รีวิวโครงการ Artique รามคำแหง บ้านเดี่ยวระดับ 10 ล้านปลายๆ อีกหนึ่งโครงการในย่านรามคำแหงที่เราอยากให้ทุกคนได้ชม เพราะบ้านของที่นี่มีดีไซน์ Modern จ๋าๆ สะดุดตา ซึ่งแตกต่างจากโครงการอื่นๆ ในละแวกนี้เลยค่ะ …Artique รามคำแหง เป็นโครงการที่มีหลายประเด็นน่าสนใจเราจึงสรุป Highlights ออกเป็นข้อๆ ดังนี้ค่ะ

• เดินทางสะดวก : ทำเลของโครงการนี้ตอบโจทย์การเดินทางของทั้งคนที่ใช้และไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัว เพราะอยู่ในซอยไม่ลึกมาก ยังพอเดินไหวหรือเรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์ก็ได้ และในอนาคตก็สามารถเดินหรือนั่งพี่วินมอเตอร์ไซค์ไปขึ้นรถไฟฟ้าที่อยู่หน้าปากซอยได้ค่ะ
• ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย : โครงการออกแบบมาให้มีจำนวนยูนิตไม่เยอะนักเพียง 21 ยูนิต และเป็นโครงการที่ให้ระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Double Security พร้อม Facility ครบครันแต่อาจจะไม่ได้มีขนาดใหญ่นัก ตามจำนวนยูนิตของโครงการนะคะ
• บ้านสไตล์ Modern :  ออกแบบมาเอาใจคนยุคใหม่ที่ชอบความทันสมัย ชอบบ้านโมเดิร์น ใช้ดาดฟ้าแทนหลังคา หรือเรียกง่ายๆ ว่า “บ้านทรงกล่อง” เหมาะกับครอบครัวที่ชื่นชอบบ้านที่ใช้ผนังกระจกบานใหญ่เยอะๆ แถมสามารถ Customize วัสดุบางส่วนภายในบ้านได้
• รองรับ 3 Generations : บ้านทุกแบบในโครงการมีห้องนอนที่ชั้นล่าง รองรับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุค่ะ

เราไปชมบรรยากาศจริงของโครงการ พร้อมบทสรุปของโครงการในตอนท้ายกันเลยค่ะ

ข้อมูลโครงการ

Artique Ramkhamhaeng (อาร์ทีค รามคำแหง) ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2564

ทำเลโครงการ Artique รามคำแหง น่าสนใจอย่างไร

พิกัด Google Maps : 13.792875, 100.713776
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 166 ที่ห่างจากหน้าถนนรามคำแหงประมาณ 550 m. อยู่ในโซนรามคำแหงตอนปลายที่ใกล้จะถึงมีบุรีแล้วนะคะ ซึ่งจุดเด่นของโซนนี้ก็คือกำลังจะมีรถไฟฟ้ามาถึง 3 สายด้วยกัน โดยจะมีสถานีมีนพัฒนาของสายสีส้มที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุด (มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2024) ซึ่งสามารถไป Interchange กับสายสีเหลืองบริเวณแยกลำสาลี และสายสีชมพูที่แยกมีนบุรีได้

สำหรับแหล่งรวมความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้คงต้องไปพึ่งพิงร้านรวงและห้างฯ ต่างๆ ที่อยู่ในโซนรามคำแหงตอนต้น แต่ไม่ใช่ว่ารอบๆ โครงการแห้งแล้งนะ เพราะในซอยที่ตั้งโครงการเองก็เป็นชุมชนเดิมจึงมีร้านขายของ ขายอาหารเยอะมาก รวมถึงปัจจุบันก็มี Hypermarket มาเปิดให้ช้อปปิ้งเพิ่มเติมกันอีกด้วย ความพิเศษของซอยที่ตั้งโครงการคือเค้าทะลุถึงกันตั้งแต่ซอย 164 ถึง 170 จึงสามารถลัดเลาะเชื่อมถึงกันได้โดยไม่ต้องออกไปเผชิญรถติดบนถนนใหญ่ก็สามารถที่ช้อปปิ้งของใช้จำเป็น+ซื้อกับข้าวได้ครบถ้วน

ในส่วนของสถานีรถไฟฟ้าตอนนี้กำลังก่อสร้างอยู่นะคะ ถ้าใครผ่านไปผ่านมาก็จะเห็นว่าอยู่ตรงหน้าปากซอยรามคำแหง 166 เลย มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 550 m. ก็สามารถเรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์เข้ามาที่โครงการได้ในราคาประมาณ 15 บาทเท่านั้นเอง จึงเป็นทำเลที่ตอบโจทย์ทั้งคนใช้รถยนต์ส่วนตัวและคนที่นิยมใช้รถสาธารณะค่ะ

เทียบกับเพื่อนๆ โครงการระดับราคาใกล้ๆ กันที่ 10 ล้านขึ้นไปแล้ว จะเห็นว่าโครงการ Artique รามคำแหงนั้นมีระยะเข้าจากถนนรามคำแหงน้อยที่สุด และใกล้กับสถานีรถไฟฟ้ามากที่สุดกว่าบรรดาโครงการบ้านหรูในย่านนี้ การเดินทางที่สะดวกจึงนับเป็นจุดเด่นที่สำคัญของโครงการทีเดียว

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Tesco Lotus สุขาภิบาล 3
• Big C สุขาภิบาล 3
• Paseo Town

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาล เสรีรักษ์
• โรงพยาบาล นพรัตนราชธานี

โรงเรียน

• โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า
• โรงเรียนนานาชาติ ร่วมฤดี

อื่นๆ

• รถไฟฟ้าสถานีมีนพัฒนา (ในอนาคต)

โครงการ Artique รามคำแหง แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร

อย่างที่ทราบกันว่าในย่านนี้มีหลายโครงการที่อยู่ในระดับราคาใกล้เคียงกัน ซึ่งมีรายละเอียดในหลายประเด็นทีเดียวที่อยากจะเล่า เราจึงขอแยกอธิบายออกเป็น 2 หัวข้อใหญ่ๆ คือ การออกแบบโครงการ และการออกแบบตัวบ้าน นะคะ

การออกแบบโครงการ Artique รามคำแหง

• โครงการ Artique รามคำแหงเป็นโครงการขนาดเล็กที่มีจำนวนยูนิตเพียง 21 ยูนิตเท่านั้น น้อยสุดในบรรดาโครงการละแวกนี้ จึงเหมาะกับครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง Privacy เป็นลำดับแรกๆ
• อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ระบบความปลอดภัยแบบ Double Security โดยจะมีป้อมรปภ. ดูแลอยู่ด้านหน้าสุดติดกับถนนซอย พร้อมแผงกั้นล้อเลื่อนที่ใช้ในเวลากลางวัน และประตูล้อเลื่อนที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในช่วงเวลาเย็นๆ – กลางคืน ขยับเข้ามาจึงจะมีประตูเปิดปิดอีกชั้นหนึ่งเพื่อเข้าสู่โซนพักอาศัย เราสามารถผ่านเข้า-ออกด้วยระบบ Easy Pass เหมือนเวลาขึ้นทางด่วนนะคะ

• สำหรับเรื่อง Facility ส่วนกลางของโครงการ ให้ฟังก์ชันหลักๆ มาครบครันนะคะ เป็นอาคาร Clubhouse 2 ชั้น ที่ภายในมี Lobby สำหรับใช้รับรองแขกได้ ในกรณีที่ไม่สะดวกพาแขกเข้าไปในบ้าน มี Fitness, Co-Working Space บนชั้น 2 ส่วน Outdoor ก็จะมีสวนและสระว่ายน้ำที่แยกสระเด็กไว้เรียบร้อยแต่ขนาดจะไม่ใหญ่นัก ก็เป็นไปตามไซส์ของโครงการนะคะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย
• สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาดประมาณ 10.7 x 4.4 m. ลึก 1.2 m. ภายในแบ่งเป็นสระเด็ก
• ห้องออกกำลังกาย
• Lobby
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ
• ระบบ CCTV
• ถนนหลักกว้าง 9 เมตร
• Double Gates
• Key Card Access ระยะไกล
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor ทุกหลัง

การออกแบบบ้าน Artique รามคำแหง

ความน่าสนใจของการออกแบบบ้านในโครงการ Artique รามคำแหง เรามองว่ามันมีเรื่องหลักๆ อยู่ 2 ประเด็น ประเด็นแรก คือ การออกแบบหน้าตาและฟังก์ชันบ้าน ที่มาในสไตล์ Modern จ๋าๆ ดูทันสมัยต่างกับโครงการอื่นในละแวกนี้ และ ประเด็นที่ 2 คือ เราสามารถ Customize เลือก ชนิดและสีของวัสดุบางส่วนภายในบ้านได้ เพื่อให้บ้านแต่ละหลังตรงกับความต้องการของผู้อยู่อาศัยที่สุด โดยมีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ คือ Remarque และ Revoque ตามรายละเอียดนี้

• Remarque บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐานประมาณ 80 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 360 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 18.5 ล้านบาท
• Revoque บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐานประมาณ 70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 309 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 16.49 ล้านบาท

ประเด็นแรก : การออกแบบหน้าตาและฟังก์ชันบ้าน

ก่อนอื่นอยากให้ทุกคนสังเกตที่หน้าตาภายนอกกันก่อนว่า บ้านโครงการนี้ดู Modern สุดในย่านนี้ เป็นอาคารทรงกล่อง ใช้ผนังกระจกบานใหญ่ๆ แบบที่คนยุคใหม่เค้าชอบกัน ไม่ได้มีการใช้หลังคาจั่วทรงโบราณยื่นขึ้นมาให้เห็นจะเป็นดาดฟ้าแบบ Flat Slab แทน นั่นก็ต้องยอมรับว่าการระบายน้ำทำได้ไม่เท่ากับหลังคาปกติ แต่โครงการก็ได้ใช้วัสดุ PU ทากันซึมชนิดไร้รอยต่อ มีคุณสมบัติกันน้ำ, ปกปิดรอบแตกร้าวและทนต่อสี UV เคลือบบนดาดฟ้าไว้อีกชั้น

แม้ว่าภายนอกจะดูคล้ายๆ กัน แต่ทั้ง 2 แบบนี้ถูกออกแบบมาให้ฟังก์ชันภายในต่างกันพอสมควรทีเดียว ในความเห็นของเราคิดว่าคนที่ชอบแบบ Remarque คือ กลุ่มที่รักความเป็นส่วนตัวมากๆ โดยเน้นให้พื้นที่นั่งเล่น+ทานอาหาร ซึ่งเป็นส่วนพักผ่อนหลักของตัวบ้านอยู่ติดฝั่งด้านหลังบ้านทั้งหมด ในขณะที่แบบ Revoque จะมี Court กลางบ้านเหมาะสำหรับครอบครัวที่ชอบจัดปาร์ตี้ แขกไปใครมาก็เข้าถึงโซนปาร์ตี้ได้สะดวก โดยไม่รบกวนพื้นที่พักผ่อนส่วนอื่นๆ ในตัวบ้านค่ะ

– แบบบ้าน Remarque –

แบบ Remarque บ้านไซส์ใหญ่ของโครงการ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีขนาดพื้นที่ใช้สอยเยอะถึง 360 ตร.ม. เหมาะกับครอบครัวที่ชอบให้ Common Area ได้ความเป็นส่วนตัว

ชั้น 1 – จอดรถได้ถึง 3 คัน ฟังก์ชันชั้นล่างจัดเป็น Common Area ที่ออกแบบให้เหมาะกับครอบครัวที่รักความเป็นส่วนตัว ตัวบ้านมีจุดที่น่าสนใจหลายจุด เราจะอธิบายไปทีละหมายเลข 1-5 ที่ Mark ไว้ในแปลนนะคะ

หมายเลข 1 ความเป็นส่วนตัวบริเวณ Common Area ของตัวบ้าน เป็นจุดเด่นที่เห็นชัดสุด เพราะทางโครงการตั้งใจวางตัวบ้านไว้ชิดรั้วหน้าบ้านเพื่อให้สวนหลังบ้านได้พื้นที่กว้างมากที่สุด จากนั้นก็จัดตำแหน่งมุมนั่งเล่น+มุมทานอาหาร ซึ่งเป็นมุมพักผ่อนหลักของสมาชิกในบ้านให้อยู่ติดกับสวนหลังบ้าน ได้วิวสวนและสามารถเปิดเชื่อมพื้นที่ Indoor – Outdoor ได้ จึงไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์ตลอดทั้งวัน เหมาะกับครอบครัวที่ชอบธรรมชาติ

หมายเลข 2 การออกแบบพื้นที่เป็น Double Volume ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง ชั้นบนและชั้นล่างสามารถมองเห็นกันได้ ทำให้ตัวบ้านดูไม่อึดอัด

หมายเลข 3 Multi-Purpose Room สามารถจัดเป็นพื้นที่คุยงาน, รับแขก หรือใช้เป็นห้องทำงานก็เหมาะกับยุค Work From Home ซึ่งดีไซน์ของห้องนี้ก็จะได้กระจกบานใหญ่ เปิดรับวิวสวนรอบๆ บ้านได้เช่นกัน

หมายเลข 4 รองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุเพราะ มีห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำในตัว โดยโครงการจะมี Eldery Package ให้สามารถเพิ่มเงินเพื่อตอบโจทย์ผู้สูงอายุได้ เช่น เปลี่ยนวัสดุปูพื้นเป็น Absorption Floor เพื่อลดแรงกระแทก อีกประเด็นคือตำแหน่งของห้องนอนอยู่บริเวณหน้าบ้านทำให้เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถออกประตูทางฝั่งหน้าบ้านได้สะดวก

หมายเลข 5 การจัดพื้นที่ส่วนของ Maid แยกออกจากพื้นที่ของตัวบ้านหลักอย่างเป็นสัดส่วน เจ้าของบ้านจึงสามารถควบคุมได้ว่าจะให้แม่บ้านเข้าออกบ้านในช่วงเวลาไหน อย่างเช่นในช่วงที่ทุกคนไปต่างจังหวัดกันหมด ก็อาจจะล็อกบริเวณตัวบ้าน ให้แม่บ้านอยู่แค่โซนของตัวเองที่ด้านหลังก็ได้ เพราะโซนแม่บ้านเองก็ให้ฟังก์ชันห้องมาครบทั้งห้องนอน ห้องน้ำ ห้อง Laundry และครัวไทย

ชั้น 2 – เป็นพื้นที่พักผ่อนทั้งหมด แบ่งออกเป็น 3 ห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง และมี Family Area สำหรับนั่งเล่นได้อีกมุมหนึ่ง จุดที่น่าสนใจเรา Mark ไว้ที่หมายเลข 6-9 ค่ะ

หมายเลข 6 มี Family Area เป็นพื้นที่พักผ่อนบนชั้น 2 อีกจุดหนึ่ง หากคุณพ่อคุณแม่รับแขกที่ชั้นล่าง คุณลูกก็มีพื้นที่ชั้นบนให้พักผ่อนได้เป็นสัดส่วนค่ะ

หมายเลข 7 Master Bedroom จะมีผนังบ้านบางส่วนที่เป็นกระจกบานใหญ่ออกแบบมาให้เปิดออกได้ เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก ดูๆ ไปก็เหมือนจะเป็นประตูระเบียง แต่จริงๆ แล้วเป็นดีไซน์เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานนะคะ ทำให้บ้านมี Gimmick ที่สามารถเปิดประตูบานใหญ่รับลมได้กว้างๆ เลยทีเดียว

หมายเลข 8 Walk-in Closet ภายใน Master Bedroom จะอยู่ภายในห้องน้ำเลย เป็นตำแหน่งที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยๆ นะคะ ซึ่งการรวมพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำเข้าไปอยู่ด้วยกันก็ทำให้ใช้งานง่ายดี แบ่งเป็นโซนไว้ชัดเจน แต่สิ่งที่ต้องระวังนิดนึงคือความชื้นภายในห้องน้ำจะเยอะหน่อย เวลาจะ Built-in ตู้เสื้อผ้าเค้าไปใส่ก็ปรึกษากับ Interior ดีๆ ว่าเอาวัสดุที่ทนความชื้นแบบจริงจังนะคะ

หมายเลข 9 ห้องนอนรองของโครงการมีอยู่ 2 ห้อง ขนาดพอๆ กัน ส่วนที่เราชอบคือทั้ง 2 ห้องนี้มีความแตกต่างกัน เราคิดว่า Bedroom 2 ตอบโจทย์ลูกชาย ได้พื้นที่โซนพักผ่อนกว้างหน่อยแต่ห้องน้ำกระทัดรัด ส่วน Bedroom 3 ตอบโจทย์ลูกสาวเพราะมีห้องน้ำที่กว้างกว่า มีมุมแต่งตัวดูเป็นสัดส่วน แต่พื้นที่วางเตียงนอนก็จะไม่เท่ากับห้องลูกชายนะคะ

– แบบบ้าน Revoque –

ถัดมาที่ไซส์บ้านขนาดย่อมลงมาหน่อยกับแบบ Revoque พื้นที่ใช้สอย 309 ตร.ม. เหมาะกับครอบครัวที่ชอบให้มี Court กลางบ้าน เหมาะกับการจัดปาร์ตี้

ชั้น 1 – จอดรถได้ 2 คัน ฟังก์ชันชั้นล่างจัดเป็น Common Area ล้อม Court บริเวณกลางบ้านไว้ และมีห้องนอนที่ชั้นล่างอีกเช่นกัน ตัวบ้านมีจุดที่น่าสนใจหลายจุด เราจะอธิบายไปทีละหมายเลข 1-5 ที่ Mark ไว้ในแปลนนะคะ

หมายเลข 1 จุดเด่นของบ้านนี้คงจะหนีไม่พ้น Court กลางบ้าน เป็นอีกดีไซน์ฮิตของบ้านหรูในยุคนี้เลยนะคะ โดยบ้านสไตล์นี้จะเหมาะกับครอบครัวที่ชอบจัดปาร์ตี้ ปิ้งบาร์บีคิว หรือตั้งโต๊ะหมูกระทะ ก็สามารถใช้พื้นที่ Outdoor ส่วนนี้ได้สะดวก แถมเวลาเพื่อนๆ มาบ้านก็เดินเข้าถึง Court โดยไม่ต้องเดินผ่านตัวบ้านด้วยค่ะ

หมายเลข 2 การออกแบบพื้นที่เป็น Double Volume ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง ชั้นบนและชั้นล่างสามารถมองเห็นกันได้ ทำให้ตัวบ้านดูไม่อึดอัด

หมายเลข 3 บ้าน Type นี้ก็รองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุด้วยเช่นกันเพราะมีห้องนอนชั้นล่าง แต่ Type นี้จะไม่ได้มีห้องน้ำในตัวนะคะ ต้องแชร์กับพื้นที่ส่วนกลาง แต่ในเรื่องของวัสดุต่างๆ สามารถเพิ่มเงินเพื่ออัพเกรดเป็น Eldery Package ได้เช่นกัน หรือหากไม่ได้มีผู้สูงอายุก็สามารถปรับเป็นห้องทำงาน หรือพื้นที่ทำงานอดิเรกแทนก็เหมาะดีนะคะ

หมายเลข 4 การจัดพื้นที่ส่วนของ Maid แยกออกจากพื้นที่ของตัวบ้านหลักอย่างเป็นสัดส่วน เจ้าของบ้านจึงสามารถควบคุมได้ว่าจะให้แม่บ้านเข้าออกบ้านในช่วงเวลาไหน อย่างเช่นในช่วงที่ทุกคนไปต่างจังหวัดกันหมด ก็อาจจะล็อกบริเวณตัวบ้าน ให้แม่บ้านอยู่แค่โซนของตัวเองที่ด้านหลังก็ได้ เพราะโซนแม่บ้านเองก็ให้ฟังก์ชันห้องมาครบทั้งห้องนอน ห้องน้ำ ห้อง Laundry และครัวไทย

หมายเลข 5 โซนบันไดที่ออกแบบมาเป็นบันไดตรงยาวขึ้นไปชั้น 2 นั้นทำให้เราสามารถตกแต่งพื้นที่ข้างบันไดได้ตลอดแนว

ชั้น 2 – พื้นที่ทั้งหมดบนชั้นนี้ถูกแบ่งออกเป็น 3 ห้องนอน ซึ่งเรามองว่ามีจุดที่น่าสนใจอยู่ที่หมายเลข 6-7 ที่เรา Mark ไว้ ดังนี้ค่ะ

หมายเลข 6 ชั้นบนที่แบ่งเป็นห้องนอน 3 ห้องจัดแปลนไว้ได้ความเป็นส่วนตัวดีนะคะ เริ่มตั้งแต่ทางเดินส่วนกลางที่แยกห้อง Master Bedroom ไว้ฝั่งหนึ่ง ส่วนอีกฝั่งจัดเป็นห้องนอนลูกๆ อีก 2 ห้อง โดยส่วนที่เราชอบที่สุดคือโซนพักผ่อนของแต่ละห้องนอนจะถูกจัดวางไว้ด้านในให้ห่างทางเดินที่สุด จึงได้ Privacy แบบเต็มที่

หมายเลข 7 บรรยากาศทางเดินชั้นบนให้ความรู้สึกเหมือน Gallery เพราะราวระเบียงใช้วัสดุเป็นกระจกทั้งหมด ทำให้มองเห็นบรรยากาศในบ้านไปจนถึง Court กลางบ้านเลยค่ะ

ประเด็นที่ 2 : เรื่องวัสดุที่สามารถ Customize บางส่วนได้

Highlights ที่สำคัญของโครงการนี้เรามองว่าเป็นเรื่องวัสดุที่โครงการจะ Fix วัสดุ Standard หลักๆ ไว้ประมาณ 90% เช่น พวกโครงสร้าง แต่จะเว้นพวก Finishing และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ไว้อีกประมาณ 10% เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกเอง ส่วนที่เราสามารถเลือกได้โดยไม่ต้องเสียงตังค์เพิ่มก็คือสีของเจ้า Wallpaper และ Engineering Wood ค่ะ

วัสดุที่มี Options ให้เลือก

Wallpaper ที่โครงการจะติดของแบรนด์ Chutima ให้ทั้งหลัง ส่วนที่เราสามารถเลือกได้คือ ” สี​ ” ที่จะมีให้เลือก 2 สีระหว่าง White Cloud และ Fog Grey ค่ะ

วัสดุปูพื้นชั้น 2 จะได้เป็น Engineering Wood นำเข้าจากอเมริกา ซึ่งมีโครงสร้างไม้มากกว่า 1 ชั้น เพื่อต้านการบิดตัวโก่งงอ โดยจะมีให้เลือก 2 สีคือ Walnut Oak และ Brown Grey Oak ค่ะ

นอกจากนี้ยังมีวัสดุที่สามารถจ่ายเงินเพื่อเพิ่มเติมได้ตามแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัว เช่นเพิ่ม Eldery Package สำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วย จะมีอะไรให้ช้อปปิ้งเพิ่มเติมอีกบ้างมาชมรายละเอียดกันต่อเลยค่ะ

• Aluminium Facade ตามมาตรฐานจะได้สี Milky White แต่ก็มี Options ให้เพิ่มเงินเพื่อเปลี่ยนเป็นสี Chacoal Grey และ Platinium Gold ได้
• สุขภัณฑ์ สามารถอัพเกรดฝาชักโครกเป็นระบบอัตโนมัติได้ รวมถึงระบบชำระล้างอัตโนมัติแบบที่ญี่ปุ่นนิยมใช้ค่ะ
• Solar Rooftop System แผลโซลาร์ที่ใช้ผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์
• Solar Slab จาก SCG กระเบื้องปูพื้นดาดฟ้า เพื่อลดความร้อนที่จะผ่านเข้ามาในตัวบ้าน

• EV Charger แบรนด์ Siemens สำหรับบ้านที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยจะรองรับยี่ห้อรถที่เราคุ้นเคยกันอย่างเช่น Mecedes-Benz / BMW / Porsche / Volvo / Hyundai / MG / Nissan / Bently / Xpeng

• Eldery Package เป็นชุดอุปกรณ์เสริม เพื่อเพิ่มความปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ เช่น ประตูบานสวิง/บานเลื่อน, เปลี่ยนพื้นเป็น Shock Absorption Floor เพื่อลดแรงกระแทก, ราวมือจับสแตนเลสภายในห้องน้ำ, หลอดไฟ Motion Sensor บริเวณทางเดินหน้าห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุ

• Terrace Deck ที่เตรียมไว้สำหรับแบบบ้าน Revoque โดยจะติดตั้งให้บริเวณ Court กลางบ้าน
• สระว่ายน้ำ ขนาด 5 x 2.2 เมตร ที่ออกแบบมาให้ลงตัวกับพื้นที่หลังบ้านของแบบ Remarque จาก J.D. Pools ค่ะ

วัสดุมาตรฐาน

• เริ่มจากโครงสร้างก่ออิฐฉาบปูนด้วยอิฐมอญแดง ซึ่งมีจุดแข็งทั้งในเรื่องความคงทนแข็งแรงและกันความชื้นได้ดีกว่าอิฐมวลเบา ทำให้สามารถทุบต่อเติมได้ในอนาคต

• ที่จอดรถลงเสาเข็มไว้ให้เท่าตัวบ้านเลยนะคะ จึงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการลงเสาเข็มเพิ่ม และได้เป็นช่องจอดรถในร่มด้วยค่ะ

• ใช้เทคโนโลยีในบ้าน เช่น Digital Door Lock, Magnetic Sensor

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

Artique รามคำแหง ราคา ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2564

• Remarque บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินประมาณ 80 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 360 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 18.5 ล้านบาท
• Revoque บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินประมาณ 70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 309 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 16.49 ล้านบาท
• จองและทำสัญญา n/a บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 120,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.วา/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

เปรียบเทียบโครงการ Artique รามคำแหง กับโครงการรอบๆ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : เมื่อเทียบกับกลุ่มบ้าน 10 ล้านขึ้นไป ในโซนนี้จะเห็นได้ว่าโครงการ Artique รามคำแหง มีทำเลที่ใกล้ถนนรามคำแหงและใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีส้มมากที่สุด และอยู่ในซอยที่มีความเป็นชุมชน คึกคักไปด้วย Hypermarket, ร้านค้าร้านอาหาร ซึ่งคุณแม่บ้านสามารถเดินไปช้อปปิ้งได้ในระยะเดินไหว หรือจะเรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์ไปลงหน้าปากซอยก็สามารถต่อรถสาธารณะ อย่างแท็กซี่, รถไฟฟ้า (ในอนาคต) ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวอย่างเดียวค่ะ

การออกแบบโครงการ : โครงการ Artique รามคำแหง ออกแบบมาให้เป็นโครงการยูนิตน้อยเพียง 21 ยูนิต เอาใจครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว และให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัย ให้มาเป็น Double Security เลยค่ะ แต่ก็จะแลกมากับ Facility ส่วนกลางที่ไม่ได้ใหญ่นัก แต่ก็จัดฟังก์ชันหลักๆ มาครบครัน

การออกแบบบ้าน : เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้โครงการนี้แตกต่างจากที่อื่น โดยออกแบบมาในสไตล์ Modern จ๋าๆ หรือที่ยุคนี้เค้าเรียกกันว่า “บ้านทรงกล่อง” ดูทันสมัย แตกต่างจากสไตล์ของโครงการอื่นๆ ในละแวกที่นิยมออกแบบบ้านสไตล์ยุโรป ส่วนการออกแบบภายในจะเน้นใช้ผนังกระจกบานใหญ่เยอะมากๆ ทำให้ภายในบ้านได้แสงธรรมชาติผ่านเข้ามาเยอะ   ค่ะ  อีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือ โครงการออกแบบให้สามารถ Customize วัสดุบางส่วนได้ อย่างเช่น สี Wallpaper, สีพื้น Engineering Wood เป็นต้น

Artique รามคำแหง เหมาะกับใคร

โครงการ Artique รามคำแหง เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีมองหาบ้านเดี่ยวในย่านรามคำแหง บนทำเลที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งคนที่ใช้รถยนต์และไม่ใช้รถยนต์ ใกล้ถนนใหญ่ + รถไฟฟ้า (ในอนาคต) ชอบโครงการที่มีจำนวนยูนิตไม่เยอะมาก เน้นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย

ชอบบ้านสไตล์ Modern จ๋าๆ ดูทันสมัย สามารถทุบต่อเติมได้ในอนาคต ตอบโจทย์ครอบครัวที่มีสมาชิก 4-5 คน และรองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุด้วย มีส่วนกลางให้ใช้ครบครันแต่ไม่ได้มีขนาดใหญ่นัก ในงบประมาณเริ่มต้น 16.49 – 18.5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 115,000 – 126,000 บาทค่ะ

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc