รีวิวฉบับที่ 677 … สวัสดีเพื่อน Think Of Living หลังจากที่ทีมงานพาไปดูโครงการซีรี่ย์ Atoll มาแล้ว 5 โครงการ คราวนี้มาดูตัวสุดท้ายของซีรี่ย์นี้กันครับ Atoll Java Bay (เอโทล จาวา เบย์) ตัวโครงการอยู่ในซอย กิ่งแก้ว 19 ซึ่งเป็นทำเลในแหล่งอุตสาหกรรม แบบบ้านมีให้เลือกทั้งบ้านเดียวและบ้านแฝด มีจุดเด่นที่ให้ Club House ขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาแนวรีสอร์ท เน้นพื้นที่ส่วนกลางสวยๆ ヾ(^-^)ノ~♪
Fact @ 12 September 2014
- Atoll Java Bay (เอโทล จาวา เบย์)
- Ananda Development Public Company Limited.
- Segment : MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segmentได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
- เนื้อที่โครงการ 56 ไร่ 318 ยูนิต
- บ้านแฝด 2 ชั้น DH-120 พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
- บ้านแฝด 2 ชั้น DH-130 พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- บ้านเดี่ยว 2 ชั้น SH-140 พื้นที่ใช้สอย 140 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- บ้านเดี่ยว 2 ชั้น SH-180 พื้นที่ใช้สอย 180 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- บ้านเดี่ยว 2 ชั้น SH-195 พื้นที่ใช้สอย 195 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- ที่ดินแปลงมาตรฐาน 35 – 65 ตร.วาขึ้นไป
- ราคาเริ่มต้น 3.89 ล้านบาทหรือ 88,409 บาท/ตร.วา
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปลายปี 2558
- http://www.ananda.co.th/house/atoll/java-bay/index-en.php
- Call Center : 02-316-2222
- สำนักงานขาย : 02-170-7906
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ
พิกัด : 13.665876,100.713234
ทำเลโครงการ Atoll Java Bay นี้ตั้งอยู่บนถนนกิ่งเเก้ว ห่างจากถนนบางนาตราดประมาณ 1.2 กิโลเมตร ตัวถนนเชื่อมระหว่างลาดกระบัง บางนา-ตราด และเทพารักษ์ ต่อไปยังสมุทรปราการได้ เป็นถนนขนาด 4-8 ช่องทางจราจร หมู่บ้านละแวกนี้เกือบทั้งหมดเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ สำหรับคนที่ทำงานย่านชานเมืองหรือในละแวกใกล้เคียง ก็เดินทางจากจุดนี้ได้ไม่ลำบาก และตัวโครงการยังอยู่ไม่ไกลจากทางขึ้น-ลงทางด่วนบูรพาวิถี และมอเตอร์เวย์ ดังนั้นการเดินทางต้องพึ่งรถยนต์เป็นหลักอยู่แล้ว การเข้าเมืองถ้าจะไม่อยากวิ่งออกเส้นบางนาก็ใช้เส้นลาดกระบังไปเข้าพัฒนาการหรือมอเตอร์เวย์ก็ได้ครับ แต่ถ้าจะใช้รถไฟฟ้าก็ค่อนข้างลำบากหน่อยเพราะค่อนข้างไกล ตัวเลือกมีให้ 2 สายคือ ARL สถานีลาดกระบัง ก็ไม่ขึ้น BTS เส้นสีเขียวบานสุขุมวิทเอา
เส้นกิ่งแก้วนี่จะไม่มีห้างแบบ Magnet ต้องขยับมาทางเส้นบางนา ถึงจะมีตั้งแต่ห้างเล็กไปจนถึงห้างใหญ่, ศูนย์รวมวัสดุต่างๆ และโรงพยาบาล ค่อนข้างครบครัน รถราที่วิ่งบนถนนกิ่งแก้วส่วนใหญ่จะเป็นรถรถบรรทุก หรือรถที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเป็นหลัก เรื่องความอุมสมบูรณ์ของเส้นกิ่งแก้วก็มีของกินให้เลือกพอสมควรแต่จะเป็นแนวที่ตอบสนองต่อการใช้ชีวิตของหนุ่มสาวโรงงานซะเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากตัวโครงการอยู่ในซอยทำให้อาหารกินในระยะใกล้ๆเดินได้ไม่มีเลยนะครับ ถ้าจะเดินห้างก็ไป Mega Bangna จะสะดวกและครบครันสุดตอนนี้
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการในวงกว้างจะเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม แต่พอขยับจากถนนหลักเข้ามาด้านในก็จะเป็นที่อยู่อาศัยซะเป็นส่วนมาก ที่อยู่อาศัยบริเวณนี้จึงมีกลุ่มลูกค้าเป็นคนที่ทำงานในละแวกบางนา เทพารักษ์ หรือลาดกระบังเป็นหลักครับ เพราะไม่ต้องเดินทางไปกลับบ้านไกลๆ เหมือนคนที่ทำงานในเมือง ตัวโครงการจะอยู่ในซอย กิ่งแก้ว 19 ปากทางเข้าโครงการห่างจากถนนหลักประมาณ 720 เมตร มีคลองสาธารณะหน้าโครงการ
สำหรับใครที่กังวลเรื่องเสียงจากสนามบิน เท่าที่ผมลองเดินรอบๆใช้เวลาในโครงการอยู่ประมาณ 3-4 ชม.ก็ไม่ได้ยินเสียงเครื่องบินนะครับ อาจจะมีแบบจางๆอยู่บ้าง แต่ถ้าไม่ตั้งใจจะฟังก็ถือว่าเบาครับ ที่เป็นแบบนี้เพราะตำแหน่งที่ตั้งของโครงการไม่ได้อยู่ในแนว ขึ้น-ลง ของเครื่องบินโดยตรงแต่อยู่ด้านข้างเลยไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก แต่ถ้าเพื่อนๆผู้อ่านคนไหนอาศัยอยู่แถวนี้ก็มาแชร์ข้อมูลกันได้นะครับ เพราะคนที่อยู่แถวนี้จริงๆน่าจะให้ข้อมูลได้ดีกว่า ^_^
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ
การเดินทางวันนี้เส้นทางหลักใช้ถนนบางนา-ตราด แล้วเลี้ยวซ้ายไปเข้ากิ่งแก้วครับ
ถนนบางนา-ตราดเป็นถนนใหญ่ที่มีรถบรรทุกสินค้าวิ่งอยู่เป็นประจำ สองข้างทางมีห้างและเเหล่งชอบปิ้งใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นทรัลบางนา Mega Bangna,IKEA,Big C,โลตัส
ขับมาเรื่อย ๆ ตามเส้นทาง ด้านบนจะเป็นทางด่วนบูรพาวิถีครับ
จุดนี้คือโลตัสที่อยู่ไม่ไกลจากวงเเหวนกาญจนาฝั่งตะวันออกหรือถ้าจำง่าย ๆก็ไม่ไกลจาก Mega Bangna นั่นเองค่ะ
ขับตรงผ่านวงแหวนกาญจนาภิเษกไม่นานจะเริ่มเห็นป้ายชี้ทางเข้าถนนกิ่งเเก้ว ก็ให้ชิดซ้ายไปเข้าทางคู่ขนานครับ
จุดเข้าทางคู่ขนานบางนา – ตราดเพื่อเข้าถนนกิ่งเเก้ว ถ้าเลยจุดนี้ไปก็ต้องไปอ้อมไกลลลลลลลเลย
เริ่มเห็นป้ายร้านต่าง ๆ ที่บอกว่าเป็นกิ่งเเก้วกันแล้ว จุดนี้จะเป็นทางลงทางด่วนบูรพาวิถี ถ้าใครใช้ทางด่วนประจำก็ต้องลงทางลงลาดกระบัง-บางพลี
เตรียมชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าถนนกิ่งเเก้ว
เนื่องจากถนนกิ่งเเก้วเป็นเส้นทางผ่านในการขนบรรทุกสินค้าและมีโกดังสินค้า อยู่หลาย ๆ เเห่งจึงมีพี่ใหญ่อย่างรถบรรทุกใช้ถนนเส้นนี้เป็นหลัก ทำให้การจราจรจะมาติดขัดตรงนี้หน่อยครับ ยิ่งช่วงเวลาเร่งด่วนหรือเลิกงานติดหนักใช้ได้เลย
เริ่มเข้ามาถนนกิ่งเเก้ว จะเห็นว่ามีร้านค้ามากมายเลยทีเดียว
พี่ใหญ่ของเราก็มีจอดข้างทางบ้างเป็นระยะ แต่โชคดีที่พอเริ่มเป็นถนนกิ่งเเก้วก็จะเป็นถนน 6 เลนทำให้ลดเรื่องรถติดไปได้บ้าง
เเละเนื่องจากถนนกิ่งเเก้วมีร้านค้าและที่พักอาศัยอยู่เยอะ ดังนั้นสภาพการจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วน เข้างาน หรือเลิกงาน คนที่ทำงานในย่านนี้ก็จะออกมาพร้อมๆกัน รถก็จะติดกันมากหน่อยครับ อีกทั้งตอนขับรถใช่ว่าจะต้องระวังแต่พี่ใหญ่รถบรรทุกอย่างเดียว ต้องระวังน้องเล็กอย่างมอเตอร์ไซค์เเบบนี้ บางทีก็มีย้อนศรมาให้เห็นเหมือนในภาพครับ ปากซอยโครงการอยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 3.4 กม.
จุดสังเกตก่อนถึงซ.กิ่งแก้ว19 คือ ปั๊ม Esso ครับ
ปากทางเข้าจะมีป้ายโครงการตั้งไว้อย่างชัดเจน
ภายในซอยจะมีโรงงานและบ้านพักอาศัยตั้งอยู่เป็นระยะ ตัวถนนเป็นคอนกรีตอยู่ในสภาพดีวิ่งสวนกันได้สบายๆ
ก่อนถึงโครงการจะเจอสะพานข้ามคลองเล็กๆครับ
พอข้ามคลองมาแล้วด้านขวามือจะไม่ใช่พื้นที่ของโครงการนะ แต่เป็นอพาร์ทเม้นท์
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ (รวมระยะกลับรถแล้ว) เช่น
- Mega Bangna – 10.2 กม.
- Tesc Lotus – 15.8 กม.
- Paseo Mall – 8.9 กม.
- โรงพยาบาล บางนา 3 – 2.9 กม.
- โรงพยาบาล จุฬารัตน์ – 2.2 กม.
- สนามบินสุวรรณภูมิ – 12.3 กม.
ซุ้มทางเข้าของโครงการ ทำออกมาสวยแบบเรียบๆ แต่ชอบตรงที่ทำมาใหญ่และมีหลังคาคลุมเยอะดี เวลาฝนตกจะได้ไม่เปียกเวลาแตะบัตรผ่านาประตู ประตูของโครงการนี้จะมีทั้งรั้วกั้นไม้กระกด และบานเลื่อนไฟฟ้า สำหรับ CCTV กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการนะครับ
ถนนหลักภายในโครงการกว้าง 16 ม. และถนนภายในกว้าง 9 เมตร ภายในโครงการลงต้นไม้ไว้เยอะพอสมควรครับ ดูเขียวๆดี ด้านหน้าจะเป็นวงเวียน กับ Club House
Club House ของตระกูล Atoll เค้าจะทำมาให้ค่อนข้างใหญ่และออกแบบมาให้เป็นอารมณ์รีสอร์ททั้งหมด เพื่อให้ลูกบ้านรูกสึกว่าได้พักผ่อนๆจริงๆในวันที่ไม่ได้ทำงาน สำหรับโครงการนี้มาแนว Modern กว่าที่อื่นๆและดูทันสมัยกว่าพอสมควร
หันไปดูบรรยากาศภายในโครงการกันบ้าง ตอนนี้มีบางส่วนที่เริ่มสร้างเสร็จแล้ว
สำหรับบ้านที่อยู่ด้านข้าง Club House จะได้ต้นไม้หน้าบ้านเยอะหน่อยครับ
เอาหละ กลับมาดู Club Houseกันต่อ บริเวณทางเข้าจะมีหลังคาคลุมกันแดดมาให้บางส่วน
ตัวอาคารจะแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็น Lobby ซึ่งตอนนี้ทำเป็นสำนักงานขายอยู่ พอออกแบบมาให้ใช้วัสดุที่เป็นไม้เยอะๆก็ดูอบอุ่นน่าใช้งานดีนะ
บรรยากาศภายในสำนักงานขายได้กระจกสูงรับวิวสระว่ายน้ำเต็มตาดีครับ ;p
ส่วนที่ 2 ของอาคารจะเป็นห้อง Fitness ที่อยู่ชั้น 2 ที่เห็นเป็นระแนงบังแดดกันอยู่นั่นแหละครับ แต่เดี๋ยวเราไปดูสระว่ายน้ำกับสวนกันก่อนนะ
ตัวสระออกแบบมาให้มีการเล่นระดับ โดยมี Deck ให้เดิน หรือนั่งเล่นได้รอบ
สระว่ายน้ำจัดมาให้ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 8 x 25 เมตร แบ่งสระเด็ก, ผู้ใหญ่ และมีส่วน จากุชชี่ อยู่ปลายสุดของสระ แถมมีการเล่นระดับพื้นสูงขึ้นไปอีกหน่อยด้วย
มุมสวยๆอีกสักมุม จากสระว่ายน้ำหันไปทางตัวอาคารครับ
ทางลงสระว่ายน้ำจุดแรกจะเป็นทางลงสำหรับเด็ก และมีที่นั่งด้านข้างไว้ให้ผู้ปกครองดูและลูกหลานด้วย
ทางเข้าอีกส่วนจะเป็นบันไดลงไปทางเดินใต้น้ำ
เดินเลาะริมสระมาจะเห็นอาคารส่วนที่ 2 ที่เป็นห้อง Fitness อยู่ฝั่งตรงข้าม ด้านล่างมี Sunken Seating มาให้ด้วย
ปลายสุดของสระพื้นเฉลียงจะยกระดับขึ้นอีหน่อย
ด้านบนจะเป็นพื้นที่นอนอาบแดด และทางลงไปจากุชชี่
พื้นที่นั่งแช่น้ำก็มีเหลือเฟือครับ
วิวที่ได้ก็ประมาณนี้เลย สวยดีนะ และมีความเป็นส่วนตัวสูงด้วยเพราะเค้าลงไม้พุ่มเอาไว้ด้านข้างแน่นเลย
จากบนส่วนอาบแดดถ้ามองไปด้านหลังจะเห็นสวน และสนามเด็กเล่น เดี๋ยวเราค่อยไปดูกันนะครับ
เดินลงมาที่บ่อบัวต่อ
ทางเดินข้ามบ่อบัวตรงนี้ก็ออกแบบมาให้เก๋อยู่เหมือนกัน จากตรงจะเป็นทางไป สวนหย่อมและสนามเด็กเล่นครับ
ต้นไม้ตรงนี้เพิ่งลงไปไม่นาน อาจต้องรอสัก 3 – 5 ปีกว่าจะได้ร่มเงาที่ใช้งานได้
แฮ่!!….พื้นที่สนามเด็กเล่นจะมีเครื่องเล่นมาให้นิดหน่อย
วัสดุปูพื้นส่วนนี้จะเป็นยางสังเคราะห์ กันแรงกระแทก และกันลื่น ลองกดๆดูจะนิ่มๆหน่อยครับ
พื้นที่สวนจะมีทั้งที่นั่งพักผ่อนและ ลานสนามหญ้าให้เด็กๆวิ่งกันมันส์เลย
ปลายสุดของสวนจะมีศาลาพร้อมหลังคามาให้ เอาไว้นั่งชิวๆกินขนมเพลินๆในยามเย็นครับ
กลับเข้ามาในส่วนของตัวอาคารต่อเลย เอารูปภายในที่นั่งข้างบ่อบัวมาฝากอีกซักรูป
ตอนเย็นๆบรรยากาศดีๆ น่าพาแฟนมานั่งเล่นเนอะ ^_^
ตรงข้ามกับที่นั่ง จะเป็นห้องน้ำและตู้ล๊อกเกอร์ครับ
ตอนนี้เดินย้อนไปทาง Lobby นะครับ
ทางขึ้นไปยังชั้น 2
บนชั้น 2 ตอนนี้ด้านขวาเป็นที่ตั้งสำนักงานนิติบุคคล ส่วนด้านหน้าคือห้อง Fitness
ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ขนาดประมาณ 45 ตร.ม. ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 8 เครื่อง
ลักษณะห้องจะเป็นตัว L มีกระจกรับวิวรอบด้าน ด้านที่ติดกับสระว่ายน้ำมีระแนงบังแดดช่วยให้แดดไม่เข้าห้องนี้มากเกินไป ประหยัดค่าแอร์ด้วย
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 8 x 25 เมตร แบ่งสระเด็ก, ผู้ใหญ่ และ จากุชชี่
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ขนาดประมาณ 45 ตร.ม. ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 8 เครื่อง
- สวนสาธารณะ 760.37 ตร.วา
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ xxx จุด (อยู่ระหว่างดำเนินการ)
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
- Key Card Access ระยะใกล้
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก และ เลื่อนไฟฟ้า
- ถนนหลักกว้าง 16 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
แบบบ้านของโครงการนี้มีทั้งหมด 5 แบบ เป็นบ้านแฝด 2 แบบ บ้านเดี่ยว 3 แบบ แต่ผมจะพาไปดู 2 แบบนะครับ เพราะที่เหลือจะวางฟังก์ชั่นใกล้ๆกันต่างกันแค่ขนาดของตัวบ้านนิดหน่อย
แบบแรก DH-130 พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ชั้นล่างวางฟังก์ชั่นได้ครบ มีห้องนั่งเล่น โซนทานอาหาร และครัวขนาดหย่อมเยาว์ เป็นครัวเปิดแต่สามารถต่อเติมเป็นแบบปิดได้ง่ายแค่กั้นประตูเพิ่มเท่านั้นเอง ห้องน้ำชั้นล่างมีส่วนอาบน้ำมาให้ สำหรับชั้น 2 มี 3 ห้อง ห้องนอนใหญ่จะกินพื้นที่ครึ่งนึงของบ้าน และห้องน้ำมีให้แค่ห้องเดียว แต่ยังถือว่ามีความเป็นส่วนตัวให้ห้องนอนใหญ่อยู่ เพราะทำทางเข้าไว้ 2 ทาง
บ้านแฝดแบบนี้จะได้หลังคาที่จอดรถเพิ่มขึ้นมาแต่ถ้าเป็นแบบ DH-120 จะไม่มีมาให้ สังเกตความแตกต่างได้จากพื้นที่ระหว่างบ้านครับ
หน้าบ้านจริงแบบหลังเดียวจะเป็นแบบนี้ครับของจริงไม่มีสวนมาให้นะ
ส่วนนี้ก็เป็นพื้นคอนกรีตธรรมดาเอาไว้จอดรถได้ 2 คัน และมีห้องเก็บของใต้บันได
พื้นที่ข้างๆตัวบ้านเหลือไม่เยอะมาก ดูจากแนวเสาสีเทาเอานะครับ
ด้านหลังบ้านจะมีลานซักล้างปูกรเบื้องเซรามิคมาให้ ประตูกระจกที่เห็นจะตรงกับส่วนทานอาหารพอดี ถ้าอยากได้วิวสวยๆตอนกินข้าวก็จัดสวนเพิ่มเติมได้นะครับ
วนกลับมาหน้าบ้านอีกที เนื่องจากทางเข้าบ้านมีแค่ทางหลักทางเดียว เค้าเลยเว้นส่วนเฉลียงไว้เยอะหน่อย เอาไว้หลบฝนเวลาเข้าบ้าน
บานประตูหน้าบ้านจะได้เป็นบานกระจกอลูมิเนียม มือจับเป็นแบบธรรมดา มาตรฐานทั่วไปดูไม่ค่อยสมราคาบ้านเท่าไหร่
พื้นที่เปรียบเทียบระหว่างบ้านเปล่ากับบ้านตัวอย่าง พื้นบ้านได้เป็นพื้นแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม.
ห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้ แต่ถ้าจะวางใหญ่กว่านี้พื้นที่อาจจะเริ่มแคบไป
ระยะดูทีวีมีให้ 3 เมตร วางทีวี 50″ ได้ครับ ตำแหน่งของบันไดจะอยู่กลางบ้านพอดี
โต๊ะทานอาหรวางได้ 4 ที่นั่ง พื้นที่รอบๆก็มีเหลือให้เดินได้ ถ้าใครจะทำ Built-in ตู้วางของเก็บของก็ยังมีพื้นที่ให้ทำได้อยู่
บานประตูกระจกออกไปหลังบ้าน จริงๆแล้วเค้าทำเอาไว้รับแสงธรรมชาติกับดูวิวสวนมากกว่านะ
เพราะประตูออกจาครัวก็มีให้อีกบาน เนื่องจากเค้าออกแบบให้พื้นที่ครัวเป็นแนวยาวทำให้สะดวกต่อการกั้นเป็นครัวปิดเพิ่ม
เอาพื้นที่ครัวมาให้ดูเป็น Idea ครับ จะได้กะได้ว่าพื้นที่ใช้งานจริงวางอะไรได้บ้าง พื้นที่ประมาณนี้ก็ทำครัวหนักๆได้อยู่เหมือนกันนะ
บริเวณอ่างล้างจานมีช่องแสงเพิ่มมาให้ด้วย ถ้าใครต่อเติมครัวไทยด้านนอกก็เอาไว้ให้แฟนส่งของตอนทำกับข้าวได้นะครับ 5555
กลับมาดูห้องน้ำชั้นล่างต่อ ห้องน้ำชั้นล่าจะเป็นแนวยาวหน้าแคบหน่อย แต่ก็แยกส่วนเปียก-แห้งชัดเจน
อ่างใช้ของ Mogen และก๊อกใช้ของ Prema ขนาดเทียบกับมือผมก็อย่างที่เห็นครับ ประมาณกลางๆ ไม่ใหญ่ไม่เล็ก
ชุดโถสุขภัณฑ์ใช้ของ Cotto
บริเวณฝักบัวอาบน้ำมีเจาะช่องกำแพงเป็นชั้นวางของมาให้ ถ้าข้าวของไม่เยอะก็น่าจะพอใช้งานอยู่
พื้นห้องน้ำโซนเปียกจะมีธรณีกั้นมาให้ แต่การติดตั้งฉากกั้นอาจจะทำแล้วใช้งานไม่สะดวกเพราะระยะเปิดประตูมีมาให้น้อยไปหน่อย
พื้นบันไดใช้เป็นไม้ยางพาราประสานทำสีธรรมชาติ และไม่มีราวบันไดมาให้สำหรับช่วงแรก
ส่วนชานพักถือว่ายังดีเพราะได้เป็นแบบ 4 เหลี่ยมแต่ก็แอบมีซอยเป็นขั้นบันได้มาให้ขั้นนึงนะ
ช่องแสงเป็นบาน Fix 1 บานและบานเลื่อน 1 ชุด รูปนี้ถ่ายจากบ้านเปล่ามานะครับ
พื้นชั้น 2 เป็นพื้นไม้ลามิเนต
โถงบันไดมีพื้นที่ให้เดินได้สบายๆ แต่ไม่สามารถวางตู้โชว์เพิ่มได้
ห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องจะมีขนาดเกือบๆจะเท่ากันคือ 3 x 2.7 ม.และ 3.2 x 2.7 ม.แนะนำว่าถ้าใครมีลูกคนเดียวเอาห้องเล็กทำเป็นห้องสมุดหรือห้องทำงานจะดีกว่าครับ
ถ้าจัดเป็นห้องนอนก็มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าได้ประมาณนี้
ระยะปลายเตียงจะเหลือไม่เยอะ แต่ก็ยังพอใส่ชั้นวางทีวีได้อยู่ กำแพงในห้องตัวอย่างเค้าทำเพิ่มขึ้นมานะครับ ของจริงได้ผนังฉาบเรียบทาสีขาว
ห้องนอนเล็กควรจะเป็นห้องนี้มากกว่า ดูจากระยะเหลือปลายเตียง
จะเห็นว่ามีขนาดกว้างกว่า และมีขนาดพอให้ใส่โต๊ะเขียนหนังสือได้เลย
อีกด้านยังคงใส่ตู้เสื้อผ้าได้เหมือนเดิม
ต่อไปมาดูห้องน้ำและห้องนอนใหญ่นะครับ
ห้องน้ำชั้น 2 จะมีขนาดใหญ่ขึ้น ใช้งานได้สะดวกกว่า แต่ฉากกระจกกั้นก็ยังไม่มีมาให้นะครับ
อ่านล่างหน้าจะมาเป็นแบบเคาน์เตอร์สำเร็จรูปจาก Mogen ส่วนกระจกจะได้เป็นแบบ 4 เหลี่ยมธรรมดา
อุปกณ์ในห้องน้ำยังเหมือนเดิมครับ
ฝั่งตรงข้ามฝักบัวมีช่องแสงและราวแขวนผ้ามาให้
ระยะห่างระหว่างประตูทั้ง 2 บานมีมาให้พอสมควรไม่ต้องกลัวว่าจะเปิดชนกัน
พื้นที่ห้องนอนใหญ่สามารถทำตู้เสื้อผ้า Built-in เข้ามุมได้พอดี เพราะเค้าเว้นระยะเผื่อขนาดตู้มาให้แล้ว
กระจกเข้ามุมห้องที่เป็นระเบียงได้เป็นหน้าต่างบานใหญ่ ไม่ใช่ประตูแต่ก็ออกไปได้นะ พื้นที่มีไว้แค่วางคอมแอร์หรือกระถางต้นไม้เท่านั้นครับ
พื้นที่ห้องมีเยอะทำให้วางเตียงขนาด 6 ฟุตแล้วยังวางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะเขียนหนังสือเพิ่มได้อีกชุด
หน้าต่างสุดห้องที่เห็นจะตรงกับหลังคาที่จอดรถพอดี ทางโครงการเค้าทำกำแพงปูนกั้นระหว่างบ้านมาให้ จะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะบ้านข้างๆจะมองเห็นภายในบ้านเรา (แต่น่าจะเพิ่มความสูงของกำแพงอีกหน่อยนะ ยังแอบเห็นอยู่นิดๆเลย -___-‘)
พื้นที่ปลายเตียงแนะนำให้ติดทีวีแบบแขวนนะครับ เวลาเดินจะได้โล่งๆหน่อย ไหนๆก็ได้ห้องกว้างๆมาแล้ว
บ้านแบบที่ 2 เป็นบ้านขนาดใหญ่ SH-180 พื้นที่ใช้สอย 180 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ซึ่งตัวบ้านจะค่อนข้างคับที่ดินอยู่เหมือนกันเหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อนเน้นพื้นที่รอบๆบ้าน แต่อยากได้พื้นที่ใช้สอยเยอะ ขนาดที่ดินเริ่มต้นตั้งแต่ 50.4 ตร.วาขึ้นไป การจัดวางฟังก์ชั่นจะใกล้เคียงกับแบบแรกแต่ได้พื้นที่เพิ่มขึ้นมาในแต่ละส่วน ที่ต่างกันหน่อยก็จะเป็นตำแหน่งห้องน้ำถูกย้ายไปไว้ใต้บันได ห้องครัวได้ Pantry เพิ่มเป็น 2 ฝั่งได้ครัวปิดแยกส่วน ชั้น 2 ได้ห้องน้ำเพิ่มมา 1 ห้อง และห้องนอนใหญ่ได้เป็น 2 ห้อง
หน้าตาของบ้านจะเน้นช่องแสงค่อนข้างเยอะ และมีลูกเล่นตรงระเบียงชั้นบนเพิ่มมาให้ ทางเข้าบ้างจะได้ทางเข้าจากที่จอดรถเพิ่มขึ้นมาอีกจุด
พื้นหน้าบ้านทางเข้าหลักจะได้เฉลียงปูกระเบื้องเซรามิคสีเดียวกับกำแพง ทำให้ดูกลมกลืนกันดี ส่วนพื้นทรายล้างทำลวดลายแบบนี้ของจริงไม่มีให้นะครับ
บานประตูยังคงให้มือจับหน้าตาธรรมดาแบบเดิม ดูไม่ค่อยสมกับตัวบ้านเท่าไหร่
พื้นที่ห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับโซนทานอาหารจะได้เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 7.2 x 5.4 เมตร การตกแต่ภายในก็สามารถจัดเต็มแบบ้านตัวอย่างได้เลย
ประตูด้านข้างจะเป็นช่องเปิดไว้รับแสงและเป็นทางออกไปด้านข้างของตัวบ้าน ส่วนช่องที่เห็นอยู่ติดกับประตูเอาไว้ซ่อนคอมเพรสเซอร์แอร์
ภายในบ้านตัวอย่างเค้าจัดชั้นวางหนังสือเอาไว้เต็มพื้นที่กำแพงเลย ถ้าใครชอบแบบนี้ก็เอาไปลองทำดูได้ครับ
ระยะดูทีวีมีเหลือให้วางโต๊ะกลางได้สบายๆ
เนื่องจากชั้นล่างเค้าทำช่องแสงไว้ค่อนข้างเยอะ และให้มารอบด้านเลย ดังนั้นควรเลือกผ้าม่านที่มีคุณภาพในการใช้งานและกันแสงกับ UV นะ ไม่งั้นร้อนตับแลบแน่ๆ
มุมนี้จะวางโต๊ะทำงาน กับ โต๊ะอาหาร แบบนี้ หรือจะวางเป็นโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ 8 ที่นั่งก็ได้ครับ
สำหรับการใช้งานห้องนี้ถ้าใครกลัวเปลืองค่าแอร์ก็ทำประตูกั้นระหว่างห้องนี้กับทางขึ้นชั้น 2 เพิ่มได้ครับ
ภายในห้องครัวจะได้พื้นที่เยอะมาก ทำครัวได้สบายๆ ไม่ต้องต่อเติมครัวไทยเพิ่มเลย
ภายในห้องนี้จะมีหน้าต่างมาให้จุดเดียว ประตูที่เป็นทางออกไปยังลานซักล้างหลังบ้าน
ตรงนี้เอาไว้วางเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าได้
ห้องน้ำจะอยู่ใต้บันไดทางขึ้นชั้น 2 ขนาดก็ไม่ต่างจากแบบแรกเท่าไหร่ และต้องเดินบันไดลงไป 3 ขั้น
ตัวอ่างล่างหน้าจะได้ของ Mogen ทั้งชุดแบบนี้รวมถึงหน้าต่างด้วยนะครับ
มีกำแพง Low Wall มาให้ แต่ไม่มีโซนอาบน้ำมาให้เป็นแค่ห้อง Powder Room ครับ
ขึ้นมาดูชั้น 2 กันต่อ พอบ้านมีพื้นที่พอชานพักบันไดก็ได้แบบ 4 เหลี่ยมผืนผ้าอย่างที่ควรจะเป็นซักที
ช่องแสงได้แบบบานใหญ่และเป็นบานเปิดแบบกระทุ้งแค่ช่องเดียว
โถงทางเดินกว้างพอให้วางตู้โชว์ตรงกลางได้เลยนะ
ห้องนอนเล็กหรือห้องอเนกประสงค์มีขนาด 4.2 x 2.8 เมตร ถ้าทำเป็นห้องทำงานก็ได้พื้นที่ประมาณนี้
โต๊ะเขียนหนังสือทำแบบเข้ามุมห้องจะดูเรียบร้อยและน่าใช้งานขึ้น
ห้องน้ำได้ชุดสุขภัณฑ์ต่างๆแบบเดียวกัน แต่ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าฝ้าเพดานของบ้านหลังนี้จะค่อนข้างสูง ทำให้ตัวบ้านดูโปร่งและกว้างมากขึ้น ระดับฝ้าจะอยู่ที่ 2.8 เมตร ส่วนบ้านแฝดอยู่ที่ 2.5 เมตร
ตัวโถสุขภัณฑ์วางสลับด้านกับอ่างล้างหน้า
พื้นที่อาบน้ำจะเป็นช่องแยกเข้าไปต่างหาก ตรงนี้ติดฉากกั้นได้ไม่ยากครับพื้นที่มีเหลือๆ
อุปกรณ์ต่างๆยังเหมือนเดิมเป๊ะๆ แต่ดันให้ช่องวางของมาน้อยไปหน่อย
เดี๋ยวไปดูห้องนอนใหญ่ทั้ง 2 ห้องกันต่อครับ
ห้องแรกจะอยู่ตรงข้ามห้องน้ำพอดีมีขนาด 4 x 5.5 เมตร ห้องนี้มีข้อด้วยกว่าอีกห้องตรงที่ไม่มีห้องน้ำในตัว
พื้นที่วางตู้เสื้อผ้าทำ Built-in ได้เต็มที่
ช่องแสงก็ยังให้มาเยอะเหมือนเดิม รูปนี้ถ่ายจากบ้านเปล่าครับ
สำหรับห้องสุดท้าย จะเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัวและมีพื้นที่ระเบียง
เทียบกับบ้านเปล่า จะเห็นว่าได้บานประตูกระจกขนาดใหญ่เลย ถ้าใครเลือกบ้านตรงกับสวนก็ได้วิวสวนไปด้วยครับ
ตรงระเบียงสามารถวางโต๊ะเก้าอี้เล็กไว้นั่งเล่นได้ เพราะกว้างประมาณ 1.4 เมตร
ระยะเหลือหลังจากวางเตียง 6′ กับ Daybed 1 ตัว
พื้นที่วางทีวีสามารถทำ Built-in เพิ่มโต๊ะเครื่องแป้งไปได้เลย
เพราะอีกด้านจะได้เอาพื้นที่ไปทำตู้เสื้อผ้าแบบนี้
ชุดสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ของห้องน้ำภายในห้องนอนใหญ่ก็เหมือนกับห้องรวมครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 12 September 2014
- DH120 ยูนิต 248 พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม. ที่ดิน 44.4 ตร.วา ราคา 3.89 ล้านบาทหรือ 87,612 บาท/ตร.วา
- DH120 ยูนิต 265 พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. ที่ดิน 49.6 ตร.วา ราคา 4.39 ล้านบาทหรือ 88,508 บาท/ตร.วา
- SH140 ยูนิต 304 พื้นที่ใช้สอย 140 ตร.ม. ที่ดิน 52.7 ตร.วา ราคา 4.89 ล้านบาทหรือ 92,789 บาท/ตร.วา
- SH180 ยูนิต 191 พื้นที่ใช้สอย 180 ตร.ม. ที่ดิน 50.4 ตร.วา ราคา 5.49 ล้านบาทหรือ 108,928 บาท/ตร.วา
- SH190 ยูนิต 144 พื้นที่ใช้สอย 195 ตร.ม. ที่ดิน 74.8 ตร.วา ราคา 7.09 ล้านบาทหรือ 94,786 บาท/ตร.วา
- จอง 20,000 – 30,000 บาท
- ทำสัญญา 135,600 – 253,600 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 40,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
โครงการ Atoll Java Bay เป็นโครงการที่อยู่ในทำเลชานเมือง เนื่องจากเป็นพื้นที่แบบอุตสาหกรรมและพักอาศัย จึงทำให้ย่านนี้ความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างครบ ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร แต่เป็นแบบที่ตอบสนองต่อการใช้ชีวิตของหนุ่มสาวโรงงาน แต่ถ้าอยากจะเดินห้างก็ต้องไปเส้นบางนะจะดีกว่าเพราะห้างใหญ่ๆจะไปเปิดบนเส้นนี้กันหมดที่ใกล้และครบครันที่สดน่าจะเป็น Mega Bangna ครับมีทั้งห้างให้เดินและ Big C ให้ซื้อข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน หรือถ้าอยากหาของกินอื่นๆก็ไปบนเส้น ลาดกระบังก็ได้ ตรงนั้นก็มีร้านให้เลือกเยอะและมี Paseo Mall ตั้งอยู่ด้วย
การเดินทางเข้าออกนั้นไปได้หลายทาง ค่อนข้างสะดวก แต่จะมีปัญหารถที่ติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วนเนื่องจากมีโรงงานและ โกดังสินค้าตั้งอยู่เยอะ ทำให้มีรถบรรทุกวิ่งกันตลอด พอมีรถใหญ่วิ่งเยอะความเร็วในการสัญจรก็ลดลงทำให้จุดที่จะเข้าเส้นบางนา-ตราดไม่คล่องตัวมากนัก เนื่องจากจุดนั้นเป็นช่วงเลี้ยวเเคบ รถใหญ่อย่างบรรทุกต้องมีระยะเลี้ยวกว้างดังนั้นคงต้องระวังกันหน่อยครับ การเข้าออกเมืองถ้าจะไปทางโซนสุขุมวิท-พระราม 4 ก็ใช้เส้นบางนา-ตราด ถ้าจะไปทางเพชรบุรี พระราม 9 ก็ไปใช้เส้นลาดกระบังจะสะดวกกว่า ทางด่วนที่ใกล้จะมีทางด่วนบูรพาวิธี ทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก และ Motorway
ทางเข้าโครงการไม่ได้อยู่แบบติดถนนใหญ่แต่ต้องเข้าซอยไปประมาณ 720 เมตร ก็ถือว่าและกันระหว่างระยะทางกับความสงบครับ จะได้ไม่ต้องได้ยินเสียงรถบรรทุกวิ่งผ่านไปมา และฝุ่นละอองก็จะลดลงไปตามลำดับ ส่วนเรื่องเสียงเครื่องบิน เท่าที่สังเกตตอนถ่ายภาพทำรีวิวอยู่หลายชั่วโมง ก็ไม่ได้ยินเสียงเครื่องบินนะครับ ตรงนี้มีเพื่อนๆคนไหนอาศัยอยู่แถวนี้ก็มาแชร์ข้อมูล ว่ามีเสียงเครื่องบินเยอะรุเปล่า มีช่วงไหนบ้าง เผื่อคนที่สนใจโครงการนี้จะได้ตัดสินใจถูก
โครงการขายแบบบ้านเปล่าและวัสดุก็ให้มาแบบมาตรฐาน พื้นชั้นล่างได้เป็นแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. โคมไฟมีทั้งแบบ ซาลาเปา และ ดาวน์ไลท์ ปนๆกันไป ห้องน้ำชั้นล่างได้อ่างล้างหน้าแบบไม่มีเคาน์เตอร์แต่ชั้น 2 จะได้เคาน์เตอร์สำเร็จรูปจาก Mogen พื้นเฉลียงและระเบียงได้พื้นกระเบื้องเซรามิคสีเทาเขัากับกำแพงบ้าน พื้นชั้น 2 ได้พื้นไม้ลามิเนต ตัวบ้านได้บานประตูและหน้าต่างขนาดใหญ่ กรอบอลูมิเนียม แต่มือจับดูธรรมดาไปหน่อย
สาธารณูปโภคของถือว่าเป็นจุดเด่นของโครงการและดูคุ้มค่าเมื่อเทียบกับบ้านระดับไม่เกิน 4 ล้าน หรือบ้านเล็กสุด เพราะได้ส่วนกลางที่ใหญ่และสวย มีรายละเอียดในการออกแบบ มีต้นไม้ลงมาให้เยอะพอสมควร ได้สระว่ายน้ำ 1 สระระบบเกลือ ขนาด 8 x 25 เมตร แบ่งสระเด็ก, ผู้ใหญ่ มีโซนจากุชชี่กับพื้นที่อาบแดดมาให้เพิ่มด้วย ห้องออกกำลังกายอยู่ที่ชั้น 2 ขนาดประมาณ 45 ตร.ม. มีกระจกรอบด้านช่วยให้ได้วิวสระว่ายน้ำกับสวน มีสนามเด็กเล่นและสวยหย่อมขนาด 760 ตร.วา ระบบรักษาความลอดภัยมี Key Card Access และประตูรั้ว 2 ระบบ รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร น่าเสียดายที่ไม่มีระบบกันขโมยติดมาให้ด้วย สำหรับระบบ CCTV ยังอยู่ระหว่างดำเนินการครับ
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 3.9 – 6.8 ล้านบาท, 12 September 2014
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่ในซอยกิ่งแก้ว ย่านบานนาโซนอุตสาหกรรม
- ความปลอดภัย 7.0/10 – รั้วกั้นไม้กระดก, รั้วสูง 3 ม., CCTV (ระหว่างดำเนินการ ถ้าเสร็จจะบวกให้เป็น 7.5)
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.0/10 – แบบบ้านลงตัวดี ต่อเติมครัวปิดได้ง่าย
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.0/10 – โครงการใหญ่ มีพื้นที่สีเขียวมาก ออกแบบ Landscape ได้ดี
- สาธารณูปโภค 9.0/10 – Club House ใหญ่และสวยสไตล์รีสอร์ท มีสวนหย่อม
- 7.70 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการ Atoll Java Bay (เอโทล จาวา เบย์) เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง เน้นการใช้งานพื้นที่ในบ้าน ไม่เน้นพื้นที่นอกบ้าน ชอบใช้ส่วนกลางเน้นบรรยากาศชิวๆ อารมณ์รีสอร์ท เอาไว้พักผ่อนหย่อนใจหลังจากการทำงาน มีงบประมาณ 3.9 – 6.8 ล้านบาท มีกำลังผ่อนประมาณ 27,000 – 57,000 บาท/เดือน
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
(ノ´ヮ´)ノ*:・゚✧