รีวิวโครงการ

BoomTharis | Providence Lane : คลีนๆ คูลๆ ถูกใจวัยรุ่น!

18 มีนาคม 2022

อ่านรีวิวล่าสุด

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปรีวิวบ้านหรูย่านเลียบทางด่วน โครงการ Providence Lane เอกมัย-รามอินทรา กันค่ะ ตัวบ้านที่เรามารีวิวจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 39 ล้านบาท ถือว่าเป็นบ้านระดับ Luxury โครงการแรกของสัมมากรเลยก็ว่าได้ จุดที่น่าสนใจของโครงการมีดังนี้ค่ะ

  • ทำเลเดินทางสะดวก ความอุดมสมบูรณ์สูง : ที่ตั้งโครงการนี้อยู่ในย่านเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา โซนที่มีบ้านระดับ Luxury เกิดขึ้นเยอะมาก แต่ว่าโครงการนี้อยู่ในซอยใกล้กับถนนนาคนิวาส หรือทางฝั่งหลัง Central Festival Eastville ห่างออกไปราวๆ 2 กม. เท่านั้น ตำแหน่งนี้จะมีเส้นทางลัดเลาะเชื่อมต่อได้ทั้งถนนเลียบทางด่วนฯ, ลาดพร้าว, นวมินทร์ และก็รัชดาฯ เลย ตัวเลือกการเดินทางหลากหลาย และก็จะมีรถไฟฟ้าสถานีเปิดใหม่ตรงปากซอยลาดพร้าว 71 ด้วยค่ะ นอกจากนี้บรรยากาศจะเป็นย่านชุมชนที่มีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ให้เลือกมากมายเลยทีเดียว
  • การออกแบบที่ได้ความเป็นส่วนตัว ใกล้ชิดธรรมชาติ : แบบบ้านที่นี่จะเป็นบ้านสร้างเต็มที่ดิน ดีไซน์เป็นกล่องทึบ ทำให้เมื่อมองจากรอบๆ ตัวบ้าน แทบจะไม่มีมุมไหนที่เห็นเข้าไปภายในบ้านเลยค่ะ แต่ว่าถ้าเราได้เข้าไปภายในบ้านแล้ว เราจะเจอกับบรรยากาศข้างในที่โปร่ง โล่ง เชื่อมต่อกับ Court กลางบ้าน ที่คอยเชื่อมให้ทุกฟังก์ชันของบ้านได้ใกล้ชิดกับพื้นที่สีเขียวมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้เรามองว่าวัสดุต่างๆ ที่นำมาใช้ในโครงการ ตั้งแต่ Facade ไปจนผนังกลางคอร์ทในบ้านก็เลือกใช้วัสดุเกรดดี ออกแบบ Detail ต่างๆ มาได้น่าสนใจเลย รายละเอียดบ้านโครงการนี้จะเป็นอย่างไร เราไปอ่านรีวิวกันเลยค่ะ

ข้อมูลโครงการ

Providence Lane เอกมัย-รามอินทรา ณ วันที่ 3 มีนาคม 2565

 ชื่อโครงการ   Providence Lane Ekkamai-Ramintra (โพรวิเดนซ์ เลน เอกมัย-รามอินทรา)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท สัมมากร พลัส จำกัด
 SEGMENT CLASS   Super Luxury Class (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่   ซอยสังคมสงเคราะห์ 14 เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
 ที่ดิน  3 – 1 – 6.2  ไร่
 จำนวนยูนิต  จำนวน 12 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • ME บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดิน 64.50 – 81.70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 428 – 458 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องอเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน / สระว่ายน้ำส่วนตัว / ลิฟต์ส่วนตัว
    – ราคาเริ่มต้น 39 ล้านบาท (แบบที่ไม่มีสระว่ายน้ำ มี 2 หลัง)
    – ราคาเริ่มต้น 42 ล้านบาท (แบบที่มีสระว่ายน้ำ)
  • MINE บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดิน 101 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 712 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 2 Recreation spaces / 2 ห้องแม่บ้าน / สระว่ายน้ำส่วนตัว / ลิฟต์ส่วนตัว
    – ราคา 65 ล้านบาท (มีหลังเดียว)

 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   ชั้น 1 สูง 3 เมตร,  ชั้น 2, 3 สูง 2.7 เมตร, พื้นที่กินข้าว (double volume สูง 6.5 เมตร)
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ                      N/A บาท
 เริ่มก่อสร้าง   2564
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   2565
 เว็บไซต์โครงการ   https://www.sammakorn-providencelane.com/
 Call Center   1427

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.7982234 , 100.603229
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ

Providence Lane เอกมัย-รามอินทรา ตั้งอยู่ในซอยสังคมสงเคราะห์ 14 อยู่ทางโซนลาดพร้าวตอนกลาง ที่มีจุดเด่นเรื่องการใช้งานถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือว่า เส้นเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ทำเลนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทำเลที่สะดวกสบายและมีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก  มีโครงการบ้านระดับ Luxury เกิดขึ้นมากบนทำเลโซนนี้ แต่จุดเด่นที่เรามองสำหรับ Providence Lane เอกมัย-รามอินทรา คือ

  • ทำเลอยู่ทางฝั่งเดียวกับ Central Eastville
    โครงการบ้านที่เกิดขึ้นบริเวณนี้ส่วนใหญ่จะอิงการใช้งานห้างที่โซน Central Eastville หรือว่า The Crystal Park เป็นหลัก ซึ่ง Providence Lane เอกมัย-รามอินทรา จะอยู่ห่างออกไปเพียง 2 กม. และสามารถใช้ทางลัดเลาะทางด้านหลังฝั่งถนนนาคนิวาสขับวนลูป ใช้ชีวิตบริเวณนี้ได้ โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาไปกลับรถที่ถนนใหญ่อย่างถนนประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการจราจรติดขัดเป็นประจำอยู่แล้ว จุดนี้เองทำให้เรามองว่าทำเลตรงนี้จะแตกต่างจากโครงการบ้านระดับ Luxury โครงการอื่นที่อยู่ในละแวกค่ะ

  • ความอุดมสมบูรณ์สูง
    อย่างที่บอกไปว่าโครงการห่างจากห้างใหญ่อย่าง Central Eastville เพียง 2 กม. ซึ่งทาง Central หรือ The Crystal เองก็มีทั้งร้านอาหาร Supermarket ให้ Shopping ดูหนังกันอย่างเพลิดเพลิน และยังมี Fitness เป็นตัวเลือกสำหรับคนรักสุขภาพอีกด้วย นอกจากนั้นเรามองว่าทั้ง 2 ห้างนี้มีจุดเด่นเรื่อง Education และ Pet Friendly เช่นกันค่ะ เป็นพื้นที่ที่มีโรงเรียนสอนพัฒนาการด้านต่างๆให้เด็ก และมีพื้นที่รองรับคนรักสัตว์ให้พาสัตว์เลี้ยงมาเล่นเจอเพื่อนได้
    นอกจากพื้นที่ส่วนที่เป็นห้างสรรพสินค้าแล้ว ย่านลาดพร้าวถือว่าเป็นย่านชุมชนขนาดใหญ่ที่มีคนอยู่อาศัยเพียบ ดังนั้นร้านอาหารก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน ทั้งทางโชคชัย 4 , นาคนิวาส , ลาดพร้าว-วังหิน ซึ่งจาดโครงการเองก็ไปสะดวก หรือแม้กระทั่งถ้าอยากสั่ง Delivery ผ่าน Application ก็ทำได้ง่าย ค่าส่งไม่แพง ตัวเลือกมีเยอะ และรอไม่นานเพราะระยะทางไม่ไกลค่ะ
  • ลัดเลาะได้หลายเส้นทาง
    ตำแหน่งที่ตั้งโครงการสามารถเข้าออกได้ทั้งจากถนนลาดพร้าว (เข้ามาทางซอยลาดพร้าว 71) และ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งเรามองว่าเป็นถนน 2 เส้นหลักสำหรับคนที่อยู่โครงการนี้ โดยจะมีทางด่วนให้ใช้งานวิ่งเข้าออกเมืองอยู่ทางฝั่งถนนประดิษฐ์มนูธรรม เหมาะสำหรับคนที่อยากลดเวลาการเดินทางในช่วงเช้าหรือเย็นวันทำงานที่รีบเร่ง
    แต่จุดที่น่าสนใจนอกเหนือไปจากถนนสองเส้นนี้คือ ทำเลนี้จะมีทางลัดเลาะเยอะมาก เชื่อมต่อถนนนาคนิวาส, ถนนสุคนธสวัสดิ์ ไปออกถนนประเสริฐมนูกิจ เชื่อมนวมินทร์, รามอินทราได้ หรือว่าจะไปทางฝั่งลาดพร้าววังหิน ก็ไปเชื่อมกับโชคชัย 4 , ซอยภาวนา และไปออกที่ถนนรัชดาภิเษก ตรงข้ามศาลอาญาได้เช่นกันค่ะ

  • รถไฟฟ้าที่กำลังจะสร้างเสร็จในอนาคต
    ยินดีกับชาวลาดพร้าวด้วยค่ะ หลังจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองบนถนนลาดพร้าวอันแสนยาวนาน อีกไม่นานรถไฟฟ้าสายสีนี้ก็ใกล้จะให้ได้ใช้งานกันแล้ว ซึ่งรถไฟฟ้าสายสีเหลืองจะไปเชื่อมต่อกับ MRT ที่บริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว สำหรับเรามองว่าเหมาะกับครอบครัวที่มีลูกเรียนในเมือง ไม่สามารถขับรถรับส่งได้ตลอด หรือว่ามหาลัยที่ไม่มีที่จอดรถให้ รถไฟฟ้านี้ก็จะเป็นตัวเลือกเสริมในการเดินทางสำหรับคนที่มีลูกค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

ภายในซอยสังคมสงเคราะห์ 14 จะเป็นซอยตัน ทำให้มีรถเข้า-ออกซอยนี้ไม่เยอะ และเป็นซอยที่ไม่ได้มีร้านค้าร้านอาหารขนาดใหญ่อยู่ ถือว่าไม่ใช่ซอยที่พลุกพล่าน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นบ้านพักอาศัยค่ะ ทำให้ได้ความสงบพอสมควรนะคะ

Image 1/4
ถนนหน้าโครงการ รอบๆโครงการจะมีรั้วสูง 5 เมตรอยู่

ถนนหน้าโครงการ รอบๆโครงการจะมีรั้วสูง 5 เมตรอยู่

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

Hangout

  • Fat Gut’z Saloon ~ 2 km.
  • The Iron Fairies ~ 2 km.
  • 72 Courtyard ~ 10.5 km.

Shopping Mall

  • Central Festival Eastville ~ 2 km.
  • Chic Republic ~ 3.7 km.
  • The Crystal Park ~ 4 km.
  • Crystal Design Center 4.2 km.
  • The Walk Nawamin ~ 5.4 km.

School

  • Singapore International School Bangkok (SISB) ~ 5 km.
  • Regent’s International School ~ 5.1 km.
  • Niva American International School ~ 5.6 km.
  • KIS International School ~ 6.1 km.

Hospital

  • Paolo Hospital ~ 1.8 km.
  • Ladprao Hospital ~ 3.6 km.
  • Vejthani Hospital ~ 5.2 km.
  • Bangkok Hospital ~ 10 km.
  • Samitivej Sukhumvit Hospital ~ 11.5 km.

รายละเอียดโครงการ

Providence Lane เอกมัย-รามอินทรา เป็นโครงการจากบริษัท สัมมากร พลัส จำกัด ถือว่าเป็นโครงการระดับ Luxury โครงการแรกของสัมมากรก็ว่าได้ค่ะ ในการออกแบบทั้งตัวสถาปัตยกรรม, Interior และ Landscape ก็ได้บริษัทดีไซน์ที่มีชื่อเสียงมาร่วมออกแบบ ประกอบด้วย

  • Architectural design by PODesign
  • Interior design by TADAH
  • Landscape design by Sanitas Studio

รูปแบบโครงการจะเป็นโครงการจัดสรรจำนวน 12 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 3 ไร่ครึ่ง โดยผังโครงการจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวยาวขนานไปกับถนน ซึ่งทางเข้าโครงการก็จะถูกออกแบบให้อยู่ตรงกลางพอดี เมื่อเข้ามาจะเจอกับ Clubhouse ตรงกับซุ้มประตูทางเข้า และตัวบ้านจะอยู่วางอยู่ฝั่งละ 6 หลัง ซึ่งทำให้เมื่อมองจากทางเข้า-ออกจะไม่เห็นหน้าบ้านโดยตรง ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ที่อยู่อาศัยในโครงการได้ค่ะ

ปัจจุบันโครงการกำลังก่อสร้างบ้านในเฟสแรกจำนวน 6 หลัง (ทางขวามือจากผัง) หลังจากสร้างฝั่งนี้เสร็จสิ้น จึงจะสร้างเฟสต่อไปทางฝั่งซ้ายมือต่อค่ะ

โดยบ้านส่วนใหญ่ของโครงการจะเป็นแบบบ้านชื่อว่า ME มีจำนวนทั้งสิ้น 11 ยูนิต แต่จะมีอยู่ 2 ยูนิตที่เป็นแบบที่ไม่มีสระว่ายน้ำและลิฟต์โดยสารภายในตัวบ้าน และจะมียูนิตพิเศษชื่อว่า MINE เป็นแบบบ้านขนาดใหญ่สุดที่อยู่ในเฟสที่ 2 ที่กำลังจะก่อสร้างค่ะ

รูปแบบบ้านภายในโครงการนี้จะเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ออกแบบมาเต็มที่ดินทุกหลัง แต่ก็จะออกแบบให้แต่ละหลังมี Court ส่วนตัวใจกลางบ้าน เวลาใช้ชีวิตประจำวันก็สามารถใกล้ชิดธรรมชาติได้ในทุกช่วงเวลาค่ะ // สำหรับบ้านที่มาในรูปแบบที่เป็นบ้านคับที่นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านที่ไม่ได้เหลือที่ดินโดยรอบ จึงเหมาะกับคนที่ไม่ต้องการที่ดินเผื่อต่อเติม หรือว่าปลูกต้นไม้ใหม่แบบบ้านจัดสรรที่เรามักเจอกัน บ้านคับที่ดินในที่นี้ จะเป็นบ้านที่ออกแบบ Space ทั้งภายในและภายนอกบ้านมาครบ จบ ทุกรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว ถ้าจะเผื่องบประมาณก็เหลือเพียงการตกแต่งภายในบ้านเท่านั้นค่ะ

สังเกตจากรั้วและทางเข้าโครงการ เราจะเห็นการนำเอาไม้พุ่มมาไว้ที่รอบนอกกำแพง สร้างบรรยากาศให้ตัวโครงการดูสดชื่นและเย็นตาตั้งแต่ทางเข้าเลยค่ะ

ที่ทางเข้าโครงการจะมีการเว้นระยะจากถนนหลักมายังซุ้มประตูทางเข้า เป็นระยะที่ให้รถสามารถจอดรอระหว่างแลกบัตรติดต่อกับรปภ.หน้าโครงการค่ะ

ซุ้มประตูทางเข้าจะมีรปภ.ประจำตำแหน่งนี้อยู่ มี CCTV และเข้า-ออกโดยใช้ระบบ RFID (สแกนเหมือนกับ Easy pass ของทางด่วน)

ตั้งแต่รั้วโครงการ ประตูทางเข้า ซุ้มประตูทางเข้า และตัวบ้านจะมีการเล่นกับ Pattern สี่เหลี่ยมผืนผ้า เรียงสลับกันเหมือนการก่ออิฐ ทำให้ดีไซน์ภาพรวมของทั้งโครงการเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่ก็จะมีการเลือกใช้วัสดุที่แตกต่างกันตามฟังก์ชันค่ะ อย่างวัสดุที่ใช้เป็นหลังคาก็จะเลือกแบบที่มีความเงา สะท้อนบริบทโดยรอบได้ สะท้อนต้นไม้ด้านข้าง ได้บรรยากาศที่แปลกตาดีค่ะ

เข้ามาภายในโครงการจะเจอกับอาคาร Clubhouse ตั้งอยู่ตรงกลางพอดีค่ะ เป็นอาคาร 2 ชั้น มีการออกแบบ landscape เป็นสวนทางด้านหน้า และมีที่จอดรถรองรับ 3 คัน

Clubhouse เป็นอาคาร 2 ชั้นที่เรามองจากภายนอกจะไม่เห็นกิจกรรมทางด้านในเลย ทั้งนี้เนื่องมาจากการออกแบบระแนงที่พรางตาทางชั้น 2 และการเลือกใช้กระจกสีชาที่มองไม่เห็นด้านใน เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่ใช้งาน Clubhouse ได้ค่ะ

ที่ชั้น 1 ของ Clubhouse จะเป็น Lobby ค่ะ ซึ่งปัจจุบันเป็นสำนักงานขายภายในตัว มีมุมนั่งเล่น รับแขกอยู่ สามารถมานั่งทำงาน อ่านหนังสือ หรือชวนเพื่อนๆที่มาเยี่ยมเยียน นั่งพูดคุยกันที่นี่ได้

จุดที่น่าสนใจของอาคาร Clubhouse จะเป็นบันไดวนที่อยู่ตรงกลางค่ะ เหมือน Sculpture ที่แบ่งพื้นที่ออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งจะได้บรรยากาศฝ้าเพดานสูง อีกฝั่งจะเป็นฝ้าเพดานระดับปกติ บรรยากาศต่างกันและก็ได้ความเป็นส่วนตัวที่เพิ่มขึ้นด้วย

ขึ้นบันไดวนไปจะเป็นห้องฟิตเนสค่ะ

Image 1/3
ภายในฟิตเนสมีบรรยากาศโปร่ง ฝั่งหนึ่งติดกระจก อีกฝั่งเป็นหน้าต่างยาวมองวิวไปยังหน้า Clubhouse

ภายในฟิตเนสมีบรรยากาศโปร่ง ฝั่งหนึ่งติดกระจก อีกฝั่งเป็นหน้าต่างยาวมองวิวไปยังหน้า Clubhouse

มาดูบรรยากาศรอบๆ กันค่ะ โครงการนี้จะเอาเสาไฟลงดินทั้งหมด ทำให้บรรยากาศภายในโครงการดูเรียบร้อยสวยงาม ถนนก็จะปูด้วย Concrete stamp ที่ดูดีกว่าคอนกรีตทั่วไปด้วยค่ะ โดยตัวถนนจะกว้าง 10 เมตร ถือเป็นระยะที่กว้างพอสมควร ถอยรถเข้า-ออกบ้านสะดวก

นอกเหนือจากพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ แล้วโครงการนี้จะมีบริการเสริมที่เรียกว่า Home Care Services เพิ่มเติมมาให้ บริการนี้ลูกบ้านสามารถเรียกบริการแม่บ้านทำความสะอาด, ล้างแอร์ หรือว่าเคลื่อนย้ายสิ่งของ ย้ายบ้านได้ โดยต้องแจ้งการใช้บริการล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน โดยติดต่อผ่านทาง Concierge Service ที่ Clubhouse ได้ค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการ
  • Lobby
  • Gym
  • Community Garden
  • ถนนภายในโครงการ กว้าง 10 เมตร
  • Home Care Services : บริการแม่บ้าน, ล้างแอร์, ขนย้ายสิ่งของ
  • Smart Home และ Home Automation
  • ERV : Energy Recovery Ventilator ของ Panasonic

ระบบรักษาความปลอดภัย

  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการ เข้า-ออกโครงการด้วยระบบ RFID
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 10 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 5 เมตร
  • สัญญาณกันขโมยที่ประตูและหน้าต่างภายในบ้าน
  • Smoke Detector
  • Digital Door Lock ภายในบ้าน
  • CCTV ภายในบ้าน 2 จุด บริเวณที่จอดรถและสระว่ายน้ำหลังบ้าน

แบบบ้าน

สำหรับแบบบ้านที่เรามารีวิวกันวันนี้จะเป็นแบบบ้านที่ชื่อว่า ME ค่ะ ซึ่งเป็นแบบบ้านหลักของที่นี่ก็ว่าได้ เป็นบ้านที่สร้างบนที่ดินขนาด 64.50 – 81.70 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอย 428 – 458 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องอเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้านค่ะ

โดยบ้านแบบ ME เองก็จะมีอยู่ 2 option ให้เลือก แบบแรกคือแบบที่ไม่มีสระว่ายน้ำกับลิฟต์ ซึ่งเป็นบ้านราคาเริ่มต้น 35.5 ล้านบาท ส่วนแบบที่เราจะพาไปรีวิว เป็นบ้านที่มีลิฟต์และสระว่ายน้ำในตัวค่ะ ราคาของบ้านแบบนี้จะเริ่มต้น 42 ล้านบาท

ตัวบ้านจะเป็นบ้านที่ออกแบบมาเต็มที่ดิน เราจึงจะเห็นได้ว่าในแต่ละยูนิตค่อนข้างใกล้กัน แต่ด้วยการออกแบบที่รอบตัวบ้านเน้นความเป็นผนังทึบ เหมือนกับกล่องดูโมเดิร์น เรียบง่าย ทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวที่ดีค่ะ

ในส่วนของหน้าบ้านนั้นจะไม่ได้ออกแบบให้เป็นผนังทึบทั้งแผง แต่จะเว้นที่ไว้บริเวณชั้น 2 เป็นระแนงปรับองศา ทำให้สัดส่วนการออกแบบหน้าตาบ้านดูไม่ทึบตันจนเกินไป มีลูกเล่นเพิ่มขึ้นค่ะ

บ้านแบบ ME ชั้น 1

ฟังก์ชันชั้น 1 ของบ้านจะเป็นพื้นที่ Common Area ทั้งหมด ที่สมาชิกภายในบ้านมาใช้งานร่วมกัน โดยจากทางเข้าจะเจอกับที่จอดรถ จอดได้ทั้งหมด 3 คัน และมีห้องแม่บ้านอยู่ด้านข้าง สะดวกเวลามีคนมาติดต่อ รับพัสดุอะไรแม่บ้านก็จะเห็นได้ง่ายค่ะ นอกจากนี้ในกรณีที่ซื้อของเข้าบ้าน แม่บ้านก็สามารถมาช่วยรับของตั้งแต่ที่จอดรถ เดินไปทางขวาของบ้านตรงเข้าครัวจากทาง Service ได้เลย ไม่รบกวนส่วนรับแขกที่อาจจะมีแขกนั่งอยู่

พอเข้าบ้านมาจะเจอกับโถงทางเดินหน้าบันได และมี Court อยู่ตรงกลางบ้าน ซึ่งดูโปร่งโล่งและสร้างความประหลาดใจให้กับคนที่มาบ้านครั้งแรกได้ เนื่องจากหน้าตาบ้านภายนอกที่เราเห็นจะเป็นกล่องที่ดูทึบตัน แต่พอเข้ามาภายในบ้านตรงนี้จะโปร่งโล่งและได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ เป็นการออกแบบ Space ที่น่าสนใจอีกจุดนะคะ

ส่วนฟังก์ชันภายในบ้านก็จะเป็นพื้นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อกัน ตั้งแต่ห้องนั่งเล่น พื้นที่กินข้าว และก็ Pantry ภายใน โดยจุดเด่นจะอยู่ที่พื้นที่กินข้าวที่ออกแบบให้เป็นส่วนที่ฝ้าเพดานสูง เชื่อมต่อไปยังชั้น 2 และยังสามารถเปิดประตูทางด้านข้างเชื่อมต่อกับ Court และ สระว่ายน้ำที่อยู่ทางหลังบ้านได้อีก เป็น Space ที่เปิดโล่ง เชื่อมต่อภายใน-ภายนอกค่ะ ส่วนทางหลังบ้านจะออกแบบให้เป็นสระว่ายน้ำ ขนาดมาตรฐาน 2×8 เมตร สร้างบรรยากาศให้บ้านดูน่าพักผ่อนมากขึ้น ครอบครัวไหนมีเด็กเล่นก็สามารถมีกิจกรรมสนุกๆ ภายในบ้านได้เลยค่ะ

มาดูที่ตัวบ้านกันค่ะ หน้าบ้านทุกหลังจะมีแนวทางเดินเท้าอยู่และมีไม้พุ่มเล็กๆคั่นระหว่างถนนและทางเท้า สวยงามเรียบร้อย ดูปลอดภัย นอกจากนั้นก็จะมีไฟส่องสว่างให้อยู่ที่บริเวณทางเดินด้วยค่ะ ส่วนเสาไฟฟ้าต่างๆจะถูกนำเอาไว้ลงดินทั้งหมด

ทางเข้าบ้านจะมีทั้งรั้วฝั่งที่จอดรถและรั้วทางเดินคนค่ะ ซึ่งตัวรั้วที่จอดรถก็จะเป็นระบบอัตโนมัติที่เปิดสุดได้ และซ่อนไปยังผนังด้านข้างของตัวบ้านเลย ส่วนที่จอดรถก็สามารถจอดได้ในร่มทั้งหมด 3 คันค่ะ หน้ากว้างประมาณ 8 เมตร

วัสดุพื้นที่จอดก็จะเป็นกระเบื้องที่ดูแล้วเรียบร้อยสวยงาม และแบ่งแนวทางเดินกับที่จอดให้อยู่คนละระดับกันค่ะ

Image 1/4
บริเวณที่จอดรถก็จะมีห้องเก็บของอยู่ด้วย สามารถเก็บอุปกรณ์ทำสวน อุปกรณ์ซ่อมบำรุงรถได้

บริเวณที่จอดรถก็จะมีห้องเก็บของอยู่ด้วย สามารถเก็บอุปกรณ์ทำสวน อุปกรณ์ซ่อมบำรุงรถได้

ก่อนที่เราจะเข้าไปดูภายในบ้าน เราลองพาดูรอบตัวบ้านกันก่อนนะคะ เนื่องจากบ้านจะเป็นบ้านที่สร้างคับที่ดิน การออกแบบพื้นที่รอบๆจึงจะไม่มีฟังก์ชันอะไรมาก เป็นแนวทางเดิน Service ต่างๆ และมีการลงต้นไม้ไว้บ้างค่ะ

Image 1/7
เข้าบ้านมาทางขวามือจะเป็นห้องแม่บ้าน ติดกับรั้วทางเข้าเลย ขวามือเป็นที่ทิ้งขยะ ซึ่งแม่บ้านสามารถเดินนำขยะจากส่วนครัวมาทิ้งตรงนี้ได้เลย

เข้าบ้านมาทางขวามือจะเป็นห้องแม่บ้าน ติดกับรั้วทางเข้าเลย ขวามือเป็นที่ทิ้งขยะ ซึ่งแม่บ้านสามารถเดินนำขยะจากส่วนครัวมาทิ้งตรงนี้ได้เลย

ทางเข้าบ้านจะเป็นชุดประตูจาก Tostem พร้อม Digital Door Lock วัสดุเบา แต่กันแรงกดอากาศ กันน้ำ และกันเสียงได้ดีค่ะ

เข้ามาภายในตัวบ้านจะเป็นโถงทางเดินหน้าลิฟต์และบันไดพอดี ทางขวามือจะเป็น Court กลางบ้านที่ถูกออกแบบให้ผนังรอบๆเป็นกระจก ทำให้ภายในบ้านดูโปร่ง สว่าง คนละอารมณ์กับภายนอกบ้านเลย

Image 1/3
หันมาทางซ้ายมือพื้นที่ใต้บันไดจะเป็นที่เก็บของค่ะ

หันมาทางซ้ายมือพื้นที่ใต้บันไดจะเป็นที่เก็บของค่ะ

บรรยากาศโถงทางเข้า ดูโปร่งและสว่างเลย ให้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่ภายในบ้านใจกลางเมืองแบบลาดพร้าวเลย

เดินเข้ามาทางด้านในบ้านจะเป็นส่วน Common area ค่ะ ทางซ้ายมือเป็นห้องนั่งเล่น ส่วนทางขวามือจะเป็นพื้นที่กินข้าวและ Pantry

ห้องนั่งเล่น/รับแขก

สำหรับ Living Area จะมีพื้นที่ประมาณ 4.20 x 4.95 เมตร ถือว่ามีขนาดใหญ่เลยค่ะ สามารถจัดโซฟาพักผ่อนขนาดใหญ่ รองรับแขกและสมาชิกภายในครอบครัวจำนวนมากได้

บรรยากาศของพื้นที่นั่งเล่นนี้ก็จะโปร่ง เชื่อมต่อกับวิวสระว่ายน้ำทางฝั่งหลังบ้าน และเชื่อมกับพื้นที่กินข้าวที่อยู่ติดกัน

ฟังก์ชัน Highlight ของชั้น 1 น่าจะเป็นพื้นที่กินข้าวตรงนี้ค่ะ เป็นฟังก์ชันที่เชื่อมพื้นที่ส่วนต่างๆของบ้านเอาไว้ด้วยกัน ฝั่งหนึ่งเป็นคอร์ทกลางบ้าน อีกฝั่งเป็นสระว่ายน้ำ  พื้นที่ขนาดใหญ่รองรับการจัดโต๊ะกินข้าว 8-10 ที่นั่งได้เลย

Court กลางบ้าน

ส่วน Court ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดสำคัญของบ้านโครงการนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ เป็นคอร์ทที่อยู่กลางบ้าน พื้นที่ Outdoor ที่ไม่ร้อนเพราะมีแนวอาคารที่เป็นรูปตัว U สูง 3 ชั้นเป็นร่มเงาให้กับคอร์ท รับแสงแต่ไม่รับแดดค่ะ

Image 1/4
พื้นที่ภายในคอร์ทจะมีการลงต้นปีบ และจัดสวนมาให้ พร้อมกับ Terrace ไม้

พื้นที่ภายในคอร์ทจะมีการลงต้นปีบ และจัดสวนมาให้ พร้อมกับ Terrace ไม้

ส่วนรับประทานอาหาร

พื้นที่กินข้าวนี้นอกจากจะเชื่อมต่อกับฟังก์ชันภายใน-ภายนอกที่ชั้น 1 ด้วยกันเองแล้วยังเป็นส่วนที่ได้ฝ้าเพดานสูง 6.5 เมตร เชื่อมต่อไปยังชั้น 2 ของตัวบ้านอีกค่ะ ซึ่งผนังด้านข้างตรงนี้ก็ถูกออกแบบให้เป็นกระจกสูง สามารถเลือกโคมระย้ามาตกแต่งบริเวณนี้ได้นะ

ถัดเข้าไปทางด้านในสุดจะเป็นส่วน Pantry ค่ะ ซึ่งจะเปิดโล่งเชื่อมต่อกับพื้นที่กินข้าวด้วย

Pantry

สำหรับส่วน Pantry ก็จะได้ชุดครัว เคาน์เตอร์ตรงกลาง (island) เตา เครื่องดูดควัน ดูเย็น เตาอบ หน้าบานดู เหมือนกับบ้านตัวอย่างเลยค่ะ

เคาน์เตอร์ island ตรงกลางถือว่ามีขนาดใหญ่ เดินวนรอบได้สบาย จะเป็นมุมสำหรับชงกาแฟ เตรียมขนมหรืออาหารเช้าได้นะคะ

พื้นที่เก็บของใต้เคาน์เตอร์ก็มีเยอะเหมือนกัน เป็นที่วางถังขยะด้วยก็ได้ค่ะ

ส่วนเคาน์เตอร์ทางด้านหลังก็จะได้แบบที่เห็นเลย (แต่จะยาวสุดแค่แนวผนังด้านหลังนะคะ)

Image 1/3
ตู้เย็นก็จะเป็น Built-in ให้มีหน้าบานเข้าชุดดูเรียบร้อย

ตู้เย็นก็จะเป็น Built-in ให้มีหน้าบานเข้าชุดดูเรียบร้อย

หน้าห้องน้ำจะเป็นพื้นที่วาง ซึ่งบ้านตัวอย่างทำตู้เก็บไวน์มาให้ดูเป็นตัวอย่างค่ะ เราอาจจะ Built-in เป็นพื้นที่เก็บของอื่นๆก็ได้นะคะ

ห้องน้ำชั้น 1

สำหรับห้องน้ำแขกที่ชั้น 1 นั้นจะเป็น Powder room ที่ไม่มีส่วนอาบน้ำค่ะ ดีเทลการเลือกวัสดุ สุขภัณฑ์ดูสวยงามเป็นหน้าเป็นตาให้กับเจ้าของบ้านได้เลยนะ

นอกจากนั้นโถสุขภัณฑ์เฉพาะห้องนี้ก็จะพิเศษเป็นของ American Standard รุ่น Smart Toilet ค่ะ

ออกจากห้องน้ำมาจริงๆทางเดินตรงนี้ก็จะเชื่อมต่อระหว่าง Pantry และครัวไทยที่อยู่ภายนอกตัวบ้านด้วย

เปิดประตูออกมาก็จะเป็นครัวไทยค่ะ

ส่วนนี้จะอยู่ในร่ม มีหลังคากันแดด กันฝน ถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวเรามองว่าก็สามารถกั้นประตูให้เป็นครัวปิดได้นะคะ ภายในครัวไทยจุดนี้ก็จะมีการก่อเคาน์เตอร์ให้แบบที่เห็น เข้ามุมรูปตัว L เลยค่ะ

Image 1/2
มีอ่างล้างจานพร้อมตู้เก็บของ

มีอ่างล้างจานพร้อมตู้เก็บของ

ออกจากครัวมาเราเดินไปดูอีกจุดน่าสนใจของบ้านกันต่อ นั่นก็คือหลังบ้านค่ะ

เปิดประตูจาก Pantry มาจะเจอกับห้องงานระบบของสระว่ายน้ำเข้ามุมที่ดินบ้านเลย กรณีที่มีคนมาซ่อมบำรุงก็เดินมาทำงานจากทางข้างบ้านได้ค่ะ

ตัวสระว่ายน้ำจะวางตัวยาวขนานกับหน้ากว้างบ้านไปเลย มีขนาดมาตรฐาน 2×8 เมตร

Image 1/4
เราสามารถจัดพื้นที่นั่งเล่นริมสระได้ค่ะ พื้นที่หลังบ้านอาจจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็ออกแบบมาให้ปิดล้อม ได้ความเป็นส่วนตัวดี

เราสามารถจัดพื้นที่นั่งเล่นริมสระได้ค่ะ พื้นที่หลังบ้านอาจจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็ออกแบบมาให้ปิดล้อม ได้ความเป็นส่วนตัวดี

จบจากชั้น 1 ของบ้านแล้ว เราขึ้นไปดูบรรยากาศที่ชั้นต่อไปกันเลยค่ะ

บ้านแบบ ME ชั้น 2

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ฟังก์ชันชั้นนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนค่ะ ทางฝั่งหน้าบ้านจะเป็น Master Bedroom ขนาดใหญ่ห้องแรก จุดที่เราว่าน่าสนใจคือการออกแบบห้อง Master Bedroom ของบ้านแบบนี้ นอกจากจะได้ถึง 2 ห้องแล้ว ยังเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ และมีระเบียง Outdoor ขนาดใหญ่ด้วยค่ะ โดยปกติแล้ว เราจะเห็นระเบียงที่ตั้งอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน แต่ระเบียงห้องนี้จะอยู่ทางฝั่ง Court กลางบ้านแทน ซึ่งจะได้ทั้งความเป็นส่วนตัวและใกล้ชิด Court กลางบ้าน ส่วนพื้นที่ทางฝั่งหลังบ้านจะเป็นห้องอเนกประสงค์ค่ะ โดยจะมีห้องน้ำอยู่ 1 ห้อง ตรงนี้เรามองว่าสามารถปรับเป็นห้องนอนได้เพิ่มอีกห้องนะคะ

ในบ้านตัวอย่างได้ปรับ Master Bedroom ชั้นนี้เอาไว้เป็นมุมพักผ่อนและทำงานอดิเรกเอาไว้ค่ะ บรรยากาศของบ้านชั้นนี้จะเป็นอย่างไร ไปดูกันต่อเลยค่ะ

ขึ้นบันไดมาชั้น 2 จะเจอกับโถงทางเดินกระจก เปิดโล่งไปยัง Court กลางบ้าน ชั้นนี้จะอยู่ระดับเดียวกับพุ่มใบของต้นไม้พอดี เรียกได้ว่าเห็นสีเขียวได้เต็มที่ ดูสดชื่นดีนะคะ

Master Bedroom ชั้น 2

ห้อง Master Bedroom ที่ชั้นนี้จะมีการปรับฟังก์ชันเป็นมุมพักผ่อนส่วนตัวค่ะ ดังนั้นส่วน Walk-in closet ที่กั้นไว้จะถูกทุบทิ้งนะคะ กลายเป็นห้องขนาดใหญ่ดูโล่งแบบนี้

พอเอาพวกผนังออก Space ต่างๆก็ดูเปิดโล่งเชื่อมกันไปทั้งชั้นเลยค่ะ เรามองว่าถ้าครอบครัวไหนมีสมาชิกในบ้านไม่เยอะ พื้นที่ตรงนี้ก็จะกลายเป็น Family area ที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

Image 1/4
โดยจัดเป็นมุมโซฟาขนาดใหญ่ จัดเป็นมุมดูหนัง เชียร์บอลกับเพื่อนได้เลย

โดยจัดเป็นมุมโซฟาขนาดใหญ่ จัดเป็นมุมดูหนัง เชียร์บอลกับเพื่อนได้เลย

Facade ปรับระดับได้

สำหรับใครที่ต้องการจัดเป็นห้องนอนให้นึกภาพว่าหัวเตียงจะอยู่ฝั่งผนังแทนที่ Coffee station นะคะ ซึ่งผนังทางฝั่งหน้าบ้านก็จะมีกระจกบานใหญ่อยู่เช่นกัน แต่ก็จะมีอีก Layer ที่ผนังภายนอกของบ้าน เป็น Facade ระแนงปรับระดับ ได้ ทำให้เราได้แสงสว่างเข้ามาภายในห้อง ระบายอากาศได้ดี แต่ก็ยังได้ความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อนอยู่ค่ะ

Image 1/2
ระหว่างหน้าต่างห้องกับแนว Facade จะมีระยะอยู่ วางต้นไม้ ไม่กระถางเพิ่มความร่มรื่นได้นะคะ

ระหว่างหน้าต่างห้องกับแนว Facade จะมีระยะอยู่ วางต้นไม้ ไม่กระถางเพิ่มความร่มรื่นได้นะคะ

ส่วนผนังทางฝั่งที่เป็น Court จะมีทั้งผนังทึบและมุมเล็กๆ จะเป็นมุมนั่งเล่นชมวิวริมหน้าต่าง อารมณ์เหมือน Bay window เลยค่ะ ซึ่งอาจจะเปลี่ยนเป็นชั้นวางแทนก็ได้นะคะ

ส่วนระเบียงเมื่อเปิดประตูออกมาจะได้ระเบียงขนาดใหญ่เลย จุดที่น่าสังเกตทางขวามือคือ พื้นที่ระเบียงไม่ได้กว้างเต็ม แต่จะมีระยะสำหรับวางแนวต้นไม้ โดยออกแบบให้มีราวกันตกคั่นกลางแยกพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มแนวกำแพงต้นไม้ไม่ให้บ้านข้างๆมองเข้ามาได้ และเกิดพื้นที่สีเขียวที่ล้อมรอบระเบียงส่วนตัวนี้ด้วยค่ะ

Image 1/4
พื้นที่จัดสวน ปลูกต้นไม้ที่ระเบียง

พื้นที่จัดสวน ปลูกต้นไม้ที่ระเบียง

ระยะความสูงที่ชั้นนี้จะตรงกับยอดของต้นปีบที่ปลูกไว้กลางคอร์ทพอดี ทำให้เห็นสีเขียวของใบไม้เต็มที่ สร้างความสดชื่นได้ดีเลยค่ะ

ดูพื้นที่พักผ่อนที่รวมเอาฟังก์ชันห้องนอนและ Walk-in closet เอาไว้ด้วยกันไปแล้ว เราไปดูห้องน้ำของ Master Bedroom กันบ้าง

ห้องน้ำใน Master Bedroom ชั้น 2

เข้ามาภายในห้องน้ำเราจะเจอกับเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าตรงกลาง จัดเป็น 2 อ่าง His & Her พร้อมกระจกเงาที่ได้พื้นที่เก็บของด้านหลัง และก็ได้ Built-in ชั้นวางของด้านล่างเคาน์เตอร์เอาไว้ให้ด้วย ทางฝั่งซ้ายจะเป็นอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่แบบลอยตัว ใกล้กับหน้าต่างและช่องแสงแบบโปร่งแสง เพิ่มความสว่างให้ภายในห้องน้ำ และช่วยระบายอากาศภายใน

ส่วนทางฝั่งขวาก็จะแยกแต่ละฟังก์ชันเป็นห้องเอาไว้ ทั้งห้องสุขา และห้องอาบน้ำค่ะ

Image 1/5
ห้องน้ำใน Master Bedroom ชั้น 2

ห้องน้ำใน Master Bedroom ชั้น 2

จบจาก Master Bedroom กันเราไปดู Multipurpose area ทางฝั่งหลังบ้านกันบ้าง

Multipurpose area

พื้นที่อเนกประสงค์ที่ชั้นนี้ถือว่าเปิดโล่งพอสมควรค่ะ พื้นที่มีขนาดใหญ่ ได้ระเบียงที่หันไปทางฝั่งหลังบ้าน และเชื่อมต่อกับโถงกินข้าวที่เป็น Double Volume ของชั้น 1 อีกด้วย

Image 1/3
พื้นที่ดูโปร่ง เพราะมีประตูกระจกขนาดใหญ่ทางฝั่งหลังบ้าน แต่ก็ไม่ได้ร้อนมากเนื่องจากมีระยะของระเบียงและระแนงช่วยเป็นกันสาดให้กับภายในห้องอยู่

พื้นที่ดูโปร่ง เพราะมีประตูกระจกขนาดใหญ่ทางฝั่งหลังบ้าน แต่ก็ไม่ได้ร้อนมากเนื่องจากมีระยะของระเบียงและระแนงช่วยเป็นกันสาดให้กับภายในห้องอยู่

โดยพื้นที่อเนกประสงค์ก็สามารถเชื่อมกับคอร์ทกลางบ้านได้เช่นกันค่ะ โดยตัวห้องที่เปิดโล่งนอกจากจะเชื่อมกับทางเดินหน้าบันไดและลิฟต์(ทางขวา)แล้วก็จะมีทางเดินที่เป็นเหมือนสะพาน(ทางซ้าย) ไปยังอีกฟังก์ชันของชั้นนี้ด้วย

เดินข้ามสะพานมาจะเป็นห้องน้ำค่ะ แต่ว่าหน้าห้องน้ำก็มีพื้นที่อยู่หนึ่งจุด จัดเป็นมุมเก็บของเปลี่ยนเสื้อผ้าได้นะคะ เผื่อใครที่จัดพื้นที่อเนกประสงค์เอาไว้เป็นพื้นที่ออกกำลังกายภายในบ้าน เดินข้ามมาก็มาอาบน้ำแต่งตัวตรงนี้ได้เลย มีระเบียง Private ทางด้านข้าง ช่วยสร้างให้มุมนี้ดูเป็นส่วนตัวแต่ไม่อึดอัดได้ดี

พื้นที่สำหรับทำเป็นชั้นเก็บของ อาจจะเอาไว้เก็บอุปกรณ์สำหรับใช้ออกกำลังกายต่างๆได้ค่ะ

Image 1/2
ส่วนตัวห้องน้ำนั้นก็ออกแบบมาให้มีพื้นที่อาบน้ำภายในด้วย แยกพื้นที่ส่วนเปียก/แห้งไว้ชัดเจน

ส่วนตัวห้องน้ำนั้นก็ออกแบบมาให้มีพื้นที่อาบน้ำภายในด้วย แยกพื้นที่ส่วนเปียก/แห้งไว้ชัดเจน

ตัวสะพานฝั่ง multipurpose area เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นทางด้านล่างได้ และก็เชื่อมต่อกับทั้ง Court กลางบ้านและสระว่ายน้ำที่อยู่ทางด้านหลังบ้านเช่นกัน เป็นตำแหน่งที่เชื่อมต่อกับพื้นที่สำคัญของบ้านหลังนี้ไว้นะคะ

จบจากชั้น 2 แล้ว เราเดินขึ้นไปดูที่ชั้น 3 กันต่อค่ะ

บ้านแบบ ME ชั้น 3

ขึ้นมาที่ชั้น 3 สามารถแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ฝั่งค่ะ ทางฝั่งด้านหน้าจะเป็น Master Bedroom ห้องที่ 2  ส่วนทางฝั่งหลังบ้านเป็นห้องนอนรอง โดยจะมีพื้นที่อเนกประสงค์หน้าห้องนอนค่ะ ด้วยขนาดถือว่ากว้างขวางอยู่สบายทั้ง 2 ห้อง แต่สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะเผื่อพื้นที่อเนกประสงค์ไว้ทำอะไร ก็สามารถทุบผนังรวมพื้นที่ให้ห้องนอนทางฝั่งหลังบ้านเป็นห้องนอนขนาดใหญ่อีกก็ได้ค่ะ ในบ้านตัวอย่างชั้นนี้จะแต่งห้องนอนทางด้านหลังทุบรวมเป็น Walk-in Closet ขนาดใหญ่ให้ดูเป็นไอเดีย บรรยากาศพื้นที่ชั้นนี้จะเป็นอย่างไร ไปดูกันค่ะ

Image 1/2
ขึ้นบันไดมา ทางขวามือจะเป็นห้องนอนใหญ่นะคะ แต่ก่อนจะเข้าห้องนอนใหญ่มีประตูเล็กๆอยู่

ขึ้นบันไดมา ทางขวามือจะเป็นห้องนอนใหญ่นะคะ แต่ก่อนจะเข้าห้องนอนใหญ่มีประตูเล็กๆอยู่

Master Bedroom ชั้น 3

เข้ามาในห้องนอนใหญ่จะเจอกับแนวทางเดินค่ะ ทางขวามือจะเป็นห้อง Walk-in Closet ส่วนตัว

Image 1/2
พื้นที่ภายในห้องแต่งตัวที่เผื่อมาให้นับว่าใหญ่จริงๆนะคะ สามารถทำเป็นห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ วางตู้เก็บเสื้อผ้า กระเป๋าได้เต็มที่

พื้นที่ภายในห้องแต่งตัวที่เผื่อมาให้นับว่าใหญ่จริงๆนะคะ สามารถทำเป็นห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ วางตู้เก็บเสื้อผ้า กระเป๋าได้เต็มที่

ห้องน้ำใน Master Bedroom ชั้น 3

ในห้องตัวอย่างจะออกแบบให้ Walk-in Closet เชื่อมต่อกับภายในห้องน้ำเลย ซึ่งการวางผังต่างๆของห้องน้ำชั้นนี้ก็ถือว่าเหมือนกับห้องน้ำใน Master Bedroom ที่ชั้น 2 เลยค่ะ ขนาดกว้างขวาง ได้อ่างอาบน้ำแบบชิ้นเดียวลอยตัว มีอ่างล้างหน้าแบบ His&Her ให้มา และมีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติด้วย

อีกฝั่งก็จะเป็นห้องสุขาและห้องอาบน้ำ กั้นแยกพื้นที่เป็นสัดส่วนชัดเจน สามี-ภรรยาสามารถเข้ามาใช้งานพร้อมๆกันได้นะคะ

เข้ามาด้านในสุดของห้องจะเป็นส่วนพักผ่อนค่ะ โดยห้องนี้จะมีหน้าต่างขนาบสองฝั่งห้องเลยนะ

Image 1/3
ทางขวามือหรือทางฝั่งหน้าบ้านจะเป็นระเบียงขนาดใหญ่ค่ะ แต่จะไม่ได้เปิดรับวิวเท่าไหร่เพื่อความเป็นส่วนตัว

ทางขวามือหรือทางฝั่งหน้าบ้านจะเป็นระเบียงขนาดใหญ่ค่ะ แต่จะไม่ได้เปิดรับวิวเท่าไหร่เพื่อความเป็นส่วนตัว

หันมายังอีกฝั่งจะเป็นผนังที่เปิดรับวิวคอร์ทกลางบ้านนะคะ

มุมแรงนี้จะเป็นมุมสำหรับวางตู้วางของหรือจะจัดเป็น Snack Bar ส่วนตัวภายในห้องนอนก็ได้เช่นกันค่ะ

Image 1/3
ส่วนระเบียงก็จะมีขนาดกำลังดี ออกมายืนสูดอากาศได้

ส่วนระเบียงก็จะมีขนาดกำลังดี ออกมายืนสูดอากาศได้

จบห้องนอนใหญ่เดินไปดูพื้นที่ทางฝั่งหลังบ้านกันค่ะ โถงทางเดินหน้าบันไดและลิฟต์ดูแล้วโปร่ง สว่างพอสมควร ชั้นนี้จะได้รับแสงสว่างค่อนข้างเต็มที่เลย

ก่อนจะเข้าไปที่ฟังก์ชันทางฝั่งหลังบ้านจะมีพื้นที่เล็กๆ เราสามารถจัดเป็น Pantry เล็กๆ วางตู้เย็น เก็บขนมหรือเครื่องดื่มสำหรับคนที่อยู่ชั้นนี้ก็ได้นะคะ จะได้ไม่ต้องเดินลงไปถึงชั้น 1 ถ้าเกิดหิวน้ำหรือว่าอยากหาขนมรองท้อง

Multipurpose + Bedroom 3

ในบ้านตัวอย่างจะทุบรวมจัด 2 พื้นที่นี้ให้กลายเป็น Walk-in closet ขนาดใหญ่ค่ะ

Image 1/3
Multipurpose Area ที่ปรับเป็นห้องแต่งตัว

Multipurpose Area ที่ปรับเป็นห้องแต่งตัว

Multipurpose Area มีผนังทางด้านหลังบ้านเปิดไปเป็นระเบียงเล็กๆ สามารถปลูกไม้กระถางได้ และเป็นช่องแสงเพิ่มความสว่างให้กับพื้นที่ส่วนนี้ด้วยค่ะ

Image 1/2
ห้องนอนที่ปรับเป็น Walk-in Closet ขนาดใหญ่

ห้องนอนที่ปรับเป็น Walk-in Closet ขนาดใหญ่

ส่วนที่เป็นฟังก์ชันห้องนอน ผนังทางฝั่งหลังบ้านจะออกแบบให้เป็นผนังทึบเป็นส่วนใหญ่ เปิดมุมมองหรือช่องแสงมาทางฝั่ง Court ที่อยู่ใจกลางบ้านแทนค่ะ ทำให้ภายในห้องนอนได้ความเป็นส่วนตัว

ก่อนที่จะเข้าไปยังห้องน้ำก็ยังมีมุมที่สามารถจัดเป็นมุมแต่งตัวได้ ถ้าใครจะจัดให้ห้องนี้เป็นห้องนอนก็สามารถทำตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in เข้ามุมเป็นรูปตัว L ได้ค่ะ

ห้องน้ำภายในห้องนอนรองชั้น 3

ภายในห้องน้ำก็จะแยกพื้นที่ส่วนเปียก/แห้งเอาไว้ให้ค่ะ มีหน้าต่างบานใหญ่เอาไว้ระบายความชื้นภายในห้องน้ำ และรับแสงจากภายนอกด้วย

Image 1/2
สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ถือว่าให้มาครบครัน ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเติมเลยนะคะ

สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ถือว่าให้มาครบครัน ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเติมเลยนะคะ

และนี่ก็เป็นบ้านตัวอย่างทั้งหมดของโครงการ Providence Lane เอกมัย-รามอินทรา ถือว่าเป็นบ้านขนาดใหญ่ที่เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านมากเลย แต่ก็คำนึงถึงความสว่าง บรรยากาศการอยู่อาศัยที่สามารถเชื่อมต่อกับธรรมชาติภายนอกบ้านอย่างต้นไม้ แดด ลม น้ำได้  เป็นอีกโครงการที่น่าสนใจเลยค่ะ ผู้อ่านคิดเห็นอย่างไรกับบ้านโครงการนี้กันบ้าง Comment กันมาได้เลยนะคะ

รายการวัสดุและเทคโนโลยีภายในบ้าน

  • FACADE : กระเบื้องพอร์ซเลนลายหินอ่อน Amazon Travertin
  • ประตูทางเข้า : Giesta by TOSTEM : Wood-pattern finish-doors
  • ชุดประตูหน้าต่าง : Aluminium TOSTEM
  • วัสดุพื้น : กระเบื้องพอร์ซเลน, Engineering Wood หนา 14 มม., กระเบื้องเซรามิค
  • Pantry : Built-in ชุดครัว Custom Made ได้ตู้เย็น, Sink, Hob&Hood และ Microwave Oven จาก Smeg, MEX by Smeg
  • ครัวไทย : Built-in เคาน์เตอร์ และหัวเตาแก๊ส
  • สุขภัณฑ์ : Grohe, KASCH (อ่างอาบน้ำและอ่างล้างมือ), American Standard (โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวและอ่างล้างมือ) ระบบน้ำร้อน
  • สระว่ายน้ำ ขนาดมาตรฐาน 2×8 เมตร ลึก 1.2 เมตรระบบเกลือ
  • ERV : Energy Recovery Ventilator by PANASONIC ระบบไหลเวียนอากาศ ช่วยระบายความชื้นและความร้อนภายในบ้าน โดยมีตัวกรองอากาศยับยั้งสปอร์ของเชื้อราละอองเกสรดอกไม้ และอื่นๆ
  • Smart Home : สามารถควบคุม Smart device ต่างๆ ภายในบ้าน ผ่าน Application Artani ZB เช่น
    – Lighting Switch, Sockets
    – TV
    – Air Condition
    – Security Devices with all Sensors
    – IP Camera
    – Curtain
    – Etc.
  • จัดสวนและปลูกต้นปีบบริเวณ Inner Court กลางบ้าน

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

แบบแปลน

นอกเหนือจากแบบบ้านตัวอย่างที่เราได้ไปดูกันมาเมื่อสักครู่ ทางโครงการ Providence Lane เอกมัย-รามอินทรา ยังมีแบบบ้านอีก 2 แบบให้เลือกค่ะ

ME

ME ที่เป็นบ้านราคาเริ่มต้นราคา 39 ล้านบาท จะเป็น Type ที่เหมือนกันกับแบบบ้านตัวอย่างที่พาไปชมกัน เพียงแต่ไม่มีสระว่ายน้ำและลิฟต์โดยสาร สำหรับ Type นี้จะมีอยู่ 2 ยูนิตเท่านั้นค่ะ ส่วนตัวเรามองว่าบ้านแบบนี้เหมาะกับคนที่ไม่ใช้งานลิฟต์หรือสระว่ายน้ำอยู่แล้ว อาจเป็นคนโสด หรือคู่รักวัยรุ่น, วัยกลางคน ที่ไม่มีลูกเล็ก เน้นพื้นที่ใช้สอยภาพในบ้านมากกว่า (ส่วนตัวเรามองว่าสระว่ายน้ำเหมาะสำหรับการสร้างบรรยากาศหรือครอบครัวที่มีเด็กเล็กมาเล่นบ่อยๆ ค่ะ) ซึ่งราคาบ้านระหว่างหลังที่มีสระว่ายน้ำกับหลังที่ไม่มีสระว่ายน้ำก็ต่างกันมากกว่า 5 ล้านบาทเลยค่ะ ลอง Trade off ในใจกันดูนะคะ

MINE

แบบบ้านใหญ่สุดของโครงการจะเป็นบ้านแบบ MINE ซึ่งมีเพียงหลังเดียวเท่านั้นค่ะ สไตล์การออกแบบบ้านยังคงคุมโทนเหมือนกับบ้านหลังอื่นๆในโครงการ เพียงแต่การวางผังบ้าน พื้นที่ใช้สอยจะแตกต่างกันออกไปเลย ได้พื้นที่ใช้สอยจากราวๆ 45x ตร.ม. มาเป็น 712 ตร.ม. ส่วนราคาก็จะอยู่ที่ 65 ล้านบาทค่ะ

แบบ MINE จะเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น บนที่ดิน 101 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอย 712 ตร.ม. โดยฟังก์ชันของบ้านมี 4 ห้องนอน  6 ห้องน้ำ  4 ที่จอดรถ  2 Recreation spaces  2 ห้องแม่บ้าน  และมีสระว่ายน้ำส่วนตัว กับ ลิฟต์ส่วนตัวด้วยค่ะ

 

Image 1/3
บ้านแบบ MINE ชั้น 1

บ้านแบบ MINE ชั้น 1

ผังบ้านแบบ MINE ยังมีลักษณะเป็นบ้านหลังใหญ่ที่สร้างเต็มที่ดินอยู่ค่ะ จุดเด่นของบ้านแบบนี้สำหรับเราก็ยังเป็นการสร้าง Court ตรงกลางที่ทุกฟังก์ชันภายในบ้านสามารถมองเห็นและเปิดรับวิวตรงนี้ได้ด้วยกัน เพียงแต่การออกแบบผังบ้านนั้นจะเป็นการวางผังรูปตัว U ที่คอร์ทตรงกลางจะเป็นตำแหน่งของสระว่ายน้ำแทน ดังนั้น วิวที่ทุกห้องจะได้จะเป็นวิวของสระว่ายน้ำส่วนตัวค่ะ

จุดต่อมาที่น่าสนใจของบ้านแบบนี้คือการออกแบบพื้นที่ห้องนอน โดยห้องนอนทั้ง 4 ห้องจะถูกจัดไว้ที่ชั้น 2 และชั้น 3 ซึ่งในทุกๆห้องจะมีขนาดใหญ่มาก จัดพื้นที่วางเตียงขนาดใหญ่ได้ มีมุมสำหรับทำ Walk-in Closet และมีห้องน้ำในตัว อยู่อาศัยได้สบายตั้งแต่เล็กยันโตมีครอบครัวได้ค่ะ

นอกจากนั้นในทุกๆ ชั้นก็ยังมีพื้นที่อเนกประสงค์เพิ่มเติมที่ใจกลางบ้าน จัดเป็นมุมทำงานอดิเรก ห้องหนังสือ มุมพักผ่อนส่วนตัว มุมออกกำลังกายให้กับสมาชิกทุกคนในครอบครัวได้ด้วย ถือเป็นบ้านที่เรามองว่ารองรับการใช้งานของครอบครัวขนาดใหญ่ได้ อยู่กันได้ 3 Generation แบบไม่อึดอัด สามารถมีมุมพักผ่อนส่วนตัวนอกเหนือไปจากห้องนอนได้ แต่ก็มีพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ให้ทั้งครอบครัวได้มารวมตัวกันค่ะ

Perspective จำลองบรรยากาศภายนอกบ้าน ยังคงเอากระเบื้องพอร์ซเลนลายหินอ่อน Amazon Travertin มาเป็นวัสดุหลักที่ใช้ภายนอกอาคาร และก็ยังมีระแนงปรับระดับ เพิ่มความสวยงามและความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยค่ะ

ตัวบ้านจะมีผังเป็นรูปตัว U โอบล้อมคอร์ทตรงกลางที่เป็นสระว่ายน้ำและต้นไม้เอาไว้ โดยพื้นที่ Court ตรงนี้จะเห็นว่ามีการออกแบบให้เป็นพื้นที่แบบ Semi-outdoor คือจะมีหลังคาโปร่งใสคลุม ช่วยกรองแสงแดดและบังฝนได้ ช่วยให้พื้นที่ภายใน Court ไม่ร้อนมากเวลาใช้งานค่ะ

ราคา

Providence Lane เอกมัย – รามอินทรา ราคา ณ วันที่ 1 มีนาคม 2565

  • ME บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดิน 64.50 – 81.70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 428 – 458 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องอเนกประสงค์ / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน / สระว่ายน้ำส่วนตัว / ลิฟต์ส่วนตัว
    – ราคาเริ่มต้น 39 ล้านบาท (แบบที่ไม่มีสระว่ายน้ำ)
    – ราคาเริ่มต้น 42 ล้านบาท (แบบที่มีสระว่ายน้ำ)
  • MINE บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดิน 101 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 712 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 2 Recreation spaces / 2 ห้องแม่บ้าน / สระว่ายน้ำส่วนตัว / ลิฟต์ส่วนตัว
    – ราคา 65 ล้านบาท
  • จองและทำสัญญา n/a บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
  • ค่าส่วนกลาง 125 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 1 ปี

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
โครงการ Providence Lane เอกมัย-รามอินทรา ตั้งอยู่ในซอยสังคมสงเคราะห์ 14 อยู่ทางฝั่งลาดพร้าวเลขคี่ ซึ่งเป็นลาดพร้าวตอนกลางที่มายังเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทราได้ง่าย สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งถนนเลียบทางด่วนฯ, ถนนลาดพร้าว ลัดเลาะไปออกถนนรัชดาภิเษก และ ถนนเกษตร-นวมินทร์ได้ค่ะ นอกจากนี้ยังไม่ไกลจากทางด่วนฉลองรัช และรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีลาดพร้าว 71 ที่กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ

ในส่วนของความอุดมสมบูรณ์ทำเลนี้ถือว่าอยู่ในโซนที่มีตัวเลือกเยอะมาก ทั้งโซนนาคนิวาส, โชคชัย 4, ลาดพร้าว-วังหิน ก็อยู่ในละแวกที่ขับรถไปง่าย หรือว่าจะสั่ง Delivery มาก็ใช้เวลาไม่นาน นอกจากนี้ก็สามารถไปยังโซน Central Eastville และ The Crystal Park ได้ โดยที่ไม่ต้องผ่านถนนใหญ่อย่างเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทราอีกด้วยค่ะ ใช้ชีวิตวนลูปโซนนี้ได้เลย

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
สำหรับความปลอดภัยตัวโครงการเรามองว่าจะได้ในเกณฑ์ทั่วไปที่เราคาดหวังไว้กับบ้านราคาระดับนี้นะคะ เป็นโครงการขนาดเล็กที่มีรปภ.คอยดูแล มี CCTV รอบโครงการ ซึ่งในตัวบ้านเองก็จะมีให้ทั้งกล้องวงจรปิด, สัญญาณกันขโมยที่ประตู-หน้าต่าง โดยเชื่อมต่อกับระบบ Home Automation ที่ผู้อยู่อาศัยสามารถดูผ่าน application บนมือถือได้

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
สำหรับเราการออกแบบโครงการนี้จะเน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวและการออกแบบบ้านที่เอื้อให้ใช้ชีวิตได้สบายอยู่พอสมควรเลยค่ะ เริ่มจากตัวโครงการมีขนาดเล็ก เพียง 12 ยูนิต แต่ก็มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งาน

ฟังก์ชันตัวบ้านก็จะเป็นบ้านที่สร้างเต็มพื้นที่ดิน แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้านครบ ทั้งลิฟต์และสระว่ายน้ำ เมื่อมองจากภายนอกตัวบ้านจะดูเหมือนกล่องที่ปิดทึบแต่ภายในบ้านก็มีบรรยากาศที่แตกต่าง มีความโปร่งโล่ง ใกล้ชิดธรรมชาติที่เกิดจากการสร้าง inner Court ส่วนตัวเอาไว้ภายในบ้าน ทำให้ทุกพื้นที่ในบ้านได้วิวต้นไม้ ได้แสงธรรมชาติจาก Court นี้ โดยที่แต่ละห้องก็ยังคงได้ความเป็นส่วนตัวจากการที่มีต้นไม้บัง และการเลือกใช้กระจกที่มองเข้าไปไม่เห็นภายในห้องอีกฝั่ง ซึ่งรายละเอียดเล็กๆ นี้เรามองว่าน่าสนใจมากค่ะ

วัสดุ :
โครงการ Providence Lane เอกมัย-รามอินทรา นับว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ให้วัสดุต่างๆ ดีงามสมราคาเลยค่ะ ตั้งแต่ตัวโครงการ มีการเอาเสาไฟลงดิน การออกแบบรั้วโครงการและการเลือกวัสดุพื้นดูเรียบร้อย วัสดุกรุผนังภายนอกบ้านที่เลือกใช้เป็นกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อน Amazon Travertin ดูเรียบหรู หรือจะเป็นวัสดุภายในบ้านที่ให้มาเกรดดี ตัวกระเบื้องต่างๆ ก็เลือกใช้เป็น Porcelain ที่คุณสมบัติและความสวยงามดีกว่ากระเบื้องแกรนิตโต้ พื้นห้องนอนก็จะใช้ Engineering Wood หนา 14 มม. ได้ Built-in ครัว และมี Pantry แบบ Custom made ให้ ส่วนใหญ่จะเป็นของยี่ห้อ Smeg ส่วนห้องน้ำก็จะผสมกันหลายยี่ห้อ ทั้ง Grohe, KASCH และ American Standard ประตู หน้าต่างได้ TOSTEM และก็ยังได้ Smart home automation มา

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
เนื่องจากตัวโครงการจะมีขนาดเล็ก เพียง 12 หลังเท่านั้น แต่ก็ออกแบบพื้นที่โดยรอบตั้งแต่รั้วโครงการ ทางเข้า ไปจนถึงส่วน Clubhouse ที่อยู่ตรงกลางออกมาเรียบร้อย ตรงกับ Concept ที่ออกแบบไว้ ทางโครงการมีการนำเอาเสาไฟลงดิน และในบ้านแต่ละหลังก็จะมีทางเท้าด้านหน้า มีต้นไม้ระหว่างแนวทางเดินกับถนนหน้าบ้าน และก็มีต้นไม้ใหญ่ทางหน้าบ้านเช่นกัน ทำให้เมื่อมองไปรอบๆ ภายในโครงการก็ดูสดชื่นและเรียบร้อยดีค่ะ

สาธารณูปโภค :
ตรงกลางของที่ดินโครงการ ตรงกับทางเข้าจะเป็นตำแหน่งของ Clubhouse ที่ถือว่าค่อนข้าง Private เลยค่ะ ใช้งานร่วมกันเพียง 12 ครอบครัวเท่านั้น โดยฟังก์ชันจะมี Lobby และ Fitness เป็นหลัก เนื่องจากบ้านส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นบ้านที่ออกแบบไว้ให้มีสระว่ายน้ำภายในตัวอยู่แล้ว เรามองว่าภายในบ้านของคนที่อยู่ที่นี่ก็อาจจะมีห้องออกกำลังกายส่วนตัวอยู่ด้วยก็ได้ค่ะ ดังนั้น ส่วนที่เป็น Clubhouse ก็จะเป็นมุมสำหรับแขกที่ลูกบ้านพามาพูดคุย หรือมาทำกิจกรรมร่วมกันตรงนี้ในกรณีที่บ้านยังไม่พร้อมต้อนรับมากกว่า ถึงอย่างนั้น พื้นที่ส่วนกลางก็ออกแบบตกแต่งมาดูสวย เป็นหน้าเป็นตาให้กับลูกบ้านพอสมควรค่ะ นอกเหนือไปจากนั้นก็จะมี Concierge Service คอยประจำอยู่ที่ Clubhouse เผื่อใครอยากได้ Home Care Services ก็มาติดต่อได้โดยตรงที่นี่ค่ะ

Judgement

เนื่องจากโครงการนี้อยู่ในระดับ Super Luxury การตัดสินใจที่จะเลือกซื้อโครงการของลูกค้ากลุ่มนี้มักจะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว สไตล์ มีเรื่องคุณค่าทางอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยมากกว่าความคุ้มค่าของฟังก์ชันพื้นที่ใช้สอย ดังนั้น ในโครงการนี้เราจึงขอไม่ให้คะแนนในส่วนนี้นะคะ

Providence Lane เอกมัย – รามอินทรา เหมาะกับใคร ?

โครงการ Providence Lane เอกมัย-รามอินทรา เหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในเมือง อยากได้บ้านใจกลางเมืองหรือไม่ไกลมาก เดินทางสะดวก อยู่กันเป็นครอบครัวขนาดเล็กถึงกลาง ชอบดีไซน์และความเป็นส่วนตัวของบ้านเป็นหลัก และให้ความสำคัญกับการได้อยู่ในบรรยากาศโปร่งสว่างใกล้ชิดธรรมชาติ มีงบประมาณซื้อบ้านราวๆ 40-65 ล้านค่ะ


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc