รีวิวฉบับที่ 1879 … Altitude Forest สุขุมวิท 101 เป็นโครงการบ้านแฝดระดับ Luxury ในย่านปุณณวิถีที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปรถไฟฟ้าได้ โครงการนี้มีจำนวนยูนิตไม่เยอะจึงเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ตัวบ้านมีการออกแบบให้สามารถอยู่ด้วยกันได้หลาย Generation มีพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ ให้ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวและมีลิฟต์เอาไว้รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุที่ไม่ชอบลงบันได้ด้วยค่ะ ส่วนราคาเริ่มต้นอยู่ 24 ล้านบาท Update 26.9 ล้านบาท (1/3/2023) ใครสนใจลองอ่านรีวิวกันได้เลยค่ะ
โครงการ IDEN สุขุมวิท 101 (ไอเด็น สุขุมวิท 101) ปัจจุบัน (1/3/2023) ได้มีการเปลี่ยนชื่อโครงการเป็น Altitude Forest Sukhumvit 101 (อัลติจูด ฟอเรสต์ สุขุมวิท 101) ค่ะ
Fact @ 05 JUNE 2019
- Altitude Forest Sukhumvit 101 (อัลติจูด ฟอเรสต์ สุขุมวิท 101) (1/3/2023)
- บริษัท ไอริส กรุ๊ป จำกัด
- LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ : ถนน สุขุมวิท 101 เขต พระโขนง
- เนื้อที่โครงการ 6-0-11.4 ไร่ จำนวน 42 ยูนิต
- บ้านแฝด 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 9 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 35.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 286.62 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2-3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 24 ล้านบาท Update 26.9 ล้านบาท (1/3/2023) - ความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้น 1 – 2.60 เมตร / ชั้น 2 – 2.75 เมตร
- ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 240,000 บาท
- โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี พ.ค. 2561
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปลายปี 2563
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02 821 5392
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด Google Maps : 13.691708, 100.624749
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ Altitude Forest สุขุมวิท 101 ตั้งอยู่ในช่วงท้ายของซอยสุขุมวิท 101 ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถีประมาณ 1.9 กิโลเมตร ซึ่งอาจจะไม่ใช่ระยะที่สามารถเดินไปรถไฟฟ้าได้สะดวก แต่ก็จะมีวินอยู่หน้าปากซอยเลยค่ะ เราสามารถเรียกไปยังสถานที่ต่างๆหรือรถไฟฟ้าได้ รวมๆแล้วถือว่าเป็นทำเลที่ค่อนข้างสะดวกในการเดินทางไม่ว่าจะเป็นการใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือใช้รถสาธารณะ การใช้รถยนต์ส่วนตัวจะมีเส้นทางลัดเชื่อมระหว่างซอยสุขุมวิท 101 และซอยสุขุมวิท 101/1 หรือซอยวชิรธรรมสาธิต เพื่อไปออกถนนอ่อนนุชและถนนศรีนครินทร์ได้ ด้านหน้าปากซอยเป็นถนนสุขุมวิทขาออก สามารถเลี้ยวเข้าบางนา-ตราด หรือตรงไปสมุทรปราการได้สะดวก ถ้าใครอยากเดินทางเข้าเมือง พอออกมาจากซอยปุณณวิถีก็ให้ไปกลับรถหรือลัดมาออกทางซอยวชิรธรรมสาธิตซึ่งเราจะสามารถเลี้ยวขวาเข้าฝั่งที่มุ่งหน้าเข้าเมืองได้เลย นอกจากนั้นยังมีทางลัดไปออกถนนสุขุมวิท 77 ที่ซอย อ่อนนุช 46 ด้วยค่ะ การอยู่ในทำเลที่มีเส้นทางลัดเยอะถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดีในการเดินทางซึ่งหลักๆแล้วเราสามารถใช้ถนนสุขุมวิท 101 (ปุณณวิถี) และถนนสุขุมวิท 101/1(วชิรธรรมสาธิต) เป็นเส้นทางไปทะลุออกถนนเส้นต่างๆได้เช่น
- ไปถนนศรีนครินทร์ : จากโครงการสามารถใช้ถนนสุขุมวิท 101 (ปุณณวิถี) แล้วเข้าซอยปุณณวิถี 28 หรือ 30 วิ่งไปออกซอยสุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต) ไปทะลุซอยย่อยที่มีให้เลือกใช้ได้หลายซอย เช่น ซอยวชิรธรรมสาธิต 26, ซอยอุดมสุข 29 หรือซอยประวิทย์และเพื่อนเพื่อไปทะลุถนนอุดมสุข และเลี้ยวซ้ายตรงไปผ่านแยกศรีอุดม เพื่อเข้าถนนศรีนครินทร์ได้
- ไปถนนอ่อนนุช : สามารถใช้ทางลัดเข้าทางถนนสุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต) แล้วไปทะลุซอยอ่อนนุช 46 เพื่อเข้าถนนสุขุมวิท 77 หรืออ่อนนุชได้ ซึ่งเส้นทางนี้จะช่วยเลี่ยงรถติดสำหรับใครที่ต้องการใช้ไปเส้นบางกะปิ พัฒนาการ รามคำแหง ลาดกระบังค่ะ
ส่วนการเดินทางโดยรถสาธารณะก็สามารถทำได้ไม่ยาก โดยจะเรียกวินมอเตอร์ไซค์ภายในซอยสุขุมวิท 101 ไปยัง BTS ปุณณวิถี หรือเรียกผ่าน Application ก็ได้ไม่ยากเนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่มากนัก และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง บนถนนศรีนครินทร์มาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทางค่ะ
สำหรับการเดินทางโดยใช้ทางด่วน จะอยู่ใกล้กับทางพิเศษเฉลิมมหานคร บริเวณซอย สุขุมวิท 62 ค่ะ โดยสามารถขึ้นไปได้ 2 ทาง เส้นทางแรกไปทางตะวันตก เพื่อไปย่านพระราม 3, พระราม 4, สีลม, สาทร และอีกเส้นทางหนึ่งคือทางทิศเหนือ เพื่อไปย่านรามอินทรา ลาดพร้าว เกษตรนวมินทร์
- ทางขึ้นทางด่วน : จากโครงการออกจากซอย สุขุมวิท 101(ปุณณวิถี) มาแล้วให้ไปกลับรถเพื่อที่จะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 62 แล้วเลี้ยวขวาขึ้นทางพิเศษ ระยะทางรวมประมาณ 4.6 กิโลเมตรค่ะ
- ทางลงจากทางด่วน : เส้นทางลงเมื่อลงทางด่วนมาแล้วเข้าซอย สุขุมวิท 62 สามารถเลี้ยวขวาเข้าถนนสุขุมวิทได้เลย ไม่ต้องกลับรถค่ะ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอย สุขุมวิท 101 (ปุณณวิถี) ไปยังโครงการ ระยะทางรวมประมาณ 3.5 กิโลเมตร
ความอุดมสมบูรณ์ในทำเลของโครงการ ภายในซอย สุขุมวิท 101 เองก็จะมีร้านค้าร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven อยู่หลายแห่ง รวมถึงมีตลาดตอนเย็นให้ได้จับจ่ายซื้อของด้วยค่ะ สำหรับใครที่ชอบเดินห้างหรือ Community Mall ก็มี 101 The Third Place อยู่ตรง Whizdom 101 อยู่ไม่ไกล หรือจะใช้ซอย สุขุมวิท 101/1 ไปออกถนนศรีนครินทร์เพื่อไปห้าง Seacon Square, Paradise Park ก็สะดวก หรือจะออกมาอีกนิดที่เส้นบางนา-ตราด ก็จะมีห้างใหญ่อย่าง Central บางนา, Big C, Mega บางนา อยู่ค่ะ
สถานที่สำคัญอื่นๆจะมีอาคารสำนักงานอย่างอาคารสามัคคีเภสัช, ตึกแฟนทรี 1,2,3 และ 4 ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานและศูนย์มัลติเพล็กซ์ขนาดใหญ่ของ DKSH และใกล้ๆกันยังมีสำนักงานขนส่งเขตพื้นที่ 3 ซึ่งอาคารสำนักงานเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีพนักงานรวมแล้วหลายพันคนซึ่งต้องการทั้งที่อยู่อาศัย มีโรงเรียนนานาชาติอย่าง รร.Anglo Singapore และ รร. Berkeley ทำให้แถวนี้มีเด็กและผู้ปกครองค่อนข้างเยอะ จึงทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ด้านร้านค้า ร้านอาหารอยู่เยอะ ถือว่าค่อนข้างสะดวกสบายพอสมควรค่ะ
การเดินทางที่เราจะพาไปโครงการวันนี้คือ มาจากทางสถานีรถไฟฟ้าอุดมสุข วิ่งเส้นสุขุมวิทไปกลับรถแล้วเข้าซอยสุขุมวิท 101 ตรงเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตรจากหน้าปากซอยแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอย ปุณณวิถี 44 ก็จะเจอกับโครงการอยู่ทางด้านซ้ายมือค่ะ
เริ่มจากถนนสุขุมวิทจากอุดมสุขมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟฟ้าปุณณวิถี จะผ่านโครงการ 101 The Third Place ซึ่งเป็น Life Style Complex ขนาดใหญ่แห่งนึงในย่านนี้เลยค่ะ ภายในมีร้านค้าร้านอาหารหลากหลายมากๆ แล้วยังมีพื้นที่สำหรับพักผ่อน เดินเล่นชิลๆ อยู่ไม่ไกลจากโครงการของเรา
ขับมาอีกนิดก็จะเจอกับสถานีรถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถี ให้เตรียมตัวกลับรถค่ะ
เลยสถานีมาเล็กน้อยก็จะเจอกับจุดกลับรถ
เมื่อกลับรถมาแล้วให้สังเกตป้ายเส้นทางลัดไปสุขุมวิท 103 ค่ะ ให้เราชิดซ้ายไว้
ทางซ้ายมือจะผ่านร้านอาหารจีน ฮั่วเซ่งฮง ซึ่งมีบริการ Delivery ถึงบ้านด้วยค่ะ ซึ่งร้านจะเปิดเวลา 10.00 – 22.00 น. อยู่หน้าปากซอยสุขุมวิท 101 เลยค่ะ
ทางเข้าซอยสุขุมวิท 101 จะมีจุดสังเกตคือป้ายวัดธรรมมงคลตัวใหญ่ๆอยู่ด้านหน้า ให้เราเลี้ยวเข้าซอยค่ะ
โครงการจะอยู่ภายในซอยเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร บรรยากาศสองข้างทางจะเป็นอาคารแถว และร้านค้าเป็นส่วนใหญ่
ผ่านร้านสะดวกซื้อหลายแห่งสามารถแวะของของกลับบ้านได้สะดวก
เมื่อเราตรงเข้ามาเรื่อยๆจะเจอกับโรงเรียนพระกุมารเยซูวิทยา อยู่ฝั่งซ้ายมือ ให้เราตรงต่อไปจนสุดซอยค่ะ
ตรงมาจนเจอกับทางบังคับเลี้ยวให้เราเลี้ยวขวา เข้าซอยปุณณวิถี 44
โครงการจะตั้งอยู่ในซอยปุณณวิถี 44 ทางฝั่งซ้ายมือค่ะ
บรรยากาศรอบๆโครงการเป็นซอยบ้านพักอาศัย ค่อนข้างเงียบสงบ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ดินเปล่าสีเขียว และบ้านความสูง 2 – 3 ชั้น ทำให้เมื่อมองออกไปยังพื้นที่โดยรอบ จะเห็นวิวบ้านแนวราบและพื้นที่สีเขียวเป็นหลัก ภายในซอยปุณณวิถี 44 เป็นซอยตัน ติดกับคลองสาธารณะขนาดเล็ก ตัวโครงการมีทางเข้า-ออก ติดกับซอย ปุณณวิถี 44 ทางทิศตะวันตกค่ะ
- ทิศเหนือ ติดกับ โครงการบ้านทาวน์โฮมสูง 2 ชั้น
- ทิศตะวันออก ติดกับ พื้นที่ดินเปล่า
- ทิศใต้ ติดกับ คลองสาธารณะขนาดเล็ก
- ทิศตะวันตก ติดกับ ซอยปุณณวิถี 44, บ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น, ที่ดินเปล่า
ด้านหน้าโครงการหันไปทางทิศเหนือติดกับพื้นที่ดินเปล่า ปัจจุบันเป็นพื้นที่โล่งสีเขียว
ด้านหน้าโครงการหันไปทางทิศใต้ ติดกับบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- BTS ปุณณวิถี ~ 1.9 กิโลเมตร
- 101 The Third Place ~ 2.4 กิโลเมตร
- ปิยะรมย์ สปอร์ตคลับ ~ 2.5 กิโลเมตร
- รร.นานาชาติ Anglo Singapore ~ 2.6 กิโลเมตร
- Bangkok Mall ~ 4.0 กิโลเมตร
- รร.นานาชาติ Berkeley ~ 4.6 กิโลเมตร
- Tesco Lotus อ่อนนุช ~ 4.6 กิโลเมตร
- Central บางนา ~ 4.7 กิโลเมตร
- BITEC บางนา ~ 5.7 กิโลเมตร
- พาราไดซ์พาร์ค ~ 5.9 กิโลเมตร
- ซีคอนสแควร์ ~ 7.6 กิโลเมตร
- Gateway เอกมัย ~ 6.8 กิโลเมตร
- MEGA บางนา ~ 12.1 กิโลเมตร
โครงการ Altitude Forest สุขุมวิท 101 ด้านหน้าโครงการมีทางเข้า-ออกติดกับซอย ปุณณวิถี 44 ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ลักษณะที่ดินเป็นรูปตัว T ตัวบ้านอยู่ด้านในมีระยะห่างจากถนน (ซอยปุณณวิถี) พอสมควร ทำให้สามารถลดความวุ่นวายและมลพิษจากถนนได้ และทำให้คนที่อยู่ด้านในมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วย พื้นที่โครงการทั้งหมดประมาณ 6 ไร่ เป็นโครงการบ้านแฝดจำนวน 42 ยูนิต มี Clubhouse อยู่ตรงกลางเข้าถึงและมองเห็นได้ง่าย ที่ซุ้มประตูทางเข้า-ออกเป็นระบบ Easy Pass ถนนหลักกว้าง 12 เมตร (รวมขอบทาง) และถนนซอยด้านหน้าบ้านกว้าง 9 เมตร สามารถขับสวนกันได้สบายๆ ตัวบ้านวางผังเป็นแนวยาวเรียงกัน และติดกับถนนทั้งหมดไม่มีซอยแบ่งย่อย ตามแนวที่ดิน และบ้านทุกยูนิตภายในโครงการเป็นบ้านแฝดวางต่อกันกันเป็นคู่ๆ ทำให้มีระยะห่างจากฝั่งที่ไม่ได้ติดกับบ้านของเราพอสมควรค่ะ หน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และทิศตะวันตกเฉียงใต้ บ้านที่หันหน้าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะได้รับแสงในตอนเช้า และแดดบ่ายไม่เข้าทางด้านหน้าบ้านโดยตรง ส่วนบ้านที่หันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้แม้จะได้รับแสงแดดช่วงบ่ายเข้าทางด้านหน้าบ้านแต่เป็นทิศที่ลมเข้าดีค่ะ
ในเรื่องความปลอดภัย ส่วนใหญ่รอบๆข้างที่ดินของโครงการจะเป็นที่ดินเปล่ารอการพัฒนา และโครงการมีรั้วกั้นมาให้สูง 3 เมตร พร้อมรั้วโปร่งต่อเติมอีก 3 เมตร รวมเป็น 6 เมตร ถือว่าค่อนข้างสูงทีเดียวค่ะ ทำให้บ้านมีความปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนั้นทางโครงการมีติดกล้องวงจรปิดส่วนกลาง 9 ตัว และให้กล้อง CCTV ภายในบ้านทุกหลังด้วย ส่วนพื้นที่สีเขียวและสภาพแวดล้อมของโครงการ จะมีสวนเล็กๆทางทิศใต้ติดกับคลองแต่ยังก่อสร้างไม่เสร็จนะคะ นอกจากนั้นจะมีต้นไม้ที่ได้ภายในบ้านทุกหลังเป็นต้นจันผาและโกสนใบเกลียว ปลูกมาให้ที่ชั้น 2 และชั้น 3 ของบ้าน บรรยากาศภายในโครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันค่ะ
ด้านหน้าทางเข้าโครงการติดกับซอย ปุณณวิถี 44 จะเห็นป้ายชื่อโครงการพื้นหลังลายหินอ่อนมองเห็นได้ชัดเจน มาทางเข้าเป็นซุ้มประตูสูงและมีลายฉลุระยิบระยับเป็นลูกเล่นค่ะ
ที่ซุ้มประตูในอนาคตเมื่อโครงการก่อสร้างเสร็จแล้วจะมีระบบทางเข้า-ออกเป็นแบบ Easy Pass และประตูรั้วเลื่อนอัตโนมัติอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน ฝั่งซ้ายเป็นป้อมยามมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง
ถนนทางเข้าหลักและตลอดทั้งเส้นภายในโครงการเป็นพื้นคอนกรีตแสตมป์ ทางเข้าหลักกว้าง 12 เมตร (รวมขอบทาง) ฝั่งซ้ายมือจะมีต้นไม้ใหญ่ปลูกอยู่เป็นระยะ ส่วนฝั่งขวามือจะเป็นรั้วโครงการตกแต่งด้วย Vertical Garden และเสาไฟฟ้าภายในโครงการนำลงดินทั้งหมด ช่วยให้ทัศนียภาพภายในโครงการดูสบายตา
สวน Vertical Garden ด้านข้างจะมีทางเดินบนน้ำ และผนังน้ำตกเป็นระยะๆ สร้างบรรยากาศและเสียงก่อนเข้าสู่ตัวบ้าน
บรรยากาศเมื่อมองกลับไปที่ซุ้มประตูทางเข้าโครงการค่ะ
เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับอาคาร Clubhouse ก่อนจะแยกซ้าย-ขวา เป็นถนนด้านหน้าบ้านกว้างประมาณ 9.00 เมตร
Clubhouse มีความสูง 2 ชั้น ชั้น 1 เป็นพื้นที่ Sale Gallery ในปัจจุบันแต่เมื่อโครงการขายหมดแล้วในอนาคตจะถูกปรับเป็นพื้นที่ Co-Working ส่วนกลางให้กับลูกบ้านค่ะ ส่วนพื้นที่ชั้น 2 มีสระว่ายน้ำและห้อง Fitness และสามารถขึ้นไปใช้งานดาดฟ้าได้ค่ะ
บริเวณที่จอดรถภายใน Clubhouse สำหรับแขก ตกแต่งด้วยวัสดุไม้บรรยากาศโทนอบอุ่น
จะมีทางขึ้น Sale Gallery ทางด้านซ้ายมือ
ทางขึ้นชั้น 2 ไปยังสระว่ายน้ำและห้อง Fitness ดีไซน์เป็นบันไดไม้ลอยดึงดูดสายตาน่าขึ้นไปใช้งานค่ะ
ขึ้นมาด้านบนแล้วจะเจอกับสระว่ายน้ำทางด้านซ้ายมือ
เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือลึกประมาณ 1.20 เมตร มีที่นั่งอยู่ริมสระ ตัวสระมีระบบปรับอุณหภูมิน้ำให้อุ่น และมีหลังคาเปิด-ปิด อัตโนมัติทำให้สามารถเล่นน้ำได้แม้ว่าจะฝนตกหรือหน้าหนาวก็มาว่ายได้ค่ะ
ปลายสระเป็นแบบ Infinity Edge Pool มองเห็นวิวซุ้มประตูทางเข้าหลักของโครงการ และการที่สระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้น 2 ทำให้มีความเป็นส่วนตัว ว่ายได้ไม่เคอะเขินค่ะ
มีจุดล้างตัวให้ทางซ้ายมือ ตรงบันไดทางขึ้นดาดฟ้าค่ะ
ส่วนห้อง Fitness จะอยู่ด้านข้างบันไดที่เราขึ้นมา ซึ่งปัจจุบันยังไม่เสร็จเรียบร้อยดีนะคะ เราจึงขอนำภาพ Perspective มาฝากกันก่อนค่ะ
บรรยากาศจำลองภายใน Fitness จะมีช่องแสงทางด้านหน้าและด้านข้างมองเห็นสระว่ายน้ำได้ ทำให้ออกกำลังกายไปด้วยได้เห็นวิวด้านหน้าโครงการและที่สระน้ำไปด้วยค่ะ
ที่ชั้นนี้ก็จะมีห้องน้ำแยกชาย-หญิง มาให้
ภายในมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำให้อย่างละ 1 ห้องสำหรับใครที่ว่ายน้ำหรือมาเล่นฟิตเนสแล้วไม่อยากกลับไปอาบที่บ้านค่ะ
พื้นที่ดาดฟ้าจะเป็นพื้นที่โล่ง อาจจะมีการนำเก้าอี้สำหรับนั่งเล่นมาตั้งเมื่อโครงการสร้างเสร็จแล้วนะคะ สำหรับลูกบ้านที่อยากมาจัดปาร์ตี้ก็สามารถขึ้นมาใช้งานได้
บรรยากาศด้านหน้าโครงการเมื่อมองจากดาดฟ้าของ Clubhouse มองเห็นซอย ปุณณวิถี 44
บรรยากาศด้านหลังโครงการเมื่อมองจากดาดฟ้าของ Clubhouse จะเจอกับพื้นที่สีเขียวซึ่งเป็นที่ดินเปล่าและวิวบ้านแนวราบค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาด n/a เมตร ลึก 1.2 เมตร
- ห้องออกกำลังกายขนาด 23 ตารางเมตร ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ n/a เครื่อง
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 0-0-80 ไร่
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 9 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 3.00 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 3.00 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 12.00 ม. และถนนภายในกว้าง 9.00 ม.
- Key Card Access ระยะไกล (Easy Pass)
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วเลื่อนไฟฟ้า
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & CCTV ทุกหลัง
โครงการ Altitude Forest สุขุมวิท 101 เป็นโครงการบ้านแฝดสูง 3.5 ชั้น บนที่ดินมาตรฐานขนาด 35.2 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอย 286.62 ตร.ม. ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ (รวมห้องน้ำห้องแม่บ้าน) และสามารถจอดรถได้ 2-3 คัน ขายแบบ Fully Fitted + เครื่องปรับอากาศ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Magnetic Sensor ที่บานเปิดประตู และกล้อง CCTV ด้านหน้าบ้าน , ภายในบ้านบริเวณห้องนั่งเล่น 1 ตัว และที่ Digital Door Lock อีก 1 ตัวค่ะ มีระบบ Home Automation สั่งการเปิดปิดไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด รวมถึงดูสัญญาณกันขโมย ผ่าน Application ได้ ตัวบ้านออกแบบมาให้เน้นพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางอย่างห้องนั่งเล่นเป็นหลัก มีพื้นที่ระเบียงค่อนข้างเยอะ และติดตั้งลิฟต์มาให้ด้วยค่ะ เหมาะกับคนที่มีครอบครัวใหญ่ หรือกำลังขยับขยายพื้นที่ เนื่องจากสามารถใช้งานได้หลาย Generation ชอบใช้พื้นที่ทั้ง Indoor และ Outdoor เป็นต้น
ชั้น 1 ด้านหน้าบ้านจะเป็นส่วนพื้นที่จอดรถ สามารถจอดได้มากที่สุด 3 คัน(สำหรับรถเล็ก) มีทางเข้าห้องแม่บ้านจากทางด้านหน้าบริเวณสวนเลยค่ะ ช่วยแยกทางเดินชัดเจน ภายในห้องแม่บ้านมีห้องน้ำในตัว แต่ถ้าบ้านไหนไม่ใช้เป็นห้องแม่บ้านก็สามารถใช้เป็นห้องเก็บของหรือปรับเป็นห้องทำงานเล็กๆได้ค่ะ ตัวบ้านหลังเข้ามาจะเจอกับโถงมีบันไดและลิฟต์อยู่ทางด้านซ้ายมือ ส่วนพื้นที่ครัวและพื้นที่รับประทานอาหารเปิดโล่ง เชื่อมต่อกัน ทำให้สามารถทำ Island หรือกั้นเป็นครัวปิดภายในบ้านได้ และมีห้องน้ำแบบ Powder Room อยู่ตรงข้ามกับส่วนครัว ค่อนข้างเป็นสัดส่วน
ชั้น 2 จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ฝั่งหน้าบ้านเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ฝ้าเพดานสูง 6.00 เมตร ทำให้รู้สึกโปร่ง โล่ง มีแสงธรรมชาติเข้าถึงทั่วทั้งห้อง และสามารถออกมายังระเบียงด้านหน้าบ้านได้ ฝั่งด้านหลังบ้านมีห้องนอนพร้อมกับห้องน้ำที่สามารถเข้าได้ 2 ทางใช้ร่วมกับห้องนั่งเล่นค่ะ
ชั้นลอย เมื่อขึ้นมาอีกชั้นนึงจะเจอกับห้องนอนฝั่งด้านหลังบ้านที่มีห้องน้ำในตัว ห้องนี้มีระเบียงส่วนตัวมองเห็นวิวสวนด้านข้างและข้างหลังบ้าน จากทางเดินหน้าห้องนอนสามารถมองลงมาเห็นพื้นที่นั่งเล่นที่เป็น Common Area ได้ด้วยค่ะ
ชั้น 3 เป็นห้อง Master Bedroom ทั้งหมด ซึ่งจัดพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วนดีค่ะ ฝั่งด้านหน้าบ้านเป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับวางเตียงนอนเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียงด้านหน้าบ้าน ซึ่งจะมีพื้นที่ปลูกไม้ยืนต้นให้ด้วย ด้านหลังเป็นส่วน Walk-in closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำ ซึ่งสุขภัณฑ์จะมีการอัพเกรดจากห้องน้ำห้องอื่นๆตรงที่จะได้อ่างอาบน้ำแบบ Jacuzzi มาให้ด้วยค่ะ
แบบบ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมวันนี้จะมีความแตกต่างจากบ้านจริงที่ได้ที่ชั้น 1 นะคะ เนื่องจากโครงการมีการปรับแบบให้มีพื้นที่การใช้งานกว้างและเป็นสัดส่วนมากขึ้นในบ้านที่ขายจริงค่ะ โดยจะมีความแตกต่างกันที่บริเวณทางเข้าด้านหน้าบ้าน ในบ้านตัวอย่างจากหน้าบ้านจะสามารถเดินทะลุผ่านครัวเข้าภายในตัวบ้านได้เลย โดยห้องแม่บ้านก็จะอยู่บริเวณนี้ด้วย แต่บ้านจริง (ภาพซ้าย) ห้องแม่บ้านจะอยู่บริเวณหน้าบ้าน แยกทางเข้าออกกับพื้นที่ภายในบ้านชัดเจน ซึ่งทำให้คนที่อยู่ในบ้านเป็นส่วนตัวมากกว่า และครัวจะถูกดันเอาไปไว้หลังบ้านเชื่อมต่อกับลานซักล้างแทน ทำให้ได้พื้นที่ครัวที่ใหญ่และเป็นสัดส่วนมากขึ้น และอีกจุดหนึ่งที่มีความแตกต่างคือ บริเวณพื้นที่รับประทานอาหาร ในบ้านตัวอย่างจะมีห้องน้ำอยู่ใกล้ๆ ซึ่งบ้านของจริง (ภาพซ้าย) พื้นที่รับประทานอาหารจะเชื่อมต่อกับครัว ตรงนี้การใช้งานจะสะดวกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเดินข้ามไปข้ามมาเวลาเสิร์ฟอาหาร ส่วนห้องน้ำจะถูกปรับมาอยู่ฝั่งหน้าบ้านใกล้ๆกับลิฟต์แทน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่หลบมุมเป็นส่วนตัวพอสมควร เดี๋ยวเราไปดูภายในบ้านกันค่ะ
โครงสร้างตัวบ้านเป็นระบบ Conventional บรรยากาศด้านหน้าบ้านจะเห็นว่าตัวบ้านมีลักษณะค่อนข้างสูงโปร่ง มีช่องแสงเยอะ วัสดุตกแต่งลายธรรมชาติ เช่นหินอ่อนสีขาวบริเวณห้องนั่งเล่นชั้น 2 ที่เป็นจุดเด่นของบ้าน ใช้พื้นผิวทรายบริเวณทางเข้า และส่วนห้องนอนที่เป็นพื้นที่พักผ่อนตกแต่งด้วยวัสดุไม้ ให้ความรู้สึกอบอุ่น ส่วนภายในบ้านจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันค่ะ
ด้านหน้าบ้านจริงที่ได้จะเป็นพื้นถนนคอนกรีตแสตมป์ มีรั้วเหล็กโปร่งสีดำบานเลื่อนอัตโนมัติใช้รีโมทควบคุม ในกรณีไฟดับ หรือฉุกเฉินสามารถปรับเป็นบานเลื่อนธรรมดาได้ค่ะ ด้านข้างมีพื้นที่สำหรับเดินเข้า และถังขยะติดตั้งมาให้กับรั้ว
พื้นที่จอดรถสามารถจอดได้ 3 คัน ด้านข้างเสา(ฝั่งซ้าย)มีระยะประมาณ 2.5 เมตร เหมาะกับจอดรถเล็กนะคะ ถ้ารถใหญ่หน่อยจะต้องจอดฝั่งขวาใต้ตัวบ้านค่ะ ที่จอดมีโครงสร้างที่ลงเสาเข็มมาให้จะช่วยลดการทรุดได้ในระดับนึง
บริเวณสวนด้านหน้าบ้านจะมีประตูทางเข้าห้องแม่บ้านซ่อนอยู่ มีการตกแต่งให้เนียนไปกับผนังมองจากถนนเข้ามาจะไม่เห็นประตูค่ะ ซึ่งบ้านจริงที่ได้จะเปิดเข้าไปเป็นห้องแม่บ้านเลย ไม่สามารถเดินเข้าตัวบ้านหลักได้ทำให้บ้านหลักมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ภายในห้องแม่บ้านสามารถวางเตียงเดี่ยวขนาด 3-3.5 ฟุตได้ หรือจะปรับเป็นห้องเก็บของ ห้องทำงานก็ได้เช่นกันค่ะ ภายในห้องมีห้องน้ำในตัว
ห้องน้ำติดตั้งสุขภัณฑ์มาให้ครบทั้งอ่างล้างมือ กระจกเงา ชุดสุขภัณฑ์และฝักบัวอาบน้ำ แต่ไม่ได้แยกส่วนเปียก-ส่วนแห้งมาให้นะคะ
ส่วนทางเข้าของเจ้าของบ้านจะอยู่บริเวณที่จอดรถมี Step ยกขึ้นเล็กน้อยก่อนเข้าตัวบ้าน ช่วยกันฝุ่นสกปรกจากที่จอดรถได้ พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดมาให้ 1 จุด ซึ่งสามารถดูความเคลื่อนไหวผ่าน Application ได้ค่ะ
ตัวประตูเป็นบานไม้โอ๊คบานเปิดคู่ 2 บาน ขนาดใหญ่บานหนึ่ง เล็กบานหนึ่ง เวลาเปิดคู่กันทั้ง 2 บานแล้วจะได้ช่องเปิดขนาดใหญ่ ซึ่งทำให้มีความสะดวกในการขนของชิ้นใหญ่เดินผ่านประตูได้ และ ขนาดประตูที่ใหญ่ช่วยให้บ้านมีความ Grand มากขึ้นด้วยค่ะ มีกระจกด้านข้างมาให้สามารถมองเห็นได้ว่าใครไปใครมา และยังช่วยให้ด้านในไม่มืดทึบค่ะ ทางฝั่งซ้ายมือ มีตู้เก็บของ Built-in มาให้สามารถใช้เก็บรองเท้าหยิบใช้งานสะดวก
ตัวประตูจะติดตั้ง Digital Door Lock จาก True IoT ยี่ห้อง Life Smart รองรับระบบสแกนนิ้วมือ และตั้งรหัสผ่าน มีปุ่มกริ่งเรียกคนภายในบ้านมาเปิดให้ พร้อมกล้องในตัว ทำให้คนในบ้านสามารถดูได้ว่าใครมาผ่านทาง Application
เข้ามาภายในบ้านจะเจอกับส่วน Foyer ก่อน ซึ่งเป็นพื้นที่แจกไปยังบันไดขึ้นชั้น 2 ได้ ถัดไปจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหารเลยค่ะ บ้านจริงที่ได้จะไม่มีห้องน้ำทางฝั่งขวามือนะคะ ทำให้พื้นที่ส่วนรับประทานอาหารเชื่อมต่อกับครัวได้เลย ซึ่งจะดูกว้างขึ้น ที่ชั้น 1 มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.70 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร มีช่องเปิดทั้ง 2 ฝั่งจากด้านข้างและด้านหลังบ้านทำให้บ้านดูโปร่ง ที่ชั้น 1 นี้ทางโครงการติตตั้งเครื่องปรับอากาศแบบ Cassette Type มาให้ (ส่วนชั้นอื่นจะเป็น Wall Type ค่ะ)
ถัดจากประตูเข้ามาด้านข้างก็จะมีช่องระบบไฟฟ้าที่ Built-in เป็นตู้ หน้าบานจริงจะได้แบบเดียวกับตรงตู้เก็บของด้านหน้านะคะ
พื้นที่รับประทานอาหารพื้นที่เหมาะสำหรับวางชุดโต๊ะ 4 – 6 ที่นั่งกำลังดี สามารถมองออกไปยังสวนด้านข้างหรือด้านหลังบ้านได้
อีกฝั่งจะเป็นส่วนครัวโล่ง สามารถกั้นเป็นครัวปิด เพื่อไม่ให้กลิ่นออกมารบกวนได้ หรือจะตั้ง Island แบบครัวฝรั่งก็ได้เช่นกันค่ะ
ตัวบ้านจริงจะเป็นพื้นที่โล่งเดินงานระบบสำหรับทำเคาน์เตอร์ครัวมาให้ จะไม่มีส่วนของห้องน้ำยื่นออกมาแบบในบ้านตัวอย่างค่ะ
อีกฝั่งเป็นส่วนของลิฟต์ฝั่งซ้ายเป็นทางเข้าห้องน้ำแบบ Powder Room และฝั่งขวาเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 ค่ะ ตัวลิฟต์จะเป็นแบบระบบเกลียวไม่มีห้องเครื่อง บานอะครีลิคใสดูโปร่งสบาย ไม่อึดอัด และรถเข็นสามารถขึ้นได้พอดีค่ะ สามารถให้ผู้สูงอายุใช้งานในส่วนต่างๆของบ้านได้ทุกชั้น
ตัวลิฟต์ยี่ห้อ Aritco จากประเทศสวีเดน สามารถควบคุมการทำงานและปรับสีของแสงภายในลิฟต์ได้ผ่าน Application เวลาไม่ใช้งานไฟก็จะดับเองอัตโนมัติ ตัวลิฟต์สามารถรับน้ำหนักได้ 250 กิโลกรัม หรือประมาณ 3 คนค่ะ
ภายในลิฟต์จะมีตัวเลือกเลขชั้นแบบหมุน พื้นลิฟต์มีลักษณะเป็นผ้าถักสานเข้ากับลวดลาย
ตัวบันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กกว้างประมาณ 0.90 เมตร ลูกตั้งสูง 19 เซนติเมตร ลูกนอนกว้าง 28 เซนติเมตร เดินได้สบายค่ะ บันไดปิดผิวด้วย Engineering Wood ผิวไม่โอ๊ค มีราวกันตกเป็นกระจกใส
เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับห้องนั่งเล่น และทางเข้าห้องน้ำทางขวามือค่ะ
ห้องน้ำจะเป็นห้องที่ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอน มีทางเข้าได้ 2 ทาง แบ่งพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งชัดเจน มีฉากกั้นอาบน้ำกระจกใสบานเปลือยติดตั้งมาให้ ตกแต่งด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนลายหินอ่อนสีขาวดูสวยงาม และได้ช่องแสงทางด้านหลังบ้านช่วยระบายอากาศและ ทำให้ห้องน้ำสว่างขึ้นค่ะ
อ่างล้างมือติดตั้งบนเคาน์เตอร์สามารถวางของได้ค่อนข้างเยอะ โถสุขภัณฑ์มีระยะนั่งที่พอดีไม่อึดอัด สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ประกอบจาก Kohler ค่ะ
ฉากกั้นอาบน้ำที่ได้เป็นบานกระจกเปลือยเปิดเข้าด้านใน ทำให้น้ำไม่ไหลออกมาเลอะด้านนอก
พื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 1.50 x 0.80 เมตร ยืนอาบได้สบายๆ ติดตั้งฝักบัวสายอ่อนและระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ค่ะ
ห้องนอนจะอยู่ทางฝั่งด้านหลังบ้าน ได้ช่องแสงความสูงเต็มผนังทำให้ได้แสงธรรมชาติและมองเห็นวิวด้านนอกได้เยอะ พื้นห้องนอนเป็น Engineering Wood สีโอ๊ค เหมือนกับบันได ผนังห้องจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีนะคะ
พื้นที่ห้องนอนสามารถวางเตียงได้ 5-6 ฟุต เหลือพื้นที่ด้านข้างสำหรับวางโต๊ะข้างเตียงหรือโคมไฟได้
อีกฝั่งของห้องนอนสามารถ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้า สำหรับแต่งตัวและด้านหน้าห้องน้ำทำเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ
มาถึงห้องนั่งเล่นที่เป็นจุดเด่นของบ้าน ซึ่งจะเป็นโถงสูง 6.00 เมตร ยาวประมาณ 6.30 เมตร กว้างประมาณ 3.50 เมตร สามารถจัดเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นและส่วนนั่งทำงานแยกกันได้ หรือจะรวมเป็นพื้นที่นั่งเล่นกว้างๆเลยก็ได้ค่ะ ภายในห้องมีช่องแสงรอบด้านและสามารถเปิดรับลมได้ด้วย
เมื่อมองกลับมายังฝั่งห้องนอน ประตูทางเข้าห้องนอนจะอยู่ด้านหลังพื้นที่นั่งเล่นค่ะ ห้องนอนห้องนี้จึงอาจจะเป็นห้องของผู้สูงอายุ ที่ชอบให้มีเด็กๆลูกหลานให้เห็นได้ทั้งวัน
ภายในห้องนั่งเล่นจะมีตัวรับสัญญาณของระบบ Home Automation จาก Life Smart ที่ควบคุมผ่านทาง Application ได้ โดยจะสามารถความคุมอุปกรณ์ต่างๆได้ ดังนี้
- Smart Switch เปิด-ปิดไฟ
- Indoor/outdoor Camera ต่อกับกล้อง CCTV ภายนอกและภายในบ้าน
- Cube Door/Windows Sensor สัญญานกันขโมย
- Cube Motion Sensor สัญญานกันขโมย
- Smoke Sensor ระบบรักษาความปลอดภัย
- Smart Siren ระบบรักษาความปลอดภัย
- Universal remote Control
- Video Smart Door Lock
ภาพถ่ายให้เห็นช่องแสงในส่วนผนังด้านหน้าของบ้านค่ะ ซึ่งจะได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะเลย ขอแนะนำให้ติดตั้งม่านเพิ่มเติมนะคะ จะช่วยบังสายตาและลดความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้
ช่องแสงภายในห้องนั่งเล่นทั้ง 2 ฝั่งสามารถเปิดได้ทั้งหมด แต่จะค่อนข้างอันตรายสำหรับเด็ก แนะนำให้ติดตั้งราวกันตกหรือกระจกด้านในเพิ่มเติม เพราะตัวบานเป็นบานเปิดออกค่ะ
จากห้องนั่งเล่นมาทางออกไปยังระเบียงด้านหน้าบ้านได้ ซึ่งตัวระเบียงจะปูด้วยระแนงไม้เว้นร่องเล็กน้อย ให้น้ำฝนไหลผ่านได้ ให้ความรู้สึกโทนอบอุ่นเข้ากับภายในห้องที่เป็นพื้นไม้ Engineering Wood
พื้นที่ระเบียงชั้น 2 ค่อนข้างกว้าง ตกแต่งด้วยผนังลายหินอ่อนสีขาวและสีดำ มีพื้นที่ประมาณ 3.00 x 2.00 เมตร สามารถวางโต๊ะนั่งเล่น สำหรับจิบกาแฟ ทำบาบีคิว พร้อมชมวิวด้านหน้าบ้านได้ หรือใครที่ชอบปลูกไม้กระถางก็มีพื้นที่ค่อนข้างเยอะเลยค่ะ
ที่ระเบียงมีโคมไฟมาให้ 1 จุด และปลั๊กสำหรับต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ มีช่องแสงที่ส่งเข้าตรงชานพักบันไดชั้น 1 ด้วยค่ะ
ตัวระเบียงจะไม่มีหลังคานะคะ มีแค่ส่วนที่ยื่นออกจากประตูเล็กน้อยเป็นกระถางปลูกต้นไม้ชั้นบน เมื่อมองจากระเบียงขึ้นไปยังชั้นลอยและชั้น 3 จะเห็นช่องเปิดสูงที่โถงบันไดทั้ง 2 ชั้นค่ะ
ต่อไปเราไปดูชั้นลอยกันบ้างค่ะ ตรงผนังฝั่งบันไดจะไม่ได้ Built-in เป็นช่องให้นะคะ สามารถดีไซน์ได้เองแล้วแต่ความชอบของเจ้าของเลย
ที่ชานพักบันไดจะมีช่องเปิดที่เรามองเห็นจากระเบียงเมื่อสักครู่นี้ แต่ก็ค่อนข้างจะอันตรายสำหรับเด็กๆ แนะนำให้ติดตั้งราวกันตก หรือแผ่นกระจกเพิ่มเติมค่ะ
ที่ชั้นลอยจะมีห้องนอนเพียงห้องเดียวค่ะ มีห้องน้ำในตัวและระเบียง ค่อนข้างเป็นสวนตัวทีเดียว
จากชั้นลอยสามารถมองลงไปยังส่วนห้องนั่งเล่นได้
ภายในห้องนอนมีช่องเปิดด้านข้างเต็มผนังรับแสงธรรมชาติได้เยอะ และเป็นประตูทางออกไปยังระเบียงด้วยค่ะ เหมาะสำหรับเด็กวัยรุ่น ที่ชอบความเป็นส่วนตัว
ภายในห้องนี้สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้ มีพื้นที่ด้านข้างเป็นมุมริมหน้าต่างสำหรับทำโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้ง เป็นสัดส่วน
ประตูทางออกระเบียงเป็นบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียม Euro groove profile มีความหนาและแข็งแรงเป็นพิเศษ บานกระจกใส 3 ตอน พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค มีราวกันตกกระจกมาให้สวยงาม
ระเบียงของห้องนี้เป็นที่ตั้ง Condensing Units ด้วยขอแนะนำให้ติดตั้งแผงเปลี่ยนทิศทางลมเพิ่มเติมนะคะ จะช่วยให้ลมร้อนจาก CDU ไม่มารบกวนพื้นที่ระเบียงสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของตกแต่งบ้านทั่วไปค่ะ
ห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนเช่นเดียวกับที่ชั้น 2 แบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ ตรงพื้นที่อ่างล้างมือติดตั้งบนเคาน์เตอร์สามารถวางของได้ค่ะ และโถสุขภัณฑ์จะอยู่ด้านขวามือ แยกเป็นสัดส่วน สุขภัณฑ์ทั้งหมดจาก Kohler
พื้นที่อาบน้ำติดตั้งฉากกั้นกระจกใส บานเปลือยมาให้ มีช่องแสงจากด้านหลังบ้านทำให้ห้องน้ำดูสว่าง พร้อมติดตั้งฝักบัวสายอ่อนและระบบเครื่องทำน้ำอุ่นให้ค่ะ
เมื่อเดินขึ้นชั้น 3 ตรงชานพักบันไดก็จะมีช่องเปิดอีกจุดที่เรามองเห็นจากระเบียงชั้น 2 ค่ะ ตรงนี้ก็ควรกั้นราวกันตกเพิ่มเติมนะคะ
ที่หลังคาชั้น 3 จะมีช่อง Sky Light มาให้ รวมๆแล้วมุมนี้สไตล์การตกแต่งคล้ายกับบ้านญี่ปุ่นๆนะคะ ซึ่งภาพนี้เป็นการถ่ายให้เห็นช่องแสงชัดเจน บ้านจริงที่ลูกบ้านได้จะมีปล่องลิฟต์อยู่ตรงกลางค่ะ แต่ก็จะสามารถมองเห็น Sky Light ได้อยู่ค่ะ
ขึ้นมาถึงชั้น 3 เป็นชั้นของ Master Bedroom ทั้งหมด ซึ่งตัวลิฟต์สามารถเข้าถึงภายในห้องได้เลย แต่สำหรับใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวหน่อยก็สามารถกั้นประตูก่อนเข้าส่วนห้องนอนเพิ่มได้ค่ะ
ห้อง Master Bedroom ปูพื้นด้วย Engineering Wood มีระเบียงส่วนตัว 2 จุด เห็นวิวด้านหน้าบ้าน และระเบียงสำหรับตั้ง Condensing Units ด้านข้าง พื้นที่ห้องสามารถวางเตียง 6 ฟุตแล้วมีพื้นที่เดินได้รอบ ประตูระเบียงเป็นบานเลื่อนอลูมิเนียม Euro groove profile 2 ตอน
ด้านข้างสามารถวางโต๊ะข้างเตียงเล็กๆได้ค่ะ
ระเบียงมีขนาดประมาณ 2.50 x 2.00 เมตร ปูพื้นด้วยไม้ระแนงเว้นร่องเหมือนกับระเบียงชั้น 2 มีราวกันตกเป็นกระจกใส ทำให้ไม่บังสายตาจากภายในห้องค่ะ และที่ระเบียงของห้อง Master Bedroom จะมีต้นโกสนใบเกลียวปลูกสีสันสดใสมาให้ ซึ่งต้นโกสนจะเป็นต้นไม้ที่มีใบสวยสีสดใส ตัดกับสีของบ้านที่เน้นโทนสีขาวให้มีลูกเล่นมากขึ้น นิยมปลูกเป็นต้นไม้กระถาง ดูแลง่าย และต้นนี้ถือว่าเป็นไม้มงคลด้วยค่ะ เพราะชื่อ “โกสน” ชื่อจะคล้องกับคำว่า “กุศล” นั่นเอง
นอกจากนั้นด้านข้างระเบียงยังมองลงมาเห็นต้นจันผาที่ทางโครงการปลูกมาให้ด้วย ซึ่งจะมองเห็นได้จากที่ระเบียงชั้นนี้เท่านั้นค่ะ (รวมถึงต้องรดน้ำจากชั้นนี้ด้วยนะ)
ถัดมาในส่วนด้านหลัง จะเป็นพื้นที่สำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้าทำเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ก่อนเข้าห้องน้ำค่ะ
ด้านซ้ายมีระเบียงที่เป็นที่ตั้งของ Condensing Units สามารถออกไปใช้งาน เช่น ตากผ้า ได้ โดยไม่ต้องนำไปตากหน้าบ้านค่ะ
ด้านหลังตรงส่วน Walk-in Closet ก็มีช่องแสงมาให้อีกจุดนึง สามารถทำเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ
มาดูห้องน้ำภายในห้อง Master Bedroom กันบ้างค่ะ ห้องนี้จะได้อ่างอาบน้ำและ Rain Shower มาด้วย พื้นที่การใช้งานแยกสัดส่วนชัดเจน ตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนเข้ากับส่วนอื่นๆของบ้าน และเพิ่มเติมจากห้องอื่นๆตรงที่มีระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นมาให้ด้วยค่ะ
อ่างล้างหน้าที่ได้เป็นแบบ His & Her ติดตั้งบนเคาน์เตอร์มีพื้นที่สำหรับวางของค่อนข้างเยอะ ได้กระจกเงาบานใหญ่เต็มผนังเลยค่ะ ส่วนพื้นที่อาบน้ำกั้นกระจกบานเปลือยมาให้
พื้นที่อาบน้ำประมาณ 1.00 x 1.00 เมตร สามารถยืนอาบได้สบาย ฝักบัวเป็นระบบน้ำร้อน-น้ำเย็น และมี Rain Shower มาให้เพิ่มเติมค่ะ
โถสุขภัณฑ์แยกส่วนมาอยู่อีกฝั่งนึง มีช่องแสงมองเห็นภายนอกได้ทำให้ไม่อึดอัด สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ประกอบจาก Kohler ค่ะ
อ่างอาบน้ำมีฝักบัวติดตั้งมาให้ต่างหากสามารถอาบได้เลย และมีระบบ Jacuzzi สำหรับนอนแช่พักผ่อนสบายๆ จาก Kohler เช่นกันค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 05 JUNE 2019
- บ้านแฝด 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 9 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 35.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 286.62 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2-3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 24 ล้านบาท Update 26.9 ล้านบาท (1/3/2023) - จอง 300,000 บาท
- ทำสัญญา(ภายใน 15 วันตั้งแต่วันจอง) 1,000,000 บาท
- ดาวน์ 1,500,000 บาท ผ่อนดาวน์ 6 งวด (งวดละ 250,000 บาท)
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 240,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 3,000 บาท/ยูนิต/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
ที่ตั้งโครงการ Altitude Forest สุขุมวิท 101 ตั้งอยู่ในช่วงท้ายของซอยสุขุมวิท 101 ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถีประมาณ 1.9 กิโลเมตร เดินทางค่อนข้างสะดวกทั้งใช้รถยนต์ส่วนตัวและรถสาธารณะ เนื่องจากมีซอยลัดไปออกถนนใหญ่ได้หลายเส้น เช่น ออกไปยังซอยสุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต) และออกถนนศรีนครินทร์, ใช้ทางลัดเข้าทางถนนสุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต) เพื่อเข้าถนนสุขุมวิท 77 หรืออ่อนนุช , โครงการอยู่ฝั่งถนนสุขุมวิทขาออก เดินทางไปยังถนนบางนา-ตราดสะดวก มีทางพิเศษเฉลิมมหานครให้ใช้
ส่วนความอุดมสมบูรณ์ภายในซอยจะมีตลาดและร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้ออยู่ตลอดทั้งเส้น เดินทางไกลออกมาอีกหน่อยก็จะเจอ 101 The Third Place หรือไปห้างใหญ่ๆ เช่น Seacon Squar, Central บางนา, Mega บางนา ได้ง่าย นอกจากนั้นยังมีแหล่งงานและสถานศึกษาอยู่ไม่ไกล
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
ความปลอดภัยภายในโครงการค่อนข้างดีเนื่องจากเป็นโครงการจัดสรร มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เข้า-ออกด้วยระบบ Easy Pass มีกล้อง CCTV ทั่วโครงการ 9 ตัว รั้วสูงรวม 6 เมตร ถือว่าสูงมากทีเดียวค่ะ ตัวบ้านจะมีกล้อง CCTV ให้ 2 จุด และที่ Digital Door Lock อีก 1 จุด มี Magnetic Sensor และสัญญาณเตือนเหตุเพลิงไหม้ติดตั้งมาให้ทุกยูนิต ถือว่าให้มาค่อนข้างครบครัน
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
การออกแบบวางผังโครงการเข้าถึงง่าย ทุกยูนิตติดกับซอยใหญ่ทั้งหมด ตัวบ้านอยู่ห่างจากถนนทำให้มีความเป็นส่วนตัวและไม่มีมลพิษจากถนน การวางตัวบ้านติดกันเป็นคู่ๆ ทำให้มีพื้นที่ด้านข้างฝั่งที่ไม่ติดกับบ้านตรงข้ามเหลือพอสมควร มี Clubhouse อยู่ตรงกลางเข้าถึงสะดวกจากบ้านทั้งสองฝั่ง เสาไฟฟ้าลงดินให้ทำให้มีทัศนียภาพที่ดี
ตัวบ้านออกแบบสไตล์โมเดิร์น พื้นที่ใช้สอยแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน แยกทางเข้า-ออกกับห้องแม่บ้าน หรือถ้าบ้านไหนไม่มีแม่บ้านก็สามารถปรับเป็นห้องทำงานหรือห้องเก็บของได้ เน้นพื้นที่การใช้งานในส่วน Common Area กว้าง มีห้องนั่งเล่นฝ้าสูง 6.00 เมตร พื้นที่ระเบียงกว้าง ตกแต่งโทนอบอุ่น ห้องนอนมีห้องน้ำในตัวทุกห้องและมีความเป็นส่วนตัวเนื่องจากมีห้องนอนชั้นละ 1 ห้อง มีช่องแสง Sky Light ให้ด้วย
วัสดุ :
โครงสร้างตัวบ้านเป็นแบบ Conventional จึงสามารถต่อเติมได้ ลงเสาเข็มที่ลานจอดรถมาให้สามารถต่อเติมหลังคาได้ Facade ของตัวบ้านใช้วัสดุลายธรรมชาติหลายชนิด เช่น กระเบื้องลายหินอ่อนสีดำ, กระเบื้องลายหินอ่อนสีขาว, วัสดุไม้ มี Digital Door Lock และ Home Automation ควบคุมผ่าน Application ติดตั้งมาให้ มีลิฟต์ใสจาก Aritco สามารถรองรับรถเข็นได้ พื้นห้องปูด้วย Engineering Wood ไม้โอ๊ค สุขภัณฑ์จาก Kohler และติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกมาให้ ภายในห้อง Master Bedroom จะได้อ่างล้างหน้า His & Her และอ่างอาบน้ำ พร้อมระบบน้ำร้อน เพิ่มขึ้นจากชั้นอื่น
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
พื้นที่สีเขียวภายในโครงการมีไม่มากนัก จะเน้นไปที่ทางเข้าหลักด้านหน้าโครงการ มีสวน Vertical Garden และบรรยากาศน้ำตกต้อนรับ ตัวบ้านโครงการปลูกต้นจันผาและต้นโกสนใบเกลียวมาให้อย่างละ 1 ต้น
สาธารณูปโภค :
สาธารณูปโภคค่อนข้างครบ ทั้งระบบรักษาความปลอดภัยและพื้นที่ส่วนกลาง มี Clubhouse มาให้แต่ขนาดไม่ใหญ่นัก มีส่วน Co-Working, สระว่ายน้ำปรับอุณหภูมิ มีหลังคาเปิด-ปิดได้ สามารถว่ายได้ทุกสภาพอากาศ และห้อง Fitness มองเห็นวิวด้านหน้าโครงการ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 20-30 ล้านบาท, 05 JUNE 2019
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่ในซอยสุขุมวิท 101 เดินทางสะดวก หาของกินง่าย
- ความปลอดภัย 7.75/10 – มีระบบรักษาความปลอดภัยดี ให้ CCTV และ Magnetic Sensor ทุกหลัง รั้วโครงการสูง 6 เมตร
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – Facade ด้านหน้าสวย ตัวบ้านออกแบบเป็นสัดส่วน เน้นพื้นที่ใช้สอยรวม ห้องนอนมีความเป็นส่วนตัวทุกห้อง มีระเบียงใหญ่
- วัสดุ 8.0/10 – ได้ตามมาตรฐาน พร้อมระบบ Home Automation และลิฟต์โดยสาร
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.25/10 – โครงการมีถนนหลักไม่มีซอยแบ่งย่อยเข้าถึงง่าย มีต้นไม้ปลูกมาให้ทุกยูนิต
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีครบครันทั้ง Clubhouse, สระว่ายน้ำ, Fitness ขนาดเพียงพอ
- 7.71 / 10.00
BOTTOM LINE
Altitude Forest สุขุมวิท 101 เหมาะกับคนที่กำลังมองหาบ้านแฝด ในโครงการที่มีจำนวนยูนิตน้อย มีความเป็นส่วนตัว อยากได้บ้านในทำเลสุขุมวิทตอนปลายที่ใกล้รถไฟฟ้า เดินทางสะดวก ไม่เน้นพื้นที่ส่วนกลาง ชอบบ้านที่มีการออกแบบสไตล์โมเดิร์น ที่มีพื้นที่ Common Area กว้าง ใช้งานได้หลาย Generation ห้องนอนมีความเป็นส่วนตัว ชอบพื้นที่ระเบียง มีงบประมาณอยู่ในระดับ 24-30 ล้านบาท