รีวิวฉบับที่ 1040 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการบ้านเดี่ยวของ Real Asset กับโครงการ Viranya วงแหวน-อ่อนนุช ตั้งอยู่บนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาฯฝั่งตะวันออก ช่วงถนนบางนา-ตราดมุ่งหน้าถนนอ่อนนุช ไม่ไกลจากทางขึ้น-ลงทางด่วนบางนา-ชลบุรีและสนามบินสุวรรณภูมิ ตัวโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 51 ตารางวา ในราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท นับเป็นโครงการบ้านเดี่ยวโครงการแรกของ Real Asset ซึ่งที่ผ่านมาจะเน้นทำโครงการทาวน์เฮ้าส์ เราไปดูโครงการพร้อมๆกันเลยค่ะ
Fact @ 24 March 2016
- Viranya Wongwaen-Onnut (วิรัณยา วงแหวน-อ่อนนุช)
- บริษัท เรียล แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ประเวศ
- เนื้อที่โครงการ 43-1-65 ไร่ จำนวน 169 ยูนิต
- แบบบ้าน Matura พื้นที่ใช้สอย 171.72 ตร.ม.
- แบบบ้าน Blooma พื้นที่ใช้สอย 154.22 ตร.ม.
- แบบบ้าน Floretta พื้นที่ใช้สอย 141.37 ตร.ม.
- ที่ดินแปลงมาตรฐาน 51 ตร.วา
- ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาทหรือ 80,000 บาท/ตร.วา
- โครงการเริ่มก่อสร้าง : ธันวาคม ปี 2557
- คาดว่าแล้วเสร็จ : สิงหาคม ปี 2559 (เฟส 1)
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 1232 กด 12
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.688311, 100.699018
ทำเลของโครงการ Viranya วงแหวน-อ่อนนุช อยู่บน “เส้นคู่ขนานเลียบวงแหวนกาญจนาฯตะวันออก” ในส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง กับถนนบางนา-ตราด ซึ่งถ้ามาจากทางบางนา ก็คือแยกใหญ่ๆตรงข้าม MEGA และ IKEA ส่วนถ้ามาจากอ่อนนุชก็ทางเชื่อมแถวๆสี่แยกประเวศนะคะโดยโครงการนี้เข้าออกได้ทั้งหมด 4 เส้นทางด้วยกัน คือ
- จากถนนบางนา-ตราด เบี่ยงซ้ายเข้าคู่ขนานกาญจนาฯ
- จากถนนลาดกระบัง เข้าถนนสุขาภิบาล 2 เลี้ยวขวาเข้าคู่ขนานกาญจนาฯ
- จากซอยกิ่งแก้ว ซอย 25/1 แล้วกลับรถเข้าคู่ขนานกาญจนาฯ ไปฝั่งที่มุ่งหน้าไปอ่อนนุช
- จากถนนมอเตอร์เวย์ เข้าถนนกาญจนาฯ ฝั่งมุ่งเข้าบางนา แล้วกลับรถเข้าคู่ขนานกาญจนาฯ ไปฝั่งที่มุ่งหน้าไปอ่อนนุช
โครงการตั้งอยู่ในเขตประเวศทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงเทพฯ ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิและถนนใหญ่บางนา-ตราด จัดว่าเป็นทำเลที่อยู่อาศัยในย่านชานเมืองที่ไม่ห่างจากเมืองมาก สามารถเดินทางไปพระราม 9 ได้ด้วยถนนมอเตอร์เวย์ และไม่ไกลจากถนนอ่อนนุชช่วงสี่แยกประเวศ ทำเลเกาะอยู่กับถนนวงแหวนรอบนอกที่จะวิ่งรอบกรุงเทพและปริมณฑล โดยถนนวงแหวนรอบนอกเองจะมีถนนที่ขนานทั้งสองฝั่ง เรียกว่าถนนเลียบวงแหวนรอบนอกไว้สำหรับเป็นถนนรองที่แยกเข้าพื้นที่รอบข้าง ทั้งมุ่งหน้าไปตัดกับถนนสุขุมวิท 77 หรือถนนอ่อนนุช และฝั่งที่มุ่งหน้าไปตัดกับทางด่วนบูรพาวิถีที่ด้านล่างจะเป็นถนนบางนา-ตราด
ทางเข้าโครงการจะอยู่บนถนนเลียบวงแหวนรอบนอกฝั่งที่มุ่งหน้าไปยังถนนอ่อนนุช ระหว่างถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 30 และซอยกาญจนาภิเษก 46 สามารถเดินทางไปยังโครงการได้จากถนนหลากหลายเส้นทั้งทางถนนธรรมดาและทางด่วนที่ต้องจ่ายเงิน แต่ทุกเส้นทางก็จะต้องมาบรรจบที่ถนนเลียบวงแหวน
- เส้นทางแรกจากเส้นบางนา-ตราดใต้ทางด่วนบูรพาวิถีเลี้ยวเข้าถนนเลียบวงแหวน
- เส้นทางที่ 2 ถ้ามาจากทางลาดกระบังเลี้ยวซ้ายเข้าสุขาภิบาล 2 ตามทางเลียบวงแหวนไปเรื่อยๆ ผ่านสะพานลอยแล้วเตรียมกลับรถไปอีกฝั่งหนึ่งของถนนวงแหวน ไปฝั่งมุ่งหน้าไปอ่อนนุช
- เส้นทางที่ 3 มาจากถนนกิ่งแก้ว ซอย 25/1 วิ่งตรงไปจนสุดซอยจะทะลุถนนเลียบวงแหวนกลับรถไปอีกฝั่งหนึ่งของถนนวงแหวน ไปฝั่งมุ่งหน้าไปอ่อนนุช
- ส่วนทางสุดท้ายเป็นเส้นทางที่ต้องจ่ายเงินคือเส้นมอเตอร์เวย์ที่จะมีทางโค้งมาลงถนนเลียบวงแหวนฝั่งมุ่งหน้าเส้นบางนา-ตราด แต่ต้องแยกออกไปเลี้ยวนิดหน่อยที่ถนนสุขาภิบาล 2 แล้ว U-turn ใต้ถนนมายังฝั่งมุมหน้าอ่อนนุชซึ่งเป็นฝั่งที่ตั้งโครงการค่ะ
แม้ว่าภายในถนนเลียบวงแหวนรอบนอกทั้งสองฝั่งจะมีหมู่บ้านแนวราบหลายต่อหลายโครงการ แต่ความอุดมสมบูรณ์ภายในพื้นที่ในระยะเดินหาได้ยาก แปลงพื้นที่รอบข้างยังมีอีกเยอะที่เป็นแปลงที่ดินว่างเปล่ารอการพัฒนา ดังนั้นต้องอาศัยรถส่วนตัวล้วนๆในการเดินทางหรือการหาของกินของใช้ ลำพังถนนเลียบวงแหวนเฉยๆจะพึ่งพาไม่ได้มาก มีแค่ตลาดรอบๆ ม.รามคำแหง 2 (วิทยาเขตบางนา) ได้แก่ ตลาดราม 2 ไนท์บาซาร์, ตลาดนัมเบอร์วัน แต่การจราจรพื้นที่รอบๆ ม.รามคำแหง 2 ค่อนข้างจะหนาแน่นตลอดค่ะ นอกจากนั้นต้องขยับออกมาอีกที่ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ที่จะมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ให้ไปใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจกันได้ หรือว่าจะเป็นที่เส้นอ่อนนุชที่จะมีสภาพความเป็นชุมชนมากขึ้น มีตลาด มีอาคารพาณิชย์ขายของขึ้นมาหน่อย แต่ถ้าอยากจะช็อปปิ้งแบบจริงจังในห้าง ก็ต้องขับไปยังฝั่งที่ตัดกับถนนบางนา-ตราดที่จะมีทั้ง Ikea บางนา, Mega Bangna, Foodland บางนา หรือ Central City บางนาค่ะ
ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะอย่าง รถรับจ้าง เช่น Taxi รถมอเตอร์ไซด์รับจ้าง จะหาได้ยากหน่อย แต่ที่พบเจอจะเป็นรถสองแถวที่วิ่งทางตรงบนถนนเลียบวงแหวน (วิ่งระหว่างมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 – ทับช้าง) ซะมากกว่า ส่วนรถไฟฟ้า BTS สถานีใกล้เคียงที่สุดคือสถานีอุดมสุขห่างจากโครงการประมาณ 13 กม. และสถานีอ่อนนุชห่างจากโครงการประมาณ 15.4 กม. ถ้าเป็น Airport Link ที่ใกล้สุดจะเป็นสถานีบ้านทับช้างห่างจากโครงการประมาณ 11.9 กม. นอกจากนั้นภายในระยะ 10 กิโลเมตร ก็จะมีสถานที่สำคัญอื่นๆอีก เช่นโรงเรียนราชวินิต บางแก้ว, ม.รามคำแหง, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง และโรงพยาบาลสิรินธร
เส้นทางที่เราจะพาไปในวันนี้ จะเริ่มจากเซ็นทรัลบางนา ขับตรงไปบนทางคู่ขนานถนนบางนา-ตราด มุ่งหน้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตรงไปเรื่อยๆแล้วเลี้ยวเข้าถนนเลียบวงแหวนรอบนอก ผ่านโรงเรียนคลองปักหลักทางซ้ายมือ ถัดไปอีกนิดผ่านหมู่บ้าน Bangkok Boulevard อยู่ทางซ้ายมืออีกเช่นกัน ก็เตรียมเลี้ยวซ้ายเพราะที่ตั้งโครงการติดกับหมู่บ้าน Bangkok Boulevard ค่ะ
เริ่มต้นบนถนนบางนา – ตราดวิ่งตรงไปตามป้ายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถนนเส้นนี้เป็นถนนใหญ่ 14 เลน ไป 7 กลับ 7 เลน โดยจะแบ่งเป็นทางคู่ขนานบางนาตราด 3 เลนฝั่งซ้ายสำหรับรถที่ต้องการออกถนนบางนา-ตราด เพื่อเตรียมเลี้ยวเข้าอาคารหรือเลี้ยวเข้าซอยต่างๆ ส่วน 4 เลนฝั่งขวาจะวิ่งตรงยาวๆ จึงเป็นเลนที่รถวิ่งเร็วเป็นส่วนใหญ่ การเดินทางไปโครงการบริเวณนี้สามารถวิ่งอยู่ฝั่งขวาของถนนบางนา -ตราดไปก่อนได้ค่ะ ถ้าขับผ่านปั๊ม Shell ทางซ้ายมือเมื่อไหร่ ก็ค่อยชิดซ้ายเพื่อเตรียมออกเลนคู่ขนานด้านนอกค่ะ
ผ่านหน้าห้างเซ็นทรัลบางนาซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้ง กินข้าว ดูหนังที่สำคัญแห่งหนึ่งของย่านนี้นะคะ ติดกันจะเป็น Big C
วิ่งตรงมาอีกนิดจะเจอ SB Design Square สาขาบางนา ตั้งอยู่ในอาคาร Ample Tower ซึ่งชั้นล่างของตึก (ส่วนที่เป็น Podium) จะเป็น SB ที่ขาย Furniture และของตกแต่งบ้าน ส่วนชั้นบนเป็นอาคารสำนักงานให้เช่าค่ะ
ถัดมาจะเจอ Index Living Mall ซึ่งเป็นที่ขาย Furniture และของตกแต่งบ้านอีกเช่นกันค่ะ
ตรงมาเรื่อยๆจะเจอป้ายไปถนนกาญจนาภิเษก ฝั่งซ้ายมีจุดสังเกตทางออกคือปั๊ม Shell ให้ชิดซ้ายเพื่อออกทางคู่ขนานค่ะ
ไปตามป้ายถนนกาญจนาภิเษก ให้ชิดซ้ายออกทางคู่ขนานค่ะ
ออกมาที่ทางคู่ขนานก็ยังตรงต่อไปตามป้ายถนนกาญจนาภิเษก ส่วนทางซ้ายเป็นทางเข้าไปมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 (วิทยาเขตบางนา) ซึ่งบริเวณโดยรอบมหาลัยจะมีตลาดหลายแห่ง เช่น ราม 2 ไนท์บาซาร์, ตลาดนัมเบอร์วัน เส้นทางไปราม 2 นี้สามารถทะลุไปเส้นเลียบวงแหวนกาญจนาฯ ที่เป็นถนนด้านหน้าโครงการได้เหมือนกันนะคะ แต่ถ้าไม่ได้จะเข้าไปเดินตลาดแนะนำว่าใช้เส้นทางหลักที่แนะนำอยู่นี่จะเร็วกว่าค่ะ เพราะเส้นทางที่ผ่านราม 2 นี้การจราจรค่อนข้างหนาแน่นมาก โดยเฉพาะเวลาเร่งด่วน
ตรงมาฝั่งซ้ายจะผ่าน Lotus Extra สาขาราม 2 ส่วนฝั่งขวาจะเป็น Mega Bangna ซึ่งถ้าจะไป Mega Bangna ต้องขึ้นสะพานกลับรถด้านขวานะคะ แต่ถ้าไปโครงการเราจะต้องตรงไปค่ะ
ขับชิดซ้ายมาเรื่อยๆ จะมีทางแยกหลายเส้นทางซึ่งถ้าเลี้ยวผิดไปเส้นอื่นจะต้องไปกลับรถไกลเลยค่ะ…อย่าเลี้ยวผิดน้าา ที่ทางแยกจะมีให้เลือกไปท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ไปเส้นบางปะอิน, ไปถนนพระราม 2 และไปถนนอ่อนนุช ทางไปโครงการเราเลือกชิดซ้ายสุดไปทางถนนอ่อนนุชค่ะ
เลี้ยวซ้ายเข้ามาบนถนนเลียบวงแหวนจะผ่านร้านอาหาร View Dee เป็นร้านอาหารบรรยากาศชิวๆ บนทะเลสาบ เปิดตอนเย็นๆค่ะ
พื้นที่ละแวกนี้จะมีโครงการเพื่อนบ้านหลายโครงการเลยค่ะ ทั้ง คาซ่า วิลล์, เดอะแกรนด์, Nara Home, Blue Lagoon รวมถึงโครงการด้านซ้ายคือโครงการ Lake View Park ซึ่งด้านหน้าโครงการจะมี Lake View สปอร์ตคลับ ซึ่งนอกจากจะมีกีฬาให้เลือกเล่นแล้วยังมีร้านค้าร้านอาหารและ 7-11 ให้พอเป็นที่พึ่งยามหิวได้ค่ะ
ผ่านสปอร์ตคลับมาจะเจอทางเลี้ยวไปถนนนัมเบอร์วัน – ราม 2 ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดอีกหลายแห่ง ที่ใหญ่หน่อยก็จะมีตลาดราม 2 ไนท์บาซาร์ และตลาดนัมเบอร์วัน และถนนนี้ยังสามารถทะลุไปถนนบางนา – ตราดได้อีกด้วย ถ้าจะไป Mega Bangna หรือ Lotus Extra สาขาราม 2 ก็ใช้เส้นนี้ไปได้
ตรงมาเรื่อยๆจะผ่านโรงเรียนคลองปักหลัก ฝั่งตรงข้ามของโรงเรียนเป็นทางออกจากที่กลับรถ ที่มาจากอีกฝั่งของถนนเลียบวงแหวนค่ะ
ผ่านหน้าหมู่บ้าน Bangkok Boulevard ให้เตรียมชะลอแล้วนะคะ เพราะติดกันจะเป็นโครงการ Viranya แล้วค่ะ
ถึงแล้วค่ะ โครงการจะตั้งอยู่ทางซ้ายมือ มีป้ายชื่อโครงการด้านหน้าชัดเจน สังเกตไม่ยากค่ะ เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการได้เลย
มาดูรอบๆโครงการกันหน่อยนะคะ บนถนนเลียบวงแหวนรอบนอกกว้าง 2 เลน ไป 1 กลับ 1 เลน มุ่งหน้าถนนสขุมวิท 77 หรือแยกประเวศ ทั้งสองฝั่งถนนเลียบวงแหวนจะเป็นพื้นที่โครงการบ้านพักอาศัยแนวราบซะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนแปลงเล็กๆหน่อยก็จะเป็นบ้านพักอาศัยแบบปลูกเองรายย่อย บางแปลงปล่อยว่างเปล่ารอการพัฒนา ถนนฝั่งเดียวกับโครงการจะมีซอยย่อย บางซอยเป็นซอยตัน บางซอยสามารถทะลุไปออกถนนบางนา – ตราด บางซอยเป็นซอยที่สามารถต่อเนื่องกับซอยจากถนนเฉลิมพระเกียรติร.9 ได้ ทางเข้าโครงการจะอยู่ระหว่างะหว่างถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 30 และซอยกาญจนาภิเษก 46 ข้างทางเข้าโครงการฝั่งหนึ่งจะเป็นหมู่บ้าน Bangkok Boulevard อีกฝั่งเป็นพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ทางทิศเหนือ ทางทิศตะวันตกก็จะเป็นพื้นที่ว่างเปล่าเช่นกัน ส่วนทางใต้จะเป็นหมู่บ้านรุ่นพี่อย่าง Bangkok Boulevard ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า Viranya นะคะ ส่วนทางทิศตะวันออกจะติดกับถนนเลียบวงแหวน ซึ่งโครงการจะเข้าออกได้ทางเดียว สำหรับเส้นประสีแดงจะเป็นแนวเสาไฟฟ้าแรงสูงที่ผ่านเข้ามาในโครงการ โครงการจึงทำพื้นที่ส่วนนี้ให้เป็นทะเลสาบแทน ไม่ได้ทำเป็นบ้านพักอาศัยนะคะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- มหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา ~ 4.5 กม.
- ราม 2 ไนท์บาร์ซาร์ ~ 4.9 กม.
- โรงพยาบาลสิรินธร ~ 5.3 กม.
- สวนหลวง ร.๙ ~ 5.5 กม.
- Lotus Extra สาขาราม 2 ~ 6.5 กม.
- IKEA บางนา ~ 7 กม.
- โรงเรียนราชวินิต บางแก้ว ~ 8.6 กม.
- โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พัฒนาการ ~ 10.7 กม.
- Central city บางนา ~ 11.2 กม.
- โรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส ~ 11.6 กม.
- Seacon Square ~ 11.8 กม.
- Paradise Park ~ 12.6 กม.
- ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์ ~ 12.6 กม.
- สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง ~ 13.7 กม.
- สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 13.8 กม.
โครงการ Viranya อ่อนนุช-วงแหวน เป็นโครงการ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 169 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการ 43-1-65 ไร่ สามารถเข้าถึงได้ทางเดียวจากถนนเลียบวงแหวนรอบนอกฝั่งมุ่งหน้าถนนอ่อนนุช มีกำหนดจะเสร็จเฟสแรกแรกประมาณ 50 หลัง (ประมาณ 30% ของยูนิตในโครงการ) รวมถึงส่วนของ Clubhouse ที่กำลังจะเสร็จพร้อมบ้านเฟสแรกในเดือนสิงหาคมนี้ด้วย
จากทางเข้าโครงการด้านหน้าที่ถนนวงแหวนรอบนอก เข้ามาจะเจอถนนโครงการกว้าง 14 ม. และ 12 ม. ตามลำดับ เป็นถนนส่วนบุคคลของทางโครงการ ตรงทางเข้าไปจะมีป้อมยามตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทางเข้า-ทางออก มีระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Key Card Access ระยะ 0.6 – 1 ม. ที่ใช้เปิดตัวไม้กระดกและประตูไฟฟ้าด้านหน้าโครงการ การวางผังของโครงการคือจะมีถนนหลักโครงการอยู่ตรงกลางที่มีความกว้าง 14 เมตร และแล้วแยกออกเป็นซอยซ้าย-ขวาที่กว้าง 9 เมตรยาวไปจนสุดโครงการ จากสภาพแวดล้อมภายในโครงการปัจจุบัน ทางซ้ายมือจะเป็นสำนักงานขาย ติดกันเป็นบ้านตัวอย่างจำนวน 3 หลัง เข้าไปด้านในประมาณ 150 ม. จะพบสวนและ Clubhouse อยู่ทางขวามือของโครงการ ภายในเป็นสระว่ายน้ำ Fitness ที่ชั้น 2 และห้อง Meeting Room ที่ชั้นล่าง เข้าไปด้านในโครงการประมาณ 460 ม.จะมีพื้นที่ส่วนกลางอีกตำแหน่งหนึ่งเป็นทะเลสาบภายในโครงการ เมื่อรวมสวนสีเขียวรอบทะเลสาบแล้วจะมีพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ ซึ่งส่วนนี้จะยังไม่แล้วเสร็จพร้อมเฟส 1 นะคะ
การวางตัวของบ้านแต่ละหลัง จะหันหน้าเข้าหาถนนภายในโครงการที่เป็นถนนหลักกว้าง 14 ม., 12 ม. และที่เป็นถนนซอยกว้าง 9 ม. สำหรับลูกบ้านที่ชอบถนนหน้าบ้านที่กว้างก็เลือกบ้านที่อยู่บนถนนหลัก มีข้อดีที่หน้าบ้านจะค่อนข้างคึกคัก เพราะรถของบ้านในซอยย่อยต้องผ่านบ้านบนถนนหลักตลอด ทำให้บ้านหลังเหล่านี้มักไม่ใช่เป้าหมายแรกๆที่ขโมยจะเลือกขึ้น แต่ก็มีข้อเสียจากความคึกคักเพราะทำให้ความสงบในการอยู่อาศัยลดลง ส่วนบ้านที่อยู่ในถนนซอยจะมีระยะห่างระหว่างบ้านน้อยลง ข้อเสียคือหากบ้านทั้ง 2 ฝั่งจอดรถหน้าบ้านจะทำให้ทำให้การขับรถเข้าบ้านลำบากขึ้น แต่มีข้อดีที่การอยู่ในซอยจะมีความสงบในการอยู่อาศัยมากกว่าบ้านบนถนนหลักค่ะ
บ้านในโครงการมีการวางตัวบ้านหลักๆ 2 ฝั่งคือฝั่งที่หันไปทางทิศเหนือและฝั่งที่หันไปทางทิศใต้ แบบบ้านทั้ง 3 แบบจะคละๆกันไป บ้านที่หันไปทางเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงที่ธรรมชาติหน่อย ไม่ค่อยแรงมาก แต่บ้านที่หันหน้าไปทางใต้ก็จะได้แสงที่จ้ากว่า และลมที่แรงกว่าด้วย การเลือกตำแหน่งของบ้านก็จะขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบ้าน บางหลังที่อยู่ส่วนหน้าใกล้ทางเข้าก็จะใกล้พื้นที่ส่วนกลางอย่างสวนสาธารณะมากกว่า แต่หลังที่อยู่ส่วนท้ายโครงการก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะจะไม่มีเพื่อนบ้านผ่านเข้าออกเยอะ
ทางเข้าโครงการ Viranya อ่อนนุช-วงแหวน เป็นสะพานคอนกรีตข้ามคลองปักหลัก ส่วนหน้ามีความกว้างถนน 14 ม. บริเวณเกาะกลางปลูกต้นไม้ตรงกลางเพื่อแยกฝั่งรถเข้า-ออกโครงการ
ทางเข้าโครงการ เป็นซุ้มประตูมีทางเข้าออกสองทางแยกกัน โดยมีป้อม รปภ. อยู่ตรงกลางค่ะ
ทางเข้าสู่โครงการ ด้านหน้าจะมีป้อมยามสำหรับผู้มาติดต่อแลกบัตรเข้า-ออก โดยจะมี รปภ. ประจำอยู่ตลอด
ประตูทางเข้าจะอยู่ตรงบริเวณป้อมยามเป็นไม้กระดกกั้นไว้ สำหรับลูกบ้านจะต้องมี Key Card แตะที่เครื่องควบคุมเพื่อเปิดไม้กระดก ติดกันจะเจอกับประตูอีกชั้นหนึ่งค่ะ โดยบานนี้จะเป็นประตูไฟฟ้าแบบบานเลื่อน ต้องใช้ Key Card ในการเปิดเช่นเดียวกันคะ
ติดกับประตูทางเข้ามีที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ให้แก่พนักงานที่ส่วนใหญ่จะขี่มอเตอร์ไซค์มาทำงานนะคะ เนื่องจากทำเลที่เดินทางด้วยรถขนส่งสาธารณะไม่ค่อยสะดวกนัก ที่จอดถูกออกแบบให้อยู่ด้านหลังพุ่มไม้ เพื่อให้บรรยากาศโครงการดูเรียบร้อยค่ะ
ภายในที่จอดจอดรถมอเตอร์ไซค์ของพนักงานและจักรยานสำหรับขี่ตรวจตราภายในโครงการ จอดได้ประมาณ 10 คันค่ะ
ผ่านระบบรักษาความปลอดภัยเข้ามาในโครงการก็จะมาอยู่บนถนนหลักของโครงการกว้าง 14 เมตรซึ่งทั้ง 2 ฝั่งถนนจะปลูกต้นไม้ใหญ่ (เฉพาะช่วงถนน 14 ม.นะคะ) ทั้งสองฝั่งถนนจะขนาบด้วยบ้านพักอาศัย ฝั่งซ้ายมือจะเป็นบ้านที่ใช้ขายจริงซึ่งปัจจุบันใช้เป็นสำนักงานขาย และบ้านตัวอย่าง 3 หลังเรียงกันอยู่ค่ะ ส่วนด้านในที่เห็นรั้วกั้นสีเขียวจะเป็นส่วนที่กำลังก่อสร้างในปัจจุบันค่ะ
สำนักงานขายที่อยู่ติดทางเข้าโครงการ มีรถกอล์ฟจอดอยู่ด้านหน้าใช้สำหรับขับพาชมโครงการค่ะ
ด้านในสำนักงานขายจะจัดที่นั่งสำหรับผู้มาเยี่ยมชมโครงการและมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำและให้ข้อมูลของโครงการ
ปัจจุบันโครงการมีแผนจะก่อสร้างเฟสแรกเสร็จในเดือนสิงหาคม ซึ่งจะเสร็จในส่วนของบ้านประมาณ 50 หลังแรกและส่วนของพื้นที่ Clubhouse ของโครงการ เป็นอาคาร Modern Style 2 ชั้น ชั้นล่างจะเป็น Meeting Room และ Kid Club สำหรับใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่น พักผ่อน และส่วนชั้นบนเป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้ง และพื้นที่ Fitness ส่วนพื้นที่โดยรอบ Clubhouse เป็นเส้นทาง Jogging Track สำหรับออกกำลังกายในสวนได้ค่ะ
บรรยากาศของสระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือขนาด 10.7 x 21 ม. ภายในสระมีความลึก 2 ระดับ ส่วนที่เป็นสระผู้ใหญ่มีขนาด 6.5 x 21 ม. ลึก 1.2 ม. ส่วนที่เป็นสระเด็กมีขนาด 4.2 x 21 ม. ลึก 0.6 ม. ด้านข้างสระมี Deck ไม้สำหรับนั่งพักผ่อนได้ค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 10.7 x 21 เมตร (แบ่งเป็นสระผู้ใหญ่ 6.5 x 21 ม. ลึก 1.2 ม. เป็นสระเด็ก 4.2 x 21 เมตร ลึก 0.6 เมตร)
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ขนาด 6.4 x 6.8 ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง
- สวนภายในโครงการรวมทั้งหมด 3.3 ไร่ แบ่งเป็นสวนสาธารณะ 1 ไร่ และสวนหย่อม 2.2 ไร่
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 32 จุด ติดตั้ง 18 ตำแหน่ง
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
- Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
- Key Card Access ระยะ 0.6-1 เมตร
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบรั้วกั้นไม้กระดกและประตูเลื่อนไฟฟ้า ประตูเลื่อนไฟฟ้าควบคุมด้วย Access Control 24 ชม.
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
- ถนนหลักกว้าง 14 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
โครงการ Viranya อ่อนนุช-วงแหวน เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีจำนวนบ้านในโครงการทั้งหมด 169 หลัง แบ่งเป็น 3 ขนาด โดยมีแปลงมาตรฐานที่ 51 ตร.วา ดังนี้
- แบบบ้าน Floretta พื้นที่ใช้สอย 141.37 ตร.ม. ( 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องรับแขก, 2 ห้องพักผ่อน, 1 ห้องรับประทานอาหาร, 1 ห้องครัว, 1 ห้องเก็บของ, ที่จอดรถ 2 คัน )
- แบบบ้าน Blooma พื้นที่ใช้สอย 154.22 ตร.ม. ( 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องรับแขก, 2 ห้องพักผ่อน, 1 ห้องรับประทานอาหาร, 1 ห้องครัว, 1 ห้องเก็บของ, ที่จอดรถ 2 คัน )
- แบบบ้าน Matura พื้นที่ใช้สอย 171.72 ตร.ม. ( 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องรับแขก, 2 ห้องพักผ่อน, 1 ห้องรับประทานอาหาร, 1 ห้องครัว, 1 ห้องเก็บของ, ที่จอดรถ 2 คัน )
ซึ่งเราจะพาไปชมบ้านตัวอย่างที่สร้างเสร็จและตกแต่งแล้วให้ดู 2 หลังคือ แบบบ้าน Matura ขนาดพื้นที่ใช้สอย 171.72 ตร.ม. และแบบบ้าน Blooma ขนาดพื้นที่ใช้สอย 154.22 ตร.ม. ซึ่งในส่วนของแบบบ้าน Blooma จะเปรียบเทียบกับบ้านมาตรฐานที่ใช้ส่งมอบให้ลูกบ้านด้วยค่ะ
มาเริ่มกันที่ แบบบ้าน Floretta พื้นที่ใช้สอย 141.37 ตร.ม. เริ่มที่ชั้น 1 ของตัวบ้านกันค่ะ ด้านหน้าบ้านแบ่งพื้นที่เป็นพื้นที่สำหรับจอดรถ 2 คัน จากที่จอดรถมีประตูเข้าบ้าน 2 ฝั่งคือประตูด้านหลังที่จอดรถ และประตูทางห้องนั่งเล่น เข้ามาในตัวบ้านจากทางประตูฝั่งที่จอดรถ จะแบ่งพื้นที่บ้านด้านล่างเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งขวาจะเป็นพื้นที่ส่วนนั่งเล่น เลยเข้าไปจากส่วนพื้นที่ห้องนั่งเล่นจะเป็นพื้นที่สำหรับรับประทานอาหาร ติดกันทางซ้ายมือเป็นพื้นที่ส่วนครัวโดยจะทำเป็นห้องครัวไทยมีประตูปิดเพื่อช่วยป้องกันกลิ่นและควันจากการประกอบอาหารเข้ามาในตัวบ้าน ด้านหลังสุดเป็นลานซักล้าง โดยจะมีประตูจากส่วนครัวไทยเปิดออกไปได้ ส่วนฝั่งซ้ายจะแบ่งพื้นที่แยกเป็นห้องน้ำซึ่งภายในห้องจะแยกพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งไว้และมีฝักบัวอาบน้ำให้ ทำให้เป็นอีกห้องหนึ่งที่สามารถใช้อาบน้ำได้ และอีกห้องทางฝั่งซ้ายเป็นห้องเก็บของซึ่งจะอยู่ใต้บันได
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ของตัวบ้าน จะจัดแบ่งพื้นที่ห้องไว้เป็นห้องนอน 3 ห้อง แต่จะมีห้องเดียวเท่านั้นที่มีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนอีก 2 ห้องจะต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน ขึ้นมาจากบันไดจะพบห้องนอนแรกเป็นห้องนอนขนาดกลางของบ้าน ติดกับห้องนอนขนาดกลางเป็นพื้นที่นั่งเล่นบนชั้น 2 ซึ่งถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่ที่มีหน้าต่างด้านข้าง สามารถมองไปเห็นสวนด้านหน้าบ้านได้ ฝั่งตรงข้ามของห้องนอนขนาดกลางเป็นห้องน้ำของชั้น 2 และติดกันกับห้องน้ำเป็นห้องนอนขนาดเล็กที่สุด ส่วนห้อง Master Bedroom จะอยู่ด้านในสุดของชั้นบน ภายในจัดให้มีห้อง Walk in closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัวของห้อง Master Bedroom ค่ะ
ภายนอกของบ้านแบบ Floretta เน้นดีไซน์เรียบง่าย ตกแต่งด้วยสีโทนเทา-น้ำตาล ช่องแสงเป็นบานกระจกเขียวตัดแสงสีออกฟ้าๆ มีที่จอดรถ 2 คันอยู่ส่วนหน้าบ้าน ส่วนหลังคาของตัวบ้านเป็นหลังคาซีแพคโมเนียด้านในติดแผ่นสะท้อนความร้อนไว้ หลังคามีความยาวยื่นออกมาไม่มากนักทำให้บังแดดหรือฝนไม่ได้มากนัก
ต่อไปคือแบบบ้าน Blooma พื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม. เป็นบ้านขนาดกลางจากทั้ง 3 แบบและเป็นแบบที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดในโครงการค่ะ แปลนบ้านจะเหมือนกับแบบ Floretta แตกต่างกันที่ขนาดของตัวบ้านแบบ Blooma จะมีขนาดใหญ่กว่า ชั้นล่างจะมีพื้นที่ส่วนนั่งเล่นและห้องครัวที่กว้างมากกว่าแบบ Floretta ส่วนชั้นบนที่ห้องนอนกลางจะมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต ได้อีกหนึ่งห้องค่ะ
ภายนอกของบ้านแบบ Blooma ถูกดีไซน์ออกมาแบบเรียบง่าย ตกแต่งด้วยสีโทนเทา-น้ำตาล เช่นเดียวกับแบบ Floretta ช่องแสงเป็นบานกระจกเขียวตัดแสงสีออกฟ้าๆ มีที่จอดรถ 2 คันอยู่ส่วนหน้าบ้าน ส่วนหลังคาของตัวบ้านเป็นหลังคาซีแพคโมเนียด้านในติดแผ่นสะท้อนความร้อนไว้ หลังคามีความยาวยื่นออกมาไม่เยอะ ทำให้บังแดดหรือฝนไม่ได้มากนักเช่นกันค่ะ
บริเวณด้านหน้าของบ้านตัวอย่างจะไม่มีรั้ว แต่บ้านจริงจะมีแนวรั้วและประตูรั้วโปร่งบานเลื่อนให้ ด้านหน้ามีการจัดเป็นพื้นที่สวนและปลูกต้นไม้ไว้ แต่บ้านจริงจะปูหญ้า มีไม้พุ่ม และไม้ยืนต้นให้ 1 ต้นค่ะ
ตัดภาพจากบ้านตัวอย่างมากันที่บ้านจริงที่มีรั้วประตูบ้านและพื้นที่จอดรถซึ่งเป็นส่วนที่ไม่ได้ลงเสาเข็มจึงจะมีการทรุดตัวที่เร็วกว่าตัวบ้าน พื้นที่จอดรถเป็นคอนกรีตขัดเรียบเวาะร่องผสมทรายล้าง ตัวหลังคาบ้านจะคลุมที่จอดรถเพียงครึ่งคันเท่านั้นนะคะ ถ้าเป็นคนรักรถคงจะต้องต่อกันสาดเพิ่มด้านหน้าอีกสักหน่อยค่ะ ส่วนประตูรั้วหน้าบ้าน เป็นประตูเลื่อนแบบปกติทั่วไป ลักษณะรั้วโปร่งซี่ห่างๆ ไม่กันสายตา ด้านหน้าไม่มีประตูเล็กเข้า-ออกสำหรับคนเดิน ทางขวาของประตูรั้วบ้านจะมีตู้ไปรษณีย์สีเขียวซึ่งติดเลขที่บ้านไว้ ด้านบนตู้ไปรษณีย์มีไฟดวงเล็กและกริ่งบ้านค่ะ
ฝั่งซ้ายของประตูมีถังขยะด้านหน้าบ้าน ซึ่งสามารถทิ้งขยะจากภายในบ้านได้เลยไม่ต้องเปิดประตูบ้านออกมานะคะ ส่วนคนเก็บขยะจะเปิดเก็บขยะจากประตูถังขยะด้านหน้าค่ะ
กลับมาที่ด้านหน้าบ้านตัวอย่างส่วนหน้าบ้านจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคือส่วนหน้าห้องนั่งเล่นและส่วนที่จอดรถ ซึ่งจะมีประตูทั้ง 2 ฝั่ง ทางเข้าบ้านฝั่งห้องนั่งเล่นจะเป็นประตูกระจกสไลด์ที่ยกขึ้นสูงจากพื้นหน้าบ้าน ส่วนทางเข้าบ้านฝั่งโรงรถจะเป็นประตูไม้บานเปิด-ปิดที่ยกขึ้นสูงจากพื้นหน้าบ้านเช่นกัน
มาดูด้านข้างของตัวบ้านกันบ้าง บริเวณด้านข้างของบ้าน รอบตัวบ้านจะเว้นไว้กว้าง 2 ม. บ้านตัวอย่างจะปูพื้นเป็นแนวทางเดินไว้ เราสามารถเอาไปเป็นไอเดียในการตกแต่งได้นะค่ะ เพราะบ้านจริงจะปูหญ้ามาให้อย่างเดียว
พื้นที่ด้านหลังของตัวบ้านจะเป็นลานซักล้างพื้นคอนกรีตขัดมัน ลานซักล้างนี้สามารถเปิดประตูมาใช้งานได้จากทางห้องครัวด้านหลังบ้านค่ะ
บริเวณด้านข้างอีกฝั่งของบ้าน จะเว้นไว้กว้าง 2 ม.เช่นกัน ซึ่งพื้นที่ตรงนี้จะแตกต่างกันแล้วแต่ตำแหน่งของบ้านนะคะ เช่นถ้าเป็นบ้านหลังมุมก็อาจจะมีพื้นที่ด้านข้างบ้านมากกว่าบ้านปกติค่ะ จากมุมนี้โครงการตกแต่งไม้พุ่มข้างๆมาให้ เราดูเป็นไอเดียในการตกแต่งสวนได้ค่ะ เพราะบ้านจริงจะปูหญ้าให้อย่างเดียว
เมื่อเดินอ้อมมาอีกฝั่งของตัวบ้านจะเป็นประตูทางเข้าบ้านฝั่งห้องนั่งเล่น ตัวพื้นเป็นทรายล้าง ส่วนประตูเป็นประตูกระจกบานสไลด์ บานกระจกใช้กระจกใสสีเขียวตัดแสงเพื่อช่วยลดความร้อนภายในบ้าน วงกบเป็นอลูมิเนียมอบสีพิเศษ ด้านข้างเป็นพื้นที่หน้าบ้านที่สามารถจัดสวนเล็กๆน้อยๆได้ค่ะ
กลับมาที่ด้านหน้าบ้านฝั่งที่จอดรถค่ะ ต่อไปจะพาชมด้านในบ้านซึ่งจะเริ่มเข้าบ้านจากทางนี้นะคะ
ประตูฝั่งที่จอดรถนี้เป็นประตูไม้เนื้อแข็งทำสีบานเปิดปิด ด้านข้างประตูมีปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำ ติดให้ 1 ตำแหน่ง ซึ่งข้อดีของการมีปลั๊กไฟฝั่งที่จอดรถทำให้สามารถเสียบปลั๊กไฟเพื่อใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดรถได้สะดวก และเป็นฝั่งที่มีกันสาดจากด้านบนยาวกว่าอีกฝั่ง ช่วยป้องกันน้ำเข้าปลั๊กไฟได้ค่ะ
มือจับประตูเป็นแบบคันโยก ขนาดจับพอดีมือมือค่ะ ประตูฝั่งนอกบ้านจะใช้กุญแจเป็นตัวล็อกค่ะ ส่วนด้านในจะเป็นตัวหมุนนะคะ
พื้นหน้าประตูยกระดับขึ้นจากพื้นลานจอดรถเพื่อแยกเป็นส่วนถอดรองเท้าหน้าบ้าน วัสดุเป็นทรายล้างสลับกระเบื้อง ข้อดีคือช่วยกันลื่นได้ดี ส่วนทางเข้าในตัวบ้านก็ยกระดับจากพื้นหน้าประตูอีกระดับหนึ่ง ซึ่งพื้นบ้านจะปูกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม.ค่ะ
ที่ประตูหน้าบ้านถูกติดระบบกันขโมย Magnetic Censor ซึ่งทั้งบ้านจะมีจำนวน 6 จุด ครอบคลุมทุกพื้นประตูและหน้าต่างชั้นล่าง และยังมี PIR ตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในบ้านอีก 1 จุดซึ่งจะติดในบริเวณห้องนั่งเล่นชั้นล่าง นอกจากนี้สำหรับบ้าน Blooma และ Matura ยังติดตั้งระบบไฟฉุกเฉินให้ด้วยค่ะ
เข้ามาด้านในบ้าน พื้นที่ใช้สอยจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งของประตู เราไปดูพื้นที่ฝั่งซ้ายซึ่งเป็นส่วนพื้นที่ใช้สอยหลักของชั้นนี้กันก่อนนะคะ
เข้ามาด้านในส่วนแรกจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นดูทีวีเป็นพื้นที่โล่งยาวไปถึงส่วนพื้นที่สำหรับรับประทานอาหาร โซฟาที่จัดไว้เป็นโซฟาเบด 3 ที่นั่ง ถ้าครอบครัวที่มีสมาชิกเกิน 3 คนก็คงจะไม่พอนั่ง คงต้องหาเก้าอี้สตูลมาเพิ่มสำหรับเวลาที่นั่งดูหนังพร้อมกันทั้งครอบครัวค่ะ พื้นที่นี้มีระยะระหว่างโซฟาถึงทีวีกว้าง 2.4 ม. จึงสามารถติดทีวีขนาดที่เหมาะสมได้ถึง 55 นิ้ว
พื้นที่ชั้น 1 มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานชั้นล่าง สูง 2.6 เมตร ผนังในบ้านตัวอย่างจะติด Wallpaper และวัสดุตกแต่งไว้ แต่บ้านจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ซึ่งตอนนี้มีโปรโมชั่นแถม Wallpaper สีครีมให้กับบ้านทุกหลัง ส่วนดวงไฟเป็นไฟ downlight เหมือนบ้านตัวอย่าง แต่จะไม่ได้ Drop ฝ้าลงมาเหมือนอย่างบ้านตัวอย่าง
ส่วนพื้นที่ชั้นวางทีวีมีความกว้าง 2.95 ม. ด้านล่างทำตู้ลิ้นชักใส่ของได้ 5 ตู้ซึ่งส่วนนี้สามารถเก็บไปเป็นไอเดียในการแต่งบ้านได้อีกเช่นกันนะคะ เพราะบ้านจริงจะไม่ได้มีมาให้ สำหรับบ้านที่มีของเยอะก็ยังสามารถทำตู้เก็บของเพิ่มเติมในส่วนนี้ได้อีกค่ะ
ด้านข้างโซฟามีพื้นที่เหลือ 40 ซม. สามารถหาโต๊ะเล็กๆมาตั้งวางของหรือสามารถซื้อโซฟาที่ตัวใหญ่กว่าที่บ้านตัวอย่างมาวางได้ค่ะ
ติดกันกับพื้นที่นั่งเล่นดูทีวี จะเป็นพื้นที่โล่งอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ติดกับประตูกระจกบานสไลด์ที่เชื่อมไปหน้าบ้านได้ บ้านตัวอย่างจัดไว้เป็นมุมนั่งเล่นอีกมุมหนึ่ง แต่สำหรับบ้านจริงสามารถปรับเป็นพื้นที่ทำงานหรือพื้นอเนกประสงค์อื่นๆได้นะคะ ข้อดีของพื้นที่ตรงนี้คือติดกับสวนหน้าบ้านทำให้เห็นวิวสีเขียวด้านนอกบ้านตลอดค่ะ
มุมที่ติดกับประตูกระจกบานสไลด์นี้ถูกออกแบบให้เป็น Bay Window เพื่อเปิดมุมมองให้เห็นพื้นที่สวนได้มากขึ้น ส่วนประตูบานสไลด์นี้มีลักษณะบานเลื่อนจะเป็น 2 ระดับซ้อนกันอยู่ ทำให้ความกว้างเวลาเปิดประตูจะมีความกว้างที่สุดได้เท่ากับบานประตูบานเดียวคือประมาณ 1.1 ม.
มือจับบานสไลด์มีขนาดพอจับได้ถนัดมือ ส่วนตัวล็อกจะมีจุดเดียวอยู่ตรงกลางระหว่างบานเลื่อน 2 บาน เป็นตัวล็อกแบบก้นหอยค่ะ
ตัวรางของประตูถูกกดให้มีระดับที่เท่ากับพื้นกระเบื้องด้านในตัวบ้าน จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสะดุดบานประตูนะคะ
จากประตูบานสไลด์มองผ่านมุมนั่งเล่นไปจะเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง ซึ่งด้านหลังโต๊ะทานอาหารเป็นหน้าต่างบานสไลด์บานใหญ่พอสมควรนะคะมีความกว้างของบาน 1.6 ม. ทำให้มุมนี้เป็นมุมที่รับแสงธรรมชาติจากนอกบ้านได้ ส่วนประตูฝั่งขวาติดกันเป็นทางเข้าห้องครัวค่ะ
พื้นที่รอบโต๊ะทานข้าว เหลือพื้นที่ไว้พอสมควรเลยค่ะ ทำให้สามารถดึงเก้าอี้ออกมานั่งทานข้าวได้อย่างสบายๆ หรือใครอยากจะเป็นที่นั่งแบบ Built-in ติดกับขอบหน้าต่างก็ได้นะคะ เวลานั่งในมุมนี้ก็สามารถเห็นพื้นที่สวนด้านนอกได้ด้วยค่ะ
ติดกันเป็นห้องครัว ซึ่งจะใช้พื้นกระเบื้องต่อกันกับส่วนทานอาหารเลยนะคะ มีข้อดีคือสามารถเดินเชื่อมต่อกันได้สะดวกค่ะ
ห้องครัวถูกออกแบบไว้เป็นครัวปิด ทำให้สามารถใช้งานได้จริงแบบครัวไทยนะคะ ภายในมีหน้าต่างทำให้สามารถเปิดระบายอากาศได้ และฝั่งซ้ายมือมีประตูออกไปสู่ส่วนซักล้างด้านหลังบ้านได้ค่ะ ภายในห้องครัวถูก Built-in เป็นเคาน์เตอร์ครัวตัว L พร้อมตู้ลอยไว้เต็มพื้นที่นะคะ ซึ่งในบ้านจริงก็จะได้ชุดครัวหมือนกับบ้างตัวอย่างค่ะ
เริ่มจากเคาน์เตอร์ครัว Built-in วัสดุเป็นเคาน์เตอร์ปูนภายนอกปูกระเบื้องไว้ส่วน Top เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้มีข้อดี คือ สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ตัวตู้มีบานเปิดสำหรับใส่จานชาม และเตาแก๊ส อีกตู้หนึ่งเป็นตู้บานเปิดปิดใต้อ่างล้างจาน ไว้ใช้เก็บของเล็กๆน้อยๆได้แต่ใส่ของเต็มไม่ได้นะคะเพราะต้องเว้นพื้นที่เผื่อซ่อมแซมอ่างล้างจาน ซึ่งบานพับตู้ทั้งหมดนี้เป็นแบบ Soft close ค่ะ
มาดูส่วนบนของเคาน์เตอร์ครัวกันบ้าง โครงการให้ซิงค์ล้างจานยี่ห้อ Prema แต่จะไม่ได้ให้เตาไฟฟ้าและพัดลมดูดควันมาค่ะ อาจเนื่องจากเป็นโครงการบ้านที่สามารถเปิดหน้าต่างและประตูระบายอากาศได้อยู่แล้ว พื้นที่บนเคาน์เตอร์โดยรวมมีพื้นที่พอให้วางเครื่องปรุง ส่วนผสม สำหรับปรุงอาหารได้ ส่วน Backsplash ด้านหลังติดกระเบื้องไว้ทำให้เวลาปรุงอาหารแล้วกระเด็นก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ
ซิงค์ล้างจาน 1 หลุมที่ให้มา มีขนาดพอจะใส่ชามได้ 4 – 5 ใบ และมีความลึกพอสมควรที่จะล้างแล้วน้ำไม่กระเด็นออกมาค่ะ
ตู้ลอยสำหรับเก็บของด้านบนเป็นตู้บานเปิด 3 ตู้ซึ่งบานพับเป็นแบบ Soft close เหมือนตู้ด้านล่างเคาน์เตอร์นะคะ ภายในแบ่งเป็นช่องเก็บของตู้ละ 2 ช่องค่ะ
ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวฝั่งขวาเป็นมุมสำหรับวางตู้เย็น ช่องสำหรับใส่ตู้เย็นมีความกว้างของช่อง 0.87 ม. ลึก 0.8 ม.ถ้าจะซื้อตู้เย็นมาใส่ก็ต้องดูขนาดให้พอดีนะคะ
ส่วนด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวฝั่งซ้ายเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งผสมบานติดตาย ใช้สำหรับระบายอากาศและระบายกลิ่นภายในห้องครัวค่ะ
มือจับบานกระทุ้งสามารถจับได้ถนัดมือดี ส่วนตัวบานกระทุ้งสามารถเปิดออกไปได้มีระยะประมาณ 1 ช่วงมือถึงศอกค่ะ
บานประตูหลังบ้านเป็นประตูบานเปิดปิด ตัววงกบทำจากไม้สังเคราะห์ทำสี ส่วนบานประตู HDF ทำสี เป็นแบบเดียวกับประตูห้องนอน ห้องน้ำในบ้านค่ะ
พื้นที่หลังบ้านในบ้านตัวอย่างจะเป็นพื้นคอนกรีตขัดมัน ซึ่งของบ้านจริงก็จะได้แบบนี้เหมือนกันค่ะ แต่จะไม่มีไม้พุ่มโดยรอบให้นะคะจะปูหญ้าโดยรอบแทนค่ะ
กลับมาที่ห้องนั่งเล่นดูทีวีซึ่งเป็นห้องแรกของฝั่งซ้ายจากประตูทางเข้า ห้องจากบ้านจริงที่ได้จะเป็นห้องโล่งผนังทาสีขาว ซึ่งตอนนี้มีโปรโมชั่นแถม Wallpaper ให้กับบ้านทุกหลัง ต่อไปเราจะพาไปชมฝั่งขวากันบ้างค่ะ
ฝั่งขวาของประตูจะเป็นโถงทางเดินเชื่อมห้องในฝั่งนี้ ด้านขวาเป็นทางเลี้ยวไปห้องน้ำชั้นล่างและห้องเก็บของใต้บันได ส่วนถ้าตรงไปจะเป็นทางขึ้นชั้น 2 ค่ะ
เลี้ยวซ้ายจากโถงทางเดินมาจะเจอประตูห้องน้ำชั้นล่างและห้องเก็บของใต้บันได ซึ่งถูกออกแบบให้ประตูหลบเข้ามาด้านในไม่ได้ติดกับโถงทางเดิน ทำให้บริเวณทางเดินดูเรียบร้อย
ห้องเก็บของใต้บันไดจะมีความสูงของประตูน้อยกว่าประตูปกตินะคะ สูงเพียง 1.45 ม. ประตูห้องเก็บของไม่ได้มีลูกบิดหรือที่จับ การเปิดปิดประตูจะเป็นแบบ Push to open พื้นภายในห้องเก็บของปูกระเบื้องไว้เช่นเดียวกับพื้นภายในตัวบ้านแต่จะเป็นกระเบื้องขนาดเล็กกว่าคือ 30×30 ซม. ค่ะ
บ้านตัวอย่างไม่ได้ติดบานประตูห้องน้ำไว้ แต่ก็จะเป็นประตูแบบเดียวกับประตูออกหลังบ้าน เป็นวงกบเป็นไม้สังเคราะห์ทาสีขาว ตัวบานทึบเต็มบานทำจาก HDF มือจับประตูเป็นแบบคันโยก ส่วนพื้นห้องน้ำจะถูกลดระดับลงมาประมาณ 6 ซม. เพื่อกันน้ำจากภายในห้องน้ำไหลออกไปส่วนอยู่อาศัยอื่นๆค่ะ
ภายในห้องน้ำจะถูกแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจนด้วยขอบธรณี ผนังและพื้นโดยรอบเป็นกระเบื้องทั้งหมดค่ะที่แตกต่างกันคือพื้นภายในห้องน้ำจะเป็นกระเบื้องแบบด้าน เพื่อช่วยกันลื่นภายใน้ห้องน้ำ ส่วนผนังจะเป็นผนังกรุกระเบื้องลายตาราง ซึ่งในบ้านจริงก็จะให้ลายกระเบื้องและสุขภัณฑ์ตรงตามแบบนี้นะคะ ผนังด้านหลังอ่างล้างหน้าในส่วนแห้งติดกระจกได้เต็มบานช่วยให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้น
อ่างล้างหน้าของ Mogen มีขนาด 0.46 x 0.25 ม. และมีความลึกของตัวอ่างไม่มาก ทำให้เวลาล้างมือ ล้างหน้าน้ำอาจจะกระเด็นนะคะ ควรหาผ้าเช็ดเท้ามาวางที่พื้นซักผืนก็จะช่วยให้พื้นส่วนแห้งไม่เปียกได้ค่ะ
โถสุขภัณฑ์เป็นโถแบบชิ้นเดียวยี่ห้อ Mogen มากับที่แขวนกระดาษชำระและสายฉีดชำระยี่ห้อ American Standard ด้านข้างมีการเว้นพื้นที่พอสมควรเพื่อให้สะดวกในการหยิบทิชชู่ค่ะ
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ กว้าง 0.75 x 1.5 เมตร วัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิค พื้นที่ส่วนนี้ถูกกั้นด้วยธรณีที่ถูกยกขึ้นจากพื้นสูง 5 ซม.ทำให้น้ำในห้องอาบน้ำไม่ไหลออกมาในพื้นที่ส่วนแห้ง แต่การใช้งานจริงอาจจะต้องติดผ้าม่านหรือบานกระจกเพิ่ม ก็จะช่วยให้น้ำไม่กระเด็นมาตรงส่วนอื่นของห้องน้ำเวลาเราอาบน้ำได้ดีกว่าค่ะ
หน้าตาฝักบัวที่โครงการให้ค่ะ ด้านบนขวามีการติดตั้งระบบสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ ถ้าจะซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นมาก็ให้มาติดตั้งบนมุมขวานี้ค่ะ หน้าต่างบานกระทุ้งพร้อมม่านมู่ลี่บังแสงจะติดอยู่กับฝักบัวอาบน้ำเลยซึ่งโครงการก็ติดเป็นกระจกฝ้ามาให้ค่ะ ถ้ารู้สึกว่า Sexy เกินไปก็ติดม่าน หรือมู่ลี่อีกชั้นหนึ่งก็ได้ค่ะ
อุปกรณ์อาบน้ำ ได้แก่ ฝักบัว และก๊อกเปิดปิด ของ American Standard นะคะ มีขนาดจับได้ถนัดมือดีค่ะ
ต่อไปจะพาขึ้นบันไดไปชมในส่วนชั้น 2 กันนะคะ โครงสร้างของบันไดเป็นโครงสร้างปูน ปูพื้นบันไดด้วยไม้จะเป็นไม้สำเร็จรูป มีความกว้างประมาณ 90 ซม. ความสูงของแต่ละขั้นบันได (ลูกตั้ง) ประมาณ 18 ซม. ถือเป็นระยะปกตินะคะ
บันไดของบ้านตัวอย่างและบันไดของบ้านจริงที่ได้ตัวโครงและวัสดุจะเหมือนกันนะคะ ต่างกันที่โคมไฟบริเวณชานพักจะเป็นคนละแบบกันนะคะ
ขึ้นมาที่ชั้นบนจะเป็นโถงทางเดิน กว้างประมาณ 1.05 เมตร ที่เชื่อมห้องต่างๆภายในนะคะ ซ้ายมือห้องแรกเป็นห้องนอนขนาดกลาง ถัดจากห้องนอนขนาดกลางเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ส่วนห้องที่อยู่ตรงกลางเป็นห้องนอนใหญ่ซึ่งมีห้องน้ำในตัวค่ะ ถัดมาห้องทางขวาเป็นห้องนอนเล็กซึ่งต้องใช้ห้องน้ำกับส่วนกลางนะคะ และห้องทางขวามือเป็นห้องน้ำค่ะ ทุกห้องมีประตูปิดแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน ยกเว้นพื้นที่อเนกประสงค์ที่จะเชื่อมกับโถงทางเดินได้เลยค่ะ
บ้านตัวอย่างไม่ได้ติดบานประตูห้องนอนไว้ แต่ก็จะเป็นประตูแบบเดียวกับประตูออกหลังบ้าน คือ วงกบเป็นไม้สังเคราะห์ทาสีขาว ตัวบานทึบเต็มบานทำจาก HDF มือจับประตูเป็นแบบคันโยก ส่วนพื้นจะมีตัวจบพื้นกั้นเป็นธรณีเล็กๆ เพื่อป้องกันฝุ่นเวลากวาดบ้านบริเวณโถงทางเดินฝุ่นก็จะติดขอบธรณีไม่สามารถเข้าไปในห้องได้ค่ะ
ด้านในห้องนอนมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างสำหรับห้องนอนขนาดกลาง มีระยะพื้นถึงฟ้า 2.6 ม.จึงทำให้ค่อนข้างโปร่งส่วนพื้นปูด้วยลามิเนตขนาด 8 มม. ภายในถูกจัดวาง Furniture ต่างๆไว้ได้ครบนะคะ ได้แก่ เตียงขนาด 6 ฟุตไว้ ด้านข้างวางโต๊ะหัวเตียงไว้ทั้ง 2 ฝั่งและตู้เสื้อผ้าที่ Built-in ไว้เต็มผนังฝั่งที่ติดกับประตู และพื้นที่ปลายเตียงมีพื้นที่พอจะทำโตีะเขียนหนังสือหรือที่วางทีวีได้ค่ะ สำหรับบ้านจริงจะไม่ได้ให้ Furniture นะคะ จะเป็นห้องเปล่าค่ะ เราสามารถดูไอเดียการตกแต่งจากบ้านตัวอย่างได้ค่ะ
พื้นที่ด้านข้างเตียงด้านที่ติดกับหน้าต่างมีระยะประมาณ 0.70 ม. มีพื้นที่เหลือพอให้เดินมาขึ้นเตียง หรือเปิดหน้าต่างได้ บริเวณหัวเตียงมีการตั้งโต๊ะหัวเตียงไว้สำหรับวางโทรศัพท์ หรือนาฬิกาปลุกได้สบายๆค่ะ และมีการติดตั้งปลั๊กไฟไว้ให้เรียบร้อยแล้ว แต่ชุดเตียงและตู้ต่างๆในห้องนี้ทางโครงการไม่มีให้นะคะ จะเป็นห้องเปล่า
ส่วนพื้นที่ปลายเตียงมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถวางชั้นวางทีวีได้ หรือจะทำเป็นโต๊ะเขียนหนังสือ โต๊ะเครื่องแป้ง หรือชั้นวางของก็สามารถทำได้ พื้นที่ด้านปลายเตียงนี้เหลือ 1.5 ม. ค่ะ
พื้นที่ด้านข้างของเตียงฝั่งซ้ายมีพื้นที่กว้างประมาณ 0.74 ม. นะคะ ซึ่งเป็นทางเดินเข้าสู่เตียง และเป็นระยะสำหรับเปิดตู้เสื้อผ้าด้วยค่ะ ด้านในสุดเป็นโต๊ะหัวเตียง ซึ่งจะบังตู้เสื้อผ้าด้านในทำให้หยิบลำบาก สำหรับห้องมีระยะด้านข้างไม่พอตั้งโต๊ะหัวเตียง สามารถเลือกใช้เตียงที่หัวเตียงมีชั้นวางของอยู่ด้วยก็จะทำให้ประหยัดพื้นที่ได้ค่ะ
จากฝั่งด้านหน้าต่างมองมาทางตู้เสื้อผ้าที่ถูก Built-in ไว้จะเป็นตู้บานสไลด์ 2 บาน ทำให้ประหยัดพื้นที่ด้านหน้าตัวตู้ ไม่ต้องเผื่อระยะเปิดตู้ ส่วนนี้สามารถเก็บไปเป็นไอเดียในการแต่งบ้านได้อีกเช่นกันนะคะ เพราะบ้านจริงจะไม่ได้มีมาให้
ด้านในของตู้จะมีราวแขวนผ้าและมีลิ้นชักเก็บของอีก 2 ช่อง และลิ้นชักสำหรับแขวนกางเกงอีก 2 ช่อง รวมถึงช่องเก็บของด้านบน ซึ่งสามารถใช้เก็บผ้านวมผืนใหญ่ๆหรือกระเป๋าเดินทางได้เลยค่ะ
ภายในตู้มีลิ้นชักเก็บของ 2 ช่อง และลิ้นชักสำหรับแขวนกางเกงอีก 2 ช่อง ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นไอเดียในการเลือกตู้ได้ค่ะ
หันกลับไปดูฝั่งที่เป็นกระจกของห้องนะคะ ซึ่งโครงการติดตั้งมาให้มีขนาดใหญ่เกือบเต็มผนัง แม้ว่าจะไม่ได้เป็นบานใหญ่บานเดียวแต่ก็เป็นช่องให้แสงธรรมชาติเข้ามายังห้องนอนได้เพียงพอ โดยหน้าต่างกระจกเขียวตัดแสงจะเป็นบานผสมระหว่างบานติดตายและบานสไลด์ โดยจะมีบานที่สไลด์ได้ 2 บานอยู่ด้านบน มีตัวล็อก 1 ตัวอยู่ตรงกลางแบบเดียวกับประตูบานสไลด์สำหรับออกไปเฉลียงที่ชั้นล่างค่ะ
มือจับบานสไลด์มีขนาดพอจับได้ถนัดมือ ส่วนตัวล็อกจะมีจุดเดียวอยู่ตรงกลางระหว่างบานเลื่อน 2 บาน เป็นตัวล็อกแบบก้นหอยค่ะ
เมื่อขึ้นมาจะเจอกับห้องอเนกประสงค์ อีกห้องหนึ่งค่ะ แต่ห้องนี้จะไม่มีประตูกั้นแบ่งพื้นที่ให้ เป็นห้องเปิดโล่ง ให้ใช้งานเป็นพื้นที่ส่วนกลางตั้งชุดโซฟาไว้นั้งเล่นหรือจัดเป็นส่วนของหิ้งพระก็ได้ค่ะ ข้อดีของพื้นที่ตรงนี้คือเป็นพื้นที่ที่ติดกับหน้าต่างด้านข้างซึ่งสามารถมองลงไปเห็นสวนด้านล่างได้ จึงเป็นอีกจุดที่เหมาะจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนของสมาชิกในบ้านค่ะ
ต่อไปเป็นห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) บานประตูจะเป็นแบบเดียวกับห้องนอนขนาดกลางแต่ที่บ้านตัวอย่างไม่ได้ติดไว้ให้ดูนะคะ ส่วนพื้นจะมีตัวจบพื้นกั้นเป็นธรณีเล็กๆเหมือนห้องนอนขนาดกลางค่ะ
ห้องนอนใหญ่มีขนาดกว้างกว่าห้องนอนทุกๆห้อง คิดเป็นพื้นที่ 1 ใน 3 ของพื้นที่ชั้นบนเลยทีเดียว ตัวห้องมีระยะพื้นถึงฝ้า 2.6 ม. และพื้นปูด้วยลามิเนต 8 มม. เช่นเดียวกับห้องนอนกลางนะคะ มีความแตกต่างจากห้องนอนขนาดกลางตรงที่มีหน้าต่างฝั่งหัวเตียงเพิ่มขึ้นอีก 1 บาน, มีระเบียงสามารถเปิดออกไปเดินเล่นด้านนอกได้ และมีพื้นที่สำหรับทำ Walk in closet ค่ะ
ภายในถูกจัดวางFurniture ต่างๆไว้ได้ครบนะคะ ได้แก่ เตียงขนาด 6 ฟุตไว้ ด้านข้างวางโต๊ะหัวเตียงไว้ทั้ง 2 ฝั่งและตู้เสื้อผ้าแบบ Walk in closet ที่ติดกับห้องน้ำในตัว ส่วนพื้นที่ปลายเตียงมีพื้นที่พอสำหรับชั้นวางทีวีค่ะ สำหรับบ้านจริงจะไม่ได้ให้ Furniture นะคะ จะเป็นห้องเปล่านะคะ อย่างผนังด้านหลังหัวเตียงที่บ้านตัวอย่างถูกตกแต่งด้วยการกรุไม้เต็มพื้นที่ ส่วนบ้านจริงผนังทั้งหมดจะติดวอลเปเปอร์สีขาวครีม ไม่ได้กรุไม้ จะสามารถเปิดใช้งานหน้าต่างได้
พื้นที่ด้านข้างของเตียงฝั่งขวาที่ติดกับ Walk in closet มีพื้นที่กว้างประมาณ 0.96 ม. สามารถเดินขึ้นเตียงได้สะดวก ด้านในสุดเป็นตำแหน่งของโต๊ะหัวเตียง ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นโต๊ะที่ตัวใหญ่กว่านี้ได้ค่ะ
ส่วนพื้นที่ปลายเตียงมีระยะประมาณ 1.27 ม. บ้านตัวอย่างจัดที่วางทีวีขนาดกลางมาให้แต่บ้านจริงสามารถทำชั้นวางทีวี Built-in ได้เลยนะคะซึ่งผนังด้านหลังทีวีก็ได้มีการติดตั้งสวิตซ์ไฟและช่องรับสัญญาณโทรทัศน์ไว้เรียบร้อยค่ะ
พื้นที่อีกฝั่งหนึ่งของเตียงด้านที่ติดกับหน้าต่าง มีระยะประมาณ 0.55 ม. เป็นระยะให้พอเดินมาขึ้นเตียงได้ บริเวณหัวเตียงมีการตั้งโต๊ะหัวเตียงไว้สำหรับวางโคมไฟ หรือนาฬิกาปลุกได้สบายๆ ผนังด้านหลังมีการติดตั้งปลั๊กไฟไว้ให้เรียบร้อยนะคะ
ติดกับกับเตียงนอนเป็นประตูกระจกบานสไลด์ นอกจากจะใช้เป็นประตูเปิดออกไปเดินเล่นที่ระเบียงแล้ว ยังเป็นช่องแสงธรรมชาติให้กับห้องนอนด้วยค่ะ
พื้นที่ระเบียงถูกใช้เป็นพื้นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์อยู่ฝั่งหนึ่ง จึงเหลือพื้นที่ที่ใช้งานได้มีขนาดประมาณ 0.5 x 2.4 ม. ราวกันตกถูกออกแบบไว้เป็นกระจกเขียวตัดแสงทำให้เวลามองออกมาจากภายในห้องจะสามารถเห็นพื้นที่สีเขียวด้านหน้าบ้านได้โดยไม่มีราวระเบียงมาบังนะคะ
ด้านขวาของระเบียงจะเป็นที่ตั้งของคอมเพลสเซอร์แอร์ซึ่งเป็นแบบตั้งพื้น มีข้อดีคือสามารถดูแลรักษาได้ง่าย และตั้งหันออกไปด้านนอกบ้านทำให้ลมร้อนไม่พัดเข้าบ้าน แต่มีข้อเสียคือทำให้เสียพื้นที่ใช้สอยของระเบียงค่ะ
จากฝั่งด้านหน้าต่างมองมาทางตู้เสื้อผ้าที่ถูก Built-in ไว้แบบ Walk in closet โดยมีบานสไลด์กั้นส่วนไว้แยกออกจากห้องนอน ผนังด้านนอกกรุด้วยกระจกไว้เพื่อใช้เช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากห้อง ภายในมีตู้เสื้อผ้า 2 ฝั่ง พื้นที่ส่วนนี้จะติดกับห้องน้ำที่อยู่ด้านใน การกั้นส่วนแต่งตัวแบบ Walk in closet นอกจากจะมีข้อดีในการกั้นห้องให้เป็นสัดส่วนแล้ว ยังช่วยให้สามารถเลือกติดแอร์ตัวที่เล็กลงได้ จึงช่วยในการประหยัดค่าไฟของห้องนอนได้ด้วย
สำหรับบ้านจริงจะไม่ได้ทำ Walk in closet มาให้นะคะ จะเป็นห้องเปล่า เราสามารถดูไอเดียการทำ Walk in closet จากบ้านตัวอย่างได้ค่ะ
พื้นในส่วน Walk in closet จะใช้พื้นลามิเนตต่อกันกับส่วนห้องนอนเลยค่ะ
ตู้ภายในทั้ง 2 ฝั่งถูกออกแบบให้มีราวแขวนเสื้อทั้งแบบยาวและแบบสั้น มีลิ้นชักเก็บของอีก 6 ช่อง รวมถึงช่องเก็บของด้านบน 2 ช่องและด้านล่าง 1 ช่อง ซึ่งสามารถใช้เก็บผ้านวมผืนใหญ่ๆหรือกระเป๋าเดินทางได้เลย ส่วนที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งใน Walk in closet คือโต๊ะเครื่องแป้งมีพื้นที่ให้พอสมควร สามารถวางเครื่องสำอางค์ได้หลายชิ้นเลยนะคะ และมีลิ้นชักสำหรับเก็บของอีก 1 ชั้น การทำโต๊ะเครื่องแป้งไว้ใน Walk in closet มีข้อดีคือช่วยให้ฝุ่นแป้งไม่ฟุ้งเข้าไปส่วนห้องนอนนะคะ
ตู้ลิ้นชักที่ได้มีขนาดพอให้ใส่เสื้อผ้าชิ้นเล็กๆหรือใส่ของกระจุกกระจิกได้ อย่างตู้ฝั่งขวาจะได้ลิ้นชักมา 4 ชั้น ส่วนตู้ฝั่งซ้ายจะได้ลิ้นชักมา 3 ชั้น ซึ่งจำนวนลิ้นชักและราวแขวนผ้าก็สามารถปรับได้ตามการใช้งานของแต่ละคนนะคะ
ด้านในของ Walk in closet จะเป็นห้องน้ำในตัวของห้อง Master Bedroom ค่ะ
ประตูจะเป็นประตูจะเป็นแบบเดียวกับประตูห้องนอนนะคะคือเป็นบานทึบเต็มบาน ส่วนพื้นห้องน้ำจะถูกลดระดับลงมาประมาณ 4 ซม. เพื่อกันน้ำจากภายในห้องน้ำไหลออกไปส่วนอยู่อาศัยอื่นๆ พื้นในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคค่ะ
ภายในห้องน้ำจะถูกแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจนด้วยขอบธรณีและฉากกั้นอาบน้ำ ผนังและพื้นโดยรอบเป็นกระเบื้องทั้งหมดค่ะ ซึ่งในบ้านจริงก็จะให้ลายกระเบื้องและสุขภัณฑ์ตรงตามแบบนี้นะคะ ผนังด้านหลังอ่างล้างหน้าในส่วนแห้งมีข้อดีที่สามารถติดกระจกได้เต็มบานช่วยให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้นค่ะ
อ่างล้างหน้าของ Mogen หรือเทียบเท่า มีขนาด 0.42 x 0.34 ม. และมีความลึกของตัวอ่างพอสมควร ส่วนด้านล่างอ่างล้างมือเป็นตู้เก็บแบบตู้โล่งไม่มีบานปิดนะคะ ส่วนนี้พอจะเก็บของใช้ได้นิดหน่อยค่ะ
โถสุขภัณฑ์เป็นโถแบบชิ้นเดียวยี่ห้อ Mogen มากับที่แขวนกระดาษชำระและสายฉีดชำระยี่ห้อ American Standard เหมือนห้องน้ำชั้นล่างนะคะ ด้านข้างเป็นหน้าต่างฝ้าบานสไลด์ ซึ่งห้องน้ำห้องนี้มีข้อดีที่มีหน้าต่าง 2 นะคะ ทำให้อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวกค่ะ
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ กว้าง 0.92 x 1.57 เมตร วัสดุพื้นปูเป็นกระเบื้องเซรามิคเช่นกัน พื้นที่ส่วนนี้ถูกกั้นด้วยธรณีที่ถูกยกขึ้นจากพื้นสูง 5 ซม.และฉากกั้นอาบน้ำ ทำให้น้ำในห้องอาบน้ำไม่ไหลออกมาในพื้นที่ส่วนแห้งนะคะ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกใส ด้านในเป็น Sexy Bath มีกระจกอยู่ด้านข้าง ถ้ารู้สึกว่า Sexy เกินไปก็ติดม่าน หรือมู่ลี่ก็ดีเพราะของบ้านจริงไม่ได้มีมู่ลี่มาให้นะคะ
ฉากกั้นอาบน้ำเป็นแบบบานเปิดมีมือจับฉากกั้นแนวนอนที่สามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ ด้านในมีติด Stopper ป้องกันฉากกั้นอาบน้ำกระแทกกับขอบที่นั่งด้านในค่ะ
ด้านในห้องอาบน้ำจะมีส่วนที่แตกต่างจากห้องอื่นๆตรงที่มีที่สำหรับนั่งอาบ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุในบ้านมีความยาวของที่นั่ง 90 ซม.ค่ะ
หน้าตาฝักบัวที่โครงการให้ค่ะ ด้านบนซ้ายมีการติดตั้งระบบสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ
หน้าตาของฝักบัวและก๊อกเปิดปิดของ American Standard ลักษณะเดียวกันกับห้องน้ำชั้นล่างค่ะ
ต่อไปเป็นห้องนอนสุดท้ายของชั้นนี้ คือห้องนอนเล็กค่ะ บานประตูจะเป็นแบบเดียวกับห้องนอนขนาดกลางคือวงกบเป็นไม้สังเคราะห์ทาสีขาว ตัวบานทึบเต็มบานทำจาก HDF มือจับประตูเป็นแบบคันโยก แต่ที่บ้านตัวอย่างไม่ได้ติดไว้ให้ดูนะคะ
ส่วนพื้นจะมีตัวจบพื้นกั้นเป็นธรณีเล็กๆเหมือนของห้องนอนขนาดกลางและห้องนอนใหญ่ค่ะ
ด้านในห้องนอนเล็กมีขนาดไม่กว้างมาก ถูกออกแบบให้เป็นห้องที่พอดีสำหรับ 1 คนและถูกจัดวางFurniture ต่างๆไว้ ได้แก่ เตียงขนาด 3.5 ฟุตไว้ ด้านข้างมีโต๊ะหัวเตียงและตู้เสื้อผ้าที่ Built-in ไว้เรียบร้อย ส่วนปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 60 ซม. ทำตู้วางทีวีเหมือนในห้องตัวอย่างได้ แต่ถ้าจะให้ดีแนะนำให้เอาทีวีแขวนกับผนังจะดีกว่าค่ะ จะได้มีพื้นที่ตรงปลายเตียงเพิ่มมากขึ้น แต่ถ้าทำตู้แล้วจะเหลือพื้นที่ให้เดินไปเปิดหน้าต่างได้ไม่สะดวกนักนะคะ ติดกับเตียงนอนเป็นหน้าต่างกระจกเขียวตัดแสง ทำให้สามารถเห็นบรรยากาศรอบนอกบ้านได้ค่ะ
จากฝั่งด้านหน้าต่างมองมาทางด้านประตูทางเข้าห้อง เป็นพื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งหนึ่งมีขนาดความกว้างประมาณ 1.62 ม. ส่วนที่ติดกับประตูถูก Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าซึ่งเป็นตู้บานสไลด์ 2 บาน ด้านในมีราวแขวนผ้า ตู้ลิ้นชัก และชั้นวางของด้านบน และด้านล่างที่สามารถใช้วางกระเป๋ากระเป๋าเดินทาง ผ้านวมผืนใหญ่ๆได้ ส่วนนี้สามารถเก็บไปเป็นไอเดียในการแต่งบ้านได้อีกเช่นกันนะคะ เพราะบ้านจริงจะไม่ได้มีมาให้
ลิ้นชัก 2 ชั้นมีขนาดพอให้ใส่เสื้อผ้าชิ้นเล็กๆหรือใส่ของกระจุกกระจิกได้ค่ะ
บ้านตัวอย่าง Built-in ผนังด้านปลายเตียงให้เป็นชั้นวางของและโต๊ะเขียนหนังสือ แต่ในส่วนที่ชนกับปลายเตียงจะเหลือเดินได้ไม่มาก ซึ่งในบ้านจริงเป็นห้องโล่ง ทำให้สามารถออกแบบชั้นวางของในส่วนนี้ที่เหมาะสมกับผู้อยู่อาศัยเองได้ค่ะ
ติดกันกับห้องนอนเล็กจะเป็นห้องน้ำห้องที่ 3 ของบ้าน ซึ่งเป็นห้องน้ำส่วนกลางของชั้นบนค่ะ ประตูจะใช้วงกบเป็นไม้สังเคราะห์ทาสีขาว ตัวบานทึบเต็มบานทำจาก HDF มือจับประตูเป็นแบบคันโยก ส่วนพื้นห้องน้ำจะถูกลดระดับลงมาประมาณ 4 ซม. เพื่อกันน้ำจากภายในห้องน้ำไหลออกไปส่วนอยู่อาศัยอื่นๆค่ะ ส่วนพื้นในห้องน้ำจะเป็นกระเบื้องเซรามิคเหมือนห้องน้ำอื่นๆภายในบ้านนะคะ
บรรยากาศห้องน้ำส่วนกลางบนชั้น 2 นี้ มีขนาดพอๆกับห้องน้ำส่วนกลางที่ชั้นล่าง ภายในห้องน้ำมีแยกส่วนเปียกแห้งด้วยขอบธรณี ส่วนอ่างล้างหน้า สุขภัณฑ์ และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้เหมือนกับห้องน้ำส่วนกลางที่ชั้นล่างนะคะ ต่างกันเพียงห้องชั้นบนนี้จะมีตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้าเพิ่มมาอีก 1 ตู้ค่ะ
อ่างล้างหน้าของ Mogen มีขนาด 0.46 x 0.25 ม. เท่ากับห้องน้ำชั้นล่าง และมีตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้าเป็นตู้เก็บของบานเปิดขนาดไม่ใหญ่ พอจะเก็บของใช้ได้นิดหน่อย และอย่าลืมเผื่อพื้นที่ไว้สำหรับซ่อมท่อน้ำหากมีการชำรุดด้วยนะคะ
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ กว้าง 0.88 x 1.5 เมตร วัสดุพื้นปูเป็นกระเบื้องเซรามิค พื้นที่ส่วนนี้ถูกกั้นด้วยธรณีที่ถูกยกขึ้นจากพื้นสูง 5 ซม.ทำให้น้ำในห้องอาบน้ำไม่ไหลออกมาในพื้นที่ส่วนแห้งค่ะ
หน้าตาฝักบัวที่โครงการให้ค่ะ ด้านบนขวามีการติดตั้งระบบสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นไว้เรียบร้อยซึ่งเหมือนกับแบบในห้องน้ำชั้นล่างค่ะ สำหรับบ้านจริงก็จะได้อุปกรณ์ในห้องน้ำทั้งหมดนี้เหมือนห้องตัวอย่างค่ะ
ต่อมาเป็นแบบบ้าน Matura พื้นที่ใช้สอย 171.72 ตร.ม. เริ่มที่ชั้น 1 ของตัวบ้านกันค่ะ ด้านหน้าบ้านแบ่งพื้นที่เป็นพื้นที่สำหรับจอดรถ 2 คัน ตัวบ้านมีประตูเข้าบ้าน 2 ฝั่งคือประตูด้านหลังที่จอดรถ และประตูทางห้องนั่งเล่น เข้ามาในตัวบ้านจากทางประตูฝั่งที่จอดรถ จะแบ่งพื้นที่บ้านด้านล่างเป็น 2 ฝั่งเหมือนแบบบ้าน Floretta และ Blooma นะคะ ฝั่งขวาจะเป็นพื้นที่ส่วนนั่งเล่น เลยเข้าไปจากส่วนพื้นที่ห้องนั่งเล่นจะเป็นพื้นที่สำหรับรับประทานอาหาร และห้องที่ถัดเข้าไปอีกคือห้องนอนที่ชั้นล่างซึ่งไม่ได้มีห้องน้ำในตัวนะคะ ติดกันทางซ้ายมือเป็นเคาน์เตอร์บาร์ซึ่งสามารถใช้เป็นพื้นที่ทำครัวฝรั่งเบาๆ อบขนมปังหรือชงกาแฟได้ ฝั่งซ้ายของเคาน์เตอร์บาร์จะเป็นพื้นที่ส่วนครัวโดยจะทำเป็นห้องครัวไทยมีประตูปิดเพื่อช่วยป้องกันกลิ่นและควันจากการประกอบอาหารเข้ามาในตัวบ้าน ด้านหลังสุดเป็นลานซักล้าง โดยจะมีประตูจากส่วนครัวไทยเปิดออกไปได้
ส่วนฝั่งซ้ายของประตูทางเข้าบ้านจะแบ่งพื้นที่แยกเป็นห้องน้ำซึ่งภายในห้องจะแยกพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งไว้และมีฝักบัวอาบน้ำให้ ทำให้เป็นอีกห้องหนึ่งที่สามารถใช้อาบน้ำได้ และอีกห้องทางฝั่งซ้ายเป็นห้องเก็บของซึ่งจะอยู่ใต้บันได
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ของตัวบ้าน จะจัดแบ่งพื้นที่ห้องไว้เหมือนแบบ Blooma เลย คือ เป็นห้องนอน 3 ห้อง แต่จะมีห้องเดียวเท่านั้นที่มีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนอีก 2 ห้องจะต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน และมีพื้นที่นั่งเล่นบนชั้น 2 ซึ่งมีตำแหน่งตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนทั้ง 3 ห้องและถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่ที่มีหน้าต่างด้านข้าง สามารถมองไปเห็นสวนด้านหน้าบ้านได้ค่ะ
ภายนอกของบ้านแบบ Matura ถูกดีไซน์ออกมาแบบเรียบง่าย ตกแต่งด้วยสีโทนเทา-น้ำตาล ให้กลมกลืนกับธรรมชาติเช่นเดียวกับแบบ Floretta และ Blooma ต่างกันที่หน้าบ้านของ Matura จะกว้างกว่าแบบอื่นๆ เพราะมีจำนวนห้องนอนในชั้นล่างเพิ่มมาอีก 1 ห้องช่องแสงเป็นบานกระจกเขียวตัดแสงสีออกฟ้าๆ เหมือนแบบบ้านอื่นๆ ส่วนหลังคาของตัวบ้านเป็นหลังคาซีแพคโมเนียด้านในติดแผ่นสะท้อนความร้อนไว้ หลังคามีความยาวยื่นออกมาไม่มาก ทำให้บังแดดหรือฝนไม่ได้มากนักเช่นกันค่ะ
ด้านหน้าบ้านตัวอย่างส่วนหน้าบ้านจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคือฝั่งด้านหน้าที่จอดรถและฝั่งด้านหน้าพื้นที่ทานข้าวและ ซึ่งจะมีประตูทั้ง 2 ฝั่ง ทางเข้าบ้านฝั่งพื้นที่ทานข้าวจะเป็นประตูกระจกสไลด์ที่ยกขึ้นสูงจากพื้นหน้าบ้าน ส่วนทางเข้าบ้านฝั่งที่จอดรถจะเป็นประตูไม้บานเปิด-ปิดที่ยกขึ้นสูงจากพื้นหน้าบ้านเช่นกัน และที่พิเศษกว่าบ้านแบบอื่นคือ ประตูรั้วของบ้าน Matura เป็นประตูรั้วอัตโนมัติควบคุมด้วยรีโมทระยะไกลทำให้ไม่ต้องลงจากรถมาเปิดประตูบ้าน สามารถขับรถเข้าบ้านได้เลยค่ะ
พื้นที่ด้านหน้าบ้านฝั่งพื้นที่ทานข้าวเป็นประตูกระจกสไลด์ ในฤดูหนาวสามารถเปิดรับลมจากประตูฝั่งนี้ได้ลมหนาวเข้าบ้านเต็มๆค่ะ บริเวณด้านหน้าของบ้านตัวอย่างจะไม่มีรั้ว แต่บ้านจริงจะมีแนวรั้วและประตูรั้วโปร่งบานเลื่อนให้ ด้านหน้ามีการจัดเป็นพื้นที่สวนและปลูกต้นไม้ไว้ แต่บ้านจริงจะปูหญ้า มีไม้พุ่มและไม้ยืนต้น 1 ต้นค่ะ
บริเวณด้านข้างอีกฝั่งของบ้าน จะเว้นไว้กว้าง 2 ม.เช่นกัน โครงการตกแต่งไม้พุ่มข้างๆมาให้ เราดูเป็นไอเดียในการตกแต่งสวนได้ค่ะ เพราะบ้านจริงจะปูหญ้าให้อย่างเดียว
พื้นที่ด้านหลังของตัวบ้านจะเป็นลานซักล้างพื้นคอนกรีตขัดมัน ลานซักล้างนี้สามารถเปิดประตูมาใช้งานได้จากทางห้องครัวด้านหลังบ้านค่ะ
มาดูด้านข้างของตัวบ้านกันบ้าง บริเวณด้านข้างของบ้าน รอบตัวบ้านจะเว้นไว้กว้าง 2 ม. บ้านตัวอย่างจะปูพื้นเป็นแนวทางเดินไว้ เราสามารถเอาไปเป็นไอเดียในการตกแต่งได้นะค่ะ เพราะบ้านจริงจะปูหญ้ามาให้อย่างเดียว
กลับมาที่ด้านหน้าบ้านฝั่งที่จอดรถค่ะ ต่อไปจะพาชมด้านในบ้านซึ่งจะเริ่มเข้าบ้านจากทางนี้นะคะ
ประตูฝั่งที่จอดรถนี้เป็นประตูไม้เนื้อแข็งทำสีบานเปิดปิด ด้านข้างประตูมีปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำ ติดให้ 1 ตำแหน่ง เหมือนกับหน้าบ้านแบบ Blooma ค่ะ
เข้ามาด้านในบ้าน พื้นที่ใช้สอยจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งของประตู เราไปดูพื้นที่ฝั่งขวาซึ่งเป็นส่วนพื้นที่ใช้สอยหลักของชั้นนี้กันก่อนนะคะ
เข้ามาด้านในส่วนแรกจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นดูทีวีเป็นพื้นที่โล่งยาวไปถึงส่วนพื้นที่สำหรับรับประทานอาหาร พื้นที่ชั้น 1 มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานชั้นล่าง สูง 2.6 เมตร ผนังในบ้านตัวอย่างจะติด wallpaper และวัสดุตกแต่งไว้ แต่บ้านจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีนะคะ ส่วนดวงไฟเป็นไฟ downlight เหมือนบ้านตัวอย่าง พื้นที่นั่งเล่นนี้มีระยะระหว่างโซฟาถึงทีวีกว้าง 2.8 ม. สามารถติดทีวีขนาดที่เหมาะสมได้เกือบ 60 นิ้วเลยค่ะ
ทางโครงการได้เดินปลั๊กไฟ ช่องรับสัญญาณโทรทัศน์ และช่องรับสัญญาณโทรศัพท์ มาให้เรียบร้อยอยู่บริเวณด้านหลังทีวีค่ะ
โซฟาที่จัดไว้เป็นโซฟา 3 ที่นั่ง ถ้าครอบครัวที่มีสมาชิกเกิน 3 คนก็คงจะไม่พอนั่ง คงต้องหาเก้าอี้สตูลมาเพิ่มสำหรับเวลาที่นั่งดูหนังพร้อมกันทั้งครอบครัว ด้านข้างโซฟายังมีพื้นที่เหลือด้านข้างอยู่นิดหน่อยก็พอจะขยับไปใช้โซฟาขนาด 4 ที่นั่งได้ค่ะ
ถัดจากมุมนั่งเล่นไปจะเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่นั่ง ซึ่งติดกับโต๊ะทานอาหารเป็นประตูกระจกบานสไลด์บานใหญ่ขนาดใหญ่พอสมควรนะคะมีความกว้างของบาน 2.2 ม. ด้านข้างของตัวประตูกระจกเป็นกระจกเข้ามุม ทำให้มุมนี้เป็นมุมที่รับแสงธรรมชาติและมองเห็นวิวสวนจากนอกบ้านได้ดีค่ะ
ติดกับกับพื้นที่รับประทานอาหาร เป็นเคาน์เตอร์บาร์ ซึ่งสามารถใช้เป็นพื้นที่ทำครัวฝรั่งเบาๆ อบขนมปังหรือชงกาแฟได้
พื้นที่ด้านหน้าทางเข้าครัวทางโครงการทำไว้เป็น เคาน์เตอร์บาร์ ซึ่งบ้านจริงจะไม่มีให้นะคะ ด้านหลังเคาน์เตอร์บาร์เป็นหน้าต่างบานสไลด์บานใหญ่พอสมควรนะคะมีความกว้างของบาน 1.6 ม. ทำให้มุมนี้เป็นมุมที่รับแสงธรรมชาติจากนอกบ้านได้อีกมุม
ห้องครัวถูกออกแบบไว้เป็นครัวปิด ทำให้สามารถใช้งานได้จริงแบบครัวไทยนะคะ ภายในมีหน้าต่างทำให้สามารถเปิดระบายอากาศได้เป็นบานกระทุ้งผสมบานติดตายเหมือนห้องครัวที่บ้านตัวอย่างแบบ Blooma นะคะ ภายในห้องครัวถูก Built-in เป็นเคาน์เตอร์ครัวตัว L พร้อมตู้ลอยไว้เต็มพื้นที่นะคะ ซึ่งในบ้านจริงก็จะได้ชุดครัวหมือนกับบ้านตัวอย่างค่ะ ส่วนฝั่งซ้ายมือมีประตูออกไปสู่ส่วนซักล้างด้านหลังบ้านได้ค่ะ
พื้นที่หลังบ้านเป็นลานซักล้าง พื้นเป็นคอนกรีตขัดมัน ซึ่งของบ้านจริงก็จะได้แบบนี้เหมือนกันค่ะ
ห้องนอนชั้นล่างสำหรับแบบบ้านนี้จะอยู่ระหว่างเคาน์เตอร์บาร์และพื้นที่ทานอาหาร ซึ่งจะเป็นห้องนอนที่ไม่ได้มีห้องน้ำในตัวนะคะ จะต้องออกมาใช้ห้องน้ำส่วนกลางค่ะ
ภายในห้องนอนมีพื้นที่มีขนาดไม่กว้างมาก ถูกออกแบบให้เป็นห้องที่พักอาศัยได้พอดีสำหรับ 1 คน ตัวห้องเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าด้านกว้างมีระยะไม่กว้างมากพอวางเตียงขนาด 5 ฟุตในห้องแล้วทำให้มีพื้นที่ปลายเตียงเหลือน้อย พอสำหรับเดินผ่านได้เท่านั้น การติดทีวีในห้องนี้จึงต้องติดแบบแขวนผนังค่ะ ภายในห้องมีระยะพื้นถึงฟ้า 2.6 ม. และมีหน้าต่างทั้ง 2 ด้าน จึงทำให้ห้องดูโปร่งขึ้น ส่วนพื้นปูด้วยลามิเนตขนาด 8 มม. ภายในถูกจัดวาง Furniture ต่างๆไว้ได้ครบนะคะ ได้แก่ เตียงขนาด 5 ฟุตไว้ ด้านข้างวางโต๊ะเขียนหนังสือ และตู้เสื้อผ้าที่ Built-in ไว้เรียบร้อย สำหรับบ้านจริงจะไม่ได้ให้ Furniture นะคะจะเป็นห้องเปล่าค่ะ เราสามารถดูไอเดียการตกแต่งจากบ้านตัวอย่างได้ค่ะ
อีกฝั่งหนึ่งของห้องจะมีโต๊ะข้างเตียงที่สามารถเป็นได้ทั้งโต๊ะเขียนหนังสือและโต๊ะเครื่องแป้ง ติดกันตู้เสื้อผ้าที่ถูก Built-in ไว้เป็นตู้บานเปิด 2 บานมีขนาดใหญ่ใช้งานได้จริง ตรงข้ามตู้เสื้อผ้ายังเหลือพื้นที่ให้วางเก้าอี้โยกได้อีกตัวหนึ่ง ซึ่งจากมุมของเก้าอี้โยกจะสามารถมองออกไปรับวิวด้านหน้าบ้านได้ด้วยค่ะ
กลับมาที่ห้องนั่งเล่นดูทีวีซึ่งเป็นห้องแรกของฝั่งขวาจากประตูทางเข้า ต่อไปเราจะพาไปชมฝั่งซ้ายกันบ้างค่ะ
ฝั่งซ้ายของประตูจะเป็นโถงทางเดินที่เชื่อมห้องในฝั่งนี้ ด้านขวาเป็นทางเลี้ยวไปห้องน้ำชั้นล่างและห้องเก็บของใต้บันได ส่วนถ้าตรงไปจะเป็นทางขึ้นชั้น 2 ค่ะ
เลี้ยวขวาจากโถงทางเดินมาจะเจอประตูห้องน้ำชั้นล่างและห้องเก็บของใต้บันไดแบบเดียวกับแบบบ้าน Blooma เลยค่ะ
พื้นที่ภายในห้องน้ำจะถูกแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจนด้วยขอบธรณี ผนังและพื้นโดยรอบเป็นกระเบื้องทั้งหมดค่ะ กระเบื้องปูพื้นจะเป็นกระเบื้องแบบด้าน เพื่อช่วยกันลื่นภายใน้ห้องน้ำ ส่วนผนังจะปูด้วยกระเบื้องลายตาราง ผนังด้านหลังอ่างล้างหน้าในส่วนแห้งมีข้อดีที่สามารถติดกระจกได้เต็มบานนะคะ ซึ่งจะช่วยให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้นด้วยค่ะ ส่วนสุขภัณฑ์ สายชำระ แกนทิชชู่ และอ่างล้างมือจะให้แบบเดียวกับบ้านแบบ Blooma เลยนะคะ ซึ่งในบ้านจริงก็จะให้ลายกระเบื้องและสุขภัณฑ์ตรงตามแบบนี้ค่ะ
ขนาดของพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.88 x 1.5 ม. และกั้นส่วนเปียกแห้งด้วยขอบธรณีความสูง 5 ซม. เหมือนกับห้องน้ำชั้นล่างในบ้านแบบ Blooma แต่การใช้งานจริงสำหรับบ้านที่มีห้องนอนชั้นล่างจะมีโอกาสที่จะมีคนมาใช้งานมากกว่า อาจจะต้องติดผ้าม่านหรือบานกระจกเพิ่มจะช่วยให้น้ำไม่กระเด็นมาตรงส่วนอื่นของห้องน้ำเวลาเราอาบน้ำได้ดีกว่า สำหรับบ้านจริงก็จะได้อุปกรณ์ในห้องน้ำทั้งหมดนี้เหมือนห้องตัวอย่างค่ะ
ต่อไปจะพาขึ้นบันไดไปชมในส่วนชั้นบนกันนะคะ โครงสร้างของบันไดเป็นโครงสร้างปูนส่วนตัวไม้จะเป็นไม้สำเร็จรูป มีความกว้างประมาณ 90 ซม. ความสูงของแต่ละขั้นบันได (ลูกตั้ง) ประมาณ 18 ซม.ค่ะ
ลักษณะบันไดเป็นการเดินขึ้นแบบวนขึ้นเป็นตัว U แบ่งช่วงพาดของบันไดมีชานพัก 2 ตำแหน่ง การใช้งานบันไดสามารถเดินขึ้นได้สะดวกดีค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้นบนจะเป็นโถงทางเดินที่เชื่อมห้องต่างๆภายในนะคะ โดยทางเดินมีความกว้างประมาณ 1.06 ม. ซ้ายมือห้องแรกเป็นห้องน้ำส่วนกลางของชั้นบน ถัดไปเป็นห้องนอนเล็ก ส่วนห้องที่อยู่ตรงกลางเป็นห้องนอนใหญ่ซึ่งมีห้องน้ำในตัวค่ะ ถัดมาห้องทางขวาเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ซึ่งจะอยู่ตรงกลางของชั้นนะคะ และห้องที่ติดกับพื้นที่อเนกประสงค์ทางฝั่งขวาคือห้องนอนขนาดกลางค่ะ ทุกห้องมีประตูปิดแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน ยกเว้นพื้นที่อเนกประสงค์ที่จะเชื่อมกับโถงทางเดินได้เลยค่ะ
เริ่มจากห้องนอนขนาดกลางมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง มีระยะพื้นถึงฟ้า 2.6 ม. และมีหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้ห้องค่อนข้างโปร่ง ส่วนพื้นปูด้วยลามิเนตขนาด 8 มม. ภายในถูกจัดวางFurniture ต่างๆไว้ได้ครบ โดยห้องนี้จะเป็นห้องนอนขนาดกลางที่สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้ ทั้ง 2 ฝั่งเตียงวางโต๊ะหัวเตียงไว้ ภายในห้อง Built-in ตู้เสื้อผ้าไว้เต็มผนังฝั่งที่ติดกับประตูทางเข้าห้อง สำหรับบ้านจริงจะไม่ได้ให้ Furniture นะคะ จะเป็นห้องเปล่าค่ะ แต่เราก็สามารดูห้องตัวอย่างไว้เป็นไอเดียในการแต่งบ้านได้ค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงด้านที่ติดกับหน้าต่างมีระยะประมาณ 0.70 ม. มีพื้นที่พอให้เดินมาขึ้นเตียงได้ บริเวณหัวเตียงมีการตั้งโต๊ะหัวเตียงไว้สำหรับวางโทรศัพท์ หรือนาฬิกาปลุกได้ และมีการติดตั้งปลั๊กไฟไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ
พื้นที่ด้านข้างของเตียงฝั่งขวามีพื้นที่กว้างประมาณ 0.70 ม. เช่นกัน ซึ่งเป็นทั้งทางเดินเข้าสู่เตียงและเป็นระยะสำหรับเปิดตู้เสื้อผ้าด้วยค่ะ จึงแนะนำให้ใช้ตู้เสื้อผ้าแบบบานสไลด์จะประหยัดพื้นที่ส่วนนี้ได้ดีกว่า ด้านในสุดเป็นโต๊ะหัวเตียง ซึ่งจะบังตู้เสื้อผ้าด้านในทำให้หยิบเสื้อผ้าลำบาก จึงแนะนำให้เลือกใช้เตียงที่หัวเตียงออกแบบมาให้มีชั้นวางของอยู่ด้วยก็จะทำให้ประหยัดพื้นที่ได้ค่ะ
ส่วนพื้นที่ปลายเตียงมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างประมาณ 1.55 ม. สามารถวางชั้นวางทีวี ชั้นวางของได้ หรือจะทำเป็นโต๊ะเขียนหนังสือ โต๊ะเครื่องแป้งก็สามารถวางเก้าอี้บนพื้นที่ส่วนนี้ได้สะดวกค่ะ
บ้านตัวอย่างทำตู้แบบ Built-in ไว้ที่ผนังด้านปลายเตียงให้เป็นชั้นวางของและโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งในบ้านจริงเป็นห้องโล่ง ทำให้สามารถออกแบบพื้นที่ในส่วนนี้ที่เหมาะสมกับผู้อยู่อาศัยเองได้ ผนังด้านปลายเตียงนี้ทางโครงการได้เดินปลั๊กไฟและช่องรับสัญญาณโทรทัศน์มาให้เรียบร้อยแล้วนะคะ
มาต่อกันที่ห้องน้ำส่วนกลางบนชั้น 2 นี้ มีขนาดพอๆกับห้องน้ำส่วนกลางที่ชั้นล่าง ภายในห้องน้ำมีแยกส่วนเปียกแห้งด้วยขอบธรณี ส่วนอ่างล้างหน้า สุขภัณฑ์ และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้เหมือนกับห้องน้ำส่วนกลางที่ชั้นล่างนะคะ ต่างกันเพียงห้องชั้นบนนี้จะมีตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้าเพิ่มมาอีก 1 ตู้ค่ะ
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ กว้าง 0.88 x 1.5 เมตร วัสดุปูพื้นและผนังจะใช้แบบเดียวกับห้องน้ำชั้นล่างเลยค่ะ สำหรับบ้านจริงก็จะได้อุปกรณ์ในห้องน้ำทั้งหมดนี้เหมือนห้องตัวอย่างค่ะ
ถัดเข้ามาจะเจอกับห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนทั้งหมดบนชั้น 2 แต่ห้องนี้จะไม่มีประตูกั้นแบ่งพื้นที่ จะเป็นห้องเปิดโล่ง สามารถใช้งานเป็นพื้นที่ส่วนกลางตั้งชุดโซฟาไว้นั่งเล่นหรือจัดเป็นส่วนของหิ้งพระก็ได้ค่ะ พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ที่ติดกับหน้าต่างด้านข้างซึ่งสามารถมองลงไปเห็นสวนด้านล่างได้ จึงเป็นอีกจุดที่เหมาะจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนของสมาชิกในบ้านค่ะ
ฝั่งตรงข้ามห้องอเนกประสงค์จะเป็นห้องนอนเล็กมีขนาดไม่กว้างมาก ถูกออกแบบให้เป็นห้องที่พอดีสำหรับ 1 คน ภายในวางFurniture ต่างๆไว้ ได้แก่ เตียงขนาด 3.5 ฟุตไว้ ด้านข้างมีโต๊ะหัวเตียงและตู้เสื้อผ้าที่ Built-in ไว้เรียบร้อย เตียงนอนถูกวางให้ติดกับหน้าต่าง นอกจากจะทำให้สามารถเห็นบรรยากาศรอบนอกบ้านได้แล้ว ยังทำให้พื้นที่ที่เหลือในห้องสามารถใช้งานได้เต็มพื้นที่ด้วย
พื้นที่ส่วนปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 68 ซม. ซึ่งไม่มากนะคะ ถ้าจะติดทีวีภายในห้องจึงควรใช้ทีวีแบบแขวนผนังค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งหนึ่งมีขนาดความกว้างประมาณ 1.80 ม. สามารถตั้งโต๊ะวางของหัวเตียงและวางตู้เสื้อผ้าได้ในพื้นที่ฝั่งนี้ค่ะ
ภายในห้องตัวอย่าง Built-in ตู้เสื้อผ้าไว้เป็นตู้บานเปิด 2 บาน ซึ่งในขนาดพื้นที่ห้องที่ไม่ใหญ่มากแนะนำเป็นตู้บานสไลด์จะช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยได้ดีกว่าค่ะ การตกแต่งในบ้านตัวอย่างนี้สามารถเก็บไปเป็นไอเดียในการแต่งบ้านได้อีกเช่นกันนะคะ เพราะบ้านจริงจะไม่ได้มีมาให้ค่ะ
ห้องนอนใหญ่เป็นห้องที่มีพื้นที่ 1 ใน 3 ของพื้นที่ชั้นบนนะคะ ตัวห้องเหมือนแบบห้องนอนใหญ่ของบ้านแบบ Blooma เลยค่ะ มีระยะพื้นถึงฝ้า 2.6 ม. และพื้นปูด้วยลามิเนต 8 มม. ช่องรับแสงธรรมชาติค่อนข้างพอเพียงนะคะมีหน้าต่างฝั่งหัวเตียง 1 บานและมีระเบียงกระจกขนาดใหญ่สามารถเปิดออกไปเดินเล่นด้านนอกได้ สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกจัดวางไว้ในห้องนี้ ได้แก่ เตียงขนาด 6 ฟุต ด้านข้างวางโต๊ะหัวเตียงไว้ทั้ง 2 ฝั่งและตู้เสื้อผ้าแบบ Walk in closet ที่ติดกับห้องน้ำในตัว ส่วนพื้นที่ปลายเตียงมีพื้นที่พอสำหรับชั้นวางทีวีค่ะ สำหรับบ้านจริงจะไม่ได้ให้ Furniture นะคะ จะเป็นห้องเปล่าค่ะ เราสามารถดูไอเดียการตกแต่งจากบ้านตัวอย่างได้ค่ะ
พื้นที่ด้านข้างของเตียงฝั่งขวาที่ติดกับ Walk in closet มีพื้นที่กว้างประมาณ 0.87 ม. สามารถเดินขึ้นเตียงได้สะดวก ด้านในสุดเป็นตำแหน่งของโต๊ะหัวเตียง ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นโต๊ะที่ตัวใหญ่กว่านี้ได้ค่ะ
พื้นที่อีกฝั่งหนึ่งของเตียงด้านที่ติดกับหน้าต่าง มีระยะประมาณ 0.57 ม. เป็นระยะให้พอเดินมาขึ้นเตียงได้ บริเวณหัวเตียงจะตั้งโต๊ะหัวเตียงไว้สำหรับวางโคมไฟ หรือนาฬิกาปลุกได้สบายๆ ซึ่งผนังฝั่งหัวเตียงจะติดตั้งปลั๊กไฟไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ
ส่วนพื้นที่ปลายเตียงมีระยะกว้างประมาณ 1.40 ม. สามารถทำชั้นวางทีวี Built-in ได้ก็จะทำให้ภายในห้องมีตู้เก็บของเพิ่มขึ้นอีกตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งผนังด้านหลังทีวีก็ได้มีการติดตั้งสวิตซ์ไฟและช่องรับสัญญาณโทรทัศน์ไว้เรียบร้อยค่ะ
ติดกับกับเตียงนอนเป็นประตูกระจกบานสไลด์ นอกจากจะใช้เป็นประตูเปิดออกไปเดินเล่นที่ระเบียงแล้ว ยังเป็นช่องแสงธรรมชาติให้กับห้องนอนด้วยค่ะ
พื้นที่ระเบียงถูกใช้เป็นพื้นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์อยู่ฝั่งหนึ่งเหมือนระเบียงในแบบบ้าน Blooma นะคะ ราวกันตกถูกออกแบบไว้เป็นกระจกเขียวตัดแสงทำให้เวลามองออกมาจากภายในห้องจะสามารถเห็นพื้นที่สีเขียวด้านหน้าบ้านได้โดยไม่มีราวระเบียงมาบังนะคะ
ส่วนฝั่งตรงข้ามหน้าต่างซึ่งเป็นด้านในของห้องจะถูก Built-in ไว้แบบ Walk in closet โดยมีบานสไลด์กั้นแยกพื้นที่แต่งตัวออกจากห้องนอน ภายในมีตู้เสื้อผ้า 2 ฝั่ง โดยพื้นที่ส่วนนี้จะติดกับห้องน้ำที่อยู่ด้านในค่ะ เราสามารถดูไอเดียการทำ Walk in closet จากบ้านตัวอย่างได้ค่ะ
ด้านในของ Walk in closet จะเป็นห้องน้ำในตัวของห้อง Master Bedroom ค่ะ
ภายในห้องน้ำจะถูกแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจนด้วยขอบธรณีและฉากกั้นกระจก ผนังและพื้นโดยรอบเป็นกระเบื้องทั้งหมดค่ะ ซึ่งในบ้านจริงก็จะให้ลายกระเบื้องและสุขภัณฑ์ตรงตามแบบนี้นะคะ
อ่างล้างหน้าในห้อง Master Bedroom นี้จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องน้ำอื่นๆในบ้านะคะ โดยมีขนาด 0.3 x 0.6 ม. และมีความลึกของตัวอ่างที่มากกว่า ด้านล่างอ่างล้างหน้าจะมีตู้เก็บของแบบมีหน้าบานปิด ซึ่งจะใส่ของได้เล็กน้อยแบบผ้าชิ้นเล็กๆ หรือขวดสบู่ ยาสระผม แต่อย่าลืมเว้นพื้นที่ไว้เผื่อซ่อมแซมตัวท่อด้วยนะคะ
โถสุขภัณฑ์เป็นโถแบบชิ้นเดียวยี่ห้อ Mogen มากับที่แขวนกระดาษชำระและสายฉีดชำระยี่ห้อ American Standard เหมือนห้องน้ำชั้นล่าง ด้านข้างเป็นหน้าต่างฝ้าบานสไลด์ ซึ่งห้องน้ำห้องนี้มีข้อดีที่มีหน้าต่างบานค่อนข้างใหญ่ ทำให้อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวกค่ะ
ด้านในห้องอาบน้ำจะมีที่สำหรับนั่งอาบ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุในบ้านหมือนกับห้องน้ำในของ Master Bedroom ของแบบบ้าน Blooma นะคะ
เนื่องจากบ้านตัวอย่างจะไม่ได้ติดประตูภายในบ้านมาให้ดูนะคะ จึงจะมาสรุปรูปแบบประตูภายในบ้านซึ่งใช้เหมือนกันในบ้านทั้ง 3 แบบ วัสดุประตูจะใช้วงกบเป็นไม้สังเคราะห์ทาสีขาว ตัวบานทึบเต็มบานทำจาก HDF แบบฝั่งซ้ายเป็นประตูห้องครัวจะมีช่องกระจกให้ส่งดูด้านในได้ ส่วนแบบฝั่งขวาเป็นประตูห้องนอนและห้องน้ำจะมีลักษณะเป็นบานทึบค่ะ
มือจับประตูเป็นแบบคันโยกซึ่งสามารถจับได้ถนัดมือ และจะมีตัวล็อกเป็นลูกบิดแบบหมุนค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 24 March 2016
- แบบ Floretta พื้นที่ใช้สอย 141.37 ตร.ม. 54.4 ตร.วา ราคาขาย 6.85 ล้านบาท ราคาพิเศษ 6.35 ล้านบาท หรือ 116,728 บาท/ตร.วา
- แบบ Floretta พื้นที่ใช้สอย 141.37 ตร.ม. 55.9 ตร.วา ราคาขาย 6.89 ล้านบาท ราคาพิเศษ 6.39 ล้านบาท หรือ 114,311 บาท/ตร.วา
- แบบ Blooma พื้นที่ใช้สอย 154.22 ตร.ม. 67.8 ตร.วา ราคาขาย 8.09 ล้านบาท ราคาพิเศษ 7.59 ล้านบาท หรือ 111,947 บาท/ตร.วา
- แบบ Blooma พื้นที่ใช้สอย 154.22 ตร.ม. 68.0 ตร.วา ราคาขาย 8.09 ล้านบาท ราคาพิเศษ 7.59 ล้านบาท หรือ 111,618 บาท/ตร.วา
- แบบ Blooma พื้นที่ใช้สอย 154.22 ตร.ม. 67.8 ตร.วา ราคาขาย 8.05 ล้านบาท ราคาพิเศษ 7.55 ล้านบาท หรือ 111,357 บาท/ตร.วา
- แบบ Blooma พื้นที่ใช้สอย 154.22 ตร.ม. 65.2 ตร.วา ราคาขาย 7.89 ล้านบาท ราคาพิเศษ 7.39 ล้านบาท หรือ 113,344 บาท/ตร.วา
- แบบ Blooma พื้นที่ใช้สอย 154.22 ตร.ม. 66.8 ตร.วา ราคาขาย 7.95 ล้านบาท ราคาพิเศษ 7.45 ล้านบาท หรือ 111,527 บาท/ตร.วา
- จองและทำสัญญา 80,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 80,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 35บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี
- ค่าจดจำนอง 0.01% ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ 0.01% ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง (ฝ่ายละ 0.005%) สิ้นสุด 28 เม.ย. 2559
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- โปรโมชั่น ฟรี Wallpaper, ฉากกั้นอาบน้ำในห้อง Master Bedroom และเฟอร์นิเจอร์จาก Starmark มูลค่า 5 แสนบาท
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเลของโครงการ Viranya อ่อนนุช-วงแหวน ตั้งอยู่บนถนนเลียบวงแหวนรอบนอกหรือวงแหวนกาญจนภิเษก ฝั่งมุ่งหน้าไปยังถนนสุขุมวิท 77 หรือแยกประเวศ ทำเลที่ตั้งจัดว่าอยู่บริเวณชานเมืองแต่ไม่ได้ห่างจากเมืองมากนัก พื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ มีรูปแบบทั้งที่เป็นทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยวสลับกับแปลงเป็นพื้นที่ว่างเปล่าขนาดใหญ่รอการพัฒนา ส่วนน้อยที่เป็นบ้านพักอาศัยแบบสร้างเอง ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่บนถนนเลียบวงแหวน ทำให้ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินไม่มี ต้องใช้รถเป็นหลักในการเดินทาง ไปตลาดที่ใกล้ที่สุด คือ ตลาดโดยรอบมหาลัยรามคำแหง 2 ซึ่งมีซอยทะลุไปได้ ห่างออกไปอีกหน่อยจะมีตลาดและร้านขายอาหารตลอดเส้นอ่อนนุชซึ่งเป็นพื้นที่ชุมชน ถ้าเป็นรูปแบบศูนยการค้าหรือ Hypermarket ที่ใกล้ที่สุด คือ Lotus Extra สาขาราม 2 และ Mega Bangna ที่มีซอยทะลุไปได้อีกเช่นกัน ถ้าห่างออกไปหน่อยจะมี Cantral บางนา ติดถนนบางนา-ตราด Seacon Square และ Paradise park บนถนนศรีนครินทร์
การเดินทางโดยใช้รถ – สำหรับผู้ที่เดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวถือว่าสะดวกมาก สามารถเข้าถึงโครงการได้จากทั้งถนนแนวราบและทางพิเศษที่ต้องเสียเงิน ได้แก่ มอเตอร์เวย์และทางด่วน ทุกเส้นทางจะสามารถเข้ามายังถนนเลียบวงแหวนรอบนอกได้หมด แต่การจราจรสำหรับเส้นทางเข้าเมืองนั้นเรียกว่ารถติดมาก โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน ส่วนการจราจรขาออกไปยังเส้นบางนา – ตราดยังพอไปได้เรื่อยๆ นอกจากนั้นถนนในละแวกนี้จะมีรถบรรทุกวิ่งเยอะจึงต้องระมัดระวังในการขับรถมากขึ้นค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – สำหรับคนที่ไม่ใช้รถจะเดินทางลำบากหน่อย เนื่องจากไม่ใช่เส้นทางหลัก แท๊กซี่ พี่วิน จะหาได้ยากหน่อย แต่ก็ยังพอมีรถสองแถวที่ผ่านเส้นทางเลียบวงแหวน โดยวิ่งจากราม 2 ผ่านหน้าโครงการ และไปสุดทางที่ทับช้าง ก็เป็นเส้นทางที่ไปต่อ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้ง (ARL) ได้ ส่วนรถไฟฟ้า BTS สถานีใกล้เคียงที่สุด คือ สถานีอุดมสุข มีระยะห่าง 13 กม. และสถานีอ่อนนุชที่อยู่บนเส้นสุขุมวิทซึ่งมีระยะห่าง 15.4 กม.
วัสดุและโครงสร้าง – บ้านในโครงการเป็นบ้านแบบ Precast หรือผนังสำเร็จรูปจากโรงงานยกมาประกอบที่โครงการ มีข้อดีที่มีความแข็งแรงมากกว่าผนังก่ออิฐ แต่มีข้อเสียคือไม่เหมาะสมในการทุบ รื้อ ต่อเติมผนัง Precast (ถ้าจะต่อทุบ รื้อ เติมต้องปรึกษาวิศวกร) ผนังเป็นแบบฉาบปูนเรียบทาสี มีรายการของแถมเป็น Wallpaper ทั้งหลัง พื้นชั้นล่างส่วนใหญ่จะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีอ่อน ส่วนชั้นบนที่เป็นพื้นที่ห้องนอนและพื้นที่เอนกประสงค์เป็นพื้นไม้ลามิเนต พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ส่วนระเบียงเป็นทรายล้างผสมกระเบื้อง ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำจาก Mogen หรือเทียบเท่าได้เหมือนบ้านตัวอย่าง ห้องครัวจะเป็นครัวปูนได้ตู้เก็บของด้านล่างเคาน์เตอร์ และตู้ลอยครบเซท ถ้าเป็นแบบบ้านขนาดเล็กราคาไม่แพงมากถือว่าตามมาตรฐานของบ้านไซด์นี้ในย่านนี้ แต่สำหรับบ้านใหญ่ที่ราคาเกือบ 10 ล้าน วัสดุถือว่ายังไม่เป็นไปตามมาตราฐานของราคาระดับนี้ค่ะ
การออกแบบโครงการ – โครงการวางผังโครงการโดยเน้นการจัดพื้นที่สีเขียวในโครงการให้สามารถใช้อย่างทั่วถึง มีถนนหลักของโครงการที่ชัดเจนซึ่งบนถนนหลักมีที่กลับรถแบบวงเวียน 2 ตำแหน่ง การวางผังในส่วนที่อยู่อาศัยออกแบบโดยมีถนนหลักเป็นเส้นยาวจากทางเข้าถึงด้านหลังโครงการแล้วค่อยแจกเป็นซอยย่อยแบบซอยตัน มีบ้าน 4-6 หลัง ซึ่งแบบนี้จะทำให้บ้านมีความเป็นส่วนตัวเหมาะสมกับการอยู่อาศัย แต่ก็มีผังบางส่วนในโครงการที่ซอยย่อยจะยาวมากและเป็นซอยเปิดทำให้บ้านในซอยเหล่านี้จะเสียความเป็นส่วนตัวมากกว่าซอยตัน แต่ก็มีข้อดีที่ไม่ต้องกลับรถเลยเพราะเป็นซอยเปิดจึงสามารถวนออกได้ทั้งทางหน้าซอยและหลังซอย นอกจากนี้บางแปลงที่ดินยังมีแปลงรูปร่างแปลกๆ เช่น ที่ดินรูปสี่เหลี่ยมคางหมูอยู่หลายแปลง เมื่อทำการก่อสร้างครบทุกเฟสและพัฒนาพื้นที่โดยรอบในโครงการครบหมดน่าจะจัดเป็นหมู่บ้านขนาดกลาง-ใหญ่พอสมควร
การออกแบบบ้าน – ตัวบ้านออกแบบสไตล์โมเดิร์นเรียบง่าย สีที่เลือกใช้เป็นสีเทา น้ำตาล กลมกลืนกับธรรมชาติ พื้นที่ภายในบ้านถือว่าจัดได้ดี มีจุดที่เน้นมุมมองเพื่อเชื่อมต่อกับสวนหน้าบ้าน และยังเป็นช่องรับแสงธรรมชาติเข้ามาในบ้าน บ้านตัวอย่างจัดพื้นที่ได้เห็นภาพของการใช้งานแต่ละจุดได้ชัดเจนพอสมควร การจัดพื้นที่การใช้งานในส่วนต่างๆจัดได้ดีเน้นการใช้งานได้จริง เช่น ห้องครัวเป็นครัวปิดแบบครัวไทย พื้นที่ส่วนนั่งเล่นจัดพื้นที่สำหรับวางโซฟามาเล็กไปหน่อยสำหรับการอยู่อาศัย 4-6 คน ส่วนอเนกประสงค์ที่จัดไว้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้
สาธารณูปโภค – ทางเข้าโครงการจะมีซุ้มหน้าโครงการออกแบบทันสมัย ทางเข้าออกโครงการเป็นไม้กระดกและประตูเลื่อน ผ่านเข้าโครงการด้วย Key Card Access ระยะ 0.6 – 1 ม. และติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อความปลอดภัยที่ด้านหน้า พร้อม รปภ. ตลอด 24 ชม. ถนนหลักในโครงการกว้าง 14 และ 12 ม. และถนนซอยกว้าง 9 ม. ซึ่งถือว่ามีขนาดปกติ บรรยากาศโดยรอบโครงการออกแบบมาโดยเน้นพื้นที่สีเขียว เห็นได้จากถนนทั้ง 2 ฝั่งของโครงการ ที่จะปลูกต้นไม้ใหญ่ตลอดทั้ง 2 ฝั่งถนน พื้นที่สวนส่วนกลางจัดไว้หลักๆ 2 ตำแหน่ง คือพื้นที่ Clubhouse และพื้นที่ทะเลสาบด้านในโครงการ ส่วน Clubhouse จะประกอบด้วยสระว่ายน้ำและฟิตเนส ห้อง Meeting Room และ Kid Club
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ ราคา 6 – 13 ล้านบาท, 24 March 2016
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ติดถนนเลียบวงแหวน มีความอุดมสมบูรณ์น้อยในระยะ 5 กิโลเมตร
- ความปลอดภัย 8.5/10 – มีรั้วกั้นไม้กระดก ประตูไฟฟ้าแบบบานเลื่อน CCTV 32 จุด รปภ.หน้าหมู่บ้าน และสัญญาณกันขโมยบ้านทุกหลัง รั้วกันขโมยสูง 3 ม.
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 –ภายนอกดูสีเรียบง่าย พื้นที่ภายในเหมาะสมใช้งานได้จริง การออกแบบเน้นการเชื่อมต่อกับสวนหน้าบ้าน
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.25/10 – พื้นที่สีเขียวรอบClubhouse และทะเลสาบพร้อมสวนโดยรอบขนาด 1 ไร่ มีต้นไม้ใหญ่ 2 ฝั่งถนนหลักในส่วนหน้าโครงการ
- สาธารณูปโภค 8/10 – Clubhouse, สระว่ายน้ำ, Fitness, Meeting Room, Kid Club, Jogging Track รอบ Clubhouse
- 7.81 / 10.00
BOTTOM LINE
Viranya อ่อนนุช – วงแหวน เหมาะกับคนที่ต้องการขยับขยายครอบครัวหรือครอบครัวขนาดกลาง ต้องการอยู่อาศัยย่านชานเมือง แต่ก็ยังต้องการความสะดวกในการเดินทางเข้าตัวเมืองที่ไม่ไกลมาก อย่างย่านอ่อนนุช พระราม 9 และต้องการเดินทางไปบางนา สุวรรณภูมิได้สะดวก เน้นการเดินทางโดยใช้รถยนต์เป็นหลัก สำหรับคนที่สนใจต้องมีงบประมาณ 6-13 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 42,000 – 91,000 บาท
ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )