รีวิวโครงการ

คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.401 – รีวิวบ้านเดี่ยว Zerene พระราม 2-ท่าข้าม

20 พฤษภาคม 2018

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 1454 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ Zerene พระราม 2 – ท่าข้าม บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ตั้งอยู่บนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้ ทำเลพระราม2 จาก Prinsiri ออกแบบภายใต้แนวคิด Oxygen Community เน้นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่  การออกแบบบ้านให้ใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด ด้วยบ้านแบบ L-Shape พร้อมสวนในบ้าน และ การออกแบบบ้านให้ประหยัดพลังงาน มีบ้านทั้งหมด 3 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 50 ตารางวา ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท เราไปชมกันค่ะ

Fact @ 12 October 2017

  • Zerene Rama 2 – Thakham (ซีรีน พระราม2 – ท่าข้าม)
  • บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน)
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : เขต บางขุนเทียน
  • เนื้อที่โครงการประมาณ 68 ไร่ จำนวน 292 ยูนิต
  • DAHLIA (Size S) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 50.7 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 162 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน 1 ห้องครัว 1 ส่วนรับประทานอาหาร 2 ที่จอดรถ
  • SENNA (Size M) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 59.4 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 173 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน 1 ห้องครัว 1 ส่วนรับประทานอาหาร 2 ที่จอดรถ
  • CASSIA (Size L) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 64.7 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน 1 ห้องครัว 1 ส่วนรับประทานอาหาร 2 ที่จอดรถ
  • ที่ดินแปลงมาตรฐาน 50, 52 และ 54 ตร.วา
  • ฝ้าเพดาน ชั้น1-2 สูง 2.75 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 50,000 บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : n/a
  • ปัจจุบันโครงการแล้วเสร็จประมาณ 50%
  • เวปไซต์โครงการ : (คลิกที่นี่ ลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดพิเศษ)
  • Call Center : 1753

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ

NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะคะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.626078, 100.466950

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ Zerene พระราม 2-ท่าข้าม ตั้งอยู่บนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้ ระหว่างถนนท่าข้ามและถนนพุทธบูชา ย่านนี้เป็นทำเลที่ขยายตัวออกมาจากทางฝั่งถนนพระราม2 ถนนท่าข้ามและถนนประชาอุทิศ โดยถนนเลียบวงแหวนฯนี้ปัจจุบันมีความเจริญมากขึ้นเรื่อยๆ สภาพแวดล้อมส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่สีเขียวสลับกับที่อยู่อาศัยแนวราบที่เกาะตามแนวถนนวงแหวนฯ ส่วนในบริเวณใกล้เคียงอย่างถนนบางขุนเทียน-ชายทะเลจะเป็นพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมที่ส่วนใหญ่เป็นโรงงานผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคขนาดเล็กและขนาดกลางเกาะกลุ่มกันอยู่ จึงเกิดมีโครงการหมู่บ้านมาขึ้นในละแวกนี้อยู่หลายโครงการ รองรับทั้งกลุ่มคนในพื้นที่ เจ้าของกิจการย่านใกล้เคียง และ คนที่มองหาบ้านที่ไม่ไกลจากเมืองมากนัก เดินทางสะดวก ทำเลของโครงการนี้มีจุดเด่นคือ อยู่ติดกับถนนวงแหวนกาญจนาฯฝั่งใต้ มีเส้นทางเชื่อมต่อไปยังถนนหลักได้หลากหลาย เข้าออกเมืองได้สะดวก เหมาะกับการใช้รถเป็นยานพาหนะหลัก ถึงแม้จะมีการจราจรหนาแน่นในช่วงเช้า-เย็นและวันหยุด แต่ภายในซอยของโครงการก็สามารถลัดไปเชื่อมกับเส้นทางหลักได้โดยไม่ต้องห่วงเรื่องการจราจรในซอยท่าข้าม นอกจากนั้นยังใกล้ทางด่วนทั้ง ทางด่วนเฉลิมมหานคร อยู่ห่างจากโครงการ 21.7 กิโลเมตร และ ทางด่วนวงแหวนรอบนอกตะวันตกอยู่ห่างจากโครงการ 9.8 กิโลเมตร ส่วนถ้าจะเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์จะต้องพึ่งพาแท็กซี่เพื่อเข้าเมือง ซึ่งด้านหน้าโครงการก็มีรถวิ่งผ่านตลอดค่ะ

เนื่องจากเป็นทำเลที่กำลังมีการขยายตัวและต้องพึ่งพาการเดินทางด้วยรถยนต์เป็นหลัก ความอุดมสมบูรณ์บริเวณใกล้ๆกับโครงการจะมี 7-11 และร้านค้า ร้านอาหารในซอยย่อย ถ้าจะหาแหล่งกินที่ใกล้ที่สุดก็จะอยู่ใกล้ๆ กับโรงเรียนสวนกุหลาบธนบุรี ห่างไปไม่ไกล ขยับออกมาในระยะไม่เกิน 5 กม. จะมี 7-11 บริเวณซอยอนามัยงามเจริญและตลาดสดมารวยที่อยู่ในซอยท่าข้าม ส่วนความอุดมสมบูรณ์หลักจะอยู่ในเส้นพระราม 2 ซอยท่าข้าม และถนนพุทธบูชา บนถนนพระราม 2 นั้นจะมีทั้ง Central พระราม2 , BigC และ Lotus ส่วนโรงพยาบาลแถวนี้ก็เยอะมากๆ มีทั้งโรงพยาบาลบางปะกอก1 หรือ9 หรือโรงพยาบาลนครธน และบางมด โรงเรียนที่ใกล้เคียงก็จะมีโรงเรียนสวนกุหลาบ ธนบุรีที่คอร์สแบบอินเตอร์ด้วย โตไปหน่อยก็จะมีสถาบันพระจอมเกล้าธนบุรีอยู่ตรงถนนประชาอุทิศ ถือเป็นทำเลที่พื้นที่โดยรอบมีสถานที่สำคัญและสาธารณูปโภคต่างๆครบครันค่ะ

ตัวโครงการจะอยู่ฝั่งด้านล่าง(ทิศใต้) ของถนนวงแหวน การจะเข้าโครงการจากถนนใหญ่พระราม 2 เข้าได้หลัก 3 ทางคือ เข้าจากซอยพระราม 2 ซอย 33 , ซอยท่าข้าม หรือเข้าจาก ถ.บางขุนเทียน-ชายทะเล ส่วนทางเข้าอื่นๆ สามารถเข้าจากถนนกาญจนาภิเษกโดยตรงเลยก็ได้ หรือจะถ้ามาทางสุขสวัสดิ์ก็วิ่งเลียบทางด่วนมาได้เช่นกัน โดยได้ทำรูปแบบการเดินทางเข้ามายังโครงการ แบ่งตามสีได้ดังนี้

1.เริ่มต้นจากพระราม 2 ซอย 33 

  • เส้นทางนี้เหมาะสำหรับคนที่เดินทางช่วงต้นของถนนพระราม 2 หากลงจากทางด่วนก็ใช้เส้นทางนี้ได้เลย (สำหรับคนชำนาญเส้นทางในย่านนี้) โดยเริ่มต้นเข้าที่พระราม 2 ซอย 33 วิ่งเข้ามาจะเจอแยกตัดบริเวณซอยพุทธบูชา 24 ให้วิ่งตรงผ่านบริเวณสถาบันอาศรมศิลป์จากนั้นเจอกับ 3 แยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยอนามัยงามเจริญ 25 แยก 2 ตรงผ่าน 4 แยกและข้ามคลองศาลเจ้ามาจะพบกับ 3 แยกซอยโชคนิมิต ให้เลี้ยวขวาจากนั้นจะลัดเลาะไปตามสวน ให้อิงเส้นทางซอยอนามัยงามเจริญ 25 แยก 3 ไปตลอดเส้นทางจนมาออกถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้ค่ะ

2.เริ่มต้นจากถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล 

  • เส้นทางนี้สำหรับคนที่มาจากถนนเอกชัย หรือในย่านโรงงานในถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล สำหรับถนนเส้นนี้เป็นถนนหลักที่ตรงตลอดแนวและเป็นเส้นทางที่วิ่งต่อเนื่องลงไปยังชายทะเลบางขุนเทียน ลักษณะถนนเป็น 6 ช่องจราจรและมีเกาะกลาง เริ่มต้นที่สะพานข้ามถนนพระราม 2 ให้วิ่งตรงมาจะเจอกับทางด่วนบางพลี – สุขสวัสดิ์เป็นทางยกระดับตัด ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้ วิ่งขนานมุ่งหน้าประชาอุทิศ ตรงมาตามทางก็จะถึงโครงการ

3.เริ่มต้นจากปากซอยท่าข้าม 

  • เส้นทางนี้สำหรับคนที่เดินทางมาจากโซนท่าข้ามและคนที่กลับรถจากบริเวณโรงพยาบาลบางมด สำหรับถนนเส้นนี้ถือเป็นย่านที่คึกคักที่สุดในกลุ่มเส้นทาง เพราะมีทั้งตลาดและโซนที่อยู่อาศัย ลักษณะถนนช่วงซอยท่าข้ามจะเป็น 4 ช่องจราจรมีเกาะกลาง โดยเริ่มต้นที่ปากซอยท่าข้ามวิ่งตรงตามทางมา และเลี้ยวซ้ายที่ซอยท่าข้าม 23 ลักษณะการจราจรจากนี้จะเป็น 2 ช่องจราจรสวนทางกันตลอด วิ่งผ่านส.น.ท่าข้ามมา ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเทียนทะเล 7 ขึ้นสะพานข้ามคลองสนามชัย จากนั้นจะเจอ 3 แยก ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยอนามัยงามเจริญมุ่งหน้าแยกตัดถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้ ตรงไปเรื่อยๆจนถึงโครงการ

การเดินทางในวันนี้จะเลือกใช้ ถนนพระราม 2 ตรงมาเรื่อยๆแล้วเลี้ยวเข้าถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล จากนั้นเลี้ยวเข้าถนนเลียบวงแหวนกาญจนาฝั่งใต้ วิ่งตรงมาเรื่อยๆก็จะถึงกับโครงการค่ะ

เริ่มจากบนทางด่วนจากในเมือง เลี้ยวขวามาทางดาวคะนองเรียบร้อย กำลังข้ามสะพานพระราม 9 เพื่อเข้าฝั่งธนบุรี

ข้ามสะพานมาจนจะถึงทางลงสะพานพระราม 9 เราจะชิดขวาไปทางดาวคะนอง

ตรงมาอีกหน่อยจะเจอทางแยกอีกครั้ง โดยเราจะเลือกไปทางขวาหรือสมุทรสาครเพื่อจะไปลงที่ถนนพระราม 2 ฝั่งมุ่งหน้าไปทางตัวเมืองสมุทรสาคร ส่วนถ้าชิดซ้ายไปลงดาวคะนองจะอยู่บนถนนพระราม 2 เช่นกันแต่จะมุ่งหน้าไปทางสุขสวัสดิ์-ราษฎร์บูรณะ

เราลงทางด่วนมาบนถนนพระราม 2 กว้าง 4 เลน โดยทางซ้ายจะมีทางคู่ขนานอีก 3 เลน โดยถ้าตรงไปจะไปเข้าจังหวัดสมุทรสาคร ตรงไปเรื่อยๆจะเป็นเพชรบุรีเข้าชะอำ หรือหัวหินที่เราไปกันบ่อยๆ ส่วนถ้าจะกลับรถจะต้องออกไปทางคู่ขนานทางซ้ายมือจะมีทางกลับรถบ้างจะเป็นทางลอดใต้สะพาน บ้างจะเป็นสะพานกลับรถ

ทางซ้ายมือจะเป็นศูนย์การค้าเปิดใหม่คือ The bright พระราม 2 อยู่ก่อนถึงซอยอนามัยเจริญงาม โดยภายในจะมีร้านค้าต่างๆตั้งแต่ Starbuck ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านขายเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์แต่งบ้าน มี burger king โดยมีทั้งส่วนที่อยู่ภายในแอร์และส่วน Outdoor

ถัดมาก็จะเจอกับ homepro เลยไปหน่อยจะเป็น BigC ส่วนฝั่งตรงข้ามคือ Central พระราม 2

วิ่งตรงมาเรื่อยๆทางฝั่งซ้ายเป็นซอยท่าข้าม ซึ่งเป็นซอยลัดไปออกถนนพุทธบูชาและถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้ ได้ บริเวณหน้าปากซอยนี้จะค่อนข้างคึกคักมีทั้ง Home pro , McDonald’s , Big C และร้านค้าร้านอาหารเล็กๆน้อยๆ ส่วนทางฝั่งขวาจะเป็นเซ็นทรัลพระราม 2 ศูนย์การค้าใหญ่ในย่านนี้

Central พระราม 2 จะมีสะพายลอยข้ามไปมา โดย Central ที่นี้จะมีแปลนที่ต่างจากที่อื่นคือเป็นรูปตัว U โดยตรงกลางตัว U จะเป็นอาคารพาณิชย์ที่เปิดเป็นร้านค้าต่างๆ

เราวิ่งรถมาจนเจอสะพานกลับรถ โดยสะพานกลับรถนี้สามารถขึ้นไปแล้วเข้าพื้นที่ของ Central ได้เลย แต่จะมีทางลงไปถนนพระราม 2 อีกฝั่งหนึ่งด้วย ส่วนเราจะตรงไปเรื่อยๆบนถนนพระราม 2 ก่อนนะคะ

มาถึงแยกคือถ้าเราตรงไปก็จะยังอยู่บนถนนคู่ขนานพระราม 2 แต่เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล ที่สามารถเข้าเส้นวงแหวนกาญจนาทางใต้ได้รวมถึงเส้นเลียบวงแหวนด้วย ส่วนสะพานด้านบนคือสะพานข้ามแยกจากถนนบางขุนเทียน-ชายทะเลไปยังถนนเอกชัยทางเหนือ บนถนนบางขุนเทียน-ชายทะเลนี้มีร้านอาหารซีฟู้ดเยอะมาก ว่างๆเสาร์-อาทิตย์ก็มานั่งกินข้าวรับลมสบายๆได้ค่ะ

เลี้ยวซ้ายมาแล้ว เราจะตรงไปเรื่อยๆบนถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล โดยสองฝั่งส่วนใหญ่จะเป็นโรงงาน ปั้มน้ำมัน อาคารพาณิชย์และพื้นที่ว่างเปล่า บนถนนบางขุนเทียน-ชายทะเลจะมีทางกลับรถทั้งสองฝั่งอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นถ้าอยากขับรถโดยไม่ต้องชะลอติดๆขัดๆก็ต้องขับเลนกลางไปเรื่อยๆนะคะ

ตรงมาอีกหน่อยก็จะเจอกับตลาดสะแกงามที่อยู่ใกล้แยกที่ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเลจะไปตัดกับถนนเลียบวงแหวน โดยพื้นที่ตลาดจะมีทั้งตลาดสด ขายของทั่วไป ร้านแว่น ร้านทอง แบงค์สาขาย่อยต่างๆ เป็นพื้นที่ที่ผู้คนค่อนข้างเยอะ

ตรงมาอีกเราจะเลี้ยวเข้าถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้กันค่ะ

พอเลี้ยวเข้ามาสภาพแวดล้อมบริเวณนี้มีหมู่บ้านอยู่ทางฝั่งซ้ายตลอดแนว เป็นผลจากการขยายตัวของแหล่งทำงานในย่านบางขุนเทียนและการขยับขยายทำเลในการพัฒนาโครงการแนวราบในย่านพระราม2 ทำให้มีความเจริญกระจายตัวออกมายังบริเวณนี้

ตรงมาตามทางเรื่อยๆ ก็จะถึงโครงการ Zerene พระราม 2-ท่าข้าม ค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สวนและมีหมู่บ้านเกิดใหม่รอบๆ เกาะแนวถนนเลียบวงแหวนฯ ส่วนใหญ่เป็นโครงการหมู่บ้านขนาดใหญ่กระจายออกไป ทางเข้าโครงการมีจุดเดียว ภาพรวมของโครงการในย่านนี้เป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่มีความสงบและเน้นใช้รถในการเดินทาง โดยจะมีพื้นที่แต่ละด้านติดกับส่วนต่างๆ ดังนี้

  • ทิศเหนือ – ติดกับที่ดินเปล่า
  • ทิศตะวันออก – ติดกับที่ดินเปล่า
  • ทิศใต้ – ติดกับถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้
  • ทิศตะวันตก – ติดกับที่ดินเปล่า

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Home Pro พระราม 2 – 6.5 กิโลเมตร
  • Big C พระราม 2 – 6.7 กิโลเมตร
  • Lotus พระราม 2 – 7.5 กิโลเมตร
  • Central พระราม 2 – 7.8 กิโลเมตร
  • โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี – 350 เมตร
  • โรงเรียนบูรณะศึกษา – 4.2 กิโลเมตร
  • สถาบันพระจอมเกล้าธนบุรี – 7.1 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลนครธน – 7.9 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลบางมด 1 – 8.6 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลบางปะกอก 9 – 9.8 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Zerene พระราม 2-ท่าข้าม เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ทั้งโครงการ โดยโครงการแบ่งออกเป็น 2 เฟส เนื้อที่รวมทั้งโครงการประมาณ 68 ไร่ จำนวน 292 ยูนิต ปัจจุบันอยู่ในระหว่างเปิดขายเฟสที่ 2 ทางเข้า-ออกมีอยู่ทางเดียวติดกับถนนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้ โครงการออกแบบภายใต้แนวคิด Oxygen Community เน้นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ โดยอยากให้ลูกบ้านได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด จึงจัดพื้นที่ส่วนกลางเป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่ 2 จุด จุดละประมาณ 1 ไร่ พร้อมสนามเด็กเล่นและอุปกรณ์ออกกำลังกาย Outdoor นอกจากนั้นยังมีการจัดสวนแทรกให้ในทุกๆพื้นที่ โครงการนี้จึงมีพื้นที่สีเขียวค่อนข้างเยอะ มีต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศร่มรื่น  มี Club house สไตล์รีสอร์ทที่มี Lobby ห้องฟิตเนส และ สระว่ายน้ำอยู่บริเวณหน้าโครงการ เพื่อให้ลูกบ้านมาใช้กันหรือสามารถใช้เป็นที่พักคอย-นัดพบกับเพื่อนๆได้ การวางผังตัวบ้าน ออกแบบให้เป็นแบบก้างปลาคือมีถนนหลักกว้าง 12,16 เมตร ตัดตรงเข้าไปถึงท้ายโครงการ และแบ่งเป็นซอยย่อย ถนนซอยกว้าง 9 เมตร แต่ละซอยจะมีจำนวนบ้านไม่เยอะจึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว ไม่เป็นซอยตันลูกบ้านสามารถขับรถวน หรือ ทำกิจกรรมเพื่อสุขภาพ เช่นวิ่งออกกำลังกายได้ เราไปชมโครงการกันค่ะ

ทางเข้าโครงการอยู่ติดกับถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้ มีร่นระยะจากถนนเข้าไปเล็กน้อยถึงเป็นประตูทางเข้า-ออก

บริเวณหน้าโครงการทั้งสองฝั่งจะมีผนังตกแต่งและน้ำพุตามในภาพ

บริเวณทางเข้า-ออก จะมีการแบ่งระหว่างทางเข้าสำหรับลูกบ้านและทางเข้าสำหรับผู้มาติดต่อเพื่อให้แยกการใช้งานได้สะดวก ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยหน้าโครงการจะมี รปภ.ดูแล24ชั่วโมง , CCTV , รั้วกั้นไม้กระดกระบบ Key Card Access ระยะใกล้ ผู้มาติดต่อจะต้องแลกบัตร ถึงจะอนุญาตให้ผ่านเข้าไปได้ค่ะ

ด้านหน้าทางเข้า-ออกมี CCTV และ รั้วกั้นไม้กระดกระบบ Key Card Access ระยะใกล้  ด้านในมีประตูเลื่อนอีกชั้นหนึ่ง

เข้ามาภายในโครงการ สิ่งแรกที่เห็นคือความเขียวของต้นไม้ซึ่งทางโครงการเน้นพื้นที่สีเขียวเป็นจุดเด่น ตรงกลางคือถนนหลักกว้าง12-16เมตร ตัดยาวเข้าไปจนถึงท้ายโครงการเลย ทางฝั่งขวาเป็นสวนหย่อมและClubhouse ตัวบ้านจะแบ่งออกเป็นซอยย่อยค่ะ

ในแต่ละซอยย่อยจะมีจำนวนบ้านไม่เยอะเพื่อให้ลูกบ้านมีความเป็นส่วนตัว ถนนซอยย่อยนี้กว้าง 9 เมตร บรรยากาศค่อนข้างร่มรื่นทีเดียว

หน้าโครงการทางฝั่งขวาจัดเป็นพื้นที่สวนหย่อมและ Clubhouse ค่ะ

สวนหย่อมขนาดใหญ่จะมีอยู่ 2 จุด จุดแรกคือบริเวณหน้าโครงการ และ อีกจุดคือช่วงกลางโครงการด้านใน (เฟส2) จุดละประมาณ 1 ไร่

ในสวนจะมีมุมที่ทางโครงการจัดเป็นสวนหย่อม น่ารักๆแบบนี้มาให้

ในสวนจะมี สนามเด็กเล่นและอุปกรณ์ออกกำลังกาย Outdoor มาให้ด้วย

มีเครื่องเล่นสำหรับให้เด็กๆมาเล่นสนุกกันนอกบ้านด้วย

ถัดมาเป็นมุมออกกำลังกายกลางแจ้ง มีเครื่องเล่นมาให้ประมาณนี้ ลูกบ้านมาสามารถใช้พื้นที่ออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมเพื่อสุขภาพได้ค่ะ

ถัดมาติดๆกันเลยคือ Club house ด้านในประกอบด้วย Lobby ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ห้องน้ำ และ สำนักงานนิติบุคคล

บรรยากาศภายใน Lobby ค่ะ สามารถใช้พื้นที่พบปะสังสรรค์ พูดคุย พักคอยได้ ปัจจุบันใช้เป็นสำนักงานขายอยู่ค่ะ

บริเวณข้างๆชุดรับแขกเป็นกระจกจึงสามารถนั่งชมวิวได้

มีเคาน์เตอร์บาร์มาให้ด้วย เผื่อใช้เป็นพื้นที่สำหรับชงเครื่องดื่ม ชา กาแฟ

เดินถัดเข้ามาจะเป็นสระว่ายน้ำ พร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อนริมสระ ด้านในเป็นทางเดินไปห้องน้ำและห้องนิติบุคคล ส่วนห้องฟิตเนสนั้นยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างค่ะ การออกแบบบริเวณนี้จะจัดให้ได้อารมณ์รีสอร์ท โปร่ง โล่ง ต้นไม้เยอะๆ

สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือแยกสระผู้ใหญ่และสระเด็ก ขนาดสระผู้ใหญ่ประมาณ 8.5 x 20 เมตร ลึก 1.2 เมตร

ข้างๆสระมีการปลูกต้นปาล์ม และ เฟิร์น เพื่อบังสายตาให้พื้นที่สระว่ายน้ำมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แล้วยังได้บรรยากาศเหมือนรีสอร์ทอีกด้วย

ข้างๆสระจัดเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนมีทั้งแบบม้านั่งยาว นั่งคนเดียวชิลๆ กับ ที่นั่งแบบซุ้มที่นั่งได้ 2 คน

ที่นั่งแบบซุ้มที่นั่งได้ 2 คนค่ะ เป็นส่วนตัวดี

ถัดมาด้านหลังต่อเนื่องจากสระผู้ใหญ่เป็นสระเด็ก ผู้ปกครองสามารถมานั่งดูลูกๆเล่นน้ำที่ที่นั่งด้านหลังได้

บริเวณที่นั่งด้านหลังสระ เป็นแบบซุ้มนั่งกันได้แบบ Private เช่นเดียวกันค่ะ

สระเด็กเป็นสระระบบเกลือเช่นกัน ลึกประมาณ 50 cm.ค่ะ

ด้านหลังสระ มีมุมอาบน้ำล้างตัวมาให้ ก่อนที่จะเดินไปที่ห้องน้ำ

ด้านหลังเป็นห้องฟิตเนสและทางไปห้องน้ำ

มาดูห้องน้ำกันก่อนค่ะ เดินเข้ามาจะเจอกับโถงทางเดินยาวๆเพื่อไปยังห้องน้ำที่แยกชาย-หญิง ตลอดทางมีทำหลังคาคลุมกันแดด-กันฝนไว้ให้ได้ค่ะ

บรรยากาศภายในห้องน้ำทั้งชาย-หญิง ตกแต่งในสไตล์รีสอร์ทคือมีพื้นที่เปิดโล่ง มีจัดสวนและบ่อน้ำอยู่ในห้องน้ำนี้เลย

โดยจะมีทั้งห้องน้ำและห้องอาบน้ำครบค่ะ

บรรยากาศภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำ สังเกตว่าในห้องน้ำจะมีพื้นที่เปิดโล่ง ด้านข้างเป็นสวนและบ่อน้ำอารมณ์รีสอร์ทมากๆ นั่งดูปลาไปด้วยได้ แต่กลางวันแดดจะร้อนหน่อยนะ

มาดูห้องฟิตเนสกันต่อค่ะ

ภายในห้องเป็นกระจกรอบด้าน เล่นไปชมวิวสวนไปด้วยได้

พอเราเดินตามถนนหลักเข้าไปจนเจอกับสะพานนี้ จะสิ้นสุดพื้นที่ของเฟสแรกค่ะ

ข้ามสะพานมาจะเจอกับพื้นที่ของเฟส 2 ซึ่งบรรยากาศยังคงความร่มรื่น ทั้งสองข้างทางเป็นแนวต้นไม้ใหญ่ไปจนสุดโครงการค่ะ

ฝั่งที่อยู่ติดกับถนนหลักทางโครงการจัดเป็นสวนหย่อม ทำรั้วต้นไม้ และ ปลูกต้นไม้ใหญ่มาให้ เขียวขจีแบบนี้เลย

เฟสนี้แบ่งบ้านออกเป็นซอยย่อยเช่นเดียวกับเฟสแรก

บรรยากาศภายในซอยย่อยของเฟสที่ 2 ค่ะ ถนนซอยกว้าง 9 เมตร บริเวณหน้าบ้านทางโครงการจัดสวนหย่อมเป็นไม่พุ่มสลับกับไม้ใหญ่มาให้ และมีทำทางเดินเล็กๆดูเป็นระเบียบเรียบร้อยค่ะ

ตัวบ้านวางเรียงกันแบบนี้ แต่ละซอยมีจำนวนยูนิตไม่เยอะค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • Clubhouse เปิดโล่ง สไตล์รีสอร์ท
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 8.5 x 20 ม. แบ่งสระเด็กลึก 0.5 ม. สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 ม.
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
  • สวนสาธารณะใหญ่ 2 จุด บริเวณหน้าโครงการ และด้านใน จุดละประมาณ 1 ไร่
  • สนามเด็กเล่นและอุปกรณ์ออกกำลังกาย Outdoor
  • ระบบ CCTV บริเวณทางเข้า – ออกโครงการ
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 ม.
  • Key Card Access ระยะใกล้
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการ 2 ชั้น ทั้งไม้กระดกและประตูรั้วเหล็กเพื่อควบคุมความปลอดภัย
  • ถนนหลักกว้าง 16, 12 ม. และถนนภายในซอยกว้าง 9 ม.


Product Walkthrough

โครงการ Zerene พระราม 2-ท่าข้าม เน้นออกแบบตัวบ้านให้โปร่งโล่ง ใกล้ชิดธรรมชาติ เพิ่มความสว่างในบ้านด้วยกระจกแผ่นใหญ่ จัดฟังก์ชั่นตอบสนองการใช้งาน ใช้ประโยชน์ได้สูงสุด และมีพื้นที่ให้สมาชิกในบ้านทำกิจกรรมร่วมกัน มีแบบบ้าน L-Shape ที่มีพื้นที่สีเขียวที่เป็นส่วนตัวหรือที่ทางโครงการเรียกว่า “ห้องธรรมชาติ” แบบบ้านมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ คือ

  • DAHLIA (Size S) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 50.7 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 162 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน 1 ห้องครัว 1 ส่วนรับประทานอาหาร 2 ที่จอดรถ

  • SENNA(Size M) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 59.4 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 173 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน 1 ห้องครัว 1 ส่วนรับประทานอาหาร 2 ที่จอดรถ

  • CASSIA(Size L) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 64.7 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน 1 ห้องครัว 1 ส่วนรับประทานอาหาร 2 ที่จอดรถ

โดยบ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมมีอยู่ 2 แบบคือ SENNA(Size M) ซึ่งเป็นบ้านที่เน้นความโปร่งโล่ง ด้วยกระจกบานใหญ่ และ CASSIA(Size L) บ้าน L-Shape ที่เน้นความเป็นส่วนตัว มีพื้นที่สวนในบ้าน เราไปชมกันค่ะ

บ้านแบบแรกคือ SENNA(Size M) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 59.4 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 173 ตารางเมตร บ้านแบบนี้จะเน้นความโปร่งโล่ง ด้วยกระจกขนาดใหญ่ มีช่องเปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาในตัวบ้านหรือใช้ชมวิวได้ จอดรถได้ 2 คัน มีพื้นที่สวนหย่อมรอบบ้าน เข้ามาในตัวบ้าน ชั้นล่างจะเจอกับพื้นที่เชื่อมต่อกันของห้องรับแขกและห้องอาหาร ห้องอาหารสามารถเปิดประตูข้างบ้าน เชื่อมต่อออกไปที่สวนหย่อมได้ อีกฝั่งของตัวบ้านมีห้องนอน 1 ห้อง ห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน มีพื้นที่อาบน้ำเวลาเร่งด่วนสามารถลงมาใช้ได้ และห้องครัวปิดที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน

ชั้น 2 ขึ้นมาจะเจอกับพื้นที่เอนกประสงค์ สามารถปรับใช้เป็นห้องพระ ห้องทำงาน หรือ ห้องนั่งเล่นก็ได้ เป็นพื้นที่รองรับกิจกรรมในครอบครัว ห้องนอนมีอีก 3 ห้อง แบ่งออกเป็นทางฝั่งขวาเป็นห้องนอนใหญ่ มีระเบียง Walk-in closet และ ห้องน้ำในตัว ส่วนทางฝั่งซ้ายเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องที่ต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน

บ้านแบบ SENNA เป็นบ้านขนาดกลาง หน้ากว้าง 9 เมตร ขนาดที่ดิน 59.4 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 173 ตารางเมตร โครงสร้างเป็นแบบ Pre – Cast หลังคาเป็นโครงหลังคาเหล็กสำเร็จรูป ภายนอกดีไซน์สไตล์โมเดิร์น ตกแต่งด้วยสีโทนขาว เทา สบายตา

ประตูเลื่อนหน้าบ้านเป็นเหล็กสีดำ เลื่อนเข้าไปเก็บด้านข้างได้เต็มแผงแบบนี้เลย เวลารถจะเข้าออกก็สะดวก

ด้านข้างจะมีประตูสำหรับคนเดินมาให้อีก ดีไซน์เป็นเหล็กกล่องสีดำ เรียงกัน เช่นเดียวกัน

หน้าบ้านมีที่ทิ้งขยะแบบมิดชิด คนเก็บขยะก็จะเก็บได้จากนอกบ้านเลย

ที่จอดรถจอดในร่มได้ 2 คัน พื้นที่จอดรถเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก  มีโคมไฟซาลาเปามาให้  1 จุด

รอบๆตัวบ้าน จุดเด่นของโครงการจากปริญสิริคือจะมีการจัดสวนและลงต้นไม้มาให้ค่อนข้างเยอะ ต้นไม้ใหญ่ส่วนใหญ่จะเป็นไม้มงคลค่ะ

อย่างบริเวณหน้าบ้าน ทางโครงการมีการปลูกต้นชมนาด ให้เลื้อยขึ้นไปตามระแนงนี้ได้

บริเวณข้างบ้าน ฝั่งที่เชื่อมต่อจากห้องอาหาร มีพื้นที่ดินเหลือพอสมควร สามารถจัดเป็นสวน หรือ ต่อเติมระแนงทำเป็นพื้นที่ทำกิจกรรม Outdoor แบบในบ้านตัวอย่างได้นะ ซึ่งพอเรามองออกมาจากในบ้านก็จะเห็นวิวเป็นสวนส่วนนี้

ประตูทางออกมาที่สวนจากห้องอาหาร และ บานหน้าต่างบริเวณห้องรับแขกค่ะ

หลังบ้าน และ ด้านข้างบ้านอีกฝั่งหนึ่งมีพื้นที่เหลือพอๆกัน ทางโครงการลงหญ้าและไม้พุ่มเอาไว้ให้รอบๆบ้านค่ะ

กลับมาที่หน้าบ้าน ประตูทางเข้าของบ้านแบบนี้จะเป็นบานกระจกสีเขียวตัดแสง หนา 6 mm. กรอบบานอลูมิเนียม Powder Coat สีดำ เน้นความโปร่ง โล่ง และ รับวิวจากภายนอก

ที่เฉลียงหน้าบ้านมีมุมสำหรับวางรองเท้า โดยจะหาชั้นมาตั้งแล้ววางทางฝั่งขวา ตรงที่เป็นระแนงก็ได้ค่ะ เป็นสัดส่วนดี

เข้ามาภายในบ้านจะเจอกับพื้นที่ต่อเนื่องกันของห้องรับแขกและห้องอาหาร มีช่องแสงมาให้หลายจุดอยู่เหมือนกัน ฝ้าเพดานสูง 2.75 เมตรจึงทำให้รู้สึกโปร่ง โล่ง สามารถใช้แสงธรรมชาติในตอนกลางวันได้ ช่วยประหยัดไฟได้ค่ะ ทางฝั่งขวาของตัวบ้านจึงจะเป็นครัว ห้องน้ำ และ ห้องนอน โดยวัสดุที่ได้ พื้นเป็นกระเบื้อง porcelain ขนาด 60 x 60 cm. ผนังฉาบเรียบทาสีขาว

พิเศษหน่อยตรงที่ฝ้าเพดานจะมีการ Drop ฝ้า ซ่อนไฟหลืบมาให้แบบนี้เลย ดีไซน์สวย เราไม่ต้องไปตกแต่งเพิ่ม

มองกลับไปที่ฝั่งหน้าบ้าน พอผนังทางฝั่งหน้าบ้านและด้านหลังชุดโซฟาเป็นกระจก จึงทำให้บรรยากาศค่อนข้างโปร่ง เหมาะกับคนที่ชอบความโปร่งและชมวิว ระยะดูทีวีประมาณ 3.5 เมตร

พื้นที่รับประทานอาหารจะเชื่อมต่อกับพื้นที่รับแขกแบบนี้เลยค่ะ เป็นพื้นที่ที่ใช้ทำกิจกรรมในครอบครัวได้ดีทีเดียว

ห้องรับประทานอาหาร มีหน้าต่างที่ผนังด้านข้างทั้ง 2 ฝั่ง ดังนั้นบริเวณนี้บรรยากาศจึงค่อนข้างโปร่ง นั่งกินข้าวไปชมวิวไปด้วยได้ค่ะ ถ้าจะจัดงานเลี้ยงที่ต่อเนื่องกับสวนหย่อมข้างบ้านก็สามารถทำได้

ผนังด้านหลังโต๊ะทานข้าว มีทางออกไปที่สวนหย่อมนอกบ้าน เป็นประตูบานเลื่อนกระจก กรอบบานอลูมิเนียม

อีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้านเป็นห้องน้ำ ห้องนอน ห้องครัว และบันไดทางขึ้นชั้น 2 (เรียงจากขวาไปซ้าย)

ห้องน้ำชั้นล่างจัดฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นสัดส่วน มีทั้งพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียก ดังนั้นในเวลาเร่งด่วนก็สามารถลงมาใช้ได้  โดยรูปแบบกระเบื้องเราจะได้ตามบ้านตัวอย่างนี้เลย

พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงจากพื้นภายนอกประมาณ 10  cm.  ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะลดลงอีกประมาณ 3  cm. ค่ะ

อีกจุดเด่นหนึ่งของห้องน้ำ คือทางโครงการเค้าให้กระจกเงาเต็มบานและมีซ่อนไฟให้แบบนี้เลย

อ่างล้างหน้าได้ของ Mogen เป็นแบบที่มีชั้นเก็บของด้านล่าง สามารถใช้เก็บผ้าเช็ดตัวหรือของใช้เล็กๆน้อยๆได้  พื้นที่ด้านบนก็ใช้วางของได้ค่ะ

ก๊อกน้ำเป็นของ American Standard

ผนังด้านบนอ่างล้างหน้า มีทำช่องกว้างประมาณ 10  cm. ใช้วางของเล็กๆน้อยๆได้ ผนังด้านข้างทางโครงการติดตั้งปลั๊กไฟแบบที่มีหน้ากากครอบมาให้ เผื่อสาวๆจะใช้ไดร์เป่าผม

โถสุขภัณฑ์ได้เป็นของ  Mogen

พื้นที่อาบน้ำมีการลดระดับแยกการใช้พื้นที่เป็นสัดส่วน แต่ไม่ได้มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ ซึ่งเราก็สามารถหามาติดตั้งเองได้ไม่ยากค่ะ

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดค่อนข้างกว้าง เหมาะต่อการใช้งาน มีการลดระดับแยกพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วนค่ะ

ฝักบัวของห้องน้ำทุกๆห้องเป็นแบบเลื่อนปรับระดับได้ ใช้งานสะดวก ผนังข้างๆฝักบัวก็มีทำช่องสำหรับวางของพวกสบู่ แชมพูมาให้ เราแทบไม่ต้องติดตั้งเองเลยค่ะ รวมถึงมีการเตรียมงานระบบสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้แล้ว

ชุดฝักบัวได้ของ American Standard

ห้องน้ำทุกห้องจะมีหน้าต่าง สามารถเปิดระบายอากาศได้ ทำให้ห้องน้ำไม่อับชื้น

ชั้นล่างจะมีห้องเอนกประสงค์ให้ 1 ห้อง สามารถจัดพื้นที่ใช้สอยเป็นได้ทั้ง ห้องนอน ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น แล้วแต่ความต้องการของเราเลยค่ะ ห้องนี้มีหน้าต่างทั้ง 2 ฝั่ง อากาศจึงถ่ายเทได้ดี

โครงการนี้เค้าจะมีทำไฟหลืบมาให้แบบนี้เลย ส่วนไฟในห้องได้เป็นไฟซาลาเปา เนื่องจากฝ้าเพดานค่อนข้างสูง ถ้าใครอยากปรับมาเป็นไฟแบบ  Downlight ก็สามารถทำได้นะคะ

มาถึงห้องครัว เป็นครัวปิด ประตูในบ้านตัวอย่างทำมาเป็นบานทึบ ส่วนในบ้านมาตรฐานเราจะได้เป็นบานกระจก กรอบบานอลูมิเนียม

ในบ้านมาตรฐานได้เป็นห้องโล่งๆนะคะ เผื่อให้ลูกบ้านได้จัดและดีไซน์ห้องครัวตามแบบของตัวเอง โดยทางโครงการได้เดินงานระบบต่างๆเอาไว้ให้พร้อมค่ะ

พื้นห้องครัวลดระดับลงมาประมาณ 10 cm. สะดวกต่อการทำความสะอาดและซักล้าง กระเบื้องที่พื้นได้ตามบ้านมาตรฐานนะคะ

โดยห้องครัวจะสามารถเปิดประตูออกมาเชื่อมต่อกับพื้นที่ซักล้างหลังบ้านได้

ในห้องนี้มีติดตั้งแผงควบคุมไฟฟ้าอยู่ผนังด้านข้างประตู

ในห้องครัวมีหน้าต่างบานเลื่อนเอาไว้เปิดระบายอากาศด้วยค่ะ

ออกมาจากห้องครัวจะเจอกับห้องเก็บของอยู่บริเวณใต้บันได

บันไดทางขึ้นชั้น 2 โครงสร้างเป็นเหล็กรูปพรรณ พร้อมทาสีกันสนิม ลูกตั้ง-ลูกนอนเป็นไม้บันไดสำเร็จรูป

บันไดเป็นรูปตัวยู เดินขึ้นมาจะเจอชานพักรูปสามเหลี่ยมเพื่อเปลี่ยนทิศทางของบันได

บริเวณโถงบันไดมีช่องแสงที่ผนังด้านข้าง ทำให้บรรยากาศไม่มืด ไม่ต้องเปิดไฟในตอนกลางวันก็ได้ค่ะ

ช่องแสงตรงโถงบันได ด้านล่างเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งสามารถเปิดระบายอากาศได้ค่ะ

วัสดุพื้นของชั้น2 จะเป็นลามิเนตลายไม้ หนา 8 mm.

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับพื้นที่เอนกประสงค์สำหรับใช้ทำกิจกรรมต่างๆของครอบครัว อย่างในบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องพระ ทางฝั่งขวาเป็นห้องนอนใหญ่ ส่วนทางฝั่งซ้ายเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องและห้องน้ำ

พื้นที่เอนกประสงค์ สามารถปรับใช้เป็นห้องพระ ห้องทำงาน หรือ ห้องนั่งเล่นก็ได้ ถือเป็นพื้นที่รองรับกิจกรรมในครอบครัวค่ะ ผนังฝั่งหน้าบ้านเป็นหน้าต่างบานเลื่อนดังนั้นหากอยากจะกั้นเป็นห้องนอนอีกห้อง ก็สามารถทำได้นะ

ห้องนี้ก็มีการทำฝ้าหลืบซ่อนไฟมาให้ ตามแบบในบ้านมาตรฐานค่ะ

ห้องนอนใหญ่ขนาดค่อนข้างกว้าง เป็นห้องที่มีระเบียง Walk-in closet และ ห้องน้ำในตัว มีช่องแสงทั้งจากประตูทางออกระเบียงและหน้าต่างจึงทำให้ห้องดูโปร่ง อากาศถ่ายเทได้ดี

ห้องนี้ก็จะได้ฝ้าเพดานแบบซ่อนไฟด้วยแต่จะได้ทางฝั่งซ้ายเพียงฝั่งเดียวค่ะ โดยไฟที่โครงการออกแบบมาจะเป็น Indirect light หรือ แสงที่ไม่แยงเข้าตาเวลาเรานอนค่ะ

พื้นที่ข้างเตียงทางฝั่งซ้ายมีระยะสำหรับวางโต๊ะข้างเตียงได้ ส่วนทางฝั่งขวาเหลือเยอะหน่อย วางม้านั่งยาวได้ 1 ชุด

ปลายเตียงมีระยะห่างสำหรับเดินผ่านได้สบายๆ และยังมีระยะพอสำหรับทำตู้ปลายเตียงอีกด้วย

ห้องนี้จะมีระเบียงให้เราออกไปยืนสูดอากาศกันค่ะ โดยประตูทางออกระเบียงเป็นบานเลื่อนกระจก กรอบบานอลูมิเนียม Powder Coat สีดำ

บริเวณระเบียงมีพื้นที่สำหรับวาง Condensing unit ของแอร์เป็นระเบียบเรียบร้อย

อีกฝั่งหนึ่งของห้องจะเป็น Walk-in Closet และห้องน้ำ

พื้นที่ Walk-in Closet ในบ้านมาตรฐานเป็นห้องโล่งๆ เราสามารถ Built-in ตู้เพิ่มได้เองตามใจชอบ พอออกมาจากห้องน้ำก็แต่งตัวบริเวณนี้ได้เลยสะดวกดี มีหน้าต่างบานเปิดมาให้ 1 จุด ช่วยให้ห้องนี้ไม่มืดจนเกินไป

บรรยากาศภายในห้อง Walk-in Closet ในบ้านตัวอย่างค่ะ

มาดูต่อกันที่ห้องน้ำ การตกแต่งและฟังก์ชั่นต่างๆ คล้ายกับห้องข้างล่าง แยกพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียกเป็นสัดส่วน ได้กระจกเงาบานใหญ่เต็มบานแบบนี้

อ่างล้างหน้าจะเป็นรุ่นที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยของ Mogen ผนังด้านหลังมีการก่อออกมาใช้วางของได้เช่นเดียวกับห้องข้างล่าง

พื้นที่อาบน้ำมีฝักบัวของ American standard , ช่องวางของด้านข้าง และ เตรียมงานระบบมาให้ครบ

สำหรับห้องนี้จะแยกพื้นที่ส่วนแห้ง-ส่วนเปียกด้วยการก่อธรณีสูงขึ้นมาค่ะ เราสามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมเองได้นะ

ห้องนอนเล็กห้องแรก มีหน้าต่างทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้ถ่ายเทอากาศได้ดี บรรยากาศสว่าง

มีพื้นที่พอสำหรับวางตู้เสื้อผ้า

ห้องนอนเล็กอีกห้องก็มีหน้าต่าง 2 ฝั่ง เตียงวางได้ขนาดประมาณ 3.5 ฟุตจึงจะพอเหมาะค่ะ

มีระยะทั้งปลายเตียงและข้างเตียงสำหรับทำเป็นตู้

ส่วนห้องน้ำรวมที่ต้องใช้แชร์กันของชั้นนี้ แยกพื้นที่ใช้สอยเป็นส่วนแห้ง-ส่วนเปียกมาให้ครบ การตกแต่งและสุขภัณฑ์คล้ายกันกับห้องอื่นๆค่ะ

บริเวณพื้นที่อาบน้ำก็มีช่องแสง ทำให้ห้องสว่าง สามารถเปิดระบายอากาศได้

ประตูห้องทั่วๆไปเป็นบานประตูไม้สำเร็จรูป แต่ห้องน้ำจะมีบานเกล็ดข้างล่างเพื่อระบายอากาศให้ห้องไม่อับชื้น

ปลั๊กและสวิทช์ของ Schneider

บ้านตัวอย่างหลังที่ 2 ที่จะพาไปชมคือ CASSIA (Size L) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 64.7 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร บ้านแบบนี้ดีไซน์เป็น L-Shape ที่หนาๆหน่อย เน้นความเป็นส่วนตัว ใกล้ชิดธรรมชาติ ขณะเดียวกับก็ได้พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านค่อนข้างเยอะ ตัวบ้านมีพื้นที่ Privacy Court Yard สามารถจัดสวนหรือใช้เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวได้ มีสวนรอบๆบ้าน จอดรถได้ 2 คันเช่นเดียวกันกับบ้านแบบแรก ประตูทางเข้าของบ้านแบบนี้จะเป็นบานเปิดทึบ เพื่อเน้นให้ทางเข้าฝั่งหน้าบ้านมีความเป็นส่วนตัว แล้วไปเปิดช่องแสงภายในบ้านเชื่อมต่อกับพื้นที่ธรรมชาติแทน เข้ามาในบ้านจะเจอกับพื้นที่ต่อเนื่องกันของส่วนรับแขกและรับประทานอาหาร บริเวณนี้ผนังจะเป็นประตูและหน้าต่างบานกระจกโดยรอบ บรรยากาศจึงโปร่ง โล่ง สามารถเดินออกไปเชื่อมต่อกับ Privacy Court Yard หรือที่ทางโครงการเรียกชื่อว่า “ห้องธรรมชาติ” ได้ ห้องครัวเป็นครัวปิดที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน ใช้งานสะดวก อีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้านมีห้องนอน ที่มีหน้าต่างที่มองออกไปจะเห็นวิวสวน และห้องน้ำรวมใช้ร่วมกันหรือใช้เป็นห้องน้ำแขกอีก 1 ห้อง มีพื้นที่อาบน้ำในตัว

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับพื้นที่เอนกประสงค์เช่นเดียวกันกับบ้านแบบแรก ให้เราจัดสรรพื้นที่ได้ตามใจชอบค่ะ ห้องนอนมี 3 ห้อง ฝั่งหน้าบ้านเป็นห้องนอนใหญ่  ขนาดค่อนข้างกว้าง ไม่มีระเบียงแต่มีพื้นที่สำหรับนั่งเล่นเพิ่มเข้ามา วางชุดโซฟาได้ 1 ชุด มี Walk-in closet และ ห้องน้ำในตัว ส่วนทางฝั่งซ้ายเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องที่ต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน ในห้องนอนเล็กมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าและชั้นวางทีวีทุกห้อง

บ้านแบบ CASSIA เป็นบ้านขนาดใหญ่ของโครงการนี้ งานโครงสร้างต่างๆเหมือนกันกับบ้านแบบแรก ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวและธรรมชาติ ช่องแสงจึงถูกออกแบบให้ไปอยู่ในบ้านเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนแทน

ประตูรั้วทั้งส่วนของรถยนต์และคนเดิน เป็นแบบรางเลื่อน เหล็กโปร่ง เลื่อนมาเก็บด้านข้างได้เต็มแผง

ข้างๆประตูรั้วทางรถเข้า เป็นประตูสำหรับคนเดิน มีกริ่งกดเรียกและก็ตู้จดหมายมาให้

บริเวณหน้าบ้านทางโครงการจัดสวน ลงต้นไม้มาให้แบบนี้เลยค่ะ บรรยากาศจึงค่อนข้างร่มรื่น

ในบ้านมีถังขยะที่มีฝาปิดครอบมาให้แบบนี้ ส่วนหน้าบ้านมีบานประตูเล็กๆเป็นช่องสำหรับให้คนเก็บขยะ มาเก็บจากหน้าบ้านได้เลย  เป็นระเบียบดี

ที่จอดรถ จอดในร่มได้ 2 คันค่ะ หน้าบ้านมีช่องหน้าต่างสำหรับให้มองออกมาดูได้ว่ามีแขกคนไหนมาหาเรา และ เป็นบานที่ให้ความสว่างกับโถงบันไดด้วย

รูปทางซ้ายเป็นพื้นที่สวนด้านข้างบ้าน ทางโครงการลงหญ้ามาให้เต็มพื้นที่แบบนี้เลย ส่วนรูปทางขวาเป็นพื้นที่หน้าบ้าน

เช่นเดียวกันกับบ้านแบบแรกคือ ที่ระแนงหน้าบ้านทางโครงการปลูกต้นชมนาดให้เลื้อยขึ้นไปแบบนี้มาให้ โดยต้นชมนาดนี้เป็นไม้ดอกที่ให้กลิ่นหอมของข้าวใหม่ค่ะ ตื่นมาตอนเช้าเราจะได้สดชื่น ^^

จากหน้าบ้านเดินเลี้ยวขวามาแอบสังเกตพื้นที่ Privacy Court Yard หรือที่ทางโครงการเรียกชื่อว่า”ห้องธรรมชาติ” กันซะหน่อย โดยบริเวณนี้จะค่อนข้างเป็นส่วนตัว สมาชิกในบ้านสามารถมาทำกิจกรรมร่วมกันได้ค่ะ ถ้าใครอยากทำสระว่ายน้ำเล็กๆก็ทำได้เลย

กลับมาดูที่ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นบานเปิดทึบ ทำให้หน้าบ้านมีความเป็นส่วนตัว คนนอกมองเข้าไปไม่เห็นในตัวบ้าน จากที่จอดรถพื้นจะมีการยกระดับขึ้นมาเล็กน้อย ช่วยกันน้ำ กันฝุ่นและสะดวกในกรณีที่มีการซักล้างค่ะ

ประตูทางเข้าเป็นโครงไม้ กรุด้วยลามิเนตลายไม้ ตกแต่งด้วยเส้นสแตนเลส

มือจับประตูทางเข้าบ้านเป็นแบบก้านโยก พร้อมอุปกรณ์ตัวล็อค

เข้ามาในบ้านจะเจอกับพื้นที่ต่อเนื่องกันของส่วนรับแขกและรับประทานอาหาร พื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างโปร่งเพราะผนังทางฝั่งข้างบ้านเป็นกระจก และยังมีประตูที่สามารถเปิดออกไปเชื่อมต่อกับสวนนอกบ้านได้

พื้นที่รับประทานอาหารในบ้านมาตรฐาน ทางโครงการมีทำฝ้าเพดานซ่อนไฟแบบในภาพมาให้ด้วย

โซนนี้จะมีทางออกไปเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนด้านนอก นอกจากนั้นยังได้ความสว่างและวิวอีกด้วยค่ะ

Privacy Court Yard พื้นที่สวนส่วนตัวในบ้าน สามารถจัดกิจกรรมต่างๆได้ตามความต้องการของครอบครัว ในบ้านมาตรฐานมีลงหญ้าและต้นไม้มาให้แบบในภาพเลย

สวนนี้จะอยู่ฝั่งที่เป็น L-Shape ของตัวบ้าน ซึ่งห้องที่อยู่ทางฝั่งนี้ทั้งชั้นล่างและชั้นบนจะมองเห็นวิวสวนค่ะ

พื้นที่รับประทานอาหารเชื่อมต่อกับพื้นที่รับแขกแบบนี้เลย ถัดเข้าไปในตัวบ้านจะเป็นห้องครัวและห้องน้ำ

พื้นที่รับประทานอาหาร รองรับสมาชิกได้ประมาณ 6 ที่นั่ง ด้านหลังเป็นหน้าต่างบานเลื่อน ได้ทั้งวิวและแสงสว่างเข้ามาในตัวห้องค่ะ

ห้องครัวเป็นครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนตามแบบในบ้านมาตรฐาน

หน้าห้องครัวมีพื้นที่สำหรับเอาไว้วางตู้เย็น ด้านบนมีแผงควบคุมไฟฟ้าติดตั้งอยู่

ภายในห้องครัวเราได้เป็นห้องโล่งๆแบบในบ้านมาตรฐาน มีเดินงานระบบต่างๆเอาไว้ให้ครบ

พื้นห้องครัวมีการลดระดับลงมาช่วยให้การซักล้างและทำความสะอาดสะดวกมากขึ้น

ผนังด้านหลังอ่างล้างจานมีช่องแสงเอาไว้เปิดระบายอากาศ

ออกจากห้องครัวมาเราไปดูอีกส่วนหนึ่งของตัวบ้านได้แก่ ห้องน้ำและห้องนอนกันค่ะ

ภายในห้องน้ำพื้นและผนังจะปูกระเบื้องเซรามิค แบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นโซนเปียกและโซนแห้งเป็นสัดส่วนตามการใช้งาน มีอ่างล้างหน้า ชุดโถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์อื่นๆ ครบพร้อมใช้งาน แต่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ ซึ่งเราหาติดตั้งเองได้ไม่ยากค่ะ

อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ของ Mogen รุ่นเดียวกับบ้านแบบแรก

ด้านในสุดของห้องน้ำจัดเป็นพื้นที่อาบน้ำ ติดตั้งอุปกรณ์และเผื่อสำหรับงานระบบมาให้ครบ มีบานหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศ

ถัดมาเป็นห้องนอนวางเตียงได้ 3.5-5 ฟุต เหมาะกับการจัดเป็นห้องนอนแขกหรือห้องนอนผู้สูงอายุ หรือจะทำเป็นห้องทำงานก็ได้ค่ะ ฝ้าเพดานมีทำไฟหลืบมาให้

ห้องนี้จะมีบานหน้าต่างซึ่งถ้ามองออกไปจะเห็นเป็นวิวสวน Privacy Court Yard

ฝั่งหน้าห้องมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า และ มีหน้าต่างอีกจุดหนึ่ง

บันไดทางขึ้นชั้น 2 อยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน หลังผนังของพื้นที่รับแขก

ข้างๆบันไดจะมีห้องเก็บของ ภายในสามารถเก็บของได้พอสมควร เก็บของชิ้นใหญ่ได้

บันไดทางขึ้นชั้น 2 โครงสร้างเป็นเหล็กรูปพรรณ พร้อมทาสีกันสนิม ลูกตั้ง-ลูกนอนเป็นไม้บันไดสำเร็จรูป

บรรยากาศบริเวณโถงบันไดค่อนข้างสว่าง แทบไม่ต้องเปิดไฟในเวลากลางวันเพราะได้แสงทั้งจากบานหน้าต่าง และ ไฟที่ซ่อนตรงผนัง

ผนังบริเวณโถงบันได ทางโครงการมีซ่อนไฟมาให้แบบนี้เลยค่ะ สามารถเปิดให้ความสว่างบริเวณบันไดได้โดยไม่ต้องเปิดไฟส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะในเวลากลางคืน

บันไดจะวนขึ้นมามีชานพักอยู่ 2 จุดตามนี้

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ตรงกลางเป็นพื้นที่เอนกประสงค์ที่บ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องนั่งเล่น ทางฝั่งขวาเป็นห้องนอนใหญ่ ส่วนทางฝั่งซ้ายเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องและห้องน้ำ

มุมมองย้อนกลับไปที่โถงบันได จะเหลือพื้นที่ระหว่างโถงบันไดกับห้องนั่งเล่นอยู่พอสมควร

พื้นชั้น 2 เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 mm. ค่ะ

พื้นที่เอนกประสงค์ ที่บ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องนั่งเล่น มีขนาดห้องกว้างพอสมควร มีหน้าต่างบานเลื่อนเอาไว้เปิดระบายอากาศ และ มีไฟหลืบมาให้ด้วย 1 จุด ถ้าเราไม่อยากจัดเป็นห้องนั่งเล่นก็สามารถทำเป็นห้องนอน ห้องพระ หรือ ห้องทำงานก็ได้ค่ะ

ต่อมาเรามาดูกันที่ห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) ห้องนี้ค่อนข้างกว้าง วางเตียง king size ได้ เป็นห้องที่มี Walk-in Closet และ ห้องน้ำในตัว แต่ไม่มีระเบียง เพราะออกแบบมาเน้นการใช้พื้นที่ใช้สอยในห้องแทน

จึงมีพื้นที่นั่งเล่นเพิ่มเข้ามา บริเวณนี้สามารถจัดชุดโซฟาประมาณ 2-3 ที่นั่งได้ตามภาพเเอาไว้นั่งเล่น นอนเล่น พักผ่อน หรือ จะทำเป็นมุมทำงาน เอาโต๊ะทำงานมาตั้งก็ได้ ผนังทั้ง 2 ฝั่งเป็นหน้าต่าง จึงทำให้พื้นที่ส่วนนี้โปร่ง โล่ง ไม่มืด ดูวิวไปด้วยได้

อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็น  Walk-in Closet และ ห้องน้ำค่ะ ทางด้านขวามีพื้นที่สำหรับให้เรา Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าได้ ในบ้านตัวอย่างดีไซน์เป็นบานเลื่อนให้ดูกลมกลืนกับบานประตูทางเข้าห้อง Walk-in Closet  เราสามารถเอาไอเดียนี้ไปใช้ในการแต่งบ้านได้นะ

พื้นที่ Walk-in Closet ทำตู้เสื้อผ้าได้เต็มแผงและยังมีมุมทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ แต่ฟังก์ชั่นต่างๆของห้องนี้ก็แล้วแต่เราจะจัดนะคะ

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ จัดพื้นที่ภายในแบ่งส่วนเปียกแห้งมาให้เป็นสัดส่วน  กระเบื้องได้ตามในห้องตัวอย่างนี้เลย ส่วนวัสดุอุปกรณ์ต่างๆเหมือนกับห้องน้ำห้องอื่นๆค่ะ

ได้กระจกเงาบานใหญ่ ซ่อนไฟด้านหลังรอบกระจก มีก่อผนังเอาไว้สำหรับวางของ

ผนังบริเวณพื้นที่อาบน้ำมีหน้าต่าง เพื่อถ่ายเทอากาศและเชื้อโรค ให้ห้องน้ำของเราไม่อับชื้น

อีกฝั่งจะเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องและห้องน้ำที่ใช้แชร์กันค่ะ

ห้องนอนเล็ก พื้นที่ภายในห้องสามารถจัดพื้นที่ให้สามารถวางเตียงขนาด 3.5 – 5 ฟุตได้ มีหน้าต่างบานเปิดทั้ง 2 ฝั่ง สามารถเปิดรับแสงและลมจากภายนอก

มีทำฝ้าเพดานแบบซ่อนไฟมาให้

ด้านข้างเตียงมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งแล้วยังเหลือพื้นที่เดินให้ใช้งานได้สะดวก

ห้องนอนเล็กอีกห้องก็เช่นเดียวกัน พื้นที่พอๆกับห้องนอนเล็กห้องแรก มีหน้าต่างบานเปิดให้ 2 ฝั่งให้สามารถเปิดใช้งานเปิดรับลมและรับแสงธรรมชาติได้

ผนังด้านข้างเตียงมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า

มาที่ห้องน้ำในชั้นบนที่ต้องใช้แชร์กันค่ะ ดีไซน์เหมือนห้องอื่นๆก่อนหน้า ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นโซนเปียกและโซนแห้งเป็นสัดส่วน มีอ่างล้างหน้า พร้อมชุดโถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์อื่นๆ ภายในห้องน้ำให้ครบพร้อมใช้งาน

อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ของ Mogen

พื้นที่อาบน้ำแยกเป็นสัดส่วน มีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 12 October 2017

  • แบบ DAHLIA (Size S) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 50.7 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 162 ตารางเมตร ราคา 5.99 ล้านบาท
  • แบบ SENNA (Size M) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น (แปลงมุม) ขนาดที่ดิน 59.4 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 173 ตารางเมตร ราคา 6.79 ล้านบาท
  • แบบ CASSIA (Size L) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 64.7 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร ราคา 6.99 ล้านบาท

  • จอง 50,000 บาท
  • ทำสัญญา 100,000 บาท (ภายใน 7 วันหลังจากวันจอง)
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตร.วาละ 50,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 25 บาท/ตร.ว./เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อและผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลของโครงการ Zerene พระราม 2 – ท่าข้าม ตั้งอยู่บนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้ ระหว่างถนนท่าข้ามและถนนพุทธบูชา ย่านนี้เป็นทำเลที่ขยายตัวออกมาจากทางฝั่งถนนพระราม2 ถนนท่าข้ามและถนนประชาอุทิศ โดยถนนเลียบวงแหวนฯนี้ปัจจุบันมีความเจริญมากขึ้นเรื่อยๆ สภาพแวดล้อมส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่สีเขียวสลับกับที่อยู่อาศัยแนวราบที่เกาะตามแนวถนนวงแหวนฯ  รองรับทั้งกลุ่มคนในพื้นที่ เจ้าของกิจการย่านใกล้เคียง และ คนที่มองหาบ้านที่ไม่ไกลจากเมืองมากนัก เดินทางสะดวก เนื่องจากเป็นทำเลที่กำลังมีการขยายตัวและต้องพึ่งพาการเดินทางด้วยรถยนต์เป็นหลัก ความอุดมสมบูรณ์บริเวณใกล้ๆกับโครงการ ถ้าจะหาแหล่งกินที่ใกล้ที่สุดก็จะอยู่ใกล้ๆ กับโรงเรียนสวนกุหลาบธนบุรี ห่างไปไม่ไกล ขยับออกมาในระยะไม่เกิน 5 กม. จะมี 7-11 บริเวณซอยอนามัยงามเจริญและตลาดสดมารวยที่อยู่ในซอยท่าข้าม ส่วนความอุดมสมบูรณ์หลักจะอยู่ในเส้นพระราม 2 ซอยท่าข้าม และถนนพุทธบูชา บนถนนพระราม 2 นั้นจะมีทั้ง Central พระราม2 , BigC และ Lotus ส่วนโรงพยาบาลแถวนี้ก็เยอะมากๆ มีทั้งโรงพยาบาลบางปะกอก1 หรือ9 หรือโรงพยาบาลนครธน และบางมด โรงเรียนที่ใกล้เคียงก็จะมีโรงเรียนสวนกุหลาบ ธนบุรีที่คอร์สแบบอินเตอร์ด้วย โตไปหน่อยก็จะมีสถาบันพระจอมเกล้าธนบุรีอยู่ตรงถนนประชาอุทิศ ถือเป็นทำเลที่พื้นที่โดยรอบมีสถานที่สำคัญและสาธารณูปโภคต่างๆครบครันค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ ค่อนข้างสะดวกมีเส้นทางเชื่อมต่อไปยังถนนหลักได้หลากหลายเข้าออกเมืองได้หลายทาง การจะเข้าโครงการจากถนนใหญ่พระราม 2 เข้าได้หลัก 3 ทางคือ เข้าจากซอยพระราม 2 ซอย 33 , ซอยท่าข้าม หรือเข้าจาก ถ.บางขุนเทียน-ชายทะเล ส่วนทางเข้าอื่นๆ สามารถเข้าจากถนนกาญจนาภิเษกโดยตรงเลยก็ได้ หรือจะถ้ามาทางสุขสวัสดิ์ก็วิ่งเลียบทางด่วนมาได้เช่นกัน เหมาะกับการใช้รถเป็นยานพาหนะหลัก ถึงแม้จะมีการจราจรหนาแน่นในช่วงเช้า-เย็นและวันหยุด แต่ภายในซอยของโครงการก็สามารถลัดไปเชื่อมกับเส้นทางหลักได้โดยไม่ต้องห่วงเรื่องการจราจรในซอยท่าข้าม นอกจากนั้นยังใกล้ทางด่วนทั้ง ทางด่วนเฉลิมมหานคร อยู่ห่างจากโครงการ 21.7 กิโลเมตร และ ทางด่วนวงแหวนรอบนอกตะวันตกอยู่ห่างจากโครงการ 9.8 กิโลเมตร ส่วนถ้าจะ เดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ อาจจะต้องพึ่งพาแท็กซี่เพื่อเข้าเมือง ซึ่งด้านหน้าโครงการก็วิ่งผ่านตลอดค่ะ

การออกแบบ โครงการออกแบบเน้นเรื่องพื้นที่สีเขียว โดยอยากให้ลูกบ้านได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด การวางผังตัวบ้าน ออกแบบให้เป็นแบบก้างปลาคือมีถนนหลักกว้าง 12,16 เมตร ตัดตรงเข้าไปถึงท้ายโครงการ และแบ่งเป็นซอยย่อย ถนนซอยกว้าง 9 เมตร แต่ละซอยจะมีจำนวนบ้านไม่เยอะจึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว ไม่เป็นซอยตันลูกบ้านสามารถขับรถวน หรือ ทำกิจกรรมเพื่อสุขภาพ เช่นวิ่งออกกำลังกายได้ มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ DAHLIA 162 ตารางเมตร , SENNA  173 ตารางเมตร และ CASSIA 190 ตารางเมตร ออกแบบตัวบ้านให้โปร่งโล่ง ใกล้ชิดธรรมชาติ เพิ่มความสว่างในบ้านด้วยกระจกแผ่นใหญ่ จัดฟังก์ชั่นตอบสนองการใช้งาน ใช้ประโยชน์ได้สูงสุด และมีพื้นที่ให้สมาชิกในบ้านทำกิจกรรมร่วมกัน มีแบบบ้าน L-Shape ที่มีพื้นที่สีเขียวที่เป็นส่วนตัวหรือที่ทางโครงการเรียกว่า “ห้องธรรมชาติ”

วัสดุ ของโครงการนี้ ให้มาครบตามมาตรฐาน พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้อง porcelain พื้นชั้น 2 เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 mm. ฝ้าเพดานพิเศษหน่อยตรงที่มีการทำเป็นหลืบซ่อนไฟให้ด้วย ฝ้าเพดานสูงโปร่ง 2.75-2.8 เมตร ในห้องน้ำคัดสรรกระเบื้องมาค่อนข้างดี มีทั้งแกรนิตโต้และเซรามิค ดีไซน์สวย ให้อุปกรณ์ต่างๆครบ ให้กระจกเงาบานใหญ่ที่ซ่อนไฟด้านหลัง ประตูหน้าต่างบานอลูมิเนียม Powder Coat สีดำ กระจกสีเขียวตัดแสง หนา 6 mm

สาธารณูปโภค ของที่นี่เด่นในเรื่องของพื้นที่สีเขียวที่ให้มาค่อนข้างเยอะ มีสวนหย่อมขนาดใหญ่ 2 จุด จุดละประมาณ 1 ไร่ พร้อมสนามเด็กเล่นและอุปกรณ์ออกกำลังกาย นอกจากนั้นยังมีการจัดสวนแทรกให้ในทุกๆพื้นที่  มีต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศร่มรื่น  มี Club house สไตล์รีสอร์ทที่มี Lobby ห้องฟิตเนส และ สระว่ายน้ำอยู่บริเวณหน้าโครงการ  เพื่อให้ลูกบ้านมาใช้กันหรือสามารถใช้เป็นที่พักคอย-นัดพบกับเพื่อนๆได้

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 6 – 8 ล้านบาท, 12 October 2017

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.25/10 – ติดถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้ เส้นทางลัดเยอะ ใกล้ทางด่วน
  • ความปลอดภัย 7.25/10 – Keycard access ระยะใกล้ รั้วเลื่อนเปิด รปภ. กล้อง CCTV
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – ออกแบบฟังก์ชั่นได้ลงตัว โปร่งโล่ง มีแบบบ้าน L-shape ได้พื้นที่สวน มีการดีไซน์ให้ตัวบ้านประหยัดพลังงาน 
  • วัสดุ 7.75/10 – ได้ทุกอย่างครบครัน ให้กระเบื้องดีไซน์สวยและมีกระจกเงาบานใหญ่ซ่อนไฟในห้องน้ำ มีฝ้าเพดานแบบซ่อนไฟมาให้เกือบทุกห้อง 
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 9.5/10 – มีพื้นที่สีเขียวค่อนข้างเยอะมากๆ ทั้งสวนหย่อมและรอบๆโครงการ ร่มรื่น
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – Clubhouse สระว่ายน้ำ สวนขนาดใหญ่ + ฟิตเนส(อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง)
  • 7.74/ 10.00

BOTTOM LINE

Zerene พระราม 2-ท่าข้าม เหมาะกับคนที่กำลังมองหาบ้านในย่านพระราม2 ที่มีความสงบเน้นใช้รถยนต์ส่วนตัว ทำเลไม่ติดถนนหลักแต่ว่าลัดเลาะ เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วน ชอบโครงการที่มีพื้นที่สีเขียวเยอะ ร่มรื่น มีแบบบ้านให้เลือกทั้งแบบโปร่งโล่งช่องแสงเยอะ และ แบบเป็นส่วนตัวมีสวนในบ้าน มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้ครบ มีงบประมาณ 6-8 ล้านบาท หรือ ผ่อนต่อเดือนประมาณ 42,000 – 49,000 บาท

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )