รีวิวฉบับที่ 566 … สวัสดีครับ วันหยุดสบายๆแบนี้ผมจะพาไปดูโครงการบ้านเดี่ยวของ พฤกษา ที่อยู่ใน Segment High Class นะครับ โครงการนี้ชื่อว่า “The Palm พัฒนาการ” โครงการนี้ถือได้ว่าเป็นโครงการนำร่องของการสร้างบ้านระดับ High End ของพฤกษาก็ว่าได้ เพราะส่วนใหญ่เราจะคุ้นเคยกับบ้านของพฤกษาในระดับราคาที่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท แต่คราวนี้พฤกษาได้ลองขยับตัวเองมาสร้างแบรนด์ระดับ 10 – 25 ล้านบาทบ้าง โดยจุดเด่นของโครงการจะอยู่ที่ขนาดของตัวบ้านที่ทำมาค่อนข้างใหญ่มากถ้าเทียบกับโครงการแนวราบรอบๆข้าง เราไปดูกันเลยครับว่าโครงการนี้จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ヾ(^-^)ノ~♪

Fact @ 18 April 2014

  • The Palm Pattanakarn (เดอะ ปาล์ม พัฒนาการ)
  • บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
  • Segment : HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : สวนหลวง
  • เนื้อที่โครงการ 61-3-0 ไร่ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 179 ยูนิต
  • Areca ที่ดินแปลงมาตรฐาน 68 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 216 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • Livistona ที่ดินแปลงมาตรฐาน 76 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 242 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • Latania ที่ดินแปลงมาตรฐาน 80 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 280 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • Majestic ที่ดินแปลงมาตรฐาน 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 372 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
  • ราคาเริ่มต้น 10,170,000 ล้านบาทหรือ 133,600 บาท/ตร.วา (แบบ Areca ราคา 9 ล้าน Sold Out แล้วครับ)
  • http://www.pruksa.com/th/single-detach-house/241/เดอะ-ปาล์ม-พัฒนาการ
  • Call Center : 1739

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.720237, 100.629586

mapth-241_resize

แผนที่จากทางโครงการครับ ตัวโครงการ The Palm จะอยู่ในซอยพัฒนาการ 38 ซึ่งเป็นทำเลที่ไม่ได้ใกล้ รถไฟฟ้าสักเท่าไหร่ดังนั้นจุดขายโครงการจะเน้นไปที่เรื่องขนาดของบ้านเป็นหลัก โดยตัวบ้านจะใหญ่กว่าหมู่บ้านในละแวกใกล้เคียงครับ

The_Palm_พัฒนาการ

ตำเเหน่งที่ตั้งของโครงการ The Palm พัฒนาการ ตั้งอยู่ใน Pruksa Avenue ที่เป็นพื้นที่ของโครงการแนวราบต่างๆมาอยู่รวมกัน และแชร์ถนนหลักของโครงการร่วมกัน ตัว Pruksa Avenue อยู่ในซอยพัฒนาการ 38 เข้ามาจากถนนพัฒนาการประมาณ 1.2 กิโลเมตร ส่วนถนนพัฒนาการจะเป็นถนนที่วิ่งต่อมาจากถนนเพชนบุรีตรงๆเลย จุกเริ่มต้นของเส้นพัฒนาการก็คือข้ามแยกคลองตันมาแล้วและยาวไปจนถึงอ่อนนุช(สุขุมวิท 77) บนถนนพัฒนาการมีทางลัดที่สามารถทะลุไปได้หลายเส้นทางครับ เช่น จากซอย พัฒนาการ 38 เองก็สามารถไปทะลุอ่อนนุชได้ และ พัฒนาการ 25 ไปทะลุหลังรามคำแหง หรือซอย รามคำแหง 24 และถนน พระราม9

สภาพแวดล้อมบนถนนพัฒนาการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ซะเป็นส่วนมาก และ มีโครงการประเภทคอนโดตั้งอยู่บ้างแต่ไม่มาก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแนวราบซะหมด สำหรับเเหล่ง Shopping ที่ใกล้ที่สุดคือ Tesco Lotus ที่อยู่ระหว่างซอย พัฒนาการ 43 หกับ 45 ห่างจากโครงการประมาณ 4.1 กิโลเมตร ส่วนถ้าจะเดินห้างก็มีให้เลือกระหว่าง The Nine ที่อยู่บนถนนพระราม9 กับ Thanya Park, Paradise และ Seacon Square บนถนนศรีนครินทร์

patio-312 copy

ส่วนเส้นทางในครั้งนี้จะใช้เส้นทางเดียวกันกับโครงการ Patio พัฒนาการนะครับ เพราะตำแหน่งที่ตั้งของโครงการจะอยู่ใกล้ๆกัน โดยเริ่มต้นที่แยกอโศกบนเส้นเพชรบุรี ขับตรงมาเรื่อยๆจนถึงแยกคลองตัน และวิ่งยาวต่อไปจนเป็นถนนพัฒนาการ แล้วค่อยกลับรถใต้อุโมงค์ เพื่อเข้าซอยพัฒนาการ 38 ครับ

patio 1

เริ่มเดินทางจากแยกอโศกมาถนนเพชรบุรีเราขับตรงไปเลย ตึกเหลืองๆที่เห็นด้านขวามือคือ My Resort Bangkok Condo ครับ

patio 3

ตรงมาประมาณ 500 เมตร ฝั่งซ้ายมือเป็นถนนเพชรอุทัยเป็นทางลัดไปถนนพระราม 9 แต่เราตรงไปเรื่อยๆนะ

patio 4

ตรงมาสักพักก็จะเจอสะพานข้ามคลองบางกะปิ ก็ตรงต่อไป

Patio adding 3 (1)

ข้ามสะพานมาจะเจอกับ Amari Atrium Hotel อยู่ด้านขวามือ และมีร้านสุกี้เรือนเพชรอยู่ด้านขวามือซึ่งเปิดมานานมากแล้วแต่รสชาติก็ยังเหมือนเดิมครับ ^_^

patio 5    

ตรงมาอีกก่อนถึงโรงพยาบาลกรุงเทพ  ฝั่งขวามือจะเป็นซอยพร้อมพงษ์หรือซอยเพชรบุรี 38/1 ที่สามารถใช้ทะลุไปออกเส้นสุขุมวิทโซนพร้อมพงษ์, ทองหล่อ และเอกมัยได้ครับ ตึกที่เห็นเด่นๆก็คือตึกอิตาเลี่ยน-ไทยตรงหัวมุมซอย แต่เรายังคงตรงไปเรื่อยๆ

patio 9

ตรงไปอีกหน่อยจะผ่านโรงพยาบาลกรุงเทพอยู่ฝั่งซ้ายมือ ส่วนฝั่งขวามือจะเห็นตึก KPN ตึกชาญอิสระ

patio 15 copy

ถัดมาจะเจอกับแยกไฟแดง 2 อันติดๆกัน อันแรกไว้เลี้ยวกลับอย่างเดียวครับไม่สามารถเลี้ยวขวาเพื่อไปเส้นประดิษฐ์มนูธรรม(เลียบทางด่วน-รามอินทรา)ได้ ส่วนไฟแดงอันถัดไปสามารถเลี้ยวขวาเพื่อเข้าเส้นเอกมัย(สุขุมวิท 63)ได้

patio 16

เลยแยกมาจะเห็นโรงพยาบาลเพชรเวชและโรงพยาบาลคลองตัน ตอนนี้ก็ใกล้ถึงโซนถนนพัฒนาการแล้วครับ

patio 17  

ตรงไปอีกจะเจอป้ายบอกทาง ตรงไปเป็นคลองตัน,พัฒนาการ เลี้ยวซ้ายไปพระราม 9

patio 19

พอถึงตรงแยกนี้จะมีทางเลี้ยวซ้ายไปพระราม 9 ส่วนช่องทางที่ตรงไปเราจะเห็นว่าไปได้สองช่องทาง ถ้าวิ่งขึ้นฝั่งขวาจะตรงไปพัฒนาการเลยโดยไม่ต้องไปรถติดที่แยกคลองตัน แต่วันนี้เราจะตรงไปแยกคลองตันเพื่อให้เห็นสภาพแวดล้อมรวมๆก่อนนะครับ

patio 20

สะพานนี้เป็นสะพานข้ามคลองแสนแสบนะครับ

  Patio adding 2 (1) copy

แยกคลองตันถ้าเลี้ยวซ้ายเข้ารามคำแหง เลี้ยวขวาเข้าซอยปรีดี พนมยงค์(ถนนสุขุมวิท 71) ตรงไปก็เข้าเส้นพัฒนาการ

patio 26

เลยแยกคลองตันมาได้ไม่ไกลจะเจอ 4 แยกอีกครั้งแต่แยกนี้สัญญาณไฟจราจรไม่ได้เปิดใช้งานให้รถที่สัญจรไปมาระวังกันเอง แยกนี้จะเป็นแยกที่ไว้ขึ้นทางด่วนโดยเฉพาะแล้วก็เป็นจุดขึ้นลงทางด่วนที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดด้วยครับ เลี้ยวซ้ายสำหรับไปทาง พระราม 9 และรามอินทรา ส่วนเลี้ยวขวาจะไปบางนา-ดาวคะนอง และดินแดง-แจ้งวัฒนะ

patio 28   

ซักพักก็เห็นป้ายโครงการ The Palm โครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์ตัวท๊อปที่เรากำลังจะไปดูกันนี่แหละครับ

patio 30 copy

3 แยกไฟแดงนี้เป็นแยกที่มีอุโมงค์เพื่อไปออกถนนพระราม9 และรามคำแหงได้ โดยจะลอดใต้ถนนพระราม9 ไปออกซอยรามคำแหง24 หรือที่คนแถวรามจะเรียกกันว่าหลังราม ในบริเวณนั้นจะมีร้านอาหารน้อยใหญ่ตั้งกันอยู่ตลอดแนวเลย

patio 31  

เลยแยกมาจะเห็นว่ามีป้ายบอกทางว่า เลี้ยวขวาไปสุขุมวิทได้ แต่จริงๆแล้วเราเลี้ยวขวาไม่ได้นะครับ ต้องไปกลับรถแล้วเลี้ยวเข้าซอยพัฒนาการ 32 เพื่อไปทะลุออกเส้นอ่อนนุชได้ ซึ่งเส้นทางด้านในก็ซับซ้อนพอสมควร คนไหนไม่ชำนาญทางอาจหลงได้ ดังนั้นควรสังเกตป้ายบอกทางดีๆครับ

patio 33

ขับตรงมาเรื่อยๆให้กลับรถที่อุโมงค์นี้ครับ เพราะซอยพัฒนาการ38 ที่เราไปกันเป็นซอยเลขคู่ที่อยู่อีกฝั่งนึง ฝั่งที่เราขับมาเป็นซอยเลขคี่ครับ

patio 38

ออกมาก็เป็นถนนพัฒนาการฝั่งเลขคู่แล้วครับ ส่วนเสาไฟฟ้าแรงสูงที่เห็นก็ไม่ต้องห่วงนะครับ ไม่ได้ใกล้ตัวโครงการเลยเพราะตัวโครงการต้องวิ่งเข้าไปอีก 1.2 กม.จากปากซอยครับ

patio 42

ตรงมาจะเจอสะพานข้ามคลองชื่อ ลาว ก็จะเห็นป้ายบรรดาโครงการในอาณาจักรพฤกษาอเวนิว ปักอยู่หนาแน่น ไม่ว่าเป็น Patio, The Plant, The Palm แสดงว่าใกล้ถึงซอยพัฒนาการ 38 แล้ว สะพานลอยที่เห็นไกลๆนั่นคือสะพานลอยหน้าปากซอยพอดี

patio 43

เห็นสะพานลอยปากซอยก็เลี้ยวเข้าซอยพัฒนาการ 38 ได้เลยครับ ก่อนถึงสะพานลอยมีที่จอดจักรยานให้ด้วย คนในโครงการที่ไม่ใช้รถ  หรือรถเสีย ก็ขับจักรยานออกมาจอดล๊อคไว้แล้วหาแท๊กซี่ หรือ รถเมล์ไปต่อได้

The_Palm_MapSoi

ด้านบนเป็นแผนที่ซอยพัฒนาการ 38 นะครับ จากต้นซอยจนถึงโครงการมีระยะทางประมาณ 1.2 กม. จากแผนที่จะเห็นว่า จากต้นซอยจนก่อนถึงหัวโค้งที่เป็นร้านอาหารปักษ์ใต้ จะมีร้านสะดวกซื้อ แฟมิลี่มาร์ท ร้านขายของชำหลายร้าน ที่มีแผงขายผัก อาหารสดตอนเช้าด้วย ถัดจากหัวโค้งนั้นมาก็จะเป็นอาคารที่พักอาศัยแทบทั้งหมด มีโกดังเก็บสินค้าก่อนถึงสะพานเข้าโครงการ ในซอยพัฒนาการ 38 จะมีชุมชนมุสลิมที่อยู่อาศัยกันมานานแล้ว ดังนั้นจะสังเกตเห็นว่ามีมัสยิดชื่อ อันวารุ้ล อับร้อล และอพาร์ทเม้นท์ชื่อแบบมุสลิมหลายแห่งเลย ซึ่งโครงการทั้งหมดในพฤกษาอเวนิวก็จะอยู่ในระยะได้ยินเสียงมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ตำแหน่งของแต่ละโครงการครับ

patio 44

เริ่มต้นที่ปากซอยพัฒนาการ 38 จะเห็นแฟมิลี่มาร์ทและวินมอเตอร์ไซค์อยู่ฝั่งซ้ายมือครับ

patio 45

สองฝั่งข้างทางช่วงต้นซอยจะเป็นร้านขายของชำ มีแผงขายของหน้าร้าน แต่เนื่องจากช่วงที่ไปสำรวจเป็นช่วงหยุดยาววันสงกรานต์ (วันที่ 17 เมษายน) ร้านค้าต่างๆเลยยังไม่เปิด สงสัยจะหยุดยาวกันนะครับ

patio 46

ขับเข้าซอยมาได้สักระยะจะเริ่มเป็นเขตชุมชนแล้ว ซึ่งในซอยนี้จะมีความพลุกพล่านพอสมควรเพราะสามารถไปทะลุซอยพัฒนาการ 32 ได้ แต่ก็ถือว่าไม่มากเท่าซอยพัฒนาการ 32

patio 47

มีร้านขายแก๊สอยู่ขวามือ ฝั่งซ้ายเป็นร้านขายของชำ มีแผงขายของสดข้างหน้าด้วย

patio 48

เจอคลองเล็กๆก็ขับข้ามไปเลยครับ

patio 49  

ตรงตามทางมาจะเจอ มัสยิดอันวารุ้ลอับร้อจ อยู่ทางซ้ายมือ ฝั่งตรงข้ามมีแผงขายของและร้านอาหารตามสั่งอยู่

patio 51

เนื่องจากมีแหล่งชุมชนมุสลิมอาศัยอยู่ทำให้มีร้านอาหารที่เป็นร้านอาหารปักษ์ใต้อยู่ภายในซอยครับ

patio 53

ต่อมาก็จะเจออพาร์ทเม้นท์ 4 ชั้นชื่อ ฟานูส ขวามือที่เห็นในภาพ

patio 56

ตามทางไปเรื่อยๆก็เป็นย่านบ้านอาศัยสูง 2-3 ชั้น สลับกับหอพักสูง 4 ชั้นประปราย ช่วงกลางๆซอยจะมีพี่วินคอยให้บริการหอพักและอพาร์ทเม้นท์แถวนี้อยู่ด้วยนะครับ มาถึงแถวนี้จะไม่ค่อยเห็นร้านอาหารแล้ว

patio 59

ช่วงใกล้ถึง Pruksa Avenue จะมีแถวทาวน์เฮ้าส์สามชั้นตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ

patio 60

ก่อนถึงสะพานข้ามคลองจะมีร้านของของชำอยู่ 1 ร้านอยู่ฝั่งซ้ายมือ

patio 61

ถัดมาก่อนถึงโครงการฝั่งซ้ายมือเป็นโกดังเก็บสินค้า ตรงต่อไปตามทาง

patio 62

ตรงมาจะเจอแยกขึ้นสะพานซ้ายมือพร้อมป้าย พฤกษาอเวนิว ส่วนฝั่งขวาของสะพานจะมีชื่อโครงการต่างๆปักอยู่ครับ

เมื่อข้ามสะพานมาแล้วโครงการแรกที่เจอคือ Patio ทางด้านซ้ายมือและ The Palnt ด้านขวามือ ถนนหลักที่ใช้สัญจรภายใน Pruksa Avenue กว้าง 16 เมตรวิ่งสวนกันได้สบายๆเลยครับ

วิ่งตรงเข้ามาสุดทางจะเจอวงเวียนแรกให้เราไปทางขวา

วิ่งตามเส้นทางมาไม่ไกลจะเจอกับ Passorn Prestige

และขับตามทางมาเรื่อยๆจะเจอ Villette Lite ซึ่งจากตรงนี้ก็ใกล้ถึงโครงการมากแล้วครับ

ตรงมาอีกนิดเดียวก็เจอป้ายโครงการ The Palm พัฒนาการ ขนาดใหญ่ตั้งเด่นอยู่ทั้ง 2 ด้านของประตูทางเข้าโครงการเลยครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • The Nine พระราม 9
  • Thanya Shopping Park
  • Seacon Square
  • Paradise Park
  • Tesco Lotus
  • ตลาดสด
  • โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์
  • โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พัฒนาการ

 


เจาะลึกตัวโครงการ

 ThePalm_MapCloseUp2

ตัวโครงการ The Palm พัฒนาการ ตั้งอยู่ในพื้นที่ๆเป็นแหล่งรวมหมู่บ้านหลายโครงการเรียกว่า Pruksa Avenue ซึ่งโครงการส่วนใหญ่ที่ตั้งอยู่ในนี้จะเป็นของ พฤกษา จากแผนที่ด้านบนจะเป็นภาพรวมตำแหน่งที่ตั้งคร่าวๆของโครงการต่างๆและจุดเริ่มต้นของพื้นที่จะเริ่มจากสะพานข้ามคลองหัวหมากมาแล้ว จะเห็นว่าข้ามสะพานมาจะเจอโครงการ Patio และ The Plant ก่อนcและตามมาด้วย Villette Lite และ Passorn Prestigeถัดมาถึงจะเป็น The Palm พัฒนาการครับ ส่วนด้านล่างสุดจะเห็นว่ามี มัสยิด อัล กู๊บรอ อยู่บริเวณด้านหลังพื้นที่โครงการ ซึ่งโครงการทั้งหมดในพฤกษาอเวนิวก็จะอยู่ในระยะได้ยินเสียงเรียกสวดเวลาละหมาดด้วย แต่จะมากน้อยก็แล้วแต่ตำแหน่งของแต่ละโครงการครับ ส่วนระยะทางจากหน้าโครงการจนมาถึงตัวโครงการอยู่ที่ประมาณ 800 เมตร ถ้ารวมกับระยะทางจากปากซอย พัฒนาการ 38 จนถึง Pruksa Avenue ที่ 1.2 กม.ก็จะได้ระยะทางทั้งหมด 2 กม.พอดี

โครงการ พฤกษา อเวนิว ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว 4 โครงการ ได้แก่

และทาวน์เฮาส์ 5 โครงการ ได้แก่

  • Patio
  • Villette City
  • Villette Lite
  • Pruksa Ville Banila
  • Pruksa Town

*โครงการที่ทางทีมงานไปรีวิวมาแล้วมี 2 โครงการนะครับคือ Passorn Prestige และ Patio สามารถกดเข้าไปอ่านได้ที่ชื่อโครงการเลยครับ

ThePalm_MapSite2

ทั้ง 9 โครงการมีพื้นที่ส่วนกลางรวมทั้งสิ้น 36.65 ไร่ จำนวนรวม 2,706 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 11,021 ล้านบาท และมีการนำระบบการก่อสร้างของ Pruksa Real Estate Manufacturing หรือ REM มาใช้ในงานก่อสร้างโครงการแนวราบของบริษัทเกือบ 50% ของโครงการทั้งหมด ระบบ REM คือ การนำระบบพรีแคส , ระบบงานน็อคดาวน์ และการควบคุมคุณภาพกระบวนการผลิตในทุกขั้นตอนมารวมกัน ซึ่งส่งผลให้ได้บ้านมีคุณภาพที่ดีขึ้นและช่วยลดระยะเวลาการก่อสร้างบ้านครับ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

ThePalmPattankarn_PJ_MPlan2

ตัว Club House จะอยู่ที่ด้านหน้าสุดของโครงการเลย และสวนหย่อมจะการจายตัวกันอยู่ 2 จุด การขายของโครงการนี้แบ่งออกเป็นประมาณ 6 เฟสโดยเริ่มจากด้านซ้ายมือบนไล่ลงมาแล้วค่อยจากซีกขวาย้อนขึ้นมาจนถึงหน้าโครงการอีกที ถนนหลักจากหน้าโครงการถึงวงเวียนแรกจะกว้าง 16 เมตร จากวงเวียนที่ 1 ถึงวงเวียนที่ 2 จะกว้าง 14 เมตร และจากวงเวียนที่ 3 ไปจะกว้าง 12 เมตร ส่วนถนนรองภายในโครงการจะเท่ากันหมดอยู่ที่ 9 เมตร ก็ถือว่ากว้างดีกลับรถหน้าบ้านได้สบายหน่อย

ซุ้มประตูหน้าโครงการก็ดูใหญ่โตอลังการตามระดับราคาบ้าน โดยการออกแบบยังคงเป็นแนว Modern อยู่และโทนสีต่างๆที่ใช้ก็จะตอบสนองกับ Concept ของโครงการคือใช้สีที่มาจากต้นปาล์มนั้นเอง ส่วนตัวหลังคาที่ก็มีขนาดใหญ่คลุมพื้นที่ทั้งทางเข้าและออกไว้เยอะดี คือจอดรถรอเปิดประตูนี่รถไม่โดนแดดเลยครับ

ทางด้านขวาของโครงการจะเป็นทางไปโครงการ Villette City พัฒนาการ และ Pruksa Ville Balina แต่ถนนเส้นนี้ยังไม่สุดนะครับ ซึ่งผมก็ยังไม่แน่ใจว่าในอนาคตจะมีโครงการอะไรมาเปิดอีกหรือเปล่าแล้วจะมีการทำถนนเชื่อมไปยัง ซ.พัฒนาการ 32 ได้รึเปล่า

ส่วนด้านซ้ายจะมีโครงการในอนาคตอยู่อีกโครงการซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นโครงการอะไรนะครับ

ซุ้มประตูทางเข้าโครงการที่เห็นก็มีส่วนที่เค้าทำมาให้สอดคล้องกับ Concept ของโครงการอยู่นะครับ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างของเสาและฝ้าเพดาน หรือแม้กระทั่งสีที่ใช้ ยกตัวอย่างเช่นฝ้าเพดานของซุ้มประตูก็ได้แนวคิดจากโครงสร้างรูปทรงของใบที่ถูกตัดไปแล้วมาใช้ทำเป็น Pattern

หรือบริเวณของโคนเสาก็ใช้แนวคิดแบบเดียวกันแต่มีการใส่ลูกเล่นกับขนาดของช่องที่เจาะให้มีสัดส่วนที่เล็กลง คล้ายๆกับต้นปาล์มของจริง ส่วนต้นไม้บริเวณนี้ก็จัดมาให้เขียวดี ส่วนใหญ่จะเป็นไม้พุ่มเล็กนะครับ

ทีนี้มาดูทางเข้ากันบ้างพื้นทางเข้าจะปูด้วยกระเบื้องสีดำขนาดใหญ่ และมีประตูกั้น 2 ชั้นแบบรั้วกั้นไม้กระดกและบานเลื่อนครับ ตอนกลางคืนก็จะปิดรั้วแบบบานเลื่อนด้วย

ระบบรักษาความปลอดภัยของทางเข้าโครงการก็จะมีมาให้ 3 อย่างคือ Key Card Access (ระยะไกลไม่ต้องเปิดกระจกมาแตะบัตร), รั้วกั้นไม้กระกด และ CCTV ส่องป้ายทะเบียนพร้อมหน้าคนขับรถ

รูปนี้ลองให้เค้าปิดประตูให้ดูว่าตัวประตูมีหน้าตาเป็นแบบไหน จะเห็นว่าตัวประตูเองก็มีการใส่ลูกเล่นจากลักษณะและสีของต้นปาล์มเอาไว้ด้วย ตัวสีทีใช้ตกแต่งประตูรั้วแบบเลื่อนนี่ต้องขอชมคนที่เทียบสีครับ เลือกเชดสีได้ใกล้เคียงกับต้นปาล์มที่ปลูกอยู่ในโครงการมาก (พอดีประตูมันเลื่อนช้าเลยมีเวลาสังเกตสีครับ;p)

ถนนบริเวณทางเข้าหน้าโครงการจะกว้าง 16 เมตรและมีเกาะกลาง แต่ถ้าลึกเข้าไปเรื่อยๆความกว้างถนนจะลดลงไปจนถึง 12 เมตรครับ

เข้ามาโครงการก็เจอ Club House อยู่ด้านขวามือเลยครับ มาในแนว Modern เรียบๆตามสมัยนิยมครับ โทนสีที่ใช้ก็ยังคุมโทนอยู่ครับโดยใช้สี ขาว, ดำ และตัดด้วยสีน้ำตาลแดง คล้ายๆสีต้นปาล์มที่เห็นในรูปครับ

ช่วงทางเดินหน้า Club House จะมีการตกแต่งด้วยหินและ ซ่อนไฟไว้ในกระถางต้นไม้ด้วย

การออกแบบโดยเอาสระว่ายน้ำมาติดกับทางเข้าโครงการแบบนี้ ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวครับ ข้อดีคือความพลุกพล่านในการทำกิจกรรมต่างของ Club House จะไม่ไปรบกวนลูกบ้านที่ใกล้ๆ แต่ข้อเสียก็คือความเป็นส่วนตัวจะหายไปส่วนนึง เพราะใครจะเข้าจะออกโครงการก็ต้องผ่านพื้นที่บริเวณนี้ ซึ่งทางโครงการก็มีลงต้นไม้มาบังให้อยู่บ้าง แต่น่าจะลงให้เยอะกว่านี้หน่อยจะช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวได้มากเลยครับ

มาดูทางเข้าโครงการของ Club House บ้าง พื้นด้านหน้าเป็นทรายล้าง ใช้เชดสีตาม Concept เลย แต่ดู Design รวมๆแล้วยังให้ความรู้สึกไม่ค่อยสมราคาของตัวบ้านเท่าไหร่ น่าจะใส่วัสดุประเภทไม้ลงไปมากกว่านี้หน่อย (อันนี้ก็แล้วแต่มุมมองเรื่อง Design กับความชอบของแต่ละคนนะครับ)

ด้านข้างตรงนี้มีที่จอดรถให้ 3 ช่อง ซึ่งการใช้งานจริงก็อาจจะไม่พอในช่วงวันหยุดเทศกาลถ้ามีลูกบ้านมาใช้กันเยอะๆ แต่จะจอดริมถนนก็ได้ครับเพราะยังเหลือที่อยู่อีกกว้างและจำนวนยูนิตไม่เยอะ ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการเข้าออกในถนนหลัก

บริเวณที่จอดรถจะมีทางลาดไว้ให้ด้วย ตรงนี้ถือว่าดีมากครับที่จัดมาให้เพราะตัวบ้านของที่นี่มีขนาดค่อนข้างใหญ่มาก ดังนั้นมีโอกาสที่ลูกบ้านเป็นครอบครัวใหญ่แล้วจะมีผู้สูงอายุมาใช้งาน Club House แน่ๆ

ประตูกทางเข้าเป็นประตูอลูมิเนียมสีดำ  บานกระจกเขียวตัดแสง

อันนี้่ถ่านรูปด้านข้างของสระว่ายน้ำมาให้ดูว่าเค้ามีการทำบ่อน้ำกันไว้อีกชั้นนึง

เข้ามาด้านในจะเป็น Lobby แนวฝ้าเพดานสูง 6.7 เมตร ซึ่งตกแต่งด้วยโทนสี่อ่อน โดยเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สีขาวและสร้างจุดเด่นโดยใช้ผนังลายไม้สีน้ำตาล ที่ใช้รูปทรงเรขาคณิตจากต้นปาล์มมาใช้เช่นเดียวกัน และสุดท้ายก็ประดับด้วยโคมไฟระย้าขนาดใหญ่

ถ่าย Detail มาให้ดูครับ จะเห็นว่าสีน้ำตาลที่เห็นจะป็นลายไม้ครับไม่ใช่ทำสีน้ำตาลเฉยๆ

มุมมองหันกลับไปดูทางสระว่ายน้ำ

ประตูทางไปสระว่ายน้ำจะอยู่สุดทางและเป็นบานเปิดเดี่ยว

เมื่อออกมาแล้วจะเจอห้องน้ำอยู่ฝั่งตรงกันข้าม

ภายในห้องน้ำก็ตกแต่งมาในแนวเรียบๆ ภายในมีการเว้นที่ไว้ปลูกต้นไม้อยู่ด้วยแต่เป็นไม้กระถางนะครับไม่ได้ลงดิน การดูแลรักษาก็จะง่ายหน่อยและต้นไม้จะได้ไม่ใหญ่เกินไปด้วย

ภายในห้องน้ำก็จะมีแบ่งเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำ

ด้านขวามีที่นั่งไว้เปลี่ยนเสื้อผ้าแต่ดันไม่มี Locker มาให้ซะงั้น (ไม่แน่ใจว่าหลังจากนี้จะมีการวางเพิ่มรึเปล่านะครับ เพราะ Club Hose ยังอยู่ในระหว่างเก็บงาน)

สุขภัณฑ์ที่ใช้ก็เป็นรุ่นกลางๆธรรมดาครับ

มาดูในส่วนของสระว่ายน้ำกันดีกว่า ประตูที่เราออกมาเมื่อกี้คือประตูที่อยู่ทางขวานะครับ จากตรงนี้จะสามารถเดินไปใช้สระว่ายน้ำ, จากุชชี่ และ Fitness ที่อยู่ชั้น 2 ได้ ทางเดินตรงนี้มีข้อดีตรงที่เวลาอยากเล่น Fitness ตอนฝนตกก็ไม่ต้องเดินเปียกฝนครับ

ส่วนแรกของสระว่ายน้ำจะเป็นสระเด็กลึก 0.6 เมตร ส่วนสระผู้ใหญ่จะมีขนาด 10 x 20 เมตร ลึก 1.2 เมตรเท่ากันทั้งสระ มุมนี้มีศาลาพร้อมที่นั่งให้ผู้ปกครองมาคอยดูลูกหลานตอนเล่นน้ำอย่างใกล้ชิดอีกด้วย

ส่วนที่เว้าเข้ามาในรูปเป็นบันไดทางลงของสระว่ายน้ำแบบไม่มีราบจับ หรือจะเอาไว้นั่งเล่นน้ำชิวๆแบบไม่ต้องลงทั้งตัวก็ได้ครับ

หรือถ้าใครอยากลงเล่นน้ำก็ใช้บันไดแบบมาตรฐานลงสระได้ครับ

ตอนถ่ายรูปเป็นตอนกลางวันพอดีแดดแรงมากๆครับแทบละลายเลยขอมาหลบแดดใต้ศาลาหน่อย -_-‘  จากมุมนี้จะเห็นบันไดขึ้นชั้น 2 อยู่ตรงการพอดี ถ้าหันหน้าเข้าบันไดด้านซ้ายจะเป็นที่อาบน้ำล้างตัว ส่วนทางขวาจัดเป็นโซฟาไว้ให้นั่งพักผ่อนได้

ลวดลายของกระเบื้องที่ใช้ในสระว่ายน้ำก็เป็นลายมาตรฐานของสระว่ายน้ำทั่วๆไปครับ

ราวระเบียงเป็นราวเหล็กทำสีดำและมีกระจกนิรภัยกั้นไว้ให้ด้วย เผื่อเวลาพาเด็กเล็กๆมาเดินเล่นจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะผลัดตกลงไปในสระ

ริมสระว่ายน้ำด้านนี้เป็นแบบน้ำล้น และมีบ่อน้ำยาวมาจนสุดระยะของสระว่ายน้ำด้วย

บริเวณริมสระอีกด้านจะเป็นพื้นที่สำหรับไว้นอนอาบแดด และจากกุชชี่ครับ

อีกด้านของทางเดินจะมีการจัดสวนเล็กๆไว้บังสายตาจากคนที่นั่งใน Lobby ด้วยครับ

ส่วนอาบน้ำที่อยู่ติดกับบันไดจะมี กำแพงบางส่วนบังไว้อยู่ช่วยให้รู้สึกไม่เคอะเขินมากเวลาล้างตัวหลังจากเล่นน้ำแล้ว

ส่วนที่อาบน้ำทำเป็นแบบ Rain Shower มาให้ จริงๆพื้นที่ก็มีมากพอให้ใส่ได้ 3 ช่อง แต่เค้าทำไว้แค่ 2 ช่องเพื่อให้บรรยากาศไม่ดูอึดอัดจนเกินไป

ส่วนโซฟาที่เตรียมไว้ให้ต้องบอกว่ามีขนาดใหญ่มากครับ นั่งเล่นกันเป็นกลุ่มได้สบายๆเลย

ส่วนที่นอนอาบแดดก็มีร่มมาให้ด้วย สำหรับคนไทยก็คงเหมาะกับการมานั่งชิวๆตอนเย็นๆมากกว่ามาอาบแดดเป็นแน่ครับ ^___^

ริมสระด้านนี้จะมีทางเดินไปสู่ส่วนของจากุชชี่

พื้นที่ตรงนี้ก็นั่งได้ประมาณ 4-5 คนกำลังดีครับ

หันไปดู Club House อีกด้านครับ ใครที่ชอบแนว Modern เรียบก็น่าจะชอบ Design แบบนี้นะครับ อ่อ…ลืมบอกไปว่าพื้นระหว่างภายในกับภายนอกอาคารบริเวณรอบๆสระว่ายน้ำ จะต่างระดับกันนิดหน่อย และทำเป็นทางลาดทั้งหมดไม่เป็นปัญหาเวลาพาผู้สูงอายุหรือเด็กอ่อนมานั่งเล่นครับ

ทางขึ้นชั้น 2 ยังคงใช้วัสดุเป็นทรายล้างครับ

เมื่อขึ้นมาแล้วด้านขวามือจะเป็นห้องประชุม ส่วนห้องที่อยู่สุดทางจะเป็นห้องอเนกประสงค์ และห้องทำงานของนิติบุคคลครับ

พามาดูภายในห้องประชุมกันก่อน พื้นที่พอวางโต๊ะประชุมขนาด 12-14 ได้พอดีๆ พื้นไม้เป็นพื้นลามิเนต

ห้องแรกเป็นห้องอเนกประสงค์ ปละห้องด้านในจะเป็นห้องทำงานของนิติบุคคล

ถ้าเดินทะลุห้องนิติบุคคลมาจะเป็นทางออกอีกทางครับ

ทางออกตรงนี้เค้าทำไว้ให้เจ้าหน้าที่ใช้งานจะได้ไม่ไปรบกวนลูกบ้านที่มาใช้งาน Club House ถือว่าจัดมาเป็นสัดส่วนดีครับ

จากตรงนี้สามารถเห็นบ้านตัวอย่างที่อยู่ด้านในได้เลย เดี๋ยวจะพาไปดูกันต่อนะครับอดใจรออีกนิด

มาดูห้อง Fitness กันบ้างห้องนี้อยู่ติดกับบันไดทางขึ้นเลย

ภายในจะมีเครื่องเล่นวางอยู่ประมาณ 5 เครื่อง

ส่วนอีกด้านก็มีวางอยู่นิดหน่อยพื้นที่ๆว่างอยู่เอาไว้เล่นโยคะก็ได้ครับเค้ามีเบาะรองเตรียมไว้ให้ด้วย

วิวที่ได้จากห้อง Fitness ก็ประมาณนี้ครับ

ประตูของโครงการนี้เป็นแบบ Double Security Gate เวลาช่วงกลางคืนประตูชั้นที่ 2 ที่เห็นในรูปจะถูกปิดครับ และประตูนี้เป็นเสมือนแนวที่แบ่งพื้นที่โซน Public กับ Private ของโครงการออกจากกันด้วย

พอผ่านประตูมาก็จะเจอกับบ้านตัวอย่างเรียงกันอยู่ครบทั้ง 4 แบบ ส่วนลานจอดรถด้านขวามือในอนาคตจะเป็นพื้นที่ขาย เพราะฉะนั้นอย่าเข้าใจผิดว่าจรงนี้จะเป็นสวนของโครงการนะครับ ถนนตรงกลางก็จะถูกแปลงเป็นถนนปรกติด้วย

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Club House แยก 2 ชั้นแบบหลังคาสูงประมาณ 6.7 เมตร
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบคลอรีน(อันนี้น่าเสียดายน่าจะให้เป็นระบบเกลือได้แล้ว) ขนาด 10 x 20 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ขนาด xxx ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 8 เครื่อง
  • สวนสาธารณะ 2 จุดมีพื้นที่รวมกันประมาณ 2 ไร่
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ xxx จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • Key Card Access ระยะไกล
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • Double Security Gate
  • ประตูรั้วโครงการชั้นแรกเป็นแบบ รั้วกั้นไม้กระดก และประตูเลื่อนไฟฟ้า 1 ตอน
  • ประตูรั้วโครงการชั้นทีสองเป็นแบบ ประตูเลื่อนไฟฟ้า 1 ตอน
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic ทุกหลัง

 


Product Walkthrough

แบบบ้านของโครงการนี้มีทั้งหมด 4 แบบคือ Areca, Livistona, Latania และ Majestic ชื่อแบบบ้านที่เห็นนี้ไม่ได้ตั้งมาเล่นๆนะครับ แต่ชื่อของแบบบ้านต่างๆมาจากสายพันธุ์ของต้น Palm ทั้งหมดครับ โดยขนาดเริ่มต้นจะอยู่ 216 ไปจนถึง 372 ตร.ม. ซึ่งแบบบ้านของที่นี่จะค่อนข้างใหญ่มากถ้าเทียบกับโครงการในละแวกใกล้เคียง เพราะบ้านเดี่ยวโดยทั่วไปจะเริ่มต้นประมาณ หนึ่งร้อยปลายๆ ไปจนถึงสองร้อยต้นๆ ส่วนขนาดที่ดินของที่นี่จะเริ่มต้นที่ 68 ไปจนถึง 100 ตร.วา ทำให้ยังพอมีที่ดินเหลือรอบๆข้างบ้านบ้างนิดหน่อย ไม่ได้เป็นแบบที่เรียกว่าบ้านคับที่มากนัก บ้านตัวอย่างก็มีให้ดูทั้ง 4 แบบ เลยแต่แบบสุดท้ายจะมีมากต่อเติมเรือนรับรองพิเศษเพิ่มออกมา ซึ่งตอนนี้ก็ทำเป็นสำนักงานขายไปในตัวด้วย ผมจะพาไปดูแบบ เล็กที่สุด กับใหญ่ที่สุดนะครับ

ถึงแม้บ้านของที่นี่จะมีถึง 4 แบบแต่การวาง Function หลักๆจะเป็นแบบเดียวกันหมด แตกต่างกันตรงขนาดของห้องต่างๆและฟังก์ชั่นบริเวณห้องครัวที่ได้เพิ่มขึ้นมา  แบบแรกที่จะพาไปดูคือแบบ Areca ขนาดที่ดินตั้งแต่ 68 ตร.วาขึ้นไป และมีพื้นที่ใช้สอย 216 ตร.ม. ในผังชั้นล่างจะเห็นว่างให้ที่จอดรถมา 2 คันและมีทางเข้า 2 ทางทั้งจากห้องทานอาหารและห้องนั่งเล่น เวลาฝนตกถ้าเข้าจากห้องอาหารจะเปียกน้อยกว่า

ส่วนห้องภายในต่างๆทางโครงการจะไม่ได้แบ่งเป็นห้องมีประตูปิดอย่างชัดเจน แต่จะทำเป็นเหมือนโซนของแต่ละห้องไว้ เนื่องจากคนที่ซื้อบ้านในระดับราคานี้มักจะมีงบไว้ทำ Interior อยู่แล้ว ทางโครงการเลยไม่ทำผนังกั้นเยอะแยก ให้ต้องมาทุบวุ่นวายอีก… แต่ถึงอยากจะทุบก็ทุบไม่ได้นะครับเพราะว่าผนังของโครงการนี้ทั้งหมดเป็นแบบ Pre Cast เพราะฉะนั้นต่อเติมได้ถ้าไม่กระทบกับโครงสร้างหลัก (ถ้าใครสงสัยในรายละเอียดส่วนนี้สามารถเข้าไปสอบถามได้โดยตรงกับทางโครงการเลยครับ) ส่วนครัวของที่นี้ก็ทำเป็น Pantry กับ ครัวแยกกันอย่างชัดเจนในทุกแบบเลยครับ และห้องน้ำที่ชั้นล่างก็มีส่วนอาบน้ำมาให้ด้วย และห้องแม่บ้านก็มีมาให้ครบทุกแบบเช่นกัน

ส่วนผังชั้น 2 จะเป็นห้องนอนทั้งหมด 3 ห้องและทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวและโซนเปียกกับแห้งแยกมาให้ทุกห้อง ใช้งานได้สะดวกเต็มที่ทุกห้องเลยครับ และมีห้องอเนกประสงค์แยกมาให้อีกห้อง ซึ่งจะทำเป็นห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น หรือห้องพระก็ได้ครับ

หน้าตาของบ้านจะมาในแนว Modern และใช้โทนสีอ่อน คือ ขาว, เทา และ ครีม ก่อนเข้าไปดูตัวบ้านขออธิบายก่อนว่าขนาดที่ดินจริงจะไม่ได้ใหญ่อย่างที่เห็นนะครับ อันนี้เค้าจัดเป็นสวนเต็มพื้นที่ส่วนของบ้านตัวอย่างทั้งหมดรั้วก็ไม่มีให้เห็น อย่างเพิ่งคิดว่าบ้านจริงจะได้สวนใหญ่ขนาดนี้นะครับ

ตัวบ้านภายนอกต้องบอกว่า Pruksa ทำการบ้านมาค่อนข้างดีครับ รูปร่างหน้าตาของบ้านดูมีมิติและเรียบจนเกินไปเสริมคิ้วบริเวณกรอบประตูและหน้าต่างช่วยเพิ่มรายละเอียดให้กับตัวบ้านได้เป็นอย่างดี ส่วนราวระเบียงของบ้านก็ตกแต่งโดยกระจกใสกับโครงเหล็กสีดำช่วยให้บ้านดูโปร่งขึ้น แล้วใช้ระแนงในแนวตั้งลดทอนความทึบของตัวบ้านได้

ทางเข้าบ้านจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนคู่ กรอบเป็นอลูมิเนียมสีเทาและกระจกเขียวตัดแสงหนา 6 มม. นอกจากตัวบานประตูที่เป็นกระจกแล้ว ส่วนอื่นๆของผนังยังทำเป็นบานกระจกสูงเต็มระยะฝ้าเพดานเลย

ตัวบ้านจะยกสูงขึ้นมาตามบ้านตัวอย่างเลยครับ ประมาณบันได 3 ขั้น และตัวบ้านสูงจากเฉลียงทางเข้าอีกประมาณ 5 ซม.

Detail ต่างๆของมือจับครับ รูปซ้ายบนเป็นมือจับด้านใน รูปขวาเป็นมือจับด้านนอก ส่วนซ้ายล่างเป็นตัวล๊อค 2 ชั้นแบบก้นหอย

ส่วนแรกของบ้านจะเป็นห้องนั่งเล่น ที่เชื่อมต่อกับห้องอเนกประสงค์ ฝ้าของจริงไม่มีซ่อนไฟให้แบบนี้นะครับ พื้นได้เป็นแกรนนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร

พื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นก็ตกแต่งมาแบบเปิดโล่ง ทำให้บ้านดูโปร่งและกว้างมากขึ้น

กรอบประตูสีเทาที่เห็นของจริงจะไม่มาให้นะครับ ใครชอบการตกแต่งแนวนี้ก็เอาไปเป็น Idea ได้ครับ

ThePalmPattanakarn_UN_Areca_09

โซฟาที่เห็นเป็นแบบ 3 ที่นั่งพอดีๆแต่จะวางตัวที่ใหญ่กว่านี้ก็ได้เพราะพื้นที่ด้านข้างยังมีเหลืออีกหน่อย บานกระจกด้านหลังจะมีขนาดใหญ่กว่าบ้านทั่วไปนิดหน่อยโดยขอบล่างจะอยู่สูงจากพื้นประมาณ 60 ซม.

วัสดุกรอบและกระจกก็เป็นแบบเดียวกันทั้งหลัง แต่ตรงนี้จะเป็นบานเลื่อนเดี่ยว

หันกลับไปดูหน้าบ้านอีกที จะเห็นว่าระยะดูทีวีนี่มีเหลือเฟือครับ วางทีวีได้ถึง 52″ สบายๆ ผนังของที่นี่เค้าแถม Wallpaper ให้ทั้งหลังนะครับ

หันกลับมาดูในห้องอเนกประสงค์กันต่อ ตรงนี้มีทั้งหน้าต่างและประตูออกไปยังด้านข้างของบ้านได้ครับ ความกว้างของประตูเรียกได้ว่ากว้างเกือบสุดระยะของกำแพงเลย ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะมาก

ตัวรางประตูไม่ได้อยู่ติดกับพื้นเลยแต่ยกสูงขึ้นมาประมาณ 10 ซม. และพื้นระเบียงด้านนอกที่เห็นก็ไม่มีมาให้เช่นกัน

ThePalmPattanakarn_UN_Areca_14

หันกลับมาให้ดูภายในกันอีกที ด้านหลังที่เห็นเป็นต้นไม้ผมว่าระยะนี้น่าจะใกล้เคียงของจริงที่สุด ดังนั้นถ้าใครทำเป็นห้องทำงานปลูกต้นไม้ให้มีความสูงแบบนี้ก็ดีครับ ช่วยให้บรรยากาศร่มรื่นได้ดีมาก

ส่วนของโซนทานอาหารจะอยู่ติดกับ Pantry ครัว วางโต๊ะทานอาหารแบบ 4-6 ที่จะกำลังดี แต่ถ้าอย่างวางแบบ 8 ที่นั่งจะดูแน่นไปหน่อยแต่ก็ยังพอทำได้นะครับ

หันมาดูอีกด้านจะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 ,ห้องน้ำ และห้องครัวตามลำดับ

ส่วน Pantry ครัวของบ้านตัวอย่างออกแบบมาแนวคล้ายๆร้านกาแฟ ก็ดูเก๋ดีนะครับใครชอบก็ลองเอาไป Apply ดูได้ครับ

ทางเข้าออกนี้จะเชื่อมไปยังลานจอดรถด้านข้างได้

พื้นของเฉลียงหน้าบ้านทั้งหมดจะเป็นแบบนี้ครับ ใช้วัสดุทรายล้างบริเวณของและปูกระเบื้องขนาด 30 x 60 ซม.สลับกับ 60 x 60 ซม.

พื้นที่จอดรถก็ทำเป็นทรายล้างตามแบบนี้เลยครับ

ตรง Pantry ครัวมีช่องแสงมาให้ด้วยเป็นบานเลื่อนเดี่ยว

หน้าตากของสวิทช์ไฟของโครงการนี้จะเป็นแบบนี้หมดนะครับ

มาดูห้องน้ำกันต่อดีกว่า ตัวสุขภัณฑ์และกระเบื้องจะได้ตามนี้นะครับ มีโซนอาบน้ำมาให้แต่ไม่มีฉากกั้นมาให้

ชุดอ่างล้างหน้าใช้ของ Mogen ไม่มีเคาน์เตอร์มาให้แต่ตัวอ่างจะมีพื้นที่ไว้วางของมาให้ในตัวเลย

บานเปิดใต้อ่างจะติดตั้ง Soft Close มาให้ด้วย เปิดปิดได้ไร้กังวลเสียงกระแทกครับ

ในโซนอาบน้ำ จะมีช่องวางของเว้าเข้าไปในกำแพงมาให้ ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคและมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่น่าเสียดายที่ไม่ทำชั้นวางของมาให้ จริงๆน่าจะทำมาให้ซัก 2-3 ชั้นนะ อุปกรณ์ในห้องน้ำใช้ของ Cotto และ American Standard

ระดับของพื้นห้องน้ำจะลดระดับลงไปประมาณ 4 ซม. ทั้งโซนแห้งและโซนเปียก

ห้องครัวของแบบนี้จะได้ครัวปิดมา 1 ห้อง

ภายในสามารถทำเคาน์เตอร์เป็นตัว L ได้เต็มพื้นที่แบบในรูปได้เลยครับ  ช่องขวาสุดเอาไว้ใส่เครื่องซักผ้านะ

ประตูตรงนี้จะเปิดไปยังลานซักล้างและห้องแม่บ้าน

พื้นที่หลังบ้านของจริงจะเป็นแบบนี้เลยครับ วัสดุเป็นคอนกรีตขัดเรียบ

บันไดของที่นี่แบ่งเป็น 3 ช่วง และมีห้องเก็บของอยู่ใต้บันได ผมชอบการตกแต่งของบันไดแบบนี้นะครับ เค้าตกแต่งโดยเอาลายไม้มาปิดบริเวณกำแพงห้องเก็บของและใต้ท้องบันได ทำให้พื้นที่ตรงนี้ดูสวยขึ้นมาเลย จากปรกติที่ตามบ้านทั่วไปจะดูธรรมดาๆ

ภายในห้องเก็บของจะปูกระเบื้องขนาด 12″x12 ความจุก็เต็มพื้นที่ใต้บันไดครับ เพราะบันไดเป็นแบบสำเร็จรูป

Detail บันไดของที่นี่ก็ออกแบบมาสวย เรียบ ดีครับ ตามร่องของราวจับจะตกแต่งด้วยไม้และทำสีเข้ากับพื้นบันไดได้ดี

ช่องหน้าต่างโถงบันไดเป็นแบบ 6 ช่อง บาน Fix 4 บานกระทุ้ง 2 และโคมไฟที่อยู่ด้านข้างก็มีมาให้นะครับ

ThePalmPattanakarn_UN_Areca_38_2

โถงหน้าห้อง มีขนาดใหญ่ดีครับ พื้นที่ตรงนี้สามารถทำตู้วางของเพิ่มได้อีกตู้เลยครับ พื้นชั้น 2 ทั้งหมดเป็นพื้นไม้ลามิเนตหน้า 12 มม.

ห้องแรกด้านซ้ายมือจากรูปเมื่อกี้จะเป็นห้องอเนกประสงค์ ที่ทำเป็นห้องนั่งเล่น, ห้องทำงาน, ห้องอ่านหนังสือ หรือจะทำเป็นห้องพระก็ได้ครับ

ถ้าจะทำเป็นห้องทำงานแนะนำให้ทำ Built-in แบบบ้านตัวอย่างก็ดีครับเพราะความลึกของโต๊ะที่นั่งทำงานจะพอดีกับระยะกำแพงที่เค้าเตรียมมาให้ ส่วนหน้าต่างก็เป็นบาน Fix + บานเลื่อน ขนาดใหญ่

ห้องนอนแรกที่พามาดูคือห้องนอน 2 ครับห้องนอนนี้เป็นห้องที่มีขนาดใกล้กับห้อง Master Bedroom เลยครับ สามารถวางเตียง 6′ ได้สบายๆและยังใส่ตู้เสื้อผ้าได้เต็มแนวกำแพงอีกด้วย หน้าต่างด้านนี้มีมาให้ 1 ชุดเป็นบานเลื่อนเดี่ยว

ระยะพื้นที่ปลายเตียงเหลือเดินคนเดียวได้ ส่วนด้านข้างจะขยับให้กว้างกว่าในรูปก็ทำได้ครับ เพราะพื้นที่อีกด้านยังเหลืออีกเยอะ

ประตูออกไปยังระเบียงก็ใช้เป็นบานกระจกเต็มความกว้างของกำแพงเหมือนกับบานอื่นๆที่ชั้นล่างเลย

ทางออกไปยังระเบียงจะมีธรณีประตูสูง 10 ซม.กันน้ำไหลเข้าห้องเวลาฝนตก

พื้นที่ระเบียงจะไม่กว้างมากประมาณ 60 ซม.เอาไว้วางคอมเพรสเซอร์แอร์และยืนรับลมได้แค่นั้น

ตู้เสื้อผ้าจะทำแค่ครึ่งเดียวแบบนี้ก็ได้ หรือถ้าใครมีเสื้อผ้าเยอะจะทำเต็มพื้นที่ปิดหน้าต่างไปเลยก็ได้ครับ

จากหัวเตียงมองไปยังห้องน้ำและประตูทางเข้าห้อง

ขนาดของห้องน้ำก็ไม่เล็กนะครับ มีพื้นที่ให้ใช้งานได้พอดีๆ มีเคาน์เตอร์ให้วางของได้นิดหน่อย แต่ชุดโถสุขภัณฑ์จะเป็นคนละรุ่นกับชั้นล่างขนาดจะเล็กกว่าหน่อย

แต่ห้องอาบน้ำจะมีฉากกระจกกั้นมาให้

หน้าตาชุดฝักบัวและก๊อกน้ำ

พื้นห้องโซนอาบน้ำจะยกสูงขึ้นมาประมาณ 5 ซม.

มือจับประตูห้องน้ำก็เอาไว้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ครับ

ด้านข้างของอ่างล้างหน้าจะมีปลั๊กไฟกันน้ำมาให้ด้วยนะครับ แต่น่าเสียดายที่ขนาดของกระจกให้มาเล็กไปหน่อยถ้าได้เต็มความกว้างกำแพงและซ่อนไฟด้วยจะดีมากเลยครับ ;p

ออกจากห้องเมื่อกี้มาจะเจอกับตู้ควบคุมงานระบบต่างภายในบ้าน ทำมาเป็นตู้ใหญ่เลย

ห้องนอน 3 เป็นห้องที่มีขนาดเล็กที่สุดในห้องนอนทั้งหมด ในห้องตัวอย่างวางเตียงขนาด 3.5′ แต่เอาจริงๆจะวางเตียง 5′ ก็ยังได้นะครับแต่ต้องยอมเสียพื้นที่รอบเตียงไปบ้าง ห้องนี้แต่งแนวสำหรับเด็กผู้ชายครับ มีหน้าต่างมาให้ 2 ชุด เป็นบานเลื่อนเดียวทั้งคู่และไม่มีระเบียง

หันไปยังทางเข้าห้องห้องและห้องน้ำ

ระยะพื้นที่เหลือที่ปลายเตียงและด้านข้างของเตียง

ด้านนี้ไม่สามารถทำตู้เสื้อผ้า Built-in ได้เต็มความกว้างของกำแพงเหมือนห้องนอน 2 เพราะว่าจะติดกับประตูทางเข้าห้อง

ห้องน้ำจะใช้สุขภัณฑ์และอุปกรณ์เดียวกับห้องเมื่อกี้ แต่ห้องนี้ดันให้กระจกบานใหญ่มาซะงั้น

ฉากกระจกกั้นโซนอาบน้ำยังคงมีมาให้เช่นเดิม มีช่องแสงเป็นบานกระทุ้ง 2 บาน

ชั้นวางของห้องน้ำนี้จะเป็นลักษณะ Low Wall ไม่ได้เป็นช่องเว้าเข้าไปในกำแพง

สุดท้ายมาดูห้องนอนใหญ่กันครับ ห้องนี้สามารถวางเตียง 6′ แล้วมีที่เหลือให้วางโต๊ะทำงานได้อีกตัวเลย หรือจะวางเป็นเก้าอี้ Daybed ก็ได้

หน้าต่างบริเวณหัวเตียงมีมาให้ 2 ชุดเป็นบานเลื่อนเดี่ยวหมด

ประตูกที่ออกไปยังระเบียงก็เป็นบานกระจกเต็มความกว้างของกำแพง เป็นบานเลื่อนคู่

พื้นที่เหลือข้างเตียงอีกด้าน

รางประตู ของห้องนี้จะไม่ได้วางอยู่บนธรณีประตูเหมือนกับห้องอื่นๆแต่จะวางเรียบไปบนพื้นเลย ส่วนพื้นระเบียงจะลดระดับลงมาประมาณ 4 ซม.

ความกว้างของระเบียงนี้จะกว้างกว่าห้องนอน 2 กว้างประมาณ 80 ซม.

มุมมองหันกลับมายังภายในห้อง ประตูที่เห็นด้านหน้าคือทางเข้าไปยัง Walk-in Closet (WIC.) ครับ

พื้นที่วางทีวีก็มีทำ Build-in ได้เต็มพื้นที่กำแพงแต่แนะนำให้แขวนทีวีกับผนังจะดีกว่า เพราะช่วยประหยัดพื้นที่ได้เยอะ

รูปนี้ถ่ายให้ดูเป็น Idea ครับเค้าเอากระจกเงาติดเข้าไปกับบานประตู เอาไว้เวลาแต่งตัวเสร็จแล้วออกมาเชคความเรียบร้อยอีกที

ThePalmPattanakarn_UN_Areca_76_2

เข้ามาใน WIC. จะมีห้องน้ำอยู่ด้านขวามือและตู้เสื้อผ้าอยู่ด้านซ้าย  ส่วนด้านหน้าที่เห็นเป็นโต๊ะเครื่องแป้งไม่ควรทำเป็นตู้เสื้อผ้านะครับเพราะระยะความลึกไม่พอ ให้ทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งแบบนี้ดีแล้วครับ หรือถ้ามีของเยอะก็ทำเป็นชั้นวางกระเป๋า ของใช้อื่นๆก็ได้ครับ

ตู้เสื้อผ้าก็ทำ Built-in ได้ 3 ช่องใหญ่

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จะให้บานกระจกขนาดใหญ่เต็มความกว้างของกำแพงมาเลยแต่ชุดโถสุขภัณฑ์ยังคงเป็นแบบเดียวกัน

สิ่งที่แตกต่างออกไปคืออ่างล้างมือจะเป็นอ่างเซรามิคของ Mogen มาวางบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูปจาก Mogen อีกที

ชุดฝักบัวก็มีหน้าตาแตกต่างกันออกไปนิดหน่อยและช่องวางของก็มีมาให้ใหญ่กว่า กต่ก็ยังทำแค่ชั้นเดียวอยู่ดี

ส่วนที่พิเศษกว่าห้องอื่นๆอีกจุดก็คือระเบียงเอาไว้วางต้นไม้ได้ แต่แนะนำเป็นพันธุ์ไม้ที่ไม่ต้องการแดดจัดและไม่ได้เป็นต้นไม้ใหญ่ เป็นพวกรากสั้นจะดีกว่า

ไฟส่องสว่างในบ้านทั้งหมดเป็นแบบ Downlight นะครับ

เมื่อกี้ลืมพาไปดูห้องแม่บ้าน เลยขอพาไปดูซะหน่อยก่อนที่จะไปดูบ้านแบบอื่นๆนะครับ

ภายในห้องน้ำแม้บ้าน

ThePalmPattanakarn_UN_Areca_88

ห้องนอนของแม่บ้าน

Livistona_Plan_resize_edit2

แบบ Livistona พื้นที่ใช้สอย 242 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องพักผ่อน 1 ส่วนอเนกประสงค์ 1 ห้องรับแขก ส่วนรับประทานอาหาร พื้นที่เตรียมอาหาร ห้องครัว Laundry Area ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน การวางฟังก์ชั่นบ้านแบบนี้จะคล้ายๆกับแบบ Areca แต่จะต่างกันตรงที่ได้พื้นที่ส่วนซักล้างในร่มเพิ่มขึ้นมา (ตรงวงกลมเส้นประสีแดง)

Latania_Plan_resize_edit2

แบบ Latania พื้นที่ใช้สอย 280 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องพักผ่อน 1 ส่วนอเนกประสงค์ 1 ห้องรับแขก ส่วนรับประทานอาหาร พื้นที่เตรียมอาหาร ห้องครัว ครัวไทยแยกส่วน ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน แบบนี้ก็เช่นเดียวกันครับ คือฟังก์ชั่นยังเหมือนเดิมแต่ได้พื้นที่ครัวไทยเพิ่มขึ้นมาอีกห้อง และแบบนี้มีข้อดีเพิ่มขึ้นมาคือเวลาเจ้าของบ้านไปเที่ยวกันทั้งบ้าน สามารถล๊อคประตูบ้านได้หมดโดยที่แม่บ้านเองก็ยังใช้ชีวิตได้ตามปรกติเพราะเค้ามีห้องนอน, ห้องน้ำ และห้องครัวให้ทำข้าวกินเองได้ เจ้าของบ้านก็ไปเที่ยวได้อย่างสบายใจ

แบบ Majestic แบบนี้เป็นที่ใหญ่ที่สุดของโครงการนี้ มีพื้นที่ใช้สอย 372 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน 1 ห้องพระ 1 ห้องทำงาน ส่วนรับประทานอาหาร พื้นที่เตรียมอาหาร ห้องครัว ครัวไทยแยกส่วน ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ ระเบียงชมสวน ที่จอดรถ 3 คัน โดยห้องนอนใหญ่สามารถเพิ่มห้องนั่งเล่นเข้าไปอีกห้องได้เลย และห้องอเนกประสงค์บนชั้น 2 ก็มีเพิ่มมาให้อีกห้อง

ตัวบ้านของแบบ Majestic ในที่เป็นบ้านตัวอย่างนี้จะมีการต่อเติมเรื่อนรับรองเพิ่มมานะครับ(อยู่ด้านซ้ายมือสุดของภาพ) ของจริงจะไม่มี ตัวบ้านจะมีลักษณะคล้ายๆกับ แบบ Areca แต่มีพื้นที่ใหญ่กว่าและจอดรถได้ 3 คัน

เอามาให้ดูอีกซักมุมครับ

ตัวบ้านจริงๆจะมีแค่นี้ครับ อันนี้ถ่ายมาให้เห็นตามแบบที่จะขาย

ส่วนตรงนี้คือส่วนที่เกินออกมาจากแบบจริง

ทางเข้าบ้านก็ใช้ประตูขนาดเดียวกันและวัสดุส่วนใหญ่จะเหมือนกับแบบ Areca ทุกอย่าง ดังนั้นผมจะไปดูบรรยากาศและการตกแต่งภายในโดยไม่เจาะรายละเอียดมากนักเพราะได้พูดไปหมดแล้ว

ขนาดของห้องรับแขกก็มีขนาดพอกันครับ แต่บ้านหลังนี้ตกแต่งให้ดูหรูหราขึ้น และห้องทำงานด้านในที่เห็นตอนนี้ทำเป็นสำนักงานขายอยู่นะครับ

ทีวีตรงนี้สามารถใส่ได้ถึง 60″ เลยครับ

หันมาด้านขวาจะเป็นโซนทางอาหารที่ สามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 8-12 ที่นั่งได้สบายๆ

ถ่ายมาให้ดูบรรยากาศรวมๆว่าตัวบ้านมีความโปร่งมากแค่ไหน ที่ดูกว้างและโปร่งได้ขนาดนี้เพราะเค้าเล่นให้หน้าต่างเต็มความสูงมาทุกบานเลย

หันกลับมาดูห้องร้บแขกอีกห้องบ้างห้องนี้ก็มีขนาดพอๆกันกับห้องที่แล้วนะครับ

วางโซฟาได้ 6 ที่นั่ง

ส่วนที่ต่อเติมขึ้นมาก็คือห้องที่เห็นอยู่ด้านหน้านี่แหละครับของจริงจะเป็นลานซักล้างในร่ม ปูด้วยกระเบื้องขนาด 60 x 60 ซม.

ส่วนที่ต่อเติมออกมา คือพื้นที่ตั้งแต่ทางเดินตรงนี้ไปจนถึงเรือนรับรอง แต่ไหนๆเค้าก็ทำมาแล้วขอเข้าไปดูหน่อยหละกันครับ

ห้องนี้ตกแต่งเอาไว้สำหรับจัด Party เล็กๆครับ แบบว่าร้องเพลง, เล่นเกม, ดูหนังกันเสียงดังก็ไม่รบกวนห้องอื่นๆในบ้านเลย

ด้านบนก็ตกแต่งด้วยไฟสีฟ้า แหวกแนวไปอีกแบบ

ในห้องนี้เพิ่มในส่วนของห้องน้ำมาด้วย

กลับมาของจริงกันต่อดีกว่า ห้องทำงานที่เห็นตอนนี้ทำเป็นสำนักงานขายอยู่

ประตูที่เห็นอยู่ด้านซ้ายมือคือห้องน้ำสำหรับชั้นล่างครับ และตัวกำแพงที่เห็นกั้นอยู่หน้าห้องน้ำของจริงก็มีมาให้นะครับ

ชุดสุขภัณฑ์ภายในก็เป็นแบบนี้ครับ เหมือนกับห้องน้ำชั้นล่างของ Areca เลย

แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันคือตัวอ่างล้างหน้าครับ ตัวอ่างจะได้แบบในห้อง Master Bedroom

ครัวของหลังนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ Pantry ติดกับโซนทานอาหาร, ครัวปิด และครัวไทยแยกส่วน เคาน์เตอร์ที่เห็นอยู่นี้คือส่วนของ Pantry ครับ ประตูที่เห็นอยู่คือทางเข้าจากที่จอดรถ เวลาแม่บ้านขนของจะขนผ่านทางนี้หรือทางครัวไทยก็ได้

ครัวปิดอีกชุดจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ บานประตูเป็นแบบบานเลื่อน

หน้าต่างในห้องนี้มีมาให้ 3 ชุดเป็นแบบบานเลื่อนเดี่ยวกทั้งหมดครับ

ขนาดของเคาน์เตอร์ครัวก็ใหญ่โตอลังการอย่างที่เห็นครับ ตู้เย็นก็จัดได้ใหญ่แบบในบ้านตัวอย่างเลย

ส่วนครัวไทยจะแยกส่วนออกจากตรงนี้ไปอยู่ภายนอกตัวบ้าน

พื้นที่ครัวตรงนี้จะเล็กกว่าในบ้าน แต่จะเน้นเอาไว้ใช้ทำอาหารไทยได้ดีโดยกลิ่นและความมันจะไม่เข้าไปรบกวนในบ้านเลย

พื้นครัวไทยจะลดระดับลงมาจากครัวในตัวบ้านประมาณ 4 ซม. และปูกระเบื้องขนาด 12″ x 12″

ส่วนของครัวไทยจะติดอยู่กับห้องของแม่บ้าน

กลับมาดูในบ้านกันต่อ ตัวบันไดสำหรับไปชั้น 2 ยังคงเป็นบันไดสำเร็จรูปเหมือนเดิม

แต่ตัวหน้าต่างของโถงบันไดมีการปรับนิดหน่อย

โถงชั้น 2 มีขนาดใหญ่โตอลังการมากครับห้องที่เห็นอยู่ติดกับบันไดเค้าจัดเป็นห้องทำงาน แต่ถ้าดูใน Plan จะเป็นห้องพระ

พืนที่การใช้งานห้องนี้จะเป็นห้องที่มีขนาดเล็กที่สุดบนชั้น 2

ส่วนห้องนี้คือห้องที่ขึ้นบันไดมาแล้วจเอเลย ห้องนี้ตกแต่งเป็นห้องพักผ่อนของชั้น 2 ตำแหน่งของห้องนี้จะอยู่ตรงกลางบ้านพอดี

และมีระเบียงให้ออกไปด้านนอกด้วย

ตัวบานประตูมีซีลยางมาให้ด้วยนะครับ ลองเปิดปิดใช้งานดูก็ให้ความรู้สึกแน่นดีครับ

พื้นที่ระเบียงก็ไม่กว้างมากนักพอมายืนรับรองยามค่ำคืนได้

รูปนี้มองจากระเบียงไปที่เฉลียงของชั้น 1 ตรงโซนทานอาหารครับ

มาดูห้องนอนใหญ่กันดีกว่า ว่ามันจะใหญ่จริงไหม๊ จากรูปจะเห็นว่าห้องนี้สามารถเอาฟังก์ชั่นอย่างห้องนั่งเล่นมาใส่ไว้ได้สบายๆเลย แถมยังมีที่เหลือให้เดินได้อีกเยอะ

ระยะนั่งดูทีวีเหลือเยอะกว่า ทาวน์เฮาส์ หลายโครงการเลยนะครับ

โซฟาก็จัดได้แบบ 3 ที่นั่งขนาดใหญ่พร้อม Daybed ด้วย ทางออกไปยังระเบียงจะอยู่ที่บริเวณนี้ครับ ตรงเตียงนอนจะมีระเบียงอีกอันแต่ออกไปไม่ได้ครับเพราะทำเป็นหน้าต่างไป

พื้นที่ระเบียงก็ใหญ่พอให้วางที่นั่ง 2 ตัวกำลังดี

ระเบียงอีกฝั่งที่อยู่ติดกับเตียงนอนจะใช้งานไม่ได้นะ ไว้เอาตกแต่งจะวางไม้พุ่มพอได้อยู่ครับ

ฉากกั้นอันนี้ของจริงไม่มีให้นะครับ

ขนาดเตียงก็ต้องจัดเป็น 6′ อยู่แล้วครับ

พื้นที่ข้างเตียงก็เหลือๆอย่างที่เห็นในรูปครับ

หน้าต่างในส่วนนี้เป็นบ้านเลื่อนเดี่ยวแยกซ้ายขวานะครับไม่ได้เปิดจากตรงกลาง

ห้อง WIC. ก็ทำเป็น Built-in เข้ารูปตัว U รอบห้องได้เลยครับ

อีกฝั่งจะทำได้แค่ประมาณ 2 บานเปิดเท่านั้น

ห้องน้ำของ Master Bedroom จะมีทั้งห้องอาบน้ำ และอ่างอาบน้ำจากุชชร่มาให้

ห้องอาบน้ำจะมีชุดฝักบัวให้ 2 ชุด แบบธรรมดาและ Rain Shower

กระจกที่ให้มาก็เต็มความยาวของตัวเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า

การเปิดตู้จะเป็นแบบกดให้บานประตูเด้งออกมา

ตัวอ่างจากุชชี่จะวางเข้ามุมของห้องพอดีมีบันไดมาให้ 1 ขั้น

ด้านบนจะมีหน้าต่างบานเลื่อนสลับมาให้

หัวมุมของห้องน้ำจะเป็นพื้นที่เอาไว้วางต้นไม้ได้

ไปดูห้องนอนอีก 2 ห้องที่เหลือกันครับ

ห้องแรกจะตกแต่งไว้สำหรับลูกสาวที่โตเป็นวัยรุ่นแล้วครับ ห้องนี้จะมีระเบียงให้เดินออกไปได้

ระเบียงก็ไม่กว้างมากครับ กว้างประมาณ 60 ซม.แต่ยาวเท่าหน้ากว้างห้องเลย

ส่วนเตียงเค้าก็ทำเป็น Built-in เข้ามุมพอดี ตัวบานหน้าต่างเป็นแบบบานเลื่อนเดี่ยวแยกซ้าย-ขวา

หันกลับมาดูฝั่งตู้เสื้อผ้าบ้าง คงถูกใจสาวๆอยู่ไม่น้อยครับเพราะสามารถทำตู้เสื้อผ้าได้ขนาดใหญ่เต็มพื้นที่เลย

ห้องน้ำจะอยู่ติดกับทางเข้าห้อง

ห้องน้ำก็มีมาให้ครบ แยกโซนเปียกโซนแห้ง

แต่ที่ต่างออกไปคือชุดสุขภัณฑ์ครับ อ่างล้างหน้าจะเป็นแบบกลมๆอย่างนี้ตู้ด้านล่างนั่นเปิดไม่ได้นะครับ

ห้องสุดท้ายจะตกแต่งสำหรับลูกชายที่เป็นวัยรุ่นแล้วเช่นกัน ห้องนี้จะเป็นห้องที่มีขนาดเล็กกว่าห้องเมื่อกี้และไม่มีระเบียงด้วย

หน้าต่างจะแบ่งออกเป็น 3 ชุด และเป็นบ้านเลื่อนเดี่ยวทั้งคู่

เตียงที่วางคือเตียงขนาด 5′ พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณนี้ครับ พอเดินเข้าออกได้คนเดียว

หันไปทางปลายเตียงจะเหลือพื้นที่เยอะพอสมควรแต่ตู้เสื้อผ้าจะมีขนาดเล็กกว่าเท่านึงเลย

พื้นที่อีกด้านของเตียงก็วางโต๊ะทำงานได้อีกตัวครับ

ห้องน้ำของห้องนี้จะต้องใช้ร่วมกับห้องอื่นนะครับเข้าได้ 2 ทาง

ภายในห้องน้ำก็มีโซนเปียกแห้งให้ครบเช่นเดิม

ชุดอ่างล้างหน้าก็เป็นแบบเดียวกับห้องนอนใหญ่เลย

ส่วนห้องอาบน้ำจะเป็นแบบ 5 เหลี่ยมเข้ามุม

เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับบ้านของ Pruksa ที่ขยับขึ้นมาทำระดับ Hi-end กับเค้าบ้าง จุดขายหลักๆน่าจะอยู่ที่ขนาดของตัวบ้านที่ทำมาใหญ่มากและการวางฟังก์ชั่นก็ถือว่าทำได้ดีและลงตัวไม่มีมุมแปลกมาให้เห็น แต่จะถูกใจคุณผู้อ่านมากหรือน้อยก็คงต้องแล้วแต่ความชอบและความเหมาะสมของแต่ละคนแล้วหละครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 18 April 2014

  • Areca ที่ดิน 68 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 216 ตร.ม. 9 ล้านบาท หรือ 132,400บาท/ตร.วา (บ้านแบบนี้ Sold Out แล้วนะครับต้องรอเฟสต่อไป)
  • Livistona ที่ดิน 76.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 242 ตร.ม. 10.17 ล้านบาท หรือ 133,600 บาท/ตร.วา
  • Latania ที่ดิน 80 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 280 ตร.ม. 11 ล้านบาท หรือ 137,500 บาท/ตร.วา
  • Majestic ที่ดิน 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 372 ตร.ม. 15.1 ล้านบาท หรือ 151,000 บาท/ตร.วา

  • จอง 100,000 บาท
  • ทำสัญญา 200,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 73,500 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 29 บาท/ตารางวา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี
  • ค่าส่วนกลางของ Pruksa Avenue 5 บาท/ตารางวา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

The Palm พัฒนาการ 38 เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ใน Pruksa Avenue ซอยพัฒนาการ 38 เข้ามาจากถนนพัฒนาการ ประมาณ 1.2 กิโลเมตร การเดินทางจึงต้องใช้รถเป็นหลัก เนื่องจากตัวถนนพัฒนาการก็คือถนนเส้นเดียวกันกับถนนเพชรบุรีดังนั้นการวิ่งเข้าเมืองจึงทำได้ง่ายและไม่ยุ่งยากแค่วิ่งตรงๆก็เข้าสู่แหล่งสำนักงานต่างๆได้ไม่ยาก แต่ปัญหาคือปริมาณรถที่ใช้งานเส้นนี้จะหนาแน่นมากในชั่วโมงเร่งด่วน แต่ก็ยังดีที่เส้นพัฒนาการมีทางลัดเชื่อมต่อกับถนนหลายสาย มีทั้งทางลัดไปออกถนนอ่อนนุช, ทางลัดที่เป็นอุโมงค์ไปออกพระราม 9 และ หลังม.รามคำแหงได้ ถนนพัฒนาการจะแบ่งเป็น 2 ช่วงหลักๆครับ ช่วงต้นจะเริ่มต้นจากแยกคลองตันไปถึงถนนศรีนครินทร์ ช่วงท้ายจะเริ่มต้นแยกที่ตัดกับถ.ศรีนครินทร์ไปจนถึงถ.อ่อนนุช(สุขุมวิท77) ถนนพัฒนาการช่วงแรกจะมีความคึกคักมากกว่าช่วงที่ 2 เพราะอยู่ใกล้ย่านอาคารสำนักงานและเป็นแหล่งชุมชนอาศัยหนาแน่น ส่วนช่วงที่ 2 จะเป็นที่อยู่อาศัยในแนวราบมากกว่า

พื้นที่ใน Pruksa Avenue จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบทั้งหมดมีทั้ง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ 2 และ 3 ชั้น เพราะฉะนั้นจะได้ความมั่นใจว่าซื้อบ้านไป  เเล้วพื้นที่รอบๆข้างจะเป็นพื้นที่พักอาศัยทั้งหมด ไม่ต้องมานั่งลุ้นว่าจะมีโรงงาน, สำนักงาน หรือ ร้านค้าอะไรมาเปิดข้างๆโครงการรึเปล่า แต่พวกร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อต่างๆในระยะเดินจะไม่มีเลยนะครับ แหล่งร้านอาหารที่พึ่งพาได้จะอยู่ตามริมถนนพัฒนาการ หรือจะใช้ทางลัดก่อนถึงโครงการทะลุไปซอยพัฒนาการ 32 ก็ได้แถวๆนั้นจะมีร้านอาหารอยู่เยอะพอสมควร ดังนั้นความอุดมสมบูรณ์จะอยู่ค่อนมาทางปากซอยมากกว่า ส่วนตัวโครงการจะอยู่ในช่วยท้ายๆของซอย

สำหรับเเหล่ง Shopping ที่ใกล้ที่สุดคือ Tesco Lotus ที่อยู่ระหว่างซอยพัฒนาการ 43 กับ 45 หรือถ้าจะไปห้างจะมี The Nine บนเส้นพระราม 9 ที่ใกล้สุดแต่ต้องรอดอุโมงค์ไปนะครับ ส่วนที่เหลือก็ไปบนเส้นศรีนครินทร์ได้ครับมี Thanya Park, Seacon Square กับ Paradise Park ส่วนสถานที่พักผ่อนหย่อนใจจะมีสวนสาธารณะใหญ่ ๆ อย่าง สวนหลวงร.9 อยู่หลัง Paradise Park ครับ แต่เส้นทางการเดินรถอาจจะต้องไปกลับรถไกลหน่อยเวลาจะเข้าเส้น ศรีนครินทร์ เพราะบางช่วงเวลาไม่สามารถกลับรถที่ 3 แยกตรงซอยพัฒนาการ 25 ได้ ก็ต้องไปกลับรถที่แยกคลองตัน แต่ถ้าวิ่งมาจากในเมืองจะง่ายเลยเพราะมีอุโมงค์กลับรถให้อยู่แล้ว

การเดินทางโดยไม่ใช้รถอาจจะไม่สะดวกนักเนื่องจากอยู่ในซอยซึ่งไม่มีรถสาธารณะวิ่งผ่านเข้ามาในโครงการเลย ต้องใช้บริการพี่วินหน้าปากซอยหรือไม่ก็ Taxi เท่านั้น ถ้าจะออกจากโครงการไปปากซอยก็เรียบ Taxi อย่างเดียวครับ หรือไม่ก็ขอเบอร์พี่วินไว้ก็ได้ แต่คนที่อยู่ในโครงการระดับนี้ส่วนใหญ่มักจะใช้รถยนต์ส่วนตัวอยู่แล้ว ประเด็นนี้จึงไม่ค่อยมีปัญหาสักเท่าไหร่

วัสดุของโครงการนี้ให้มาแบบกลางๆแต่ให้มาน้อยไปหน่อย การขายเป็นแบบบ้านเปล่า ได้พื้นเป็นแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม.ที่ชั้นล่าง ส่วนชั้น 2 ได้เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 12 มม. ระเบียงและเฉลียงหน้าบ้านปกระเบื้องขนาด 60 x 30 ซม. สลับกันและขอบจะเป็นทรายล้าง ลานซักล้างและครัวไทยปูกระเบื้อง 12″ x 12″ ลานจอดรถได้ทรายล้างมีลวดลายนิดหน่อย บันไดไม้สำเร็จรูป พื้นบันไดเป็นไม้ยางพาราทำสีให้เข้ากับ ราวจับบันได สุขภัณฑ์ใช้ของ Mogen และ American Stand อุปกรณ์ในห้องน้ำต่างๆใช้ของ Cotto และ American Standard ผนังกระเบื้องมีการตกแต่งด้วยกระเบื้องมีลวดลายนิดหน่อย ประตูและหน้าต่างของที่นี่ให้มาค่อนข้างใหญ่โตดีและจัดให้ครบทุกแบบเลย ประตูบาน Swing ที่ออกไประเบียงจะเป็นแบบมีซีลยางมาให้ และอุปกรณ์ Fitting บานประตูหน้าต่างก็ดูแข็งแรงดี ส่วนการเก็บงานต่างๆทำได้เรียบร้อยดีสำหรับบ้านตัวอย่าง แต่ถ้าเป็นเรื่องการใช้งานระยะยาวคงต้องรอดูกันต่อไปนะครับ

แบบบ้านของที่โครงการนี้ออกแบบมาได้ค่อนข้างดี เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง – ขนาดใหญ่ เพราะให้พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 216 – 372 ตร.ม.ซึ่งสามารถใส่ห้องน้ำให้กับห้องนอนได้ทุกห้อง และยังใส่ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำให้กับบ้านทุกแบบด้วย จำนวนฟังก์ชั่นห้องนอนกับห้องน้ำจะมีจำนวนเท่ากันหมดทุกแบบ ส่วนที่แตกต่างกันคือจำนวนห้องนั่งเล่นกับห้องรับแขกที่เพิ่มขึ้นมาให้ และขนาดห้องต่างๆก็ขยายตามขนาดบ้านไปด้วย ห้องนั่งเล่น, ห้องรับแขก และ ห้องอเนกประสงค์ จะไม่ได้กั้นแบบมีประตูมิดชิด เพราะเค้าเตรียมเอาไว้ให้ต่อเติมได้ง่ายๆครับ

สาธารณูปโภคของที่นี่มีสวนสาธารณะให้ 2 จุดขนาดรวมๆกันประมาณ 2 ไร่ ได้ Club House เป็นอาคารแยกตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการ ตัวแบบของอาคารดูเรียบๆแนว Modern แต่วัสดุที่ให้ยังดูไม่ค่อยสมราคาเท่าไหร่ มีสระว่ายน้ำแยกสระเด็กกับผู้ใหญ่ ขนาด xx ว่ายออกกำลังกายได้ มีจากุชชี่ให้แต่ที่น่าเสียดายคือเป็นระบบ คลอรีน ไม่ใช่ระบบเกลือหรือโอโซน ส่วนห้อง Fitness ก็ใส่เครื่องเล่นได้ประมาณ 8 – 10 เครื่อง ส่วนค่าส่วนกลางจะต้องมี 2 ส่วนนะครับ ส่วนที่ต้องเสียเพิ่มคือพื้นที่ถนนสาธารณะทางเข้าโครงการตั้งแต่ข้ามคลองมา ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ภาระจำยอมที่ใช้ร่วมกับโครงการอื่นด้วย

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 9 – 25 ล้านบาท, 18 April 2014

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ทำเลดีสำหรับบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ การเข้าเมืองทำได้สะดวก
  • ความปลอดภัย 8.0/10 – รั้วกั้นไม้กระดก, Double Security Gate, CCTV ที่หน้าโครงการและถนนหลัก, รั้วสูง 3 เมตร และระบบกันโขมย
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.25/10 – ได้บ้านขนาดใหญ่ และการวางฟังก์ชั่นได้ลงตัวดีเหมาะกับราคาบ้าน
  • วัสดุ 7.5/10 – ขอแยกเป็น 2 ส่วนนะครับ ส่วนของบ้านถือว่าให้มาตามมาตรฐานของระดับราคานี้แต่ให้มาน้อยไปหน่อย ส่วน Club House ให้แค่ 7.0 ครับเพราะวัสดุยังดูไม่ค่อยสมราคาโครงการเท่าไหร่
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – โครงการขนาดกลางไม่ใหญ่มาก ความหนาแน่นไม่สูง ถนนกว้างและต้นไม้เยอะ
  • สาธารณูปโภค 7.25/10 – มี Club House แยก มีสระว่ายน้ำ และ จากุชชี่ แต่เป็นระบบคลอรีน, Fitness, มีสวนหย่อมให้ 2 จุด
  • 7.69 / 10.00

BOTTOM LINE

The Palm พัฒนาการ เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง – ใหญ่ และต้องการใช้พื้นที่ต่างๆของตัวบ้านอย่างเต็มที่ และชอบอยู่บ้านไม่เน้นติดรถไฟฟ้า ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก เพราะถ้าเทียบกับงบประมาณ 10 -25 จะได้คอนโดระดับ Luxury – Super Luxury แต่ได้พื้นที่ใช้งานแค่ประมาณ 130-150 ตร.ม.เท่านั้น

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

(ノ´ヮ´)ノ*:・゚✧