รีวิวฉบับที่ 834 สวัสดีค่า วันนี้จะพาไปเดินเล่นชมทำเลโครงการ หลังสวน วิลเลจ โปรเจกใหญ่ยักษ์จากสยามสินธร บริษัทในเครือสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ทั้งหมด 6 โครงการ รวม 11 อาคาร ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม 4 อาคาร (leased hold 30 ปี), Service Apartment 3 อาคาร, โรงแรม 1 อาคาร, หอศิลป์-พิพิธภัณฑ์ศิลปะ 1 อาคาร, Walking Street 1 อาคาร และศูนย์สุขภาพ 1 อาคาร บนเนื้อที่ดินกว่า 56 ไร่ บริเวณซอยหลังสวนและซอยต้นสน หลังสวนสาธารณะลุมพินี คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการภายในปี 2562

เวปไซต์โครงการหลังสวน วิลเลจ คลิกที่นี่

บทสัมภาษณ์พิเศษ ผู้บริหารสยามสินธร คลิกที่นี่

Preview โครงการคอนโดสินธร เรสซิเดนซ์ (อาคารแรกที่จะแล้วเสร็จในปี 2562) คลิกที่นี่

พิกัดโครงการ : 13.733233, 100.582155

MAP 11 3km

ที่ตั้งของโครงการ หลังสวน วิลเลจ ตั้งอยู่ในถนนหลังสวนตั้งแต่ซอยหลังสวน 2 ยาวไปจนถึงถนนสารสินที่คั่นระหว่างแปลงที่ดินผืนใหญ่และสวนสาธารณะลุมพินี ความกว้างคือตั้งแต่ซอยหลังสวนลากไปถึงซอยต้นสนที่เป็นซอยตันอีกฝั่งหนึ่ง นอกจากนั้นยังมีแปลงเล็กๆอีกสองแปลงที่สองฝั่งถนนสารสิน ทำให้ผืนแปลงที่ดินคล้ายๆจะเป็นรูปตัว T

ถนนหลังสวนถือว่าเป็นถนนที่ตัดระหว่างถนนใหญ่เพลินจิตที่ต่อเนื่องมาจากถนนพระราม 1 – ถนนสุขุมวิท ลึกเข้ามายังถนนสารสินที่เป็นซอยที่ตัดจากถนนราชดำริไปยังถนนวิทยุเช่นกัน แต่ตัวซอยหลังสวนเองเดินรถได้ด้านเดียวคือจากถนนเพลินจิตเลี้ยวเข้ามายังถนนหลังสวนไปยังถนนสารสินเท่านั้น แต่ก่อน ช่วงที่ยังไม่มีการล้อมแปลงที่ดินก่อสร้างผืนใหญ่ของโครงการ ซอยหลังสวนย่อยๆไม่ว่าจะเป็นซอยหลังสวน 1-7 ก็ล้วนแล้วแต่เป็นซอยที่เดินรถทางเดียว โดยซอยเลขคี่จะเดินรถจากถนนหลังสวนไปยังซอยต้นสน และซอยเลขคู่จะเดินรถจากซอยต้นสนไปยังถนนหลังสวน แต่ปัจจุบันได้มีการล้อมรั้วเขตก่อสร้างเป็นทางยาว ทำให้หลายๆซอยเข้าถึงไม่ได้ และซอยต้นสนที่เป็นซอยตันที่เข้าได้จากถนนเพลินจิตทางเดียวอยู่แล้ว ก็ยิ่งทำให้เงียบเหงาลงไปอีก

ทางเข้า-ออกโครงการ สามารถเข้าถึงได้จากหลายทางมากๆ เนื่องจากมีภาษีที่ดีที่อยู่ระหว่างถนนใหญ่หลายๆเส้น อาทิ

ทางแรก มาจากถนนพระราม 1 หรือจากแถวสยามเข้าถนนเพลินจิต ก็สามารถตรงมาเรื่อยๆ และเจอสี่แยกไฟเขียว-ไฟแดง แล้วเลี้ยวขวาเข้าที่ต้นซอยหลังสวนได้ปกติ เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

ทางที่สอง ทางจากถนนสุขุมวิทเข้าถนนเพลินจิต ทางนี้จะค่อนข้างต้องใช้ลูกเล่นนิดนึง เนื่องจากถนนสุขุมวิทยาวมาจนถึงถนนเพลินจิต จะมีเกาะกลางถนนกั้นยาว เหนือขึ้นไปคือทางยกระดับของรางรถไฟฟ้า แบ่งถนนออกเป็นซีกซ้ายขวาตามเกาะกลาง ฝั่งซ้ายมุ่งหน้าสยาม แต่ฝั่งขวาคือมีทั้งเลนที่มุ่งหน้าสุขุมวิท และสยาม ถ้ารถอยู่ในซีกซ้ายก็สบายใจได้ว่าจะเลี้ยวซ้ายที่สี่แยกไฟเขียวไฟแดงหน้าถนนหลังสวนได้ตามกฎสบายๆ หรือจะเข้าที่ซอยต้นสนซอยก่อนหน้าก็ได้ แต่ซีกทางขวาก็จะเลี้ยวซ้ายที่แยกไม่ได้ แม้จะมีทางที่เว้นเกาะกลาง แต่ก็ขึ้นป้ายห้ามเบนซ้าย และเลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชดำริไม่ได้ ถนนอังรีดูนังก็ไม่ได้ ต้องเลยไปเลี้ยวซ้ายที่แยกปทุมวันท่าเดียว

ทางที่สาม ทางจากถนนพระรามสี่ จากหัวลำโพงมุ่งหน้าคลองเตย ถ้าจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชดำริได้ แต่จะต้องไปกลับรถที่ใต้สถานี BTS ราชดำริ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าที่ถนนสารสิน แต่ก็จะเลี้ยวซ้ายอีกทีเข้าที่ถนนหลังสวนไม่ได้เพราะเป็นถนนเดินรถทางเดียว และเข้าที่ซอยต้นสนไม่ได้ เพราะไม่ได้ตัดผ่าน

ทางที่สี่ ทางจากถนนพระรามสี่ จากคลองเตยมุ่งหน้าสามย่าน เลี้ยวขวาเข้าที่ถนนวิทยุ เราจะไม่เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสารสิน เพราะจะกลับรถในซอยยาก เราจะตรงไปเรื่อยๆ และเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพลินจิต เลี้ยวซ้ายอีกทีที่แยกไฟเขียวไฟแดงหน้าถนนหลังสวน หรือจะเข้าที่ซอยต้นสนก็ได้

MAP 22 mass places

การเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะ มีสถานีรถไฟฟ้า BTS และ MRT ล้อมรอบอยู่ในระยะไม่เกิน 1.5 กิโลเมตร แต่มีสองสถานีที่อยู่ในระยะเดินให้ได้เลือกใช้ ถ้าใครมาจากเส้นสุขุมวิทก็ลงสถานีชิดลม ส่วนใครมาจากเส้นสีลมก็ลงสถานีราชดำริ โดยสถานีชิดลมจะอยู่บนถนนเพลินจิต เดินลงมายังทางเท้าแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนหลังสวน ตรงไปประมาณ 600 เมตร แปลงที่ดินจะอยู่ซ้ายมือ วิธีนี้สามารถใช้กับพี่วิน หรือแท๊กซี่ได้ แต่จากสถานีราชดำริ หากจะอยากมาทางลัดด้วยการเดินเท้าก็สามารถเดินมาเข้าซอยมหาดเล็ก 1 ตรงเข้ามาสุดซอย เลี้ยวซ้ายเข้าซอยลัดที่เป็นรูปตัว U จะมาออกที่ถนนต้นสนเหมือนกัน จากนั้นเดินมาทางขวาอีก 300 เมตร จะถึงเขตโครงการ ในเขตรอบๆพื้นที่แท๊กซี่เรียกง่าย และมีทางม้าลายเป็นระยะๆ

ส่วนจุดทางขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคืออยู่ตรงถนนเพลินจิต ใกล้ BTS เพลินจิต ในระยะ 1  กิโลเมตร มีทั้งทางลงและทางขึ้น ถ้าเราใช้ทางขึ้น สามารถเลี้ยวซ้ายจากถนนเพลินจิตเข้าด่านเก็บเงินได้เลย แต่ถ้าเรามาจากทางลง จะบังคับเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าอโศก ทำให้ต้องไปกลับรถไกลหน่อย

ความอุดมสมบูรณ์รอบโครงการก็เริ่มตั้งแต่ในถนนหลังสวนเอง ก็มีร้านอาหารดังๆมากมาย อย่าง Gaggan ร้านอาหารอินเดียว All six to Twelve, Eat meat sweets, King kong buffet และ Starbuck ก็ล้วนแต่อยู่ในซอย มีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 และสปาเปิดรองรับลูกค้าฝรั่งที่มาพักอาศัยโรงแรมในซอยเป็นระยะๆ ช่วงต้นซอยก็มีห้างขนาดกลางอย่าง Mercury Ville ที่พึ่งปรับปรุงเสร็จ รวมถึงฝั่งตรงข้ามที่มีห้างใหญ่ยักษ์อย่าง Central ชิดลม และ Central Embassy ส่วนฝั่งขวาของถนนหลังสวนก็คือโรงเรียนหญิงล้วนอย่างมาแตร์เดอี เลยไปไม่กี่สถานีก็เป็นจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย และขาดไม่ได้เลยกับสวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่างสวนลุมพินี ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าของทำเลในเรื่องกิจกรรมพื้นที่สีเขียว และวิวจากมุมสูงมองลงมา

MAP 3 route

เร่ิมต้นการเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ชิดลม เดินลงมายังทางเดินเท้าเข้าที่ต้นถนนหลังสวน ตรงมาเรื่อยๆประมาณ 270 เมตร ทางขวามือจะมีซอยเล็กๆ ไม่มีชื่อซอยอย่างเป็นทางการ เข้าไปยังทางลัด และออกมาที่ท้ายซอยมหาดเล็ก 1 เดินมายังต้นซอยเลี้ยวซ้ายบนถนนราชดำริไปอีก 200 เมตร จะถึงทางขึ้นของสถานี BTS ราชดำริ

เริ่มตั้งแต่สถานีรถไฟฟ้า BTS ชิดลม สายสุขุมวิทนะคะ

ช่วงเวลากลางวันคนไม่เยอะมาก มีมาเรื่อยๆ แต่ถ้าเป็นช่วงเช้าก่อนเข้าทำงาน และช่วงเย็นตั้งแต่ 5 โมงเป็นต้นไปนี่ไม่ต้องพูดกัน แน่นเอี๊ยดทุกขบวน เพราะเป็นแหล่งคนทำงาน ออฟฟิศใหญ่ๆอยู่แถวนี้เยอะมาก

ลงมาจากชานชาลาก็เป็นป้ายบอกทาง ตั้งแต่โรงแรม ศูนย์การค้า ตึกออฟฟิศ และสถานที่ราชการต่างๆเรียงกันเป็นแผง

ออกมาจากจุดตี๊ดบัตรแล้วเราก็เลือกเดินมาทางทางออกที่ 4 และ 5 ถ้าเดินไปทางซ้าย จะไปถึงทางเชื่อมเข้าไปยังตัวตึก Central ชิดลม ที่เดินลัดเลาะไปยัง Central Embassy ได้ด้วย ส่วนถ้าเดินไปทางขวาก็มีทางเลือกสองทาง คือทางเชื่อมตึกเข้าไปยังห้าง Mercury Ville หรือเดินลงไปยังทางเท้าด้านล่าง

ชะโงกมาดูการจราจรด้านล่างกันบ้าง ถนนเพลินจิตเป็นถนน 6  เลน มีเกาะกั้นตรงกลาง โดยเหนือขึ้นไปเป็นรางรถไฟฟ้ายกระดับตลอดเส้น ฝั่งขวามือเป็นถนนเพลินจิตจากเส้นสุขุมวิทวิ่งเข้าสยาม ส่วนทางขวาอย่างที่บอกไปว่าจะมีรถวิ่งทั้งสองทางคือวิ่งเข้าสยามเช่นกัน และมีเลนเดียวที่วิ่งมุ่งหน้าอโศก แต่ก็จะไปสุดแค่ทางขึ้นทางด่วน เนื่องจากตรงแยกนั้นไม่สามารถให้ตรงไปยังนานาได้ มีพี่ตำรวจยืนคุมอยู่เยอะแยะ

แวบมาบนทางออกของสถานีกันอีกครั้ง เราเลือกที่จะมาทางขวา ที่มีสองทางให้ได้เลือกคือเข้าห้าง Mercury Ville หรือจะเดินลงไปยังทางเท้าด้านล่าง ความจริงถ้าจะซื้อของก่อนเข้าคอนโด ก็แวะซื้อของตากแอร์ก่อนก็ได้ค่ะ

ภายในห้าง Mercury Ville ก็ตามปกติห้างทั่วไปที่จะมีร้านอาหาร ร้านน้ำต่างๆ รวมไปถึงแบงค์สาขาย่อยและร้านให้บริการ โดยตัวห้างเองพึ่งจะเปิดหลังปิดปรับปรุงไประยะหนึ่ง ทำให้ห้างยังดูสดใหม่อยู่

หลักๆ ภายในห้าง Mercury Ville ก็จะมีด้วยกัน 3 ชั้น คนเดินส่วนใหญ่ก็จะเป็นพนักงานออฟฟิศที่หาอาหารมื้อเย็น หรือคนที่ต้องเดินผ่านถนนสายนี้อยู่แล้วก็จะแวะซื้อของติดไม้ติดมือบ้าง

กลับมาที่ทางออก 4 เราจะลองเดินลงบันไดปกติกันดูบ้าง

ลงมาด้านล่างก็จะเป็นทางเข้า-ออกของห้าง Mercury Ville และเดินตรงไปก็จะเป็นตึกออฟฟิศเพลินจิต ทาวเวอร์

หันหลังกลับมาทางซ้ายจะเป็นห้าง Mercury Ville เช่นเคย สีสัดสดใส เราจะตรงไปยังสี่แยกไฟเขียวไฟแดงที่อยู่ต้นถนนหลังสวนกันค่ะ

สี่แยกตรงนี้ถือว่าเป็นสี่แยกที่ใหญ่พอตัว หยุดรถจากทั้งทางไปสยามและเพลินจิต แต่อย่างที่กล่าวไปว่าถ้ามาจากเพลินจิตมุ่งหน้าสยาม แต่อยู่ซีกขวาของเกาะกลาง จะไม่สามารถเลี้ยวเข้าถนนหลังสวนได้ บังคับตรงไปยังแยกราชประสงค์เลย ด้านบนมี Skywalk จากสถานี BTS ชิดลมไปยังแยกราชประสงค์ที่เป็นแหล่งรวมห้างและสิ่งสักการะ

ถึงหน้าถนนหลังสวน เราจะข้ามทางม้าลายไปฝั่งตรงข้าม ข้างโรงเรียนมาแตร์เดอี

พื้นทางเดินทางฝั่งขวาถือว่าไม่ค่อยเรียบร้อย และแคบมาก ต่างกับอีกฝั่งหนึ่งที่พึ่งจะปูเสร็จใหม่ๆไป บนทางเดินเท้าก็จะมีตั้งต้นไม้ใหญ่ ต้นไม่พุ่ม เสาไฟฟ้า และป้ายบอกทางต่างๆเต็มไปหมด

เดินมาได้นิดเดียวก็จะเป็นประตูข้างของโรงเรียนมาแตร์เดอี

ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม ภายในเลยยังเป็นโรงเรียนว่างๆธรรมดา แต่ถือว่าเป็นโรงเรียนระดับประถม – มัธยมขนาดใหญ่ ที่เวลาหลังเลิกเรียนก็จะเห็นนักเรียนเดินไปเรียนหนังสือต่อ เข้าห้างเดินเล่น หรือขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้าน

ฝั่งตรงข้างโรงเรียนก็เป็นทางเข้า-ออกประตูข้างของห้าง Mecury Ville เช่นกัน เป็นที่จอดรถใต้ดิน ด้านข้างก็จะมีแท๊กซี่จอดเป็นแนวยาวรอบรับผู้โดยสาร

ถัดมาก็เป็นอาคาร Unico House ที่ด้านในเป็นตึกสูงสิบกว่าชั้น และด้านหน้าเป็นตึกสูง 5 ชั้น เหมือนตึกแถวทั่วไป แต่ด้วยดีไซน์ทำให้ออกมาดูเรียบและทันสมัยกว่า โดยชั้น 1-2 เป็นเป็นร้านอาหารและให้บริการ มีที่จอดรถด้านใน

ร้านที่เปิดขายอยู่ก็จะเป็นร้านตัดสูท ร้านอาหารอย่าง Kingkong เป็นบุฟเฟต์ปิ้งย่างเจ้าดัง ด้านข้างเป็น 7-11 และร้านนวดอยู่ทางขวาสุด โดยที่ตรงทางเท้าก็จะมีร้านรถเข็นชั่วคราวตั้งอยู่ตลอดแนวเลยทีเดียว

ถัดมาก็จะเป็นบ้านพักอาศัย ต่อด้วย Community Mall ชื่อว่า The Portico สูง 5 ชั้นทั่วไป คือมีร้านอาหาร ร้านบริการต่างๆ มีร้านขายของกระจุกกระจิก

มีที่จอดรถอยู่ในซอยทางขวาของตึกลึกเข้าไปด้านใน ความจริงซอยนี้ก็เป็นซอยตันที่เป็นทางเข้าของบ้านพักอาศัยที่อยู่ในซอยด้วย

เขยิบลึกเข้าไปอีกก็จะเป็นร้าน Starbuck ที่เหมือนเอาบ้านมาปรับปรุงเป็นร้านที่มีพื้นที่ในตัว สามารถรองรับลูกค้าได้เยอะมาก รวมถึงลูกค้าชาวต่างชาติที่นิยมเข้ามาพักโรงแรมในถนนหลังสวนนี้ ทางขวาของร้านก็จะเร่ิมเป็นโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ High rise ด้านในเรียงกันเป็นแถบ

เริ่มตึกแรกคือบ้าน ณ วรางค์ เป็นคอนโดรุ่นแรกของถนนหลังสวน สร้างเสร็จมามากกว่า 15 ปีแล้ว แต่ก็ยังได้รับความนิยมในการเข้าพักและมีราคา Resale ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ

ทางขวามือเป็นอาคารไทยประกันภัยสูงเพียง 2 ชั้น ภายในมีที่จอดรถและแบงค์ TMB สาขาย่อยเปิดให้บริการ

ต่อมาเป็นร้านอาหารไทย อาหารจีนทั่วไป สลับกับร้านสปาไปเรื่อยๆ หน้าซอยนี้เริ่มคึกคัก เพราะเป็นซอยที่ไม่เป็นทางการ สามารถเชื่อมต่อได้กับซอยมหาดเล็ก 1 บนถนนราชดำริ ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาเข้าไปลัดเลาะกันค่ะ

สภาพตันซอย ขวามือคือร้านอาหารจีนที่เราเห็นเมื่อสักครู่ ทางซ้ายเป็นร้านอาหารไทย ภายในซอยจะคึกคักมากในช่วงกลางวันเพราะมีของกิน รวมถึงภายในซอยด้วย ช่วงเย็นก็จะเห็นคนเดินเข้าออกไปสถานี BTS ราชดำริ เป็นระยะ

ภายในซอยเข้ามาอีกนอกจากจะเป็นบ้านพักอาศัยแล้ว ทางซ้ายมือก็ยังเป็นร้านอาหารไทยแบบก๋วยเตี๋ยว และมีร้านนวดอยู่ด้านในลึกสุด จากตรงนี้จะเป็นทางบังคับเลี้ยวขวาเท่านั้น

มองมาทางขวาก็จะเป็นอพาร์ตเมนท์ให้เช่า ข้างๆด้านในจะเป็นร้านส้มตำ ตอนเราเดินเข้าไปเขากำลังปิดร้าน เลยมีการเก็บกวาดเล็กน้อย สภาพทางเดินได้นะคะ แต่แนะนำให้เดินในช่วงกลางวัน เย็นๆไปแล้วเร่ิมมืดไม่แนะนำให้เดินเลยจริงๆ

เดินมาทางขวา สุดแล้วก็จะมีทางเลี้ยวซ้ายตรงเข้าไปเป็นร้านขายอาหารเหมือนเคย ส่วนทางขวามือจะเป็นบ้านพักอาศัยที่ปรับเปลี่ยนเป็นคาเฟ่เล็กๆ ตรงไปเรื่อยๆก็จะบังคับเลี้ยวซ้ายอีกที

คาเฟ่ในซอยมหาดเล็กชื่อ Re-cafe เป็นร้านที่เสริฟทั้งอาหารคาว และอาหารหวานแบบเค้กและไอติม ตบท้ายด้วยกาแฟแบบต่างๆให้เลือก ตัวอาคารเป็นบ้านแบบสมัยก่อนที่กรุด้วยแผ่นไม้ทาสี มีพื้นที่จอดรถอยู่ด้านในรองรับ

มองออกมาจากคาเฟ่ก็จะมีทางเดินต่ออีก ทางซ้ายเป็นหน้าร้านของร้านอาหารตามสั่ง นอกนั้นทั้งสองข้างคือบ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้นทั่วไป เราจะเดินไปจนสุดซอยอีกครั้งค่ะ

ตรงมาสุดซอยก็จะมีทางแยกซ้าย-ขวาอีกครั้ง ทางซ้ายจะเป็นซอยตัน มีบ้านพักอาศัยปกติ ส่วนเราจะเลี้ยวขวาเพื่อเข้าที่ท้ายซอยมหาดเล็ก 1

เลี้ยวซ้ายเข้าไปจะเจอซอยตัน

หันมาทางขวาจะเป็นพื้นที่นั่งทานของร้านอาหารที่เปิดในช่วงเย็นๆ เดินผ่านต้นไม้ต้นใหญ่ออกไปจะเจอโรงแรมชื่อดังและเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ตั้งอยู่ในซอยทั้งสองฝั่ง

ซอยมหาดเล็ก 1 เป็นซอยที่มีความกว้าง 2 เลน รถเข้าออกได้ทั้งสองทาง แต่จะมีพื้นที่ริมสองข้าง ไว้สำหรับเป็นทางคนเดิน เนื่องจากทางสองฝั่งไม่มีฟุตบาทที่ยื่นออกมา

ท้ายซอยฝั่งซ้ายเป็นที่จอดรถ เหมือนเป็นส่วนหลังของอาคารที่หันหน้าให้กับซอยมหาดเล็ก 2 มีจุดที่พี่วินและตุ๊กตุ๊กจอดอยู่ที่ท้ายซอย

ขวามือเป็นอาคาร Golden Land เป็นอาคารสำนักงานให้เช่า

เดินเข้ามาต้นซอยก็จะเป็นโรงแรม Marriott Courtyard เป็น 1 ในแบรนด์เครือ Marriott สูงประมาณ 14 ชั้น

ถัดมาเป็นคอนโดและเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ The Royal Place 1 ที่สูงมากกว่า 20 ชั้น เป็นอาคารรุ่นแรกของซอยนี้เช่นกัน ภายในจะเป็นอาคารแบบมี Void สี่เหลี่ยมตรงกลาง

ถัดมาทางขวาเป็นตึก Mitkorn Mansion สูงกว่า 22 ชั้น เป็นคอนโดและเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ทั่วไป

ตรงมาอีกก็จะเป็นโรงแรม Grande Centre Point ราชดำริ เป็น 1 ใน 3 แห่ง อีกสองที่คือเพลิตจิตและ Terminal 21 อาคารนี้เป็นอาคารรุ่นใหม่ที่ยังเปิดใช้ไม่นานเท่าตึกก่อนๆ

ตรงมาเรื่อยๆ อีกนิดเดียวก็จะถึงทางออกต้นซอยมหาดเล็ก 1 เวลาเดินในซอย นอกจากระวังรถที่วิ่งสวนกันข้างๆบนทางหลักแล้ว ก็ระวังรถที่จะเข้า-ออกที่จอดรถของโรงแรมและอาคารต่างๆด้วยนะคะ

ออกมาถึงหน้าซอยมหาดเล็ก 1

ทางซ้ายจะเป็นทางเข้าของโรงแรม Peninsula ส่วนของ Plaza

บนทางเดินเท้าบนถนนราชดำริถือว่าเป็นทางเท้าที่ดี กว้างและเรียบมาก คนเดินกันไปมาเยอะจากแยกราชประสงค์มายังถนนสีลมด้านหลัง ด้านหน้าจะมีป้ายรถเมล์ เหมือนเป็นจุดจอดแท๊กซี่ไปในตัว ตรงไปจะมีทั้ง Magnolias ราชดำริ Boulevard ที่กำลังก่อสร้างอยู่ ถัดไปตรงหัวมุมแยกราชประสงค์จะมีโรงแรม Grand Hyatt Erawan และพระพรหมเอราวัณอยู่หน้าถนนพระราม 1

ทางซ้ายจะมีจุดกลับรถจากทั้งสองฝั่งเป็นระยะๆ พื้นที่ตรงข้ามคือ RBSC sportclub เป็น Sportclub ขนาดใหญ่ที่มีทั้งสนามกอล์ฟ สนามฟุตบอล สนามม้า สระว่ายน้ำ ฟิตเนส คอร์ทกีฬาต่างๆ รวมถึงร้านอาหาร ที่กินพื้นที่ไปจนถึงถนนอังรีดูนัง ต้องเป็นสมาชิกเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์เข้าไปใช้งาน

กลับมาที่หน้าซอยมหาดเล็ก 1 กันต่อ เราจะเดินเลียบถนนราชดำริมุ่งหน้าเส้นสีลมไปยังสถานีรถไฟฟ้า BTS ราชดำริ

เดินตรงมาจะเป็นโรงแรม Anantara เป็นจุด Drop-off ของโรงแรม กินพื้นที่ระหว่างซอยมหาดเล็ก 1 และ 2

เรามาถึงหน้าซอยมหาดเล็ก 2 สิ่งปลูกสร้างภายในซอยก็จะคล้ายๆกับซอยมหาดเล็ก 1 ที่เป็นพวกโรงแรม คอนโด เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ต้นซอยก็จะมีพี่วินคอยให้บริการสำหรับคนที่ลงมาจาก BTS ราชดำริอยู่ด้วย

ฝั่งขวาก็จะมีจุดกลับรถอีก 1 จุดที่กลับได้ทั้งสองด้าน

เดินมาเรื่อยๆก็จะเจอทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า BTS ราชดำริ ที่มีร้านรถเข็นขายอาหาร ขายของว่าง ขายผลไม้ ขายเครื่องดื่มเรียงกันอยู่ด้านหน้า ถ้าจะต่อพี่วินก็ต้องเดินไปหน้าซอยมหาดเล็ก 2 หรือแท๊กซี่ก็สามารถเรียกได้เลย เพราะถนนราชดำริก็ถือว่าเป็นถนนใหญ่ที่แท๊กซี่เปล่าผ่านเยอะพอสมควร

ทางซ้ายมือของทางขึ้น-ลงสถานีคือโรงแรม St.Regis

ถึงทางขึ้นสถานีราชดำริแล้ว ถือว่าเป็นสถานีที่คนไม่ค่อยเยอะทั้งวัน แต่ส่วนมากจะต้องรอรถหลายขบวนกว่าจะได้ขึ้น เพราะอยู่ระหว่างสาทร – สยามที่เป็นจุดที่คนทำงานออฟฟิศขึ้นกันแน่นขบวนไปเรียบร้อย

ตี๊ดบัตรรถไฟฟ้าขึ้นมาดูด้านบน มองไปทาง RBSC sportclub อย่างที่บอกไปว่าภายในมีสนามกีฬาทั้งกลางแจ้งและในร่ม อย่างในภาพคือสนามกอล์ฟขนาดเล็กอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยสนามม้า เป็นวิวที่หันหน้าไปทางจุฬา – สามย่าน

MAP 4 route

เส้นทางที่สอง ออกมาจากซอยลัดเดิมที่เราเข้าไป จะพาไปดูเขตแปลงพื้นที่โครงการทางฝั่งถนนหลังสวน เดินออกมาจากซอยเลี้ยวขวาไปเรื่อยๆ แปลงที่ดินจะเร่ิมตั้นตั้งแต่ซอยหลังสวน 2 ยาวไปจนสุดถนนถึงถนนสารสิน

กลับมาที่ต้นซอยลัดที่เราใช้จากถนนหลังสวนไปออกยังซอยมหาดเล็ก 1 จากตรงนี้เราจะเลี้ยวขวาเดินลึกเข้าไปในถนนต้นสนจนไปสุดถนนสารสิน

เดินมาทางขวา ทางเดินเท้าก็กว้างเท่าเดิม แต่สภาพพื้นดีกว่าช่วงต้นซอยที่ขรุขระ ไม่ค่อยเรียบร้อย อีกเรื่องหนึ่งคือสายไฟฟ้า เนื่องจากประเทศไทยไม่นิยมนำสายไฟลงใต้ดินเนื่องจากประเทศได้ฝนตกเยอะ ดังนั้นก็จะต้องทนกับสภาพเสาไฟฟ้าและสายไฟฟ้าที่ระโยงระยางพัวพันกันไปหมด บางจุดสายไฟยังหล่นลงมาบนทางเท้าเนื่องจากพายุฝนทำให้ลมแรง

เดินมาก็จะเจอ SuperRich สีส้ม เป็นจุดแลกเงินสำหรับชาวต่างชาติที่พักอาศัยแถบนี้

หันซ้ายมาก็จะเจอกับการตั้งร้านขายอาหารแบบชั่วคราวหน้า 7-11 ที่สองของถนนต้นสน ร้านต่างๆก็จะสลับกันเปิดไปตามเวลา

ฝั่งตรงข้ามก็คือ Cape House หลังสวน เป็นโรงแรมและ Service Apartment สูงเกือบ 20 ชั้น จะเห็นได้ว่าตลอดความยาวของถนนหลังสวนจะมีรถจอดอยู่สองข้างทางเรื่อยๆ แต่ก็สามารถเดินรถได้เรื่อยๆ

เรื่อยเข้ามาก็เป็นทาวน์โฮมที่ส่วนหนึ่งกำลังถูกปรับปรุง และส่วนหนึ่งที่ล้อมเป็นเขตพื้นที่ก่อสร้าง สูง 5 ชั้น

โดยก็จะมีทางม้าลายเป็นระยะๆ การข้ามทางม้าลายก็ไม่ได้อันตรายแม้จะเป็นถนนทางตรง เนื่องจากเป็นถนนที่ไม่ใหญ่ และเป็นเขตพักอาศัยซะเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ผู้ขับขี่จะมีการชะลอรถเรื่อยๆ รวมถึงทางเข้าเป็นสี่แยกไฟเขียวไฟแดง ทำให้จะมีระยะเวลาที่รถว่าง

ตรงเข้ามาอีกก็จะเป็น Hotel Muse สูงประมาณ 17 ชั้น มีทั้งส่วนที่เปิดเป็นโรงแรมและ Serviced Apartment ภายในตกแต่งหรูหรา เป็น Chain ของโรงแรมเครือ Accor

Garden View Mansion เป็นแมนชั่นสไตล์มีพื้นที่หน้าตึก สร้างเหมือนบ้านที่คนไทยสมัยก่อนชอบ แบบมีระเบียงและห้องภายในกว้างๆ สูงประมาณสิบกว่าชั้น

เดินมาอีกนิดก็จะเป็นคอนโด Langsuan Ville

โรงแรม Urbana Langsuan ที่อยู่ลึกเข้าไปในซอยหน่อย เป็นอาคารที่สูงที่สุดในซอยนี้เลยก็ว่าได้

ถัดมาเป็น Community Mall ที่จำนวนคนเข้าไปใช้ไม่เยอะมาก แต่ก็มีร้านดังๆอยู่ด้านในอย่าง Crepes & Co และ The ninth ที่เป็นร้านคาเฟ่ทันสมัยที่นั่งแช่นานๆได้ ภายในมีที่จอดรถ มีร้านนวด ร้านล้างรถ และบริการต่างๆ

ทางขวาคือคอนโด Grand Langsuan Condominium

โรงแรม Centre Point ชิดลม อยู่ในเครือเดียวกับ Centre Point ที่อยู่ในซอยมหาดเล็ก 1

คอนโด Q Langsuan

โรงแรม Marriott ที่ด้านหน้ามีร้านอาหารจัดเป็นพื้นที่คล้ายๆกับ Lounge

และมาถึงตึกสุดท้ายที่อยู่ใกล้กับพื้นที่โครงการที่สุด คอนโดและเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ Natural Ville ที่สูงยี่สิบกว่าชั้นเป็นคอนโดที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกของคอนโด Sindhorn Residence คอนโด High Rise ตึกแรกที่จะแล้วเสร็จภายในปี 2562 และอยู่ทางเหนือของ Walking Street ที่อยู่ภายในพื้นที่โครงการหลังสวน วิลเลจ ถือว่าใครที่เป็นเจ้าของที่หันไปทางด้านที่ดินโครงการหลังสวน วิลเลจ ก็จะได้พื้นที่โล่งๆเป็นวิวไปด้วย

ข้างขวาของตึก Natural Ville ก็จะเป็นซอยหลังสวน 2 จะเห็นว่าทางโครงการได้กั้นพื้นที่ขอบเขตที่ดิน ติดด้วยป้ายโครงการสีเข้มไว้เรียบร้อยตลอดแนว ตั้งแต่พื้นที่ซอยหลังสวนเป็นต้นไปจนถึงถนนสารสินก็จะเป็นพื้นที่โครงการทั้งหมด

เราจะเดินเข้าไปดูภายในซอยหลังสวน 2 กันหน่อยว่านอกจากจะเป็นพื้นที่ทางเข้า-ออกของที่จอดรถของอาคาร Natural Ville แล้ว ยังมีความคืบหน้าอะไรเกี่ยวกับโครงการอีกบ้าง

เดินมาภายในเรื่อยๆก็จะสุดทาง โดยทางซ้ายก็จะเป็นทางเข้า-ออกรถของอาคาร Natural Ville ที่มีพี่ยามนั่งยื่นบัตรจอดรถให้อยู่ ส่วนทางขวาจะเป็นทางเข้าของโครงการหลังสวนวิลเลจส่วนพื้นที่ก่อสร้าง

มองมาทางขวาก็จะเป็นพื้นที่เข้าของของ Service ส่วนที่เป็นรถเกี่ยวกับการก่อสร้าง ก็จะมีพี่ยามของโครงการคอยนั่งเช็คอยู่ ตัวพื้นที่ก็จะกั้นยาวทั้งสองฝั่ง

เงยหน้ามองย้อนขึ้นไปก็จะเป็นพื้นที่ก่อสร้างของคอนโด Sindhorn Residence ที่อยู่ข้างๆกับอาคาร Natural Ville ที่ตัวคอนโดเข้าถึงได้ง่ายกว่าจากซอยต้นสน ส่วนโครงสร้างก่อสร้างนับๆแล้วได้ประมาณ 10 ชั้น

ออกมาที่หน้าปากซอยหลังสวน 2 ก็จะเป็นทางม้าลายยาวข้ามฝั่ง สะดวกดีนะคะที่มีทางม้าลายอยู่ใกล้ๆ

มองสาดไปทางท้ายถนนหลังสวน ก็จะมีประตูของงานก่อสร้างอยู่เป็นระยะๆ รวมถึงใกล้ๆประตูก็จะมีรถเข็นขายอาหารให้กับคนงาน พร้อมโต๊ะนั่งทานข้าวอยู่เป็นจุดๆ แต่หลังจากช่วงบ่ายสามก็จะเร่ิมเก็บร้านกลับบ้านกันแล้ว

ตั้งแต่ช่วงกลางถนนเป็นต้นไปจนถึงท้ายถนนหลังสวน ฝั่งตรงข้ามแปลงที่ดินก็จะลดความหนาแน่นน้อยลง อย่างบ้านพักอาศัยแนวราบ ร้านอาหาร ร้านสปา อพาร์ตเมนท์ให้เช่าแบบ Low Rise อย่างตึกนี้ที่ถึงแม้จะเป็นตึกสร้างเสร็จได้ไม่นานก็ปลูกเป็นตึกไม่สูงเหมือนอย่างช่วงต้นๆซอย

ถัดไปอีกหน่อยก็จะเป็นพวกบ้านเดี่ยวพักอาศัยธรรมดา แต่ตั้งอยู่บนแปลงที่ดินผืนใหญ่ ในอนาคตก็อาจจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่โตขึ้น

ถัดมาเป็นซอยหลังสวน 3 แนวซอยเดิมที่เคยไปซอยที่เดินรถได้ทางเดียว ปัจจุบันก็โดนแนวกั้นการก่อสร้างปิดตายไปเรียบร้อย ภายในโครงการฝั่งนี้ก็จะยังเป็น Walking Street ยาวๆไปเรื่อยๆ แต่ฝั่งซอยต้นสนก็จะเป็นอาคาร Residence S และ Residence W

ตรงไปเรื่อยๆก็จะเป็นทางเข้า-ออกของรถวัสดุก่อสร้างต่างๆ เราจะแอบเข้าไปด้านในชมวิวกันเล็กน้อย

มองไปทางซ้ายหรือทางซอยหลังสวน 2 จะเห็นอาคาร Natural Ville ที่สูง 20 กว่าชั้น ข้างๆเป็นคอนโด Sindhorn Residence สูง 35 ชั้นและ 10 ชั้น ที่เราพาเข้าไปดูกันปัจจุบันกกำลังก่อสร้าง

ส่วนทางขวามือก็เป็นทางท้ายถนนหลังสวน ก็มีการกั้นพื้นที่ต่างๆ ตึกสีเลือดหมูที่เห็นอยู่ไกลๆคืออาคารสินธร เป็นตึกออฟฟิศให้เช่า เจ้าของเดียวกับโครงการหลังสวน วิลเลจ

ฝั่งตรงข้ามก็เป็นบ้านพักอาศัยแนวราบธรรมดา

เลยมาหน่อยก็เป็นร้านอาหารอินเดียชื่อดังอย่าง Gaggan ที่ได้รับการจัดอันดับจากหลายๆที่ว่าเป็นร้านอาหารที่ชั้นนำของเมืองไทย นอกจากนั้นด้านในซอยยังเป็นร้านสปา และร้านอาหารอื่นๆ

ส่วนของคอนโดหรือเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ High rise ก็จะมี Peng Seng Mansion เป็นตึกเดียวตั้งแต่กลางถนนหลังสวนไปจนถึงท้ายซอย

เดินมาถึงซอยหลังสวน 4 ที่ทางเดินรถก็โดนกั้นไปเรียบร้อยแล้วเหมือนกับซอย 3

เดินมาหน่อยก็เป็นทางเข้า-ออกของแพล้นปูน

บรรยากาศด้านในของแพล้นปูน เก็บรูปมาให้ดูพื้นที่ตึกสูงรอบข้าง

เดินเลยมาใกล้ทางเข้า – ออกก็จะเป็นร้านอาหารแบบชั่วคราวสำหรับคนเดินผ่านไปมาและคนงานได้ทานกัน

ฝั่งตรงข้ามเป็นคาเฟ่ และอพาร์ตเมนท์ Low rise ด้านในเรียงกัน

กลับไปยังฝั่งแปลงที่ดิน มองตรงเข้าไปหาซอยหลังสวน 5 ทางขวาที่เคยเป็นตึกพาณิชย์ เปิดขายเป็นห้องให้เช่า ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารต่างๆ แต่ปัจจุบันคงได้รับการเตือนเรื่องการปรับเปลี่ยนที่ดินแล้ว ทำให้อาคารนี้กลายเป็นอาคารที่ไม่เปิดใช้ แม้กระทั่งร้านอาหารชั้นล่างสุดก็ปิดให้บริการแล้ว เดี๋ยวเราจะพาไปดูภายในซอยกันค่ะ

ภายในซอยหลังสวน 5 ที่มีทางเดินรถทางเดียวจากถนนหลังสวนไปยังซอยต้นสน ปัจจุบันยังสามารถใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นคนเดิน มอเตอร์ไซค์และรถราต่างๆ แต่ภายในซอยก็ค่อนข้างเวิ้งว้างว่างเปล่าไปเรียบร้อย โดยอาคารเดียวที่ยังเปิดให้บริการอยู่คืออาคารอพาร์ตเมนท์ทางขวามือแบบ Low Rise

ออกมาจากซอยย่อย บนถนนหลังสวนฝั่งแปลงก็เป็นพื้นที่ว่างเปล่า ปิดขอบเขตด้วยสังกะสีธรรมดา พื้นที่รอบๆยังเป็นอาคารอยู่ น่าจะเป็นพื้นที่เดียวในแปลงที่ดินขนาดใหญ่ที่ยังไม่ทำการทุบอาคารและเกลี่ยที่ดิน อย่างทางขวามือก็จะเปิดเป็น Community Mall ที่มีร้านอาหารอย่าง Eat Meat Sweet อยู่ด้านหน้า ด้านในเป็นที่จอดรถที่ติดกับซอยหลังสวน 6 ซึ่งเราจะพาไปดูพื้นที่ด้านในกัน

เราจะเข้าจากทางที่จอดรถ เห็นว่าด้านในพื้นที่ทางขวาตั้งแต่ซอยหลังสวน 6 ได้มีการล้อมรั้วไปแล้วเรียบร้อย เราจะพาเข้าไปซอกแซกดูวิวโดยรอบกัน

จากพื้นที่จอดรถ มองออกไปทางใต้ทางถนนสารสิน โดยถนนด้านล่างคือซอยหลังสวน 6 ที่หลังรั้วสังกะสีไปก็เป็นพื้นที่โครงการหลังสวนวิลเลจ พื้นที่ทางใต้ก็เป็นพื้นที่โล่งๆ มองไปไกลๆก็จะเห็นพื้นที่สีเขียวจากสวนลุมพีนี

มองไปทางซ้ายเข้าไปยังซอยหลังสวน 6 ก็มีอาคารอพาร์ตเมนท์ให้เช่าสีชมพู แต่ปัจจุบันก็ได้ปิดลงและไม่มีการให้บริการใดๆ

ฝั่งตรงข้ามมาก็เป็น Boutique Hotel อย่าง LUXX และมีร้านอาหารอย่าง MOE และ Thanglong

ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นซอยหลังสวนซอย 6 ที่เราชะโงกดูกันไปเมื่อกี้เป็นทางเดินรถทางเดียว จากซอยต้นสนย้อนเข้ามาถนนหลังสวน

ภายในซอยใช้การได้ดี ยังไม่โดนปิดทึบไป แต่ซอยค่อนข้างจะเปลี่ยวพอสมควรเลย

เดินมาเรื่อยก็จะเจอทางเข้า-ออกของพื้นที่ก่อสร้างอีกจุดหนึ่ง

ภายในก็จะเป็นพื้นที่หลังการทุบสิ่งก่อสร้าง ยังไม่ได้ปรับหรือเกลี่ยหน้าดินใดๆ

เดินตรงมาอีกทางซ้ายมือแต่ก่อนก็จะเป็นซอยหลังสวน 7 ด้านหน้าเป็นพื้นที่ก่อสร้าง ที่มีคนงานกำลังปรับ Landscape อยู่ พื้นที่ตรงนี้หลังสร้างทั้งโครงการเสร็จแล้วก็จะเป็นส่วนของพิพิธพัณฑ์ที่อยู่ตรงหัวมุมระหว่างถนนหลังสวนและถนนสารสิน

มองจากไกลๆก็จะมีการปรับพื้นที่ก่อสร้างเป็นแนวยาวไปจนถึงสุดถนนสารสิน

ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นบ้านพักอาศัย ที่บางส่วนยังมีการก่อสร้างอยู่ และมีอพาร์ตเมนท์ให้เช่า Low Rise ตามปกติทั่วไป

เขยิบมาทางซ้ายก็จะเป็นพื้นที่เปล่า ที่ปัจจุบันใช้เป็นพื้นที่จอดรถทั่วไป มีซอยส่วนบุคคลที่สามารถเดินเข้าไปด้านในเข้าถึงตึกสีฟ้าที่เหมือนจะเป็นหอพัก และมีประตูบ้านพักอาศัยอยู่ด้านหน้า ฝั่งซ้ายที่ล้อมรั้วก็เป็นพื้นที่ของโครงการหลังสวนวิลเลจเช่นกัน

ขวามือที่ล้อมรั้วอยู่ก็คือส่วนปลายของแปลงรูปตัว T จะเข้าตัวพื้นที่ได้ดีกว่าถ้าเข้าจากถนนสารสิน พื้นที่ส่วนนี้จะมีการสร้างเป็นหลังสวน พาร์ควิว สูง 14 ชั้น ด้านหน้าเป็นสามแยกไฟเขียวไฟแดงที่สามารถเลี้ยวขวาไปบนถนนสารสิน ออกไปยังถนนราชดำริ หรือว่าเลี้ยวซ้ายไปบนถนนสารสินมุ่งหน้าถนนวิทยุ

เดินมาทางหัวมุมถนนก็จะมีทางม้าลาย ที่ฝั่งตรงข้ามก็ยังเป็นพื้นที่ก่อสร้างเป็นสวน

MAP 5 route

ทางที่สามคือพาไปดูรอบแปลงที่ดินฝั่งใต้กันบ้าง แต่เราจะพาเดินตั้งแต่ต้นถนนสารสินฝั่งถนนราชดำริ ตรงเข้ามาเรื่อยๆผ่านทางแยกท้ายถนนหลังสวน ข้ามทางม้าลายเดินตรงต่อไปจนสุดถนนสารสิน จนไปออกถนนวิทยุ

เร่ิมต้นกันที่ถนนสารสิน เราจะเดินไปทางซ้ายเข้าถนนสารสินไปเรื่อยๆ คู่ขนานไปกับสวนลุมพินีจนไปออกถนนวิทยุ

ทางขวาของปากถนนสารสินเป็นถนนราชดำริ มีทางเดินเท้ากว้างและเรียบร้อย เดินได้สะดวกดี

หันมาตรงๆเป็นทางม้าลายข้ามไปยังฝั่งสวนลุมพินี สามารถเดินตรงไปยังสถานี MRT สีลม และ BTS สถานีศาลาแดง

ถนนสารสินกว้าง 6 เลน โดยมีเกาะกลางแบ่งออกเป็นสองเส้นทาง ริมรั้วสวนลุมก็จะมีร้านอาหาร ร้านของว่าง ร้านเครื่องดื่มขาย รวมถึงพี่วินด้วย เดี๋ยวเราจะเดินไปทางซ้ายเลียบถนนสารสินไปเรื่อยๆ

หันมาทางเดินเท้าฝั่งซ้ายของถนนสารสินกันบ้าง ส่วนใหญ่ฝั่งนี้จะเป็นตึกออฟฟิศ ตึกแถว อพาร์ตเมนท์ Low rise อย่างที่มุมซอยก็จะมีอาคารสำนักงานของ UHM group ขนาดใหญ่พอสมควร

เดินลึกเข้ามาก็จะเป็นตึกแถวที่เปิดชั้นล่างเป็นคาเฟ่ ร้านอาหาร และร้านสปาที่ขายเครื่องห้องด้วย สภาพทางเดินเท้าก็เรียบดี เดินได้ แม้ความกว้างจะไม่มากนัก มีเสาไฟ และต้นไม้ใหญ่คั่น ริมถนนเลนซ้ายสุดก็จะมีรถที่มาร้านอาหารพวกนี้จอดอยู่เรื่อยๆ

ทางซ้ายจะมีซอยส่วนบุคคลมีร้านอาหารอยู่ทางขวามือ เปิดแค่ช่วงกลางวัน ภายในซอยเป็นทางตันรูปตัว L เป็นส่วนข้างบ้านของตึกแถว

เดินเข้ามาในซอยจะเจอประตูเล็กของคอนโด 185 ราชดำริ ที่อยู่ส่วนข้างโครงการ

ออกมาจากซอยเดินบนทางเท้า สิ่งปลูกสร้างฝั่งซ้ายของถนนสารสินก็จะเป็นบ้านพักอาศัยหลายๆแปลงเรื่อยๆ

ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นทางกลับรถได้ทั้งสองเส้นทางบนถนนสารสิน ก็จะมีจุดกลับรถอยู่เป็นระยะๆ

เดินเข้ามาอีกก็จะเจอซอยที่ใหญ่กว่าซอยเมื่อกี้หน่อย แต่เป็นซอยตันเหมือนกัน จะไปจบที่ส่วนพื้นที่หลังโครงการของ Regent House Building ด้านหน้าก็จะมีพี่วิน หม้อแปลงไฟฟ้า และตึกหน้าสุดเป็นอาคารสำนักงาน Bangkok Cable II

สภาพภายในซอยก็เดินรถได้ทั้งสองทาง ด้านในจะมีทั้งสถานฑูตตุรกี, Park view mansion, อาคารลุมพินี และบ้านพักอาศัยต่างๆ

ตรงมาเรื่อยๆก็จะมีป้ายรถเมล์ พร้อมทางม้าลายเดินข้าม แหวกสวนตรงเกาะกลางให้สามารถข้ามฝั่งไปยังสวนลุมพินีได้

ฝั่งตรงข้าม ริมรั้วสวนลุมพินีก็ยังมีร้านอาหารเปิดขายอยู่ โดยมีร่มกางบังแดดให้ลูกค้า มีรถจอดทั้งใช้บริการส่วนของร้านอาหารและจอดใช้บริการสวนสาธารณะลุมพินีด้วย

ตรงมาอีกจะเจอตึกออฟฟิศชื่ออาคาร SCO life เป็นที่ตั้งของนครหลวงไทยและธนาคารธนชาต

ทางขวามือคืออาคารลุมพินีที่มีที่จอดรถอยู่ด้านหน้า ซอยนี้สามารถต่อได้กับซอยส่วนบุคคลซอยที่แล้ว ภายในก็จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบปกติ แต่ไม่มีพี่วินอยู่ด้านหน้า แต่ภายในซอยก็ดูกว้างขวางและไม่ค่อยเปลี่ยวเท่าไร

เดินมาเรื่อยๆก็จะเห็นรั้วล้อมแปลงที่ดิน ที่ทางซ้ายมือตรงนี้ในอนาคตก็จะกลายเป็นอาคารหลังสวน พาร์ควิว สูง 22 ชั้น เป็นแปลงหัวมุมที่ตัดระหว่างถนนสารสินและถนนหลังสวน

ภายในแปลงที่ดินแปลงหัวมุมมีการเกลี่ยที่ดินขั้นต้นเรียบร้อย วิวทางทิศเหนือของอาคารหลังสวน พาร์ควิว ก็จะเป็นอพาร์ตเมนท์ให้เช่าแบบ Low Rise ส่วนฝั่งตะวันออกก็จะเป็นวิวถนนหลังสวน และส่วนพิพิธภัณฑ์ของโครงการ ทางใต้ก็จะเป็นถนนสารสินและสวนลุมพินี ทางตะวันตกก็จะเป็นแปลงที่ดิน ซอยสวนบุคคล และอาคารสำนักงาน

เราเดินออกมาจากแปลงที่ดินก็จะเจอถนนหลังสวน ที่เป็นสามแยกมีไฟเขียวไฟแดง พื้นที่ฝั่งตรงข้ามก็เป็นส่วนป้อมตำรวจ

ช่วงท้ายของถนนหลังสวนก็จะมีทางม้าลายข้ามเรียบร้อย แต่ตรงจุดนี้ตรงพื้นจะเห็นได้ว่ามีสายไฟฟ้ากองอยู่เต็มไปหมด น่าจะมาจากสภาพอากาศที่ฝนตกพายุเข้าทำให้สายไฟล้มลงมาจากเสาที่เราเดินมาจบที่เส้นทางเมื่อกี้ เดี๋ยวเราจะเดินข้ามทางม้าลายไปยังฝั่งตรงข้าม เดินเลาะรั้วพื้นที่ก่อสร้างไปเรื่อยๆ

ข้ามทางม้าลายมาก็จะยังมีสายไฟฟ้ากองอยู่บนพื้นเต็มไปหมด ทำให้ทางเดินเท้าจุดนี้เดินยากมากจริงๆ ซ้ายมือก็ยังมีการจัด Landscape ที่ในอนาคตจะเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์

เดินมาเรื่อยๆก็จะเจอป้ายรถเมล์ บนพื้นไม่มีสายไฟฟ้าแล้ว ทางซ้ายมือผ่านส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์แล้ว ก็จะเป็นส่วนของโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ เป็นอาคารหลังใหญ่เลยทีเดียว

เดินเลยมาอีกนิดก็จะเปิดประตูเปิดของส่วนเข้าพื้นที่ เหมือนเคย เราจะพาเข้าไปชะโงกดูกัน

ภายในพื้นที่บริเวณนี้ก็เป็นพื้นที่ของโครงการหลังสวนวิลเลจเช่นกัน ตรงนี้จะก่อสร้างเป็นอาคารต้นสน พาร์ควิว สูง 17 ชั้น โดยทิศเหนือติดกับอาคารสำนักงานภายในพื้นที่ของกลุ่มเคี่ยนหงวน ยังดีที่ไม่เป็นตึกที่สูงมาก ทิศตะวันออกติดเคี่ยนหงวน 3 สูงประมาณ 10 ชั้น ทางทิศใต้ได้วิวถนนสารสินและสวนลุมพินี ทิศตะวันตกติดกับส่วนของโครงการคือโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์

เราออกมาจากแปลงพื้นที่ เดินตรงมาเรื่อยๆจนสุดพื้นที่โครงการหลังสวน วิลเลจ ถัดไปก็จะเป็นอาคารเคี่ยนหงวน 3 ที่กินบริเวณไปถึงหัวมุมถนนสารสินที่ตัดกับถนนวิทยุ

ความจริงกลุ่มเคี่ยนหงวนก็จะมีหลายตึกด้วยกันอยู่ในพื้นที่ อย่างถ้าเลี้ยวซ้ายไปบนถนนวิทยุก็จะเจออาคารเคี่ยนหงวน 1 โดยบริเวณทั้งหมดจะเชื่อมถึงกัน และมีประตูด้านหลังออกไปยังซอยต้นสนได้ ด้านหน้าสี่แยกวิทยุ เนื่องจากเป็นถนนที่ปริมาณรถเยอะมาก ทั้งมาจากสาทรใต้ และมาจากถนนเพลินจิต ก็จะเปลี่ยนจากทางม้าลายกลายเป็นสะพานลอยข้ามแทน เพื่อให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

แล้วเราก็เดินมาจนสุดถนนสารสินที่เชื่อมกับถนนวิทยุ ทางจากถนนราชดำริ ผ่านถนนสารสิน ทะลุมายังถนนวิทยุ สามารถเลี้ยวซ้ายและขวาได้ตามสัญญาณไฟ ถ้าเลี้ยวซ้ายไปก็จะเจอกับอาคารสินธรที่ด้านล่างปรับปรุงกลายเป็นพื้นที่ร้านอาคารและคาเฟ่สวยๆเยอะแยะ ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นสถานฑูตอเมริกา และเรื่อยๆไปจนถึงถนนเพลินจิต

MAP 6 route

ทางสุดท้ายคือทางจากซอยต้นสน ที่ท้ายซอยอีกนิดเดียวจะสามารถตัดกับถนนสารสินได้ แต่ปัจจุบันมีการล้อมรั้วยาวตามแปลงที่ดินเก่า ทำให้ต้องอ้อมไปเริ่มต้นจากต้นซอยที่เข้าได้จากถนนเพลิตจิตทางเดียว ตรงเข้ามาเรื่อยๆ ระยะประมาณ 1 กิโลเมตร จากแปลนโครงการเมื่อสร้างแล้วเสร็จมีโอกาสที่จะมีการเปิดพื้นที่ท้ายซอยให้เข้า-ออกจากถนนสารสินได้

เร่ิมต้นกันที่ปากซอยต้นสน ฝั่งซ้ายมือคืออาคารสำนักงานตึกสูง ต้นสน ทาวเวอร์ ด้านหน้ามีป้ายรถเมล์ เป็นอาคารสำนักงานชื่อดังที่มีออฟฟิศหลายบริษัท เนื่องจากติดถนนใหญ่เพลินจิตและอยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้า BTS ทั้งสองสถานีคือชิดลมและเพลินจิต

ฝั่งตรงข้ามเป็นส่วนที่จอดรถกลางแจ้ง อยู่ระหว่าง Central ชิดลม และ Central Embassy ทางซ้ายจะมีสะพานลอยข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามได้

มาทางขวาของหน้าซอยต้นสนกันบ้าง เป็นส่วนของอาคารสำนักงานเพลินจิต ทาวเวอร์ กินพื้นที่ยาวไปถึงส่วนศูนย์การค้า Mercury ที่เราได้พาชมกันในเส้นทางแรก มองไปไกลๆก็จะเห็นตัวสถานี BTS ชิดลม

กลับมาที่ต้นซอยต้นสน ตัวซอยเองจะขนานยาวไปกับคลอง ทำให้สิ่งปลูกสร้างฝั่งซ้ายไม่นิยมที่จะหันหน้าอาคารมาฝั่งซอยต้นสนที่เป็นซอยตัน ส่วนใหญ่จะเป็นส่วนประตูหลังหรือประตูรองของอาคาร ที่จะต้องสร้างสะพานข้ามคลองเชื่อมออกมาอีกด้วย ส่วนสิ่งปลูกสร้างทางฝั่งซ้ายมือส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย มีเปิดเป็นร้านอาหาร สปา และอพาร์ตเมนท์บ้างประปราย

เข้ามาในซอยมองหันกลับไปยังต้นซอยไปทางขวาก็จะเป็นอาคารต้นสน ทาวเวอร์ จะเห็นได้ว่าเป็นอาคารสำนักงานที่สูงมากๆติดถนนใหญ่

เขยิบลึกเข้ามาก็เป็นโรงเรียน Mulberry International School เป็นโรงเรียนที่เหมือนนำเอาพื้นที่บ้านพักอาศัยขนาดใหญ่ปรับเป็นพื้นที่โรงเรียนขนาดเล็ก

อย่างโรงเรียนนี้ก็จะมีสะพานข้ามคลองเป็นของตัวเองเข้าไปในพื้นที่ ส่วนอาคารสูงคือโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ Bliston Suwan Park View สูง 20 กว่าชั้น

ซอยต้นสนเป็นซอยที่มีความกว้าง 2 เลนถนน รถสวนเข้า-ออกกันได้ มีทางเดินเท้าแค่ทางฝั่งซ้ายเลียบคลอง มีตันไม้ใหญ่และต้นไม้พุ่มตลอดแนว ส่วนฝั่งขวาก็ต้องเดินล่อรั้วบ้านไปเรื่อยๆ

ประตูด้านหลังของสถานฑูตอเมริกา เป็นประตูปิดแน่นหนา ความจริงแล้วผืนที่ดินตรงนี้เป็นบ้านพักอาศัยของท่านฑูต ที่เวลามองจากถนนวิทยุจะเห็นพื้นที่สีเขียวกว้างๆ ส่วนพื้นที่ทำการสถานฑูตจริงๆจะอยู่ฝั่งตรงข้ามที่เป็นรั้วเหล็กตั้งสูง

ทางขวามือก็จะเจอ Piya Place เป็นอพาร์ตเมนท์ให้เช่า มีพื้นที่จอดรถ และตรงข้ามเป็นห้อง เป็นอพาร์ตเมนท์สไตล์ไทยๆหน่อย

เดินเข้ามาอีกจะเจอ The Pine Crest เป็นอพาร์ตเมนท์สูง 7 ชั้น ด้านในจะเน้นขนาดเป็นห้องใหญ่ ตั้งแต่ 3 ห้องนอนขึ้นไป ถือว่าเป็นอพาร์ตเมนท์ที่สวยหลบในมาอยู่ในซอยตัน

ตรงไปเรื่อยๆก็จะเริ่มเข้าเขตพื้นที่โครงการอยู่ทางขวามือ อย่างในภาพจะเป็นส่วนของพื้นที่ซอยที่ทะลุไปถึงซอยหลังสวน 2

ตรงเข้ามาก็จะเจอประตูทางเข้า-ออกพื้นที่ก่อสร้างเป็นระยะ แต่ก็ไม่ได้เปิดกว้างเหมือนทางฝั่งถนนต้นสน

ฝั่งซ้ายเป็นส่วนประตูด้านหลังของสถานฑูตเนเธอร์แลนด์

เลยมาอีกหน่อยเป็นประตูหลังเช่นกัน ของอาคารสินธร อาคารสำนักงานขนาดใหญ่

ตัวตึกหันหน้าเข้าหาถนนวิทยุ ตัวอาคารสูงมากอยู่ด้านหน้า และอาคารจอดรถอยู่ด้านหลังสูงประมาณสิบชั้น

เจอแล้วอีกหนึ่งประตู ประตูนี้เป็นทางเข้า-ออกที่ตรงกับซอยหลังสวน 4

ภายในพื้นที่แปลงที่ดินหลังจากมีการทุบตึกเรียบร้อย ก็จะอยู่ในช่วงเก็บกวาดพื้นที่ เตรียมการปรับหน้าดินขนานใหญ่

ฝั่งตรงข้ามเป็นเต๊นท์ที่ปลูกเป็นแนวยาว หันหน้าเข้าหาคลอง โดยมีเปิดเป็นแหล่งร้านอาหาร น่าจะสำหรับคนทำงานออฟฟิศแถบนี้มาทานข้าวกันในช่วงกลางวัน เพราะแถบนี้แทบจะไม่มีร้านอาหารทั่วไปเลยนอกจากห้องอาหารของโรงแรม และศูนย์อาหารตามอาคารสำนักงาน

เลยไปอีกก็จะเป็นส่วนประตูหลังของพื้นที่อาคารเคี่ยนหงวน

สุดซอยต้นสนด้านในก็จะเป็นพื้นที่ทาวน์โฮม ที่จะสังเกตได้ที่ตึกหลังว่าได้โดนทุบส่วนผนังเปิดออกหมดแล้ว

MAP 7 boundary

สุดท้ายมาดูพื้นที่รอบข้างของโครงการหลังสวน วิลเลจกันบ้างค่ะ บนถนนเพลินจิตใกล้ๆคือศูนย์การค้า ตึกออฟฟิศสูง เข้ามายังสองฝั่งของถนนหลังสวนช่วงต้นถนนส่วนมากจะเป็นโรงแรม High Rise ที่มีชื่อ มีชาวต่างชาติเดินเข้า-ออกเยอะมาก ส่วนกลางๆซอยไปจนถึงปลายซอยจะเงียบลง เป็นร้านอาหาร คาเฟ่ ตึกแถว อพาร์ตเมนท์ แบบแนวราบ บนถนนราชดำริเป็นโรงแรมชื่อดัง เข้าซอยสารสินมาก็จะเป็นตึกออฟฟิศสูงที่มุมถนน และตึกออฟฟิศสูง 8 ชั้นในซอย ส่วนซอยต้นสนที่เป็นซอยตัน สิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ จะมีตึกสูง 8 ชั้นปลูกเป็นอพาร์ตเมนท์บ้าง และเป็นส่วนประตูทางออกด้านหลังของตึกออฟฟิศที่หันหน้าเข้าหาถนนวิทยุบ้างอย่างอาคารสินธร สถานฑูตอเมริกา และเนเธอร์แลนด์

ทิศเหนือ : โรงแรม Natural Ville, โรงแรม Centre Point ล้วนแล้วแต่สูง 20 กว่าชั้น

ทิศตะวันออก : ซอยต้นสน กว้าง 2 เลนสวนกันได้ มีแนวต้นไม้ปลูกยาวเลียบคลอง ก่อนจะเป็นสะพานข้ามไปยังส่วนด้านหลังของตึกออฟฟิศที่หันหน้าออกถนนวิทยุอย่างสถานฑูตอเมริกาที่เป็นพื้นที่โล่งๆ อาคารสินธรสูงประมาณ 16 ชั้น และอาคารเคียงหงวนสูงใกล้เคียงกัน

ทิศใต้ : ถนนสารสิน กว้าง 6 เลน มีเกาะกลางเป็นต้นไม้ใหญ่กั้น มีสวนลุมพินีผืนใหญ่เป็นวิวทางทิศใต้ที่หาได้ยาก

ทิศตะวันตก : ถนนหลังสวน กว้าง 4 เลน มีต้นไม้ปลูกทั้งสองฝั่ง ช่วงกลางซอย-ปลายซอยเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ ตึกสูงไม่เกิน 8 ชั้นเปิดเป็นร้านอาหาร อพาร์ตเมนท์ และที่จอดรถ

ดังนั้นตึก Sindhorn Residence ที่เป็นคอนโดตึกแรกที่สร้างเสร็จ เป็นอาคารรูปตัว U หันหน้าไปทางทิศใต้ ตำแหน่งอยู่ที่มุมตะวันออกเฉียงเหนือของแปลง ตรงซอยหลังสวน 2 ฝั่งตะวันตกและฝั่งเหนือจะได้วิวอาคารสูง ฝั่งตะวันออกจะได้วิวสถานฑูตอเมริกา และฝั่งทิศใต้จะได้วิวตึกสูงภายในโครงการหลังสวนวิลเลจที่สร้างเยื้องๆกันแต่ก็บังไปครึ่งหนึ่งของอาคารอยู่ดี

นี่คือรีวิวทำเลของโครงการ หลังสวน วิลเลจ ค่ะ เมื่อทางโครงการสร้าง Sales Office เสร็จเรียบร้อยหรือมีข้อมูลโครงการส่วนอื่นๆเพิ่มเติม ทางทีมงานจะเข้าไปเก็บข้อมูลทำเป็นรีวิวฉบับเต็มให้อ่านกันนะคะ ต้องติดตามชม