The Grand Pinklao – Kanchana (เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า – กาญจนาฯ) บ้านเดี่ยวหรูบนถนนกาญจนาภิเษก ได้ที่ดินใหญ่ สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกยูนิต จาก Frasers Property [รีวิวฉบับที่ 2706]

The Grand Pinklao – Kanchana (เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า – กาญจนาฯ) ณ วันที่ 9 พฤษภาคม 2567

พิกัด Google Maps : 13.744362 , 100.403742
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากโครงการ แสดงตำแหน่ง The Grand Pinklao – Kanchana (เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า – กาญจนาฯ) ที่ตั้งอยู่บนถนนบางแวก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก 180 เมตร โครงการจัดอยู่ในโซนปิ่นเกล้า – เพชรเกษม เดินทางเข้า – ออกใจกลางเมืองได้ง่าย เหมาะกับคนที่ทำงานในเมือง เน้นความสะดวกในการเดินทาง อยากอยู่ใกล้ห้างและแหล่งความอุดมสมบูรณ์ แต่ยังชอบความสงบ ไม่พลุกพล่าน ซึ่งทำเลนี้จัดว่ามีโครงการที่พักอาศัยให้เลือกเยอะ ทั้งแนวราบและคอนโด เพราะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินตัดผ่าน โดยสถานีที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือ MRT หลักสอง สำหรับคนที่ใช้รถส่วนตัวในการเดินทาง ก็สามารถไปใช้ทางด่วนได้ถึง 2 สาย คือ ทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอกและทางคู่ขนานบรมราชชนนี

โครงการแนวราบ โซนนี้จะเป็นบ้านที่มีเนื้อที่ดิน 100 ตร.วา ขึ้นไป ทำให้ราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 20 – 50 ล้านบาท จัดเป็นกลุ่มบ้านที่อยู่บนทำเล Hi – end เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ เน้นพื้นที่ใช้สอยเยอะ มีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับได้อย่างครบครัน โดยความอุดมสมบูรณ์ของโครงการจะอิงอยู่บนถนนเพชรเกษม ที่มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง Seacon บางแค และ The Mall Lifestore บางแค ให้ออกมาเลือกจับจ่าย

สำหรับครอบครัวขยายที่กำลังวางแผนให้กับลูกๆ โครงการก็อยู่ใกล้โรงเรียนนานาชาติชั้นนำหลายแห่ง เดินทางสะดวกในระยะทางไม่เกิน 10 กิโลเมตร คุณพ่อ คุณแม่ สามารถแวะรับ – ส่งเด็กๆก่อนไปทำงานได้สบายๆ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ The Grand Pinklao – Kanchana (เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า – กาญจนาฯ) ส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัย อาคารพาณิชย์และร้านค้าอยู่ค่อนข้างเยอะ จากโครงการออกมาหาของกิน ของใช้ได้ง่าย แต่บรรยากาศยังค่อนข้างสงบ รอบๆไม่มีอาคารสูงในระยะประชิด จึงไม่มีสิ่งรบกวนสายตา นอกจากแนวสายไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งโครงการก็ได้เว้นระยะจากบ้านพักอาศัยแล้ว 25 เมตร ตามกฎหมาย ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยเลย

• ทิศเหนือ ติดกับ ถนนบางแวก , อาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น
• ทิศใต้ ติดกับ คลองบางไผ่ , อาคารเรียนสูง 4 ชั้น
• ทิศตะวันออก ติดกับ อาคารชั้นเดียว , ที่พักอาศัยสูง 1 – 4 ชั้น
• ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินเปล่า , บ้านพักอาศัย 1 – 2 ชั้น , อาคารพาณชิย์สูง 3 ชั้น

บรรยากาศด้านหน้าโครงการติดกับถนนบางแวก เลี้ยวเข้ามาจากถนนกาญจนาภิเษกเพียง 180 เมตร

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• เดอะ พาซิโอ้ พาร์ค กาญจนาฯ ~ 2.8 กิโลเมตร
• เดอะ มอลล์ บางแค ~ 4.9 กิโลเมตร
• เดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์ ~ 9.6 กิโลเมตร
• เซ็นทรัล เวลสต์วิลล์ ~ 11.3 กิโลเมตร
• เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ~ 14.2 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลธนบุรี 2 ~ 5 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค ~ 5.1 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลพญาไท 3 ~ 11 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลศิริราช ~ 12.6 กิโลเมตร

โรงเรียน

• โรงเรียนนานาชาติ สิงคโปร์ ธนบุรี ~ 5.6 กิโลเมตร
• โรงเรียนเพลินพัฒนา ~ 6.9 กิโลเมตร
• โรงเรียนอนุบาล เด่นหล้า เพชรเกษม ~ 6.9 กิโลเมตร
• โรงเรียนอนุบาลนานาชาติฮัมมิ่งเบิร์ด ~ 7.7 กิโลเมตร
• โรงเรียนอนุบาลนานาชาติเคนซิงตัน ~ 8.9 กิโลเมตร

การเดินทาง

• ทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอก ~ 6.1 กิโลเมตร
• MRT สายสีน้ำเงิน สถานีหลักสอง ~ 6.3 กิโลเมตร
• MRT สายสีน้ำเงิน สถานีแยกไฟฉาย ~ 9.6 กิโลเมตร
• BTS สายสีเขียว สถานีบางหว้า ~ 9.8 กิโลเมตร

โครงการ The Grand Pinklao – Kanchana (เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า – กาญจนาฯ) เป็นบ้านเดี่ยวหรูจำนวน 39 ยูนิต ซึ่งถือว่ามีความหนาแน่นน้อย ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูง โดยโครงการตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 28 ไร่ ใกล้ถนนกาญจนาภิเษกเพียง 180 เมตร การเข้า – ออกโครงการจะต้องผ่านการคัดกรอง 2 ชั้น ( Double Gate ) สำหรับบุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อ เมื่อผ่านซุ้มประตูทางเข้าหลักมาจะเจอกับ Visitor Lounge เป็นพื้นที่รับแขกจุดแรกของโครงการ ก่อนจะเจอกับประตูรางเลื่อนอัตโนมัติอีก 1 จุด ซึ่งควบคุมด้วยระบบสแกนป้ายทะเบียนเข้า – ออก ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านได้ดีเลย

การวางผังโครงการ จากภาพรวมจะเห็นว่าได้พื้นที่สีเขียวมาค่อนข้างเยอะ ตั้งแต่บริเวณด้านหน้า นอกจากจะมีสวนหย่อมและแนวต้นไม้ช่วยเพิ่มความร่มรื่น ยังมีการแทรกบ่อน้ำเข้าไปเพื่อสร้างบรรยากาศให้สอดคล้องกับแนวคิดโครงการ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมืองบอร์กโดซ์ ประเทศฝรั่งเศส โดยสายไฟภายในโครงการจะมีการร้อยท่อลงดินทั้งหมด ทำให้ทิวทัศน์รอบๆดูโปร่งโล่ง ไม่มีสิ่งรบกวนสายตา แต่จะมีบางส่วนที่โดนแนวสายไฟฟ้าแรงสูงตัดผ่าน ( ขอบเขตเส้นประสีแดง ) ซึ่งโครงการก็ได้มีการเว้นระยะจากบ้านพักอาศัยฝั่งละ 25 เมตร เพื่อความปลอดภัยตามกฎหมายแล้ว

สำหรับการวางผังบ้านพักอาศัย หน้าบ้านทั้งหมดจะหันขนานไปกับแนวทิศเหนือ – ใต้ ซึ่งจัดเป็นทิศยอดนิยมในการหาบ้าน เพราะเป็นทิศที่ไม่โดนแดดโดยตรง และยังได้ลมธรรมชาติอีกด้วย ถนนภายในซอยได้มากว้าง 9 เมตร ด้วยจำนวนยูนิตที่น้อย ทำให้บางซอยมีเพื่อนบ้านแค่ 3 – 4 หลังเท่านั้น โดยบ้าน Type ใหญ่สุด จะได้เป็นแปลงมุมทุกหลัง ส่วน Clubhouse จะอยู่บริเวณกลางโครงการ มาพร้อมสวนสาธารณะและบ่อน้ำพุขนาดใหญ่ ลูกบ้านสามารถเดินมาใช้งานได้ง่าย

ด้านหน้าโครงการติดกับถนนบางแวก ซุ้มประตูทางเข้าดูกว้างขวาง มองเห็นได้ง่าย การออกแบบได้กลิ่นอายคลาสสิก ตั้งแต่รั้วไปจนถึง Sculpture รูปสิงโต ซึ่งเป็นประติมากรรมที่เป็นสัญลักษณ์ของทางเข้าเมืองบอร์กโดซ์

ลักษณะประตูทางเข้าด้านหน้าเป็นรั้วรางเลื่อนอัตโนมัติ มีการแยกทางเข้า – ออกระหว่างลูกบ้านและ Visitor มาให้ชัดเจน โดยลูกบ้านสามารถเข้า – ออกได้ด้วยระบบสแกนป้ายทะเบียน ได้ทั้งความสะดวกและปลอดภัยเลย

เมื่อผ่านประตูเข้ามาจะเจอ Visitor Lounge เป็นพื้นที่ส่วนกลางจุดแรกของโครงการ โดยตำแหน่งออกแบบมาให้อยู่ระหว่าง Gate 1 และ 2  เพื่อใช้รับรองแขกจากภายนอก โดยไม่ต้องเข้าไปภายในส่วนพักอาศัย ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านได้ โดยฟังก์ชันจะประกอบด้วย ห้องรับรองและห้องประชุม ให้เลือกใช้งาน

ประตูโซนที่ 2 จะอยู่ติดกับ Visitor Lounge ใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียนควบคู่กับประตูรางเลื่อนอัตโนมัติและมีกล้อง CCTV คอยบันทึกภาพ 24 ชั่วโมงเช่นเดียวกัน โดยถนนในโครงการจะเป็นพื้นลาดยางมะตอย ( Asphalt ) ทั้งหมด ซึ่งจะได้สัมผัสที่นุ่ม และเสียงที่เบากว่าถนนคอนกรีตทั่วไป

อาคาร Clubhouse หรือ Masion de club อยู่บริเวณกลางโครงการ เป็นตำแหน่งที่ลูกบ้านเดินมาใช้งานได้ง่าย โดยฟังก์ชันภายในก็ถือว่าให้มาครบครัน แชร์กับเพื่อนบ้าน 39 ยูนิตได้สบายๆ

การออกแบบทำมาได้ดูหรูหรา โอ่อ่า ตั้งแต่ Lobby ที่ได้เป็น Double Volume รอบๆใช้เป็นพื้นที่รับแขก นั่งพักคอยหรือ Co – Working Space ได้ ลักษณะอาคารเป็นชั้นเดียว แบ่งพื้นที่ใช้งานได้เป็น 2 ฝั่ง ด้านหน้าได้เป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ติดกับ Fitness ที่สามารถมองออกมาเห็นวิวสวนได้ด้วย

สระว่ายน้ำระบบเกลือ เป็นแบบ Outdoor ได้มาขนาด 25.00×10.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กขนาด 6.00×5.20 เมตร พร้อมโซนจากุชชี่ หลังจากว่ายออกกำลังแบบจริงจังก็สามารถมานั่งผ่อนคลายแบบสบายๆได้

รอบๆรายล้อมด้วยสวนหย่อม และต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ โดยจุดเด่นอยู่ที่ Pavillion ซึ่งจำลองมาจากหอระฆังเก่าแก่ พื้นที่สวนใต้แนวเสาไฟฟ้าได้แรงบันดาลใจจากสวนสาธารณะใจกลางเมืองบอร์กโดซ์ ตรงกลางตกแต่งด้วยบ่อน้ำพุขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• Visitor Lounge บริเวณหน้าโครงการ
• Masion de club บริเวณกลางโครงการ ประกอบด้วย
• สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 25.00×10 เมตร ลึก 1.20 เมตร
• แบ่งเป็นสระเด็กขนาด 6×5.2 เมตร ลึก 0.60 เมตร พร้อมโซนจากุชชี่
• Lobby
• Co – Working Space
• Meeting Room
• Fitness
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 3 ไร่
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 25 จุด
• รั้วทึบรอบโครงการสูง 2.95 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 2 เมตร
• ถนนหลักกว้าง 12 – 22 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการ Double Gate แบบรางเลื่อนไฟฟ้า 3 ตอน เข้า – ออกด้วยระบบสแกนป้ายทะเบียน
• สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง

แบบบ้านในโครงการ The Grand Pinklao – Kanchana (เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า – กาญจนาฯ) จะมีให้เลือก 3 แบบด้วยกัน การออกแบบมาในสไตล์ Modern European ที่ได้แรงบันดาลใจจากเมืองบอร์กโดซ์ ประเทศฝรั่งเศส เน้นความเป็นเอกลักษณ์ด้วยซุ้มโค้ง ขอบบัวตกแต่ง ตัดด้วยเส้นขอบสีทองและผนังลายหินช่วยเพิ่มลูกเล่น ได้กลิ่นอายหรูหรา คลาสสิค สำหรับฟังก์ชันเรามองว่าจัดมาเพื่อตอบโจทย์ครอบครัวขนาดใหญ่ เน้นความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยได้ดี โดยรายละเอียดที่น่าสนใจจะมีดังต่อไปนี้ค่ะ

• Strasbourg (สตราสบูร์ก) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 111.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 393 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
• Marseilles (มาร์เซย์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 132.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 483 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
• Versailles (แวร์ซาย) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 144.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 586 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 6 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน

Highlights

• Double Volume สูง 7 เมตร
• สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกยูนิต (ในบ้าน Type M , L ได้ Sunken และ Grand Sunken)
• Solar Cell ขนาด 4 Kw. ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานทุกหลัง
• เพดานที่จอดรถสูง 3.8 เมตร รองรับการติดตั้ง Car Stacker ได้

สรุปวัสดุต่างๆ ในบ้าน

• โครงสร้างบ้านระบบ Conventional  (ก่ออิฐฉาบปูน)
• พื้นที่จอดรถ (ในร่ม) ลงเข็มมาให้เท่าตัวบ้าน ปูด้วย Stamped Concrete
• พื้นที่จอดรถกลางแจ้ง : Approach Slab
• ลานซักล้าง Slab on ground
• ประตูบ้านรั้วเหล็ก รางเลื่อน 2 ตอน เตรียม Junction รองรับระบบอัตโนมัติ
• พื้นชั้น 1 : กระเบื้องพอร์ซเลน (ลายหินอ่อน) ขนาด 60×120 เซนติเมตร
• พื้นห้องนอนชั้น 1 : SPC ลายไม้
• พื้นห้องอเนกประสงค์ชั้น 1 : กระเบื้องยาง
• พื้นชั้น 2 : พื้น Engineering Wood
• สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ จากยี่ห้อ TOTO / โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ American Standard / อ่างอาบน้ำยี่ห้อ I – Spa / ฉากกั้นอาบน้ำ
• มีเตรียมท่อระบบน้ำร้อน – น้ำเย็นในห้อง Master Bedroom
• บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิว Engineering Wood
• สระว่ายน้ำ ระบบ Skimmer มีระบบว่ายทวนน้ำ jet pool พร้อม Smart Glass

เทคโนโลยีในบ้าน

• Digital Door Lock จำนวน 1 ตัวที่ประตูบ้าน ใช้งานได้ 6 ระบบ (สแกนหน้า , ลายนิ้วมือ , คีย์การ์ด , กดรหัส , กุญแจ , Application)
• Magnetic & Shock Sensor ชั้น 1 – 2
• IP Camera 3 จุด รอบตัวบ้าน (ที่จอดรถ / ด้านข้าง / ด้านหลัง)
• Heat Detector
• Home Automation (ควบคุมไฟ , แอร์ , ระบบรักษาความปลอดภัยได้ผ่านมือถือ)
• Freaser clean and cool air ชั้น 1 – 2 ทุกห้อง กรองฝุ่น PM 2.5 ได้
• Solar Cells 4.6 KW. ระบบ On Grid
• ระบบไฟ 3 เฟส (30/100) เตรียม Junction รองรับ EV Charger ได้

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

Versailles (แวร์ซาย) พื้นที่ใช้สอย 586 ตร.ม.

แบบบ้านแรกที่เราจะพาไปชมวันนี้คือ Versailles (แวร์ซาย) เป็นบ้าน Type ใหญ่สุดและมีจำนวนยูนิตเยอะสุดในโครงการ เหมาะกับครอบครัวขยายที่มีสมาชิก 5 – 10 คนได้เลย โดยฟังก์ชันประกอบด้วย 6 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ และ 2 ห้องแม่บ้าน ในราคาเริ่มต้น 45 ล้านบาท* เมื่อเทียบกับโครงการเพื่อนบ้าน ก็ถือว่าจัดฟังก์ชันมาได้คุ้มค่า แล้วยังเหลือพื้นที่รอบบ้านไว้ให้ใช้งานได้อีกด้วย

จากแปลนบ้าน เราขอสรุปจุดเด่นออกมาเป็นข้อๆได้ดังนี้

• สระว่ายน้ำส่วนตัว ถือเป็น Highlight ของแบบบ้านในโครงการเลย โดยเฉพาะในบ้าน Versailles (แวร์ซาย) ที่จะได้ Grand Sunken ขนาดใหญ่ ไว้ใช้เป็นจุดนั่งเล่น พักผ่อนของสมาชิกในบ้าน และยังเป็นพื้นที่รับแขก ที่ช่วยเสริมบรรยากาศให้ชั้น 1 ดูโปร่งโล่ง ผ่อนคลายได้ดี
• ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง 2 ห้อง ส่วนใหญ่เราจะเจอแบบบ้านที่ให้ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างมา 1 ห้อง ใช้ปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุได้ แต่ในโครงการนี้ได้มาถึง 2 ห้อง ทำให้สามารถจัดฟังก์ชันได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น อาทิ ห้องทำงานส่วนตัว ห้องนอนแขก ห้องออกกำลังกาย ห้องพักพยาบาล หรือเจ้าหน้าที่ๆจะมาดูแลเด็กๆหรือผู้สูงอายุในบ้านได้นั่นเอง
• ครัวปิดและส่วน laundry ถือว่าจัดพื้นที่มาให้ค่อนข้างใหญ่ ทั้งยังมีการแยก Laundry ออกมาเป็นสัดส่วน ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน มาพร้อมดีไซน์ช่องแสง Skylight ให้เราสามารถซัก – ตากผ้าในบ้านได้เลย
• Double Volume สูง 7 เมตร เมื่อเข้ามาในบ้านก็จะเจอกับ Floyer ขนาดใหญ่ ได้เพดานสูงถึง 7 เมตร ช่วยเพิ่มความโอ่อ่า หรูหราให้กับบ้าน ติดกันเป็นโถงบันไดที่เชื่อมระหว่างชั้น 1 และพื้นที่อเนกประสงค์บนชั้น 2 ที่ได้มากว้างขวาง จัดเป็นมุมนั่งเล่น นั่งทำงานหรือหิ้งพระ ใช้งานร่วมกันได้สบายๆ
• Master Bedroom 2 ห้อง เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ที่ได้ Walk – in Closet และห้องน้ำในตัว โดยห้องนึงจะมีอ่างล้างมือแบบ His&Her รวมถึงอ่างอาบน้ำมาด้วย จัดเป็นห้องนอนหลัก ส่วนอีกห้องจะได้ห้องน้ำคล้ายกับห้องนอนอื่นๆ แต่จะได้ระเบียงแบบ Semi – Outdoor ที่มี Skylight มาด้วย

เข้ามาชมบ้านตัวอย่าง เริ่มที่ด้านหน้าเป็นพื้นที่จอดรถ ที่สามารถจอดได้ถึง 4 คัน โครงสร้างพื้นลงเข็มมาให้เท่าตัวบ้าน ด้านบนปูด้วย Stamped Concrete ดูแข็งแรง สวยงาม โดยในบ้านตัวอย่างได้ติดตั้ง Car Stacker มาให้เป็นไอเดีย สำหรับใครที่อยากได้พื้นที่จอดรถเพิ่ม ด้วยความสูงฝ้าเพดานที่ได้มาถึง 3.80 เมตร ระบบไฟในโครงการเป็นแบบ 3 เฟส จึงทำให้สามารถรองรับการติดตั้ง EV Charger เพิ่มได้ด้วยนะ

ภายในที่จอดรถเป็นแบบในร่ม ได้มาขนาด 10.90×5.40 เมตร ใช้จอด Supercar ได้พอดีๆ พื้นที่ใช้งานถือว่าค่อนข้างกว้าง ในบ้านตัวอย่างแบ่งเป็นพื้นที่นั่งเล่นให้สายรักรถ ไว้เก็บของสะสม หรือเป็นมุมรับแขก สังสรรค์เล็กๆได้ ด้านข้างมีประตูบานเลื่อนกระจก ใช้เปิด – ปิดระบายอากาศ ช่วยทำให้บรรยากาศโปร่งโล่งไม่อึดอัด หากมีการติดประตูอัตโนมัติเพิ่ม

อีกฝั่งมีตู้เก็บของติดตั้งประตูบานเลื่อนมาให้พร้อมใช้งาน และด้านหลังมีประตู Service เปิดเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวบ้านได้ สำหรับใครที่กังวลเรื่องความปลอดภัย โครงการได้ติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ พร้อม IP Camera 3 จุดรอบตัวบ้าน

ทางเข้าด้านหน้าออกแบบมาเป็นซุ้มโค้งทรงสูง เน้นให้ทางเข้าหลักดูโดดเด่น และช่วยเพิ่มความโอ่อ่า ประตูได้มาเป็นบานเปิดคู่กว้าง 1.85 เมตร ใช้เปิด – ปิด ขนของเข้า – ออกบ้านได้สะดวก

เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอ Floyer ขนาดใหญ่ ทำหน้าที่เป็นโถงต้อนรับ ได้เป็น Double Volume สูงถึง 7 เมตร จากชั้นล่างสามารถมองเชื่อมต่อขึ้นไปเห็นโถงชั้นบนได้ โดยโถงต้อนรับนี้จัดเป็นพื้นที่ๆแบ่งการใช้งานในบ้านได้เป็น 2 ฝั่ง คือส่วนพักผ่อนและ Service ของบ้าน ตรงกลางยังสามารถมองทะลุไปเห็นสระว่ายน้ำที่อยู่ด้านหลังบ้านได้ด้วย

ด้านซ้ายเป็นส่วนนั่งเล่น วางโซฟาได้ 4 – 6 ที่นั่ง วัสดุพื้นเป็นกระเบื้องพอร์ซเลน ลายหินอ่อน ขนาด 60×120 เซนติเมตร โดยความสูงจากพื้นถึงฝ้าได้มา 3 เมตร เท่ากันทั้งชั้น 1 และชั้น 2 ทำให้บรรยากาศในบ้านดูโปร่งโล่ง

จากส่วนนั่งเล่นตรงข้ามเป็น Grand Sunken ที่ลดระดับลงมาจากพื้นบ้านปกติ ใช้เป็นมุมพักผ่อนหรือรับแขกได้อีกจุด ผนังด้านข้างได้เป็นกระจกบานสูง มองออกไปเห็นสระว่ายน้ำแบบเต็มตา ช่วยเพิ่มความรู้สึกสดชื่น , ผ่อนคลายให้กับบ้านได้ดี

Grand Sunken ลดระดับลงจากพื้นบ้านปกติลงไปประมาณ 80 เมตร มีบันไดด้านข้างเดินขึ้น – ลงได้สะดวก โดยขนาดได้มากว้าง 2.37×5.83 เมตร Built – in โซฟารูปตัว L ได้แบบเต็มพื้นที่ โดยผนังด้านข้างที่เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำ ติดตั้งมาเป็น Smart Glass สลับกระจกใสให้เป็นฝ้าด้วยรีโมทได้ด้วย ถือเป็น Highlight ที่โดดเด่นอีกจุดของบ้าน

สระว่ายน้ำด้านนอกได้ขนาด 3.00×6.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร ด้านบนมีหลังคาคลุมทำให้สามารถออกมาใช้งานได้ตลอดทั้งวัน โดยลักษณะของสระได้มาเป็นระบบเกลือ ติดตั้งมาให้พร้อมระบบว่ายทวนน้ำ (Jet Pool) ใช้นั่งแช่ นวดผ่อนคลาย เหมือนได้ธาราบำบัดส่วนตัวเลย

โดยจากภายในบ้านสามารถเปิดประตูออกมาใช้งานสระว่ายน้ำได้ 2 ฝั่ง คือจากห้องอเนกประสงค์และส่วนรับประทานอาหาร ที่เดินเชื่อมต่อจาก Floyer ได้

ห้องอเนกประสงค์ห้องแรกจะอยู่ด้านหลังบ้านติดกับสระว่ายน้ำ ด้านข้างได้กระจกแบบเข้ามุม พร้อมประตูบานเลื่อนให้ออกไปใช้งานสระได้ โดยในบ้านตัวอย่าง จัดฟังก์ชันเป็นห้องโยคะ ไว้ออกกำลังกาย มองออกไปได้ทั้งวิวสวนและสระว่ายน้ำเลย

ห้องอีกฝั่งจะอยู่บริเวณด้านหน้าบ้าน ฟังก์ชันจัดมาให้รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ ภายในมีพื้นที่วางเตียงนอน ตู้เสื้อผ้า ใช้งานได้ครบ วัสดุพื้นเป็น SPC ลายไม้ ต่างกับอีกห้องที่ได้เป็นกระเบื้องยาง เพราะเป็นห้องที่มีห้องน้ำในตัว วัสดุที่ใช้จึงต้องมีคุณสมบัติที่สามารถทนต่อความชื้นได้ดีค่ะ

ห้องน้ำในห้องนอนชั้นล่าง ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ทั้งพื้นที่ไม่มีการลดระดับ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานของรถเข็น ราวจับและพื้นที่นั่งอาบ ช่วยเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยในการใช้งาน สุขภัณ์ติดตั้งมาให้ครบชุดจากยี่ห้อ TOTO พร้อมปลั๊กด้านข้างโถสุขภัณฑ์ สำหรับคนที่อยากจะเปลี่ยนเป็นแบบอัตโนมัตินะคะ

ขยับมาที่ฝั่งขวาของบ้านจะเป็นพื้นที่ Service เริ่มด้วยส่วนรับประทานอาหาร ที่ได้พื้นที่มาค่อนข้างกว้าง วางโต๊ะขนาด 8 – 10 ที่นั่งได้เลย โดยบรรยากาศรอบๆได้ความโปร่งโล่งมาก ด้วยผนังกระจกทั้ง 2 ด้าน และด้านบนยังมีหลังคา Skylight ช่วยเปิดรับแสงจากธรรมชาติได้อีกจุด

ติดกันเป็น Pantry ที่สามารถวาง Island ตรงกลางได้ ไว้ใช้เตรียมของว่าง หรืออาหารเช้าแบบเบาๆ ด้านข้างจะเป็นตำแหน่งประตู Service ที่เปิดเชื่อมต่อมาจากโรงจอดรถ และห้องงานระบบ (M&E) ที่ได้ประตูเปิด – ปิด ติดตั้งมาให้ดูเรียบร้อย ทั้งยังทำให้ Maintenance ได้ง่าย

ด้านในสุดเป็นห้องครัวที่ได้แบบปิด เป็นส่วนที่ใช้ทำอาหารแบบจริงจังได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นและควันที่จะเข้าไปในตัวบ้าน ซึ่งพื้นที่ใช้งานถือว่าได้มากว้างขวางมาก สามารถ Built – in เป็นเคาน์เตอร์ได้หลายจุด มีทั้งมุมเตรียมอาหาร , ปรุงอาหาร และมุมทำเบเกอรี่ได้ด้วย

ด้านซ้ายมีประตูเปิดเชื่อมต่อไปห้องแม่บ้าน ที่ได้มา 2 ห้องพร้อมห้องน้ำกลาง ใช้งานสะดวก  ด้านขวาจะเป็น Laundry ที่โครงการกั้นประตูบานเลื่อนกระจกแยกมาให้เป็นสัดส่วนเลย

ภายในห้อง Laundry สามารถ Built – in เป็นตู้ไว้วางเครื่องซักผ้า , อบผ้าได้ พร้อมพื้นที่ไว้ให้เก็บของ โดยจุดเด่นอยู่ที่ Skylight ที่ช่วยให้แม่บ้านสามารถตากผ้าด้านในได้ ถือว่าใช้งานได้ครบ ทั้งซัก – อบ – ตาก – รีดเลย

ห้องน้ำกลางของชั้น 1 จะอยู่ติดกับโถงบันไดและส่วนรับประทานอาหาร ภายในได้ส่วนอาบน้ำมาด้วย ช่วยกระจายความหนาแน่นในการใช้งานได้ดี พื้นที่แยกโซนเปียก – แห้งมาให้เป็นสัดส่วน เคาน์เตอร์ด้านล่างอ่างล้างมือใช้เป็นตู้ไว้เก็บอุปกรณ์เล็กๆในห้องน้ำได้ โถสุขภัณฑ์เป็นแบบอัตโนมัติจากยี่ห้อ American Standard

ส่วนยืนอาบได้ขนาด 0.90×1.44 เมตร ฝักบัวเป็น Hand Shower ปรับระดับน้ำได้จากยี่ห้อ TOTO ผนังด้านข้างมีการทำช่องไว้ให้วางอุปกรณ์อาบน้ำได้ โดยมีชั้นวางติดตั้งมาให้เรียบร้อย ฉากกั้นอาบน้ำเป็นประตูบานเปิด ได้จากโครงการ ไม่ต้องติดตั้งเพิ่ม

บันไดขึ้นชั้น 2 โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วย Engineering Wood กว้างประมาณ 1.24 เมตร ลูกตั้งสูง 18 เซนติเมตร ลูกนอนกว้าง 27 เซนติเมตร วางได้แบบเต็มเท้าพอดี ด้านล่างมีช่องไว้สำหรับเก็บของได้ ราวจับบันไดได้เป็นเหล็กโปร่งมีลวดลาย ติดตั้งมาให้ตลอดแนวบันได และโถงชั้น 2 ที่เชื่อมต่อกับ Double Volume

โถงบนชั้น 2 ได้พื้นที่มากว้างขวางมาก ในบ้านตัวอย่างจัดเป็น Family Area ไว้เป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนของครอบครัวได้อีกจุด อย่างเวลาที่คุณพ่อ คุณแม่ต้องใช้ห้องรับแขกชั้นล่าง เด็กๆก็สามารถขึ้นมาใช้ส่วนนั่งเล่นชั้นบนได้ โดยวัสดุพื้นชั้นนี้จะเป็น Engineering Wood ดูกลมกลืน เชื่อมต่อกับโถงบันได ทั้งยังให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมาะกับเป็นพื้นที่พักผ่อน

ด้านหน้า Master Bedroom ในบ้านตัวอย่างก่อเป็นผนังมาให้ เพิ่มความเป็นสัดส่วน แต่บ้านมาตรฐานจะได้เป็นราวกันตกเหล็กโปร่งเหมือนกับบันได ซึ่งมองลงไปจะเห็น Grand Sunken ที่อยู่ด้านล่าง และวิวสระว่ายน้ำที่อยู่ด้านหลังตัวบ้านได้

อีกฝั่งยังได้พื้นที่อเนกประสงค์ ตกแต่งเป็นที่นั่งทำงาน อ่านหนังสือแบบสบายๆได้ แต่หากใครอยากได้ฟังก์ชันที่ดูเป็นสัดส่วน ใช้งานได้เป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็สามารถกั้นห้องเพิ่มได้นะคะ เพราะโครงสร้างบ้านออกแบบมาให้รองรับการต่อเติมได้อยู่แล้ว จะทำเป็นห้องทำงาน หรือห้องนอนเพิ่ม ก็ปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบเลยค่ะ

ชั้น 2 ประกอบด้วยห้องนอน 4 ห้อง สามารถจัดเป็น Master Bedroom ได้ถึง 2 ห้อง ซึ่งเราจะพามาชมที่ห้องหลักที่มีขนาดใหญ่สุดกันก่อน โดยห้องนี้จะเป็น Shape ตัว L จัดวางได้ทั้งส่วนนั่งเล่น ห้องนอนและ Walk – in Closet ได้เป็นสัดส่วน และยังเหลือพื้นที่โดยรอบให้ใช้งานได้ค่อนข้างกว้าง ผนังด้านข้างติดกับฝั่งหน้าบ้านได้ประตูและหน้าต่างบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ ใช้เปิดรับแสงและระบายอากาศในห้องได้ดีเลย

ห้องนอนในบ้านตัวอย่างกั้นผนังเพิ่มความเป็นส่วนตัวมาให้เป็นไอเดีย สำหรับใครที่อยากแบ่งพื้นที่ใช้งานให้ชัดเจน อย่างเวลามีคนนั่งดูทีวีก็จะไม่รบกวนคนที่พักผ่อนอยู่บนเตียงมาก โดยเตียงนอนสามารถวางเป็นไซส์ 6 ฟุตได้สบายๆ ติดกันเป็นประตูที่เปิดเชื่อมออกไปใช้งานระเบียงด้านนอกได้

ระเบียงของห้อง Master Bedroom ได้มากว้างประมาณ 30 เซนติเมตร พอให้ออกไปยืนสูดอากาศ ชมวิวสวนด้านหน้าตัวบ้านได้ พื้นปูด้วยกระเบื้องทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ

อีกฝั่งของห้อง Built – in เป็น Walk – in Closet ขนาดใหญ่ โดยตำแหน่งอยู่ติดกับหน้าห้องน้ำพอดี เวลาอาบน้ำเสร็จ ก็เดินออกมาแต่งตัวได้เลย

ห้องน้ำใน Master Bedroom ได้เป็นแบบหน้ากว้าง ฟังก์ชันจัดมาให้สามารถใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้สบายๆ โดยอ่างล้างมือได้เป็น His&Her สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานเป็นระบบน้ำร้อน – น้ำเย็นได้ ซึ่งโครงการได้เตรียมงานระบบท่อไว้ให้เรียบร้อย และในห้องนี้ยังมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วยจากยี่ห้อ I – Spa

พื้นที่ใช้งานภายในห้องแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ตรงกลางเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ ที่ด้านล่างทำเป็นตู้ไว้เก็บของได้ ฝั่งนึงเป็นพื้นที่วางอ่างอาบน้ำ ผนังด้านข้างได้หน้าต่างบานเลื่อนกระจกไว้เปิดรับแสงและระบายอากาศได้

ส่วนอีกฝั่งโครงการกั้นฉากกั้นมาให้แบ่งเป็นพื้นที่วางโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ และฝั่งยืนอาบที่ได้ฝักบัวมาให้ครบทั้ง Hand Shower และ Rain Shower จากยี่ห้อ TOTO

ถัดมาเราจะพามาชมห้องนอนรอง ซึ่งก็ได้ห้องน้ำในตัวเช่นกัน โดยขนาดก็ถือว่าได้มาค่อนข้างใหญ่ สามารถจัดเป็นมุม Walk – in Closet ใช้งานได้เป็นสัดส่วน โดยจุดเด่นของห้องนี้จะอยู่ที่ Court แบบ Indoor ที่ด้านบนทำเป็นหลังคา Skylight มาให้ด้วย

พื้นที่ Court ได้มาขนาด 1.86×1.67 เมตร ผนัง 3 ด้านจะเป็นผนังทึบ ไม่มีการตีฝ้า แต่มีหน้าต่างบานกระทุ้งใช้เปิดระบายอากาศ จะจัดเป็นมุม Pocket Garden เพื่อปลูกต้นไม้ ก็เหมาะเลยนะคะ เพราะด้านบนได้แสงธรรมชาติจาก Skylight

ห้องน้ำได้มาเป็นแบบหน้ากว้าง แยกพื้นที่ส่วนเปียก – แห้งมาให้เป็นสัดส่วน ด้านข้างมีหน้าต่างบานกระทุ้งเปิดเชื่อมต่อกับส่วน Court ได้ สุขภัณฑ์ติดตั้งมาให้ครบชุดจากยี่ห้อ TOTO และ American Standard ส่วนยืนอาบได้มาขนาด 0.90×1.73 เมตร มีฉากกั้นอาบน้ำติดตั้งมาให้เรียบร้อย

ห้องนอนรองอีกห้องจะอยู่บริเวณด้านหน้าบ้าน เหมาะกับคนที่อยากได้ระเบียง สามารถเดินออกไปใช้งานได้ โดยฟังก์ชันในห้องก็ถือว่าจัดมาได้ครบทั้งส่วนแต่งตัว , ห้องน้ำ และพื้นที่วางเตียงนอน ซึ่งวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้สบายๆเช่นเดียวกัน

ห้องน้ำเป็นแบบหน้ากว้าง ได้เคาน์เตอร์และสุขภัณฑ์ครบชุดเหมือนกับห้องที่แล้ว พื้นที่ส่วนอาบน้ำกั้นแยกเป็นสัดส่วนด้วยฉากกั้นกระจก มีหน้าต่างบานกระทุ้งติดตั้งมาให้ 1 จุดใช้เปิดระบายกลิ่นและความชื้นได้ดี

ปิดท้ายด้วยห้องนอนขนาดใหญ่ ที่สามารถเป็น Master Bedroom อีกห้องได้เลย การจัดแปลนเป็นแบบหน้ากว้าง ตรงกลางเป็นมุมนั่งเล่น แบ่งพื้นที่ใช้งานซ้ายขวาเป็นส่วนห้องนอนและ Walk – in Closet

ห้องนอนที่อยู่ตำแหน่งหน้าบ้านจะได้ระเบียงมาทุกห้อง โดยห้องนี้ได้มาขนาด 0.90×4.26 เมตร พอให้ออกไปยืนใช้งาน หรือวางกระถางต้นไม้ขนาดเล็ก ช่วยเพิ่มความสดชื่นได้

Walk – in Closet สำหรับใครที่ชอบความเป็นสัดส่วน อยากใช้งานได้เป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็สามารถกั้นประตูบานเลื่อนกระจกเหมือนในบ้านตัวอย่างได้นะคะ โดยพื้นที่ภายในแบ่งการใช้งานได้เป็น 2 ฝั่ง สามารถ Built – in ตู้เสื้อผ้าได้เต็มผนัง ตรงกลางเป็นห้องน้ำ และห้องอเนกประสงค์ที่ได้ Skylight มาเช่นเดียวกัน

ภายในได้พื้นที่มากว้าง 1.76×2.36 เมตร ในบ้านตัวอย่างจัดฟังก์ชันเป็นมุมปลูกต้นไม้ ได้อารมณ์เหมือนเรือนกระจกเพาะชำ นอกจากด้านบนที่ได้หลังคา Skylight แล้ว ตรงกลางยังเป็นหน้าต่างบานเลื่อนกระจก ไว้เปิดรับลม และระบายอากาศได้

ห้องน้ำจะได้ขนาดมาใกล้เคียงกับห้องนอนรอง ไม่ได้ใหญ่เหมือนกับ Master Bedroom หลัก แต่ก็ได้อุปกรณ์มาครบ เหมาะเป็นห้องนอนของลูกๆที่ใช้อยู่อาศัยได้จนถึงวัยมีครอบครัวเลย

สวิตช์และปลั๊กไฟในบ้านติดตั้งมาให้จากยี่ห้อ Schneider ระบบรักษาความปลอดภัย นอกจาก IP Camera ที่ติดตั้งมาให้ 3 จุดรอบตัวบ้านแล้ว ชั้น 1 และชั้น 2 จะได้ Magnetic & Shock Sensor ที่ประตู – หน้าต่างมาให้ทุกจุด

และในแต่ละฟังก์ชันจะมีการติดตั้ง Freaser clean and cool air เป็นระบบกรองอากาศที่ช่วยเพิ่มออกซิเจนในบ้าน และยังสามารถกรอง PM 2.5 ได้ด้วย อีกทั้งยังมีระบบ Home Automation ที่ใช้ควบคุมได้ทั้งระบบไฟ , แอร์ และระบบรักษาความปลอดภัยได้ผ่านมือถือเลย

Marseilles (มาร์เซย์) พื้นที่ใช้สอย 483 ตร.ม.

ถัดมาเป็นแบบบ้าน Marseilles (มาร์เซย์) ได้พื้นที่ใช้สอย 483 ตร.ม. ซึ่งเป็นแบบบ้านไซส์กลางของโครงการ ประกอบด้วยฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ และ 1 ห้องแม่บ้าน

การจัดแปลนของบ้าน Type นี้ จะคล้ายแบบบ้าน Versailles (แวร์ซาย) ที่เป็นบ้าน Type ใหญ่สุด เพียงแต่มีการลดทอนพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชันลง เห็นได้จากห้องนอน ชั้น 2 จะเหลือเพียง 3 ห้อง , ที่จอดรถ สามารถจอดได้ 3 คัน และห้องแม่บ้านจะมีแค่ 1 ห้องค่ะ จึงเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กลงมาหน่อย เน้นพื้นที่ใช้สอยครบ ในงบไม่เกิน 40 ล้านบาท*

เมื่อเข้ามาในบ้านก็จะเจอ Floyer ขนาดใหญ่ ที่ได้ Double Volume สูงถึง 7 เมตร โดยการจัดแปลนชั้นล่าง ตำแหน่งจะเหมือนกับบ้าน Type ใหญ่เลย แต่หน้ากว้างจะแคบกว่าค่ะ

พื้นที่ใช้งานแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคือส่วนพักผ่อน ที่มีห้องนั่งเล่นตรงกับ Sunken ที่สามารถมองออกไปเห็นวิวสระว่ายน้ำ ติดกันเป็นห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง และห้องนอนที่ได้ห้องน้ำในตัว

พื้นที่ Sunken ในแบบบ้านนี้จะได้มาขนาด 2.34×4.60 เมตร ฝ้าเพดานได้เป็น Double Volume เช่นเดียวกัน โดยชั้น 2 จะกั้นขอบเขตด้วยราวกันตก มองลงมาเห็นคนที่ใช้งานอยู่ชั้นล่างได้

ถัดมาเป็นห้องนอน จัดไว้รองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ โดยตำแหน่งจะอยู่บริเวณหน้าบ้าน ตรงกับพื้นที่สวน เวลานอนพักผ่อน ก็สามารถชมวิวสวนสีเขียวช่วยให้ผ่อนคลายได้

ภายในห้องมีห้องน้ำแยกใช้งานในตัว โดยโครงการติดตั้งอุปกรณ์มาให้ครบชุดจากยี่ห้อ TOTO บริเวณพื้นจะไม่มีการลดระดับ เพื่อให้สะดวกกับการใช้รถเข็น และป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดในห้องน้ำได้ค่ะ

ติดกันเป็นห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง อยู่ด้านหลังตัวบ้าน มีประตูบานเลื่อนกระจกเปิดเชื่อมต่อออกไปใช้งานสระว่ายน้ำที่อยู่ด้านนอกได้

สระว่ายน้ำมีหลังคาคลุมด้านบน ช่วยป้องกันแดด ฝนได้ในเวลาใช้งาน ขนาดของสระประมาณ 2.70×4.70 เมตร (เท่ากันทั้ง Type กลางและ Type เริ่มต้น) การดูแลรักษาจะต้องมีการเติมเกลือ 3 – 6 ครั้ง / เดือน โดยจะมีปุ่มแจ้งเตือน ส่วนตัวกรองสามารถทำความสะอาดเองได้อาทิตย์ละครั้งค่ะ

ถัดมาเป็นส่วนรับประทานอาหาร สามารถวางโต๊ะขนาด 6 – 8 ที่นั่งได้กำลังดี ติดกันเป็นห้องน้ำกลาง และครัวแบบปิด เวลาทำอาหารเสร็จก็สามารถยกมาเสิร์ฟได้เลย ไม่ต้องเดินไกล

ห้องน้ำชั้นล่าง ใช้เป็นห้องน้ำกลางมีส่วนอาบน้ำไว้รองรับ พื้นที่ใช้งานแยกส่วนเปียก – แห้งมาให้ชัดเจน ง่ายทั้งเวลาใช้งานและทำความสะอาด ส่วนอาบน้ำได้ขนาด 0.89×1.55 เมตร โถสุขภัณฑ์เป็นแบบอัตโนมัติจากยี่ห้อ American Standard

ห้องครัวได้มาเป็นแบบปิด สามารถ Built – in เคาน์เตอร์ได้เป็น 2 ฝั่ง ตรงกลางเหลือพื้นที่ค่อนข้างกว้าง เรามองว่าวาง Island ได้เลยนะ ส่วนด้านในสุดจะเป็น Laundry ที่ได้หลังคา Skylight มา ทำให้แม่บ้านสามารถตากผ้าในห้องได้เลย

บันไดขึ้นชั้น 2 ได้มากว้างประมาณ 1.19 เมตร ใช้งานได้ตามมาตรฐาน บรรยากาศบริเวณโถงบันไดดูโปร่งโล่งมาก ด้วยผนังกระจกบานสูงและพื้นที่ๆเชื่อมต่อกับ Double Volume เมื่อขึ้นมาจะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์เลย

โดยห้องนอนชั้น 2 จะประกอบด้วย Master Bedroom 1 ห้อง และห้องนอนรองอีก 2 ห้องที่ได้ขนาดมาใกล้เคียงกัน ซึ่งแต่ละห้องก็จะมีห้องน้ำแยกใช้งานได้สะดวก

เริ่มที่ห้องนอนรองที่อยู่บริเวณด้านหน้าตัวบ้าน ซึ่งได้พื้นที่มากว้างขวางสามารถจัดฟังก์ชันในห้องได้หลากหลาย ทั้งมุมนั่งเล่น โต๊ะทำงาน พื้นที่วางเตียงนอนและ Walk – in Closet โดยห้องนี้จะมีระเบียงที่สามารถออกไปใช้งานได้

ระเบียงของห้องนี้ได้มาค่อนข้างกว้าง ประมาณ 1.58×6.32 เมตร สามารถเอาเก้าอี้มาตั้งจัดเป็นมุมนั่งเล่นแบบ Outdoor อีกจุดได้เลย

จุดเด่นในห้องนอนรองของแบบบ้านนี้ คือภายในห้องน้ำจะได้ Court แบบ Indoor และหลังคา Skylight โดยในห้องนี้จะเชื่อมต่อกับส่วนนอาบน้ำ จัดเป็นสวนหินหรือ Pocket Garden ก็ได้บรรยากาศสดชื่นไปอีกแบบค่ะ

ห้องนอนรองอีกห้อง การจัดฟังก์ชันจะคล้ายกัน แต่พื้นที่ Court จะอยู่ด้านข้าง สามารถเดินเชื่อมต่อจากห้องนอนได้เลย

ซึ่งในห้องนี้บ้านตัวอย่างจัดไว้เป็นมุมสัตว์เลี้ยง นอกจากหลังคา Skylight ด้านบน ซ้าย ขวาก็มีหน้าต่างบานกระทุ้ง ใช้เปิดระบายอากาศได้ แต่ส่วนตัวเรามองว่าค่อนข้างร้อน ถ้าจะให้น้องๆอยู่ อาจจะต้องเปิดประตูให้แอร์ถ่ายเทเข้าไปได้นะคะ

ภายในห้องน้ำได้มาเป็นแบบหน้ากว้าง อยู่ติดกับมุม Walk – in Closet ในห้องได้อุปกรณ์มาครบชุดจากยี่ห้อ TOTO พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจก ไม่ต้องติดตั้งเพิ่ม

สุดท้ายเป็น Master Bedroom ของบ้าน ได้พื้นที่มากว้างขวาง พร้อม Walk – in Closet ขนาดใหญ่ ตรงกลางวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้เลย ฝั่งที่ติดกับหน้าบ้านได้เป็นระเบียงขนาด 1.05×4.49 เมตร สามารถออกไปนั่งเล่นใช้งานได้

พื้นที่ใช้งานภายใน Walk – in Closet สามารถแบ่งพื้นที่ใช้งานได้เป็น 2 ฝั่ง โดยในบ้านตัวอย่าง Built – in ตู้แบบเต็มผนังมาให้เป็นไอเดีย พร้อมมุมโต๊ะเครื่องแป้ง แบ่งกันใช้งาน 2 คนได้สบายๆ

ห้องน้ำใน Master Bedroom จัด Layout มาให้เหมือนกับแบบบ้านที่แล้ว ภายในได้อ่างล้างมือแบบ His&Her พร้อมอ่างอาบน้ำ ส่วนยืนอาบและวางโถสุขภัณฑ์มีฉากกั้นแบ่งมาให้เป็นสัดส่วน

Strasbourg (สตราสบูร์ก) พื้นที่ใช้สอย 393 ตร.ม.

แบบบ้าน Strasbourg (สตราสบูร์ก) เป็นบ้านขนาดเล็กสุดของโครงการ ได้พื้นที่ใช้สอย 393 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท* เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านจะได้จุดเด่นในเรื่องของฟังก์ชัน ทั้งขนาดพื้นที่จอดรถ (เพดานสูง 3.8 เมตร) สระว่ายน้ำในตัว และ Solar Cell ที่ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง 4 – 5 คนกำลังดี

แปลนแบบบ้าน Strasbourg (สตราสบูร์ก) พื้นที่ใช้สอย 393 ตร.ม. ได้ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ และ 1 ห้องแม่บ้าน การจัดแปลนบนชั้น 2 จะคล้ายกับแบบบ้านขนาดกลาง ชั้น 1 จะมีห้องนอนชั้นล่างเพียง 1 ห้อง ได้ห้องน้ำในตัว ส่วนที่ติดกับสระว่ายน้ำจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ไม่ได้มี  Sunken มาให้ และห้องน้ำกลางจะได้มาเป็นแบบ Powder Room ใช้รับแขกได้สะดวกเลย

The Grand Pinklao – Kanchana (เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า – กาญจนาฯ) ราคา ณ วันที่ 9 พฤษภาคม 2567

• Strasbourg (สตราสบูร์ก) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 111.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 393 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท*
  
• Marseilles (มาร์เซย์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 132.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 483 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 36 ล้านบาท*
  
• Versailles (แวร์ซาย) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 144.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 586 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 6 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 45 ล้านบาท*
• จอง 20,000 บาท ทำสัญญา 1,000,000 บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
• ค่าส่วนกลาง 58 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

ที่ตั้งโครงการ The Grand Pinklao – Kanchana (เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า – กาญจนาฯ) อยู่ติดถนนบางแวก เลี้ยวเข้ามาจากถนนกาญจนาภิเษกเพียง 180 เมตร จัดอยู่บนทำเลในโซนปิ่นเกล้า – เพชรเกษม เหมาะกับคนที่ทำงานในเมือง มีตัวเลือกในการเดินทางหลากหลาย สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถส่วนตัว โครงการก็อยู่ใกล้ทางด่วนถึง 2 สาย เดินทางไปสาทร – สีลมได้ง่าย หรือใครชอบใช้รถไฟฟ้า ก็มี MRT และ BTS ที่อยู่ห่างจากโครงการแค่ 5 – 10 กิโลเมตร ให้เลือกใช้บริการ

รอบๆโครงการได้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บนถนนบางแวกเองก็มีร้านค้า , ร้านอาหารให้เลือกเยอะ ขยับมาบนเส้นเพชรเกษมก็มีห้าใหญ่อย่าง The Mall Lifestore บางแค และ The Mall บางแค ให้ได้ออกมาช็อปปิ้ง จับจ่ายสินค้ากันได้ อีกทั้งยังเป็นทำเลที่อยู่ใกล้โรงพยาบาล และโรงเรียนนานาชาติชั้นนำหลายแห่ง ตอบโจทย์ครอบครัวขนาดใหญ่ ที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวหรูในโซนนี้เลย

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

การเข้า – ออกภายในโครงการต้องผ่านประตู 2 ชั้น เป็น Double Gate Security โดยจะควบคุมผ่านระบบสแกนป้ายทะเบียน และมีการแยกทางเข้า – ออกของลูกบ้านและ Visitor ชัดเจน ช่วยเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยในการใช้งานได้ดี รอบๆโครงการล้อมรอบด้วยรั้วทึบสูง 2.95 เมตร และรั้วโปร่ง 2 เมตร มีกล้อง CCTV 25 จุดคอยบันทึกภาพภายในโครงการ 24 ชั่วโมง

ภายในตัวบ้านได้ Magnetic & Shock Sensor ทั้งหลัง พร้อม IP Camera 3 จุดรอบตัวบ้าน ที่ประตูทางเข้ามี Digital Door Lock ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน ภายในครัวได้ Heat Detector 1 จุด ใช้ตรวจจับความร้อน เพื่อป้องกันอุบันติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ในบ้าน ซึ่งก็ถือว่าให้มาค่อนข้างเยอะ ลูกบ้านไม่ต้องติดตั้งเพิ่มเองเลย

การออกแบบโครงการ :

บรรยากาศในโครงการได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองบอร์กโดซ์ ประเทศฝรั่งเศส จึงมีการหยิบเอา Elements ต่างๆเข้ามาเป็นส่วนนึงในโครงการ ทั้งการออกแบบ Landscape ที่มีการนำผืนน้ำมาช่วยเสริมบรรยากาศ การวาง Sculpture ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง และ Pavilion ที่ออกแบบมาให้เหมือนหอระฆังเก่าแก่ เมื่อรวมกับหน้าตาของอาคารที่มาในสไตล์ Modern European ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี ได้กลิ่นอายคลาสสิค ทั้งยังได้ความร่มรื่น

การวางผังโครงการ จุดเด่นแรกเรามองว่าอยู่ที่ทางเข้าที่ได้มาเป็น Double Security ตรงกลางคั่นด้วย Visitor Lounge ที่ใช้รับแขกจากภายนอกได้ ไม่ต้องเข้ามาปะปนในส่วนพักอาศัย ยิ่งช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวในได้ดี ส่วนเรื่องแนวสายไฟฟ้าแรงสูง ก็มีการเว้นระยะไว้แล้วตามกฎหมาย โดยโครงการทำพื้นที่ด้านล่างให้เป็นสวนหย่อม และบ่อน้ำพุ ถือเป็นข้อดีที่ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับลูกบ้าน

ส่วนบ้านพักอาศัย โครงการมีเพื่อนบ้านเพียง 39 ยูนิต จัดว่าหนาแน่นน้อย การวางผังหน้าบ้านหันไปทางทิศเหนือ – ใต้ทั้งหมด ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมสำหรับคนหาบ้านเลย เพราะเป็นทิศที่หน้าบ้านไม่ร้อน โดยถนนซอยส่วนใหญ่จะเป็นซอยตัน ไม่สามารถขับเชื่อมต่อกันได้ จึงช่วยคัดกรองคนเข้า – ออกได้ และเพื่อนบ้านยังมีแค่ซอยละ 3 – 4 ยูนิตเท่านั้น เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวสูง

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย :

แบบบ้านในโครงการเป็นบ้านเดี่ยวหรูไซส์ใหญ่ ได้พื้นที่ใช้สอย 393 – 586 ตร.ม. เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านในโซนนี้ก็ถือว่าใกล้เคียงกันนะคะ เพราะเป็นทำเลที่มีบ้านระดับ Luxury อยู่เยอะ และยังมีเนื้อที่ดิน 100 ตร.วา ขึ้นไป ซึ่งจุดที่ทำให้โครงการแตกต่าง เรามองว่าอยู่ที่ขนาดที่ดิน โดยภายในโครงการนี้ได้มาเยอะสุดเกือบครึ่งไร่ อีกทั้งการออกแบบยังไม่ได้วางบ้านแบบเต็มเนื้อที่ ทำให้ยังเหลือพื้นที่ใช้งานรอบๆได้เยอะ จะทำเป็นสวนหรือต่อเติมเพิ่มก็สะดวก

ฟังก์ชันก็ทำออกมาได้ดี บ้าน Type ใหญ่สุดสามารถรองรับได้ถึง 6 ห้องนอน โดยจุดเด่นจะอยู่ที่แบบบ้านทุกหลังจะได้สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกยูนิต ใน Type M – L จะมี Sunken มาให้ด้วย พร้อม Double Volume 2 จุดในบ้าน ส่วน Service มีการแยก Laundry เป็นสัดส่วน ทั้งยังมีการออกแบบหลังคา Skylight มาให้หลายจุด ทำให้พื้นที่ใช้งานในบ้านได้ความยูนีคไม่เหมือนใคร และหลังคาที่จอดรถยังได้มาสูงถึง 3.80 เมตร ติดตั้ง Car Stacker เพิ่มได้สบายๆ

วัสดุ :

โครงสร้างบ้านเป็น Conventional สามารถทุบต่อเติมได้ เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ ทำให้จัดฟังก์ชันได้หลากหลายขึ้น วัสดุโดยรวมให้มาเหมาะสมกับการใช้งานและระดับราคา ห้องน้ำได้โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติในห้องชั้นล่าง และ Master Bedroom มีอ่างอาบน้ำ และได้ฉากกั้นทุกห้อง ทั้งยังมีระบบฟอกอากาศ Freaser clean and cool air ที่สามารถเติมอากาศบริสุทธิ์ และกรอง PM 2.5 ติดตั้งมาให้ทุกห้องภายในบ้าน

สำหรับคนที่ใช้รถไฟฟ้า ระบบไฟในโครงการก็รองรับการติดตั้ง EV Charger ได้ด้วย ซึ่งก็มีการเดินสายเตรียม Junction ไว้ให้เรียบร้อย จุดเด่นอยู่ที่ Soalr Cell ที่ให้มาทุกยูนิตเช่นกัน โดยเป็นระบบ on grid ขนาด 4 KW. ใช้ไฟในช่วงกลางวันได้ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในบ้านไปได้เยอะทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ยังมี Home Automation ติดตั้งมาให้ด้วย ใช้ควบคุมไฟ , แอร์  และระบบรักษาความปลอดภัยได้ครบจบในมือถือเลย

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

พื้นที่สีเขียวภายในโครงการเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ ตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าก็มีการตกแต่งด้วยสวนหย่อม แนวพุ่มไม้ และบ่อน้ำดูสดชื่น ถนนภายในโครงการมีการปลูกต้นไม้ไว้ทั้ง 2 ฝั่ง ช่วยให้ร่มเงาและสร้างบรรยากาศผ่อนคลายได้ดี บริเวณกลางโครงการแบ่งเป็นพื้นที่สวนด้านหน้า Clubhouse และสวนสาธารณะด้านหลังที่อยู่ใต้แนวสายไฟ มีการทำบ่อน้ำพุขนาดใหญ่ ดูร่มรื่น สามารถเดินมาใช้งานได้จริง

สาธารณูปโภค :

มีให้เลือกใช้งาน 2 จุดที่บริเวณ Visitor Lounge ด้านหน้า ประกอบด้วยส่วนรับรองและห้องประชุม สามารถใช้รับแขกจากภายนอกได้ดี ส่วนด้านในจะเน้นฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานของลูกบ้าน อาทิ Lobby , Co – Working Space , Fitness และสระว่ายน้ำ แชร์กับเพื่อนบ้าน 39 ยูนิตได้กำลังดี

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 30 – 50 ล้านบาท, 9 พฤษภาคม 2567

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ใกล้ถนนกาญจนาภิเษก ไปใช้ทางด่วนและรถไฟฟ้าได้ง่าย
• ความปลอดภัย 8/10 – ได้ Double Gate , Magnetic & Shock Sensor ทั้งหลัง
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – รองรับได้สูงสุด 6 ห้องนอน , หลังคา Skylight หลายจุด , ที่จอดรถเพดานสูง 3.8 เมตร มาพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวทุกยูนิต
• วัสดุ 8/10 – ได้ Solar Cell ทุกยูนิต , วัสดุในบ้านเหมาะสมกับการใช้งาน
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – พื้นที่สีเขียวประมาณ 3 ไร่ , สายไฟลงดินทั้งโครงการ
• สาธารณูปโภค 8/10 – มี Clubhouse และ Visitor Lounge แยกใช้งาน ได้ความเป็นส่วนตัว
• 8.08 / 10.00

The Grand Pinklao – Kanchana (เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า – กาญจนาฯ) เหมาะกับใคร

โครงการ The Grand Pinklao – Kanchana (เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า – กาญจนาฯ) เหมาะกับครอบครัวใหญ่ที่มองหาบ้านเดี่ยว 2 ชั้น รองรับได้ 6 ห้องนอน อยากได้เนื้อที่รอบบ้านเยอะ ที่จอดรถติดตั้ง Car Stacker ได้ มีสระว่ายน้ำส่วนตัวในบ้าน ชอบทำเลที่เดินทางง่าย ใกล้ห้าง แต่ยังมีความสงบ เป็นส่วนตัว มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 30 – 50 ล้านบาท* หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือน 205,671 – 342,785 บาท

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่