เศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น 2 บ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์นคลาสสิค 4-5 ห้องนอน ย่านดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ ใกล้ทางด่วน จากแสนสิริ [รีวิวฉบับที่ 2274]

Setthasiri Chaengwattana – Prachachuen 2 (เศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น 2) ณ วันที่ 2 กันยายน 2564

ทำเลโครงการเศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น 2 เป็นอย่างไร

• อยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน ด่านศรีสมาน ซึ่งจากโครงการมีระยะทางประมาณ 1.8 km. เท่านั้น
• ใกล้สถานที่ทำงานและโรงเรียนสำคัญในย่าน เช่น อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี, รร.นานาชาติฮาร์โรว์ และ โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสเซเวียร์ นนทบุรี
• เดินทางเชื่อมต่อไปยังโซนสำคัญๆ รอบๆ ได้สะดวก เช่น โซนแจ้งวัฒนะ, ประชาชื่น, ดอนเมือง

พิกัด Google Maps : 13.926513, 100.561106
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

การเดินทาง – ที่ตั้งโครงการ เศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ – ประชาชื่น 2 อยู่บนถนนเลียบคลองประปาช่วงใกล้แยกศรีสมาน ที่เป็นจุดตัดระหว่างถนนศรีสมานกับถนนสรงประภา จุดเด่นที่เห็นชัดๆ เลยคืออยู่ใกล้กับทางขึ้น-ลงด่วนศรีสมานมาก ดังนั้นจึงเป็นทำเลที่เหมาะกับคนใช้ทางด่วนเส้นนี้เป็นหลัก รวมไปถึงคนที่ทำงานในทำเลละแวกนี้เช่นแถวแจ้งวัฒนะ- เมืองทอง-ดอนเมือง-ประชาชื่น ก็จัดว่าสะดวกเช่นกัน เหมาะกับคนที่ใช้รถเป็นหลักแน่นอน ทั้งจากเกรดราคาบ้านที่เลือกกลุ่มผู้อยู่อาศัยระดับสูงระดับนึงแล้วก็น่าจะเป็นครอบครัวที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวกันเป็นหลัก

สำหรับทำเลบนถนนเลียบคลองประปาเองนั้นเป็นถนน 2 เลนสวนกันเลียบกับกับคลองประปาไปตลอดทาง เป็นถนนที่เชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง จึงเป็นเส้นทางที่คนส่วนใหญ่ในละแวกใช้เพื่อตัดเข้าถนนสายสำคัญๆ เช่น ถนนสรงประภา ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนประชาชื่น แต่ด้วยความที่เป็นเพียงถนน 2 เลน จึงทำให้มีปัญหาเรื่องของรถติดในเวลาเร่งด่วนพอสมควรเช่นเดียวกันค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช่รถ สำหรับโครงการนี้ไม่สะดวกนัก แต่ไม่ถึงกับไม่มีตัวเลือกในการเดินทางเลย เพราะถนนเลียบคลองประปานี้จะมีรถแท็กซี่ผ่านไปมาอยู่เสมอ นอกจากนี้ในปัจจุบันเรายังสามารถเรียกรถผ่าน Apps ได้ ไม่เป็นปัญหา

ความอุดมสมบูรณ์ – แน่นอนว่าไม่มากเท่าทำเลที่อยู่ติดถนนแจ้งวัฒนะ – สรงประภาที่เป็นถนนหลัก มีความคึกคักสูง แต่ก็ถือว่าสามารถขับรถออกมาได้ไม่ไกล แหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่ใกล้สุดที่เราสามารถวิ่งลัดจากถนนเลียบคลองประปาได้เลยก็คือบริเวณเมืองทองธานี เป็นอาณาจักรใหญ่หาของกินได้ง่ายมาก ตั้งแต่ร้านอาหารยันตลาดนัด และก็ยังมีร้านค้าอื่นๆ อีกมากมายเลยค่ะ

ถัดมาที่ถนนสรงประภาซึ่งใกล้โครงการไม่แพ้กัน บนถนนเส้นนี้จะเต็มไปด้วยร้านค้าร้านอาหารตามตึกแถว และมีคอมมูนิตี้มอลล์ย่าง Happy Avenue ดอนเมือง, และ Ozone One Market ที่รวมร้านอาหารต่างๆ เอาไว้ สำหรับทางฝั่งถนนแจ้งวัฒนะจะอุดมสมบูรณ์บริเวณสี่แยกคลองประปาที่จะมี Tesco Lotus, Avenue และ Big C ถัดไปอีกหน่อยก็เป็นเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ

สำหรับกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่ที่มองหาบ้านหลังใหญ่เช่นโครงการนี้ สิ่งที่สำคัญเลยคือละแวกใกล้เคียงต้องมีโรงเรียนสำหรับเด็กๆ ด้วย ซึ่งทำเลนี้ใกล้ๆ เลยก็จะเป็นโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสเซเวียร์ นนทบุรี, Harrow International School และ มหาวิทยาลัยรังสิตค่ะ

ตัวช่วยในการเดินทางของโครงการเศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น 2

ทางด่วนศรีสมาน – มีระยะจากโครงการประมาณ 1.8 km. เท่านั้น สำหรับใครที่ใช้ทางด่วนอุดรรัถยาเข้า-ออกเมืองบ่อยๆ ก็สะดวกสบายเลยค่ะ

รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีดอนเมือง – ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทาง โดยรถไฟฟ้าสายสีแดงที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีดอนเมือง ห่างจากโครงการประมาณ 8 km. สามารถนั่งไปสถานีรังสิต-สถานีกลางบางซื่อได้ รวมถึงจะมี Skywalk เดินเชื่อมจากตัวสถานีไปยังอาคารผู้โดยสารของสนามบินดอนเมืองได้ด้วยนะ

การเดินทางวันนี้เราใช้ทางด่วนอุดรรัถยามาลงใกล้ๆ โครงการเลย จากนั้นก็ขับเข้าถนนสรงประภาเพื่อไปกลับรถ มาเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบคลองประปาอีกที ขับเข้ามาไม่ไกลก็เจอโครงการเศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ – ประชาชื่น 2 แล้วค่ะ มีระยะรวมจากทางด่วนทั้งหมด 2.7 km.

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

บริบทโดยรอบโครงการเศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น 2 เป็นชุมชนพักอาศัยแนวราบและที่ดินเปล่า จึงไม่ได้มีประเด็นอะไรที่ส่งผลกระทบต่อการอยู่อาศัยนะคะ มีแค่แนวสายไฟฟ้าแรงสูงที่พาดผ่านที่ดินบางส่วนซึ่งเค้ามีกฎหมายระบุชัดเจนถึงระยะ Set Back เพื่อความปลอดภัย ทำให้บ้านส่วนใหญ่จะมีตำแหน่งอยู่ด้านในหลังแนวสายไฟไปอีก จึงได้ความสงบ เป็นส่วนตัวมากขึ้น ช่วยลดฝุ่นและเสียงจากบริเวณที่ติดกับถนนใหญ่ด้วยค่ะ

บริเวณหน้าโครงการมีการทำฟุตบาทให้ดูสวยงาม และเดินผ่านไปมาง่าย

ภาพลักษณ์ของโครงการเมื่อมองจากฝั่งตรงข้าม ดูสวยงามและได้บรรยากาศร่มรื่นดีค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ตัวช่วยในการเดินทาง

• ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน ด่านศรีสมาน ~ 1.8 km.

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Tesco Lotus แจ้งวัฒนะ ~4.3 km.
• The Avenue แจ้งวัฒนะ ~4.5 km.
• Big C Super Center แจ้งวัฒนะ ~4.5 km.
• Makro แจ้งวัฒนะ ~4.9 km.
• Robinson ศรีสมาน ~ 4.9 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ~4.6 km.
• โรงพยาบาลเวิล์ดเมดิคอล ~ 8.4 km.

สถานศึกษา

• โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสเซเวียร์ นนทบุรี ~ 1.9 km.
• โรงเรียนนวมินทราชินูทิศหอวัง นนทบุรี ~ 2.9 km.
• โรงเรียนพระหฤทัย ดอนเมือง ~ 5.6 km.
• Harrow International School ~ 7.6 km.
• มหาวิทยาลัยรังสิต ~ 8.4 km.

สถานที่ราชการ

• อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ~ 4.3 km.
• สนามบินดอนเมือง ~ 9 km.

โครงการ เศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น 2 น่าสนใจอย่างไร

เกริ่นก่อนว่าแบรนด์ “เศรษฐสิริ” นั้น เป็นแบรนด์บ้านหรูเกือบ Top สุดของแสนสิริ ดังนั้นนอกจากฟังก์ชันการใช้งานครบครันแล้ว ขนาดของ Clubhouse, Main Entrance, สวนส่วนกลางก็มีขนาดใหญ่ มีดีเทล การตกแต่งให้ดูหรูหราสมฐานะ สำหรับโครงการนี้เมื่อเทียบกับโครงการรอบๆ เรามองว่าน่าสนใจ 2 เรื่อง ดังนี้

• การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้มาเยอะน่าใช้งาน เช่น สระว่ายน้ำ Half Olympic และ สวนส่วนกลางเกือบ 2 ไร่
• เป็นโครงการที่เปิดตัวมาช่วงปี 2560 ทำให้ต้นไม้เริ่มแตกกิ่งก้าน ให้บรรยากาศร่มรื่นสุดๆ แต่ไม่ต้องกลัวว่าตัวบ้านจะเก่าไปด้วยนะคะ เพราะเค้าค่อยๆ ทยอยสร้าง อย่างเช่นบ้านเฟสล่าสุดก็เพิ่งสร้างเสร็จกลางปี 2564 ค่ะ

โครงการ เศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น 2 ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองประปา เป็นบ้านเดี่ยวหรู 2 ชั้นจำนวน 148 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการประมาณ 59 ไร่ หลายคนอาจคุ้นหูคุ้นตากับโครงการนี้อยู่แล้วเพราะโครงการเปิดขายเฟส 1 ช่วงบริเวณหน้าโครงการและใกล้สวนสาธารณะส่วนกลางมาตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งปัจจุบันได้ขยับมาขายเฟสด้านแล้ว (กรอบเส้นประสีแดง) การออกแบบโครงการทำได้ดีตามมาตรฐานโครงการ Luxury โดยมี 3 ประเด็นที่เราอยากเล่าถึง…

1. โครงการวางตำแหน่ง Clubhouse ไว้แตกต่างจากโครงการอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่จะวางอยู่ด้านในหลังซุ้มโครงการเพื่อให้การใช้งานส่วนกลางได้ Privacy มากขึ้น แต่ที่นี่วาง Club House ไว้ด้านหน้าก่อนซุ้มประตูทางเข้าเลย ซึ่งก็มีข้อดีและข้อเสียต่างกันนะคะ ข้อดีคืออย่างแรกเลยคือ เราจะได้เห็นความอลังการของ Clubhouse เป็นหน้าเป็นตาตั้งแต่ทางเข้า ง่ายต่อการต้อนรับแขก ในกรณีที่ลูกบ้านไม่อยากเชิญแขกเข้าบ้าน ก็สามารถต้อนรับที่ Clubhouse ได้สะดวก และการวางตำแหน่ง Clubhouse แยกกับโซนพักอาศัยชัดเจน ลดเสียงรบกวนให้กับโซนพักอาศัยส่วนใหญ่

แต่การวางตำแหน่งไว้หน้าสุดก่อนเข้าซุ้มโครงการ ก็ทำให้การมาใช้งาน Club House ที่ไม่สะดวกเท่ากับอยู่ภายในโครงการ ส่วนความปลอดภัย และการกันคนนอกเข้ามาใช้งานนี่น่าจะไม่มีปัญหาเพราะทางโครงการเองเล็งเห็นจากจุดนี้เช่นกัน ก็จะมีการทำจุดสแกนบัตรให้เฉพาะลูกบ้านเท่านั้นที่ใช้งานได้ค่ะ

2. ที่ดินของโครงการจะมีสายไฟฟ้าแรงสูงพาดผ่านและมี 1 เสาไฟฟ้าที่อยู่ในที่ดินโครงการเองเลย (ตามรอยเส้นประสีเหลือง) ทำให้ที่ดินบางส่วนที่อยู่ในรัศมีของเสาไฟฟ้าแรงสูงไม่สามารถสร้างที่อยู่อาศัยได้ ต้องมีการเว้นระยะที่ปลอดภัยตามกฎหมายบังคับไว้จำเป็นต้องเป็นพื้นที่โล่ง เป็นพื้นที่สีเขียวไว้พักสายตา ช่วยให้บรรยากาศดูร่มรื่น และทำให้ภายในโครงการได้พื้นที่สีเขียว Extra กว่าโครงการอื่นๆ แลกมากับทางที่มีสายไฟฟ้าแรงสูงผ่าน

3. ประเด็นสุดท้ายเราต้องให้คะแนนเพิ่มสำหรับการเดินสายไฟลงใต้ดินในพื้นที่ส่วนใหญ่ของโครงการ ทำให้บรรยากาศดูเรียบร้อยสวยงามค่ะ

สำหรับถนน Main กว้าง 20, 12 m. ส่วนถนนซอยกว้าง 9 m. วางบ้านเกือบทั้งหมดไปทางทิศเหนือ, ใต้ ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมสำหรับคนหาบ้านเลยนะคะ เพราะบ้านที่หันไปทางเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงที่ไม่ค่อยแรงมาก ธรรมชาติหน่อย ส่วนบ้านที่หันไปทางใต้จะได้แสงและลมที่แรงกว่า แบบบ้านที่เปิดขายในปัจจุบันมีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ แต่ละแบบจะมีฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้นตามขนาดของบ้าน การเลือกบ้านก็ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้สอยและความชอบค่ะ

เมื่อเลี้ยวเข้ามาจากถนนเลียบคลองประปาจะเจอซุ้มประตูเป็นอันดับแรก โดยวางน้ำพุขนาดใหญ่ไว้ตรงกลางเป็น Drop-Off ที่ขับวนรอบได้สะดวก จัดสวนแบบ Symmetry เพื่อเพิ่มความโอ่อ่า ล้อมด้วยไม้ยืนต้นและไม้พุ่มให้เกิดความเป็นส่วนตัวตั้งแต่หน้าทาเข้าโครงการ คอนเซปต์ของโครงการออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic ดังนั้นการออกแบบจะดูหรูหรา มีรายละเอียดการตกแต่งแทรกอยู่ทั่วโครงการ ส่วนถนนบริเวณนี้ก็ใช้ Stamped Concrete ดูสวยงาม

Clubhouse ของโครงการจะอยู่ทางขวามือมีรั้วแยกเป็นสัดส่วน โดยลูกบ้านจะต้องใช้ Key card ในการผ่านเข้าไปใช้งาน จึงได้ความปลอดภัยเช่นเดียวกับโครงการอื่นๆ

บริเวณหน้า Clubhouse มีที่จอดรถอยู่ 4 คัน เวลาลูกบ้านมาใช้งานก็จะได้ขับรถมาจอดได้สะดวก

จากที่จอดรถจะมีทางลาดให้สามารถใช้วีลแชร์ต่อเชื่อมมายัง Clubhouse ได้สะดวก ตามหลักการของ Universal Design เพื่อรองรับการใช้งานของลูกบ้านทุกเพศวัย

สำหรับ Clubhouse ของที่นี่จะมีชื่อเรียกเก๋ๆ ว่า AGATE ออกแบบคุม Theme เดียวกับโครงการคือ สไตล์ Modern Classic ได้อารมณ์เหมือนอยู่หมู่บ้านยุโรป จัดสวนแบบ Symmetry ตกแต่งด้วยบ่อน้ำ 2 ฝั่งเพิ่มความหรูหรา ภายในประกอบไปด้วย Lobby, สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด Half Olympic, Fitness, BBQ Zone ค่ะ

ทางขึ้นอาคารจะเป็นบันไดขนาดใหญ่ดูแกรนด์มากเลย และด้านข้างจะเป็นทางลาดรองรับการใช้วีลแชร์เหมือนเดิมนะคะ

เข้ามาใน Clubhouse จะเจอกับ Lobby ขนาดใหญ่ที่โปร่งโล่ง เพราะเป็นห้องที่ฝ้าเพดานสูงและมีช่องแสงรอบด้าน สามารถมาใช้พักผ่อนหรือนัดพบเพื่อนๆได้

ดีเทลที่น่าสนใจของ Clubhouse ที่นี่คือการคว้านพื้นที่ในอาคารออกเพื่อเปิดช่องแสง และแทรกต้นไม้ใหญ่ไว้ในอาคาร ทำให้ได้ผนังแทบทั้งหมดเป็นผนังกระจก รับวิวได้เต็มที่

ตามโถงทางเดินมาเรื่อยๆ จะมีประตูเพื่อเข้าไปยังพื้นที่ด้านใน ซึ่งจะได้ Privacy ที่มากขึ้น

เปิดประตูออกมาจะเป็นโถงทางเดินยาวๆ แบบ Semi Outdoor ที่เชื่อมต่อ Facility หลักๆ เข้าไว้ด้วยกัน เราจะค่อยๆ พาไปชมทีละส่วนค่ะ

เริ่มจากพื้นที่นั่งเล่นในสวน ที่ได้ม้านั่งยาวๆ รองรับการใช้งานเป็นกลุ่มได้

มองไปฝั่งตรงข้ามจะเห็นสระว่ายน้ำ

ซึ่งตัวสระจะเป็นแบบ Outdoor แบ่งพื้นที่สระเด็กมาให้ชัดเจน อยู่ติดกับ Day bed ทำให้คุณพ่อคุณแม่นั่งดูลูกๆ ว่ายน้ำได้สะดวก และมีโซน Jacuzzi ให้นวดตัวผ่อนคลายด้วยนะ สังเกตว่าโครงการจะยกตัวสระขึ้นให้เป็นระดับเดียวกับแนวพุ่มไม้ ก็เพื่อให้มองวิวออกไปได้ไกลขึ้น ทำให้บรรยากาศไม่อึดอัด

ส่วนที่เราชอบคือโซนสำหรับผู้ใหญ่ เพราะขนาดกว้างยาว ประมาณ 27 x 8 m. จัดว่าเป็นขนาด Half Olympic ได้เลย จึงสามารถว่ายน้ำออกกำลังกายแบบจริงจัง

โครงการออกแบบสระให้เป็นระบบน้ำล้น เพื่อให้น้ำหมุนเวียนเสมอ และข้อดีอีกอย่างคือเราจะได้ยินเสียงน้ำตกอยู่ตลอดเวลา ช่วยสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลายขึ้นด้วย

ถัดจากสระว่ายน้ำจะมีทางเดินลงไปยัง BBQ Zone

ลงมาปุ๊บ! จะเห็นมุมอาบน้ำล้างตัว ซึ่งเอามาซ่อนไว้หลังกำแพงเพื่อความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน

ถัดมาที่ BBQ Area เอาใจสายปาร์ตี้ แต่ไม่อยากจัดงานที่บ้านก็สามารถมาจองใช้งานบริเวณนี้ได้

โดยเค้ามีห้องครัวมาให้ ด้านในก็จัดเครื่องครัวไว้ให้ใช้งานได้

จากมุมนั่งทานอาหารในโซน BBQ นี้ จะได้วิวสวนและสระว่ายน้ำพอดิบพอดี

ถัดเข้าที่ Facility Indoor ด้านในสุด จัดเป็นฟิตเนสและห้องน้ำ ซึ่งภายในอาคารก็ยังใช้เทคนิคคว้านพื้นที่ตรงกลางออกเพื่อเปิดให้แสงธรรมชาติผ่านเข้ามาในอาคารได้ เป็น Garden ทางซ้ายมือ

ตรงกลางอาคารที่โดนคว้านออกจะปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ ให้ร่มเงาแต่แสงก็ยังส่องผ่านเข้ามาในอาคารได้ค่ะ

ห้องฟิตเนสมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง วางเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 8 เครื่อง จุดที่เราชอบคือห้องนี้มีช่องแสงเยอะรอบด้าน ทำได้บรรยากาศห้องดูโปร่ง สามารถออกกำลังกายและชมวิวไปด้วยได้

อย่างเครื่องออกกำลังกายจะวางไว้ติดกับสระว่ายน้ำ ได้วิวสระมองเพลินๆ สบายตา

สำหรับห้องน้ำจะแยกห้องชาย-หญิงมาให้

ภายในมีฟังก์ชันมาให้ครบทั้งห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำ , Steam Room และ Locker สำหรับเก็บของ

บรรยากาศภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำดูเรียบร้อย สวยงามดี

ออกมาจาก Clubhouse เราจะผ่านซุ้มประตูเข้าไปด้านในกันต่อ โดยซุ้มประตูมีขนาดใหญ่วางป้อมรปภ.ไว้ตรงกลางเพื่อแบ่งทางเข้า-ออกเป็น 2 ฝั่ง ทางฝั่งขวามีทางคนเดินแยกการใช้งานออกจากรถยนต์เพื่อความปลอดภัย

สำหรับทางเข้าแบ่งเป็น 2 ฝั่ง สำหรับ Visitor และลูกบ้านแยกทางกัน สำหรับ Visitor เดี๋ยวนี้ไม่ต้องแลกบัตรแล้วนะ แค่เก็บข้อมูลทะเบียนรถและถ่ายบัตรประชาชนแทน ส่วนลูกบ้านเข้าด้วย Keycard ระบบ RFID การใช้จะเหมือน Easypass บนทางด่วน ไม่ต้องยื่นมือออกมาแตะบัตรสะดวกไปอีกแบบ

สำหรับทางเข้า-ออกจะใช้ไม้กระดกกั้นในช่วงกลางวัน ส่วนในตอนเย็นจะใช้ประตูเลื่อนไฟฟ้าแทนเพื่อความปลอดภัยมากขึ้น

ระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่เป็นระบบ LIV24 ของแสนสิริ ซึ่งเป็นการยกระดับความปลอดภัยให้สูงมากขึ้น เป็นระบบ Security Monitoring ได้แก่

• CCTV-Video Analytics : ระบบวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของเหตุการณ์ต่างๆ ที่ซุ้มประตูเข้า-ออกและภายในโครงการ
• Real-Time guard tour : ตรวจสอบสถานะการเดินตรวจตามจุดของ รปภ. แบบ Real-Time
• ระบบ RFID Sensor : อุปกรณ์ติดตั้งหน้ารถเพื่อเข้าออกโครงการอัตโนมัติ
• การเข้าออกระบบ VMS System : ระบบบันทึกผู้มาติดต่อ

ถนนหลักภายในโครงการกว้างช่วงแรกจะกว้างถึง 20 m.  มีเกาะกลางด้วย ถือว่ากว้างดีใช้งานได้สะดวกเลย

ช่วงต้นของโครงการจะเห็นพื้นที่สีเขียวเปิดโล่ง อันเนื่องมาจากที่ดินผืนนี้อยู่ในแนวสายไฟฟ้าแรงสูงพอดี จึงมีแนว Set Back ตามกฎหมายไม่ให้ก่อสร้างบ้าน โครงการนี้จึงมีมุมพักสายตาเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ภายในโครงการค่ะ

สำหรับบ้านที่อยู่ติดกับแนว Set Back ทางโครงการได้เสริมความสูงของแนวรั้วต้นไม้เพิ่มให้ ซึ่งบ้านตามแนวนี้ก็จะได้การันตีวิวพื้นที่สีเขียวโล่งๆ ไปตลอดนะคะ

ถัดเข้ามาอีกหน่อยก็จะเข้าสู่โซนบ้านพักอาศัย ถนนหลักเองก็มี Scale ที่เล็กลงมาเล็กน้อยอยู่ที่ความกว้างประมาณ 12 m. มีการปลูกต้นไม้ใหญ่ ไม้พุ่มและปูหญ้าให้ตลอดทาง ดูสวยงามร่มรื่น และทำให้ตัวบ้านเองดูสวยงามร่มรื่นไปด้วยเป็นอานิสงค์ที่ได้จากถนนส่วนกลาง

ตรงมาสุดทางจะเป็นวงเวียนต้นไม้ใหญ่แจกไปยังซอยย่อยต่างๆ ทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนด้านหลังของวงเวียนต้นไม้นี้จะเป็นสวนส่วนกลางของโครงการที่มีพื้นที่เกือบ 2 ไร่เลยนะคะ

สังเกตอย่างนึงว่าพื้นที่สวนจะออกแบบให้มีไม้พุ่มกั้นไว้ตลอดแนว มีข้อดีที่ช่วยป้องกันไม่ให้เด็กๆ ที่วิ่งเล่นอยู่ในสวน เผลอวิ่งออกมาบนถนนได้ง่ายๆ

ภายในสวนจะมี Sculpture อยู่ตรงกลาง และเป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่นคิดไรเพลินๆ ริม Sculture ได้

เรารวมบรรยากาศในสวนมาให้ดู มีทั้งสนามหญ้าและโซนต้นไม้ใหญ่ที่คอยให้ร่มเงา ข้อดีของโครงการที่เปิดขายมาสักพักแล้วคือต้นไม้จะแตกกิ่งก้าน ดูร่มรื่นสวยงามแล้ว

โซนที่เราชอบที่สุดก็เป็นพื้นที่ใต้ร่มไม้บริเวณนี้ เพราะเค้าออกแบบเป็นม้านั่งตัวยาว ทรงโค้งที่ล้อไปกับทางเดินโค้งๆ ในสวน ดูสวยและน่ามานั่งเล่น

ถัดมาที่โซนเครื่องเล่นเด็กที่จัดเครื่องเล่นไว้หลายชิ้น เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กๆ ในหมู่บ้านได้มาวิ่งเล่นออกกำลังกายด้วยกัน

อีก Signature หนึ่งที่ขาดไม่ได้ในพื้นที่ส่วนกลางของแสนสิริก็คือ Sansiri Backyard แปลงผักสวนครัวที่ทางนิติจะคอยปลูกและดูแลให้ ส่วนคุณลูกบ้านก็สามารถมาเก็บไปทำกับข้าวได้เลยค่ะ

ถัดจากวงเวียนต้นไม้เข้ามาด้านในจะเป็นซอยบ้านพักอาศัยย่อยๆ กว้างประมาณ 9 m. ถือว่าเป็นซอยที่ไม่เล็กมากขับสวนกันสบาย ซึ่งรูปที่เราถ่ายมานี้ เป็นบรรยากาศในซอยของบ้านเฟสใหม่ล่าสุด โครงการเดินสายไฟฟ้าลงดินดูเรียบร้อย และมี CCTV ช่วยดูแลความปลอดภัยที่ต้นซอยด้วยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย

• สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 27 x 8 m.
• สระเด็ก
• ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 7-8 เครื่อง
• Lobby
• BBQ Zone พร้อมอุปกรณ์
• Steam Room แยกหญิง/ชาย

• CCTV-Video Analytics ที่ Main Gate และภายในโครงการ
• Real-Time guard tour
• ระบบ RFID Sensor เป็น Easy Pass เหมือนทางด่วน
• ระบบเข้าออกของ Visitor แบบ VMS แลกบัตรแล้วรับคืนได้เลยไม่ต้องทิ้งไว้ที่ป้อม และนำกระดาษไปแสตมป์ในโครงการ

แบบบ้านโครงการเศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น 2 แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร?

• บ้านไซส์ใหญ่ได้ทั้งพื้นที่ใช้สอยและที่ดินรอบบ้านเยอะ ฟังก์ชันของที่นี่ได้ถึง 4-5 ห้องนอน ตอบโจทย์ครอบครัวขนาดใหญ่ ที่มีสมาชิกในบ้าน 2-3 Generation อยู่ร่วมกัน
• แบบบ้านใหม่ของโครงการออกแบบให้มี Double Volume บริเวณโถงทางเข้า ทำให้บ้านดูโอ่อ่า และโปร่งโล่งขึ้น
• แบบบ้านหน้ากว้างทั้งหมด ซึ่งข้อดีของบ้านหน้ากว้างนี้เลยคือการที่ห้องและฟังก์ชันภายในส่วนใหญ่ได้ช่องเปิด (หน้าต่าง) ค่อนข้างมาก ดูโปร่งโล่งและสามารถจัดวางฟังก์ชันภายในได้เป็นสัดส่วนชัดเจน แยกโซนได้ลงตัวดี
• นำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาใช้ภายในบ้าน

สำหรับแบบบ้านในโครงการเศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น 2 ที่ขายอยู่ในปัจจุบันมี 4 แบบ ดังนี้

• APATITE (อะพาไทด์) : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 74 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 263 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 14.9 ล้านบาท
• AMETRINE (อเมทริน) : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 95 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 353 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 25.69 ล้านบาท
• AMAZONITE (แอมาโซไนท์) : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 109 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 361 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 27.99 ล้านบาท
• ARCANITE (อาคาไนท์) : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 146 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 454 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 34.79 ล้านบาท

วัสดุ

• โครงสร้างแบบ Precast
• ที่จอดรถบางส่วนลงเสาเข็มเท่าตัวบ้านและบางส่วนลงเสาเข็มลึก 6 เมตร
• พื้นชั้นล่างปูกระเบื้องแกรนิตโต้
• พื้นชั้นบนปูพื้นไม้คอร์ก (Cork)

เทคโนโลยีภายในบ้าน

• สัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic&Motion Sensor ทุกหลัง
• Digital Door Lock ของ igloohome เชื่อมต่อกับ Smartphone ได้
• Breeze Panel แผงช่องลมบริเวณประตูและหน้าต่าง
• Solar Attic ระบบพัดลมพลังงานแสงอาทิตย์ ทำให้บ้านเย็นลง ลดการเปิดแอร์ ลดความชื้น และเชื้อโรคใต้หลังคา
• ประตูรั้วเปิด/ปิด อัตโนมัติ

แบบบ้าน AMAZONITE

บ้านตัวอย่างที่ตกแต่งแล้วตอนนี้จะมีให้ชมแค่แบบ AMAZONITE นะคะ  ซึ่งบ้านแบบอื่นๆ ก็ออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic คุมเป็น Theme เดียวกับ Clubhouse เพิ่มความพิถีพิถันด้วยดีเทลย่อมุมเสาอาคาร ลวดลายหน้าต่างและราวกันตก โดยที่โทนสีส่วนใหญ่ใช้สีขาวเป็นหลัก ตัดด้วยสีเทาบ้าง ภาพรวมจึงดูเรียบหรูนะคะ

แปลนบ้าน AMAZONITE ที่ดินเริ่มต้น 109 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 361 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน

ชั้น 1 – มีการจัดวางฟังก์ชันแต่ละโซนไว้ชัดเจน เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับ Foyer แบบ Double Volume ทำให้ดูโอ่โถงเชื่อมต่อกับพื้นที่รับแขก จึงเป็นหน้าเป็นตาให้กับตัวบ้านได้ดีแยกโซนจากพื้นที่ทานอาหารและ Pantry ครัวที่ถูกจัดไว้ฝั่งหลังบ้าน ซึ่งคงเป็น Common Area หลักที่สมาชิกในบ้านใช้นั่งทานอาหาร ทำครัว พักผ่อนกันได้แบบเป็นส่วนตัว ดังนั้นใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นในโซน Common Area ก็สามารถทำประตูกั้นระหว่างห้องรับแขกและ Common Area ได้เลย

ส่วนห้องนอนผู้สูงอายุจะติดกับประตูฝั่งที่จอดรถเพื่อให้เข้าออกง่าย พร้อมห้องน้ำในตัว ซึ่งห้องน้ำนี้มีการออกแบบโดยใช้หลัก Universal Design ตอบโจทย์ครอบครัวที่อยู่กันแบบ 3 Generations อีกเรื่องที่น่าสนใจคือการออกแบบโซน Service ซึ่งประกอบไปด้วย ห้องครัว ส่วนซักรีด ห้องนอน+ห้องน้ำแม่บ้าน และลานซักล้างด้านหลังบ้าน เป็นพื้นที่สำหรับแม่บ้านใช้งานเป็นหลัก เลยมีการจัดครัวและพื้นที่ซักรีดอยู่ใกล้กับห้องนอนแม่บ้านเลย หากเจ้าของบ้านไม่อยู่บ้านก็สามารถล็อกกุญแจจากส่วนห้องครัวได้ ทำให้สามารถแยกส่วนแม่บ้านและภายในตัวบ้านออกจากกันเป็นสัดส่วนชัดเจน

ชั้น 2 – แบ่งเป็น 3 ห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง และมีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับนั่งเล่นกันภายในครอบครัว มีความเป็นส่วนตัวขึ้นมาจากพื้นที่ชั้นล่าง

ที่ดินของแต่ละจะถูกยกระดับสูงขึ้นอีกเล็กน้อยจากพื้นถนนในซอย ช่วยให้งานระบบในบ้านอยู่สูงกว่าท่อระบายน้ำส่วนกลางทำให้ระบบระบายน้ำ Flow ได้ดี และช่วยกันไม่ให้น้ำจากถนนไหลย้อนเข้าไปในตัวบ้านด้วย

สำหรับรั้วบ้านที่นี่ใช้เป็นรั้วเหล็กพ่นสีดำแบบรางเลื่อนอัตโนมัติเพื่อให้ใช้งานสะดวกสบายขึ้น แยกซุ้มประตูสำหรับเดินเข้าออกไว้ซึ่งตรงกับประตูทางเข้าบ้านเลย

สำหรับที่นี่จะมีการจัดสวนให้เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว โดยจะมีทั้งสนามหญ้าและต้นไม้ยืนต้น ไม้พุ่มดูสวยงาม ช่วยบังสายตาจากภายนอกและข้างบ้านได้ แต่ทว่าบ้านแต่ละหลังนั้นอาจไม่ได้พรรณไม้ชนิดเดียวกัน ขึ้นอยู่กับขนาดของที่ดินรอบบ้านและมุมที่จะลงต้นไม้ ซึ่งเค้าจะพยายามเลือกต้นที่เหมาะกับมุมนั้นๆ ที่แน่ๆ คือจะได้ไม้ยืนต้น 1-2 ต้นแน่นอนค่ะ

บริเวณด้านข้างบ้านหากแปลงไหนมีพื้นที่เพียงพอโครงการจะปลูกต้นไม้พุ่มมาให้ และปูสนามหญ้าไว้เป็นมาตรฐาน

ด้านหลังบ้านจะไม่ได้เหลือพื้นที่ไว้เยอะ แค่พอให้ช่างมีพื้นที่ดูแลงานระบบเท่านั้น สำหรับรั้วบ้านสูงประมาณ 1.5 m. หากแปลงไหนติดรั้วโครงการจะได้ความสูงรั้วที่ 3 m.

มาดูพื้นที่จอดรถกันบ้างนะคะ สำหรับที่นี่เค้าเตรียมที่จอดรถในร่มไว้ทั้งหมด 3 คัน อยู่ใต้ชายคาของตัวบ้าน ลงเสาเข็มไว้เท่าตัวบ้านพร้อมใช้งานไม่ต้องต่อเติม วัสดุปูพื้นจะเป็นทรายล้างกันลื่นได้ดี แต่ต้องหมั่นทำความสะอาดด้วยนะ เพราะคราบสกปรกหรือตะไคร่ต่างๆ ก็เกาะได้ง่ายเช่นกัน ส่วนที่น่าสนใจก็คือเค้าติดตั้งระบบไฟฟ้า 3 เฟส รองรับการติดตั้ง EV Charger ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังมาและอีกไม่นานเราคงได้ใช้งานกันแน่นอนค่ะ

สำหรับบ้านตัวอย่างนี้มีพื้นที่หน้าบ้านค่อนข้างเยอะ สามารถจอดซ้อนคันได้อีกแถวนึง ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้ทางโครงการลงเสาเข็มลึก 6 m. มาให้ ลดการทรุดตัวได้ดีกว่า Slab on Ground ที่ไม่มีเสาเข็มด้านล่างนะคะ

ด้านในสุดของที่จอดรถจะมีตู้ให้เก็บอุปกรณ์ทำสวน อุปกรณ์ดูแลรถต่างๆ ได้มา 2 ตู้ใหญ่เก็บของได้เยอะดี

ทางเข้าหลักของบ้าน..เค้าออกแบบให้มีเฉลียงและซุ้มประตูทรงสูงเพิ่มขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเพิ่มความโอ่อ่าสวยงาม

โดยพื้นที่เฉลียงจะทำหน้าที่กันแดดกันฝนไม่ให้สาดเข้าประตูหน้าต่าง และเป็นมุมสำหรับยืนพักคอย เป็นพื้นที่วางร่มได้

ส่วนบานประตูเป็นบานเปิดกระจก กรอบอลูมิเนียม Powder Coat และ Fitting ดี ซึ่งโครงการจะติดตั้ง Digital Door Lock ของ igloohome เพิ่มมาให้ เป็นรุ่นที่ใช้เชื่อมต่อกับ Smartphone ได้

เข้ามาในบ้านส่วนแรกสุดจะพบกับ Foyer แบบ Double Volume สูง 6.4 m. ที่เป็นหน้าเป็นตาของบ้าน โดยมีพื้นที่สำหรับวางตู้โชว์ต่างๆ และแขวนแชนเดอเรียทรงยาวได้ แต่พื้นที่ตรงนี้ไม่ได้เตรียมไว้สำหรับตู้วางรองเท้านะคะ เพราะเค้าเตรียมพื้นที่สำหรับทำตู้รองเท้าไว้ให้ติดกับประตูที่เชื่อมจากโรงจอดรถแทน

ส่วนที่เราชอบคือเค้าทำช่องหน้าต่างมาเยอะ ช่วยให้บ้านดูโปร่ง มีการติดลูกฟักกระจกทำให้ดูพิถีพิถันขึ้นไปอีก

ซึ่งบริเวณ Foyer นี้จะโปร่งมองจากชั้น 2 ของตัวบ้านก็เห็นว่ามีแขกไปใครมาค่ะ

โดยบริเวณของ Foyer จะรวมเป็นโซนเดียวกับพื้นที่รับแขก มีขนาดประมาณ 4.1 x 7.3 m. สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้สบาย ภายในเองก็ดูโปร่งโล่งเพราะได้หน้าต่างบานใหญ่จากทั้ง 2 ฝั่ง มองวิวสวนบริเวณหน้าบ้านและข้างบ้านได้

ถัดเข้ามาจะมีทางเดินที่เป็นเหมือน Transition Space เข้าสู่โซนทานอาหาร+Pantry ครัว ซึ่งคงเป็นฟังก์ชันหลักที่สมาชิกในบ้านต้องการความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น เค้าจึงออกแบบให้พื้นที่รับแขกนั้นแยกออกจากพื้นที่ทานอาหารชัดเจน

ซึ่งโครงการเค้าก็วางตัวบันไดไว้ตรงกลางเพื่อช่วยกั้นแบ่งโซนด้วยเช่นกัน สำหรับบ้านจริงเราจะได้พื้นที่โล่งๆ เชื่อมต่อกับ Common Area เหมือนในรูปล่างนะคะ โดยจะมีห้องเก็บของและห้องน้ำส่วนกลางอยู่ใต้บันไดนี้ค่ะ

สังเกตที่ผนังด้านบนบันไดจะมีติดตั้ง Motion Sensor ช่วยจับสัญญาณการเคลื่อนไหว เช่นหากมีคนเดินผ่านขึ้นบันไดเครื่องนี้จะส่งเสียง ติ๊ด เป็นการเตือนคนข้างบนว่ากำลังมีคนเดินขึ้นไปประมาณนี้ค่ะ

สำหรับห้องเก็บของใต้บันได จะใช้บานเปิดคู่ตามบ้านตัวอย่างเลย ภายในปูพื้นเหมือนพื้นชั้นล่างคือเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ค่ะ

ภายในห้องน้ำชั้นล่างนี้จะได้พื้นที่อาบน้ำมาด้วยนะคะ เพื่อตอบโจทย์พื้นที่อเนกประสงค์ชั้นล่างที่สามารถกั้นเป็นห้องนอนเพิ่มได้ จะได้ใช้อาบน้ำได้เลยไม่ต้องขึ้นไปชั้นบน

ภายในแบ่งโซนเปียกแห้งมาเรียบร้อย โดยพื้นที่อาบน้ำจะมีฉากกั้นมาให้เป็นสัดส่วน

อ่างล้างมือของ Mogen ได้ขนาดใหญ่ดีทีเดียว ด้านล่างมีตู้ให้เก็บของได้พอสมควร

โถสุขภัณฑ์ได้ของ Cotto ด้านหลังมี Low Wall ให้วางของได้อีกนิดหน่อย

พื้นที่อาบน้ำนี้ได้เป็นสัดส่วนดีค่ะ ให้เป็น Shower Box มาเลย จึงกันน้ำกระเด็นออกจากพื้นที่อาบน้ำได้ ภายในมีพื้นที่ไม่มากนักแต่ก็ยังสามารถพออาบน้ำได้ระดับนึง พร้อมติดตั้งฝักบัวและมีชั้นวางของมาให้ ด้านข้างมีหน้าต่างบานกระทุ้งด้านบนไว้ระบายอากาศและความชื้นได้พอสมควร

สำหรับใครที่มีแขกมาเยี่ยมที่บ้านบ่อยๆ และต้องการให้สมาชิกในบ้านมีความเป็นส่วนตัวก็สามารถทำประตูกั้นส่วนรับแขกและ Common Area เพิ่มอีกชั้นตามแบบในบ้านตัวอย่างได้เลยนะคะ จะเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น

โดยพื้นที่ตรงนี้จะเปิดโล่งเชื่อมต่อกันตั้งแต่ Pantry ครัว – โต๊ะทานอาหาร – พื้นที่อเนกประสงค์ เราลองวัดระยะยาวรวมกันทั้งหมด 8.8 m. กว้าง 3.5 m. หากบ้านไหนที่อยากมีพื้นที่นั่งเล่นติดกับโต๊ะทานอาหาร ก็วางชุดโซฟาเพิ่มได้อีกชุดนึงนะคะ

ในส่วนของบ้านมาตรฐานพื้นชั้นล่างจะปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ฝ้าเพดานฉาบเรียบ ไฟดาวน์ไลท์ และผนังฉาบเรียบทาสีตามมาตรฐานโครงการ

พื้นที่อเนกประสงค์จะได้มุมที่ติดกับสวนข้างบ้านและมีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่สำหรับเปิดออกไปเดินเล่นในสวนได้ เหมาะจะจัดเป็น Family Area ใช้นั่งเล่นดูทีวีที่ไม่ได้เป็นทางการ และดูจากขนาดแล้วเราสามารถกั้นห้องเพิ่มความเป็นส่วนตัว ไว้ใช้นั่งทำงานก็เหมาะนะคะ

ประตูหน้าต่างของที่นี่จะมีความพิเศษกว่าที่อื่นๆ เพราะมี Breeze Panel คือช่องเปิด/ปิด สำหรับเปิดให้ หรืออากาศภายนอกเข้าสู่ภายในตัวบ้านได้โดยไม่จำเป็นต้องเปิดหน้าต่าง ช่วยให้อากาศถ่ายเทตลอดเวลาแม้ในเวลาที่เราปิดบ้านตอนกลางคืน หรือเวลาปิดบ้านไปเที่ยวต่างประเทศ

บ้านตัวอย่างจัดวางโต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งไว้ติดกับเคาน์เตอร์ครัวแบบ Island ซึ่งจริงๆ แล้วเราสามารถวางโต๊ะขนาดใหญ่กว่านี้ก็ได้นะคะ ขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกในบ้านเลยนะคะ

ฝั่งหลังบ้านเค้าให้หน้าต่างมาตลอดแนวเลย เป็นช่องแสงทำให้ตัวบ้านโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้นและช่วยระบายอากาศภายในบ้านได้ อีกสิ่งหนึ่งที่เราควรทำคือปลูกต้นไม้ตามแนวรั้วหลังบ้านเพื่อให้เห็นวิวต้นไม้เขียวๆ สบายตาเวลาทานอาหาร

เวลาเราวางโต๊ะทานข้าวติดกับเคาน์เตอร์ครัว Island ก็ช่วยเพิ่มพื้นที่วางของให้กับโต๊ะทานอาหารไปในตัวด้วยนะคะ

Pantry ครัวในบ้านจะเป็นพื้นที่สำหรับจัดเตรียมอาหารเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ได้มีกลิ่นฉุน สำหรับใครที่ชื่นชอบการทำขนม ก็ติดตั้งเตาอบขนมไว้บริเวณนี้ได้เลย จะได้ทำขนมไปพูดคุยกับคุณแม่ไปได้ ไม่ต้องเข้าไปทำในครัวค่ะ

สำหรับ Pantry ครัวที่ติดตั้งมาให้จริง จะให้มาครบทั้ง Island และ Built-in ตู้ลอยมาให้ แต่ Finishing จะดูเรียบๆ ตามแบบในรูปแทนนะคะ อ่างล้างจานให้มาเป็นหลุมเดี่ยวเพราะไม่ได้เน้นการล้างจานใหญ่ หรืออาหารหนักต่างๆ จะเน้นเป็นของว่างและแก้วใส่เครื่องดื่มเป็นหลักค่ะ

ถัดมาที่ส่วนครัวกันต่อนะคะ ได้ครัวปิดเป็นกิจจะลักษณะ พื้นปูกระเบื้องแกรนิตโต้เชื่อมต่อกับพื้นบ้านเป็นระดับเดียวกัน เดินผ่านเข้า-ออกสะดวกดีค่ะ

ภายในครัวเห็นแบบไหนในบ้านตัวอย่างก็ได้แบบนั้นในบ้านมาตรฐานเลยค่ะ ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างตู้เย็นและของตกแต่งที่ไม่ได้ให้มานะคะ ห้องครัวมีขนาด 3.5 x 2.9 m. แบ่งโซนเตา อ่างล้างจาน และมีพื้นที่วางตู้เย็นขนาดใหญ่แยกกันไว้คนละส่วน ซึ่งเป็นลักษณะการวางตำแหน่งที่ถูกต้องและเหมาะกับการใช้งานมากที่สุด

สำหรับเคาน์เตอร์ครัวที่ได้จริง Top จะเป็นหินสังเคราะห์สีดำ ผนังกรุกระเบื้องมาให้เรียบร้อยจึงเช็ดทำความสะอาดง่าย สำหรับ Hob และ Hood จะได้ของ Teka เป็นมาตรฐาน

ตำแหน่องของ Sink ล้างจานอยู่ติดกับหน้าต่างเพื่อระบายความชื้นได้ดีค่ะ เป็นแบบ 2 หลุมพร้อมพื้นที่พักจาน ด้านบน Built-in ชั้นวางของให้เหมือนตามบ้านตัวอย่างเป๊ะ จึงมีพื้นที่ในการเก็บของต่างๆ เยอะพอสมควรเลยค่ะ

ใต้เคาน์เตอร์ครัวทำเป็นตู้เก็บของ มีบานประตูปิดเรียบร้อย สังเกตดูจะมีการเซาะร่องให้จับเปิดปิดได้สะดวก ดีเทลแบบนี้ทำให้ไม่ต้องมีมือจับประตูเลยนะคะ อีกอย่างนึงคือมีช่องระบายอากาศ ช่วยลดความชื้นภายในตู้ได้ค่ะ

ติดกับส่วนครัวเป็นพื้นที่โซน Service หลังบ้าน เป็นอาณาจักรของ Maid ซึ่งเค้าออกแบบรวมไว้ทั้งห้องนอน+ห้องน้ำแม่บ้านและพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า ข้อดีคืออยู่ในพื้นที่ร่มกันแดดกันฝนได้ และอากาศยังถ่ายเทด้วยค่ะ

ซึ่งพื้นที่ซักล้างจะลดระดับลงจากพื้นครัวเล็กน้อยและก็เปลี่ยนวัสดุปูพื้นเป็นเซรามิก เพราะโซนนี้จะเป็นโซนสำหรับแม่บ้าน เกรดของวัสดุต่างๆ จะรองลงมาจากภายในตัวบ้านนะคะ

ห้องนอนแม่บ้านทำออกมาได้ดีทีเดียวนะคะ ไม่ใช่เป็นห้องแคบหน้าต่างบานเล็กเหมือนที่เราคุ้นตาในบ้านทั่วไปนะ ภายในห้องมีขนาด 2.4 x 2.1 m. วางเตียงเดี่ยวได้ ได้หน้าต่างบานใหญ่พอสมควรไม่ได้เล็กจิ๋ว ทำให้ตัวห้องดูโปร่งโล่ง ใช้ระบายอากาศได้ดี

ซึ่งแน่นอนว่าแม่บ้านของบ้านหลังนี้จะอยู่อาศัยได้สบาย เพราะที่นี่ตั้งใจออกแบบให้แม่บ้านเองก็อยู่สบายด้วย เพื่อให้ทุกคนในบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดี บางทีอาจจะไม่ใช่แม่บ้านที่อยู่แต่เป็นพี่เลี้ยงเด็กๆ แทนก็ได้ค่ะ

ที่บ้านตัวอย่าง Built-in ตู้ใส่เครื่องซักผ้าไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างนะคะ ซึ่งบ้านจริงจะได้เป็นพื้นที่เปล่า เราสามารถออกแบบการใช้งานให้เหมาะกับแต่ละบ้านได้ค่ะ

กลับเข้ามาในบ้าน…เราจะพาไปชมพื้นที่ทางฝั่งประตูที่เชื่อมกับโรงจอดรถกันนะคะ ซึ่งห้องนอนผู้สูงอายุ (ห้องนอน 1) จะอยู่ติดกับประตูทางฝั่งนี้เพื่อให้เข้า-ออกได้สะดวก

ทางเข้า-ออกฝั่งนี้ทำเป็นโถงทางเดินขนาดประมาณ 1 m. ตามแนวทางเดินสามารถ Built-in เป็นตู้เก็บรองเท้าได้ อย่างตู้ในบ้านตัวอย่างก็สามารถเก็บรองเท้าได้เยอะทีเดียวนะคะ

ข้างประตูฝั่งโรงจอดรถจะมีจอมอนิเตอร์โชว์แปลนชั้น 1 และ 2 ซึ่งแสดงการเปิด-ปิดหน้าต่างและประตูของตัวบ้าน เป็นอุปกรณ์หนึ่งในระบบ Magnetic Sensor ที่ได้เป็นมาตรฐาน เวลาที่เราเปิดประตูจะมีเสียงดังเตือนจากกล่องด้านบน คอยเตือนผู้อยู่อาศัยค่ะ

ถัดมาที่ห้องนอนผู้สูงอายุมีขนาด 4.7 x 3.5 m. สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้เลย ความพิเศษของห้องนอนผู้สูงอายุนี้ คือการออกแบบเพื่อผู้สูงอายุโดยเฉพาะเลย ตั้งแต่วัสดุที่ใช้และการออกแบบให้เป็น Universal Design

เริ่มต้นจากพื้นห้องจะใช้เป็น Absorption Floor คือตัวพื้นเองมีความนุ่มมากกว่าพื้นลามิเนตหรือ Engineering Wood ทั่วไป เพื่อกันกระแทกได้ระดับนึง เผื่อเวลาเกิดอุบัติเหตุจะได้ไม่บาดเจ็บมากนัก และเดินแล้วมีความนุ่มเท้ามากกว่าด้วย

ข้างเตียงมีพื้นที่สำหรับโต๊ะเครื่องแป้งได้สบาย และยังเหลือพื้นที่ให้เดินผ่านง่ายพอสมควร

เฉพาะประตูห้องน้ำห้องผู้สูงอายุที่จะได้เป็นประตูบานเลื่อน เพื่อให้ผู้สูงอายุเปิด-ปิดได้ง่ายสะดวกในการใช้งาน เพราะใช้แรงน้อยกว่าและหากเกิดอุบัติเหตุหลังประตูก็สามารถเลื่อนเปิดเข้าไปได้ง่ายกว่าบานเปิดปิด รางเลื่อนของประตูใช้เป็นรางเลื่อนบนเพื่อให้พื้นด้านล่างไม่มีรางเลื่อนที่เดินแล้วสะดุดได้ง่ายหรือเจ็บเท้าเวลาเดิน

ส่วนที่เราคิดว่าเค้าเก็บรายละเอียดมาได้ดีคือ ระดับพื้นห้องน้ำเสมอกับพื้นห้องนอนเลย โดยใช้รางระบายน้ำขนาดใหญ่ฝังอยู่ที่พื้นหน้าห้องน้ำ เพื่อกันน้ำไหลย้อนออกมาภายนอก หากนั่ง Wheel Chair ก็สามารถเข็นผ่านเข้า-ออกได้สะดวก

ส่วนภายในเองก็มี Floor Drain ให้เหมือนเดิมนะ ส่วนพื้นห้องน้ำนี้ได้เป็นพื้นแกรนิตโต้มาตรฐานตามที่โครงการกำหนดค่ะ

ภายในห้องน้ำจัดฟังก์ชันมาครบ สเปคของเหมือนห้องน้ำส่วนกลางเกือบทั้งหมดยกเว้นอ่างล้างมือที่จะไม่มีตู้เก็บของด้านล่างมาให้ และเฉพาะห้องนอนผู้สูงอายุอีกเช่นกันที่จะไม่ได้ติดฉากกั้นกระจกมาให้ เพื่อให้ผู้สูงอายุใช้งานได้ง่ายและสะดวกมากที่สุด แต่ก็จะไปเน้นที่ตรงพื้นที่จะต้องมี Slope ที่ลาดได้ดี ระบายน้ำได้เร็ว ไม่ย้อนเข้าส่วนแห้งมากนัก

ส่วนของผนังมีการเซาะพื้นที่ไว้สำหรับเป็นพื้นที่วางครีมอาบน้ำ และแชมพูต่างๆ ได้ดีนะคะโซนอ่างล้างมือได้กระจกเงาติดผนังเรียบร้อย และมีการทำ Low Wall ไว้สำหรับวางของตกแต่ง ของใช้อื่นๆ เพิ่มได้อีกเล็กน้อย

ขึ้นไปต่อที่ชั้น 2 นะคะ เริ่มจากส่วนบันไดก่อนเลย ทำออกมาได้สวยทีเดียวเลยค่ะ ตัวโครงสร้างบันไดนี้เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กมาตรฐาน ลูกตั้งใช้คอนกรีตฉาบเรียบทาสี ส่วนลูกนอนเป็นไม้สำเร็จรูปทาสีค่ะ

ด้านข้างมีทำไฟทางระดับเดียวกับพื้นบันไดให้ด้วยนะ ดูสวยงามดีทีเดียวค่ะ ลักษณะการเดินสายไฟของไฟนำทางนี้จะเป็นแบบ 2 way คือเปิดไฟจากด้านล่างก็ไปปิดไฟด้านบนได้ การใช้งานจะประมาณนี้ ตอบโจทย์ลักษณะการใช้งานจริงได้ดี

ชานพักบันไดมีพื้นที่กว้างจึงมีพื้นที่สำหรับวางเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งได้ ถ้าชอบสไตล์ Luxury ก็สามารถติดโคมไฟระย้าเพิ่มได้นะคะ สำหรับหน้าต่างบริเวณโถงบันไดจะมีส่วนที่เปิดกระทุ้งเพื่อระบายอากาศได้ และมี Breeze Panel ให้เป็น Signature ของที่นี่

ขึ้นมาชั้น 2 จะมีพื้นที่พักผ่อนอีกโซนหนึ่ง จัดเป็น Family Area อีกมุมหนึ่ง ความพิเศษของชั้นนี้ก็คือ พื้นชั้นนี้จะเป็นพื้นไม้คอร์กหนา 14 mm. ซึ่งมีความนุ่มมากกว่าพื้น Engineering Wood ปกติ ที่นิยมใช้กันในบ้านระดับนี้นะคะ

สำหรับพื้นที่พักผ่อนนี้มีขนาด 3.5 x 4.1 m. สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้สบาย

จากระยะดูทีวีถึง 3.5 เมตร จึงสามารถติดตั้งทีวีใหญ่แบบ 70 นิ้วก็ได้นะคะ และด้านข้างมีระเบียงให้ออกไปเปลี่ยนบรรยากาศด้วย

ระเบียงจะลดระดับลงจากพื้นห้องเล็กน้อยเพื่อไม่ให้น้ำไหลย้อนเข้าตัวบ้าน ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่ง ทำให้ไม่ทึบตันและมีลวดลายให้ดูหรูหราขึ้น

ระเบียงได้ขนาดใหญ่ 3.3 x 1.5 m. พอให้วางโต๊ะและเก้าอี้นั่งเล่นได้ ส่วนตัวแนะนำว่าปลูกไม้กระถางเพิ่มก็ดีนะคะ เพราะเมื่อมองออกมาก็ได้บรรยากาศที่ร่มรื่น และยังช่วยบังสายตาจากบ้านฝั่งตรงข้ามด้วยค่ะ

ต่อไปเราจะพามาชมส่วนของห้องนอนกันบ้าง เริ่มจากห้องนอนของลูกๆ ทั้ง 2 ห้องที่อยู่ทางฝั่งหลังบ้าน จะมีพื้นที่อเนกประสงค์อยู่ระหว่างกลาง…

โครงการออกแบบพื้นที่อเนกประสงค์โดยเว้าพื้นที่ไว้ให้ เป็นมุมสำหรับ Built-in เคาน์เตอร์ ตู้เก็บของ หรือหิ้งพระ ขึ้นอยู่กับการใช้งานของผู้อยู่อาศัยเลยค่ะ บ้านจริงที่ได้จะเป็นพื้นที่โล่งๆ แบบรูปขวานะคะ

เราขอเรียกห้องนี้ว่าห้องนอน 2 ไม่ใช้คำว่าห้องนอนเล็กเหมือนรีวิวอื่นๆแล้วกัน เพราะดูจากขนาดห้องไม่เล็กเลยค่ะ มีพื้นที่พอให้วางเตียงนอนได้ถึง 6 ฟุตเลย ปลายเตียงสามารถ Built-in ชั้นวางทีวีและตู้เก็บของขนาดใหญ่ได้ด้วยนะ เพราะตัวห้องเป็นลักษณะยาว

ห้องนี้เป็นห้องหัวมุมจึงได้หน้าต่างทั้ง 2 ฝั่ง ระบายอากาศได้ดี และแสงเข้ามาภายในได้ดีเช่นกัน ช่วยให้ตัวห้องโปร่งโล่งมากขึ้น

สำหรับห้องน้ำจะอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้อง มีพื้นที่หน้าห้องให้ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้อีกนิดหน่อย

ห้องน้ำภายในห้องนอนนี้แบ่งส่วนเปียกและแห้งไว้เป็นสัดส่วนดีมาก ด้วยการติดฉากกั้นกระจกไว้เรียบร้อย สุขภัณฑ์ต่างๆ ได้เหมือนห้องน้ำชั้นล่างเลย มี Low Wall ด้านหลังให้วางของได้ และมีหน้าต่างเพื่อให้เปิดระบายอากาศได้

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดพอให้ใช้งานได้สะดวก ภายในติดตั้งฝักบัวพร้อมชั้นวางของมาให้ครบเหมือนห้องน้ำชั้นล่าง

ถัดมาที่ห้องนอน 3 สำหรับห้องนี้เราจะขอเรียกว่าห้องนอนของลูกคนโปรด เพราะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย ทำให้วางเฟอร์ฯ ได้ครบและกั้น Walk-in Closet ได้ด้วยค่ะ

ปลายเตียงมีพื้นที่พอให้ Built-in ชั้นวางทีวีและตู้เก็บของได้

บ้านตัวอย่างจะมีการทำผนังเบาเพิ่มเพื่อแบ่งพื้นที่เป็น Walk-in Closet ซึ่งหากใครอยากแบ่งโซนเหมือนบ้านตัวอย่าง เราแนะนำให้ออกแบบความกว้างของทางเดินขั้นต่ำประมาณ 1 m. เพื่อการใช้งานได้สะดวกค่ะ

ห้องน้ำของห้องนอนนี้เหมือนกับห้องนอน 2 เป๊ะเลย จัดฟังก์ชันลงตัว ใช้งานง่ายค่ะ

ปิดท้ายที่ห้องนอนใหญ่วางตำแหน่งไว้บริเวณหน้าบ้านเลย ภายในมีขนาดใหญ่พอๆ กับห้องนอน 2, 3 รวมกัน ทำให้สามารถจัดฟังก์ชันได้หลากหลาย ทั้งส่วนเตียงนอนที่วางเตียงใหญ่ 6 ฟุตได้, ชุดโซฟานั่งเล่น, โต๊ะทำงาน, Walk-in Closet และห้องน้ำ

บรรยากาศส่วนเตียงนอนดูโปร่งโล่งมากค่ะ ปลายเตียงก็สามารถ Built-in ชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ได้สบายเลยนะ มีพื้นที่ทางเดินเหลือสบายๆ ค่อนข้างโอ่โถงทีเดียว

ข้างเตียงจะเป็นประตูบานเลื่อนทั้ง 2 บาน เพื่อเปิดออกไประเบียงหน้าบ้าน

ลักษณะระเบียงเป็นรูปตัว L ยาวล้อมรอบห้องนอนใหญ่เลยค่ะ สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นริมระเบียงได้เลยนะ ด้วยขนาดของพื้นที่ระเบียงที่ให้มาค่อนข้างใหญ่ 7.15 x 4.05 m. ค่ะ

ส่วนที่เราชอบคือนอกราวกันตกออกไปยังมีพื้นที่ให้วางกระถางต้นไม้ได้ ซึ่งเราเห็นบ้านหรูหลายๆ ที่ใช้เทคนิคนี้ในการเพิ่มความเป็นส่วนตัวจากบ้านข้างๆ โดยเลือกใช้ไม้พุ่มมาช่วยบังสายตา

กลับมาที่ภายในกันต่อ ติดกับประตูทางเข้าเป็นส่วน Walk-in Closet ซึ่งบ้านตัวอย่างจะทำ Walk-in Closet มาให้ดูเป็นตัวอย่างนะคะ สำหรับบ้านมาตรฐานจะเป็นพื้นที่โล่งแบบรูปล่างค่ะ

พอกั้นผนังเบาขึ้นมาแล้วทำให้สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ตลอดแนว 2 ฝั่ง เป็นการเพิ่มพื้นที่ตู้เสื้อผ้าให้มากขึ้น

ด้านในสุดติดกับ Walk-in Closet คือห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ ซึ่งมีจุดพิเศษหลายอย่างที่แตกต่างจากห้องน้ำในห้องอื่นๆ นะคะ เริ่มจากขนาดที่โอ่โถง ได้หน้าต่างบานใหญ่แบบฝ้า เพื่อให้แสงสว่างเข้ามาทั่วถึงภายใน ได้อ่างล้างมือแบบ His & Her, อ่างอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์แบบ Washless เปิด-ปิดอัตโนมัติ จะเป็นอย่างไรเดี๋ยวเราพาไปเจาะลึกที่ละชิ้นกันค่ะ

เริ่มจากอ่างล้างมือที่ได้ขนาดใหญ่เป็น 2 เท่าของห้องอื่นๆ ลักษณะอ่างเป็นแบบ His & Her ขนาดใหญ่ ด้านล่าง Built-in ตู้เก็บของให้เรียบร้อย

ถัดมาในส่วนอ่างอาบน้ำของ Kohler ขนาดประมาณ 1.5 x 0.6 m. ใช้นอนแช่น้ำ จิบไวน์พักผ่อนไปได้ ด้านข้างทำชั้นวางของพร้อมกระเบื้องตกแต่งไว้เรียบร้อย

ถัดมาเป็นส่วนพื้นที่อาบน้ำซึ่งก็ให้ Shower Box มาเป็นมาตรฐาน ขนาดพื้นที่อาบน้ำใช้งานได้สะดวก

ได้โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติจาก Cotto เปิด/ปิดฝาอัตโนมัติผ่าน Censor ดูสวยงามน่าใช้งานค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

แบบบ้าน APATITE

แบบบ้านเริ่มต้นที่มีเปิดขายอยู่ในตอนนี้ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 74 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 263 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน ในราคาเริ่มต้น 14.9 ล้านบาท

แบบบ้าน AMETRINE

ขยับมาที่บ้านไซส์ใหญ่ขึ้นคือแบบ AMETRINE เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 95 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 353 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน ราคาเริ่มต้น 25.69 ล้านบาท

แบบบ้าน ARCANITE

สำหรับบ้านไซส์ใหญ่สุดของโครงการคือแบบ ARCANITE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 146 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 454 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน ราคาเริ่มต้น 34.79 ล้านบาท

เศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น 2 ณ วันที่ 2 กันยายน 2564

• APATITE (อะพาไทด์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 74 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 263 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 14.9 ล้านบาท
• AMETRINE (อเมทริน) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 95 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 353 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 25.69 ล้านบาท
• AMAZONITE (แอมาโซไนท์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 109 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 361 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 27.99 ล้านบาท
• ARCANITE (อาคาไนท์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 146 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 454 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 34.79 ล้านบาท
• จอง 100,000 บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 120,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.วา/เดือน
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
โครงการเศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น 2 ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองประปา จุดเด่นที่เห็นชัดๆ เลยคืออยู่ใกล้กับทางขึ้น-ลงด่วนศรีสมานมาก ดังนั้นจึงเป็นทำเลที่เหมาะกับคนใช้ทางด่วนเส้นนี้เป็นหลัก รวมไปถึงคนที่ทำงานในย่านนี้เช่นแถวแจ้งวัฒนะ- เมืองทอง-ดอนเมือง-ประชาชื่น ก็จัดว่าสะดวก และเรามองว่าทำนี้เหมาะกับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก เพราะมีแหล่งความอุดมสมบูรณ์ให้ขับรถไปจับจ่ายใช้สอยกันได้ เกินระยะเดินไหวแต่ก็อยู่ไม่ไกลจากโครงการ ทั้งในเมืองทองธานี บนถนนสรงประภา และสี่แยกคลองประปา นอกจากนี้ยังใกล้สถานที่ทำงานและโรงเรียนสำคัญในย่าน เช่น อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี, รร.นานาชาติฮาร์โรว์ และ โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสเซเวียร์ นนทบุรี

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
สำหรับมาตรฐานของแสนสิริจะใช้ระบบ LIV24 ที่ยกระดับความปลอดภัยให้สูงมากขึ้น ประกอบด้วย CCTV ทั่วหมู่บ้าน, Real-Time guard tour, ระบบ RFID Sensor เข้าออกแบบ Easy Pass เหมือนการใช้ทางด่วน โดยประตูรั้วให้มาทั้งไม้กั้นกระดกและประตูเลื่อนไฟฟ้า รวมถึงปรับการแลกบัตรเข้าออกของ Visitor เป็นระบบ VMS System ที่ไม่ต้องแลกบัตรอีกต่อไป ส่วนในตัวบ้านก็จะมีระบบ Magnetic Sensor ที่ประตูหน้าและต่างทั้ง 2 ชั้น และ Motion Sensor ที่บริเวณโถงบันได

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
การออกแบบตัวบ้าน – โครงการ เศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น 2 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรูระดับบนๆ ของแสนสิริ ตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่ อยู่กันตั้งแต่ 2 Generation ไปถึง 3 Generation จึงเป็นบ้านไซส์ใหญ่ได้ทั้งพื้นที่ใช้สอยและที่ดินรอบบ้านเยอะ ฟังก์ชันของที่นี่ได้ถึง 4-5 ห้องนอน ตัวบ้านหน้ากว้างที่ทำให้ฟังก์ชันภายในบ้านหลักๆ ได้ช่องแสง ช่วยให้การระบายอากาศภายในตัวบ้านดี และแสงสว่างภายนอกเข้ามาได้ดีเช่นกัน ตัวบ้านจึงดูโปร่งโล่ง และแบบบ้านใหม่ล่าสุดยังมี Double Volume เพิ่มเข้ามาทำให้บ้านดูหรูหราขึ้นไปอีกค่ะ

การออกแบบโครงการ – เนื่องจากที่ดินของโครงการมีขนาดใหญ่กับจำนวนบ้าน 148 ยูนิต ทำให้ภายในโครงการดูสงบเหมาะกับการพักอาศัย ตลอดแนวถนนมีต้นไม้ให้ความร่มรื่น แต่ก็มีประเด็นของการวางผังโครงการมีจุดที่น่าสนใจอยู่ 2 จุดด้วยกัน 1. คือการวาง Club House ไว้ด้านหน้าโครงการก่อนถึงซุ้มประตูเข้า-ออก จึงใช้รับแขกได้สะดวกและเป็นหน้าเป็นตากับโครงการ แต่ก็ต้องยอมรับว่าการเข้าถึงคงไม่สะดวกเท่ากับการวาง Clubhouse ไว้ด้านในโครงการเลยนะคะ

2. มีพื้นที่บางส่วนที่มีสายไฟฟ้าแรงสูงพาดผ่าน ซึ่งการแก้โจทย์นี้ของโครงการก็ลงตัวแล้ว ด้วยการจัดพื้นที่ที่จำเป็นต้องเว้นระยะความปลอดภัยตามกฎห่างจากสายกระแสไฟฟ้าแรงสูงเป็นพื้นที่สวน ปูสนามหญ้าให้ ทำให้ตัวโครงการเองได้มีพื้นที่สีเขียวกว้างๆ ให้พักสายตามากกว่าโคงการอื่นๆ ทดแทนกันไป

วัสดุ :
โดยรวมใช้วัสดุเกรดดีตามมาตรฐานราคาโครงการ มีบางอย่างที่ Upgrade วัสดุขึ้นมาจากเฟสแรก เช่น ชั้นบนปูพื้นไม้ Cork ที่นุ่มกว่า Engineering Wood ทั่วไป ส่วนที่ชอบคือชุดครัวในห้องครัวไทยที่จัดเต็มมาให้เหมือนเดิม แต่เสียดายว่าใน Master Bedroom น่าจะติด Rain Shower มาให้อีกสักนิด

อีกอย่างหนึ่งที่ทำได้ดีคือ แสนสิริเค้านำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ภายในบ้าน เช่น มี Breeze Panel แผงช่องลมบริเวณประตูและหน้าต่าง ช่วยการระบายอากาศในบ้านให้ปลอดโปร่ง, ใช้ Solar Attic ระบบพัดลมพลังงานแสงอาทิตย์ ทำให้บ้านเย็นลง ลดการเปิดแอร์ ลดความชื้น และเชื้อโรคใต้หลังคา, ติดตั้งสัญญาณกันขโมย Magnetic+Motion Sensor ที่สามารถเชื่อมต่อกับมือถือได้, ประตูรั้วเปิด/ปิด อัตโนมัติ, Digital Door Lock

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
เนื่องจากเป็นโครงการที่เปิดตัวมาช่วงปี 2560 ทำให้ต้นไม้เริ่มแตกกิ่งก้าน ให้บรรยากาศร่มรื่นสุดๆ แต่ไม่ต้องกลัวว่าตัวบ้านจะเก่าไปด้วยนะคะ เพราะเค้าค่อยๆ ทยอยสร้าง อย่างเช่นบ้านเฟสล่าสุดก็เพิ่งสร้างเสร็จกลางปี 2564 ค่ะ บริเวณถนนหลักจะปลูกไม้ยืนต้นเอาไว้ตลอดแนวและไม้พุ่มตามถนนซอย ทำให้ดูร่มรื่นสวยงาม และนำสายไฟลงดินเกือบทั้งหมด ทำให้ทัศนียภาพสวยงาม เรียบร้อย และบริเวณหน้าโครงการที่มีสายไฟแรงสูงพาดผ่านก็กลายเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่พักสายตาช่วงหน้าโครงการได้ดี

สาธารณูปโภค :
มี Club House ขนาดใหญ่ชื่อว่า AGATE ซึ่งภายในประกอบด้วย Lobby, สระว่ายน้ำขนาด Half Olympic, ฟิตเนส และ BBQ Area ซึ่งสไตล์การออกแบบจะคุม Theme เป็น Modern Classic เช่นเดียวกับตัวบ้าน ส่วนสวนส่วนกลางที่เปิดให้เดินเล่นพักผ่อนได้มีขนาดเกือบ 2 ไร่ อยู่ตรงกลางโครงการเลยจึงเข้าไปใช้งานได้สะดวก แลกกับค่าส่วนกลาง 45 บาท/วา/เดือน ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อนะคะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจเริ่มต้น 14.9 – 34.79 ล้านบาท, 2 กันยายน 2564

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ติดถนนเลียบคลองประปา ทำเลสงบ เน้นใกล้ทางด่วน
• ความปลอดภัย 7.75/10 – รั้วกั้นไม้กระดก ประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ ระบบ LIV-24 และสัญญาณกันขโมยแต่ละบ้าน
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – บ้านใหญ่ 4-5 ห้องนอน ที่ดินรอบบ้านเยอะ 
• วัสดุ 7.75/10 – วัสดุดีตามราคาที่จ่าย บางจุดน่าจะเพิ่มมาให้อีกหน่อย
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.5/10 – ร่มรื่นมาก ได้เสาไฟลงดิน
• สาธารณูปโภค 8/10 – ดี ทั้งสระว่ายน้ำและสวนมีขนาดใหญ่
• 7.79 / 10.00

เศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น 2 เหมาะกับใคร

โครงการเศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น 2 เหมาะสำหรับครอบครัวที่มองหาบ้านขนาดใหญ่ ที่มีทั้งพื้นที่ใช้สอยและที่ดินรอบบ้านเยอะๆ ขนาด 4-5 ห้องนอน อาศัยอยู่ได้ยาวๆ แบบ 3 Generations ต้องการบ้านใกล้ทางด่วนในย่านเมืองทอง – แจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น-ดอนเมือง ชอบบ้านสไตล์ Modern Classic อยากได้โครงการบรรยากาศดี มี Facility ครบครัน และที่สำคัญมีงบประมาณตั้งแต่ 14.9 ขึ้นไปจนถึง 35 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 104,000 – 245,000 บาท

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc