MEKA RAMINTRA บ้านเดี่ยว Modern Luxury พร้อมสระน้ำแร่ และลิฟต์ในบ้าน จาก MORES DEVELOP [รีวิวฉบับที่ 2422]

MEKA RAMINTRA (เมฆา รามอินทรา) ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2565

พิกัด Google Maps : 13.840056, 100.671737
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

MEKA RAMINTRA ตั้งอยู่บนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก เชื่อมต่อถนนรามอินทราได้สะดวก มีซอยที่ลัดเลาะเชื่อมต่อได้อยู่หลายซอย ซึ่งทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนั้นค่อนข้างสะดวกทีเดียวค่ะ เพราะสามารถเลือกใช้เส้นทางในการเดินทางได้หลากหลาย โดยถนนรามอินทราที่เป็นถนนเส้นหลักในการเข้าถึงของโครงการนั้นเชื่อมกับถนนสำคัญๆได้หลายสาย เช่น ถนนวิภาวดี – รังสิต, ถนนพหลโยธิน, ถนนลาดปลาเค้า, ถนนวัชรพล, ถนนนวมินทร์

ทางด่วน โครงการตั้งอยู่บนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก ใกล้ทางด่วนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออกหมายเลข 9 ทำให้สามารถใช้เดินทางออกนอกเมืองไปฝั่งลำลูกกา – บางปะอิน หรือ ฝั่งบางนาได้สะดวก สำหรับการเดินทางเข้าเมืองก็สามารถใช้ทางด่วนฉลองรัช ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโครงการ ใช้เดินทางไป พระราม 9, เอกมัย, บางนา-ดาวคะนอง ได้สะดวก โดยจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือ ด่านจตุโชติ โดยใช้จากหน้าโครงการวิ่งตรงไปออกถนนจตุโชติในระยะ 7.1 กม. ก็ขึ้นทางด่วนได้เลย หรือจะขึ้น ด่านรามอินทรา ก็ไม่ไกลจากโครงการ ในระยะประมาณ 7.6 กม. สามารถใช้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งได้ค่ะ

การเดินทางโดยรถสาธารณะ บนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก ไม่ได้มีรถเมล์วิ่งผ่าน แต่ก็ยังมีรถแท็กซี่ที่ผ่านหน้าโครงการให้เรียกใช้บริการได้ง่าย หรือจะใช้บริการ Application ต่างๆ ในการเรียกแท็กซี่ให้มารับถึงหน้าบ้านก็สะดวกดีค่ะ

การเดินทางโดยรถไฟฟ้า ก็จะมีรถไฟฟ้าสถานีรามอินทรา 83 ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าโมโนเรล สายสีชมพู หรือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ที่กำลังก่อสร้างอยู่ คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมใช้งานในปี 2566 ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานแล้ว จะถือว่าโครงการนี้เป็นบ้านเดี่ยวที่ใกล้รถไฟฟ้าเลยทีเดียวค่ะ เพราะจากโครงการห่างจากสถานีรามอินทรา 83 เพียง 1 กม. เท่านั้นนะ

ความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้ๆ ไม่เกิน 1 กม. ก็จะมีความอุดมสมบูรณ์ในซอยรามอินทรา 83 ซึ่งเป็นซอยที่สามารถลัดเลาะเชื่อมต่อไปยังถนนรามอินทราได้สะดวก ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ก็จะอยู่ที่ปากซอย บริเวณถนนรามอินทราค่ะ จะมี Lotus’s go fresh, 7- Eleven และตลาดนัดรามอินทรา กม.9 นอกจากนั้นยังมี lchiba Station เป็นตลาดนัดสุดฮิต บรรยากาศ Walking Street สไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งลานจอดรถของที่นี่เชื่อมต่อกับซอยรามอินทรา 83 ได้เลยทำให้จากโครงการขับมาจอดรถได้โดยไม่ต้องขับออกมาถนนรามอินทราให้รถติดเสียเวลาอีกด้วยค่ะ

สำหรับใครที่ชอบเดินห้างสรรพสินค้า ที่ใกล้ๆ โครงการก็จะมีห้างใหญ่อย่าง Fashion Island และ The Promenade ประมาณ 1.9 กม. เท่านั้นค่ะ นอกจากนั้นรอบโครงการยังใกล้กับโรงพยาบาล และโรงเรียนนานาชาติอีกหลายแห่งด้วยนะคะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

ที่ตั้งโครงการ MEKA RAMINTRA อยู่ติดถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกเลย ทำให้สังเกตง่าย สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยแนวราบสูง 1-3 ชั้น ที่ดินเปล่า และคลองลำเกร็ด ทำให้บรรยากาศโดยรอบโครงการเปิดโล่ง

ทิศเหนือ ติดกับ ที่พักอาศัยแนวราบสูง 1-2 ชั้น
ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินเปล่า และที่พักอาศัยแนวราบสูง 2-3 ชั้น
ทิศตะวันออก ติดกับ คลองลำเกร็ด ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ดินเปล่า และบ้านพักอาศัยแนวราบ
ทิศตะวันตก ติดกับ ถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก

ลักษณะของถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกจะเป็นถนน 2 เลน ที่รถสามารถวิ่งสวนทางกันได้ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลากลับรถไกลๆ หากต้องการใช้เส้นทางไหนก็เลือกเลี้ยวจากหน้าโครงการได้เลยค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• ตลาดนัดรามอินทรา กม.9 ~ 1 km.
• lchiba Station ~ 1 km.
• Max Value Panya Village ~ 1.4 km.
• The Promenade ~ 1.7 km.
• Fashion Island ~ 1.9 km.
• Ease Park ~ 7.5 km.
• Central Festival Eastville ~ 11.6 km.
• The Crystal Ekamai-Ramindra ~ 10.7 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาล อินทรารัตน์ ~ 1.3 km.
• โรงพยาบาล นพรัตนราชธานี ~ 3.4 km.
• โรงพยาบาล สินแพทย์ รามอินทรา ~ 3.7 km.
• โรงพยาบาล พญาไท นวมินทร์ ~ 5.2 km.

โรงเรียน

• Satit Pattana School ~7.3 km..
• KPIS International School ~7.4 km.
• Lertlah Kaset-Nawamin School ~ 7.5 km.
• Healthfield International School ~ 7.8 km.
• NIVA American International School ~ 10.2km.

สถานที่อื่นๆ

• รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีรามอินทรา 83 ~ 1 km.
• วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออก ถนนกาญจนาภิเษก ~ 1.6 km.
• ทางพิเศษฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) ด่านจตุโชติ ~ 7.1 km.

MEKA RAMINTRA เป็นโครงการบ้านเดี่ยว Luxury จาก MORES DEVELOP ซึ่งเป็นผู้พัฒนาที่มี Background จากการรวมตัวกันของสถาปนิก ผู้รับเหมา และนักลงทุน ผู้มีประสบการณ์ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยมาก่อน จึงทำให้โครงการนี้ เน้นไปในเรื่องของการดีไซน์ตัวบ้านที่จัดฟังก์ชันลงตัว ระบายอากาศ และรับลมได้ดี สร้างสภาวะอยู่สบายให้กับผู้อยู่อาศัย ใส่ใจในรายละเอียดการเลือกใช้วัสดุต่างๆ ภายในบ้าน ที่เน้นให้ของดี คงทน สวยงาม

สำหรับโครงการ MEKA RAMINTRA ถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern Luxury ตั้งแต่ซุ้มทางเข้าหน้าโครงการ Clubhouse และตัวบ้าน ในจำนวนเพียง 24 ยูนิต ได้ความเป็นส่วนตัวสูง บนที่ดิน 6-2-83 ไร่ พร้อม Clubhouse ที่ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำแร่ ฟิตเนส Welcome Lounge และ สวนหย่อมภายในโครงการครบครัน

Master Plan ของโครงการ MEKA RAMINTRA จะเห็นได้ว่าที่ดินจะดินกับถนนใหญ่เลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก ด้านในสุดของที่ดินติดกับคลองลำเกร็ด เมื่อผ่านเข้าซุ้มประตูเข้าไปแล้วจะเจอกับ Clubhouse และสวนซ้ายมือหน้าโครงการ โดยถนนหลักที่นี่กว้าง 12 เมตร ยาวจนสุดที่ดิน ส่วนถนนรองกว้าง 9 เมตร ค่อนข้างกว้าง เดินรถสวนกันได้สะดวกเลยค่ะ

สำหรับบ้านพักอาศัยโซนที่อยู่ด้านหน้าจะเหมาะกับคนที่อยากได้บ้านใกล้กับทางเข้า-ออก ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลาง สามารถเดินมาใช้งานได้ใกล้ๆ นอกจากนั้นยังมีโซนที่อยู่ติดกับสวน และ Clubhouse (ในวงเส้นประ) บ้านโซนนี้จะไม่มีเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม และหน้าบ้านหันเทควิวสวนหย่อมภายในโครงการ แต่ก็ต้องแลกกับการที่ อาจจะผู้คนเดินผ่านเข้า-ออก ถนนหน้าบ้านบ่อยหน่อยนะคะ ส่วนโซนด้านในจะเหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว รถเข้า-ออก ผ่านหน้าบ้านน้อย

การวางทิศของบ้านส่วนใหญ่จะวางทำมุมตามทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งก็มีข้อดีคือตัวบ้านมีพื้นที่รับลมจากทางทิศใต้ค่อนข้างเยอะ ทำให้ลมเข้าสู่ตัวบ้านได้ดี แต่ก็จะมีพื้นที่รับแดดที่มากด้วยเช่นกันในบางตำแหน่ง ส่วนโซนที่อยู่ติดกับสวน และ Clubhouse (ในวงเส้นประ) หน้าบ้านจะหันไปทางทิศตะวันออก ที่ในตอนเช้าจะได้รับแสงแดดอ่อนๆ ทำให้ตื่นง่าย และช่วงเวลาบ่ายจะร่มตลอด

