รีวิวโครงการ
The Sneak EP.182 : THE CITY ปิ่นเกล้า-บรมฯ 3
28 กุมภาพันธ์ 2023
The City ปิ่นเกล้า-บรมฯ3 โครงการบ้านในโซนบรมราชชนนีส่วนมากจะเป็นบ้านหลังใหญ่ บนที่ดินมากกว่า 100 ตร.วา แต่สำหรับโครงการ The City ปิ่นเกล้า-บรมฯ3 นี้ ทาง AP เอาแบบบ้านซีรีส์ใหม่มาลง ดีไซน์มาในสไตล์ “Modern Classic Luxury” และ มีจุดเด่นอยู่ที่พื้นที่ใช้สอยในบ้านขนาดใหญ่ หลังเริ่มต้นของที่นี่เทียบเท่ากับหลังใหญ่ของโครงการรอบข้างได้เลยค่ะ
- ทำเล – พุทธมณฑลสาย 1 ห่างจากถนนบรมราชชนนีประมาณ 600 เมตร ใกล้ The Circle และ Food Villa ราชพฤกษ์
- พื้นที่ใช้สอย – ขนาด 430 – 580 ตร.ม. เป็นบ้าน 3-5 ที่จอดรถ สร้างบนที่ดินมากกว่า 100 ตร.วาทุกแปลง แต่ก็ไม่ได้เป็นบ้านที่สร้างคับที่ดิน ยังได้ที่ดินข้างตัวบ้าน จัดสวนหรือฟังก์ชัน outdoor ได้
- ความเป็นส่วนตัว – มีเพียง 68 หลังทั้งโครงการ
ส่วนเรื่องราคา ที่นี่จะเริ่มต้นอยู่ที่ 25-40 ล้านบาท ซึ่งบ้านที่อยู่ติดกับถนนบรมฯ ส่วนใหญ่ก็จะราคา 20 ล้านบาทขึ้นไปค่ะ ใครที่กำลังมองหาบ้านหลังใหญ่ ที่ดินใหญ่ในโซนนี้อยู่ ลองอ่านรีวิวโครงการนี้กันดูนะ
ข้อมูลโครงการ
The City ปิ่นเกล้า-บรมฯ 3 ณ วันที่ 17 มกราคม 2023
ชื่อโครงการ | The City Pinklao-Borom3 (เดอะ ซิตี้ ปิ่นเกล้า-บรมฯ 3) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนพุทธมณฑลสาย 1 เขตตลิ่งชัน |
ที่ดิน | 31 – 0 – 33.80 ไร่ |
จำนวนยูนิต | จำนวน 68 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | 2.8 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 25 – 40 ล้านบาท* (โปรโมชัน) |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2566 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | N/A |
เว็บไซต์โครงการ | www.apthai.com/th/single-detached-house/the-city-pinklao-borom3 |
Call Center | 1623 |
ทำเลที่ตั้ง
แผนที่ The City ปิ่นเกล้า-บรมฯ3
The City ปิ่นเกล้า-บรมฯ3 ตั้งอยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 1 ใกล้กับถนนบรมราชชนนี 600 เมตร โครงการบ้านในโซนนี้เนื่องจากข้อกฎหมายเกี่ยวกับผังที่ดิน ทำให้รูปแบบบ้านส่วนใหญ่จะเป็นบ้านบนที่ดินใหญ่ขนาด 100 ตร.วาขึ้นไป
โครงการบ้านที่อยู่ติดถนนบรมฯ มักจะถูกออกแบบมาให้อยู่ในระดับ Luxury เริ่มต้น 10 ล้านปลายๆ หรือ 20 ล้านบาทขึ้นไปแทบทั้งหมดเลยค่ะ ด้วยตัวทำเลที่สามารถใช้งานถนนบรมฯ วิ่งเข้าสู่ปิ่นเกล้าได้สะดวก เหมาะกับคนที่ต้องทำงานหรือมีลูกเรียนในเมือง อีกทั้งยังใกล้กับทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกที่ใช้เดินทางไปยังโซนจตุจักรได้ง่ายด้วยค่ะ
โครงการ The City ปิ่นเกล้า-บรมฯ3 แม้จะไม่ได้อยู่บนถนนบรมฯ โดยตรง แต่นับว่าใกล้มาก และยังอยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 1 ซึ่งอยู่ฝั่งด้านในวงแหวน ใกล้เมืองกว่าโครงการอื่นๆ อีกด้วย ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์ จากตัวโครงการสามารถไปยังถนนราชพฤกษ์ โซนที่มี Food Villa ราชพฤกษ์ หรือ The Circle ราชพฤกษ์ได้ง่ายมาก ผ่านทางถนนอินทราวาส ระยะทางประมาณ 6 กม. เราลองขับดูก็ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีเท่านั้นค่ะ ส่วนตัวเรามองว่าทำเลนี้สะดวกทั้งการเดินทางและการไปใช้งาน lifestyle community mall ต่างๆ นะ
ใครที่อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทำเลนี้ สามารถคลิกอ่านต่อใน >> รีวิว The City ปิ่นเกล้า-บรมฯ2 ได้ค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
ทางเข้าโครงการจะอยู่ห่างจากถนนใหญ่(ถนนพุทธมณฑลสาย 1) ประมาณ 100 เมตร ถนนทางเข้าจะเป็นถนนภาระจำยอม ใช้ร่วมกันกับโครงการ The City ปิ่นเกล้า-บรมฯ2 ทำให้สภาพถนนหน้าทางเข้าจะถูกดูแล เรียบร้อย และได้ความสงบเป็นส่วนตัวค่ะ
หน้าโครงการ ถนนพุทธมณฑลสาย 1
เข้ามาจากถนนพุทธมณฑลประมาณ 100 เมตร จะเจอกับซุ้มประตูทางเข้าของ The City ทั้งสองโครงการอยู่โอบล้อมวงเวียนน้ำพุค่ะ โครงการที่ 2 จะอยู่ขวามือ ส่วนโครงการที่ 3 (ที่เราจะมารีวิวกัน) จะอยู่ซ้ายมือค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
เส้นทางคมนาคม
- ถ.บรมราชชนนี
- ถ.ราชพฤกษ์
- ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนฯ(ด่านตลิ่งชัน)
- ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนฯ (ด่านฉิมพลี)
- สถานีรถไฟฟ้า MRT ไฟฉาย
- จตุจักร-บางซื่อ
สถานศึกษา
- รร.เด่นหล้า พระราม5
- รร.มหิดลวิทยานุสรณ์
- รร.สาธิตนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล (MUIDS)
- รร.อัสสัมชัญธนบุรี
- มหาวิทยาลัยมหิดล
- มหาวิทยาลัยศิลปากร
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์)
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
ห้างสรรพสินค้า
- Food Villa ราชพฤกษ์
- The Circle ราชพฤกษ์
- The Mall บางแค
- The Sense ปิ่นเกล้า
- Central Plaza ปิ่นเกล้า
สถานพยาบาล
- รพ.ธนบุรี 2
- รพ.ธนบุรี
- ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก
- รพ.ศิริราช
- รพ.ตา หู คอ จมูก
รายละเอียดโครงการ
The City ปิ่นเกล้า-บรมฯ3 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ บนที่ดินประมาณ 31 ไร่ โดยมีจุดเด่นเรื่องตัวบ้านที่อยู่บนที่ดินขนาดมากกว่า 100 ตร.วา และมีพื้นที่ใช้สอย 430 – 580 ตร.ม. ทำให้เมื่อรวมจำนวนยูนิตทั้งหมดภายในโครงการแล้วมีเพียง 68 หลังเท่านั้น ถือว่าค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัวค่ะ
อย่างที่เห็นกันไปว่าโครงการ The City ปิ่นเกล้า-บรมฯ3 จะอยู่ติดกับ The City ปิ่นเกล้า-บรมฯ2 ซึ่งขายหมดไปแล้วก่อนหน้านี้ ดีไซน์ของทางเข้าโครงการจึงจะมีความคล้ายคลึงกัน แต่ทั้ง 2 โครงการถือว่าแยกกันนะคะ ใช้พื้นที่ส่วนกลางแยกกัน มีนิติบุคคลคนละชุดกัน ซึ่งความแตกต่างของทั้ง 2 โครงการ เช่น The City ปิ่นเกล้า-บรมฯ3 มีจำนวนยูนิตน้อยกว่าและ The City ปิ่นเกล้า-บรมฯ3 แบบบ้านซีรีส์ใหม่ พื้นที่ใช้สอยเยอะกว่า
Master plan โครงการ จะเห็นว่าพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด ทั้งสวนและอาคาร clubhouse จะอยู่ที่บริเวณทางเข้าโครงการ ซึ่งบริเวณนี้ก็จะเป็นส่วนที่ลูกบ้านทุกคนต้องผ่านเข้า-ออก ก็จะได้เห็นพื้นที่สีเขียวต้อนรับสวยงามค่ะ ส่วนพื้นที่พักอาศัยจะอยู่ถัดเข้ามาด้านใน มีทั้งแปลงที่อยู่ติดถนนหลักที่จะเข้า-ออกสะดวก และแปลงที่อยู่ในซอยย่อย โดยหลังที่อยู่ในซอยย่อยนั้นจะออกแบบให้หน้าบ้านหันไปทางทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งเป็นทิศที่ลมประจำถิ่นของไทยพัดผ่านค่ะ
ซุ้มประตูทางเข้าโครงการถูกออกแบบให้เป็นส่วนเดียวกับอาคาร Clubhouse ซึ่งสูง 2 ชั้น วัสดุหลักที่นำมาประกอบคือ Aluminium Coposite สี Copper โดยมีการออกแบบให้มีส่วนโค้งมน ดูทันสมัย
ระบบรักษาความปลอดภัยบริเวณทางเข้า-ออกโครงการนั้น จะมีรปภ.อยู่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ประตูมีทั้งบานเลื่อนและไม้กั้นกระดก พร้อมติดตั้ง CCTV ที่ทางเข้า-ออกและภายในโครงการ โดยทาง AP ได้พัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยของตัวเองที่ใช้ชื่อว่า KATSAN ขึ้นมา สามารถเชื่อมต่อกับ Application ทางมือถือได้ ประยุกต์ใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ลูกบ้าน เช่น ประทับตราแบบ E-stamp, แจ้งทะเบียนรถผู้มาติดต่อหรือทะเบียนรถผู้ที่ไม่อยากให้ติดต่อ สามารถ จดจำป้ายทะเบียนไว้ว่ารถคันนี้มาติดต่อบ้านไหน เผื่อจอดรถขวางหน้าบ้านใครจะได้ตามตัวถูก เป็นต้นค่ะ
ซุ้มประตูทางเข้าแยกสองฝั่งเข้า-ออก มีรปภ.ดูแลตรงกลาง
เมื่อเข้ามาภายในโครงการ เราจะเจอกับสวนสาธารณะต้อนรับก่อน เป็นสวนและสนามเด็กเล่นขนาดประมาณ 1 ไร่ ขับรถกลับบ้านมาได้เห็นต้นไม้จะได้ชื่นใจกันนะคะ
ตัวอาคาร Clubhouse จะอยู่ทางขวามือ ถนนตรงส่วนนี้มีขนาดกว้างพอสมควร เรามองว่าจอดรถด้านหน้าทำธุระที่ Clubhouse ได้ก็ไม่เกะกะคนที่ขับรถเข้า-ออกเท่าไหร่ค่ะ
บรรยากาศภายในสวนสาธารณะจะออกแบบให้มีฟังก์ชันที่หลากหลาย เช่นแนวทางเดินให้ได้เดินออกกำลังกาย โซนวิ่งเล่นของเด็กๆ เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งกับลูกๆ ดูปลอดภัยและสนุกสนานได้ค่ะ
Playground กลางแจ้ง (ในอนาคตถ้าต้นไม้โต น่าจะร่มรื่นขึ้นนะคะ)
อาคาร Clubhouse อยู่บริเวณทางเข้า-ออกโครงการ วางยาวขนานกับถนนและอยู่ตรงข้ามกับสวนเลย
ทางขึ้นลงมีทั้งบันไดและทางลาดนะคะ
เดินมาทางซ้ายมือก่อน ฝั่งนี้จะเป็นห้องน้ำและสระว่ายน้ำ
ห้องน้ำจะแยกชาย-หญิงให้ ด้านในก็มีห้องซาวน่าให้ด้วยค่ะ และมีห้องน้ำสำหรับผู้พิการเพิ่มอีกห้อง
ตรงสระว่ายน้ำก็จะมีจุดล้างตัวสำหรับคนที่มาใช้งานสระว่ายน้ำนะ
ตัวสระจะมีแยกโซนเด็กเอาไว้ด้วย ขนาดไม่ใหญ่มาก เรามองว่าเป็นส่วนที่เด็กๆ มาเล่นกันมากกว่าผู้ใหญ่ที่จะมาว่ายน้ำเพื่อออกกำลังกายค่ะ โดยตัวสระนี้จะมีระยะห่างจากถนนอยู่ ไม่ใกล้มากจนขาดความเป็นส่วนตัวนะ และยังมีการปลูกต้นไม้ใหญ่รอบๆ ในอนาคตบรรยากาศก็น่าจะดูร่มรื่นขึ้นอีกค่ะ
ชั้น 1 ของ Clubhouse จะมี Lobby อยู่ค่ะ เป็นพื้นที่รับรองแขกในกรณีที่ไม่สะดวกรับรองที่บ้าน หรือจะมานั่งเล่นเพลินๆ เปลี่ยนบรรยากาศก็ได้เช่นกันค่ะ ภายในห้องแบ่งออกเป็นสองฝั่งที่มีฝ้าเพดานที่สูงแตกต่างกัน ฝั่งที่ฝ้าเพดานสูงก็จะได้บรรยากาศที่โอ่อ่าเป็นทางการ ส่วนฝั่งที่ฝ้าเพดานปกติก็จะได้บรรยากาศที่ผ่อนคลายขึ้นค่ะ
เข้ามาภายใน Lobby จะเจอกับโถงต้อนรับก่อน
Kids Room
ที่ชั้น 2 มีห้อง Kids room เป็นห้องเล่นสำหรับเด็กสีสันสดใส
Co-working space
ติดกันจะมี Co-working space ที่สามารถนัดเพื่อนมาทำงานร่วมกันได้ ซึ่งข้างในก็จะมีโซฟารับรอง โต๊ะที่เหมาะสำหรับนั่งทำงาน และมีโต๊ะพูลให้เล่นด้วยค่ะ
ห้องนี้จะมีบรรยากาศที่ผ่อนคลายกว่าส่วน Lobby ด้วยโทนการตกแต่งห้องและแสงสว่างที่เข้ามาภายในห้องค่ะ
Theatre room
อีกห้องที่น่าสนใจคือห้องดูหนังค่ะ สามารถทำเป็นห้องมืดดูหนังแบบจริงจังได้เลย
Fitness
ส่วนห้องฟิตเนสของที่นี่เรามองว่าค่อนข้างใหญ่นะคะ (เมื่อเทียบกับจำนวนบ้านในโครงการ 68 หลัง) บรรยากาศภายในค่อนข้างโปร่ง มีกระจกสองฝั่ง มองออกไปเห็นสวนในโครงการและทางเข้าโครงการได้
ตัวห้องค่อนข้างลึก มีเครื่องเล่นให้ใช้หลากหลาย
ด้านในสุดของฟิตเนสจะมีห้องแยกอยู่อีกห้องเป็นเหมือน Studio เล็กๆ มาฝึกโยคะได้ค่ะ
สำหรับค่าส่วนกลางของที่นี่จะอยู่ที่ 29 บาทต่อตารางวา ลองคิดคร่าวๆ บ้านที่ดินมากกว่า 100 ตารางวา ค่าส่วนกลางต่อเดือนก็น่าจะอยู่ที่ราวๆ 3-4 พันบาทต่อเดือนค่ะ ถือว่าไม่สูงเลยนะ เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้กันได้ทั้งครอบครัว
เลยอาคาร Clubhouse เข้ามาจะเป็นโซนบ้านตัวอย่างค่ะ
สำนักงานขายจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ ติดต่อเข้ามาเยี่ยมชมโครงการได้นะคะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Clubhouse
- Lobby
- Co-working Space
- Kids Room
- Fitness
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ ลึก 1.2 เมตร
- ห้องน้ำและซาวน่าภายใน
- สวนภายในโครงการขนาด 1 ไร่ 44.1 ตร.วา
ระบบรักษาความปลอดภัยภายในโครงการ
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ระบบ CCTV ทางเข้า – ออกโครงการ จำนวน 16 จุด
- ระบบ KATSAN สำหรับเข้า-ออกโครงการ
ระบบรักษาความปลอดภัยภายในตัวบ้าน
- ระบบ Magnetic ทั้งหลัง และระบบ Shock Sensor ที่ชั้น 1
- IP Camera 2 จุด
- Digital Door Lock
แบบบ้าน
แบบบ้านภายในโครงการ The City ปิ่นเกล้า-บรมฯ3 มีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบค่ะ ราคาเท่าที่ทราบมาจะเริ่มต้นอยู่ที่ 25 – 40 ล้านบาท ทั้งโครงการมีจำนวนบ้านทั้งหมด 68 หลัง ถือว่าได้ความเป็นส่วนตัวดีเลย
- THEODORE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 109 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 430 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องพระ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ - OLIVER บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 114.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 500 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องพระ / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ - ANTONY บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 139.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 580 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องพระ / 1 ห้องแม่บ้าน / 5 ที่จอดรถ
The City ปิ่นเกล้า-บรมฯ3 เป็นแบบบ้านซีรีส์ใหม่จากทาง AP ที่มาในสไตล์ “Modern Classic Luxury” ที่นำเอาองค์ประกอบ (element) ของสถาปัตยกรรมที่ Classic มาลดทอนให้มีความทันสมัย (Modern) ขึ้น ในขณะเดียวกันก็ดูโอ่อ่า Luxury ด้วยขนาดบ้านที่เป็นบ้านหลังใหญ่ ซึ่งที่นี่ก็จะมีจุดขายเรื่องพื้นที่ใช้สอยที่มีขนาดใหญ่ด้วยค่ะ ขนาดจะเริ่มต้นที่ 430 ตร.ม. ไปจนถึง 580 ตร.ม.เลย โดยจะเป็นบ้าน 4-5 ห้องนอน มีห้องนอนล่างออกแบบมาเพื่อรองรับผู้สูงวัยโดยเฉพาะ , ได้ที่จอดรถ 3-5 คัน , ห้องน้ำใน Master Bedroom ได้อ่างอาบน้ำแบบลอยตัว (เป็นจุดที่แตกต่างจาก The City ก่อนหน้า) และมีโซนแม่บ้านแยกเป็นสัดส่วนค่ะ
ราคาเริ่มต้นของที่นี่อยู่ที่ 25 ล้านบาท อาจจะเริ่มต้นสูงกว่าบางโครงการ แต่เมื่อเทียบกันเรื่องพื้นที่ใช้สอยแล้ว ขนาดเริ่มต้นของโครงการ The City ปิ่นเกล้า-จรัญฯ3 นี้ เทียบกับแบบบ้านขนาดใหญ่ของโครงการอื่นได้ เลยค่ะ
ในรีวิวนี้เราจะพาไปดูบ้านตัวอย่างซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่ที่มีชื่อว่า Antony กันก่อน ส่วน 2 แบบ Theodore และ Oliver ขนาดรองลงมาจะเป็นบรรยากาศบ้านมาตรฐาน (ไม่ได้ตกแต่งภายใน) ซึ่งเราจะทำเป็น Gallery สั้นๆ ต่อท้ายเอาไว้นะคะ รายละเอียดบ้านแต่ละแบบเป็นอย่างไร ไปดูกันต่อเลยค่ะ
รายการวัสดุ
- โครงสร้างบ้าน Conventional (ระบบเสา-คาน ก่ออิฐ)
- โครงสร้างที่จอดรถ ลงเข็ม I-15 ยาว 3 เมตร
- โครงสร้างลานซักล้าง ลงเข็ม I-15 ยาว 3 เมตร
- โครงสร้างบันได คอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้สัก
- ประตูบ้าน ไม้สัก
- ชุดประตูหน้าต่างกระจก ของ Amigo กระจกใสตัดแสง
- พื้นที่จอดรถ แสตมป์คอนกรีต
- พื้นบ้านชั้น 1 กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 80×80 cm.
- พื้นบ้านชั้น 2 ปาเก้ไม้สัก
- ผนังติด Wallpaper
- ครัว Built-in ครบจากแบรนด์ RCD พร้อมเครื่องดูดควันและอ่างล้างจานของ Teka
- สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจาก Kohler (ห้องน้ำ master bedroomจะได้ระบบน้ำร้อน ส่วนห้องอื่นๆ จะได้ระบบน้ำอุ่น)
- Home Automation
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่า
ANTONY
ANTONYแบบบ้านขนาดใหญ่ที่สุดภายในโครงการ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 139.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 580 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องพระ / 1 ห้องแม่บ้าน / 5 ที่จอดรถ
บ้านแบบนี้จะเป็นบ้านหน้ากว้าง มีจุดที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ
- บ้านขนาดใหญ่มีที่ดินรอบบ้าน จัดสวนหรือมุมพักผ่อนทำกิจกรรมกลางแจ้งได้
- จอดรถได้ 5 คัน สามารถจอดในร่มได้ 4 คันและด้านข้างตัวบ้านอีก 1 คัน
- Maid area แยกโซนเป็นสัดส่วน มีห้องซักรีดในร่มให้พร้อม ไม่ต้องต่อเติม
- โถงทางเข้าแบบ Double volume
- ห้องรับแขกใกล้โถงทางเข้า กั้นเป็นห้องปิดได้ ขนาดใหญ่ รับรองแขกแบบเป็นทางการได้
- พื้นที่กินข้าวขนาดใหญ่ จัดวางโต๊ะกินข้าวขนาด 10-12 ที่นั่งได้สบาย ในขณะที่ยังมีพื้นที่สำหรับครัวฝรั่ง
- พื้นที่พักผ่อนสำหรับครอบครัว มีมาให้ทั้งชั้น 1 และชั้น 2
- ห้องนอนชั้นล่าง ออกแบบไว้รองรับผู้สูงวัย ระดับพื้นเรียบเท่ากันทั้งหมด
- ห้องอเนกประสงค์ชั้น 2 เป็น extra space ที่นอกเหนือจากพื้นที่พักผ่อน จัดฟังก์ชันได้ตามใจชอบ
- ห้องนอนรองขนาดใหญ่ทั้งหมด ได้โซนสำหรับทำ walk-in closet และได้ห้องน้ำในตัว
- master bedroom ขนาดใหญ่ ภายใน master bathroom จะได้อ่างอาบน้ำแบบลอยตัว และ อ่างล้างหน้าแบบ his&her
แบบ ANTONY
สวนรอบๆ ตัวบ้าน
รอบตัวบ้านเท่าที่เราดูจากบ้านตัวอย่างและบ้านมาตรฐาน(ที่ล้อมรั้วแล้ว) บ้านที่นี่ไม่ได้เป็นบ้านที่สร้างคับที่ดินนะคะ เป็นบ้านที่พอเหลือพื้นที่รอบข้างตัวบ้านอยู่ที่สามารถจัดสวน วางเครื่องเล่นเด็กกลางแจ้ง หรือต่อเติมเฉลียงบ้านทำเป็นลาน BBQ เพิ่มเติมได้ โดยบ้านทุกหลังจะมีการจัดสวนไว้ให้ตามมาตรฐาน มีลงพื้นหญ้า ต้นไม้ใหญ่ ไม้พุ่มไว้ให้เบื้องต้นค่ะ
สนามสีเขียวหน้าตัวบ้าน
Maid Area
จุดที่น่าสนใจอีกเรื่องคือการออกแบบฟังก์ชัน Service ภายในบ้านทุกแบบ จะมีพื้นที่แม่บ้านแยกไว้เป็นสัดส่วน สำหรับแบบ Antony นี้จะมีห้องแม่บ้านที่มีห้องน้ำในตัว มีพื้นที่เก็บของ และห้อง Laundry อยู่ เดินออกมาก็จะเจอกับลานซักล้างและเชื่อมต่อไปยังที่จอดรถได้โดยตรง เวลาซื้อของเข้าบ้านหรือมีใครมาติดต่อส่งพัสดุ แม่บ้านก็ออกไปรับได้ง่าย ช่วยยกของเข้าบ้านได้สะดวกค่ะ
Maid Area มีห้องเก็บของอยู่ข้างบ้าน เก็บอุปกรณ์ช่าง อุปกรณ์ทำความสะอาดได้
ที่จอดรถ
บ้านแบบ Antony สามารถจอดรถได้ถึง 5 คัน (ในร่ม 4 คันและกลางแจ้ง 1 คัน) ช่องจอดฝั่งขวาจะกว้าง 5.15 เมตรส่วนฝั่งซ้ายจะกว้าง 4.75 เมตร ลึกประมาณ 3.7 เมตร (ไม่รวมระยะทางลาด) อาจจะต้องสลับจอดรถใหญ่เล็กแต่ละฝั่งด้วยนะคะ
บริเวณที่จอดรถนี้จะติดตั้ง IP Camera เอาไว้ 1 จุด สามารถ monitor ผ่านทาง application ทางโทรศัพท์มือถือได้ และมีทางลาดเข้าตัวบ้าน รองรับการใช้งาน wheelchair / ส่วนประตูเข้าบ้านจากที่จอดรถนี้ก็ถือว่าค่อนข้างแกรนด์เลย ตัวบานเป็นไม้สักที่เป็นบานเปิดสวิงคู่ พร้อมติดตั้ง digital door lock ด้วยค่ะ
ที่จอดรถในร่ม 4 คัน
ทางเข้าบ้าน และ โถงต้อนรับ
ส่วนทางเข้าหลักของบ้านจะอยู่อีกฝั่งค่ะ ออกแบบมาค่อนข้างแกรนด์เช่นกัน ดีไซน์ element ที่เน้นบริเวณทางเข้าให้ดูสูง ตัวบานเป็นไม้สัก มีชานพักหน้าบ้านกว้าง พื้นกรุกระเบื้อง มีไฟผนังตกแต่งครบ
ประตูทางเข้าบ้าน
หลังจากเข้ามาภายในตัวบ้านแล้ว เนื่องจากเป็นบ้านหลังใหญ่เราเลยจะเจอกับโถงต้อนรับก่อนเลย ซึ่งตรงนี้จะเป็นโถงโปร่งสูงแบบ Double volume เราสามารถจัดวางของตกแต่งต้อนรับได้เต็มที่
โถงต้อนรับฝ้าเพดานสูง เชื่อมต่อกับพื้นที่ชั้น 2 ได้
ห้องรับแขก
จากโถงต้อนรับหันมาทางขวามือจะเจอกับห้องรับแขก พื้นที่ภายในห้องมีขนาดใหญ่ 5.25×4.6 เมตร มีกระจก 2 ฝั่งของตัวห้องซึ่งเป็นกระจกบานใหญ่ ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูโปร่งโล่งด้วย โดยตัวบ้านมาตรฐานจะเป็นบ้านเปล่าที่ไม่ได้กั้นห้องเอาไว้ ส่วนตัวมองว่าสามารถกั้นให้เป็นห้องปิดเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวขึ้นได้ เผื่อต้องรองรับแขก คุยธุระสำคัญค่ะ
บรรยากาศภายในห้องรับแขก
โถงกลางบ้าน
ถัดเข้ามาภายในบ้านจะเจอกับโถงกลางบ้าน ซึ่งเป็นจุดที่เชื่อมต่อพื้นที่หลายๆ ส่วนเอาไว้ด้วยกัน ในบ้านตัวอย่างถือว่าออกแบบไว้น่าสนใจเลยค่ะ ไม่ได้จัดวางแค่ของตกแต่ง แต่เพิ่มเก้าอี้ที่มีความโค้งกลมเพิ่มเข้าไป ทำให้บรรยากาศดูสบายขึ้น เป็นมุมที่สมาชิกสามารถเขียนการ์ดอวยพร หรือวางของขวัญเซอร์ไพรส์คนอื่นในบ้านได้นะ
บรรยากาศของโถงกลางบ้าน
พื้นที่รับประทานอาหาร
หันมาทางซ้ายมือ โซนนี้จะเป็นพื้นที่รับประทานอาหารค่ะ แปลนบ้านหลายๆ แบบที่เคยเห็นจะนำเอาพื้นที่กินข้าว เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น แต่แปลนบ้านหลังนี้เราสามารถจัดแยกกันได้ หรือจะกั้นเป็นห้องปิดโดยเฉพาะก็ได้เลย ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ก็ถือว่าใหญ่หน้ากว้าง 4 เมตรนิดๆ และลึกเกือบ 8 เมตร
จากขนาดของพื้นที่แล้ว เราสามารถแบ่งให้มีโซน Pantry หรือครัวฝั่งพร้อม island ตรงกลางเดินรอบได้ โดยที่ยังจัดโต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่ 10-12 ที่ได้สบาย เป็นพื้นที่จัดเลี้ยงรับรองแบบเป็นทางการได้ด้วยนะคะ
ส่วนรับประทานอาหาร
ห้องน้ำ Powder Room
ที่มุมของบ้านฝั่งที่จอดรถจะมีห้องน้ำอยู่เป็น Powder room (ไม่มีส่วนอาบน้ำ) รองรับการใช้งานที่ชั้น 1 โดยเฉพาะค่ะ
powder room ชั้น 1
เชื่อมต่อกับ Maid area
จากส่วนกินข้าว จะเชื่อมออกไปยัง maid area ที่อยู่ข้างบ้านได้ โดยพื้นที่ตรงนี้ถือว่ามีขนาดใหญ่อยู่ กั้นเป็นห้องเก็บของเพิ่มได้นะคะ
จะกั้นประตูอีกชั้นบังพื้นที่ส่วนนี้ด้วยก็ได้ค่ะ
Pantry
มาดูพื้นที่ครัวฝรั่งหรือ Pantry กันค่ะ ตรงนี้จะเป็นพื้นที่โล่งที่ทางโครงการเตรียมงานระบบเอาไว้ให้เผื่อต่อเติมให้มีอ่างล้างจานก็ทำได้นะ มุมนี้เรามองว่าทำเป็น station เล็กๆ วางตู้เย็น มุมกินอาหารเช้า ดริปกาแฟ บรรยากาศดูผ่อนคลายขึ้นค่ะ
Pantry เชื่อมต่อพื้นที่กินข้าว
ครัวไทย
ภายในบ้านทุกหลังจะมีครัวไทยแยกเป็นสัดส่วน และมี Built-in ชุดครัวมาให้ครบ ทั้งเคาน์เตอร์ หน้าบานชั้นเก็บของ เครื่องดูดควัน อ่างล้างจาน (ขาดแต่เตา ขึ้นอยู่ว่าแต่ละบ้านอยากได้เป็นเตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้าค่ะ) พื้นที่ภายในครัวมีขนาดใหญ่ราวๆ 3.7×2.65 เมตร เคาน์เตอร์โอบล้อมเป็นรูปตัว U เลยค่ะ
พื้นที่ครัวไทย พร้อมชั้นวางของจัดเต็ม
ห้องนั่งเล่น
มาดูพื้นที่ส่วนต่อมาที่อยู่อีกฝั่งของโถงหน้าบันไดกันนะคะ ตรงนี้จะเป็นห้องนั่งเล่นและห้องนอนชั้นล่าง
ถ้าห้องที่อยู่ด้านหน้าเป็นห้องรับรองแขกที่ดูเป็นทางการ พื้นที่ส่วนนี้เราสามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่นที่ดูผ่อนคลายขึ้นได้ค่ะ อาจจะมีชุดเกมส์ ชุดคาราโอเกะเผื่อไว้ทำกิจกรรมกับเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวได้นะคะ อย่างเวลาที่ชวนเพื่อนมาบ้าน กินข้าวกันเสร็จก็นั่งเล่นเกมส์กันต่อได้เลย
พื้นที่ส่วนนี้อยู่ที่ประมาณ 3.75x5.55 เมตร ถือว่าลึกพอสมควรเลย
ห้องนอนชั้นล่าง
ภายในห้องนอนนี้จะออกแบบโดยยึดหลัก universal design เพื่อให้คนทุกวัยใช้งานได้สะดวก ดังนั้นระดับพื้นต่างๆ ตั้งแต่หน้าห้อง ในห้องนอน ไปยังภายในห้องน้ำจะอยู่ระดับเดียวกันทั้งหมด แต่จะมีการเปลี่ยนวัสดุพื้นให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละพื้นที่เช่น ด้านนอกจากที่เป็นกระเบื้องพอเข้ามาในห้องนอนจะใช้เป็นปาเก้ไม้สักที่สร้างให้บรรยากาศภายในห้องดูอบอุ่นยิ่งขึ้น ส่วนในห้องน้ำก็จะเป็นกระเบื้องซึ่งทนน้ำและง่ายต่อการทำความสะอาด
ภายในห้องนอนถือว่ามีขนาดใหญ่ จัดสัดส่วนออกมาเป็นพื้นที่นอน+พักผ่อน ขนาด 2.65 x 4.8 เมตร และแยกพื้นที่แต่งตัวหรือว่า walk-in closet ออกมาขนาดประมาณ 2.5×2.3 เมตร เรามองว่าพื้นที่ข้างเตียงมีขนาดกว้าง ถ้าต้องใช้งาน wheelchair จริงๆ ก็สามารถเข็นเข้ามาถึงเตียงได้สะดวกค่ะ
ห้องนอนชั้นล่าง รองรับผู้สูงวัย
ส่วนห้องน้ำก็จะมีขนาดกว้างเช่นกันค่ะ มีหน้าต่างเป็นช่องแสงและช่วยระบายอากาศภายในด้วย
โถงบันได
โถงบันไดของบ้านแบบนี้ถือว่ามีขนาดใหญ่และออกแบบมาได้ grand พอสมควรเลยค่ะ โครงสร้างบันไดจะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กที่แน่นและทน (เดินแล้วไม่รู้สึกยวบยาบนะ) ส่วนพื้นบันไดก็จะปิดผิวด้วยไม้สัก ตัวบันไดจะกว้างถึง 1.5 เมตร สามารถเดินสวนกัน 2 คนสบายมาก บริเวณผนังที่ชานพักก็มีไฟผนังตกแต่งให้มาด้วยค่ะ
บันไดบ้าน เราหาโคมไฟระย้ามาตกแต่งตรงนี้เพิ่มก็ได้นะคะ
โถงกลางบ้านชั้น 2
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับโถงกลางบ้านก่อน ทางซ้ายมือจะเป็น Master Bedroom ส่วนขวามือจะเป็นห้องนอนรองและ Family area
โถงกลางบ้านตรงนี้เป็นเหมือน Transition area ที่แจกจ่ายไปยังพื้นที่ต่างๆ แต่ก็มีขนาดใหญ่ 4.4 x 3.85 เมตร ซึ่งเราจะจัดเป็นชั้นวางของ หรือว่าพื้นที่นั่งเล่นแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ค่ะ (แต่อาจจะไม่เหมาะในการจัดเป็นฟังก์ชันที่ต้องใช้สมาธิเช่น ห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ เนื่องจากเป็นจุดที่คนผ่านไปมาเยอะ)
จากโถงบ้านชั้น 2 สามารถเชื่อมต่อมายังโถงต้อนรับที่อยู่ทางเข้าบ้านชั้น 1 ได้ สมาชิกในบ้านสามารถรับรู้ได้เมื่อมีแขกมาหาค่ะ
เราขอพาไปดู Family area และห้องนอนรองที่อยู่ฝั่งนี้ก่อน แล้วค่อยไปดู Master Bedroom ปิดท้ายนะคะ
จุดที่น่าสนใจอีกเรื่องคือทางเดินหน้าห้องนอนที่ออกแบบมากว้างถึง 2.5 เมตร ถือว่าใหญ่มากเลยทีเดียว สามารถจัดชั้นวางของหรือ Built-in ตู้เก็บของบริเวณผนังหน้าห้องนอนได้อีกเยอะเลยค่ะ
Family area ชั้น 2
ใกล้กับโถงกลางบ้านชั้น 2 จะมี Family area อยู่ทางฝั่งหน้าบ้านค่ะ โดยทางโครงการจะจัดไว้เป็นพื้นที่โล่ง ซึ่งเราสามารถกั้นปิดเป็นห้องแยกได้เพิ่มอีก 1 ห้องนะ (ในกรณีที่ต้องการความสงบ) พื้นที่ตรงนี้เรามองว่าเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่จะจัดเป็นห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ ห้องดูหนัง เป็นมุมพักผ่อนของสมาชิกในครอบครัวได้ค่ะ
พื้นที่ตรงนี้จะเชื่อมต่อกับระเบียงหน้าบ้าน
ห้องพระ / ห้องอเนกประสงค์
ที่ปลายสุดของทางเดินจะมีห้องอเนกประสงค์อยู่หนึ่งห้องค่ะ กั้นโดยประตูบานเลื่อนกระจก ตัวห้องมีขนาดประมาณ 2.5×3.25 เมตร จัดฟังก์ชันได้ตามต้องการเลย ใช้เป็นห้องพระ ห้องออกกำลังกาย ฯลฯ โดยในบ้านตัวอย่างจะจัดเป็นห้องสำหรับน้องแมว ดูน่ารักดีนะคะ เป็นไอเดียเผื่อใครมีสัตว์เลี้ยงก็สร้างห้องให้น้องอยู่ได้เลย
ห้องอเนกประสงค์
ห้องนอนรอง 1
มาดูห้องนอนรองห้องแรกกันค่ะ โทนการตกแต่งห้องนี้เป็นสีชมพูหวานเลย ภายในห้องมีขนาดใหญ่มาก แบ่งพื้นที่พักผ่อน โซนแต่งตัว (Walk-in Closet) ได้ และมีห้องน้ำในตัว
ภายในห้องจะลึกถึง 5 เมตร และมีหน้ากว้างประมาณ 3.7 เมตร สามารถเลือกเตียงขนาดใหญ่ 5-6 ฟุตได้สบาย เหลือพื้นที่ปลายเตียงจัดเป็นชั้นวางทีวีได้ ส่วนพื้นที่ข้างเตียงก็กว้าง เพิ่มชั้นเก็บของ มุมโต๊ะเครื่องแป้ง หรือจะหาโซฟาพักผ่อนเล็กๆ มาวางในห้องก็ได้เช่นกันค่ะ
ห้องนอนรอง 1
อีกฝั่งของห้องจะเป็นห้องน้ำและพื้นที่แต่งตัวที่อยู่หน้าทางเข้า
ห้องน้ำส่วนตัวจะวางฟังก์ชันอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และ ห้องอาบน้ำเรียงเข้าไปตามความถี่ในการใช้งานนะ โดยภายในจะมีหน้าต่างกระจกฝ้าบานใหญ่ เพิ่มแสงสว่างให้ห้องน้ำ และเปิดระบายความชื้นได้
ห้องนอนรอง 2
ห้องนอนรองห้องที่ 2 (ฝั่งหลังบ้าน) ห้องนี้จะมีการจัด Layout ที่น่าสนใจอยู่นะ เน้นไปที่พื้นที่เก็บของ ส่วนเตียงจะเลือกขนาด 3.5 ฟุต แทน เหมาะสำหรับอยู่คนเดียว และต้องการพื้นที่ทำงานอดิเรกภายในห้อง เช่น มุมเล่นดนตรี แต่งเพลง หรือมุมแคสเกมส์ เป็นต้นค่ะ
ห้องนี้จะลึก 5 เมตรเท่ากับห้องนอนรองเมื่อสักครู่ แต่จะมีหน้ากว้างอยู่ที่ประมาณ 3.4 เมตรค่ะ ในห้องตัวอย่างจะสร้างชั้นวางของ(โต๊ะเครื่องแป้ง)เพิ่มมา เป็นฉากบังหัวเตียงพอดี ทำให้เวลาเข้าห้องมาจะไม่เห็นเตียงนอนตรงๆ เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่อยู่ในห้องได้
จัดเตียงนอนชิดผนัง เพิ่มพื้นที่ทำงานอดิเรกในห้องนอน
ตัวห้องนี้ออกแบบภายในเน้นไปที่พื้นที่เก็บของ เราเลยจะเห็นตู้เก็บของค่อนข้างเยอะเลยค่ะ
ห้องนอนรอง 3
ห้องนอนรองห้องสุดท้ายอยู่ทางฝั่งหน้าบ้านค่ะ ห้องนี้เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่กว่า 2 ห้องก่อนหน้านะคะ ภายในห้องพื้นที่พักผ่อนอยู่ที่ 4×4.7 เมตร สังเกตได้ว่าระยะจากปลายเตียงมายังผนังกว้างมาก สามารถหาโซฟาพักผ่อนมาวางที่ปลายเตียงด้วยได้เลย นอกจากนี้พื้นที่ข้างเตียงก็เหมาะกับการทำเป็นมุมทำงานส่วนตัวภายในห้อง
ห้องนอนรอง 3
พื้นที่แต่งตัวจะแยกเป็นสัดส่วนอยู่หน้าห้องน้ำ ผนังตรงนี้ยาวถึง 2.45 เมตรเลยค่ะ
Master Bedroom
มาดูห้อง Master Bedroom กันค่ะ โดยห้องนี้จะมีขนาดใหญ่สุด กินพื้นที่ตั้งแต่งหน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้านเลย
เข้ามาภายในเราจะเจอกับพื้นที่พักผ่อนขนาดใหญ่ ห้องนี้จะมีหน้ากว้างถึง 5.45 เมตรและลึกถึง 8 เมตร โดยทางโครงการจะให้มาเป็นห้องเปล่า สามารถกำหนดสัดส่วนของ Walk-in closet และกั้นเอาเองได้ค่ะ
ภายในห้องนอนเราจะจัดมุมทำงาน มุมพักผ่อน วางเตียงนอนขนาดใหญ่ได้สบาย
Walk-in Closet ขนาดใหญ่
ในบ้านตัวอย่างจะมีการกั้นส่วน Walk-in Closet แยกเอาไว้
Master Bathroom
เดินเข้ามาด้านในสุดจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ซ้ายมือจะแบ่งกั้นเป็นห้องอาบน้ำและห้องสุขา ขวามือจะมีอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว และตรงกลางห้องจะเป็นอ่างล้างหน้าแบบ His&Her ค่ะ
บ้าน The City ซีรีส์ที่ผ่านๆ มา ตัวอ่างจะเป็นแบบก่อเข้ามุมกับแนวผนัง แต่ว่าโครงการนี้จะให้อ่างลอยตัวมา ดีไซน์เลยจะดูหรูหราขึ้นด้วยค่ะ
พื้นที่ห้องน้ำขนาดใหญ่ และ ได้อ่างล้างหน้าแบบ His&Her ใช้งานพร้อมกันสามี ภรรยาได้เลย
ห้องอาบน้ำและห้องสุขากั้นแยกเป็นสัดส่วนด้วยฉากกั้นกระจก
สรุปแล้วเรามองว่าแบบ Antony นี้เป็นบ้านหลังใหญ่ที่ได้พื้นที่ใช้สอยกว้างในทุกๆ ห้อง มีพื้นที่เก็บของเหลือเฟือ และมี Extra space หรือพื้นที่อเนกประสงค์ที่นอกเหนือจากฟังก์ชันหลักมาอีกหลายจุด ให้ปรับใช้ตามความต้องการของเจ้าของบ้านได้ สามารถอยู่พร้อมหน้ากันเป็นครอบครัวใหญ่ได้สบายเลยค่ะ
THEODORE
มาดูบ้านขนาดเริ่มต้นของโครงการกันค่ะ THEODORE เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 109 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 430 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องพระ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
ด้วยพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชันแล้ว เทียบกับบ้านหลังใหญ่ของโครงการอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ ได้เลยนะคะ โดยราคาเริ่มต้นของบ้านแบบนี้เราคาดว่าจะอยู่ที่ 25 ล้านบาท (ตามราคาที่ลงในหน้า Official Website)
จุดที่น่าสนใจของฟังก์ชันบ้านขนาดเริ่มต้นหลังนี้
- บ้านหลังใหญ่ หน้ากว้าง ได้ที่จอดรถ 3 คัน
- มีพื้นที่ maid area แยกเป็นสัดส่วน พร้อมพื้นที่ laundry ในร่ม
- ได้ครัวไทยภายในบ้านพร้อม Built-in
- โถงทางเข้าบ้านฝ้าเพดานสูง
- ห้องรับแขกแยกเป็นสัดส่วน กั้นเป็นห้องปิดเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้
- common area ใจกลางบ้าน ขนาดใหญ่
- มีห้องนอนชั้นล่างออกแบบไว้รองรับการใช้งานของผู้สูงวัย ระดับพื้นเรียบเท่ากันทั้งหมด
- ได้ Family area และ ห้องอเนกประสงค์ที่ชั้น 2
- ห้องนอนรองมีขนาดใหญ่ ได้พื้นที่สำหรับทำเป็น walk-in closet พร้อมห้องน้ำในตัว
- master bedroom มีขนาดใหญ่ ภายใน master bathroom จะได้อ่างอาบน้ำและอ่างล้างหน้าแบบ his&her
หน้าบ้านและรอบตัวบ้าน
THEODORE แม้จะเป็นบ้านขนาดเริ่มต้นของโครงการ แต่ก็ถือว่าเป็นบ้านขนาดใหญ่ บ้านหน้ากว้าง ที่มีที่ดินรอบตัวบ้าน สามารถจอดรถได้ 3 คัน พื้นที่จอดรถจะใช้เป็นคอนกรีตแสตมป์ ดูเรียบร้อยสวยงาม มีการลงต้นไม้ทั้งสนามหญ้า ไม้พุ่ม ต้นไม้ใหญ่ไว้ให้ตามมาตรฐาน ที่รั้วก็จะมีทั้งประตูที่จอดรถ และ ประตูทางเดินคนเข้าบ้าน มีบ้านเลขที่ กริ่ง ไฟส่องสว่าง ถังขยะให้ครบครัน เป็นแบบและดีไซน์เดียวกันทั้งโครงการให้ดูสวยงามสไตล์เดียวกัน
บ้านแบบ Theodore
ชั้น 1
ฟังก์ชันภายในชั้น 1 จัดมาให้ครบครัน ได้ทั้งโถงทางเข้าแบบฝ้าเพดานสูง ห้องรับแขก Common area ใจกลางบ้านที่จัดเป็น Pantry มุมกินข้าวและพื้นที่นั่งเล่นได้ ซึ่งจะอยู่ต่อเนื่องไปกับห้องครัว นอกจากนี้ก็จะมีห้องนอนชั้นล่างที่ออกแบบมารองรับผู้สูงวัยด้วยค่ะ
โถงทางเข้าฝ้าเพดานสูง
ชั้น 2
ที่ชั้นบนจะเป็นส่วนพักผ่อนของครอบครัว ประกอบไปด้วยพื้นที่อเนกประสงค์ใจกลางบ้าน (เชื่อมต่อไปยังโถงทางเข้าบ้านฝ้าเพดานสูงที่ชั้น 1 ได้) มีห้องนอนรอง 2 ห้องอยู่ฝั่งหลังบ้าน และมีห้องอเนกประสงค์กั้นไว้เป็นสัดส่วนให้มา 1 ห้อง ส่วน Master Bedroom ก็จะมีขนาดใหญ่ ยาวตั้งแต่หน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้านเลยค่ะ
โถงกลางบ้านชั้น 2
OLIVER
OLIVER เป็นแบบบ้านขนาดกลางของโครงการ ที่ดินเริ่มต้น 114.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 500 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ห้องรับประทานอาหาร / 1 ห้องพระ / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ
บ้านแบบนี้จะมีฟังก์ชันใกล้เคียงกับบ้านเริ่มต้น THEODORE เลยค่ะ แต่จะมีพื้นที่ใช้สอยเยอะขึ้นและได้ที่จอดรถ 4 คัน ส่วนหน้าบ้านนั้นจะมีความใกล้เคียงกับบ้านหลังใหญ่ ANTONY อยู่ เรียกว่าเป็นบ้านแบบกึ่งกลางระหว่างแบบใหญ่และแบบเล็กนะ
หน้าบ้านและรอบตัวบ้าน
บ้านแบบ OLIVER
ชั้น 1
โถงทางเข้าบ้าน
ชั้น 2
ทางเดินหน้าห้องชั้น 2
ราคา
The City ปิ่นเกล้า-บรมฯ3 ราคา ณ วันที่ 16 Jan 2023
เนื่องจากวันที่เราไปรีวิวทางโครงการยังไม่เปิดขายอย่างเป็นทางการ เลยยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับราคาบ้านนะคะ แต่จากหน้า official website ลงไว้ว่าราคาเริ่มต้น 25-40 ล้านบาท* ใครที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลกับทางโครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
- จองและทำสัญญา n/a บาท
- ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
- ค่าส่วนกลาง 29 บาท/ตร.วา/เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
โครงการ The City ปิ่นเกล้า-บรมฯ3 ตั้งอยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 1 ห่างจากถนนบรมราชชนนี และ ใกล้กับถนนราชพฤกษ์ เป็นทำเลที่เดินทางสะดวก เข้าเมืองทางฝั่งปิ่นเกล้าได้ง่าย และใกล้กับทางด่วน นอกจากนั้นยังเป็นทำเลที่ใกล้กับ community mall อย่าง Food villa และ The Circle ราชพฤกษ์ หาของกินง่าย เดินทางสะดวกค่ะ
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
โครงการจาก AP จะมีระบบรักษาความปลอดภัยที่มีชื่อว่า KATSAN ซึ่งพัฒนาขึ้นมาและผูกเข้ากับ Application ให้ลูกบ้านสามารถใช้งานสะดวก E-stamp ได้ง่าย แจ้ง status ของเจ้าของบ้านได้ว่าอยากจะรับแขกหรือไม่ และ monitor ได้ว่ารถที่เข้ามาภายในโครงการเป็นของใคร ติดต่อบ้านหลังไหน ส่วนภายในตัวบ้านถือว่าให้มาครบทั้ง Magnetic กับ Shock sensor ภายในตัวบ้าน และมี ip camera ให้มาบ้านละ 2 ตัวค่ะ
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
โครงการมีขนาดเล็กเพียง 68 หลัง ถือว่าได้ความเป็นส่วนตัวอยู่นะคะ มีพื้นที่ส่วนกลางให้ฟังก์ชันครบ แต่จุดเด่นจะเป็นเรื่องแบบบ้าน ที่ได้บ้านหลังใหญ่ พื้นที่ใช้สอย 430-580 ตร.ม. และเป็นแบบบ้านซีรีส์ใหม่จาก AP ที่มาในสไตล์ Modern Classic Luxury พื้นที่แต่ละฟังก์ชันใหญ่ใช้งานสบาย และเป็นแบบบ้านที่ได้ที่จอดรถ 3-5 คันค่ะ
วัสดุ :
ตัววัสดุเรามองว่าหลายอย่างก็ถูกอัปเกรดขึ้นมาจาก The City ตัวก่อนหน้า ถือว่าราคา 25 ล้านบาทขึ้นไปนั้น ก็น่าจะคุ้มค่ากับพื้นที่ใช้สอยและวัสดุที่ให้ จุดที่น่าสนใจเช่น พื้นที่จอดรถเป็นคอนกรีตแสตมป์ดูสวยงาม ประตูบ้านเป็นไม้สัก และพื้นห้องนอนและพื้นชั้น 2 ได้พื้นปาเก้ไม้สัก ตัวกระเบื้องชั้น 1 ก็ใช้ขนาดใหญ่กว่าทั่วไปเป็น 80×80 cm. (โครงการอื่นๆ ตามมาตรฐานจะใช้ 60×60 cm.) บานประตูหน้าต่างจะมีซอยเฟรมกระจกให้เข้ากับดีไซน์บ้าน และภายในห้องน้ำ master bedroom ได้อ่างอาบน้ำแบบลอยตัว (เราไม่เคยเจอโครงการ The city ให้อ่างลอยตัวมาก่อนนะ)
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
วันที่ไปถ่ายรีวิวโครงการเพิ่งเปิดโซนแรกเท่านั้น แต่ก็จะเห็นบรรยากาศของทางเข้า clubhouse ซึ่งออกแบบมาดูสดชื่นดีค่ะ เนื่องจากตัวสวนขนาดประมาณ 1 ไร่จะถูกจัดไว้ตรงกับทางเข้าพอดี ใครที่เข้า-ออกโครงการก็จะเจอกับส่วนนี้เป็นอันดับแรก ส่วนภายในโครงการก็จะมีลงต้นไม้ให้ภายในบ้านตามมาตรฐาน หน้าบ้านก็มีทางเท้าและต้นไม้ลงไว้เพิ่มเติม ดูแล้วน่าจะร่มรื่นทุกซอยเลยนะ
สาธารณูปโภค :
โครงการนี้เราถือว่าส่วนกลางให้มาตามมาตรฐานค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกว่ามาตรฐานของโครงการจัดสรรในปัจจุบันก็ต้องมีฟังก์ชันเหล่านี้ คือ Clubhouse สวนสาธารณะ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ซึ่งที่นี่จะมีการออกแบบ lobby และ co-working space แยกจากกัน มีห้องเล่นเด็ก ห้องดูหนัง และห้องโยคะเพิ่มเติมมาด้วย ตัวฟิตเนสก็ถือว่าขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับจำนวนบ้านในโครงการที่มีอยู่ 68 หลัง พื้นที่ต่างๆ ดีไซน์มาสวยงามน่าใช้งานค่ะ
The City ปิ่นเกล้า-บรมฯ3 เหมาะกับใคร?
The City ปิ่นเกล้า-บรมฯ3 เหมาะกับคนที่มองหาบ้านสำหรับครอบครัวใหญ่ในโซนราชพฤกษ์ – บรมราชชนนี อยากได้บ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะและที่ดินขนาดใหญ่ ให้ความสำคัญกับทำเลที่เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วน เข้าถึงย่านไลฟ์สไตล์ได้ง่าย มีงบประมาณ 25-40 ล้านบาท