รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.247 – รีวิวบ้านเดี่ยว The City สุขุมวิท-แยกบางนา
6 ตุลาคม 2016
รีวิวฉบับที่ 759 … วันนี้ผมจะพาไปดูโครงการ The City สุขุมวิท – แยกบางนา บ้านเดี่ยวจาก AP สำหรับแบรนด์นี้ Mr.Oe และ Mr.Boom ได้เคยพาไปดูมาบ้างแล้วเมื่อปีที่แล้วมาปีนี้แบรนด์ The City ก็เปิดตัวกันตั้งแต่ต้นปีเลยโดยจะเริ่มขายประมาณดือน ก.พ. นี้ครับ ตัวโครงการจะอยู่บนถนนสรรพาวุธอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนแยกบางนาและถนนรางรถไฟสายเก่า ซึ่งทำเลแถวๆนี้ในเราจะไม่ค่อยได้เห็นการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวซักเท่าไหร่ส่วนวใหญ่จะนำพื้นที่ไปพัฒนาเป็นตอนโดซะมากกว่า
Fact @ 21 January 2015
- The City Sukhumvit – Bangna (เดอะ ซิตี้ สุขุมวิท-แยกบางนา)
- AP(Thailand) PLC.
- Segment : HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางนา
- เนื้อที่โครงการ 23 ไร่
- จำนวนยูนิต 94
- บ้านเดี่ยว Miro พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- ที่ดินแปลงมาตรฐาน 53.6 ตร.วา
- ราคาเริ่มต้น 9.89 ล้านบาทหรือ 184,514 บาท/ตร.วา
- บ้านเดี่ยว Parco พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- ที่ดินแปลงมาตรฐาน 63 ตร.วา
- ราคาเริ่มต้น 13.89 ล้านบาทหรือ 220,476 บาท/ตร.วา
- http://www.apthai.com/most-
release/ - Call Center : 1623
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ
พิกัด : 13.675142, 100.596018
แผนที่จากโครงการจะเห็นว่าเค้าเน้นจุดขายไปที่ระยะจากโครงการอยู่ไม่ไกลจาก BTS ที่เค้าชูจุดขายนี้ก็เพราะพื้นที่ในบริเวณนี้ส่วนใหญ่จะถูกเอาไปทำเป็นคอนโดซะเยอะ หลังๆมานี้เราจะไม่ค่อยได้เห็นโครงการบ้านเดี่ยวที่เปิดตัวในย่านนี้ซักเท่าไหร่ ยิ่ง BTS ส่วนต่อขยายแบริ่ง – สมุทรปราการใกล้เสร็จแล้วด้วยโครงการที่มาเปิดส่วนใหญก็จะเป็นคอนโดซะหมด
ทำเลตรงนี้ยังมีข้อดีหลายข้ออยู่เหมือนกันอย่างแรกเลยคืออยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน ด่านบางนา ถ้าใครที่ชอบใช้ทางด่วนเป็นประจำน่าจะชอบเพราะออกจากบ้านมานิดเดียวก็ขึ้นทางด่วนได้แล้วหรือขากลับลงทางด่วนมาก็มีระยะกลับรถที่ไม่ไกลมาก การเดินทางก็มีเส้นทางให้เลือกหลายเส้นทางไม่ว่าจะเป็นเส้นสุขุมวิท, บางนาตราด, ถนนรางรถไฟสายเก่า หรือศรีนครินทร์ การเข้าเมือถ้าไม่กลัวรถติดก็ไช้เส้นสุขุมวิทไปได้ หรือถ้าไม่กลัวรถใหญ่ก็ใช้เส้นรางรถไฟสายเก่าไปพระราม 4 ได้
สำหรับความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการในระยะใกล้นั้นไม่ค่อยจะมีมากนักเพราะส่วนใหญ่เป็นพื้นที่อาคารสำนักงาน, อาคารพาณชิย์, หน่วยงานราชการต่างๆ และสถาบันการศึกษา ถ้าจะเดินห้างชอปปิ้งต้องไปบนเส้นบางนาจะดีกว่าเพราะมีทั้งเซ็นทรัล, Big C, Tesco Lotus, Index Living Mall และ Mega บางนา หรือถ้าวิ่งไปไกลอีกหน่อยก็จะมี Seacon กับ Paradise บนเส้นศรีนครินทร์ให้เลือกอีกจุด แถวๆนั้นจะมีร้านอาหารอีกหลายประเภท หลายระดับราคาให้เลือกด้วย
ส่วนห้างสุดท้ายที่ต้องขอพูดถึงหน่อยคือ The Bangkok Mall ที่จะมาเปิดในอนาคตซึ่งอยู่ตรงแยกบางนาพอดี แถมเป็นโครงการที่ใหญ่โตมโหฬารพอสมควรเลย ถ้าสร้างเสร็จเมื่อไหร่ลูกบ้านก็สบายเลยครับเพราะอยู่ห่างจากห้างนี้แค่ประมาณ 1.5 กม.เท่านั้นเองไม่ต้องวิ่งไปถึงเซ็นทรัลแล้ว แต่ปัญหาเรื่องรถติดกระหน่ำก็คงคามมาอีกเช่นกัน การมาของห้างนี้ช่วยดันให้ราคาที่ดินแถวสูงขึ้นไปอีกดังนั้นโครงการในอนาคตแถวๆนี้ก็จะมีต้นทุนของที่ดินที่สูงขึ้นตามไปด้วย
ทีนี้มาดูการใช้งาน BTS บ้าง ตัวสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีบางนาถ้านับระยะเดินจากหน้าโครงการจะได้ประมาณ 2 กม. ก็คงต้องใช้บริการรถสาธารณะหน้าโครงการอีกต่อนึง แต่ถ้าจะให้คนที่บ้านไปส่งก็วิ่งออกจากโครงการไปกลับรถที่จุดกลับรถบนนเส้น สรรพาวุธซึ่งอยู่ไม่ไกล แล้วเลี้ยวเข้าเส้นสุขุมวิทก็ถึงสถานีแล้ว ขากลับก็ไปกลับรถหน้าซอยรพ.มนารมย์ซึ่งอยู่ห่างจากตัวสถานีไปนิดเดียว
ตัวโครงการนั้นตั้งอยู่ในซอยย่อยอีกทีนะครับไม่ได้อยู่ติดกับถนนสรรพาวุธซะทีเดียว ระยะห่างจากปากซอยไปถึงปากทางเข้าโครงการประมาณ 340 ม. และซอยนี้อยู่ห่างจากแยกบางนาประมาณ 1.18 กม. รวมๆแล้วก็ประมาณ 1.5 กม.พอดีๆ ซอยนี้เป็นซอยที่เชื่อมระหว่างเส้นสุขุมวิท บางนา และ รางรถไฟสายเก่าเข้าด้วยกันทำให้มีรถมาใช้ถนนเส้นนี้ค่อนข้างเยอะและมีรถใหญ่ใช้งานเป็นประจำ ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเส้นรางรถไฟสายเก่าจะเชื่อมต่อไปยังแหล่งอุตสาหกรรมหลักย่านาสำโรง แลพ ปู่เจ้าสมิงพรายแถมยังเชื่อมไปยังท่าเรือคลองเตยได้อีก รถที่จะไปท่าเรือก็จะเลี่ยงการวิ่งบนเส้นสุขุมวิทมาที่เส้นนี้แทนครับ
การเดินทางในวันนี้จะพาคุณผู้อ่านไปแบบง่ายๆเลยคือเริ่มจากแยกอุดมสุขวิ่งผ่านแยกบางนาเลี้ยวขวาเข้าเส้นสรรพาวุธแล้วเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าโครงการ
วันนี้ผมจะเริ่มจากแยกอุดมสุขนะครับ
วิ่งตรงมาเจอแยกบางนาพอเห็นป้ายก็ชิดขวาเพื่อเข้าถนนสรรพาวุธได้เลยครับ
ตรงแยกบางนาสามารถเลี้ยวขวาได้ 2 ช่องนะครับ ช่วงไหนรถเยอะจะได้ไม่ต้องรอที่ช่องขวาสุดช่องเดียว
พอเลี้ยวขวามาจะเจอ ตลาดสี่แยกบางนา อยู่ด้านซ้ายมือตลาดนี้เป็นตลาดสดที่ใกล้โครงการมากที่สุดครับและยังเป็นจุดต่อรถสาธารณะต่างๆอีกด้วย
ตัวถนนสรรพาวุธจะมีขนาด 6 เลนแบ่งเป็น 2 ฝั่งมีเกาะกลางคั่นการกลับรถเลยไม่ยากเท่าไหร่
ผ่านวิทยาลัยอรรถวิทพาณิชยการด้านขวามือ
ถ้าเห็นอาคารสำนักงาน Country Tower ก็แสดงว่าใกล้ถึงโครงการแล้วครับ
ตัวโครงการจะอยู่ในซอย ออนป้า อีกทีครับ…แหม่ เห็นชื่อซอยแล้วนึกถึงเพลงดังๆในยุค 90 เลยครับ ออกลายมาเลย ออกลายให้เห็น เผยที่เป็นว่าจะร้ายสักเท่าไหร่ ออกลายมาเลย ออกลายให้เห็น เผยที่เป็นตัวจริงอันน่ากลัววววว… ใกล้ร้องตามได้นี่ยุคเดียวกับผมเลยครับ 555
กลับมาเข้าเรื่องต่อดีกว่า พอเข้ามาในซอยจะเจอตัวถนนที่ค่อนข้างกว้างพอสมควร ถนนนี้ไม่ใช่ถนนของโครงการนะครับเป็นถนนสาธารณะที่ใช้ร่วมกับคนอื่น
พอเลี้ยวเข้ามาสุดทางจะเจอสะพานข้ามคลองบางนา ก่อนข้ามคลองมีกลุ่มคอนโด 4 ตึกอยู่ด้านซ้ายชื่อว่า บางนาเพลซ ตัวตึกสูง 8 ชั้นครับ
มาดูขอบเขตที่ดินกันต่อนะครับ ที่ดินของโครงการนี้จะเป็นแนวยาวๆ โดยพื้นที่เริ่มจากริมคลิงบางนามาจนถึงหมู่บ้านด้านท้ายโครงการ รอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยวสูงประมาณ 2 ชั้น ทั้งหมดจะมีติดกับพื้นที่ว่างเปล่าบ้างนิดหน่อยตัว Club House จะอยู่ด้านหน้าสุดของโครงการ ระยะจากหน้าสุดไปยังท้ายสุดของโครงการก็ยาวแค่ประมาณ 350 ม.เท่านั้นเอง
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- เซ็นทรัลบางนา – 4.5 กม.
- ไบเทคบางนา – 4.1 กม. (รวมระยะกลับรถแล้ว)
- มูลนิธิสายใจไทย – 350 ม.
- BTS บางนา – 2 กม.
- Mega บางนา – 10.5 กม.
- ทางด่วนบางนา – 1.7 กม.
พอข้ามคลองมาแล้วจะเจอกับซุ้มทางเข้าของโครงการเลย
ขนาดตัวซุ้มทำมาให้ค่อนข้างใหญ่และให้หลังคามาด้วยเวลาฝนตกก็ไม่ต้องกลัวเปียกเลย
ระบบความปลอดภัยด้านหน้าโครงการจะมีกล้อง CCTV 2 ตัวแบบส่องป้ายทะเบียนและหน้าตาของผู้มาติดต่อ มีระบบ Key card Access และประตูรั้ว 2 ชั้น แบบรั้วกั้นไม้กระดกและประตูเลื่อนไฟฟ้า น่าเสียดายว่าระบบ CCTV ให้กล้องมาน้อยไปหน่อยน่าจะมีติดตั้งภายในโครงการด้วย
ถนนหลักภายในโครงการจะกว้าง 12 ม. และถนนรองตามซอยต่างๆจะกว้าง 9 ม.พอเข้ามาในโครงการจะมี Club House อยู่ด้านซ้ายมือและยูนิตพักอาศัยด้านขวามือ
บริเวณ Club House จะมีสนามหญ้ามาให้ค่อนข้างกว้าง แต่ให้ต้นไม้มาน้อยไปหน่อย ตัวอาคาร 2 ชั้นจะอยู่ริมสุดอีกด้าน
มุมจากในสวนหันไปทางบริเวณพักอาศัย
หันไปดูทางด้านหน้าจะเห็นคอนโด บางนาเพลซ ตั้งอยู่ ดูจากตรงนี้ดูเหมือนตัวคอนโดจะติดกับโครงการแต่จริงๆแล้วจะมีคลองกั้นอยู่นะครับ
ตลอดระยะเวลาที่เดินถ่ายรูปในโครงการผมจะได้ยินเสียงเพลงตลอดซึ่งทางโครงการเค้าติดลำโพงแบบใช้กลางแจ้งมาให้ด้วย ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้กับโครงการได้เป็นอย่างดีเลยครับ
มาถึงตัว Club House บ้างลักษณะอาคารจะมาแบบเรียบๆง่ายๆดสไตล์ Modern ตามสมัยนิยม จะว่าไปแล้วหน้าตาก็ดูคล้ายๆกับ The City งามวงศ์วาน มากเลยนะครับ อิอิ
ตัวสระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ แต่ขนาดไม่ใหญ่มากประมาณ 8 x 5.4 ม. แบ่งสระเด็กและผู้ใหญ่ลึก 1.2 ม.
ประตูทางเข้าภายในอาคารจะอยู่ด้านหน้าซึ่งตอนนี้ทำเป็นสำนักงานขายอยู่
เดิอนเข้ามาด้านในจะมีโซฟาไว้ให้บรรดาผู้ปกครองมาเฝ้าลูกหลานเล่นน้ำได้อย่างใกล้ชิดเลย
ห้องน้ำจะอยู่ด้านหลังตัวสระอีกที
ขนาดห้องน้ำก็ไม่ใหญ่เป็นไปตามสัดส่วนของหมู่บ้าน ตัวเคาน์เตอร์จะได้เป็นหินแกรนิตดำพื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิก
ภายในจะแบ่งเป็นห้องอาบน้ำและห้องน้ำอย่างละห้อง
เดี๋ยวขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อนะครับ
ชั้น 2 ห้องที่ติดกับบันไดทางขึ้นจะเป็นห้องทำงานของนิติบุคคลส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้อง Fitness
ภายในจะวางเครื่องเล่นได้ประมาณ 4 เครื่อง
ขนาดค่อนข้างเล็กไปหน่อยยังดีที่โครงการนี้มีจำนวนยูนิตไม่เยอะมากไม่อย่างนั้นไม่พอใช้แน่นอน
มุมมองจากห้อง Fitness ที่ได้ืถอว่าดีหน่อยเพราะได้วิวสวยเขียวๆแบบนี้เลยครับ
ภายในโครงการจะมีการปลูกไม้พุ่มกั้นไว้ให้ตลอดทางที่เป็นถนนหลัก และมีต้นไม้ลงไว้เป็นระยะเมื่อเวลาผ่านไปหลายปีหน่อยบ้านที่อยู่แปลงมุมก็จะได้ร่มเงาไปด้วย
รูปร่างหน้าตาของบ้านจะออกมาประมาณนี้ ว่าแล้วก็ตามผมไปดูรายละเอียดตัวบ้านกันดีกว่าครับ
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 8 x 5.4 ม. แบ่งสระเด็กและผู้ใหญ่ลึก 1.2 ม.
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 4 เครื่อง
- สวนสาธารณะ 1 จุด
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate 1 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
- Key Card Access ระยะใกล้
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก และ เลื่อนไฟฟ้า
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
- ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
แบบบ้านของที่นี่ของจริงยังไม่ออกนะครับเพราะยังไม่เปิดขาย แต่ผมขอยืมตัวแบบมาจาก The City งามวงศ์วาน เพราะมีลักษณะคล้ายๆกันจะต่างกันแค่รายละเอียดบางจุดเท่านั้น แปลนชั้น 1 ของ Miro ก็จะแบ่งทางเข้าเป็น 2 ทาง มีทางเข้าจากลานจอดรถ และ ทางเข้าฝั่งห้องรับแขก ฟังก์ชั่นด้านล่างจะเป็นส่วนของ Living Area ทั้งหมด มีห้องรับแขก, ห้องรับประทานอาหาร, แพนทรี่, ครัวไทย, ลานซักล้างหลังบ้าน และ ห้องน้ำชั้นล่าง (ที่ใช้อาบน้ำได้ด้วย)
แปลนชั้นสองจะเป็นส่วนของห้องนอน ประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้อง ห้องน้ำ 3 ห้อง และห้องนั่งเล่น “Family Room” ที่อยู่บนชั้นสอง ห้อง Master Bedroom กับ ห้องนอนที่ 2 ที่อยู่ส่วนหน้าบ้าน จะมีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนที่ 3 ที่เป็นห้องเล็กสุดจะไม่มีห้องน้ำในตัว และจะใช้ห้องน้ำร่วมกับห้อง Family Room ที่อยู่ด้านบน
หน้าตาบ้านแบบ Miro จะมีระเบียงแค่ด้านเดียวแต่ถ้าเป็น Parco จะได้ระเบียงทั้ง 2 ด้านเลย สำหรับโทนสีทีใช้จะเน้นสีอ่อนเป็นหลักและแทรกด้วยสีเทาเข้มบางส่วนทำให้ตัวบ้านดูมีมิติมากขึ้น รั้วบ้านจะสูงประมาณ 1.5 เมตร
ประตูรั้วจะเป็นโครงกเหล็กโปร่งๆแบบนี้และมีประตูเล็กสำหรับเดินเข้าแยกจากประตูรถ
ริมรั้วฝั่งนึงจะมีช่องใส่ขยะมาให้เวลาทิ้งขยะจะได้ไม่ต้องเดินออกไปนอกบ้าน
ลานจอดรถจะได้เป็นหินล้างแบบรูปล่างนะครับ รูปบนเป็นของบ้านตัวอย่าง
จากโรงจอดรถจะมีประตูเข้าไปทางห้องครัวได้พื้นที่จอดรถจะแยกโครงการสร้างกับตัวบ้านโดยระหว่างรอยต่อโรยด้วยหินแม่น้ำ
ที่กำแพงโรงจอดรถมีช่องเก็บของมาให้เอาไว้เก็บพวกอุปกรณ์ทำสวนหรือล้างรถ
ด้านหน้าบ้านจะปูหญ้าและลงต้นไม้ไว้ 1 ต้น
ด้านข้างฝั่งที่เป็นห้องนั่งเล่นจะได้กระจกบ้านใหญ่
ส่วนด้านหลังที่ติดกับห้องทานอาหารเป็นพื้นที่ไว้วางงานระบบถังบำบัดต่างๆ
และส่วนครัวจะมีลานซักล้างมาให้
กลับมาดูที่หน้าบ้านกันต่อนะครับ ทางเข้าบ้านจมีเฉียงมาให้กว้างกำลังดีและมีบันไดจากพื้นดินขึ้นมา 1 ขั้น
ตัวบ้านจะยกสูงขึ้นมาจากเฉลียงอีกประมาณ 10 ซม.ประตูหน้าบ้านเป็นแบบบานเลื่อนสลับ กรอบประตูทั้งหมดจะเป็น UPVC สีขาวนะครับ ส่วนพื้นบ้านได้เป็นพื้นแกรนิดโต้ขนาด 60 x 60 ซม.
โซนแรกของบ้านยังคงเริ่มต้นที่ห้องนั่งเล่น ผมเอาบ้านเปล่ามาเทียบให้ดูว่าจะได้ช่องแสงตรงจุดไหนมาบ้าง จะเห็นตรงฝั่งที่เป็นโต๊ะทานอาหารจะได้เป็นบานประตูเลื่อนมาเลยเอาไว้มองสวนด้านข้างได้
โซฟาสามารถวางแบบ 3 ที่นั่งขนาดใหญ่แล้วยังมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะกลาง
พื้นที่วางทีวีสามารถตกแต่งเพิ่มเติมได้อย่างเต็มที่ โดยมีระยะดูทีวีประมาณ 3.2 เมตร สามารถใส่ทีวีขนาด 60″ ได้เลย
ส่วนถัดมาจะเป็นพื้นที่ทานอาหารที่ต่อเนื่องกับพื้นที่หน้าห้องครัว ซึ่งตรงนี้สามารถต่อเติม Pantry แบบในบ้างตัวอย่างนี้ก็ได้นะครับเพราะเค้าออกแบบเผื่อเอาไว้ให้แล้ว
ถ่ายมุมโซนอาหารเอามาให้ดูว่าถ้าใครชอบสวนแนะนำให้ตกแต่งสวนที่มุมนี้จะคุ้มค่ามาก เพราะนอกจากจะช่วยให้บ้านดูร่มรื่นขึ้นแล้วยังช่วยให้มุมนี้ได้ดูสวนไปด้วย
ประตูทางเข้าบ้านจากโรงจอดรถจะเป็นทางเข้ามายังห้องครัวเวลาไปซื้อข้าวของมาทำครัวจะได้เข้าไปเก็บของโดยไม่ต้องผ่านห้องนั่งเล่น
ประตูของห้องครัวที่ให้มาจะเป็นแบบบ้านเลื่อกระจกพร้อมซีลสักหลาดกันกลิ่นไหลออกจาห้องครัว
ครัวของที่นี่จะแถมเคาน์เตอร์ชุดล่างมาให้ด้วยแต่ครัวชุดบนต้องไปทำเอาเองนะ ตัวท๊อฟเคาน์เตอร์จะได้เป็นหินแกรนิต และมีปูกระเบื้องที่ผนังกันเลอะมาให้ด้วย เวลาทำความสะอาดก็ง่ายหน่อย ด้านขวาของรูปที่เห็นว่างๆนี่เค้าเว้นไว้ให้วางตู้เย็นนะครับ
ตัวอ่างล้างจานได้ของ Teka แบบ 2 หลุมพร้อมที่พักจานมาให้ และมือจับก็จับถนัดและนุ่มมือดี
การแบ่งช่องเก็บของต่างๆ ถ้าเป็นลิ้นชักจะมีถาดวางของและก้านแบ่งช่องมาให้
ที่ดูดควันไม่ได้ให้มานะครับ ให้มาแต่เตาแก๊ซ 4 หัว
ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นพื้นที่ไว้วางเครื่องซักผ้าพร้อมมีงานระบบมาให้
พื้นของห้องครัวจะลดระดับลงมา 10 ซม.ช่วยให้เวลาล้างทำความสะอาดทำได้ง่ายขึ้นเยอะจะเอาน้ำล้างทั้งห้อง ก็ไม่ต้องกลัวกระเด็นไปส่วนอื่นๆ
กลับมาดูที่ทางเข้าจากโรงรถกันต่อส่วน เนื่องจากบ้านของที่นี่จะแถมสัญญาณกันขโมยมาให้ทั้ง 2 แบบ Shock Censer และ Magnetic Censer ทำให้เราจะเห็นก้อนเซนเซอร์แบบในรูปตามประตูหน้าต่างแบบในรูปนะครับ
กล่องเมนไฟของบ้านจะอยู่ที่หน้าห้องน้ำแบ่งเป็นระเบียบไว้อย่างชัดเจน
ห้องน้ำชั้นล่างจะมีโซนอาบน้ำมาให้แต่ไม่มีฉากกั้นก็แนะนำเหมือนทุกครั้งว่าให้ติดเพิ่มนะครับ พื้นที่ในห้องน้ำค่อนข้างกว้างกำลังดีกับการใช้งาน โดยมีช่องแสงบริเวณที่อาบน้ำมาให้ 1 จุด
ตัวกระจกที่ได้จะเป็นบานใหญ่แบบนี้เลยแต่ไม่มีกรอบหรือเคาน์เตอร์มาให้ซึ่งถือว่าให้มาน้อยไปหน่อย เวลาใช้งานจริงจะมีปัญหาเรื่องที่วางข้าวของต่างๆ อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ได้ของ KOHLER
แต่ในโซนอาบน้ำจะดีหน่อยเพราะมีการเซาะร่องกำแพงเอาไว้ให้วางของ พร้อมมีก๊อกน้ำซักล้างติดมาด้วย ฝักบัวจะได้ของ Englefield
พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงมา 2 ครั้งเวลาติดตั้งฉากกั้นก็ติดตั้งบนพื้นได้เลยไม่ต้องก่อธรณีเพิ่ม
บริเวณโถงบันไดจะมีห้องเก็บของใต้บันไดมาให้
ภายในจะเก็บของได้เยอะแต่มีเหลี่ยมมุมที่ถูกเบียดมาจากตู้เก็บของด้านนอกทำให้มีจุดแคบอยู่นิดหน่อย
พื้นบันไดของที่นี่เป็นไม้ยางพาราประสานและพื้นชั้น 2 ได้เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ถ้าดูจากในรูปถือว่าช่างทำสีบันไดค่อนข้างเก่งนะครับทำได้ใกล้กับพื้นไม้ลามิเนตเลยดูเข้ากันดี ราวบันไดจะเป็นเหล็กทาสีขาว
เฉลียงได้แบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าเต็ม เพราะตัวบ้านมีขนาดใหญ่พอสมควรเลยไม่จำเป็นต้องลดขนาดของบันไดลง
ช่องแสงจะหันไปหน้าบ้านแบบตรงๆถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็ติดม่าน 2 ชั้นแบบบ้านตัวอย่างเลยครับจะยังคงได้แสงธรรมชาติอยู่
เมื่อขึ้นมาชั้น 2 จะมีพื้นที่ห้องอเนกประสงค์มาให้หนึ่งห้อง ในบ้านตัวอย่างจะเป็นห้องน้ำเล่น หรือ Family Room 2 แต่ถ้าใครอยากได้เป็นห้องทำงานหรือห้องพระก็ทำได้เช่นกัน
ประตูที่ได้จะมีหน้าตาแบบนี้นะ ผมไปถ่ายจากบ้านเปล่ามาให้ดูครับ
ถ้าขึ้นบันไดมาแล้วเลี้ยวขวาจะเป็นห้องนอนใหญ่
ภายในห้องนี้จะกินพื้นที่เกือบครึ่งนึงของชั้น 2 ทำให้มีพื้นที่เหลือตกแต่งได้อีกเยอะ
พื้นที่ของห้องนอนจะได้โปร่งๆแบบนี้ ฝ้าเพดานจะสูง 2.8 เมตร ห้องนอนใหญ่จะมีระเบียงให้ออกไปรับลมได้
กรอบยังคงเป็นแบบ UPVC มีซีลกันฝุ่นมาให้
ความกว้างของระเบียงประมาณ 1 ม.ก็พอให้วางกระถางต้นไม้ได้นิดหน่อย
ตัวรางประตูก็จะฝังลงไปที่ตัวพื้นห้องนอนเลยทำให้เวลาเดินจะไม่สะดุด และก็ไม่ต้องกลัวน้ำจากระเบียงจะไหลเข้าเพราะพื้นระเบียงต่ำกว่าพื้นห้องประมาณ 5 ซม.
หันกลับมาดูพื้นที่ถภายในห้องนอนต่อจากรูปบ้านเปล่าจะเห็นว่าปลายสุดของห้องมีหน้าต่างมาให้ด้วย แต่ถ้าใครอยากได้พื้นที่แต่งตัวแบบจัดเต็มเหมือนบ้านตัวอย่างก็ทำ Built-in ปิดไปเลยก็ได้
ส่วนพื้นที่วางเตียงก็วางเตียง 6 ฟุตไปได้เลย
ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จะมีขนาดใกล้ๆกับห้องอื่นๆแต่จะได้ชุดสุขภัณฑ์ที่ดีกว่า
รวมถึงฉากกั้นอาบน้ำด้วย
ฝักบัวเป็นแบบใหญ่ขึ้น
ตรงอ่างล้างหน้าจะเป็นขนาดใหญ่พร้อม Low Wall ตัวอ่างแบบนี้วัสดุเป็นไฟเบอร์นะครับ
ด้านล่างมีช่องเก็บของมาให้
ตรงข้ามกับห้องนอนใหญ่จะเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องพร้อมห้องน้ำรวมอีกห้อง
ห้องน้ำรวมจะได้ของเหมือนห้องน้ำชั้นล่างทุกอย่าง
ห้องนอนเล็กที่อยู่หลังบ้านจะได้บานหน้าต่างที่เล็กกว่าห้องที่อยู่หน้าบ้าน แต่ขนาดช่องแสงจะเท่าๆกัน
พื้นที่ห้องสามารถวางเตียงได้ถึง 5 ฟุตแต่ต้องยอมวางเตียงชิดผนังไปด้านนึง
ในบ้านตัวอย่างเค้าวางเตียงแค่ 3.5 ฟุตเลยมีพื้นที่เหลือข้างเตียงเยอะหน่อย
มาดูห้องนอนเล็กอีกห้องบ้าง ห้องนี้จะมีห้องน้ำในตัวแต่พื้นที่ห้องยังคงเท่าๆกัน
ใครอยู่ห้องนี้ก็แสดงว่าเป็นลูกคคนโปรด 555 เพราะเวลาจะเข้าห้องน้ำจะสบายหน่อยไม่ต้องเดินออกไปไหนครับ
การวางเฟอร์นิเจอร์ในห้องนี้จะวางยากหน่อยเพราะมีหน้าต่างบานใหญ่อยู่
หน้าต่างที่ได้จะใหญ่กว่าอีกห้องเพราะมีผนังด้านนึงติดเสาตรงกลางพอดี ด้านนั้นเลยได้แค่บานกระทุ้งไป
ตรงหน้าต่างเค้าจะติดราวกันตกมาให้ด้วย
ถ่ายอีกด้านของห้องให้ดูจะได้มองพื้นที่ออกว่าพอทำ Built-in อะไรได้
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
แบบบ้านอีกแบบหนึ่งคือ Parco พื้นที่ใช้สอย 275 ตารางเมตร ที่ดินขนาดเริ่มต้นที่ 62 ตารางวา มี 2 ชั้น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และ 1 ห้องแม่บ้าน ถ้าใครอยากอ่านรายละเอียดของตัวบ้านแบบนี้สามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่ครับ
แปลนบ้านหลังนี้จะมีจุดที่แตกต่างหลักๆจากหลังที่แล้วคือ ชั้นล่างจะเพิ่มห้องนอนเข้ามาอีก 1 ห้อง และเพิ่มส่วนซักล้างหลังบ้านให้ใหญ่ขึ้น รวมถึงมีห้องแม่บ้านมีห้องน้ำในตัวเพิ่มเข้ามาอีกห้องหนึ่ง
ส่วนแปลนชั้นสองก็จะคล้ายๆกับบ้านหลังที่แล้ว คือเป็น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 Family Room แต่ในห้องนอนหน้าบ้านจะมีระเบียงส่วนตัวด้วย
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 21 January 2015
- เนื่องจากโครงการยังไม่เปิดขายในวันที่เก็บข้อมูลทำรีวิว เลยเอาราคาเริ่มต้นมาให้ดูก่อนนะครับ
- บ้านเดี่ยว Miro พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 9.89 ล้านบาทหรือ 184,514 บาท/ตร.วา
- บ้านเดี่ยว Parco พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 13.89 ล้านบาทหรือ 220,476 บาท/ตร.วา
- จองและทำสัญญา N/A บาท
- ดาวน์ N/A ผ่อนดาวน์ N/A งวด
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ N/A บาท
- ค่าส่วนกลาง 48 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า N/A ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
ทำเลโครงการ The City สุขุมวิท – แยกบางนา ถือว่าเป็นทำเลบ้านเดี่ยวในย่านบางนาที่ค่อนข้างดีเพราะมีจุดเด่นเรื่องการเดินทาง ถึงแม้ตัวโครงการเองจะไม่ติดตัวถนนแต่ก็ยังเดินทางได้สะดวกอยู่ ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน มีระยะห่างจาก BTS บางนาประมาณ 2 กม.จากซุ้มประตูทางเข้าโครงการถือว่าไม่ไกลมากนักนะสำหรับระยะบ้านเดี่ยวอย่าเอาไปเทียบกับระยะเดินของโครงการประเภทคอนโดนะอันนั้นเกิน 800 ก็เดินเหนื่อยแหละ ระยะยังก็ต้องต่อรถ 1 ต่ออยู่แล้วหรือจะให้คนที่บ้านไปส่งก็ได้เพราะวนรถไม่ไกลมาก
การเดินทางโดยใช้รถ ถึงแม้ว่าตัวโครงการอยู่ในซอยออนป้าห่างจากถนนสรรพาวุธประมาณ 340 ม. การเดินทางยังถือว่าสะดวกเพราะมีจุดกลับรถอยู่ไม่ไกลจากปากซอย เวลาจะขึ้นทางด่วนที่ด่านบางนาก็กลับรถแล้วตรงไปนิดเดียวก็ถึง ในทางกลับกันลงทางด่วนที่ด่านบางนาแล้วเข้าถนนสุขุทวิทกลับรถมาที่แยกบางนาเลี้ยวขวาก็เข้าถนนสรรพาวุธได้เลย การเดินทางเข้าเมืองก็เข้าได้ไม่ยากมีทางเลือกให้เลือกได้อยู่ถ้าไม่กลัวรถติดก็ใช้สุขุมวิทได้เลย หรือถ้าจะไปโซนพระราม 4 ไปสาทรใช้ถนนรางรถไฟสายเก่าก็ได้แต่จะเจอรถใหญ่เยอะหน่อยนะ
ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการถือว่าเป็นจุดเด่นอีกจุดก็ได้ เพราะในอนาคตจะมี The Bangkok Mall มาเปิดให้บริการตรง 4 แยกบางนาพอดีแถมโครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ซะด้วย ถ้าสร้างเสร็จพื้นที่บริเวณจะคึกคักขึ้นมาอีกพอสมควรเลย นอกจากนี้แล้วพื้นที่เดิมๆจะมีเซ็นทรัลบางนาอยู่ถัดไป ถ้าเขยิบไปไกลอีกจะมี Mega บางนา และ Seacon กับ Paradise บนเส้นศรีนครินทร์ ส่วนตลาดสดจะอยู่ไม่ไกลจากโครงการเลยเพราะอยู่ตรงแยกบางนาพอดี ข้อด้อยหน่อยก็คือในระยะใกล้ๆจะไม่ค่อยมีของกินมากนัก ถ้าอยากได้ร้านอาหารทั่วไปแบบห้องแถวราคาไม่แพงก็ไปซอยสุขุมวิท 101/1 (วิชรธรรมสาธิต)ก็ได้ครับซอนนั้นของอร่อยเพียบเหมือนกัน
ความปลอดภัยของโครงการ อาจจะระยะให้เดินเข้าออกซอยซักหน่อยแต่ก็ถือว่ามีระยะไม่ไกลมาก ถ้าไม่ใช้รถก็ยังพอเดินเข้าไปได้เพราะก่อนถึงโครงการมีคอนโดตั้งอยู่ไม่ถึงกับเปลี่ยวนัก แต่กลางคืนก็จะเงียบๆหน่อยเพราะพื้นที่ด้านนึงยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่าอยู่ ส่วนตัวโครงการมีรั้วสูง 3 ม.ถือว่าสูงกำลังดี มีประตูรั้วให้ 2 แบบคือรั้วกั้นไม้กระดกและประตูเลื่อนไฟฟ้า น่าเสียดายที่มี CCTV ติดมาให้แค่ป้อมยามจุดเดียวน่าจะติดในส่วนต่างๆของโครงการด้วย ส่นตัวบ้านมีสัญญาณกันขโมยติดแบบ Shock Senser และ Magnetic Sencer ให้ทุกหลัง ถือว่ามีมาตรฐานดีระดับหนึ่ง
การออกแบบโครงการจะเป็นแบบโครงการขนาดเล็ก พื้นที่โครงการไม่ใหญ่มากทำให้อยู่กับอย่าง Private ระดับดึงมี Club House ให้ใช้ ผังโครงการก็ถือว่าจัดมาแบบไม่แน่นมากมีถนนตรงหลักตรงกลางและซอยย่อยแตกออกซ้ายขวาแบบก้างปลาจำนวนยูนิตต่อซอยประมาณ 4-6 ยูนิตเรียกว่าค่อนข้างสงบดีเลย ถ้าใครชอบสงบๆก็อยู่บ้านในๆหน่อยแต่ถ้าใครไม่ชอบเข้าไปลึกๆก็เลือกหลังหน้าๆที่ติดกับสวนก็ได้หน้าบ้านจะไม่ตรงกับใครแถมได้วิวสวนด้วย สำหรับการออกแบบบ้านถือว่า AP ทำได้ค่อนข้างลงตัวดี ให้พื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชั่นมาพอดีๆไม่มีพื้นที่แปลกๆเท่าไหร่ แต่คนชอบทำสวนอาจจะบ่นว่าไม่ค่อยมีพื้นที่ให้จัดสวยเลย ^_^
วัสดุให้มาตามมาตรฐานแต่ก็ให้มาเยอะหน่อย พื้นชั้นล่างได้กระเบื้องแกรนิตโต้,พื้นชั้นบนได้พื้นลามิเนตหนา 8 มม., ครัวได้ Built-in ชุดล่าง ท๊อผเป็นหินแกรนิต สุขภัณฑ์ Kohler, Englefield ถือว่าให้มากลางๆถ้าเทียบกับราคา ติดอยู่ที่ห้องน้ำที่ไม่ใช่ห้องนอนใหญ่น่าจะให้เคาน์เตอร์มาซักหน่อยเวลาใช้งานจริงจะไม่มีที่พอวางเครื่องบำรุงผิวต่างๆ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ โดยรวมเป็นโครงการเล็กๆ ขนาดที่ดินไม่ใหญ่ พื้นที่สีเขียวก็ต้องบอกว่าไม่เยอะเท่าไหร่ มีแค่ด้านหน้าที่จัดเป็นสวนหย่อมเอาไว้และรอบบ้านตรงถนนหลักจะมีลงไม้พุ่มกับต้นไม้เอาไว้
สาธารณูปโภคมีทั้งสระว่ายน้ำและ Fitness แต่ขนาดไม่ใหญ่มากถ้าจัดสรรเวลาดีๆน่าจะใช้กันได้แบบสบายๆ สวนหย่อมถือว่าให้มากำลังดีแต่ลงต้นไม้น้อยไปหน่อยถ้าลงเพิ่มมากกว่านี้จะช่วยให้ลูกบ้านมาใช้งานสวนได้คุ้มค่ามากขึ้น แต่อย่างว่านะครับเนื่องจากโครงการนี้มียูนิตแค่เกือบๆหนึ่งร้อยนูยิตถ้าทำส่วนกลางมาใหญ่เยอะภาระค่าใช้จ่ายก็จะไปตกอยู่กับลูกบ้านนั่นแหละครับ ถ้าจ่ายกันครบทุกคนมีวินัยมีกำลังทรัพย์พอเพียงก็ไม่มีปัญหา สู้ทำมากำลังดีภาระไม่ต้องเยอะอยู่กันไปยาวๆแบบไม่ต้องเพิ่มค่าส่วนกลางมากนักคิดว่าลูกบ้านน่าจะสบายใจมากกว่าวย
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 10 – 15 ล้านบาท, 21 January 2015
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8.25/10 – ไม่ได้ติดถนนใหญ่แต่ยังเดินทางสะดวกใกล้ทางด่วนแยกบางนาและห่างจากBTS 2 กม.
- ความปลอดภัย 7.25/10 – รั้วโครงการสูง 3 เมตร/Security Gate/สัญญาณกันขโมยทุกหลัง เสียดาย CCTV มีแค่จุดเดียว
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.0/10 – ออกแบบมาเน้นพื้นที่ส่วนรวมของบ้านเป็นหลัก
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้ได้เคาน์เตอร์ครัวชุดล่าง
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.25/10 – จำนวนยูนิตไม่เยอะ ให้สนามมากว้างพอสมควร แต่ต้นไม้น้อยไปหน่อย
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีให้ครบทั้งสระว่ายน้ำและ Fitness แต่ขนาดเล็กไปหน่อย
- 7.81 / 10.00
BOTTOM LINE
The City สุขุมวิท – แยกบางนา เป็นโครงการสำหรับคนที่ต้องการหาบ้านเดี่ยวในย่านบางนาที่อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้ามากนักใช้ทางด่วนบ่อยๆ ยอมรับได้กับปริมาณรถใหญ่ ชอบอยู่โครงการที่ขนาดเล็กไม่เน้นส่วนกลาง เน้นการใช้งานพื้นที่ในบ้านแบบส่วนรวมเป็นครอบครัวขนาดกลาง มีงบประมาณ 9 – 15 ล้านบาทและมีกำลังผ่อนต่อเดือน 69,000 – 110,000 บาท/เดือน
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