เข้าไปด้านใน จะทำให้ได้ชมบรรยากาศพื้นที่สีเขียวระหว่างทางไปด้วยในตัวครับ ส่วนหลังอื่นๆก็จะแยกออกไปในแต่ละซอยย่อย ซึ่งจะมีเพื่อนร่วมซอยไม่เยอะมากนัก ค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัวอยู่เหมือนกัน

บรรยากาศภายในโครงการครับ ซึ่งปัจจุบันอาคาร Clubhouse ยังสร้างเสร็จไม่เรียบร้อยดีนะ แต่ถ้าสร้างแล้วเสร็จก็จะมีครบทั้งฟิตเนสและสระว่ายน้ำ ส่วนต้นไม้ในสวนและริมถนนอาจมีการลงเพิ่มและต้องรอให้โตกว่านี้อีกหน่อย โครงการก็จะดูร่มรื่นมากกว่านี้ครับ (แต่ตอนนี้จะยังดูโล่งๆอยู่บ้างนะ)

สำหรับโปรดักส์บ้านเดี่ยวของโครงการนี้จะมีอยู่ 3 Type ด้วยกันครับ แต่แบบที่ยังคงอยู่ในงบไม่เกิน 7 ล้านจะมีอยู่แค่แบบเดียวเท่านั้นคือ Ricco (LL+) ซึ่งรายละเอียดจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันครับ

แบบบ้าน Ricco (LL+) ขนาด 100 ตร.วา 190 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 6.94 ล้านบาท เป็นแบบบ้านขนาดเล็กที่สุดของโครงการ แต่ก็มีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านหลายโครงการที่ผ่านมา บรรยากาศจึงค่อนข้างโปร่งโล่ง และเป็นบ้านหน้ากว้างที่สามารถจอดรถได้ถึง 3 คัน ซึ่งจะมีการเทพื้นคอนกรีตสำหรับรถคันที่ 3 ที่อยู่นอกชายคาบ้านมาให้แล้วด้วยครับ (แต่อาจต้องทำหลังคาหรือกันสาดเพิ่มอีกสักหน่อย)

บ้านหลังนี้มีถึง 4 ห้องนอน โดยจะมีห้องนอนอยู่ชั้นล่าง 1 ห้อง สามารถใช้เป็นห้องอเนกประสงค์หรือห้องผู้สูงอายุก็ได้ ส่วนห้อง Master Bedroom จะมีห้องน้ำในตัวและมีขนาดใหญ่มาก และห้องนอนเล็กจะยังคงต้องใช้ห้องน้ำร่วมกันอยู่นะ ทั้งนี้ก็เพื่อประหยัดพื้นที่ห้องน้ำไม่ให้กินพื้นที่ใช้สอยในห้องนอน ทำให้มีพื้นที่รอบเตียงที่กว้างมากขึ้นนั่นเองครับ

และฟังก์ชันที่มักจะพบเห็นได้บ่อยๆในโครงการของลลินคือ “ประตูระเบียงที่มักจะทำเป็นประตูบานทึบ” ทั้งนี้ก็เพื่อความเป็นส่วนตัว และป้องกันความร้อนไม่ให้เข้ามาในห้องมากนัก แต่ก็แลกกับความสว่างและโปร่งโล่งที่ลดลงไปเช่นกัน รวมถึงมักจะให้ระเบียงมาขนาดค่อนข้างใหญ่ เหมาะกับคนชอบใช้งานระเบียงบ่อยๆนะครับ


กลุ่มที่ 4 : แบบบ้านมีสไตล์โดดเด่น บรรยากาศโครงการดี

สำหรับคนที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวที่มีหน้าตา Facade โดดเด่น แตกต่างจากโครงการเพื่อนบ้านในทำเลเดียวกัน อย่างบ้านสไตล์อังกฤษ และยังชอบโครงการที่มีบรรยากาศสวยงาม ร่มรื่น มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี โดยคำนึงถึงเรื่องคุณภาพชีวิตและสังคมในการอยู่อาศัยเป็นหลัก ซึ่งโครงการที่ผมจะแนะนำมีอยู่ 2 แห่งด้วยกันคือ

  • ชัยพฤกษ์ รามอินทรา – พระยาสุเรนทร์
  • บุราสิริ ปัญญาอินทรา

ขอบคุณรูปภาพจาก www.lh.co.th

โครงการ ชัยพฤกษ์ รามอินทรา – พระยาสุเรนทร์ จาก LH ตั้งอยู่ภายในซอยพระยาสุเรนทร์ 30 ที่สามารถไปเชื่อมต่อกับซอยเจริญพัฒนา ไปออกถนนรามอินทรา, ถนนสุเหร่าคลอง 1 และถนนหทัยราษฎร์ได้ครับ ซึ่งถือเป็นซอยลัดเลี่ยงรถติดที่สำคัญของย่านนี้เลยทีเดียว

และบริเวณด้านหน้าโครงการมีเซเว่นขนาดใหญ่ตั้งอยู่อีกด้วยครับ ถือว่าสะดวกดีทีเดียว ส่วนรูปแบบโครงการเป็นบ้านเดี่ยวทั้งหมด 225 ยูนิต ถือว่าเป็นขนาดกลางไม่ใหญ่มากนัก บริเวณถนน Main ตรงกลางจะมีการปลูกไม้ยืนต้นขนาดใหญ่คอยให้ร่มเงาตลอด 2 ข้างทาง ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่นมากๆ จากนั้นจึงจะเข้าไปเจอกับพื้นที่ส่วนกลางและอาคาร Clubhouse ตั้งอยู่บริเวณตรงกลางโครงการด้านใน ซึ่งทำให้บ้านแต่ละหลังสามารถมาใช้งานได้ค่อนข้างง่าย

ปัจจุบันมีลูกบ้านเข้าอยู่เรียบร้อยแล้วครับ และตอนนี้เหลือเพียงเฟสสุดท้ายเท่านั้น ซึ่งจะอยู่บริเวณด้านในทั้งหมด 19 ยูนิต (ตรงที่ยังเป็นแปลงว่างอยู่) และโดยปกติโครงการของ LH เขาจะสร้างบ้านเสร็จก่อนขาย และในวันที่ผมเข้าไปโครงการนี้มีบ้านพร้อมขายอยู่ทั้งหมด 3 หลังด้วยกันครับ ซึ่งหากใครสนใจก็สามารถเข้าไปชมบ้านของจริงกันได้เลยนะ

ขอบคุณรูปภาพจาก www.lh.co.th

ภาพบรรยากาศโครงการจะเน้นเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ มีต้นไม้ยืนต้นเยอะจึงดูร่มรื่นมากๆ พร้อมกับอาคาร Clubhouse ที่มีฟังก์ชันครบพร้อมใช้งาน ทั้งฟิตเนสและสระว่ายน้ำ อีกทั้งยังมีสนามเด็กเล่นที่เหมาะกับการพาลูกหลานมาเล่นออกกำลังกลางแจ้ง และมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ค่อนข้างเข้มงวดตามมาตรฐานของ LH อีกด้วยครับ

โดยแบบบ้านของโครงการจะมีทั้งหมด 2  Type ด้วยกันครับ ซึ่งราคาขายยังคงอยู่ในงบประมาณ 5 – 7 ล้านบาทที่ตั้งเอาไว้อยู่ทั้งหมดเลยครับ ถือว่าเป็นโครงการที่ราคาจับต้องไม่ยากจนเกินไปนัก โดยรายละเอียดจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันครับ

ขอบคุณรูปภาพจาก www.lh.co.th

แบบบ้าน Venti ขนาด 51.6 ตร.วา 136 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.69 ล้านบาท ตกแต่งด้วยไตล์ Cottage แบบอังกฤษ ซึ่งแม้จะมีขนาดพื้นที่ใช้สอยเล็กที่สุดหากเทียบในโปรดักส์บ้านเดี่ยวเหมือนกัน แต่ก็สามารถจัดสรรพื้นที่ใช้สอยได้ค่อนข้างคุ้มค่าดีทีเดียวครับ

สิ่งที่ผมชอบอย่างแรกคือ บริเวณที่จอดรถหน้าบ้านจะมีหลังคากันสาดมาให้แล้วเรียบร้อย และยังมีการจัดสวน ปลูกต้นไม้ พร้อมมีระบบ Air Plus ที่ช่วยระบายอากาศและความร้อนในบ้านได้ดี รวมถึงห้องนอนทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวทั้งหมด ค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัวสูง แม้แต่ห้องนอนชั้นล่างก็จะมีห้องน้ำที่เข้า-ออกได้ 2 ทาง ทำให้เกิดความสะดวกในการใช้งาน อีกด้วยครับ

ขอบคุณรูปภาพจาก www.lh.co.th

แบบบ้าน Panesy ขนาด 50 ตร.วา 160 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาขาย 6.89 ล้านบาท แบบบ้านจะมีขนาดใหญ่มากขึ้น จึงค่อนข้างโปร่งโล่งกว่าเดิมครับ โดยฟังก์ชันชั้นล่างจะยังคงคล้ายๆเดิม เพิ่มเติมคือมีพื้นที่อเนกประสงค์อยู่ตรงโถงบันไดชั้น 2 ที่สามารถกั้นห้องเพิ่มเติมได้หากต้องการครับ และอีกจุดหนึ่งคือทางเข้าห้องน้ำของห้องนอนเล็กที่จะต้องเข้าจากทางนอกห้อง ซึ่งนั่นเพราะทางโครงการคิดเผื่อเอาไว้แล้วว่า หากมีการต่อเติมทำห้องนอนเพิ่มขึ้นมาตรงพื้นที่อเนกประสงค์ ก็จะสามารถมาใช้ห้องน้ำตรงส่วนนี้ร่วมกันได้นั่นเองครับ

โครงการ บุราสิริ ปัญญาอินทรา จากแสนสิริ ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลอง 2 (ในซอยเลียบคลองสอง 22) เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีจำนวนยูนิตมากถึง 518 ยูนิต และถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีรูปแบบและบรรยากาศภายในโครงการที่สวยงามไม่น้อยครับ

ภาพบรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางค่อนข้างสวยงามมากครับ สิ่งที่ผมชอบคือมีการขุดแอ่งน้ำเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่บริเวณด้านหน้าโครงการ แล้วยังเน้นพื้นที่สีเขียวดูร่มรื่นดี อีกทั้งอาคาร Clubhouse ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากประภาคารริมน้ำ (ที่เห็นบ่อยๆที่เมืองนอก) ซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำในโครงการนี้นั่นเอง ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำ แล้วยังมีพื้นที่สำหรับเด็กๆให้มาเล่นกันได้อีกด้วย เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวมากๆครับ

แบบบ้านของโครงการนี้ที่ยังอยู่ในงบไม่เกิน 7 ล้านบาทจะมีแค่แบบเดียวเท่านั้นคือ แบบ BURLINGTON (เบอร์ลิงตัน) ซึ่งเป็นขนาดเกือบเล็กที่สุดของโครงการครับ (แบบบ้านที่เล็กที่สุดขายหมดแล้ว) โดยจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

แบบบ้าน BURLINGTON (เบอร์ลิงตัน) ขนาด 56 ตร.วา 163 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 6.95 ล้านบาท หน้าตา Facade ภายนอกจะเป็นสไตล์อังกฤษ ภายในบ้านมี Common area ที่ค่อนข้างใหญ่ ซึ่งจะมีพื้นที่เตรียมอาหารแยกกับพื้นที่ครัวปิดอีกทีหนึ่งด้วย ทำให้เป็นบ้านที่มีพื้นที่เก็บของเยอะพอสมควร ส่วนชั้นบนจะมีพื้นที่อเนกประสงค์ที่จะใช้เป็น Family area ของครอบครัวแบบส่วนตัวก็ได้ หรือจะกั้นทำเป็นห้องเพิ่มอีกสักห้องก็ดี โดยที่ห้องนอนเล็กจะใช้ห้องน้ำร่วมกันครับ

ส่วนห้อง Master Bedroom จะมีห้องน้ำในตัว แล้วยังมีพื้นที่ทำ Walk in closet ได้อีกด้วย แต่ระเบียงในห้องนอนจะเป็นระเบียงตกแต่งเท่านั้นนะครับ ทำให้ภายนอกจะมองเห็นระเบียงหน้าต่างเล็กๆยื่นออกมาดูน่ารักดีทีเดียว สามารถปลูกต้นไม้ตกแต่งเล็กๆน้อยๆได้นะ ส่วนระเบียงใช้งานจริงๆจะอยู่ตรง Family area ครับ ถือเป็นบ้านที่เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง ที่ชอบฟังก์ชันบ้านเป็นสัดส่วนและใช้งานง่าย

หมอกคาเฟ่ ร้านประจำย่านนี้ของผมที่ไปนั่งเขียนรีวิวบ่อยๆ ^^

…เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับข้อมูลโครงการบ้านเดี่ยว ในย่านรามอินทราที่ผมนำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งหากมองดูดีๆแล้วก็ยังพบว่าโครงการที่มีราคาจับต้องได้ช่วงงบประมาณ 5 – 7 ล้านบาทก็ยังมีให้เลือกค่อนข้างเยอะ อีกทั้งแต่ละโครงการก็มีจุดเด่นที่แตกต่าง และเหมาะสมกับ Lifestyle ของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย

ซึ่งเราสามารถดึงเอาจุดเด่นนี้มาใช้เป็นเกณฑ์ ในการพิจารณาเลือกซื้อบ้านที่ตรงกับความต้องการของเราได้มากที่สุดไม่ยากครับ และครั้งหน้าอยากให้ ThinkofLiving พาไปชมโครงการในย่านไหนอีก ก็สามารถ Comment บอกกันได้นะครับ ^^


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving