วันนี้ผมจะพามาชมโครงการบ้านเดี่ยวฝั่งพระราม 2 กันครับ ซึ่งจริงๆแล้วโครงการในย่านนี้สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายๆโซน และแต่ละโซนก็จะมีช่วงราคาที่ต่างกันออกไป ไม่ได้มีแต่บ้านราคาแพงเกือบ 10 ล้านบาท อย่างที่หลายๆคนคิดกัน โดยย่านพระราม 2 เป็นอีกโซนหนึ่งที่ใครหลายคนเลือกมองหาอยู่อาศัยกันเยอะ เพราะสามารถเดินทางเข้าเมืองไปทำงานได้ง่าย ทั้งย่านพระราม 3 , สีลม-สาทร , พระราม 4 หรือแม้แต่โซนสมุทรปราการ โดยสามารถใช้ทางด่วนเฉลิมมหานคร และถนนกาญจนาภิเษกที่ขึ้นมาจากถนนสุขสวัสดิ์เป็นหลักนั่นเองครับ
ทำเลและการแบ่งกลุ่มโครงการ
ทางฝั่งพระราม 2 นี้ มีความอุดมสมบูรณ์ที่คึกคักในตัวเองอยู่แล้ว โดยเฉพาะบริเวณเซ็นทรัลพระราม 2 , BigC สุขสวัสดิ์ และ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ซึ่งจะเต็มไปด้วยซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าร้านอาหารมากมาย ส่วนในแถบวงกลมสีม่วงจะเป็นโซนที่มีโกดังสินค้า และโรงงานอยู่กันค่อนข้างเยอะ จึงทำให้เป็นอีกแหล่งงานสำคัญสำหรับวิศวกร และเจ้าของโรงงานต่างๆ ก็จะมีอยู่ในพื้นที่พอสมควรเช่นกันครับ
และเมื่อความเจริญในแถบประชาอุทิศ-ทุ่งครุ เริ่มมีมากและหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ เมืองจึงเริ่มขยับขยายลงมายังโซนด้านล่างของถนนกาญจนาภิเษก (หรือประชาอุทิศตอนปลาย) สังเกตจาก 3 – 4 ปีที่ผ่านมา เริ่มมีโครงการจัดสรรใหม่ๆเกิดขึ้นหลายโครงการ เนื่องจากโซนด้านล่างนี้ก็มีความอุดมสมบูรณ์ต่างๆ มารองรับอยู่ก่อนแล้วเช่นกันครับ
โดยที่อยู่อาศัยของย่านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านแนวราบ ซึ่งก็มีอยู่หลากหลายประเภท และหลายช่วงระดับราคา ตั้งแต่โซนบ้านแพงใกล้ห้าง ติดถนนใหญ่ ขับตรงไปขึ้นทางด่วนเข้าเมืองได้ง่ายมากๆ หรือจะเป็นย่านประชาอุทิศ-ทุ่งครุ ที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่แล้วเช่นกัน บวกกับมีโครงการต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ทำให้มีการแข่งขันค่อนข้างสูง และราคาก็เริ่มขยับไปไกลแล้วเช่นกัน
แต่หากคุณเป็นคนกำลังมองหาบ้านเดี่ยวในย่านนี้ ที่ราคาหยิบจับง่าย 4 – 6 ล้านบาท ผมแนะนำลองมองเป็นโซนด้านล่างของประชาอุทิศดูก็ไม่เลวครับ เป็นย่านมีโครงการใหม่ๆมาเปิดและมีแนวโน้มที่ยังเติบโตได้อีกเรื่อยๆ เพราะยังมีที่ว่างให้นักพัฒนาเข้ามาทำโครงการได้อีกมากมาย แลกกับยอมขยับออกมานอกเมืองหน่อย ไกลจากจุดขึ้นทางด่วนเพิ่มสัก 20 – 30 นาที แต่ได้บ้านในราคาที่หยิบจับได้ง่ายกว่าเยอะครับ
สำหรับความอุดมสมบูรณ์ และสถานที่สำคัญของโซนประชาอุทิศตอนปลายนี้ สมมุติว่าคุณเดินทางกลับบ้านมาโดยใช้ถนนประชาอุทิศเป็นหลัก คุณจะได้ขับผ่านทั้ง BigC Market และร้านค้าร้านอาหารริมทางมากมาย ให้เลือกแวะก่อนกลับบ้านได้หลากหลาย มีเวิ้งอาหารชิคๆสวยๆที่น่าสนใจอย่าง Garden Town หรือถ้าเป็นตามซอยที่มีหมู่บ้านต่างๆ ก็มักจะมีตลาดอยู่ภายในด้วยครับ ซึ่งผมมองว่าเป็นอีกย่านที่ค่อนข้างเพียบพร้อม สำหรับการอยู่อาศัยอยู่พอสมควรเลยนะ
สำหรับโครงการบ้านเดี่ยวในย่านนี้ ผมขอคัดเลือกมาเฉพาะโครงการที่ยังมีบ้านมือ 1 ขายอยู่เท่านั้นนะครับ ซึ่งมีทั้งหมด 9 โครงการ และแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม ตามลักษณะทำเล และซอยที่โครงการนั้นๆตั้งอยู่ครับ โดยแต่ละโซนก็จะมีบรรยากาศ สิ่งอำนวยความสะดวก และจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
- กลุ่มที่ 1 ประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์ : ทำเลเชื่อมต่อถนนสุขสวัสดิ์ ออกไปขึ้นทางด่วนได้ง่าย
- กลุ่มที่ 2 ซอยประชาอุทิศ 90 : ซอยใหญ่รุ่นบุกเบิก ถนนกว้าง มีความคึกคักสูง
- กลุ่มที่ 3 ซอยประชาสามัคคี : ซอยน้องใหม่ มีตลาดและโครงการเปิดตัวเยอะ
กลุ่มที่ 1 ประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์
ความพิเศษของโครงการในกลุ่มนี้คือ ตั้งอยู่ในซอยประชาอุทิศที่เชื่อมต่อกับซอยสุขสวัสดิ์ สามารถขับรถไปออกถนนสุขสวัสดิ์ เพื่อไปขึ้นทางด่วนเข้าเมืองได้เลย โดยที่ไม่ต้องเสียเวลารถติดบนถนนประชาอุทิศ เหมาะกับคนที่ต้องการความสะดวกในการเดินทาง และโครงการเหล่านี้จะอิงความอุดมสมบูรณ์จาก “ตลาดนัดลานทราย” ที่อยู่ในซอย หรือจะใช้ทางลัดเชื่อมมาออกซอยประชาอุทิศ 131 เพื่อมายัง BigC Market ก็ได้นะครับ
ซึ่งใครที่กำลังสงสัยว่า ..ทำไมโซนนี้จึงมีเพียงแค่ 2 โครงการ หากคุณได้มีโอกาสขับรถเข้ามาภายในซอยสุขสวัสดิ์ จะเห็นว่าซอยเหล่านี้เป็นแหล่งที่มีโกดังสินค้า และโรงงานอยู่ค่อนข้างเยอะ สลับกับเป็นชุมชนเก่าดั้งเดิม จึงทำให้มีโครงการเกิดขึ้นใหม่ค่อนข้างน้อย ถ้าเป็นฝั่งบริเวณปากซอยประชาอุทิศก็ยังมีที่ดินเหลือนะ แต่ปัจจุบันยังคงเป็นทุ่งนาและบ่อเลี้ยงกุ้งอยู่เลยครับ
และนี่คือภาพของตลาดนัดลานทรายที่ว่าครับ มีของสดขายอยู่เยอะแยะเลย แวะซื้อไปประกอบอาหารทานที่บ้านตอนขากลับจากทำงานได้นะ รวมถึงมีวินมอไซค์ ร้านสะดวกซื้อและ Lotus Express ที่เปิด 24 ชม. ไว้บริการอีกด้วย
Q District สุขสวัสดิ์-วงแหวนพระราม 3
จากตลาดขับตรงมาประมาณ 1 km. เราจะเจอกับโครงการแรกของวันนี้คือ Q District สุขสวัสดิ์-วงแหวนพระราม 3 จาก Q House ที่ผมชอบคือ ด้านหน้าโครงการมีวินมอไซค์ตั้งอยู่ด้วยครับ และทางเข้าจะเป็นถนนส่วนบุคคลของโครงการเอง ซึ่งเว้นระยะห่างจากซอยสาธารณะเข้ามาประมาณ 200 m. ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ประกอบกับ 2 ข้างทางจะปลูกต้นไม้ใหญ่เอาไว้ ทำให้ดูร่มรื่นดีทีเดียวครับ
สำหรับผังโครงการผมจะชอบที่เค้ามีประตู 2 ชั้น โดยที่อาคาร Clubhouse ก็จะอยู่ระหว่าง 2 ประตูด้วยเช่นกัน ซึ่งแขกที่มาติดต่อจากภายนอก ก็จะไม่สามารถเข้าไปรบกวนพื้นที่ภายในโครงการได้ให้เสียความเป็นส่วนตัวได้เลย นอกจากนี้เค้ายังแบ่งโซนบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมออกจากกันชัดเจน ด้วยถนน Main ที่อยู่ตรงกลาง แต่ก็ใช้ส่วนกลางด้านหน้าร่วมกันครับ
โดยโครงการนี้มีเพื่อนบ้านทั้งหมด 495 ยูนิต ถือว่าค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวนะ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นทาวน์โฮมซะมากกว่า และที่ผมชอบอีกอย่างคือ การวางผังให้มีถนนล้อมรอบโครงการ ทำให้ไม่มีบ้านยูนิตไหนเลยที่อยู่ติดรั้วโครงการ ซึ่งบ้านที่หันออกไปยังรั้วโครงการก็จะมีความปลอดภัย และได้ระยะที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะไม่ต้องหันหน้าชนกับใครเลยนั่นเองครับ
สำหรับส่วนกลางผมอาจไม่ได้มีภาพของจริงมาให้ชมนะ (พอดีวันที่เข้าไปเค้าให้ปิดบริการเอาไว้อยู่) แต่จากที่เห็นและเดินดูมาแล้ว พบว่าบรรยากาศดีทีเดียวครับ เป็นอาคารชั้นเดียวที่ฝ้าเพดานสูง การตกแต่งจะเป็นสไตล์ชิคๆหน่อย ล้อมรอบด้วยต้นไม้ร่มรื่น มีทั้งล็อบบี้ สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย และสนามเด็กเล่นพร้อมเลย
แบบบ้านเดี่ยวของโครงการนี้คือ Timber ขนาด 50.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 148 ตร.ม. จัดฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง ชอบใช้งานระเบียงชั้นบน เพราะให้ระเบียงมาถึง 2 จุด มีห้องนอนที่ทำเป็นห้องอเนกประสงค์ที่ชั้นล่างเพิ่มได้ แต่อาจไม่ได้กั้นห้องครัวแยกเป็นสัดส่วนมาให้ (ต้องทำเพิ่มเอง) และห้องน้ำก็จะมีขนาดเล็กนิดนึงครับ โดยมีราคาขายอยู่ที่ 6.05 ล้านบาท
Supalai Garden Ville ประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์
อีกหนึ่งโครงการของโซนนี้คือ Supalai Garden Ville ประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการแรกๆของศุภาลัยที่มาบุกเบิกในย่านนี้ ทำเลที่ตั้งจะต่างจาก Q House เพื่อนบ้านเมื่อสักครู่นิดนึงตรงที่ เค้าจะอิงมากทางฝั่งปากซอยประชาอุทิศมากกว่าสุขสวัสดิ์ ทำให้เดินทางมา BigC Market ได้ง่ายกว่าด้วยนั่นเองครับ
โครงการนี้มีบ้าน 312 ยูนิต และทั้งหมดจะเป็นบ้านเดี่ยว ซึ่งส่วนกลางของเค้าจะอยู่บริเวณเกือบกึ่งกลางโครงการ ทำให้บ้านแต่ละหลังสามารถมาใช้งานสะดวกขึ้น และบ้านส่วนใหญ่จะหันหน้าไปทางทิศเหนือ-ใต้เป็นหลัก เพื่อรับลมประจำฤดูได้เต็มที่ ส่วนบ้านโซนตรงกลางจะมีเพื่อนร่วมซอยค่อนข้างเยอะหน่อย แต่ไม่ใช้ซอยตัน ทำให้ขับรถวนได้เลย แต่ถ้าใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวก็อาจต้องมองเป็นบ้านโซนฝั่งขวามือนะ เพราะจะเป็นซอยเล็กครับ (เผื่อกรณีใครมองหาบ้านมือ 2) เพราะปัจจุบันโครงการนี้เหลือบ้านมือ 1 แค่เพียงหลังเดียวเท่านั้นครับ (ไม่ทราบตำแหน่ง ลองสอบถามโครงการอีกทีนะ)
ซึ่งแบบบ้านที่ยังมีขายอยู่คือ ศุภลักขณา ขนาด 68.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม. จัดฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ซึ่งถือเป็นแบบบ้านมาตรฐานที่ศุภาลัยมีในหลายๆโครงการ และยังคงคอนเซ็ปต์เดิมคือ เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในเป็นหลัก ฟังก์ชันเป็นสัดส่วนใช้งานง่าย ได้ครัวไทยแบบกั้นแยกให้เลย เพียงแต่ห้องน้ำที่ใช้งานร่วมกันของห้องนอนเล็กอาจเล็กไปนิดนึงนะครับ เนื่องจากเป็นแบบบ้านเก่าแล้ว และมีราคาขายอยู่ที่ 4.3 ล้านบาท
กลุ่มที่ 2 ซอยประชาอุทิศ 90
สำหรับซอยประชาอุทิศ 90 ถือเป็นซอยใหญ่หลัก ของโซนประชาอุทิศตอนปลายนี้เลยครับ เพราะสามารถไปเชื่อมต่อกับซอยเทียนทะเล 25 ไปออกถนนบางขุนเทียน-ชายทะเลได้ครับ โดยซอยประชาอุทิศ 90 จะมีถนนใหญ่ถึง 4 เลน และมีรถโดยสารประจำทาง ทั้งรถเมล์และรถสองแถววิ่งเข้ามาด้านในอีกด้วย
ความอุดมสมบูรณ์ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณปากซอย ซึ่งจะมีร้านค้าร้านอาหารตามอาคารพาณิชย์อยู่เยอะแยะเลยครับ รวมถึงมี BigC Market และสถานที่ราชการ กับศูนย์บริการสาธารณะสุขอีกด้วย ส่วนภายในซอยก็จะมีตลาด โรงเรียนขนาดใหญ่ และปั๊มน้ำมันที่อยู่ถัดเข้าไปด้านในอีกนะครับ โดยโครงการบ้านเดี่ยวจะมีอยู่ด้วยกัน 4 โครงการ ซึ่งบรรยากาศซอยนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง เราไปชมกันเลย
เริ่มกันที่บริเวณแยกซอยประชาอุทิศ 90 (ซอยอยู่ทางขวามือ) ซึ่งจะเป็นแยกไฟแดงสำคัญของโซนนี้ บรรยากาศค่อนข้างคึกคัก เพราะมีคนมาจับจ่ายใช้สอยกันตลอดเวลา
ทางด้านซ้ายมือ (หรือฝั่งตรงข้ามกับซอยประชาอุทิศ 90) จะมี BigC Market ที่เป็นแหล่งพึ่งพิงหลักของคนในย่านตั้งอยู่ ซึ่งนอกจากจะมีซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว ก็ยังมีร้านอาหาร KFC และธนาคารคอยให้บริการอีกด้วยครับ
และถ้าเราเดินตรงต่อมา (ฝั่งเดียวกับ BigC) จะมีร้านค้า/ศูนย์อาหารอยู่ข้างทางถนนประชาอุทิศ ให้เราได้จอดรถแวะนั่งทานข้าว หรือซื้อกลับไปบ้านได้อีกด้วยครับ (แนวร้านยาวต่อเนื่องประมาณ 200 m.)
ส่วนบรรยากาศในซอยประชาอุทิศ 90 ปากซอยด้านหน้า 2 ฝั่งถนนจะเป็นอาคารพาณิชย์ที่เปิดเป็นร้านค้า และร้านอาหารต่างๆเยอะแยะเลยครับ ถือว่ามีความสะดวกสบายที่ครบวงจรมากๆ และชอบตรงที่มีที่จอดรถให้ด้วยนะ
ภายในซอยนอกจากจะมีตลาดประชาอุทิศ 90 แล้ว ยังมีโรงเรียนขนาดใหญ่อย่าง รร.สารสาสน์วิเทศศึกษา ตั้งอยู่อีกด้วยครับ ทำให้ช่วงก่อนและหลังเวลาเลิกเรียน ภายในซอยจะมีการจราจรที่ค่อนข้างคึกคักเป็นพิเศษเลยทีเดียว
ถัดจากรร.สารสาสน์มาหน่อย เราก็จะเจอกับโครงการของ Q House 3 โครงการที่ตั้งอยู่ติดกันเลยครับ สำหรับ Casa City นั้นจะเป็นโปรดักส์ทาวน์โฮม ซึ่งได้เปิดตัวมาเป็นโครงการแรก ส่วนอีก 2 โครงการที่เหลือก็ได้ถูกสร้างตามมาทีหลัง และเปลี่ยนรูปแบบโปรดักส์เป็นทั้งบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวครับ นั่นจึงหมายความว่าโครงการของ Q House นี้ มีโปรดักส์ทุกแบบเพื่อรองรับความต้องการ ของคนในย่านนี้ที่ต่างกันครับเลยทีเดียว
โดยโครงการที่เราจะพูดถึงกันวันนี้จะมีแค่ 2 โครงการเท่านั้น คือ Casa Ville ประชาอุทิศ 90 ซึ่งเป็นโครงการขนาดเล็กที่สุดในวันนี้ มีเพื่อนบ้านเพียงแค่ 31 ยูนิตเท่านั้น ถือว่ามีความเป็นส่วนตัวมากๆครับ แลกกับภายในจะไม่มีส่วนกลางอื่นๆให้ใช้งานเลย นอกจากสวนที่อยู่ตรงถนน Main หลักเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันโครงการนี้ขายใกล้หมดแล้วครับ เหลืออีกเพียงไม่กี่หลังเท่านั้น ส่วนอีกโครงการหนึ่งคือ Casa Presto ประชาอุทิศ 90 ซึ่งจะมี 2 โปรดักส์ในโครงการเดียวกัน คือ บ้านแฝดและบ้านเดี่ยว ทั้งหมด 167 ยูนิต และจะมี Clubhouse ให้ใช้งานแล้วครับ
Casa Ville ประชาอุทิศ 90
เริ่มจาก Casa Ville ประชาอุทิศ 90 ถนน Main ตรงกลางจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และมีการปลูกต้นไม้กับให้พื้นที่สีเขียวมาค่อนข้างเยอะ ดูร่มรื่นดีครับ ซึ่งบ้านที่หันหน้ามาทางถนนนี้ก็จะมีระยะสายตาที่กว้างหน่อย และมองเห็นต้นไม้ริมถนนจากในตัวบ้านได้อีกด้วย เพียงแต่สวนนี้อาจไม่ได้เน้นให้มาใช้งานจริงจังได้นะครับ เอาไว้เพียงแค่ประดับเพื่อความสวยงามซะมากกว่า
ส่วนแบบบ้านยังมีขายอยู่จะชื่อ The Pink Plus ขนาด 50.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 140 ตร.ม. จัดฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ซึ่งจุดที่ผมค่อนข้างชอบคือ พื้นที่ชั้นล่างที่นอกจากจะมีห้องนอนแล้ว ยังมีห้องอเนกประสงค์เล็กๆอยู่อีกห้องหนึ่งด้วยครับ ทำให้ฟังก์ชันค่อนข้างยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ เพียงแต่ห้องครัวอาจต้องมากั้นเพิ่มเอง และห้องน้ำรวมจะไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่ห้องน้ำของ Master Bedroom โครงการนี้ได้ถูกปรับให้ใหญ่ขึ้นแล้วครับ (หากเทียบกับ Q District ก่อนหน้านี้) โดยมีราคาเริ่มต้น 6.29 ล้านบาท
Casa Presto ประชาอุทิศ 90
ถัดมาคือ Casa Presto ประชาอุทิศ 90 โครงการนี้จะมีอาคาร Clubhouse และสวนอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ แต่ขนาดจะไม่ได้ใหญ่มากนัก เนื่องจากบ้านในโครงการมีไม่เยอะมาก 167 ยูนิต เป็นโครงการที่เหมาะกับคนที่ยังชอบบ้านเดี่ยวของ Q House แต่ต้องการที่จะใช้งานส่วนกลางร่วมด้วยนั่นเอง ซึ่งจะไม่มีใน Casa Ville ก่อนหน้านี้
แต่จุดที่ผมชอบจริงๆคือ สวนบริเวณถนน Main ทางเข้าโครงการ ที่เค้าถอดแบบมาจากโครงการ Casa Viille ก่อนหน้านี้ แต่ทำให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น (ตามจำนวนยูนิตที่เพิ่มขึ้น) แต่ก็ทำให้บรรยากาศทางเข้าโครงการดูร่มรื่นขึ้นดีทีเดียวครับ
แบบบ้านที่นี่จะใช้ชื่อ Relief ขนาด 50.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 132 ตร.ม. จัดฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ซึ่งจะมีขนาดเล็กลงมาจากตัว The Pink Plus ของ Casa Ville ก่อนหน้านี้ แต่ฟังก์ชันจะคล้ายๆเดิมครับ ขาดแค่ห้องอเนกประสงค์ชั้น 1 ที่จะหายไปห้องนึงเท่านั้น และราคาจะถูกลงมาหน่อย เริ่มต้นที่ 5.99 ล้านบาท
Villaggio ประชาอุทิศ 90
มาถึงโครงการของ LH กันบ้างครับ กับ Villaggio ประชาอุทิศ 90 ที่เป็นโปรดักส์บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ซึ่งถูกสร้างเป็นเฟสต่อมา หลังจากที่โครงการ Indy 3 (ทางขวามือของภาพ) ได้เสียงตอบรับค่อนข้างดี และขายจนใกล้จะปิดโครงการแล้วด้วย ดังนั้น LH จึงนำโปรดักส์ใหม่มาลงเพิ่ม ซึ่งแน่นอนว่าบรรยากาศโครงการ และสไตล์การตกแต่งจะสวยงามมากขึ้นอย่างแน่นอน ตอนที่ผมขับรถเข้ามาท้ายซอยนี้นึกว่าอยู่เมืองนอกซะอีก
ตัวโครงการจะตั้งอยู่ภายในซอยที่แยกเข้ามาจากซอยประชาอุทิศ 90 อีกทีหนึ่งครับ ทำให้มีความเป็นส่วนตัว ไม่พลุกพล่าน เพราะคนที่ใช้ซอยนี้ก็มีแต่ลูกบ้านของ LH ทั้งนั้น สำหรับผังโครงการจะมีเพื่อนบ้านทั้งหมด 351 ยูนิต โดยวาง Facilities เอาไว้ด้านหน้า ลากยาวตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้า ไปจนถึงช่วงกลางโครงการ ทำให้ลูกบ้านด้านในก็ยังมาใช้งานได้ง่าย และสิ่งที่ผมชอบอีกอย่างคือ โครงการมีการขุดสระน้ำหรือบึงน้ำขนาดใหญ่เอาไว้ด้วย ทำหน้าที่ทั้งเป็นส่วนต้อนรับ และช่วยเสริมสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับโครงการอีกด้วยครับ
จริงๆแล้วผมก็อยากจะถ่ายภาพส่วนกลาง และบรรยากาศภายในมาให้ทุกคนได้ชมกันนะ เพราะเค้าจัดออกมาได้สวยมากๆ เพียงแต่ ณ วันที่ผมเข้ามาชมโครงการนี้ จะยังสร้างได้ไม่เรียบร้อยดีครับ (ทางโครงการเลยขออนุญาตไม่ให้ถ่ายรูป) ซึ่งผมก็ได้ถ่ายภาพตัวอย่างการตกแต่งด้านหน้าโครงการมาให้ดูแทนครับ เพราะอาคาร Clubhouse ด้านในก็จะมีการตกแต่งสไตล์ยุโรปแบบนี้เลย ทำให้เหมือนรู้สึกอยู่เมืองนอกเลยครับ
แบบบ้านเดี่ยวมีชื่อว่า Gable ขนาด 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 134 ตร.ม. จัดฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ถือว่าเป็นหนึ่งในโครงการที่มีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างเล็ก เหมาะกับครอบครัวขนาดไม่ใหญ่มากนัก ตัวบ้านโดดเด่นด้วยการตกแต่งสไตล์ยุโรปที่เข้ากับบรรยากาศส่วนกลางในโครงการ พร้อมใช้เทคโนโลยี AirPlus (นวัตกรรมบ้านหายใจได้) เข้ามาช่วยในเรื่องระบบการถ่ายเทอากาศของตัวบ้านอีกด้วยครับ
สิ่งที่ผมชอบของแบบบ้านนี้คือ ห้องนอนมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง ได้ความเป็นส่วนตัว และถึงแม้พื้นที่ใช้สอยจะมีขนาดเล็กว่าเจ้าอื่นในย่าน แต่เค้าจัดช่องแสงออกมาได้ดี เข้ามาในบ้านแล้วไม่รู้สึกอึดอัดเลยครับ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 5.19 ล้านบาท และอีกอย่างคือ LH ทุกโครงการจะเป็นบ้านที่สร้างเสร็จก่อนขาย ดังนั้นมั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า เราจะได้เห็นของจริงก่อนซื้ออย่างแน่นอน
PAVE ประชาอุทิศ 90
โครงการสุดท้ายของซอยประชาอุทิศ 90 นี้คือ PAVE ประชาอุทิศ 90 จาก SC Asset เป็นโครงการบ้านเดี่ยวโปรเจคแรกๆเลยครับ ที่เข้ามาบุกเบิกย่านนี้ก่อนใคร บรรยากาศโครงการค่อนข้างโอเคนะ ส่วนกลางสวยงามน่าใช้งานดี เป็นแบบสไตล์โมเดิร์น 2 ชั้น พร้อมทั้งมีล็อบบี้ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ และสวนขนาดใหญ่ครบ
และโครงการนี้ก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่มีถนนส่วนตัว ซึ่งจะตรงยาวเข้ามาก่อนจะเจอกับซุ้มประตูโครงการที่อยู่ด้านใน จึงทำให้ค่อนข้างเป็นส่วนตัว โดยทางเข้าถนนโครงการนี้จะแยกออกมาจากถนนซอยประชาอุทิศ 90 ซึ่งก็ตรงกับทางเลี้ยวของซอยพอดีด้วยครับ ดังนั้นเวลาจะขับตรงออกจากโครงการ จึงต้องระมัดระวังรถที่มาจากด้านซ้ายเป็นพิเศษหน่อย ส่วนผังโครงการจะวาง Facilities ไว้บริเวณตรงกลางโครงการ ทำให้บ้านแต่ละหลังมาใช้งานได้สะดวก ซึ่งก็มีเพื่อนบ้านทั้งหมด 289 ยูนิต ถือว่าเริ่มเป็นโครงการขนาดใหญ่แล้วเหมือนกันครับ
แบบบ้านที่ยังมีขายอยู่จะมีทั้งหมด 3 แบบครับ เริ่มต้นด้วย Pave Y+ ขนาด 50.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 168 ตร.ม. จัดฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เป็นบ้านหน้ากว้างที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ซึ่งจุดที่ผมชอบคือ Common area ที่เชื่อมต่อกันเป็นรูปตัว L ทำให้ดูกว้างและมีขนาดใหญ่ดี แต่ห้องครัวจะต้องกั้นเพิ่มเองนะ ไม่เน้นระเบียง แต่จะเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในแทน และห้องนอนที่อยู่ชั้นบนจะมีขนาดที่ใหญ่หมดครับ ห้องนอนเล็กวางเตียง 5 ฟุตกับโต๊ะ 1 ตัวได้สบายๆ ถือว่ามีพื้นที่ยืดหยุ่นพอสมควร โดยมีราคาอยู่ที่ 4.29 ล้านบาทครับ
Pave X+ ขนาด 57.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 178 ตร.ม. จัดฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ จะเหมาะกับครอบครัวที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย เพราะจะได้ห้องนอนที่อยู่ชั้นล่างเพิ่มขึ้นมา หรือเราจะทำเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆก็ได้ครับ นอกนั้นฟังก์ชันจะเหมือนกับบ้านแบบ Pave Y+ เมื่อสักครู่เลยนะ โดยมีราคาอยู่ที่ 4.79 ล้านบาท
Pave XY ขนาด 115 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 217 ตร.ม. จัดฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เป็นแบบบ้านขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ เหมาะกับครอบครัวใหญ่ มีลูก 2 – 3 คน โดยห้องนอนที่เพิ่มขึ้นมาอีกห้องนั้นจะอยู่ชั้นล่างครับ จึงอาจทำเป็นห้องอื่นๆเพิ่มได้อีกสักห้อง ทำให้บ้านหลังนี้มีฟังก์ชันที่ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ง่าย และขนาดพื้นที่ห้องต่างๆก็เยอะขึ้นตามด้วยเช่นกัน มีราคาอยู่ที่ 8.19 ล้านบาท
กลุ่มที่ 3 ซอยประชาสามัคคี
โซนสุดท้ายจะอยู่ในซอยประชาสามัคคี (หรือซอยกระทิงแดง) เป็นอีกซอยที่มีโครงการมาเปิดใหม่เยอะ เนื่องจากบริเวณปากซอยจะมีตลาด และร้านสะดวกซื้อต่างๆมารองรับพร้อมแล้ว แลกกับสภาพแวดล้อมของซอยจะยังดูไม่เจริญเท่ากับซอยประชาอุทิศ 90 ก่อนหน้านี้ และยังเป็นซอยตันอีกด้วย (ปัจจุบันถนนยังไม่เชื่อมต่อกับซอยประชาอุทิศ 90) แต่ก็มีข้อดีสำหรับคนที่ขับรถเข้าเมืองบ่อยๆคือ ระยะทางจากโครงการไปถึงปากซอยจะสั้นกว่า และไม่ต้องผ่านย่านรถติดอย่างหน้าโรงเรียนสารสาสน์ หรือแยกไฟแดง เหมือนอย่างโครงการในซอยประชาอุทิศ 90 นั่นเองครับ
แต่ก่อนที่จะเดินทางไปถึงซอยประชาสามัคคี หากเราขับรถต่อมาจาก BigC Market ก็จะได้ขับผ่าน Garden Town ซึ่งผมแนะนำให้แวะเพื่อทานอาหาร หรือซื้อกาแฟก่อนกลับบ้านได้ครับ
ภายใน Garden Town มีทั้งร้านอาหาร สุกี้-ชาบู ร้านสเต็ก และร้านกาแฟสวยๆ ที่มีมุมสวนสไตล์อังกฤษ น่าไปถ่ายรูปเช็คอินมากๆครับ
และเมื่อมาถึงซอยประชาสามัคคี บริเวณปากซอยจะมีตลาดประชาสามัคคีตั้งอยู่ ซึ่งเป็นตลาดขนาดกลาง ไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่ก็มีของสดและสินค้าอื่นๆขายครบครัน สามารถแวะซื้อของกลับไปทำอาหารทานที่บ้านได้ง่ายๆ รวมถึงมีร้านขายยา Lotus Express และ Mini BigC ตั้งอยู่อีกด้วยนะ
Supalai Pride ประชาอุทิศ
สำหรับโครงการแรกที่เราจะได้เจอคือ Supalai Pride ประชาอุทิศ จาก ศุภาลัย ซึ่งด้านหน้าโครงการจะมีเซเว่นตั้งอยู่ด้วยครับ เวลาออกมาซื้อของถือว่าสะดวกมากๆ โดยซุ้มประตูทางเข้าจะร่นระยะเข้าไปด้านในอีกเล็กน้อย ทำให้มีความเป็นส่วนตัว และเกิดพื้นที่ส่วนต้อนรับขึ้นด้านหน้าแบบนี้นั่นเอง
ผังโครงการจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวยาว ลึกเข้าไปด้านใน มีจำนวนยูนิตรวมกว่า 496 ยูนิต ซึ่งถือว่าเยอะที่สุดของโครงการที่เรานำมาฝากกันในวันนี้แล้วครับ สิ่งที่ผมชอบคือการกระจายตำแหน่งพื้นที่ส่วนกลางไว้ 2 จุด ทำให้ลูกบ้านสามารถมาใช้งานกันได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น เพียงแต่ฟังก์ชันด้านในจะเป็นแค่สวน และสนามเด็กเล่นเท่านั้น รวมถึงผมแอบเห็นว่ามี Dog Park อีกด้วยนะ อาจเหมาะกับคนมีสัตว์เลี้ยงก็ได้
ส่วนถ้าใครที่อยากได้ความเป็นส่วนตัว ผมแนะนำเป็นบ้านในซอยโซนแรกๆด้านขวามือ เพราะจะเป็นซอยที่ไม่ยาวมากนัก เพื่อนร่วมซอยน้อย และผังบ้านส่วนใหญ่ยังคงคอนเซ็ปต์ของศุภาลัยเอาไว้ ที่ต้องการหันหน้าไปทางทิศเหนือ-ใต้ให้มากที่สุด เพื่อเปิดรับลมประจำฤดูเข้ามาให้บ้านได้เต็มที่นั่นเองครับ
โครงการนี้มีแบบบ้านให้เลือกกันถึง 6 แบบ แบ่งเป็นบ้านแฝด 1 แบบ และบ้านเดี่ยว 5 แบบ โดยแบบบ้าน “ศุภนัช” ได้ขายหมดแล้วครับ เป็นบ้านเดี่ยวขนาดเริ่มต้นของโครงการ ที่ภายในจะมี Common area ขนาดใหญ่เต็มความกว้างของตัวบ้าน ต่างจากแบบบ้านอื่นๆซึ่งดีมากๆ และเค้ายังมีการทำหลังคาโรงจอดรถแบบในรูปให้อีกด้วยนะ (ใครสนใจลองสอบถามโครงการดูอีกที เผื่ออาจจะมีหลุดดาวน์มาก็ได้ครับ) ส่วนแบบบ้านอื่นๆที่ยังมีขายอยู่ จะเป็นอย่างไรบ้าง เราไปชมกันเลย
แบบบ้าน ศุภลักขณา ขนาด 61.3 – 77.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม. จัดฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ จะเป็นแบบบ้านเดิมของโครงการศุภาลัยก่อนหน้านี้ ที่เราเพิ่งพาไปชมกันมาครับ ฟังก์ชันค่อนข้างลงตัว พื้นที่ยืดหยุ่น เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง และได้ครัวปิดแยกเป็นสัดส่วนดี มีราคาอยู่ที่ 4.75 – 5.15 ล้านบาท
แบบบ้าน ศุภดำรง ขนาด 61.7 – 77.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม. จัดฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เป็นแบบบ้านเดี่ยวขนาดกลางของโครงการ ที่มีจุดเด่นอยู่ตรงผนังกระจกโถงบันได ที่ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายใน และทำให้หน้าตาบ้านดูโดดเด่นมากขึ้น แลกกับประตูทางเข้าบ้านจะแคบลง เหมาะกับคนชอบความเป็นส่วนตัว สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือมีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง กับพื้นที่นั่งเล่นหน้าบันไดชั้น 2 ทำให้คนในครอบครัวมีพื้นที่ความเป็นส่วนตัวกันมากขึ้น มีราคาอยู่ที่ 4.91 – 5.39 ล้านบาท
แบบบ้าน ศุภฤทัย ขนาด 72.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม. จัดฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เป็นแบบที่ขนาดใหญ่ที่สุด ลักษณะเด่นคือ มีการย้ายตำแหน่งบันไดมาไว้ตรงกลางบ้าน เพื่อแบ่งแต่ละฟังก์ชันออกจากกันชัดเจน พร้อมกับมีช่องว่างตรงกลางเชื่อมต่อระหว่างชั้นกัน ทำให้ดูโอ่โถงมากขึ้น ประตูหน้าบ้านสามารถเปิดรับแขกได้เต็มที่ และห้องชั้นล่างก็ใหญ่พอที่จะกลายเป็นห้องนอนได้แล้ว อาจใช้เป็นห้องผู้สูงอายุหรือแขกก็ได้ครับ แต่จะต้องออกมาใช้งานห้องน้ำด้านนอกนะ
ส่วนชั้นบนห้อง Master Bedroom จะกินพื้นที่เต็มความกว้างของตัวบ้านเลย และห้องน้ำก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้น แถมยังเพิ่มอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย บ้านนี้จึงเหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ หรือคนที่มีแขกและเพื่อนๆแวะเวียนมาบ่อยๆก็ได้ครับ แต่หากอยู่กันหลายคน และทุกคนใช้รถกันหมด ที่จอดรถ 2 คันอาจจะยังไม่เพียงพอนะ ส่วนราคาจะอยู่ที่ 5.73 ล้านบาท
Lanceo ประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์
โครงการถัดมาคือ Lalin Town จาก ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ โดยโครงการนี้ภายในจะมีประกอบด้วยโปรดักส์ 2 แบรนด์คือ Lio และ Lanceo ประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์ ซึ่งจะใช้ทางเข้าด้านหน้าร่วมกันครับ สำหรับแบรนนด์ Lio จะเป็นโปรดักส์ทาวน์โฮม ส่วน Lanceo จะเป็นบ้านเดี่ยวกับบ้านแฝดนะ
เมื่อมองจากผังจะเห็นว่า จากซุ้มประตูทางเข้าถนนด้านหน้าจะมีทางตรงเข้ามาเล็กน้อย ก่อนจะมีซุ้มประตูแยก 2 แบรนด์ออกจากกันอีกที (ตรงบริเวณส่วนกลางที่อยู่ตรงกลาง) โดยทั้ง 2 แบรนด์นี้จะยังใช้ส่วนกลางที่อยู่ตรงกลางร่วมกันครับ ไม่ได้มีรั้วกั้นแยกออกจากกันชัดเจน ซึ่งแบรนด์ Lanceo จะมีบ้านรวม 53 ยูนิต และ Lio จะมีทาวน์โฮมอีก 400 ยูนิต รวมกันทั้งโครงการคือ 453 ยูนิต ที่จะต้องมาใช้ส่วนกลางนี้ร่วมกัน และด้วยขนาดพื้นที่ส่วนกลางเท่านี้อาจจะหนาแน่นอยู่บ้างเหมือนกัน (ซึ่ง ณ วันที่ผมเข้าไปชมเค้ายังทำส่วนกลางไม่เสร็จนะ) แต่จะได้ความเป็นส่วนตัวในส่วนของฝั่ง Lanceo อยู่บ้าง เพราะบ้านในซอยหนึ่งจะมีเพียง 8 ยูนิตเท่านั้น
สำหรับโปรดักส์บ้านเดี่ยวคือ Craft ขนาด 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 155 ตร.ม. จัดฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่าห้องน้ำเค้าให้มาน้อยไปหน่อยครับ แม้แต่ห้อง Master Bedroom ยังต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกันเลย แต่ทั้งนี้ก็ทำให้ห้องน้ำไม่กินพื้นที่ห้องนอนอื่นๆ จะได้มีพื้นที่เหลือให้จัดเฟอร์นิเจอร์ในห้องได้ง่ายมากขึ้น โดยราคาขายจะอยู่ที่ 3.91 – 3.96 ล้านบาท ถือว่าราคาค่อนข้างย่อมเยาว์ที่สุด หากเทียบกับเพื่อนบ้าน
CENTRO ประชาอุทิศ 90
มาถึงโครงการสุดท้ายของวันนี้กันแล้วครับ กับ CENTRO ประชาอุทิศ 90 จาก AP ซึ่งปัจจุบันทำเลจะตั้งอยู่สุดซอยประชาสามัคคี และมีการออกแบบสไตล์โมเดิร์นทันสมัย ส่วนกลางค่อนข้างครบครัน โดยใช้อาคาร Clubhouse ร่วมกับซุ้มประตูทางเข้า เหมือนโปรเจค Centro อื่นๆที่ผ่านมา ที่ผมชอบคือ เค้าเน้นพื้นที่ล็อบบี้ให้มาพักผ่อน หรือพบปะสังสรรค์พูดคุยกันได้ และยังมีห้อง Kids Room ขนาดใหญ่ชั้นบน ให้พาน้องๆมาเจอและเล่นด้วยกันที่นี่ได้อีกด้วยครับ
แผนผังโครงการจะเป็นที่ดินสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว และมีซอยแยกย่อยจากถนน Main ด้านขวาหลายซอย ซึ่งบ้าน Type ใหญ่ๆจะอยู่ช่วงซอยแรกๆ ทำให้เพื่อนบ้านในซอยมีน้อยและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ในขณะที่ช่วงกลางๆโครงการจะเริ่มมีบ้าน Type เล็กเข้ามาแทรกบ้าง ส่วนบ้านขนาดกลางจะอยู่ด้านในสุดครับ และก็อาจจะมาใช้งาน Clubhouse ไกลนิดนึง เพราะเค้าจะมีส่วนกลางแค่จุดเดียวที่อยู่ทางด้านหน้าสุด และใช้เป็นส่วนต้อนรับไปด้วยเลยครับ รวมทั้งโครงการจะมีเพื่อนบ้าน 256 ยูนิต ซึ่งถือเป็นโครงการขนาดกลาง
แบบบ้านโครงการนี้มีทั้งหมด 6 แบบครับ โดยจะเป็นบ้านแฝด 1 แบบ และบ้านเดี่ยวอีก 5 แบบ ทำให้เป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีโปรดักส์ให้เลือกเยอะ เพื่อรองรับความต้องการของคนที่หลากหลาย ทั้งหมดออกแบบเป็นสไตล์ Modern เรียบง่าย โดยราคาเริ่มต้นแต่ละ Type ยังไม่ออกมาแน่ชัดนะครับ เพราะโครงการเค้ายังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่จากสื่อโฆษณาต่างๆระบุว่า เป็นราคา 4.59 – 6 ล้านบาท ซึ่งก็อาจเป็นราคาเริ่มต้นของ Type เล็กที่สุด (อาจเป็นบ้านเดี่ยวหรือบ้านแฝดก็ได้) ต้องลองสอบถามกับทางโครงการดูอีกทีครับ
สำหรับแบบบ้านของโครงการนี้ ผมจะขอยกตัวอย่างแบบ LATITUDE ขนาด 56.03 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม. จัดฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ซึ่งเป็นบ้านหน้ากว้างที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยเยอะที่สุดในย่าน ที่ผมยกมาวันนี้เลยครับ เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง ค่อนข้างเป็นส่วนตัวมาก และมีการเพิ่มขนาดช่องแสงให้ใหญ่ขึ้นกว่าโมเดลรุ่นเดิม ทำให้ภายในบ้านดูโปร่งโล่งมากขึ้นครับ
ซึ่งบ้านหลังนี้ผมเคยเขียนรีวิวไปแล้ว สามารถไปอ่านรีวิวเจาะลึกกันได้โดย คลิกที่นี่
สรุป
ซึ่งหลังจากที่เราไปชมแต่ละโครงการมาทั้งหมดแล้ว ผมจะขอพูดสรุปทีละประเด็นแบบง่ายๆให้ฟังดังนี้ครับ
ทำเล
สำหรับใครที่เน้นเดินทางไปขึ้นทางด่วนเพื่อเข้าเมืองบ่อยๆ ผมแนะนำบ้านกลุ่มแรกที่อยู่ในโซนสุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ อย่างโครงการ Q District สุขสวัสดิ์-วงแหวนพระราม 3 แต่ถ้าใครเน้นใกล้ความอุดมสมบูรณ์ หรือโรงเรียนลูก ก็อาจมองเป็นโครงการกลุ่มที่ 2 ในซอยประชาอุทิศ 90 ได้ครับ ส่วนโครงการในซอยประชาสามัคคี จะเป็นกลุ่มที่เน้นราคาและความคุ้มค่าเป็นหลัก แลกกับความเจริญที่น้อยลงมาหน่อย และเดินทางไกลขึ้นสัก 20 – 30 นาที (ถ้ารถติดๆหน่อยก็อาจสัก 1 ชม.)
ราคา
เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักสำคัญที่เราใช้พิจารณาในการเลือกซื้อบ้าน ซึ่งโครงการที่ถูกหรือจับต้องได้ง่ายที่สุดคือ Lanceo ประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์ บ้านเดี่ยว 155 ตร.ม. ในราคา 3.91 – 3.96 ล้านบาท ด้วยพื้นที่ใช้สอยขนาดนี้หากเป็นในโครงการอื่นๆ จะมีราคาเริ่มต้น 4 – 5 ล้านบาทกันหมดเลยครับ แต่ก็แลกกับฟังก์ชันห้องน้ำที่น้อยกว่าคนอื่น และต้องใช้งานส่วนกลางร่วมกับตัว Lio เพื่อนบ้านด้วยนะ
นอกนั้นโครงการอื่นๆจะมีราคาจะค่อนข้างเกาะกลุ่มกัน จะมีแค่ Casa Presto ประชาอุทิศ 90 และ Villaggio ประชาอุทิศ 90 แค่ 2 โครงการนี้เท่านั้น ที่ให้พื้นที่ใช้สอยบ้านมาน้อยหน่อย เพียง 132 – 134 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้นที่มากกว่า 5 ล้านบาท แต่ก็แลกมากับทำเลที่ใกล้ความอุดมสมบูรณ์ ใกล้สถานศึกษา และแบบบ้านโครงการค่อนข้างสวย แถมยังมีช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้บ้านดูโปร่งโล่งไม่อึดอัดครับ
ความเป็นส่วนตัว
เรื่องนี้ผมขอยกให้ Casa Ville ประชาอุทิศ 90 มาเป็นอันดับ 1 เลยครับ ด้วยจำนวนเพื่อนบ้านเพียง 31 ยูนิตเท่านั้น แลกกับพื้นที่ส่วนกลางที่มีแค่สวนประดับเพื่อความร่มรื่นเท่านั้น ไม่ได้มี Clubhouse อย่างอื่นให้ใช้นะ รองลงมาคือโครงการเจ้าของเดียวกันที่อยู่ข้างๆ อย่าง Casa Presto ประชาอุทิศ 90 กับจำนวนบ้าน 167 ยูนิต (ไม่นับ Lanceo เพราะเค้ายังใช้ส่วนกลางร่วมกับ Lio อีกกว่า 400 ยูนิต)
และถ้าเป็นโครงการที่มียูนิตเยอะที่สุด จะมีอยู่ 2 โครงการคือ Q District สุขสวัสดิ์-วงแหวนพระราม 3 (495 ยูนิต) และ Supalai Pride ประชาอุทิศ (496 ยูนิต) ซึ่งถือว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่ แต่ทั้ง 2 โครงการนี้เค้าก็จัดพื้นที่ส่วนกลางมาให้ค่อนข้างใหญ่ใช้ได้เหมือนกันครับ เหมาะสมกับขนาดโครงการกำลังพอดีครับ
บรรยากาศโครงการและพื้นที่ส่วนกลาง
สำหรับคนที่เน้นเรื่องของภาพลักษณ์และบรรยากาศในหมู่บ้าน ผมขอแนะนำเป็นโครงการ Villaggio ประชาอุทิศ 90 ซึ่งมาในรูปแบบสไตล์ยุโรป ทั้งการตกแต่งพื้นที่ส่วนกลางและตัวบ้าน คล้ายกับได้อยู่เมืองนอกมากๆ รวมถึงมีสระน้ำขนาดใหญ่ในโครงการอีกด้วย แต่สไตล์การตกแต่งแบบนี้ก็แล้วแต่ความชอบเฉพาะกลุ่มคนนะครับ
สำหรับโครงการอื่นๆที่ผมเข้าไปชมและรู้สึกประทับใจ จะเป็นโครงการของ Q House ทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะเป็น Q District สุขสวัสดิ์-วงแหวนพระราม 3 , Casa Ville ประชาอุทิศ 90 และ Casa Presto ประชาอุทิศ 90 โดยมีลักษณะที่เหมือนกันคือ เค้าจะเน้นให้ด้านหน้าโครงการมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ เป็นส่วนต้อนรับอยู่ตรงถนน Main ทำให้ทางเข้าดูร่มรื่นดีมากๆ
ขนาดพื้นที่ใช้สอย
หากใครที่เป็นครอบครัวขนาดใหญ่ หรือต้องการพื้นที่ใช้สอยเยอะๆ ผมแนะนำเป็น 3 โครงการ คือ
- CENTRO ประชาอุทิศ 90 แบบบ้าน LATITUDE พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม. (4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ)
- PAVE ประชาอุทิศ 90 แบบบ้าน Pave XY พื้นที่ใช้สอย 217 ตร.ม. (5 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ)
- Supalai Pride ประชาอุทิศ แบบบ้าน ศุภฤทัย พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม. (4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ)
แต่สิ่งที่ควรสังเกตอีกอย่างคือ ทำเลย่านนี้เน้นการเดินทางด้วยรถยนต์เป็นหลัก โดยบ้านเดี่ยวแต่ละเจ้าจะมีที่จอดรถสูงสุดเพียง 2 คันเท่านั้น ไม่ได้เพิ่มขึ้นตามจำนวนห้องนอนแต่อย่างใด ดังนั้นอย่าลืมสำรวจครอบครัวตัวเองด้วยว่า..ต้องใช้รถทั้งหมดกี่คัน? ซึ่งเราอาจต้องมองหาเป็นบ้านบางแปลง ที่มีเนื้อที่บ้านเยอะกว่ามาตรฐาน ที่พอจะสามารถเพิ่มที่จอดรถในบ้านได้อีกครับ (ซึ่งต้องลองสอบถามแต่ละโครงการอีกครั้งนะ ว่ามีแปลงใหญ่ๆแบบนั้นบ้างมั๊ย)
…จบแล้วนะครับสำหรับบทความ มองหาบ้านเดี่ยว พระราม 2 – ประชาอุทิศตอนปลาย ที่มีราคาสามารถหยิบจับได้ไม่ยากอย่างที่คิด ก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยใครหลายๆคนในการตัดสินใจ เลือกซื้อบ้านที่เหมาะสมกับตัวเองได้นะครับ และคราวหน้า Think of Living จะพาไปชมโครงการทำเลไหนอีก อย่าลืมติดตามชมกันด้วยนะ
ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving