..วันนี้พามารีวิว The City Kallapaphruek (เดอะ ซิตี้ กัลปพฤกษ์) บ้านเดี่ยวโครงการใหม่จาก AP ซึ่งจัดว่าเป็นบ้านไซส์ใหญ่สุด และมีจำนวนฟังก์ชันเยอะสุดของย่านในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ครับ จึงทำให้ตอบโจทย์ครอบครัวขนาดใหญ่ที่อยู่ด้วยกัน 3 Generation ได้สบายๆ โดยมีราคาเริ่มต้น 17.59 – 27.59 ล้านบาท ส่วนจุดเด่นที่น่าสนใจอื่นๆก็จะมีดังต่อไปนี้
- บ้านเดี่ยวหน้ากว้าง พื้นที่ใช้สอยเยอะสุดในย่าน ตอบโจทย์ครอบครัวขนาดใหญ่
- ฟังก์ชันมีความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ มีห้องนอนชั้นล่างและพื้นที่อเนกประสงค์ชั้นบนทุกแบบบ้าน
- มีความเป็นส่วนตัวเพียง 114 ยูนิต และมีเพื่อนร่วมซอยน้อย
- ทำเลอุดมสมบูรณ์ ติดถนนใหญ่กัลปพฤกษ์ สามารถเข้าเมืองไปทางสาทรได้ง่าย
ข้อมูลโครงการ
The City Kallapaphruek (เดอะ ซิตี้ กัลปพฤกษ์) ณ วันที่ 7 ธันวาคม 2566
ชื่อโครงการ | The City Kallapaphruek (เดอะ ซิตี้ กัลปพฤกษ์) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | UPPER – HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนน กัลปพฤกษ์ เขต บางแค |
ที่ดิน | 35-0-43.3 ไร่ |
จำนวนยูนิต | 114 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | 2.8 เมตร |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | 180,000 บาท |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2565 |
PRE-SALE | 16 – 1 7 ธ.ค. 2566 |
เว็บไซต์โครงการ | https://apth.ly/998e |
โทร | 1623 |
ทำเลที่ตั้ง
Highlights :
- ติดถนนใหญ่กัลปพฤกษ์ สามารถกลับรถเข้าเมืองไปสาทรได้ง่าย
- มีตัวเลือกในการเดินทางหลากหลาย ทั้งทางด่วนเฉลิมมหานคร ถนนกาญจนาภิเษก และรถไฟฟ้าที่อยู่ทำเลใกล้เคียง
- มีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้โครงการมีตลาดและซูเปอร์มาร์เก็ต หรือจะไปเดินห้างใหญ่ๆก็มีให้เลือกหลายทำเล
พิกัด Google Maps : 13.68313365182215, 100.41440955579458
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
..โครงการ The City Kallapaphruek (เดอะ ซิตี้ กัลปพฤกษ์) ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่กัลปพฤกษ์ ซึ่งเราสามารถกลับรถใกล้ๆเพื่อเข้าเมืองไปสาทรได้ง่ายมากๆ หรือจะไปใช้ทางด่วนก็มีตัวเลือกทั้งถนนกาญจนาภิเษก และทางพิเศษเฉลิมมหานคร นอกจากนี้ทำเลใกล้เคียงอย่างเพชรเกษม-บางหว้า ก็ยังมีรถไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางที่สะดวกอีกด้วยครับ
ในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ก็นับว่ามีครบ เพราะใกล้ๆกับโครงการจะเต็มไปด้วยตลาดน้อยใหญ่ให้เราได้จับจ่ายใช้สอย หรือจะเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตก็มีทั้งแม็คโครและโลตัส แต่ถ้าใครอยากเดินช้อปปิ้งจริงจังเลย ก็จะมีทั้งโซนบางแคอย่าง The Mall + Seacon / โซนเจริญนครอย่าง ICONSIAM และโซนพระราม 3 อย่าง Asiatique + Terminal 21 เป็นต้น
และด้วยศักยภาพของทำเลแบบนี้ ก็เลยทำให้เป็นที่ต้องการของคนที่ทำงานในเมืองอย่างมากเลยครับ สังเกตได้ง่ายๆจากโครงการรุ่นพี่อย่าง The City สาทร-กัลปพฤกษ์ หรือโครงการบ้านเดี่ยวอื่นๆในพื้นที่ส่วนใหญ่ ก็มักจะปิดการขายกันไปหมดแล้วทั้งนั้น ประกอบกับราคาที่ดินก็สูงขึ้นเรื่อยๆทุกปี ดังนั้นหากใครที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวในย่านนี้อยู่ ก็ลองพิจารณาโครงการนี้เป็นตัวเลือกดูได้นะครับ
ทางด่วนที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด :
นอกจากจะมีถนนกาญจนาภิเษกอยู่ใกล้ๆให้ใช้งานแล้ว ยังมีทางด่วนเฉลิมมหานครให้ตรงเข้าเมืองได้เลยอีกด้วย โดยจะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 1.44 km. และอาจต้องเผื่อเวลาเดินทางประมาณ 25 – 30 นาทีนะครับ เพราะตรงถนนกัลปพฤกษ์และทางคู่ขนานกาญจนาภิเษก ในตอนช่วงเช้าๆจะมีการจราจรที่หนาแน่นพอสมควรเลย
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
บริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นที่ว่างและบ้านพักอาศัย รวมถึงอาจมีโกดังเก็บของอยู่นิดหน่อยด้วย และเนื่องจากทางเข้าโครงการจะมีระยะร่นเข้ามาจากถนนใหญ่ประมาณ 300 m. จึงทำให้มีความเงียบสงบ เป็นส่วนตัว และไม่วุ่นวาย สามารถสรุปได้ดังนี้
- ทิศเหนือ : เป็นทางเข้าโครงการ ติดกับ ถนนภาระจำยอม ที่ว่าง บ้านพักอาศัย และคลองสาธารณะเล็กๆ
- ทิศใต้ : ติดกับ บ้านพักอาศัย และโกดังเก็บสินค้า
- ทิศตะวันออก : ติดกับ ที่ว่าง บ้านพักอาศัย และโกดังเก็บสินค้า
- ทิศตะวันตก : ติดกับ ที่ว่างและบ้านพักอาศัย
ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าติดถนนใหญ่กัลปพฤกษ์ ซึ่งเป็นฝั่งที่มุ่งหน้าไปยังถนนกาญจนาภิเษก หรือถ้าจะเข้าเมืองก็จะมีจุดกลับรถให้ใช้งานอยู่ตรงทางแยกครับ ซึ่งจุดสังเกตอีกอย่างหนึ่งก็คือ ทางเข้าโครงการจะอยู่เยื้องๆกับสำเพ็ง 2 นั่นเอง
ถนนภาระจำยอมของโครงการจะเป็นถนน 2 เลน ที่ทาง AP จะปลูกต้นไม้ทั้ง 2 ข้าง เพื่อปรับภูมิทัศน์ให้มีความร่มรื่นสวยงาม อีกทั้งยังช่วยปรับอารมณ์หลีกหนีจากความวุ่นวายภายนอก ก่อนที่จะกลับเข้าบ้านไปพักผ่อนในบ้านได้อีกด้วย
เมื่อเข้ามาด้านในประมาณ 300 m. เราจะเจอกับสะพานข้ามคลองบางโคลัด ก่อนที่จะถึงซุ้มประตูทางเข้าโครงการที่อยู่ทางด้านหน้าครับ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- สำเพ็ง 2 ~ 1.6 กม.
- Makro บางบอน ~ 2.1 กม.
- Indy Market กัลปพฤกษ์ ~ 2.5 กม.
- Bic C กัลปพฤกษ์ ~ 3.5 กม.
- The Explace Mall ~ 3.6 กม.
- The Mall บางแค ~ 4.9 กม.
- Lotus’s บางแค ~ 5.8 กม.
- Bic C / Makro เพชรเกษม ~ 6.8 กม.
- ตลาดบางแค ~ 7.2 กม.
- Home Pro กัลปพฤกษ์ ~ 7.3 กม.
- Central พระราม 2 ~ 8 กม.
- Seacon บางแค ~ 9 กม.
- Asiatique ~ 13.8 กม.
- Terminal 21 พระราม 3 ~ 14.2 กม.
- ICONSIAM ~ 14.3 กม.
โรงพยาบาล
- รพ.บางปะกอก 8 ~ 4.1 กม.
- รพ.เกษมราษฎร์ บางแค ~ 5.2 กม.
- รพ.นครธน ~ 6.9 กม.
- รพ.พญาไท 3 ~ 10.3 กม.
- รพ.สมิติเวช ธนบุรี ~ 12.2 กม.
โรงเรียน
- รร.เลิศหล้า กาญจนาภิเษก ~ 1.8 กม.
- British Columbia International School ~ 4.3 กม.
- รร.อนุบาลเด่นหล้า ~ 6.9 กม.
- Pioneers Inter. Bangkhae Campu ~ 7.6 กม.
- SISB Thonburi ~ 9.8 กม.
- Pioneers International School ~ 12.6 กม.
- Shrewsbury International School ~ 14.7 กม.
- รร.กรุงเทพคริสเตียน ~ 14.9 กม.
- รร.อัสสัมชัญ / รร.อัสสัมชัญคอนแวนต์ ~ 15 กม.
สถานที่ราชการและการเดินทาง
- สำนักงานเขตบางแค ~ 3.5 กม.
- MRT สายสีน้ำเงิน สถานีหลักสอง ~ 4.5 กม.
- BTS สายสีเขียว สถานีวุฒากาศ ~ 8.5 กม.
- ทางด่วนเฉลิมมหานคร ด่านดาวคะนอง ~ 13.2 กม.
- ทางด่วนศรีรัชฯ ด่านสุรวงศ์ ~ 15.3 กม.
รายละเอียดโครงการ
Highlights :
- มีจำนวนยูนิตไม่มาก ได้ความเป็นส่วนตัว
- มีตำแหน่งบ้านที่น่าสนใจเยอะ โดยเฉพาะบ้านที่อยู่หน้าสวน และบ้านที่อยู่ในซอยจะมีความเป็นส่วนตัว
- จัดส่วนกลางมาอยู่ด้านหน้าโครงการ ทำหน้าที่เป็นส่วนต้อนรับและรับรองแขกได้
- สวนสาธารณะมีบรรยากาศดี จัดออกมาได้สวยงามน่าใช้งาน เหมาะกับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง
..โครงการ The City Kallapaphruek (เดอะ ซิตี้ กัลปพฤกษ์) นับว่าเป็นโปรเจคที่ 2 ของแบรนด์ The City ที่ได้มาบุกตลาดในย่านนี้แล้วนะครับ หลังจากที่โครงการรุ่นพี่อย่าง The City สาทร – กัลปพฤกษ์ ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อ 2 – 3 ปีที่แล้ว ได้ Sold-Out ไปเรียบร้อย แสดงให้เห็นว่าบ้านของ AP ค่อนข้างได้รับการตอบรับที่ดี จากคนหาบ้านในพื้นที่นี้อย่างมากเลยทีเดียว
โดยการกลับมาคราวนี้ทาง AP ได้จัดหนักจัดเต็มกว่าเดิม ซึ่งก็ได้มีการรวบรวมข้อมูลและสอบถามจากกลุ่มลูกค้าที่ซื้อจริง จนออกมาเป็น ‘บ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น’ โดยจะเป็นบ้านไซส์ใหญ่ที่มีฟังก์ชันเยอะ สามารถรองรับการอยู่อาศัยแบบ 3 Generation ได้สบายๆ รวมถึงยังเป็นโครงการที่มีความเป็นส่วนตัว และมีส่วนกลางที่น่าใช้งานมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยครับ
ผังโครงการจะมีลักษณะเป็นที่ดินตอนลึกเข้าไปด้านใน และมีเพื่อนบ้าน 114 ยูนิต ถือว่าเป็นโครงการขนาดไม่ใหญ่มากนัก จึงได้ความเป็นส่วนตัวและไม่วุ่นวาย โดยส่วนกลางจะจัดให้อยู่ทางด้านหน้าสุดของโครงการ เพื่อให้เป็นส่วนต้อนรับสวยงาม และเป็นหน้าเป็นตาในการรับรองแขกได้ด้วย ส่วนตำแหน่งบ้านที่น่าสนใจผมคิดว่ามีอยู่ 4 โซนหลักๆดังนี้
- บ้านหน้าสวน : ถือเป็นตำแหน่ง Rare Item ของโครงการเลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งนอกจากเราจะสามารถเดินมาใช้งานส่วนกลางได้สะดวกมากๆแล้ว ยังสามารถรับวิวพื้นที่สีเขียวจากภายในบ้าน และยังมีความเป็นส่วนตัวมากๆอีกด้วย เพราะมีเพื่อนบ้านร่วมซอยน้อย แถมยังไม่ต้องหันหน้าบ้านชนกับใครเลย ถ้าเพื่อนๆคนไหนสนใจก็อาจจะต้องรีบๆกันหน่อยแล้วนะครับ ได้ข่าวว่าปัจจุบันเหลืออยู่ 1 – 2 ยูนิตเท่านั้นเอง
- บ้านที่เป็นส่วนตัวสูง : จะเป็นโซนที่อยู่บริเวณด้านในโครงการครับ โดยจะมีทั้งบ้านที่ไม่ต้องหันหน้าชนกับใคร และบ้านที่อยู่ภายในซอยย่อยสั้นๆ ที่มีเพื่อนบ้านร่วมซอยเพียง 1 , 3 และ 4 หลังเท่านั้น ใช่ครับฟังไม่ผิด ..เพราะจะมีอยู่ซอยหนึ่งที่มีบ้านแค่หลังเดียวเท่านั้น เหมาะกับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูงเป็นพิเศษ แลกกับการที่อาจต้องเข้ามาด้านในโครงการลึกกว่าโซนอื่นๆหน่อยนั่นเอง
- บ้านที่อยู่ภายในซอย : ในช่วงซอยแรกๆจะเป็นซอยที่ไม่ลึกมากครับ เลยมีเพื่อนบ้านร่วมซอยเพียง 9 – 11 หลังเท่านั้น ถือว่ายังคงมีความเป็นส่วนตัวในระดับหนึ่ง และสามารถมาใช้งานส่วนกลางได้ไม่ยากอีกด้วย เหมาะกับคนที่กำลังมองหาบ้านในตำแหน่งกลางๆอยู่สบายๆ
- บ้านที่อยู่ติดถนนหลัก : ข้อดีคือไม่ต้องเข้าซอยให้ยุ่งยาก แต่ก็อาจมีรถผ่านไป-มาหน้าบ้านบ่อยอยู่สักหน่อย ซึ่งถ้าใครสนใจบ้านตำแหน่งนี้ผมก็แนะนำเป็นโซนด้านหน้าๆ เพราะจะไม่ต้องหันหน้าชนกับใคร เลยมีความเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถไปใช้งานส่วนกลางได้สะดวกอีกด้วย
เริ่มกันที่บริเวณซุ้มประตูทางเข้า ซึ่งจะมีการดีไซน์ที่แตกต่างจาก The City ปกติอยู่สักหน่อยครับ เพราะส่วนใหญ่เราจะเห็นเป็นสไตล์ Modern ทรงเหลี่ยมธรรมดา ที่นานๆทีจะได้เห็นซุ้มประตูทรงโค้งแบบนี้ ถือว่ามีความสวยงามดีไปอีกแบบ
การเข้า-ออกจะใช้แบบจดจำป้ายทะเบียนรถด้วยระบบ KATSAN จาก AP ซึ่งถ้าเป็นลูกบ้านก็สามารถขับผ่านได้สะดวกเลย แต่ถ้าเป็น Visitor ก็จะต้องแลกบัตรกับพี่ยามก่อนนะครับ
‘KATSAN’ เป็นระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานของ AP ที่มีในทุกๆโครงการ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านได้ค่อนข้างดี เช่น
สามารถลงทะเบียนรถของแขกที่จะมาหาไว้ล่วงหน้าได้ หรือถ้ามีใครมาหาแล้วเราไม่สะดวกรับแขก/หรือไม่อยู่บ้านพอดี ก็สามารถกดปฏิเสธผ่าน Application ได้โดยไม่จำเป็นต้องให้คนภายนอกเข้ามาในหมู่บ้านให้เสียความเป็นส่วนตัวครับ
เมื่อเข้ามาด้านในก็จะเจอกับวงเวียนต้นไม้ขนาดใหญ่ ที่จะแบ่งออกไปยังโซนพักอาศัยต่างๆ (ปัจจุบันเปิดขายเฟสแรกที่อยู่ซอยแรกทางซ้ายมือ)
ติดกับซุ้มประตูจะเป็นอาคาร Clubhouse ที่มีหลังคาเชื่อมต่อกัน ซึ่งก็เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของแบรนด์ The City ไปแล้วครับ ที่เค้ามักจะออกแบบให้เราสามารถใช้งานซุ้มประตูได้คุ้มค่า มากกว่าแค่ใช้เป็นทางเข้า-ออกเฉยๆเท่านั้น
เพียงแต่โครงการนี้จะไม่ได้ทำส่วนกลางอยู่เหนือซุ้มประตูแบบ The City ที่อื่นๆ แต่จะต่อขยายมาทางด้านข้าง เพื่อให้สามารถใช้งานได้ง่าย และคงความสวยงามของซุ้มประตูที่มีความเพรียวบางไว้ได้แบบนี้ครับ
หากใครที่ขับรถมาใช้งานส่วนกลาง ก็จะมีที่จอดรถอยู่ทางด้านข้าง Clubhouse ประมาณ 3 ช่องจอด พร้อมทั้งมีทางลาดสำหรับรถเข็นหรือวีลแชร์ให้ใช้งานได้สะดวกด้วยครับ
บริเวณชั้น 1 จะมีสระว่ายน้ำเป็นฟังก์ชันหลัก โดยจะเป็นแบบ Semi-Outdoor ที่มีหลังคาคลุมให้บางส่วน จึงทำให้สามารถมาใช้งานได้เกือบตลอดทั้งวันเลย และจะแบ่งออกเป็น 3 โซนหลักๆด้วยกัน
เริ่มกันที่โซนแรกจะเป็น Kids Pool สระน้ำตื้นที่ให้น้องๆสามารถมาว่ายน้ำเล่นกันได้ โดยจะอยู่ใกล้กับ Day Bed ให้ผู้ปกครองสามารถดูแลได้อย่างใกล้ชิดครับ
Day Bed จะมีอยู่บริเวณนี้ 2 ตัว ฝั่งตรงข้ามจะเป็นต้นไม้ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่น บังแดด และพรางสายตาจากรถที่ผ่านไป-มาบริเวณ Main Gate ได้ดีระดับหนึ่ง
ถัดมาจะเป็นสระว่ายน้ำหลักที่มีขนาด 20 x 6 m. สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริงจังเลยครับ และบริเวณริมสระก็จะปลูกแนวต้นไม้ช่วยพรางสายตาให้ด้วยเช่นกัน
โดยจะเป็นไม้แบบพุ่มเตี้ยที่พอจะช่วยบังเวลาที่ว่ายอยู่ในสระได้พอดีครับ ซึ่งรถที่ขับผ่านไป-มาถ้าไม่สังเกตดีๆก็จะมองไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่
ทางด้านขวาของ Day Bed จะเป็นทางยังห้องน้ำ มีทั้งแบบแยกชาย-หญิง และห้องน้ำผู้สูงอายุให้ใช้งาน
ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ ไม่ว่าจะเป็นโถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำ แต่ที่จะแตกต่างกันก็คือ ห้องน้ำชายจะได้ Sauna ส่วนห้องน้ำหญิงจะได้เป็น Steam ให้ใช้งาน
ส่วนด้านซ้ายของ Day Bed จะมี Shower ให้เราได้ล้างตัวก่อนลงสระได้ ซึ่งจะซ่อนอยู่ด้านหลังของผนังทึบ จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวในการใช้งานมากขึ้นครับ
นอกจากนี้ยังมีทางเดินด้านหลังอาคาร ที่จะสามารถเชื่อมต่อไปยังห้องนิติบุคคล และห้องรับรอง (Lobby) ได้ด้วย
ภายใน Lobby เป็นพื้นที่ฝ้าเพดานสูงที่มีความโปร่งโล่ง และมีโซฟาให้นั่งเล่นพักผ่อนกันได้หลายชุด
ซึ่งจะเปิดช่องแสงรับวิวทางด้านหลังอาคารแทนครับ เพื่อให้สระว่ายน้ำก่อนหน้านี้มีความเป็นส่วนตัวในการใช้งานเต็มที่
รวมถึงยังช่วยเลี่ยงความร้อนจากแสงแดดที่ส่องมาในช่วงบ่าย-เย็นได้อีกด้วย จึงทำให้เป็นพื้นที่ที่สามารถมาใช้งานได้ตลอดทั้งวันเลย
ด้านในสุดจะมีประตูที่เปิดเชื่อมต่อไปสู่สระว่ายน้ำอีกด้านหนึ่งได้ครับ จัดเป็นมุมที่ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวมากๆเลยทีเดียว
บริเวณนี้จะมี Day Bed ให้นั่งเล่นพักผ่อนกันได้อีก 2 ชุด รวมถึงยังมีบ่อ Jacuzzi ให้ใช้งานกันได้อีกด้วย
ขึ้นมาบนชั้น 2 จะมีพื้นที่โล่งกว้างขนาดใหญ่ ซึ่งอนาคตลูกบ้านอาจลองเสนอให้นิติหาโต๊ะเก้าอี้มาวางเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถใช้งานพื้นที่ได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นก็ได้นะครับ ส่วนฟังก์ชันภายในหลักๆก็จะประกอบด้วย Fitness และ Kids Room
เริ่มกันด้วย Kids Room หากใครที่มีลูกเล็กๆ ก็สามารถพาน้องๆมาเล่นกับเพื่อนๆ ในห้องแอร์เย็นๆนี้ได้ครับ ซึ่งภายในนอกจากจะมีของเล่นให้แล้ว ยังมีการ Built-in สไลเดอร์มาให้น้องๆได้เล่นสนุกกันด้วย
ติดกันจะเป็นห้อง Fitness ที่ภายในจะมีอุปกรณ์ต่างๆให้ใช้งานครบ และเป็นห้องที่ล้อมรอบไปด้วยกระจกทุกด้าน จึงทำให้มีความสว่างและโปร่งโล่งมากๆ
อุปกรณ์มีประมาณ 11 ชิ้น ครบทั้งในส่วนของ Cardio และ Weight Training ลูกบ้านสามารถมาใช้งานพร้อมกัน 8 – 10 คนได้สบายๆ ถือว่าให้มาเพียงพอกับจำนวนยูนิตครับ
อีกด้านหนึ่งของชั้น 2 จะมีทางเดินที่เชื่อมต่อไปอีก 2 ฟังก์ชันหลักๆครับ
เริ่มจากทางขวามือจะเป็น Co-Creative Space ที่เราสามารถเข้ามานั่งเล่นพักผ่อน หรือจะใช้ในการนั่งทำงานอ่านหนังสือก็ได้ โดยจะแบ่งออกเป็นโซนที่นั่งได้ชิลๆอย่างตรงโซฟานี้ และโซนจริงจังที่อยู่ด้านใน
ฟังก์ชันภายในจะมีโต๊ะตัวใหญ่ให้เราสามารถนั่งทำงานเป็นกลุ่มร่วมกันได้ หรือถ้าใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็จะมี Working Pod ให้เราได้ใช้งานกันด้วยครับ
สุดท้ายคือห้องสันทนาการ ภายในจะมีโต๊ะพูลให้เราได้มาเล่นสนุกกันเพื่อนๆได้แบบนี้เลยครับ
สำหรับสวนสาธารณะเราจะต้องอ้อมมาตามทางด้านหลังอาคาร Clubhouse แบบนี้นะครับ (แยกฟังก์ชัน Indoor และ Outdoor ออกจากกันชัดเจน ไม่สามารถใช้งานต่อเนื่องกันได้)
อีกทางหนึ่งที่สามารถมายังสวนสาธารณะได้ก็คือ จากบริเวณซุ้มประตูทางเข้าด้านหน้าครับ ซึ่งสวนสาธารณะแห่งนี้จะมีขนาดประมาณ 1 ไร่นิดๆ โดยจะแบ่งการใช้งานออกเป็นโซนๆ
เริ่มจากโซนแรกคือ Playground เป็นบ้านต้นไม้ที่สามารถพาน้องๆมาปีนป่าย เพื่อออกกำลังกายกลางแจ้งกันได้
โดยพื้นชั้นล่างจะปูด้วยพื้นยางกันกระแทก EPDM เพื่อช่วยลดอาการบาดเจ็บเวลาที่น้องๆหกล้มได้ดี อีกทั้งยังมีแท่น Trampoline ให้น้องๆได้กระโดดออกกำลังกายอีกด้วย ส่วนบนบ้านต้นไม้จะเป็นที่ให้นั่งเล่นและเชือกให้ปีนป่ายครับ
โซนถัดมาภายในสวนจะมี Jogging Track ให้เราสามารถเดิน หรือวิ่งออกกำลังกายกันได้ครับ รวมถึงยังมีเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งให้ใช้งานอีกด้วย
บรรยากาศภายในสวนด้านในมีความสวยงาม และปลูกต้นไม้เยอะดูสดชื่นดีทีเดียวครับ ซึ่งระหว่างทางก็จะมีจุดให้เราได้นั่งเล่นพักผ่อนกันอยู่เป็นระยะๆด้วย
บริเวณตรงกลางสวนจะเป็นที่ตั้งของ Pet Park ภายในมีอุปกรณ์เครื่องเล่นของน้องๆสัตว์เลี้ยง ให้เราสามารถมาพาฝึกหรือออกกำลังกายบริเวณนี้กันได้แบบจริงจังเลยครับ
สุดท้ายจะเป็น Rare Item ของโครงการนี้ก็คือ บ้านในโซนหน้าสวนนี้ ที่จะได้วิวพื้นที่สีเขียวสดชื่นๆอยู่ตลอดเวลา รวมถึงยังมีความเป็นส่วนตัวมากๆอีกด้วย
และนี่ก็คือภาพบรรยากาศวิวตัวอย่างจากภายในบ้านชั้น 2 ซึ่งหากใครที่สนใจก็อาจต้องรีบหน่อยนะครับ เพราะปัจจุบันได้ข่าวว่าเหลืออยู่เพียง 1 – 2 ยูนิตเท่านั้น
ส่วนภาพนี้จะเป็นบรรยากาศตัวอย่างภายในซอยพักอาศัย ซึ่งแบบบ้านภายในจะค่อนข้างคละแบบกันหลากหลายเลย
แต่ส่วนใหญ่โครงการนี้จะเน้นเป็นแบบบ้านไซส์ใหญ่เป็นหลักครับ โดยเฉพาะบริเวณแปลงมุมทั้ง 2 ด้าน รวมถึงบ้านที่อยู่ใกล้ส่วนกลางแบบนี้
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse
- Lobby / Living Area
- Fitness Room
- Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 6 x 20 m.
- Kids Pool ขนาด 3 x 3 m.
- Jacuzzi ขนาด 2 x 3.5 m.
- Steam / Sauna
- Co-Creative Space
- Kids Room
- ห้องสันทนาการ
- พื้นที่สวนสาธารณะ 1 จุด ขนาด 468.7 ตร.ว.
- Playground
- Outdoor Exercise
- Jogging Track
- Pet Garden
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 24 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 9 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก เข้า-ออกด้วยระบบสแกนป้ายทะเบียนรถ
- ระบบรักษาความปลอดภัย KATSAN มาตรฐาน AP
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor ทั้งชั้น 1 – 2 และระบบ Shock Sensor ชั้น 1 ทุกหลัง
- ติดตั้ง Digital Door Lock บริเวณประตูทางเข้าบ้านหลักทุกหลัง
- ติดตั้ง IP Camera จำนวน 2 จุดทุกหลัง
แบบบ้าน
Highlights :
- บ้านเดี่ยวหน้ากว้าง พื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชันเยอะ สามารถรองรับครอบครัวขนาดใหญ่ได้สบายๆ
- มีแบบบ้านให้เลือกเยอะถึง 5 แบบ รองรับความต้องการของครอบครัวที่แตกต่างกันได้หลากหลาย
- พื้นที่อเนกประสงค์ของบ้านแต่ละแบบ สามารถทุบผนังเชื่อมต่อกับห้องนอนข้างๆ เพื่อขยายพื้นที่ใช้สอยภายในให้กว้างขวางมากขึ้น หรือทำเป็น Master Bedroom ที่ 2 ก็ได้
- ทุกแบบบ้านมีห้องนอนชั้นล่าง เหมาะกับการใช้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุ หรือปรับเป็นฟังก์ชันการใช้งานอื่นๆก็ได้
..แบบบ้านของโครงการ The City Kallapaphruek (เดอะ ซิตี้ กัลปพฤกษ์) มีให้เลือกเยอะถึง 5 แบบ โดยจะเน้นเป็นบ้านเดี่ยวหน้ากว้างไซส์ใหญ่ พื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชันเยอะ สามารถรองรับครอบครัวแบบ 3 Generation ได้สบายๆ ออกแบบมาในสไตล์ Modern ทันสมัยสวยงาม ประกอบด้วย
- BELLATRIX บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 57.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 256 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องรับประทานอาหาร / ที่จอดรถ 3 คัน - KAIRA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 62 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 285 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องแม่บ้าน / ที่จอดรถ 3 คัน - DIONNE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 313 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องแม่บ้าน / ที่จอดรถ 3 คัน - EMERALD บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 81.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 351 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องพระ / 1 ห้องแม่บ้าน / ที่จอดรถ 3 คัน - GODIVA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 91.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 416 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องพระ / 1 ห้องแม่บ้าน / ที่จอดรถ 4 คัน
โครงสร้างบ้าน :
- เป็นระบบ Conventional หรือก่ออิฐมวลเบา ซึ่งมีความแข็งแรงและสามารถทุบต่อเติมได้ง่าย จึงทำให้เป็นบ้านที่มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้หลากหลายตามต้องการ
- พื้นที่จอดรถ : Slab on Ground ไม่ลงเสาเข็ม + Concrete Stamp
- พื้นที่ซักล้าง : Slab on Ground ไม่ลงเสาเข็ม + พื้นปูนฉาบเรียบ
- บันได : โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวไม้ยางพารา
วัสดุหลักๆภายในบ้าน :
- พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 cm.
- พื้นชั้น 2 และห้องนอนชั้นล่าง : ไม้ลามิเนต
- สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ : American Standard + Kasch
- ชุดครัว : Built-in ตู้เก็บของชั้นบนและล่าง หน้าบาน Hi-Gloss
- Top เคาน์เตอร์ครัว : หินสังเคราะห์
- ประตูทางเข้าบ้านหลัก : บานไม้สักแท้ขนาด Oversize
- ประตูทางเข้าบ้านรอง : บานไม้ HDF ปิดผิวด้วยไม้สัก + Digital Door Lock
- สัญญาณกันขโมย : ระบบ Magnetic Sensor ทั้งชั้น 1 – 2 และระบบ Shock Sensor ชั้น 1
- IP Camera จำนวน 2 จุด
- GODIVA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 91.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 416 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องพระ / 1 ห้องแม่บ้าน / ที่จอดรถ 4 คัน
เป็นแบบบ้านหลังใหญ่สุดของโครงการ ที่มีพื้นที่ให้สอยมากถึง 416 ตร.ม. เรียกได้ว่าเยอะที่สุดในย่านเลยก็ว่าได้ครับ จึงเหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ หรือคนที่ต้องการบ้านกว้างขวางโปร่งโล่ง โดยจุดเด่นของบ้านหลังนี้ก็คือ ‘พื้นที่ Double Volume’ บริเวณโถงกลางบ้าน ซึ่งนอกจากความโปร่งโล่งแล้ว ยังทำหน้าที่เชื่อมต่อฟังก์ชันชั้นบนกับชั้นล่าง ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีปฏิสัมพันธ์กันได้ดีมากขึ้น อีกทั้งฟังก์ชันต่างๆยังมีความ ‘ยืดหยุ่น’ สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลายตามต้องการ
แปลนชั้น 1 : เป็นบ้านแบบเดียวที่จอดรถในร่มได้มากถึง 4 คัน อีกทั้งยังมีทางเข้าบ้านได้สะดวก 2 ทางด้วย โดยพื้นที่ Common Area จะมีความกว้างขวาง และด้านในก็มีระยะให้เราสามารถกั้นห้องเป็นสัดส่วนเพิ่มเติมได้ ตรงกลางบ้านเป็นครัวที่เชื่อมต่อไปยังโซนแม่บ้านที่อยู่นอกตัวบ้าน และอีกด้านหนึ่งก็จะเป็นห้องนอนชั้นล่างที่มีห้องน้ำในตัว เหมาะมากสำหรับทำเป็นห้องผู้สูงอายุ เพราะออกแบบตามหลัก Universal Design นั่นเองครับ
แปลนชั้น 2 : ทุกห้องนอนจะมีห้องน้ำเป็นส่วนตัว แต่จุดที่น่าสนใจจริงๆก็คือ พื้นที่อเนกประสงค์หรือ Family Area ที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งมีขนาดใหญ่มากพอที่จะสามารถกั้นทำเป็นอีกห้องหนึ่งได้สบายๆ และติดกันก็จะมีห้องพระเล็กๆให้ใช้งานด้วยครับ ซึ่งพื้นที่ทั้ง 2 นี้เรายังสามารถทุบผนังเชื่อมต่อกับห้องนอนข้างๆ เพื่อขยายพื้นที่ใช้สอยภายในให้ใหญ่ขึ้นได้อีกด้วย
เริ่มกันที่ประตูรั้วของบ้านจะเป็นเหล็กรางเลื่อนแบบ 3 ตอน สามารถใช้งานได้ง่าย และแบ่งช่วงการเปิด-ปิดตอนที่จะนำรถออกมาใช้ได้ตามต้องการ
โดยทางโครงการจะมี Junction สำหรับให้เราติดตั้งประตูเลื่อนไฟฟ้ามาให้ด้วยครับ ซึ่งผมก็แนะนำให้ติดเพิ่มเพื่อความสะดวกนะ เพราะประตูนี้มีความยาวมาก เลยทำให้มีน้ำหนักที่เยอะตามไปด้วยเช่นกัน
สำหรับพื้นที่จอดรถจะเป็น Slab on Ground แยกโครงสร้างออกมาจากตัวบ้านทั้งผืน พร้อมปูเป็น Concrete Stamp สวยงาม แบ่งช่องจอดเป็น 2 ช่อง กว้างช่องละ 5 m. สามารถจอดรวมเป็น 4 คันได้สบายๆ
ขอบฝ้าด้านบนจะมีการเซาะร่องเล็กๆเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำฝนไหลย้อนกลับเข้ามาด้านในบ้าน รวมถึงยังมีการติดตั้ง IP Camera บริเวณนี้ไว้เพื่อความปลอดภัยด้วยครับ
ส่วนด้านซ้ายของประตูรั้วจะเป็นตู้จดหมาย และด้านขวาเป็นถังขยะ ที่สามารถเปิดใช้งานได้สะดวกจากด้านในและด้านนอกได้ทั้งคู่เลยครับ
นอกจากนี้พื้นที่สวนบริเวณรอบๆบ้าน ก็จะมีการปลูกต้นไม้และปูหญ้ามาให้เป็นมาตรฐาน (รูปแบบขึ้นอยู่กับตำแหน่งแปลงและแบบบ้าน สอบถามกับโครงการอีกครั้ง)
ทางเข้าบ้านหลังนี้จะมี 2 ทางนะครับ คือทางเข้าหลักที่อยู่ด้านหน้าติดกับสวน และทางเข้ารองที่อยู่ตรงพื้นที่จอดรถ
สำหรับทางเข้าหลักเราจะได้เป็นประตูบานไม้สักแท้ขนาด Oversize ที่สามารถเปิดออกได้กว้าง จึงช่วยในเรื่องการขนของชิ้นใหญ่ๆเข้า-ออกได้สะดวก
พร้อมทั้งมีช่องแสงด้านข้างเพิ่มความสว่างโปร่งโล่ง รวมถึงมีระบบ Magnetic + Shock Sensor เพื่อความปลอดภัยด้วยครับ
เข้ามาภายในเราจะเจอกับ Common Area ที่มีขนาดใหญ่ เชื่อมต่อจากหน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้านเลยครับ ซึ่งพื้นจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ และได้ฝ้าเพดานสูง 2.8 m.
พื้นที่โซนแรกจะเป็น Living Area ที่สามารถใช้นั่งเล่นพักผ่อน หรือใช้รับแขกก็ได้ โดยจะสามารถวางชุดโซฟาตัวใหญ่ๆได้หลายตัว และมีระยะดูทีวีกว้าง 5 m. จึงสามารถใช้ทีวีจอใหญ่ๆ 60 – 70 นิ้วขึ้นไปได้สบายๆ
ถัดเข้ามาบริเวณกลางบ้านจะเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหาร ซึ่งโครงการก็ได้วางโต๊ะตัวใหญ่ขนาด 8 ที่นั่งมาให้ดู แล้วยังเหลือพื้นที่ด้านข้างให้ใช้สอยได้สบายๆ
หรือถ้าเราลดขนาดโต๊ะให้เล็กลงมาหน่อย ก็จะเหลือพื้นที่หลังบ้านให้กั้นผนังตามแนวเสา (ระหว่างประตูกระจก) เพื่อทำเป็นห้องอเนกประสงค์เป็นสัดส่วนเพิ่มได้อีกด้วยนะครับ
ประตูกระจกด้านข้างนอกจากจะช่วยทำให้สว่างโปร่งโล่งแล้ว ยังสามารถชมวิวพื้นที่สีเขียวสดชื่นๆจากในบ้านได้ดี รวมถึงยังเปิดประตูออกมาใช้งานได้ด้วย ซึ่งทางโครงการก็จะมีเฉลียงไว้ให้ทำเป็นพื้นที่พักผ่อนด้านนอกแบบนี้เลย
อีกด้านหนึ่งของตัวบ้านจะมีโถงทางเดินแยกฟังก์ชันต่างๆออกไป เพื่อความเป็นส่วนตัวจากพื้นที่ Common Area
โดยพื้นที่โถงกลางบ้านจะเป็นฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume 6.5 m. จึงมีความโปร่งโล่งดีทีเดียวครับ ซึ่งบริเวณนี้ก็จะอยู่ตรงกับทางเข้ารองของบ้านจากที่จอดรถก่อนหน้านี้ด้วย
จุดเด่นของทางเข้านี้ก็คือ จะมีทางลาดกว้าง 1.15 m. ทำให้สามารถเข็นรถหรือวีลแชร์เข้าบ้านได้สะดวก เหมาะกับคนที่อาจมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วยมากๆ และมาพร้อมกับกระบะปลูกต้นไม้เหมือนบ้านตัวอย่างเลยครับ
ส่วนประตูจะมี Digital Door Lock ติดตั้งเพิ่มมาให้เพื่อความปลอดภัย และสามารถใช้งานได้ง่าย แต่บานประตูจะเป็นไม้ HDF ที่ปิดผิวด้านนอกเป็นไม้สักแทนนะครับ (ไม่ได้เป็นไม้สักแท้ทั้งชิ้นเหมือนประตูหลัก)
ตรงข้ามกับประตูทางเข้ารองจะเป็นครัว จึงทำให้สามารถขนของที่ซื้อมาจากซูเปอร์เข้ามาเก็บในครัวได้สะดวก
โดยเราจะได้เป็นครัวปิดที่สามารถทำอาหารได้จริงจัง ภายในมีขนาดใหญ่และกว้างขวางมาก (3.25 x 2.7 m.) สามารถใช้งานพร้อมกันหลายๆคนได้สบาย
นอกจากนี้ยังมีการ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้เหมือนบ้านตัวอย่างนี้เลยครับ ซึ่งจะมีตู้เก็บของทั้งชั้นบนและล่างให้ใช้ได้อย่างจุใจ หน้าบานเป็น Hi-Gloss สีเทาเข้มสวยงาม
มาพร้อมกับ Top เคาน์เตอร์หินสังเคราะห์ อ่างล้างจาน และ Hood ดูดอากาศเครื่องใหญ่ ขาดแค่เพียงเตาที่จะต้องติดตั้งเพิ่มเติมเองครับ
เปิดประตูออกมาจะเป็นส่วนของลานซักล้างหลังบ้าน ซึ่งทางโครงการจะเทพื้นปูนแบบ Slab on Ground มาให้เราไว้ใช้ตากผ้าหรือทำครัวไทยด้านนอกเพิ่มเติมได้
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เว้าเข้าไปตรงผนังขนาด 2.45 x 0.8 m. ให้เราสามารถวางเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าใต้ชายคาได้ด้วย จะได้ไม่โดนแดดโดนฝนให้เสียหายง่ายครับ
ติดกันจะเป็นห้องแม่บ้านขนาด 2.4 x 2.55 m. สามารถอยู่อาศัย 1 คนได้พอดีๆ มาพร้อมกับห้องน้ำในตัวให้ใช้งาน
เหมาะสำหรับคนที่มีแม่บ้านประจำ หรือพี่เลี้ยงที่ต้องต้องคอยดูแลเด็ก/ผู้สูงอายุ 24 ชม. (อาจเปลี่ยนเป็นห้องเก็บของก็ได้ครับ)
กลับมาที่โถงกลางบ้านอีกครั้ง ถัดเข้ามาด้านในจะมีห้องน้ำและห้องนอนชั้นล่างให้ใช้งาน
เริ่มจากห้องน้ำจะเป็นแบบ Powder Room ที่จะไม่มีส่วนอาบน้ำนะครับ โดยจะเป็นห้องน้ำสำหรับแขกและใช้งานร่วมกันใน Common Area
ภายในมีขนาด 1.35 x 2.45 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ มาพร้อมกับสุขภัณฑ์จาก American Standard และช่องหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศได้
ถัดมาจะเป็นห้องนอนชั้นล่างที่มีขนาด 3 x 4 m. สามารถวางเตียง 5 ฟุตตรงกลาง แล้วยังมีพื้นที่เหลือรอบๆให้ใช้งานได้สะดวก
ซึ่งเหมาะจะใช้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุที่เดินขึ้นชั้น 2 ไม่ไหว หรือเราจะปรับเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆก็ได้ เช่น ห้องดูหนังฟังเพลง หรือห้องทำงาน เป็นต้น
ปลายเตียงมีช่องแสงให้ความสว่าง ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยังพื้นที่จอดรถหน้าบ้าน ส่วนอีกด้านของห้องจะมีพื้นที่ให้ทำเป็น Walk-in Closet เล็กๆได้ครับ โดยจะมีขนาด 1.45 x 2 m. ให้ใช้งานได้พอดีๆ
ห้องน้ำจะมีขนาดใหญ่มาก กว้างประมาณ 1.85 x 2.4 m. ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
พื้นภายในจะไม่มีการลดระดับ แต่จะใช้เป็นรางน้ำแบบฝังแทน ทำให้พื้นเรียบและลดอุบัติเหตุจากการเดินสะดุดได้ดี รวมถึงยังสามารถเข็นวีลแชร์เข้ามาได้สะดวกด้วย
นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งราวจับเพื่อความปลอดภัย พร้อมกับมีที่นั่งอาบน้ำให้ใช้งานได้สะดวกๆ โดยตอนจะส่งมอบบ้านก็จะติดตั้งปุ่มสัญญาณฉุกเฉินมาให้เพิ่มด้วยครับ
เพิ่มเติมในส่วนของประตูห้องนอน และประตูห้องน้ำชั้นล่าง จะเป็นแบบบานเลื่อนขนาด Oversize ทั้ง 2 บาน เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของผู้สูงอายุ และผู้ใช้รถวีลแชร์นั่นเองครับ
บันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความแข็งแรงทนทาน เวลาเดินขึ้น-ลงจะไม่มีเสียงดังรบกวน ปิดผิวด้วยไม้ยางพารา พร้อมราวจับกระจกกระจกนิรภัยตลอดทาง
สำหรับโถงบันไดนี้ถือว่าเป็น Highlight หลักของบ้านหลังนี้เลยก็ว่าได้ครับ เพราะเป็นจุดที่เชื่อมต่อพื้นที่ชั้นบนกับชั้นล่าง ทำให้คนในบ้านมีปฏิสัมพันธ์กันมากยิ่งขึ้น
ขึ้นมาบนชั้น 2 เราจะเจอกับพื้นที่ Family Area ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง เลยทำให้บรรยากาศของโถงทางเดินสว่างโปร่งโล่ง
หรือเราสามารถกั้นผนังให้เป็นสัดส่วนมากขึ้นก็ได้ โดยภายในจะกว้าง 4.85 x 2.9 m. สามารถทำเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆได้ครับ
หรืออีกหนึ่งไอเดียก็คือ เราสามารถทุบผนังเชื่อมต่อกับห้องนอนข้างๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนให้กว้างขวางมากขึ้นได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังอยู่ติดกับระเบียงเพียงหนึ่งเดียวของชั้น 2 ภายนอกมีขนาด 4.9 x 1.3 m. สามารถออกมายืนสูดอากาศหรือนั่งเล่นพักผ่อนก็ได้
ติดกันจะเป็นห้อง Master Bedroom ซึ่งมีขนาดพื้นที่ใหญ่ประมาณ 4 x 8 m. สามารถแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนได้ตามต้องการ อีกทั้งยังมีช่องแสงขนาดใหญ่ที่ทำให้ห้องนี้สว่างโปร่งโล่ง
อีกด้านหนึ่งของห้องก็สามารถกั้นทำเป็น Walk-in Closet บริเวณหน้าห้องน้ำได้สบายๆครับ
ส่วนภายในห้องน้ำก็มีขนาดค่อนข้างใหญ่ มาพร้อมกับสุขภัณฑ์จาก American Standard ครบพร้อมใช้งาน ซึ่งจะให้อุปกรณ์มาพิเศษกว่าห้องน้ำอื่นๆของบ้านด้วยครับ
สิ่งที่โดดเด่นอย่างเลยก็คือ อ่างล้างหน้าแบบ His and Her ที่อยู่ตรงกลางห้อง ทำให้สามารถใช้งานพร้อมกันได้เลย ส่วนด้านซ้ายมือเป็นอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวจาก Kasch ที่สามารถนอนแช่น้ำผ่อนคลายได้สบายๆ
อีกด้านหนึ่งเป็นโถสุขภัณฑ์และ Shower Box ที่กั้นด้วยฉากกระจกนิรภัยเป็นสัดส่วน ภายในมีขนาด 1.1 x 1.3 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ และมี Hand Shower แบบปรับระดับความสูงได้ติดตั้งมาให้ด้วย
ถัดมาเราจะไปดูอีกด้านหนึ่งของชั้น 2 กันต่อครับ
ซ้ายมือของจริงจะเป็นห้องพระเล็กๆ ที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน แต่สำหรับบ้านตัวอย่างได้ปรับให้กลายเป็นผนังทึบ และทุบผนังเชื่อมต่อพื้นที่ในห้องนอนเล็กให้กว้างมากขึ้นแทน ซึ่งเราก็อาจนำไปใช้เป็นไอเดียแต่งบ้านก็ได้นะครับ
ภายในมีขนาดกว้าง 2 x 4 m. ถ้าใครที่ไม่ได้ทำเป็นห้องพระ ก็สามารถปรับเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆตามที่ต้องการได้นะครับ หรือจะทุบผนังเปิดโล่งเชื่อมต่อกับห้องนอนเล็กไปเลยก็ได้
ติดกันเป็นห้องนอนที่ 2 ซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าของตัวบ้าน ภายในมีขนาด 5.3 x 3 m. ซึ่งถ้าขยายผนังเชื่อมต่อกับห้องพระข้างๆด้วยแล้ว ก็จะกลายเป็น Master Bedroom ที่ 2 ได้เลยครับ
นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานเป็นส่วนตัวด้วย ภายในมีขนาด 1.55 x 1 m. และมีพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1.55 x 1 m. แต่อาจต้องติดตั้งฉากกั้นเพิ่มเติมเองนะครับ
ถัดมาจะเป็นห้องนอนเล็กที่อยู่ด้านหลังบ้าน ภายในมีขนาด 4 x 4 m. สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดีๆครับ
โดยทางโครงการได้วางเตียง 3.5 ฟุตมาให้ดูเป็นไอเดีย ซึ่งจะมีพื้นที่ด้านข้างเหลือให้ใช้งานกว้างมากขึ้น เลยสามารถจัดเป็นมุมนั่งทำงาน หรือมุมแต่งตัวได้ครับ
ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชันให้ใช้งานครบ โดยมีขนาดกว้าง 1.45 x 2.3 m. และพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1.45 x 1.5 m.
สุดท้ายคือจะเป็นห้องนอนขนาดเล็กสุด ภายในกว้าง 3.3 x 3.3 m. สามารถวางเตียง 3.5 – 5 ฟุตได้พอดีๆ หรือเราอาจปรับเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆก็ได้ครับ อย่างบ้านตัวอย่างนี้ก็ได้ทำเป็นห้องออกกำลังกายส่วนตัวในบ้านแบบนี้
รวมถึงยังมีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานด้วยครับ ซึ่งภายในมีพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1.15 x 0.9 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ และอาจต้องติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเองครับ
อีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจก็คือ บ้านตัวอย่างได้เจาะผนังตรงกลางเชื่อมต่อกับบริเวณโถงบันได จึงทำให้มีความสว่างโปร่งโล่งมากขึ้น เพราะได้แสงสว่างส่องผ่านมาจากหน้าต่างในห้องเล็กได้อีกทางนั่นเองครับ
- EMERALD บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 81.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 351 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องพระ / 1 ห้องแม่บ้าน / ที่จอดรถ 3 คัน
เป็นแบบบ้านที่มีขนาดใหญ่รองลงมา มีจุดเด่นที่พิเศษกว่าบ้านแบบอื่นๆคือ ‘สามารถแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนแยกกันได้ชัดเจน’ โดยเฉพาะแปลนชั้น 1 จะมีการใช้ประโยชน์จากบันไดกลางบ้าน ที่ช่วยบังโซนรับแขกด้านหน้าบ้านไม่ให้มองเห็นพื้นที่นั่งพักผ่อน และพื้นที่นั่งทานอาหารสำหรับครอบครัวที่อยู่ด้านใน จึงทำให้ไม่เสียความเป็นส่วนตัวนั่นเองครับ นอกจากนี้ก็ยังมีห้องนอนชั้นล่างให้ใช้งานด้วย และสามารถปรับเป็นฟังก์ชันอื่นๆได้ตามต้องการ
แปลนชั้น 2 จะมีการเล่นระดับของพื้นที่ใช้งาน โดยพื้นที่อเนกประสงค์จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และได้ฝ้าเพดานที่สูงกว่าห้องอื่นๆ จึงมีความโปร่งโล่ง รวมถึงสามารถกั้นทำเป็นห้องเพิ่มเติมได้อีกด้วย ส่วนห้อง Master Bedroom จะปรับไปอยู่บริเวณด้านข้างของตัวบ้านแทน ซึ่งอีกหนึ่งจุดเด่นที่ต่างจากบ้านอื่นๆก็คือ ‘มีระเบียงห้องนอนที่กว้างมากๆ’ และสามารถออกไปใช้งานได้จริงด้วยครับ
- DIONNE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 313 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องแม่บ้าน / ที่จอดรถ 3 คัน
บ้านไซส์กลางของโครงการ มีจุดเด่นอยู่ที่ ‘ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume’ ซึ่งอยู่บริเวณ Living Area และมีขนาดใหญ่กว่าบ้านแบบอื่นๆ จึงมีความสว่างโปร่งโล่ง และเชื่อมต่อพื้นที่ชั้นบนกับชั้นล่างได้ดี
นอกจากนี้ยังเน้นเรื่อง ‘ความเป็นส่วนตัวของพื้นที่พักผ่อน’ โดยการนำ Common Area ให้ไปอยู่ทางโซนหลังบ้าน จึงไม่เสียความเป็นส่วนตัวจากคนที่ผ่านไป-มาหน้าบ้านเลย และเปิดม่านชมวิวสวนได้เต็มที่ อีกทั้งยังปรับให้มีทางเข้าบ้านเพียงแค่ทางเดียวด้วยครับ
ส่วนแปลนชั้น 2 จะมีพื้นที่อเนกประสงค์ที่น่าสนใจ เพราะจะอยู่ติดกับ Double Volume ที่มองเชื่อมต่อลงไปชั้นล่างได้ หรือเราจะทุบผนังเชื่อมต่อขยายพื้นที่ห้องนอนข้างๆ ให้กลายเป็น Master Bedroom ที่ 2 ก็ได้ครับ ส่วนอ่างอาบน้ำในห้องนอนใหญ่ ตั้งแต่บ้านไซส์เล็ก-กลางจะปรับเป็นอ่างฝังผนังแทนนะ
- KAIRA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 62 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 285 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องแม่บ้าน / ที่จอดรถ 3 คัน
จุดเด่นของบ้านหลังนี้คือ ‘ความเป็นสัดส่วนชัดเจน’ โดยเฉพาะแปลนชั้น 1 จะเห็นได้ว่าพื้นที่ของ Living Area กับพื้นที่ Dining Area จะอยู่แยกกันชัดเจน และเรายังสามารถกั้นผนังของโซนรับแขกให้เป็นสัดส่วนไปเลยก็ได้ ซึ่งจะช่วยให้พื้นที่พักผ่อนในบ้านไม่เสียความเป็นส่วนตัวจากแขก และถึงแม้จะเป็นบ้านไซส์เล็ก แต่ก็ยังให้ประตูทางเข้าบ้านมาถึง 2 ทางเหมือนบ้านหลังใหญ่เลยครับ
แปลนชั้น 2 จุดเด่นคือ พื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ เช่น เราสามารถเปิดโล่งเชื่อมต่อกับโถงบันไดให้ดูกว้างขวางเหมือนเดิม หรือจะกั้นห้องให้เป็นสัดส่วนไปเลยก็ได้ และอีกหนึ่งไอเดียคือการทุบผนังเชื่อมต่อกับห้องนอนข้างๆ เพื่อขยายพื้นที่ใช้สอยภายในให้กว้างขวางมากขึ้น
- BELLATRIX บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 57.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 256 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องรับประทานอาหาร / ที่จอดรถ 3 คัน
เป็นบ้านไซส์เล็กสุดของโครงการ สิ่งที่แตกต่างจากบ้านหลังอื่นๆก็คือ ‘มีการลดทอนห้องแม่บ้านออกไป’ จึงทำให้เหมาะกับคนที่ไม่ได้มีแม่บ้านพักประจำอยู่แล้ว อีกทั้งยังช่วยทำให้ห้องนอนชั้นล่างมีขนาดพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางมากขึ้นด้วยครับ เหมาะกับคนที่ต้องการทำเป็นห้องผู้สูงอายุ หรือจะปรับเป็นห้องอื่นๆก็ได้ตามต้องการ
แปลนชั้น 2 จุดเด่นยังคงเป็นพื้นที่อเนกประสงค์เหมือนเดิม แต่มีความพิเศษคือ เราสามารถเลือกทุบผนังเพื่อขยายพื้นที่ใช้สอยในห้องนอนได้ 2 ทาง ไม่ว่าจะเป็นการขยายห้อง Master Bedroom ที่ใหญ่อยู่แล้วให้ใหญ่มากขึ้นไปอีก หรือจะขยายห้องนอนเล็กที่อยู่ข้างๆ ให้กลายเป็น Master Bedroom ที่ 2 ไปเลยก็ได้ครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะ
ราคา
The City Kallapaphruek ราคา ณ วันที่ 7 ธันวาคม 2566
- BELLATRIX บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 57.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 256 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องรับประทานอาหาร / ที่จอดรถ 3 คัน
– ราคาเริ่มต้น 17.59 ล้านบาท - KAIRA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 62 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 285 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องแม่บ้าน / ที่จอดรถ 3 คัน
– ราคาเริ่มต้น 18.99 ล้านบาท - DIONNE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 313 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องแม่บ้าน / ที่จอดรถ 3 คัน
– ราคาเริ่มต้น 20.99 ล้านบาท - EMERALD บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 81.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 351 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องพระ / 1 ห้องแม่บ้าน / ที่จอดรถ 3 คัน
– ราคาเริ่มต้น 22.79 ล้านบาท - GODIVA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 91.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 416 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องพระ / 1 ห้องแม่บ้าน / ที่จอดรถ 4 คัน
– ราคาเริ่มต้น 27.59 ล้านบาท - ค่าจอง n/a บาท
- ค่าทำสัญญา n/a บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 180,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 32 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- Promotion : ลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่ม 200,000 บ. / จองภายในวัน Presale (16-17 ธ.ค. นี้) รับทองคำทูลค่าสูงสุด 200,000 บ.*
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่กัลปพฤกษ์ สามารถกลับรถเพื่อเข้าเมืองไปสาทรได้ง่าย หรือจะไปใช้ถนนกาญจนาภิเษก และทางด่วนเฉลิมมหานครก็สะดวก อีกทั้งยังมีรถไฟฟ้าตรงเพชรเกษม-บางหว้า เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางอีกได้ด้วย ส่วนในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ไม่ต้องพูดถึงครับ เพราะย่านนี้เป็นชุมชนดั้งเดิมและมีหมู่บ้านเยอะมาก ดังนั้นจึงมีทั้งตลาดและซูเปอร์มาร์เก็ตครบครันเลย
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ใช้ระบบ Katsan มาตรฐานความปลอดภัยจาก AP เข้า-ออกด้วยการจดจำทะเบียนรถ พร้อมกล้อง CCTV มีระบบนัดหมายล่วงหน้า และ รปภ. คอยดูแลตลอด 24 ชม. ส่วนภายในตัวบ้านก็จะมีสัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor ทั้งชั้น 1 – 2 และระบบ Shock Sensor ชั้น 1 + Digital Door Lock และ IP Camera อีก 2 ตัวทุกหลัง คือว่าให้มาครบครันดีครับ
การออกแบบโครงการ : มียูนิตน้อยเป็นส่วนตัวเพียง 114 หลัง และจัดให้พื้นที่ส่วนกลางอยู่บริเวณด้านหน้าสุด สามารถใช้เป็นส่วนต้อนรับและรับรองแขกเป็นหน้าเป็นตาได้ดี ในด้านผังบ้านก็มีตำแหน่งที่น่าสนใจหลายจุดเลยครับ โดยเฉพาะบ้านในเฟสแรกที่อยู่หน้าสวนถือเป็น Rare Item ที่มีอยู่เพียงไม่กี่หลังเท่านั้น ซึ่งครบเครื่องทั้งเรื่องบรรยากาศ ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก และเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีบ้านที่อยู่ภายในซอยย่อย มีเพื่อนร่วมซอยน้อยไม่พลุกพล่านเพียง 1 – 4 และ 9 – 11 หลังเท่านั้น หรือจะเป็นบ้านที่ไม่ต้องหันหน้าชนกับใครเลยก็มีครับ ใครชอบแบบไหนก็สามารถเลือกตามที่ต้องการได้เลย
การออกแบบตัวบ้านและพื้นที่ใช้สอย : มีแบบบ้านให้เลือกเยอะถึง 5 แบบ มีจุดเด่นและตอบโจทย์ความต้องการของคนที่ไม่เหมือนกันได้หลากหลาย ซึ่งจะเป็นบ้านเดี่ยวหน้ากว้างพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชันเยอะ อีกทั้งยังมีฟังก์ชันยืดหยุ่นสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ โดยเฉพาะห้องนอนชั้นล่างและพื้นที่อเนกประสงค์ชั้นบนที่จะมีอยู่ในทุกแบบบ้าน
สำหรับบ้านหลังใหญ่สุด GODIVA เรียกได้ว่าให้พื้นที่ใช้สอยมาเยอะสุดในย่านเลยก็ว่าได้ครับ เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ที่อยู่ด้วยกันแบบ 3 Genration เพราะมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นที่จอดรถ 4 คัน มีทางลาดให้เข้าบ้านได้สะดวก และห้องนอนชั้นล่างที่มีห้องน้ำสำหรับผู้สูงวัยโดยเฉพาะ เป็นต้น
ส่วนบ้านอื่นๆ ก็จะมีจุดเด่นเป็นของตัวเองแตกต่างกันออกไป เช่น EMERALD จะใช้บันไดกลางบ้านในการแบ่งโซนแขก และโซนพักผ่อนแยกจากกันได้ชัดเจน / DIONNE ได้พื้นที่ Double Volume ขนาดใหญ่ และเน้นพื้นที่พักผ่อนเป็นส่วนตัวอยู่ด้านหลังบ้าน / KAIRA สามารถแบ่งโซนแขกแยกออกมาได้ชัดเจน ด้วยประตูทางเข้า 2 ทาง และมีช่วงเสาที่กั้นห้องได้ง่าย / BELLATRIX ได้ห้องนอนชั้นล่างขนาดใหญ่ และพื้นที่อเนกประสงค์ด้านบนก็สามารถเลือกที่จะทุบขยายห้องนอนได้ถึง 2 ห้อง
วัสดุ : โครงสร้างเป็นระบบ Conventional หรือการก่ออิฐมวลเบา ที่นอกจากจะมีความแข็งแรงแล้ว ยังง่ายต่อการทุบ/เจาะ/ต่อเติมอีกด้วย ซึ่งเหมาะกับแบบบ้านของโครงการนี้ที่มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้หลากหลายตามต้องการ ส่วนพื้นที่จอดรถจะเป็นแบบ Slab on Ground พร้อมปู Concrete Stamp มาให้เป็นมาตรฐาน
ทางเข้าหลักจะเป็นประตูบานไม้สักแท้ขนาด Oversize แถมยัง Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้พร้อมใช้งานด้วย แต่พื้นชั้นบนยังคงเป็นไม้ลามิเนต และได้สุขภัณฑ์จาก American Standard พิเศษหน่อยสำหรับห้องนอนใหญ่ จะมีอ่างอาบน้ำและติดฉากกั้นกระจกมาให้ด้วย ภาพรวมผมถือว่าให้มากลางๆ เป็นมาตรฐานสำหรับราคานี้ครับ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : ถ้าเทียบกับแบรนด์ The City ด้วยกันเอง ผมถือว่านี่เป็นหนึ่งในโครงการที่จัดสวนสาธารณะออกมาได้สวยงาม และดูร่มรื่นดีทีเดียวครับ เพราะเค้าจะมีการเลือกใช้พันธุ์พืชที่ค่อนข้างหลากหลาย แถมยังมีต้นไม้ขนาดกลางและต้นไม้ขนาดใหญ่เยอะอีกด้วย
โดยเฉพาะบริเวณถนนหลักของโครงการ ไล่มาตั้งแต่ถนนใหญ่มาจนถึงด้านใน รวมถึงยังมีต้นไม้ใหญ่ตรงวงเวียนดูสวยงามดีด้วย ส่วนภายในบ้านก็มีการจัดสวนมาให้ตามมาตรฐาน ที่ไม่ใช้แค่ปูหญ้าเท่านั้น แต่ยังมีทั้งไม้พุ่มและไม้ยืนต้นด้วย ผมแนะนำให้ลองไปเดินดูบรรยากาศของจริงกันดูได้ครับว่าชอบหรือเปล่า
สาธารณูปโภค : มีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ และเพียงพอต่อการใช้งานได้สบายๆ ซึ่งจะให้ความสำคัญกับฟังก์ชัน Indoor และ Outdoor พอๆกัน โดยจะออกแบบให้พื้นที่แต่ละส่วนแยกออกจากกันชัดเจน ไม่สามารถเดินเชื่อมต่อหรือมองเห็นกันได้ง่ายแบบโครงการอื่น
จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวในการใช้งานที่ดีมาก ไม่ว่าจะเป็น Lobby ที่มีผนังทึบแยกจากสระว่ายน้ำ หรือแม้แต่ตัว Clubhouse เองก็ไม่สามารถเดินไปยังสวนได้โดยตรง แต่จะต้องอ้อมไปด้านหน้าหรือด้านหลังแทนครับ
โซนที่ชอบสำหรับโครงการนี้คงหนีไม่พ้นพื้นที่ Outdoor ในสวนอย่าง Playground ที่เป็นบ้านต้นไม้ขนาดใหญ่ เห็นได้ชัดว่าเค้าให้ความสำคัญกับฟังก์ชัน ที่ตอบโจทย์คนมีครอบครัวหรือมีลูกมากๆ รวมถึงยังมี Pet Park ที่มาพร้อมอุปกรณ์ฝึกแบบจริงจังสำหรับสัตว์เลี้ยงด้วย เมื่อรวมกับบรรยากาศของสวนที่สวยงามร่มรื่น จึงทำให้มีความน่าใช้งานมากๆครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 17.59 – 27.59 ล้านบาท, 7 ธันวาคม 2566
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ติดถนนใหญ่กัลปพฤกษ์ เข้าเมืองไปสาทรได้ง่าย หาของกินได้ไม่ยาก
- ความปลอดภัย 8/10 – ระบบ KATSAN / สัญญาณกันขโมยในบ้านครบชุดทั้ง 2 ชั้น
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – บ้านหน้ากว้าง พื้นที่ใช้สอยเยอะ ฟังก์ชันยืดหยุ่น ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว
- วัสดุ 7.5/10 – โครงสร้าง Conventional ต่อเติมง่าย / ประตูไม้สักแท้ / Built ครัวครบชุด
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.5/10 – สวนขนาด 1 ไร่นิดๆ บรรยากาศดี ต้นไม้เยอะ พร้อมจัดสวนในบ้านให้ด้วย
- สาธารณูปโภค 8/10 – ฟังก์ชันครบ มีทั้งโซน Indoor และ Outdoor เพียงพอในการใช้งาน
- 8.08 / 10.00
The City Kallapaphruek (เดอะ ซิตี้ กัลปพฤกษ์) เหมาะกับใคร
โครงการ เดอะ ซิตี้ กัลปพฤกษ์ เหมาะกับคนที่มองหาบ้านเดี่ยวติดถนนกัลปพฤกษ์ ที่สามารถเข้าเมืองไปทางสาทรได้ง่าย หรือจะไปใช้ถนนกาญจนาภิเษกก็สะดวก เป็นโครงการที่เป็นส่วนตัว ยูนิตน้อย เน้นบ้านหน้ากว้างพื้นที่ใช้สอยเยอะ ฟังก์ชันยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ง่าย และเหมาะกับการอยู่แบบ 3 Generation อีกทั้งยังมีส่วนกลางและสวนสาธารณะที่บรรยากาศดี ดูร่มรื่นสวยงามน่าใช้งาน โดยมีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 17.59 – 27.59 ล้านบาท