รีวิวโครงการ
บ้านใกล้ทางด่วนจตุโชติ เริ่ม 7.99 – 15 ล้าน | พีเว่ รามอินทรา – วงแหวน | คิดเรื่องอยู่ EP.766
25 พฤษภาคม 2024
รีวิวบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ PYVE รามอินทรา – วงแหวน จาก Initial Estate ในย่านรามอินทรา เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Modern Art Deco ในราคาเริ่มต้น 8-15 ล้านบาท โดยมี Highlights ของโครงการ ดังนี้
- ทำเล : อิงมาทางถนนรามอินทรา จึงเดินทางไป Fashion Island ได้สะดวก และใกล้ถนนคู้บอน ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งความอุดมสมบูรณ์ของย่านด้วยค่ะ
- ตัวช่วยในการเดินทางเพียบ : ใกล้ทั้งทางพิเศษศรีรัชและวงแหวนกาญจนาภิเษก และในอนาคตเมื่อสายสีชมพูเปิดใช้งานจะสามารถไปขึ้นรถไฟฟ้าได้ในระยะประมาณ 4 km. ที่สถานีคู้บอนค่ะ
- สังคมส่วนตัว : โครงการมีจำนวนยูนิตเพียง 96 ยูนิต ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าโครงการส่วนใหญ่ในโซนนี้ที่เป็นโครงการขนาด 200-300 ยูนิต
- ตัวบ้าน : จัดฟังก์ชันมาครบครันทุกแบบ คือมีห้องนอนชั้นล่าง และได้ครัวปิด และมี 2 Type ที่เราชอบเป็นพิเศษคือ CORNHILL บ้านไซส์กลางจัดฟังก์ชันมาครบครันดี เทียบกับราคาถือว่าคุ้มค่าเรื่องฟังก์ชัน อีกแบบคือ WHITEHALL บ้านไซส์ใหญ่สุดจะได้เปรียบในเรื่องของขนาดพื้นที่ใช้สอยใหญ่มาใหญ่ทีเดียวค่ะ
รายละเอียดจะเป็นอย่างไรตามไปชมกันเลย
ข้อมูลโครงการ
PYVE Ramintra – Wongwaen (พีเว่ รามอินทรา – วงแหวน) ณ วันที่ 6 กันยายน 2566
ชื่อโครงการ | PYVE Ramintra – Wongwaen (พีเว่ รามอินทรา – วงแหวน) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท อินนิเชียล เอสเตท จำกัด |
SEGMENT CLASS | UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก เขตบางเขน |
ที่ดิน | 21-2-82.6 ไร่ |
จำนวนยูนิต | 96 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ราคา | 8-15 ล้านบาท |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | 150,000 บาท |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2565 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ประมาณปี 2568 |
เว็บไซต์โครงการ | https://initialestate.com/pyve-ramintra-wongwaen/ |
โทร | 02-026-3564 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.864619, 100.676691
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
Highlights :
- ติดทางคู่ขนานกาญจนาภิเษก ใกล้ Fashion Island และโซนคู้บอนที่เป็นหนึ่งในแหล่งความอุดมสมบูรณ์ของโซนนี้
- ใกล้ตัวช่วยในการเดินทางทั้งทางพิเศษฉลองรัช (ด่านจตุโชติ) ประมาณ 4.2 km. และ วงแหวนกาญจนาภิเษก ประมาณ 6.2 km.
- มีรถไฟฟ้าเป็นตัวเลือกในการเดินทาง โดยในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีคู้บอน มีระยะจากโครงการประมาณ 4 km. (แผนล่าสุดจะเปิดให้บริการช่วงกลางปี 2567) สถานีที่ใกล้สุดในตอนนี้จะเป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ประมาณ 11.8 km. ค่ะ
แผนที่จากทางโครงการ PYVE รามอินทรา – วงแหวน ค่ะ
ความน่าสนใจของที่ตั้งโครงการ PYVE คือ เป็นบ้านใกล้ทางด่วนถึง 2 สาย คือ ทางพิเศษฉลองรัช ด่านจตุโชติ และวงแหวนกาญจนาภิเษก อีกทั้งในอนาคตกำลังมีโครงการถนนตัดใหม่ส่วนต่อขยายในอนาคตของถนนเทพรักษ์ (เส้นประสีแดง) ที่หากทำเสร็จแล้วก็จะเชื่อมทำเลตั้งแต่ถนนวิภาวดีรังสิต ไปจนถึงถนนนิมิตใหม่ได้เลยทีเดียว ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเวนคืนที่ดิน ถ้าถนนสร้างเสร็จก็จะช่วยทำให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น แถมจุดตัดของถนนเส้นนี้ก็ยังอยู่ไม่ไกลจากโครงการอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกไปใช้รถไฟฟ้าได้เช่นกันคือ รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีคู้บอน ในระยะ 4.2 km. ซึ่งน่าจะได้ใช้กันในปีหน้า ถ้าหารถไฟฟ้าที่พร้อมใช้ในปัจจุบันก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ใกล้สุดในตอนนี้จะอยู่ที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ประมาณ 11.8 km. ค่ะ
ทำเลของโครงการจะเป็นย่านอยู่อาศัยใหม่ที่มีโครงการบ้านจัดสรรทยอยมาเปิดตัวกันมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการขยายตัวมาจากแถวเกษตรนวมินทร์ – เลียบด่วนรามอินทรา – วัชรพล ที่ราคาบ้านเดี่ยวค่อนข้างสูง 15 ล้านขึ้นไป แต่หากขยับออกมาที่โซนรามอินทรา-วงแหวนจะมีราคาที่หยิบจับง่ายขึ้น และขึ้นทางด่วนเพียงต่อเดียวก็เข้าโซนเลียบด่วนรามอินทรา, พระราม 9, เอกมัย ได้สะดวกแล้ว
ความอุดมสมบูรณ์หลักๆ ของโซนนี้จะยังอิงมาทางเส้นรามอินทรา ทั้ง Fashion Island , The Promenade และในซอยคู้บอน หรือไม่ก็ออกไปทางโซรสุขาภิบาล 5 ไปเลย ซึ่งที่ตั้งของโครงการนี้ถือว่าอิงกับเส้นรามอินทรามากกว่าหลายๆ โครงการที่เปิดใหม่ในโซนนี้ค่ะ
สำหรับทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือ ทางด่วนฉลองรัช ซึ่งจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 4.2 km. สามารถเข้าเมืองไปทางพระราม 9, เอกมัย ได้
การเดินทางด้วยรถยนต์ถือว่าสะดวกเพราะมีตัวเลือกให้ใช้งาน โครงการจะตั้งอยู่บนถนนทางคู่ขนานกาญจนาภิเษก ไม่ต้องเข้าซอยจึงเดินทางได้สะดวก โดยทางด่วนที่ใกล้ที่สุดก็คือ ทางพิเศษฉลองรัชด่านจตุโชติ หรือถ้าต้องการใช้ถนนกาญจนาภิเษกจุดขึ้น-ลงของวงแหวนกาญจนาฯจะต้องขับออกไปพอสมควร แต่ก็สามารถทำเวลาได้เพราะรถจะไม่ติดเท่าถนนหลักเส้นอื่นๆ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
บริเวณโดยรอบโครงการ PYVE รามอินทรา – วงแหวน เป็นโซนที่อยู่อาศัยเลียบถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก สภาพแวดล้อมส่วนใหญ่จึงเป็นหมู่บ้านสลับกับที่ดินเปล่าที่มีศักยภาพในการพัฒนาในอนาคต สรุปตามทิศโดยรอบ ดังนี้
- ทิศเหนือ : ติดกับ หมู่บ้านพักอาศัย และที่ดินเปล่า
- ทิศใต้ : ติดกับ หมู่บ้านพักอาศัย
- ทิศตะวันออก : ติดกับ ถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก
- ทิศตะวันตก : ติดกับ หมู่บ้านพักอาศัย
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ตัวช่วยในการเดินทาง
- ทางพิเศษฉลองรัช (ด่านจตุโชติ) ~ 4.2 km.
- วงแหวนกาญจนาภิเษก ~ 6.2 km.
- รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ~ 11.8 km.
- รถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีสายหยุด ~ 15 km. (ในอนาคตเมื่อตัดถนนรัตนโกสินทร์สมโภชเสร็จ ระยะทางจะสั้นลง)
- รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีคู้บอน ~ 4 km. (มีแผนจะเปิดให้บริการช่วงกลางปี 2567)
- ถนนรัตนโกสินทร์สมโภช เชื่อมระหว่างถนนสุขาภิบาล ๕ กับถนนนิมิตใหม่ (ในอนาคต)
ตลาด/แหล่งช้อปปิ้ง
- เดอะพรอมานาด ~ 4.5 km.
- แฟชั่นไอส์แลนด์ ~ 4.6 km.
- เซ็นทรัล รามอินทรา ~ 12.2 km.
- เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสวิลล์ ~ 12.3 km.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลอินทรารัตน์ ~ 4.2 km.
- โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา ~ 5.2 km.
- โรงพยาบาลพญาไทนวมินทร์ ~ 5.4 km.
- โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ~ 6.1 km.
โรงเรียน
- Ruamrudee International School Early Years Campus ~ 5.8 km.
- โรงเรียนสาธิตพัฒนา ~ 7.1 km.
- โรงเรียนนานาชาติกีรพัฒน์ ~ 7.6 km.
- โรงเรียนเลิศหล้า ~ 8 km.
- โรงเรียนโชคชัยหทัยราษฎร์ ~ 8.5 km.
- โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหม ~ 9.7 km.
- Australian International School Bangkok (Ramintra campus) ~ 10.4 km.
รายละเอียดโครงการ
Highlights :
- โครงการขนาดเล็ก ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว
- แยกส่วนกลางออกเป็น 2 โซน ทำให้ลูกบ้านเข้าใช้งานได้สะดวก
- การจัดวางบ้านจะมีแบบที่ติดกับถนนหลักเดินทางสะดวก และบ้านที่อยู่ในซอยซึ่งจะได้ความเป็นส่วนตัวสูงกว่า แต่ก็จะอยู่ในโซนด้านในที่ลึกกว่าค่ะ
PYVE รามอินทรา – วงแหวน เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จาก บริษัท อินนิเชียล เอสเตท จำกัด บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใหม่ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2561 โดยเน้นการออกแบบให้ตอบโจทย์ความต้องการของทุก Generation และจุดเด่นที่สังเกตเห็นชัดๆ เลยคือเรื่องของ Privacy ที่ออกแบบมาให้มีสังคมส่วนตัว จำนวนเพื่อนบ้านไม่เยอะนัก 96 ยูนิต ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับโครงการส่วนใหญ่ในละแวกนี้ที่มักจะเป็นโครงการใหญ่ 200-300 ยูนิตเลยนะคะ รวมถึงการออกแบบตัวบ้านก็เน้นให้แต่ละฟังก์ชันได้ความเป็นส่วนตัวในการใช้งานด้วยเช่นกัน
สำหรับสไตล์ของการออกแบบโครงการนี้จะเป็น Modern Art Deco มีความ Modern ทันสมัยตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ มารวมกับรูปแบบ Art Deco ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอียิปต์โบราณ เราจึงได้เห็นลูกเล่นของ Facade ที่ดูทั้งแข็งแรงและสวยงามในเวลาเดียวกัน
หากดูจาก Master Plan ประเด็นที่น่าสนใจจะมีอยู่ 3 เรื่องด้วยกันค่ะ อย่างแรกคือ “ส่วนกลางแยกออกเป็น 2 โซน” โดยอาคาร Clubhouse จะวางไว้อยู่โซนด้านหน้าของโครงการทำหน้าที่เป็นพื้นที่ต้อนรับ เสริมสร้างบรรยากาศทางเข้าให้ดูดีมากขึ้น หรือถ้ามีแขกมาหา ก็สามารถรับรองที่ Clubhouse ด้านหน้าได้เลย ลูกบ้านจึงไม่เสียความเป็นส่วนตัว อีกโซนหนึ่งเป็นสวนส่วนกลางที่อยู่กลางโครงการ ทำให้ลูกบ้านทั้งหมดเข้าถึงได้สะดวก
ประเด็นที่ 2 คือ “การวางผัง” โซนที่น่าสนใจคือบ้านที่อยู่ในซอย (กรอบสีแดง) ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าบ้านที่อยู่ติดถนนหลัก
ประเด็นที่ 3 คือ “ทิศของบ้าน” บ้านส่วนใหญ่ในโครงการจะหันทางทิศเหนือและใต้เป็นหลัก ซึ่งบ้านที่หันทิศเหนือจะได้แสงธรรมชาติที่ไม่แรงมาก ส่วนบ้านทิศใต้จะได้ลมดีทีเดียว
ซุ้มประตูด้านหน้าโครงการออกแบบมาในสไตล์ Modern Art Deco ดูทันสมัยและมีลูกเล่นบริเวณหลังคาเป็นทรงสามเหลี่ยมที่มีองศาแตกต่างกัน ตัวซุ้มประตูออกแบบมาให้มีหลังคาคลุมกันแดดกันฝนทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก โดยจะแบ่งทางเข้า-ออก 2 ฝั่งแยกจากกันชัดเจน
ประตูเข้าออกโครงการเป็นประตูเหล็กบานเลื่อนให้ความปลอดภัยได้ดีกว่าแบบไม้กั้นกระดก มีการแยกเลนระหว่าง Visitor กับลูกบ้านทั้งฝั่งขาเข้าและขาออกเพื่อความคล่องตัวในการใช้งาน ลูกบ้านจึงสามารถขับรถผ่านได้สะดวก โดยไม้กั้นกระดกจะเปิดอัตโนมัติด้วยการสแกนป้ายทะเบียน (ผ่านระบบ KATSAN) ส่วน Visitor จะต้องติดต่อแลกบัตรกับพี่ รปภ. ก่อนนะคะ
ข้างๆ ซุ้มประตูจะมีทางเดินเข้า-ออกแยกไว้ สำหรับลูกบ้านที่ไม่ได้ใช้รถก็สามารถเดินเข้าออกได้อย่างปลอดภัย และมีกล้อง CCTV ติดตั้งรอบโครงการทั้งหมด 16 จุด
โซนหน้าโครงการจะมีถนนหลักที่จ่ายลูกบ้านออกไปตามซอยต่างๆ ในส่วนของ Clubhouse ก็จะติดกับซุ้มประตูโครงการเลย จึงเป็นเหมือน Buffer Zone ให้กับลูกบ้าน ช่วยกรองเสียงและฝุ่นจากถนนหน้าโครงการให้ลดลงได้ และไม่มีแปลงบ้านไหนที่ติดกับถนนหน้าโครงการโดยตรงเลยนะคะ
Clubhouse 2 ชั้น ของโครงการมีขนาดใหญ่ มาในสไตล์ Modern Art Deco เช่นเดียวกัน โดดเด่นด้วยการใช้เส้นเฉียงทำให้อาคารดูไม่ทึบตัน เป็นงานสถาปัตยกรรมเก๋ๆ ไม่ซ้ำใคร
ทางขึ้น Clubhouse นอกจากบันไดหลักตามปกติแล้ว ก็จะมีทางลาดเพื่อให้ผู้สูงอายุใช้งานได้สะดวก
ภายใน Lobby จัดชุดโซฟาไว้หลายชุด เป็นสถานที่ที่ลูกบ้านสามารถมานั่งประชุมหรือนัดพบแขก คุยธุระต่างๆ โดยไม่ต้องพาเข้าบ้านก็ได้
Lobby นี้มีทั้งหมด 2 ชั้น แต่ไม่ได้สร้างเต็ม 2 ชั้นนะคะ จะแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้เป็น Double Volume ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งและหรูหราให้กับอาคาร ขอชมเลยว่าห้องนี้ตกแต่งมาสวยงามทีเดียวด้วยเทคนิคของศิลปะแบบ Art Deco มีการใช้เส้นสายของเรขาคณิตมาช่วยให้ห้องดูมีมิติขึ้น
พื้นที่นั่งเล่นบนชั้น 2 จัดชุดโซฟาขนาดใหญ่ไว้ให้ แน่นอนว่าชั้นนี้จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าชั้นล่างค่ะ
จาก Lobby จะมีทางเดินเชื่อมต่อไปยังฟังก์ชันอื่นๆ ได้แก่ พื้นที่นั่งเล่นริมสระ, Fitness, สระว่ายน้ำ
พื้นที่นั่งเล่นริมสระ เป็นพื้นที่สำหรับผู้ปกครองที่มารอเด็กๆ ว่ายน้ำออกกำลังกาย ก็มานั่งเล่นรับลมชมวิวได้ เป็นพื้นที่แบบ Semi-Outdoor มีหลังคาคลุมกันแดดกันฝน จึงใช้งานได้สะดวก
ภายใน Fitness จะจัดวางเครื่องออกกำลังกายส่วนใหญ่ไว้ติดหน้าต่าง เพื่อให้มองเห็นสระว่ายน้ำได้ บรรยากาศในห้องจึงดูโปร่ง ไม่อึดอัด
ใน Fitness มีอุปกรณ์ที่เรียกได้ว่าครบครัน รองรับทั้งการออกกำลังกายแบบ Cardio และ Weight Training
ในส่วนของสระว่ายน้ำจะรองรับการใช้งานทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นสระกลางแจ้งระบบเกลือ โดยสระของผู้ใหญ่ มีขนาด 5×20 m. ใช้ว่ายออกกำลังกายได้จริงจัง แต่เหมาะกับการใช้งานในช่วงเย็นที่แดดร่มสักหน่อย
สระเด็กจะแยกโซนไว้ชัดเจนเพื่อความปลอดภัย
หากว่ายน้ำเหนื่อยแล้วก็มานั่งพักข้างสระได้ มี Daybed ไว้รองรับค่ะ
จุดล้างตัวจะอยู่ข้างๆ สระเลย ใช้งานได้สะดวก
โซนห้องน้ำจะหลบมุมเข้าไปด้านใน จึงได้ความเป็นส่วนตัว ดูมิดชิดขึ้น
ภายในห้องน้ำมีขนาดใหญ่กว้างขวางทีเดียว
ภายในมีทั้งห้องสุขาและห้องอาบน้ำครบครัน
ด้านหลัง Clubhouse จะมีสวนเล็กๆ ที่ติดกับถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก เราว่าตรงนี้ Buffer Zone ที่ดีของโครงการเลย ช่วยกรองเสียงและฝุ่นที่จะเข้ามาในโครงการได้ชั้นหนึ่ง
ถนนซอยในโครงการกว้าง 9 m. เป็นระยะที่แม้จะมีรถจอดหน้าบ้านก็ยังขับผ่านไปได้สะดวกค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5×20 m. ลึก 1.2 m.
- Kid’s Pool
- Fitness
- Lobby (ปัจจุบันเป็นสำนักงานขาย)
แบบบ้าน
Highlights :
- ฟังก์ชันบ้านยืดหยุ่น สามารถทุบ/ต่อเติมได้ง่าย เพราะเป็นโครงสร้างแบบ Conventional ก่ออิฐฉาบปูน
- ทุกแบบบ้านมีห้องนอนชั้นล่าง และได้ครัวปิด
- บ้านไซส์กลาง (CORNHILL) จัดฟังก์ชันมาดีเมื่อเทียบกับราคา 9 ล้านปลายๆ จะได้ 4 ห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง จอดรถได้ถึง 3 คัน ซึ่งหลายๆ โครงการในโซนนี้จะต้องจ่ายถึง 11 ล้านจึงจะได้ฟังก์ชันนี้นะ มีเพียงไม่กี่โครงการที่ให้ฟังก์ชันจัดเต็มแบบนี้ค่ะ
- บ้านไซส์ใหญ่สุด (WHITEHALL) ให้พื้นที่ใช้สอยเยอะในราคา 10 ล้านกลางๆ ถ้าชอบบ้านพื้นที่ใช้สอยใหญ่ๆ ในโซนนี้ราคาจะโดดไป 11-12 ล้านกันเป็นส่วนใหญ่ ที่นี่จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจนะคะ
แบบบ้านของโครงการนี้จะมีอยู่ทั้งหมด 3 Type คือ
- CHRYSLER บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 203 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 พื้นที่นั่งเล่น / 2 ที่จอดรถ - CORNHILL บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 53 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 256 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่นั่งเล่น / 3 ที่จอดรถ - WHITEHALL บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 58 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 285 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่นั่งเล่น / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
วัสดุภายในบ้าน
- ระบบการก่อสร้างบ้านแบบก่ออิฐฉาบปูน สามารถทุบต่อเติมได้
- ที่จอดรถเทปูนฉาบเรียบไว้ให้แบบ On Ground
- ลานซักล้างหลังบ้าน ลงเสาเข็มมาให้ลึก 4 m. พื้นปูกระเบื้องแกรนิตโต้
- ประตูหลักหน้าบ้าน ประตูกระจกบานเลื่อน กรอบ UPVC ของ Amigo กระจกเป็นชนิดตัดแสงช่วยลดความร้อน
- ประตูฝั่งที่จอดรถ วัสดุ UPVC พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock
- ประตูหลังบ้าน วัสดุ UPVC
- หน้าต่าง ใช้กระจกเป็นชนิดตัดแสงช่วยลดความร้อน กรอบ UPVC ของ Amigo
- วัสดุปูพื้นชั้น 1 กระเบื้องแกรนิตโต้
- วัสดุปูพื้นชั้น 2 พื้นไม้ลามิเนตหนา 8 mm.
- สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำใช้ของ COTTO เป็นหลัก
- ผนังติด Wallpaper มาให้ทั้งหลัง
- โครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้ยางพาราประสาน
- ระบบรักษาความปลอดภัย ติดตั้ง Magnetic Sensor ที่ประตูหน้าต่างบริเวณชั้น 1
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
บ้านตัวอย่างแบบ CORNHILL
หน้าตาบ้านจะมาในสไตล์ Modern Art Deco เป็นบ้าน Modern ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ แต่ยังมีลูกเล่นแบบ Art Deco ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอียิปต์โบราณ เราจึงได้เห็นลูกเล่นของหน้าตา Facade ที่มีระแนงบังสายตาเป็นรูปทรงเราขาคณิตต่างๆ ทำให้ดูทั้งแข็งแรงและสวยงามในเวลาเดียวกัน ใช้โทนสีขาวเทาเป็นหลักเพื่อให้ดูทันสมัย
จุดเด่นของบ้าน Type CORNHILL ก็คือ มีห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำในตัว จึงเหมาะกับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก ไม่ต้องเดินขึ้นลงบันได ในส่วนครัวก็จะได้เป็นแบบปิด มีประตูเชื่อมต่อกับลานซักล้างด้านข้าง
ชั้น 2 ประกอบไปด้วย 1 ห้องนอนใหญ่ และ 2 ห้องนอนรอง ซึ่งทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัว นอกจากนี้จะมีพื้นที่ตรงกลางหน้าโถงบันไดที่สามารถใช้เป็นมุมนั่งเล่น หรือพื้นที่ทำการบ้านของเด็กๆ ได้ ถือว่าจัดแปลนได้เป็นสัดส่วนลงตัวเลยค่ะ
ที่ดินแปลงมาตรฐานมีขนาด 53 ตร.วา ซึ่งตัวบ้านจะวางแบบเต็มที่ดินแต่ก็ยังพอมีพื้นที่สวนรอบบ้านเล็กน้อย โครงการจะปูหญ้าและปลูกไม้ยืนต้นให้ 1 ต้น
พื้นที่จอดรถเป็นแบบในร่ม สามารถจอดได้ 3 คัน ขนาดความกว้าง 7.2 เมตร ในส่วนพื้นจะไม่ได้ให้เป็น Stamp Concrete แบบในบ้านตัวอย่างนะคะ จะเทปูนฉาบเรียบไว้ให้
โครงสร้างที่จอดรถแบบ On Ground พร้อมทำการแยก Joint โครงสร้างไว้ ช่วยลดความกังวลเรื่องบ้านทรุดในอนาคตได้ค่ะ
ด้านหลังที่จอดรถจะมีประตูที่สามารถเปิดเข้าสู่ตัวบ้านได้อีกทาง โดยจะมีการติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ เพื่อความสะดวกและปลอดภัย
ประตูหลักบริเวณหน้าบ้านจะอยู่ใต้ชายคาที่ช่วยบังแดดบังฝนได้เล็กน้อย สามารถเดินเชื่อมต่อจากที่จอดรถได้
สเปกของประตูเป็นกระจกบานเลื่อน ใช้กรอบของ Amigo ในส่วนของกระจกเป็นแบบตัดแสงที่ช่วยกรอง UV ลดความร้อนภายในบ้านลงได้
ประตูบานเลื่อนเปิดได้กว้างประมาณ 0.9 m. และมีการยกระดับพื้นบ้านขึ้นจากส่วนของเฉลียงเพื่อกันน้ำไหลย้อนเข้าบ้าน และที่ประตู – หน้าต่างบริเวณชั้น 1 จะติดตั้ง Magnetic Sensor มาให้ค่ะ
เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นเป็นอันดับแรก ดูโปร่งโล่งด้วยความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.8 เมตร ซึ่งก็ถือว่าสูงกว่าบ้านทั่วๆไปค่ะ ทำให้สามารถใช้แอร์ระบบฝังฝ้าเพดาน หรือจะตกแต่งเป็นฝ้าหลุม ซ่อนไฟได้แบบสบายๆเลย
พื้นที่นั่งเล่นมีระยะจากโซฟาถึงหน้าทีวีประมาณ 3.6 m. สามารถใช้ทีวีไซส์ใหญ่ 50 นิ้วขึ้นไปได้
ด้านข้างโซฟายังเหลือพื้นที่วางของโชว์ได้อีกหน่อย หรือจะจัดวางชุดโซฟาที่มีขนาดใหญ่กว่าในบ้านตัวอย่างก็ได้นะคะ
ถัดเข้ามาด้านในเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งจัดว่าเป็น Common Area ขนาดใหญ่ มีประตูที่เปิดเชื่อมกับที่จอดรถได้ เวลาช้อปปิ้งจากตลาดก็เข้ามาโซนนี้ได้เลย ด้านหลังบ้านมีหน้าต่างและประตูกระจก สามารถใช้เปิดเพื่อระบายอากาศ ทั้งยังเป็นส่วนที่รับแสงจากธรรมชาติ ทำให้ในบ้านดูสว่างและปลอดโปร่ง
พื้นที่รับประทานอาหารรองรับโต๊ะขนาด 6-8 ที่นั่งได้สบายๆ เลยนะคะ และยังอยู่ติดกับห้องครัว จึงสามารถทำเคาน์เตอร์บาร์เชื่อมต่อกับโซนครัวแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้
ด้านข้างโต๊ะทานอาหารจะมีประตูบานเลื่อนกระจกที่เปิดออกไปหลังบ้านได้ เผื่อออกมาชมต้นไม้เปลี่ยนบรรยากาศ ซึ่งหากปลูกต้นไม้ในโซนนี้ก็จะสามารถมองเห็นได้จากในบ้านเลยค่ะ
ห้องครัวของแบบบ้านนี้เป็นห้องครัวปิดขนาดใหญ่ มีหน้าต่างระบายอากาศให้เรียบร้อย หากติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวตัว L ตามแบบในบ้านตัวอย่างก็สามารถทำครัวได้จริงจังเลย
ด้านในสุดของห้องครัวมีประตูเปิดไปลานซักล้างหลังบ้าน
ลานซักล้างหลังบ้านจะมีการลงเสาเข็มมาให้ลึก 4 m. ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ มีขนาดประมาณ 3.2×1.5 m. สามารถวางราวตากผ้าได้สบายๆ
อีกฝั่งหนึ่งของบ้านเป็นตำแหน่งของนอนชั้นล่าง ซึ่งมีห้องน้ำในตัวมาให้ครบเลยนะคะ
ห้องนอนชั้นล่างมีขนาดประมาณ 3.5×3 m. จะวางเตียงเดี่ยวหรือ 5 ฟุตก็ได้ ภายในห้องมีหน้าต่างบานใหญ่สำหรับรับแสงและลมธรรมชาติ ซึ่งจะได้วิวสวนข้างบ้านค่ะ
ด้านในของห้องจะมีทางเข้าห้องน้ำ
พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงจากพื้นห้องนอนเล็กน้อย โดยสุขภัณฑ์ที่ได้จะเป็นแบบครบชุดเหมือนในบ้านตัวอย่างค่ะ แต่จะไม่ได้ฉากกั้นอาบน้ำมานะ ดูๆ แล้วห้องน้ำนี้ออกแบบมาให้เหมาะกับผู้สูงอายุที่ยังเดินเหินได้สะดวก มีการออกแบบและขนาดตามมาตรฐานทั่วไป
อ่างล้างหน้าเป็นแบบติดตั้งเข้ากับผนัง มีช่องด้านล่างไว้สำหรับเก็บของได้ ก๊อกน้ำและตัวอ่างยี่ห้อ COTTO ค่ะ
สุขภัณฑ์จาก COTTO เช่นกันมาพร้อมสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1×1.3 m. ในบ้านตัวอย่างติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้ แต่บ้านมาตรฐานจะมีฉากกั้นอาบน้ำให้เฉพาะในห้องนอนใหญ่นะคะ ซึ่งโครงการลดระดับของพื้นอาบน้ำลงไปอีกระดับหนึ่ง เพื่อแบ่งโซนเปียกแห้งให้สะดวกต่อการใช้งาน
ฝักบัวอาบน้ำเป็นแบบ Hand Shower มี Junction Box ไว้สำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นได้ในภายหลัง ด้านข้างมีช่องใส่ของบนผนัง วางอุปกรณ์อาบน้ำได้ ไม่ต้องซื้อแบบสำเร็จรูปมาติดตั้งเพิ่มให้เสียพื้นที่ค่ะ
ก่อนจะขึ้นไปชมชั้นบนเราจะขอพาไปชมห้องน้ำส่วนกลางของตัวบ้าน ซึ่งเป็นห้องที่อยู่ใต้บันได
ติดกับประตูห้องน้ำจะเห็นว่ามีประตูห้องเก็บของอยู่ใต้บันไดด้วย
ห้องน้ำส่วนกลางออกแบบให้เป็น Powder Room ไม่ได้มีการแยกโซนเปียกแห้ง เพราะห้องนอนทุกห้องในบ้านของ Type นี้มีห้องน้ำในตัวทั้งหมด สุขภัณฑ์จะใช้ของ COTTO เป็นหลักเหมือนกัน และมีหน้าต่างบานกระทุ้งไว้สำหรับเปิดระบายอากาศได้
บันไดขึ้นชั้น 2 เป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งมีความแข็งแรงและเวลาเดินก็จะไม่มีเสียงดังรบกวน ปิดผิวด้วยไม้ยางพาราประสาน มาพร้อมราวกันตกและมือจับยาวไปตลอดแนวบันได
บริเวณชานพักมีช่องแสงขนาดใหญ่ ที่ช่วยทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูสว่างโปร่งโล่งทั้งชั้น 1 และชั้น 2 ด้านข้างมีโคมไฟผนังคอยให้แสงสว่าง ส่วนโคมไฟระย้านั้นจะติดเพิ่มเองก็ได้เพราะบริเวณนี้ได้ฝ้าเพดานสูงค่ะ
เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 2 ก็จะเจอกับโถงกลางที่เชื่อมห้องนอนทั้ง 3 เข้าไว้ด้วยกัน ชั้นนี้ปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตหนา 8 mm. จึงต้องระวังเรื่องความชื้นกันสักหน่อย ในส่วนของความสูงจากพื้นถึงฝ้าจะยังคงสูง 2.8 m. สูงกว่าบ้านทั่วๆ ไป ช่วยให้โปร่งขึ้นค่ะ
ในบ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นมุมพักผ่อนของผู้ใหญ่ มีเคาน์เตอร์บาร์ ไว้นั่งจิบเครื่องดื่ม หรือจะเปลี่ยนเป็นมุมทำการบ้านของเด็กๆ ก็เป็นพื้นที่สำคัญเพื่อให้พวกเขาได้มีปฎิสัมพันธ์กับพ่อแม่ มากกว่าที่จะเข้าห้องตัวเองอย่างเดียวนะคะ
Master Bedroom ได้พื้นที่กว้างมาก วางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตแล้วยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงไว้สำหรับวางตู้หรือชั้นได้อีกค่ะ
ข้างเตียงจะมีประตูบานเลื่อนกระจกที่เปิดออกไประเบียงได้
ระเบียงมีขนาดประมาณ 1×3.7 m. นอกจากขนาดที่กว้างแล้ว ในการออกแบบทางโครงการยังได้เน้นความเป็นส่วนตัว ด้วยการให้ระเบียงหันออกทางด้านข้าง ไม่ชนกับใคร เพื่อให้ผู้ที่อยู่ภายในห้องพักผ่อนได้อย่างสบายใจ
ข้างเตียงอีกฝั่งหนึ่งจะมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้จัดฟังก์ชันได้ตามใจชอบ เช่น วางโซฟาเดี่ยวพร้อมโต๊ะสักตัว ไว้สำหรับให้คุณสามี นั่งรอภรรยาแต่งหน้า ก็จิบกาแฟหรืออ่านหนังสือ ชมวิวด้านหน้าบ้านไปพลางๆก็ได้ค่ะ
Walk-in Closet กับห้องน้ำจะอยู่ติดกันเพื่อใช้งานเชื่อมต่อกันได้สะดวก
ถ้า Built-in ตู้เสื้อผ้าตามแบบในบ้านตัวอย่างก็จะเหลือทางเดินระยะประมาณ 1.2 m. ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือตำแหน่งวางโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ในจุดที่ได้รับแสงธรรมชาติได้พอดี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ใช้เวลาแต่งหน้าด้วยนะคะ
ห้องน้ำใน Master Bedroom มีขนาดใหญ่กว่าห้องอื่นๆ เลยนะคะ ซึ่งตัวสุขภัณฑ์ต่างๆ ก็มีการอัพสเปกให้ดีกว่าห้องอื่นด้วยเช่นกัน
อ่างล้างหน้ามีขนาดใหญ่ขึ้นและมีพื้นที่วางของรอบอ่าง ส่วนตู้เก็บของด้านล่างมีบานปิดมาให้ดูเรียบร้อยทีเดียว
ขนาดของโถสุขภัณฑ์ก็ใหญ่ขึ้นกว่าห้องอื่น น่าจะนั่งสบายขึ้นไปอีกค่ะ
พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นอาบน้ำติดตั้งมาให้ตามแบบในบ้านตัวอย่าง จึงใช้งานได้เต็มที่ ในส่วนของฝักบัว…นอกจาก Hand Shower แล้วจะมี Rain Shower ติดตั้งมาให้ด้วย ส่วนผนังด้านข้างมีช่องสำหรับวางของมาให้และมีหน้าต่างบานกระทุ้งไว้สำหรับเปิดระบายอากาศ
พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1.2×1.5 m. ถือว่ากว้างอยู่นะคะ หมุนตัวได้สบาย
ถัดมาที่ห้องนอนรอง 1 ก็จะมีห้องน้ำในตัวไว้แยกใช้งานด้วยเช่นกัน ห้องนี้จะเรียกว่าเป็นห้องนอนของลูกคนโปรดก็ได้เพราะมีพื้นที่ใช้สอยกว้างกว่าอีกห้องหนึ่ง สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้โดยเหลือพื้นที่ด้านข้างไว้วางตู้หรือโต๊ะข้างเตียงค่ะ
บริเวณหน้าห้องสามารถวางตู้เสื้อผ้าและจัดเป็นมุมแต่งตัวได้ หรือจะวางโต๊ะเครื่องแป้ง/โต๊ะเขียนหนังสือติดหน้าต่างเพิ่มก็ยังไหว
ห้องน้ำจะอยู่ด้านในสุดของตัวห้อง
ภายในห้องน้ำมีหน้าต่างบานกระทุ้งไว้สำหรับเปิดระบายอากาศ พื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งแยกการใช้งานเป็นสัดส่วนชัดเจน พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1×1.5 m. ใช้งานได้สบายๆ
ปิดท้ายด้วยห้องนอนรองอีกห้องหนึ่ง ซึ่งบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ ที่สามารถวางตู้เก็บของแบบ Island ไว้ตรงกลาง พร้อมเก้าอี้สำหรับนั่งใส่รองเท้าเวลาลองชุดได้เลย เหมาะกับครอบครัวสมัยใหม่ที่มีลูกคนเดียวก็สามารถปรับฟังก์ชันห้องนี้ได้ตามใจชอบ น่าจะถูกใจ Fashionista ที่มีเสื้อผ้าและ Accessories เยอะๆค่ะ
ห้องน้ำออกแบบมาเหมือนกับในห้องนอนรองห้องแรกเลย มีขนาดพอๆ กัน น่าจะใช้งานได้สะดวก
แบบบ้าน CHRYSLER
ฟังก์ชันภายในประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำและ 2 ที่จอดรถ ในราคาเริ่มต้น 8 ล้านปลายๆ ตอบโจทย์ครอบครัวขยายแบบพ่อแม่ลูก รวมถึงครอบครัวที่มีผู้สูงอายุก็สามารถจัดห้องนอนที่ชั้นล่างได้ แต่ต้องใช้ห้องน้ำร่วมกับส่วนกลางนะคะ ครัวจะได้เป็นครัวปิดทำอาหารได้จริงจัง
ชั้น 2 แบ่งพื้นที่เป็น 1 ห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว และ 2 ห้องนอนรองที่ต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกันค่ะ
หน้าบ้านจอดรถได้ 2 คัน
แบบบ้าน WHITEHALL
Type นี้มีขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ ที่ดินเริ่มต้นขนาด 58 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 258 ตร.ม. ฟังก์ชันประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 พื้นที่นั่งเล่น 1 ห้องแม่บ้าน และ 3 ที่จอดรถ ซึ่งจะคล้ายกับแบบ CORNHILL แต่จะได้เนื้อที่รอบบ้านและพื้นที่ใช้สอยภายในที่เยอะกว่า ในราคาเริ่มต้น 10 ล้านกลางๆ ค่ะ
ความพิเศษของ Type นี้จะได้มากกว่า Type อื่นๆ ในเรื่องของขนาดพื้นที่ใช้สอย และเป็น Type เดียวที่มีห้องแม่บ้าน พร้อมห้องน้ำที่แยกไว้เป็นสัดส่วน เหมาะกับครอบครัวที่มีแม่บ้าน, พี่เลี้ยงเด็ก หรือ คนดูแลผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย
บ้าน Type นี้ฟังก์ชันครบครันเลยทั้งห้องนอนชั้นล่างที่มาพร้อมห้องน้ำในตัว และห้องนอนชั้นบนอีก 3 ห้องที่มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง, ส่วนครัวได้เป็นครัวปิดทำอาหารได้จริงจัง, พื้นที่อเนกประสงค์ก็มีขนาดใหญ่ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง นอกจากนี้มุมสำหรับวางหิ้งพระมาด้วยค่ะ หรือใครอยากจะปรับเปลี่ยนให้เป็นฟังก์ชันอื่นๆ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเองก็สามารถทำได้
Living Area
ราคา
PYVE Ramintra – Wongwaen (พีเว่ รามอินทรา – วงแหวน) ราคา ณ วันที่ 6 กันยายน 2566
- เริ่ม 8 – 15 ล้านบาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 150,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง
54 บาท/ตร.วา/เดือน46 บาท/ตร.วา/เดือน Update@16/5/67
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
ที่ตั้งของโครงการ PYVE รามอินทรา – วงแหวน จะมีทางเข้า-ออกติดกับถนนเลียบวงแหวนกาญจนาฯ ในโซนที่อิงมาทางถนนรามอินทรา ซึ่งโครงการบ้านที่เปิดตัวใหม่ในโซนนี้มักจะอิงไปทางสุขภิบาล 5 กันมากขึ้นทำให้ทำเลของ PYVE โดดเด่นขึ้นมา เพราะถนนรามอินทรานั้นเป็นแหล่งรวมความอุดมสมบูรณ์ของย่านทั้ง Fashion Island และยังใกล้กับถนนคู้บอนด้วยค่ะ
อีกประเด็นหนึ่งที่ได้เปรียบคือ เรื่องของการเดินทางโดยรถไฟฟ้า เพราะในอนาคตอันใกล้ เมื่อสายสีชมพูสถานีคู้บอนเปิดให้บริการ (แผนล่าสุดจะเปิดให้บริการช่วงกลางปี 2567) จะทำให้โครงการนี้ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าประมาณ 4 km. เท่านั้นค่ะ ส่วนตัวช่วยในการเดินทางอย่างทางด่วนและวงแหวนกาญจนาภิเษก เป็นข้อดีดั้งเดิมของหมู่บ้านทุกโครงการในโซนนี้ที่ช่วยให้เข้าเมืองไปทางเลียบด่วนรามอินทรา, พระราม 9, เอกมัย ได้สะดวกขึ้น
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
ประตูโครงการเป็นประตูเหล็กบานเลื่อน เข้า-ออกโดยการสแกนป้ายทะเบียน (ควบคุมผ่านระบบ KATSAN) มีกล้อง CCTV และเจ้าหน้าที่คอยรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง รอบโครงการเป็นรั้วสูง 3 m. ส่วนความปลอดภัยในบ้าน ได้มีการติดตั้ง Magnetic Sensor มาให้ที่ประตู – หน้าต่างบริเวณชั้น 1 ทุกบาน พร้อม Digital Door Lock มาให้ 1 จุด
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
โครงการ – ให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นส่วนตัว มีเพื่อนบ้านน้อยเพียง 96 ยูนิต แยกส่วนกลางออกเป็น 2 โซน ทำให้ลูกบ้านเข้าใช้งานได้สะดวก การจัดวางบ้านจะมีแบบที่ติดกับถนนหลักทำให้เข้าออกสะดวก และบ้านที่อยู่ในซอยซึ่งจะได้ความเป็นส่วนตัวสูงกว่า แต่ก็จะอยู่ในโซนด้านในที่ลึกกว่า
ตัวบ้าน – จัดฟังก์ชันมาครบครันทุกแบบ คือมีห้องนอนชั้นล่างและได้ครัวปิดทำอาหารได้จริงจัง แต่จะมี 2 Type ที่เราชอบเป็นพิเศษคือ
- CORNHILL บ้านไซส์กลางจัดฟังก์ชันมาดีเมื่อเทียบกับราคา 9 ล้านปลายๆ จะได้ 4 ห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง จอดรถได้ถึง 3 คัน ซึ่งหลายๆ โครงการในโซนนี้จะต้องจ่ายถึง 11 ล้านจึงจะได้ฟังก์ชันนี้นะ มีเพียงไม่กี่โครงการที่ให้ฟังก์ชันจัดเต็มแบบนี้ค่ะ
- WHITEHALL บ้านไซส์ใหญ่ให้พื้นที่ใช้สอยเยอะในราคา 10 ล้านกลางๆ ถ้าชอบบ้านพื้นที่ใช้สอยใหญ่ๆ 285 ตร.ม. ในโซนนี้ราคาจะโดดไป 11-12 ล้านกันเป็นส่วนใหญ่ค่ะ
วัสดุ : โครงสร้างแบบ Conventional ก่ออิฐฉาบปูนสามารถทุบ/ต่อเติมได้ง่าย วัสดุส่วนใหญ่ได้ตามมาตรฐานราคา เสียดายนิดเดียวพื้นที่จอดรถเป็นแบบ Slab on ground หากจะต่อเติมหลังคาจึงต้องลงเสาเข็มเพิ่มเอง ซึ่งโครงการตัด Joint พื้นที่จอดรถแยกออกจากตัวบ้านไว้เรียบร้อยค่ะ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
เนื่องจากรีวิวนี้ไปถ่ายตอนที่สวนส่วนกลางยังไม่เสร็จนะคะ จึงไม่สามารถเล่าถึงบรรยากาศในสวนส่วนกลางได้ครบถ้วน แต่ที่ดูจากโซนหน้าโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว ก็ดูร่มรื่นดี มีต้นไม้เยอะ ตามแนวถนนซอยก็มีตลอดไม้ใหญ่หน้าบ้านไปตลอดทางค่ะ
สาธารณูปโภค :
สำหรับ Facilities โครงการถือว่าให้มาไม่เล็กไม่ใหญ่อาจเพราะจำนวนยูนิตน้อยเพียง 96 ยูนิตเท่านั้น แต่ก็มีฟังก์ชันให้ใช้ครบถ้วนสมระดับราคา มีอาคาร Clubhouse 2 ชั้น ประกอบด้วย Lobby แบบ Double Volume, สระว่ายน้ำกลางแจ้ง, Fitness, สวนส่วนกลางขนาดประมาณ 297 ตร.ว. เทียบกับค่าส่วนกลาง 54 บาท/ตร.วา/เดือนก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ เพราะแชร์กันใช้กับลูกบ้านไม่เยอะค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 8 – 15 ล้านบาท, 6 กันยายน 2566
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8.25/10 – ติดทางคู่ขนานกาญจนาฯ อิงถนนรามอินทรา ตัวช่วยในการเดินทางเพียบ
- ความปลอดภัย 7.5/10 – ประตูโครงการเหล็กบานเลื่อน, เข้า-ออกระบบสแกนป้ายทะเบียน , CCTV รอบโครงการ , ตัวบ้านมีสัญญาณกันขโมย
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – ฟังก์ชันครบครัน พื้นที่ใช้สอยเหมาะสม
- วัสดุ 7.5/10 – ส่วนใหญ่ได้ตามมาตรฐานของระดับนี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – ร่มรื่น มีต้นไม้ตามแนวถนน
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – มี Clubhouse, Fitness, สระว่ายน้ำ และสวนครบ
- 7.86 / 10.00
PYVE รามอินทรา – วงแหวน เหมาะกับใคร
เหมาะสำหรับคนที่มองหาบ้านในโซนรามอินทรา-วงแหวน อิงไปทางถนนรามอินทรา ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ฝั่ง Fashion Island และถนนคู้บอน เดินทางสะดวกไปใช้ทางด่วน, วงแหวนกาญจนาภิเษกได้ง่าย หวังพึ่งรถไฟฟ้าสายสีชมพูในอนาคต จากโครงการประมาณ 4 km.
ชอบโครงการที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว ยูนิตไม่มาก มองหาบ้านที่มีห้องนอนผู้สูงอายุชั้นล่างและได้ครัวปิดทุกแบบ ในราคาเริ่มต้น 8-15 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 56,000 – 105,000 บาท ยังไงก็ลองพิจารณากันดูนะคะ