รีวิวฉบับที่ 2199 … Property Perfect เปิดโครงการใหม่ Lake Forest ถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ พร้อมทะเลสาบขนาดใหญ่และสวนป่าบรรยากาศธรรมชาติ 5 โซนพื้นที่กว่า 20 ไร่ ภายในมีโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด Perfect Park และ Perfect Place ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนไปชมโครงการ Perfect Park บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 2 ชั้น ที่มีเอกลักษณ์รูปทรงจั่ว มีพื้นที่ถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้านเหมือนบ้านญี่ปุ่น และได้ระเบียงห้องนอน Master Bedroom กว้างในราคาเริ่มต้น 3.59 – 5.20 ล้านบาท บรรยากาศภายในโครงการจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลยค่ะ
ข้อมูลโครงการ
25 February 2021
- Lake Forest ถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ (Perfect Park)
- บริษัท พีเอฟเอส 1 จำกัด
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านปี 2020 ได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ : ถ.ราชพฤกษ์ตัดใหม่ ตำบลบางหลวง อำเภอเมืองปทุมธานี
- เนื้อที่โครงการประมาณ 85 ไร่ จำนวน 487 ยูนิต
- Lily บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 38.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท (โปรโมชั่น) - Laurel บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 38.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 4.15 ล้านบาท - Lotus บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 4.5 ล้านบาท - Lucerne บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 4.8 ล้านบาท - Lavender บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 52.0 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 156 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 5.2 ล้านบาท - ความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้น 1 – 2.60 เมตร / ชั้น 2 – 2.75 เมตร
- ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 55,000 บาท
- โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี 2562
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ 2568 (เฟสแรกสร้างเสร็จพร้อมอยู่)
- เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 1375
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 14.020915252281553, 100.46982749484641
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ Lake Forest ตั้งอยู่ในซอยเลียบคลองพระมหาโยธา บนถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ สามารถเชื่อมต่อกับถนนหลักได้ 2 เส้นทางทั้งจากถนนราชพฤกษ์ และถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งเป็นทางด่วนขาเข้ากรุงเทพฯได้สะดวก นอกจากนั้นยังอยู่ไม่ไกลจากถนนสายหลักอื่นๆ ดังนี้
- ถนนราชพฤกษ์ : เป็นถนนเส้นที่มีการขยายต่อเนื่อง เป็นเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อกับตัวเมืองกรุงเทพฯอย่าง สาทร สีลม และยังมีความอุดมสมบูรณ์สูง ทั้งร้านค้าร้านอาหารและ Community Mall เช่น The Walk, The Crystal ราชพฤกษ์
- ถนนบรมราชชนนี : ถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่สามารถวิ่งตรงยาวๆไปเชื่อมต่อกับถนนบรมราชชนนี เข้าสู่ย่านปิ่นเกล้า หรือออกเมืองไปทางพุทธมณฑล ศาลายา นครปฐมได้ไม่ยากค่ะ
- ถนนรัตนาธิเบศร์/ถนนงามวงศ์วาน : ถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ สามารถเชื่อมต่อเข้า รถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ถนนรัตนาธิเบศร์ เข้าสู่ย่านงามวงศ์วาน แคราย ซึ่งมีจุดขึ้นลงทางด่วนที่ The Mall งามวงศ์วานด้วยค่ะ ทำเลนี้ก็มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีห้างสรรพสินค้าใหญ่อย่าง Central รัตนาธิเบศร์, เอสพลานาด แคราย และ The Mall รวมไปถึงรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็น สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ ที่มีอาคารจอดแล้วจรค่ะ
- ถนนแจ้งวัฒนะ/ถนนชัยพฤกษ์ : จากถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ เข้าสู่ศูนย์ราชการได้ที่ถนนแจ้งวัฒนะ ไปจนถึงเมืองทองธานีได้ ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนแจ้งวัฒนะ และรถไฟฟ้าสายสีชมพู(ในอนาคต) ที่บริเวณห้าแยกปากเกร็ดค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์หลักของทำเลนี้จะต้องเดินทางออกมาสักหน่อยนะคะ ไปยังเมืองปทุมธานี ซึ่งจะมี Tesco Lotus ห่างจากโครงการประมาณ 8.4 กิโลเมตร มีสถานศึกษา สถานที่ทำงานราชการ และร้านค้าร้านอาหารอยู่พอสมควรค่ะ หรือจะเขยิบออกไปอีกหน่อยที่ย่านนนทบุรี ก็จะมีห้างสรรพสินค้า Big C, Home Pro, Central Plaza แจ้งวัฒนะ และความอุดมสมบูรณ์บนถนนเส้นราชพฤกษ์เองค่ะ
ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้ๆยังไม่ค่อยมีเท่าไรนักนะคะ ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าและร้านอาหารของชาวบ้านในพื้นที่ ทำเลนี้จึงเหมาะกับคนที่มีรถยนต์ส่วนตัว ที่กำลังมองหาบ้านใกล้กับทำเลเดิมที่ตัวเองอาศัยอยู่ เน้นเรื่องการเดินทางสะดวกใกล้กับทางด่วนกาญจนาภิเษกเป็นหลักค่ะ
การเดินทางวันนี้เราจะเริ่มต้นที่ถนนราชพฤกษ์นะคะ สามารถเข้าสู่โครงการได้ 2 เส้นทาง ดังนี้
- เส้นทางลูกศรสีส้ม : เป็นเส้นทางที่มีระยะยทางใกล้ที่สุด โดยเริ่มจากถนนราชพฤกษ์ไปเลี้ยวเข้าถนนที่เชื่อมต่อกับถนนกาญจนาภิเษกแล้วเข้าซอยวัดราษฎร์ศรัทธาทำไปทะลุถนนเลียบคลองพระมหาโยธาแล้วเลี้ยวซ้ายจะเจอกับที่ตั้งโครงการทางซ้ายมือค่ะ
- เส้นทางลูกศรสีน้ำเงิน : เป็นเส้นทางที่วิ่งได้ง่าย ตรงมาจากถนนราชพฤกษ์แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเลียบคลองพระมหาโยธาได้เลยค่ะ
วันนี้เราจะพาไปยังโครงการตามเส้นทางที่ Google Map แนะนำเพราะมีระยะทางที่ใกล้และประหยัดเวลานะคะ เริ่มจากบนถนนราชพฤกษ์วิ่งตรงมุ่งหน้าทางเหนือตามป้ายบอกทางปทุมธานี
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ดินเปล่าโล่ง ทำนาและการเกษตรเป็นหลัก มีรถยนต์ผ่านเข้า-ออกน้อย เหมาะกับคนที่ต้องการบ้านในทำเลที่มีความสงบ บรรยากาศดี ไม่ชอบความวุ่นวายแต่ยังเดินทางไปเชื่อมต่อกับถนนหลักอย่างถนนราชพฤกษ์และถนนกาญจนาภิเษกได้สะดวก
- ทิศเหนือ : ถนนเลียบคลองพระมหาโยธา ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันออก : ที่ดินเปล่า ทำนาและการเกษตร
- ทิศใต้ : ที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันตก : ทะเลสาบในโครงการ Lake Forest
บรรยากาศถนนด้านหน้าโครงการทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- ถนนกาญจนาภิเษก – 2.1 km.
- ถนนราชพฤกษ์ – 2.3 km.
- แม็คโคร ปทุมธานี – 7.2 km.
- รพ. ปทุมธานี – 7.8 km.
- Tesco Lotus ปทุมธานี ~ 8.4 km.
- ทางด่วนศรีสมาน – 17.4 km.
- Robinson ศรีสมาน – 18.3 km.
- อิมแพค เมืองทองธานี – 19.6 km.
- เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ – 20.9 km.
- เซ็นทรัลเวสต์เกต – 21.8 km.
- Future Park รังสิต – 22.6 km.
- ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ – 25.8 km.
- สนามบินดอนเมือง – 30 km.
รายละเอียดโครงการ
โครงการ Lake Forest ถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ เป็น Project บ้านพักอาศัยแนวราบขนาดใหญ่จาก บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด ร่วมกับ ซูมิโตโม ฟอเรสทรี บนพื้นที่กว่า 320 ไร่ ซึ่งมีการนำจุดเด่นของทั้ง 2 บริษัทเข้ามาไว้ด้วยกัน นั่นก็คือ ‘ทะเลสาบ’ ที่เป็นเอกลักษณ์ของโครงการ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และ ‘ต้นไม้’ ที่เป็นความเชี่ยวชาญของ ซูมิโตโม ฟอเรสทรี มารวมตัวกันเกิดเป็นโครงการ Lake Forest ที่มีพื้นที่ทะเลสาบขนาดใหญ่รายล้อมด้วยสวนป่าร่มรื่นนั่นเองค่ะ
ภายในโครงการ Lake Forest ประกอบด้วย 2 โครงการ คือ Perfect Park และโครงการ Perfect Place ทางเข้าโครงการอยู่ติดกับถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทางเข้ามี Main Gate ขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าโครงการมองเห็นได้ชัดเจน เข้ามาแล้วจะมีถนนหลักตรงมาเจอกับวงเวียนต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศด้านหลังเป็นทะเลสาบพื้นที่รวมกว่า 20 ไร่เลยค่ะ
พื้นที่ทะเลสาบ สวนสาธารณะรอบๆทะเลสาบและอาคาร Clubhouse เป็นพื้นที่สาธารณูปโภคส่วนกลาง ที่โครงการ Perfect Park และโครงการ Perfect Place ใช้ร่วมกันได้ โดยอาจมีการเก็บค่าใช้บริการเพิ่มเติมค่ะ ภายในประกอบด้วยห้อง Fitness, สระว่ายน้ำและพื้นที่พักผ่อน ส่วนพื้นที่สวนรอบๆทะเลสาบจะแบ่งเป็น 5 โซน มีต้นไม้ใหญ่หลากหลายชนิดซึ่งจะเปลี่ยนสีไปตามแต่ละฤดู ให้เป็นพื้นที่พักผ่อนและออกกำลังกาย วิ่ง jogging กันได้ไม่เบื่อตลอดทั้งปี
ซึ่งข้อดีของการมีสาธารณูปโภคส่วนกลางแบบนี้คือ ลูกบ้านจะได้ Facilities ที่ค่อนข้างใหญ่ทีเดียวค่ะ แลกกับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเล็กน้อย แต่ถ้ามองเฉพาะในโครงการ Perfect Park เองจะมีพื้นที่ส่วนกลางคือสวนหย่อมเท่านั้นนะคะ ซึ่งถ้าใครไม่ชอบใช้ส่วนกลางก็จะได้ไม่ต้องมาเสียค่าดูแล ส่วนใครชอบส่วนกลางก็จ่ายตังเพิ่มแล้วไปใช้ Clubhouse ได้นั่นเองค่ะ
วันนี้เราจะพาไปรีวิวเจาะลึกโครงการ Perfect Park กันก่อนนะคะ
Perfect Park เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 85 ไร่ จำนวน 487 ยูนิต ซึ่งปัจจุบันเปิดเฟสแรกบริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการก่อนค่ะ
ก่อนเข้าสู่โครงการ Perfect Park จะมีซุ้มประตูทางเข้าอีกจุดหนึ่ง ถือว่าเป็นซุ้มประตูแบบ Double Gate ทำให้โครงการมีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยยิ่งขึ้น เข้าโครงการมาแล้วจะเจอกับบ้านพักอาศัยในส่วนแรกก่อน ซึ่งจะแบ่งเป็นถนนหลักตรงกลางโครงการ แบ่งย่อยออกเป็นซอยต่างๆ ให้มีการสัญจรที่ง่ายไม่ซับซ้อน จึงเกิดเป็นซอยที่อาจจะมีจำนวนยูนิตเยอะสักหน่อยนะคะ ภายในโครงการมีพื้นที่ส่วนกลางมาให้เล็กน้อย คือพื้นที่สีเขียวทำเป็นสวนอยู่ตรงกลาง เหมาะกับคนที่ไม่เน้นใช้งานส่วนกลางภายในโครงการมากนัก แต่จะเหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่สาธารณูปโภคส่วนกลางขนาดใหญ่มากๆ บรรยากาศดี สามารถใช้งานได้หลายคน อย่างบริเวณสวนสาธารณะ, ทะเลสาบ และอาคาร Clubhouse ด้านนอกเป็นหลักค่ะ
ตัวบ้านหันหน้าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ – ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ใครที่ชอบนั่งเล่นหน้าบ้านตอนกลางวันแนะนำให้เลือกบ้านที่หันหน้าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือค่ะ เพราะแสงแดดยามบ่ายจะไม่ส่องเข้าหน้าบ้านโดยตรง ทำให้อากาศหน้าบ้านเย็นสบาย ส่วนใครที่ชอบใช้งานพื้นที่ครัว ซักล้าง หรือชมวิวสวนด้านหลังบ้านยามบ่ายบ่อยๆ แนะนำให้เลือกบ้านที่หันหน้าทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพราะจะทำให้ด้านหลังบ้านมีเงาร่มในยามบ่าย และมีลมเข้าเย็นสบายค่ะ บรรยากาศภายในโครงการจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลย
ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ Lake Forest ถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่
ด้านหน้าโครงการ Lake Forest มีซุ้มประตูขนาดใหญ่ดูโอ่อ่า มองเห็นได้ชัดเจน ติดกับถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ มีสไตล์การออกแบบ Modern ดูเรียบง่ายแต่ยังทันสมัย จากการใช้เส้นตรง ระนาบขนาดใหญ่ในการออกแบบ ช่วยบังแดดและฝนได้ดี และยังมีการเพิ่มบรรยากาศด้วยน้ำพุ กับต้นไม้ใหญ่ด้านข้างค่ะ
ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ Lake Forest ถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่
ซุ้มประตูโครงการ Lake Forest แบ่งเป็นทางเข้า – ออก 2 ฝั่งชัดเจน โดยทางเข้า-ออกมีช่องทางแยกสำหรับลูกบ้านที่มี Key Card สามารถขับผ่านได้เลย ด้วยระบบ Easy Pass ไม่ต้องรอรถคันอื่นๆแลกบัตรค่ะ ตรงกลางซุ้มประตูมีป้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง พร้อมกล้อง CCTV ถนนด้านหน้าค่อนข้างใหญ่รถสามารถสวนเข้า-ออกได้สบายๆเลยค่ะ
บรรยากาศด้านหลังซุ้มประตูก่อนออกไปยังถนนหน้าโครงการ
เข้ามาแล้วจะเจอกับถนนหลักของโครงการมีความกว้างอยู่ที่ 16.00 – 18.00 เมตร รถยนต์สามารถสวนกันได้สบายๆเลยค่ะ ด้านข้างมีการตกแต่งเพิ่มความมีชีวิตชีวาด้วยบ่อบัว และน้ำพุ พร้อมกับปลูกไม้ยืนต้นขนาดใหญ่อย่างต้นจามจุรี, ต้นพยอม มาให้เมื่อต้นไม้โตขึ้นบริเวณนี้คงจะมีร่มเงาและให้บรรยากาศร่มรื่นทีเดียวค่ะ
วงเวียนต้นไม้ใหญ่กลางโครงการ
เข้ามาถึงด้านในจะเจอกับวงเวียนต้นไม้ขนาดใหญ่ตรงกลาง ก่อนจะแยกไปยังโครงการ Perfect Park ทางซ้ายมือ และโครงการ Perfect Place ทางขวามือ มีน้ำพุล้อมรอบๆต้นไม้ เพิ่มบรรยากาศและเสียงน้ำตกให้ดูเคลื่อนไหว มีชีวิตชีวามากขึ้น ด้านหลังเป็นบรรยากาศทะเลสาบขนาดใหญ่พื้นที่รวมกว่า 20 ไร่ซึ่งจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันค่ะ
บรรยากาศบริเวณสวนรอบๆทะเลสาบ
ปัจจุบันยังมีการก่อสร้างพื้นที่สวนสาธารณะขนาดใหญ่รอบๆทะเลสาบอยู่นะคะ ซึ่งส่วนที่สร้างเสร็จแล้วด้านหน้าจะมีพื้นที่วิ่ง Jogging หรือเดินเล่นรอบๆทะเลสาบพร้อมพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนข้างๆ ชมวิวน้ำพุขนาดใหญ่กลางทะเลสาบให้ความรู้สึกเหมือนกับสวนสาธารณะในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถ้าไปเดินใกล้ๆกับทะเลสาบจะรู้สึกถึงลมที่เย็นขึ้นมาเลยค่ะ
เรามาดูภาพจำลองสวนส่วนกลางรอบๆทะเลสาบกันค่ะ
Blooming Season Forest สวนป่าที่เน้นเรื่องสีสันของไม้ดอก เลือกพันธุ์ให้สามารถออกดอกสลับกันไปตลอดทั้งปี จึงเป็นโซนที่มีสีสันอยู่เสมอค่ะ
บรรยากาศจำลองอาคาร Clubhouse ภายในประกอบด้วยห้อง Fitness, Steam, Sauna, สระว่ายน้ำแบบ infinity edge pool และพื้นที่พักผ่อนรวมกว่า 800 ตารางเมตร
ด้านข้างสวนสาธารณะจะเจอกับอาคาร Sale Gallery มองเห็นได้ชัดจากตรงวงเวียนเลยค่ะ
Sale Gallery
ก่อนจะไปดูโครงการ Perfect Park เราจะพาแวะมาชม Sale Gallery สักเล็กน้อยค่ะ ใครที่มาดูบ้านสอบถามข้อมูลก็สามารถติดต่อที่นี่ได้เลย มีทางลาดสำหรับรถเข็นให้คุณตา คุณยายมาดูได้ด้วยนะ
บรรยากาศภายใน Sale Gallery
ภายในมีโมเดลแสดงพื้นที่รอบๆทะเลสาบ และผังโครงการ Perfect Park และ Perfect Place ค่ะ มีมุมนั่งชม Video พรีเซนต์โครงการและมองเห็นวิวทะเลสาบด้วยค่ะ
บรรยากาศทะเลสาบจาก Sale Gallery มองเห็นน้ำใสมากๆค่ะ
ถัดมาด้านข้าง Sale Gallery จะมีที่จอดรถสำหรับแขกและผู้มาติดต่อ สามารถจอดได้ประมาณ 6 คัน
ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ Perfect Park
เข้ามาด้านในจะเจอกับซุ้มประตูที่ 2 (Double Gate) เป็นซุ้มประตูของโครงการ Perfect Park ซึ่งมีขนาดใหญ่พอๆกับซุ้มประตูทางเข้าหลักเลยค่ะ
มีการแบ่งทางเข้า – ออกชัดเจน 2 ฝั่ง ฝั่งละ 2 ช่องทางด้วยระบบ Easy Pass ทำให้ลูกบ้านสามารถผ่านได้เลยไม่ต้องรอแขกแลกบัตร และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมงพร้อมกล้อง CCTV ที่ด้านหน้าและภายในโครงการรวม 50 จุด
เข้ามาแล้วจะเจอกับถนนหลักของโครงการมีความกว้างอยู่ที่ 12.00 เมตร แยกเป็นซอยย่อยความกว้าง 9.00 เมตร ซึ่งยังเป็นความกว้างที่รถยนต์สามารถขับสวนกันได้สบายๆค่ะ
บรรยากาศสวนภายในโครงการ Perfect Park
ภายในโครงการ Perfect Park มีสวนเล็กๆมาให้ 1 จุดไม่เน้นใช้งาน แต่จะได้เป็นบรรยากาศพื้นที่สีเขียวให้สดชื่นและดูไม่แห้งแล้งค่ะ
บรรยากาศภายในซอยโครงการ Perfect Park
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- รั้วรอบโครงการสูง 3.00 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 12.00 – 18.00 ม. และถนนภายในกว้าง 9.00 ม.
- Double Gate
- Key Card Access
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
แบบบ้าน
แบบบ้านภายในโครงการ Perfect Park ออกแบบด้วยแนวความคิด Modern Contemporary มีจุดเด่นคือรูปทรงจั่วที่อยู่หน้าบ้านส่งผลให้ห้อง Master Bedroom ได้ฝ้าเพดานสูงทรงจั่ว ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย แบบบ้านภายในโครงการ มีทั้งหมด 3 Type แบ่งเป็น 5 แบบดังนี้
- Type 1 พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
- Lily บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 38.1 ตร.วา
- Lotus บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.1 ตร.วา
- Laurel บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 38.1 ตร.วา
- Lucerne บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.5 ตร.วา
- Lavender บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 52.0 ตร.วา
บ้านแต่ละ Type จะมีหน้าต่างด้านหน้าแตกต่างกันเล็กน้อย 2 แบบนะคะ คือหน้าต่างใหญ่เปิดรับลมได้กว้าง กับแบบหน้าต่างซอยย่อยให้ความรู้สึกเหมือนสไตล์ญี่ปุ่นนิดๆค่ะ
โดยแบบบ้าน Type 1 และ 2 จะมีทั้งบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวให้เลือกค่ะ ส่วนแบบบ้าน Type 3 หลังใหญ่จะมีเฉพาะบ้านเดี่ยวเท่านั้น แต่ละหลังจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ดังนี้
- Type 1 : แบบบ้านมาตรฐาน พื้นที่ 133 ตารางเมตร
- Type 2 : แปลนชั้น 1 เหมือนกับ Type 1 แต่จะเพิ่มห้องน้ำส่วนตัวในห้อง Master Bedroom ขึ้นมาค่ะ
- Type 3 : แปลนเหมือนกับ Type 2 แต่จะเพิ่มห้องนอนที่ชั้น 1 ขึ้นมาค่ะ
ซึ่งวันนี้เราได้เก็บภาพบ้านตัวอย่างมาทั้งหมด 3 แบบมาให้ชมกันค่ะ โดยบ้านทุกหลังก่อสร้างด้วยระบบ Pre-Cast ซึ่งเป็นผนังสำเร็จรูปทั้งหมดค่ะ สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ >> เทียบบ้าน Precast กับ ก่ออิฐฉาบปูน ดี-เสีย ต่างกันอย่างไร?
พื้นที่ลานจอดรถและลานซักล้างเทคอนกรีตบนคานเชื่อมต่อกับตัวบ้าน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องทรุดตัวค่ะ ภายในบ้านมีวัสดุที่ได้ ดังนี้
- พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร
- พื้นชั้น 2 : พื้น SPC (Stone Plastic Composite)*
- สุขภัณฑ์ที่ได้ : COTTO
- ประตูหน้าต่าง : ประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมสีขาว กระจกสีเขียวตัดแสง*
Tips : “กระเบื้อง SPC” (Stone Plastic Composite) มีลักษณะคล้ายกับกระเบื้องยาง หรือไวนิล แต่มีส่วนผสมของหินปูนเข้ามาให้ความแข็งแรง ลดข้อเสียของพื้นลามิเนต โดยสามารถรับน้ำหนักได้ดี ทนสารเคมีและสามารถกันน้ำได้ 100%
Tips 2 : “กระจกตัดแสง” (Tinted Glass) เป็นกระจกที่มีวิธีการผลิตเหมือนกระจกโฟลตใส แต่จะเพิ่มเติมคือผสมออกไซด์ของโลหะบางประเภทลงในเนื้อกระจก ซึ่งกระจกชนิดนี้จะอมความร้อนไว้ที่กระจก ทำให้ช่วยลดแสงแดดที่จะส่องเข้ามาภายในได้ระดับนึง มีราคาสูงกว่ากระจกโฟลตประมาณ 10-20% ในขณะที่ช่วยลดแสง UV ได้ดีกว่า
Type 1 พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
มาเริ่มกันที่แบบบ้านหลังเริ่มต้นกันก่อนนะคะ บ้านหลังนี้เป็นแบบบ้านหน้าต่างย่อย 3 บาน (ดูความแตกต่างได้ที่แบบแปลนหัวข้อถัดไปค่ะ) โดยตัวบ้านในโครงการนี้ทั้งหมดจะมีจุดเด่นคือรูปทรงจั่วด้านหน้าบ้าน ทำให้ห้อง Master Bedroom ได้ฝ้าเพดานทรงจั่วไปด้วยค่ะ
ผังชั้น 1 : สามารถจอดรถได้ 2 คัน สามารถเข้าบ้านได้ 2 ทางคือทางเข้าหลักด้านหน้าบริเวณห้องนั่งเล่น และทางเข้าห้องครัวด้านข้างบ้าน เวลาซื้อของกินเข้าบ้านก็สามารถนำไปเก็บในห้องครัวได้เลยค่ะ
จุดเด่นภายในบ้านเข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่ลดระดับสำหรับถอดรองเท้าหน้าบ้านเหมือนกับบ้านสไตล์ญี่ปุ่น ทำให้สามารถถอดรองเท้าภายในบ้านได้ ไม่ต้องถอดตากแดดและฝนนอกบ้านค่ะ ถัดมาจะเจอกับพื้นที่ Common Area กว้างเชื่อมต่อกันสามารถแบ่งเป็นห้องนั่งเล่น และพื้นที่รับประทานอาหารได้ ห้องครัวแยกออกมาเป็นสัดส่วน สามารถทำอาหารจริงจังได้ไม่ต้องกันปิดเองเพิ่มเติมค่ะ ส่วนห้องน้ำชั้น 1 มีพื้นที่อาบน้ำมาให้สำรองกรณีใช้ห้องน้ำชั้น 2 ตรงกันได้ โดยไม่ต้องรอค่ะ
ผังชั้น 2 : ขึ้นมาแล้วจะเจอกับพื้นที่พักผ่อนทั้งหมด 3 ห้องนอน แบ่งเป็นห้อง Master Bedroom ใหญ่ด้านหน้าบ้านพร้อมระเบียงส่วนตัวซึ่งให้มาค่อนข้างใหญ่เลยค่ะ และห้องนอนเล็ก 2 ห้องด้านหลังบ้าน ใช้ห้องน้ำร่วมกันตรงกลาง ซึ่งห้องน้ำมีทางเข้า 2 ทาง สามารถเข้าจาก Master Bedroom ได้เลยค่ะ
บ้านหลังนี้เหมาะกับครอบครัวขนาดเริ่มต้น มีจำนวนสมาชิกในบ้านประมาณ 3-4 คน ชอบพื้นที่ Common Area กว้าง ไม่ซีเรียสเรื่องห้องน้ำส่วนตัวในห้อง Master Bedroom สามารถใช้ห้องน้ำร่วมกับห้องอื่นๆได้ แลกกับราคาของบ้านที่หยิบจับได้ง่ายขึ้น อยู่ที่ประมาณ 3.59 – 4.5 ล้านบาท (โปรโมชัน)
ที่จอดรถ สามารถจอดได้ 2 คัน
ที่จอดรถกว้างประมาณ 5.00 เมตรสามารถจอดรถได้ 2 คันพอดีๆ สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ >> ทาวน์โฮมหน้ากว้างเท่าไหร่ จอดรถขนาดไหนได้บ้าง? พื้นเทคอนกรีตบทคานตัวบ้านมาให้ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องทรุดตัวค่ะ บริเวณที่จอดรถจะมีตู้เก็บของมาให้สำหรับเก็บอุปกรณ์ทำสวน หรือเครื่องมือต่างๆได้ พร้อมกับปลั๊กไฟมีฝาปิดกันน้ำมาให้เรียบร้อย
จากที่จอดรถสามารถเดินเข้าไปเก็บของภายในห้องครัวได้สะดวก ไม่เหมือนกับบ้านส่วนใหญ่ที่ต้องเดินอ้อมไปด้านหลังบ้านค่ะ
ทางเข้าด้านหน้าบ้าน
ทางเข้าหลักของบ้านจะอยู่ด้านหน้าเข้าไปยังห้องนั่งเล่น โดยจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกสีเขียวตัดแสง ช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้ในระดับหนึ่ง กรอบบานอลูมิเนียมสีขาวค่ะ
เข้ามาแล้วจะเจอกับโถงทางเข้าด้านหน้าบ้านที่ลดระดับลงจากพื้นบ้านเล็กน้อยเหมือนกับบ้านญี่ปุ่น ช่วยแบ่งพื้นที่สำหรับถอด – เก็บรองเท้าภายในบ้านได้ ไม่ต้องถอดรองเท้าตากแดด หรืออาจจะโดนฝนสาดด้านนอกค่ะ เวลาเราเลือกใส่รองเท้าก็สามารถทำได้เลยในบ้าน และมีการแยกวัสดุปูพื้นให้ทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย
บรรยากาศภายในห้องนั่งเล่น
เข้ามาด้านในจะเจอกับพื้นที่ Common Area กว้างขนาดประมาณ 3.55 x 7.55 เมตร แบ่งได้เป็นห้องนั่งเล่นสามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ 4-5 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางได้สบายๆ มีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 3.20 เมตร เหมาะกับวาง TV ขนาดประมาณ 42 – 45 นิ้ว
และด้านหลังแบ่งเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งห้องนี้จะได้ช่องแสงธรรมชาติเยอะจากด้านข้างบ้าน ด้านหน้าบ้านไปจนถึงด้านหลังมองเห็นวิวสวนได้ บ้านดูโปร่งสบาย ภายในบ้านได้ฝ้าเพดานฉาบเรียบ มีความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.60 เมตร พื้นชั้น 1 ในบ้านมาตรฐานจะเป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตรมาให้ค่ะ
บรรยากาศภายในห้องรับประทานอาหาร
พื้นที่รับประทานอาหาร สามารถจัดเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร 4-6 ที่นั่งได้สบายๆ หรือใครจะ Built-in ตู้เก็บของด้านข้างเพิ่มเติมแบบในบ้านตัวอย่างก็มีพื้นที่เหลือค่ะ โดยบริเวณนี้จะได้แสงธรรมชาติเข้ามาทั้ง 2 ฝั่ง สามารถเชื่อมต่อออกไปยังสวนด้านข้างบ้านได้ ใครที่ชอบนั่งเล่นนอกบ้านก็ทำเป็นระเบียงสำหรับปิ้งย่างก็ดีนะคะ
ถัดมาอีกฝั่งของบ้านเป็นพื้นที่ Service และบันไดทางขึ้นชั้น 2 ทางซ้ายมือเป็นห้องน้ำ และทางขวามือคือห้องครัวค่ะ
บรรยากาศภายในห้องน้ำชั้น 1
มาดูห้องน้ำทางซ้ายมือกันก่อนนะคะ ห้องน้ำชั้น 1 นี้จะเป็นห้องน้ำที่อยู่ใต้บันไดลดระดับลงเล็กน้อย มีพื้นที่อาบน้ำมาให้รองรับการใช้งานถ้าห้องน้ำข้างบนไม่พอค่ะ ภายในจะมีการตกแต่งด้วยกระเบื้องโทนสีขาว แบ่งพื้นที่การใช้งานส่วนเปียก – ส่วนแห้งชัดเจน แต่จะไม่ได้ฉากกั้นกระจกมาให้นะคะ ถ้าใช้งานอาบน้ำชั้นล่างด้วยแนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นเพิ่มเติมค่ะ
สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำชั้น 1
ภายในได้อ่างล้างหน้าติดตั้งแบบลอยตัว และสุขภัณฑ์จาก COTTO ห้องน้ำมีช่องแสงและเปิดระบายอากาศที่ด้านหน้าบ้าน ทำให้ห้องน้ำสว่างและไม่อับชื้น ส่วนพื้นที่อาบน้ำสามารถยืนอาบได้สบายๆ มีฝักบัวสายอ่อนและชั้นวางสบู่ติดตั้งมาให้ พร้อมเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นค่ะ
ห้องครัวกันด้วยประตูบานเลื่อนกระจกมาให้ทำให้ห้องครัวดูกว้างไม่อึดอัด และช่วยกันกลิ่นฟุ้งกระจายภายในตัวบ้านให้เราทำอาหารได้เต็มที่โดยไม่ต้องต่อเติมครัวด้านหลังเลยค่ะ
ภายในห้องครัวปูพื้นกระเบื้องเซรามิคมาให้ทำความสะอาดง่าย
บรรยากาศภายในห้องครัว
ห้องครัวในบ้านมาตรฐานเป็นห้องเปล่า ไม่มีเคาน์เตอร์นะคะ แต่จะเดินงานระบบมาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ห้องครัวมีขนาดประมาณ 2.20 x 2.90 เมตร ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป สามารถยืนทำครัวได้พร้อมกัน 2 คนค่ะ
ห้องครัวเชื่อมต่อกับลานซักล้างด้านข้างบ้านสามารถออกไปตากผ้าได้สะดวก ซึ่งเป็นพื้นคอนกรีตปูกระเบี้องก่อสร้างบนคานเชื่อมต่อกับตัวบ้านไม่ทรุดตัวค่ะ
บันไดของบ้านเป็นโครงสร้างเหล็กสำเร็จรูป powder coat ปิดผิวด้วยไม้อัดประสาน บันไดกว้างประมาณ 0.90 เมตร ลูกตั้งสูงประมาณ 18 เซนติเมตร ลูกนอนกว้าง 25 เซนติเมตร เดินขึ้น – ลงได้พอดีๆ มีราวจับด้านข้างติดผนังมาให้เป็นราวไม้เข้ากับบันไดค่ะ บริเวณโถงบันไดสว่างเพราะมีช่องแสงด้านบน สามารถห้อยโคมไฟตกแต่งเพิ่มเติมได้นะคะ
ขึ้นมาถึงชั้น 2 จะเจอกับพื้นที่โถงแยกไปยังห้องต่างๆ มีห้องน้ำอยู่ตรงกลาง และห้องนอน Master Bedroom ทางขวามือ (ด้านหน้าบ้าน) และห้องนอนรอง 2 ห้องทางซ้ายมือ (ด้านหลังบ้าน) พื้นชั้น 2 ปูด้วยพื้น SPC (Stone Plastic Composite) ลายไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่น ฝ้าเพดานสูง 2.75 เมตร ยกเว้นในห้อง Master Bedroom จะได้ฝ้าทรงจั่วสูงกว่าปกติค่ะ
บรรยากาศภายในห้องน้ำชั้น 2
ภายในห้องน้ำชั้น 2 สามารถเข้าได้จากทั้ง 2 ฝั่ง คือโถงกลางและห้อง Master Bedroom เลยค่ะ พื้นห้องน้ำลดระดับลงเล็กน้อยเวลาล้างห้องน้ำก็จะได้ไม่มีน้ำไหลออกมาเปียกด้านนอก ภายในจะมีการตกแต่งด้วยกระเบื้องโทนสีขาว แบ่งพื้นที่การใช้งานส่วนเปียก – ส่วนแห้งชัดเจน แต่จะไม่ได้ฉากกั้นกระจกมาให้นะคะ แนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นเพิ่มเติมค่ะ
สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำชั้น 2
ส่วนอ่างล้างหน้า และสุขภัณฑ์ที่ได้จะเหมือนกับห้องน้ำชั้นล่างเลยค่ะ โดยเป็นสุขภัณฑ์ จาก COTTO ห้องน้ำมีช่องแสงและเปิดระบายอากาศที่ด้านข้างบ้าน ทำให้ห้องน้ำสว่างและไม่อับชื้น ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาดกว้างขึ้นสามารถยืนอาบได้สบายๆ มีฝักบัวสายอ่อนและชั้นวางสบู่ติดตั้งมาให้ พร้อมเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย
ด้านหน้าห้องนอนรองด้านหลังบ้านมีพื้นที่อเนกประสงค์สามารถวางเก้าอี้นั่งเล่น ชั้นวางของหรือหิ้งพระเพิ่มเติมได้ค่ะ
บรรยากาศภายในห้องนอนรอง 1 ด้านหลังบ้าน
เรามาดูห้องนอนรองด้านหลังบ้านกันก่อนค่ะ ห้องนอนรองห้องนี้มีขนาดประมาณ 2.85 x 2.70 เมตร แม้ไม่ใหญ่มากนักแต่ได้ช่องแสงทั้ง 2 ฝั่งทำให้ห้องดูใหญ่ สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตพร้อมตู้เสื้อผ้า Built-in ได้ เหมาะกับการทำเป็นห้องนอนลูก หรือใครที่ไม่ได้ต้องการห้องนอนเยอะก็สามารถจัดเป็นห้องทำงานได้ค่ะ
บรรยากาศภายในห้องนอนรอง 2 ด้านหลังบ้าน
ห้องนอนรองที่ 2 จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาอยู่ที่ขนาดประมาณ 2.70 x 3.55 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 3.5-5 ฟุตได้ ถ้าต้องการพื้นที่ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้สบายๆจะต้องวางเตียงชิดหน้าต่างเลยค่ะ ภายในห้องมีช่องแสงมาให้ 2 จุด แสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ ทำให้ห้องดูโปร่งสบายไม่อึดอัดค่ะ
มาถึงห้อง Master Bedroom ที่เป็น Highlight ของบ้านกันค่ะ ห้องนี้จะได้ฝ้าเพดานสูงทรงจั่วด้านหน้าบ้าน และมีพื้นที่ Bay Window ติดกับหน้าต่างขนาดใหญ่ มองเห็นวิวและเปิดรับลมได้เยอะ ซึ่งทางโครงการเขาเลือกใช้กระจกสีเขียวตัดแสงที่ช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวอาคารได้ในระดับหนึ่งค่ะ
บรรยากาศภายในห้อง Master Bedroom
สำหรับพื้นที่ห้องนอนนั้นมีขนาดประมาณ 3.00 x 6.45 เมตร ค่อนข้างกว้างทีเดียวค่ะ สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ แล้วยังเหลือพื้นที่ด้านข้างวางโต๊ะข้างเตียง และจัดเป็นพื้นที่ Walk-in Closet เป็นสัดส่วนได้
ระเบียงห้อง Master Bedroom
ห้องนอน Master Bedroom จะได้ระเบียงส่วนตัวด้านข้างบ้าน ประตูระเบียงเป็นประตูบานเลื่อนกระจกเขียวตัดแสง กรอบบานอลูมิเนียม ทำให้ได้แสงสว่างเข้ามาได้เยอะ พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคทำความสะอาดง่าย มีจุดเด่นคือได้พื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 2.20 x 3.00 เมตร สามารถออกไปใช้งานจัดวางต้นไม้กระถางตกแต่งพร้อมชุดเก้าอี้นั่งด้านนอกได้สบายๆ หรือใครจะทำเป็นพื้นที่ออกกำลังกายเล่นโยคะยามเช้าก็ได้นะคะ
พื้นที่ Walk-in Closet ภายในห้อง Master Bedroom
ถัดมาอีกฝั่งของห้องนอนใกล้กับประตูทางเข้าห้องน้ำสามารถจัดเป็นพื้นที่ Walk-in Closet Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้เป็นสัดส่วนใช้งานสะดวก ออกมาจากห้องน้ำก็สามารถแต่งตัวได้เลยค่ะ
บ้านมาตรฐาน Type 1 พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
บ้านมาตรฐาน Type 1 พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
Type 3 พื้นที่ใช้สอย 156 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
ถัดมาเรามาดูแบบบ้านหลังใหญ่ที่สุดในโครงการกันค่ะ บ้านหลังนี้จะเหมือนกับแบบบ้านกลางทุกอย่างเลย แตกต่างกันแค่มีห้องนอนชั้นล่างเพิ่มขึ้นมา 1 ห้องค่ะ ซึ่งตัวบ้านก็มีจุดเด่นที่ทรงจั่วด้านบนทำให้ห้อง Master Bedroom ได้ฝ้าเพดานสูงทรงจั่วเช่นกันค่ะ
ผังชั้น 1 : จะมีการจัดวางฟังก์ชันการใช้งานเหมือนกับแบบบ้านหลังแรกเลยค่ะ แต่จะได้พื้นที่ตัวบ้านกว้างขึ้น ด้านหน้าสามารถจอดรถได้ 2 คัน สามารถเข้าบ้านได้ 2 ทางคือทางเข้าหลักด้านหน้าบริเวณห้องนั่งเล่น และทางเข้าห้องครัวด้านข้างบ้านเช่นกัน
บ้านแบบนี้ยังคงมีจุดเด่นที่โถงทางเข้าด้านหน้าบ้านลดระดับลงสำหรับถอดรองเท้าได้ ภายในเป็นพื้นที่ Common Area กว้างเชื่อมต่อกันสามารถแบ่งเป็นห้องนั่งเล่น และพื้นที่รับประทานอาหารและห้องอเนกประสงค์ที่ใช้เป็นห้องนอนชั้น 1 รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุได้ค่ะ ห้องครัวแยกออกมาเป็นสัดส่วน สามารถทำอาหารจริงจังได้ไม่ต้องกันปิดเองเพิ่มเติม ส่วนห้องน้ำชั้น 1 มีพื้นที่อาบน้ำมาให้สำรองสำหรับผู้ที่อยู่ห้องนอนชั้นล่างด้วยค่ะ
ผังชั้น 2 : โถงชั้น 2 เป็นพื้นที่แยกไปยังห้องนอนต่างๆ แบ่งเป็นห้อง Master Bedroom ใหญ่ด้านหน้าบ้านพร้อมระเบียงส่วนตัว และพิเศษขึ้นมาคือมีห้องน้ำในส่วนตัวสำหรับ Master Bedroom ด้วยค่ะ ส่วนห้องนอนเล็ก 2 ห้องอยู่ด้านหลังบ้านขนาดใกล้เคียงกันใช้ห้องน้ำร่วมกันตรงกลาง
บ้านหลังนี้เหมาะกับครอบครัวที่เริ่มขยับขยาย มีจำนวนสมาชิกในบ้านประมาณ 4-6 คน อาจมีผู้สูงอายุ และต้องการพื้นที่ห้องนอนชั้น 1 เพิ่มเติม ชอบพื้นที่ Common Area กว้าง ต้องการห้องน้ำส่วนตัวในห้อง Master Bedroom มีงบประมาณอยู่ที่ 5.20 ล้านบาท
ที่จอดรถกว้างประมาณ 5.00 เมตรสามารถจอดรถได้ 2 คันพอดีๆ พื้นเทคอนกรีตบทคานของตัวบ้าน บริเวณที่จอดรถมีตู้เก็บของมาให้สำหรับเก็บอุปกรณ์ทำสวน หรือเครื่องมือต่างๆ ได้ค่ะ
ที่จอดรถสามารถเดินเข้าไปเก็บของภายในห้องครัวได้สะดวกเหมือนกับบ้านหลังแรกเลย
บรรยากาศรอบๆตัวบ้าน
เนื่องจากแบบบ้าน Type นี้เป็นบ้านเดี่ยวจึงมีพื้นที่โดยรอบบ้านเยอะ สามารถทำเฉลียงเชื่อมต่อออกมาจากห้องนอนชั้นล่างเป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับผู้สูงอายุได้ หรือถ้าครอบครัวไหนไม่ได้มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วยก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องรับแขกส่วนตัวพร้อมเฉลียงจัดปาร์ตี้ก็ดีนะ
มาดูทางเข้าหลักของบ้านกันบ้าง ประตูทางเข้าเป็นประตูบานเลื่อน 2 ตอนกรอบบานอลูมิเนียมสีขาว กระจกสีเขียวตัดแสง ช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้ค่ะ
เข้ามาแล้วจะเจอกับโถงทางเข้าลดระดับลงจากพื้นบ้านสำหรับถอดรองเท้า ซึ่งเป็นจุดเด่นของบ้านในโครงการนี้เลยค่ะ ช่วยให้ไม่ต้องถอดรองเท้าตากแดดตากฝนด้านนอก และมีการแยกวัสดุปูพื้นให้ทำความสะอาดได้ง่าย
ด้านในเป็นพื้นที่ Common Area สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารด้านหลังได้ ซึ่งบ้านหลังนี้ก็จะได้ช่องแสงขนาดค่อนข้างใหญ่เช่นกันค่ะ ภายในบ้านได้ฝ้าเพดานฉาบเรียบ มีความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.40 – 2.60 เมตร พื้นชั้น 1 ในบ้านมาตรฐานจะเป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตรมาให้เช่นกัน
บรรยากาศภายในห้องนั่งเล่น
ห้องนั่งเล่นหลังนี้มีความกว้างอยู่ที่ 4.35 เมตร สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ 4-5 ที่นั่ง และโต๊ะกลางได้สบายๆ มีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 4.00 เมตร เหมาะกับวาง TV ขนาดประมาณ 50 นิ้วขึ้นไปได้เลยค่ะ
บรรยากาศภายในห้องรับประทานอาหาร
ถัดมาด้านในบ้านเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร มีขนาดประมาณ 3.50 x 4.35 เมตร สามารถจัดเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร 4-6 ที่นั่งได้สบายๆ หรือใครจะ Built-in ตู้เก็บของด้านข้างเพิ่มเติมก็มีพื้นที่เหลือค่ะ โดยบริเวณนี้จะได้แสงธรรมชาติเข้ามาจากด้านหลังบ้านเพียงฝั่งเดียวนะคะแต่ก็ยังเพียงพอค่ะ
บ้าน Type นี้จะได้ห้องนอนอเนกประสงค์ชั้นล่างมาเพิ่มเติม แต่ไม่เน้นพื้นที่รับแระทานอาหารเชื่อมต่อไปยังสวนด้านข้างบ้านเหมือนกับหลังแรกนะคะ จะได้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์เชื่อมต่อกับสวนแทนค่ะ
บรรยากาศภายในห้องนอนอเนกประสงค์ชั้น 1
ห้องนอนชั้น 1 มีไว้สำหรับรองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุไม่อยากเดินขึ้นบันได หรือสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน studio ส่วนตัว หรือห้องนอนแขกได้ค่ะ โดยห้องนี้จะได้ช่องแสงจากด้านหน้าและด้านข้างบ้านมองออกไปเห็นวิวสวนได้ มีพื้นที่ประมาณ 3.00 x 3.40 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 3.5 – 5 ฟุตได้ และใครที่ชอบพื้นที่นั่งชมสวนด้านนอกก็สามารถต่อเติมเฉลียงออกมาเพิ่มเติมได้ค่ะ
ถัดมาอีกฝั่งของบ้านเป็นพื้นที่ Service และบันไดทางขึ้นชั้น 2 ทางซ้ายมือเป็นห้องน้ำ และทางขวามือคือห้องครัวค่ะ
บรรยากาศภายในห้องน้ำชั้น 1
มาดูห้องน้ำกันก่อนค่ะ ห้องน้ำชั้น 1 ของบ้านแบบนี้จะเหมือนกับห้องน้ำในบ้านหลังแรก ที่เราพาไปชมเลยค่ะ โดยภายในจะได้พื้นที่อาบน้ำมาให้ รองรับการใช้งานของห้องนอนชั้นล่างแต่จะไม่ได้ฉากกั้นกระจกมาให้นะคะ แนะนำให้ติดตั้งเพิ่มเติมค่ะ
ส่วนอุปกรณ์ภายในได้ อ่างล้างหน้าติดตั้งแบบลอยตัว และสุขภัณฑ์จาก COTTO ห้องน้ำมีช่องแสงและเปิดระบายอากาศที่ด้านหน้าบ้านทำให้ห้องน้ำสว่างและไม่อับชื้นมีฝักบัวสายอ่อนและชั้นวางสบู่ติดตั้งมาให้ พร้อมเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเช่นกันค่ะ
บรรยากาศภายในห้องครัว
ห้องครัวกันด้วยประตูบานเลื่อนกระจกมาให้เป็นครัวปิด สามารถทำอาหารได้จริงโดยไม่ต้องต่อเติมครัวเพิ่มเลยค่ะ พื้นห้องครัวปูกระเบื้องเซรามิคมาให้ทำความสะอาดง่ายแต่จะไม่ได้เคาน์เตอร์นะคะ เป็นห้องเปล่าๆสามารถเลือกชุดครัวที่ชอบได้เองเลย ห้องครัวมีขนาดประมาณ 2.20 x 2.90 เมตร ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป สามารถยืนทำครัวได้พร้อมกัน 2 คนค่ะ
ลานซักล้างด้านข้างบ้านจะได้เหมือนกับบ้านหลังแรกเลยค่ะ เป็นพื้นคอนกรีตปูกระเบี้องเซรามิค ก่อสร้างบนคานเชื่อมต่อกับตัวบ้านไม่ทรุดตัว
บันไดของบ้านเป็นโครงสร้างเหล็กสำเร็จรูป powder coat ปิดผิวด้วยไม้อัดประสาน บันไดกว้างประมาณ 0.90 เมตร เดินขึ้น – ลงได้พอดีๆ มีราวจับด้านข้างติดผนังมาให้เป็นราวไม้เข้ากับบันไดค่ะ ซึ่งบ้านหลังนี้จะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ตรงโถงบันได และเปิดระบายอากาศได้ค่ะ
พอขึ้นมาแล้วจะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์ บริเวณนี้มีขนาดประมาณ 1.25 x 1.55 เมตร สามารถทำเป็นมุมทำงาน หรือมุมอ่านหนังสือเล็กๆ หรือจะเป็นพื้นที่หิ้งพระเพิ่มเติมก็ได้เช่นกันค่ะ
โถงชั้น 2 ของบ้านหลังนี้จะมีขนาดกว้างขึ้น มีการแบ่งฟังก์ชันการใช้งานเหมือนกันคือ มีห้องน้ำอยู่ตรงกลาง และห้องนอน Master Bedroom ทางขวามือ (ด้านหน้าบ้าน) และห้องนอนรอง 2 ห้องทางซ้ายมือ (ด้านหลังบ้าน) พื้นชั้น 2
ส่วนพื้นปูด้วย SPC (Stone Plastic Composite) ลายไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่น ฝ้าเพดานสูง 2.75 เมตร ยกเว้นในห้อง Master Bedroom จะได้ฝ้าทรงจั่วสูงกว่าปกติค่ะ
ภายในห้องน้ำชั้น 2 เป็นห้องส่วนกลางที่ห้องนอนรอง 2 ห้องใช้ร่วมกันค่ะ มีการจัดพื้นที่ส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน ได้อุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำจาก COTTO มีช่องแสงและเปิดระบายอากาศที่ด้านข้างบ้าน ทำให้ห้องน้ำสว่างและไม่อับชื้น ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาดกว้างขึ้นสามารถยืนอาบได้สบายๆ มีฝักบัวสายอ่อนและชั้นวางสบู่ติดตั้งมาให้ พร้อมเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย แต่แนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมนะคะ
บรรยากาศภายในห้องนอนรอง 1 ด้านหลังบ้าน
ห้องนอนรองด้านหลังบ้านห้องแรกมีพื้นที่ประมาณ 2.70 x 3.50 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 3.5 – 5 ฟุตพร้อมตู้เสื้อผ้า Built-in ได้ มีช่องแสง 2 ฝั่งทำให้ห้องดูสว่าง เหมาะกับการทำเป็นห้องนอนของเด็กๆค่ะ
บรรยากาศภายในห้องนอนรอง 2 ด้านหลังบ้าน
ห้องนอนรองที่ 2 จะมีขนาดเท่ากับห้องนอนรอง 1 เลยค่ะ มีพื้นที่ ประมาณ 2.70 x 3.50 เมตร ใครที่ไม่ได้ต้องการห้องนอนเยอะก็สามารถจัดเป็นห้องทำงานใหญ่ๆห้องนึงได้เลยค่ะ
ห้อง Master Bedroom มีจุดเด่นคือฝ้าเพดานสูงทรงจั่วและช่องแสงขนาดใหญ่ด้านหน้าบ้าน ทำให้ห้องโปร่งสบาย ซึ่งเป็นความแปลกใหม่ไม่ค่อยเจอห้องนอนฝ้าสูงกับบ้านในระดับใกล้เคียงกันเท่าไรนักนะคะ แม้จะมีแสงเข้ามามากก็ไม่ต้องกังวลเนื่องจากทางโครงการเลือกใช้กระจกสีเขียวตัดแสง ช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้ในระดับหนึ่งแล้วค่ะ
ห้องนอน Master Bedroom มีขนาดประมาณ 3.00 x 7.00 เมตร ค่อนข้างยาวทีเดียวค่ะ สามารถแบ่งเป็นโซนพักผ่อน และโซน Walk-in Closet ได้เลย
พื้นที่พักผ่อนวางเตียง 6 ฟุตได้ และยังเหลือพื้นที่ด้านข้างวางโต๊ะข้างเตียง จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นเล็กๆริมระเบียงแบบในบ้านตัวอย่างได้ค่ะ
ระเบียงห้อง Master Bedroom
ห้องนอน Master Bedroom จะได้ระเบียงส่วนตัวด้านข้างบ้าน พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคทำความสะอาดง่าย มีจุดเด่นคือได้พื้นที่ขนาดใหญ่ 1.90 x 3.00 เมตร สามารถใช้เป็นพื้นที่ตากผ้านวม ผ้าห่มได้สบายๆ หรือจะจัดเป็นสวนนั่งเล่นก็ทำได้ค่ะ
พื้นที่ Walk-in Closet ห้อง Master Bedroom
ถัดมาฝั่งตรงข้ามกับระเบียงสามารถจัดเป็นพื้นที่ Walk-in Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำใช้งานได้สะดวก สำหรับใครที่ไม่ชอบให้ความชื้นในห้องน้ำและฝุ่นจากตู้เสื้อผ้าเข้ามายังห้องนอนก็สามารถกั้นปิดเป็นสัดส่วนได้เลยค่ะ
บรรยากาศภายในห้องน้ำ ห้อง Master Bedroom
ห้อง Master Bedroom มีห้องน้ำส่วนตัว การตกแต่งภายในเหมือนกับห้องน้ำห้องอื่นๆค่ะ พื้นห้องน้ำลดระดับลงเล็กน้อยเวลาล้างห้องน้ำก็จะได้ไม่มีน้ำไหลออกมาเปียกด้านนอกแบ่งพื้นที่การใช้งานส่วนเปียก – ส่วนแห้งชัดเจน แต่จะไม่ได้ฉากกั้นกระจกมาให้นะคะ
สุขภัณฑ์บรรยากาศภายในห้องน้ำ ห้อง Master Bedroom
ส่วนอ่างล้างหน้า และสุขภัณฑ์ที่ได้จาก COTTO ห้องน้ำมีช่องแสงและเปิดระบายอากาศที่ด้านข้างบ้าน ทำให้ห้องน้ำสว่างและไม่อับชื้น ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาดกว้างขึ้นสามารถยืนอาบได้สบายๆ มีฝักบัวสายอ่อนและชั้นวางสบู่ติดตั้งมาให้ พร้อมเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยเช่นกันค่ะ
บ้านมาตรฐาน Type 3 พื้นที่ใช้สอย 156 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
บ้านมาตรฐาน Type 3 พื้นที่ใช้สอย 156 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
Type 2 พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
ผังชั้น 1 : การจัดวางฟังก์ชั้นจะเหมือนกับบ้าน Type 1 และ 3 เลยค่ะ แต่จะมีความกว้างของพื้นที่ Common Area อยู่ที่ประมาณ 4.10 เมตร และไม่มีห้องนอนชั้นล่าง สามารถจอดรถได้ 2 คัน มีพื้นที่ทางเข้าลดระดับสำหรับถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้านเช่นกันค่ะ
ผังชั้น 2 : การจัดวางฟังก์ชั่นจะเหมือนกับแบบบ้าน Type 3 เลยค่ะ มีห้อง Master Bedroom ใหญ่ด้านหน้าบ้านพร้อมระเบียง และห้องน้ำส่วนตัว ส่วนห้องนอนเล็ก 2 ห้องอยู่ด้านหลังบ้านขนาดใกล้เคียงกันใช้ห้องน้ำร่วมกันตรงกลาง
บ้านหลังนี้เหมาะกับครอบครัวที่เริ่มขยับขยาย มีจำนวนสมาชิกในบ้านประมาณ 3-4 คน ชอบพื้นที่ Common Area กว้าง ต้องการห้องน้ำส่วนตัวในห้อง Master Bedroom มีงบประมาณอยู่ที่ 4.15 – 4.8 ล้านบาท ซึ่งแบบบ้านหลังนี้มีบ้านตัวอย่างให้ดูเป็นไอเดียตกแต่ง 2 สไตล์ บรรยากาศภายในจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่า
บ้านตัวอย่าง Type 2 พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
บ้านตัวอย่าง Type 2 พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
แบบแปลน
แบบบ้าน Type 1 พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม.
ราคา
25 February 2021
- Lily บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 38.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท (โปรโมชั่น) - Laurel บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 38.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 4.15 ล้านบาท - Lotus บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 4.5 ล้านบาท - Lucerne บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 4.8 ล้านบาท - Lavender บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 52.0 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 156 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 5.2 ล้านบาท - จอง 20,000 บาท
- ทำสัญญา 50,000 บาท
- ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 55,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.วา/เดือน
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
โครงการ Lake Forest ตั้งอยู่ในซอยเลียบคลองพระมหาโยธา เชื่อมต่อกับถนนใหญได้ 2 เส้นทางคือถนนราชพฤกษ์และทางด่วนกาญจนาภิเษก ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร มีความอุดมสมบูรณ์หลักๆอยู่ในตัวเมืองปทุมธานีห่างจากโครงการประมาณ 8 กิโลเมตร และความอุดมสมบูรณ์บนถนนเส้นราชพฤกษ์อย่าง The Walk, The Crystal ราชพฤกษ์
เป็นทำเลที่เหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนตัว เน้นการเดินทางด้วยทางด่วนเข้าเมือง หรือออกไปทางเมืองปทุมธานี บรรยากาศโครงการเงียบสงบ ได้วิวทะเลสาบขนาดใหญ่
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
โครงการมีซุ้มประตูขนาดใหญ่ Double Gate มีป้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง 2 จุดช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกบ้านภายในโครงการ ทางเข้า-ออกเป็นระบบ Key Card Access (Easy Pass) และกล้องวงจรปิด CCTV ภายในโครงการ ตัวบ้านยังมี ระบบ Magnetic & Shock Sensor มาให้ด้วยค่ะ
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
การออกแบบโครงการใช้แนวคิด Modern Contemporary ภายในโครงการ Lake Forest เป็นการผสมผสานจุดเด่น ทะเลสาบและต้นไม้เข้ามาไว้ด้วยกัน เป็นพื้นที่พักผ่อนบรรยากาศธรรมชาติขนาดใหญ่ รวม 20 ไร่
ภายในโครงการ Perfect Park จัดแบ่งถนนภายในโครงการออกเป็นซอยต่างๆ ให้มีการสัญจรที่ง่ายไม่ซับซ้อน แลกกับการที่มีจำนวนยูนิตต่อซอยเยอะสักหน่อย ตัวบ้านหันหน้าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ – ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ใครที่ชอบนั่งเล่นหน้าบ้านตอนกลางวันแนะนำให้เลือกบ้านที่หันหน้าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะอากาศหน้าบ้านจะเย็นสบายในย่ามบ่าย ส่วนใครที่ชอบใช้งานพื้นที่ครัว ซักล้าง หรือชมวิวสวนด้านหลังบ้านยามบ่ายบ่อยๆ ให้เลือกบ้านที่หันหน้าทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพราะจะทำให้ด้านหลังบ้านมีเงาร่มในยามบ่าย และมีลมเข้าเย็นสบายค่ะ
ภายในบ้านมีจุดเด่นคือรูปทรงจั่วที่อยู่หน้าบ้านส่งผลให้ห้อง Master Bedroom ได้ฝ้าเพดานสูงทรงจั่ว ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย และมีระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ นอกจากนั้นยังมีโถงทางเข้าลดระดับเหมือนกับบ้านญี่ปุ่น ช่วยแบ่งพื้นที่สำหรับถอด – เก็บรองเท้าภายในบ้านได้ ไม่ต้องถอดรองเท้าตากแดด หรืออาจจะโดนฝนสาดด้านนอก
วัสดุ :
วัสดุภายในโครงการให้มาตามมาตรฐานทั่วไป โดยโครงสร้างบ้านเป็น Pre-cast ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการทุบต่อเติม พื้นชั้นล่างคือ กระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 เซนติเมตร ชั้น 2 เป็นพื้น SPC (Stone Plastic Composite) ลายไม้ทนทาน ได้สุขภัณฑ์จาก Cotto ประตูกระจกกรอบบานอลูมิเนียม กระจกเขียวตัดแสง พื้นที่จอดรถและลานซักล้างด้านหลังบ้านโครงสร้างวางบนคานบ้านป้องกันการทรุดตัว และมีระบบป้องกันขโมยติดตั้งมาให้ค่ะ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
ภายในโครงการมียูนิต 487 ยูนิตถือว่าเป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ เน้นบรรยากาศธรรมชาติด้วยทะเลสาบและสวนส่วนกลางภายใน Lake Forest มากกว่าภายในโครงการ สภาพโครงการเรียบร้อยมีถนนหลักขนาดใหญ่ รถยนต์สามารถสวนกันได้สบายๆค่ะ
สาธารณูปโภค :
Lake Forest เป็นการพัฒนาโครงการใหญ่ที่มีหลายโครงการอยู่ด้วยกัน มีพื้นที่ส่วนกลางที่แชร์กัน ซึ่งจะมีข้อดีคือได้ Facilities ที่ใหญ่ โดยจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ ซึ่งสาธารณูปโภคส่วนกลางจะประกอบไปด้วยพื้นที่สวนรอบทะเลสาบ 5 โซน รวมพื้นที่กว่า 20 ไร่ และอาคาร Clubhouse ภายในประกอบด้วยห้อง Fitness, Steam, Sauna, สระว่ายน้ำแบบ infinity edge pool และพื้นที่พักผ่อนรวมกว่า 800 ตารางเมตร
ดังนั้นทะเลสาบและสวนป่าล้อมรอบจึงไม่นับเป็นพื้นที่ส่วนกลางในโครงการ และโครงการแบบนี้จะทำบรรยากาศภายนอกออกมาดูดีและพื้นที่กว้างใหญ่ ในขณะที่ในตัวโครงการเองจะมีสวนหย่อมมาให้ตามมาตรฐาน 5% ของพื้นที่โครงการค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 5 – 10 ล้านบาท, 25 February 2021
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7/10 – ใกล้ทางด่วนและถนนราชพฤกษ์ แต่ความอุดมสมบูรณ์ต้องออกมาค่อนข้างไกล
- ความปลอดภัย 8.25/10 – Double Gate มี Magnetic & Shock Sensor มาให้ทุกหลัง
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.25/10 – ตัวบ้านมีจุดเด่นที่หน้าจั่ว ฝ้าเพดานสูงและโถงทางเข้าลดระดับ
- วัสดุ 7.75/10 – มาตรฐานตามระดับราคา และมีระบบรักษาความปลอดภัยเพิ่มมาให้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7/10 – บรรยากาศโครงการเรียบร้อยตามมาตรฐาน
- 7.50 / 10.00
BOTTOM LINE
Perfect Park เป็นโครงการที่เหมาะกับคนในทำเลย่านปทุมธานีที่กำลังมองหาบ้านเพื่อขยับขยายครอบครัว ชอบโครงการที่มีพื้นที่ส่วนกลางใหญ่ มีทะเลสาบ และสวนขนาดใหญ่ สามารถใช้ร่วมกับโครงการอื่นๆได้ ชอบบ้านที่มีพื้นที่เป็นสัดส่วน มีโถงทางเข้าบ้านสำหรับถอดรองเท้า ชอบห้อง Master Bedroom ฝ้าเพดานสูงมีเอกลักษณ์ และชอบระเบียงใหญ่ สำหรับคนที่สนใจต้องมีงบประมาณ 3.59 -5.20 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 25,130 – 36,400 บาท
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะคะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc