[รีวิวฉบับที่ 2743] บ้านหลังใหญ่กว่านี้มีอีกมั้ย!! ทุกคนคงเคยเห็นเราพาไปรีวิวบ้าน 100 ตร.วามาหลายโครงการแล้ว แต่วันนี้เราพามาดู Prukpirom New Ratchaphruek (พฤกษ์ภิรมย์ ราชพฤกษ์-ตัดใหม่) บ้านเดี่ยวหรูหลังใหญ่สุดบนทำเล ติดถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ ในราคาเริ่ม 25-100 ล้านบาท ถึงแม้โครงการนี้จะมีที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา ไม่ต่างจากโครงการอื่นๆบนทำเล แต่สำหรับบ้านตัวอย่างที่เป็นแบบบ้านหลังใหญ่สุดของโครงการมีที่ดินกว่า 1 ไร่ และพื้นที่ใช้สอยมากถึง 1,067 ตร.ม. เรียกว่าไม่มีโครงการไหนได้บ้านใหญ่เท่านี้แล้ว ดังนั้นเราขอบอกเลยว่าในรีวิวจะเจอแต่คำว่า “ใหญ่ ใหญ่ ใหญ่!!”
แต่ทุกคนคิดเหมือนกันมั้ยว่าโครงการบ้านที่มีราคาเริ่ม 25 ล้านบาทในโซนใกล้เมืองก็มีให้เลือกซื้ออยู่เหมือนกันนะ แล้วโครงการนี้ดีกว่ายังไง? เราจึงได้สำรวจบ้านบนทำเลนี้และเห็นว่าโครงการบ้านที่ใกล้ตัวเมือง มีระดับราคาเท่าๆกัน ก็จะได้ขนาดที่ดินและพื้นที่ใช้สอยบ้านที่เล็กกว่า ไม่มีทางได้หลังใหญ่เท่าโครงการนี้ค่ะ
งั้นเราลองมาคิดอีก Way กันดูบ้างว่า ถ้ามีงบ 25-100 ล้านบาท เราซื้อที่ดินและเลือกปลูกบ้านเองเลยดีกว่า จะได้ออกแบบฟังก์ชันและพื้นที่ใช้สอยเยอะแบบจุใจไปเลย แต่การเลือกสร้างบ้านเองก็ทำให้เราขาดข้อดีของความเป็นหมู่บ้านทั้งระบบความปลอดภัยที่แน่นหนา สังคมเพื่อนบ้านในระดับเดียวกัน ความเป็นส่วนตัวสูงและมีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งาน รวมถึงเป็นหน้าตาของลูกบ้านด้วยนั่นเอง
ซึ่งจากที่เราได้เกริ่นมาเนี่ย เป็นจุดเด่นส่วนนึงของ Prukpirom New Ratchaphruek (พฤกษ์ภิรมย์ ราชพฤกษ์-ตัดใหม่) งั้นเราพามาดูกันเลยว่าบ้านของโครงการนี้จะหลังใหญ่ขนาดไหนและมีความน่าสนใจอะไรอีกบ้างค่ะ
- บ้านเดี่ยวหลังใหญ่สุดบนทำเลราชพฤกษ์ ออกแบบมีขนาดที่ดินบ้านเริ่มต้น 100-407 ตร.วา และพื้นที่ใช้สอย 292-1,067 ตร.ม. อยู่ได้ทุก Generation
- มีแบบบ้านที่ได้สระว่ายน้ำส่วนตัวและ Glasshouse สามารถใช้เป็นมุมนั่งเล่นหรือจัดเลี้ยงสังสรรค์ได้สบาย
- บ้านหลังใหญ่สุดทำโรงจอดรถแยกส่วนในร่ม 7 คันและจอดแบบ Outdoor ได้ 4 คัน ซึ่งโรงจอดรถรองรับการทำลิฟท์จอดรถได้อีกด้วย
- พื้นที่ส่วนกลาง 2 โซน ใช้งานได้ทั่วถึงและแต่ละฟังก์ชันมีขนาดใหญ่ นอกจากฟังก์ชันส่วนกลางจะได้มาตามมาตรฐานแล้ว ยังมีสนามกีฬาบาสเกตบอลและเทนนิสแบบ Full Court ที่เราไม่ค่อยเห็นในโครงการอื่นด้วย
ข้อมูลโครงการ
Prukpirom New Ratchaphruek (พฤกษ์ภิรมย์ ราชพฤกษ์-ตัดใหม่) ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2567
ชื่อโครงการ | Prukpirom New Ratchaphruek (พฤกษ์ภิรมย์ ราชพฤกษ์-ตัดใหม่) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | HIGH-ULTIMATE CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนราชพฤกษ์ ตำบลบางคูวัด อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี |
ที่ดิน | 78-2-11.4 ไร่ |
จำนวนยูนิต | 85 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2565 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2567 |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
โทร | 02-677-7000 และ 089-888-4529 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.972868868446358, 100.46475189622434
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
Highlight
- ติดถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ วิ่งตรงเข้าใจกลางเมืองได้ง่าย เชื่อมต่อถนนหลายสาย
- ใกล้ทางด่วน 2 สาย ทั้งวงแหวนกาญจนาภิเษกและทางพิเศษอุดรรัถยาที่เชื่อมไปทางพิเศษศรีรัชได้
- ความอุดมสมบูรณ์หลักอยู่บนเส้นราชพฤกษ์ มีทั้ง Robinson Lifestyle ราชพฤกษ์, HomePro ชัยพฤกษ์ และ Lotus’s North ราชพฤกษ์
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
Prukpirom New Ratchaphruek (พฤกษ์ภิรมย์ ราชพฤกษ์-ตัดใหม่) ตั้งอยู่ติดถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ เดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่าย เพราะสามารถขับตรงเข้าไปถึงโซนสาทรและใจกลางเมืองได้เลย เชื่อมต่อหลายเส้นทางอย่างถนนราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ ราชพฤกษ์ 345 และกาญจนาภิเษก รวมถึงข้ามแม่น้ำผ่านทางสะพานนนทบุรี 2 ไปโซนรังสิต หรือสะพานพระราม 4 เพื่อไปแถวปากเกร็ด-แจ้งวัฒนะได้ด้วย นอกจากนั้นยังไม่ไกลจากทางด่วนกาญจนาภิเษกและทางพิเศษอุดรรัถยาที่เชื่อมไปทางพิเศษศรีรัชได้ ทำเลนี้จึงเหมาะกับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางเป็นหลัก และมีรถไฟฟ้าเป็นตัวเลือกในการเดินทางทั้ง MRT สายสีม่วงและสายสีชมพู ที่มีระยะห่างประมาณ 11 กิโลเมตร
ต้องยอมรับว่าปัจจุบันทำเลของโครงการเป็นย่านอยู่อาศัยใหม่ที่มีโครงการบ้านจัดสรรเริ่มขยายมาเปิดตัวกันมากขึ้น ทำให้ความอุดมสมบูรณ์ใกล้ๆกับตัวโครงการยังไม่ค่อยมีเท่าไหร่นัก แต่ในอนาคตก็มีแนวโน้มที่จะมีโครงการจัดสรรและ Community Mall มาเปิดตัวกันมากขึ้นนะคะ
ดังนั้นความอุดมสมบูรณ์หลักบนทำเลในปัจจุบันจะอยู่ช่วงแยกชัยพฤกษ์ ได้แก่ Robinson Lifestyle ราชพฤกษ์ที่เป็นห้างหลักบนทำเล ห่างจากโครงการประมาณ 4.6 กิโลเมตร, HomePro ชัยพฤกษ์, Lotus’s North ราชพฤกษ์และชิค รีพับบลิค ราชพฤกษ์ รวมถึงรายล้อมด้วยโรงเรียนและโรงพยาบาลในระยะไม่เกิน 10 กิโลเมตรด้วย
Prukpirom New Ratchaphruek (พฤกษ์ภิรมย์ ราชพฤกษ์-ตัดใหม่) เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหลังใหญ่สุดบนทำเลด้วยขนาดที่ดินเริ่มต้น 100-407 ตร.วา และพื้นที่ใช้สอย 292-1,067 ตร.ม. และจากที่เราได้สำรวจมาก็พบว่าไม่มีโครงการไหนที่ได้บ้านหลังใหญ่เท่านี้เลย ทำให้ที่ดินโครงการมีขนาดใหญ่และต้องขยับออกมานอกเมืองมากขึ้น แต่ก็ยังดีที่อยู่ติดกับถนนใหญ่และไม่ไกลจากทางด่วนจึงสามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่าย
หากเทียบว่าบ้านราคา 25-100 ล้านบาท ก็สามารถหาซื้อโครงการบ้านจัดสรรที่ใกล้เมืองเข้ามาหน่อย แต่ยังไงด้วยงบประมาณเท่ากันก็จะได้ขนาดบ้านที่เล็กกว่าโครงการนี้ หรือเลือกหาซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้านเอง ได้พื้นที่ใช้สอยใหญ่กว่า แต่ก็จะไม่ได้ข้อดีของความเป็นโครงการบ้านจัดสรรทั้งระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา สังคมเพื่อนบ้านในระดับเดียวกัน ความสงบและความเป็นส่วนตัวสูง รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานและเป็นหน้าตาของลูกบ้านเมื่อแขกมาเยี่ยมนั่นเอง โครงการนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่มองหาบ้านหลังใหญ่โดยเฉพาะเลยค่ะ
วงแหวนกาญจนาภิเษก
อย่างที่เราเกริ่นไปนะคะว่าทำเลนี้เหมาะกับคนที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก หากต้องการเดินทางไปโซนอื่นๆก็มีทั้งทางด่วนกาญจนาภิเษกและทางพิเศษอุดรรัถยาที่เชื่อมต่อทางพิเศษศรีรัชได้
- ทางด่วนกาญจนาภิเษก : ใช้เพื่อเดินทางเข้าเมืองไปทางบางใหญ่-บางแค-พระราม 2 หรือจะออกเมืองไปทางบางปะอินก็ได้เหมือนกันค่ะ มีระยะห่างจากโครงการ 9.5 กิโลเมตร
- ทางพิเศษอุดรรัถยา ด่านศรีสมาน : มีระยะห่าง 15 กิโลเมตร ใช้เดินทางเข้าเมืองไปแจ้งวัฒนะหรือเชื่อมต่อทางพิเศษศรีรัช ไปงามวงศ์วาน-รัชดาภิเษกก็สะดวกดี หรือจะใช้ออกเมืองไปทางบางปะอิน บางไทร จ.อยุธยาก็ง่ายค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ Prukpirom New Ratchaphruek (พฤกษ์ภิรมย์ ราชพฤกษ์-ตัดใหม่) ส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินเปล่าที่มีโอกาสพัฒนาที่ดินได้ในอนาคต มีบ้านพักอาศัยแนวราบและโกดังให้เห็นอยู่บ้าง ส่วนบริเวณด้านหน้าโครงการติดถนนราชพฤกษ์จึงมีรถยนต์สัญจรผ่านไปมาตลอด แต่ออกแบบตัวบ้านมีระยะห่างจากถนน ทำให้ไม่รบกวนการอยู่อาศัยค่ะ
- ทิศเหนือ ติดกับที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันออก ติดกับที่ดินเปล่าและโกดัง
- ทิศใต้ ติดกับที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันตก ติดกับถนนราชพฤกษ์และที่ดินเปล่า
ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ
ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ Prukpirom New Ratchaphruek (พฤกษ์ภิรมย์ ราชพฤกษ์-ตัดใหม่)
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- Robinson Lifestyle Mail ราชพฤกษ์ ~ 4.6 กิโลเมตร
- HomePro ชัยพฤกษ์ ~ 7.1 กิโลเมตร
- Lotus’s North ราชพฤกษ์ ~ 7.1 กิโลเมตร
- ชิค รีพับบลิค ราชพฤกษ์ ~ 8 กิโลเมตร
- Robinson Lifestyle ศรีสมาน ~ 13.7 กิโลเมตร
- Central แจ้งวัฒนะ ~ 15.1 กิโลเมตร
- Central รัตนาธิเบศร์ ~ 16.1 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- รพ.ปากเกร็ด 2 ~ 4 กิโลเมตร
- รพ.วิภารามปากเกร็ด ~ 11.8 กิโลเมตร
- รพ.ชลประทาน ~ 13.7 กิโลเมตร
- รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ ~ 15.2 กิโลเมตร
- รพ.เวิลด์ เมดิคอล ~ 16.4 กิโลเมตร
- รพ.นนทเวช ~ 21.4 กิโลเมตร
โรงเรียน
- โรงเรียนสารสาสน์ ราชพฤกษ์ ~ 3.1 กิโลเมตร
- โรงเรียนนานาชาติเด่นหล้า (DBS) ~ 7.1 กิโลเมตร
- โรงเรียนนานาชาติ SISB นนทบุรี ~ 8 กิโลเมตร
- โรงเรียนสวนกุหลาบ นนทบุรี ~ 13.7 กิโลเมตร
- โรงเรียนนานาชาติกรุงเทพ (ISB) ~ 15.9 กิโลเมตร
- โรงเรียนนานาชาติ ฮาร์โรว์ ~ 20.9 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
Highlight
- เน้นความเป็นส่วนตัวสูง จำนวนยูนิต 85 หลังบนที่ดินใหญ่ 78 ไร่, โครงการตั้งอยู่ด้านในห่างจากถนนใหญ่ และ Double Gate Security ประตูทางเข้าแบบ 2 ชั้น
- พื้นที่ส่วนกลาง 2 โซน และแต่ละฟังก์ชันมีขนาดใหญ่ ลูกบ้านใช้งานได้อย่างทั่วถึงและไม่รู้สึกอึดอัดถึงจะมีเพื่อนบ้านคนอื่นใช้งานในบริเวณเดียวกัน ชอบที่สนามกีฬาขนาดใหญ่ตามมาตรฐาน แตกต่างจากโครงการอื่นที่ได้เป็นสนามแบบ Half-Court
- ทัศนียภาพภายในโครงการสวยงาม ร่มรื่นและน่าอยู่อาศัย เพราะนอกจากสวนสีเขียวขนาด 2.5 ไร่แล้ว ยังออกแบบสายไฟลงดินทั้งโครงการ จึงเปิดรับวิวส่วนกลางได้กว้าง
- จัดโซนบ้านหลากหลาย เลือกได้ตามการอยู่อาศัย ทั้งโซนบ้านที่ติดถนนหลักเข้า-ออกง่าย, โซนถนนหน้าบ้านแบบวน Loop เข้า-ออกได้หลายทางและโซนที่เป็นซอยตันหรือมีเพื่อนบ้านในซอย 4 หลัง ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
- บ้านหันหน้าทางทิศเหนือ-ใต้ ไม่โดนแดดโดยตรงและได้ลมดี
Prukpirom New Ratchaphruek (พฤกษ์ภิรมย์ ราชพฤกษ์-ตัดใหม่) เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นบนที่ดินขนาดประมาณ 78 ไร่ กับจำนวนเพื่อนบ้าน 85 ยูนิต ถือเป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตน้อยเมื่อเทียบกับขนาดโครงการนะคะ เพราะว่าออกแบบขนาดที่ดินบ้านเริ่มต้น 100 ตร.วานั่นเอง รวมถึงโครงการออกแบบภายใต้แนวคิด “THE PROUDEST HAUTE LIFE” ที่นอกจากจะเป็นโครงการบ้านหลังใหญ่แล้ว ยังออกแบบได้บรรยากาศร่มรื่นตั้งแต่ซุ้มประตูเข้ามาภายในโครงการ โดดเด่นด้วย Clubhouse สไตล์ Neo Classic และพื้นที่สวนสีเขียวใหญ่ถึง 2.5 ไร่
สำหรับเรามองว่าบ้านของโครงการนี้ถือว่าเป็นบ้านหลังใหญ่มากๆ มีพื้นที่สวนรอบบ้านกว้าง มีพื้นที่รองรับแขกได้หลายจุด จะทำ Fitness ในบ้านก็ได้สบายๆ รวมถึงบางแบบบ้านก็ได้สระว่ายน้ำส่วนตัวด้วย ดังนั้นพื้นที่ส่วนกลางนี้จึงเป็นเหมือนหน้าตาของลูกบ้านในโครงการเมื่อมีแขกมาเยี่ยมมากกว่า แต่ทางโครงการก็ออกแบบฟังก์ชันส่วนกลางมาให้ใช้งานได้ครบครัน ก็ถือเป็นตัวเลือกในการใช้งานของลูกบ้านได้ เผื่อเบื่อๆอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็มาใช้งานตรงส่วนกลางได้นั่นเอง
นอกจากนั้นยังมีโครงการอื่นของ Q House บนทำเลนี้ด้วยทั้ง วรารมย์ ราชพฤกษ์ตัดใหม่ และ ลัดดารมย์ ราชพฤกษ์ตัดใหม่ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับโครงการนี้ แต่จะเป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่หลังเล็กลงมาหน่อย ราคาเริ่มต้น 6-30 ล้านบาทค่ะ ไว้ถ้าเรามีโอกาสได้ไปรีวิว และเก็บภาพบรรยากาศภายในโครงการ จะรีบมาอัพเดทให้ทุกคนอ่านนะคะ งั้นเราพามาดู Master Plan ของ Prukpirom New Ratchaphruek (พฤกษ์ภิรมย์ ราชพฤกษ์-ตัดใหม่) กันต่อค่ะ
- เน้นความเป็นส่วนตัวสูง ด้วยจำนวนยูนิตเพียง 85 หลังบนที่ดินใหญ่ประมาณ 78 ไร่ รวมถึงออกแบบตัวโครงการตั้งอยู่ด้านในห่างจากถนนใหญ่ ได้บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การอยู่อาศัย
- พื้นที่ส่วนกลางแบ่งเป็น 2 โซน แต่ละฟังก์ชันขนาดใหญ่ โดย Clubhouse และพื้นที่สวนสีเขียวรวม 2.5 ไร่อยู่บริเวณตรงกลางโครงการ เน้นเป็นฟังก์ชันสำหรับพักผ่อน ส่วนบริเวณด้านหลังโครงการเป็น Sport Park ที่มีสนามบาสเกตบอลและเทนนิส รวมถึงพื้นที่นั่งแบบอัฒจันทร์ด้วย ซึ่งออกแบบเป็นสนามกีฬาขนาดมาตรฐานที่เราไม่เคยเห็นในโครงการอื่นมาก่อนเลยนะ เพราะโครงการอื่นๆจะออกแบบเป็นสนามแบบ Half-Court ซะมากกว่า ทำให้ลูกบ้านสามารถออกกำลังกายและฝึกซ้อมกีฬาได้แบบจริงจังเลยค่ะ
- โซนบ้านหลากหลาย ทั้งโซนบ้านที่ติดถนนหลักเดินทางเข้า-ออกได้สะดวก, โซนที่ถนนหน้าบ้านแบบวน Loop เข้า-ออกได้หลายทาง และโซนที่อยู่ในซอยที่เป็นซอยตันหรือมีเพื่อนบ้านในซอย 4 หลังก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
- ทิศของบ้าน ส่วนใหญ่หันขนานไปตามทิศเหนือและใต้ ซึ่งเป็นทิศที่นิยมในการจัดวางบ้าน เพราะไม่โดนแดดโดยตรง โดยบ้านที่หันไปทางทิศเหนือจะได้ร่มเงาช่วงบ่าย ส่วนบ้านที่หันไปทางทิศใต้ก็เปิดรับลมได้ดีค่ะ
ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ
เริ่มกันที่ซุ้มประตูทางเข้าโครงการกันเลย โดยออกแบบซุ้มประตูมีระยะร่นจากถนนด้านหน้าโครงการ ทำให้รถของลูกบ้านสามารถต่อแถวเข้า-ออกได้สะดวก รวมถึงการจราจรไม่ติดขัดตรงถนนด้านหน้าโครงการ อีกทั้งมีป้ายชื่อโครงการขนาดใหญ่ สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากถนน พร้อมจัดสวนไว้สวยงามทั้งไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่ตลอดแนวถนน ให้บรรยากาศร่มรื่นดีค่ะ
ส่วนประตูทางเข้า-ออกโครงการเป็นแบบ Double Gate Security หรือประตูทางเข้าโครงการแบบ 2 ชั้น ซึ่งประตูทั้ง Gate 1-2 เป็นแบบรั้วรางเลื่อนไฟฟ้า มีระบบเข้า-ออกโครงการแบบ Easy Pass พร้อมระบบความปลอดภัยอื่นๆในโครงการอย่างระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ รั้วรอบโครงการสูง 3-5 เมตรและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
ซึ่งเราบอกเลยว่าระบบความปลอดภัยตรวจสอบบุคคลภายนอกของโครงการรัดกุมจริงๆ เพราะทาง รปภ.ก็มีการเช็กกับทางโครงการอยู่นานเหมือนกันกว่าเราจะเข้าโครงการไปทำรีวิวนี้มาให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ แม้แต่ทีมงานส่วนต่างๆที่ต้องเข้าไปทำงานก่อสร้างด้านในโครงการก็ต้องจอดรถรอตรวจสอบอยู่สักพักเช่นกัน ดังนั้นเราพูดได้เต็มปากเลยว่าทางลูกบ้านวางใจในเรื่องระบบความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวภายในโครงการได้เลย
บริเวณพื้นที่ระหว่างประตูโครงการ Gate 1 และ 2 จะมีวงเวียนน้ำพุ พร้อมรูปปั้นม้าที่เป็นสัญลักษณ์ของความกล้า ความขยัน ความรวดเร็วและนำมาสู่ความสำเร็จรุ่งโรจน์ด้วย โดยวงเวียนนี้ที่นอกจากจะสร้างความประทับใจแรกได้ดีเมื่อเข้าโครงการมาแล้ว ยังเป็นจุดไว้สำหรับกลับรถยนต์เพื่อออกโครงการได้สะดวก
เมื่อผ่านประตู Gate 2 ของโครงการมาแล้ว จะเจอกับถนนหลักของโครงการยาวประมาณ 250 เมตร ถึงจะพบกับโซนบ้านพักอาศัยนั่นเอง ซึ่งตลอดเส้นถนนจะมีการจัดสวนสีเขียวและต้นไม้ใหญ่ ทำให้ได้บรรยากาศร่มรื่นตลอดเส้นทางเลย รวมถึงยังช่วยนำสายตาเข้าไปยังด้านในโครงการได้ดีค่ะ
ถนนหลักในโครงการ
ถนนหลักภายในโครงการมีความกว้างตั้งแต่ 12 เมตร, 16 เมตร และ 18 เมตร ส่วนถนนภายในซอยบ้านจะมีความกว้าง 9 เมตร ซึ่งรถยนต์สามารถขับสวนกันได้สบายๆค่ะ ทางโครงการได้เดินสายไฟร้อยท่อลงดินทั้งโครงการ ทำให้ได้ทัศนียภาพภายในโครงการดูสวยงาม เปิดรับวิวส่วนกลางได้กว้างด้วย
เมื่อเราขับเข้ามายังโซนบ้านพักอาศัยแล้ว จะเจอกับพื้นที่ส่วนกลางอยู่บริเวณตรงกลางโครงการเลย โดยอาคาร Clubhouse 2 ชั้นออกแบบในสไตล์ Neo Classic เน้นโทนสีขาวและเทาเข้ม พร้อมหน้าต่างทรงสูง ซึ่งฟังก์ชันภายในเน้นเป็นพื้นที่พักผ่อน ส่วนพื้นที่สวนสีเขียวรวม 2.5 ไร่ อยู่บริเวณด้านหน้าและด้านข้างของ Clubhouse ทำให้เวลาใช้งานอยู่ภายใน Clubhouse ก็ได้วิวสวนสีเขียวนี้ด้วย
ทางขึ้น-ลง Clubhouse
เราขอเริ่มกันที่ Clubhouse กันก่อนเลย โดยทางขึ้น-ลงอาคารมีออกแบบเป็นทั้งบันไดและทางลาด เพื่อรองรับการใช้งานของคนทุกวัยตามหลัก Universal Design ที่ดี ทำให้สามารถเข็นวีลแชร์หรือรถเข็นเด็กมาใช้งานส่วนกลางร่วมกันได้ทั้งครอบครัวค่ะ
เมื่อเข้ามาภายใน Clubhouse จะเจอกับ Foyer พื้นที่ต้อนรับเพื่อนำไปสู่ฟังก์ชันอื่นๆ โดยทางฝั่งซ้ายจะเป็น Lobby Lounge ส่วนทางฝั่งขวาจะเป็น Private Dining, Co-Working Space และสระว่ายน้ำ สำหรับตรงกลางจะมีพื้นที่นั่งคอย ห้องน้ำและบันไดขึ้นไปชั้น 2 ที่เป็นพื้นที่ของ Fitness และ Yoga Room ค่ะ
Lobby Lounge
เราจะพาไปดู Lobby Lounge กันก่อนนะคะ ซึ่งภายใน Lobby Lounge ก็จัดมุมนั่งพักผ่อนไว้หลายที่นั่ง พร้อมบาร์ที่สามารถจัดเตรียมขนมและเครื่องดื่มไว้ทานเล่นได้ ลูกบ้านจึงสามารถรองรับแขกตรงบริเวณนี้ได้เหมือนกัน รวมถึงมีออกแบบเป็น Double Volume ฝ้าเพดานสูง ช่วยทำให้บรรยากาศภายในห้องดูโปร่งสบาย เปิดรับแสงและวิวสีเขียวได้กว้างด้วย
ต่อมาเราพามาทางฝั่งขวาของ Clubhouse จะเป็น Private Dining ที่สามารถเรียกเชฟมาทำเป็น Chef’s Table และชวนแขกมารับประทานอาหารร่วมกันได้ หรือจะจัดงานเลี้ยงอย่างงานวันเกิด ชวนเพื่อนๆมาร่วมฉลองร่วมกันได้ด้วย ซึ่งทางโครงการก็ออกแบบ Island เพื่อโชว์ทำอาหารได้เลย พร้อมโต๊ะยาวรองรับได้ 10 ที่นั่งค่ะ
ถัดจาก Private Dining จะเจอกับ Co-Working Space แต่ถ้ามีการจองจัดงานเลี้ยงที่ Private Dining เราก็ไม่สามารถเดินตัดผ่านห้องมาได้ แต่เราก็สามารถมาใช้งาน Co-Working Space ได้ โดยด้านข้างประตู Clubhouse จะมีทางเดินเชื่อมมายัง Co-Working Space ได้เหมือนกันนั่นเอง
ภายใน Co-Working Space จะมีจัดเป็นโต๊ะยาวรองรับ 8 ที่นั่ง จึงสามารถมานั่งทำงานหรือพูดคุยในบรรยากาศที่ชิลๆขึ้นมาหน่อย รวมถึงยังได้วิวสวนและสระว่ายน้ำของโครงการด้วยค่ะ
สระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำของโครงการเป็นระบบเกลือที่เป็นมิตรต่อผิวหนังของเรา ไม่สร้างความระคายเคืองต่อผิวหรือดวงตาเวลาว่ายน้ำ โดยเป็นสระขนาด 11×25 เมตร ลึก 1.20 เมตร ทำให้สามารถมาว่ายน้ำได้จริงจังเลยค่ะ ซึ่งมีแบ่งเป็นสระเด็กอยู่ด้านข้างด้วย
ทางโครงการออกแบบเป็นสระกลางแจ้งที่แดดจะแรงหน่อยหากมาใช้งานในตอนกลางวัน เราจึงมองว่าเหมาะมาว่ายน้ำเล่นกันในช่วงเช้าและเย็นมากกว่า ส่วนบริเวณด้านข้างสระว่ายน้ำจะมี Pool Bed ให้มานอนเล่นและพื้นที่อาบน้ำล้างตัวอยู่ 2 จุด เพื่อมาอาบน้ำล้างตัวก่อน-หลังว่ายน้ำค่ะ นอกจากนั้นโดยรอบของสระว่ายน้ำจะถูกล้อมด้วยสวนสีเขียว ก็ทำให้ได้วิวสวนขณะว่ายน้ำด้วย
เราพากลับมาบริเวณด้านหลัง Foyer ของ Clubhouse กัน จะมีห้องน้ำที่รองรับวีลแชร์และทางเดินไปยังสระว่ายน้ำที่มีห้องน้ำชาย-หญิงอยู่ด้านข้างทางเดินด้วย
ห้องน้ำนี้ออกแบบตามหลัก Universal Design ที่ดี โดยเป็นประตูบานเลื่อนเปิด-ปิดได้ง่าย และมีความกว้างให้สามารถเข็นวีลแชร์เข้ามาในห้องน้ำได้เลย รวมถึงมีพื้นที่ภายในห้องใหญ่ สามารถหมุนวีลแชร์ได้สะดวก พร้อมติดตั้งราวจับช่วยพยุงเวลาลุก-นั่งด้วย
ด้านข้างของ Foyer จะมีประตูเปิดออกไปยังสระว่ายน้ำได้ โดยออกแบบเป็นทางเดินยาวเชื่อมจาก Foyer ไปยังสระว่ายน้ำที่เราพาไปดูกันมาเมื่อกี้เลย ซึ่งด้านข้างของทางเดินนี้ก็มีห้องน้ำแบ่งฝั่งชาย-หญิง ทำให้คนที่ใช้งานอยู่ใน Clubhouse หรือคนที่มาว่ายน้ำก็สามารถมาใช้งานได้ง่าย โดยเฉพาะคนที่มาว่ายน้ำก็ไม่ต้องเดินเข้าไปทำให้บริเวณภายใน Clubhouse เปียกน้ำด้วยค่ะ
ห้องน้ำใน Clubhouse
ภายในห้องน้ำหญิงออกแบบแบ่งเป็นห้องน้ำ 2 ห้องและห้องอาบน้ำ 2 ห้อง จึงทำให้ลูกบ้านสามารถมาอาบน้ำล้างตัวหลังว่ายน้ำเสร็จได้เรียบร้อยเลย ไม่ต้องกังวลว่าจะมีพื้นที่ให้เก็บกระเป๋าและอุปกรณ์ต่างๆไหม เพราะว่าทางโครงการได้ออกแบบ Locker ไว้ภายในห้องน้ำเลย นอกจากนั้นยังมี Stream Room ด้วย
Stream Room ตั้งอยู่ภายในห้องน้ำของ Clubhouse ให้ลูกบ้านสามารถมานั่งผ่อนคลายความเครียดและฟื้นฟูร่างกายด้วยค่ะ
ต่อมาเราจะพาไปชั้น 2 ของ Clubhouse กันแล้ว โดยก่อนที่จะขึ้นไปตรงด้านข้างบันไดจะมีพื้นที่ให้มานั่งรอรถยนต์มารับกลับบ้านได้ค่ะ
เมื่อขึ้นมาชั้น 2 จะมีพื้นที่ให้นั่งพักผ่อนอีกจุด ให้มานั่งเล่นรอใช้งาน Fitness หรือ Yoga Room ได้ โดยบนชั้นนี้ก็มีห้องของนิติบุคคลไว้คอยดูแลและรักษาความเรียบร้อยภายในส่วนกลางให้ดูสวยงาม น่าใช้งานอยู่เสมอ
Yoga Room จะอยู่ทางฝั่งด้านหน้าของ Clubhouse ทำให้ได้บานหน้าต่างขนาดใหญ่เปิดรับวิวสวนได้กว้าง พื้นที่ภายในห้องก็มีขนาดใหญ่ สามารถเรียกครูสอนโยคะมาเล่นพร้อมกับกลุ่มเพื่อนได้ 5 คนเลยค่ะ นอกจากนั้นยังออกแบบมีกระจกเงาไว้เช็กท่าทางการเล่นโยคะได้ด้วย
Fitness
ทางโครงการได้จัดอุปกรณ์ออกกำลังกายภายใน Fitness มาอย่างครบครันทั้ง Weight Training และ Cardio รวมถึงออกแบบมีหน้าต่างเกือบตลอดแนวห้อง ทำให้สามารถออกกำลังกาย พร้อมชมวิวสวนและสระว่ายน้ำโครงการได้เพลินๆเลยนะคะ
สวนสีเขียว
หลังจากเราพาไปดู Clubhouse กันมาแล้ว เราจะพามาดูสวนสีเขียวขนาดประมาณ 2.5 ไร่ที่อยู่ด้านหน้า Clubhouse กันบ้าง เพราะนอกจากจะเป็นวิวสีเขียวให้กับฟังก์ชันภายใน Clubhouse แล้ว ยังใช้ออกแบบเป็นสนามหญ้าขนาดใหญ่ พาเด็กๆและสัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่นกันได้ พร้อมตกแต่งด้วยต้นไม้เล็ก-ใหญ่ เพื่อให้ร่มเงาขณะมาใช้งานในสวนด้วย รวมถึงมุมนั่งเล่นในสวนหลายจุด ให้มานั่งพักผ่อนในบรรยากาศที่สดชื่น
สนามเด็กเล่น
นอกจากนั้นยังมีสนามเด็กเล่นที่ออกแบบเหมือนอยู่ในเขาวงกตต้นไม้ พร้อมเก้าอี้ให้ผู้ปกครองคอยเฝ้าดูแลเด็กๆอย่างใกล้ชิดค่ะ เราชอบที่พอเป็นเหมือนเขาวงกตก็ทำให้เด็กๆสามารถวิ่งเล่นซ่อนหากันในบริเวณนี้ได้ค่ะ
หลังจากเราพาไปดูส่วนกลางตรงกลางโครงการกันมาแล้ว เราพามาดูพื้นที่ส่วนกลางอีกโซนที่อยู่ด้านในสุดของโครงการกันค่ะ ได้แก่ Sport Park พื้นที่เล่นกีฬาที่ยกสนามแบบ Full Court มาเลยนั่นเอง ซึ่งโซนนี้จะเป็น Active Activities ที่อาจจะมีเสียงดังขณะเล่นกีฬาและใช้งานบ้าง ทางโครงการจึงออกแบบแยกออกมาอยู่โซนด้านหลังที่จะไม่รบกวนโซนบ้านพักอาศัยนั่นเอง
อัฒจันทร์
พอเราเข้ามาภายใน Sport Park จะเจอกับพื้นที่สนามหญ้า ไว้มานั่งปิกนิกหรือทำกิจกรรมต่างๆได้ โดยมีอัฒจันทร์อยู่ 2 ฝั่งของสนามหญ้าไว้นั่งเล่นหรือเชียร์กีฬาได้เลยนั่นเอง อีกทั้งเราชอบที่ออกแบบมีหลังคาคอยบังแดดด้วยนะ ทำให้ลูกบ้านมานั่งใช้งานได้นานขึ้นค่ะ
หลังผ่านตรงโซนอัฒจันทร์เข้าไปด้านในจะเจอกับสนามกีฬา 2 ประเภท ได้แก่ สนามบาสเกตบอลและสนามเทนนิสนั่นเอง ซึ่งทางโครงการออกแบบเป็นสนามกีฬาขนาดมาตรฐานที่เราไม่เคยเห็นในโครงการอื่นมาก่อนเลยนะ เพราะโครงการส่วนใหญ่จะออกแบบเป็นสนามแบบ Half-Court ให้มาเล่นออกกำลังกายกันมากกว่า แต่สนามกีฬาของโครงการนี้คือนอกจากจะมาเล่นกีฬาออกกำลังกายได้แล้ว ยังฝึกซ้อมกีฬาหรือจัดแข่งขันกันแบบจริงจังได้เลยค่ะ
อย่างสนามบาสเกตบอลก็ออกแบบมาตามมาตรฐาน พร้อมตีเส้นสนามมาอย่างชัดเจนและแป้นบาสทั้ง 2 ฝั่ง ให้มาเล่นกับกลุ่มเพื่อนได้จริงจังเลย รวมถึงติดตั้งโคมไฟส่องสว่างทั้ง 2 ฝั่งสนามจึงสามารถมาเล่นบาสเกตบอลกันได้ทั้งวันค่ะ
ถัดเข้าไปจากสนามบาสเกตบอลจะเป็นสนามเทนนิสที่ออกแบบเป็น Full Court ตามมาตรฐานเหมือนกัน พร้อมติดตั้งเน็ตเทนนิสมาเรียบร้อยและโคมไฟ 2 ฝั่งสนามเพื่อมาใช้งานตอนค่ำๆได้ด้วย ลูกบ้านเพียงเตรียมไม้และลูกเทนนิสมาให้พร้อม ก็เริ่มเล่นกันได้เลย
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
- Lobby Lounge
- Private Dining
- Co-Working Space
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 11×25 เมตร ลึก 1.20 เมตร
- Stream Room
- Fitness
- Yoga Room
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ รวมประมาณ 2.5 ไร่
- สนามเด็กเล่น
- สนามบาสเกตบอล
- สนามเทนนิส
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- รั้วรอบโครงการสูง 3-5 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 12-18 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
- Double Security ประตูเข้า-ออกโครงการแบบ 2 ชั้น
- ระบบเข้า-ออกโครงการแบบ Easy Pass
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบเลื่อนไฟฟ้า
- เดินสายไฟร้อยท่อลงดินทั้งโครงการ
แบบบ้าน
Highlight
- โครงการแบรนด์พฤกษ์ภิรมย์ Segment แบรนด์บ้านแนวราบระดับบนสุดของ Q House
- บ้านเดี่ยวหลังใหญ่สุดบนทำเล ที่ดินเริ่มต้น 100-407 ตร.วา และพื้นที่ใช้สอย 292-1,067 ตร.ม.
- พื้นที่แต่ละฟังก์ชันขนาดใหญ่ รองรับการอยู่อาศัยได้ทุก Generation หรือคนที่ห้องการห้องขนาดใหญ่ไว้รองรับกิจกรรมต่างๆได้
- ออกแบบตามหลัก Universal Design มีทั้งทางลาดและห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำในตัว ติดตั้งราวจับและ Emergency Alarm รองรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
- บ้านหลังใหญ่สุดทำโรงจอดรถแยกส่วนในร่ม 7 คันและจอดแบบ Outdoor ได้ 4 คัน ซึ่งโรงจอดรถรองรับการทำลิฟท์จอดรถได้อีกด้วย
- สระว่ายน้ำส่วนตัวในบ้านและ Glasshouse สามารถใช้เป็นมุมนั่งเล่นหรือจัดเลี้ยงสังสรรค์ได้สบาย มีเฉพาะใน 2 แบบบ้านหลังใหญ่
ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกรายละเอียดของ Prukpirom New Ratchaphruek (พฤกษ์ภิรมย์ ราชพฤกษ์-ตัดใหม่) เราอยากเล่าถึงแบรนด์บ้านแนวราบของ Q House ที่โดดเด่นด้านการทำโครงการแนวราบโดยเฉพาะกันสักหน่อย
สำหรับแบรนด์บ้าน Segment เริ่มต้นของ Q House จะเป็นแบรนด์ Q Prime และ Q District ที่เป็นโครงการทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยว ถัดมาจะเป็นบ้านตระกูล Casa ต่างๆอย่างเช่น Casa Ville, Casa Premium, Casa Grand และ Casa Legend เป็นต้น ต่อมาแบรนด์วรารมย์ บ้านเดี่ยวราคา 5-15 ล้านบาท เน้นออกแบบเหมือนได้อยู่บ้านพักตากอากาศที่เมืองนอกมากขึ้น ขยับสูงขึ้นมาเป็นแบรนด์ลัดดารมย์ บ้านเดี่ยวระดับ Upper-High Class ราคาอยู่ที่ 7-30 ล้านบาท และแบรนด์บ้าน Segment บนสุดของ Q House คือ พฤกษ์ภิรมย์ บ้านเดี่ยวหรูหลังใหญ่ มีระดับราคาเริ่มต้น 25 ไปจนถึง 150 ล้านบาทเลยนั่นเอง
Prukpirom New Ratchaphruek (พฤกษ์ภิรมย์ ราชพฤกษ์-ตัดใหม่) จึงเป็นโครงการที่เหมาะสำหรับคนที่มองหาบ้านเดี่ยวหลังใหญ่โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นหลังใหญ่สุดบนทำเล เพราะเป็นบ้านที่มีขนาดที่ดินเริ่มต้น 100-407 ตร.วา และพื้นที่ใช้สอย 292-1,067 ตร.ม. รองรับได้ 4-5 ห้องนอน ที่จำนวนห้องจะไม่ได้ต่างจากโครงการอื่นๆนัก แต่ว่าพื้นที่ใช้สอยในแต่ละฟังก์ชันมีขนาดใหญ่มากๆนั่นเอง
ถึงแม้ที่ตั้งโครงการจะขยับออกมาจากใจกลางเมือง แต่ก็เดินทางได้ง่าย หากเทียบเลือกซื้อบ้านโซนใกล้เมืองก็จะได้บ้านหลังเล็กกว่า หรือเลือกปลูกบ้านเองก็ยังเป็นรองในเรื่องความเป็นหมู่บ้านทั้งระบบรักษาความปลอดภัย สังคมเพื่อนบ้าน ความสงบและความเป็นส่วนตัวสูง รวมถึงมีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานและเป็นหน้าตาของลูกบ้านด้วย
ตัวโครงการจะออกแบบในสไตล์ Neo Classic ที่มีการลดทอนรายละเอียดความคลาสสิกให้ดูเรียบง่ายและทันสมัยมากขึ้น โดยเน้นการใช้สีขาว-เทาเข้ม พร้อมหน้าต่างทรงสูง เน้นด้วยกรอบหน้าต่างสีดำ โดยจะเห็นได้ตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าโครงการไปจนถึงตัวบ้านเลยนั่นเอง แบบบ้านในโครงการมีให้เลือกทั้งหมด 6 แบบบ้าน ได้แก่
- Nicolette (นิโกเลตต์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 292 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน - Grand Didier (แกรนด์ดิดิเย่ร์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 144 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 411 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน - Grand Nanette (แกรนด์นาแนตต์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 202.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 488 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / รองรับ 8 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน - Lutin (ลูติน) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 222 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 583 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / โรงจอดรถแยกส่วน 6 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน - Grand Juliette (แกรนด์จูเลียตต์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 341 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 765 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / โรงจอดรถแยกส่วน 7 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน / สระว่ายน้ำส่วนตัว / Glasshouse - Laurent (โลร็อง) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 392.5-407 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 1,067 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / โรงจอดรถแยกส่วน 7 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน / สระว่ายน้ำส่วนตัว / Glasshouse
โครงสร้างและวัสดุภายในบ้าน
- โครงสร้างแบบ Conventional ผนังก่ออิฐฉาบปูน
- โครงสร้างที่จอดรถ Slab on Beam ลงเสาเข็ม ปูกระเบื้องลายคอนกรีตแสตมป์
- ประตูรั้วหน้าบ้าน : ประตูโครงเหล็กบานเลื่อนไฟฟ้า ทำสีดำ
- พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 80×80 เซนติเมตร
– พื้นที่ Common Area และ Terrace : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 80×80 เซนติเมตร
– ห้องครัว : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร
– ลานซักล้าง : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 40×40 เซนติเมตร
– ห้องนอนชั้นล่าง : Absorption Floor ลายไม้ - พื้นชั้น 2 : พื้นไม้สัก
- พื้นของ Powder Room และห้องน้ำ : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร
- Pantry ทำ Built-in เคาน์เตอร์ครัว พร้อมบานปิดหน้าตู้ด้านล่างและด้านบน, อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า 4 หัวและ Hood จาก TEKA
- ห้องครัว ก่อเคาน์เตอร์ครัวปูน พร้อมบานปิดหน้าตู้ด้านล่าง
- สุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดจาก American Standard
- บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมราวจับบันไดโครงเหล็กอิตาลี Wrought Iron
- ไฟ LED แบบดาวน์ไลท์
- จัดสวนตามมาตรฐานโครงการ โดยปูสนามหญ้า ลงไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่มาให้
เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยในบ้าน
- Digital Door Lock จาก ARTANI จำนวน 1 ตัวที่ประตูทางเข้าของบ้านทุกหลัง
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
- Video Door Phone เชื่อมต่อกับป้อม รปภ.
- Video Door Bell กริ่งพร้อมกล้องที่ประตูรั้วหน้าบ้าน
- IP Camera 2 จุด ทั้งบริเวณที่จอดรถและ Common Area
- Emergency Switch บริเวณห้องนอนชั้นล่างและห้องน้ำในตัว
- Home Automation ตั้งเวลาเปิด-ปิดไฟและแอร์ภายในบ้าน
- ติดตั้งม่านไฟฟ้า บริเวณ Glasshouse (เฉพาะแบบบ้าน Grand Juliette และ Laurent)
- มี Junction Box รองรับการติดตั้ง EV Charger
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
วันนี้เราได้เก็บภาพบรรยากาศของบ้านตัวอย่างทั้ง Lutin (ลูติน) บ้านหลังกลางของโครงการและ Laurent (โลร็อง) ที่เป็นบ้านหลังใหญ่สุดบนทำเลราชพฤกษ์มาให้ชมกัน
Laurent (โลร็อง) วันนี้เราพามาดู Laurent (โลร็อง) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 392.5-407 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 1,067 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / โรงจอดรถแยกส่วน 7 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน / สระว่ายน้ำส่วนตัว / Glasshouse ซึ่งบ้านตัวอย่างเป็นบ้านหลังใหญ่ที่ดินกว่า 1 ไร่ ที่ไม่ใช่แค่แบบบ้านหลังใหญ่สุดในโครงการนี้เท่านั้น แต่ยังเป็นบ้านที่มีขนาดใหญ่สุดบนทำเลราชพฤกษ์อีกด้วย
สำหรับเราที่เคยไปรีวิวมาหลายโครงการแล้ว แต่ยังไม่เคยเจอบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลยค่ะ ทำให้จุดเด่นของที่นี่คือพื้นที่แต่ละฟังก์ชันมีขนาดใหญ่รองรับการอยู่อาศัยของทุก Generation และอยู่ตั้งแต่เด็กถึงตอนโตได้สบายๆ หรือสำหรับคนที่มีสมาชิกในบ้านไม่เยอะ ก็มีพื้นที่ขนาดใหญ่ในการรองรับกิจกรรมอื่นๆนั่นเอง นอกจากนั้นยังมี สระว่ายน้ำส่วนตัวและ Glasshouse ที่เป็นฟังก์ชันให้มาใช้งานเป็นพื้นที่นั่งเล่นหรือปาร์ตี้ได้ด้วย
ประตูรั้วหน้าบ้านตัวอย่างเป็นประตูเหล็กรางเลื่อนไฟฟ้าทำสีดำ เมื่อขับเข้ามาจะเจอกับพื้นที่จอดรถขนาดใหญ่ โดยมีโรงจอดรถแยกส่วนอยู่ฝั่งซ้าย ส่วนพื้นที่ว่างตรงกลางนี้ก็ใช้เป็นพื้นที่จอดรถของครอบครัวได้เหมือนกัน แต่จะเป็นการจอดรถกลางแจ้งนะคะ จึงเหมาะกับการจอดแบบชั่วคราวอย่างรถของเพื่อนหรือแขกที่มาเยี่ยมมากกว่า สามารถจอดรถ 4 คันได้สบายๆเลยค่ะ
พื้นที่จอดรถในร่ม
พื้นที่จอดรถในร่มของแบบบ้านนี้จะออกแบบเป็นรูปตัว L สามารถจอดรถได้มากถึง 7 คัน โดยโครงสร้างที่จอดรถเป็นแบบ Slab on Beam ลงเสาเข็ม ทำคอนกรีตแสตมป์ ดูสวยงาม อีกทั้งยังทำหลังคาโรงจอดรถสูง เพื่อรองรับกับการติดตั้ง Stacked Parking ได้ด้วย ก็จะทำให้จอดรถในร่มได้มากถึง 14 คันเลยนั่นเอง ส่วนด้านข้างของพื้นที่จอดรถนี้จะมี Junction Box รองรับการติดตั้ง EV Charger ได้ด้วยนะ
บริเวณด้านข้างของพื้นที่จอดรถจะมีตู้เก็บของ 3 จุด ทำให้เราสามารถเก็บอุปกรณ์เกี่ยวกับรถยนต์หรือทำสวนได้สะดวก รวมถึงพอออกแบบมีตั้ง 3 ตู้ เราก็แบ่งเก็บอุปกรณ์แต่ละประเภทแบบแยกตู้ได้เลย ไม่ต้องวางปะปนกัน เวลาหยิบใช้งานก็ง่ายด้วย ซึ่งพื้นที่เก็บของนี้จะอยู่ด้านหลังของห้องแม่บ้านนั่นเอง
โซนแม่บ้าน
โซนแม่บ้านจะถูกออกแบบแยกจากตัวบ้านเลย ทำให้อยู่อาศัยภายในบ้านได้อย่างเป็นส่วนตัวดี ซึ่งห้องแม่บ้านจะมีอยู่ 2 ห้อง และห้องน้ำ 1 ห้องให้แม่บ้านใช้งานร่วมกันค่ะ
โซนแม่บ้านที่เราพาไปดูกันเมื่อกี้จะอยู่ทางฝั่งซ้ายของภาพนะคะ ถึงแม้จะออกแบบโซนแม่บ้านแยกออกมาจากตัวบ้าน แต่ทางแม่บ้านก็สามารถเดินไปทำอาหาร ทำความสะอาดภายในบ้านได้สะดวก เพราะเดินมาทางฝั่งขวาที่เป็นบริเวณลานซักล้างเชื่อมต่อกับห้องครัวได้เลยนั่นเอง
ทางโครงการออกแบบเป็นทางลาดจากพื้นที่จอดรถมาตรงเฉลียงหน้าบ้านและมีทางลาดอีกจุดตรงประตูทางเข้ารอง ซึ่งเป็นการออกแบบตามหลัก Universal Design ที่ดี ทำให้สามารถเข็นวีลแชร์ รถเข็นเด็กหรือกระเป๋าเดินทางได้สะดวกเลย
บริเวณพื้นที่เฉลียงหน้าบ้านมีขนาดใหญ่ ออกแบบเป็นฝ้าเพดานสูงด้วย ทำให้ได้ความโอ่อ่า ซึ่งนอกจากจะสร้างความประทับใจแรกที่ดีแล้ว ยังทำให้เราสามารถพาคุณปู่ คุณย่าที่นั่งวีลแชร์มานั่งชมสวนด้านหน้าบ้านได้เหมือนกัน จะได้ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ภายในบ้านค่ะ โดยมีประตูทางเข้าบ้านจะมีทั้งหมด 2 จุดนะคะ
ประตูทางเข้ารอง จะออกแบบมีทางลาดอยู่ตรงด้านหน้าประตูเลย ซึ่งบานประตูที่เว้นช่องกระจก ให้แสงส่องเข้าไปภายในบ้านได้ รวมถึงคนด้านในก็มองเห็นด้านนอกด้วย โดยประตูนี้จะติดตั้ง Digital Door Lock จาก ARTANI มาให้ด้วย ทำให้เวลาเราทำงาน บินกลับมาจากต่างประเทศหรือไปสังสรรค์จนดึก ก็สามารถเข้าบ้านจากทางนี้ได้สะดวกดี
บริเวณประตูทางเข้าหลักจะมีพื้นที่เฉลียงกว้าง พร้อมบันไดเดินลงไปพื้นที่สวนด้านหน้าบ้านได้เลย เวลาเราเปิดประตูออกจากบ้านก็จะเจอกับพื้นที่สีเขียว ได้บรรยากาศสดชื่น
พื้นที่สวนรอบบ้าน
ทางโครงการได้จัดสวนตามมาตรฐานทั้งปูสนามหญ้า ลงไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่มาให้เรียบร้อยแล้ว แต่เราสามารถปลูกต้นไม้ตามแนวรั้วเพื่อพรางสายตาจากด้านนอก ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วย ซึ่งทางโครงการก็ออกแบบสวนหน้าบ้านขนาดใหญ่ มีระยะห่างจากถนนหน้าบ้านด้วย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงรบกวนหรือกลิ่นควันจากรถยนต์เลยค่ะ นอกจากนั้นทำให้มีพื้นที่สำหรับเด็กๆมาวิ่งเล่นหรือพาสัตว์เลี้ยงวิ่งรอบบ้านได้ทั้งวัน อีกทั้งสามารถต่อเติมพื้นที่ได้ด้วยนะอย่างบ้านตัวอย่างก็ทำเป็นมุมนั่งเล่นในสวน จัดปาร์ตี้ปิ้งย่างกันได้เลย
ประตูทางเข้าบ้าน มีเว้นช่องกระจกไว้บางส่วน รวมถึงออกแบบเป็นช่องกระจกล้อมประตูอีกชั้น ทำให้ไม่ดูเรียบจนเกินไปและช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในบ้านด้วย รวมถึงเลือกใช้เป็นกระจกที่มีความขุ่นขึ้นมา ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวดีค่ะ
เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยในบ้านก็ให้มาแบบจัดเต็มเลยนะคะ ได้แก่ สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง, Video Door Phone เชื่อมต่อกับป้อม รปภ. เวลามีแขกมาเยี่ยม, Video Door Bell กริ่งพร้อมกล้องที่ประตูรั้วหน้าบ้าน, IP Camera 2 จุด ทั้งบริเวณที่จอดรถและ Common Area, Emergency Switch บริเวณห้องนอนชั้นล่างและห้องน้ำในตัว และ Home Automation ตั้งเวลาเปิด-ปิดไฟและแอร์ภายในบ้าน
เมื่อเข้ามาภายในบ้านจะเจอกับ Foyer ที่ออกแบบเป็น Double Volume ฝ้าเพดานสูง ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งสบายตั้งแต่เข้าบ้านมาเลย
Common Area
พื้นที่ชั้น 1 ออกแบบเป็น Open Plan พื้นที่เชื่อมต่อเนื่องกันขนาดใหญ่ โดยพื้นที่พักผ่อนต่างๆจะอยู่ทางฝั่งขวา และฝั่งซ้ายจะเป็นห้องนอนชั้นล่างและโซนห้องครัวนั่นเอง รวมถึงปูพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 80×80 เซนติเมตร และใช้วัสดุตกแต่งบ้านเป็นสีขาว จึงได้บรรยากาศภายในบ้านดูสว่าง สบายตาดี
Common Area
พื้นที่ภายในบ้านมีขนาดใหญ่มากๆ สามารถจัดมุมนั่งพักผ่อนได้หลายมุมเลยค่ะ อย่างบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งพื้นที่ด้านข้าง Foyer เป็นจุด Attraction ที่สวยงามด้วยแจกันที่ตกแต่งดอกไม้ เพิ่มสีสันภายในบ้าน ถัดมาจะเป็นพื้นที่นั่งรับแขก จัดโต๊ะและโซฟา 3 จุดได้สบายๆ พร้อมหน้าต่างกระจกรับแสง วิวสวนหน้าบ้านและสระว่ายน้ำส่วนตัวด้วย
นอกจากนั้นยังมีพื้นที่นั่งพักผ่อนแบบเป็นกันเองขึ้นมาอีกหน่อยอยู่ตรงข้ามกับ Foyer และติดกับมุม Pantry จึงทำให้นั่งพูดคุยพร้อมมีขนมทานเล่นและจิบชาได้ด้วยนั่นเอง โดยบริเวณนี้จะออกแบบเป็นกระจกเข้ามุม เปิดรับวิวด้วย ทำให้เวลาเดินเข้าบ้านมาก็จะได้วิวสวนสีเขียวในมุมกว้างนั่นเอง
พื้นที่รับประทานอาหาร
พื้นที่รับประทานอาหารอยู่ถัดจาก Pantry และพื้นที่นั่งเล่น โดยเราสามารถตกแต่งเหมือนบ้านตัวอย่างได้เลยค่ะ ตั้งเป็นโต๊ะแนวยาวรองรับ 12 ที่นั่งได้สบาย มีพื้นที่รอบโต๊ะกว้าง สำหรับใครที่มีญาติหรือแขกที่มาร่วมรับประทานอาหารร่วมกันบ่อยๆ ก็สามารถตั้งโต๊ะยาวกว่านี้ได้อีกนะคะ
พื้นที่ Connecting Glasshouse จะอยู่ระหว่าง พื้นที่รับประทานอาหารและ Glasshouse เหมาะทำเป็นมุมนั่งเล่นในครอบครัวหรือเพื่อนสนิท เพราะจะมีระยะห่างจากโซนต้อนรับแขกแล้ว รวมถึงได้ช่องแสงมาจากทั้งด้านหน้าและหลัง เปิดรับวิวสวนและสระว่ายน้ำด้วยนั่นเอง ซึ่งเราสามารถเปิดประตู เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำได้เลย ทำให้คุณพ่อ คุณแม่และกลุ่มเพื่อนมานั่งพูดคุยกันบริเวณนี้ แต่ยังมองเห็นและดูแลเด็กๆที่เล่นน้ำตรงสระว่ายน้ำได้นั่นเอง
สระว่ายน้ำส่วนตัว
สระว่ายน้ำส่วนตัว ทำให้เด็กๆมาว่ายน้ำเล่นได้ ส่วนบริเวณด้านข้างสระก็มีพื้นที่ให้ตั้ง Pool Bed หรือโต๊ะนั่งเล่นกลางแจ้ง รวมถึงเรายังใช้พื้นที่นี้จัด Pool Party พาเพื่อนๆมาสังสรรค์กันได้ด้วยนะ หากอยากได้ความเป็นส่วนตัวขึ้นมาอีก ก็ปลูกต้นไม้สูงล้อมสระได้นั่นเอง
บริเวณพื้นที่ Connecting Glasshouse จะมีพื้นที่ทำมุม Panrty ได้อีกจุดนะ ซึ่งเราว่าก็ดีเหมือนกัน เพราะเวลานั่งพักผ่อนหรืออยู่ใน Glasshouse แล้วอยากดื่มน้ำหรือขนมทานเล่น ก็ไม่ต้องเดินไปไหนไกล สามารถหยิบขนมหรือชงเครื่องดื่มตรงนี้ได้เลยค่ะ ส่วนห้องน้ำก็มีอยู่ใกล้ๆด้วย ใช้งานได้สะดวกดีเลย
ห้องน้ำตรง Connecting Glasshouse
ห้องน้ำตรง Connecting Glasshouse ออกแบบแบ่งโซนแห้ง-เปียกชัดเจน เคาน์เตอร์อ่างล้างมือออกแบบมีช่องเก็บอุปกรณ์ของใช้ในห้องน้ำได้ เลือกใช้สุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดจาก American Standard พร้อมพื้นที่ยืนอาบน้ำได้สะดวก เราชอบที่ออกแบบมีพื้นที่อาบน้ำไว้ด้วย เพราะเวลาว่ายน้ำเสร็จแล้ว ก็สามารถมาอาบน้ำได้สะดวก ไม่ต้องเดินไปเข้าห้องน้ำไกลและบริเวณอื่นภายในบ้านจะได้ไม่เลอะน้ำด้วยค่ะ
พื้นที่ Glasshouse ขนาดใหญ่ โดยทางบ้านตัวอย่างได้แบ่งตกแต่งฝั่งด้านหลังเป็นพื้นที่ดูหนัง และฝั่งด้านหน้าที่ออกแบบเป็น Glasshouse
Glasshouse
เรามาเริ่มตรงส่วน Glasshouse กันก่อนเลย โดยออกแบบเป็นหลังคาสูง ประกอบกับกระจกรอบด้าน ทำให้เปิดรับแสงธรรมชาติและวิวสวนรอบบ้านได้กว้าง เหมาะจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นชิลๆ จิบชาและขนมทานเล่นในบรรยากาศสบายๆ รวมถึงเสริมด้วยต้นไม้ ดอกไม้ก็ดีเหมือนกัน ช่วยเพิ่มสีสันภายในบ้านได้ดี นอกจากนั้นทางบ้านตัวอย่างได้ติดตั้งม่านไฟฟ้าตรงหลังคา Glasshouse มาให้เรียบร้อยเลยนะคะ จึงทำให้ใช้งานได้ง่ายดีค่ะ
พื้นที่ดูหนังใน Glasshouse
ฝั่งด้านหลัง Glasshouse ของบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งเป็นพื้นที่ดูหนังให้เป็นไอเดียไปตกแต่งตามกันได้ โดยติดตั้งเป็นม่านไฟฟ้ากั้นแบ่งกับโซนนั่งเล่นฝั่งด้านหน้าที่เราพาไปดูเมื่อกี้ ทำให้ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในโรงหนังเลย และมีจอ Projector ที่เลื่อนเก็บขึ้น-ลงได้ แต่สำหรับใครที่เป็นสายปาร์ตี้ ก็ใช้พื้นที่ Glasshouse นี้เป็นพื้นที่ชวนเพื่อนมาสังสรรค์กันได้ทั้งตอนกลางวันและกลางคืน
หลังจากเราพาไปดูฝั่งขวาของบ้านแล้ว เราพากลับมาตรงประตูทางเข้ารองกันค่ะ พอเราเข้าบ้านมาจะเจอกับ Foyer เล็กๆอีกจุด ซึ่งด้านข้างประตูทางเข้ารองจะมีห้องเก็บของ ใส่พวกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ได้เลย ทำให้เราเก็บของได้เป็นระเบียบเรียบร้อยดีด้วย ส่วนอีกฝั่งจะเป็น Shoes Room ค่ะ
Shoes Room ห้องเก็บรองเท้าของบ้านตัวอย่างได้ Built-in ชั้นวางรองเท้ามาให้แบบนี้เลยนะคะ เก็บรองเท้าได้เป็นร้อยคู่เลยนะ จะอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่หรือเป็นนักสะสมรองเท้าก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีที่วางรองเท้าแล้วค่ะ
ถัดจากโซน Foyer ของประตูทางเข้ารองมา จะเป็นห้องนอนชั้นล่างและ Powder Room พอมองแบบนี้แล้วจะเห็นเลยว่าประตูของห้องนอนชั้นล่างมีขนาดใหญ่อย่างเห็นได้ชัดเลยนะคะ เพราะว่าทางโครงการออกแบบมาให้เข็นวีลแชร์เข้าห้องได้เลยนั่นเอง ข้อดีอีกอย่างของห้องนอนที่ใกล้ประตูทางเข้า-ออกคือหากมีเรื่องฉุกเฉินก็สามารถเข็นวีลแชร์ออกไปขึ้นรถยนต์ได้ง่ายนั่นเอง
Powder Room
เราขอพามาที่ Powder Room กันก่อนนะ สำหรับ Powder Room จะเป็นห้องน้ำรองรับแขกที่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำนั่นเอง โดยออกแบบเคาน์เตอร์อ่างล้างมือแบบมีพื้นที่เก็บของด้านล่างด้วย ส่วนสุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดจาก American Standard และโถสุขภัณฑ์เป็นแบบอัตโนมัติใช้งานได้สะดวกค่ะ
ห้องนอนชั้นล่าง
ห้องนอนชั้นล่างออกแบบมาเพื่อรองรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ เพราะนอกจากประตูขนาดใหญ่ให้เข็นวีลแชร์เข้ามาได้แล้ว ยังปูพื้นเป็น Absorption Floor ช่วยลดแรงกระแทกเวลาเดินหรือหกล้มได้ค่ะ พื้นที่ภายในห้องมีขนาดใหญ่เลย วางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ หรือจะวางเป็นเตียงเดี่ยว 2 เตียงสำหรับคุณปู่ คุณย่าก็ได้เหมือนกัน มีพื้นที่ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะได้ นอกจากนั้นยังได้ช่องแสง 2 ฝั่ง ทำให้บรรยากาศภายในห้องโปร่งสบายดี รวมถึงติดตั้ง Emergency Switch กริ่งขอความช่วยเหลือเวลาต้องการอะไรหรือเกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถกดกริ่งนี้ได้เลย
ห้องน้ำในห้องนอนชั้นล่าง
ห้องน้ำของห้องนอนชั้นล่างก็ออกแบบมารองรับการใช้วีลแชร์เหมือนกัน โดยเป็นประตูบานเลื่อนเปิด-ปิดได้ง่าย ออกแบบเป็นพื้นระดับเดียวกันทั้งหมด จึงไม่ต้องระวังเรื่องการสะดุดล้ม พร้อมออกแบบ Floor Drain เรียบๆ มาให้ กันน้ำย้อนไปยังพื้นบ้านส่วนอื่นด้วย
ภายในห้องน้ำออกแบบแบ่งโซนแห้ง-เปียกไว้ชัดเจน โดยมีก่อกำแพงกั้นตรงบริเวณพื้นที่อาบน้ำไม่ให้น้ำกระเด็นมาเลอะบริเวณอื่น และเลือกใช้สุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดจาก American Standard ที่มีความโค้งมน รวมถึงติดตั้งราวจับด้านข้าง เพื่อช่วยพยุงเวลาลุก-นั่งด้วยค่ะ นอกจากนั้นได้ติดตั้ง Emergency Switch มาให้ในห้องน้ำเหมือนกันนะคะ
Pantry
มุม Pantry จะอยู่ติดกับพื้นที่นั่งเล่น สำหรับจัดเสิร์ฟน้ำและขนมได้ง่ายๆ ซึ่งทางโครงการได้ Built-in เคาน์เตอร์ครัว พร้อมบานปิดหน้าตู้ด้านล่างและด้านบนมาให้จึงจัดเก็บอุปกรณ์ได้เยอะเลย รวมถึงเว้นพื้นที่สำหรับตั้งตู้เย็นและติดตั้งอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า 4 หัวและ Hood จาก TEKA มาให้ด้วยค่ะ แต่ถ้าเป็นบ้านของครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกภายในบ้านเยอะ ก็สามารถกั้นรวมกับห้องครัวเป็นห้องครัวขนาดใหญ่เลยก็ได้เหมือนกันนะ
ถัดจากมุม Pantry เป็นห้องครัวแบบปิด จึงทำอาหารได้จริงจังเลย โดยทางโครงการได้ก่อเคาน์เตอร์ครัวปูน พร้อมบานปิดหน้าตู้ด้านล่างมาให้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเราสามารถซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มอีกเล็กน้อย และห้องครัวนี้จะมีประตูเปิดออกไปยังลานซักล้างค่ะ
พื้นที่ลานซักล้าง
พื้นที่ลานซักล้างนี้จะอยู่ติดกับห้องครัวเลยนะคะ เป็นพื้นที่ตั้งเครื่องซักผ้า ตากผ้าได้สบาย รวมถึงมีพื้นที่อ่างล้างมือตรงลานซักล้างเลย แม่บ้านจึงสามารถใช้งาน ล้างมือตรงบริเวณนี้โดยไม่ต้องเข้าไปในบ้านด้วย ซึ่งเราไม่ค่อยเห็นในโครงการอื่นๆเลยนะ เป็นอีกฟังก์ชันที่เราชอบเลยค่ะ รวมถึงลานซักล้างนี้อยู่ใกล้กับโซนแม่บ้าน ทำให้แม่บ้านมาทำงาน อำนวยความสะดวกในบ้านได้ง่าย
นอกจากนั้นเราชอบประตูหลังบ้านของบ้านตัวอย่างมาจาก TOSTEM สามารถเลื่อนบานกระจกขึ้น-ลงได้ พร้อมติดมุ้งลวดกันแมลงไว้เรียบร้อยเลย ทำให้แม่บ้านเปิดกระจกเพื่อระบายกลิ่นอาหารภายในห้องครัวและรับลมได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแมลงจะบินเข้ามาในบ้านนั่นเอง แแล้วพอตอนกลางคืนก็เลื่อนกระจกปิดได้เหมือนเดิมค่ะ
โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความแข็งแรง เวลาเดินขึ้น-ลงไม่เกิดเสียงดังรบกวน พร้อมราวจับบันไดเป็นโครงเหล็กอิตาลี Wrought Iron นอกจากนั้นตรงโถงบันไดมีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติ ทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูสว่าง โปร่งโล่งมากๆ หรือจะติดตั้งโคมไฟระย้าก็ดูสวยงามดีค่ะ
เมื่อขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับ Family Area ขนาดใหญ่ ใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นของคนในครอบครัวได้เลย จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้หลายชิ้น รวมถึงตั้งบาร์ขนมและเครื่องดื่มได้ด้วยเหมือนกัน เวลาตอนดึกๆจะได้ไม่ต้องเดินลงไปชั้นล่างค่ะ
บริเวณด้านหน้าห้อง Master Bedroom ก็มีพื้นที่ว่างทำมุมออกกำลังกายเหมือนบ้านตัวอย่างได้เลยนะคะ
ประตูของ Master Bedroom เป็นประตูบานใหญ่เปิดได้ 2 ฝั่ง ทำให้เปิดได้กว้างเลย รวมถึงยังทำให้ได้ความโอ่อ่าดีค่ะ
Master Bedroom
Master Bedroom มีขนาดใหญ่ประมาณครึ่งหนึ่งของชั้น 2 เลยค่ะ โดยพื้นที่ภายในห้องที่นอกจากจะตั้งเตียง 6 ฟุตได้แบบสบายๆแล้ว ยังมีพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ในห้องได้อีกด้วย ทำให้มีพื้นที่พักผ่อนดูหนัง ดูข่าวก่อนเข้านอนได้ค่ะ อีกอย่างที่เราชอบคือตำแหน่งของห้องนอนนี้จะมองออกไปด้านข้างจะเห็นวิวสระว่ายน้ำ สวนสีเขียวและ Glasshouse ซึ่งเป็นวิวที่สวยมากๆเลย รวมถึงบ้านตัวอย่างหลังนี้อยู่ตำแหน่งใกล้พื้นที่ส่วนกลาง ทำให้ได้วิวสวนสีเขียวของส่วนกลางเพิ่มมาอีก ทำให้เรายืมชมวิว ฮีลใจได้ดีเลย
นอกจากนั้นยังมีประตูเชื่อมไปยังโซน Walk-in Closet และห้องน้ำที่เดี๋ยวเราจะพาไปดูกันต่อนะ ตอนนี้เราขอมาดูระเบียงส่วนตัวของ Master Bedroom กันก่อน โดยจะมีประตูบานเลื่อนอยู่ใกล้ๆกับ Walk-in Closet เปิดออกไปยังระเบียงส่วนตัวได้ ออกแบบเป็นระเบียงขนาดใหญ่ให้เราตั้งโต๊ะเก้าอี้ได้สบายๆ ทำให้เปลี่ยนบรรยากาศมานั่งเล่นรับลมตรงนี้ก็ดีเหมือนกัน รวมถึงชมวิวสวนและสระว่ายน้ำด้วย
Walk-in Closet
Walk-in Closet ของ Master Bedroom มีขนาดใหญ่มากๆ ถูกใจคนที่มีเสื้อผ้าเยอะหรือสายแฟชั่นแน่นอนค่ะ สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้เป็นรูปตัว U พร้อม Island เก็บเครื่องประดับตั้งอยู่ตรงกลางห้องได้ มีพื้นที่เดินรอบกว้าง รวมถึงยังมีมุมนั่งลองเสื้อผ้าและเครื่องประดับได้ด้วยนะ
นอกจากนั้นโซน Walk-in Closet ของ Master Bedroom จะเชื่อมต่อกับ Master Bathroom แบบไม่มีประตูหรือกำแพงกั้น ดังนั้นใครที่อยากได้ความเป็นสัดส่วนมากขึ้น ก็สามารถกั้นประตูเพิ่มเองได้นะ ซึ่งทางบ้านตัวอย่างได้ Built-in โต๊ะแต่งหน้าและอ่างล้างหน้ามาแบบนี้เลย
Master Bathroom
Master Bathroom ก็มีสเกลขนาดใหญ่เหมือนกัน โดยทางบ้านตัวอย่างได้ Built-in อ่างล้างมืออยู่ด้านหลังของโต๊ะแต่งหน้านะคะ ภายในห้องห้องน้ำก็ออกแบบแบ่งฝั่งโซนโถสุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำที่ติดตั้งฝักบัวทั้ง Hand และ Rain Shower อยู่คนละฝั่ง โดยสุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดมาจาก American Standard นะคะ
Glasshouse ใน Master Bathroom
อีกฝั่งของ Master Bathroom จะเป็น Glasshouse พร้อม Jacuzzi ให้มานั่งแช่น้ำผ่อนคลายพร้อมกันได้ นอกจากนั้นยังมีพื้นที่อาบน้ำแบบ Outdoor Shower ซึ่งถือเป็นฟังก์ชัน Signature ของทาง Q House เลยนะคะ ให้เปลี่ยนบรรยากาศการอาบน้ำได้ รวมถึงจะตั้งต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวตรง Outdoor Shower ก็ดีเหมือนกัน เวลานั่งแช่น้ำใน Jacuzzi ก็ได้วิวสีเขียว ช่วยให้ผ่อนคลายดีค่ะ
เราพามาดูอีกฝั่งของบ้านกันต่อนะ จะเป็นห้องนอนรอง 3 ห้อง ซึ่งห้องนอนรองแต่ละห้องมีขนาดใหญ่มากเลยนะ เหมือนกับได้ Master Bedroom ของโครงการอื่นๆ ทำให้ลูกๆสามารถอยู่ตั้งแต่เด็กจนถึงโตได้เลย หรือใครที่ไม่ได้ใช้เป็นห้องนอนทั้งหมด ก็ยังใช้เป็นห้องรองรับกิจกรรมอื่นๆได้ด้วย
ห้องนอนรอง 1
ห้องนอนรอง 1 เป็นห้องนอนที่อยู่ฝั่งด้านหน้าบ้านและเป็นห้องนอนรองที่มีขนาดใหญ่สุดค่ะ ภายในห้องวางเตียง 6 ฟุตและมีพื้นที่นั่งเล่นในห้องได้สบายๆ ให้ลูกสาวพาเพื่อนๆมานั่งพูดคุยกันในห้องได้เลย รวมถึงมีระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ ให้ทำเป็นมุมนั่งเล่นรับลมได้ด้วย ส่วนฝั่งประตูเข้าห้องก็สามารถจัดเป็นโซน Walk-in Closet พร้อมโต๊ะแต่งหน้าได้สบายๆ
ห้องน้ำในห้องนอนรอง 1
ห้องน้ำในห้องนอนรอง 1 ก็มีการออกแบบแยกโซนแห้ง-เปียกเป็นสัดส่วนชัดเจน เลือกใช้สุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดจาก American Standard รวมถึงมีห้องน้ำชมสวนแบบ Outdoor Shower ที่เป็นฟังก์ชัน Signature ของทาง Q House ที่มีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนรองอื่นๆเลยนะ ทำให้เราจัดต้นไม้ตรงบริเวณนี้ได้เยอะดีค่ะ
ห้องนอนรอง 2
ห้องนอนรอง 2 จะตกแต่งเป็นห้องของลูกชาย มีพื้นที่วางเตียง โต๊ะและตู้เสื้อผ้าได้สบายๆ แต่ห้องนี้มีจุดเด่นที่ระเบียงขนาดใหญ่ ทำมุมนั่งเล่นตรงระเบียงนี้ได้เลย หรือใช้เป็นมุมของสัตว์เลี้ยงได้ด้วย
สำหรับห้องน้ำของห้องนี้ก็ออกแบบเหมือนห้องน้ำอื่นๆเลย สุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดจาก American Standard และมีห้องน้ำชมสวนแบบ Outdoor Shower ที่เราได้พื้นที่อาบน้ำเพิ่มขึ้นมา แต่จริงๆแล้วยังได้ในเรื่องการระบายอากาศ ลดความชื้นและเชื้อราในห้องน้ำด้วยการออกแบบเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ทำให้ได้แดดที่ส่องเข้ามาในห้องน้ำมากกว่าหน้าต่างแบบบานกระทุ้งในห้องน้ำทั่วไปนั่นเองค่ะ
ห้องนอนรอง 3
ห้องนอนรอง 3 มีพื้นที่ภายในห้องใหญ่เหมือนห้องนอนรอง 2 เลย จัดวางเตียง 6 ฟุต ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะได้สบาย แตกต่างกันที่จะไม่มีระเบียงส่วนตัวนั่นเอง เพราะเป็นห้องที่อยู่ฝั่งด้านหลังบ้าน ส่วนห้องน้ำก็ออกแบบเหมือนห้องน้ำอื่นๆ เลือกใช้สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจาก American Standard ทั้งหมด พร้อมห้องน้ำชมสวนแบบ Outdoor Shower ให้ใช้งานได้ด้วย
Lutin (ลูติน) ต่อมาเราพามาดู Lutin (ลูติน) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 222 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 583 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / โรงจอดรถแยกส่วน 6 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน ซึ่งเป็นแบบบ้านที่ปรับดีไซน์ใหม่ ถือเป็นแบบบ้านเริ่มต้นที่ได้โรงจอดรถแยกส่วนและห้องแม่บ้าน 2 ห้อง ทำให้โดดเด่นด้วยตัวบ้านหน้ากว้าง ได้ความเป็นส่วนตัวเพราะออกแบบแยกโซนจอดรถและแม่บ้าน รวมถึงยังได้พื้นที่ในแต่ละฟังก์ชันขนาดใหญ่ค่ะ
หากเราลองดูเฉพาะตัวเลขขนาดที่ดินและพื้นที่ใช้สอยของ Lutin (ลูติน) จะเห็นว่าแบบบ้านนี้มีขนาดเล็กกว่าแบบบ้าน Laurent (โลร็อง) เกือบครึ่งนึงเลย แต่เป็นเพราะเราเทียบกับบ้านหลังใหญ่สุดในโครงการนี้นั่นเอง หากเราลองเทียบแบบบ้านนี้กับบ้านในโครงการอื่นๆก็ถือว่าเป็นบ้านหลังใหญ่มากๆอยู่ดี เพราะมีขนาดที่ดินมากกว่า 200 ตร.วาและพื้นที่ใช้สอยเกือบ 600 ตร.ม.เลยนั่นเอง
ประตูรั้วหน้าบ้านเป็นประตูเหล็กรางเลื่อนไฟฟ้าทำสีดำ เมื่อเข้ามาจะเจอโรงจอดรถแยกส่วนอยู่ฝั่งซ้าย ส่วนพื้นที่ตรงกลางไว้สำหรับจอดรถชั่วคราว รองรับรถของเพื่อนหรือแขกที่มาเยี่ยมค่ะ
โรงจอดรถแยกส่วนของแบบบ้านนี้จะออกแบบเป็นรูปตัว L จอดรถได้มากถึง 7 คัน โดยโครงสร้างที่จอดรถเป็นแบบ Slab on Beam ลงเสาเข็ม ทำคอนกรีตแสตมป์ รวมถึงออกแบบหลังคาโรงจอดรถสูงจึงรองรับการติดตั้ง Stacked Parking ได้ ทำให้จอดรถได้สูงสุด 14 คันค่ะ
ส่วนด้านข้างของพื้นที่จอดรถจะมีตู้เก็บของ 3 จุด ไว้สำหรับเก็บอุปกรณ์เกี่ยวกับรถยนต์หรือทำสวน รวมถึงมี Junction Box รองรับการติดตั้ง EV Charger ด้วย ซึ่งเราก็สามารถหาซื้อเครื่องชาร์จได้ตามแบรนด์ที่เราชื่นชอบค่ะ
ด้านหลังของพื้นที่เก็บของจะเป็นโซนแม่บ้านที่ประกอบด้วยห้องแม่บ้าน 2 ห้องและห้องน้ำแชร์การใช้งานร่วมกัน ซึ่งออกแบบแยกโซนแม่บ้านกับตัวบ้าน ทำให้ครอบครัวพักผ่อนอยู่ในบ้านแบบเป็นส่วนตัวมากขึ้น และทางแม่บ้านก็สามารถเดินเข้าบ้านได้จากทางลานซักล้างและห้องครัวที่อยู่ใกล้ๆได้ จึงสามารถมาอำนวยความสะดวกภายในบ้านได้สบายๆ
จากพื้นที่จอดรถจะออกแบบเป็นทางลาดตามหลัก Universal Design ที่รองรับการใช้งานของคนทุกวัย ทำให้สามารถเข็นวีลแชร์ รถเข็นเด็กและกระเป๋าเดินทางเข้าบ้านได้สะดวก
ประตูทางเข้ารองก็มีการออกแบบเหมือนแบบบ้านก่อนหน้านี้เลย ทั้งทางลาดรองรับวีลแชร์ พร้อมบานประตูที่เว้นช่องกระจกให้แสงส่องเข้าไปภายในบ้านได้ และติดตั้ง Digital Door Lock จาก ARTANI นอกจากนั้นยังมีก่อเป็นพื้นที่นั่งใส่รองเท้าอยู่ตรงด้านหน้าประตูด้วยค่ะ
พื้นที่สวนรอบบ้าน
พื้นที่สวนรอบบ้านได้จัดสวนมาตามมาตรฐานของโครงการทั้งปูสนามหญ้า ลงไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่มาให้ แต่เราสามารถปลูกต้นไม้เพิ่มเติมได้อย่างตามแนวรั้วบ้านเพื่อพรางสายตาจากด้านนอกหรือทำมุมนั่งเล่น ปาร์ตี้ในสวนเหมือนบ้านตัวอย่างได้เหมือนกัน รวมถึงสามารถต่อเติมขยับขยายพื้นที่เพิ่มเติมได้อย่างเช่น เรือนรับรองแขก หรือ Study Room ให้เด็กๆมานั่งติวหนังสือ โดยติวเตอร์ไม่ต้องเข้าไปตัวบ้านเลยนั่นเอง
ประตูทางเข้าหลักของบ้านหลังนี้ออกแบบเว้นช่องกระจกไว้บางส่วนด้วย นอกจากนั้นเราชอบที่ทางโครงการออกแบบหน้าต่างกระจกสูงขึ้นไปจากบานประตู ทำให้นอกจากจะได้ความ Grand โอ่อ่า มองไปเห็นโคมระย้าภายในบ้านแล้ว ยังช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในบ้านดูสว่าง โปร่งสบายค่ะ
Foyer พื้นที่ต้อนรับที่สามารถตกแต่งเหมือนบ้านตัวอย่างได้เลย ทั้งตั้งชั้นวางของหรือตู้โชว์ สร้างความประทับใจแรกเมื่อเดินเข้ามาภายในบ้านได้ดี พอประกอบกับการออกแบบหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ที่ช่วยดึงแสงเข้ามาภายในบ้าน ก็ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งโล่งเลย
Common Area
พื้นที่ Common Area ออกแบบเป็น Open Plan พื้นที่เชื่อมต่อกันขนาดใหญ่ พร้อมปูพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 80×80 เซนติเมตร โดยพื้นที่ด้านข้างของ Foyer จะเป็นพื้นที่นั่งต้อนรับแขก พร้อมช่องแสง 2 ฝั่ง เปิดรับวิวสวนหน้าบ้าน ส่วนพื้นที่นั่งพักผ่อนอีกจุดจะอยู่ติดกับมุม Pantry ทำให้มานั่งเล่นในบรรยากาศที่ชิลๆขึ้นมาหน่อย พร้อมจิบชาและขนมได้ด้วย ถัดมาเป็นพื้นที่รับประทานอาหารวางโต๊ะยาว 10 ที่นั่งได้สบายๆ สามารถกินข้าวได้พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว หรือรองรับแขก-เพื่อนที่มารับประทานอาหารร่วมกันได้
แต่ที่เราชอบสุดเลยพื้นที่พักผ่อนที่อยู่ฝั่งด้านในสุด เพราะออกแบบเป็นหน้าต่างกระจก 3 ฝั่ง เหมือนเป็น Glasshouse เปิดรับแสงธรรมชาติและวิวสวนได้ทั้ง 3 ด้าน ทำให้เรานั่งเย็นๆอยู่ในบ้านก็เปิดรับวิวสวนในมุมกว้างนั่นเอง
ต่อมาเราพากลับมาอีกฝั่งของบ้าน โดยเริ่ม Foyer ของประตูทางเข้ารอง หลังจากเข้าบ้านมาแล้ว จะเจอกับห้องเก็บของอยู่ฝั่งซ้ายของภาพ สามารถเก็บของชิ้นใหญ่ได้ ส่วนฝั่งขวาจะเป็นห้องนอนชั้นล่าง เหมาะเป็นห้องนอนผู้สูงอายุค่ะ เพราะออกแบบทางลาดจากพื้นที่จอดรถมายังประตูทางเข้ารองจึงเข็นวีลแชร์เข้า-ออกบ้านได้สะดวก รวมถึงหากมีเรื่องฉุกเฉินก็สามารถพาไปขึ้นรถยนต์ได้ง่ายด้วย
แบบบ้านนี้มีห้องเก็บของอีกจุดนะคะ อยู่ด้านข้างของบันได ใช้เก็บของได้ประมาณนึงเลย ช่วยทำให้บ้านดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดีค่ะ
นอกจากนั้นทางบ้านตัวอย่างได้ Built-in ตู้เก็บรองเท้ามาให้เรียบร้อยเลยนะคะ ทำให้เราเดินเข้ามาจากประตูทางเข้ารองก็ถอดรองเท้าเก็บได้สะดวกดีและทางโครงการก็ออกแบบชั้นวางมาให้เราเก็บรองเท้าได้เยอะเหมือนกันนะ
ห้องนอนชั้นล่าง
งั้นเราพามาดูห้องนอนชั้นล่างกันต่อเลย สำหรับห้องนอนชั้นล่างก็ออกแบบเหมือนกับแบบบ้านก่อนหน้านี้นะคะ สามารถรองรับผู้สูงอายุได้สบาย ด้วยการออกแบบประตูขนาดใหญ่รองรับวีลแชร์ พื้นแบบ Absorption Floor ช่วยลดแรงกระแทกเวลาเดินหรือหกล้ม รวมถึงติดตั้ง Emergency Switch กริ่งขอความช่วยเหลือภายในห้องนอนและห้องน้ำ จึงทำให้คุณปู่ คุณย่าพักผ่อนในห้องได้สบายๆเลย นอกจากนั้นพื้นที่ภายในห้องก็มีขนาดใหญ่ วางเตียง 6 ฟุตหรือเตียงเดี่ยว 2 เตียงสำหรับคุณปู่ คุณย่าก็ได้เหมือนกัน และมีพื้นที่ทำ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะ รวมถึงออกแบบมีช่องแสง 2 ฝั่ง เปิดรับแสงและวิวสวน ทำให้ถึงแม้จะพักผ่อนอยู่ในห้องนอนก็ได้บรรยากาศที่โปร่งสบาย ไม่อุดอู้
ส่วนห้องน้ำของห้องนอนชั้นล่างก็ใช้เป็นประตูบานเลื่อนเปิด-ปิดได้ง่าย พร้อมออกแบบพื้นระดับเดียวกันทั้งหมด ป้องกันการเดินสะดุดล้มภายในห้องน้ำ และไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะไหลย้อนไปยังพื้นห้องนอน เพราะได้ออกแบบรางระบายน้ำแบบเรียบๆ มาให้ค่ะ ส่วนการออกแบบภายในห้องน้ำมีการแบ่งโซนแห้ง-เปียก เลือกใช้สุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดจาก American Standard รวมถึงติดตั้งราวจับด้านข้าง เพื่อช่วยพยุงเวลาลุก-นั่งด้วยค่ะ
Powder Room เป็นห้องน้ำที่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ สามารถใช้สำหรับรองรับแขก โดยออกแบบเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ มีพื้นที่วางของกว้างและมีช่องเก็บของด้านล่างด้วย จึงใช้เก็บอุปกรณ์ของใช้ในห้องน้ำได้สะดวก ติดตั้งสุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดจาก American Standard และเลือกใช้โถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติที่ใช้งานได้ง่ายค่ะ
มุม Pantry ของบ้านตัวอย่างก็ออกแบบมาเหมือนกับแบบบ้านก่อนหน้านี้เลย โดย Built-in เคาน์เตอร์ครัว พร้อมเว้นพื้นที่สำหรับตั้งตู้เย็น ทำบานปิดหน้าตู้ด้านล่างและด้านบนมาให้เก็บของได้เยอะ รวมถึงติดตั้งอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า 4 หัวและ Hood จาก TEKA มาเรียบร้อยเลย ซึ่งด้านข้างจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นจึงจัดเสิร์ฟน้ำ-ขนมได้สะดวก
ห้องครัวแบบปิดอยู่ติดกับมุม Pantry ซึ่งทางบ้านตัวอย่างได้ก่อเคาน์เตอร์ครัวปูน พร้อมบานปิดหน้าตู้ด้านล่างมาให้เรียบร้อยเหมือนภาพด้านบนเลยนะ เราจึงซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามาเพิ่มอีกเล็กน้อยก็สามารถใช้ทำอาหารได้จริงจังเลย
ส่วนด้านหลังจะมีประตูเปิดออกไปยังลานซักล้างที่เดินเชื่อมต่อไปโซนแม่บ้าน ทำให้แม่บ้านมาทำงานได้สะดวกค่ะ ส่วนรูปแบบประตูนี้ก็เหมือนกับแบบบ้านก่อนหน้านี้เลย สามารถเลื่อนบานกระจกขึ้น-ลงได้ พร้อมติดมุ้งลวดกันแมลง ทำให้เปิดกระจกเพื่อรับลมและระบายอากาศภายในห้องครัวได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแมลงจะบินเข้ามาค่ะ
ลานซักล้าง
ลานซักล้างอยู่ติดกับห้องครัว ใช้เป็นพื้นที่ตั้งเครื่องซักผ้าและตากผ้า พร้อมพื้นที่อ่างล้างมือตรงลานซักล้างจึงใช้งานได้สะดวกมากๆ ซึ่งเป็นอีกฟังก์ชันที่เราชอบและไม่ค่อยเห็นในโครงการอื่นเลยนะ รวมถึงลานซักล้างนี้ก็อยู่ใกล้กับโซนแม่บ้านด้วย จึงทำให้แม่บ้านมาใช้งานได้ง่ายดีค่ะ
เดี๋ยวเราจะพาขึ้นไปชั้น 2 กันแล้วนะ แต่ขอพูดถึงบันไดกันสักหน่อยว่าเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมราวจับบันไดโครงเหล็กอิตาลี Wrought Iron อีกทั้งตรงโถงบันไดก็มีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติ ทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูโปร่งสบาย
เมื่อขึ้นมาชั้น 2 จะเจอ Family Area ขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางชั้น เป็นพื้นที่รวมตัวของคนในครอบครัวมาใช้เวลาร่วมกัน จึงจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นเหมือนบ้านตัวอย่างได้เลย หรือจะตั้งตู้เย็นและชั้นขนมก็ดีเหมือนกัน เวลาต้องการดื่มน้ำในตอนดึกๆ ก็เดินมาหยิบได้ง่ายดีค่ะ
เราขอพาไป Master Bedroom ที่ออกแบบแยกฝั่งกับห้องนอนรองอื่นๆก่อนนะคะ ซึ่งการออกแบบแยกฝั่งนี้ก็ทำให้ Master Bedroom ได้ความเป็นส่วนตัวสูง เพราะไม่ต้องแชร์ผนังร่วมกับห้องนอนอื่นเลยนั่นเอง จึงไม่มีเสียงดังรบกวนเวลาพักผ่อนด้วย
Master Bedroom
Master Bedroom มีพื้นที่ภายในห้องขนาดใหญ่มาก นอกจากจะมีพื้นที่วางเตียง 6 ฟุตและโต๊ะข้างเตียงได้สบายๆแล้ว ยังมีพื้นที่นั่งเล่นตรงปลายเตียงได้ด้วย ซึ่งมีพื้นที่เดินผ่านไปมากว้าง นอกจากนั้นยังออกแบบมีระเบียงเล็กๆตรงฝั่งด้านหน้าบ้าน เหมาะปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียวในห้อง ทำให้เวลานอนอยู่บนเตียงก็มองออกไปได้วิวสีเขียวนี้ค่ะ
ด้านข้างของโซนเตียงนอนและพื้นที่นั่งเล่นจะเป็น Walk-in Closet ขนาดใหญ่ ทำ Built-in ตู้เสื้อผ้าเป็นรูปตัว U พร้อมตั้ง Island สำหรับเก็บเครื่องประดับได้สบายๆ มีพื้นที่ทางเดินกว้าง
เพราะว่าทางโครงการออกแบบโซน Walk-in Closet เชื่อมต่อกับ Master Bathroom แบบไม่มีประตูหรือกำแพงกั้น เวลาอาบน้ำเสร็จแล้วก็เดินมายืนแต่งตัวได้เลยนั่นเอง แต่เราก็สามารถกั้นประตูเพิ่มเองได้นะ จะได้แบ่งพื้นที่ได้เป็นสัดส่วนดี รวมถึงความชื้นภายในห้องน้ำจะได้ไม่ลอยไปโดนตู้เสื้อผ้า กระเป๋าหรือเครื่องประดับที่ไม่ถูกกับความชื้นค่ะ
Master Bathroom
Master Bathroom ก็มีพื้นที่ภายในห้องน้ำขนาดใหญ่เหมือนกัน โดยบ้านตัวอย่างได้ก่อเคาน์เตอร์อ่างล้างมือมาให้อันเดียวกับโต๊ะแต่งหน้านั่นเอง ห้องน้ำนี้จะใช้เป็นอ่างล้างมือแบบ His & Her ใช้งานได้พร้อมกัน พร้อมออกแบบแยกฝั่งโซนโถสุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำที่ติดตั้งฝักบัวทั้ง Hand และ Rain Shower ไว้คนละฝั่งกัน โดยสุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดจาก American Standard นะคะ
รวมถึงมีอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวให้มานอนแช่น้ำกันได้ อยู่ติดกับพื้นที่อาบน้ำแบบ Outdoor Shower จึงทำให้ได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามา รวมถึงเราใช้ประโยชน์ของ Outdoor Shower ที่นอกจากจะเป็นพื้นที่อาบน้ำแล้ว ก็ใช้เป็นพื้นที่ปลูกต้นไม้ต่างๆ เพื่อเป็นวิวสีเขียวให้เวลาที่เรานอนแช่น้ำในอ่างอาบน้ำได้ค่ะ
ถัดจาก Family Area จะเป็นห้องนอนรอง 2 ห้องที่อยู่อีกฝั่งของบ้าน โดยห้องนอนรอง 1 จะได้วิวทางด้านหน้าบ้าน ส่วนห้องนอนรอง 2 จะอยู่ทางด้านหลังบ้านค่ะ ถึงแม้จะเป็นห้องนอนรอง แต่ว่าก็มีขนาดใหญ่อยู่ได้ตั้งแต่ยังเด็กจนโตได้เลย ทำให้ได้พื้นที่และบรรยากาศการใช้งานที่สบายๆ ไม่อึดอัด หรือใครที่ไม่ได้มีสมาชิกในบ้านเยอะ ก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ ห้องออกกำลังกายหรือห้องสัตว์เลี้ยงได้เหมือนกันนะ
ห้องนอนรอง 1
ห้องนอนรอง 1 จะอยู่ทางฝั่งด้านหน้าบ้าน โดยพื้นที่ภายในห้องมีขนาดใหญ่ที่นอกจากจะวางเตียง 6 ฟุต โต๊ะข้างเตียงและตู้เสื้อผ้าได้แล้ว ยังมีพื้นที่ทำมุมนั่งเล่นในห้องได้เลย จึงชวนเพื่อนๆมานั่งเล่นพูดคุยในห้องหรือจะใช้เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมต่างๆได้ ซึ่งห้องนอนนี้อยู่ฝั่งด้านหน้าบ้านก็เลยมีระเบียงส่วนตัวเปิดออกไปใช้งานได้ ตั้งโต๊ะและเก้าอี้เล็กๆพร้อมทำมุมต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียวในบ้านก็ดีเหมือนกัน รวมถึงการออกแบบห้องน้ำก็เหมือนห้องน้ำอื่นๆเลยนะ ทั้งการแบ่งโซนแห้ง-เปียก ติดตั้งสุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดจาก American Standard และมีห้องน้ำชมสวนแบบ Outdoor Shower
ห้องนอนรอง 2
ห้องนอนรอง 2 จะอยู่ทางฝั่งด้านหลังบ้าน ถึงแม้จะเป็นห้องที่มีขนาดเล็กกว่าห้องนอนรอง 1 แต่ก็ถือว่ามีขนาดใหญ่อยู่ดี ได้บรรยากาศการอยู่อาศัยแบบสบายๆ สามารถวางเตียง 6 ฟุต โต๊ะข้างเตียงและตู้เสื้อผ้าได้ ส่วนห้องน้ำก็ออกแบบเหมือนห้องน้ำอื่นๆ เลือกใช้สุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดจาก American Standard และมีห้องน้ำชมสวนแบบ Outdoor Shower ที่เป็นฟังก์ชัน Signature ของทาง Q House ที่นอกจากจะได้พื้นที่อาบน้ำเพิ่มขึ้นมาแล้ว ยังได้แสงแดดส่องเข้ามาภายในห้องน้ำ ช่วยเรื่องการระบายอากาศ ลดความชื้นและเชื้อราด้วยนั่นเอง
ราคา
Prukpirom New Ratchaphruek (พฤกษ์ภิรมย์ ราชพฤกษ์-ตัดใหม่) ราคา ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2567
- Nicolette (นิโกเลตต์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 292 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
– ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท - Grand Didier (แกรนด์ดิดิเย่ร์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 144 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 411 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
– ราคาเริ่มต้น 28 ล้านบาท - Grand Nanette (แกรนด์นาแนตต์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 202.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 488 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / รองรับ 8 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
– ราคาเริ่มต้น 39 ล้านบาท - Lutin (ลูติน) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 222 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 583 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / โรงจอดรถแยกส่วน 6 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน
– ราคาเริ่มต้น 45 ล้านบาท - Grand Juliette (แกรนด์จูเลียตต์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 341 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 765 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / โรงจอดรถแยกส่วน 7 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน / สระว่ายน้ำส่วนตัว / Glasshouse
– ราคาเริ่มต้น 62 ล้านบาท - Laurent (โลร็อง) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 392.5-407 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 1,067 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / โรงจอดรถแยกส่วน 7 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน / สระว่ายน้ำส่วนตัว / Glasshouse
– ราคาเริ่มต้น 100 ล้านบาท - ค่าจอง 1 ล้านบาท
- ค่าทำสัญญา 10%
- ค่าส่วนกลาง 26 บาท/ตร.วา/เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
โครงการตั้งอยู่ติดถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ สามารถวิ่งตรงเข้าใจกลางเมืองได้ง่าย เชื่อมต่อถนนหลายสาย อีกทั้งใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษกและทางพิเศษอุดรรัถยาที่เชื่อมไปทางพิเศษศรีรัชได้ในระยะ 9-15 กิโลเมตร มี MRT สายสีม่วงและสายสีชมพูเป็นตัวเลือกในการเดินทางด้วย
ส่วนความอุดมสมบูรณ์ใกล้ๆโครงการในปัจจุบันยังไม่ค่อยมีเท่าไหร่ แต่ก็สามารถไปยังโซนใกล้เคียงได้มีทั้ง Robinson Lifestyle ราชพฤกษ์, HomePro ชัยพฤกษ์ และ Lotus’s North ราชพฤกษ์ รวมถึงโรงเรียนและโรงพยาบาลก็อยู่ไม่ไกล อยู่ในระยะไม่เกิน 10 กิโลเมตร
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
ทางเข้า-ออกเป็นแบบ Double Security Gate ที่ใช้ระบบแบบ Easy Pass โดยประตูรั้ว Gate 1-2 เป็นแบบรั้วเหล็กรางเลื่อนไฟฟ้า พร้อมกล้อง CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และรั้วทึบรอบโครงการสูง 3-5 เมตร
ส่วนตัวบ้านจะได้ Digital Door Lock จาก ARTANI จำนวน 1 ตัวที่ประตูทางเข้าของบ้านทุกหลัง, สัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic & Shock Sensor, Video Door Phone, Video Door Bell, IP Camera 2 จุด ทั้งบริเวณที่จอดรถและ Common Area รวมถึงติดตั้ง Emergency Switch บริเวณห้องนอนชั้นล่างและห้องน้ำในตัวด้วย
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
ถึงแม้ตัวโครงการจะอยู่ห่างจากใจกลางเมืองออกมาหน่อย แต่ก็ยังเดินทางได้ง่าย หากเทียบเลือกซื้อบ้านโซนใกล้เมืองก็จะได้บ้านหลังเล็กกว่าหรือเลือกปลูกบ้านเองก็จะขาดข้อดีของความเป็นหมู่บ้านทั้งระบบความปลอดภัย สังคมเพื่อนบ้าน ความเป็นส่วนตัวและมีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งาน เป็นหน้าตาของลูกบ้านด้วยนั่นเอง
โครงการออกแบบสไตล์ Neo Classic ดูเรียบง่ายและทันสมัย โดยมีจำนวนยูนิตน้อยได้ความเป็นส่วนตัวสูง รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางแบ่งเป็น 2 โซน จึงมาใช้งานได้ง่าย นอกจากนั้นยังมีโซนบ้านหลากหลายทั้งติดถนนหลัก อยู่ในซอยหรือเข้า-ออกได้หลายทางและทิศของบ้านก็หันขนานไปตามทิศเหนือ-ใต้ที่ไม่โดนแดดโดยตรง เปิดรับลมได้ดีค่ะ
ส่วนตัวบ้านถือเป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่สุดบนทำเล มีที่ดินเริ่มต้น 100-407 ตร.วา และพื้นที่ใช้สอย 292-1,067 ตร.ม. โดยพื้นที่แต่ละฟังก์ชันก็มีขนาดใหญ่ สามารถอยู่อาศัยตั้งแต่เด็กจนโตได้เลยหรือรองรับกิจกรรมอื่นๆก็ได้สบายๆ รวมถึงออกแบบตามหลัก Universal Design ที่ดีมีทั้งทางลาดและห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำในตัว รองรับผู้สูงอายู่ได้ นอกจากนั้นในบ้านบางหลังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวและ Glasshouse ที่ใช้เป็นมุมนั่งเล่นหรือจัดเลี้ยงสังสรรค์ได้ค่ะ
วัสดุ :
โครงสร้างบ้านแบบ Conventional ผนังก่ออิฐฉาบปูน ทำให้สามารถรองรับการต่อเติมขยับขยายพื้นที่ในอนาคตได้ ส่วนโครงสร้างที่จอดรถเป็นแบบ Slab on Beam ลงเสาเข็ม ทำคอนกรีตแสตมป์ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นทรุดเลย วัสดุปูพื้นชั้น 1 เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่วน Pantry และห้องครัวก็มีทำเคาน์เตอร์ครัวมาให้เรียบร้อย บันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมราวจับบันไดโครงเหล็กอิตาลี Wrought Iron และเลือกใช้สุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดจาก American Standard พร้อมจัดสวนตามมาตรฐานโครงการ โดยปูสนามหญ้า ลงไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่มาให้
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
พื้นที่สีเขียวของโครงการมีขนาดใหญ่ถึง 2.5 ไร่ อยู่บริเวณตรงกลางโครงการติดกับ Clubhouse ลูกบ้านจึงพาเด็กๆมาใช้งานสนามเด็กเล่นหรือพาสัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่นได้ รวมถึงมีการจัดสวนตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าโครงการยาวตลอดเส้นถนนไปถึงด้านในโครงการ ทำให้ได้บรรยากาศสดชื่นและร่มรื่นดีเวลาขับรถเข้า-ออกโครงการค่ะ นอกจากนั้นยังออกแบบนำสายไฟลงใต้ดินทั้งโครงการ จึงทำให้ได้ทัศนียภาพภายในโครงการที่สวยงาม น่าอยู่อาศัย
สาธารณูปโภค :
พื้นที่ส่วนกลางแบ่งเป็น 2 โซน โดยตรงกลางโครงการจะเป็น Clubhouse 2 ชั้น ติดกับสวนสีเขียว 2.5 ไร่ จึงใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ภายในอาคารจะมี Lobby Lounge, Private Dining, Co-Working Space,Fitness, Yoga Room และ สระว่ายน้ำระบบเกลือยาว 25 เมตร ว่ายน้ำได้จริงจัง
ส่วนพื้นที่ส่วนกลางโซนด้านในโครงการจะเป็น Sport Park ประกอบด้วยที่นั่งแบบอัฒจันทร์ สนามบาสเกตบอลและสนามเทนนิส เป็นสนามกีฬาแบบ Full Court ที่เราไม่เคยเห็นในโครงการอื่นมาก่อน (ส่วนใหญ่จะได้เป็นสนามแบบ Half-Court) ทำให้มาฝึกซ้อมกีฬาได้จริงจังเลย
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 25-100 ล้านบาท, 20 สิงหาคม 2567
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ติดถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ ไม่ไกลจากทางด่วน 2 สาย แต่ความอุดมสมบูรณ์ใกล้ๆในปัจจุบันยังไม่ค่อยมีเท่าไหร่
- ความปลอดภัย 8.5/10 – Double Security Gate, เข้า-ออกด้วยระบบ Easy Pass, รปภ. 24 ชม., CCTV, Digital Door Lock, Magnetic & Shock Sensor, Video Door Phone, Video Door Bell, IP Camera 2 จุด และ Emergency Switch ตรงห้องนอนชั้นล่างและห้องน้ำในตัว
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9/10 – มียูนิตน้อยเป็นส่วนตัว แบ่งโซนได้ดี เป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่สุดบนทำเล ได้ฟังก์ชัน 4-5 ห้องนอน มีห้องนอนชั้นล่างทุกแบบบ้าน
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้ เหมาะสมการใช้งาน
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.5/10 – พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ 2.5 ไร่ แบ่งเป็น 2 จุด บรรยากาศร่มรื่นน่าอยู่อาศัย
- สาธารณูปโภค 9/10 – มีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ มีความน่าสนใจตรงสนามกีฬาใหญ่แบบ Full Court ที่เราไม่เคยเห็นที่อื่นมาก่อน
- 8.13 / 10.00
Prukpirom New Ratchaphruek (พฤกษ์ภิรมย์ ราชพฤกษ์-ตัดใหม่) เหมาะกับใคร
โครงการ Prukpirom New Ratchaphruek (พฤกษ์ภิรมย์ ราชพฤกษ์-ตัดใหม่) เหมาะกับครอบครัวใหญ่รองรับได้ทุก Generation หรือคนที่มองหาบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ เข้า-ออกเมืองได้สะดวก มีรถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางเป็นหลัก ได้พื้นที่ใช้สอยในบ้านเยอะเมื่อเทียบกับโครงการอื่น รวมถึงรองรับ 4-5 ห้องนอนและมีห้องชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุ มีแบบบ้านที่มีสระว่ายน้ำ Glasshouse และต่อเติมทำ Stacked Parking ได้ นอกจากนั้นได้อยู่ในหมู่บ้านที่มีระบบรักษาความปลอดภัยหนาแน่น สังคมเพื่อนบ้านในระดับเดียวกันและมีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานครบครัน มีงบประมาณของบ้านอยู่ที่ 25-100 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 150,000-700,000 บาท
ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน
- MONSANE ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ
- MANTANA ณ ราชพฤกษ์
- The Article North ราชพฤกษ์
- Lake Legend แจ้งวัฒนะ
- Grand Bangkok Boulevard แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์
- Bangkok Boulevard Signature ราชพฤกษ์
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่