Passorn ร่มเกล้า – รามคำแหง บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ในซอยร่มเกล้า 6/1 ถนนร่มเกล้า ใกล้มีนบุรี จาก พฤกษา [รีวิวฉบับที่ 2168]

20 November 2020

• Passorn Romklao-Ramkhamhaeng (ภัสสร ร่มเกล้า-รามคำแหง)
• บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จํากัด (มหาชน)
• UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านปี 2020 ได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่: ซอย ร่มเกล้า 6/1 เขต มีนบุรี
• เนื้อที่โครงการ 96-0-45.5 ไร่ จำนวน 427 ยูนิต
• Pixie บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 5.29 ล้านบาท
• Elsie บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 142 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 5.95 ล้านบาท
• Porter บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 6.35 ล้านบาท
• Perkins บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 179 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 7.09 ล้านบาท
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้น 1 – 2.60 เมตร / ชั้น 2 – 2.60 เมตร
• ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 64,000 บาท
• เปิดขาย 21 กันยายน 2562
• คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการประมาณ ปี 2569
• เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
• Call Center : 1739

พิกัด Google Maps : 13.787876207787022, 100.72938651490054
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ Passorn ร่มเกล้า – รามคำแหง ตั้งอยู่ในซอย ร่มเกล้า 6/1 บนถนนร่มเกล้า เชื่อมต่อกับถนนรามคำแหง และถนนอ่อนนุช – ลาดกระบัง สามารถใช้ถนนมอเตอร์เวย์เพื่อเดินทางเข้าเมืองไปยังถนนพระราม 9 หรือออกเมืองไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรา, จังวัดชลบุรีได้ นอกจากนั้นยังใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ และเส้นทางรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรียลลิ้งค์, รถไฟฟ้าสายสีส้ม(ในอนาคต) และรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ในอนาคต) ด้วย ถือว่าเป็นทำเลที่มีความสะดวกในการเดินทางหลากหลายทีเดียวค่ะ

ถนนร่มเกล้า เป็นถนนที่เชื่อมต่อมาจากมีนบุรีที่ถนนสุวินทวงศ์ ไปจนถึงถนนลาดกระบัง ซึ่งจุดสิ้นสุดของถนนร่มเกล้าจะเป็นทางยกระดับเข้าสนามบินสุวรรณภูมิค่ะ แต่เนื่องจากย่านนี้เป็นชุมชนพักอาศัย สามารถเดินทางไปเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักๆได้หลายสายทำให้การจราจรค่อนข้างหนาแน่นควรเผื่อเวลาในการเดินทางในช่วงเร่งด่วนของวันด้วยค่ะ

ถนนที่เชื่อมต่อกับถนนร่มเกล้ามี ดังนี้

• ถนนรามคำแหง : เป็นถนนที่มีความคึกคักและความอุดมสมบูรณ์สูง ปัจจุบันกำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม สามารถใช้ถนนเส้นนี้ในการเดินทางเข้าเมืองไปยังถนนเพชรบุรีตัดใหม่ หรือถนนสุขุมวิท 71 ได้
• ถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า : เป็นถนนตัดใหม่ที่เชื่อมต่อถนนร่มเกล้าให้สามารถเดินทางไปยังถนนศรีนครินทร์ได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นถนนเส้นใหญ่การเดินทางโล่งสบายไม่หนาแน่น และยังสามารถเชื่อมต่อไปยังหัวหมาก หรือย่านหลังรามฯได้รวดเร็ว
• ถนนกรุงเทพ – ชลบุรี (มอเตอร์เวย์) : เป็นเส้นทางด่วนที่เชื่อมต่อระหว่างถนนร่มเกล้า ไปยังถนนพระราม 9 ได้โดยไม่ต้องเสียค่าผ่านทางค่ะ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับถนนกาญจนาภิเษกไปย่านบางนา – ตราด ได้สะดวก นอกจากนั้นใครที่ทำงานย่านตะวันออกก็สามารถใช้มอเตอร์เวย์เดินทางไปได้ง่าย
• ถนนอ่อนนุช – ลาดกระบัง : เป็นถนนที่เชื่อมต่อไปยังถนนอ่อนนุช (สุขุมวิท 77) ไปออกถนนสุขุมวิทได้ ซึ่งถนนเส้นนี้ก็เป็นอีกเส้นทางที่มีความคึกคักสูง ทำให้การจราจรติดขัด ใครที่ต้องใช้เส้นนี้อาจจะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางด้วยค่ะ

ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ ที่ตั้งโครงการ Passorn ร่มเกล้า – รามคำแหง อยู่ในทำเลย่านลาดกระบัง ซึ่งใกล้กับย่านอุตสาหกรรมใหญ่อย่างนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังที่อยู่บนถนนฉลองกรุง แต่เดิมเป็นย่านชุมชนพักอาศัย และที่ดินเปล่า ปัจจุบันมีความเจริญเพิ่มมากขึ้นโดยมีร้านค้า ร้านอาหาร และตลาดขนาดใหญ่มาเปิดทำให้มีความคึกคักมากขึ้น ความอุดมสมบูรณ์จะแบ่งเป็นโซนหลักๆ ดังนี้

• ถนนรามคำแหง : เป็นถนนเส้นหลักที่รวบรวมแหล่งจับจ่ายใช้สอยไว้หลากหลาย มีห้างสรรพสินค้าอย่าง Big C, Tesco Lotus, HomePro ให้ได้เลือกซื้อของเข้าบ้าน และยังมีตลาดหลายแห่ง ถือว่าหาของกินได้ง่ายๆค่ะ
• เคหะร่มเกล้า – ถนนร่มเกล้า : โซนร่มเกล้าเองก็มีร้านอาหารและตลาดอยู่เหมือนกันค่ะ จะมีความคึกคักเป็นพิเศษในซอยต่างๆ เนื่องจากเป็นพื้นที่ชุมชนเคหะร่มเกล้า มีตลาดนัดขนาดใหญ่ และร้านอาหาร ร้านบุฟเฟต์ชาบู หมูกระทะหลายแห่ง รวมถึงมี Big C Food Place ที่ปรับปรุงมาใหม่ร้านอาหารเยอะทีเดียวค่ะ นอกจากนั้นยังมีสวนสาธารณะ ให้มาวิ่งออกกำลังกายกันได้อีกด้วย
• ถนนอ่อนนุช – ลาดกระบัง : ขยับออกมาอีกนิดที่ถนนอ่อนนุช – ลาดกระบังจะมีความคึกคักสูงบริเวณศูนย์การค้า Robinson ลาดกระบัง, The Paseo ลาดกระบัง เพราะเป็นแหล่งชอปปิ้งขนาดใหญ่ในย่านนี้แล้วค่ะ

โดยรวมแล้วทำเลนี้ถือว่าเป็นย่านที่ครบครันเหมาะกับการอยู่อาศัย เดินทางสะดวกมีตัวเลือกในการเดินทางหลากหลายใกล้แหล่งคมนาคม และมีความอุดมสมบูรณ์สูงค่ะ

การเดินทางในวันนี้เริ่มจากถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า กันก่อนค่ะ ถ้าวิ่งมาจากถนนศรีนครินทร์ ให้ตรงมาเรื่อยๆ ไปออกทางขนานก่อนเข้าสู่ถนนร่มเกล้า เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนร่มเกล้า แล้ววิ่งตรงต่อไปทางมีนบุรี ไปยังซอยร่มเกล้า 6/1 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอย ตรงไปประมาณ 2 กิโลเมตรจะเจอกับที่ตั้งโครงการ Passorn ร่มเกล้า – รามคำแหงค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

โครงการ Passorn ร่มเกล้า – รามคำแหง ใช้ซอยทางเข้า (ซอย ร่มเกล้า 6/1) ร่วมกับโครงการบ้านพักอาศัยเพอร์เฟค เพลส โดยโครงการภัสสร จะตั้งอยู่ด้านในสุดของซอย ภายในซอยประกอบด้วยโครงการบ้านจัดสรรทั้งหมดทำให้สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้นทั้งหมดเลย ข้อดีคือมีความเป็นส่วนตัวและค่อนข้างปลอดภัย ไม่ต้องห่วงเรื่องทัศนียภาพเพราะมีการปรับปรุงดูแลและมีต้นไม้ใหญ่ปลูกไว้ให้เกือบตลอดทั้งเส้น แต่ก็แลกกับการที่โครงการตั้งอยู่ลึกจากถนนใหญ่ 2 กิโลเมตร อาจจะใช้เวลาในการเข้า-ออกสักหน่อย และบรรยากาศในซอยไม่คึกคัก ไม่มีร้านค้า ร้านอาหาร ในซอยมีร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven เพียงแห่งเดียวค่ะ

• ทิศเหนือ ติดกับ คลองบึงขวาง
• ทิศใต้ ติดกับ โครงการบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
• ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินเปล่า
• ทิศตะวันตก ติดกับ ซอยรามคำแหง 184 และ โครงการบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า ~ 3.5 km.
• Big C ร่มเกล้า ~ 4.6 km.
• โรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ~ 5.2 km.
• Tesco Lotus สุวินทวงศ์ ~ 6.2 km.
• โรงพยาบาลนวมินทร์ ~ 6.4 km
• Big C สุขาภิบาล 3 ~ 7.4 km.
• โรงรียนพณิชยการ มีนบุรี ~ 7.8 km.
• ตลาดมีนบุรี ~ 8.2 km.
• ตลาดสดเกรียงไกร ~ 9.7 km.
• โรงเรียนเอกบูรพา วิเทศศึกษา ~ 9.8km.
• Big C Market เคหะร่มเกล้า ~ 10.4 km.
• Amorini ~ 10.6 km.
• โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี ~ 10.8 km.
• โรงเรียนเทพศิรินทร์ ร่มเกล้า ~ 11.3 km.
• โรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ ร่มเกล้า ~ 13 km.
• สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 15.4 km.
• สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ~ 17.7 km.

โครงการ Passorn ร่มเกล้า – รามคำแหง เป็นโครงการบ้านเดี่ยวบนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 96 ไร่ มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 427 ยูนิต จะทยอยก่อสร้างเป็นเฟสกำหนดแล้วเสร็จทั้งโครงการประมาณปี 2569-2570 ค่ะ ปัจจุบันเปิดการขายในส่วนแรกเป็นพื้นที่โซนด้านหน้าใกล้กับ Clubhouse ซึ่งเป็นทำเลที่เดินทางเข้า – ออกสะดวก สามารถเดินจากบ้านมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้ง่าย

การจัดพื้นที่ส่วนกลาง Clubhouse จะอยู่บริเวณกลางโครงการค่อนมาทางด้านหน้า เน้นพื้นที่สีเขียว มีสนามหญ้ากว้างและมีอาคาร Clubhouse สูง 2 ชั้นภายในมีพื้นที่นั่งพักผ่อน สระว่ายน้ำ และ Fitness นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ส่วนอีกจุดอยู่ใกล้ๆ พื้นที่ส่วนรวมกว่า 3 ไร่ค่ะ

ถนนหลักของโครงการกว้าง 12.00 เมตร ถนนซอยย่อย  9.00 เมตร รถสามารถวิ่งสวนกันได้สะดวก ซอยถูกแบ่งให้เชื่อมต่อกันได้ ไม่เป็นซอยตันที่ลึกเกินไป ทำให้เข้า-ออกได้สะดวก ตัวบ้านส่วนใหญ่หันทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือและทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ไม่โดนแสงแดดร้อนยามบ่ายส่องเข้ามาทางด้านหน้าบ้าน และมีลมเข้าทางด้านข้างของบ้านค่ะ

ทางเข้า – ออกโครงการมีซุ้มประตูขนาดใหญ่ทำออกมาได้สวยงามด้วยลวดลาย Facade ดูหรูหรา หลังคาใหญ่ช่วยบังแดดและฝนได้ดี แบ่งทางเข้า-ออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 2 ช่องทาง ทำให้ลูกบ้านสามารถเข้าโครงการได้สะดวกไม่ต้องรอผู้มาติดต่อแลกบัตรทั้งขาเข้าและขาออกเลยค่ะ

ทางเข้า-ออกเป็นระบบ Key Card Access ระยะไกล หรือที่เรียกกันว่า Easy Passเมื่อรถวิ่งผ่านเข้ามารั้วกั้นจะเปิดอัตโนมัติทำให้ไม่ต้องเปิดกระจกมาแตะบัตรค่ะ ซุ้มประตูจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกล้อง CCTV ที่ซุ้มประตูและภายในโครงการ

เข้ามาภายในโครงการแล้วจะเจอกับถนนหลักกว้าง 16.00 เมตรมีเกาะกลางปลูกไม้พุ่มแบ่งเป็นทางเข้า-ออกชัดเจน ขับไปแล้วจะเจอกับวงเวียนต้นไม่ขนาดใหญ่ดูสวยงามก่อนจะเข้าไปสู่ถนนหลักด้านในที่กว้าง 12.00 เมตรค่ะ

เข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่สีเขียวทางด้านซ้ายมือตกแต่งเป็นสวนและมีศาลานั่งพักผ่อน เหมาะกับการออกมาเดินเล่นในเวลาที่อากาศไม่ร้อนตอนเย็นๆ หรือจูงสุนัขมาวิ่งเล่นได้

เข้ามาอีกหน่อยเป็นพื้นที่สนามเด็กเล่นมีของเล่นมาให้ โดยเครื่องเล่นคุมโทนสีฟ้าเข้ากับบรรยากาศสีเขียวและท้องฟ้าดูสบายตาดีค่ะ

ตรงกลางจะเป็นพื้นที่สนามหญ้ากว้างมีทางเดิน และต้นไม้ใหญ่ปลูกมาให้รอบๆ ตรงกลางสนามหญ้าค่อนข้างโล่งอาจจะร้อนไปสักหน่อย แต่ในเวลาเย็นๆก็สามารถมานั่งเล่นตากอากาศกันได้ค่ะ

ถัดมาด้านท้ายของสวนเป็นที่ตั้งของอาคาร Clubhouse สูง 2 ชั้น เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ เราไปชมบรรยากาศภายในกันค่ะ

อาคาร Clubhouse ภายในประกอบด้วยพื้นที่นั่งพักผ่อน สระว่ายน้ำ Fitness และห้องน้ำส่วนกลาง มีที่จอดรถด้านข้างสำหรับลูกบ้านที่อยู่ด้านในสามารถขับรถมาจอดใช้งานได้ค่ะ และทางโครงการยังออกแบบให้มีทางลาดสำหรับผู้ที่ใช้รถเข็นมาใช้งานภายใน Clubhouse ได้ด้วย

เข้ามาภายใน Clubhouse เป็นพื้นที่ Lobby โถงสูง Double Volume ดูโปร่งกว้าง แบ่งเป็น 2 ฝั่ง ทางซ้ายมือเป็นพื้นที่พักผ่อนและสระว่ายน้ำ ส่วนฝั่งขวามือมีทางเดินไปยังห้องน้ำส่วนกลางค่ะ

มาดูฝั่งซ้ายมือกันก่อนนะคะ ฝั่งนี้จะมีที่นั่งพักผ่อน แบ่งเป็นโต๊ะและชุดโซฟาสำหรับนั่งพักคอย มองออกไปเห็นวิวสระว่ายน้ำและสวนด้านนอก สำหรับใครที่มีแขกมาคุยธุระก็สามารถมาใช้พื้นที่ตรงนี้ได้ โดยไม่ต้องให้แขกเข้าไปที่บ้านค่ะ

ด้านในมี Smart Locker มาให้ใช้งาน

ออกมาดูสระว่ายน้ำกันบ้างค่ะ โครงการนี้ให้สระว่ายน้ำมาค่อนข้างใหญ่ มีขนาดประมาณ 12.00 x 20.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริง เป็นสระระบบเกลือแยกสระเด็กด้านข้าง ขนาด 4.00 x 7.00 เมตร ลึก 0.6 เมตร ใครที่มาว่ายน้ำอาจจะเขินๆสักหน่อยเพราะไม่ได้มีต้นไม้บังสายตาจากถนนหลักของของโครงการมาให้ แต่ก็แลกกับการที่สามารถเห็นวิวสวนได้กว้างเลยค่ะ

ด้านข้างสระว่ายน้ำมีเก้าอี้นั่งเล่นมาให้กระจายอยู่รอบๆสระ สำหรับผู้ปกครองมานั่งดูเด็กๆว่ายน้ำได้ค่ะ

แต่สำหรับพื้นที่ล้างตัวจะต้องเดินเข้ามาด้านข้าง Clubhouse สักหน่อยนะคะ พื้นที่ล้างตัวมีให้ 2 ชุด เป็นฝักบัวแบบ Rain Shower ต้องเดินมาใช้งานค่อนข้างลึกถ้าไม่สังเกตให้ดีก็อาจจะมองไม่เห็นได้ค่ะ

กลับเข้ามาด้านในอาคารอีกครั้งนะคะ ฝั่งตรงข้ามของสระว่ายน้ำจะเป็นทางเดินออกไปยังห้องน้ำส่วนกลางค่ะ

ห้องน้ำส่วนกลางมีอ่างล้างหน้าและห้องน้ำ  และมีพื้นที่อาบน้ำมาให้ สำหรับคนที่มาออกกำลังกายที่ Fitness หรือมาว่ายน้ำ ไม่ต้องกลับไปอาบที่บ้านค่ะ ภายในห้องน้ำยังมีตู้ Locker มาให้อีกจุดหนึ่งด้วย

ถัดมาเราจะไปดูพื้นที่ชั้น 2 กันบ้างค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ของ Clubhouse เป็นพื้นที่ Fitness อย่างเดียวเลยค่ะ ภายใน Fitness แบ่งเป็น 2 โซน คือโซน weight training และโซน cardio training ภายในได้ช่องแสงรอบด้านทำให้สว่างและมองเห็นวิวได้กว้างค่ะ โดยโซนเครื่องเล่น Cardio training จะสามารถมองเห็นวิวสวนขนาดใหญ่ได้ ส่วนเครื่องเล่น weight training จะอยู่ด้านในมองลงไปเห็น Lobby ผ่าน Double Volume ค่ะ

ทัศนียภาพจากห้อง Fitness มองลงไปเห็นสระว่ายน้ำและพื้นที่สีเขียวของโครงการค่ะ

ด้านหลังใกล้กับอาคาร Clubhouse มีพื้นที่สีเขียวอีกจุดหนึ่ง มีต้นไม้ใหญ่บรรยากาศร่มรื่นและมีศาลานั่งพักผ่อนมาให้ เหมาะกับคนที่อยากออกมาเดินเล่นสูดอากาศแต่ชอบความร่มรื่นและเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ

บรรยากาศถนนหลักภายในโครงการ กว้าง 12.00 เมตร รถสามารถขับสวนกันได้สบายๆค่ะ

บรรยากาศถนนในซอยกว้าง 9.00 เมตร

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
• สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาด 12.00 x 20.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร
• แบ่งสระเด็กลึกขนาด 4.00 x 7.00 เมตร ลึก 0.6 เมตร / พร้อมจากุชชี่
• ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 11 เครื่อง
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 2 จุด รวมประมาณ 3-2-27.7 ไร่
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
• รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 0.5 เมตร
• ถนนหลักกว้าง 12.00 – 16.00 ม. และถนนภายในกว้าง 9.00 ม.
• Key Card Access ระยะไกล (Easy Pass)
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดกและรั้วเลื่อนไฟฟ้า
• สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor ทุกหลัง พร้อม motion sensor บริเวณชั้นล่าง และ ไฟฉุกเฉิน

แบบบ้านภายในโครงการ Passorn ร่มเกล้า – รามคำแหง มีทั้งหมด 4 แบบ ดังนี้

• Pixie บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
• Elsie บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 142 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
• Porter บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
• Perkins บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 179 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

โครงสร้างบ้านเป็น Precast เป็นผนังสำเร็จรูปที่ผลิตมาจากโรงงาน ตัวผนังจะเรียบและแข็งแรงทนทานเท่ากันดีทั้งผืน มีข้อดีคือก่อสร้างได้รวดเร็ว และไม่มีเหลี่ยมมุมเสา สามารถเจาะผนังเพื่อแขวนอะไรเล็กๆน้อยๆได้ แต่จะไม่สามารถทุบต่อเติมได้ค่ะ ตัวบ้านลงเสาเข็มที่ลานจอดรถมาให้เท่ากับตัวบ้านไม่ต้องห่วงเรื่องการทรุดตัว และเพิ่มเติมระบบรักษาความปลอดภัย Magnetic Sensor ทุกบานประตูหน้าต่างชั้นล่าง พร้อม Motion Sensor บริเวณชั้นล่างและมีไฟฉุกเฉินให้ค่ะ

โดยวันนี้เราจะพาไปชมบ้านตัวอย่าง 2 แบบ คือ

บ้าน Porter บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม. และบ้าน Elsie บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 142 ตร.ม. บรรยากาศภายในบ้านจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลย

 Porter บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม.

เริ่มกันที่แบบบ้านขนาดรองใหญ่ที่สุด Porter บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม. กันก่อนค่ะ แบบบ้านหลังนี้จะมีพื้นที่ Common Area ค่อนข้างกว้าง มีพื้นที่ด้านหน้าห้องครัวทำ Pantry หรือครัวฝรั่งเพิ่มเติมได้ ส่วนชั้น 2 จะได้ห้อง Master Bedroom อยู่ฝั่งหน้าบ้านตลอดทั้งแนวเลย

ชั้น 1 : ด้านหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 2 คน มีทางเข้าบ้าน 2 ทาง ทางเข้าหลักอยู่ทางด้านหน้าบ้านเข้าไปยังพื้นที่นั่งเล่น ส่วนอีกฝั่งหนึ่งสามารถเข้าจากที่จอดรถ และเดินขึ้นชั้น 2 ได้เลยโดยไม่ต้องผ่านโซนห้องนั่งเล่นค่ะ เมื่อเข้าบ้านมาแล้วจะเจอกับพื้นที่ Common Area จัดเป็นห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร ค่อนข้างกว้าง มีช่องแสงเยอะทำให้บ้านดูสว่าง ด้านหลังพื้นที่ห้องครัวขนาดใหญ่ เหมาะกับคนที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในครัว ชอบทำอาหาร เป็นต้น ส่วนห้องน้ำของโครงการนี้ชั้นล่างจะเป็นห้อง Powder Room ไม่มีพื้นที่อาบน้ำนะคะ มีข้อดีคือจะเป็นห้องน้ำที่แห้งตลอดเวลา ไม่ต้องดูแลเยอะ แต่เวลาอาบน้ำพร้อมกันอาจจะต้องรอกันสักหน่อยค่ะ

ชั้น 2 : เป็นพื้นที่พักผ่อนทั้งหมดแบ่งโซนเป็น 2 ฝั่ง มีห้อง Master Bedroom อยู่ด้านหน้าบ้าน ได้ระเบียงส่วนตัวขนาดยาวเกือบเต็มพื้นที่ด้านหน้าทั้งหมด สามารถจัดพื้นที่ Walk-in Closet เป็นสัดส่วนเชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัวได้ค่ะ ส่วนห้องนอนรองอยู่ด้านหลังบ้านใช้ห้องน้ำร่วมกันตรงกลาง

ด้านหน้าบ้านออกแบบมาเป็นสไตล์โมเดิร์น ได้ช่องแสงค่อยข้างเยอะ บ้านชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ส่วนห้อง Master Bedroom ทั้งหมดเลยค่ะ มีระเบียงด้านหน้าบ้านทำให้บ้านดูมีมิติดูสวยงามขึ้น โครงสร้างบ้านเป็น Precast คอนกรีตทำให้ไม่มีเสายื่นออกมาจากผนัง แต่จะทุบ ดัดแปลงได้ยากค่ะ

ที่จอดรถสามารถจอดได้ 2 คัน พื้นเทคอนกรีตมาให้แบบในบ้านตัวอย่างเลยค่ะ ลงโครงสร้างเสาเข็มยาวเท่าตัวบ้านมาให้ด้วยทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการทรุดตัวในอนาคต และมีทางเข้าบ้านสามารถเข้าได้จากที่จอดรถ และเดินไปยังห้องครัว หรือขึ้นชั้น 2 ได้โดยไม่ต้องผ่านห้องนั่งเล่น

ทางเข้าหน้าบ้านเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน กรอบบานอลูมิเนียมสีน้ำตาล พร้อมกระจกเขียวตัดแสง ซึ่งเป็นกระจกที่ช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้ในระดับหนึ่ง

Tips : “กระจกตัดแสง” Tinted Glass เป็นกระจกที่มีวิธีการผลิตเหมือนกระจกโฟลตใส แต่จะเพิ่มเติมคือผสมออกไซด์ของโลหะบางประเภทลงในเนื้อกระจก ซึ่งกระจกชนิดนี้จะอมความร้อนไว้ที่กระจก ทำให้ช่วยลดแสงแดดที่จะส่องเข้ามาภายในได้ระดับนึง มีราคาสูงกว่ากระจกโฟลตประมาณ 10-20% ในขณะที่ช่วยลดแสง UV ได้ดีกว่า

เข้ามาด้านในบ้านจะเจอกับพื้นที่ Common Area ซึ่งเป็นพื้นที่รับแขก หรือพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อไปยังส่วนรับประทานอาหารด้านหลังบ้าน มีช่องแสงหลายจุดทำให้บ้านดูสว่าง และโปร่งสบาย ภายในบ้านได้ฝ้าเพดานฉาบเรียบ มีความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.60 เมตร พื้นปูกระเบื้องแกรนิตโต้มาให้ ขนาด 60 x 60 เซนติเมตรมาให้ค่ะ

ห้องนั่งเล่นมีพื้นที่ประมาณ 3.40 x 3.80 เมตร สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ 3-4 ที่นั่งตัว L และโต๊ะกลางได้สบายๆ มีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 3.00 เมตร เหมาะกับวาง TV ขนาดประมาณ 40-46 นิ้ว ภายในห้องนี้ได้รับแสงธรรมชาติจาก 2 ฝั่งคือฝั่งด้านหน้าบ้านขนาดใหญ่และด้านข้างบ้านเพียงพอในเวลากลางวัน

ถัดมาเป็นพื้นที่ด้านหลังบ้าน สามารถจัดเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร 4-6 ที่นั่งได้ มีพื้นที่ประมาณ 4.00 x 5.50 เมตร โดยบริเวณนี้จะได้แสงธรรมชาติเข้ามาทั้ง 2 ฝั่ง สามารถต่อเติมระเบียงด้านข้างสำหรับนั่งเล่นพักผ่อนเพิ่มเติมได้นะคะ ในวันที่อากาศดีๆเราสามารถเปิดหน้าต่างและประตูให้ลมผ่านได้กว้าง และได้วิวสวนส่วนตัวบริเวณนี้ด้วยค่ะ

ส่วนห้องครัวไทยจะอยู่ฝั่งเดียวกับบันได มีประตูบานปิดมาให้กั้นแบ่งห้องชัดเจนสำหรับทำอาหารจริงจังมีกลิ่นฟุ้งกระจายได้ไม่ต้องกังวล และมีห้องน้ำอยู่ใต้บันไดลดระดับลงเล็กน้อยค่ะ

พื้นที่ด้านหน้าห้องครัวสามารถต่อเติมเคาน์เตอร์ Pantry หรือ Island เป็นครัวฝรั่งเพิ่มเติมได้

ห้องครัวจะขนาดประมาณ 3.00 x 3.20 เมตร ถือว่าได้ห้องครัวขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ เมื่อเทียบกับบ้านพื้นที่ใช้สอยเท่าๆกัน สามารถ Built-in เคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว L แล้วเหลือพื้นที่เดินสวนกันได้สบายๆ ภายในห้องครัวยังมีช่องเปิด 2 ฝั่งช่วยให้ระบายอากาศได้มากขึ้นค่ะ

ลานซักล้างด้านหลังบ้านโรยกรวดมาให้ ถ้าใครต้องการพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าจะต้องเทคอนกรีตเพิ่มเติมเองนะคะ แนะนำให้ลงเสาเข็มสั้นเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยงในการทรุดตัวในอนาคต

ถัดมาบริเวณบันไดทางขึ้นชั้น 2 จะอยู่ฝั่งหน้าบ้านสามารถเข้ามาจากที่จอดรถได้ และมีห้องน้ำมาอยู่ใต้บันได ลดระดับลง 2 ขั้นค่ะ ข้อดีคือห้องน้ำเป็นสัดส่วนไม่กินพื้นที่ภายในบ้าน แต่ว่าอาจจะเข้าลำบากสักหน่อยสำหรับบ้านที่มีผู้สูงอายุ จะต้องเดินขึ้น – ลงบันไดบ่อยๆ

บริเวณใต้บันไดมีช่องเก็บของมาให้เป็นบานเปิด 2 บานเหมาะกับการเก็บของที่นานๆจะหยิบใช้สักครั้งหนึ่ง เช่น กระเป๋าเดินทาง เครื่องดูดฝุ่น อุปกรณ์ทำความสะอาด เป็นต้น

ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องโทนน้ำตาล – ครีม เป็นห้อง Powder Room ที่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำมาให้ค่ะ ทำให้ห้องน้ำเป็นพื้นที่แห้งทั้งหมดภายในได้อ่างล้างหน้าติดตั้งบนเคาน์เตอร์ มีช่องเก็บของด้านล่าง และโถสุขภัณฑ์สีขาว จาก Kohler ในห้องน้ำมีช่องแสงและเปิดระบายอากาศด้านข้างบ้าน ทำให้ห้องน้ำไม่มืด และระบายความอับชื้นได้

บันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้สำเร็จรูปทั้งลูกตั้งและลูกนอนดูสวยงาม ซึ่งโครงการอื่นๆส่วนใหญ่จะได้เพียงลูกนอนอย่างเดียวค่ะ ราวบันไดสำเร็จรูปทำสีเทา บันไดกว้างประมาณ 1.00 เมตร ลูกตั้งสูง 20 เซนติเมตร ลูกนอน 26 เซนติเมตร เดินได้สบาย บริเวณโถงบันไดสว่างเพราะมีช่องแสงด้านบน เปิดระบายอากาศได้ โถงบันไดถ้าห้อยโคมไฟระย้าตกแต่งเพิ่มเติมก็สวยดีนะคะ

ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับพื้นที่เชื่อมต่อไปยังห้องนอนต่างๆ แบ่งเป็นห้อง Master Bedroom ด้านหน้าบ้าน (ซ้ายมือ) ห้องนอนรอง 2 ห้องและห้องน้ำ โดยพื้นชั้น 2 ปูด้วยพื้นลามิเนต  ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.60 เมตร เท่ากับชั้น 1 ค่ะ

เรามาดูห้องนอนรองด้านหลังบ้านห้องเล็กกันก่อนค่ะ ห้องนี้มีขนาดประมาณ 2.90  3.20 เมตร เหมาะกับการวางเตียงเดี่ยว ขนาด 3.5 ฟุต พร้องตู้เสื้อผ้า มีช่องแสง 2 ฝั่งขนาดไม่ใหญ่นักแต่ก็มีแสงสว่างเข้ามาได้เพียงพอค่ะ ถ้าใครไม่ต้องการห้องนอนที่ 3 ก็สามารถจัดพื้นที่เป็นห้องทำงานส่วนตัวเหมือนในบ้านตัวอย่างได้นะคะ

ห้องน้ำชั้น 2 สำหรับห้องนอนรองที่ใช้ร่วมกันมีการตกแต่งด้วยกระเบื้องโทนสีน้ำตาล ครีมเหมือนกับชั้น 1 ค่ะ แต่จะมีพื้นที่อาบน้ำมาให้  แบ่งพื้นที่การใช้งานส่วนเปียก – ส่วนแห้งชัดเจน พร้อมฉากกั้นกระจกอาบน้ำช่วยกันไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาเลอะส่วนแห้ง

ภายในได้อ่างล้างหน้าติดตั้งบนเคาน์เตอร์ มีช่องเก็บของด้านล่าง และสุขภัณฑ์จาก Kohler ทั้งหมดค่ะ ห้องน้ำมีช่องแสงและเปิดระบายอากาศที่ด้านหลังบ้าน ทำให้ห้องน้ำไม่มืดและไม่อับชื้น ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.00 x 1.60 เมตร ค่อนข้างกว้างสามารถยืนอาบได้สบายๆ มีฝักบัวสายอ่อนและชั้นวางสบู่ติดตั้งมาให้ พร้อมเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นค่ะ

ห้องนอนรอง 1 เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมา อยู่ที่ 3.50 x 4.00 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ มีพื้นที่ Built-in ตู้เสื้อผ้าและชั้นวาง TV เดินได้รอบเตียงสบายๆ มีช่องแสงมาให้ 2 จุด ด้านข้างและด้านหลังบ้านเพียงพอสำหรับห้องนอนเช่นกันค่ะ

มาถึงห้อง Master Bedroom เป็นห้องขนาดใหญ่ด้านหน้าบ้านตลอดทั้งแนว มีช่องแสงกว้าง และหลายจุดรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้มากทำให้ห้องดูสว่าง แต่ก็จะได้ความร้อนเข้ามาด้วยนะคะ ซึ่งทางโครงการเขาเลือกใช้กระจกสีเขียวตัดแสงที่ช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวอาคารได้ในระดับหนึ่งมาให้แล้ว

สำหรับพื้นที่ห้องนอนนั้นมีขนาดประมาณ 3.45 x 5.50 เมตร ค่อนข้างกว้างทีเดียว สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ แล้วยังเหลือพื้นที่ด้านข้างวางโต๊ะข้างเตียงได้อีกทั้ง 2 ฝั่งค่ะ

ห้องนอน Master Bedroom จะได้ระเบียงส่วนตัวด้านหน้าบ้านยาว ประตูระเบียงเป็นประตูบานเลื่อนกระจกเขียวตัดแสง กรอบบานอลูมิเนียมสีน้ำตาลขนาดใหญ่ พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคทำความสะอาดง่าย และมีพื้นที่ 0.95 x 6.00 เมตร ค่อนข้างกว้างทีเดียวค่ะ สามารถวางโต๊ะเก้าอี้เล็กๆนั่งชมวิว สูดอากาศยามเช้าได้ ราวกันตกเป็นกระจกมือจับอลูมิเนียมเข้ากับกรอบบานประตูหน้าต่าง

พื้นที่ Walk-in Closet ด้านในเชื่อมต่อกับห้องน้ำใช้งานได้สะดวก มีความกว้างประมาณ 1.80 เมตร มีแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องสำหรับคนที่ต้องการวางโต๊ะเครื่องแป้งแต่งหน้าจะไม่มืดจนเกินไปค่ะ ด้านข้างวางตู้เสื้อผ้า Built-in ได้ตลอดทั้งแนว ใครที่ชอบความเป็นสัดส่วนไม่ต้องการให้มีความชื้นและฝุ่นละอองในห้องนอน แนะนำให้ติดตั้งประตูกั้นส่วน Walk-in Closet แยกได้นะคะ

ส่วนห้องน้ำในห้อง Master Bedroom จะตกแต่งเหมือนกับห้องน้ำด้านนอกเลยค่ะ โดยจะมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานส่วนเปียก – ส่วนแห้งชัดเจน มีที่อาบน้ำพร้อมฉากกั้นกระจกมาให้ ภายในได้สุขภัณฑ์จาก Kohler ทั้งหมด

อ่างล้างหน้าติดตั้งบนเคาน์เตอร์ ด้านล่างมีชั้นเก็บของ เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆได้  พื้นที่อาบน้ำ ขนาดประมาณ 0.95 x 1.95 เมตร ยืนอาบได้สบาย มีฉากกั้นกระจกบานเปิดมาให้ ทำให้น้ำไม่กระเด็นออกมาด้านนอกเวลาอาบน้ำ ได้ฝักบัวสายอ่อน และก๊อกติดผนัง รวมถึงระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยเช่นกันค่ะ

Elsie บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 142 ตร.ม.

บ้านตัวอย่างหลังที่ 2 เป็นบ้านอันดับที่ 2 รองจากบ้านหลังเล็กสุดนะคะ Elsie บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 142 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยกระชับมากขึ้นลดลงจากหลังที่ผ่านมา 25 ตร.ม. และราคาถูกกว่า 4 แสนบาทค่ะ

ชั้น 1 : สามารถจอดรถได้ 2 คัน พื้นที่ใช้สอยด้านในมีการจัดวางฟังก์ชันเหมือนกับบ้านหลังที่ผ่านมาแต่จะลดขนาดลงเล็กน้อยค่ะ และเข้าบ้านได้จากทางเข้าด้านหน้าเพียงทางเดียว แต่ยังคงมีพื้นที่ Common Area กว้างเหมือนเดิม สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหารได้ มีห้องครัวและห้องน้ำอยู่ฝั่งเดียวกัน โดยห้องครัวจะได้เป็นครัวปิด เชื่อมต่อไปยังลานซักล้างด้านหลังบ้าน ส่วนห้องน้ำเป็นห้อง Powder Room ไม่มีพื้นที่อาบน้ำนะคะ

ชั้น 2 : ขึ้นมาแล้วจะแบ่งเป็นห้องนอน 3 ห้อง มีห้อง Master Bedroom อยู่ตรงกลางตรงกับบันได โดยจะมีพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของชั้น 2 เลยค่ะ ทำให้สามารถจัด Walk-in Closet ขนาดใหญ่ได้ ส่วนห้องนอนรองจะอยู่ด้านหน้าและด้านหลังบ้านใช้ห้องน้ำร่วมกัน และมีจุดเด่นคือห้องนอนรองฝั่งหน้าบ้านจะได้พื้นที่ระเบียงกว้างด้านข้างบ้านสำหรับออกไปนั่งเล่น Outdoor ได้ค่ะ

ด้านหน้าบ้านมีความโมเดิร์นตกแต่งเหมือนกับบ้านตัวอย่างหลังแรกเลยค่ะแต่จะแตกต่างกันตรงที่บ้านหลังนี้มีระเบียงด้านหน้าของห้อง Master Bedroom ทางฝั่งขวามือ และมองเห็นระเบียงด้านข้างบ้านจากห้องนอนรองฝั่งซ้ายมือด้วยค่ะ

ที่จอดรถสามารถจอดได้ 2 คัน พื้นเทคอนกรีตมาให้พร้อมลงเสาเข็มเท่าตัวบ้านไม่ต้องกังวลเรื่องการทรุดตัว แบบบ้านหลังนี้จะไม่มีทางเข้าบ้านจากที่จอดรถนะคะ จะต้องเข้าผ่านทางห้องนั่งเล่นทางเดียวค่ะ

ทางเข้าบ้านมีชายคายื่นมาบังแดดและกันฝนได้ ประตูทางเข้าหลักเป็นกระจกบานเลื่อน 2 ตอน กรอบบานอลูมิเนียมสีน้ำตาล พร้อมกระจกเขียวตัดแสงและบาน Fixed ด้านข้างทำให้ดูโปร่งมากขึ้น

เข้ามาด้านในบ้านจะเจอกับพื้นที่ Common Area ซึ่งเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร ได้ช่องแสงรอบๆตัวบ้านเหมือนบ้านหลังแรกนะคะ ภายในบ้านได้ฝ้าเพดานฉาบเรียบ มีความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.60 เมตร พื้นปูกระเบื้องแกรนิตโต้มาให้ ขนาด 60 x 60 เซนติเมตรมาให้ค่ะ

ห้องนั่งเล่นมีพื้นที่ประมาณ 3.60 x 3.65 เมตร (ความยาวตัวบ้าน 7.30 เมตร) สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ 3-4 ที่นั่ง และโต๊ะกลางได้สบายๆ มีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 3.30 เมตร เหมาะกับวาง TV ขนาดประมาณ 40-50 นิ้ว เลยค่ะ

ถัดมายังพื้นที่รับประทานอาหาร สามารถจัดเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร 4-6 ที่นั่งได้ โดยจะได้แสงธรรมชาติเข้ามาทั้ง 2 ฝั่ง สามารถต่อเติมระเบียงด้านข้างสำหรับนั่งเล่นพักผ่อน หรือสวนน้ำพุสวยๆไว้ชมวิวตอนทานอาหารได้ค่ะ

ส่วนห้องครัวไทยจะอยู่ฝั่งเดียวกับบันได มีประตูบานปิดมาให้กั้นแบ่งห้องชัดเจนสามารถทำอาหารจริงจังได้ไม่ต้องต่อเติมด้านหลังบ้าน และด้านหน้าแม้จะมีพื้นที่เล็กลงหน่อยแต่ก็ยังสามารถทำเคาน์เตอร์เตรียมอาหารได้ค่ะ

ห้องครัวขนาดประมาณ 2.60 x 3.25 เมตร สามารถ Built-in เคาน์เตอร์เป็นรูปตัว L ได้ และเชื่อมต่อไปยังลานซักล้างด้านหลังบ้านค่ะ

ห้องน้ำจะอยู่ใต้บันไดประหยัดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านและซ่อนจากพื้นที่ Common Area ด้วยค่ะ นอกจากนั้นยังมีห้องเก็บใต้บันไดมาให้เช่นกัน

ภายในห้องน้ำเป็นห้อง Powder Room ที่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำมาให้ค่ะ ได้อ่างล้างหน้าติดตั้งบนเคาน์เตอร์ มีช่องเก็บของด้านล่าง และโถสุขภัณฑ์สีขาว จาก Kohler ในห้องน้ำมีช่องแสงและเปิดระบายอากาศด้านข้างบ้าน ทำให้ห้องน้ำไม่มืด และระบายความชื้นได้

บันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้สำเร็จรูปทั้งลูกตั้งและลูกนอนเหมือนกับบ้านหลังแรกที่เราพาไปชมกันค่ะ บริเวณโถงบันไดมีช่องแสงด้านบนทำให้โถงสว่างในเวลากลางวันไม่ต้องเปิดไฟเลยค่ะ

ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับพื้นที่เชื่อมต่อไปยังห้องนอนต่างๆ ตรงกลางคือห้อง Master Bedroom ฝั่งซ้ายมือเป็นห้องน้ำและห้องนอนรองด้านหลังบ้าน ส่วนฝั่งขวามือคือห้องนอนรองด้านหน้าบ้านค่ะ

มาดูห้องนอนรองด้านหลังบ้านกันก่อนค่ะ ห้องนี้มีขนาดประมาณ 2.60 x 3.20 เมตร เหมาะกับการวางเตียงเดี่ยว ขนาด 3.5 ฟุต ครอบครัวที่มีสมาชิกในบ้านไม่เยอะสามารถปรับเป็นห้องทำงาน หรือห้องอเนกประสงค์ได้ค่ะ

ห้องน้ำชั้น 2 สำหรับห้องนอนรองที่ใช้ร่วมกัน มีการตกแต่งด้วยกระเบื้องโทนสีน้ำตาลครีมเหมือนกับชั้น 1 ค่ะ แต่จะมีพื้นที่อาบน้ำมาให้ แบ่งพื้นที่การใช้งานส่วนเปียก – ส่วนแห้งชัดเจน พร้อมฉากกั้นกระจก และสุขภัณฑ์ทั้งหมดจาก Kohler

มาดูห้องนอนรองทางฝั่งหน้าบ้านกันต่อค่ะ

ห้องนอนรอง 1 เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมา อยู่ที่ 2.90 x 3.50 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ มีพื้นที่ Built-in ตู้เสื้อผ้าและชั้นวาง TV เดินได้รอบเตียง มีช่องแสงมาให้ 2 จุด ข้อดีของห้องนี้คือมีระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ค่ะ

ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.50 x 2.90 เมตรเลย สามารถวางโต๊ะเก้าอี้ออกมานั่งกินลมชมวิวหรือเป็นมุมพักผ่อนส่วนตัวได้ ซึ่งในบ้านระดับเดียวกันส่วนใหญ่จะไม่ได้ระเบียงที่ห้องนอนรองนะคะ เหมาะกับคนที่ใช้งานระเบียง แต่ก็ต้องแลกมากับพื้นที่ใช้สอยภายในห้องที่ลดลงค่ะ

มาถึงห้อง Master Bedroom เป็นห้องขนาดใหญ่กินพื้นที่ด้านข้างบ้านไปเกือบครึ่งของชั้น 2 เลยค่ะ ภายในห้องมีช่องแสงจากด้านหน้าบ้านและด้านหลังทำให้ห้องสว่าง พื้นที่ห้องนอนนั้นมีขนาดประมาณ 3.60 x 4.20 เมตร ค่อนข้างกว้างสามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ แล้วเหลือพื้นที่ด้านข้างวางโต๊ะข้างเตียงได้อีกทั้ง 2 ฝั่งค่ะ

ห้องนอน Master Bedroom จะได้ระเบียงส่วนตัวด้านหน้าบ้านประตูระเบียงเป็นประตูบานเลื่อนกระจกเขียวตัดแสง กรอบบานอลูมิเนียมสีน้ำตาลขนาดใหญ่ พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคทำความสะอาดง่าย มีพื้นที่ 1.00 x 3.60 เมตร สำหรับออกมายืนชมวิวด้านหน้าบ้าน

ฝั่งตรงข้ามระเบียงสามารถกั้นโซนเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ทำตู้เสื้อผ้า Built-in 2 ฝั่งได้ค่ะ พื้นที่ตรงนี้ถ้ากั้นโซนแยกแบบในบ้านตัวอย่างมีขนาดประมาณ 1.20 x 2.80 เมตร เชื่อมต่อกับห้องน้ำใช้งานได้สะดวก

ห้องน้ำในห้อง Master Bedroom เหมือนห้องน้ำห้องอื่นๆ แบ่งพื้นที่การใช้งานส่วนเปียก – ส่วนแห้งชัดเจน มีที่อาบน้ำพร้อมฉากกั้นกระจกมาให้ ภายในได้สุขภัณฑ์จาก Kohler ทั้งหมดค่ะ

สุดท้ายเรานำภาพรั้วของบ้านมาตรฐานมาให้ชมกันค่ะ รั้วบ้านเป็นรั้วระแนงเหล็กบานเลื่อน 2 ตอน มีทางเข้าสำหรับคนเดินแยกมาให้ พร้อมติดตั้งกล่องไปรษณีย์ กริ่ง ไฟติดรั้วและถังขยะด้านหน้าบ้านมาให้ค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

20 November 2020

• Pixie บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 5.29 ล้านบาท
• Elsie บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 142 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 5.95 ล้านบาท
• Porter บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 6.35 ล้านบาท
• Perkins บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 179 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 7.09 ล้านบาท
• จองและทำสัญญา n/a บาท
• ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 64,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

โครงการ Passorn ร่มเกล้า – รามคำแหง ตั้งอยู่ในซอย ร่มเกล้า 6/1 บนถนนร่มเกล้า เชื่อมต่อกับถนนรามคำแหง และถนนอ่อนนุช – ลาดกระบัง เดินทางสะดวกเนื่องจากเชื่อมต่อถนนเส้นหลักได้หลายสายไม่ว่าจะเป็นถนนรามคำแหง, ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า, ถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง และถนนมอเตอร์เวย์เพื่อเดินทางเข้าเมืองไปยังถนนพระราม 9 หรือออกเมืองไปยังจังหวัดทางฝั่งตะวันออกได้  นอกจากนั้นยังใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ และเส้นทางรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรียลลิ้งค์, รถไฟฟ้าสายสีส้ม, รถไฟฟ้าสายสีชมพูได้

ทำเลนี้ไม่ค่อยมีความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้มากนัก มีแค่ 7-Eleven ที่อยู่ห่างจากโครงการ 850 เมตร เนื่องจากโครงการอยู่ในซอยเข้ามาจากถนนร่มเกล้า 2 กิโลเมตร แต่มีความอุดมสมบูรณ์ในรัศมี 5-10 กิโลเมตรสูง อยู่ใกล้กับย่านอุตสาหกรรมใหญ่อย่างนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง มีศูนย์การค้า ร้านค้า ร้านอาหาร และตลาดขนาดใหญ่มาเปิดเพิ่มมากขึ้นในระยะ 3-5 ปีที่ผ่านมาทำให้มีความคึกคักมากขึ้น อีกทั้งยังไม่ไกลจากสถานศึกษา และโรงพยาบาล โดยรวมถือว่าเป็นทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบครันค่ะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

โครงการตั้งอยู่ในซอยที่เป็นโครงการบ้านพักอาศัยจัดสรรเช่นกัน ทำให้มีความปลอดภัยมากกว่าติดกับพื้นที่สาธารณะอื่นๆ และยังมีทางเข้า – ออกทางเดียว ง่ายต่อการจัดการความปลอดภัย ใช้ระบบการเข้า-ออกด้วย Key Card ระยะไกล มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกับติดกล้อง CCTV มาให้ที่ซุ้มประตูและภายในโครงการ และให้รั้วรอบโครงการมาสูง 3.00 เมตร

ภายในตัวบ้านมีระบบรักษาความปลอดภัยมาให้ ติดตั้ง Magnetic Sensor ทุกบานประตู หน้าต่างชั้นล่าง พร้อม motion sensor บริเวณชั้นล่าง และไฟฉุกเฉินกรณีไฟดับ

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

การออกแบบโครงการ Passorn ร่มเกล้า – รามคำแหง ออกแบบซุ้มประตูทางเข้าโครงการมาได้สวยงาม ดูหรูหรา มีจัดวางพื้นที่ส่วนกลาง Clubhouse และพื้นที่สีเขียวอยู่ตรงกลางโครงการเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานของลูกบ้าน โดยเน้นออกแบบพื้นที่สีเขียวเป็นสนามหญ้ากว้าง ตัวบ้านส่วนใหญ่หันทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือและทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ไม่โดนแสงแดดร้อนยามบ่ายส่องเข้ามาทางด้านหน้าบ้าน และมีลมเข้าทางด้านข้างของบ้าน

แบบบ้านมีให้เลือก 4 แบบ สไตล์ค่อนข้างโมเดิร์น ออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอย 3 ห้องนอนทั้งหมด แต่จะไม่มีห้องนอนที่ชั้นล่างนะคะ โดยรวมเหมาะกับครอบครัวเริ่มต้นขยับขยาย เช่น มีลูก 1-2 คนมากกว่าอยู่กันหลาย Generation ห้อง Master Bedroom จะได้ระเบียงส่วนตัว พร้อมพื้นที่ Walk-in Closet ค่ะ

วัสดุ :

วัสดุภายในโครงการให้มาค่อนข้างดีเหมาะสมกับราคา โครงสร้างบ้านเป็น Precast ไม่เหมาะกับการทุบต่อเติม ที่จอดรถลงเสาเข็มมาให้เท่าตัวบ้านทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการทรุดตัว  พื้นชั้นล่างคือ กระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 เซนติเมตร ชั้น 2 เป็นพื้นลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร ได้สุขภัณฑ์จาก Kohler ประตูได้เป็นบานเลื่อนกระจกเขียวตัดแสง วงกบอลูมิเนียม และติดตั้งสัญญาณกันขโมยมาให้เรียบร้อย

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

พื้นที่สีเขียวภายในโครงการมีขนาดประมาณ 3 ไร่ ถือว่าให้มาพอดีๆตามกฎหมาย ทางเข้าโครงการค่อนข้างกว้าง มีซุ้มประตูที่ดูโออ่าทำให้โครงการมีบรรยากาศด้านหน้าบริเวณ Clubhouse ที่โปร่งสบาย

สาธารณูปโภค :

มีพื้นที่สีเขียว สนามเด็กเล่น และอาคาร Clubhouse ฟังก์ชันครบ โดยเน้นเฉพาะฟังก์ชันหลักๆ คือ สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่ ที่สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริง มีพื้นที่พักผ่อน (Lobby) ภายใน Clubhouse ได้ห้อง Fitness ใหญ่แบ่งเป็น weight training และโซน cardio training รวมเครื่องออกกำลังกายประมาณ 11 เครื่อง

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 5 – 10 ล้านบาท, 20 November 2020

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่ในซอยค่อนข้างลึก แต่เดินทางสะดวก มีตัวเลือกหลากหลาย
• ความปลอดภัย 8.25/10 – Easy Pass มี รปภ. 24 ชม. ตัวบ้านมี Magnetic Sensor และ Motion Sensor
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.5/10 – วางผังโครงการได้ดี ตัวบ้านสไตล์โมเดิร์น มี 3 ห้องนอนไม่มีห้องนอนชั้นล่าง
• วัสดุ 7.75/10 – ได้ตามมาตรฐาน ลงเสาเข็มบริเวณที่จอดรถมาให้ และได้สัญญาณกันขโมย
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – พื้นที่สีเขียวให้มาตามมาตรฐาน เน้นสนามหญ้าขนาดใหญ่
• สาธารณูปโภค 7.5/10 – ครบตามฟังก์ชันพื้นฐานหลักๆ
• 8.00 / 10.00 

BOTTOM LINE

ภัสสร ร่มเกล้า – รามคำแหง เหมาะกับคนที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวทำเลร่มเกล้า เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้าหลายสาย(ในอนาคต) ไม่ไกลจากทางด่วนและสนามบิน อยู่ในทำเลที่หาของกินง่าย ไม่เน้นห้างใหญ่ ชอบโครงการที่อยู่ในซอยเงียบสงบมากกว่าติดถนนใหญ่ ไม่ซีเรียสเรื่องจำนวนเพื่อนบ้านเยอะ เป็นครอบครัวเริ่มต้นจำนวนสมาชิกประมาณ 3-4 คน  มีงบประมาณ 5 – 7 ล้านบาท ไม่ร่วมค่าตกแต่ง หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนอยู่ 35,000 – 49,000 บาทต่อเดือน

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะคะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc