The City รามอินทรา-วงแหวน บ้านเดี่ยวไซส์ใหญ่ ที่ดินมากกว่า 100 ตร.วา บนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาฯ จาก AP [Walk-in Review]

The City รามอินทรา-วงแหวน เป็นอีกหนึ่งโครงการใหม่จากทาง AP ที่มาเปิดบนทำเลเลียบถนนวงแหวนกาญจนาฯ ค่ะ ซึ่งทำเลโซนรามอินทรา คู้บอน หทัยราษฎร์ นี้ก็เป็นอีกโซนที่โครงการบ้านจัดสรรอยู่เยอะมาก หลายระดับราคา แต่สำหรับ The City รามอินทรา-วงแหวนนั้น เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาค่ะ จุดเด่นของที่นี่ คืออะไรนั้น มาดูกัน

• บ้านเดี่ยวที่ดินใหญ่ 100 ตารางวาขึ้นไป – จุดขายแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือขนาดที่ดินของโครงการนี้ค่ะ ที่บ้านทุกหลังในโครงการจะตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 100 ตารางวาขึ้นไปทั้งหมด! ซึ่งโครงการบ้านที่ได้ที่ดิน 100 ตารางวาทั้งโครงการในโซนนี้นั้นเรายังไม่เคยเจอมาก่อนนะ (ถ้าใครเจอ comment มาบอกกันได้ค่ะ) และแน่นอนว่าหาบ้านจัดสรรที่ได้ที่ดินขนาดเท่านี้ในเมืองก็ยิ่งยาก ใครอยากได้บ้านที่ดินใหญ่คงต้องลองมาดูกันค่ะ
• บ้านเดี่ยวไซส์ใหญ่ 380-500 ตร.ม. – แบรนด์ The City ที่มาเปิดบนทำเลนี้โครงการนี้ถือว่าเป็นโครงการที่ 2 ค่ะ แต่โครงการนี้ก็จะมาพร้อมกับแบบบ้านที่มีขนาดใหญ่กว่า เป็นบ้านหน้ากว้าง ที่พื้นที่ใช้สอยเยอะ ฟังก์ชันครบครัน 4-5 ห้องนอน และได้ที่จอดรถมากถึง 3-4 คันค่ะ
• ช่วงราคา 15-20 ล้านบาท – ในขณะที่ราคาจะอยู่ในช่วง 10 ล้านปลายๆ ถึง 20 ล้านต้นๆ เมื่อเทียบกับขนาดที่ดินและพื้นที่ใช้สอยแล้วเรามองว่าค่อนข้างคุ้มค่าเลยนะคะ

โครงการที่ได้ทั้งขนาดพื้นที่ใช้สอยและพื้นที่ดินเยอะแบบนี้จะมีรายละเอียดอะไรที่น่าสนใจบ้าง เราจะพาผู้อ่าน walk-in ไปพร้อมๆ กันในรีวิวนี้เองค่ะ

ข้อมูลโครงการ

The City รามอินทรา-วงแหวน @ 2 ธันวาคม 2564

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.8745148 , 100.6773282
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

บ้านใกล้ทางด่วน

ที่ตั้งของโครงการ The City รามอินทรา-วงแหวน จะมีทางเข้า-ออกติดกับถนนเลียบวงแหวนกาญจนาฯ โซนรามอินทรา คู้บอนค่ะ โดยทำเลเลียบวงแหวนตรงนี้สำหรับใครหลายคนอาจจะมองว่าไกล แต่ข้อเด่นของทำเลนี้เลยจะเป็นเรื่องทำเลที่ใกล้กับทางด่วนค่ะ โดยทางด่วนที่ใกล้และไปใช้ง่ายมากก็จะมีอยู่ 2 เส้นทางคือ

1. ทางด่วนฉลองรัช : ทางด่วนเส้นนี้จะเป็นเส้นทางที่มีจุดเริ่มต้นจากทางฝั่งพระราม 9 – เอกมัยออกมายังโซนรามอินทรา และมาสิ้นสุดที่ด่านจตุโชติซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญใกล้กับตัวโครงการ The City รามอินทรา-วงแหวน นั่นเอง ทำให้คนที่มีบ้านอยู่บริเวณนี้สามารถเดินทางเข้าเมืองไปส่งลูกๆเรียนหรือไปทำงานโซนลาดพร้าว รัชดาฯ เอกมัย ได้ไม่ยากเลยค่ะ
2. ทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก : วงแหวนกาญจนาฯ ด้วยชื่อก็พอทราบกันดีว่าเป็นถนนที่เชื่อมรอบนอกของกรุงเทพฯ เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งถนนเส้นนี้จะมีประโยชน์ในการเชื่อมต่อพื้นที่รอบๆของกรุงเทพฯไว้ ซึ่งจากตัวโครงการเราสามารถใช้เดินทางไปยังโซนรังสิต-ปทุม หรือว่าโซนลาดกระบัง-บางนา ได้สบายค่ะ

โครงการถือว่าอยู่บนทำเลที่เดินทางเข้าเมืองได้ง่าย และก็ยังวิ่งออกนอกรอบเมืองได้สะดวกค่ะ

โซนบ้านจัดสรร ความอุดมสมบูรณ์สูง

โซนรามอินทรา วัชรพล สายไหม ลำลูกกา คู้บอน ถ้าใครได้ยินชื่อถนนแถบนี้จะนึกภาพกันออกว่าเป็นทำเลที่มีคนอยู่อาศัยเยอะ และเป็นทำเลฮิตของเหล่า Developer ผู้พัฒนาโครงการมักจะมาเลือกเปิดโครงการหมู่บ้านจัดสรรกัน ทำให้ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาพื้นที่โซนนี้มีการพัฒนาสูงมาก มีคนอยู่อาศัยที่หนาแน่นขึ้น และทำให้มีความอุดมสมบูรณ์อย่างร้านอาหาร ตลาด เพิ่มมากขึ้นตาม ซึ่งเรามองว่าเป็นข้อดีของโครงการ The City รามอินทรา-วงแหวนค่ะ เพราะแม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ในโซนที่เป็นชุมชนโดยตรง แต่ก็ล้อมรอบด้วยย่านชุมชนต่างๆ มีตัวเลือกในการเดินทางเข้าถึงได้สะดวก หรือจะเป็นการใช้ชีวิตในปัจจุบันที่หลายคนนิยมสั่งอาหารผ่าน application กันมากขึ้นก็ทำให้คนที่อยู่ในโครงการมีตัวเลือกเพิ่มขึ้นด้วย ในขณะที่ตัวโครงการจะตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่ที่สามารถเลี่ยงรถติดในซอยชุมชนตามช่วงเวลาเช้าเย็นได้อีก เหมาะกับคนที่ไม่อยากเจอรถติดหน้าบ้านเวลาจะออกไปทำงาน ตรงไปทางด่วนสะดวก และทำอาหารกินเองหรือสั่งอาหารผ่าน application เป็นประจำนะคะ

ในส่วนของแหล่ง department store อย่างห้างสรรพสินค้าที่เอาไว้จับจ่ายใช้สอย shopping and entertainment เราขอแบ่งเป็น 2 โซนหลักๆค่ะ

1. Fashion Island : จากหน้าโครงการสามารถใช้ถนนเลียบวงแหวนกาญจนาฯ ขับมายังโซนรามอินทราได้ ใช้เวลาราวๆ 10-15 นาทีเท่านั้น ซึ่งโซนนี้จะมีทั้ง Fashion Island และ The Promenade เป็นห้างใหญ่ที่คนแถวนี้เลือกมาจับจ่ายใช้สอย กินข้าวกับครอบครัว ดูหนัง shopping กัน
2. Central festival eastville : เนื่องจากทำเลโครงการจะใกล้กับทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ทำให้การเดินทางมายังโซนเลียบทางด่วนทำได้ไม่ยาก ซึ่งโซนนี้ก็จะมีทั้ง Central Festival Eastville  , The Crystal Park และ CDC ที่เป็นทั้งจุด hang out และมีคาแรกเตอร์แบบ pets friendly และ kids edutainment สามารถพาลูกๆมาเรียนรู้เสริมสร้างพัฒนาการได้ หรือจะพาสัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่นไปในตัวก็ได้ค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• The Promenade ~ 8.4 km.
• Fashion Island ~ 8.6 km.
• คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) ~ 15.8 km.
• เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ ~ 16.6 km.
• เดอะ คริสตัล ~ 17.8 km.

โรงพยาบาล

• รพ.CGH สายไหม ~ 5.9 km.
• รพ.อินทรารัตน์ ~ 8.2 km.
• รพ.สินแพทย์ ~ 8.9 km.
• รพ.พญาไท นวมินทร์ ~ 9.4 km.
• รพ.นวเวช ~ 11.6 km.

โรงเรียน

• รร.สายอักษร ~ 9.4 km.
• รร.บดินทรเดชา 2 ~ 11.9 km.
• รร.นานาชาติ เลิศหล้า ถนนเกษตร-นวมินทร์ ~ 12.1 km.
• NIVA American International School ~ 14.9 km.
• รร.สตรีวิทยา 2 ~ 17.4 km.
• Prep International Kindergarten ~ 19.1 km.

การคมนาคม

• ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์(ด่านจตุโชติ) ~ 2.3 km.
• ถนนสุขาภิบาล 5
• ถนนรามอินทรา
• ถนนเกษตร-นวมินทร์
• ถนนลาดพร้าว

ทำเลรวมกลุ่มโครงการจาก AP

ก่อนที่จะไปดูตัวโครงการ เราอยากพูดถึงรอบๆโครงการก่อนสักหน่อยค่ะ

ตัวทำเลของ The City รามอินทรา-วงแหวน เป็นโครงการที่มีทางเข้า-ออกติดกับถนนวงแหวน-กาญจนาฯค่ะ แต่ที่ดินของโครงการเองจะอยู่ห่างจากถนนใหญ่ราวๆ 800 เมตร โดยถนนเส้นนี้จะเป็นถนนตัดใหม่ที่ทาง AP ทำขึ้นเพื่อเป็นทางเข้า-ออกเฉพาะของโครงการที่อยู่บริเวณนี้ของ AP ค่ะ ในการพัฒนาที่ดินตรงนี้เราเดาว่าทาง AP น่าจะมีที่ดินอยู่หลายแปลง และค่อยๆแบ่งแปลงที่ดินพัฒนามาเป็นโครงการต่างๆหลากหลาย product และหลากหลาย Segment นะ

อย่างโครงการที่เปิดขายแล้วปัจจุบันก็จะมีทาวน์โฮม 2 ชั้น Pleno รามอินทรา-จตุโชติ และ District รามอินทรา-จตุโชติที่เป็นโฮมออฟฟิศ 3 ชั้น โดยทั้ง 2 โครงการนี้จะตั้งอยู่ทางโซนด้านหน้าโครงการ ทำให้ The City รามอินทรา-วงแหวน ที่เรามารีวิวนี้จะอยู่ลึกเข้ามาจึงได้ความสงบมากกว่า แต่เพราะมีโครงการอื่นๆรอบๆทำให้บรรยากาศถนนทางเข้าไม่เปลี่ยวด้วยค่ะ

รายละเอียดโครงการ

The City รามอินทรา-วงแหวน เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดินของโครงการอยู่ที่ราวๆ 39 ไร่ มีบ้านทั้งหมด 84 หลัง ถือว่าไม่หนาแน่นเท่าไหร่ค่ะ โดยโครงการนี้จะมีส่วนกลางให้ใช้งานครบครัน ทั้ง Clubhouse, สระว่ายน้ำ, fitness, co-working space, kid’s room, theatre room และสวนสาธารณะ ตั้งอยู่โซนด้านหน้าโครงการใกล้กับทางเข้า-ออก โดยที่นี่จะคิดค่าส่วนกลางอยู่ที่ 31 บาท/ตร.วา/เดือน ถือว่าเป็นอัตราที่ไม่สูงมากค่ะ แต่ด้วยที่ดินของบ้านในโครงการนี้จะอยู่ที่ 100 ตร.วาขึ้นไป คำนวณค่าส่วนกลางคร่าวๆก็จะอยู่ที่ 3-4 พันบาทต่อเดือนได้นะคะ

ซุ้มประตูทางเข้าและบรรยากาศด้านหน้าของโครงการ

ทางเข้าโครงการและอาคาร Clubhouse จะออกแบบให้เป็นส่วนเดียวกันค่ะ ถ้ามองเรื่องตำแหน่งของ Clubhouse ที่มาอยู่ชิดริมทางเข้าก็ดูว่าอาจจะไม่ Private เท่าไหร่ แต่ถ้าเราลองมองดูดีๆ จะเห็นว่าพื้นที่ทางฝั่งด้านหน้าจะค่อนข้างปิดทึบ จะมีโปร่งโล่งก็อยู่ที่ชั้น 2 และเมื่อรวมกับเรื่องถนนหน้าโครงการก็ค่อนข้างเป็นส่วนตัวเนื่องจากเป็นถนนตัดใหม่ ใช้ร่วมกันเฉพาะโครงการจาก AP ทำให้ส่วนตัวเรามองว่าตัว Clubhouse นี้ก็อยู่ในตำแหน่งที่สงบนะคะ

สวนสาธารณะด้านหน้าโครงการ

สวนสาธารณะที่อยู่ใกล้กับทางเข้าโครงการนั้นจะมีขนาดมากกว่า 1 ไร่ค่ะ มีการออกแบบ Landscape ให้เป็นเนินสูงบ้างต่ำบ้าง เล่นกับเส้นทางคดเคี้ยว มีสนามหญ้าเขียวๆ และมีต้นไม้ใหญ่ลงไว้ตลอด ซึ่งเรามองว่าน่าจะร่มรื่นได้อีกมากในอนาคต และเส้นทางเดินก็น่าจะช่วยให้เด็กได้วิ่งเล่นสนุก หรือว่าเป็นเส้นทางที่ผู้สูงวัยมาเดินออกกำลังกายได้ค่ะ ส่วนใครที่อยากวิ่งก็จะมีฟิตเนสอยู่ใน Clubhouse หรือจะวิ่งตามถนนภายในโครงการก็ได้นะคะ

Clubhouse โครงการ The City รามอินทรา-วงแหวน

อาคาร Clubhouse จะออกแบบให้เป็นอาคารสูง 2 ชั้น มีผังเป็นรูปตัว L โอบล้อมทางเข้า-ออกของโครงการเอาไว้ ตัวอาคารจะมีฟังก์ชันใช้งานทั้งชั้น 1 และชั้น 2 เลยค่ะ โดยส่วนที่อยู่ชั้น 1 ก็จะมีแนวต้นไม้คั่นระหว่างตัวอาคารและถนน สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่ใช้งาน clubhouse ได้ และสร้างบรรยากาศให้อาคาร clubhouse นี้ดูร่มรื่น น่ามาใช้งานมากขึ้นค่ะ

Lobby

สระว่ายน้ำ

ติดกับส่วน Lobby จะเป็นสระว่ายน้ำค่ะ ตัวสระจะมีขนาด 6.4×12.9 เมตร และมีสระเด็กแยกอยู่ด้วยค่ะ เหมาะสำหรับครอบครัวที่อยากพาลูกๆมาว่ายน้ำเล่น ออกกำลังกายในช่วงเช้าๆหรือเย็นๆกัน

Fitness

Kid’s Room

Co-working Space

Theatre Room

สิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse
• สระว่ายน้ำระบบเกลือและสระเด็ก
• ห้องออกกำลังกาย(Fitness)
• Co-working Space
• Theatre room
• Kid’s Room
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ ขนาดมากกว่า 1 ไร่

เทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัย

• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 25 จุด
• รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบรั้วกั้นไม้กระดก / เลื่อนไฟฟ้า
• ระบบรักษาความปลอดภัย KATSAN
• Magnetic Sensor ที่ประตูหน้าต่างภายในบ้านทั้งหลัง
• Shock Sensor ที่ประตูหน้าต่างบ้านชั้น 1
• Digital Door Lock
• Home Automation

แบบบ้าน

จุดเด่นที่สุดของโครงการ The City รามอินทรา-วงแหวน สำหรับเราจะอยู่ที่ตัวโปรดักส์ ซึ่งก็คือแบบบ้านของที่นี่นั่นเองค่ะ

• จุดแรกที่ไม่พูดไม่ได้เลยคือเป็นโครงการเดียวในย่านนี้ (ณ วันที่ไปโครงการ) ที่ขายบ้านบนที่ดินขนาด 100 ตารางวาขึ้นไปทั้งโครงการ! แน่นอนว่าบ้านบนที่ดินใหญ่ขนาดนี้ในตัวเมืองหาได้ค่อนข้างยากพอดู หรือถ้ามีก็จะเป็นบ้านราคาสูงหลายๆๆๆ สิบล้าน ซึ่งที่นี่จะเป็นบ้านที่ราคารองลงมาอยู่ในช่วงราวๆ 15-20 ล้านบาท บนทำเลที่ใช้ทางด่วนตัดเข้ากลางเมืองอย่างพระราม 9 – เอกมัยได้สะดวกค่ะ
• เรื่องต่อมาคือการออกแบบภายในบ้าน ที่ได้พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ 380 – 500 ตร.ม. และเป็นบ้านที่มีที่จอดรถ 3 – 4 คัน ได้ห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำในตัว มีห้องแม่บ้าน และได้ห้องรับแขกแบบ double volume ทุกแบบบ้าน! เหมาะกับครอบครัวขนาดกลางถึงใหญ่ อยู่กันได้ 2-3 Generations เทียบราคากับพื้นที่ใช้สอยแล้วถือว่าได้ความคุ้มค่านะคะสำหรับโครงการ The City รามอินทรา-วงแหวนนี้

เทียบบ้านทั้ง 3 แบบ

บ้านทั้ง 3 แบบจะมีชื่อว่า Esmeralda , Opalios และ Garnet ตามลำดับ (ไล่จากแบบใหญ่สุดไปเล็ก) ถ้าดูจากตารางจะเห็นว่าบ้านทั้ง 3 แบบเป็นบ้านที่มีขนาดใหญ่ทั้งหมด ฟังก์ชันภายในบ้านก็ถือว่าครบมาก นอกจากนี้โครงการนี้จะใช้ระบบก่อสร้างเป็นแบบ Conventional หรือก่ออิฐฉาบปูน ซึ่งง่ายต่อคนที่อยากทุบผนังต่อเติมบ้านค่ะ ยิ่งพื้นที่ใช้สอยภายในของที่นี่ค่อนข้างกว้างขวางมาก เราเลยมองว่าอาจจะมีบางบ้านที่ต้องการปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มฟังก์ชันภายในบ้าน โครงการนี้ก็ทำได้สบายไม่มีปัญหาค่ะ

แบบบ้าน Garnet ที่เป็นบ้านแบบเริ่มต้นก็มีขนาด 380 ตร.ม. ซึ่งอาจจะใหญ่กว่าบ้านแบบใหญ่สุดของโครงการอื่นที่อยู่รอบๆก็ว่าได้ แล้วถ้ามาดูที่ฟังก์ชัน จะเป็นแบบบ้านที่ได้ที่จอดรถเริ่มต้น 3 คัน ได้ห้องนอน 4 ห้อง ทุกห้องมีห้องน้ำภายในตัว มีโซนแม่บ้านซักรีดภายในบ้าน มีห้องพระหรือว่าห้องอเนกประสงค์ให้มา ซึ่งนี่เป็นแค่แบบบ้านเริ่มต้นเท่านั้น ดังนั้นบ้านแบบต่อๆ มาแน่นอนว่าฟังก์ชันก็มีแต่เพิ่มขึ้นแน่ๆค่ะ ทีนี้คนที่สนใจโครงการเรามองว่าอาจจะไปชมบรรยากาศบ้านจริงและเลือกฟังก์ชันที่เราต้องการได้นะคะ

คลิกเลื่อนที่ gallery ด้านล่างเพื่อดูแปลนบ้านทั้ง 3 แบบได้ค่ะ

แบบบ้านทั้ง 3 แบบนี้เรามองว่ามีจุดเด่นร่วมกันหลายๆ ฟังก์ชัน โดยเราจะขอเล่าทีละฟังก์ชันและพาไปดูบ้านตัวอย่างและบ้านมาตรฐานของแต่ละแบบพร้อมๆ กันทีเดียวเลยนะคะ บ้านในโครงการนี้ฟังก์ชันเด่นอะไรบ้างไปชมพร้อมกันต่อได้เลยค่ะ

1. บ้านหน้ากว้าง หลังใหญ่

จุดเด่นที่สำคัญของโครงการ The City รามอินทรา-วงแหวน คือเรื่องขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านและขนาดที่ดินใช่ไหมคะ และด้วยรูปร่างที่ดินที่เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส และสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยจัดวางให้ด้านยาวของที่ดินติดถนน ก็ทำให้เมื่อมองจากภายนอกตัวบ้านจะดูมีขนาดใหญ่ โอ่อ่าขึ้นอีกค่ะ

2. ที่จอดรถในร่ม 3-4 คัน

บ้านเดี่ยวโครงการอื่นๆ ในโซนนี้ส่วนใหญ่ มักจะออกแบบให้มีที่จอดรถประมาณ 2 คัน หรือถ้าเป็นแบบบ้านที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็จะได้ที่จอด 3 คัน แต่ภายในโครงการ The City รามอินทรา-วงแหวน ได้ออกแบบจำนวนที่จอดรถไว้อยู่ที่ 3-4 คันเลยค่ะ ใครที่อยากได้ที่จอดรถเยอะๆ ก็คงจะต้องมาดูโครงการนี้เอาไว้เป็นตัวเลือกนะ

บ้านแบบเริ่มต้น Garnet และบ้านขนาดกลาง Opalios จะได้ที่จอดรถ 3 คัน ส่วนบ้านแบบใหญ่สุด Esmeralda จะได้ที่จอดรถ 4 คันค่ะ ทั้งหมดจะเป็นการจอดในร่ม(ในตัวบ้าน) โดยรั้วบ้านจะเป็นรั้วบานเลื่อนอัตโนมัติ และพื้นที่จอดรถปูด้วย Concrete stamp ดูเรียบร้อยสวยงาม มีการเดินไฟ 3 เฟสไว้เผื่อบ้านไหนต้องการติดตั้ง EV Charger ในอนาคตก็ทำเพิ่มได้

3. ส่วน Service แยกเป็นสัดส่วน

สิ่งสำคัญภายในบ้านที่ขาดไม่ได้คือพื้นที่ส่วนบริการหรือว่าพื้นที่ Service ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ก็เปรียบเหมือนท่อน้ำเลี้ยงของบ้านก็ว่าได้ค่ะ โดยบ้านทุกแบบในโครงการจะออกแบบให้มีห้องแม่บ้านอยู่ใกล้ๆกับที่จอดรถ ครัวและพื้นที่ซักล้าง ทั้งหมดจะถูกจัดกลุ่มเป็นโซนรวมเอาไว้ด้วยกัน

ในการจัดพื้นที่ให้เป็นโซนใกล้ๆ กันนี้ก็จะมีประโยชน์ในแง่การใช้งานนะคะ เช่น เวลาที่เราซื้อของกินของใช้ของสดเข้าบ้านก็สามารถเรียกแม่บ้านให้มาช่วยขนของตรงเข้าครัวได้เลยโดยไม่ต้องผ่านพื้นที่ส่วนอื่นๆภายในบ้าน และ ส่วนห้องนอนแม่บ้านเองก็จะเข้า-ออกจากรอบตัวบ้านอีกที เวลาที่เราไปเที่ยวยกครอบครัวก็สามารถปิดล็อกบ้านได้ และให้แม่บ้านอยู่ได้เฉพาะพื้นที่รอบๆและครัวเท่านั้น

4. ห้องรับแขกแบบ Double Volume

ห้องรับแขกที่ได้ฝ้าเพดานสูง (Double Volume) ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของแบบบ้านในโครงการ The City รามอินทรา-วงแหวนเช่นกันค่ะ เพราะจะได้พื้นที่รับแขกที่ดูสูงโปร่ง ดูโอ่อ่า เป็นหน้าเป็นตาให้กับเจ้าของบ้านได้

ห้องรับรองแขกนี้จะอยู่ตำแหน่งที่ติดกับประตูทางเข้าหลักของบ้านเลยค่ะ ถ้าดูจากแปลนบ้านเรามองว่าสามารถกั้นเป็นห้องปิดทึบได้ทุกแบบเลยนะคะ ในกรณีที่บ้านไหนต้องการพื้นที่รับแขกที่ Private มากขึ้น ไม่อยากให้ใครมารบกวนเวลารับรองแขกก็กั้นเป็นห้องปิดได้ค่ะ

บ้านแบบ Esmeralda

บ้านแบบ Opalios และ Garnet

5. พื้นที่พิเศษ แบบ Semi outdoor

พื้นที่ใช้งานที่เหมือนกับระเบียงในร่มกลายเป็นฟังก์ชันที่หลายๆ โครงการได้พัฒนาออกแบบพื้นที่ตรงนี้เพิ่มเข้ามานะคะ เพราะว่าปัจจุบันเราต้องใช้ชีวิตอยู่บ้านกันมากขึ้น หลายคนก็เบื่อที่จะอยู่แต่ภายในบ้าน แต่ครั้นจะให้ไปข้างนอกก็กังวลหลายอย่างเกี่ยวกับเรื่องโรคระบาดต่างๆ ดังนั้นพื้นที่ตรงนี้เลยกลายเป็นมุมพิเศษที่ให้เราสามารถมานั่งตากแดดเบาๆ รับลม ชมสวนได้ค่ะ

โดยพื้นที่ตรงนี้จะมีเฉพาะแบบบ้าน Opalios กับบ้าน เป็นพื้นที่ระหว่างมุมรับแขกกับพื้นที่นั่งเล่นที่อยู่ทางฝั่งหลังบ้าน เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่พอที่จะจัดมุมนั่งเล่น outdoor ได้ ช่วงไหนอากาศดีๆ ก็สามารถหยิบหนังสือมานั่งอ่านซักเล่ม จิบกาแฟเพลินๆ ก็มีความสุขดีนะคะ

6. ห้องนอนชั้น 1 พร้อมห้องน้ำในตัว

The City ถือว่าเป็นแบรนด์บ้านที่เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ ในบางครั้งฟังก์ชันภายในบ้านก็ต้องจัดไว้รองรับได้ถึง 3 generations อาจจะมีคุณปู่คุณย่ามาอาศัยร่วมกันด้วยก็เป็นไปได้ค่ะ ถ้ามองเรื่องการใช้งานในระยะยาวแล้ว การออกแบบให้ชั้น 1 มีห้องนอนเอาไว้ก็สามารถตอบโจทย์เรื่องการเดินเหินของผู้ที่กำลังจะสูงวัยได้ดีนะ

ในบ้านทุกแบบของ The City รามอินทรา-วงแหวน จะมีห้องนอนชั้น 1 พร้อมห้องน้ำในตัวเอาไว้ค่ะ โดยขนาดแต่ละห้องก็ถือว่าไม่ธรรมดา สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้เลย แต่ถ้าเป็นผู้สูงวัยอาศัยคนเดียวก็อาจจะเลือกเตียงขนาดเล็กหน่อย และคิดเผื่อการติดตั้งราวจับต่างๆหรือการใช้ Wheelchair ด้วยก็ได้ค่ะ

7. Common Area ขนาดใหญ่

Common Area หรือพื้นที่นั่งเล่น+ห้องกินข้าว เป็นเหมือนจุดรวมตัวของสมาชิกภายในบ้านให้ได้ใกล้ชิดดูหนัง กินข้าวพื้นหน้าพร้อมตากัน ณ พื้นที่แห่งนี้ค่ะ

ถ้าดูจากแปลน บ้านที่ 3 แบบจะออกแบบพื้นที่ส่วนนี้ไว้ทางฝั่งด้านหลังบ้านค่ะ ยาวต่อเนื่องจากครัวไปเลย ซึ่งเราสามารถจัดฟังก์ชันได้ทั้ง มุมนั่งเล่นพักผ่อน โต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่ และสามารถทำ Pantry ยาวต่อเนื่องมาจากห้องครัวก็ได้ค่ะ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ก็ถือว่ายืดหยุ่นมากเนื่องจากขนาดที่ใหญ่ของตัวมันเอง ดังนั้นเราจะกั้นห้องบางฟังก์ชัน เช่นห้องนั่งเล่น ก็ทำได้โดยที่พื้นที่ใช้สอยในแต่ละฟังก์ชันไม่ได้ดูเล็กลงค่ะ

บ้านแบบ Esmeralda

บ้านแบบ Opalios และ Garnet

8. Living area ที่ชั้น 2

พื้นที่รวมตัวของสมาชิกในบ้านนอกจาก common area ที่ชั้น 1 แล้ว ที่ชั้น 2 ก็จะมี Living area เพิ่มอีกจุดค่ะ โดยพื้นที่ตรงนี้จะเป็นมุมที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ดูสบายๆสำหรับครอบครัวมากขึ้น อาจจะใช้ดูหนังด้วยกันกับพี่น้องก่อนเข้านอนก็ได้ค่ะ

พื้นที่ตรงนี้จะจัดไว้ทางฝั่งหน้าบ้านทั้งหมดและใกล้กับระเบียงค่ะ เป็นส่วนที่เราสามารถกั้นเป็นห้องแยกได้นะ แต่จุดที่น่าสนใจคือในบ้านแบบใหญ่สุดหรือ Esmeralda พื้นที่ส่วนนี้จะนับอยู่ในห้องนอนใหญ่ค่ะ แต่ในความเป็นจริงแล้วถ้าครอบครัวไหนอยากให้แยกออกมาก็สามารถดัดแปลงปรับเปลี่ยนผนังและทางเข้าได้นะคะ เนื่องจากโครงสร้างในโครงการนี้เป็นแบบก่ออิฐฉาบปูนนั่นเอง

9. ห้องอเนกประสงค์

อีกฟังก์ชันหนึ่งที่จัดไว้ให้บนชั้น 2 ในทุกแบบบ้านของโครงการจะเป็นห้องอเนกประสงค์ค่ะ

ตัวห้องนี้จะไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แต่สามารถจัดเป็นห้องพระ ห้องเก็บของอย่างกระเป๋าเดินทาง หรือว่าจะเป็นห้องสำหรับวางอุปกรณ์ออกกำลังกายก็ได้ ถือว่าปรับใช้ได้ตามความต้องการเลยค่ะ

10. ห้องนอนรองขนาดใหญ่

The City รามอินทรา-วงแหวน ทุกแบบบ้านจะออกแบบพื้นที่ภายในห้องนอนไว้อย่างกว้างขวาง อยู่สบาย แม้ว่าห้องนั้นจะไม่ใช่ Master Bedroom ก็ตามค่ะ

ห้องนอนรองจะอยู่ทางฝั่งด้านหลังของบ้าน เป็นห้องที่จะได้ห้องน้ำในตัวทั้งหมด และมีขนาดกว้างพอที่จะจัดวางเตียงขนาดใหญ่ มีมุมสำหรับตู้เสื้อผ้า มุมโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานภายในตัว เรียกได้ว่าอยู่สบายๆ 1-2 คน อยู่ได้ตั้งแต่เล็กจนโตแบบที่ไม่อึดอัดเลยค่ะ

บ้านแบบ Esmeralda ห้องนอนรองขนาดใหญ่พิเศษ

ในบ้านแบบใหญ่จะมีห้องนอนรองที่ออกแบบมามีขนาดใหญ่พิเศษห้องหนึ่งค่ะ เป็นห้องที่ได้อ่างอาบน้ำภายในตัว อยู่มุมบ้าน พื้นที่ขนาดใหญ่ โปร่งโล่งเหมือนเป็นห้อง Master Bedroom อีกห้องก็ว่าได้

บ้านแบบ Opalios และ Garnet

11. Master Bedroom

ห้องนอนใหญ่สำหรับบ้านในโครงการ The City รามอินทรา-วงแหวนจะเป็นห้องที่ออกแบบให้มีพื้นที่ภายในห้องกว้างเหมือนเป็น Penthouse เลยค่ะ

ทุกแบบจะได้พื้นที่สำหรับทำ Walk-in Closet มีมุมสำหรับจัดวางโซฟาพักผ่อนภายในตัว มีพื้นที่วางเตียงนอนกว้างขวาง ห้องน้ำก็ได้ขนาดใหญ่ และได้อ่างอาบน้ำภายในด้วย

บ้านแบบ Esmeralda

บ้านแบบ Opalios 

บ้านแบบ Garnet

และนี่ก็เป็นฟังก์ชันที่น่าสนใจของบ้านทั้ง 3 แบบในโครงการ The City รามอินทรา-วงแหวนค่ะ นอกจากฟังก์ชันที่น่าสนใจแล้ว เรื่องระบบรักษาความปลอดภัยทางโครงการจะมีระบบ KATSAN ที่สามารถ Pre-register คนที่มาติดต่อที่บ้านได้ และมี E-stamp แทนการแลกบัตรผ่านเข้า-ออก นอกจากนี้เราก็ยังสามารถ Set Status ผ่านทาง Application “Smart World” ในช่วงเวลาที่เราไม่สะดวกให้ใครมาติดต่อที่บ้านได้ เป็นต้น ในส่วนของตัวบ้านเองก็จะได้ระบบ Home Autometion มาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยอย่าง Magnetic Sensor ทั้ง 2 ชั้น และ Shock Sensor ที่ชั้น 1 ของตัวบ้านค่ะ

บทสรุป The City รามอินทรา-วงแหวน เหมาะกับใคร?

สำหรับโครงการ The City รามอินทรา-วงแหวน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการน่าสนใจเพราะเป็นโครงการจัดสรรที่มีโปรดักส์ขนาดใหญ่ ทั้งพื้นที่ใช้สอยและขนาดที่ดินเป็นจุดขาย ซึ่งหาโปรดักส์แบบนี้ยากบนทำเลกรุงเทพฯ โซนรามอินทรา วงแหวนแถวนี้ค่ะ

ในส่วนของตัวโครงการก็ถือว่าทำออกมาเน้นความคุ้มค่าในเรื่องราคากับสิ่งที่ได้รับ ทั้งขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน และพื้นที่ส่วนกลางที่มีให้ ในระดับราคาประมาณ 15-20 ล้านบาท นอกจากนั้นก็เป็นโครงการที่ค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัวเลย เพราะมีอยู่เพียง 84 หลังในโครงการ

เรื่องฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ภายในบ้านเรามองว่าออกแบบมาได้ดีค่ะ มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย ห้องนั่งเล่นก็มีหลายจุด มีส่วนที่ได้ฝ้าเพดานสูงดูโอ่อ่า พื้นที่กว้างจะรับรองแขกเป็นทางการหรือจัดงานปาร์ตี้ก็รองรับได้เป็นสิบคนสบายๆ ส่วนพื้นที่พักผ่อนอย่างห้องนอนก็มีขนาดใหญ่อยู่สบาย สร้างคุณภาพการอยู่อาศัยได้ดี

” ดังนั้นเรามองว่าโครงการนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาบ้านขนาดใหญ่อยู่ในโซนรามอินทรา เน้นการเดินทางเข้าเมืองทางฝั่งพระราม 9 อยากได้โปรดักส์ที่คุ้มค่า มีพื้นที่ใช้สอยเยอะในงบประมาณ 15-20 ล้าน อยู่กันเป็นครอบครัว 2-3 Generations ค่ะ “

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc