รีวิวโครงการ
คฤหาสน์หรูติดถนนใหญ่ เกือบ 1,000 ตร.ม. | GRANADA Pinklao – Phetkasem | คิดเรื่องอยู่ EP.755
23 มีนาคม 2024
วันนี้ผมจะพาไปชมรีวิวฉบับย่อกันอีกสักครั้ง กับโครงการ Granada บ้านเดี่ยวตัว Top ของบริษัท SC Asset ที่มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 40 ล้านบาท ขึ้นไปจนถึง 100 กว่าล้านบาท โดยเป็นโครงการที่ติดถนนใหญ่บรมราชชนนีและถนนพุทธมณฑลสาย 3 เข้าออกได้ 2 ทาง กับพื้นที่ 86 ไร่ ที่มีบ้านเพียง 39 หลัง เฉลี่ยพื้นที่โครงการเกือบ 2.2 ไร่ต่อบ้าน 1 หลังเลยครับ!
Fact @ 19 October 2014
- Granada
- SC Asset., Plc.
- Segment : Ultimate CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต: ทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร
- เนื้อที่โครงการประมาณ 86 ไร่
- บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดใหญ่
- ที่ดินแปลงมาตรฐานประมาณ 200 ตารางวา – 1 ไร่
- ราคาเริ่มต้น 40 ล้านบาท
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการปี 2558
- http://www.scasset.com
- Call Center : 1749
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ
พิกัด : 13.788210, 100.361735
แผนที่จากทางโครงการครับ
เนื่องจากเป็นรีวิวฉบับย่อเราจะไม่ลงลึกในเรื่องของทำเล แต่จะบอกคร่าวๆกับการเดินทางนะครับ ผมเชื่อว่าถ้าใครจะซื้อบ้าน 40 – 100 กว่าล้าน ก็คงจะต้องคุ้นชินทำเลนี้หรือไม่ก็แวะมาดูรอบๆให้ดีละครับ
โครงการ Granada อยู่ติดถนนใหญ่บรมราชชนนี แต่ถ้าใครมาจากในเมืองแล้วจะวิ่งเข้าก็ควรจะเลี้ยวขวาใช้ทางเข้ารองที่ถนนพุทธมณฑลสาย 3 จะง่ายกว่า ส่วนใครจะออกจากหมู่บ้านเข้าเมืองก็ให้ใช้ถนนหลักด้านหน้านะครับ
สาเหตุก็คือถ้าใครวิ่งจากในเมืองมาจะต้องไปกลับรถไกลถึงศาลายา ดังนั้นใช้ถนนพุทธมณฑลสาย 3 จะสะดวกกว่ามากครับ
ในหมู่บ้าน 86 ไร่ นี้มีบ้านเพียง 39 หลัง โดยมีพื้นที่ส่วนกลางมากกว่าพื้นที่บ้านแต่ละหลังรวมกันทั้งหมด จัดเป็นการใช้พื้นที่ที่เปลืองที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา มาทำเป็นบ้านเดี่ยวขั้นสูงสุดของ SC Asset ครับ
หน้าโครงการจะมีน้ำพุเล็กๆและป้ายชื่อฝังอยู่ในซุ้มประตูด้านข้าง
โดยตัวโครงการจะอยู่ติดถนนใหญ่ บริเวณที่เลยหมู่บ้านปัญจทรัพย์มานิดหนึ่ง
การรักษาความปลอดภัยทำอย่างเข้มงวด ใช้รปภ. 2 ชุดเฝ้า 2 ประตู เป็นระบบ Double Gate Security ที่ลูกบ้านสามารถใช้บัตร Access Card แตะแล้วเปิดประตูได้
เวลาวิ่งเข้าก็จะถูกจัดแจงให้แลกบัตรตามพื้นฐานของระบบรักษาความปลอดภัยชั้นนำ
ระหว่างประตูแรกกับประตูที่สอง จะมีสวนน้ำตกซึ่งเปิดเป็นหน้าดินไปจนถึงถนนใหญ่เลย ตรงนี้หนึ่งไว้เพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ของโครงการและสองเอาไว้เพื่อให้เวลาเลี้ยวรถเข้าโครงการ ก็จะได้สัมผัสกับเสียงน้ำตกด้วย แต่สำหรับลูกบ้านในนี้จะออกมาเดินเล่นบริเวณสวนน้ำตก ผมว่าไม่ใช่นะ ผิดประเด็น เพราะในโครงการเองก็มีสวนน้ำตกอยู่ด้านในอยู่แล้วครับ
หลังจากเข้าประตูแรกมาก็จะเจอสะพานเล็กๆข้ามลำราง แล้วก็จะเข้าถึงประตูที่สองกันแล้ว ที่ผมอยากให้ดูอีกอย่างก็คือความสมบูรณ์ของโครงการ ซึ่งโครงการนี้ผ่านศึกหนักมาตั้งแต่ครั้งน้ำท่วมใหญ่ โดยตัวโครงการสามารถป้องกันน้ำท่วมเอาไว้ได้ (แม้ว่าพื้นที่ข้างเคียงโดยรอบจะกลายเป็นทะเลสาบ) แต่การดูแลรักษาสภาพส่วนกลางผมจัดว่าทำได้เยี่ยมยอด
หมู่บ้านนี้มีอายุราว 5 ปีแล้วตั้งแต่ที่เปิดตัวโครงการ แม้ว่าจะเห็นร่องรอยของความเสื่อมโทรมลงไปบ้าง แต่ก็เป็นธรรมดาของธรรมชาติครับ
หลังจากเข้ามาตามถนนเมนก็จะเจอวงเวียน นำสายตาเราเข้าสู่หมู่บ้าน โดยสองข้างทางเป็นต้นปาล์มที่ปลูกกันมา 4-5 ปี จึงค่อนข้างดูร่มรื่น แต่ด้วยความที่ถนนเมนใหญ่มากและแดดช่วงเที่ยงค่อนข้างร้อน ประกอบกับพื้นถนนสีน้ำตาลแดงก็อาจจะทำให้ดูแล้วรู้สึกร้อนหน่อยนะครับ
ก่อนที่จะเข้าไปดูตัวบ้าน น้องเซลล์ก็จะพาเราวนดูรอบๆโครงการกันก่อน ให้เห็น Layout ของโครงการในภาพใหญ่และพื้นที่ส่วนกลาง ก่อนที่จะเข้าไปชมรายละเอียดในบ้านครับ
โครงการ Granada นี้เป็นโครงการที่ไม่มีบ้านหลังไหนติดกับรั้วโครงการด้านนอกเลย ทั้งหมู่บ้านจะล้อมรอบด้วยถนนหรือสวน ทำให้บ้านไม่ติดกับที่ดินแปลงข้างๆนอกโครงการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มเรื่องความปลอดภัยได้มาก แต่ในขณะเดียวกันการทำอย่างนี้ทำให้บ้านแพงขึ้น เพราะที่ดินที่จะเอามาขายนั้นมีน้อยลง ด้วยสาเหตุนี้ที่ดินมากกว่า 50% ของโครงการ ถูกเอาไปทำเป็นถนนและสวนสาธารณะ พื้นที่ส่วนกลางทั้งสิ้นครับ
การตัดถนนรอบโครงการไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องความปลอดภัย ยังทำให้การเดินทางทำได้ง่ายด้วย ซึ่งทุกซอยสามารถจัดเป็นซอยตันได้ทั้งหมด ลูกบ้านไม่ต้องกังวลว่าจะมีรถคันไหนที่ไม่ใช่รถของคนในซอยวิ่งผ่านเข้ามา
ไม่เพียงแต่ที่ดินจะไม่ติดกับแปลงที่ดินข้างนอกโครงการแล้ว หนำซ้ำที่ดินภายในโครงการเองก็ยังไม่ติดกันเกือบทั้งโครงการด้วย โดยบ้านแต่ละหลังจะมีสวนเล็กๆ เป็น Strip Park หรือ Green Belt กั้นระหว่างกัน ทำให้บ้านสองหลังที่อยู่ใกล้ๆกันก็ไม่ติดกัน … การทำแบบนี้ผมยังไม่เห็นในหมู่บ้านไหนมาก่อน ตั้งแต่เคยไปรีวิวมาเลยครับ จัดว่าเป็นเอกลักษณ์ของบ้านที่ Granada เพียงที่เดียว
ให้ดูแปลงที่ไม่ติดกันนะครับ ทำได้ดีทีเดียว
ทางเข้าสวนของสองแปลงที่ติดกัน ไม่ได้ทำเป็นสวนหย่อมกระจอกๆนะครับ แต่เป็นสวนขนาดใหญ่พอควร มีแนวต้นปาล์ม ไม้พุ่ม ไม้ดอก จัดสวนสวย พร้อมกับทางเดินเข้าประตูข้างบ้าน ไม่ได้ทำแบบขอไปทีนะ
ก่อนที่จะถึงรั้วบ้านแต่ละหลังก็จะมีฟุตบาท ซึ่งไม่ได้ทำเป็นทางเท้านะครับ แต่จะปลูกหญ้าทั้งแผง เพื่อความสวยงาม สะอาดตา
ส่วนใครชอบเดินก็เดินบนถนนเอาได้ครับ ถนนใหญ่ขนาดนี้รถยนต์วิ่งสองคันสวนกันได้สบายๆ ถ้าคนขับไม่เผลอรับรองไม่มีเฉี่ยว
บ้านแต่ละหลังจะทำรั้วโปร่ง เพื่อความสวยงาม ไม่ให้หมู่บ้านดูทึบ แต่จะปลูกต้นไม้ด้านในช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัว และทำให้ดูร่มรื่นเพิ่มขึ้นด้วย
เรามาถึงจุดกลางหมู่บ้านที่เป็นลำธารและน้ำตก อันเป็นจุดเด่นที่สุดของสาธารณูปโภคในโครงการ Granada
บริเวณนี้ประกอบไปด้วย ลำธาร น้ำตก ศาลาริมน้ำ และจุดชมวิวที่เรามาจอดรถถ่ายภาพกันครับ
จากวิวนี้จะเห็นว่ามีบ้านริมน้ำอยู่ทั้งสองฟาก เป็นสวรรค์ของคนที่ชอบบ้านที่หลังบ้านมีลำธาร ซึ่งเป็นลำธารส่วนกลาง เจ้าของบ้านไม่ต้องมาวุ่นวายดูแลเอง และจากสภาพที่ผ่านไป 5 ปี หลังจากที่หมู่บ้านเปิดขาย ผมก็เห็นว่าสภาพยังดูดีอยู่เลยครับ
บ้านหลังที่ติดลำธารก็จะแพงเป็นพิเศษ แต่ก็ได้วิวอันพิเศษไปด้วยเช่นกัน
ให้ดูขนาดถนนบริเวณจุดชมวิวครับ รถกอล์ฟจอดแล้วเหลือพื้นที่ให้รถบรรทุกวิ่งได้เลย
ต้นปาล์มเหล่านี้โตขึ้นมาจนแฉกสวยงามมาก เดี๋ยวไว้ผมจะพาเดินไปชม
เราเดินลงไปด้านล่าง มองกลับมาที่น้ำตก ตรงนี้เป็นวิวที่ลูกบ้านจะเห็นจากบ้านตัวเองครับ
เดินจากลำธารถอยหลังไปหน่อย ก็จะเป็นสนามกอล์ฟเล็กๆ เป็นสนามชิพนะครับ ไม่ใช่สนามพัท ซึ่งเหมาะสำหรับเจ้าของบ้านที่ชอบบ้านใกล้สนามกอล์ฟ เย็นๆสามารถเดินมาชิพพัทเล่นได้
มี Sand ให้ด้วย … ทดลองระเบิดทรายได้
ชิพข้ามมาบริเวณนี้ น่าจะราวๆ 40 – 50 หลา ซ้อมพัทได้สบาย … แต่ตอนซ้อมพัทอยู่ คนชิพก็ดูหน่อยนะครับ ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดอุบัติเหตุลูกกอล์ฟกระแทกเข้าได้
สุดท้ายเป็นศาลาริมน้ำ ซึ่งเวลาแดดเปรี้ยงๆก็โหดเอาเรื่องนะ ไอร้อนระอุเลย เหมาะกับตอนเช้าตรู่หรือช่วงเย็นมากกว่า
ที่นี่เตรียมระบบน้ำระดับเดียวกับสนามกอล์ฟอัลไพน์เอาไว้รดน้ำต้นไม้ ก็พื้นที่ส่วนกลางปาเข้าไป 40 กว่าไร่แบบนี้ ถ้าไม่มีระบบ Sprinkler ก็คงจะแย่ละครับ
ต้นปาล์มที่โตพอควรแล้ว ผมชอบรูปร่างมันมากเลย
ศาลาริมน้ำ เวลาเย็นๆจะนั่งคุยกันสบายๆได้ครับ
จบกับทะเลสาบในเฟสที่สองของหมู่บ้าน มีลูกเป็ดเหลือง 3 ตัวมาวางเอาไว้ ช่วยดักสายตาของลูกบ้านจากเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่พาดผ่านกลาง
แน่นอนครับ มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย รีวิวเราไม่ใช่โบร์ชัวร์ ต่อให้เป็นบ้านระดับร้อยล้าน ก็มีเสาไฟฟ้าแรงสูงพาดผ่านกันได้ แต่ตรงนี้เป็นเฉพาะบ้านในเฟสสอง ที่อยู่ใกล้กับทะเลสาบและทางออกถนนพุทธมณฑลสาย 3 เท่านั้น ลูกบ้านเฟสแรก สบายใจได้ครับ ต่อไปเราจะพาเข้าไปดูบ้านตัวอย่างกันแล้วละ
Product Walkthrough
แบบบ้านที่นี่จงใจสร้างมาให้เป็นคฤหาสน์ สไตล์ Modern Spanish ที่มีการเอาลูกเล่นของคลาสสิกเข้ามารวมกับความทันสมัยหน่อยๆ แต่โดยรวมก็ยังค่อนไปทางคลาสสิกสัก 80% อีกนิดคงจะต้องเรียกพระเจ้าหลุยส์แล้ว
บ้านหลังที่จะพาไปชมนี้ไม่ใช่หลังใหญ่ที่สุดนะครับ เป็นหลังรองจากหลังใหญ่มา Step เบ้อเร่อ คือขายอยู่ที่ราคา 44 ล้านบาทสำหรับบ้านเปล่า 463 ตารางเมตร และ 68 ล้านบาทสำหรับบ้านที่แต่งครบ มาพร้อมสระว่ายน้ำ แต่ถ้าเป็นหลังใหญ่ จะเรียกว่าระดับคฤหาสน์ ที่ใหญ่กว่านี้เท่าตัว 767 ตารางเมตร ที่ดิน 1 ไร่ครึ่ง กับราคา 120 ล้านบาทครับ
ที่จอดรถในโบร์ชัวร์คงจะบอกว่าจอดได้ 2-3 คัน แต่ที่ผมดูจากมุมนี้และพื้นที่ที่เหลือก็คงบอกได้ว่าไม่ต่ำกว่า 6 คันในบ้านตัวเอง และอาจจะไหลไปนอกบ้านได้อีกเวลามีเพื่อนๆมาปาร์ตี้ ดังนั้นที่จอดรถคงไม่น่าเป็นห่วงนะครับ
พื้นที่สวนข้างบ้าน ถ้าใครมีรถเยอะๆก็สามารถปลูกโรงรถตรงนี้ได้เพิ่มอีก 2 คันเป็นอย่างน้อย หรือถ้าใครชอบต้นไม้เยอะๆก็เติมต้นไม้ได้ตามใจชอบเลยครับ
จุดเด่นที่เราเห็นอีกจุดหนึ่งก็คือสระว่ายน้ำ Outdoor ที่อยู่ด้านข้างของตัวบ้าน ตรงนี้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับสมาชิกในบ้าน ถ้าใครกลัวแดดมากๆก็ต้องสร้างหลังคาคลุมแต่อาจจะดูไม่สวยนะ
ทางเดินขึ้นบ้านเป็น 3 Step ช่วยยกระดับป้องกันน้ำท่วมจากแนวถนนได้อีก ซึ่งในปี 2554 ที่ผ่านมาน้ำท่วม 1.5 เมตรก็ไม่เข้าหมู่บ้านแล้ว ถ้าจะท่วมอีกในอนาคตก็ต้องมี 2 เมตรถึงจะสามารถเข้าถนนในโครงการและ 2.5 เมตรขึ้นไปถึงจะเข้าตัวบ้านได้นะครับ
ประตูเป็นบานสวิง เปิดได้คู่กันสองบาน ดูแกรนด์และสวยงามตามฉบับคลาสสิก
เดินเข้ามาจะพบส่วนของโถงรับรองก่อนเลย โดยทางซ้ายเป็นห้องรับแขก และเดินตรงไปจะเข้าไปที่โต๊ะรับประทานอาหาร
ส่วนของห้องรับรองอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ เวลามองออกไปก็จะเห็นวิวสระว่ายน้ำและสวนหน้าบ้าน สวยงามดีครับ
ส่วนฝั่งตรงข้ามของห้องรับรองก็เป็นที่วางเปียโน กับเก้าอี้นั่งข้างประตู
เราเดินตรงกันเข้าไปที่โต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งเป็นมุมมองหลักของบ้านหลังนี้
เปิดม่านด้านหลังออกจะพบกับสวนน้ำตกและระเบียงหลังบ้าน
เชื่อมบรรยากาศภายในตัวบ้านและภายนอกด้วยบานเลื่อน ให้กลายเป็นเนื้อเดียวกันเวลาต้องการอากาศและแสงธรรมชาติ
พอเปิดประตูแบบนี้ ก็จะได้ยินเสียงน้ำตก ได้รับแสงแดดและลมธรรมชาติครับ
ส่วนด้านข้างของโต๊ะรับประทานอาหารก็จะเป็นห้องนั่งเล่น ตรงนี้แยกขาดกับห้องรับแขก มีเอาไว้เพื่อความบันเทิงภายในครอบครัวโดยเฉพาะ
เวลาเปิดประตูออกไปก็จะเข้าสู่ทางเดินที่ทำจากไม้เทียม เชื่อมห้องนั่งเล่นเข้ากับสระว่ายน้ำข้างบ้าน
เวลาแดดแรงๆก็ร้อนหน่อยนะ
สระว่ายน้ำเป็นสระตื้นๆ ความลึกไม่เกิน 1.2 เมตร ว่ายพอได้ ส่วนใหญ่ให้เด็กๆเล่นน้ำจะเหมาะสมกว่า ถ้าใครอยากได้สระยาวๆก็ทุบแล้วสร้างต่อไปเลยครับ ทำจนถึงรั้วด้านหน้า รับรองว่ายกันสนุกสนาน
ด้านหลังสระว่ายน้ำเป็นพื้นที่นั่งกินลมชมวิวและพื้นที่ล้างตัวก่อนและหลังลงสระว่ายน้ำ … กลับไปที่บ้านกันต่อดีกว่านะ
อีกทางของโต๊ะอาหารก็จะตรงไปยัง แพนทรี่ ส่วนบริการ และห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างครับ
ข้างๆโต๊ะเป็นแพนทรี่ที่มี Island สามารถวางหรือเตรียมอาหารในงานเลี้ยงกันได้ตรงนี้เลย
พื้นที่ของแพนทรี่กว้างเพียงพอให้ทำงานได้พร้อมกันหลายๆคน
ฝั่งตรงข้ามแพนทรี่จัดเป็นห้องอเนกประสงค์ที่สามารถประยุกต์ไปเป็นห้องนอนชั้นล่างได้อีก หากห้องเดียวยังไม่เพียงพอ
โดยพื้นด้านนอกใช้เป็นหินธรรมชาติด้านในเป็นไม้มะค่าเกรด AAA สีอย่างที่เห็นในภาพ
บ้านตัวอย่างจัดห้องนี้เป็นห้องคาราโอเกะ สำหรับรุ่นพ่อที่กำลังชอบพวก Beatles, Elvis อะไรทำนองนั้น
โดยมาพร้อมกับรถเข็นเครื่องดื่มตามนั้นเลย
ถัดมาเป็นห้องน้ำ Powder Room สำหรับรับรองแขกเหรื่อ
และห้องครัวไทยที่เป็นครัวหนักสำหรับการทำอาหาร
ห้องครัวขนาดใหญ่พอที่จะเชิญเชฟมารับรองได้ (แต่ต้องมีเครื่องมือที่เหมาะสมด้วยนะ)
ถัดมาอีกเป็นห้องนอนชั้นล่างพร้อมกับห้องน้ำในตัว ซึ่งดีมากสำหรับผู้สูงอายุนะครับ
มีบานเลื่อนเป็น Walk-in Closet ด้วย
ก่อนที่จะถึงห้องน้ำพร้อมห้องอาบน้ำในตัว
ถัดจากประตูบานนี้ไปก็จะเป็นส่วนบริการ หรือ Service Area แล้วล่ะ โดยจะกั้นระหว่างส่วนของแม่บ้านกับเจ้าของบ้านด้วยพื้นที่ Semi Outdoor
บริเวณนี้เป็นทางเดินจากโรงจอดรถ ที่สามารถเข้ามายัง Service Area ได้เลย
ส่วนนี้ประกอบไปด้วยห้องนอนแม่บ้าน 2 ห้อง พร้อมกับบริเวณซักรีดและตากผ้าด้านหลังบ้าน
ลานซักล้างพร้อมกับที่ตากผ้านะครับ
ห้องนอนแม่บ้านมีขนาดใหญ่ ได้รับแสงธรรมชาติพอเพียง ติดแอร์เพิ่มก็ได้ ไม่ต้องเป็นห่วงแม่บ้านที่อยู่กันมาหลายๆสิบปีครับ อยู่สบายแน่นอน
ต่อไปเราจะขึ้นไปชมพื้นที่ชั้นบนกันบ้างล่ะ
เดินขึ้นชั้นสองโดยมีบันไดพับไปที่หน้าบ้านแบบนี้
ขั้นบันไดออกแบบมาด้วย Human Scale เดินสบายไม่สะดุด ตัวบันไดกว้างพอให้เดินสวนกันได้และชานพักเป็นชานพักยาวใหญ่ โอเคทุกส่วนครับ
ส่วนที่สะดุดตาของชั้นบนส่วนแรกก็คือพื้น ที่เป็นไม้มะค่าสีสวยงามอย่างที่เห็น การตกแต่งส่วนใหญ่ที่เห็นในภาพนี้เป็นการทำ Built-in เพิ่มเกือบทั้งหมด และขายพร้อมกับตัวบ้านไปในราคา 68 ล้านบาทครับ โดยห้องแรกที่เห็นตรงกลางนี้ก็คือห้องโถงชั้นบน จัดเป็น Family Area ของชั้น 2 เป็นศูนย์กลางของครอบครัวในยามค่ำคืน
ห้องนอนห้องแรกที่เห็นก็ออกแนวๆหน่อย เหมือนเป็น Fashion Designer มาเอง จัดเป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของบ้านหลังนี้
พื้นที่เตียงเพียงพอให้วาง King Size พร้อมกับโซฟาปลายเตียง แล้วยังเหลือพื้นที่ทำโต๊ะทำงานได้อีก
โดยมี Walk-in Closet ก่อนจะถึงห้องน้ำเช่นเคย
ตัวห้องน้ำขาดแค่ฉากกั้นอาบน้ำและอ่างอาบน้ำ นอกนั้นมีครบหมดนะครับ
ห้องนอนที่ 2 ก็เป็นห้องนอนเล็กเช่นกัน ขนาดเล็กกว่าห้องนอนแรกพอสมควร แต่ฟังก์ชั่นก็ยังครบถ้วน
Walk-in Closet ก็มี
ห้องน้ำในตัวพร้อมเพียง
ห้องนอนเล็กห้องที่ 3 ก็มีขนาดใกล้เคียงกับห้องแรก โดยมีฟังก์ชั่นเหมือนๆกันทั้งหมด ผมก็จะขอข้ามไปนะครับ
มาดู Master Bedroom กันบ้าง โดยห้องนี้เป็น En Suite Bedroom เชื่อมห้องนอนใหญ่กับห้องนั่งเล่นเข้าด้วยกัน
วางโซฟาและโต๊ะทำงาน ที่สามารถวางคอมพิวเตอร์บริเวณนี้ได้
บริเวณห้องนั่งเล่นเปิดพื้นที่ไปถึงระเบียงหน้าบ้านได้ด้วย
ระเบียงมีขนาดพอประมาณ ไม่สามารถวางชุดโต๊ะน้ำชาได้ แต่ถ้าเป็นเก้าอี้ชมวิวสักตัวกับโต๊ะกาแฟด้านข้าง ก็คงสบายๆละครับ
ิวิวหรือ … สำหรับผมเป็นบ้านตรงข้ามก็โอเคอยู่นะ 😀 มองคฤหาสน์ซึ่งกันและกันแต่คงจะมองไม่เห็นกันแน่ๆ อยู่ไกลกันเสียขนาดนี้
ห้องนอนใหญ่มีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนอื่นๆมาก วางเตียง King Size พร้อมกับโต๊ะข้างเตียงแล้วยังเหลือพื้นที่สบายๆ
ห้องแต่งตัวคงจะเป็น High Light สำหรับห้องนอนใหญ่เลย โดย Walk-in Closet มีขนาดเทียบเท่าห้องนอนในคอนโดมิเนียมห้องนึงเลยทีเดียว
เช่นเดียวกับห้องน้ำที่ได้ฟังก์ชั่นครบทุกอย่าง
อ่างอาบน้ำแบบจากุซซี่เข้ามุม
Counter Sink แบบ His & Her
ห้องอาบน้ำแยกและโถสุขภัณฑ์ขนาดใหญ่
ซึ่งแม้ว่าเป็นบ้านที่ไม่ได้มีถนนล้อมทุกด้าน แต่ตัวบ้านก็ไม่ได้ติดรั้วโครงการนะครับ มี Green Strip มาคั่นแบบนี้ล่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ ส่วนตัวในบ้านที่มีพื้นที่และบริเวณเพียงพอ
- สวนสาธารณะและพื้นที่่ส่วนกลางกว่า 40 ไร่
- ระบบ CCTV รอบโครงการ
- รั้วรอบโครงการสูง 3-5
- Key Card Access เปิดประตูด้านหน้า
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ เลื่อนไฟฟ้า 2 ชั้น
- สวนน้ำตกภายในโครงการและด้านหน้า
- ลำธารและศาลาริมน้ำ
- Golf Putting and Chipping Area
ราคาและเงื่อนไขการขาย @
- บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ราคา 44 – 120 ล้านบาท
- พื้นที่ใช้สอย 463 – 767 ตารางเมตร
- บ้านพร้อมโอน
- ค่าส่วนกลาง 20 บาท/ตร.วา/เดือน
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
ก่อนอื่นเราจะพูดถึงเรื่องราคากันก่อนเลย แน่นอนว่าเงิน 50 – 120 ล้านบาทนี้สามารถซื้อที่ดินแล้วปลูกบ้านเองได้ดีกว่า ใหญ่กว่า และสวยกว่าบ้านจัดสรรในหมู่บ้าน Granada แน่นอน แต่เราจะไม่มีทางได้ส่วนกลางระดับนี้ ทั้งเรื่องความปลอดภัย การออกแบบที่บ้านไม่ติดกับที่ดินข้างเคียง พื้นที่สีเขียวรอบโครงการ จำนวนต้นไม้ที่อยู่ภายใน การดูแลรักษาระดับท๊อป ตลอดจนสวนน้ำตก ลำธาร ศาลาริมน้ำและสนามชิพพัทกลอ์ฟอย่างที่เห็น และเรื่องที่สำคัญกว่าก็คือถ้าจะปลูกบ้านเองก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปีให้เสร็จสมบูรณ์ หรืออาจจะไหลไปถึง 3 ปีก็ได้ และต้องมานั่งปวดหัวกับการคุมงานเองในหลายๆส่วน แต่ถ้าซื้อบ้านจัดสรรแบบนี้ ก็มีคนคิดให้สำเร็จแล้วและพร้อมเข้าอยู่ได้เลยครับ ถ้าอยากจะต่อเติม หรือตกแต่งภายในเองก็จัดเสียหน่อย จ้าง Interior Designer และผู้รับเหมางานเล็กๆ ไม่ใช่เรื่องยากอะไรนะ
ถ้าเราจะอยู่อาศัยในหมู่บ้านระดับนี้ก็ต้องทำใจได้กับค่าดูแลสาธารณูปโภคส่วนกลาง ที่ต้องจ่ายกันไม่ต่ำกว่าปีละแสนสำหรับบ้านที่มีพื้นที่ 1 ไร่ ซึ่งด้วยเงินจำนวนนี้หากเอาไปเทียบกับการดูแลพื้นที่ส่วนกลาง 40 กว่าไร่รอบโครงการ ผมว่าก็ยังตึงๆอยู่เลย ถ้าจะทำให้สวยเหมือนปีแรกๆก็ต้องใช้คนงาน รปภ. และความเอาใจใส่อยู่ไม่น้อย ซึ่งเวลาผ่านมา 5 ปีจากวันที่เปิดโครงการ แล้วสภาพโครงการยังดูใหม่ สวยงาม อย่างที่เห็น ผมจัดว่าเป็นการดูแลที่ดีมากครับ
ต่อมาเป็นเรื่องของขนาดบ้าน ซึ่งผมมองว่าไม่ค่อยมีผลเท่าไร ปลูกบ้านใหญ่บนที่ดินที่เหลือเฟือก็ทำให้ต่อเติมได้อีกเยอะ บางหลังมีพื้นที่เหลือจะปลูกเรือนรับรองกันได้เลย ถ้าครอบครัวไหนใหญ่จัดก็สามารถปรับฟังก์ชั่นตามต้องการได้ไม่ยาก แต่ถ้าครอบครัวไหนเล็ก แล้วไม่ต้องการบ้านใหญ่ๆขนาดนี้ ก็ต้องเสียใจด้วยนะครับ Granada ไม่มีบ้านขนาดเล็กให้เลือก และอาจจะไม่เหมาะสมกับคุณล่ะ
ทำเลติดถนนใหญ่อย่างบรมราชชนนีและพุทธมณฑลสาย 3 แม้จะอยู่ห่างออกไปจากเมืองมากหน่อย แต่ก็ไม่ใช่ทำเลที่ขี้เหร่เสียทีเดียว เนื่องเพราะเป็นทำเลที่โดดเด่นเข้าออกได้ 2 ทาง และในอนาคตจะมีส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (MRT) บางแค-พุทธมณฑลสาย 4 ซึ่งสถานีที่อยู่ใกล้ก็คงจะไม่พ้นสถานีทวีวัฒนา ที่อยู่ถัดจากสถานีพุทธมณฑลสาย 2 มาอีกหนึ่งสถานีนะครับ
นอกจากเรื่องเงินระดับ 50-100 ล้านที่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนเกือบทั้งประเทศ ถ้าคุณไม่มีปัญหานี้ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจแล้วครับ ว่าทำเลบรมราชชนนีและพุทธมณฑลสาย 3 เหมาะสมกับคุณไหม บ้านสไตล์นี้ชอบไหม อยากอยู่ในหมู่บ้านแบบนี้ไหม หรือว่าจะเลือกซื้อที่ดินแล้วปลูกบ้านเอง … ทุกอย่างก็เป็นทางเลือกที่สามารถตัดสินใจได้ครับ
Judgement
โครงการระดับ Ultimate Luxury Project เราจะไม่มีการให้คะแนนนะครับ เนื่องจากเป็นโครงการที่มีความ Uniqueness สูง และไม่สามารถประมาณความคุ้มค่าทางด้านการเงินได้ครับ
BOTTOM LINE
ถ้าใครต้องการบ้านที่มีพื้นที่กว้างๆ สระว่ายน้ำส่วนตัว การดูแลโครงการระดับท๊อป ในงบ 50 ล้านบาทขึ้นไป ก็ต้องมาดู Granada เป็นตัวเปรียบเทียบละครับ
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