รีวิวฉบับที่ 2787…วันนี้พามาชมโครงการใหม่ โครงการใหญ่ ! ที่เปิดตัวบนทำเลติดถนนบางนา – ตราดกับ Setthasiri Bangna KM.10 (เศรษฐสิริ บางนา กม.10) บ้านเดี่ยวหรูที่เปิดตัวเป็นโครงการแรกจาก “Sansiri 10 East” Luxury Community แห่งใหม่ที่รวม 4 แบรนด์บ้านเดี่ยวหรูจาก Sansiri เอาไว้บนทำเลบางนา กม.10 เหมาะกับครอบครัวใหญ่ที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวหน้ากว้าง ได้ฟังก์ชันเยอะ เริ่มต้น 4 – 5 ห้องนอน 3 ที่จอดรถและห้องแม่บ้านทุกหลัง ในราคาเริ่มต้น 25 – 40 ล้านบาท* โดยโครงการยังมี EV Charger และ Solar Cell ติดตั้งมาให้ครบอีกด้วย หากใครสนใจก็สามารถเลื่อนดู Highlights ที่เรารวบรวมมาให้กันก่อนดังนี้
- ทำเลติดถนนใหญ่ : โครงการตั้งอยู่ติดถนนบางนา – ตราดช่วงกม.10 ไม่ต้องขับเข้าซอย เดินทางเข้า – ออกเมืองก็ง่ายเพราะใกล้ทางด่วนหลายสาย อีกทั้งยังเป็นทำเลที่อยู่ใกล้แหล่ง Lifestyle ในย่านบางนา ทำให้ได้ความอุดมสมบูรณ์สูง
- Sansiri Community : เป็นโครงการหนึ่งใน Mega Project “Sansiri 10 East” Luxury Community แห่งใหม่ที่รวม 4 แบรนด์บ้านเดี่ยวหรูจาก Sansiri ในราคาเริ่มต้น 25 – 500 ล้านบาทขึ้นไป จึงได้ข้อดีในเรื่องของบรรยากาศและการดูแลจัดการที่ได้มาในระดับเดียวกับโครงการระดับแฟล็กชิพเลย
- แบบบ้านสไตล์ Georgian : เป็น Modify Series ที่มีการพัฒนาและต่อยอดมาจากแบบบ้านเดิมทั้ง Facade และฟังก์ชันภายใน เพื่อให้ตอบโจทย์ครอบครัวขยายมากยิ่งขึ้น ในบ้านได้ Double Volume ความสูงมาถึง 6.7 เมตร มีห้องนอนชั้นล่างทุกแบบรองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วยได้
ข้อมูลโครงการ
Setthasiri Bangna KM.10 (เศรษฐสิริ บางนา กม.10) ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2567
ชื่อโครงการ | Setthasiri Bangna KM.10 (เศรษฐสิริ บางนา กม.10) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | HIGH – LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนบางนา – ตราด กม.10 อำเภอบางพลี สมุทรปราการ |
ที่ดิน | 27 ไร่ |
จำนวนยูนิต | 71 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | แบบบ้าน LAWRENCE สูง 2.70 – 2.90 AUSTEN / MASEFIELD 2.90 – 3.10 เมตร Double Volume สูง 6.7 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 25 – 40 ล้านบาท* |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | 290,000 บาท |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2566 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2569 |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
โทร | 1685 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.649091, 100.697540
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการ แสดงตำแหน่ง Setthasiri Bangna KM.10 (เศรษฐสิริ บางนา กม.10) ที่ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่บางนา – ตราด ช่วงกม.10 ฝั่งขาออก เหมาะกับคนที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวในโซนบางนาที่ไม่ต้องเดินทางเข้า – ออกซอย อยู่ใกล้ย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิประมาณ 19 กิโลเมตร สำหรับคนที่ทำงานอยู่ในโซนบางนา – บางพลีก็ถือว่าสะดวกมาก เพราะถนนบางนา – ตราดเป็นถนนหลักที่สามารถขับไปเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย หรือใครที่ทำงานในเมือง ใช้รถส่วนตัวในการเดินทางเป็นหลัก ก็มีทางด่วนให้เลือกใช้ได้หลายเส้นทางทั้งทางพิเศษบูรพาวิถี เชื่อมต่อทางพิเศษเฉลิมมหานคร – ทางพิเศษสาย S1 ,ทางด่วนพระราม 9 – มอเตอร์เวย์ และถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันออก – วงแหวนใต้) แต่อาจจะต้องเผื่อเวลาในชั่วโมงเร่งด่วนสักนิดนึงนะคะ
ที่ตั้งโครงการ Setthasiri Bangna KM.10 (เศรษฐสิริ บางนา กม.10) จัดอยู่ในย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงในโซนบางนา ใกล้กับโครงการก็มีร้านค้า , ร้านอาหารและ Community Mall ให้ออกมาเลือกจับจ่ายใช้สอยได้หลากหลาย ใกล้ที่สุดคือ ดีไซน์ วิลเลจ บางนา อยู่ห่างจากโครงการแค่ประมาณ 900 เมตร จากโครงการยังสามารถเดินทางไปห้างที่เป็น Landmark ของย่านอย่าง Mega บางนาได้ง่าย รอบๆยังอยู่ใกล้โรงพยาบาล , โรงเรียนนานาชาติ อาทิ โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ , โรงพยาบาลศิครินทร์ , โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ , โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว เป็นต้น เหมาะกับผู้ปกครองที่กำลังวางแผนมองหาบ้านใกล้โรงเรียนให้กับลูกๆนะคะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
Setthasiri Bangna KM.10 (เศรษฐสิริ บางนา กม.10) เป็นหนึ่งในโครงการจาก Sansiri Community โดยที่ตั้งจะอยู่ด้านในสุด ห่างจากถนนบางนา – ตราดประมาณ 900 เมตร จึง ทำให้รอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นโครงการที่กำลังรอการพัฒนาในอนาคต ด้านข้างติดกับคลองสลุดและชุมชนที่พักอาศัยแนวราบ ซึ่งถือเป็น Buffer ที่ดีในการช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้าน ซึ่งเรามองว่าคนที่เลือกซื้อทำเลนี้ น่าจะชอบความเป็นส่วนตัว บรรยากาศในโครงการ ตั้งแต่ถนนด้านหน้าที่ใช้ร่วมกันกับโครงการระดับแฟล็กชิพ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องความสวยงาม หรือความสงบเรียบร้อยเลย
- ทิศเหนือ ติดกับ ที่ดินเปล่า
- ทิศใต้ ติดกับ ถนนภาระจำยอม , โครงการรอการพัฒนาในอนาคต
- ทิศตะวันออก ติดกับ ที่พักอาศัยแนวราบ
- ทิศตะวันตก ติดกับ คลองสลุด , วัดสลุด
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- ดีไซน์วิลเลจ บางนา ~ 900 เมตร
- แอท ยู พาร์ค บางนา ~ 2.2 กิโลเมตร
- มาเก็ต วิลเลจ สุวรรณภูมิ ~ 3.6 กิโลเมตร
- เมกา บางนา ~ 7.8 กิโลเมตร
- เซ็นทรัล วิลเลจ เอาท์เล็ท ~ 8.3 กิโลเมตร
- เซ็นทรัล บางนา ~ 14.8 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ~ 9 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลศิครินทร์ ~ 13 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ~ 15 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ ~ 19 กิโลเมตร
โรงเรียน
- โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ ~ 5.5 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ~ 7.4 กิโลเมตร
- โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ~ 8.8 กิโลเมตร
- โรงเรียนนานาชาติ ดิอเมริกันสคูลออฟแบงค็อก (บางนา) ~ 10 กิโลเมตร
- โรงเรียนนานาชาติคอนคอร์เดียน ~ 13 กิโลเมตร
- โรงเรียนบางกอกพัฒนา ~ 15.6 กิโลเมตร
- โรงเรียนนานาชาติเบิร์คลีย์ ~ 16 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตสุวรรณภูมิ ~ 20 กิโลเมตร
การเดินทาง
- ถนนกาญจนาภิเษก ~ 6.5 กิโลเมตร
- ถนนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี ~ 13.8 กิโลเมตร
- ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ~ 19 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
Setthasiri Bangna KM.10 (เศรษฐสิริ บางนา กม.10) นอกจากเป็นบ้านเดี่ยวโครงการใหม่บนทำเลติดถนนบางนา กม.10 แล้ว ยังเป็นบ้านเดี่ยวโครงการแรกที่เปิดตัวใน “Sansiri 10 East” Luxury Community แห่งใหม่ที่รวม 4 แบรนด์บ้านเดี่ยวหรูจาก Sansiri เอาไว้บนทำเลบางนา กม.10 ประกอบด้วย บ้านแสนสิริ , สิริณสิริ , นาราสิริ และเศรษฐสิริ บนเนื้อที่ขนาดใหญ่กว่า 165 ไร่ โดยทั้งหมดเป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวที่อยู่ในระดับ LUXURY ไปจนถึง ULTIMATE CLASS (80 ล้านบาทขึ้นไป) แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาเพื่อยกระดับที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ Luxury ของคนในย่านนี้ได้อย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดย “เศรษฐสิริ” จัดอยู่ใน Segment เริ่มต้นของ Project เปิดตัวมาในราคา 25 – 40 ล้านบาท*
ก่อนเข้าไปชมบรรยากาศในโครงการ เราขอพามาดู Masterplan เพื่อให้เห็นภาพรวมกันก่อน โดย Setthasiri Bangna KM.10 (เศรษฐสิริ บางนา กม.10) เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ด้านในสุดของ Community ขับเข้าไปจากถนนบางนากม.10 ประมาณ 900 เมตร ซึ่งก็จะต้องผ่านถนนภาระจำยอมและซุ้มประตูทางเข้าถึง 2 ชั้น ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านได้ดี รูปร่างของที่ดินโครงการได้มาค่อนข้างสวยเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า การจัดวางตำแหน่งบ้านดูลงตัว โดยหน้าบ้านทั้งหมดจะหันขนานไปกับทิศเหนือ – ใต้ ซึ่งเป็นทิศที่ไม่โดนแดดโดยตรง และยังได้ลมจากธรรมชาติจึงทำให้หน้าบ้านไม่ร้อน ประกอบด้วยรอบๆโครงการเป็นที่โล่งไม่มีอาคารสูง จึงทำให้ตอนที่เดินเก็บข้อมูลในโครงการ รู้สึกได้ถึงลมที่พัดผ่านอยู่ตลอดจริงๆนะคะ
การจัดวางพื้นที่ส่วนกลาง จะได้เป็นสวนขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 1 ไร่ และอาคาร Clubhouse ที่อยู่ตรงกลาง ลูกบ้านสามารถเดินมาใช้งานได้ง่าย อีกทั้งยังมีซอยด้านข้าง (ลูกศรสีแดง) เดินเชื่อมต่อเข้ามาที่สวนได้เลย โดยในซอยนี้จัดว่าค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัว เพราะมีเพื่อนบ้านอยู่ร่วมกันแค่ 4 หลังเท่านั้น และตำแหน่งที่อยู่ใกล้กับวัดสลุดยังออกแบบให้มีถนนคั่นและรั้วสูงเป็น Buffer ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว
สำหรับรูปแบบบ้านในโครงการจะมีทั้งหมด 71 ยูนิต แบ่งเป็น 3 Type หากใครอยากได้บ้านแปลงมุมหรือวิวสวน ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านไซส์ใหญ่ พื้นที่ใช้สอย 377 ตร.ม. จะมีให้เลือกเยอะที่สุดในโครงการ ทำให้สามารถเลือกตำแหน่งได้หลากหลายมากกว่า และบ้านขนาดเริ่มต้นจะมีแค่ 11 ยูนิต มีให้เลือก 2 โซน คือด้านหน้าใกล้กับซุ้มประตู และซอยสุดท้ายที่อยู่ด้านในสุด เหมาะกับคนที่ชอบความสงบ ไม่พลุกพล่าน
บรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการติดกับถนนบางนากม.10 จากถนนใหญ่จะมีซุ้มประตูกั้น 1 ชั้น พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและระบบสแกนป้ายทะเบียนเพื่อคัดกรองคนในการเข้า – ออก ซึ่งก็เป็นการช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านในชั้นแรกได้เป็นอย่างดี
เมื่อขับเข้ามาก็จะเจอถนนภาระจำยอมใช้ร่วมกับอีก 3 โครงการ บรรยากาศดูร่มรื่นมาก มีทั้งต้นไม้ใหญ่ ไม้พุ่มตลอดทาง โดยปัจจุบันโครงการที่เปิดตัวแล้วจะมีเศรษฐสิริ และนาราสิริซึ่งจะอยู่ติดกันเลย
Setthasiri Bangna KM.10 (เศรษฐสิริ บางนา กม.10) จะเป็นโครงการที่อยู่ด้านในสุด ขับเข้ามาประมาณ 900 เมตร เมื่อเลี้ยวมาถึงจะเห็นวงเวียนน้ำพุขนาดใหญ่ประดับด้วยรูปปั้น “โพไซดอน” สื่อถึงสายน้ำ ความสงบและร่มเย็น โดยเป็นประติมากรรมที่นำเข้ามาจากอิตาลี เนื้อผิวเป็นโลหะที่ผ่านการออกซิไดซ์จนกลายเป็นสีอมเขียว ให้ความรู้สึกคลาสสิค สมจริงมาก
ซุ้มประตูที่ 2 จะเป็นทางเข้าหลักของโครงการ นอกจากจะแยกทางเข้า – ออกชัดเจนแล้ว ยังมีการแยกเลนให้ Resident และ Visitor อีกด้วย ช่วยเพิ่มความสะดวก และลดปัญหาการจอดรอนานๆได้ดี โดยระบบการเข้า – ออกโครงการจะใช้ระบบ LPR (สแกนป้ายทะเบียน) เช่นเดียวกับด้านหน้า พร้อมมีระบบ VMS บันทึกข้อมูลผู้มาติดต่อ และระบบ LIV-24 ระบบปฎิบัติการที่คอยดูแลความปลอดภัยให้ 24 ชั่วโมง
เมื่อเข้ามาด้านในบรรยากาศโครงการตกแต่งมาได้ร่มรื่น น่าอยู่อาศัยตามสไตล์ Sansiri ตรงกลางจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ เริ่มจากสวนหย่อมและสนามเด็กเล่นที่ลูกบ้านสามารถเดินมาใช้งานได้ง่าย
ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นอาคาร Clubhouse 2 ชั้น ออกแบบมาได้ดูหรูหรา โอ่อ่า ได้กลิ่นอายสถาปัตยกรรมสไตล์ Georgian ดูกลมกลืนเข้ากับส่วนพักอาศัย โดยฟังก์ชันภายในก็ถือว่าจัดมาให้ครบครัน ทั้งส่วน Indoor และ Outdoor เลย
บรรยากาศอาคาร Clubhouse โครงการ Setthasiri Bangna KM.10 (เศรษฐสิริ บางนา กม.10)
เริ่มจากสระว่ายน้ำแบบ Outdoor ที่อยู่ด้านหน้า ได้มาเป็นระบบเกลือยาว 7.5 x 25 เมตร เทียบเท่าความยาวสระแบบ Half Olympic ใช้ว่ายออกกำลังแบบจริงจังได้เลย ด้านข้างยังแบ่งเป็นสระเด็กขนาด 5 x 2.5 เมตร ลึก 0.60 เมตร พร้อมโซนจากุชชี่ ให้มานั่งผ่อนคลายหลังยืดเส้น ยืดสายกันได้ มองออกด้านหน้าเห็นวิวสวนขนาดใหญ่ ก็ได้บรรยากาศในการพักผ่อนไปอีกแบบนะคะ
บรรยากาศอาคาร Clubhouse โครงการ Setthasiri Bangna KM.10 (เศรษฐสิริ บางนา กม.10)
ด้านข้างมีพื้นที่ให้ล้างตัวก่อนลงสระ ส่วนห้องน้ำกลางจะอยู่ด้านในอาคารมีแยกโซนชาย – หญิงและห้องน้ำผู้พิการเอาไว้รองรับอยู่ด้วย ด้านในยังมีตู้เก็บของ และห้องอาบน้ำให้ลูกบ้านใช้งานได้
ฟังก์ชันภายในอาคาร แบ่งเป็นพื้นที่ในอาคารหลังใหญ่ และ Pavillion ที่อยู่ด้านข้างสระว่ายน้ำ ภายในจัดมาให้เป็นพื้นที่นั่งเล่น พักผ่อน หรือเป็นพื้นที่ๆลูกบ้านใช้นัดพบปะกับแขกภายนอกได้ ซึ่งก็จะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า Lobby ในอาคารใหญ่
บรรยากาศอาคาร Clubhouse โครงการ Setthasiri Bangna KM.10 (เศรษฐสิริ บางนา กม.10)
อาคารใหญ่แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็น 2 ชั้น โดยชั้นแรกจัดเป็นส่วน Lobby ต้อนรับ และเป็น Co – Working Space ได้ บรรยากาศภายในดูโปร่งโล่งมาก เพราะได้เพดานที่สูงในส่วนทางเข้า และมีหน้าต่างติดตั้งมาให้หลายจุด ช่วยให้แสงจากธรรมชาติส่องเข้ามาได้อย่างทั่วถึง
ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอ Multipurpose ตรงกลาง ฟังก์ชันแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ประกอบด้วย ฟิตเนส และ Meeting Room
บรรยากาศภายใน Meeting Room สามารถรองรับได้ 6 – 8 ที่นั่ง พร้อมมีจอเอาไว้รองรับ สำหรับลูกบ้านที่อยากได้พื้นที่นั่งทำงานแบบเป็นส่วนตัว หรือนัดคุยพบปะกับกลุ่มเพื่อนได้
ฟิตเนสได้อุปกรณ์มาครบครันทั้ง Weight Training และ Cardio ให้ลูกบ้านสามารถเลือกใช้งานได้หลากหลาย แชร์กับเพื่อนบ้านอีก 71 ยูนิตได้สบายๆเลย
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบด้วย
- สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 7.5 x 25 เมตร ลึก 1.20 เมตร
- แบ่งสระเด็กลึกขนาด 5 x 2.5 เมตร ลึก 0.60 เมตร พร้อมโซนจากุชชี่
- ห้องออกกำลังกาย
- Co – Working Space
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 1 ไร่
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 16 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 3 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 20, 12 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร
- การเข้า – ออกโครงการใช้ระบบ LPR (สแกนป้ายทะเบียน) เป็นแบบ Double Gate พร้อมระบบ VMS บันทึกข้อมูลผู้มาติดต่อ
- ระบบ LIV-24 ดูแลความปลอดภัยขั้นสูงสุดด้วยระบบปฎิบัติการ 24 ชั่วโมง
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor ทุกหลัง
แบบบ้าน
รูปแบบบ้านในโครงการ Setthasiri Bangna KM.10 (เศรษฐสิริ บางนา กม.10) มาในสไตล์ Georgian ซึ่งถือเป็น Modify Series เปิดตัวครั้งแรกบนทำเลบางนา ฟังก์ชันออกแบบมาเพื่อรองรับครอบครัวขยาย เริ่มต้น 4 – 5 ห้องนอน ที่จอดรถ 3 คันและห้องแม่บ้านทุกหลังในราคาเริ่มต้น 25 – 40 ล้านบาท* โดยแบบบ้านจะมีให้เลือก 3 แบบด้วยกัน ได้พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 247 – 377 ตร.ม. ซึ่งรีวิววันนี้เราก็จะพาไปชมบรรยากาศในบ้านตัวอย่างทั้ง 3 Types เลยนะคะ ส่วนวัสดุในบ้านเรามองว่ามีการอัพเกรดมาให้เหมาะสมกับราคาและทำเลพอสมควรเลย หากใครสนใจเราก็ได้สรุปรายละเอียดมาให้ชมกันก่อนดังนี้
- LAWRENCE (ลอเรนซ์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 59 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 247 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน - AUSTEN (ออสเทน) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 75 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 310 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องอนเกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน - MASEFIELD (เมสฟิลด์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 90 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 377 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องอนเกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
วัสดุภายในบ้าน
- โครงสร้างบ้านระบบ Precast
- โครงสร้างที่จอดรถในร่ม ใช้คานร่วมกับตัวบ้าน แยก Joint
- พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×120 เซนติเมตร (ห้องนอนชั้นนล่าง Absorption floor)
- พื้นชั้น 2 : VSPC ลายไม้ ความหนา 7 มิลลิเมตร (แบบ้าน 310 ตร.ม. และ 377 ตร.ม.)
- เคาน์เตอร์ Pantry STARMARK ท็อปหินสังคราะห์ พร้อมตู้เก็บของและอ่างล้างจาน จาก TEKA
- ชุดครัวไทย พร้อมหน้าบาน STARMARK ท็อปหินแกรนิต / อ่างล้างจาน จาก TEKA
- ตู้เก็บของส่วน Laundry / อ่างล้างมือ จากTOTO
- บันไดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวไม้ยางพาราประสาน
- สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ : อ่างล้างมือ , ก็อกน้ำ , ฝักบัว และอ่างอาบนน้ำ จาก Kohler , โถสุขภัณฑ์ จาก Cotto / ฉากกั้นอาบน้ำทุกห้อง
- สวิตช์และปลั๊กไฟจากยี่ห้อ bticino
เทคโนโลยีภายในบ้าน
- Digital Door Lock ใช้งานได้ 5 ระบบ (สแกนลายนิ้วมือ , Bluetooth , กดรหัส , คีย์การ์ด , กุญแจ) จากยี่ห้อ Kaadas
- ประตูรั้วรางเลื่อนอัตโนมัติ 2 ตอน
- Magnetic Sensor / Motion Sensor 2 จุดที่โถงชั้น 1 – 2
- Heat Detector 1 จุดในห้องครัว
- Control Panel Touch Screen ควบคุมการทำงานของระบบรักษาความปลอดภัยในบ้าน (Magnetic Sensor , Alarm)
- ระบบไฟ 3 เฟส (30/100) ติดตั้งมาพร้อม EV Charger 1 จุด / Solar Cell ขนาด 2.2 Kw
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
แบบบ้าน MASEFIELD (เมสฟิลด์) พื้นที่ใช้สอย 377 ตร.ม.
รูปแบบบ้านแรกที่เราจะพามาชมคือ MASEFIELD (เมสฟิลด์) เป็นแบบบ้านที่มีขนาดใหญ่สุดในโครงการ ได้พื้นที่ใช้สอย 377 ตร.ม. มาพร้อมฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 3 ที่จอดรถ และ 1 ห้องแม่บ้าน รองรับครอบครัวขยายที่มีสมาชิก 4 – 5 คนได้แบบสบายๆ โดยการออกแบบ Facade จะเห็นว่ายังคงเอกลักษณ์ของรูปแบบบ้านสไตล์ Georgian แต่มีการเพิ่มลูกเล่นอย่างขอบบัวปูนปั้น และเสาทรงสูงที่บริเวณซุ้มทางเข้าที่มีถึง 4 เสา ช่วยเพิ่มความหรูหรา โอ่อ่าให้กับตัวบ้านได้มากยิ่งขึ้น
การจัดฟังก์ชันภายในบ้านจะเห็นว่าลักษณะแปลนเป็นแบบหน้ากว้าง ทำให้สามารถแบ่งพื้นที่ใช้งานได้เป็นสัดส่วนแต่ยังคงได้ความโปร่งโล่ง ประตูทางเข้า – ออกบ้านได้มา 2 จุด คือประตูหลักด้านหน้าบ้าน เปิดเชื่อมต่อเข้ามาเจอกับ Foyer ที่ได้เป็น Double Volume ความสูงถึง 5 เมตร และประตูด้านหลังโรงจอดรถ จัดเป็นประตู Service เดินเข้าครัวและโถงกลางบ้านได้เลย ส่วนที่เราชอบคือแบบบ้านนี้จะมีส่วนนั่งเล่นมาให้ 2 จุด แบ่งเป็นโซนด้านหน้าที่อยู่ติดกับ Foyer ทำเป็นส่วนต้อนรับแขก
และส่วนที่อยู่ถัดเข้าไปด้านใน ใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่น พักผ่อนของครอบครัว ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ถัดเข้ามาเป็นส่วนรับประทานอาหาร และมีมุมให้จัดเป็น Pantry ไว้รองรับอยู่ด้วย ติดกันเป็นครัวปิดขนาดใหญ่ และ Maid Plaza ที่ออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ครบในตัวบ้าน ถือเป็นฟังก์ชันใหม่ที่ทำออกมาได้น่าสนใจเลย สำหรับทุกห้องนอนในรูปแบบบ้านนี้ จะมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง ห้องน้ำในนอนชั้นล่างยังทำไว้ให้รองรับการใช้งานของผู้พิการและผู้สูงอายุได้ด้วย ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับ Family Area อีกจุด ชั้นนี้ประกอบด้วย 1 Master Bedroom และ 3 ห้องนอนขนาดใหญ่ ภายในมีมุมจัด Walk – in Closet ได้ครบ ในครอบครัวที่มีลูกๆด้วย ก็สามารถแบ่งใช้งานได้จนโตเลยนะคะ
บรรยากาศรอบๆบ้านตัวอย่าง MASEFIELD (เมสฟิลด์)
พามาชมบรรยากาศรอบๆบ้านตัวอย่าง ด้านหน้าเป็นพื้นที่จอดรถในร่มกว้างประมาณ 7.89 เมตร จอดรถ 3 คันได้สบายๆ โครงสร้างใช้คานร่วมกับตัวบ้าน ส่วนด้านนอกจะตัด Joint ช่วยป้องกันปัญหาการทรุดตัวในอนาคตได้ พื้นเป็นทรายล้างพิมลายเหมือนในบ้านตัวอย่าง บริเวณทางเข้ามี Ramp ไว้รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุและผู้พิการตามหลัก Universal Design อยู่ด้วย ด้านหลังที่จอดรถมีช่องเก็บของกว้างประมาณ 40 เซนติเมตร ติดตั้งบานเปิดมาให้เรียบร้อย ประตู Service ได้ Digital Door Lock 1 จุด ใช้งานได้ 5 ระบบ จากยี่ห้อ Kaadas
สำหรับลูกบ้านที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า โครงการก็ติดตั้ง EV Charger มาให้พร้อมใช้งาน เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่หันมาใช้พลังงานสะอาดกันมากขึ้น อีกทั้งทุกแบบบ้านยังมี Solar Cell ขนาด 2.2 Kw. เป็นระบบ On Grid ที่ดึงพลังงานมาใช้เป็นไฟฟ้าในช่วงกลางวันได้อีกด้วย ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะพอสมควรเลย
เข้ามาในบ้านตัวอย่างจะเจอกับ Foyer ที่ได้เป็น Double Volume เพดานสูงถึง 6.7 เมตร ช่วยเพิ่มความโอ่อ่า โปร่งโล่งให้กับทางเข้าบ้าน ประตูบ้านเป็นบานเปิดคู่กว้างประมาณ 1.50 เมตร ด้านบนมีบาน Fix กระจกเป็นซุ้มโค้ง ดูเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังช่วยให้แสงจากธรรมชาติส่องเข้ามาในบ้านได้อย่างทั่วถึง กระเบื้องพื้นโซนนี้จะได้ลายมาเหมือนในบ้านตัวอย่าง ช่วยเพิ่มความหรูหรา และกลิ่นอายของบ้านสไตล์ยุโรปได้ดี
ระบบรักษาความปลอดภัยในบ้านนอกจากจะมี Digital Door Lock ที่ประตู Service ก็มีการติดตั้ง Magnetic Sensor มาให้ที่ประตู – หน้าต่างทุกจุด เมื่อมีการเปิด – ปิดหรืองัดแงะ ก็จะสามารถส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปที่ Control Pad ในบ้าน , Application บนมือถือ และป้อมรปภ.ได้
จุดเด่นส่วนแรกของแบบบ้านนี้ก็คือฟังก์ชัน Double Living ที่ได้ส่วนนั่งเล่นมาถึง 2 จุด เริ่มจากส่วนที่อยู่ติดกับ Foyer ใช้เป็นพื้นที่รับรองแขกจากภายนอก หรือเป็นมุมนั่งพักผ่อนของครอบครัวได้อีกจุด สำหรับในบ้านที่มีสมาชิกเยอะ ก็แบ่งใช้งานกันได้สบายๆ วัสดุพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×120 เซนติเมตร ได้โทนสีเหมือนในบ้านตัวอย่าง
ส่วนที่เราชอบคือตรงหน้าต่างของบ้านเกือบทุกจุดจะมี Breeze Panel ด้านล่าง ฟังก์ชันคือเป็นช่องลมระบายอากาศที่มีตัวล็อกเปิด – ปิดได้ เวลาที่ไม่มีใครอยู่บ้านก็ยังสามารถเปิดทิ้งไว้ ช่วยระบายความร้อน และทำให้อากาศในบ้านถ่ายเทได้ดี
เข้ามากลางบ้านจะเป็น Common Area ขนาดใหญ่ ได้พื้นที่แบบหน้ากว้าง ด้านข้างมีหน้าต่างและประตูบานเลื่อนกระจกเปิดเชื่อมต่อออกไปที่สวนด้านข้างตัวบ้านได้ โดยพื้นที่ใช้งานจะแบ่งเป็นส่วนนั่งเล่นที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น พื้นที่รับประทานอาหาร และมุม Pantry ไว้ครบ เดินใช้งานได้สะดวก อีกทั้งยังดูโปร่งโล่ง โดยความสูงจากพื้นถึงฝ้าของชั้นนี้จะอยู่ที่ 2.90 เมตร
ส่วนรับประทานอาหารสามารถวางโต๊ะยาวได้ 6 – 8 ที่นั่ง ด้านข้างเป็น Pantry ที่โครงการจะ Built – in มาให้พร้อมใช้งาน ทั้ง Island และตู้เก็บของทั้งบน – ล่าง แต่รูปแบบจะเหมือนกับภาพด้านล่างที่เราไปถ่ายจากในบ้านมาตรฐานมาให้ชมกัน
เคาน์เตอร์ Built - in ในส่วน Pantry บ้านตัวอย่าง MASEFIELD (เมสฟิลด์)
เคาน์เตอร์ Pantry ในบ้านมาตรฐานได้เป็นรูปตัว L เข้ามุม มาพร้อม Island ที่ติดตั้งอ่างล้างจาน ตู้เก็บของและลิ้นชักด้านล่างมาให้เรียบร้อยจาก STARMARK ส่วนด้านข้างจะเป็นช่องเว้นไว้ให้ใส่ตู้เย็น มีตู้เก็บของด้านบนติดตั้งมาให้ครบ ใช้เป็นมุมเตรียมอาหารเช้า นั่งจิบกาแฟแบบเบาๆได้
ด้านข้างจะเป็นประตู Service เปิดเชื่อมต่อมาจากโรงจอดรถ ฝั่งซ้ายเป็นตู้เก็บของใต้บันได ติดตั้งประตูบานเปิดคู่ในให้แบบเต็มบาน ทำให้สามารถขนของชิ้นใหญ่เข้าไปเก็บได้สบายๆ ส่วนอีกฝั่งเป็นตู้ไฟของบ้าน ทำเป็นช่องเปิด – ปิดดูเรียบร้อย สวยงาม และยังซ่อมแซมได้ง่าย ตรงกลางจะเห็นว่าติดตั้ง Control Pad มาให้ ซึ่งในบ้านจะได้มา 2 จุด คือตรงทางเข้าประตู Service และบนโถงชั้น 2 ลูกบ้านสามารถมาเปิดตรวจเช็คดู Alarm ต่างๆและระบบรักษาความปลอดภัยในบ้าน
ห้องน้ำ Powder Room ในบ้านตัวอย่าง MASEFIELD (เมสฟิลด์)
ถัดมาเป็นห้องน้ำส่วนกลางของชั้น 1 ได้เป็นแบบ Powder Room คือจะไม่มีส่วนอาบน้ำอยู่ด้านใน ใช้รับรองแขกได้สะดวก ภายในมีสุขภัณฑ์ติดตั้งมาให้ครบ โดยอ่างล้างมือได้มาเป็นแบบฝังเคาน์เตอร์ ด้านล่างมีช่องไว้ให้ใช้เก็บของได้ ส่วนโถสุขภัณฑ์เป็นแบบอัตโนมัติจากยี่ห้อ COTTO
เคาน์เตอร์ครัว Built - in ในบ้านตัวอย่าง MASEFIELD (เมสฟิลด์)
เข้ามาในครัวจะเป็นห้องครัวแบบปิดมีประตูกั้นแยกมาให้เป็นสัดส่วน พื้นที่ใช้งานตรงกลางค่อนข้างกว้าง ยืนทำครัวพร้อมกัน 2 – 3 คนได้สบายๆ โดยเคาน์เตอร์ที่เห็นในบ้านตัวอย่างเป็นของจริงที่ได้ในบ้านมาตรฐานเลยนะคะ ยกเว้นเตาและเครื่องดูดควันที่ไม่ได้ติดตั้งมาให้
พื้นที่ใช้งานบริเวณ Maid Plaza ในบ้านตัวอย่าง MASEFIELD (เมสฟิลด์)
ด้านหลังเป็น Maid Plaza ถือเป็นฟังก์ชันใหม่ที่ออกแบบมาให้มีส่วนซักล้างอยู่ในบ้าน เชื่อมต่อกับห้องแม่บ้านและห้องน้ำส่วนตัว นอกจากดูเป็นสัดส่วน ใช้งานได้สะดวกแล้ว ยังได้ข้อดีในเรื่องของความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนที่เราชอบคือโครงการเค้าจะ Built – in ตู้เก็บของ ราวแขวนและอ่างที่ใช้ซักล้าง ทำความสะอาดได้ครบ ใช้เป็นส่วนซักรีดในบ้านได้ด้วย
อีกฝั่งของบ้านเป็นห้องนอนชั้นล่างอยู่ติดกับส่วนนั่งเล่น วัสดุพื้นเป็น Absorption floor ช่วยลดแรงกระแทกของข้อต่อเวลาใช้งานได้ดี ซึ่งเดิมเป็นฟังก์ชันที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ แต่หากในบ้านที่ไม่มีคุณปู่ คุณย่าอยู่ด้วย ก็สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันเพิ่มเองได้ อย่างห้องดูหนัง หรือห้องทำงานส่วนตัวก็เหมาะ
ห้องน้ำชั้น 1 ในบ้านตัวอย่าง MASEFIELD (เมสฟิลด์)
ในทุกแบบบ้านห้องนอนชั้นล่างจะมีห้องน้ำในตัวมาให้ด้วย ใช้งานได้สะดวกมาก ซึ่งบริเวณพื้นจะออกแบบมาไม่ให้มีการลดระดับ เพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุและผู้พิการได้ง่าย อ่างล้างมือ , ก็อกน้ำและฝักบัวใช้ของยี่ห้อ KOHLER ส่วนโถสุขภัณฑ์ ติดตั้งสายฉีดชำระมาให้จาก COTTO ส่วนอาบน้ำได้มากว้างประมาณ 90 เซนติเมตร ด้านข้างมีที่นั่งติดตั้งมาให้ด้วย
พื้นที่ใช้งานบริเวณโถงบันไดขึ้นชั้น 2 บ้านตัวอย่าง MASEFIELD (เมสฟิลด์)
บันไดบ้านตำแหน่งจะอยู่ด้านหน้าติดกับ Foyer ที่เป็น Double Volume โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กปิดผิวด้วยไม้ยางพาราประสาน กว้างประมาณ 1 เมตร ลูกตั้งสูง 18 เซนติเมตร ลูกนอนกว้าง 27 เซนติเมตร วางเท้าได้แบบสบายๆ ด้านข้างยังมีไฟอัตโนมัติติดตั้งมาให้ เมื่อแสงมืดและมีความเคลื่อนไหว Sensor จะทำงาน ทำให้ไฟติดทันที
เมื่อขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับ Family Area ขนาดใหญ่ และโถงทางเดินที่แจกไปยังห้องต่างๆ ด้านข้างเป็นราวกันตกซี่เหล็กโปร่ง ช่วยทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่ง ฝ้าเพดานยังได้ความสูงมาถึง 3.1 เมตร โดยวัสดุปูพื้นชั้นนี้ได้เป็น VSPC ลายไม้ หนา 7 มิลลิเมตร ซึ่งคุณสมบัติจะใกล้เคียงกับ SPC ในเรื่องของความทนทาน แต่ได้สัมผัสที่ยืดหยุ่น สบายเท้ามากกว่า
โดยฟังก์ชันในนั้นนี้จะเป็นพื้นที่พักผ่อน ประกอบด้วย Master Bedroom และห้องนอนอีก 3 ห้อง ได้ห้องน้ำแยกใช้งานในตัว เริ่มจากห้องแรก ได้แปลนเป็นรูปตัว L ตรงกลางสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตพร้อมโต๊ะด้านข้างได้ทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งยังเหลือพื้นที่ให้วางตู้เสื้อผ้าได้ด้วย
ห้องน้ำชั้น 2 ในบ้านตัวอย่าง MASEFIELD (เมสฟิลด์)
ห้องน้ำแยกใช้งานเป็นสัดส่วน ได้มาเป็นแบบหน้ากว้าง ติดตั้งสุขภัณฑ์มาให้ครบชุดจากยี่ห้อ KOHLER และ COTTO ส่วนอาบน้ำได้มากว้างประมาณ 0.89×1.47 เมตร ติดตั้งมาให้พร้อมฉากกั้นกระจกแบบบานเปิด ใช้งานและเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย
ห้องที่ 2 โครงการออกแบบมาให้เป็นไอเดียห้องนอนสำหรับเด็ก วางเป็นเตียงขนาด 3 ฟุตเพื่อให้เหลือพื้นที่ไว้จัดเป็นมุมของเล่น และโต๊ะเขียนหนังสือใหญ่ๆได้ ด้านหน้าห้องน้ำยังมีมุมให้วางตู้เสื้อผ้า ใช้งานได้ครบ
ห้องน้ำชั้น 2 ในบ้านตัวอย่าง MASEFIELD (เมสฟิลด์)
ห้องน้ำจะได้เป็นสี่เหลี่ยมจัตตุรัส แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งที่ติดตั้งอ่างล้างมือแบบฝังเคาน์เตอร์และโถสุขภัณฑ์ ส่วนอีกฝั่งเป็นพื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 0.89×1.48 เมตร ฝักบัวเป็น Hand Shower ด้านข้างมีการทำช่องไว้ให้ใช้วางอุปกรณ์อาบน้ำได้ด้วย
ห้องนอนห้องที่ 3 ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันเป็นห้องทำงานส่วนตัว เหมาะกับสาย WFH หรือเจ้าของธุรกิจที่ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ ก็สามารถทำงานจากที่บ้านได้ ภายในมีห้องน้ำในตัว ใช้งานสะดวก ไม่ต้องลงไปด้านล่าง
ห้องน้ำชั้น 2 ในบ้านตัวอย่าง MASEFIELD (เมสฟิลด์)
ห้องน้ำได้พื้นที่ใช้งานคล้ายกับห้องที่แล้ว มีส่วนอาบน้ำไว้รองรับอยู่ด้านใน ได้มากว้างประมาณ 0.89×1.47 เมตร ติดตั้งมาให้พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจกทุกห้อง ด้านข้างมีหน้าต่างบานกระทุ้งติดตั้งมาใช้ ใช้เปิดระบายกลิ่นและความชื้นได้ดี ซึ่งก็จะได้มาในทุกห้องน้ำเลย
ปิดท้ายด้วย Master Bedroom ที่ได้มาเป็นแบบหน้ากว้าง พื้นที่ใช้งานแบ่งเป็นส่วนพักผ่อน วางเตียงนอน 5 – 6 ฟุตได้เลย อีกฝั่งมี Walk – in Closet แยกใช้งานเป็นสัดส่วน ได้ขนาดมากว้างขวางมาก
ด้านข้างเตียงนอนฝั่งที่อยู่ติดกับหน้าบ้านได้มาเป็นระเบียงกว้างประมาณ 60 เซนติเมตร ใช้ออกมายืนชมวิว สูดอากาศ หรือวางกระถางต้นไม้ เพิ่มความสดชื่นได้ ปลายเตียงยังมีหน้าต่างบาน Fix กระจกติดตั้งมาให้อีก 2 จุด มองลงไปเห็น Double Volume ด้านล่าง ดูโปร่งโล่ง
Walk – in Closet ได้มาขนาดค่อนข้างใหญ่ มีพื้นที่ให้วางโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อม Built – in ตู้เสื้อผ้าแบบเต็มผนังได้ทั้ง 3 ฝั่ง แบ่งกันใช้งาน 2 คนได้สบายๆ ด้านข้างติดกับประตูห้องน้ำ เดินเชื่อมต่อใช้งานได้สะดวก
ห้องน้ำชั้น 2 ในบ้านตัวอย่าง MASEFIELD (เมสฟิลด์)
ห้องน้ำใน Master Bedroom ได้มาขนาดใหญ่เช่นกัน โดยประตูจะเปิดเข้าจากตรงกลาง เมื่อเข้ามาจะเจอกับอ่างล้างมือขนาดใหญ่ ใช้งานได้แบบ His&Her พร้อมตู้เก็บของด้านล่าง โดยความพิเศษของห้องนี้นอกจากจะมีส่วนยืนอาบแบบ Shower แล้ว ก็มีอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวติดตั้งมาให้ด้วย
ห้องน้ำชั้น 2 ในบ้านตัวอย่าง MASEFIELD (เมสฟิลด์)
สุขภัณฑ์ในห้องน้ำติดตั้งมาให้ครบ โถได้มาเป็นแบบอัตโนมัติ ใช้งานสะดวก ส่วนยืนอาบจะอยู่ด้านข้าง ได้มากว้าง 1.21×1.44 เมตร ติดตั้งมาให้พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ ส่วนอ่างจะอยู่อีกฝั่ง ได้มาเป็นแบบลอยตัวจากยี่ห้อ KOHLER ด้านข้างมีหน้าต่างขนาดใหญ่ติดตั้งมาให้ ช่วยให้ในห้องดูสว่าง และทำให้อากาศถ่ายเทได้ดี
แบบบ้าน AUSTEN (ออสเทน) พื้นที่ใช้สอย 310 ตร.ม.
ถัดมาเป็นแบบบ้าน AUSTEN (ออสเทน) เป็นบ้านขนาดกลางของโครงการ ได้พื้นที่ใช้สอย 310 ตร.ม. แต่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุด โดยฟังก์ชันจะได้มา 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ และ 1 ห้องแม่บ้าน เหมาะกับคนที่อยากได้บ้านไซส์ หน้ากว้าง ชอบการจัดแปลนที่คล้ายกับแบบบ้านไซส์ใหญ่ แต่ไม่อยากได้ห้องเยอะ เน้นความโปร่งโล่ง
ผังพื้นชั้น 1 และ 2 แบบบ้าน AUSTEN (ออสเทน) จะเห็นว่า Layout จะคล้ายกับแบบบ้านไซส์ใหญ่เลย เพียงแต่ลดฟังก์ชันอย่างส่วนนั่งเล่นด้านหน้า และห้องนอนชั้นบนที่เหลือแค่ 3 ห้องเท่านั้นค่ะ
บรรยากาศรอบๆบ้านตัวอย่าง AUSTEN (ออสเทน)
พื้นที่จอดรถได้มากว้างประมาณ 7.80 เมตร สามารถจอดรถได้ 3 คันเช่นกัน ด้านหลังมีประตู Service เชื่อมต่อกับโซน Pantry ในบ้าน ด้านข้างมีตู้เก็บของมาให้ ใช้เก็บอุปกรณ์ช่างหรืออุปกรณ์ทำสวนได้ โดยแบบบ้านนี้และแบบบ้านไซส์เริ่มต้นจะไม่มี Ramp มาให้นะคะ
บรรยากาศภายในบ้านตัวอย่าง AUSTEN (ออสเทน)
เมื่อเข้ามาในบ้านก็จะเจอกับ Foyer ขนาดใหญ่ ได้เพดานสูงเช่นกัน ด้านข้างเป็นโถงบันไดเชื่อมต่อขึ้นไปชั้น 2 ส่วนนั่งเล่นของบ้าน แยกเป็นสัดส่วน ระยะจากโซฟาถึงหน้าทีวีได้มากว้างประมาณ 3.70 เมตร วางโซฟา 3 – 4 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางได้สบายๆ
พื้นที่ใช้งานบริเวณโถงกลางบ้าน ภายในบ้านตัวอย่าง AUSTEN (ออสเทน)
เข้ามาบริเวณกลางบ้านจะเป็นส่วนรับประทานอาหารและ Pantry เชื่อมต่อกับห้องนอนชั้นล่าง และครัวปิดที่แยกเป็นสัดส่วน พื้นที่ตรงกลางค่อนข้างกว้าง วางโต๊ะทานอาหารขนาด 6 – 8 ที่นั่งได้ ด้านข้างยังมีประตูเปิดออกไปใช้งานสวนหลังบ้าน ซึ่งในแบบบ้านนี้โครงการจะต่อเติมเฉลียงเล็กๆออกมาให้ด้วย
พื้นที่ใช้งานในห้องครัว บ้านตัวอย่าง AUSTEN (ออสเทน)
Pantry , ห้องครัวและส่วน Laundry ได้ Built – in มาให้ครบพร้อมใช้งาน เหมาะกับคนที่เน้นความสะดวก ไม่อยากตกแต่งเพิ่ม ซึ่งการออกแบบตู้และชั้นวางต่างๆ เราก็มองว่าให้มาเหมาะสมกับการใช้งานเลยนะคะ อีกทั้งในส่วน Service ก็มีหน้าต่างติดตั้งมาให้หลายจุด ช่วยให้บรรยากาศในห้องดูโปร่งโล่ง และอากาศยังถ่ายเทได้ดี
ในแบบบ้านนี้ตกแต่งห้องนอนชั้นล่างออกมาได้ดูอบอุ่น พื้นที่ใช้งานแบ่งเป็นส่วนวางเตียงนอน และมีมุมแต่งตัวอยู่ด้านหน้าติดกับประตูทางเข้าห้องน้ำ เดินใช้งานง่าย ในครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วย ก็ถือว่าใช้งานได้สะดวกสบาย ไม่ต้องเดินขึ้น – ลงบันได
ห้องน้ำชั้น 1 ในบ้านตัวอย่าง AUSTEN (ออสเทน)
พื้นที่ใช้งานในห้องน้ำแยกพื้นที่ส่วนเปียก – ส่วนแห้งมาให้ชัดเจน ส่วนอาบน้ำได้กว้างประมาณ 0.79×1.47 เมตร ติดตั้งมาให้พร้อมฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเปิด ใช้งานสะดวก กระจกเงาติดตั้งมาให้แบบเต็มบาน จากที่สังเกตจะเห็นว่า โครงการติดตั้งมาให้ทุกห้องที่อยู่ในห้องนอนเลย ซึ่งก็ช่วยให้ห้องน้ำดูกว้าง และสว่างมากขึ้น
นอกจากห้องน้ำที่อยู่ในห้องน้ำ แบบบ้านนี้ยังมีห้องน้ำแบบ Powder Room ไว้รองรับอยู่ด้วย ภายในติดตั้งมาให้ครบทั้งอ่างล้างมือ และโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติจาก KOHLER
พื้นที่ใช้งานบริเวณโถงบันไดขึ้นชั้น 2 บ้านตัวอย่าง AUSTEN (ออสเทน)
บันไดขึ้นชั้น 2 ได้มากว้างประมาณ 1 เมตร ลูกตั้งสูง 18 เซนติเมตร ลูกนอนกว้าง 27 เซนติเมตรใช้งานได้ตามมาตรฐาน เมื่อขึ้นมาก็จะเจอกับ Family Area เหมือนในบ้านไซส์ใหญ่เช่นกัน โดยแบบบ้านนี้จัดเป็นมุมนั่งเล่น นั่งทำงานบนชั้น 2 หากใครอยากได้ความเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น เรามองว่าก็สามารถกั้นห้องด้วยประตูบานเลื่อนกระจกเพิ่มได้นะคะ
ห้องนอนรองบนชั้น 2 จะมี 2 ห้อง ได้แปลนและพื้นที่ใช้สอยมาใกล้เคียงกันเลย ส่วนพื้นที่ใช้งานภายใน เรามองว่าสามารถจัดเป็น Master Bedroom ได้เลยนะคะ เพราะมีมุม Walk – in Closet ขนาดใหญ่ พร้อมห้องน้ำแยกใช้งานในตัว
ห้องน้ำชั้น 2 ในบ้านตัวอย่าง AUSTEN (ออสเทน)
พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำ แยกส่วนเปียก ส่วนแห้งออกเป็น 2 ฝั่ง ดูเป็นสัดส่วน พื้นที่ยืนอาบได้มากว้างประมาณ 0.89×1.47 เมตร ติดตั้งมาให้พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจกแบบบานเปิด
ห้องนอนรองห้องที่ 2 จัดมาเป็นโทนสีหวานๆ ตกแต่งเป็นห้องของลูกสาว ตรงกลางวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้สบายๆ ด้านข้างมี Walk – in Closet จัดเป็นมุมแต่งตัวขนาดใหญ่ อยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องน้ำ ใช้งานได้เป็นสัดส่วน
ห้องน้ำชั้น 2 ในบ้านตัวอย่าง AUSTEN (ออสเทน)
พื้นที่ใช้งานห้องน้ำภายในห้องนอนรองห้องที่ 2 แปลนห้องเป็นหน้ากว้าง ส่วนอาบน้ำได้มากว้างประมาณ 0.89×1.46 เมตร
Master Bedroom ได้มาเป็นแบบหน้ากว้าง การจัดวางฟังก์ชันคล้ายกับห้องนอนรอง แต่ได้พื้นที่ใช้สอยเยอะกว่า ปลายเตียงยังเหลือพื้นที่ให้วางโซฟาไว้นั่งเล่น หรือโต๊ะอ่านหนังสือในห้องได้เลย ด้านข้างยังมีประตูเปิดออกไปใช้งานระเบียงได้ด้วย
Walk – in Closet อยู่ติดกับห้องน้ำเช่นเดียวกัน สามารถ Built – in เป็นตู้เสื้อผ้าสูงถึงฝ้าได้ทั้ง 3 ฝั่ง จัดเป็นพื้นที่แต่งตัว และเก็บของได้เยอะ
ห้องน้ำชั้น 2 ในบ้านตัวอย่าง AUSTEN (ออสเทน)
ส่วนห้องน้ำในห้อง Master Bedroom คล้ายกับในแบบบ้านไซส์ใหญ่ คือมีอ่างล้างมือแบบ His&Her และอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว ส่วนยืนอาบได้มากว้างประมาณ 1×1.25 เมตร ฝักบัวได้มาทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower เลือกใช้งานได้ตามความชอบเลย
แบบบ้าน LAWRENCE (ลอเรนซ์) พื้นที่ใช้สอย 247 ตร.ม.
LAWRENCE (ลอเรนซ์) เป็นบ้านเดี่ยวขนาดเริ่มต้นของโครงการ ได้พื้นที่ใช้สอย 247 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท* มาพร้อมฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถและ 1 ห้องแม่บ้าน เหมาะกับครอบครัว 3 – 4 คนกำลังดี โดยรูปแบบบ้านนี้จะไม่มี Double Volume มาให้ แต่ทางเข้าด้านหน้ายังมีหลังคาคลุมพร้อมเสาทรงสูง เน้นให้บรรยากาศทางเข้ายังดูโดดเด่น โอ่อ่า
สำหรับฟังก์ชันที่แตกต่างกับแบบบ้านอื่นๆคือ ห้องนอนชั้นล่างที่ไม่ได้ห้องน้ำในตัว แต่ยังสามารถเดินออกมาใช้ห้องน้ำกลางได้สะดวก เหมาะกับครอบครัวที่ไม่ได้เน้นการใช้งานของผู้สูงอายุมากนัก อยากได้ห้องไว้จัดเป็นฟังก์ชันอื่นๆ อย่างห้องทำงานส่วนตัว หรือห้องสำหรับสัตว์เลี้ยง ชั้น 2 ไม่มี Family Area มาให้ ทำให้ห้องนอนทั้ง 3 ห้องได้ขนาดมาค่อนข้างใหญ่ จัดเป็น Master Bedroom ได้ทุกห้องเลย
บรรยากาศบ้านตัวอย่าง LAWRENCE (ลอเรนซ์) พื้นที่ใช้สอย 247 ตร.ม.
ราคา
Setthasiri Bangna KM.10 (เศรษฐสิริ บางนา กม.10) ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2567
- LAWRENCE (ลอเรนซ์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 59 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 247 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน - AUSTEN (ออสเทน) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 75 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 310 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องอนเกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน - MASEFIELD (เมสฟิลด์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 90 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 377 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องอนเกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน - ราคาเริ่มต้น 25 – 40 ล้านบาท*
- จอง 200,000 – 500,000 บาท ทำสัญญา 10%
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 290,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 55+5 (ถนนภาระจำยอม) บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
จุดเด่นทำเลโครงการ Setthasiri Bangna KM.10 (เศรษฐสิริ บางนา กม.10) คือ 1. ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่บางนา – ตราด ไม่ต้องขับเข้า – ออกซอย เดินทางเข้า – ออกเมืองได้ง่ายเพราะอยู่ใกล้ทางด่วนหลายสาย 2. คือเป็นทำเลที่อยู่ใจกลางย่าน Lifestyle ในโซนบางนา ทำให้ได้ความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลายทั้งห้างสรรพสินค้า , โรงพยาบาล และโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่เป็นครอบครัวขนนาดใหญ่
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
การเข้า – ออกโครงการต้องผ่านซุ้มประตูแบบ Double Gate และต้องใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียนในการคัดกรองทั้ง 2 ชั้น ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านได้ดี โดยโครงการยังมีระบบ VMS บันทึกข้อมูลผู้มาติดต่อ และระบบ LIV-24 ระบบปฎิบัติการที่คอยดูแลความปลอดภัยให้ 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นบริการเฉพาะจาก Sansiri ภายในโครงการตั้งแต่ Main Gate ยังได้กล้อง CCTV มา 16 จุด พร้อมรั้วรอบสูง 3 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 3 เมตร ในบ้านได้ Magnetic Sensor ติดตั้งมาให้ทั้งหลัง
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
Setthasiri Bangna KM.10 (เศรษฐสิริ บางนา กม.10) เป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 71 ยูนิต ถือเป็นโครงการขนาดเล็ก หนาแน่นน้อย ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูง การออกแบบได้แรงบันดาลใจมากจากสถาปัตยกรรมในยุค British Georgian ได้กลิ่นอายหรูหรา คลาสสิค พื้นที่ส่วนกลางได้มาขนาดใหญ่อยู่บริเวณกลางโครงการ ลูกบ้านสามารถเดินมาใช้งานได้ง่าย การจัดผังส่วนพักอาศัย หน้าบ้านทั้งหมดจะหันขนานไปกับทิศเหนือใต้ ซึ่งเป็นทิศที่ไม่โดนแดดโดยตรง จึงทำให้หน้าบ้านไม่ร้อน ซึ่งจากจำนวนยูนิตที่มีค่อนข้างน้อย จึงทำให้แต่ละซอยมีเพื่อนบ้านไม่เยอะ บางซอยมีแค่ 4 หลังเท่านั้น เหมาะกับคนที่ชอบความสงบ ไม่พลุกพล่าน โดยฝั่งที่อยู่ติดกับคลองและวัด โครงการยังออกแบบให้มีถนนคั่นใช้เป็น Buffer ในการเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดี
รูปแบบบ้านในโครงการ มีให้เลือก 3 แบบด้วยกัน ได้พื้นที่ใช้สอย 247 – 377 ตร.ม. มาในสไตล์ Georgian ซึ่งเป็น Modify Series เพราะมีการพัฒนาและต่อยอดมาจาก Series เดิมในทำเลอื่นๆ ทั้ง Facade และฟังก์ชันภายในบ้าน ส่วนที่โดดเด่นเลยก็คือ Maid Plaza ที่ออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ครบในบ้าน ส่วนนึงเรามองว่าได้ประโยชน์ในเรื่องความสะดวก ส่วนอีกเรื่องคือความปลอดภัย ที่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น ฟังก์ชันในบ้านเริ่มต้นที่ 4 – 5 ห้องนอน 3 ที่จอดรถและ 1 ห้องแม่บ้านทุกหลัง มี Double Volume ในบ้านสูงถึง 6.7 เมตร ในราคาเริ่มต้น 25 – 40 ล้านบาท* ซึ่งต้องบอกก่อนว่าทำเลบางนา ถือเป็นอีกทำเลที่มีบ้านเดี่ยวไซส์ใหญ่ให้เลือกค่อนข้างเยอะ เรามองว่าคนที่เลือกโครงการนี้ น่าจะชอบดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ บรรยากาศในโครงการและทำเลที่อยู่ติดถนนใหญ่เป็นหลัก
วัสดุ :
โดยภาพรวมถือว่าให้มาเหมาะสมกับการใช้งาน ห้องนอนชั้นล่าง เลือกวัสดุมาได้ตอบโจทย์การใช้งานของผู้สูงอายุได้ โดยแบบบ้านขนาด 310 ตร.ม. และ 377 ตร.ม. จะได้วัสดุมาใกล้เคียงกัน ส่วนแบบบ้านขนาดเริ่มต้น 247 ตร.ม. จะได้แตกต่างกันในบางจุด อาทิ วัสดุพื้นชั้น 2 ที่เป็น VSPC และลามิเนต , อ่างอาบน้ำในห้อง Master Bedroom แต่สิ่งที่ได้เหมือนกันคือ เคาน์เตอร์ Built -in ตั้งแต่ส่วน Pantry , ครัวไทย และ Laundry ลูกบ้านไม่ต้องตกแต่งเพิ่ม อีกทั้งยังมี EV Charger และ Solar Cell ติดตั้งมาให้ทุกยูนิตเลย
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
บรรยากาศโครงการออกแบบมาได้ดูสวยงาม ร่มรื่นตั้งแต่ถนนภาระจำยอมที่อยู่ด้านหน้าติดกับถนนใหญ่ ส่วนภายในโครงการก็ดูเรียบร้อย น่าใช้งานเช่นกัน ตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้ามาจะเจอกับสวนหย่อมขนาดใหญ่ได้เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ใช้เป็นจุดพักสายตาและปรับอารมณ์ให้ผ่อนคลายได้ดี ซึ่งนอกจากจะเป็นพื้นที่ให้ลูกบ้านมานั่งเล่นพักผ่อนได้แล้ว ยังสามารถมาออกกำลังกาย พาสัตว์เลี้ยงมาเดินสูดอากาศ หรือเป็นสนามเด็กเล่นให้เด็กๆได้ด้วย โดยพื้นที่สวนให้มาเป็นแนวยาว เกือบตลอดทั้งโครงการ เรามองว่าช่วยเพิ่มความร่มรื่นได้ดี
สาธารณูปโภค :
พื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการ ได้มาเป็นอาคาร Clubhouse 2 ชั้น ขนาดใหญ่ ออกแบบมาในสไตล์ Georgian ดูสวยงาม กลมกลืนเข้ากับส่วนพักอาศัย ฟังก์ชันจัดมาให้ครบครันตามมาตรฐาน แชร์กับเพื่อนบ้าน 71 ยูนิตได้กำลังดี โดยจุดเด่นอยู่ที่สระว่ายน้ำที่ได้ความยาวมาเทียบเท่า Half Olympic ใช้ว่ายออกกำลังกายแบบจริงจังได้เลย
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 25 – 40 ล้านบาท , 4 ธันวาคม 2567
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ติดถนนใหญ่บางนา – ตราด ใกล้ Mega บางนา
- ความปลอดภัย 8.5/10 – ประตูโครงการแบบ Double Gate ใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียนในการเข้า – ออก , Magnetic Sensor ทั้งหลัง
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – แบบบ้าน Modify Series เริ่มต้น 4 – 5 ห้องนอน 3 ที่จอดรถทุกแบบ
- วัสดุ 8/10 – ให้มาเหมาะสมกับการใช้งาน ได้ EV Charger และ Solar Cell ทุกหลัง
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – พื้นที่สีเขียว 1 ไร่
- สาธารณูปโภค 8/10 – อาคาร Clubhouse 2 ชั้น สระว่ายน้ำขนาด Half Olympic
- 8.08 / 10.00
Setthasiri Bangna KM.10 (เศรษฐสิริ บางนา กม.10) เหมาะกับใคร
โครงการ Setthasiri Bangna KM.10 (เศรษฐสิริ บางนา กม.10) เหมาะกับครอบครัวใหญ่ที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวบนทำเลติดถนนบางนา – ตราด มีห้องนอนชั้นล่าง พร้อมฟังก์ชันรองรับผู้สูงอายุ ชอบทำเลที่อยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย ได้พื้นที่ใช้สอยในบ้านเยอะ มี EV Charger , Solar Cell ติดตั้งมาให้ครบ ได้เคาน์เตอร์ Built – in หลายจุด ทั้งในครัวและส่วน Laundry เหมาะกับคนที่ชอบความสะดวก ไม่ต้องตกแต่งเพิ่ม มีงบประมาณเริ่มต้นที่ 25 – 40 ล้านบาท*
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่