เริ่มต้นกันที่บริเวณด้านหน้าโครงการนะคะ จะเป็นซุ้มทางเข้าโครงการขนาดใหญ่ พร้อมป้ายโครงการชัดเจน ด้านหน้ามีการลงไม้ยืนต้นและไม้พุ่มต่างๆ ประดับตกแต่งเพื่อให้บรรยากาศด้านหน้าโครงการดูสดชื่นยิ่งขึ้น

ประตูรั้วโครงการเป็น ประตูเลื่อนอัตโนมัติ 3 ตอน เป็นประตูเหล็กสี Copper ลวดลายสวยงาม แบ่ง 2 ฝั่งเป็นทางเข้า-ออกชัดเจน ส่วนเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัยจะเป็นของ LIV-24* จากแสนสิริ และพลัส พร็อพเพอร์ตี้ คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ

บริเวณซุ้มประตูด้านหน้าโครงการ ด้านซ้ายมือเป็น Guardhouse ที่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบ CCTV คอยบันทึกการเข้า-ออกไว้เป็นมาตรฐาน จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกบ้านได้ดียิ่งขึ้น

รถยนต์จะเข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Bluetooth ระยะไกล สำหรับแขกที่มาเยือนจะติดต่อกับลูกบ้านหลังต่างๆ ด้วย Intercom เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านให้ได้เห็นหน้าค่าตากันก่อน ว่าแขกคนไหนมาหาตั้งแต่บริเวณทางเข้าโครงการเลยค่ะ

โครงการมีถนนหลักกว้าง 11 เมตรส่วนถนนรองกว้าง 9 เมตร สายไฟร้อยท่อลงดิน ทำให้บรรยากาศภายในโครงการดูเรียบร้อย ไม่มีไม่มีเสาไฟนะ นอกจากนั้นยังมีการปลูกต้นไม้ยืนต้นที่หน้าบ้านหลังละหนึ่งต้น ริมถนน ทำให้บรรยากาศภายในโครงการดูสดชื่นร่มรื่น มากยิ่งขึ้น สำหรับโซนด้านในยังมีการก่อสร้างอยู่นะ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2566 เร็วๆ นี้ค่ะ

เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับ Clubhouse อยู่ด้านซ้ายมือเลย โดยตัวอาคาร Clubhouse มาในรูปแบบอาคาร 2 ชั้นสไตล์ Modern Luxury เช่นกัน

อาคาร Clubhouse 2 ชั้น ขนาด 196 ตร.ม.โดยมีพื้นที่สวนอยู่บริเวณเดียวกันเลย ทำให้บรรยากาศบริเวณนี้ดู ร่มรื่น สดชื่นเลยทีเดียวค่ะ

บรรยากาศบริเวณหน้าประตูทางเข้า Clubhouse ค่ะ จะเห็นได้ว่าทางโครงการมีการลงทั้งไม้ยืนต้นไม้พุ่ม จัดเป็นสวนหย่อมรอบๆ อาคารเลย

เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับ Foyer โดยประตูด้านซ้ายสามารถเชื่อมต่อไปยังสระว่ายน้ำด้านนอกได้เลย ตรงกลางเป็นโถงบันไดขึ้นไปยังชั้น 2 ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับห้อง Fitness ขนาดกลาง สามารถใส่เครื่องออกกำลังกายได้ 3-4 เครื่อง และส่วนนิติบุคคลค่ะ สำหรับพื้นที่ชั้น 2 ตรงนี้ยังไม่เรียบร้อยดี จึงไม่ได้เก็บรูปมาฝากกันนะคะ ส่วนด้านขวามือเชื่อมต่อกับ Welcome Lounge ค่ะ

บริเวณด้านข้างบันได มีห้องน้ำแยกชายหญิงเป็นสัดส่วน รองรับอยู่ด้วยนะคะ โดยห้องน้ำจะต้องเดินลงบันไดไปอีกระดับนะ

ห้องน้ำเป็นแบบ Powder Room มีอ่างล้างหน้าพร้อมโถสุขภัณฑ์ แต่จะไม่มีส่วนเปียกมาให้นะคะ

บรรยากาศบริเวณพื้นที่ Welcome lounge ภายในห้องเป็นกระจกขนาดใหญ่เทควิวสวนได้เต็มที่ บรรยากาศภายในห้องดูสดชื่นเลยทีเดียว

ภายใน Welcome lounge มีชุดโซฟา ชุดโต๊ะให้นั่งหลายจุด สามารถมานั่งเล่น นั่งทำงาน หรือสามารถใช้รับแขกในกรณีที่ไม่สะดวกให้เข้าบ้านได้เช่นกันค่ะ

บริเวณ Terrace ด้านนอก ทางโครงการได้มีการจัดตั้งเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้ Outdoor รองรับอยู่ด้วยนะ

นอกจากนั้นพื้นที่สวนยังเชื่อมต่อกับอาคาร Clubhouse ได้ทั้งบันได และทางลาดรองรับรถเข็นของผู้สูงอายุได้ด้วยค่ะ

พื้นที่สวนหย่อมรอบๆ Clubhouse มีขนาด 423.2 ตารางเมตร มีการลงไม้ยืนต้นไว้อย่างหนาแน่น ดูร่มรื่นดีค่ะ

บริเวณทางเข้าสวนตรงนี้มีทางลาดรองรับอยู่เช่นกันค่ะ ภายในสวนลงต้นไม้ยืนต้นไว้หลากหลาย ทั้งต้นตะเบเหลือง ต้นพยุง ต้นพวงชมพู ต้นชงโค ต้นกันเกรา ต้นจิก ต้นตีนเป็ดฝรั่ง ต้นสะเดา

มีมุมนั่งเล่น Outdoor ใต้ต้นไม้ใหญ่ ภายในสวนอยู่ด้วยค่ะ

ภายในสวนมีการทำทางเดิน Hardscape เอาไว้เรียบร้อย สามารถเดินได้สะดวกนะ

ภายในสวนมีพื้นที่นั่งชิงช้าด้วยนะ ในช่วงที่แดดร่มๆ สามารถพาเด็กๆ มาเดินเล่น นั่งเล่นกันได้ค่ะ

ใกล้ๆสระว่ายน้ำ ทางโครงการจัดวางเตียงริมสระไว้ให้ด้วย โดยตำแหน่งสระว่ายน้ำจะอยู่ริมถนนหลัก ทำให้ทางโครงการได้มีการดีไซน์ เป็นผนังช่องลมเอาไว้ที่บริเวณด้านข้าง เพื่อบังสายตา เพื่อให้มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงรับลมได้ดีด้วยเช่นกัน

สระว่ายน้ำส่วนกลางที่นี่เป็นสระว่ายน้ำขนาด 3.65×10.5 ม. ลึก 1.4 ม.เป็นระบบน้ำแร่แมกนีเซียม อ่อนโยนต่อผิว สบายตัว เมื่อขึ้นจากสระแล้วไม่เหนียวตัว

ตรงนี้มีโซนน้ำตื้นลดลงไปหนึ่ง Step ก่อนจะเป็นตัวบันได เดินลงสระว่ายน้ำนะคะ

มีพื้นที่สระส่วนหนึ่งอยู่ในที่ร่มด้วย ทำให้สามารถพาเด็กๆ มาเล่นน้ำไม่ต้องกลัวร้อนเลย และอย่างที่บอกไปนะคะ ว่าตัวสระว่ายน้ำติดกับพื้นที่ Foyer ในอาคาร Clubhouse ทำให้ผู้ปกครองสามารถมานั่งดูแลเด็กๆ ในห้องแอร์ได้โดยไม่ร้อนได้ด้วยนะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
• Welcome Lounge
• สระว่ายน้ำ ระบบน้ำแร่แมกนีเซียม จาก Astral Pool (Fluidra) / สระผู้ใหญ่ ขนาด 3.65×10.5 ม. ลึก 1.4 ม.
• ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 3-4 เครื่อง
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 0-1-5.8 ไร่ ( 423.2 ตร.ม.)
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
• รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร เป็นรั้วสำเร็จรูปคอนกรีต
• ถนนหลักกว้าง 11 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
• ระบบในการเข้า-ออก Bluetooth ระยะไกล
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง LIV-24* จากแสนสิริและพลัส พร็อพเพอร์ตี้
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วเหล็กรางเลื่อนอัตโนมัติ
• ระบบไฟในโครงการ 3 เฟส ไม่มีเสาไฟ สายไฟร้อยท่อลงดิน

MEKA RAMINTRA เป็นโครงการบ้านเดี่ยว สไตล์ Modern Luxury การดีไซน์อาคารรับแสงธรรมชาติ และรับลมได้ดี สร้างภาวะอยู่สบายของผู้อยู่อาศัยให้ได้มากที่สุด นอกจากนั้นยังใส่ใจในรายละเอียดของวัสดุต่างๆ ถือว่าให้วัสดุมาดีเลย นอกจากนั้นยังมีการติดตั้งเทคโนโลยีภายในตัวบ้านอย่าง Motion Sensor Detector เพื่อคอยตรวจจับความเคลื่อนไหว รักษาความปลอดภัยภายในบ้าน และ VDO Door Phone (Intercom) อีกด้วย

โดยตัวบ้านมีขนาด 3 ชั้น ได้ฟังก์ชัน 4-5 ห้องนอน ได้ที่จอดรถ 3 คัน พร้อมห้องแม่บ้านมีห้องน้ำในตัว 1 ห้อง ทุกหลัง โดยแบบบ้านจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้

• Type A บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 79 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 475 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน /5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ /ลิฟต์ (สระ/สวน)
  – ราคาเริ่มต้น 34.57 ล้านบาท
• Type B บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 67.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 390 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4-5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ /ลิฟต์ (สระ/สวน)
  – ราคาเริ่มต้น 27.65 ล้านบาท / แบบมีสระ ราคาเริ่มต้น 31.35 ล้านบาท
• Type C บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 65.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 360 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 22.35 ล้านบาท

เราขออธิบายความแตกต่างของแปลนแต่ละแบบกันก่อน เพื่อให้เห็นความแตกต่างและเห็นภาพมากยิ่งขึ้นนะคะ

Type A จะเป็นบ้านขนาดใหญ่สุด ผังอาคาร C-Shape พร้อมลิฟต์ส่วนตัว มีทั้งแบบสวน และแบบสระว่ายน้ำ ซึ่งแบบนี้จะเหลืออยู่ไม่กี่หลังแล้วนะคะ

Type B จะคล้ายกับ Type A  เลย ต่างกันที่ขนาดพื้นที่แต่ละฟังก์ชันของบ้าน โดยมีผังอาคาร C-Shape พร้อมลิฟต์ส่วนตัว มีทั้งแบบสวน และแบบสระว่ายน้ำเช่นกันค่ะ แต่จะมีความพิเศษตรงที่ Type B จะมีแบบที่ได้ 5 ห้องนอน และ แบบ 4 ห้องนอนที่เป็นห้อง Penthouse เต็มพื้นที่ชั้น 3 สามารถเลือกได้ตามไลฟ์สไตล์เลยค่ะ

Type C จะเป็นแบบบ้านที่ได้ฟังก์ชัน 5 ห้องนอนเช่นกัน ขนาดที่ดิน และพื้นที่ใช้สอยใกล้เคียงกับบ้าน Type B เลย น้อยกว่านิดหน่อย แต่จะได้ผังที่ดินหน้ากว้างเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส มากกว่า 2 แบบก่อนหน้า ใครที่อยากได้บ้านหน้ากว้าง Type C ตอบโจทย์เลย ส่วนการวางผังอาคารเป็นทรงสี่เหลี่ยม สำหรับบ้านแบบนี้จะไม่ได้ให้ลิฟต์มานะคะ แต่ทางโครงการก็ได้มีการดีไซน์ปล่องลิฟต์ไว้ให้เรียบร้อย ในกรณีที่เราเปลี่ยนใจอยากได้ลิฟต์ในบ้านก็สามารถติดต่อบริษัทลิฟต์ให้มาติดตั้งได้ โดยไม่ต้องต่อเติมปล่องลิฟต์ให้ยุ่งยากนะ

สรุปโครงสร้างและวัสดุ

• ระบบโครงสร้างเหล็ก และคานเหล็ก พื้นคาน ค.ส.ล. (RC Conventional)
• ผนังภายนอก ผนังก่ออิฐมวลเบา ฉาบเรียบ ทาสี / กรุกระเบื้องพอร์ซเลน
• ผนังภายใน ก่ออิฐมวลเบา ฉาบเรียบ กรุ Wallpaper
• ที่จอดรถ และระเบียงข้างบ้านโครงสร้าง On Beam / กรุกระเบื้องพอร์ซเลน
• โครงสร้างบันได เหล็ก วัสดุปิดผิวบันได Engineering Wood ลายไม้
• วัสดุปูพื้นชั้น 1 กระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 0.80 x 0.80 ม. สีครีม
• วัสดุปูพื้นชั้น 2-3 Engineering Wood
• ได้ชุดครัว Built-in จาก Modernform / Hob & Hood และอ่างล้างจาน 2 หลุมยี่ห้อ HAFELE
• ห้องน้ำพื้นและผนัง กรุกระเบื้องพอร์ซเลน
• สุขภัณฑ์ จาก TOTO / ฉากกั้นอาบน้ำ HAFELE
• ระบบท่อน้ำร้อน-น้ำเย็น (ห้องน้ำชั้น 2 และ ชั้น 3)
• วัสดุกรอบบานหน้าต่าง จากแบรนด์ Aluzat
• รั้วด้านหน้าและด้านข้างสูง 1.8 ม. ก่ออิฐฉาบปูนทาสี พร้อมลงเสาเข็ม I-15 ยาว 4 ม. พร้อมประตูรั้วเลื่อนเหล็กพ่นสี / รั้วหลังบ้านรั้วสำเร็จรูปคอนกรีตสูง 3 ม. ลงเข็ม I-26 ยาว 10 ม.

เทคโนโลยีภายในตัวบ้าน

• ภายในตัวบ้านติดตั้ง Motion Sensor Detector 2 จุดที่ชั้น 1 และ 2 / VDO Door Phone (Intercom) เชื่อมต่อผ่านโทรศัพท์มือถือ
• Digital Door Lock จาก HAFELE
• ระบบไฟฟ้า 3 เฟส มี junction รองรับ EV Charger ทุกหลัง
• สวิตช์ปลั๊ก จาก Bticino
• แอร์แบบฝังฝ้า Mitsubishi Electric
• ลิฟต์ Mitsubishi ขนาด ความจุ 300 kg. หรือประมาณ 3-4 คน (เฉพาะ Type A-B)

โดยในรีวิวนี้เราจะขอพาไปดูแบบบ้าน Type B (Penthouse) มีสระน้ำแร่กลางคอร์ท
กันค่ะ ส่วนบ้านแบบ Type A เราจะขอลงเป็น Gallery ภาพบรรยากาศภายในบ้านตัวอย่างต่อท้ายแทนนะคะ

Type B

แบบบ้าน Type B แบ่งเป็น แบบสวนกลางคอร์ท และแบบสระน้ำแร่กลางคอร์ท ดังนี้

แบบสวน กลางคอร์ท ทางโครงการมีการลงไม้ยืนต้น 1 ต้นใหญ่ไว้กลางคอร์ทไว้ให้เราเรียบร้อยเป็นมาตรฐานทุกหลังเลยค่ะ ไม่ต้องลงต้นไม้ใหญ่เองให้ยุ่งยากนะ

• Type B (Penthouse )
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ /ลิฟต์ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 27.83 ล้านบาท
• Type B (5 ห้องนอน)
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ /ลิฟต์ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 27.65 ล้านบาท

แบบสระน้ำแร่ กลางคอร์ท โดยแบบบ้าน Type B ที่ได้สระน้ำแร่กลางคอร์ท จะเป็นแบบ Penthouse ทั้งหมดนะคะ ส่วนไม้ยืนต้นที่ทางโครงการลงไว้ให้จะขยับไปอยู่บริเวณสวนข้างบ้าน ไม่ไกลจากสระว่ายน้ำ สร้างความร่มรื่นให้กับพื้นที่คอร์ทนะ

• Type B ( Penthouse )
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ /ลิฟต์ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 31.35 ล้านบาท

สำหรับแบบบ้านที่เราจะพามารีวิว ก็คือแบบบ้าน Type นี้เลยค่ะ ส่วนตัวบ้านจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลย

Type B ( Penthouse ) พร้อมสระว่ายน้ำแร่กลางคอร์ท

• Type B ( Penthouse )
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ /ลิฟต์ / 1 ห้องแม่บ้าน/ สระว่ายน้ำแร่
  – ราคาเริ่มต้น 31.35 ล้านบาท

แบบบ้าน Type นี้ จะมีจุด Highlight ที่น่าสนใจอะไรบ้าง เราสรุปมาให้ ดังนี้

• ผังบ้าน C-shape ทำให้มีช่องหน้าต่างเยอะ รับแสงรับลมได้ดีทำให้บรรยากาศในบ้านดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น
• Court กลางบ้าน ถูกดีไซน์ไว้เป็นพื้นที่กลางแจ้ง ที่มีสระว่ายน้ำและสวนเขียว โดยตัวบ้านโอบล้อม Court นี้ไว้ และเน้นให้มีช่องเปิด ที่กลาง Court ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว และทุกพื้นที่ในบ้านได้วิวสระว่ายน้ำและสวนอีกด้วย
• รับลมได้ดีทุกฟังก์ชัน เนื่องจากทุกห้องได้ช่องหน้าต่างหลายด้าน และข้างบ้านทุกหลังมีระยะร่นเกือบ 2 เมตร ทำให้มีช่องว่าง Flow ลม ได้ดี
• ห้องนั่งเล่น Double Volume สูง 6.25 เมตร พร้อมช่องแสงกระจกสูงเต็มบาน ทำให้ห้องดูสูง โปร่งยิ่งขึ้น
• Penthouse เต็มพื้นที่ชั้น 3 เป็นพื้นที่ห้องนอนขนาดใหญ่ ประกอบไปด้วยห้องนั่งเล่น ห้องนอน powder room พร้อม walk in closet ขนาดใหญ่ และห้องน้ำมี bathtub ในตัว
• ห้องครัวไทยปิด พร้อมเคาน์เตอร์ครัวครบชุด จาก Modernform ได้ Hob & Hood และอ่างล้างจาน 2 หลุมยี่ห้อ HAFELE
• ห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัว 4 ห้อง และส่วนใหญ่จะได้ พื้นที่ Walk in closet ในตัวมาเรียบร้อย นอกจากนั้นยังมีห้องนอนที่ชั้นหนึ่งสามารถรองรับผู้สูงอายุได้ด้วยค่ะ
• ที่จอดรถ 3 คัน พร้อมหลังคาคลุมเรียบร้อย โดยที่จอดรถมีขนาด หน้ากว้าง ประมาณ 7.5 เมตร ลึก 6 เมตร และยังมีระยะร่นหน้าบ้าน เกือบ 2 เมตร ทำให้สามารถจอดรถขนาดใหญ่ อย่างรถตู้ หรือรถ SUV ได้สบาย
• สระว่ายน้ำแร่ เป็นระบบน้ำแร่แมกนีเซียม อ่อนโยนต่อผิว สบายตัว เมื่อขึ้นจากสระแล้วไม่เหนียวตัว พร้อมโซน Jacuzzi และติดตั้งเครื่องว่ายทวนน้ำ สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้ ยี่ห้อ Astral Pool (Fluidra) จากประเทศสเปน
• ลิฟต์ส่วนตัว ที่มีฟังก์ชันพิเศษสามารถสแกนใบหน้า/Finger scan/Card ล็อกชั้น เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยในห้อง Penthouse มากขึ้น นอกจากมีข้อดีในเรื่องของความสะดวกสบายไม่ต้องเดินขึ้นบันไดให้เมื่อยแล้ว ยังสามารถรองรับการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุในชั้นบนๆ ได้ด้วย

หน้าบ้านทางโครงการลงต้นไม้ยืนต้นไว้บริเวณหน้าบ้านทุกหลัง 1 ต้นนะคะ ช่วยให้บรรยากาศหน้าบ้านดูสดชื่น ร่มรื่นมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้น แนว Footpath ที่นี่จะเป็นสโลปจากระดับตลอดแนว เผื่อในกรณีที่เรามีแขกมาบ้านแล้วต้องจอดรถหน้าบ้านได้สะดวก ไม่ขวางถนนหลัก

แนวรั้วในบ้านมาตรฐาน จากพื้นที่ชายคาออกมาอีก 1.8 เมตร เป็นแนวรั้วนะคะ ซึ่งทางโครงการออกแบบรั้วด้านหน้าและด้านข้างไว้เป็น รั้วสูง 1.8 เมตรก่ออิฐฉาบปูนทาสี พร้อมลงเสาเข็ม I-15 ยาว 4 เมตร ป้องกันการทรุดตัว และมีประตูรั้วเลื่อนเหล็กพ่นสี และมีการดีไซน์ ตู้จดหมาย และถังขยะ บริเวณรั้วด้านหน้าบ้านไว้ให้เรียบร้อยค่ะ

ที่จอดรถสามารถจอดรถได้ 3 คัน ขนาด 7.5 x6 เมตร เป็นที่จอดรถในร่ม มีหลังคาคลุมมาให้เรียบร้อย ไม่ต้องต่อเติมเองนะ นอกจากนั้นยังมีข้อดีตรงที่ช่วยทำให้ ทัศนียภาพโดยรวมของโครงการ ดูเรียบร้อย  ไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนระบบไฟฟ้าที่นี่เป็นแบบ 3 เฟส มี Junction รองรับ EV Charger ทุกหลังนะคะ

บริเวณซ้ายมือตรงนี้ดีไซน์เป็นตู้เก็บของไว้ ข้างในเป็นงานระบบของสระว่ายน้ำ ตรงนี้สามารถเก็บอุปกรณ์ทำสวน หรืออุปกรณ์ล้างรถต่างๆ ไว้ในห้องนี้ได้เลยค่ะ ตรงนี้มีระแนงบังสายตาให้จากภายนอก ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวให้บริเวณสระว่ายน้ำ ได้ระดับหนึ่งค่ะ

มีการดีไซน์ทางลาดเลื่อนมาให้ รองรับผู้สูงอายุอยู่บริเวณนี้ด้วย หรือจะใช้กรณีต้องลากระเป๋าสัมภาระต่างๆก็สะดวกค่ะ

ระยะร่นด้านข้างบ้านประมาณ 2 เมตร ทำให้ระยะห่างระหว่างตัวบ้านค่อนข้างเยอะ ลมผ่านได้ดี

ผนังภายนอกบริเวณหน้าบ้านตกแต่งด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนลายหิน  ประตูบานเปิดคู่ วัสดุวงกบไม้แอช บานไม้แอชทำสีย้อม ขนาด 1.40 x 2.40 เมตร เป็นบานเปิดคู่ ค่อนข้างใหญ่เลย พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock จาก HAFELE สามารถเปิดประตูได้หลากหลายวิธีทั้งใส่รหัส, Key card,ลายนิ้วมือ และ Bluetooth

เมื่อเข้ามาภายในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่ Foyer เล็กๆ ด้านซ้ายสามารถ Built-in เป็นตู้เก็บของเก็บรองเท้าที่ผนังได้ค่ะ โดยพื้นที่ตรงนี้มีขนาดประมาณ 1.1×3.5 เมตร

บริเวณด้านซ้ายของประตู เป็นจอ VDO Door Phone (Intercom) เมื่อมีแขกมาหาที่บ้านเราจะเห็นว่าใครมาหาเราตั้งแต่ก่อนเข้าประตูหลักโครงการเลยค่ะ นอกจากนั้น ภายในตัวบ้านติดตั้ง Motion Sensor Detector 2 จุดที่ชั้น 1 และ 2 โดยสามารถควบคุมได้จากหน้าจอบริเวณนี้ได้ หรือจะควบคุมผ่าน Smart phone ก็ได้ค่ะ

นอกจากนั้นภายในโครงเลือกใช้ สวิตช์ปลั๊กทุกจุด ของ Bticino สีดำดู Modern ที่สำคัญมีการเดินสายไฟพร้อมเปลี่ยนหน้ากากเป็น Smart Home ได้ทุกตำแหน่ง เราสามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้เลย ทางโครงการวางงานระบบไว้เรียบร้อย โดยระบบ Smart Home เราสามารถเลือกปรับการใช้งานได้ตามความเหมาะสมของเราเลย โดยสามารถควบคุมการทำงานระบบไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้าน ผ่าน Smart Phone ได้เช่นกันค่ะ

ทางเข้าสู่พื้นที่นั่งเล่นอยู่บริเวณขวามือ ตรงนี้มีห้องเก็บของเล็กๆ สามารถตกแต่งเป็นประตูซ่อนดูกลืนไปกับผนังแบบบ้านตัวอย่างนี้ก็ดูเรียบร้อยดีค่ะ ส่วนบริเวณด้านข้างห้องจะเป็นตู้ Control ไฟฟ้านะคะ

เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนพื้นที่นั่งเล่น ตรงนี้จะเป็นเหมือนพื้นที่ Common area ขนาดใหญ่ประมาณ 4.0×9.0 เมตร เป็นพื้นที่นั่งเล่น และพื้นที่ทานอาคาร โดยในบ้านมาตรฐานจะเป็น พื้นกระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 0.80 x 0.80 เมตร สีครีม และได้โปรโมชันแอร์ฝังฝ้า 4 จุดด้วยนะคะ

ห้องนั่งเล่น Double Volume สูง 6.25 เมตร พร้อมช่องแสงกระจกสูงเต็มบาน ทำให้ห้องดูสูง โปร่ง ส่วนพื้นที่บริเวณอื่นๆที่ชั้นล่างนี้ฝ้าสูง 2.7 เมตร ซึ่งค่อนข้างสูงเลยค่ะ

บริเวณพื้นที่นั่งเล่น นอกจากจะได้ช่องเปิดขนาดใหญ่เทควิวสระว่ายน้ำแล้ว ยังมีช่องเปิดที่ผนังตรงข้ามบริเวณบันไดด้วย เป็นช่องเปิดขนาดไม่ใหญ่มากเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวภายในบ้าน ซึ่งการที่ได้ช่องเปิด 2 ด้านแบบนี้ สามารถเปิดรับลมได้ดีเลยค่ะ

พื้นที่ Common area ดีไซน์มาให้ขนานไปกับสระว่ายน้ำกลางคอร์ทเลย เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่สระว่ายน้ำได้ต่อเนื่อง และได้บรรยากาศดี เหมาะต่อการพักผ่อนอย่างเต็มที่นั่นเองค่ะ

พื้นที่ Common area เชื่อมต่อกับ Pool Terrace เทควิวสระว่ายน้ำได้เต็มที่ โดยทางโครงการดีไซน์ให้ตัวบ้านโอบล้อม และเน้นให้มีช่องเปิดที่ Court กลาง ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว และทุกพื้นที่ในบ้านได้วิวสระว่ายน้ำและสวนอีกด้วย

Pool Terrace ขนานไปกับ พื้นที่ Common Area ด้านในบ้าน เชื่อมต่อกันด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ โดยประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมภายนอกทั้งหมดจะเป็น แบรนด์ Aluzat รุ่น Starline สี SANDY SPARKIES SILVER พร้อมเตรียมรางมุ้งลวดไว้ให้ด้วยค่ะ

นอกจากนั้นสระว่ายน้ำดีไซน์ให้ Gutter อยู่ริม Pool Terrace เลยทำให้บริเวณนี้ มีเสียงน้ำล้นเบาๆคอยสร้างบรรยากาศได้ดีทีเดียว

ขนาดสระกว้าง 8.2 x 3.6 เมตร เป็นสระน้ำแร่ ของ Astral Pool (Fluidra) จากสเปน เป็นระบบน้ำแร่แมกนีเซียม อ่อนโยนต่อผิว สบายตัว เมื่อขึ้นจากสระแล้วไม่เหนียวตัว โดยทางโครงการติดตั้งมา เป็นระบบสระว่ายน้ำที่เราสามารถเปลี่ยนเป็นสระน้ำเกลือได้ด้วยนะคะ

สระว่ายน้ำพร้อมโซน Jacuzzi โดยมีปุ่มเปิด อยู่บริเวณข้างสระ อยู่ในสระก็สามารถกดเปิดได้สะดวกค่ะ นอกจากนั้นยังมีการดีไซน์ให้มีพื้นที่ข้างสระสามารถวางชุดโต๊ะเก้าอี้ Outdoor กรณีมีปาร์ตี้ที่บ้านสามารถนั่งทานอาหาร เครื่องดื่มกับเพื่อนในสระได้เลย

อีกด้านหนึ่งของสระติดตั้งเครื่องว่ายทวนน้ำ สร้างแรงต้าน ทำให้สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายจริงจังได้เลยค่ะ

บริเวณสวนข้างบ้านโซนด้านใน ทางโครงการใส่ไม้ยืนไว้ให้ตรงนี้ ช่วยสร้างร่มเงาให้กับตัวบ้านได้ดีค่ะ

มาดูกันที่โซนหลังบ้านกันค่ะ ห้องแรกประตูด้านซ้ายมีจะเป็นห้องนอนชั้นล่าง รองรับผู้สูงอายุได้ หรือจะจัดเป็นฟังก์ชันอื่นก็ได้ตามใจชอบค่ะ ส่วนประตูกลางจะเป็นห้องครัวไทย เชื่อมต่อกับพื้นที่ทานอาหารต่อเนื่องกันดี ส่วนประตูขวามือจะเป็นห้องน้ำ Powder room ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ เป็นห้องน้ำที่ใช้รองรับพื้นที่ Common Area ตรงนี้นะ

มาดูห้องนอนชั้นล่างกันก่อนค่ะ สำหรับบ้านตัวอย่างจัดเป็นบาร์เล็กๆ ไว้ให้เป็นไอเดียนะคะ โดยห้องมีขนาด 2.9 x 2.7 ม. วางเตียง 5 ฟุตพร้อมมีทางเดินโดยรอบได้สบาย หรือจะจัดเป็นพื้นที่ทำงานพื้นที่นั่งเล่นก็เหมาะค่ะ เพราะห้องนี้ได้วิวสระว่ายน้ำและสวนค่อนข้างดี แถมยังได้ช่องเปิด 2 ด้าน ในวันที่อากาศดีๆสามารถเปิดรับลมอยู่ได้สบายๆ

ส่วนวัสดุพื้นจะได้เป็นวัสดุไวนิล ลายไม้ Altro Wood Acoustic เป็นพื้นที่มีความยืดหยุ่น ลดแรงกระแทกที่เกิดจากการหกล้มได้ดี และดูดซับเสียงได้ด้วย เหมาะสำหรับเป็นห้องของผู้สูงอายุเลยค่ะ

ห้องนอนชั้นล่าง เชื่อมต่อกับพื้นที่ Pool terrace ได้วิวสระว่ายน้ำ และยังได้ช่องเปิดบานเฟี้ยมบานใหญ่ ทำให้สามารถเปิดเชื่อมต่อกันได้กว้าง รับลม รับแสงได้ดีเลยค่ะ

ภายในห้องมีห้องน้ำในตัวมาให้เรียบร้อย โดยในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นประตูบานเปิดทึบนะ แต่สำหรับห้องตัวอย่างนี้มีการดีไซน์เป็นประตูซ่อนบานเลื่อนไว้ ดูเรียบร้อยดี สามารถใช้เป็นไอเดียในการตกแต่งได้นะคะ

ภายในห้องน้ำมีขนาดค่อนข้างกว้าง ออกแบบมาให้รองรับรถเข็นสำหรับผู้สูงอายุได้ค่ะ ภายในมีการแบ่งส่วนเปียก ส่วนแห้งชัดเจนค่ะ พร้อมมีช่องเปิดบานกระทุ้งเพื่อระบายอากาศ แต่รับแสงธรรมชาติได้ประมาณหนึ่ง พร้อมติดตั้งฉากกั้นกระจกจาก  HAFELE มาให้เรียบร้อยค่ะ

อ่างล้างมือจะได้ชั้นวางของ พร้อมหน้าบานทึบลายไม้ ติดตั้ง Soft Close มาให้เรียบร้อย สามารถจัดเก็บอุปกรณ์น้ำความสะอาด หรือเก็บของต่างๆ ได้เรียบร้อยดีค่ะ

พื้นที่ส่วนเปียกตรงนี้มีขนาด 1.0 x 0.9 ม. พื้นลดระดับเล็กน้อยเพื่อป้องกันน้ำไหลไปโดนส่วนแห้ง

พื้นที่อาบน้ำอยู่ติดกับช่องเปิดทำให้บริเวณนี้ค่อนข้างสว่างเลย ส่วนที่อาบน้ำเป็นแบบ Hand Shower พร้อมพื้นที่วางสบู่ๆเล็กๆ จาก TOTO อาจจะต้องหาชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำมาติดเพิ่มนะคะ

เรามาดูโซน Service หลังบ้านกันค่ะ ตรงนี้จะเป็นห้องครัว ห้องครัวไทยปิด ขนาดค่อนข้างกว้าง 2.65 x 2.70 เมตร พร้อมเคาน์เตอร์ครัวครบชุด จาก Modernform ด้านหลังเป็นหน้าต่างบานเกล็ด 2 จุดทำให้สามารถเปิดระบายอากาศได้นะ

โดยห้องครัวจะเชื่อมต่อกับพื้นที่หลังบ้าน ซึ่งมีห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัวหนึ่งห้อง และลานซักล้างหลังบ้านนะคะ

อ่างล้างจาน 2 หลุม และ Hob & Hood ยี่ห้อ HAFELE ตรงนี้แนะนำให้ติดตั้ง Backsplash ที่ผนังหลังเคาน์เตอร์ครัวเพิ่มเติม จะช่วยให้สามารถทำความสะอาดได้ง่ายนะคะ

เคาน์เตอร์ด้านล่างเป็นรูปตัว L มีพื้นที่เก็บของเป็นแบบบานเปิด และลิ้นชัก

ชั้นวางของด้านบน built-in เป็นรูปตัว I เก็บของได้เยอะ มีที่เก็บของหลากหลายขนาด เป็นทั้งแบบหน้าบานทึบ และแบบไม่มีหน้าบานเพื่อให้ง่ายต่อการหยิบใช้งานด้วยนะคะ

ส่วนบริเวณด้านข้างประตูหลังบ้านตรงนี้จะได้เคาน์เตอร์ครัวเล็กๆ อีก 1 จุดด้วยนะ โดยด้านบนจะได้เป็นชั้นวางของโปร่งๆ พร้อมราวแขวนอุปกรณ์ต่างๆ ติดตั้งมาแบบนี้เลย พร้อมมีปลั๊กไฟติดตั้งมาเรียบร้อย สามารถวางเตาไมโครเวฟ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้สะดวก โดยพื้นที่ด้านข้างเคาน์เตอร์จะมีที่ว่างกว้าง 0.85 เมตรสามารถวางตู้เย็นได้ค่ะ

ถัดมาเป็นห้องน้ำรองรับพื้นที่ Common area มีลักษณะเป็น Powder room ห้องน้ำไม่มีส่วนเปียกมาให้

อ่างล้างมือแบบฝังในเคาน์เตอร์ Top หินอ่อน พร้อมที่เก็บของด้านล่างมาให้เรียบร้อยแบบนี้เลย ส่วนโถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ จาก TOTO ค่ะ

ลิฟต์อยู่กลางบ้านบริเวณ Common area ถัดจากตัวบันไดเลย โดยลิฟต์มีขนาดความจุ 300 kg. (จุได้ 3-4 คน) จาก Mitsubishi ประตูลิฟต์แบบเลื่อนเปิดด้านข้าง ทำให้สามารถเปิดได้กว้างรองรับรถเข็นผู้สูงอายุได้ ส่วนหน้าบานลิฟต์ที่ได้จะตกแต่งแบบนี้เลยค่ะ

ที่ได้ฟังก์ชันพิเศษสามารถสแกนใบหน้า /Finger scan /Card ล็อกชั้น เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยในห้อง Penthouse กรณีลิฟต์ ไฟฟ้าดับ Lift จะเปิดประตูชั้นที่ใกล้ที่สุด (มีแบตเตอรี่สำรองใช้ในกรณีไฟฟ้าดับ)

บันไดเป็นบันไดโปร่งไม่มีลูกตั้ง ทำให้บ้านดูโปร่ง ตัวบันไดหน้ากว้าง 1 เมตร เป็นโครงสร้างเหล็ก ตัวลูกนอนเป็นวัสดุทึบตัน แข็งแรงเลยทีเดียว ส่วนวัสดุปิดผิวบันได Engineering Wood ลายไม้ สีโอ๊ค พร้อมราวกันตก Tempered Glass สูง 0.9 เมตร

ชั้น 2 โซนหน้าบ้านจะเป็นห้องนอน 2 ส่วนโซนหลังบ้านจะเป็นห้องนอน 3 และส่วน Laundry พร้อมระเบียงตากผ้าค่ะ โดยตรงกลางจะเป็นโถงโปร่งๆ กว้าง 1.4 เมตร พร้อมราวกันตกกระจก เชื่อมต่อกับพื้นที่ Double Volume ด้านล่าง นอกจากนั้นบริเวณผนังฝั่งบันไดก็ได้ช่องเปิดด้วยเช่นกันค่ะ ทำให้บริเวณนี้ค่อนข้างโปร่ง ได้แสงธรรมชาติเต็มที่ เห็นวิวสระว่ายน้ำได้เต็มตา

มาดูห้องนอนโซนหน้าบ้านกันก่อนค่ะ ห้องนี้มีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างใหญ่ มีห้องน้ำและ Walk-in Closet ในตัวเลย เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วน Walk-in closet  ก่อนเลย โดยส่วนห้องน้ำจะอยู่ด้านในนะคะ

สำหรับในบ้านตัวอย่าง ได้มีการ Built-in เป็นโต๊ะเครื่องแป้งแล้วยังเหลือระยะทางเดินกว้าง 1.3 เมตร เดินผ่านไปมาได้สบาย ใครที่มีเสื้อผ้าเยอะ ตรงนี้สามารถ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าแทนได้นะคะ

ส่วนด้านในตกแต่งเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ยาวประมาณ 2.6 เมตร ส่วนพื้นที่ด้านข้างสามารถจัดวางเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้นะ

โดยพื้นที่ตรงนี้มีช่องหน้าต่างอยู่ 1 จุดด้วย เหมาะสำหรับจัดวางโต๊ะเครื่องแป้งเลยค่ะ ได้แสงธรรมชาติค่อนข้างดี และยังใช้งานได้ต่อเนื่องกับห้องน้ำด้านซ้ายมือได้ดีอีกด้วย โดยพื้นที่ตรงนี้มีขนาดกว้างประมาณ 0.90 เมตรค่ะ

พื้นห้องน้ำมีการลดระดับเล็กน้อยเพื่อป้องกันน้ำไหลไปยังส่วนอื่นๆนะคะ สำหรับประตูห้องจะเป็นประตูบานเปิดเดี่ยว วงกบ Engineered Wood บานประตูไม้อัด HDF กรุด้วย HPL ขนาด 0.70 x 2.40 เมตร ซึ่งมีขนาดค่อนข้างสูงเลย

ภายในห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียก ส่วนแห้งชัดเจนค่ะ พร้อมมีช่องเปิดบานกระทุ้งเพื่อระบายอากาศ รับแสงธรรมชาติได้ประมาณหนึ่ง พร้อมติดตั้งฉากกั้นกระจกจาก HAFELE มาให้เรียบร้อย โดยห้องนี้จะเป็นระบบน้ำร้อน-เย็นนะคะ

อ่างล้างมือแบบวางบนเคาน์เตอร์ ตัวเคาน์เตอร์ Built-in กว้าง 1.1 เมตร Top หินอ่อน พร้อมชั้นเก็บของด้านล่างมาให้เรียบร้อย สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งหมดจาก TOTO และติดตั้งปลั๊กไฟพร้อมหน้ากากกันน้ำมาให้ 1 จุดด้วยค่ะ

พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.1 x1.4 เมตร ยืนอาบน้ำหมุนตัวได้สบายๆ

ส่วนที่อาบน้ำจะได้ทั้ง Hand Shower ดีไซน์โมเดิร์น และ Rain Shower ติดตั้งบนฝ้าจาก TOTO เช่นกันค่ะ

ภายในห้องน้ำ ติดตั้งพัดลมดูดอากาศบริเวณเหนือ สุขภัณฑ์มาให้เรียบร้อยค่ะ โดยห้องน้ำมีระยะฝ้าที่ 2.65 เมตรค่ะ

มาต่อกันที่ส่วนพื้นที่ห้องนอนค่ะ ขนาดค่อนข้างกว้างประมาณ 4.6 X 4.6 เมตร สามารถวางเตียง 6 ฟุต แล้วยังเหลือพื้นที่หน้าเตียงสามารถวางโซฟาได้สบาย โดยพื้นที่ห้องนอนจะเชื่อมต่อกับระเบียง ทำให้ได้ช่องเปิดขนาดใหญ่ ส่วนผนังอีกด้านหนึ่งก็ดีไซน์ให้เป็นช่องหน้าต่างเปิดออกสู่คอร์ทกลางบ้าน ทำให้สามารถ Flow ลมได้ดี

ผนังบริเวณพื้นที่ปลายเตียง สามารถติดตั้ง TV แบบแขวน หรือจะ Built-in เป็นชั้นวาง TV ก็ได้ค่ะ

พื้นที่ระเบียงมีขนาดกะทัดรัด 7.0 x 0.5 เมตร อยู่บริเวณหน้าบ้าน ตรงนี้เป็น Facade ติดตั้งเพื่อบังสายตา บังแดด ได้ระดับหนึ่ง โดย Facade ตรงนี้จะเป็นอะลูมิเนียมลายไม้ ซึ่งมีความแข็งแรง ทนทาน ไม่บวม ไม่โก่งนะ พร้อมติดตั้งราวกันตกกระจกมาให้แบบนี้เลยค่ะ

มาต่อกันที่โซนหลังบ้าน ถัดจากตัวบันไดเข้ามาจะเป็นลิฟต์นะคะ พื้นที่ข้างลิฟต์จะเป็นส่วน Laundry ขนาดกะทัดรัด พร้อมประตูเปิดออกสู่ระเบียง

พื้นที่ Laundry ตรงนี้มีขนาดหน้ากว้าง 1 เมตร พร้อมเดินงานระบบไว้ให้เรียบร้อย สามารถวางเครื่องซักผ้า และเครื่องอบผ้าด้านบนได้นะ หรือจะ Built – in เป็นชั้นเก็บน้ำยาซักผ้าเพิ่มเติมด้านบนก็ได้ค่ะ แต่สำหรับใครที่ต้องการพื้นที่ซักผ้าเพิ่มเติมก็ยังมีพื้นที่ลานซักล้างหลังบ้านที่ชั้นล่างรองรับอยู่นะคะ

ตัวระเบียงขนาด 1.5 x2.0 เมตร ค่อนข้างกว้างตากผ้าจริงจังเลยค่ะ

พื้นที่หน้าห้องนอน 3 โซนหลังบ้านตรงนี้เป็นทางเดินขนาดกว้าง 1.7 เมตร พร้อมหน้าต่างกระจกสามารถเปิดระบายอากาศได้ ส่วนประตูหน้าห้องนอนในบ้านมาตรฐานจะได้ประตูบานเปิดเดี่ยว วัสดุวงกบ Engineered Wood บานประตูไม้อัด HDF กรุด้วย HPL ขนาด 0.90 x 2.40 เมตร ถือว่าค่อนข้างใหญ่เลยค่ะ

เปิดมาจะเจอกับส่วนแต่งตัว เชื่อมต่อกับส่วน Walk-in Closet และห้องน้ำ ด้านขวามือ ส่วนด้านในซ้ายมือเป็นพื้นที่ห้องนอนนะคะ

ส่วนแต่งตัว ทางโครงการตกแต่งเป็นโต๊ะเครื่องแป้งไว้นะ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เหมาะเลยเพราะว่าอยู่ใกล้หน้าต่างบานใหญ่ได้แสงธรรมชาติเต็มที่ เวลาแต่งหน้าจะได้ไม่ลอยนะ

ด้านในเป็นพื้นที่ Walk-in Closet สามารถ Built-in ตู้ได้ยาว 2.2 เมตร โดยระยะทางเดินหน้าตู้กว้างประมาณ 0.8 เมตร ด้านในซ้ายมือเป็นห้องน้ำค่ะ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกันดีนะ

ภายในห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียก ส่วนแห้งชัดเจนค่ะ และมีช่องเปิดบานกระทุ้งเพื่อระบายอากาศ พร้อมติดตั้งฉากกั้นกระจกจาก HAFELE โดยห้องนี้จะเป็นระบบน้ำร้อน-เย็นนะคะ ส่วนระยะฝ้าอยู่ที่ 2.65 เมตร ติดตั้งพัดลมดูดอากาศมาให้เรียบร้อยค่ะ

ห้องนี้ได้เคาน์เตอร์อ่างล้างมือค่อนข้างกว้าง 1.65 เมตร Top หินอ่อน โดยด้านล่างตู้มีชั้นวางของมาให้เรียบร้อยแต่จะเป็นบาน Fixed คู่ด้านซ้ายนะคะ ส่วนอ่างล้างมือเป็นแบบวางบนเคาน์เตอร์ และสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ จาก TOTO พร้อมติดตั้งปลั๊กไฟและหน้ากากกันน้ำมาให้ 1 จุดด้วยค่ะ

พื้นที่อาบน้ำลดระดับพื้นเล็กน้อยเพื่อกันน้ำไหลมายังส่วนแห้งนะ โดยพื้นที่ตรงนี้มีขนาด 1.0×1.2 เมตรค่ะ

อาบน้ำแบบ Rain Shower และ Hand Shower แนะนำให้ติดตั้งชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำมาติดเพิ่มนะคะ

พื้นที่ห้องนอนมีขนาด 3.3×3.7 เมตร ระยะฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร ได้ช่องเปิดถึง 3 ด้าน รับลม รับแสงได้ดี โดยฝั่งที่ติดกับคอร์ทตรงกลางจะได้เป็นหน้ากระจกบานใหญ่สูงเต็มบาน รับวิวสระว่ายน้ำและสวนได้เต็มที่ค่ะ

พื้นที่ภายในห้องสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้โดยเหลือพื้นที่ทางเดินโดยรอบได้นะคะ

พื้นที่ปลายเตียงเป็นผนังทึบ สามารถติดตั้งเป็น TV แบบแขวนได้สะดวก ในห้องตัวอย่าง Built-in เป็นโต๊ะวาง TV ไว้แล้วยังเหลือพื้นที่ปลายเตียง สามารถเดินผ่านได้สะดวกนะคะ

บันไดชั้น 2 เป็นบันไดโปร่งไม่มีลูกตั้ง หน้ากว้าง 1 เมตร โครงสร้างเหล็ก วัสดุปิดผิวบันได Engineering Wood ลายไม้ สีโอ๊ค พร้อมราวกันตก Tempered Glass สูง 0.9 เมตร เช่นกันค่ะ

เมื่อขึ้น ชั้น 3 มาด้วยบันได จะเจอกับโถงหน้าห้องก่อน สำหรับในบ้านมาตรฐานตรงนี้จะเป็น ประตูบานเปิดเดี่ยวนะคะ

เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 3 ไม่ว่าจะด้วยบันได หรือด้วยลิฟต์เปิดมาจะเจอกับส่วนห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ก่อนเลยค่ะโดยห้องนี้มีขนาด 6×3.6 เมตร ฝ้าเพดาน 2.8 เมตร พร้อมกระจกบานใหญ่เปิดออกสู่พื้นที่ Court กลางบ้าน

มาดูโซนหน้าบ้านด้านซ้ายมือกันก่อนค่ะ เป็นห้อง Master Bedroom โดยในบ้านมาตรฐานห้องนอนเชื่อมต่อกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นด้วยประตูกระจกบานเฟี้ยมนะคะ (โปรดสอบถามโครงการอีกครั้ง) โดยพื้นที่ห้องนอนมีขนาด 4.7 x 4.4 เมตร ฝ้าเพดานสูงถึง 3 เมตร ยิ่งทำให้ห้องดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้นค่ะ

ห้อง Master Bedroom ได้ช่องเปิด 3 ด้าน ในวันที่อากาศดีๆสามารถเปิดรับลมอยู่ได้สบายๆ เลยค่ะ นอกจากนั้น ห้องนอนเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียง ทำให้ได้ช่องเปิดบานใหญ่ด้านหน้าบ้าน

พื้นที่ระเบียงขนาด 4.00×0.90 เมตร พร้อมราวกันตกกระจก ทำให้ภายในห้องได้วิวหน้าบ้านเต็มที่ ไม่เห็นราวกันตกมาบดบังนะ

พื้นที่ปลายเตียงเหลือพื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถหาโซฟามาวางปลายเตียงได้เลยค่ะ ภายในห้องตัวอย่างวางเป็นโซฟาสตูล พร้อมโต๊ะวาง TV แล้วยังเหลือพื้นที่เดินไปมาได้สบายค่ะ สำหรับบ้าน Type นี้ ภายในห้อง Master Bedroom จะได้ห้อง Powder room ในตัว อยู่บริเวณปลายเตียงด้านขวามือ สะดวกเมื่อตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนไม่ต้องเดินไกลนะ

เมื่อเดินเข้ามาจะเจอพื้นที่สำหรับแต่งตัวเหมาะสำหรับวางเป็นโต๊ะเครื่องแป้งเลยค่ะ เพราะได้หน้าต่างบานกระจกด้านข้างมาให้แบบนี้เลย โดยพื้นที่ตรงนี้สามารถวางโต๊ะขนาดกว้าง 1.2 เมตรได้ค่ะ

ส่วนห้องน้ำจะอยู่ด้านในขวามือของพื้นที่แต่งตัวค่ะ

ห้องน้ำเป็นแบบ Powder room ไม่มีส่วนเปียกนะคะ ขนาด 1.75×1.5 เมตร เป็น Powder room ที่ ขนาดค่อนข้างกว้างเลย ภายในห้องประกอบไปด้วย อ่างล้างหน้าแบบวางบนเคาน์เตอร์และโถสุขภัณฑ์ จาก TOTO

เคาน์เตอร์  Built-in มีขนาดกว้างประมาณ 0.8 เมตร บริเวณตรงนี้ได้ช่องเปิดบานกระทุ้ง 1 ช่องสามารถเปิดระบายอากาศได้แบบนี้เลย ภายในห้องได้อ่างล้างหน้าแบบวางบนเคาน์เตอร์  โถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ จาก TOTO พร้อมติดตั้งปลั๊กไฟพร้อมหน้ากากกันน้ำมาให้ 1 จุดด้วยค่ะ

ระยะฝ้าอยู่ที่ 2.65 เมตร ติดตั้งพัดลมดูดอากาศบริเวณเหนือโถสุขภัณฑ์ มาให้เรียบร้อยค่ะ

กลับมาที่ส่วนห้องนั่งเล่นกันนะคะ โดยห้องนั่งเล่นจะอยู่ตรงกลาง Floor เชื่อมต่อห้องนอนกับ พื้นที่โซนหลังบ้านซึ่งประกอบไปด้วย โถงลิฟต์ Walk-in Closet และห้องน้ำ

โถงลิฟต์เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นเลยค่ะ โดยตรงข้ามลิฟต์จะเป็น Walk-in Closet ค่ะ

Walk-in Closet ขนาดใหญ่ สามารถ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าได้ทุกด้าน โดยพื้นที่หน้าตู้มีขนาด 2.2 x 4.3 เมตร สามารถวาง ตู้ Island ตรงกลางพร้อมเหลือทางเดินโดยรอบได้สบาย

มุมด้านหนึ่งของห้องด้านที่เปิดออกสู่กลางคอร์ท จะได้เป็นกระจกเข้ามุมด้วยนะคะ ทำให้ได้แสงธรรมชาติค่อนข้างดี จะจัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้งบริเวณนี้ก็เหมาะค่ะ

ภายในห้องมีหน้าต่างหลายจุด Built-in หลับช่องเปิดหน่อยนะคะ ภายในห้องจะได้รับแสงและระบายอากาศได้ดีนะ

บริเวณมุมห้องด้านในมีหน้าต่างสามารถเปิดระบายอากาศได้อีก 1 จุดด้วยนะ

ห้องน้ำอยู่ภายในห้อง Walk-in Closet เลย สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกันดีค่ะ

ห้องน้ำเป็นห้องน้ำขนาดใหญ่ และได้ Bathtub ในตัวด้วยนะคะ ภายในห้องมีการแบ่ง ภายในมีการแบ่งส่วนเปียก ส่วนแห้งชัดเจน โดยห้องน้ำห้องนี้จะเป็นระบบน้ำร้อน-เย็นนะคะ

อ่างล้างมือ His & Her แบบฝังในเคาน์เตอร์ Top หินอ่อน เช่นกัน พร้อมมีพื้นที่เก็บของด้านล่างจากTOTO บนเคาน์เตอร์ติดตั้งปลั๊กไฟและหน้ากากกันน้ำมาให้เรียบร้อยด้วยค่ะ

Bathtub เป็นอ่างอะคริลิกแบบฝัง จาก TOTO ขนาด 1.7x 8.0 เมตร นอนแช่ได้สบายค่ะ

ส่วนพื้นที่โถสุขภัณฑ์ มีการลดระดับพื้นเล็กน้อยนะคะ ในห้องนี้จะได้โถสุขภัณฑ์ Automatic จาก TOTO ส่วนปุ่ม Control ต่างๆจะติดตั้งอยู่ที่ผนังด้านข้างใช้งานได้สะดวกดีค่ะ

ผนังด้านนี้มีช่องเปิดบานกระทุ้งเพื่อระบายอากาศอยู่ 1 จุดนะคะ ส่วนห้องอาบน้ำติดตั้งฉากกั้นกระจกจาก HAFELE มาให้เรียบร้อยค่ะ

พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1.2 x 1.15 เมตร พื้นลดระดับเล็กน้อยเพื่อป้องกันน้ำไหลไปโดนส่วนแห้งนะ

ที่อาบน้ำได้ Hand Shower ดีไซน์โมเดิร์น และ Rain Shower ติดตั้งบนฝ้าจาก TOTO เช่นกัน ตรงนี้แนะนำให้ติดตั้งชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำมาติดเพิ่มนะคะ

ภายในห้องน้ำ ติดตั้งพัดลมดูดอากาศบริเวณเหนือ สุขภัณฑ์มาให้เรียบร้อยค่ะ โดยห้องน้ำมีระยะฝ้าที่ 2.65 เมตรค่ะ

แบบ Type B (5 ห้องนอน )

จะมีเฉพาะแบบได้สวนกลางคอร์ทนะคะ ส่วนแปลนจะคล้ายกับ Type B แบบ Penthouse เลย แต่จะต่างกันตรงที่ได้ฟังก์ชันห้องนอนเพิ่มมาอีก 1 ห้อง ที่ชั้น 3 ซึ่งก็จะเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ ได้ฟังก์ชันห้องนอนเยอะสามารถอยู่อาศัยได้ 8-10 คน

Type B (5 ห้องนอน ) บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 67.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 390 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน / ลิฟต์ (สระ/สวน)
– ราคาเริ่มต้น 27.65 ล้านบาท 

แปลนชั้น 1 จะเหมือนกับแบบ Penthouse เลยค่ะ แต่แปลนนี้จะเป็นแบบสวนกลางคอร์ทนะ โดยจะมีแบบที่ได้สระน้ำกลางคอร์ทด้วยให้เลือกด้วยเช่นกันค่ะ

แปลนชั้น 2 จะต่างกันที่ห้องนอนโซนหลังบ้าน จะไม่ได้ห้องน้ำในตัว แต่จะได้พื้นที่ห้อง Laundry ใหญ่ขึ้น

แปลนชั้น 3 มีการแบ่งพื้นที่เป็น 2 ห้องนอน เชื่อมต่อกันด้วยห้องนั่งเล่นตรงกลาง โดยห้องนอนทั้ง 2 ห้อง จะเป็นห้องนอนพร้อมห้องน้ำ และ Walk-in Closet ในตัวเลย นอกจากนั้นที่ชั้น 3 บริเวณตรงข้ามกับประตูลิฟต์ จะมีห้องพระกั้นเป็นสัดส่วนให้ด้วยค่ะ

Type A

Type A บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 79 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 475 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน / ลิฟต์ (สระ/สวน)
– ราคาเริ่มต้น 34.57 ล้านบาท

Type A จะเป็นแบบบ้าน Type ใหญ่สุดภายในโครงการ ขนาดพื้นที่ใช้สอยถึง 475 ตร.ม. ผังอาคารเป็นแบบ C-Shape พร้อมลิฟต์ส่วนตัว มีทั้งแบบสวน และแบบสระว่ายน้ำ ซึ่งแบบนี้จะเหลืออยู่ไม่กี่หลังแล้วนะคะ ส่วนหน้าตาอาคารภายนอก และการจัดวางฟังก์ชันจะคล้ายกับแบบบ้าน Type B ฟังก์ชัน 5 ห้องนอนเลย จะต่างกันที่ขนาดของฟังก์ชันห้องต่างๆ ซึ่งในแบบบ้าน Type A จะมีขนาดที่ใหญ่กว่านะคะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

MEKA RAMINTRA ราคา ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2565

• Type A บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 79 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 475 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน /5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ /ลิฟต์ (สระ/สวน)
  – ราคาเริ่มต้น 34.57 ล้านบาท
• Type B บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 67.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 390 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4-5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ /ลิฟต์ (สระ/สวน)
  – ราคาเริ่มต้น 27.65 ล้านบาท / แบบมีสระ ราคาเริ่มต้น 31.35 ล้านบาท
• Type C บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 65.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 360 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 22.35 ล้านบาท
• จอง 200,000 บาท ค่าทำสัญญา Type A/B – 800,000 บาท , Type C – 600,000 บาท
• ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ N/A งวด(แล้วแต่แบบบ้าน)
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 100,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 80 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี

ช่วงนี้มีโปรโมชันอยู่ด้วยนะคะ (โปรดโทรสอบถามโครงการอีกครั้ง)

1. แถมแอร์ 3-4 ตัว (แล้วแต่แบบบ้าน )
2. ส่วนลดเงินสด 1,000,000 บาท

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

ถือว่าเป็นโครงการที่เดินทางด้วยรถส่วนตัวสะดวกเลยค่ะ ตัวโครงการติดถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก สามารถเชื่อมต่อไปถนนรามอินทราได้หลายเส้นทาง จะเข้าเมืองก็ง่ายสามารถทางด่วนฉลองรัช จุดขึ้นทางด่วนไม่ไกลจากโครงการ เดินทางไปพระราม 9 เอกมัย ได้สะดวก และใกล้ทางด่วนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออกหมายเลข 9 ใช้เดินทางไปฝั่งลำลูกกา – บางปะอิน หรือ ฝั่งบางนาได้สะดวกเช่นกัน

ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถ ก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูให้ใช้งานได้ในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีรามอินทรา 83 ห่างจากโครงการเพียง 1 กม.

ความอุดมสมบูรณ์ก็ถือว่าหาของกินได้ไม่อยากที่ใกล้ๆ จะเป็นบริเวณหน้าปากซอยรามอินทรา 83 ขับรถลัดเลาะไปได้ ใกล้ห้าง Fashion Island และ The Promenade เพียง 1.9 กม. และยังเป็นทำเลที่รายล้อมไปด้วยโรงพยาบาล และโรงเรียนนานาชาติหลายแห่งอีกด้วย

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

ได้ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง LIV-24* จากแสนสิริและพลัส พร็อพเพอร์ตี้ เข้าออกโครงการด้วยระบบ Bluetooth ระยะไกล มีระบบ CCTV คอยบันทึกการเข้า-ออก พร้อมรปภ.ดูแลให้ 24 ชั่วโมง ส่วนแขกที่มาเยือนติดต่อกับลูกบ้านโดยตรงด้วย Intercom เมื่อเข้ามาจะเจอกับโซนบ้านพักอาศัยรวมกับ Clubhouse เลย ไม่ได้กั้นแยกโซนเป็น Double Gate ส่วนภายในบ้านทางโครงการจะมี Motion Sensor Detector 2 จุดที่ชั้น 1 และ 2

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

การออกแบบโครงการ มาในรูปแบบ Modern Luxury ตั้งแต่ ซุ้มประตูทางเข้า Clubhouse ไปจนถึงตัวบ้าน มีการลงไม้ยืนต้นตลอดแนวถนน และสวนภายในตัวบ้าน โดยเลือกใช้ชนิดต้นไม้ที่หลากหลาย สวยงาม  นอกจากนั้นระบบไฟฟ้าภายในโครงการเลือกใช้แบบเดินสายไฟร้อยท่อลงดิน ทำให้ภาพรวมภายในโครงการออกมาเรียบร้อย ดูร่มรื่นดีเลยทีเดียว

การออกแบบบ้าน ก็ถือว่าน่าสนใจ โดยจะเน้นความเป็นส่วนตัว แบบบ้านส่วนใหญ่เป็นผังแบบ C-shape ทำให้เกิด Court กลางบ้าน ซึ่งมีทั้งแบบที่เป็นสวนและสระว่ายน้ำ ตัวบ้านเน้นช่องเปิดขนาดใหญ่ที่ Court กลางบ้าน เพื่อให้ทุกฟังก์ชันหลักสามารถเทควิวธรรมชาติกลาง Court ได้เต็มที่

ภายในบ้านได้พื้นที่ Double Volume บริเวณ Common area สูง 6.25 เมตร ทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นฟังก์ชันหลักๆ ภายในตัวบ้านจะได้ช่องเปิดมากกว่า 1 ด้าน ทำให้สามารถระบายอากาศและรับลมได้ดี สร้างสภาวะอยู่สบายให้แก่ผู้อยู่อาศัย

วัสดุ :

ให้มาเหมาะสมกับราคาของบ้าน ระบบโครงสร้างเหล็ก พื้นคาน ค.ส.ล. (RC Conventional) ผนังภายนอก ผนังก่ออิฐมวลเบา ฉาบเรียบ ทาสี และกรุกระเบื้องพอร์ซเลน ได้ที่จอดรถในที่ร่มพร้อมหลังคาคลุม โดยที่จอดรถ และระเบียงข้างบ้านโครงสร้าง On Beam

วัสดุภายในบ้านจะได้เกรดดี อย่างพื้นชั้น 1 กระเบื้องพอร์ซเลน ,พื้นชั้น 2-3 Engineering Wood ,ห้องนอนชั้นล่างรองรับผู้สูงอายุ วัสดุพื้นจะได้เป็นวัสดุไวนิล ลายไม้ Altro Wood Acoustic รับแรงกระแทก และดูดซับเสียงได้ดี, ราวกันตก Tempered Glass, วัสดุกรอบบานหน้าต่าง จาก Aluzat ส่วนห้องน้ำได้สุขภัณฑ์ จาก TOTO ฉากกั้นอาบน้ำ HAFELE พร้อมระบบท่อน้ำร้อน-น้ำเย็น (ห้องน้ำชั้น 2 และ ชั้น 3) และได้ห้องครัวไทย เป็นครัวปิด พร้อมชุดครัว Built-in จาก Modernform

เทคโนโลยีต่างๆในตัวบ้านจะได้ Digital Door Lock จาก HAFELE, VDO Door Phone (Intercom) เชื่อมต่อผ่านโทรศัพท์มือถือได้, Motion Sensor Detector คอยรักษาความปลอดภัย พร้อมระบบไฟฟ้า 3 เฟสรองรับระบบ EV Charger และ Home Automation

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

โครงการมีสวนสาธารณะมาให้ 1 จุด ขนาดประมาณ 423.2 ตารางเมตร มีการเลือกต้นไม้ที่หลากหลายและสวยงาม นอกจากนั้นยังมีการลงไม้ยืนต้นกระจายตัวอยู่รอบๆโครงการ อย่างไม้ยืนต้นที่หน้าบ้านบริเวณริมถนน และให้ไม้ยืนต้นที่สวนในบ้านทุกหลัง พร้อมสายไฟร้อยท่อลงดิน ไม่มีไม่มีเสาไฟภายในโครงการ ทำให้บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างร่มรื่น เรียบร้อย

สาธารณูปโภค :

Facility ครบตามมาตรฐาน สอดคล้องกับจำนวนยูนิตในโครงการ มีอาคาร Clubhouse ประกอบไปด้วย สระน้ำแร่ ฟิตเนส Welcome Lounge และสวนหย่อมภายในโครงการ

ราคา  :

ส่วนใหญ่บ้านเดี่ยวที่อิงอยู่บนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก จะมีราคาเริ่มต้น อยู่ในช่วง 5-20 ล้านบาท แต่สำหรับคนที่มองหาบ้านเดียวที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ ขนาดตั้งแต่ 300 ตร.ม. ขึ้นไป ในโซนนี้ก็จะเป็นบ้าน Size ใหญ่ของแต่ละโครงการ ซึ่งก็มีอยู่หลายแห่งเลย แต่ก็จะเป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตที่มากกว่า ได้ความเป็นส่วนตัวน้อยกว่าสักหน่อย

แต่สำหรับคนที่มองหาบ้าน Luxury ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างลิฟต์ หรือสระว่ายน้ำ ส่วนใหญ่จะอยู่ในโซนขยับเข้าเมืองไปหน่อย ในโซนเลียบด่วนรามอินทรา ลาดพร้าว เกษตรนวมินทร์ ซึ่งอาจจะเป็นทำเลที่อยู่ในเมืองกว่า แต่ก็จะอยู่ในโซนที่มีอาคารพักอาศัยอยู่หนาแน่น ทำให้โครงการส่วนใหญ่จะ ตั้งอยู่ในถนนรอง ไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ ได้ช่วงราคา 35 ล้านบาทขึ้นไปค่ะ

สำหรับโครงการ MEKA RAMINTRA ปัจจุบันบ้านขนาดเริ่มต้น (Type C )ได้เฉพาะปล่องลิฟต์ มีขนาด 360 ตร.ม. ที่ดินเริ่ม 65.4ตร.วา ราคาเริ่ม 22.35 ล้านบาท / บ้านที่ได้ลิฟต์ขนาดเริ่มต้น (Type B) มีขนาด 390 ตารางเมตร ที่ดินเริ่ม 67.8 ตร.วา ราคาเริ่ม 27.65 ล้านบาท / ส่วนบ้านที่ได้ทั้งลิฟต์และสระว่ายน้ำขนาดเริ่มต้น(Type B) มีขนาด 390 ตร.ม. ที่ดินเริ่ม 67.8 ตร.วา ราคาเริ่ม 31.35  ล้านบาทค่ะ

Judgement

เนื่องจากโครงการ MEKA RAMINTRA เป็นโครงการระดับ LUXURY ที่มีราคาขายเริ่มต้นที่ 22.35 – 34.57 ล้านบาทขึ้นไป ปัจจัยในการเลือกซื้อนอกจากจะต้องดูเรื่องความคุ้มค่าทางการเงินแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกที่สำคัญ เช่น ความชอบส่วนบุคคล อารมณ์ และความรู้สึกส่วนตัวของผู้ซื้อ ที่ต้องนำมาใช้ประกอบการพิจารณา แต่ปัจจัยดังกล่าวมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ดังนั้นทางทีมงานจะไม่มีการให้คะแนนความคุ้มค่าแก่โครงการ

MEKA RAMINTRA เหมาะกับใคร

โครงการ MEKA RAMINTRA เหมาะกับกลุ่มครอบครัวที่เป็นคนรุ่นใหม่ อายุยังไม่เยอะ หรืออาจเป็นครอบครัวใหญ่ อยู่ด้วยกันหลาย Generation เป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว หรือพนักงานระดับสูงในบริษัทเอกชน ทำงานอยู่ในบริเวณใกล้เคียง หรืออยากได้บ้านบนทำเลที่เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก หรือจะเป็นครอบครัวที่มีลูกเรียนอยู่โรงเรียนนานาชาติรอบๆโครงการ อยากได้บ้านสไตล์ Modern Luxury มีแบบบ้านที่ได้สิ่งอำนวยความสะดวกอย่างลิฟต์ และ สระว่ายน้ำครบครัน พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย และพื้นที่ส่วนกลางรองรับ มีงบประมาณอยู่ที่ 25 – 35 ล้านบาทขึ้นไป

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc