จากการตัดสินใจกลับมาสร้างบ้านบนที่ดินเดิมย่านเจริญกรุงของครอบครัวคุณกฤต เจนพานิชการ ที่หลายคนรู้จักกันในบทบาทผู้สื่อข่าวมาดเข้ม

โจทย์ที่ทางคุณกฤตให้ไว้กับสถาปนิกคือต้องการบ้านที่ภายนอกดูสุขุมแต่แฝงไปด้วยความขี้เล่น สามารถรองรับการจัดงานปาร์ตี้สังสรรค์เล็ก ๆ รองรับเพื่อนฝูงได้ และมีส่วนเชื่อมโยงกันกับบ้านเดิมของครอบครัว แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยจากภายนอก

โดยบ้านหลังนี้ได้ทีมงานสถาปนิกจาก Octane Architect & design เป็นผู้ถ่ายทอดตัวตนของคุณกฤตออกมาผ่านบ้านหลังนี้…

Image 1/8
บ้านสไตล์ Industrial Modern ภายนอกดูขรึมแต่ภายในดูสนุกสนาน

บ้านสไตล์ Industrial Modern ภายนอกดูขรึมแต่ภายในดูสนุกสนาน

“ลุคผมภายนอกเป็นคนขึงขัง เป็นคนลุยๆ เป็นคนแข็งๆ แต่ถ้าได้คุยเนี่ยจะรู้ว่ามีความสนุก ขี้เล่น เฟรนลี่ มีเพื่อนเยอะ เป็นคนสบายๆ เหมือนบ้านที่ Structure แข็งๆ เป็นบ้านทรงกล่องสไตล์ Industrial Modern ที่อยู่ท่ามกลางต้นไม้ล้อมรอบ เหมือนเป็นกล่องดำๆ ที่แทรกอยู่กลางป่า”

บ้านหลังนี้ถูกถ่ายทอดออกมาในสไตล์ Industrial Modern ภายนอกเป็นสีดำทั้งหลังดูเข้มๆ ลึกลับ แต่ภายในแฝงไปด้วยลูกเล่นและดีเทลต่างๆที่มาลดทอนความแข็งของบ้านทรงกล่องได้เป็นอย่างดี

“ผมเป็นคนให้เกียรติงานดีไซน์ เคารพงานอาร์ต เพราะฉะนั้นใส่เต็มที่เลย แต่ขออย่างนึงคือพี่เชื่อเรื่องง “ฮวงจุ้ย” นะ พี่คงต้องขอคำปรึกษาซินแสด้วย”

การออกแบบบ้านหลังนี้มีข้อจำกัดในเรื่องของฮวงจุ้ยทำให้มีการปรับแบบใหม่เกือบทั้งหมด จากแบบแรกที่ดีไซน์ออกมาเป็นบ้านที่มีคอร์ทตรงกลาง ทางสถาปนิกได้เปลี่ยนคำแนะนำจากซินแสมาเป็นแบบที่คุณกฤตชอบ จนลงตัวกลายเป็นบ้านรูปทรงตัวแอล (L) ซึ่งภายนอกดูโมเดิร์นมากๆ แต่ที่จริงแล้วบ้านหลังนี้สร้างตามหลักฮวงจุ้ยทุกอณู…

โดยภาพรวมของบ้านหลังนี้ดีไซน์มาเป็นบ้าน 2 ชั้น โดยชั้นล่างเป็น Living+Dining Area ที่มีฝ้าเพดานสูง 6-7 เมตร อยู่ติดสระว่ายน้ำ ส่วนชั้นบนแบ่งเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ 2 ห้อง

บ้านที่ฝนตกแล้ว ไม่ต้องปิดหน้าต่าง

Image 1/6
บ้านที่ฝนตกแล้วไม่ต้องปิดหน้าต่าง

บ้านที่ฝนตกแล้วไม่ต้องปิดหน้าต่าง

 “ผมเป็นคนชอบหน้าฝน คิดถึงภาพเมื่อวันที่ฝนตกแล้วคุณต้องมาปิดหน้าต่างเพราะกลัวฝนสาด แทนที่จะได้ลมเย็นจากฝนคือจบเลยนะ ผมจะฟินที่สุดในเวลาฝนตก แล้วนั่งรับลมฝน กลิ่นฝนได้” 

นั่นหมายความว่าทางสถาปนิกจะต้องออกแบบพื้นที่ใต้หลังคาที่มีความโปร่งโล่ง เพื่อให้สามารถเปิดประตูหน้าต่างได้ทุกบานเวลาฝนตก แต่แบบบ้านต้องป้องกันไม่ให้น้ำฝนสาดเข้าบ้านได้ เราจึงเห็นตัวกันสาดจะกว้างใหญ่เป็นพิเศษ ทีนี้เวลาฝนมาก็สามารถเปิดประตูหน้าต่างอ้าแขนรับลมรับละอองเย็นจากน้ำฝนได้เต็มที่

“ผมต้องการโฟลว์ของลมที่เมื่อกลับมาแล้วเปิดประตูหน้าต่างทุกบานออกทั้งชั้น 1 ชั้น 2 อากาศอบอ้าวด้านในจะถูกถ่ายเทออกไปได้เร็วมาก”

วิธีเอาลมเข้าบ้านคือเราต้องออกแบบช่องลมให้สัมพันธ์กับทิศทางของลมประจำถิ่น อย่างประเทศไทยลมจะพัดมาทางตะวันตกเฉียงใต้และทิศเป็นหลัก ประมาณ 8 เดือนคือช่วงหน้าร้อน และหน้าฝน ส่วนในช่วงหน้าหนาว ลมจะมาจากทิศเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นเวลา 4 เดือน และต้องมีช่องเข้า-ออกลมเสมอ เพราะต่อให้ช่องลมใหญ่แค่ไหน แต่ถ้าไม่มีทางออก ลมก็ไม่เข้านะ

ลดทอนความแข็งของบ้านทรงกล่อง ด้วยแสงเงาจากธรรมชาติ

“ผมต้องการแสงธรรมชาติที่สามารถสร้างความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้  มาเป็นลวดลายผนัง มากกว่าที่จะต้องปิดผิวด้วยของตกแต่งอื่นๆ”

แสงธรรมชาติที่คุณกฤตหมายถึง นั่นก็คือแสงจากดวงอาทิตย์ที่จะขึ้นทางทิศตะวันออกทุกเช้า อ้อมไปทางใต้และจากลากันทางทิศตะวันตก ทางสถาปนิกจึงออกแบบหน้าต่างไว้ทางทิศตะวันออกและทิศใต้เป็นหลักเพื่อรับแสงในตอนกลางวัน แต่แสงบ่ายที่สาดมาทางทิศตะวันตกนั้นจะเป็นแสงที่ร้อนแรง จึงวางเป็นโซน Service, ห้องน้ำ, บันได ที่ใช้งานเป็นครั้งคราว เดินผ่านแวบๆ ไว้ในฝั่งนี้

ที่ใดมี “แสง” ก็ต้องมี “เงา” ซึ่งเมื่อพื้นที่ภายในบ้านถูกต้นไม้โดยรอบบังแสงไว้ Effect ที่เกิดขึ้นก็คือเงาบนผนังที่จะเปลี่ยนไปตลอดทั้งวัน จากการที่พระอาทิตย์วิ่งอ้อมใต้นั่นเอง

Image 1/12
ลดทอนความแข็งของบ้านทรงกล่อง ด้วยแสงเงาจากธรรมชาติ

ลดทอนความแข็งของบ้านทรงกล่อง ด้วยแสงเงาจากธรรมชาติ

ใช้แสงและเงาจากต้นไม้ภายนอกที่ช่วยลดทอนความแข็งกระด้างของบ้านกล่องสีดำ

มีเหตุผลหลายประการที่ทำให้หลายคนตัดสินใจไม่ทำผนังบ้านกระจก ข้อจำกัด..ประการแรกเลยคือแพง ..ประการที่ 2 ก็เปลืองค่าแอร์ ..ประการที่ 3 เรื่องการดูแลทำความสะอาด แต่ทว่าทำไมบ้านนี้ถึงใช้ผนังกระจกเยอะมาก?

สิ่งที่ทำให้คุณกฤต ยอมรับข้อจำกัดของผนังกระจกก็คือ ความสวยงามของสวนโดยรอบ ที่สามารถมองเห็นได้จากภายในได้ จนเกิดเป็นมุมโปรดที่สามารถนั่งจิบกาแฟไปพลาง ชมสวนไปพลางได้  และไม่กังวลเรื่องเปลืองแอร์เพราะแทบไม่ได้เปิดแอร์เท่าไหร่ เนื่องจากตัวบ้านมีการออกแบบ “ช่องเปิด” ให้มีลมพัดผ่านอยู่แล้ว…แล้วเราจะเปิดแอร์ไปทำไม 🙂

Facade เหล็กใช้สร้างความเป็นส่วนตัว

Image 1/6
Facade เหล็กใช้สร้างความเป็นส่วนตัว

Facade เหล็กใช้สร้างความเป็นส่วนตัว

 

“เหล็กมันเป็นวัสดุที่แพงนะ แต่เคยปรึกษากับสถาปนิกแล้วว่ามันจำเป็นต้องใช้ เพื่อให้เกิด Effect ที่ต้องการ ก็ยอม..”

คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของเหล็กก็คือ ความสามารถในการขึ้นรูปได้ มีความยาว มีรูปทรงตามต้องการได้ และมีความทนทานที่ยอดเยี่ยม รวมทั้งยืดหยุ่นได้ดี ตลอดจนคุณสมบัติที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่มีในเหล็กกล้าไร้สนิม นั้นคือความทนทานต่อการกัดกร่อน แต่ก็แลกมากับต้นทุนที่สูงเช่นกัน บ้านหลังนี้จึงใช้เงินในการก่อสร้างราว 13 ล้านบาท

สิ่งที่ทางสถาปนิกออกแบบคือการใช้ระแนงเหล็กมาคลุมบ้านให้เกิดความเป็นส่วนตัวจากบริบทภายนอก แต่ถ้าสังเกตดีๆ เราจะเห็นว่าเจ้าระแนงเหล็กนี้มีระยะที่ยื่นออกมาไม่เท่ากัน หากระแนงยื่นออกมาเยอะ (ใช้ในส่วนที่เป็นห้องนอนของคุณกฤต ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง) หากระแนงยื่นออกมาน้อยจะบังสายตาได้น้อยลง เปิดให้เห็นสวนรอบๆ มากขึ้น (ใช้ในโซนที่ต้องการรับวิวสวน) นอกจากได้ประโยชน์จากฟังก์ชันแล้ว ก็ยังช่วยเพิ่มมิติให้กับตัวบ้านอีกด้วย

แสงที่ผ่านระแนงเหล็กเข้ามาในบ้านมันจะเข้ามาแบบไม่โฉ่งฉ่างนัก สถาปนิกใช้มันคุมแสงว่าห้องไหนต้องการมากต้องการน้อย และคนที่พักอาศัยก็ยังได้ความเป็นส่วนตัว แต่ก็ยังมองเห็นวิวสวนด้านนอกได้

ห้องนอนสำหรับคนที่ชอบให้พระอาทิตย์ปลุก

Image 1/6
ห้องนอนสำหรับคนที่ชอบให้พระอาทิตย์ปลุก

ห้องนอนสำหรับคนที่ชอบให้พระอาทิตย์ปลุก

“ผมชอบให้เปิดหน้าต่างออกมาแล้วแดดแยงตา ชอบให้พระอาทิตย์ปลุก ทำให้เรารู้สึก Alert ว่าสายแล้วตื่นได้แล้ว หน้าต่างปลายเตียงจึงอยู่ทางทิศตะวันออก  ซึ่งตรงกับความต้องการว่าอยากเป็นคนตื่นเช้าเพื่อให้ออกไปทำอะไรได้มากกว่าคนอื่น”

ห้องนอนจึงได้ตำแหน่งทางทิศตะวันออกบนชั้น 2 ไปแบบเป็นเอกฉันท์ …วันนั้นทีมงานไปกันตั้งแต่ 8 โมงเช้า เพื่อรอแสงธรรมชาติลอดผ่านแนวไผ่เข้ามา แสงที่ให้ความรู้สึกไม่ได้จู่โจมแบบประเจิดประเจ้อ และเมื่อมีลมผ่านใบไผ่จะไหว ทำให้แสงดูนุ่มนวลยิ่งขึ้นไปอีก

“หลายคนทักว่าอย่างนี้หัวนอนก็หันทางตะวันสิ ไม่ได้นะโบราณเค้าถือ ไม่สิๆ ผมไม่ได้คิดแบบนั้น ผมเชื่อตามซินแสว่าผมเหมาะกับการตั้งหัวนอนทิศนี้แหละ”

“ผมเป็นคนชอบปาร์ตี้ ถ้าเมาก็ขอคลานเข้าห้องนอนได้เลย” 

จุดเปลี่ยนมันอยู่ที่ช่วงวัยที่ไม่ไหวจะไป Hangout ข้างนอกแล้ว รู้สึกว่าถ้าดื่มที่บ้านก็ไม่เหนื่อย ไม่ต้องเสียเวลาขับรถ ไม่ต้องเสี่ยงตำรวจ พอเมาจะได้คลานขึ้นเตียงได้เลย ที่บ้านคุณกฤตจึงมีพื้นที่ให้จัดปาร์ตี้ได้ทั้ง Outdoor และ Indoor หรือจะจัด Pool Party ก็ยังได้

พื้นที่ Outdoor ในห้องน้ำ

 

ตำแหน่งห้องน้ำของบ้านจะยึดโซนฝั่งตะวันตกไป เพื่อให้ความร้อนช่วยลดความชื้นในห้องน้ำ เพราะหากแสงและลมไม่ถึง ก็จะทำให้ห้องน้ำอับ ดีเทลเก๋ๆ อย่างพื้นที่ Outdoor จึงถูกดึงเข้ามาใส่ไว้ในห้องน้ำ เพื่อให้สามารถเปิดระบายความชื้นได้เต็มที่ ลดความแข็งของผนังปูนเปลือยด้วยสวนแบบ Green Wall…

ข้อสำคัญที่เราควรคำนึงถึงคือการประเมินสภาพแวดล้อมในที่ติดตั้ง เช่น แดดมาก แดดน้อย หรือในร่ม รวมถึงชนิดของพันธุ์ไม้ เช่น พรรณไม้ชนิดชอบน้ำมากหรือชอบน้ำน้อย ชอบแดดมากหรือรำไร เมื่อได้พรรณไม้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมจะเลี้ยงง่าย ช่วยลดปัญหาต้นไม้เหี่ยวและตายเร็ว

ทางเดินแห่งสติ

“ก่อนจะถึงห้องนอนของน้องชาย ต้องเดินผ่านทางเดินที่อาจจะหวาดเสียวนิดนึง จึงให้ชื่อว่าเป็นทางเดินแห่งสติ โดยซินแสให้วางหิ้งพระไว้หน้าห้องนอนด้วย ประมาณว่าคุมไว้ อย่าเมารั่วมานะ แต่จริงๆ แล้วมีไว้เป็นมุมถ่ายรูป นั่งห้อยขาได้ “

เป็นความลงตัวที่บ้านหลังนี้ไม่ได้มีเด็กเล็กอยู่อาศัยด้วย เพราะมันเป็นทางเดินที่ไม่ได้ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ต้องใช้สติในการเดินผ่านแต่ก็เป็นดีไซน์ที่ดูมินิมอล ไม่ตกยุค

คงจะเป็นไปไม่ได้ที่หิ้งพระไม้แบบเดิมๆ จะกลมกลืนกับบ้านสไตล์ Industry Modern จึงมีการดัดแปลงใช้เหล็กและกระจกมาใช้ให้เข้ากับ Theme ของบ้าน และยังมีลำดับขั้นเรียงสูงต่ำตามรูปแบบของโต๊ะหมู่บูชา

ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ใต้บันได

Image 1/4
แมวเหมียว

แมวเหมียว

ที่บ้านคุณกฤตจะเลี้ยงแมวไว้ 2 ตัว ซึ่งในครั้งแรกที่เราไปเยี่ยมชมบ้านนั้น ห้องส่วนตัวของแมวยังไม่ได้มีปรากฏขึ้นมานะคะ ห้องน้องแมวเพิ่งจะมาทำทีหลัง ..แมวเป็นสัตว์ที่ใช้พื้นที่ไม่เยอะก็เลี้ยงได้ แต่ต้องการพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก ห้องต้องไม่ร้อน ทำให้ภายในติดตั้งพัดลม 2 ตัว และพัดลมดูดอากาศอีก 1 เครื่อง มีหน้าต่างให้มานั่งชมวิว พร้อมของเล่น ห้องน้ำอัตโนมัติ

Trade Furniture

“เฟอร์ฯ 98% เป็นมือ 2 ซึ่งจริงๆ Exterior และ Interior เค้าพัฒนาการออกแบบมาคู่กันตั้งแต่ Day 1 แต่พอถึงเวลาที่ต้องมาตกแต่งจริงๆ เงินหมด ทำให้ต้องเลือกวัสดุภายในเองทั้งหมด”

สิ่งที่ Interior ทำแบบไว้ให้พอใช้เป็นไกด์ไลน์ได้ แต่เมื่อต้องเลือกวัสดุภายใน เฟอร์ฯ เองแล้ว วิธีที่คุณกฤตใช้คือ พิจารณาตามภาพรวมที่ออกมาว่าอะไรที่ปรับลดสเปคได้แล้วไม่ส่ง Effect ใหญ่ต่อภาพรวมก็ลด แต่ถ้าอะไรที่มองว่ามันจำเป็น เช่น กระเบื้องปูพื้นผิวหินจริงแผ่นละเกือบพันก็ต้องยอม

“Trade Furniture เป็นวัฒนธรรมหนึ่งที่ผมเห็นมาสมัยไปอยู่อเมริกา ใน Facebook Marketplace ทำให้ตอนเข้ามาบ้านนี้ใหม่ๆ เปิด facebook บ่อยกว่า IG เปิดไปแล้ว Search moving out sale furniture จึงเป็นที่มาว่าทำไมเกือบ 98% ในบ้านถึงเป็นของมือ 2 หมดเลย”

moving out sale furniture มีของผสมๆ กันทั้งมือ 1 มือ 2 ที่น่าสนใจคือ เฟอร์ฯของชาวต่างชาติที่กำลังจะย้ายกลับประเทศ ก็ประกาศขายเฟอร์ฯ ทั้งห้อง บางส่วนเป็นห้องที่ซื้อเฟอร์ฯมาเตรียมปล่อยเช่า แต่ยังไม่มีคนเช่าก็ตัดสินใจขายเสียก่อน เหมาะกับคนรู้ราคาสินค้า รู้ว่าชิ้นไหนมีราคา ถูกดีซื้อได้ หรือแพงไป และรู้แหล่งซ่อมแซมเฟอร์ฯ ในกรณีชำรุด ถือว่าเป็น Hidden Gem สำหรับคนแต่งบ้านเลย

รีโนเวทบ้านแม่ ไม่ให้สอดส่องห้องนอนเราได้

Image 1/5
รีโนเวทบ้านแม่ ไม่ให้สอดส่องห้องนอนเราได้

รีโนเวทบ้านแม่ ไม่ให้สอดส่องห้องนอนเราได้

“ต้องรีโนเวทบ้านแม่ทันที เพราะเราก็เห็นบ้านเค้า บ้านเค้าก็เห็นบ้านเรา มันเป็นวิวของกันและกัน จึงปรับให้บ้านแม่ดูโมเดิร์นขึ้นในโครงเดิม แต่มีโจทย์เสริมคือทำไงก็ได้ที่ไม่ให้แม่สอดส่องห้องนอนและความเคลื่อนไหวในบ้านเราได้ 555 “

ในบ้านที่อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ความเป็นส่วนตัวมันไม่ใช่แค่ว่าลูกๆ แต่ละคนมีบ้านเป็นของตัวเองแล้วจบ เพราะเรายังมองออกไปเห็นกันและกันได้ แบบใหม่ของบ้านคุณแม่ที่เกิดขึ้นคือ ออกแบบห้องชั้นบนที่อยู่ใกล้บ้านคุณกฤตให้เป็น Double Volume ให้รับแสงอย่างเดียว แต่ก็เหมาะกับวัยของท่านที่ไม่ควรขึ้นลงบันได และเลือกใช้ผนังทึบในส่วนที่จะมองเห็นกันได้ ส่วนไหนที่ผนังบ้านแม่โปร่ง ผนังบ้านคุณกฤตจะทึบ และใช้ต้นไม้ช่วยบังสายตา เพียงเท่านี้ก็เกิดพื้นที่ส่วนตัวของกันและกันได้

บ้านไม่ต้อง 100% ตั้งแต่วันแรกที่เราเข้าอยู่

บ้านสไตล์ Industrial Modern ภายนอกดูขรึมแต่ภายในดูสนุกสนาน

“ผมรู้สึกว่าบ้าน มันไม่ต้อง 100% ตั้งแต่วันแรกที่เราเข้าอยู่ 

บ้านทำให้เราสนุกมากขึ้น

สนุก…ที่จะอยู่

สนุก…ที่จะตกแต่ง

เราจะปรับไปได้ถึงไหน…

เพราะบ้านคือ “อนาคต” ของเรา เพราะฉะนั้นอนาคตมันอาจจะปรับเปลี่ยนอะไรได้ตลอดเวลา

บ้าน…มันไม่มีวันเสร็จสมบูรณ์ 100% แน่นอน มันมีแต่ 150%, 300% ไปเรื่อยๆ ไม่มีลิมิต บ้าน…มันทำให้เราสนุกกับชีวิต สนุกที่จะทำงานหาเงิน สนุกที่จะอยู่ สนุกที่จะตกแต่ง สนุกที่ปล่อยให้มันไปตามกาลเวลา สมมุติว่าวันนี้กับวันนั้นหน้าตามันอาจจะเหมือนคนละหลังเลยก็ได้

บ้าน…มันคือความสนุก มันคือความท้าทายว่าเราจะปรับมันไปได้ถึงไหน…

” ตลอดชีวิตเราอ่ะ มันมีช่วยวัยที่เราเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา มันมีรสนิยมที่เราเปลี่ยน อย่างโถงทางเดินข้างบนผมเห็นแล้ว มันเป็นผนังปูนขัดมัน ซึ่งเราชอบในวันนี้ แต่ในวันนี้เช่นกันก็เกิดไอเดียว่าอยากได้โถงเหมือนเดินเข้าถ้ำ เมื่อใช้งานปูนเปลือยคุ้มค่าแล้ว อนาคตคงปรับเปลี่ยนเป็นผนังหิน เป็นทางเข้าถ้ำ…”


Owner : กฤต เจนพานิชยการ

Architect : กิตติชนม์ ภูเกียรติก้อง ธาวิน หาญบุญเศรษฐ และ พศวัต อปริมาณ จาก Octane architect & design

Interior Designer : ปริยวัตน์ พัดฉวีวรรณ และ ธนาทิตย์ วงศ์สีนิล

Photographer : โศภิตา ปิยะทัต