รีวิวฉบับที่ 2782 วันนี้จะพาไปชมแบบบ้านซีรี่ส์ใหม่จาก The Plant Pinklao – Salaya (เดอะแพลนท์ ปิ่นเกล้า – ศาลายา) บ้านแฝด บ้านเดี่ยวโครงการใหม่บนถนนกาญจนาภิเษก เชื่อมต่อโซนปิ่นเกล้า – ศาลายา เปิดตัวบ้านแฝด 4 ห้องนอนครั้งแรก ในราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท* มีห้องนอนชั้นล่าง รองรับครอบครัวขนาดใหญ่ที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วยได้ หากใครกำลังมองหาบ้านแฝด บ้านเดี่ยวในทำเลนี้อยู่ล่ะก็ สามารถเลื่อนชม Highlights ที่เราสรุปมาให้ก่อนได้ดังนี้เลย
- ทำเล : ที่ตั้งของโครงการอยู่ติดถนนบางม่วง – บางคูลัดหรือซอยพระเงิน เข้า – ออกได้จากถนนกาญจนาภิเษกเป็นหลัก จากโครงการสามารถไปเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย อยู่ไม่ไกลจากทางพิเศษศรีรัช รถไฟฟ้าทั้งสายสีม่วงและสีแดงเข้ม เดินทางเข้า – ออกเมืองได้สะดวก
- บ้านแฝดซีรี่ส์ใหม่ : เปิดตัวบ้านแฝดซีรี่ส์ใหม่ ได้ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ได้พื้นที่ใช้สอยถึง 156 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท* เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านที่ได้ฟังก์ชันใกล้เคียงกัน ส่วนใหญ่จะเริ่มที่ 4 ล้านบาทขึ้นไป เหมาะกับครอบครัวใหญ่ที่กำลังมองหาบ้านที่ได้ห้องนอนชั้นล่าง รองรับผู้สูงอายุได้
- ผนังอิสระทุกแบบ : การออกแบบบ้านแฝดของโครงการเน้นความเป็นส่วนตัวด้วยผนังที่ติดกับเพื่อนบ้านน้อยมาก อย่างผนังชั้น 2 ที่เป็นพื้นที่ส่วนพักผ่อน จะไม่มีผนังติดกันเลย เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว
ข้อมูลโครงการ
The Plant Pinklao – Salaya (เดอะแพลนท์ ปิ่นเกล้า – ศาลายา) ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567
ชื่อโครงการ | The Plant Pinklao – Salaya (เดอะแพลนท์ ปิ่นเกล้า – ศาลายา) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จํากัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | ECONOMY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนบางม่วง – บางคูลัด อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี |
ที่ดิน | 46 – 1 – 49.5 ไร่ |
จำนวนยูนิต | 274 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | 2.60 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 3.39 ล้านบาท* (แบบบ้าน LOMMA 3.69 ล้านบาท*) |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | 52,000 บาท |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2566 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2570 |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
โทร | 1739 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.815687, 100.363127
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการ แสดงตำแหน่ง The Plant Pinklao – Salaya (เดอะแพลนท์ ปิ่นเกล้า – ศาลายา) ที่ตั้งอยู่บนถนนบางม่วง – บางคูลัดหรือซอยพระเงิน จากถนนกาญจนาภิเษกขับเข้ามาประมาณ 6.1 กิโลเมตร จึงทำให้การเดินทางของคนในพื้นที่ส่วนใหญ่จะใช้รถส่วนตัวทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซต์เป็นหลัก เพราะจากทำเลยังมีซอยย่อยให้ทะลุไปออกถนนเส้นอื่นได้หลายสาย และจากถนนกาญจนาภิเษกเองยังไปเชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญๆได้อีก ทั้งถนนบรมราชชนนี , ถนนนครอินทร์ , ถนนรัตนาธิเบศร์ และถนนราชพฤกษ์ เดินทางเข้า – ออกเมืองได้ง่าย จะไปจังหวัดข้างเคียงอย่างสมุทรปราการ , นครปฐมก็สะดวก หรือคุณพ่อ คุณแม่ที่มีลูกๆเรียนอยู่มหิดล ศาลายา ก็สามารถเดินทางไปได้ง่ายๆ ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลย
สำหรับคนที่ทำงานอยู่ในเมืองก็มีตัวเลือกในการเดินทางได้หลากหลาย ไม่ว่าจะทางด่วนหรือรถไฟฟ้า จากโครงการอยู่ใกล้ทางพิเศษศรีรัช ด่านฉิมพลี ประมาณ 9.3 กิโลเมตร แต่การจราจรบนเส้นกาญจนาภิเษกในชั่วโมงเร่งด่วนอาจจะติดขัดเล็กน้อย ทำให้ต้องเผื่อเวลาในการเดินทางสักหน่อยนะคะ หรือใครอยากไปใช้รถไฟฟ้าก็สามารถเลือกใช้ได้ถึง 2 สาย ทั้งรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่สถานีสามแยกบางใหญ่ และรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้มสถานีตลิ่งชัน วิ่งตรงเข้าบางซื่อไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินได้ทั้ง 2 สาย
