รีวิวโครงการ
บ้านเดี่ยว 30-60 ล้าน | Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ | คิดเรื่องอยู่ Ep.693
9 เมษายน 2023
รีวิวฉบับที่ 2533 เราจะพาไปชม Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ บ้านเดี่ยวหรูระดับ SUPER LUXURY จาก SC ASSET โดยทำเลของโครงการตั้งอยู่ติดถนนสวนสยาม เชื่อมต่อการเดินทางและความอุดมสมบูรณ์ในย่านรามอินทราได้สะดวก ซึ่งปัจจุบันบ้านไซส์ใหญ่ระดับนี้ มักไม่ค่อยมีให้เห็นในย่านนี้เท่าไรนะคะ สำหรับช่วงราคาจะอยู่ที่ประมาณ 30 – 60 ล้านบาท* ส่วน Highlights ที่น่าสนใจเราก็ได้รวบรวมมาให้ชมกันก่อนดังนี้ค่ะ
- ทำเล : ทางเข้าของโครงการตั้งอยู่ติดถนนสวนสยาม ซึ่งสามารถไปตัดกับถนนรามอินทราและถนนหลักได้อีกหลายสาย เชื่อมต่อโซนมีนบุรี ลาดพร้าว และพระราม 9 ได้ง่าย ทั้งยังอยู่ใกล้วงแหวนกาญจนา เข้า – ออกตัวเมืองได้อย่างสะดวก หรือจะเลือกใช้บริการรถสาธารณะ ก็มีรถไฟฟ้าสายสีชมพู (สถานีนพรัตน์) อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 900 เมตร
- ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว : โครงการออกแบบเน้นความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนเพียง 70 ยูนิต จากถนนหลักเข้ามาประมาณ 840 เมตร จะมีประตูเป็น Double Gate พร้อมเจ้าหน้าที่คอยรักษาความปลอดภัย โดยในตัวบ้านจะได้ Digital Door Lock และ CCTV มาให้ พร้อม Magnetic&Shock Sensor ทั้งหลัง รวมทั้ง Smoke Detector
- การออกแบบ : โครงการ Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ เป็นบ้านไซส์ใหญ่ ได้พื้นที่ใช้สอย 439 – 591 ตร.ม โดยฟังก์ชันจะเป็นแบบ Double ทั้ง Grand Double Living Area , Grand Double Master Bedroom รองรับครอบครัวขนาดใหญ่ที่อยู่ร่วมกันได้ถึง 3 Generations พร้อมวัสดุที่คำนึงถึงการใช้งานของผู้สูงอายุ
ข้อมูลโครงการ
Grand Bangkok Boulevard Ramintra – Kasetnawamin (แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ ) ณ วันที่ 6 เมษายน 2566
ชื่อโครงการ | Grand Bangkok Boulevard Ramintra – Kasetnawamin (แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ ) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด |
SEGMENT CLASS | SUPER LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนสวนสยาม เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร |
ที่ดิน | 47-0-2.1 ไร่ |
จำนวนยูนิต | 70 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | 3.00 เมตร |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | N/A บาท |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2565 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2570 |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
โทร | 061-398-1999 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.808526 , 100.690726
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการ แสดงตำแหน่งที่ตั้งของ Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ โดยทางเข้า – ออกจะอยู่ติดกับถนนสวนสยาม ซึ่งเป็นถนนที่ไปตัดกับถนนเส้นหลักอย่างรามอินทราและถนนเสรีไทยได้ เชื่อมต่อโซนมีนบุรี รามคำแหงและเกษตรนวมินทร์ได้อย่างสะดวก เหมาะกับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางเป็นหลัก ซึ่งอาจจะเป็นเจ้าของธุรกิจหรือทำงานอยู่ในย่านนี้ ใกล้แหล่งงานอย่างนิคมอุตสาหกรรมบางชัน เดินทางไปทำงานได้ง่าย อีกทั้งจะเข้า – ออกเมือง ก็สามารถใช้ทางด่วนวงแหวนกาญจนาไปโซนพระราม 9 ตัดเข้าตัวเมืองได้ง่ายค่ะ
โดยจุดเด่นที่ไม่ค่อยเห็นได้ในโครงการแนวราบเท่าไรก็คือแนวรถไฟฟ้า เพราะโครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีชมพู (สถานีนพรัตน์) ประมาณ 1 กิโลเมตร สำหรับใครอยากหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดก็สามารถใช้เป็นตัวเลือกในการเดินทางได้นะคะ ซึ่งภายในปีนี้ก็คาดว่าจะเปิดให้บริการแล้วนะ
ในแง่ความอุดมสมบูรณ์ รอบๆโครงการก็ถือว่าไม่ขาดแคลนเลย เพราะมีทั้งตลาด ร้านอาหาร Hypermarket ให้เลือกจับจ่ายค่อนข้างหลากหลาย อย่างบริเวณต้นซอยสวนสยามก็มี Community Mall อย่าง Amorini อยู่ด้วย ซึ่งก็มีร้านค้าและร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังเหมาะสำหรับใครที่ชอบความสะดวกและรวดเร็วนะคะ แต่หากขยับออกมาหน่อยประมาณ 3 กิโลเมตรก็จะเจอห้างสรรพสินค้า Landmark ของย่านอย่าง Fashion Island ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีข้าวของให้เลือกสรรครบครันทีเดียว
นอกจากนี้ทำเลของโครงการยังอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลและโรงเรียนชื่อดังหลายแห่ง ซึ่งมีทั้งหลักสูตรธรรมดาและหลักสูตรนานาชาติ เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีบุตรหลาน สามารถไปรับ – ส่งเด็กๆเองได้ หรือครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ เวลามีบ้านอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลก็ถือว่าอุ่นใจได้อีกระดับนึงเลยนะคะ
สำหรับการเดินทางในวันนี้เราเลือกใช้ถนนรามอินทราเป็นหลัก ก่อนจะเลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่ถนนสวนสยาม จากบริเวณแยกถึงโครงการ ระยะทางประมาณ 900 เมตรค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
จากบริเวณถนนหลักเข้ามาถึงส่วนพักอาศัย มีระยะทางประมาณ 840 เมตร รอบข้างถนนจะเป็นอาคารพักอาศัยสูง 2 – 4 ชั้นและ Siam Amazing Park หรือสวนสยาม ซึ่งหลายคนอาจ Concern เกี่ยวกับเรื่องเสียงรบกวน ทางโครงการจึงได้จัดส่วนพักอาศัยให้อยู่ถัดเข้าไปด้านในห่างจากพื้นที่สวนสยาม รวมถึงเลือกใช้กรอบบานและวงกบที่มีคุณภาพ เพื่อเป็นตัวช่วยในการป้องกันเสียง
- ทิศเหนือ ติดกับที่พักอาศัยแนวราบ อาคารที่มีความสูง 2 – 4 ชั้น
- ทิศใต้ ติดกับที่ดินเปล่า , สวนสยาม
- ทิศตะวันออก ติดกับคลองบางชัน อาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้น
- ทิศตะวันตก ติดกับถนนสวนสยาม ทางเข้าโครงการ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- Chic Republic รามอินทรา ~ 1.9 กิโลเมตร
- Fashion Island ~ 2.8 กิโลเมตร
- The Promenade ~ 2.8 กิโลเมตร
- Central Festival EastVille ~ 14 กิโลเมตร
- The Crystal Park ~ 15 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลเสรีรักษ์ ~ 5 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลสินแพทย์ ~ 6 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลอินทรารัตน์ ~ 7 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลพญาไทนวมินทร์ ~ 8.2 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลนวเวช ~ 8.5 กิโลเมตร
โรงเรียน
- โรงเรียนนานาชาติ ฮีทฟิลด์ ~ 2.8 กิโลเมตร
- โรงเรียนอินเตอร์คิดส์ ~ 5.7 กิโลเมตร
- โรงเรียนบรอมส์โกรฟ ~ 6 กิโลเมตร
- โรงเรียนเลิศหล้า กาญจนาภิเษก ~ 7.4 กิโลเมตร
- โรงเรียนนานาชาติกีรพัฒน์ ~ 9.8 กิโลเมตร
- โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี ~ 10 กิโลเมตร
การเดินทาง
- รถไฟฟ้าสายสีชมพู (สถานีนพรัตน์) ~ 900 เมตร
- รถไฟฟ้าสายสีส้ม (สถานีมีนพัฒนา) ~ 5 กิโลเมตร
- ทางด่วนฉลองรัช ~ 8 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ เป็นโครงการแนวราบระดับ SUPER LUXURY เพียงไม่กี่โครงการในโซนรามอินทรา ซึ่งก็จัดเป็น Rare Iten เมื่อเทียบกับฝั่งวัชรพลหรือฝั่งกรุงเทพกรีฑา ที่อาจจะเห็นได้เยอะกว่า แต่จุดเด่นของทำเลในแต่ละที่ก็จะมีความแตกต่างกันออกไปนะคะ โดยโครงการนี้ SC ASSET เน้นตลาดบ้านไซส์ใหญ่ ได้ขนาดเนื้อที่ดินมากสุดถึง 300 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 439 – 591 ตร.ม.
โครงการเน้นความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนเพียง 70 ยูนิต บนเนื้อที่ประมาณ 47 ไร่ สำหรับใครที่ชอบบ้านที่มีกลิ่นอายคลาสสิค ก็น่าจะถูกใจโครงการนี้ทีเดียวค่ะ เพราะการออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเมือง Florence ประเทศอิตาลี Product ที่ออกมาจึงให้ความรู้สึกหรูหรา มั่นคง แต่ยังมีความเรียบง่าย ทันสมัย เหมาะกับเจ้าของธุรกิจที่มีความเป็นคนรุ่นใหม่สูงค่ะ
จาก Master Plan ของโครงการ จะเห็นส่วนทางเข้าซึ่งจะอยู่ติดกับถนนสวนสยาม ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นถนนส่วนบุคคลในโครงการความยาวประมาณ 840 เมตร เพิ่มความปลอดภัยด้วยซุ้มประตูแบบ Double Gate และป้อมรปภ.ด้านหน้า 1 จุด และบริเวณใกล้ Clubhouse อีก 1 จุด สำหรับการวางผังโครงการด้วยจำนวนที่มีเพียง 70 ยูนิต ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมาก จากถนนหลักแยกไปแต่ละซอยมีเพื่อนบ้านเพียง 2 – 3 หลังเท่านั้น
โดยข้อดีของผังในโครงการนี้คือ ส่วนใหญ่หน้าบ้านจะหันไปทางทิศเหนือ – ใต้ ซึ่งจัดเป็นทิศยอดนิยมสำหรับคนหาบ้านเลยนะคะ สำหรับพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Clubhouse ที่อยู่ด้านหน้าแล้ว ยังมีสวนหย่อมขนาดใหญ่อย่าง LE CASCINE PARK เป็นสวนแนวยาวที่มีขนาดกว่า 1 ไร่ รองรับกิจกรรมแบบ Outdoor ได้หลากหลาย ทั้งยังจัดเป็นสถานที่ๆสามารถมาพักผ่อนหย่อนใจได้ มีโซนลานน้ำพุ ช่วยเสริมบรรยากาศผ่อนคลาย และ Duomo Pavilion อยู่ใจกลาง รายล้อมด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่หลากหลาย ให้ความรู้สึกร่มรื่นค่ะ
สำหรับช่วงราคาของบ้านจะอยู่ที่ 30 – 60 ล้านบาท* โดยในโซนด้านหน้าก่อนจะข้ามทางน้ำ ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 40 – 60 ล้านบาท* เนื่องจากขนาดแปลงที่ดินที่จะมีขนาดใหญ่กว่า ส่วนราคา 30 ล้านต้นๆ จะอยู่ถัดเข้าไปในโซนด้านใน ขนาดที่ดินเริ่มต้นที่ 82 ตร.วา
ทางเข้าโครงการ Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ จะอยู่ติดกับถนนสวนสยาม โดยซุ้มประตูทางเข้าจะมีป้อมรปภ.คอยอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัย ประตูเป็นรั้วเหล็กรางเลื่อน ระบบ Smart Gate with License Plate เข้า – ออกสะดวกด้วยระบบสแกนทะเบียนรถ ควบคุมการเข้า – ออกของผู้มาเยี่ยมได้ง่ายผ่าน Ruejai App (pre-register Visitor)
บรรยากาศถนนภายในโครงการจากซุ้มประตูด้านหน้า
จากซุ้มประตูทางเข้าเป็นถนนภายในโครงการระยะประมาณ 840 เมตร รอบข้างมีแนวต้นไม้และไฟแสงสว่างติดตั้งมาให้ตลอดทาง ข้อดีคือ ทำให้ส่วนพักอาศัยได้ความเป็นส่วนตัว ช่วยลดความพลุกพล่านและมลพิษที่เกิดจากการจราจรค่ะ
Clubhouse เป็นอาคาร 2 ชั้นขนาดใหญ่ อยู่ด้านหน้าซุ้มประตูทางเข้าด้านใน ลักษณะการออกแบบค่อนข้างโดดเด่น โดยจำลองมาจากวิหารเมือง Florence มีหลังคาเป็นทรงโดมฐาน 8 เหลี่ยมเป็นจุดเด่น ทำให้ดูโอ่อ่า น่าใช้งาน
พื้นที่ใช้สอยภายในได้มากถึง 1,500 ตร.ม. รองรับกิจกรรมของลูกบ้านได้หลากหลาย ด้วยฟังก์ชันที่จัดมาให้แบบครบครัน สามารถใช้เป็นพื้นที่รับรองแขกจากภายนอกได้ ในกรณีที่ไม่สะดวกให้แขกเข้าไปในบ้าน โดยด้านหน้าอาคารมีส่วนจอดรถไว้รองรับด้วย
บรรยากาศ Clubhouse บริเวณด้านหน้าโครงการ
จุดเด่นของอาคาร Clubhouse อยู่ที่ Extravagance Spiral Staircase ซึ่งเป็นบันไดวนอยู่บริเวณกลางอาคาร โดยรอบข้างเป็นทางเดินแบบเปิดโล่ง ล้อมรอบด้วยพื้นที่สวน ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง
บันไดวนกลางอาคาร (Extravagance Spiral Staircase)
จากชั้น 1 บันไดวนจะแยกออกเป็น 2 ฝั่งเกิดเป็นคอร์ทวงกลมตรงกลาง ลักษณะคล้ายกับโถงในมหาวิหาร บันไดใช้โทนสีขาวให้ความรู้สึกกลมกลืน เรียบง่าย ตัดกับสีเขียวจากพื้นที่สวนด้านข้าง ช่วยเพิ่มความสบายตา
สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 5.50x21.00 เมตร
ภายใน Clubhouse มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ แบ่งเป็นสระผู้ใหญ่ขนาด 5.50 x 21.00 เมตร มีโซนจา Jacuzzi และ Water Curtain Pavillion ใกล้กันเป็นสระเด็กขนาด 7.00×3.00 เมตร ความลึก 0.65 เมตร ด้านข้างมี Sunken Seat ไว้นั่งพักผ่อน หรือให้ผู้ปกครองใช้มานั่งรอเด็กๆที่มาเล่นสระว่ายน้ำได้
ห้องน้ำส่วนกลางภายใน Clubhouse
ห้องน้ำของ Clubhouse จะอยู่ที่ชั้น 1 สามารถใช้ทางเดินหลังบันไดวนได้ โดยจะแยกห้องน้ำชาย – หญิงและมีห้องน้ำคนพิการรองรับอยู่ด้วย ซึ่งภายในจะมีตู้ Locker ไว้สำหรับเก็บของหรือเสื้อผ้าและห้องซาวน่าให้ใช้งานด้วย
Grand Lobby Lounge จะอยู่ด้านหน้าอาคาร เป็นโถงขนาดใหญ่สามารถใช้เพื่อรับแขกได้ ประตูด้านหน้ามี Sensor จึงเปิด – ปิดเองได้อัตโนมัติ
โถงทางเข้าเป็น Double Volume เพดานสูง ประตูด้านหน้าได้เป็นกระจกแบบเต็มบาน ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง เพิ่มความหรูหราด้วยโคมไฟระย้าด้านบน จากส่วนนั่งพักคอยด้านข้างสามารถมองออกไปเห็นวิวสวนและสระว่ายน้ำได้
บันไดวนกลางอาคารเชื่อมต่อพื้นที่ชั้น 2
บันไดวน เพดานสูงเห็นฐานโดมทรง 8 เหลี่ยม รอบๆมีช่องแสงเป็นหน้าต่างกระจกหลายรูปทรง มีลวดลายได้อารมณ์แบบกระจกในวิหารยุค Renaissance
ห้องแรกที่เราจะพามาชมกันก็คือ Co – Working Space เผื่อลูกบ้านคนไหนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงาน ก็สามารถรองรับได้ ไม่ว่าจะมาคนเดียวหรือมาเป็นกลุ่ม
บรรยากาศใน Co - Working Space
ฟังก์ชันภายในที่นอกจากจัดเป็น Corner แยกให้แล้ว หากใครอยากได้ความเป็นส่วนตัว ภายในก็มี Private Meeting Room ให้เลือกใช้ โดยที่พื้นจะติดตั้งปลั๊กมาให้ จะชาร์ตมือถือหรือโน๊ตบุ๊คยาวๆก็สะดวกเลยค่ะ
Private Studio รองรับกิจกรรมได้หลากหลาย อย่างราวจับด้านข้างที่ทางโครงการติดตั้งมาให้ก็สามารถเปลี่ยน Studio ให้เป็นคลาสบัลเล่ต์ขนาดย่อมได้เลยค่ะ
สำหรับสายรักสุขภาพ ชอบออกกำลังกาย ก็มี Fitness ที่สามารถรองรับผู้ใช้งานได้ 10 – 11 คนเลย โดยอุปกรณ์ในห้องก็จัดมาให้แบบครบครันทั้ง Cardio และ Weight Trainning เลย
พื้นที่ใช้งานส่วน Recreation Room
Recreation Room ตกแต่งมาด้วยโทนสีสดใส ดูมีชีวิตชีวาเหมาะกับกิจกรรมภายในห้อง มีโต๊ะเกมส์ มุมเก้าอี้บาร์และส่วน Pantry ไว้ให้มานั่งสังสรรค์กันเล็กๆได้ค่ะ
บรรยากาศถนนภายในโครงการ
ถนนภายในโครงการเป็นถนนลาดยางกว้างประมาณ 9 เมตร ซึ่งถนนลาดยางจะนุ่มนวลกับล้อรถมากกว่าถนนคอนกรีตนะคะ ถัดจากซุ้มประตูเข้ามาด้านในจะเป็นวงเวียนต้นไม้ รอบๆมีฟุตบาทเดินใช้งานได้อย่างสะดวก โดยในโครงการจะนำสายไฟลงดินทั้งหมด ทำให้ดูสบายตา ไม่มีสิ่งรบกวนมาบดบังทัศนียภาพค่ะ
ภาพจำลองบรรยากาศสวนหย่อมกลางโครงการ LE CASCINE PARK
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการ พื้นที่ใช้สอย 1,500 ตร.ม. ประกอบไปด้วย
- สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 5.50×21 เมตร ลึก 1.20 เมตร มี Jacuzzi และ Water Curtain Pavilion
- สระเด็กลึกขนาด 7×3 เมตร ลึก 0.65 เมตร
- Grand Lobby
- Co – Working Space
- Meeting Room
- Fitness
- Recreation Room
- Private Studio
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 1 ไร่ 142 ตร.วา
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 61 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 2.70 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 0.20 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ระบบในการเข้า – ออกSmart Gate With License Plate สแกนทะเบียนรถสำหรับลูกบ้าน เปิด – ปิด อัตโนมัติ
แบบบ้าน
แบบบ้านในโครงการ Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ จะมีทั้งหมด 3 แบบ มาในสไตล์ Modern Classic ลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น หน้ากว้าง ได้พื้นที่ใช้สอย 439 – 591 ตร.ม. ฟังก์ชันการใช้งานเน้นครอบครัวใหญ่ มีห้องนอนผู้สูงอายุ (ห้องนอนชั้นล่าง) ทุกแบบบ้าน ที่จอดรถได้ 3 – 5 คัน โดยรายละเอียดของแบบบ้านทั้ง 3 แบบจะมีดังต่อไปนี้
- Accademia บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 82 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 439 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน - Uffizi บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 510 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน - Duomo De Florence บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 112 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 591 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน / 1 ห้องซักรีด
สรุปวัสดุต่างๆ ในบ้าน
- หลังคาทรงปั้นหยา
- ก่อสร้างด้วยระบบ Conventional (อิฐมวลเบา) มีฉนวนกันความร้อน
- พื้นส่วนที่จอดรถ (กลางแจ้ง) เป็น Approach Slab ปู Stamp Concrete / พื้นที่จอดรถในร่ม ลานซักล้างลงเข็มมาให้เท่าตัวบ้าน
- พื้นชั้น 1 : กระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 90×90 เซนติเมตร
- พื้นชั้น 2 : ปาร์เก้ไม้สักสำเร็จรูป
- ชุดสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าแบรนด์ KOHLER , ก๊อกน้ำและชุดฝักบัว GROHE
- อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่แบรนด์ KASCH
- บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้สัก
- วอลเปเปอร์ติดตั้งมาให้ทั้งหลัง
เทคโนโลยีในบ้าน
- Digital Door Lock จำนวน 1 ตัวที่ประตูบ้าน
- CCTV จำนวน 1 ตัวที่ชั้น 1 บริเวณโรงจอดรถ
- Ruejai Home OS แอปพลิเคชั้นควบคุมบ้านอัจฉริยะ
- Active Air Quality ระบบขจัดมลพิษทางอากาศในบ้าน
- Smoke & Heat Detector
- AIS Fiber 1000/500 Mbps
- ระบบไฟฟ้า 3 เฟส Type Duomo De Florence (50/150) Accademia , Uffizi (30/100) มี Junction รองรับการติดตั้ง Ev Charger ได้
- ติดตั้งระบบ Magnetic , Shock Sensor ทั้งหลัง และ Motion Sensor 1 จุด
แบบบ้าน Uffizi
แบบบ้านที่เราจะพาไปชมวันนี้คือ Uffizi เป็นชื่อที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหอศิลป์อุฟฟีซีในอิตาลี โดยแบบบ้านนี้เป็น Type ขนาดกลาง ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา ซึ่งถือว่าใหญ่มาก เมื่อเทียบโครงการในทำเลเดียวกัน พื้นที่ใช้สอยประมาณ 510 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 40.90 ล้านบาท* โดยบรรยากาศภายในจะเป็นยังไงบ้าง ไปชมกันเลย
Uffizi ได้ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ และ 1 ห้องแม่บ้าน เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ ที่มีสมาชิกอยู่ด้วยกัน 3 Generations ได้แบบสบายๆ เพราะมีห้องนอนชั้นล่างที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ สำหรับจุดเด่นของแบบบ้าน Uffizi เราขอแยกออกเป็นข้อๆมาให้ชมดังนี้ค่ะ
- แบบบ้านหน้ากว้าง แปลนบ้านเป็นแบบหน้ากว้าง ทำให้การจัดวางฟังก์ชันภายในได้ความโปร่งโล่ง ตัวบ้านได้ช่องแสงมาหลายตำแหน่ง ทำให้เปิดรับวิวและแสงจากธรรมชาติได้ดีกว่าแบบบ้านตอนลึก ส่วนพักผ่อนและ Service แบ่งสัดส่วนชัดเจน สะดวกต่อการใช้งาน
- ห้องนอนชั้นล่าง รองรับผู้สูงอายุ แบบบ้าน Uffizi ได้ 4 ห้องนอน แบ่งเป็นห้องนอนชั้นบน 3 ห้อง และห้องนอนชั้นล่างที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ โดยภายในห้องจะมีห้องน้ำในตัว พื้นออกแบบมาให้รองรับการใช้งานรถเข็นได้ ไม่มีส่วนต่างระดับ และมีอุปกรณ์เสริมอย่างราวพยุง เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่เป็นผู้สูงอายุหรือผู้พิการค่ะ
- Double ฟังก์ชัน ใช้งานได้หลากหลาย จุดเด่นของแบบบ้านในโครงการนี้คือการออกแบบฟังก์ชัน Double เพราะมีพื้นที่ใช้สอยเยอะ จึงทำให้สามารถเพิ่มพื้นที่ใช้งานได้มากขึ้น เช่น บริเวณหน้าบ้านเป็น Grand Double Living Area จัดเป็นส่วนนั่งเล่น และส่วนรับแขกแยกกันได้ Grand Double Master Bedroom ได้ห้องนอนไซส์ใหญ่ถึง 2 ห้อง และมี Double Volume ที่โถงบันไดวน ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งให้กับตัวบ้าน
ส่วนรั้วหน้าตัวบ้านเป็นรางเลื่อน 3 ตอน
รั้วบ้านออกแบบมาเป็นซี่เหล็กโปร่ง โดยโครงการได้เดินระบบเตรียมไว้ให้สำหรับใครอยากปรับเปลี่ยนเป็นรางเลื่อนอัตโนมัติ โดยแนวรั้วมีการลงพุ่มไม้มาให้ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว ส่วนด้านข้างมีประตูเล็กให้เดินเข้า – ออกแยกจากประตูที่จอดรถ ดูใช้งานสะดวก
ทางเข้าบ้านออกแบบเป็น Double Volume ตั้งซุ้มประตู ช่วยเสริมบรรยากาศด้านหน้าให้ดูโอ่อ่า ประตูบ้านเป็นบานเปิดคู่ กว้างประมาณ 2 เมตร โดยโครงการได้ติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ จากยี่ห้อ BALDWIN
ภาพบรรยากาศรอบตัวบ้าน
จุดเด่นของบ้านในโครงการนี้อยู่ที่ขนาดที่ดิน โดยแปลงที่ได้ขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ที่ประมาณ 300 ตร.วา เหมาะกับคนที่ชอบบ้านเนื้อที่กว้างๆ สามารถจัดสวน ตั้งศาลาหรือเพิ่มฟังก์ชันในอนาคตได้อีกหลากหลาย
โรงจอดรถขนาด 5.60x10.00 เมตร
ส่วนพื้นที่จอดรถ แบบบ้าน Uffizi สามารถจอดได้ 4 คัน ความกว้างประมาณ 10 เมตร ส่วนที่อยู่ใต้ชายคาลึก 5.60 เมตร สำหรับบ้านแปลงที่ได้เนื้อที่เยอะหน่อย สามารถจอดซ้อนคันได้แบบสบายๆเลย
บริเวณด้านหลังมีช่องเก็บของมาให้ ใช้เก็บพวกอุปกรณ์ซ่อมบำรุงหรือดูแลสวนตรงนี้ได้ หน้าบานตู้เป็นบานเกล็ด ช่วยระบายอากาศ สำหรับลูกบ้านที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ทางโครงการก็ได้เตรียมปลั๊กเพื่อรองรับ EV Charger มาให้ 2 ตำแหน่ง เหมาะกับเทรนด์ในปัจจุบันทีเดียวค่ะ
ด้านหลังที่จอดรถมีประตู Service เปิดเชื่อมเข้าตัวบ้านได้
จากโรงจอดรถมีประตูที่สามารถเปิดเชื่อมเข้าสู่บ้านได้อีกจุดหนึ่ง เนื่องจากตัวบ้านยกสูงขึ้นจากระดับดินธรรมดา นอกจากมีบันไดแล้ว ยังมีทางลาดไว้สำหรับใช้งานรถเข็นได้ สำหรับความปลอดภัยที่ประตูและหน้าต่างจะมี Magnetic&Shock Sensor ติดตั้งมาให้ทั้งหลัง
เข้ามาในบ้านจะเจอกับ Foyer หรือว่าโถงต้อนรับเป็นอันดับแรก จากมุมนี้สามารถมองเห็น Grand Double Living Area และห้องนอนชั้นล่างได้เลย จากพื้นถึงฝ้าชั้น 1 สูงประมาณ 3 เมตร วัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้องพอร์ซเลนแผ่นใหญ่เหมือนในบ้านตัวอย่างได้ขนาด 90×90 เซนติเมตร ทำให้รอยต่อน้อย ดูสบายตา
บันไดวน ถือว่าเป็น Gimmick ของโครงการเลยนะคะ โดยบันไดที่มาช่วยเพิ่มความหรูหรานี้จะได้ในบ้าน Type กลางและขนาดใหญ่เท่านั้น ในบ้านตัวอย่างได้ปรับเปลี่ยนราวกันตกและวัสดุปิดผิวให้เป็นหินอ่อนสีขาว เพิ่มความลื่นไหลด้วยราวกันตกที่เชื่อมต่อกับวัสดุด้านบนได้อย่างกลมกลืน
ส่วนในบ้านจริง (ภาพด้านล่าง) ขั้นบันไดจะเป็นไม้สัก ราวกันตกเป็นซี่เหล็กโปร่ง เสริมความแข็งแรงด้วย Wrought Iron ซึ่งให้ความรู้สึกที่แตกต่างกับดีไซน์ในบ้านตัวอย่างชัดเจน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเลยนะคะ ส่วนวัสดุกรอบประตู – หน้าต่างกระจกในบ้านใช้ของยี่ห้อ TOSTEM ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม ทนทาน และสามารถป้องกันเสียงด้านนอกได้ดีเลย
Grand Double Living Area แบ่งเป็นพื้นที่ด้านหน้าที่ติดกับโถงทางเข้า สามารถจัดเป็นส่วนรับแขก แยกจาก Living Area หรือส่วนนั่งเล่นที่อยู่ด้านหลังได้ สะดวกทั้งแขกภายนอกและสมาชิกในครอบครัวที่ต้องการความเป็นส่วนตัวค่ะ
หรือใครเป็นสายปาร์ตี้ ก็สามารถจัดโซนนี้เป็นพื้นที่รับแขกเวลามีงานสังสรรค์ขนาดย่อมๆได้เลย จากขนาดโต๊ะตรงกลางยังเหลือพื้นที่ว่างโดยรอบ จึงถือว่าได้ขนาดห้องมาค่อนข้างกว้างเลยนะคะ
พื้นที่ใช้งานส่วน Grand Double Living Area
ด้านหลังตัวบ้านได้ช่องแสงเป็นบานเลื่อนกระจกมาค่อนข้างใหญ่ โดยในบ้านตัวอย่างได้ต่อเติมเป็นพื้นที่เฉลียงเป็นไอเดียมาให้ ช่วยเพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน
พื้นที่ใช้งานส่วนรับประทานอาหาร
ส่วนรับประทานอาหารสามารถวางโต๊ะยาวขนาด 8 – 10 ที่นั่งได้เลย โดยบริเวณนี้จะได้แสงธรรมชาติที่ส่องผ่านกระจกด้านหลังบ้านเข้ามา ทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่ง
ห้องน้ำแบบ Powder Room ที่บริเวณชั้น 1
ส่วนรับประทานอาหารจะอยู่ใกล้ตำแหน่งประตู Service ที่เปิดเชื่อมเข้ามาจากที่จอดรถ ติดกันเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room เหมาะสำหรับใช้รับแขกโดยเฉพาะ โดยด้านหน้าจะมีส่วนโถงเล็กๆไว้จัดเป็นมุมวางของตกแต่ง หรือเพิ่มฟังก์ชันเป็นตู้เก็บของเพิ่มได้
ในห้องน้ำ Powder Room จะไม่มีส่วนอาบน้ำมาให้ โดยภายในจะได้สุขภัณฑ์แบบครบชุดเหมือนบ้านตัวอย่าง ส่วนอ่างล้างมือเป็นแบบฝังเคาน์เตอร์จากยี่ห้อ KOHLER ติดตั้งมาให้พร้อมก็อกน้ำจาก GROHE โถสุขภัณฑ์ได้เป็นแบบอัตโนมัติจาก KOHLER เช่นเดียวกันค่ะ
ถัดเข้ามาที่พื้นที่ Service ของตัวบ้าน จะมีห้องเก็บของอยู่ด้านหน้าครัวไทย ได้ขนาดพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถใช้เก็บของชิ้นใหญ่ๆได้ โดยอีกฟังก์ชันนึงคือเป็นห้องไว้เก็บอุปกรณ์ควบคุมไฟต่างๆ เช่น บางบ้านที่ต้องการติดตั้งโซลาร์เซลล์ ก็สามารถใช้เป็นห้องเก็บเครื่องได้นะคะ
ครัวไทย แยกใช้งานเป็นสัดส่วน
ส่วนครัวทางโครงการได้ติดตั้งประตูบานเลื่อนกระจกมาให้ เพิ่มความเป็นสัดส่วน เคาน์เตอร์จัดเป็นแบบเข้ามุม ดูเหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งในบ้านจริงจะมาเป็นแบบห้องเปล่า ลูกบ้านสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบเลย ซึ่งจากพื้นที่ครัวจะมีประตูเชื่อมไปยังส่วนห้องพักของแม่บ้านที่อยู่ด้านหลัง เดินเข้า – ออกใช้งานได้สะดวกค่ะ
ห้องนอนชั้นล่าง พร้อมห้องน้ำในตัว
สำหรับห้องนอนชั้นล่าง บ้านตัวอย่างได้ปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ สามารถจัดเป็นห้อง Showcase หรือไว้เป็นพื้นที่ส่วนตัวทำงานอดิเรกได้ โดยในห้องก็จะมีห้องน้ำแยกใช้งานในตัวมาให้ค่ะ
อุปกรณ์ภายในห้องน้ำชั้น 1
ภายในห้องน้ำออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุโดยเฉพาะ อย่างเช่น พื้นที่ไม่มีการลดระดับเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานรถเข็น ป้องกันการสะดุดล้ม และการติดตั้งราวจับมาให้ ช่วยอำนวยความสะดวกได้ดีค่ะ
อุปกรณ์ในห้องน้ำ อ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ สายฉีดชำระและที่เก็บกระดาษทิชชู่ จากยี่ห้อ KOHLER ก็อกน้ำและฝักบัวแบบ Hand Shower จาก GROHE ด้านข้างมีช่องไว้ติดตั้งชั้นวางของ เอื้อมหยิบใช้งานได้สะดวก
ขนาดพื้นที่ใช้สอยในห้องค่อนข้างกว้าง ในบ้านตัวอย่างได้ทำผนังให้เป็นกระจกแทน ทำให้สามารถมองเห็นส่วนโถงบันไดวนด้านหน้า ดูโปร่งโล่ง ซึ่งถ้าจัดฟังก์ชันให้เป็นห้องนอนก็วางเตียงขนาด 5 ฟุตพร้อมส่วนแต่งตัวได้สบายๆเลยนะคะ
และเนื่องจากออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ วัสดุพื้นจึงเลือกใช้เป็น SCG Soft Floor ซึ่งจะมีความนุ่มกว่าพื้นทั่วไป ช่วยลดแรงกระแทกหากเกิดอุบัติเหตุหกล้มต่างๆได้
บันไดวนโค้ง บริเวณโถงทางเข้าบ้าน
มาที่ Highlight ของบ้าน นั่นก็คือบันไดวนทรงโค้งที่มาช่วยเพิ่มความแกรนด์ โดยโครงสร้างบันไดจะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก เวลาเดินจะให้ความรู้สึกมั่นคง โดยในบ้านจริงจะปิดผิวมาด้วยไม้สัก เพื่อให้เกิดความเชื่อมต่อกับพื้นชั้น 2 ส่วนราวกันตกเป็น Wrought Iron สามารถบิดเกลียว หรือขึ้นรูปได้สวยงาม และยังมีความทนทาน ไม่ขึ้นสนิมง่ายๆด้วยนะคะ
Family Area บนชั้น 2
ขึ้นมาชั้นบนจะเจอกับ Family Area ซึ่งได้ขนาดมาค่อนข้างใหญ่ สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Private ของครอบครัวเพิ่มได้ เหมาะกับบ้านที่มีสมาชิกเยอะ แบ่งโซนใช้งานได้อย่างสะดวก ไม่ต้องแย่งกัน
ชั้น 2 จะได้เป็น 1 ห้องนอน และ 2 Master Bedroom ซึ่งห้อง Master ทั้ง 2 นี้จะจัดฟังก์ชันที่คล้ายกัน แต่อีกห้องจะขนาดเล็กกว่า สมมุติว่าเป็นห้องลูกชายคนโต พอแต่งงานก็สามารถพาภรรยาเข้ามาอยู่ด้วยได้เลย
ส่วน Walk - in Closet ภายในห้อง Master Bedroom
จุดเด่นของห้อง Master Bedroom คือขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ สามารถแบ่งจัดเป็นห้อง Walk – in Closet แยกตู้เสื้อผ้าใช้งานด้วยกัน 2 – 3 คนได้ ซึ่งบ้านมาตรฐานที่โครงการส่งมอบให้จะเป็นบ้านเปล่า จึงสามารถออกแบบขนาดส่วนแต่งตัวให้เหมาะสมกับการใช้งานได้เลย
ถัดมาเป็นห้องน้ำแยกพื้นที่ใช้งานออกเป็น 2 ฝั่ง แบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน ความพิเศษนอกจากขนาดที่ได้มากว้างขวางแล้ว ยังได้อ่างอาบน้ำแบบฝังมาอีกด้วย
พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำ Master Bedroom
บริเวณส่วนเปียกจะได้ฉากกั้นอาบน้ำกระจกติดตั้งมาให้ด้วย ทำให้สะดวกต่อการใช้งานและทำความสะอาด อุปกรณ์ในห้องน้ำได้แบบครบชุดจากยี่ห้อ KOHLER
พื้นที่ใช้งานส่วนอาบน้ำ
อ่างอาบน้ำแบบฝังจาก KASCH ขนาด 1.40×0.70 เมตร ฝักบัวได้ทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower ปรับเป็นน้ำร้อนหรือน้ำเย็นได้ ส่วนอาบน้ำได้ขนาด 1.00×2.00 เมตร ยืนอาบได้สะดวก
พื้นที่ใช้งานภายในส่วนพักผ่อน
พื้นที่ส่วนพักผ่อนจะอยู่ถัดเข้ามาด้านใน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว ตรงกลางวางเตียงขนาด King Size ได้ โดยในห้องนี้ตกแต่งมาด้วยภาพการ์ตูนลายเส้นน่ารัก เหมาะกับเป็นห้องของลูกคนโต รอบๆยังเหลือพื้นที่ไว้วาง Daybed หรือโต๊ะเขียนหนังสือได้อีกด้วย
ถัดมาที่ห้องนอนขนาดเล็กสุด แต่พื้นที่ๆได้ก็ถือกว้างขวางทีเดียวค่ะ ซึ่งตำแหน่งจะอยู่ตรงกลางระหว่างห้อง Master ทั้ง 2 ห้อง
พื้นที่ใช้งานบริเวณห้องนอน
ตรงกลางห้องวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้แบบสบายๆ โดยในห้องนี้ยังสามารถกั้นเป็นพื้นที่ Walk – in Closet แยกใช้งานได้ ซึ่งจะอยู่ตรงหน้าส่วนห้องน้ำ พออาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาแต่งตัวได้เลย
พื้นที่ใช้งานภายในส่วนห้องน้ำ
ห้องน้ำเป็นแบบหน้ากว้าง ภายในได้กระจกบานยาวยิ่งทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง โดยอุปกรณ์จะได้มาแบบครบชุดจาก KOHLER และ GROHE แต่ในห้องนี้ทางโครงการไม่ได้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้นะคะ
Master Bedroom ห้องนี้จะเห็นว่าได้ขนาดมาใหญ่ แตกต่างกับห้องอื่นอย่างชัดเจน และด้านข้างยังได้ระเบียงในตัวมาอีกด้วย
พื้นที่ใช้งานภายในห้อง Master Bedroom
จากพื้นที่นั่งเล่นจะมีประตูบานเลื่อนกระจกเปิดออกมาใช้งานระเบียงด้านนอกได้ ซึ่งระเบียงนี้จะยาวขนานกับพื้นที่ห้องนอนมีขนาด 0.30×7.20 เมตร
Walk - in Closet ภายในห้อง Master Bedroom
ภายในห้อง Master Bedroom นี้ได้พื้นที่ใช้สอยมาเยอะมาก โดยในบ้านจริงจะได้มาเป็นห้องเปล่า ทำให้เราสามารถกั้นเพิ่มได้ตามใจชอบเลย อย่างในบ้านตัวอย่าง กั้นส่วน Walk – in Closet มาให้ค่อนข้างใหญ่ วาง Island ตรงกลางได้แบบสบายๆ
ภายใน Master Bathroom ได้ช่องแสงมาขนาดใหญ่มา 2 จุด ใช้เปิดระบายอากาศและความชื้นได้ดี โดยฟังก์ชันภายในห้องนี้จัดมาให้ใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้เลย
พื้นที่ใช้งานภายในห้อง Master Bathroom
ส่วนเคาน์เตอร์ได้มาเป็นแบบ His&Her ด้านล่างมีลิ้นชักสำหรับเก็บของหรืออุปกรณ์ส่วนตัวได้ โดยในห้องนี้จะแยกอ่างอาบน้ำและส่วน Shower ออกจากกัน โดยจะได้ Shower Box มาแบบนี้เลยค่ะ
อุปกรณ์ภายในห้อง Master Bathroom
ส่วน Shower Box ขนาด 1.60×1.00 เมตร ผนังด้านข้างมีช่องไว้สำหรับเก็บอุปกรณ์อาบน้ำได้ โดยฝักบัวได้ทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower จาก GROHE ส่วนอ่างอาบน้ำจาก KASCH ขนาด 1.40×0.70 เมตร
ประตูทางเข้าห้อง Master Bedroom จะมีขนาดใหญ่แตกต่างกับห้องอื่นชัดเจนเลยนะคะ โดยจะเป็นบานไม้สามารถเปิดได้ทั้ง 2 ฝั่งเลย
เทคโนโลยีภายในบ้าน
สวิตช์ไฟ ดีไซน์แบบเรียบหรูจากยี่ห้อ SIEMENS สำหรับเทคโนโลยีในบ้านมีระบบควบคุมอัจฉริยะอย่าง Ruejai Home OS เป็น Application ที่สั่งการได้ผ่านมือถือและจอโฮมฮับ ดูแลได้ตั้งแต่ความปลอดภัยไปจนถึงระบบไฟในบ้าน
รวมถึงระบบ Active Air Quality ช่วยขจัดมลพิษและดันอากาศเสียออกอัตโนมัติ โดยจะติดตั้งไว้บนฝ้าเพดานในห้องนั่งเล่นและห้องนอนทุกห้องค่ะ
แบบบ้าน Accademia
แบบบ้าน Accademia พื้นที่ใช้สอย 439 ตร.ม.
Accademia เป็นแบบบ้านขนาดเริ่มต้นของโครงการ พื้นที่ใช้สอย 439 ตร.ม. ได้ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถและ 1 ห้องแม่บ้าน ราคาเริ่มต้น 33.50 ล้านบาท* โดย Type นี้จะเป็นบ้านหน้ากว้าง ได้ฟังก์ชันแบบ Double Living เหมือนกันทุก Type
จุดที่แตกต่างกันคือส่วนรับประทานอาหารที่จะจัดมาอยู่ด้านหน้าบ้าน และบันไดที่จะเป็นแบบพับผ้าอยู่บริเวณโถงกลางแทน เมื่อเทียบกับโครงการบนทำเลใกล้เคียงกันที่มีราคาประมาณ 30 ล้านนิดๆจะได้ความคุ้มค่าในเรื่องที่ดินมากกว่า เพราะได้ขนาดเริ่มต้นมาถึง 82 ตร.วาค่ะ
แบบบ้าน Duomo De Florence
แบบบ้าน Duomo De Florence พื้นที่ใช้สอย 591 ตร.ม.
สุดท้ายกับแบบบ้าน Duomo De Florence บ้านขนาดใหญ่สุดในโครงการได้พื้นที่ใช้สอย 591 ตร.ม. และที่ดินขนาดใหญ่สุดได้ถึง 300 ตร.วา การจัดฟังก์ชันจะคล้ายกับ Type กลาง แต่บันไดวนจะขยับมาอยู่บริเวณกลางบ้านแทน ทำให้ส่วนทางเข้าดูแกรนด์มากขึ้นค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ ราคา ณ วันที่ 6 เมษายน 2566
- Accademia บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 82 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 439 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
– ราคาเริ่มต้น 33.50 ล้านบาท* - Uffizi บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 510 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
– ราคาเริ่มต้น 40.90 ล้านบาท* - Duomo De Florence บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 112 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 591 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน / 1 ห้องซักรีด
– ราคาเริ่มต้น 45.90 ล้านบาท - ค่าจอง 300,000 บาท ค่าทำสัญญา 20% ของราคาบ้าน
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
- ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
โครงการ Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ จัดอยู่ในทำเลโซนรามอินทรา ซึ่งก็ไม่ค่อยมีโครงการระดับ SUPER LUXURY ให้เห็นในย่านนี้กันบ่อยนะคะ สำหรับการเดินทาง เรามองว่าคนที่ซื้อโครงการระดับนี้จะใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางเป็นหลักอยู่แล้ว ซึ่งที่ตั้งโครงการจะอยู่ติดถนนสวนสยาม สามารถไปเชื่อมต่อกับโซนมีนบุรี รามอินทรา และรามคำแหงได้ง่าย ใกล้ทางด่วนวงแหวนกาญจนาทำให้เดินทางเข้า – ออกเมืองค่อนข้างสะดวก ในแง่ความอุดมสมบูรณ์ก็จัดว่าไม่ขาดแคลนเลย อีกทั้งยังเป็นทำเลที่ตอบโจทย์ความเป็นบ้านสำหรับครอบครัวทีเดียวค่ะ
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
โครงการออกแบบทางเข้า – ออกมาเป็น Double Gate โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ทั้ง 2 จุด ประตูเป็นรางเลื่อนไฟฟ้า ควบคุมด้วยระบบ Smart Gate with License Plate (สแกนทะเบียนรถ) และสามารถควบคุมการเข้า – ออกของผู้มาเยี่ยมได้ง่ายผ่าน Ruejai App (pre-register Visitor) ได้ทั้งความสะดวกและเป็นส่วนตัว สำหรับความปลอดภัยในตัวบ้านจะได้ Digital Door Lock และ CCTV มาให้ 1 จุด พร้อม Magnetic&Shock Sensor ทั้งหลัง รวมทั้ง Smoke Detector
การออกแบบโครงการ :
Grand Bangkok Boulevard เป็นแบรนด์ที่มีการออกแบบหน้าตาแต่ละ Product ชัดเจน ทำให้เกิดความ Uniq ในแต่ละโครงการ ซึ่งส่วนใหญ่จะสะท้อนความหรูหราผ่านสถาปัตยกกรรมที่หลากหลาย อย่างในโครงการ Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ ได้แรงบันดาลใจมาจากมหาวิหารเมือง Florence จึงได้กลิ่นอายหรูหราแบบอิตาลี
โครงการออกแบบมาเน้นความเป็นส่วนตัว มีจำนวนทั้งหมด 70 ยูนิต ทำให้ในแต่ละซอยมีเพื่อนบ้านน้อย เพียง 1 – 4 ยูนิตเท่านั้น โดยถนนภายในซอยไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้ ข้อดีคือช่วยลดความพลุกพล่าน และจำกัดคนเข้า – ออกได้ดี ส่วนพื้นที่ส่วนกลางแยกใช้งานเป็น 2 จุด คือ อาคาร Clubhouse ที่อยู่ด้านหน้าและสวนหย่อมด้านหลังเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ลูกบ้านสามารถเลือกใช้งานได้ตาม Activity ที่ชอบเลยค่ะ
การออกแบบพื้นที่ใช้สอย :
แบบบ้านในโครงการ Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ มีให้เลือก 3 แบบหลักๆ ได้พื้นที่ใช้สอย 439 – 591 ตร.ม. โดยจุดเด่นอยู่ที่ขนาดที่ดินซึ่งได้มากสุดถึง 300 ตร.วา เหมาะกับคนที่อยากได้เนื้อที่รอบบ้านเยอะๆ ส่วนภายในบ้านเน้นฟังก์ชันแบบ Double ทั้ง Grand Double Living Area , Grand Double Master Bedroom และ Double Volume เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานที่ของครอบครัวใหญ่ที่อยู่ร่วมกันได้ถึง 3 Generations เลยค่ะ
วัสดุ :
ภายในบ้านจะได้มาเป็นบ้านเปล่า ซึ่งก็เป็นปกติของบ้านในราคาระดับนี้ เพื่อให้ง่ายต่อการออกแบบและต่อเติมภายหลัง เพื่อให้เหมาะสมกับความชอบและการใช้งานแต่ละครอบครัว สำหรับวัสดุอื่นๆก็ถือว่าจัดมาให้เหมาะสมกับระดับราคา ส่วนตัวเราชอบส่วนห้องนอนชั้นล่างที่เลือกวัสดุมาเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุจริงๆ เช่น SCG Soft Floor และราวพยุงในห้องน้ำ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
ในวันที่เข้าไปเก็บข้อมูล หน้างานยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง แต่ภาพรวมภายในโครงการดูเรียบร้อย น่าใช้งาน รอบๆมีการลงทั้งต้นไม้ขนาดใหญ่และไม้พุ่มตลอดแนวตามเส้นถนน ช่วยให้บรรยากาศดูร่มรื่น โดยโครงการได้นำสายไฟลงดินทั้งหมด ทำให้ได้ทัศนียภาพเปิดโล่ง สวยงาม เพราะไม่มีสิ่งรบกวนมาบดบังสายตาค่ะ
สาธารณูปโภค :
อาคาร Clubhouse 2 ชั้น ได้พื้นที่ใช้สอยมาถึง 1,500 ตร.ม. สไตล์การออกแบบค่อนข้างโดดเด่น ชูคอนเซปต์โครงการได้ชัดเจน ส่วนฟังก์ชันภายในถือว่าจัดมาให้ตามมาตรฐาน รองรับการใช้งานของลูกบ้าน 70 ยูนิตได้อย่างเหมาะสม ถัดเข้าไปด้านในโครงการยังมีพื้นที่สวนหย่อมขนาดกว่า 1 ไร่ ในอนาคตเมื่อสร้างแล้วเสร็จ น่าจะยิ่งทำให้บรรยากาศดูร่มรื่น น่าใช้งาน
Judgement
ราคาของโครงการบ้านนี้ถือเป็นระดับ SUPER LUXURY CLASS ซึ่งความคุ้มค่าด้านราคาไม่ใช่ปัจจัยเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อ แต่มีเรื่องความคุ้มค่าด้านอารมณ์ส่วนบุคคลที่มาเป็นปัจจัยหลักอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งตราบเท่าที่เรายังไม่สามารถวัดค่ามาตรฐานทางอารมณ์ได้ ทาง Think of Living จึงขอไม่ให้คะแนนฟันธงในรีวิวเจาะลึกนะคะ และเพราะเป็นสินค้าประเภท Unique Item จึงมีตัวเปรียบเทียบน้อย
Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ เหมาะกับใคร
โครงการ Grand Bangkok Boulevard รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นไซส์ใหญ่ ได้ที่ดินเยอะ ซึ่งเป็น Rare Item ย่านรามอินทรา สำหรับโครงการที่เป็น SUPER LUXURY ฟังก์ชันเหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่อยู่ร่วมกันได้ 3 Generations ชอบบ้านสไตล์ Modern Classic และชอบโครงการที่มีจำนวนยูนิตไม่เยอะ มีงบประมาณ 30 – 60 ล้านบาท*
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc