SIRANINN Residences บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ระดับ SUPER LUXURY ได้ที่ดินขนาดใหญ่ ในซอยพัฒนาการ 32 จาก สิงห์ เอสเตท [รีวิวฉบับที่ 2487]

SIRANINN Residences (ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส) ณ วันที่ 24 มกราคม 2565

พิกัด Google Maps : 13.723435, 100.624076
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

SIRANINN Residences ตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ 32 ซึ่งเป็นทำเลใจกลางเมือง สามารถเชื่อมต่อไปยังเอกมัย ทองหล่อ หรือถนนสุขุมวิทได้สะดวก เป็นทำเลที่เหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์คนเมือง ชอบความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต เดินทางด้วยรถส่วนตัวได้ง่าย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้มีโครงการบ้านระดับ Super Luxury เกิดขึ้นบนทำเลนี้หลายโครงการ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นบ้านพื้นที่ใช้สอยเยอะ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นบ้าน 3 ชั้น มีลิฟต์ในตัว เป็นการจัดฟังก์ชันแนวดิ่งทั้งหมด

ทำให้โครงการ SIRANINN Residencesโดดเด่นในเรื่องของโปรดักส์ที่นอกจากจะได้ที่ดินใหญ่ พื้นที่ใช้สอยเยอะแล้ว จุดที่สำคัญอีกหนึ่งประเด็นคือ เป็นบ้าน 2 ชั้น หน้ากว้าง ทำให้สามารถใช้พื้นที่ในแนวราบเชื่อมต่อฟังก์ชันต่างๆ เข้าหากันได้ดี ใช้งานร่วมกันในครอบครัวได้ง่าย

การเดินทางด้วยรถ สำหรับซอยพัฒนาการ 32 เป็นทำเลที่สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง ย่านเอกมัย ทองหล่อได้สะดวก โดยวิ่งไปตามถนนพัฒนาการเชื่อมต่อถนนเพชรบุรีแล้วก็เลี้ยวเข้าสู่เอกมัย ทองหล่อได้เลย ซึ่งจากโครงการก็เป็นระยะประมาณ 6-7 กม. เท่านั้น อีกทั้ง ถนนพัฒนาการ ยังสามารถเชื่อมต่อไปยังรามคำแหง-บางกะปิได้ด้วย หรือถ้าไปทางถนนศรีนครินทร์ก็จะสามารถไปสมุทรปราการหรือลาดกระบัง-สุวรรณภูมิได้สะดวกเช่นกัน

นอกจากนั้นซอย พัฒนาการ 32 ยังสามารถลัดเลาะไปยังซอยต่างๆได้ ทำให้สามารถเชื่อมต่อถนนหลักได้ โดยไม่ต้องผ่านถนนใหญ่ ใช้เป็นทางเลือกเวลารถติดได้ค่ะ โดยสามารถเชื่อมต่อซอยพัฒนาการ 20 , 30 , 38 เชื่อมไปออกซอยอ่อนนุช 17 เพื่อไปออกเส้นอ่อนนุชได้เลย หรือจะลัดเลาะไปซอยศรีนครินทร์ 20 เพื่อออกเส้นศรีนครินทร์ก็ได้เช่นกัน อีกทั้งยังเป็นทำเลที่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนฉลองรัชอีกด้วย ซึ่งมีระยะประมาณ 3.4 กม. หรือใช้เวลาเดินทางประมาณ 6-10 นาทีเท่านั้นค่ะ

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ปัจจุบันที่ใกล้ที่สุดคือ BTS อ่อนนุช ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 4.7 กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางลัดเลาะไปออกเส้นอ่อนนุชแล้วก็ตรงสู่สถานีได้เลย นอกจากนั้นในอนาคตทำเลนี้จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเส้นลาดพร้าว-สำโรง ที่กำลังก่อสร้างอยู่ให้ใช้งาน ซึ่งสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีพัฒนาการ ใช้เป็นทางเลือกเพิ่มความสะดวกในการเดินทางได้มากยิ่งขึ้นค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ ในซอยพัฒนาการ 32 บรรยากาศจะคึกคักน้อยว่าซอยพัฒนาการ 30 ที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ส่วนอีกซอยที่คึกคักไม่แพ้กันคือซอยพัฒนาการ 20 ที่จะมีร้านค้าร้านอาหารอยู่เต็มไปหมด มีร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน และยังมี Community Mall อย่าง Park Plaza อยู่ด้วย ซึ่งจากซอย พัฒนาการ 32 สามารถลัดเลาะไปได้สะดวก ขับรถวนหาอะไรทานได้ไม่ยาก หรือจะใช้บริการ Delivery ค่าส่งก็ไม่แพงนะ

นอกจากนั้นอย่างที่บอกไปว่า ที่ตั้งโครงการสามารถเชื่อมต่อไปยังย่านทองหล่อ เอกมัยได้ง่าย และอย่างที่รู้กันดีว่าเป็นย่านที่ ความอุดมสมบูรณ์สูง เป็นแหล่ง Hangout ยอดนิยม มี Community Mall สถานบันเทิงต่างๆ และร้านอาหารนานาชาติชื่อดังมากมาย อีกทั้งยังมีอาคารสำนักงาน และโรงแรม อยู่เยอะอีกด้วย

นอกจากนั้นที่ตั้งโครงการยังเป็นทำเลที่รายล้อมไปด้วยโรงเรียนนานาชาติ และโรงพยาบาลชั้นนำหลายแห่ง อย่างโรงเรียนนานาชาติในย่านนี้ก็จะมี Ekamai International School , Bangkok Prep , St. Andrews , Shrewsbury ส่วนโรงพยาบาล ที่ใกล้ๆ ก็จะมี รพ.กรุงเทพ , รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ , โรงพยาบาลรามคำแหง ที่ห่างจากโครงการประมาณ 6 กม. เดินทางไปได้ง่ายเลยค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมโครงการโดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบสูง 1-2 ชั้นทั้งหมด จะมองเห็นคอนโดและอาคารสำนักงานตึกสูง อยู่บ้าง แต่ก็อยู่ห่างออกไป ไม่ได้เสียความเป็นส่วนตัวแต่อย่างใด

• ทิศเหนือ ติดกับ ที่ดินเปล่า คลองหัวหมาก ฝั่งตรงข้ามเป็น บ้านพักอาศัยแนวราบ
• ทิศใต้ ติดกับ โครงการบ้านพักอาศัยแนวราบสูง 2 ชั้น
• ทิศตะวันออก ติดกับ โครงการบ้านพักอาศัยแนวราบสูง 2 ชั้น
• ทิศตะวันตก ติดกับ ซอยพัฒนาการ 32 และที่ดินเปล่ารอการพัฒนา

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• ธัญญาพาร์ค ~ 3.6 km.
• HomePro พระราม 9 ~ 5.0 km.
• The nine พระราม 9 ~ 5.7 km.
• Donki Mall ~ 6.2 km.
• 72 Courtyard ~ 6.5 km.
• The Common ทองหล่อ ~ 6.6 km.
• J-Avenue ~ 6.7 km.
• Emporium ~ 8.4 km.
• EmQuartier ~ 9.5 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลกรุงเทพ ~ 6.2 km.
• โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ~ 6.2 km.
• โรงพยาบาลรามคำแหง ~ 6.2 km.
• โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ~ 7.3 km.
• โรงพยาบาลพระราม 9 ~ 8 km.

โรงเรียน

• โรงเรียนนานาชาติเอกมัย ~ 5.6 km.
• โรงเรียนนานาชาติ บางกอก เพรพ ~ 6.2 km.
• โรงเรียน ดิ อเมริกัน สคูล ออฟ แบงค็อก ~ 7.5 km.
• โรงเรียนนานาชาติ โชรส์เบอรี วิทยาเขตบางกอกซิตี้ ~ 8.1 km.
• Regent’s International School Bangkok ~ 8.1 km.

SIRANINN Residences เป็นแบรนด์บ้านระดับ Super Luxury จาก สิงห์ เอสเตท ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเปิดตัวโครงการระดับ Super Luxury อย่าง โครงการ SANTIBURI The Residences บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม ในย่านเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรามาแล้ว

ซึ่งในครั้งนี้ SIRANINN Residences ยังคงมาในรูปแบบ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น รองรับครอบครัวใหญ่ โดยการออกแบบจาก AT FORTY CO.,LTD. ในสไตล์ International Modern Tropical ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านเรือนไทยสมัยก่อน (Tropical Thai House) แต่ยังคงความสมดุลระหว่าง Modern และ Traditional อย่างลงตัว เน้นฟังก์ชันภายในบ้านที่สามารถใช้งานร่วมกันในครอบครัวได้ดี มีพื้นที่เปิดโล่ง และ Courtyard ใช้วัสดุเป็นหิน และวัสดุลายไม้ ดูอบอุ่น สบายตา ซึ่งทุกอย่างในโครงการจะมาในธีมเดียวกันทั้งหมด ดูเป็นเรื่องราวต่อเนื่องตั้งแต่ทางเข้าโครงการจนถึงตัวบ้านเลยค่ะ ส่วนรายละเอียดต่างๆ จะเป็นอย่างไรไปชมกันค่ะ

Master Plan ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ 32 บนที่ดินเกือบ 24 ไร่ เมื่อเข้าโครงการมาแล้วจะเจอกับ Clubhouse ก่อน แล้วจึงข้ามสะพาน มายังโซนบ้านพักอาศัย ซึ่งทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวดี ตัวผังโซนพักอาศัยส่วนใหญ่จัดให้เป็นถนนที่สามารถวิ่งวนได้โดยรอบ ซึ่งจะใช้งานได้สะดวกเลย กรณีมีแขกจอดรถหน้าบ้าน เวลาจะกลับก็สามารถขับวนออกได้เลย แต่จะมีบ้านโซนด้านในที่ถนนจะไม่ได้วนรอบ แต่ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ไม่ค่อยมีคนผ่านหน้าบ้านมากนัก ส่วนจุดที่น่าสนใจเราขอสรุปเป็นประเด็นไว้ดังนี้

• มีความเป็นส่วนตัวสูง ด้วยจำนวนยูนิตที่น้อยเพียง 28 ยูนิต
• พื้นที่ส่วนกลางหลักแยกกับส่วนพักอาศัยชัดเจน ทำให้บ้านได้ความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น
• บ้านทุกหลังหันหน้าไปทางทิศเหนือ-ใต้ รับลมได้ดี สำหรับคนที่อยากให้หน้าบ้านร่มตลอดวันแนะนำบ้านที่หันไปทางทิศเหนือ ส่วนใครที่อยากได้บ้านที่ลมเข้าทางหน้าบ้านได้ดีแนะนำบ้านที่หันหน้าทางทิศใต้ค่ะ
• บ้านใกล้สวน (วงเส้นประสีดำ) ทำให้ภายในตัวบ้านได้วิวสวนส่วนกลาง เวลามองออกนอกหน้าต่างมาก็จะเห็นต้นไม้ อีกทั้งสามารถเดินมาใช้งานสวนได้ใกล้ๆ แต่ก็ต้องแลกกับการที่อาจจะมีผู้เดินผ่านถนนหน้าบ้านสักหน่อยค่ะ
• บ้านโซนไม่มีเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามได้ความเป็นส่วนตัวดี (เส้นประสีขาว) อีกทั้งฝั่งตรงข้ามถนน ทางโครงการได้จัดเป็นสวนแนวยาวขนานไปกับถนนเลย ทำให้ภายในบ้านเทควิวพื้นที่สีเขียวได้ตลอดแนวเลยค่ะ

มาเริ่มกันที่ประตูทางเข้าโครงการกันเลยค่ะ บริเวณนี้จะมีป้ายโครงการชัดเจน อีกทั้งมีการลงเป็นไม้พุ่มไม้ และน้ำพุ เพิ่มความร่มรื่นให้กับบรรยากาศด้านหน้าโครงการ

ซุ้มประตูโครงการขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยวัสดุลายหินสีเข้มตัดกับวัสดุลายไม้ดูสวยงาม ตัวซุ้มมีหลังคาขนาดใหญ่ สะดวกเวลาต้องลดกระจกพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ไม่ต้องกลัวฝน กลัวแดดเลยค่ะ

ส่วนทางเข้า-ออก สำหรับรถแยกฝั่งกันชัดเจน โดยมีป้อมยามและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลอยู่ตรงกลาง และมีทางเข้า-ออกสำหรับคนเดินทางด้านขวามือซึ่งมีฟุตบาทแยกชัดเจนได้ความปลอดภัยดีค่ะ

ประตูทางเข้าโครงการแบบประตูรั้วและไม้กระดก ส่วนระบบเข้าออกของรถส่วนตัวสำหรับลูกบ้านใช้ระบบ CAR LICENSE PLATE ENTRY ใช้งานได้สะดวกเลย ลูกบ้านสามารถขับผ่านได้โดยไม่ต้องลดกระจกเพื่อแตะบัตร ส่วนทางเข้า-ออกสำหรับคนเดิน จะใช้เป็นระบบ FACE SCAN ที่หน้าประตู

สำหรับแขกที่มาพบจะใช้ระบบ QR CODE VISITOR MANAGEMENT โดยแขกจะต้องได้ QR CODE จากลูกบ้านก่อน เพื่อใช้ผ่านเข้า และออกทุกครั้ง เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของลูกบ้าน

เมื่อเข้ามาแล้วด้านขวามือจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง และอาคาร Clubhouse ตรงไปจะเป็นสะพานข้ามคลองหัวหมากไปยังโซนบ้านพักอาศัย ส่วนด้านซ้ายมือ ในอนาคตหากโครงการเสร็จเรียบร้อยแล้วจะเป็นพื้นที่ Playground ค่ะ

เรามาดูส่วน Clubhouse กันก่อนเลยค่ะ บริเวณนี้มีที่จอดรถรองรับอยู่ 8 คัน หากใครไม่อยากเดินก็สามารถมาจอดรถเพื่อใช้พื้นที่ส่วนกลางได้ หรือสะดวกกรณีแวะกลับเข้ามามาแล้วอยากแวะติดต่อนิติบุคคลก่อนเข้าบ้านก็สะดวกค่ะ

Clubhouse เมื่อเดินเข้ามาแล้วสิ่งแรกที่เจอคือพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ ที่มีสนามหญ้า และสระว่ายน้ำตรงกลาง โดยอาคารถูกดีไซน์ให้ล้อมรอบพื้นที่คอร์ทนี้เอาไว้เป็นเบื้องหลัง เพื่อให้ทุกฟังก์ชันในอาคารเทควิวมายังคอร์ทกลางได้เต็มที่ เป็น Space ที่น่าสนใจ และได้ความเป็นส่วนตัวดีทีเดียว ตัวอาคารยังคงเน้นใช้วัสดุลายหินสีเข้มกับวัสดุลายไม้ ดูต่อเนื่องเป็นเรื่องราวเดียวกันตั้งแต่หน้าโครงการเลยค่ะ

ทางเดินภายในอาคารถูกออกแบบมาให้เดินไปรอบๆ คอร์ทพร้อมมีหลังคาคลุมกันแดด กันฝน เมื่อเดินตามทางเดินเข้ามาแล้ว ด้านซ้ายเป็นส่วนนิติบุคคล ด้านในเป็น SUNKEN BBQ COURT ด้านขวาเป็นส่วนต้อนรับ ห้องออกกำลังกาย และสระว่ายน้ำ

เมื่อเดินตามทางเดินเข้ามา ส่วนของนิติบุคคลจะแยกโซนอยู่ทางซ้ายมือ มีป้ายบอกชัดเจน สังเกตได้ง่ายค่ะ

SUNKEN BBQ COURT เป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่น นั่งพักผ่อน ที่รองรับการจัดเลี้ยงสังสรรค์ ปาร์ตี้บาร์บีคิวกันได้ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ถูกดีไซน์ไว้เป็นโซฟาขนาดใหญ่ล้อมรอบต้นไม้เอาไว้ ซึ่งต้นจามจุรีกลางคอร์ทนี้เป็นต้นไม้ใหญ่ที่มีอยู่แต่เดิม ซึ่งทางผู้ออกแบบตั้งใจดีไซน์ตัวอาคาร เพื่อเก็บรักษาต้นไม้ใหญ่ในโครงการเอาไว้ นอกจากนั้นยังใช้ต้นจามจุรีนี้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ Landscape ในหลายๆ ส่วน ซึ่งเราจะพาชมกันต่อไปค่ะ

ด้านข้างมีเคาน์เตอร์ครัว Outdoor ขนาดกว้าง พร้อมเตา BBQ ตรงกลาง รองรับการจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวได้จริงจังเลยค่ะ

เรามาต่อโซนด้านในกันบ้าง ซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง Indoor ต่างๆ อย่าง RECEPTION & LOUNGE , PRIVATE LOUNGE และ ห้องจัดเลี้ยง ( CHEF TABLE) ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับโซน SUNKEN BBQ COURT ได้เลย สามารถใช้งานร่วมกันได้สบาย เดินตรงไปจะเป็นห้องออกกำลังกาย  ส่วนด้านขวามือจะเป็นสระว่ายน้ำค่ะ

RECEPTION & LOUNGE เมื่อเข้ามาจะเจอกับเคาน์เตอร์พนักงานคอยให้บริการอยู่ รอบๆมีการจัดเป็นชุดโซฟาไว้ให้หลายจุด สามารถใช้รองรับแขกได้กรณี ไม่สะดวกให้เข้าไปยังบ้านพักอาศัยได้เลย ส่วนด้านหลังเคาน์เตอร์ RECEPTION จะเป็นโถงแยกไปยังห้องน้ำที่รองรับพื้นที่ส่วนนี้ค่ะ

สำหรับวัสดุภายในห้องยังคงใช้เป็นหิน และไม้ แต่มีการเพิ่มความ Luxury ด้วยการใช้ผนังเป็นวัสดุสี Copper พร้อมไฟซ่อนต่างๆ ดูสวยงามทีเดียว

ภายในเป็นห้องฝ้าเพดานสูง และใช้กระจกสูงเต็มบานล้อมรอบ ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูโปร่งโล่ง ได้แสงธรรมชาติดี อีกทั้งยังได้วิวสระว่ายน้ำ และวิวต้นไม้จาก SUNKEN BBQ COURT พร้อมๆกันอีกด้วย เป็นห้องที่บรรยากาศดีทีเดียวค่ะ

สำหรับ RECEPTION & LOUNGE จะเชื่อมต่อกับ ห้องจัดเลี้ยง ( CHEF TABLE) ด้านในได้เลย ซึ่งบริเวณนี้จะมี Partition เป็นระแนงไม้ สามารถเลื่อนกั้นปิดกรณีต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นได้ด้วยนะ

ห้องจัดเลี้ยง ( CHEF TABLE) เป็นห้องที่สามารถจ้าง Chef มาทำอาหารให้ทานแบบเป็นส่วนตัวได้ อีกทั้งห้องนี้ยังสามารถเปิดประตูเชื่อมต่อกับ SUNKEN BBQ COURT ใช้งานร่วมกันได้เลยค่ะ

ห้องจัดเลี้ยง ( CHEF TABLE) มีครัวฝรั่ง รองรับอยู่ด้านใน ลักษณะเป็น เคาน์เตอร์ I-shape เต็มผนังพร้อมมี Island ตรงกลางที่สามารถวางเก้าอี้สตูลได้ 4 ที่นั่ง

บนเคาน์เตอร์มีเครื่องครัวมาให้ครบเลยทั้งเตาไฟฟ้า พร้อมเครื่องดูดควัน เครื่องชงกาแฟ ไมโครเวฟ และเตาอบอาหาร ครบเลยค่ะ

ห้องน้ำรองรับพื้นที่ส่วนกลางตรงนี้จะเป็นโถงแยกอยู่บริเวณด้านหลัง RECEPTION โดยขวามือจะเป็นห้องน้ำหญิง และห้องน้ำชาย ส่วนซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการค่ะ เป็นสัดส่วนดีเลยนะ

ภายในเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room มีอ่างล้างมือ และโถสุขภัณฑ์ในตัว สำหรับห้องน้ำชายจะมีโถชายให้ด้วย ส่วนห้องสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการจะมีขนาดค่อนข้างกว้าง พื้นระดับเดียวกับส่วนโถง และใช้ประตูบานเลื่อนขนาดกว้าง รองรับการใช้รถเข็นได้สะดวกค่ะ

มาที่ส่วนของสระว่ายน้ำกันค่ะ โดยตำแหน่งของสระว่ายน้ำถูกออกแบบให้อยู่กลาง Court โดยมีอาคาร และกำแพงสูงล้อมรอบ ได้ความเป็นส่วนตัวดี ซึ่งถึงแม้ตำแหน่งของ Clubhouse จะอยู่ใกล้ถนนหลัก แต่จะไม่สามารถมองเห็นพื้นที่ส่วนกลางจากถนนได้เลย ซึ่งถือว่าตรงนี้ออกแบบมาได้ดีเลยค่ะ

นอกจากนั้นยังมีการใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ อย่างสระว่ายน้ำฝั่งที่ติดกับทางเดินทั้งหมดจะออกแบบไว้เป็นโซนตื้นก่อน ป้องกันกรณีมีใครตกน้ำก็จะอยู่แค่โซนตื้นก่อนค่ะ

Pool Terrace มีการดีไซน์ระแนงไม้โปร่งๆ บังแนวเสาไว้  เป็นองค์ประกอบที่ช่วยให้ไม่รู้สึกว่ามีเสาหลายต้นเรียงอยู่ ดูโปร่งมากยิ่งขึ้น เป็นลูกเล่นความน่าสนใจทีเดียว

Pool Terrace ทางโครงการได้มีการจัดวาง ชุดเตียงริมสระไว้ให้ สามารถใช้นั่งเล่น พักผ่อน หรือวางสัมภาระและผ้าเช็ดตัว เวลามาว่ายน้ำได้สะดวกเลยค่ะ นอกจากนั้นพื้นที่ตรงนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับห้องน้ำของฟิตเนสได้เลยด้วย โดยจะเป็นทางเดินอยู่ด้านในสุด ซ้ายมือ

สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 6×23 เมตร สามารถใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายจริงจังได้เลย ภายในสระมีการ แบ่งโซนสระเด็ก และจากุชชี่ ให้สามารถนั่งแช่พักผ่อนได้ด้วยค่ะ

บริเวณทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ ตรงนี้จะมีจุดล้างตัวให้ด้วยหนึ่งจุด ส่วนห้องน้ำจะเชื่อมต่อได้จากทางทางซ้ายมือนี้เลยค่ะ

กลับมาที่ส่วนห้องออกกำลังกายกันบ้าง ทางเข้าห้องจะอยู่ด้านหลังขวามือ ตรงไปจะเป็นห้องน้ำแยกชาย-หญิง ซึ่งสิ่งที่เราชอบคือผนังด้านข้างตรงนี้มีการดีไซน์ Facade เป็นระแนงไม้โปร่งๆ ที่เมื่อมีแดดส่องมาแล้วเกิด Effect ของแสงและเงา ซึ่งจะเปลี่ยนไปตามองศาของแสงที่กระทบลงมา ซึ่งแต่ละช่วงเวลาก็จะได้  Effect ที่ไม่เหมือนกัน สวยงามดีค่ะ

ห้องออกกำลังกาย เป็นห้องสี่เหลี่ยมแนวยาวขนานไปกับสระว่ายน้ำ ภายในห้องใช้เป็นกระจกสูงเต็มบานทางด้านยาว ทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูโปร่ง สามารถเทควิวสระว่ายน้ำ และคอร์ทกลางได้กว้าง

ภายในห้องใช้เครื่องออกกำลังกายจาก Technogym ภายในห้องมีทั้งเครื่องออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio) และเวทเทรนนิ่ง (Weight Training) ครบเลยค่ะ

ห้องน้ำที่รองรับบริเวณฟิตเนส และสระว่ายน้ำ เป็นห้องน้ำ แยกชาย-หญิง ชัดเจน เป็นสัดส่วนดีค่ะ

เมื่อเข้ามาให้ห้องน้ำจะเจอกับส่วน LOCKER ก่อนเลย  ซึ่งมีทั้งหมด 28 ชุด ระบุบ้านเลขที่ชัดเจน ใช้งานได้ง่ายดี ไม่ต้องกังวลว่าจะลืมเลขตู้ที่ใส่ของไว้เลยค่ะ

ภายในห้องน้ำประกอบไปด้วย อ่างล้างมือพร้อมกระจก 2 จุด และ มีห้องอาบน้ำและห้องโถสุขภัณฑ์อย่างละ 2 ห้อง ส่วนประตูด้านในสุดจะเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำได้ ใช้งานได้สะดวกดีเลย

สำหรับพื้นที่สีเขียวภายในโครงการรวมประมาณ 265 ตร.วา กระจายอยู่  3 จุด ซึ่งปัจจุบันจะมีเฉพาะสวน Main park ที่เสร็จเรียบร้อย ซึ่งสวนนี้อยู่โซนพักอาศัย เมื่อข้ามสะพานมาแล้วจะเจอกับสวนนี้เลยทางขวามือ โดยทางเข้าสวนถูกดีไซน์ไว้เป็นทางลาดเลื่อนรองรับผู้สูงอายุ และผู้พิการได้ค่ะ

Main park มีการจัดเป็นชุดเฟอร์นิเจอร์ Outdoor และม้านั่งสำหรับพักผ่อนไว้ให้หลายจุดเลย อีกทั้งยังมีน้ำพุ ที่คอยสร้างเสียง Ambience ให้รู้สึกสดชื่นผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

เดินเข้ามาโซนด้านใน ตรงนี้จะมีบันได พร้อมทางลาดเลื่อนด้านข้าง ซึ่งด้านในจะเป็นสนามหญ้า Pavilion และที่นั่งพักผ่อนได้หลายจุดเลย เหมาะสำหรับมานั่งเล่นนั่งชิลในตอนที่แดดร่มๆ ค่ะ

สำหรับการดีไซน์ Landscape เน้นเป็นเส้นโค้ง Freeform ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก เส้นวงปี  และส่วนประกอบต่างๆของต้นจามจุรี ต้นไม้ที่มีอยู่แต่เดิมในที่ดินนี้ค่ะ

ด้านในมีการดีไซน์ Landscape เป็นทรงกลมที่ซ้อนเป็นคั่นๆ ค่อยๆ ลด Step ลงมา  เพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวสวน มาปูเสื่อปิคนิคใต้ร่มไม้ในวันที่อากาศดีๆ ได้เลยค่ะ

ซึ่งบริเวณด้านในสุด จะเป็นพื้นไม้ยก Step ที่ด้านบนมีชุด Daybed  อยู่ใต้ต้นไม้ ให้เรามานั่งเล่น นอนเล่นชิลๆได้ นอกจากนั้น สำหรับใครที่อยากวิ่งออกกำลังกายกลางแจ้ง ภายในโครงการมี JOGGING PATH ยาวประมาณ 1 กม. สามารถใช้วิ่งออกกำลังกายได้ด้วยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย
• สระว่ายน้ำระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาด 6×23 เมตร พร้อมแบ่งสระเด็ก และโซนจากุชชี่
• RECEPTION & LOUNGE
• ห้องจัดเลี้ยง ( CHEF TABLE)
• PRIVATE LOUNGE
• ห้องออกกำลังกาย พร้อมเครื่องออกกำลังกายจาก Technogym
• ห้อง SAUNA แยกชาย-หญิง
• ห้องน้ำแยกชาย-หญิง พร้อม LOCKER 28 ชุด ระบุบ้านเลขที่
• SUNKEN BBQ COURT
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 3 จุด รวมประมาณ 265 ตร.วา
• JOGGING PATH ประมาณ 1 กม.
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
• FACE SCAN ทางเข้า-ออกสำหรับคนเดิน
• QR CODE VISITOR MANAGEMENT 2 จุด ที่ MAIN GATE ขาเข้า-ออก
• ระบบเข้าออกโครงการสำหรับรถส่วนตัว CAR LICENSE PLATE ENTRY
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
• ระบบจัดการขยะที่ให้บริการทุกวันโดยโครงการ

SIRANINN Residences จะมีแบบบ้านให้เลือกด้วยกัน 3 ขนาด ซึ่งทั้งหมดจะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ได้ที่ดินขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอยเยอะ รองรับครอบครัวใหญ่ที่มีหลาย Generation ได้ในราคาเริ่มต้น 80-180 ล้านบาท* ดังนี้

• RESIDENCE I บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน เริ่มต้น 219 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 820 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน /1 ห้องอเนกประสงค์ /6 ห้องน้ำ /1 Powder Room /4+4 ที่จอดรถ /2 ห้องแม่บ้าน
• RESIDENCE II บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 152 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 682 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน /1 ห้องอเนกประสงค์ /6 ห้องน้ำ/1 Powder Room /4+4 ที่จอดรถ /1 ห้องแม่บ้าน
• RESIDENCE III บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 125 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 551 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 5 ห้องน้ำ/1 Powder Room / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน

บ้านไซส์ใหญ่จะเป็นบ้านหน้ากว้าง ภายในมี Court กลางบ้าน พร้อม Living area แบบ Double volume และ Family area ที่ชั้นบน ส่วนบ้านไซส์เล็ก และไซส์กลางจะมี Space ภายในที่ใกล้เคียงกันเลย แต่บ้านไซส์กลางจะได้ 5 ห้องนอน และที่จอดรถ 4+4 คัน เหมือนกับบ้านไซส์ใหญ่

สำหรับบ้านตัวอย่างที่ทางโครงการได้จัดไว้ให้ชมนั้น มีทั้ง 3 แบบเลยค่ะ โดยเราจะพาไปรีวิว RESIDENCE III (ไซส์ใหญ่)และ RESIDENCE II (ไซส์กลาง) กันละเอียดๆเลย ส่วนบ้าน RESIDENCE I (ไซส์เล็ก) เราจะขอลงเป็น แปลน + Gallery ภาพบรรยากาศภายในบ้านตัวอย่างต่อท้ายแทนนะคะ

สรุปโครงสร้างและวัสดุ

• เคาน์เตอร์ Pantry : จากแบรนด์ Nobilia ประเทศเยอรมนี / เครื่องใช้ไฟฟ้าจากแบรนด์ Miele ได้แก่ Residence 1 Microwave Built-in + Steam Oven Built-in Residence 2 & 3เตาไฟฟ้า 4 หัว + เครื่องดูดควัน + Combi Microwave Built-in / อ่างล้างจาน + ก๊อกผสมน้ำร้อน-เย็น จาก Blanco
• เคาน์เตอร์ครัวไทย : ท็อปกระเบื้อง Compressed Porcelain (Marble Pattern) หน้าบาน Particle Board ชนิดกันชื้น Wrap ด้วย Melamine / เตาแก๊ส 2 หัว + เครื่องดูดควัน + อ่างล้างจาน + ก๊อกผสมน้ำร้อน-เย็น จาก Professional Stainless Steel Asian Hood
• โครงสร้างผนัง : ก่ออิฐฉาบปูน มีความแข็งแรงสูง ทนต่อความชื้น สามารถทุบผนังต่อเติมได้ เผื่ออยากปรับฟังก์ชันในอนาคตก็สามารถทำได้สะดวก
• ที่จอดรถ : พื้นกระเบื้อง Homogenous ผิวกันลื่น
• ผนังภายนอก : กรุ Veneer Stone สีเทาเข้ม
• ผนังภายใน : ฉาบเรียบ สีขาว
  พื้น+ผนังครัวไทย : กระเบื้อง Porcelain (Marble Pattern)
• พื้นชั้น 1 : กระเบื้อง Porcelain (Marble Pattern)
• พื้นชั้น 2 : พื้น Engineering Wood หน้าไม้กว้าง 5 นิ้ว
• พื้นห้องนอนผู้สูงอายุ : Absorption Floor จาก SCG ช่วยลดแรงกระแทก
• พื้น+ผนังห้องน้ำ : กระเบื้อง Porcelain (Marble Pattern)
• พื้นระเบียง : กระเบื้อง Porcelain ผิวกันลื่น
• พื้นส่วน Service และห้องแม่บ้าน : กระเบื้อง Ceramic
• ความสูงฝ้า : ชั้น 1 – 3.3 เมตร / ชั้น 2 – 3.0 เมตร /  Double Volume – 7.2 เมตร
• ประตูโรงจอดรถ : ประตูเหล็กเลื่อนทำสี พร้อมมอเตอร์ระบบอัตโนมัติ
• สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ : โถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า จาก Duravit / สายฉีดชําระ Kohler ส่วน Fitting อื่นๆ จาก Hansgrohe / ฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย (Tempered Glass)
• งานระบบน้ำ : รองรับระบบท่อน้ำร้อน-น้ำเย็น / ระบบผลิตน้ำร้อนจากพลังงานความร้อนของระบบปรับอากาศ
• ราวระเบียง : กระจกนิรภัย มือจับ อะลูมิเนียม Powder coated

เทคโนโลยี และระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน

• CCTV Camera 2 Mega Pixel
• ระบบ Magnetic sensor ที่ประตูและหน้าต่างทุกจุด พร้อม Emergency call ห้องนอนผู้สูงอายุชั้นล่าง
• Smoke detector ในห้องไฟฟ้า และห้องปั๊มน้ำ
• Heat detector ในห้องครัวไทย และห้องพระ / บริเวณ Pantry ได้ไหมคะ
• Gas detector ในห้องครัวไทย
• ระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ ภายในบ้าน หากแจ้งเตือน จะส่งสัญญาณไปที่ Security Booth
• ราวผ้าม่านอัตโนมัติ พร้อม Remote control
• โซลาร์เซลล์ Solar-PV + Inverter มาตรฐานการไฟฟ้า
• รองรับระบบ EV Charger
• หลังคา Sky Light เปิด-ปิดได้ (เฉพาะ RESIDENCE III)

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

RESIDENCE I

RESIDENCE I บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน เริ่มต้น 219 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 820 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน /1 ห้องอเนกประสงค์ /6 ห้องน้ำ /1 Powder Room /4+4 ที่จอดรถ /2 ห้องแม่บ้าน

RESIDENCE I บ้านเดี่ยวไซส์ใหญ่สุดของโครงการ พื้นที่ใช้สอย 820 ตร.ม. สามารถรองรับการอยู่อาศัยได้ 8-12 คน ส่วนจุดเด่นที่น่าสนใจจะมีอะไรบ้างเราสรุปมาให้ชมดังนี้ค่ะ

• บ้านหน้ากว้าง รับลมรับแสงได้เยอะ พร้อมมีพื้นที่บริเวณข้างบ้านที่จัดเป็นสวน หรือสระว่ายน้ำเพิ่มเติมได้
•  จอดรถได้ 4+4 คัน โดยโรงจอดรถมีขนาด 11.5×6.6 เมตร สามารถจอดเรียงได้ 4 คันในร่ม และสามารถจอดซ้อนได้อีก 4 คันภายในพื้นที่บ้าน อีกทั้งที่จอดรถให้ระยะฝ้าเพดานที่ 3.3 เมตร สามารถติดตั้ง Stack Parking เพิ่มเติมได้อีกด้วย
• 5 ห้องนอน พร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง ใช้งานได้สะดวก เป็นส่วนตัว รองรับการอยู่อาศัยของครอบครัวใหญ่ได้
• Master Bedroom ขนาดใหญ่ มีห้องนั่งเล่น และพื้นที่สำหรับจัดเป็น Walk in Closet ขนาดใหญ่ในตัว พร้อมห้องน้ำที่ได้ His&Her และ Bathtub ภายในห้องมีระเบียงนั่งเล่นในตัว ออกไปสูดอากาศ ชมวิวสวนได้
• ออกแบบรองรับผู้สูงอายุ โดยมีห้องนอนชั้นล่าง พร้อมห้องน้ำที่มี Emergency call ในตัว อีกทั้งทางเข้ารองมีการดีไซน์ทางลาดเลื่อนรองรับรถเข็นไว้ครบครันเลย
• Hidden Court กลางบ้าน มีทางเดินโดยรอบ เชื่อมทุกฟังก์ชันภายในตัวบ้าน ให้ดูใช้งานอยู่ในบริเวณเดียว อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มแสงธรรมชาติให้กับตัวบ้านได้ดีอีกด้วย ซึ่งบ้านไซส์ใหญ่นี้เป็นแบบเดียวที่มี Court กลางบ้านนะ
• Common area ขนาดใหญ่ และ Living area แบบ Double Volume สูง 7.2 เมตร พร้อมหน้าต่างกระจกสูง ดูโอ่อ่า อีกทั้งยังมี Family area พื้นที่พักผ่อนชั้นบนที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
• 2 ห้องแม่บ้าน รองรับ Maid ได้ 2-3 คน จัดเป็น Maid area ไว้บริเวณหลังบ้าน ในตำแหน่งเชื่อมครัว และที่จอดรถได้ง่าย สามารถ Service ได้สะดวก

RESIDENCE I แบบบ้านไซส์ใหญ่สุดของโครงการ เป็นบ้านหน้ากว้าง มีช่องเปิดหน้าบ้าน และข้างบ้าน ได้เยอะ รับแสงธรรมชาติรับลมได้ดี บรรยากาศในบ้านดูปลอดโปร่ง มองจากภายนอกเข้าไปก็เห็นตัวบ้านได้กว้างขวาง สวยงาม เป็นหน้าเป็นตา อีกทั้งยังสามารถจอดรถได้เยอะอีกด้วย

มาดูที่จอดรถกันก่อนเลยค่ะ สำหรับบ้านมาตรฐาน จะได้ประตูเหล็กเลื่อนทำสี และติดตั้งมอเตอร์ระบบอัตโนมัติมาให้เรียบร้อย ตัวรั้วด้านข้างมีการออกแบบเป็นช่องเก็บขยะดูเรียบร้อยเป็นระเบียบ ซึ่งทางโครงการที่นี่จัดเก็บขยะทุกวัน ทำให้มีสุขอนามัยที่ดี ไม่ต้องเก็บขยะไว้กับตัวบ้านนานข้ามวัน

ที่จอดรถส่วนในร่ม มีขนาดกว้าง 11.5×6.6 เมตร สามารถจอดรถไซส์ใหญ่ 4 คันได้สบาย และหน้าบ้านยังเหลือพื้นที่ให้สามารถจอดซ้อนอีก 4 คันได้ด้วย สะดวกกรณีมีแขกมาบ้านก็สามารถให้จอดภายในบริเวณบ้านได้เลย อีกทั้งที่จอดรถให้ระยะฝ้าเพดานมาสูง 3.3 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่สามารถติดตั้ง Stack Parking เพิ่มเติมได้ ส่วนที่ผนังด้านข้าง ขวามือสุดตรงนี้จะมีพื้นที่เก็บของมาให้ด้วยนะ

บริเวณที่จอดรถด้านในจะมีประตูทางเข้ารองขนาดใหญ่เปิดได้กว้าง พร้อมทางลาดเลื่อนสำหรับผู้สูงอายุมาให้เรียบร้อยเลย ซึ่งตัวประตูจะติดตั้ง Digital door lock มาให้ด้วย ถัดมาตรงกลางจะมีจุดที่รองรับการติดตั้ง EV Charger เพิ่มเติมสำหรับรถไฟฟ้ามาให้ด้วยค่ะ

มาดูพื้นที่ข้างบ้านกันบ้างค่ะ สำหรับ บ้านตัวอย่างแปลงนี้จะได้พื้นที่ข้างบ้านค่อนข้างเยอะ สามารถทำสระว่ายน้ำ และสวนเพิ่มเติม เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายได้เลยค่ะ

ในบ้านตัวอย่างจัดเป็นสระว่ายน้ำพร้อมพื้นที่พักผ่อนมุมต่างๆ รอบสระ มี Pool terrace ที่วางเตียงริมสระได้ อีกทั้งมี Pavilion เล็กๆให้นั่งพักผ่อน และ ชุด Dinning table กลางสวน สามารถใช้เป็นไอเดียในการตกแต่งบ้านได้ค่ะ

บริเวณด้านในมีการออกแบบเป็นมุมสำหรับทานอาหารกลางสวน หรือจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวริมสระได้ เป็นตำแหน่งที่มองเห็นทั้งสระว่ายน้ำ Pavilion และห้องนั่งเล่นภายในตัวบ้านได้ครบเลย บรรยากาศดีทีเดียวค่ะ

เราจะเข้าไปยังพื้นที่ในบ้าน ด้วยประตูทางเข้าหลักกันค่ะ บริเวณตรงนี้จะมีลักษณะเป็นโถง ฝ้าเพดานสูง พร้อมประตูทางเข้าขนาดใหญ่ oversize พร้อมมีการทำผนังหลอกด้านบน ยิ่งทำให้ประตูดูใหญ่อลังการมากขึ้นไปอีก

ประตูเป็นบานทึบเปิดคู่ เปิดได้กว้าง พร้อมลูกบิดและมือจับอะลูมิเนียมสีดำแบบนี้เลย ซึ่งประตูเก็บดีเทลมาได้ละเอียดดีเลยนะคะ โดยจะมียางซีลติดกันน้ำกันเสียงรบกวนมาด้วย ส่วนด้านข้างมีช่องกระจกให้สามารถมองเห็นได้เวลามีแขกไปใครมาได้

สำหรับการตกแต่งอาคารภายนอกก็เน้นใช้วัสดุที่ดูสบายตา ใช้วัสดุลายหินสีเทาเข้ม และอะลูมิเนียมลายไม้ ซึ่งทนทานกว่าไม้จริง แต่ยังคงให้ลวดลายและ Texture ต่างๆ อารมณ์เดียวกันกับไม้จริงอยู่ ถือว่าให้วัสดุมาดีทีเดียวค่ะ

เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับ Foyer เป็นพื้นที่แบบ Double volume ฝ้าเพดานสูง 7.2 เมตร พร้อมผนังกระจกบานใหญ่ มองออกไปเห็นสวน Hidden court กลางบ้าน เป็นพื้นที่ต้อนรับที่โอ่อ่า อลังการเลยทีเดียวค่ะ จาก Foyer ซ้ายมือจะเป็น Living area ขวามือจะเป็น Life style room และโถงบันไดขึ้นชั้นบน โดย Circulation จะวนรอบ Hidden courtyard กลางบ้าน เชื่อมถึงกันได้ทั้งหมด

Living area สามารถใช้เป็นห้องนั่งเล่น หรือว่าห้องรับแขกได้ เป็นพื้นที่แบบ Double Volume ฝ้าเพดานสูง 7.2 เมตร เช่นกัน สามารถติดตั้งโคมไฟระย้าห้อยตกแต่งเพิ่มเติมได้ อีกทั้งยังเป็นตำแหน่งมุม ที่มีผนังกระจกสูงอยู่ 2 ฝั่งเลย ทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่ง นอกจากนั้นตรงนี้มีหน้าต่างบานเลื่อนอยู่ด้วย ในวันที่อากาศดีๆ สามารถเปิดรับลมได้สบายเลยค่ะ

สำหรับบ้านตัวอย่าง Type นี้ ทางโครงการตกแต่งมาในรูปแบบ The München Timeless elegant เน้นใช้วัสดุลายหินและเฟอร์นิเจอร์โทนสีเข้ม ตัดกับวัสดุที่ผิวมันวาวอย่าง Silver และ Bronze ดู Luxury แบบสุขุม สามารถใช้เป็นแนวทางในการตกแต่งบ้านได้นะคะ

จากมุมมองตรงนี้จะเห็นได้ว่า พื้นที่ชั้นล่างออกแบบเป็น Common area ที่รวมพื้นที่พักผ่อนต่างๆ อย่าง Living area + Dinning area + Family area + Pantry เอาไว้เข้าด้วยกันทั้งหมด อีกทั้งยังอยู่ในจุดที่สามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนและสระว่ายน้ำข้างบ้านได้ง่าย ดูเชื่อมโยงกันได้ทั้งหมด

ถัดมาเป็นส่วน Dinning area พื้นที่ตรงนี้สามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 10-12 ที่นั่งตรงกลาง แบบมีทางเดินได้โดยรอบสบายๆ เลย สำหรับระยะฝ้าเพดานชั้นล่างนี้อยู่ที่ 3.3 เมตร ถือว่าสูงโปร่งทีเดียวค่ะ สำหรับวัสดุภายในบ้านมาตรฐาน พื้นชั้นล่างจะใช้กระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อน ส่วนผนังภายในฉาบเรียบทาสีขาว

Dinning area เชื่อมต่อกับ Hidden Court กลางบ้านด้วยประตูกระจกบานเลื่อน สามารถเปิดเพื่อเชื่อม Space กันได้ ยิ่งทำให้พื้นที่ Common area ดูโปร่งโล่ง อีกทั้ง Hidden court ถูกออกแบบให้มีทางเดินโดยรอบ จึงเป็นส่วนสำคัญที่เชื่อมทุกฟังก์ชันภายในตัวบ้าน ให้ดูใช้งานอยู่ในบริเวณเดียวกัน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มแสงธรรมชาติให้กับตัวบ้านได้ดี นอกจากนั้นยังทำให้ได้บรรยากาศแบบ Inside out / Outside in อยู่ในบ้านแต่ก็รู้สึกโปร่งโล่งเหมือนอยู่นอกบ้าน

โต๊ะทานอาหารจะถูกจัดวางขนานไปกับ Hidden Court ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เทควิวได้ทั้งสระว่ายน้ำ และสวนกลางบ้าน ถือเป็น Dinning area ที่ได้บรรยากาศดีทีเดียวค่ะ

สำหรับบ้านหลังนี้เป็นบ้านแบบเดียวที่มี Court กลางบ้าน ซึ่งใช้ผนังกระจกรอบทิศทาง สามารถมองเห็นได้จากทุกฟังก์ชัน อีกทั้งยังสามารถเปิดเชื่อมต่อกับพื้นที่ Common area ได้ โดยจุดที่น่าสนใจคือ บริเวณนี้ถูกออกแบบให้ไม่มีเสามุม เวลาเปิดเชื่อมต่อกันจึงดูโล่งกว้าง ไม่มีอะไรมาบดบัง

Hidden Court มีขนาด 4.2×5.35 เมตร ด้านบนใช้เป็นหลังคา Skylight ทำให้บริเวณนี้ได้แสงอย่างเพียงพอ สามารถปลูกต้นไม้ได้ และเนื่องจากเป็นจุดที่มีทางเดินโดยรอบ ภายในบ้านตัวอย่างจึงจัดเป็นสวนที่สามารถมองเห็นได้สวยทุกทิศทาง ตรงนี้หากใครที่ชอบงานศิลปะ สามารถหา Sculpture ที่ชื่นชอบมาวางร่วมกับสวนตรงนี้ได้เลยค่ะ

จุดที่น่าสนใจคือ หลังคา Skylight บริเวณนี้ สามารถสั่งการเปิด-ปิดได้ สามารถเปิดรับแสงแดด รับลม รับฝน สร้างบรรยากาศภายในบ้านให้ดูแตกต่างกันไป ไม่มีเบื่อเลยค่ะ

นอกจากนั้นภายในบ้านยังได้เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกอีกหลายรายการเลย เช่น ราวผ้าม่านอัตโนมัติ พร้อม Remote control, และระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆหลายรายการ ซึ่งถ้าหากมีการแจ้งเตือน จะส่งสัญญาณไปที่ Security Booth ทันที นอกจากนั้นยังมีนวัตกรรมที่ช่วยประหยัดพลังงานอย่าง โซลาร์เซลล์ Solar-PV พร้อม Inverter มาตรฐานการไฟฟ้า และระบบการผลิตน้ำร้อนด้วยพลังงานความร้อน จากระบบปรับอากาศด้วย

ถัดมาโซนด้านในจะเป็นพื้นที่ พักผ่อนที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น อย่าง Family area และ Pantry ส่วนด้านซ้ายมือสุดจะแยกเป็นโถงเล็กๆ ซึ่งแจกไปยัง ห้องนอนผู้สูงอายุ และ ห้อง powder room ห้องน้ำซึ่งรองรับพื้นที่พักผ่อนชั้นล่าง

เรามาดูกันบริเวณโถง ซ้ายมือตรงนี้กันก่อนค่ะ โดยประตูทางซ้ายมือจะเป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ ส่วนประตูถัดมาตรงกลางจะเป็น Powder room ซึ่งการแยกเป็นโถงเล็กๆแบบนี้ก็จะดูเป็นสัดส่วนดี อีกทั้งยังช่วยให้ห้องนอนได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วย

Powder room เป็นห้องน้ำที่มีเฉพาะส่วนแห้ง ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ เป็นห้องน้ำที่ใช้รองรับอยู่ที่ชั้นล่าง โดยห้องนี้ได้ช่องหน้าต่างบานกระทุ้งมาด้วย ทำให้สามารถระบายอากาศได้ดีค่ะ สำหรับพื้นและผนังห้องน้ำใช้กระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อนแบบนี้เลย ดูหรูหราดีทีเดียว

ภายในห้องน้ำมีอ่างล้างมือแบบฝังในเคาน์เตอร์ ด้านล่างมีช่องเก็บของมาให้ครบครัน พร้อมกระจกเงายาวเต็มผนัง สำหรับโถสุขภัณฑ์ และอ่างล้างหน้าเป็นของ Duravit ส่วนสายฉีดชําระเป็นของ Kohler ส่วน Fitting ต่างๆ เป็นของ Hansgrohe แบบนี้เลยค่ะ

มาดูกันที่ส่วนของ ห้องนอนผู้สูงอายุกันก่อนค่ะ ห้องนี้พิเศษตรงที่พื้นใช้เป็น Absorption Floor ช่วยลดแรงกระแทกได้ หากเกิดอุบัติเหตุก็จะสามารถลดความรุนแรงได้ โดยห้องมีขนาด 3.3×4.25 เมตร สามารถวางเตียง 5 ฟุตพร้อมมีทางเดินเหลือโดยรอบค่อนข้างกว้างเลย ตรงนี้สามารถปรับเป็นวางเตียง 6 ฟุตได้สบายเลยค่ะ สำหรับใครที่ชอบนอนดูทีวี ระยะตรงนี้จะสามารถติดตั้งทีวีขนาด 60 นิ้วได้เลยนะ

อีกทั้งยังเป็นห้องมุมได้ช่องเปิด 2 ฝั่ง สามารถเปิดรับลมได้ดี  โดยประตูกระจกด้านข้างจะสามารถเปิดเทควิวสวนได้กว้างเลยด้วย นอกจากนั้นภายในห้องยังมีพื้นที่สำหรับจัดเป็น Walk in Closet อยู่บริเวณปลายเตียง ซึ่งจะเชื่อมต่อกับห้องน้ำได้เลย สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี

Walk in Closet ตรงนี้สามารถกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนให้เป็นสัดส่วนมากขึ้นได้ ภายในบ้านตัวอย่าง built-in เป็น ตู้เสื้อผ้า L-shape เต็มผนังแล้วยังเหลือพื้นที่หน้าตู้กว้าง 90 ซม. เลยค่ะ

ภายในห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน ขนาดห้องค่อนข้างกว้าง โดยระดับภายในห้องนี้จะเท่ากับพื้นห้องนอนเลย สามารถรองรับรถเข็นผู้สูงอายุได้สะดวก เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนอ่างล้างมือก่อน ส่วนด้านในจะเป็นโถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำ ซึ่งติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยมาให้ครบเป็นสัดส่วนดีเลยค่ะ

อ่างล้างมือเป็นแบบฝังในเคาน์เตอร์ พร้อมมีชั้นเก็บของด้านล่างไว้ให้เรียบร้อย ผนังติดตั้งกระจกเงามาให้พร้อมมีช่องเก็บของด้านข้าง สำหรับโถสุขภัณฑ์ และอ่างล้างหน้า ของ Duravit เช่นกันแต่พิเศษคือ สำหรับห้องน้ำผู้สูงอายุจะได้ มีจุด Emergency call กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถส่งสัญญาณแจ้งเตือนได้

พื้นที่อาบน้ำขนาด 1×1.6 เมตร ถือว่ากว้างเลย ใช้งานอาบน้ำผู้สูงอายุได้สะดวก ตัวพื้นลดระดับลงไปเล็กน้อย ภายในมีการออกแบบเป็นม้านั่งคอนกรีต สามารถนั่งอาบน้ำได้ ส่วนที่อาบน้ำเป็นแบบ Hand Shower จาก Hansgrohe พร้อมมีการออกแบบเป็นช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำที่ผนังไว้ด้วย

ส่วนงานระบบน้ำเป็นแบบท่อน้ำร้อน-น้ำเย็น ซึ่งจุดที่น่าสนใจคือบ้านที่นี่มีการผลิตน้ำร้อนด้วยพลังงานความร้อน จากระบบปรับอากาศด้วย ถือเป็นการใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่า และประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วยค่ะ

มาต่อกันที่ส่วน Family Area ด้านใน ซึ่งจัดเป็นมุมพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งจะเชื่อมต่อกับ Pantry ด้านในได้เลย เวลามานั่งเล่นดูหนัง ดูซีรีส์ ก็สามารถเดินไปเปิดตู้เย็นหาอะไรกินได้ง่าย เป็นมุมนั่งเล่นสบายๆ จุดหนึ่งเลย โดยพื้นที่ Family Area ตรงนี้จะสามารถวางโซฟาขนาด 6-8 ที่นั่ง พร้อมมีทางเดินได้โดยรอบ ตรงนี้จะติดตั้งทีวีเพิ่มเติมที่ผนังก็ยังได้ซึ่งระยะดูทีวีตรงนี้จะติดตั้งทีวีขนาด 60 นิ้วไปเช่นกันค่ะ

สำหรับตำแหน่งของ Family area และ Pantry ตรงนี้จะสามารถมองเห็นทุกส่วนได้กว้างเลย ไม่ว่าใครจะทำอะไรอยู่ตรงส่วนไหนก็ยังรู้สึกเชื่อมโยงกันได้ เป็นมุมมองที่ดีอีกหนึ่งจุดเลยค่ะ

Pantry อยู่ในตำแหน่งด้านใน ที่เชื่อมต่อกับครัวไทยได้เลยด้วยประตูด้านข้าง สามารถใช้งานร่วมกันได้ดี โดยเคาน์เตอร์ Pantry ที่ได้จะเป็น เคาน์เตอร์ครัว I-shape พร้อม Island ตรงกลาง ของแบรนด์ Nobilia พร้อมอุปกรณ์ครัวต่างๆครบครัน หน้าตาแบบนี้เลยค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวจะมี Built-in ได้ตู้เก็บของทั้งด้านบนและล่างแบบในรูปเลย พร้อมติดตั้งเตาไฟฟ้า 3 หัว และเครื่องดูดควัน จาก Miele เคาน์เตอร์ด้านหลังมีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารได้เยอะ พร้อมมี Backsplash ทำความสะอาดได้ง่าย สำหรับบ้านไซส์ใหญ่จะได้ Microwave และ Steam Oven แบบ Built-in จาก Miele ติดตั้งมาแบบนี้เลยค่ะ

ส่วน Island ตรงกลาง มีอ่างล้างจานหลุมเดี่ยว พร้อมก๊อกผสมน้ำร้อน-เย็น จาก Blanco โดยด้านบนมีพื้นที่เยอะเลย สามารถเตรียมอาหาร พร้อมอีกฝั่งหนึ่งจัดเป็นพื้นที่ทานอาหารเช้าเบาๆ ได้เลย

อีกด้านนึ่งของ Island จัดวางเป็นเก้าอี้สตูลได้ 3 ที่ พร้อมฝั่งนี้ยังมีที่เก็บของเพิ่มเติมมาให้ด้วยค่ะ เก็บของได้เยอะเลยนะ

ครัวไทยขนาดใหญ่ 4×4.7 เมตร ภายในได้เคาน์เตอร์ครัวไทย built-in เต็มผนัง 2 ฝั่งแบบนี้เลย ซึ่งจะเห็นได้ว่าเหลือพื้นที่ตรงกลางค่อนข้างกว้างเลย จะทำเป็น Island ตรงกลางเพิ่มเติมก็ยังได้ค่ะ

สำหรับพื้นและผนังภายในห้อง กรุกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อนแบบนี้เลย สามารถใช้งานได้จริงจัง ทำความสะอาดได้ง่าย พร้อมติดตั้ง Heat detector และ Gas detector ภายในห้องมาให้ครบเลย

สำหรับเคาน์เตอร์ครัวไทยที่ได้ เป็นแบบนี้เลยค่ะ ท็อปเป็นกระเบื้อง Compressed Porcelain (Marble Pattern) หน้าบาน Particle Board ชนิดกันชื้น Wrap ด้วย Melamine พร้อมอุปกรณ์ครัวอย่าง เตาแก๊ส 2 หัว, เครื่องดูดควัน, อ่างล้างจานขนาดใหญ่ + ก๊อกผสมน้ำร้อน-เย็น ทั้งหมดเป็นของ Professional Stainless Steel Asian Hood ดูแลทำความสะอาดได้ง่ายเลย

Maid area จัดไว้เป็นสัดส่วนบริเวณหลังบ้าน ในตำแหน่งเชื่อมครัว และที่จอดรถได้ง่าย สามารถ Service ส่วนต่างๆได้สะดวกดี เมื่อเปิดออกมาแล้วห้องขวามือแรกจะเป็นห้อง Laundry ขนาดค่อนข้างใหญ่ สามารถวางเครื่องซักผ้า อบผ้า พร้อมเก็บอุปกรณ์ต่างๆได้เยอะเลย ซึ่งจะเชื่อมต่อกับลานซักล้างภายนอกได้ง่าย ใช้งานได้สะดวกต่อเนื่องกันดี ส่วนด้านในจะเป็นพื้นที่พักอาศัยของแม่บ้านค่ะ

สำหรับพื้นส่วน Service และห้องแม่บ้าน กรุกระเบื้อง Ceramic ทำความสะอาดได้ง่าย ลวดลายแบบนี้เลยค่ะ

สำหรับบ้านหลังนี้จะได้ 2 ห้องแม่บ้าน สามารถรองรับ Maid ได้ 2-3 คนเลย โดยพื้น Maid area ตรงนี้จะมีเคาน์เตอร์ครัวพร้อมอ่างล้างจาน 1 หลุมมาให้ด้วย เป็นครัวแบบเปิด ระบายอากาศได้ดี ด้านในเป็นห้องนอน Maid 2 ห้อง พร้อมห้องน้ำแยก 1 ห้อง ด้านในสุดเป็นห้อง Pump ซึ่งภายใน ติดตั้ง Smoke detector มาให้ด้วยค่ะ

กลับมาที่พื้นที่ภายในบ้านกันต่อค่ะ ถัดจาก Pantry ตรงนี้จะมีโถงแยกด้านซ้ายมือตรงไปจะเป็นห้องรองเท้า ซึ่งจะเชื่อมต่อกับส่วนที่จอดรถได้เลย ส่วนโถงด้านขวามือจะวนไปยังทางเข้าหลักได้เลย โดยจะเป็นโถงบันไดขึ้นชั้นบนก่อน ถัดไปเป็นห้องอเนกประสงค์ (Life Style Room)

เมื่อเดินมาตามโถงมาจะเจอกับห้องรองเท้าที่สุดทางเดิน ซ้ายมือจะเป็นห้องไฟฟ้า ซึ่งภายในสามารถใช้เก็บของต่างๆ ได้ พร้อมติดตั้ง Smoke detector ภายในมาด้วยครบเลย ส่วนประตูขวามือคือ ประตูทางเข้ารองซึ่งเชื่อมต่อกับที่จอดรถได้เลย สะดวกเวลาจะออกจากบ้าน เมื่อเลือกรองเท้าได้แล้วก็สามารถเปิดประตูขึ้นรถออกไปได้เลย ส่วนโถงตรงนี้มีขนาดกว้าง 1.6 เมตร ถือว่ากว้างทีเดียวเดินสวนกันได้สบาย

Shoes room ห้องรองเท้ามีขนาด 1.5×3.6 เมตร ภายในบ้านตัวอย่าง Built-in เป็นตู้รองเท้าเต็มผนังด้านหนึ่งแล้วยังเหลือระยะหน้าตู้ประมาณ 1.2 เมตร ถือว่ากว้างเลยค่ะ

วนกลับมาที่ฝั่งหน้าบ้านกันค่ะ  ตรงนี้จะเป็นประตูทางเข้าห้องอเนกประสงค์ หรือเรียกว่า Life Style Room สามารถจัดห้องนี้เป็นห้องทำงาน คุยงานได้สะดวกเลย เพราะเป็นห้องที่กั้นแยกเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังอยู่ใกล้ประตูทางเข้าหลัก สามารถใช้งานรับแขกได้ง่าย ส่วนประตูบานคู่ด้านซ้ายมือตรงนี้จะมีห้องเก็บของใต้บันไดค่ะ

ห้องอเนกประสงค์ (Life Style Room) ชั้นล่าง ขนาด 3×5.6 เมตร ค่อนข้างกว้าง ภายในห้องสามารถจัดเป็นฟังก์ชันต่างๆ ได้ตามใจชอบ หรือจะจัดเป็นห้องนอนเพิ่มเติมอีกหนึ่งห้องก็ยังได้ เพราะภายในห้องมีห้องน้ำที่มีส่วนอาบน้ำในตัวครบเลย ซึ่งห้องน้ำจะอยู่ด้านในซ้ายมือเลยค่ะ

ภายในห้องน้ำ มีการแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนอ่างล้างมือก่อน โถสุขภัณฑ์จะอยู่ด้านซ้าย ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะอยู่ฝั่งขวา พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยมาให้เป็นสัดส่วน อ่างล้างมือเป็นแบบฝังในเคาน์เตอร์ มีชั้นเก็บของด้านล่าง พร้อมติดตั้งกระจกเงาที่มีช่องเก็บของด้านในได้ เช่นกัน ส่วนสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ เหมือนกับห้องก่อนหน้าเลยค่ะ

พื้นที่อาบน้ำขนาด 0.9×1.35 เมตร ตัวพื้นลดระดับลงไปเล็กน้อย ที่อาบน้ำเป็นแบบ Hand Shower จาก Hansgrohe พร้อมมีการออกแบบเป็นช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำที่ผนังไว้ด้วยเช่นกันค่ะ

ขึ้นมายังชั้น 2 ด้วยบันไดกันค่ะ โถงบันไดมีขนาดใหญ่ โอ่อ่า อีกทั้งตั้งอยู่ติดกับ Hidden court ทำให้ ได้รับแสงธรรมชาติที่ลอดผ่านกระจกบานใหญ่เข้ามาด้วย ทำให้บรรยากาศตรงนี้ดูโปร่ง สว่างดีทีเดียว เป็นบันได U-shape ขนาดใหญ่ บันไดจะใช้โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กดูแข็งแรงดี ตัวบันไดกว้าง 1.5 เมตร เดินสวนกันได้สบาย สำหรับพื้นที่ว่างตรงกลาง สามารถวางเป็นงาน Sculpture เหมือนในบ้านตัวอย่างได้ หรือจะติดตั้งเป็น Chandelier ห้อยลงมาตรงกลางก็ดูอลังการดีทีเดียวค่ะ

เมื่อขึ้นมาแล้วซ้ายมือจะเป็นห้องออกกำลังกาย ส่วนห้องนอนต่างๆ และส่วนพื้นที่พักผ่อน จะอยู่ทางขวามือทั้งหมดค่ะ

สำหรับพื้นที่ชั้นบน ทั้งหมดยังใช้เป็นผนังกระจกล้อมรอบ Hidden court ไว้ ทำให้ได้แสงธรรมชาติกลางบ้านค่อนข้างดี ซึ่งผนังกระจกตรงนี้จะเป็นหน้าต่างบานเลื่อนที่สามารถเปิดระบายอากาศได้ด้วยค่ะ

ห้องนี้มีขนาด 5.5×3.2 เมตร ภายในบ้านตัวอย่างจะเป็นห้องออกกำลังกาย ซึ่งหากจัดวางกระชับๆ จะสามารถวางเครื่องออกกำลังกายได้ 3-4 เครื่องเลย ซึ่งตรงนี้สามารถจัดเป็นฟังก์ชันอื่นๆได้ตามใจชอบเลย หรือจะจัดเป็นห้องพระก็ได้ เพราะอยู่ในตำแหน่งหน้าบ้านพอดี อีกทั้งเป็นห้องมุมได้ช่องแสงสองด้านทำให้บรรยากาศภายในห้องสว่าง และยังสามารถเปิดระบายอากาศได้ดี

มาต่อกันที่อีกฝั่งของบันไดกันบ้าง เมื่อขึ้นมาส่วนแรกที่เจอจะเป็น Family Area และ ห้องทำงาน อยู่ตรงกลางเลย ซ้ายมือจะเป็น Master bedroom ส่วนขวามือจะเป็นโถงแจกไปยังห้องนอนอื่นๆ ค่ะ

สำหรับ Family area ตรงนี้จะเป็นตำแหน่งที่ทุกคนต้องผ่าน ก่อนเข้าห้องนอน ใช้งานร่วมกันได้สะดวกเลยค่ะ โดยพื้นที่ตรงนี้มีขนาด 5.7×6.15 เมตร สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ พร้อมมีทาง เดินโดยรอบได้สบาย สำหรับระยะตรงนี้จะสามารถติดตั้งทีวีขนาดใหญ่ 60 นิ้วขึ้นไปได้เลย สำหรับดูร่วมกันในครอบครัว ได้เลยค่ะ

ส่วนวัสดุ ชั้นนี้จะปู Engineering Wood หน้าไม้กว้าง 5 นิ้ว ซึ่งจะมีความแข็งแรง ทนทาน ป้องกันรอยขีดข่วนต่างๆ ได้ดีเลย ส่วนระยะฝ้าเพดานชั้นสองทั้งหมดสูง 3 เมตรค่ะ

อีกด้านหนึ่งของห้อง ตรงนี้จะมีห้องทำงาน กั้นเป็นห้องด้วยประตูกระจกบานเลื่อนชัดเจน ได้ความเป็นส่วนตัว มากขึ้น

ห้องทำงานมีขนาด 4.65×2.7 เมตร สามารถจัดเป็นโต๊ะทำงานลอยตัวกลางห้องก็ได้ หรือจะจัดเป็นโต๊ะทำงานหัน หน้าเข้าผนังแบบในบ้านตัวอย่างเพื่อให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็ได้ ซึ่งตรงนี้เราสามารถ Built in เป็นโต๊ะทำงาน L-shape เพื่อให้สามารถนั่งร่วมกันได้ด้วย ภายในมีหน้าต่างบานกระทุ้งหนึ่งจุด สามารถเปิดระบายอากาศได้

Master bedroom เมื่อเข้ามาส่วนแรกที่เจอคือ ส่วนพักผ่อนเป็นพื้นที่นั่งเล่นภายในห้องนอน มีขนาด 5.6×2.8 เมตร ภายในบ้านตัวอย่างวางโซฟา L-shape ชิดผนังด้านหนึ่ง พร้อมโต๊ะกลางแล้ว ยังเหลือพื้นที่ เดินได้โดยรอบค่อนข้าง กว้างเดินสวนกันได้สบาย สำหรับระยะตรงนี้จะสามารถติดตั้งทีวีขนาด 52-55 นิ้วได้ค่ะ

พื้นที่นั่งเล่นตรงนี้จะเชื่อมต่อห้องนอนทางด้านซ้ายมือ ซึ่งจะมีช่องประตู อยู่ทั้ง 2 ฝั่งของโซฟาเลย ทำให้สามารถเดินเชื่อมต่อกันได้ง่าย ส่วน Walk in closet และห้องน้ำจะอยู่ทางขวามือค่ะ

ภายใน Master bedroom มีระเบียงในตัวด้วย ซึ่งจะเชื่อมต่อจากส่วนพื้นที่นั่งเล่นด้วยประตูกระจก ซึ่งช่วยให้ส่วนพื้นที่นั่งเล่นได้แสงธรรมชาติมากยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ

พื้นที่ระเบียงมีขนาด 1.85×1.5 เมตร พื้นรถระดับเล็กน้อย สามารถวางเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้ Outdoor เล็กๆ ได้ซึ่งตำแหน่งตรงนี้จะสามารถเทควิวสวนข้างบ้านได้ สามารถออกมานั่งรับลมสูดอากาศ ได้นะ

ต่อมาเป็นส่วนของห้องนอน พื้นที่ห้องนอนมีขนาดค่อนข้างใหญ่ 3.4×5.6 เมตร ภายในห้องวางเตียงขนาด 6 ฟุต แล้วยังเหลือทางเดินได้โดยรอบค่อนข้างกว้าง สำหรับใครที่ชอบนอนดูหนังสามารถติดตั้งทีวี ที่ผนังปลายเตียงได้ ซึ่งระยะตรงนี้จะสามารถติดตั้งทีวีขนาด 60 นิ้วได้ค่ะ

มาต่อกันที่ส่วน Walk in closet เป็นห้องขนาดใหญ่ 3.9×4.3 เมตร กั้นแยกเป็นสัดส่วน ภายในห้องจะเชื่อมต่อกับห้องน้ำได้เลยสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี

ภายในบ้านตัวอย่าง Built in เป็นตู้เสื้อผ้า u-shape เต็มผนัง พร้อมกับมี island วางนาฬิกา และเครื่องประดับตรงกลาง แล้วยังมีทางเดินได้โดยรอบสบายๆ

ขยับเข้ามาที่ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ ซึ่งแตกต่างจากห้องน้ำอื่นๆ เพราะได้ขนาดที่กว้างขวาง ใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้ ภายในห้องได้ผนังกระจกบานใหญ่ บรรยากาศในห้องดูสว่างดีเลย ตรงนี้มีหน้าต่างกระจกมาให้สามารถเปิดระบายอากาศได้ด้วย พร้อมอ่างอาบน้ำลอยตัว ตั้งอยู่ริมหน้าต่างกระจกเข้ามุมแบบนี้เลยค่ะ

โดยจะให้อ่างล้างหน้ามาแบบ His&Her ขนาดค่อนข้างกว้างเลย อ่างล้างมือเป็นแบบฝังในเคาน์เตอร์ มีชั้นเก็บของด้านล่าง สำหรับอ่างล้างหน้าเป็นของ Duravit ส่วน Fitting อื่นๆ จาก Hansgrohe

สำหรับห้องอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์จะมีฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย (Tempered Glass) กั้นแยกไว้เป็นสัดส่วน ใช้งานพร้อมกันได้ สำหรับโถสุขภัณฑ์ จาก Duravit ส่วนสายฉีดชําระจาก Kohler เช่นกัน

พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.65×1.2 เมตร ตัวพื้นลดระดับลงไปเล็กน้อย ที่อาบน้ำเป็นแบบ Hand Shower จาก Hansgrohe พร้อมมีการออกแบบเป็นช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำที่ผนังไว้ด้วยเช่นกันค่ะ

มาต่อกันที่โซนห้องนอนอื่นๆ กันบ้างค่ะ ซึ่งห้องนอนทั้ง 3 ห้องจะใช้โถงทางเดินร่วมกัน โดยห้องนอนรองฝั่งซ้ายและขวา จะมีแปลนและขนาดห้องต่างๆ เท่ากันเลย เพียงแต่แปลนห้องจะ Flip กัน ส่วนห้องด้านในสุดแปลนจะต่างกันเล็กน้อย แต่ขนาดห้องถือว่าพอๆกันค่ะ

โดยซ้ายมือห้องแรกตรงนี้จะมีห้องเก็บของสำหรับบนมาให้ด้วยอีก 1 จุดค่ะ ภายในห้องมีหน้าต่างบานกระทุ้ง เปิดระบายอากาศได้สะดวกเลย

มาดูห้องนอนรองฝั่งซ้ายโซนหลังบ้านกันก่อนค่ะ เมื่อเปิดเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ห้องนอน ส่วน Walk in Closet และห้องน้ำจะอยู่ฝั่งซ้าย ภายในห้องได้หน้าต่างบานกระจกบานใหญ่ได้แสงค่อนข้างดี ตอนกลางวันไม่ต้องเปิดไฟเลยนะ

สำหรับห้องนี้มีขนาด 4×3.4 เมตร ภายในบ้านตัวอย่างวางเป็นเตียง 5 ฟุตกลางห้องแบบมีทางเดินโดยรอบ และมีโซฟาวางชิดผนังอีกด้านหนึ่งได้สบาย ตรงนี้สามารถเปลี่ยนเป็นวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ

Walk in Closet มีขนาดประมาณ 2.8×2.4 เมตร สามารถ Built in เป็นตู้เสื้อผ้าเข้ามุมเต็มผนังแบบนี้ได้เลย ซึ่งจะเห็นว่าพื้นที่หน้าตู้เหลือค่อนข้างกว้าง ยืนลองชุดหมุนตัวได้สบายเลยค่ะ ส่วนห้องน้ำก็จะอยู่ติดกัน ใช้งานได้สะดวกดีเลย

ห้องน้ำ มีการแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน ภายในมีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้หนึ่งจุด สามารถเปิดระบายอากาศได้ เมื่อเข้ามาอ่างล้างมืออยู่ฝั่งขวา โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำจะอยู่ด้านซ้าย พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยมาให้เป็นสัดส่วน อ่างล้างมือเป็นแบบฝังในเคาน์เตอร์มีชั้นเก็บของด้านล่าง พร้อมติดตั้งกระจกเงาเต็มผนัง พื้นที่อาบน้ำห้องนี้มีขนาด 0.9X1.25 เมตร ยืนหมุนตัวได้สบาย ส่วนสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ เหมือนกับห้องก่อนหน้าเลยค่ะ

มาต่อกันที่ห้องนอนฝั่งตรงข้ามกันบ้างค่ะ อย่างที่บอกไปว่าห้องนี้มีขนาดเท่ากันกับห้องก่อนหน้าเลย เพียงแต่แปลนห้องจะ Flip กัน และหน้าต่างภายในห้องนี้จะเทควิวฝั่งหน้าบ้านแทนนะคะ

Walk in Closet มีขนาดประมาณ 2.4×2.8 เมตร เช่นกัน แต่ภายในห้องตัวอย่างนี้ Built-in ตู้เสื้อผ้าแบบทึบฝั่งหนึ่ง อีกฝั่งหนึ่งใช้เป็นบานกระจก ซึ่งก็จะทำให้ห้องดูโปร่งมากขึ้นค่ะ ส่วนห้องน้ำจะอยู่ทางซ้ายมือนะ

ห้องน้ำเหมือนกับห้องก่อนหน้าเลย เพียงแต่แบบแปลน Flip กัน  ห้องน้ำภายในมีการแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน ภายในมีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้หนึ่งจุด สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ เหมือนกับห้องก่อนหน้าเช่นกันค่ะ

มาต่อกันที่ห้องนอนด้านในสุดกันบ้าง ห้องนี้เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วจะมีพื้นที่เป็นเสมือนโถงเล็กๆก่อน ทำให้เมื่อเปิดประตูมาแล้วจะไม่เห็นเตียงได้ตรงๆ ซึ่งเรามองว่าได้ความเป็นส่งตัวดีเลยค่ะ อีกทั้งโถงตรงนี้มีขนาดกว้างพอสมควร วางเป็นโต๊ะวางของเล็กๆด้านข้างเพิ่มเติมได้เลย

เมื่อเข้ามาแล้วจะเป็นพื้นที่ห้องนอน ขนาด 4.4×3.2 เมตร ภายในวางเป็นเตียง 5 ฟุต กลางห้องพร้อมมีโต๊ะหัวเตียงและทางเดินได้โดยรอบ สำหรับใครที่ต้องการติดตั้งทีวีที่ปลายเตียง ระยะตรงนี้จะใช้ทีวีขนาด 60 นิ้วได้ค่ะ

ส่วน Walk in Closet และห้องน้ำจะอยู่ฝั่งซ้ายของเตียงค่ะ ซึ่งพื้นที่ข้างเตียงฝั่งนี้จะเหลือค่อนข้างกว้างเลย สามารถวางเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งแบบในห้องตัวอย่างนี้เพิ่มเติมได้นะคะ

Walk in Closet สามารถ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าเต็มผนังด้านหนึ่งได้ โดยที่ยังเหลือระยะหน้าตู้ประมาณ 1 เมตร เดินได้สะดวกสบาย ตรงนี้หากใครของเยอะจะ Built-in เป็นตู้เข้ามุมก็ยังได้ค่ะ ส่วนห้องน้ำจะอยู่ทางขวามือนะ

ห้องน้ำภายในห้องนี้ ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียก ส่วนแห้งชัดเจน การจัดวางฟังก์ชันเป็นแนวยาวเรียงลำดับการใช้งานเป็น อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำพร้อมฉากกั้นกระจก เป็นตำแหน่งที่ใช้งานง่ายดี โดยห้องนี้มีพื้นที่อาบน้ำขนาด 1×1.5 เมตร ยืนอาบน้ำหมุนตัวได้สบาย ภายในห้องได้หน้าต่างบานกระทุ้งหนึ่งจุด ส่วนสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ เหมือนกับห้องก่อนหน้าเลยค่ะ

RESIDENCE II

RESIDENCE II บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 152 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 682 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 1 ห้องอเนกประสงค์ /6 ห้องน้ำ/1 Powder Room / 4+4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน

RESIDENCE II เป็นบ้านขนาดรองลงมา เป็นบ้านฟังก์ชัน 5 ห้องนอน จอดรถได้ 4+4 คัน เหมือนกับบ้านไซส์ใหญ่เลย แต่ขนาดที่จอดจะเล็กกว่านิดหน่อย ส่วนภายในได้ Living area แบบ Double volume และ Family area ที่ชั้นบนเช่นกัน แต่จะไม่มี Court กลางบ้านมานะคะ ทำให้ Space ภายในแตกต่างกับไซส์ใหญ่พอสมควรเลย โดยจุดที่น่าสนใจเราขอสรุปดังนี้ค่ะ

• จอดรถได้ 4+4 คัน โดยโรงจอดรถมีขนาด 10.9×6.5 เมตร สามารถจอดเรียงได้ 4 คันในร่ม และจอดซ้อนได้อีก 4 คัน ภายในพื้นที่บ้าน อีกทั้งที่จอดรถให้ระยะฝ้าเพดานที่ 3.3 เมตร สามารถติดตั้ง Stack Parking เพิ่มเติมได้
• 5 ห้องนอน พร้อมห้องน้ำ ในตัวทุกห้อง ใช้งานได้สะดวก เป็นส่วนตัว รองรับการอยู่อาศัยได้หลาย Generation
• Master Bedroom ขนาดใหญ่ พร้อมห้องน้ำในตัวแบบมี His&Her และ Bathtub
• ออกแบบรองรับผู้สูงอายุ โดยมีห้องนอนชั้นล่าง พร้อมห้องน้ำที่มี Emergency call ในตัว อีกทั้งทางเข้ารองมีการดีไซน์ทางลาดเลื่อนรองรับรถเข็นไว้ครบครันเลย
• Common area ขนาดใหญ่ และ Living area แบบ Double Volume สูง 7.2 เมตร พร้อมหน้าต่างกระจกสูง ดูโอ่อ่า โปร่งโล่ง รับแสงธรรมชาติได้ดี
•  Maid area เป็นสัดส่วน บริเวณหลังบ้าน ในตำแหน่งเชื่อมครัว และที่จอดรถได้ง่าย สามารถ Service ได้สะดวก รองรับแม่บ้านได้ 1-2 คน

สำหรับบ้านมาตรฐาน หน้าบ้านจะได้ประตูเหล็กเลื่อนทำสี และติดตั้งมอเตอร์ระบบอัตโนมัติ พร้อมรั้วด้านข้างมีการออกแบบเป็นช่องเก็บขยะดูเรียบร้อย สำหรับที่จอดรถส่วนในร่มมีขนาดกว้าง 10.9×6.5 เมตร สามารถจอดรถได้ 4 คัน และพื้นที่หน้าบ้านยังเหลือให้สามารถจอดซ้อนอีก 4 คันได้ด้วย ส่วนฝ้าเพดานก็สูง 3.3 เมตร สามารถติดตั้ง Stack Parking เพิ่มเติมได้ค่ะ

โดยที่จอดรถจะมีประตูทางเข้ารอง พร้อมทางลาดเลื่อนสำหรับผู้สูงอายุมาให้เรียบร้อยเลย  ส่วนที่ผนังด้านข้างจะมีพื้นที่เก็บของมาให้ด้วยค่ะ

ในบ้านมาตรฐาน บริเวณหน้าบ้าน+ข้างบ้าน จะมีการจัดเป็นสวนที่มีการลงไม้พุ่มและไม้ยืนต้นมาให้ พร้อมทางเดิน Hard scape แบบนี้เลย แต่จะไม่ได้น้ำพุมานะคะ

เราจะเข้าไปยังด้านใน ด้วยประตูทางเข้าหลักกันค่ะ บริเวณตรงนี้จะมีลักษณะเป็นโถง ฝ้าเพดานสูง พร้อมประตูทางเข้าขนาดใหญ่ oversize โดยประตูเป็นบานทึบเปิดคู่ พร้อมลูกบิดและมือจับอะลูมิเนียมสีดำเช่นเดียวกันกับแบบก่อนหน้าเลย

เมื่อเปิดเข้ามาจะเจอกับ Living area ซึ่งเป็นพื้นที่ Double Volume ฝ้าเพดานสูง 7.2 เมตร ดูโอ่อ่าอลังการ เหมาะสำหรับเป็นพื้นที่นั่งเล่น หรือรับแขกได้เลยค่ะ

Living area อยู่ในตำแหน่งตำแหน่งมุมอาคาร ได้ผนังกระจกเข้ามุมสูง ทำให้บรรยากาศตรงนี้ดูโปร่งโล่งดีเลย นอกจากนั้นยังมีหน้าต่างบานเลื่อนอยู่ด้วย ในวันที่อากาศดีๆ สามารถเปิดรับลมได้สบายเลยค่ะ

สำหรับบ้านตัวอย่าง RESIDENCE II ทางโครงการตกแต่งมาในรูปแบบ The Milano Crafted Contemporary ตัวบ้านใช้วัสดุธรรมชาติจากไม้ เข้ากันกับเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้วัสดุเป็นหนังสีน้ำตาล และเพิ่มความ Luxury ด้วยหินสีดำเข้ม + วัสดุสีดำ ดูอบอุ่น สบายตา แต่ยังคงความเท่ ความคูลอยู่

โดยพื้นที่พักผ่อนชั้นล่างนี้จัดเป็นแบบ Common area ขนาดใหญ่ ที่รวม Living area + Dinning area + Pantry เอาไว้เข้าด้วยกันทั้งหมด ทำให้พื้นที่ตรงนี้ดูโล่ง กว้าง สามารถทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวได้ดีเลยค่ะ

ถัดมาจาก Living area จะเป็น Dinning area ซึ่งระยะจากประตูหลักถึงผนังด้านในนี้กว้างทีเดียว สามารถวางเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวพร้อมมีทางเดินโดยรอบได้สบายๆเลยค่ะ

Dinning area อยู่ในตำแหน่งที่เชื่อมต่อกับ Pantry ได้ง่าย ใช้งานได้สะดวกเลยค่ะ โดยโต๊ะทานอาหารจะถูกจัดวางอยู่ในตำแหน่งริมหน้าต่างกระจกบานเลื่อน เทควิวสวนด้านนอก ซึ่งจะสามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 10-12 ที่นั่งตรงกลาง แบบมีทางเดินได้โดยรอบกว้างเลย

Pantry ที่ได้จะเป็น เคาน์เตอร์ครัว I-shape พร้อม Island ตรงกลาง ของแบรนด์ Nobilia พร้อมอุปกรณ์ครัวต่างๆครบครัน หน้าตาแบบนี้เลยค่ะ

สำหรับพื้นที่ Pantry จะอยู่ตำแหน่งกลางบ้าน ด้านขวามือจะเป็นโถง ที่แจกไปยัง ห้องครัว และห้องรองเท้าด้านในสุด ซึ่งโถงนี้จะเชื่อมต่อกับประตูทางเข้ารองได้ค่ะ ส่วนซ้ายมือด้านในจะเป็น Powder room ห้องน้ำกลาง ที่รองรับพื้นที่พักผ่อนชั้นนี้ และโถงบันไดค่ะ

Pantry จะได้เคาน์เตอร์ Built-in ที่มีตู้เก็บของมาเยอะเลย พร้อมติดตั้งเตาไฟฟ้า 3 หัว และเครื่องดูดควัน จาก Miele เคาน์เตอร์ด้านหลังมีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารได้เยอะ พร้อมมี Backsplash ทำความสะอาดได้ง่าย สำหรับบ้านไซส์นี้จะได้ Combi Microwave แบบ Built-in จาก Miele

ส่วน Island ตรงกลาง มีอ่างล้างจานหลุมเดี่ยว พร้อมก๊อกผสมน้ำร้อน-เย็น จาก Blanco โดยด้านบนสามารถเตรียมอาหาร พร้อมอีกฝั่งหนึ่งจัดเป็นพื้นที่ทานอาหารเช้าร่วมกันได้ค่ะ

Powder room เป็นห้องน้ำกลางที่ใช้รองรับอยู่ที่ชั้นล่าง ภายในห้องน้ำมีอ่างล้างมือแบบฝังในเคาน์เตอร์ ด้านล่างมีช่องเก็บของมาให้ครบครัน พร้อมกระจกเงายาวเต็มผนัง สำหรับโถสุขภัณฑ์ และอ่างล้างหน้าเป็นของ Duravit ส่วนสายฉีดชําระเป็นของ Kohler ส่วน Fitting ต่างๆ เป็นของ Hansgrohe แบบนี้เลย ส่วนพื้นและผนังห้องน้ำใช้กระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อนสีขาวแบบนี้เลยค่ะ

มาดูกันที่โถงด้านในกันค่ะ ห้องแรกขวามือสุดจะเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ ถัดไปเป็นห้องอเนกประสงค์ ห้องครัว ห้องไฟฟ้า และห้องรองเท้าด้านในสุดค่ะ

มาเริ่มกันที่ห้องนอนผู้สูงอายุกันค่ะ ห้องนี้เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วจะเป็นโถงเล็กๆก่อน ทำให้เมื่อเปิดประตูมาแล้วจะไม่เห็นเตียงได้ตรงๆ ซึ่งเรามองว่าได้ความเป็นส่งตัวดีเลยค่ะ อีกทั้งโถงตรงนี้มีขนาดกว้างพอสมควร วางเป็นโต๊ะวางของเล็กๆ ด้านข้างเพิ่มเติมได้เลย

ภายในห้องวางเป็นเตียง 5 ฟุต แล้วยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงกว้างเลย Built-in เป็นเสื้อผ้า พร้อมโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้เลย ส่วนพื้นห้องนี้ใช้เป็น Absorption Floor ช่วยลดแรงกระแทกได้ด้วยนะ

มาดูฝั่งปลายเตียงกันบ้าง สำหรับใครที่ต้องการติดตั้งทีวีที่ปลายเตียง ระยะตรงนี้จะใช้ทีวีขนาด 60 นิ้วได้นะ แนะนำให้ติดตั้งแบบแขวนผนังเหมือนในบ้านตัวอย่าง จะได้เหลือทางเดินได้กว้าง ส่วนห้องน้ำก็จะอยู่ฝั่งปลายเตียงเลยค่ะ

ห้องน้ำ ภายในมีการแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน ขนาดห้องค่อนข้างกว้าง โดยระดับภายในห้องนี้จะเท่ากับพื้นห้องนอนเลย สามารถรองรับรถเข็นผู้สูงอายุได้สะดวก เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนอ่างล้างมือก่อน ส่วนด้านในจะเป็นโถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำ ซึ่งติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยมาให้ครบเป็นสัดส่วนดีเลยค่ะ

อ่างล้างมือเป็นแบบฝังในเคาน์เตอร์ พร้อมมีชั้นเก็บของด้านล่าง+ติดตั้งกระจกเงามาให้ครบ  สำหรับโถสุขภัณฑ์ และอ่างล้างหน้า ของ Duravit  แต่พิเศษคือ ห้องน้ำผู้สูงอายุจะได้ มีจุด Emergency call กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถส่งสัญญาณแจ้งเตือนได้

พื้นที่อาบน้ำให้มากว้างเลย ใช้งานอาบน้ำผู้สูงอายุได้สะดวก ตัวพื้นลดระดับลงไปเล็กน้อย ภายในมีการออกแบบเป็นม้านั่งคอนกรีต สามารถนั่งอาบน้ำได้ ส่วนที่อาบน้ำเป็นแบบ Hand Shower จาก Hansgrohe พร้อมมีการออกแบบเป็นช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำที่ผนังไว้ด้วย

ห้องอเนกประสงค์ (Life Style Room) ขนาด 3.2×2.1 เมตร  ภายในห้องสามารถจัดเป็นฟังก์ชันต่างๆ ได้ตามใจชอบ หรือจะจัดเป็นห้องนอนเพิ่มเติมอีกหนึ่งห้องก็ยังได้ เพราะภายในห้องมีห้องน้ำที่มีส่วนอาบน้ำในตัวครบเลย ซึ่งห้องน้ำจะอยู่ฝั่งขวาค่ะ

ภายในห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน จัดฟังก์ชันเรียงลำดับการใช้งาน พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยมาให้เป็นสัดส่วน ภายในห้องน้ำจะได้พื้นที่อาบน้ำขนาด 1×1.5 เมตร หมุนตัวได้สบาย สำหรับสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ เหมือนกับห้องก่อนหน้าเลยค่ะ

ห้องเก็บของ ใช้ประตูบานเปิดคู่ สามารถเปิดได้กว้างเลย ซึ่งตัวประตูมีการออกแบบให้มีประตูหลอกด้านบนสูงถึงฝ้าเพดานเลย ทำให้ดูเรียบร้อยกลมกลืนไปกับผนังค่ะ ภายในห้องติดตั้งไฟส่องสว่าง และพัดลมระบายอากาศมาครบเลยค่ะ

มาดูส่วนห้องครัวไทยกันบ้าง ภายในได้เคาน์เตอร์ครัวไทย built-in เต็มผนังแบบนี้เลย ท็อปเป็นกระเบื้อง Compressed Porcelain (Marble Pattern) หน้าบาน Particle Board ชนิดกันชื้น Wrap ด้วย Melamine พร้อมอุปกรณ์ครัวของ Professional Stainless Steel Asian Hood ดูแลทำความสะอาดได้ง่ายเลย

สำหรับพื้นและผนังภายในห้อง กรุกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อนแบบนี้เลย สามารถใช้งานได้จริงจัง ทำความสะอาดได้ง่าย พร้อมติดตั้ง Heat detector และ Gas detector ภายในห้องมาให้ครบเลยค่ะ

Maid area จัดไว้เป็นสัดส่วนบริเวณหลังบ้าน ในตำแหน่งเชื่อมครัว และที่จอดรถได้ง่าย สามารถ Service ได้สะดวกเมื่อเปิดออกมาแล้วห้องซ้ายมือแรกจะเป็นห้อง Laundry ซึ่งจะเชื่อมต่อกับลานซักล้างภายนอกได้ง่าย ใช้งานได้สะดวกต่อเนื่องกันดี ส่วนด้านในจะเป็นพื้นที่พักอาศัยของแม่บ้าน ซึ่งรองรับได้ 1-2 คนค่ะ

กลับมาที่พื้นที่ในบ้านกันค่ะ เมื่อเดินมาตามโถงมาจะเจอกับห้องรองเท้าที่สุดทางเดิน ซ้ายมือห้องแรกจะเป็นห้องเก็บของ ถัดไปจะเป็นประตูทางเข้ารองซึ่งเชื่อมต่อกับที่จอดรถได้เลย ส่วนขวามือจะเป็นห้องไฟฟ้า ซึ่งภายในสามารถใช้เก็บของต่างๆ ได้ พร้อมติดตั้ง Smoke detector ภายในมาด้วยค่ะ

Shoes room ห้องรองเท้ามีขนาดกว้างประมาณ 3 เมตร สามารถ Built-in เป็นตู้เก็บรองเท้าได้เยอะเลยค่ะ

กลับมาที่โถงบันไดกันค่ะ สำหรับโถงบันไดมีขนาดใหญ่ทีเดียว อีกทั้งได้ผนังกระจกข้างมุม รับแสงธรรมชาติได้เยอะ ดูโปร่งโล่งดีเลยค่ะ ตรงนี้สามารถจะติดตั้งเป็น Chandelier เก๋ๆได้ตามความชอบเลย นอกจากนั้นพื้นที่ใต้บันไดยังมีการทำเป็นห้องเก็บของมาให้ด้วยใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าเลยค่ะ

เมื่อขึ้นชั้น 2 มาแล้ว ซ้ายมือจะเจอกับ Family area พื้นที่พักผ่อนชั้นบน ซึ่งจะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นนะ

Family area อยู่บริเวณหน้าห้องนอน ใช้งานร่วมกันในครอบครัวได้สะดวกเลยค่ะ ภายในบ้านตัวอย่างจัดมาเป็นพื้นที่นั่งเล่น พร้อมมีการกั้นห้องทำงานเพิ่มเติมไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างค่ะ สำหรับพื้นชั้นนี้จะเป็น Engineering Wood หน้าไม้กว้าง 5 นิ้ว ส่วนระยะฝ้าเพดานชั้นสองทั้งหมดสูง 3 เมตรค่ะ

โดยพื้นที่นั่งเล่นตรงนี้สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ พร้อมมีทาง เดินโดยรอบได้สบาย สำหรับระยะตรงนี้จะสามารถติดตั้งทีวีขนาดใหญ่ 60 นิ้วขึ้นไปได้เลย

ห้องทำงานภายในบ้านตัวอย่าง กั้นเป็นห้องกระจกเข้ามุมแบบแขวนด้านบน หากต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็เลื่อนกั้นได้ แต่ก็ยังคงดูโปร่ง เป็นไอเดียที่ดีเลยค่ะ สำหรับพื้นที่ Family area ตรงนี้จะมีระเบียงอยู่ด้วยนะคะ ซึ่งจะเชื่อมต่อกับประตูกระจกด้านซ้ายมือนี้เลย

ระเบียงมีขนาด 4.8×1.2 เมตร วางเป็นชุดเฟอร์นิเจอร์ Out door หรือจัดเป็นสวนกระถางเพิ่มเติมได้ ซึ่งตรงนี้จะอยู่บริเวณหน้าบ้านพอดีค่ะ

บริเวณหน้า Master Bedroom ตรงนี้จะมีมุมเล็กๆ ขนาด 1.9×1.3 เมตร เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ที่สามารถกั้นแยกเพิ่มเติมได้ ซึ่งตรงนี้สามารถจัดเป็นห้องทำงานอดิเรกต่างๆ หรือห้องพระก็ได้ค่ะ ภายในห้องได้หน้าต่างกระจกบานใหญ่ 1 บาน รับแสงได้ดี เปิดระบายอากาศได้ง่ายค่ะ

เรามาเริ่มกันที่ Master Bedroom กันค่ะ เมื่อเปิดเข้ามาจะพบกับโถงโล่งๆ ที่เราสามารถออกไอเดียตกแต่ง เป็นที่จัดโชว์ของสะสม แสดงความเป็นตัวตนกันได้ นอกจากนั้นยังเป็นพื้นที่ซับเสียงภายนอกทำให้ในบริเวณพื้นที่พักผ่อนด้านในนั้น เงียบสงบ ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นอีกด้วย

เข้ามาด้านในจะเป็นโซนห้องนอน+พื้นที่พักผ่อนที่มีขนาดใหญ่มาก วางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้สบายและยังเหลือพื้นที่วางชุดโซฟานั่งเล่น ดูทีวีหรือวางโต๊ะเขียนหนังสือก็ได้ค่ะ

พื้นที่ตรงนี้ด้านหนึ่งจะติดกับหน้าต่างกระจกบานใหญ่รับแสงได้เยอะ เทควิวได้กว้างแล้ว ผนังฝั่งหัวเตียงยังได้หน้าต่างกระจก 2 จุดข้างเตียงอีกด้วย ซึ่งจะตรงกับ Double Volume ที่ Living area ซึ่งมีหน้าต่างกระจกสูงใหญ่ ทำให้ภายในห้องนี้ได้แสงไปด้วย อีกทั้งยังทำให้ดูโปร่งดีด้วยนะคะ

อีกฝั่งหนึ่งของห้องจัดไว้เป็น Walk-in Closet ในห้องนอนใหญ่ ขนาด 3.6×3.5 เมตร กั้นแยกด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ชัดเจนเป็นสัดส่วน ซึ่งห้องนี้จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ Master ได้ในตัวเลย ใช้งานสะดวกดีเลยค่ะ

ภายในห้องสามารถ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้า U-shape เต็มผนัง พร้อมวาง Island ตรงกลางได้ แบบเหลือทางเดินโดยรอบสบายๆ เลยค่ะ