ความอุดมสมบูรณ์รอบโครงการ The Plant Pinklao – Salaya (เดอะแพลนท์ ปิ่นเกล้า – ศาลายา) โดยภาพรวมจะเป็นย่านชุมชนที่พักอาศัยเดิม และเป็นที่ดินเปล่ารอการพัฒนาค่อนข้างเยอะ บริเวณต้นซอยติดกับถนนกาญจนาภิเษกจะมีความคึกคักมากกว่า มีทั้งอาคารพาณิชย์ ร้านค้า , ร้านอาหาร และตลาดให้ออกมาจับจ่ายใช้สอยได้ง่าย ส่วนพวกห้างสรรพสินค้า หรือ Community Mall ใหญ่ๆจะเกาะกันอยู่บนถนนเส้นหลักอย่างถนนราชพฤกษ์ ก็สามารถเดินทางไปไม่ยาก ใกล้ๆยังมีโรงพยาบาลและโรงเรียนหลายแห่ง ตอบโจทย์ครอบครัวที่กำลังมองหาที่พักอาศัยใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย แต่ยังได้ทำเลที่มีความสงบ ไม่พลุกพล่าน
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่า เนื่องจากที่ตั้งอยู่ค่อนข้างห่างจากถนนใหญ่ ทำให้รอบๆไม่พลุกพล่าน ด้านหน้าเป็นถนนกว้าง 2 เลน รถขับสวนกันได้สะดวก ด้านข้างและด้านหลังจะเป็นที่ดินเปล่าและบ้านพักอาศัยแนวราบกระจายอยู่โดยรอบ ในอนาคตหากมีการพัฒนาที่ดินเพิ่ม ก็อาจจะช่วยทำให้พื้นที่บริเวณนี้มีความคึกคักมากขึ้น
- ทิศเหนือ ติดกับ ที่ดินเปล่า
- ทิศใต้ ติดกับ ถนนบางม่วง – บางคูลัด , ที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินเปล่า , อาคารแนวราบ
- ทิศตะวันตก ติดกับ ที่พักอาศัยแนวราบ
บรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการติดถนนบางม่วง – บางคูลัด
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- โลตัส พลัสมอลล์ บางใหญ่ ~ 8.2 กิโลเมตร
- ตลาดพระราม 5 ~ 10.9 กิโลเมตร
- เซ็นทรัล เวสต์เกต ~ 12.7 กิโลเมตร
- เดอะวอล์ค ราชพฤกษ์ ~ 12.8 กิโลเมตร
- เดอะ พาซิโอ พาร์ค กาญจนาภิเษก ~ 13.4 กิโลเมตร
- เซ็นทรัล ศาลายา ~ 13.6 กิโลเมตร
- เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์ ~ 13.9 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลธนบุรี 2 ~ 11.5 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ~ 14.5 กิโลเมตร
โรงเรียน
- โรงเรียนเปรมประชาวัฒนา ~ 5.9 กิโลเมตร
- โรงเรียนเทพศิรินทร์นนทบุรี ~ 8 กิโลเมตร
- โรงเรียนสาธิตนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ~ 8.2 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยมหิดล ~ 8.8 กิโลเมตร
- โรงเรียนเด่นหล้า พระราม 5 ~ 10.2 กิโลเมตร
- โรงเรียนเพลินพัฒนา ~ 11.8 กิโลเมตร
- โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี ~ 12.2 กิโลเมตร
- โรงเรียนนานาชาติ ร่วมฤดี ราชพฤกษ์ แคมปัส ~ 13.6 กิโลเมตร
การเดินทาง
- ทางพิเศษศรีรัช ด่านฉิมพลี ~ 9.3 กิโลเมตร
- MRT สาถนีตลาดบางใหญ่ ~ 10.9 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
The Plant Pinklao – Salaya (เดอะแพลนท์ ปิ่นเกล้า – ศาลายา) เป็นโครงการบ้านแฝด บ้านเดี่ยวจำนวน 274 ยูนิต บนเนื้อที่ประมาณ 46 ไร่ ตั้งอยู่ติดถนนบางม่วง – บางคูลัด การออกแบบมาในแนวคิด “MINIMAL GREEN LIVING” เน้นความเรียบง่าย อยู่ร่วมกับธรรมชาติ เพื่อให้ทุกคนสามารถ “อยู่ดี มีสุข” ได้ โดยภายในโครงการก็จัดพื้นที่สีเขียวมาให้ถึง 2 ไร่ ช่วยเพิ่มความร่มรื่นและพื้นที่ให้ลูกบ้านสามารถมาทำกิจกรรมแบบ Outdoor ได้ การจัดผังจากถนนซอยเข้ามาจะผ่านซุ้มประตูของโครงการ ถนนหลักกว้างประมาณ 12 – 16 เมตร ถนนซอยกว้าง 8 เมตร พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ตรงกลางโครงการประกอบด้วย Clubhouse 2 อาคาร และสวนหย่อมขนาดใหญ่
รูปแบบบ้านพักอาศัย จะประกอบด้วยบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด ซึ่งบ้านแฝดก็จะมีการแยกโซนกันระหว่างซีรี่ส์เดิมและซีรี่ส์ใหม่ เพื่อให้ตอบโจทย์การพักอาศัย อย่างแบบบ้านเดิมที่ได้ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน ส่วนใหญ่จะเป็นครอบครัวขนาดเล็ก 2 – 3 คน แต่แบบบ้านใหม่จะได้ 4 ห้องนอน เน้นรองรับครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกในบ้านหลายคน หรือมีผู้สูงอายุอยู่ด้วย ซึ่งก็จะทำให้มีไลฟ์สไตล์ในการอยู่อาศัยที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ภาพรวมโครงการดูกลมกลืนเข้ากันด้วย
แบบบ้านภายในโครงการจะเน้นไปที่บ้านแฝด 80% ส่วนบ้านเดี่ยวจะมีให้เลือกไม่เยอะ แต่ตำแหน่งของบ้านจะมีกระจายให้เลือกหลายจุดในโครงการ มีทั้งบ้านแปลงมุม บ้านติดถนนหลัก และบ้านที่อยู่ใกล้ Clubhouse ได้วิวสวน ส่วนบ้านแฝดจะมีให้เลือกทุกซอยเลย คนที่ชอบความเป็นส่วนตัวหน่อย ก็สามารถเลือกบ้านที่อยู่โซนด้านใน ซึ่งบางซอยจะมีเพื่อนบ้านอยู่ร่วมกันแค่ 4 หลังเท่านั้นเองนะคะ
พามาชมบรรยากาศซุ้มประตูด้านหน้าโครงการ ขับเข้ามาจากถนนกาญจนาภิเษก ในซอยบางม่วง – บางคูลัดสามารถมองเห็นป้ายได้อย่างชัดเจน การเข้า – ออกโครงการจะแยกเป็น 2 ฝั่ง คั่นด้วยป้อมรปภ.ตรงกลาง รั้วไม้กั้นกระดกควบคุมด้วยระบบ Bluetooth มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง และมีกล้อง CCTV 10 จุดทั้งโครงการ
เข้ามาภายในโครงการจะเจอกับถนนกว้าง 16 เมตร สองข้างถนนมีฟุตบาทไว้ให้คนเดิน และมีแนวรั้วต้นไม้ช่วยเพิ่มความร่มรื่น เมื่อเข้ามาจะเจอกับซอยบ้านพักอาศัยที่แยกเป็น 2 ฝั่ง ตรงกลางเป็นอาคาร Clubhouse มีพื้นที่จอดรถไว้รองรับลูกบ้านและแขกจากภายนอกอยู่ด้วย
Clubhouse ประกอบด้วย 2 อาคาร แบ่งเป็นอาคาร 2 ชั้นและอาคารชั้นเดียว ทางเข้า – ออกมีทางลาดไว้รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุและผู้พิการอยู่ด้วย ถือเป็นการออกแบบที่คำนึงถึงหลัก Universal Design
บรรยากาศ Clubhouse ในโครงการ The Plant Pinklao – Salaya (เดอะแพลนท์ ปิ่นเกล้า – ศาลายา)
อาคารแรกเมื่อเข้ามาจะเจอกับ Double Volume ขนาดใหญ่ ช่วยให้บรรยากาศส่วนต้อนรับดูโปร่งโล่งมาก ประกอบกับมีผนังกระจกแบบ Full Height ทั้ง 3 ด้าน ทำให้สามารถมองวิวสวนและสระว่ายน้ำด้านนอกได้แบบเต็มตา โดยฟังก์ชันในชั้นนี้จะเป็นพื้นที่ Co – Working Space ลูกบ้านสามารถมาใช้นั่งทำงานเป็นกลุ่ม หรือนัดพบปะกับแขกภายนอกได้
ด้านหลังมีห้องน้ำแยกชาย – หญิงไว้รองรับ พร้อมีตู้ Locker ไว้ให้ใช้เก็บของได้ สำหรับคนที่มาใช้งานฟิตเนสหรือสระว่ายน้ำ
ขั้นมาบนชั้น 2 จะเป็นห้องฟิตเนส สามารถวางเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 6 เครื่อง เลือกใช้งานได้ทั้ง Weight Training และ Cardio เลย
อาคาร Clubhouse อีกหลังเดินเชื่อมต่อกันได้ที่ชั้น 1 มองเข้าไปด้านในจะเห็นส่วนล้างตัวก่อนลงสระ ด้านข้างจะมีประตูเปิดเข้าไปในอาคาร ซึ่งอยู่ตรงกับห้องน้ำเลย คนที่เปลี่ยนชุดว่ายน้ำแล้ว ก็ไม่ต้องเดินอ้อมออกมาด้านหน้า สามารถใช้ประตูนี้ออกมาล้างตัวได้เลย
บรรยากาศ Clubhouse ในโครงการ The Plant Pinklao – Salaya (เดอะแพลนท์ ปิ่นเกล้า – ศาลายา)
อาคารอีกฝั่งจัดเป็น Co – Working Space อีกจุด มีชุดเฟอร์นิเจอร์ไว้รองรับได้หลากหลายมากขึ้น อีกทั้งมีจอดทีวี ไว้ให้เปิดใช้งานได้ด้วย ดูเป็นสัดส่วนมากกว่าโซนแรก ตัวแปลนยังได้มาเป็นแบบหน้ากว้าง ด้านข้างเป็นหน้าต่างกระจกเปิดโล่งมองเห็นวิวสวนได้ โดยในอาคารนี้ก็จะมีห้องน้ำแยกใช้งานในตัวด้วย
สระว่ายน้ำของโครงการเป็นระบบเกลือ อยู่ในโซน Outdoor เปิดรับวิวได้รอบด้าน ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้างประมาณ 9.80×20.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กขนาด 3.00×5.20 เมตร ลึก 0.60 เมตร
บรรยากาศสวนหย่อมในโครงการ The Plant Pinklao – Salaya (เดอะแพลนท์ ปิ่นเกล้า – ศาลายา)
สวนหย่อมในโครงการได้มาค่อนข้างใหญ่ จัดเป็นสนามหญ้าไว้รองรับกิจกรรมแบบ Outdoor ได้หลากหลาย รอบๆมีลู่วิ่ง Jogging Track สำหรับสายออกกำลังกายสามารถมาวิ่งเบาๆยืดเส้นยืดสายในสวน ตรงกลางเป็นโซน Playground มีเครื่องเล่นไว้ให้เด็กๆมาใช้เวลานอกบ้านร่วมกับเพื่อนวัยเดียวกันได้
นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกที่ลูกบ้านสามารถเลือกใช้งานได้ในโครงการ เรามองว่าอีกจุดเด่นที่น่าสนใจก็คือ Live well stay well สิทธิประโยชน์สำหรับลูกบ้าน PRUKSA อาทิ แพ็คเกจดูแลสุขภาพ Welcome pack : Healthy living privileges จาก โรงพยาบาลวิมุต* , ส่วนลดพิเศษใน Clickzy แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ในเครือบริษัทพฤกษา โฮลดิ้ง และ Wizlah TH แอปพลิเคชั่นตกแต่งบ้านครบวงจร เป็นต้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นสิทธิประโยชน์ที่มาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านได้นะคะหาก ใครสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับโครงการ หรือ Pruksa ได้เลย 🙂
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบด้วย
- สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 9.80×20.00 เมตร ลึก 1.2 เมตร
- แบ่งเป็นสระเด็กขนาด 3.00×5.20 เมตร ลึก 0.60 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย
- Co – Working Space 2 จุด
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 2 ไร่
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และ ภายในโครงการ 10 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 2.50 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 16 เมตร และ ถนนภายในกว้าง 8 – 12 เมตร*
- การเข้า – ออกโครงการใช้ระบบ Bluetooth ประตูรั้วเปิด – ปิด พร้อมรั้วกั้นไม้กระดก
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
แบบบ้าน
The Plant Pinklao – Salaya (เดอะแพลนท์ ปิ่นเกล้า – ศาลายา) เป็นโครงการใหม่ที่มี Product ให้เลือกทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด โดยแบบบ้านที่เราจะพาไปเจาะลึกกันวันนี้ คือบ้านแฝดซีรี่ส์ใหม่จาก Pruksa ที่เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกที่นี่เลย ฟังก์ชันออกแบบมาใหม่ รองรับครอบครัวใหญ่ ได้ถึง 4 ห้องนอน หรือใครมีสมาชิกในบ้านไม่เยอะ เน้นอยู่เป็นคู่รัก อยู่กันแค่ 3 คน พ่อ แม่ ลูก โครงการก็มีแบบบ้านอื่นๆให้เลือก โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3.39 ล้านบาท* ส่วนแบบบ้านใหม่เริ่มต้นที่ 3.69 ล้านบาท* ซึ่งก็ถือเป็นราคาที่ทำออกมาได้จับต้องง่ายในโซนนี้เลย โดยแบบบ้านมาในสไตล์ Modern Tropical ปัจจุบันมีแบบบ้านที่ยังเปิดขายให้เลือก 3 แบบด้วยกันคือ
- LAGOM บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 35.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 128 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน รองรับ 3 ห้องนอน* / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - PERESKIA บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 38.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 138 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - LOMMA บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 35.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 156 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
ส่วนแบบบ้านแฝด PARODIA พื้นที่ใช้สอย 125 ตร.ม. จะ Sold out ไปแล้ว แบบบ้านเดี่ยวจะใช้แปลนและชื่อเดียวกันกับแบบบ้านแฝดเลย แตกต่างกันที่โครงสร้างบ้านที่ผนังจะแยกจากกันชัดเจน และเนื้อที่ดินรอบบ้านที่ได้มากกว่า หากใครสนใจก็สามารถดูบรรยากาศในรีวิวประกอบการตัดสินใจได้นะคะ
วัสดุภายในบ้าน
- โครงสร้างบ้านระบบ Precast
- โครงสร้างที่จอดรถในร่มลงเข็มมาให้ แยก Joint (พื้นซีเมนต์ปาดเรียบ)
- พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 เซนติเมตร
- พื้นชั้น 2 : SPC ลายไม้ ความหนา 4 มิลลิเมตร
- บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวไม้ยางพาราประสาน (เฉพาะแบบบ้าน LOMMA)
- สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ จาก Englefield
- สวิตช์และปลั๊กไฟจากยี่ห้อ bticino
เทคโนโลยีภายในบ้าน
- Digital Door Lock ใช้งานได้ 5 ระบบ (สแกนลายนิ้วมือ , Bluetooth , กดรหัส , คีย์การ์ด , กุญแจ) จากยี่ห้อ Artani (เฉพาะแบบบ้าน LOMMA)
- IP Camera 1 จุดที่โรงจอดรถ
- ระบบไฟ 1 เฟส (30/100) รองรับการติดตั้ง EV Charger*
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
LOMMA บ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 156 ตร.ม.
LOMMA เป็นบ้านแฝดซีรี่ส์ใหม่ เปิดตัวครั้งแรกที่ The Plant Pinklao – Salaya (เดอะแพลนท์ ปิ่นเกล้า – ศาลายา) หน้าตาของอาคารทำออกมาได้ดูมีความ Modern ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชอบความเรียบง่าย ทันสมัย แต่ยังได้กลิ่นอายอบอุ่นด้วยสีเอิร์ธโทน เหมาะกับครอบครัวใหญ่ขนาด 4 – 5 คนกำลังดี ฟังก์ชันได้ 4 ห้องนอน มีห้องชั้นล่างรองรับผู้สูงอายุได้
บ้านตัวอย่างไม่ได้ทำเป็นบ้านแฝด เราจึงขอพามาดูแปลนบ้านกันก่อน เริ่มจากลักษณะแปลนที่เป็นตัว L โถงตรงกลางบ้านค่อนข้างกว้าง ทำหน้าที่เป็นทางเดินแจกไปส่วนต่างๆได้สะดวก ประตูทางเข้าบ้านจะมี 2 จุด คือประตูหลักที่บริเวณด้านหน้า เชื่อมต่อกับส่วนนั่งเล่น และประตูด้านหลังที่จอดรถ เรียกเป็นประตู Service เวลาซื้อของกลับบ้านมา ก็สามารถหิ้วเข้าไปเก็บได้เลย ไม่ต้องอ้อมไปเข้าด้านหน้าผ่านส่วนนั่งเล่น
ฟังก์ชันภายในบ้านดูเป็นสัดส่วน แต่ยังได้ความโปร่งโล่ง พื้นที่ใช้งานแบ่งได้เป็น 2 ฝั่ง คือส่วนพักผ่อน มีพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารอยู่ด้วยกัน ตรงกลางเป็นห้องครัวปิดขนาดใหญ่ ด้านในสุดเป็นห้องนอนชั้นล่าง อยู่ติดกับห้องน้ำที่มีส่วนอาบน้ำรองรับอยู่ด้วย ใช้งานได้สะดวกมาก หรือในบ้านที่ไม่มีผู้สูงอายุ จะปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน ก็ดูเป็นส่วนตัวดีนะคะ
ชั้น 2 ประกอบด้วย 2 ห้องนอนรอง ใช้ห้องน้ำร่วมกันตรงกลาง และ Master Bedroom ที่มี Walk – in Closet และห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วนในตัวเลย สำหรับชั้นนี้จะเห็นว่าผนังด้านข้างแยกจากเพื่อนบ้านชัดเจน จึงทำให้ห้องนอนได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ระเบียงบ้านได้มาถึง 2 จุด ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งให้กับห้องได้ดี
บรรยากาศรอบบ้านตัวอย่าง แบบบ้าน LOMMA พื้นที่ใช้สอย 156 ตร.ม.
เข้ามาชมบรรยากาศในบ้านตัวอย่าง ซึ่งหลังนี้โครงการยังไม่ได้ตกแต่งภายในมาให้นะคะ แต่เรามองว่าทำให้สามารถมองเห็นพื้นที่ใช้งานจริงในบ้านได้เลย เริ่มจากส่วนจอดรถได้มากว้างประมาณ 4.82 เมตร จอดรถได้ 2 คันแบบพอดีๆ โครงสร้างพื้นลงเข็มมาให้เฉพาะส่วนในร่ม ด้านนอกตัด Joint ช่วยลดปัญหาพื้นทรุดตัวในอนาคตได้ ด้านหลังเป็นประตูบานทึบ โครงการติดตั้ง Digital Door Lock มาให้พร้อมใช้งาน นอกจากนี้ยังมี IP Camera ติดตั้งมาให้ 1 จุดด้วยนะคะ ลูกบ้านไม่ต้องเดินสายเองเพิ่ม
ภายในบ้านจะเป็นวัสดุมาตรฐานที่ได้มาทุกหลัง พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 เซนติเมตร ความสูงจากพื้นถึงฝ้าประมาณ 2.60 เมตร เท่ากันทั้ง 2 ชั้น เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ๆสามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นวางโซฟา ติดตั้งทีวีได้ ด้านในเหมาะเป็นมุมรับประทานอาหาร ซึ่งจากขนาดเรามองว่าสามารถวางโต๊ะยาว 4 – 6 ที่นั่งได้เลย สำหรับตำแหน่งของบันไดบ้านจะอยู่ด้านในสุด ดูเป็นส่วนตัว ด้านล่างมีช่องเก็บของให้ใช้งานได้ด้วย
จากโรงจอดรถเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับโถงทางเดินและครัวแบบปิด ซึ่งได้ขนาดมาค่อนข้างใหญ่เลย ถูกใจบ้านที่ชอบทำอาหารทานเองทุกวันนะคะ ด้านหลังยังมีประตูเปิดเชื่อมต่อออกไปใช้งานลานซักล้างได้
ห้องนอนชั้นล่างอยู่ติดกับครัว ด้านข้างมีหน้าต่างบานเลื่อนติดตั้งมาให้ 2 ฝั่ง ใช้เปิดรับวิวและระบายอากาศได้ดี ตรงกลางสามารถวางเตียงขนาด 3 ฟุตได้กำลังดี พอให้มีพื้นที่ด้านข้างให้วางตู้เสื้อผ้าหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้
ห้องน้ำชั้นล่าง บ้านตัวอย่าง LOMMA
ห้องน้ำตกแต่งเหมือนในบ้านตัวอย่าง พื้นบริเวณทางเข้าไม่ได้มีการลดระดับ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สูงอายุและผู้ที่ใช้รถเข็นได้ ภายในมีส่วนอาบน้ำไว้รองรับ จัดเป็นโซนที่สามารถติดตั้ง Shower Box เพิ่มเองได้ อ่างล้างมือเป็นแบบขาตั้งพื้น ด้านหลังมี Low Wall ไว้ให้วางของใช้เล็กๆได้ อีกฝั่งเป็นพื้นที่วางโถสุขภัณฑ์ติดตั้งมาให้พร้อมที่เก็บกระดาษทิชชู่และสายฉีดชำระจากยี่ห้อ Englefield
พื้นที่ใช้งานส่วนโถงบันไดแบบบ้าน LOMMA
โครงสร้างบันไดแบบบ้าน LOMMA เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้ยางพาราประสาน กว้างประมาณ 1 เมตร ลูกตั้งสูง 19 เซนติมเตร และลูกนอนกว้าง 25 เซนติเมตร ใช้งานได้ตามมาตรฐาน ทั้งสองฝั่งเป็นผนังทึบแต่ก็มีราวจับติดตั้งมาให้เพิ่มเพื่อความปลอดภัย ข้างชานพักมีหน้าต่างติดตั้งมาให้ 1 จุด ช่วยให้บรรยากาศในโถงดูไม่ปิดทึบจนเดินไป เมื่อขึ้นมาชั้น 2 ก็จะเจอกับโถงอนเกประสงค์ขนาดใหญ่ มีมุมด้านข้างให้วางหิ้งพระ หรือตู้เก็บของ วางของเพิ่มได้นะคะ
ห้องนอนจากในแปลนจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือ Master Bedroom และห้องนอนรองอีก 2 ห้องที่ได้ตำแหน่งหน้าบ้านและหลังบ้าน โดยขนาดจะได้มาใกล้เคียงกันทั้ง 2 ห้อง แตกต่างกันที่ห้องหน้าบ้านจะมีระเบียงส่วนตัวมาให้ 1 จุด และหน้าต่างในบ้านที่ได้แบบบานใหญ่ เหมาะกับคนที่ชอบความโปร่งโล่ง ส่วนคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวหน่อย ห้องด้านหลังก็อาจจะตอบโจทย์มากกว่า โดยวัสดุปูพื้นชั้นนี้จะได้เป็น SPC ลายไม้ ความหนา 4 มิลลิเมตรทั้งหมดเลย
ห้องน้ำชั้น 2 แบบบ้าน LOMMA
ชั้น 2 จะได้ห้องน้ำมา 2 ห้อง คือห้องที่อยู่ใน Master Bedroom และห้องที่อยู่บริเวณโถงกลาง ภายในแยกพื้นที่ส่วนเปียก ส่วนแห้งมาให้ชัดเจน พื้นที่ใช้งานได้มาค่อนข้างกว้าง ส่วนอาบน้ำได้ขนาด 0.80×1.36 เมตร ติดตั้งมาให้พร้อมฝักบัวแบบ Hand Shower จากยี่ห้อ Englefield
Master Bedroom เป็นแบบหน้ากว้าง ตรงกลางสามารถวางเตียงนอนขนาด 5 – 6 ฟุตได้ ด้านข้างเชื่อมต่อกับระเบียงด้านนอก ได้มากว้างประมาณ 60 เซนติเมตร อีกฝั่งเป็น Walk – in Closet ที่โครงการกั้นเป็นผนังทึบแยกมาให้เป็นสัดส่วน อยู่ติดกับห้องน้ำด้านในเลย
ห้องน้ำชั้น 2 ในห้อง Master Bedroom บ้านตัวอย่าง LOMMA
ห้องน้ำใน Master Bedroom แบ่งพื้นที่ใช้งานได้เป็น 2 ฝั่ง คือ พื้นที่วางเคาน์เตอร์อ่างล้างมือที่มีช่องเก็บของด้านล่าง และโถสุขภัณฑ์จากยี่ห้อ Englefield ส่วนอาบน้ำอยู่อีกฝั่งกว้างประมาณ 1×1 เมตร พื้นลดระดับลงจากพื้นห้องน้ำปกติเล็กน้อย ช่วยแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งได้ดี ใช้งานและทำความสะอาดได้ง่าย
สวิตช์และปลั๊กไฟใช้ของยี่ห้อ bticino จากภาพรวมวัสดุแบบบ้านซีรี่ส์ใหม่จะมีการอัพเกรดจากแบบบ้านเดิม อาทิ โครงสร้างบันไดที่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก , Digital Door Lock ที่ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานได้เลย
PERESKIA บ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 138 ตร.ม.
PERESKIA เป็นดีไซน์ที่มีให้เลือกทั้งบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว ได้พื้นที่ใช้สอย 138 ตร.ม. มาพร้อมฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำและ 2 ที่จอดรถ บนที่ดินเริ่มต้นประมาณ 38.2 ตร.วา
จากแปลนบ้านแฝดจะเห็นว่าผนังด้านข้างมีส่วนติดกันน้อยมาก ชั้น 1 เชื่อมต่อกันแค่ที่ครัวไทยซึ่งเป็นพื้นที่แบบ Semi outdoor ใช้เป็นทางเดินเชื่อมต่อได้รอบบ้าน แตกต่างกับบ้านแฝดอื่นๆ ลักษณะแปลนเป็นรูปตัว L ประตูทางเข้าบ้านมี 2 จุดคือประตูบานเลื่อนกระจกด้านหน้าและประตู Service หลังที่จอดรถ ภายในบ้านประกอบด้วยส่วนนั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร และครัวแบบเปิด ตรงกลางเป็นตำแหน่งของบันไดขึ้นชั้น 2 และห้องน้ำกลางที่มีส่วนอาบน้ำรองรับอยู่ด้วย ชั้น 2 ห้องภายในบ้านได้ความเป็นส่วนตัว เพราะไม่มีผนังที่เชื่อมต่อกับเพื่อนบ้านเลย ฟังก์ชันประกอบด้วย 3 ห้องนอนนและ 1 ห้องน้ำที่ได้เป็น Double Access เข้า – ออกได้ 2 ฝั่ง ใช้งานได้สะดวก
บรรยากาศรอบบ้านตัวอย่าง แบบบ้าน PERESKIA พื้นที่ใช้สอย 138 ตร.ม.
ที่จอดรถเป็นแบบในร่มจอดได้ 2 คัน กว้างประมาณ 4.78 เมตร ประตู Service ด้านหลังเป็นแบบบานทึบ ไม่มี Digital Door Lock ติดตั้งมาให้ จากด้านหน้าจะสามารถมองเห็นครัวไทยที่อยู่ด้านข้างตัวบ้านได้ด้วย
เข้ามาในบ้านตัวอย่างหลังนี้โครงการจะตกแต่งมาให้ชมเป็นไอเดีย เริ่มจากส่วนนั่งเล่นที่อยู่บริเวณด้านหน้า ใช้เป็นส่วนพักผ่อนและรับแขกของครอบครัว ระยะห่างจากโซฟาถึงหน้าทีวีกว้างประมาณ 3.51 เมตร
ถัดเข้ามาด้านในเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร สามารถวางโต๊ะขนาด 6 – 8 ที่นั่งได้ ด้านหลังยังเหลือพื้นที่ให้วางเป็นตู้เก็บของ ไว้วางของโชว์ตกแต่งหรือของใช้ในบ้านได้
ติดกันเป็นครัวเปิด เดินเชื่อมต่อกันส่วนรับประทานอาหารได้ง่าย พื้นที่ใช้งานภายในสามารถ Built – in เป็นเคาน์เตอร์แบบเต็มผนังได้ทั้ง 2 ฝั่ง ทำเป็นพื้นที่ทำอาหารและเตรียมอาหารได้ครบ ยืนใช้งานพร้อมกัน 2 – 3 คนได้สบายๆ สุดทางเดินเป็นประตูออกไปยังครัวไทยด้านข้างตัวบ้าน เหมาะกับเวลาที่ต้องทำอาหารที่มีกลิ่นหรือควันเยอะๆ
ครัวไทยได้มากว้างประมาณ 1.37 เมตร ก่อเป็นเคาน์เตอร์ด้านข้างและยังเหลือพื้นที่ใช้งานได้ค่อนข้างกว้าง ผนังทั้ง 2 ฝั่งเจาะเป็นช่องให้เดินทะลุเชื่อมต่อระหว่างหน้าบ้านและหลังบ้านได้ ทั้งยังช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี
ห้องน้ำชั้น 1 บ้านตัวอย่าง PERESKIA
ห้องน้ำชั้น 1 จะอยู่ติดกับโถงบันได พื้นจะเป็นการลดสเต็ปลงไปเป็นขั้น เวลาเดินขึ้น – ลงอาจจะต้องใช้ความระมัดระวังสักหน่อยนะคะ ภายในแยกพื้นที่ส่วนเปียก ส่วนแห้งมาให้ชัดเจน ส่วนอาบน้ำเป็นแบบเข้ามุมกว้างประมาณ 0.70 เมตร ติดตั้งมาให้พร้อมสุขภัณฑ์ครบชุดจากยี่ห้อ Englefield
พื้นที่ใช้งานบริเวณโถงบันไดในบ้านตัวอย่าง PERESKIA
บันไดในบ้านแฝดเดิมจะเป็นโครงสร้างเหล็กกว้างประมาณ 1 เมตร ลูกตั้งสูง 18 เซนติเมตร ลูกนอนกว้าง 25 เซนติเมตร ใช้งานได้ตามมาตรฐาน บริเวณชานพักได้หน้าต่างบาน Fix กระจกมา 2 ฝั่ง ช่วยให้บรรยากาศในโถงดูสว่างและโปร่งโล่ง
ชั้น 2 ฟังก์ชันจะคล้ายกับแบบบ้าน LOMMA ห้องนอนรองมีให้เลือกทั้งฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้าน โดยในบ้านตัวอย่างนี้ตกแต่งห้องด้านหลังให้เป็นห้องทำงานส่วนตัว ก็ดูกว้างขวาง จัดวางของได้เยอะแยะเลย
ห้องนอนรองด้านหน้าจะเป็นห้องที่มีระเบียง สามารถวางเตียงขนาด 3 – 5 ฟุตได้แบบพอดีๆ พร้อมมีมุมให้วางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า ใช้งานได้ครบ
Master Bedroom ได้เป็นแบบหน้ากว้าง ดูโปร่งโล่ง พื้นที่ใช้งานแบ่งเป็นส่วนวางเตียงนอนและ Walk – in Closet เป็นสัดส่วน หากใครต้องการความเป็นส่วนตัวเพิ่มก็สามารถกั้นประตูเองได้อีกชั้นนะคะ
Walk – in Closet ได้ขนาดมาค่อนข้างใหญ่ สามารถ Built – in เป็นตู้เสื้อผ้าแบบเข้ามุมได้ทั้ง 2 ฝั่ง แบ่งกันใช้งาน 2 คนได้สบายๆ ด้านข้างยังมีหน้าต่างบานเลื่อนกระจกช่วยเปิดรับวิวและแสงจากภายนอกได้ เพิ่มความโปร่งโล่ง
ห้องน้ำชั้น 2 ในบ้านตัวอย่าง PERESKIA
ห้องน้ำชั้น 2 เป็นแบบ Double Access เข้า – ออกได้ 2 ฝั่ง ทั้งจากใน Master Bedroom และโถงทางเดินตรงกลาง ภายในแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วน ดูไม่อึดอัด มีอุปกรณ์ติดตั้งมาให้ครบชุด ส่วนอาบน้ำกว้างประมาณ 0.88×1.46 เมตร ด้านข้างมีหน้าต่างบานกระทุ้งใช้เปิดระบายกลิ่นและความชื้นได้ดี
PARODIA บ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 125 ตร.ม.
เป็นแบบบ้านขนาดเริ่มต้นของโครงการ ซึ่งปัจจุบันบ้านแฝด Sold out ไปเรียบร้อยแล้ว โดยฟังก์ชันจะได้มา 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำและ 2 ที่จอดรถ ซึ่งเรามองว่าพื้นที่ใช้สอยภายในจัดมาได้ลงตัวเลยนะคะ ยิ่งครอบครัวที่อยู่ด้วยกันแค่ 2 – 3 คนก็ถือว่าสบายๆเลย
บรรยากาศในบ้านตัวอย่าง PARODIA พื้นที่ใช้สอย 125 ตร.ม.
LAGOM บ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 128 ตร.ม.
เป็นบ้านแฝดที่ได้หน้าตาแตกต่างกับแบบบ้านซีรี่ส์แรกอย่าง PARODIA และ PERESKIA ชัดเจน ฟังก์ชันภายในได้มาใกล้เคียงกัน มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำและ 2 ที่จอดรถ โดยแบบบ้านนี้จะไม่มีครัวไทยด้านนอก มีแค่ครัวเปิดในบ้านเหมาะกับคนที่ไม่ได้ชอบทำอาหารจริงจังมากนัก ซึ่งจุดเด่นของแบบบ้านนี้ก็คือ ผนังบ้านจะแยกจากกันทั้ง 2 ชั้น มีเชื่อมต่อกันแค่หลังคาโรงจอดรถเท่านั้น ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมาก รวมถึงมีพื้นที่รอบบ้านให้ใช้งานได้เยอะขึ้น
ราคา
The Plant Pinklao – Salaya (เดอะแพลนท์ ปิ่นเกล้า – ศาลายา) ราคา ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567
- LAGOM บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 59-63 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 128 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน รองรับ 3 ห้องนอน* / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - PERESKIA บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 38.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 138 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - LOMMA บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 35.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 156 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - ราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท* ( LOMMA เริ่ม 3.69 ล้านบาท* )
- จองและทำสัญญา 20,000 และ 30,000 บาทตามลำดับ*
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 52,000 บาท*
- ค่าส่วนกลาง 34 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี*
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ*
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ขายเป็นผู้ชำระ*
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ขายเป็นผู้ชำระ*
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
The Plant Pinklao – Salaya (เดอะแพลนท์ ปิ่นเกล้า – ศาลายา) เป็นโครงการบ้านแฝด บ้านเดี่ยวบนทำเลติดถนนบางม่วง – บางคูลัด เชื่อมต่อระหว่างโซนปิ่นเกล้า – ศาลายา ใช้ถนนกาญจนาภิเษกในการเดินทางเป็นหลัก ทำเลรอบโครงการค่อนข้างสงบ ได้บรรยากาศแบบชานเมือง แต่ยังสามารถออกมาจับจ่ายใช้สอยตามย่านที่มีความอุดมสมบูณ์สูงอย่างโซนราชพฤกษ์ได้ง่าย คนในย่านนี้ส่วนใหญ่จะใช้รถส่วนตัวในการเดินทางเป็นหลัก สำหรับคนที่ทำงานอยู่ในโซนใจกลางเมือง ก็มีตัวเลือกให้ใช้ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางด่วน หรือรถไฟฟ้ามีสามารถไปใช้งานได้ถึง 2 สายเลย
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
การเข้า – ออกโครงการจะใช้ระบบ Bluetooth ควบคู่กับไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ มีเจ้าหน้าที่รปภ. คอยอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้ 24 ชั่วโมง พร้อมมีกล้อง CCTV ติดตั้งมาให้ 10 จุดทั่วโครงการ ส่วนความปลอดภัยในบ้าน ทุกหลังจะได้ IP Camera ติดตั้งมาให้ 1 จุดที่โรงจอดรถ ในแบบบ้านซีรี่ส์ใหม่ LOMMA จะได้ Digital Door Lock ที่ประตู Service ด้วย
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
การออกแบบโครงการมาในแนวคิด “MINIMAL GREEN LIVING” เน้นความเรียบง่าย อยู่ร่วมกับธรรมชาติ เพื่อให้ทุกคนสามารถ “อยู่ดี มีสุข” ได้ โดยภายในโครงการก็มีการจัดพื้นที่สีเขียวมาให้ถึง 2 ไร่ ช่วยเพิ่มความร่มรื่นและพื้นที่ให้ลูกบ้านสามารถออกมาทำกิจกรรม Outdoor ได้ การจัดผังส่วนพักอาศัย จะมีการแยกโซนระหว่างแบบบ้านซีรี่ส์เดิมและซีรี่ส์ใหม่ชัดเจน หนึ่งคือเพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านที่มีทั้งครอบครัวเล็กและครอบครัวใหญ่ที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วย อีกทั้งยังช่วยให้ทัศนียภาพในโครงการดูกลมกลืนสวยงาม
รูปแบบบ้านในโครงการจะมีให้เลือก 4 แบบ ทั้งแบบบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว มาในสไตล์ Modern Tropical โดยเราจะขอโฟกัสไปที่แบบบ้านซีรี่ส์ใหม่ ซึ่งเพิ่งเปิดตัวครั้งแรกที่โครงการ The Plant Pinklao – Salaya (เดอะแพลนท์ ปิ่นเกล้า – ศาลายา) หน้าตาอาคารมีความทันสมัยแตกต่างกับแบบบ้านเดิมชัดเจน คาดว่าน่าจะถูกใจคนรุ่นใหม่ที่ชอบบ้าน Modern แต่ยังมีวัสดุที่เป็นไม้มาช่วยเพิ่มความอบอุ่น น่าอยู่อาศัย ฟังก์ชันออกแบบมาเป็น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ มีห้องนอนชั้นล่างที่สามารถรองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วยได้ ในบ้านได้ครัวปิดขนาดใหญ่ใช้งานได้สะดวก โดยจุดเด่นของแบบบ้านในโครงการนี้นอกจากราคาที่ทำออกมาได้หยิบจับง่ายเพียง 3 ล้านต้นๆแล้ว ดีไซน์ผนังยังเป็นแบบอิสระ ติดกันกับเพื่อนบ้านแค่บางส่วน ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยได้ดี
วัสดุ :
โดยภาพรวมถือว่าให้มาเหมาะสมกับการใช้งานและระดับราคา โครงสร้างบ้านเป็นระบบ Precast ได้ข้อดีในเรื่องความแข็งแรง ทนทาน ป้องกันเสียงจากภายนอกได้ดี ซึ่งก็เหมาะกับแบบบ้านแฝดที่มีผนังบางส่วนติดกับเพื่อนบ้าน ช่วยทำให้ได้ความเป็นส่วตัวมากขึ้น วัสดุปูพื้นชั้น 1 เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด ขนาด 60×60 เซนติเมตร ชั้น 2 ปูด้วย SPC หนา 4 มิลลิเมตร สำหรับแบบบ้านซีรี่ส์ใหม่จะเห็นว่ามีการอัพเกรดวัสดุให้บางจุด อาทิ บันไดที่เป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เวลาใช้งานจะให้ความรู้สึกมั่นคง แข็งแรงมากกว่าบันไดโครงสร้างเหล็ก
วัสดุในห้องน้ำใช้ของยี่ห้อ Englefield เหมือนกัน แต่กระเบื้องตกแต่งจะมีลวดลายที่ดูสวยงามมากขึ้น ห้องน้ำชั้นล่างพื้นจะอยู่ระดับเดียวกับตัวบ้าน เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานของผู้สูงอายุและผู้พิการ ประตู Service มี Digital Door Lock มาให้ ส่วนที่จอดรถจะได้ IP Camera มาเหมือนกันทุกหลัง
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
ตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าโครงการก็มีการแซมแนวรั้วต้นไม้มาให้หลายจุด รวมถึงด้านข้างถนนทั้ง 2 ฝั่ง ช่วยทำให้บรรยากาศในโครงการดูร่มรื่น ไม่ร้อนจนเกินไป พื้นที่สีเขียวของโครงการจะอยู่ตรงกลาง ได้เป็นสวนหย่อมขนาดกว่า 2 ไร่ เน้นเป็นสนามหญ้าที่ลูกบ้านสามารถมาใช้งาน เดินเล่น นั่งพักผ่อนหรือออกกำลังกายแบบกลางแจ้งได้
สาธารณูปโภค :
พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่บริเวณกลางโครงการได้เป็น Clubhouse 2 อาคาร แบ่งเป็นอาคารชั้นเดียว และอาคาร 2 ชั้น ได้ฟังก์ชันครบครันตามมาตรฐาน อาทิ Lobby , ฟิตเนส , Co – Working Space และสระว่ายน้ำความยาวกว่า 20 เมตร ซึ่งในอนาคตโครงการก็แอบกระซิบมาว่าอาจจะมีการพัฒนาฟังก์ชันให้หลากหลายมากขึ้น เพื่อให้รองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างครบครัน
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 3.39 ล้านบาท*, 25 พฤศจิกายน 2567
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – อยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 6 กิโลเมตร สามารถไปใช้ทางด่วนและรถไฟฟ้าได้ 2 สาย
- ความปลอดภัย 7.75/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน , Digital Door Lock (เฉพาะแบบบ้าน LOMMA) และ IP Camera 1 จุด ทุกหลัง
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – แบบบ้านซีรี่ส์ใหม่ บ้านแฝด 4 ห้องนอน ผนังอิสระ
- วัสดุ 7.75/10 – ให้มาเหมาะสมกับการใช้งาน ตามมาตรฐานของระดับราคา
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – สวนหย่อมขนาด 2 ไร่
- สาธารณูปโภค 7.75/10 – Clubhouse 2 อาคาร ฟังก์ชันตามมาตรฐาน
- 7.83 / 10.00
The Plant Pinklao – Salaya (เดอะแพลนท์ ปิ่นเกล้า – ศาลายา) เหมาะกับใคร
โครงการ The Plant Pinklao – Salaya (เดอะแพลนท์ ปิ่นเกล้า – ศาลายา) เปิดตัวแบบบ้านซีรี่ส์ใหม่สไตล์ Modern Tropical ได้ฟังก์ชันเป็นบ้านแฝด 4 ห้องนอน ตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่ที่กำลังมองหาบ้านแฝดหรือบ้านเดี่ยวที่มีห้องนอนชั้นล่างโซนปิ่นเกล้า – ศาลายา ชอบทำเลที่มีความสงบแต่ยังสามารถออกไปจับจ่ายใช้สอยในย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงได้ มีงบประมาณเริ่มต้น 3 – 4 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 20,491 บาท
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่