รีวิวโครงการ
บ้านเดี่ยวไซส์ใหญ่ ใกล้สนามบินดอนเมือง 20-40 ล้าน | เศรษฐสิริ ดอนเมือง | คิดเรื่องอยู่ Ep.700
3 มิถุนายน 2023
รีวิวฉบับที่ 2551 จะพาไปชม เศรษฐสิริ ดอนเมือง (Setthasiri Don mueang) บ้านเดี่ยวระดับ Luxury โครงการใหม่จาก Sansiri โดยทำเลตั้งอยู่บนถนนเชิดวุฒากาศ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดงและสนามบินดอนเมืองเพียง 1 กิโลเมตร นอกจากทำเลที่จัดเป็น Rare Item แล้ว Product ยังออกแบบมาในสไตล์ จอร์เจียน (Georgian) ถือเป็นแบบบ้านซีรี่ส์ใหม่ เปิดตัวครั้งแรกที่นี่ ในราคา 20 – 40 ล้านบาท*
สำหรับ Highlights ที่น่าสนใจ เราได้รวบรวมมาให้ชมกันเป็นข้อๆดังนี้ค่ะ
- ทำเล : โครงการ เศรษฐสิริ ดอนเมือง (Setthasiri Don mueang) ตั้งอยู่บนถนนเชิดวุฒากาศ ซึ่งจัดเป็นถนนเส้นหลักที่เชื่อมต่อไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย อาทิ ถนนวิภาวดี – รังสิต ถนนสรงประภา ถนนแจ้งวัฒนะ และการเดินทางเข้า – ออกเมืองยังเป็นไปได้อย่างสะดวกด้วยทางด่วนโทลเวย์ นอกจากนี้ยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และสนามบินดอนเมืองในระยะเพียง 1 กิโลเมตร
- แบบบ้านซีรีส์ใหม่ : เป็นดีไซน์ใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมสไตล์จอร์เจียน ซึ่งเปิดตัวในแบรนด์ เศรษฐสิริ บนทำเลดอนเมืองเป็นครั้งแรก ตัว Product ทำออกมาเน้นความเรียบหรู ได้กลิ่นอายแบบคลาสสิค มี Element ของอาคารที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้รับความนิยมมากในอังกฤษและอเมริกา
- ฟังก์ชันใหญ่ : แบบบ้านมีให้เลือกถึง 5 แบบ ได้พื้นที่ใช้สอย 205 – 462 ตร.ม. ซึ่งแทบจะไม่มีคู่แข่งไซส์ใกล้เคียงกันบนทำเลในย่านนี้เลย ตัวบ้านได้ Solar Panel และ EV Charger ทุกหลัง ภายในยังมีฟังก์ชัน Double Volume เพดานสูง ดูโปร่งโล่ง โดยทุกแบบจะได้ห้องนอนชั้นล่าง รองรับการอยู่อาศัยร่วมกันได้หลาย Generations จึงถือเป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่มีความโดดเด่นทีเดียวค่ะ
ข้อมูลโครงการ
Setthasiri Don Mueang (เศรษฐสิริ ดอนเมือง) ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2566
ชื่อโครงการ | Setthasiri Don Mueang (เศรษฐสิริ ดอนเมือง) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนเชิดวุฒากาศ เขตดอนเมือง |
ที่ดิน | 79 -1 -73 ไร่ |
จำนวนยูนิต | 262 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | 2.7-3.1 เมตร Double Volume 6.5 เมตร |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | 100,000 บาท |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2565 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2568 |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 1685 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.917324 , 100.596693
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากโครงการ แสดงตำแหน่งที่ตั้งของ เศรษฐสิริ ดอนเมือง (Setthasiri Don mueang) โดยโครงการนี้ถือเป็นทำเล Rare Location เพราะทางเข้า – ออกที่อยู่ติดถนนเชิดวุฒากาศ แตกต่างกับโครงการอื่นที่จะต้องเข้าไปในซอย ซึ่งย่านนี้ส่วนใหญ่ก็มีทั้งชุมชนที่พักอาศัย สำนักงานและสถานที่ราชการขึ้นอยู่หลายแห่ง ทำให้การจะหาที่ดินผืนใหญ่ที่จะนำมาพัฒนาโครงการในลักษณะนี้ ไม่ง่ายแล้วนะคะ
โดยทำเลของโครงการจะใช้ถนนเชิดวุฒากาศเป็นหลักในการเข้า – ออก ซึ่งถนนเส้นนี้ก็ถือเป็นถนนสำคัญที่เชื่อมต่อไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายสายจากโซนดอนเมืองเลย ไม่ว่าจะเป็นถนนวิภาวดี-รังสิตไปขึ้นทางด่วนโทลล์เวย์ เข้า – ออกเมืองได้สะดวก ถนนสรงประภา , ถนนแจ้งวัฒนะ , ถนนรังสิต – ปทุมธานี เชื่อมต่อแหล่งความอุดมสมบูรณ์ หาของกินง่าย เหมาะกับคนที่ใช้รถส่วนตัวในการเดินทางเป็นหลักทีเดียวค่ะ
แต่โครงการก็ยังมีตัวเลือกในการเดินทางอย่างรถไฟฟ้าสายสีแดงด้วยนะ โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีดอนเมือง ห่างจากโครงการประมาณ 3.2 กิโลเมตร วิ่งช่วงรังสิต – บางซื่อ นั่งจากฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ไปลงสถานีกลางบางซื่อได้เลย โดยสถานีดอนเมืองนี้ถือเป็นสถานีขนาดใหญ่ที่มี Skywalk เดินเชื่อมเข้าสู่อาคารผู้โดยสารของสนามบินดอนเมืองได้เลย ใครที่ทำงานที่สนามบินถือว่าเดินทางได้สะดวกมากๆเลยค่ะ
ในแง่ของความอุดมสมบูรณ์ เศรษฐสิริ ดอนเมือง (Setthasiri Don mueang) ถือว่าอยู่ใน Location เมือง ที่สามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกได้อย่างครบครัน ในระยะรอบโครงการประมาณ 10 กิโลเมตร ก็มีทั้งร้านค้า ตลาด Community Mall และห้างสรรพสินค้าให้เลือกจับจ่ายได้อย่างหลากหลาย เช่น ห้างเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ , เซ็นทรัล ลาดพร้าว , ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ใกล้สถานศึกษาชื่อดัง โรงเรียนนานาชาติ มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลหลายแห่ง และใกล้ศูนย์จัดแสดงสินค้า อย่าง Impact Arena
ซึ่งในอนาคตก็อาจจะมีสถานที่สำคัญๆที่เกิดจากแผนพัฒนากรุงเทพตอนเหนืออีกด้วย อาทิ โครงการ Mixed – use รวมห้าง , อาคารสำนักงาน , คอนโดและโรงเรียน บนเนื้อที่ขนาด 48 ไร่ เชื่อมต่อถนนพหลโยธินและวิภาวดี – รังสิต จากเซ็นทรัล โครงการสนามบินดอนเมืองเฟส 3 รองรับผู้โดยสาร 40 ล้านคนต่อปี และศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ เฟส 2 เพิ่มอาคารสำนักงานและอาคารจอดรถ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานได้มากขึ้น
การเดินทางไปโครงการ เศรษฐสิริ ดอนเมือง ในวันนี้ เราใช้ถนนสรงประภา มุ่งหน้าเข้าถนนกำแพงเพชร 6 ก่อนกลับรถเพื่อเข้าสู่ถนนเชิดวุฒากาศ หรือใครอยากเลี่ยงรถติด ก็สามารถใช้ซอยประชาอุทิศ 5 เป็นทางลัดเพื่อเข้าสู่ถนนเชิดวุฒากาศได้อีกทางนะคะ
จากถนนสรงประภา เลี้ยวซ้ายเพื่อกลับรถเข้าสู่ถนนกำแพงเพชร 6
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการเศรษฐสิริ ดอนเมือง (Setthasiri Don mueang) ส่วนใหญ่เป็นอาคารพักอาศัยแนวราบ ซึ่งเป็นชุมชนดั้งเดิม มีอพาร์ตเมนต์ที่เป็นอาคารสูง 4 – 5 ชั้นอยู่บ้าง แต่ก็ไม่อยู่ในระยะประชิด ตัวที่ดินของโครงการอยู่ห่างจากถนนเชิดวุฒากาศประมาณ 1 กิโลเมตร ผ่านถนนซอยและถนนภาระจำยอมของโครงการ ติดกับทางเข้า ปัจจุบันเป็นที่ดินเปล่า ซึ่งก็เป็นของ Sansiri เช่นเดียวกัน ในอนาคตก็อาจมีโครงการใหม่ๆพัฒนาขึ้นมาได้ค่ะ
- ทิศเหนือ ติดกับ อาคารพักอาศัยแนวราบ โรงเรียนและอพาร์ทเมนต์สูง 3 – 5 ชั้น
- ทิศใต้ ติดกับ อาคารพักอาศัยแนวราบ
- ทิศตะวันออก ติดกับทางเข้าโครงการ ถนนภาระจำยอม
- ทิศตะวันตก ติดกับ อาคารพักอาศัยแนวราบ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- ห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์ ~ 4.4 กิโลเมตร
- โรบินสัน ศรีสมาน ~ 6.3 กิโลเมตร
- ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ~ 7 กิโลเมตร
- นอร์ท ปาร์ค ~ 9.4 กิโลเมตร
- เมืองทองธานี ~ 10.7 กิโลเมตร
- เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ~ 12.3 กิโลเมตร
- จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ ~ 13.2 กิโลเมตร
- เซ็นทรัล ลาดพร้าว ~ 15 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ~ 7.9 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลวิภาวดี ~ 14.7 กิโลเมตร
โรงเรียน
- โรงเรียนพระหฤทัยนนทบุรี ~ 2.6 กิโลเมตร
- โรงเรียนนานาชาติ ฮาร์โรว์ ~ 4.3 กิโลเมตร
- โรงเรียนเซนต์ฟรังก์ซีสเซเวียร์ ~ 8.1 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยรังสิต ~ 10 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 17 กิโลเมตร
การเดินทาง
- รถไฟฟ้าชานเมือง ดอนเมือง ~ 950 เมตร
- ท่าอากาศยานดอนเมือง ~ 2.3 กิโลเมตร
- ทางพิเศษอุดรรัถยา เมืองทอง ~ 6 กิโลเมตร
- ทางยกระดับดอนเมือง ~ 8 กิโลเมตร
- ทางยกระดับอุตราภิมุข ~ 8 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
โครงการ เศรษฐสิริ ดอนเมือง (Setthasiri Don mueang) เป็นบ้านเดี่ยวระดับ Luxury จำนวน 262 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยวไซส์ใหญ่ทั้งหมด บนถนนเชิดวุฒากาศ จุดเด่นอยู่ที่พื้นที่สีเขียวที่ได้มากว่า 3 ไร่ และอาคาร Clubhouse 2 ชั้น ที่ออกแบบมาได้หรูหรา สวยงาม ช่วยเสริมบรรยากาศของโครงการด้วยผืนน้ำขนาดใหญ่ต้อนรับด้านหน้า ให้ความรู้สึกร่มรื่น น่าอยู่อาศัยทีเดียวค่ะ
จากถนนเชิดวุฒากาศเข้ามาในโครงการ จะต้องผ่านซอยและซุ้มทางเข้าที่มีการรักษาความปลอดภัยถึง 2 จุด (Double Gate) รวมระยะประมาณ 1 กิโลเมตร โดยซุ้มทางเข้าแรกจะอยู่ห่างจากถนนหลักประมาณ 500 เมตร ผ่านสะพานข้ามคลองเปรมประชาเข้ามา เมื่อผ่านชั้นแรกก็จะเจอกับถนนภาระจำยอมที่ตกแต่งมาให้ดูร่มรื่น ตรงต่อมาอีก 500 เมตร ก็จะเจอซุ้มทางเข้าที่ 2 ซึ่งด้านในจะเป็นตัวโครงการเลย
จาก Master Plan จะเห็นว่าที่ดินมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า พื้นที่ส่วนกลางทั้งสวนหย่อมและ Clubhouse จะวางตัวเป็นแนวยาวต่อเนื่องกันตั้งแต่ด้านหน้าไปจนถึงกลางโครงการ ทำให้ลูกบ้านสามารถเดินมาใช้งานได้ง่าย และไม่รู้สึกว่าไกลจนเกินไป ส่วนด้านหน้ายังมี Highlights อย่างผืนน้ำขนาดใหญ่ ช่วยเสริมบรรยากาศโครงการให้ดูร่มรื่น น่าอยู่อาศัย และเป็น First impression ให้กับคนที่ผ่านซุ้มประตูเข้ามาทันที
ปัจจุบันโครงการเริ่มเปิดขายเฟส 1 แล้ว ซึ่งได้รับกระแสตอบรับค่อนข้างดีทีเดียวค่ะ โดยในเฟสแรกก็คือบ้านด้านหน้าติดกับพื้นที่สวน มีให้เลือกทั้ง 5 แบบ สำหรับแปลงมุมส่วนใหญ่จะเป็น Type ขนาด 383 และ 462 ในการจัดผังหน้าบ้านทั้งหมดจะหันขนานกับทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งถือเป็นทิศที่ดีทีเดียวค่ะ ทั้งเป็นทิศที่ได้รับลมประจำปีจากธรรมชาติ และเป็นทิศที่ไม่โดนแดดตรงๆอีกด้วย
เมื่อข้ามคลองเปรมประชามาก็จะเจอกับป้ายโครงการ เศรษฐสิริ ดอนเมือง (Setthasiri Don mueang) ซึ่งออกแบบมาได้หรูหรา เข้ากับความเป็นบ้านเดี่ยวระดับ Luxury
ซุ้มประตูทางเข้าจุดแรกของโครงการ
ทางเข้าด้านหน้ามีบ่อน้ำพุขนาดใหญ่ ดูสวยงาม อลังการ สองข้างทางตกแต่งด้วยแนวต้นไม้ใหญ่เป็นเส้นนำสายตามาสู่ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ ออกแบบมาเป็นหลังคาทรงสูง ได้กลิ่นอายอาคารแบบคลาสสิค
ทางเข้า – ออกแยกเป็น 2 ฝั่ง คั่นด้วยป้อมรปภ. ควบคุมด้วยระบบ Bluetooth ควบคู่กับรางเลื่อนอัตโนมัติ และกล้อง CCTV การใช้งานจะคล้ายกับระบบ Easy – Pass บนทางด่วน ซึ่งในส่วนทางเข้านี้ยังแยกเป็น 2 เลน ระหว่างลูกบ้านและแขกจากภายนอกอีกด้วย
เมื่อผ่านประตูชั้นแรกเข้ามาจะเจอถนนภาระจำยอมของโครงการระยะประมาณ 500 เมตร บรรยากาศรอบๆตกแต่งด้วยไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่ เกาะกลางมีเสาไฟที่ให้ความสว่างตลอดแนวถนน
ซุ้มประตูทางเข้าหลักของโครงการ
บรรยากาศซุ้มประตูทางเข้าส่วนที่ 2 ก็สวยงามไม่แพ้กัน ก่อนจะเข้าโครงการก็ต้องผ่านระบบรักษาความปลอดภัยเหมือนในจุดแรก โดยถนนหลักภายในกว้างประมาณ 12 เมตร เมื่อเข้ามาจะเจอวงเวียนขนาดใหญ่
นอกจากจะทำหน้าที่เป็นตัวแจกจ่ายไปยังซอยต่างๆในโครงการแล้ว การออกแบบยังจัดให้สอดคล้องกับ Landscape ของพื้นที่ส่วนกลาง อย่างรูปปั้นใบบัวขนาดใหญ่ ก็เข้ากับผืนน้ำด้านหน้าทีเดียว
จากมุมมองทางเข้าผ่านผืนน้ำขนาดใหญ่ มองไปเห็น Clubhouse ตรงกลางที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ ช่วยทำให้บรรบายากศดูร่มรื่น ผ่อนคลาย เหมาะจะเป็นสถานที่ๆมาใช้เดินเล่นพักผ่อนในวันอากาศดีๆได้ค่ะ
Clubhouse โครงการออกแบบมาในสไตล์จอร์เจียน โดยเพิ่มเอกลักษณ์อย่าง Dormer บนหลังคาเข้าไป เพื่อให้โดดเด่น แต่ก็ยังเข้ากับบรรยากาศส่วนพักอาศัย ด้านหน้ามีสระว่ายน้ำ Outdoor ขนาดใหญ่ ดูเชื่อมต่อกับผืนน้ำที่อยู่ด้านนอก
สระว่ายน้ำระบบเกลือของโครงการ
สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ แยกโซนเด็กและผู้ใหญ่ได้มาขนาด 8.00×25.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กขนาด 3.70×8.00 เมตร รอบๆสระมีทางเดินเชื่อมต่อกับระเบียงด้านหน้า ออกไปยืนชมวิวบ่อน้ำหรือนั่งเล่นพักผ่อนได้
ด้านหลังอาคารเป็นสวนหย่อมเนื้อที่กว่า 2 ไร่ จากมุมนี้มองเห็น Solar Panel บนหลังคา ซึ่งในตัวบ้านก็จะได้ติดตั้งมาเช่นกัน ถือเป็นการออกแบบที่คำนึงถึงการอยู่อาศัยแบบยั่งยืนค่ะ
สวนหย่อมภายในโครงการ
สวนหย่อมของโครงการ จัดฟังก์ชันมาเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ในการตกแต่งได้กลิ่นอายแบบสวนอังกฤษ ทั้งสวนแบบสมมาตร แบ่งเป็นช่อง Grid เพิ่มลูกเล่นให้กับทิวทัศน์
ส่วน Playground พร้อมเครื่องเล่น เป็นสนามให้เด็กๆได้ออกมายืดเส้นยืดสาย และ Sansiri Backyard ที่จัดเป็นมุมนั่งเล่นหลายจุด ให้ลูกบ้านได้มานั่งสูดอากาศ พักผ่อนร่วมกัน
เข้ามาในอาคาร จะเจอ Lobby ขนาดใหญ่ ได้โถงเป็น Double Volume ทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่งและโอ่อ่า โดยโครงการจัดเตรียมทั้งชุดโซฟาสบายๆ โต๊ะประชุมแบบยาวขนาด 6 – 8 ที่นั่งไว้ให้ ลูกบ้านสามารถมาใช้เป็นส่วนรับแขกจากภายนอกอีกจุดนึงได้เลย
บรรยากาศใน Kid's Club
ชั้น 1 ยังมีฟังก์ชันอย่าง Kid’s Club ไว้สำหรับเด็กๆที่อยากมานั่งเล่นหรือทำกิจกรรมในร่ม ตากแอร์สบายๆ ไม่ร้อน โดยภายในห้องยังมีพื้นที่ไว้ให้ผู้ปกครองสามารถมานั่งเล่นดูแลเด็กๆร่วมกันได้
Lobby ภายในอาคาร Clubhouse
จาก Lobby พื้นที่ Service จะอยู่ด้านหลัง ประกอบด้วยห้องน้ำส่วนกลาง แยกฝั่งชาย – หญิงมาให้ชัดเจน และมีห้องน้ำแยกไว้สำหรับรองรับผู้พิการหรือผู้สูงอายุอยู่ด้วย
ชั้น 2 ประกอบด้วยฟังก์ชันหลัก 2 ห้องคือ Gym และ Meeting Room ประตูและหน้าต่างฝั่งที่อยู่ด้านในอาคารเป็นกระจกทั้งหมด จึงทำให้สามารถเห็นบรรยากาศการใช้งานภายในได้
Meeting Room
Meeting Room รองรับการใช้งานได้ครั้งละ 4 – 6 คน โดยจะต้องทำการจองผ่าน Home Application เพื่อให้สะดวกกับลูกบ้านที่สามารถเช็คห้องว่างเองได้ด้วย ส่วน Gym เปิดใช้งานได้ตลอด 24 ชัวโมง โดยต้องใช้ Face Scan ก่อนเข้าไปในห้อง ซึ่งอุปกรณ์ก็ได้มาแบบครบครันทั้ง Cardio และ Weight Trainning เลยค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
- Lobby Double Volume
- Kid’s Club
- Meeting Room จองผ่าน Home Service Application
- ห้องออกกำลังกาย GYM (24 ชั่วโมง)
- สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 8.00×25.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร
- แบ่งสระเด็กขนาด 3.70×8.00 เมตร ลึก 0.60 เมตร พร้อมโซนจากุชชี่
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ รวมประมาณ 2 ไร่
- Playground / Sansiri Backyard
- Solar Panel บริเวณหลังคาอาคาร Clubhouse
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate 8 จุด ถนนภาระจำยอม 8 จุด และภายในโครงการ 32 จุด
- ระบบ LIV – 24 เจ้าหน้าที่ดูแลกล้อง CCTV 24 ชั่วโมง
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 2 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 10 เมตร ถนนภายในกว้าง 8 เมตร และถนนซอยกว้าง 6 เมตร
- การเข้า – ออกโครงการใช้ระบบ Bluetooth (แยกฝั่ง Visitor / Resident)
- REAL-TIME GUARD TOUR เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- DIGITAL FENCE : รับสัญญาณแจ้งเตือนการบุกรุก Digital Fence ที่โครงการ
- ประตูรั้วโครงการ (Double Gate) รางเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor ทุกหลัง
แบบบ้าน
โครงการ เศรษฐสิริ ดอนเมือง (Setthasiri Don mueang) เป็นบ้านเดี่ยวไซส์ใหญ่ บนทำเล Rare Item ย่านดอนเมือง จุดเด่นของบ้านนอกจากขนาดพื้นที่ใช้สอยที่ได้มาเยอะ แบบบ้านยังเป็นหน้ากว้าง ได้ห้องนอนชั้นล่างทุกยูนิต เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิกเยอะ อยู่ร่วมกันได้หลาย Generations
โดยรูปแบบบ้านมาในสไตล์ จอร์เจียน (Georgian) มีให้เลือก 5 แบบด้วยกันดังนี้
- Monro (มอนโร) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 205 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - Lawrence (ลอเรนซ์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 59 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 249 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ - Austen (ออสเทน) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 75 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 308 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ - Masefield (เมสฟิลด์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 90 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 383 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ - Rosenberg (โรเซนเบิร์ก) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 124 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 462 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ
สรุปวัสดุภายในบ้าน
- รูปทรงหลังคา : ปั้นหยา
- ระบบการก่อสร้าง Precast
- พื้นโรงจอดรถหินกรวดล้าง Slab on Beam (ในร่ม) / ส่วนกลางแจ้ง ลงเข็มสั้นลึก 6 เมตร
- พื้นลานซักล้าง ลงเข็มสั้นลึก 6 เมตร
- โครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก
- วัสดุปิดผิว : ไม้สำเร็จรูป ทำสี / ลูกกรงและราวเหล็ก มือจับไม้สำเร็จรูป
- วัสดุพื้นชั้น 1 กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 0.80×0.80 เมตร
- ห้องนอนชั้นล่าง Absorption Floor (Type Austen / Masefield / Rosenberg)
- วัสดุพื้นชั้น 2 Engineering Wood หนา 14 มิลลิเมตร (Type Austen / Masefield / Rosenberg)
- วัสดุพื้นชั้น 2 ลามิเนต หนา 12 มิลลิเมตร (Type Monro / Lawrence)
ห้องครัว
- เคาน์เตอร์ Built – in (ครัวไทย) พร้อมหน้าบาน
- Pantry ครัวพร้อมหน้าบาน : หน้าบานสีเขียว (Type Austen / Masefield / Rosenberg) หน้าบานสีครีม (Type Lawrence)
- ชุดครัวไทย : เครื่องดูดควัน / เตาแก๊ส / อ่างล้างจาน ยี่ห้อ TEKA / ชุดครัวสตาร์มาร์ค
ห้องน้ำ
- สุขภัณฑ์ และชักโครกอัตโนมัติ ยี่ห้อ COTTO
- ก็อกน้ำ / ฝักบัว ยี่ห้อ KOHLER
- ฉากกั้นอาบน้ำ กระจกหนา 10 มิลลิเมตร ยี่ห้อ โมทีพ
- อ่างอาบน้ำ ยี่ห้อ KOHLER
สรุปเทคโนโลยีภายในบ้าน
- ประตูทางเข้า รางเลื่อนอัตโนมัติทุกยูนิต
- BREEZE PANEL
- SOLAR PANEL 4 แผง แบบ Ongrid
- ระบบไฟฟ้า 3 เฟส (Type 205 – 383 : 30/100 Type 462 : 50/150)
- EV CHARGER 22 KW ยี่ห้อ ABB
- Magnetic & Motion Sensor ชั้น 1 – 2 ทุกยูนิต
- Digital Door Lock ยี่ห้อ igloohome
- เครื่องปรับอากาศ Wall Type ในห้องนอนทุกยูนิต
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ประตูรั้วทางเข้าในแบบบ้านมาตรฐาน
ประตูทางเข้าบ้านเป็นรางเลื่อนอัตโนมัติติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน ด้านข้างมีประตูเล็กสำหรับคนเข้าเป็นบานสวิง ใกล้กันมีกริ่งไร้สาย ข้อดีก็คือ ติดตั้งได้ง่าย กันแดดกันฝนได้ดี ถ้าชำรุดก็สามารถซื้อมาเปลี่ยนใหม่ได้เลย
แบบบ้าน Lawrence (ลอเรนซ์)
สไตล์ จอร์เจียน (Georgian) เป็นแบบบ้านซีรี่ส์ใหม่จาก Sansiri โดยได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมในยุค British Georgian หรือช่วงรัชสมัยของพระเจ้าจอร์จทั้ง 4 ของอังกฤษ (ค.ศ. 1714-1830) ซึ่งความนิยมของสถาปัตยกรรมแนวนี้ยังแพร่หลายไปสู่อเมริกา จุดเด่นอยู่ที่ความ Symmetry ที่เกิดจากลดทอนสถาปัตยกรรมแบบโกธิคลง แต่ยังคงความหรูหรา ด้วยดีไซน์หลังคาทรงปั้นหยา , Shutter บานหน้าต่าง ประตูและเสาทรงสูงที่มีกลิ่นอายแบบคลาสสิค จึงทำให้ได้รับความนิยมในกลุ่มเศรษฐีชาวอเมริกันเช่นเดียวกันค่ะ
โดยบรรยากาศและความน่าสนใจของรูปแบบบ้านที่ เศรษฐสิริ ดอนเมือง นำเสนอออกมานี้จะมีอะไรบ้าง ไปเริ่มชมที่แบบแรกกันเลย
แบบบ้าน Lawrence (ลอเรนซ์) พื้นที่ใช้สอย 249 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำและ 3 ที่จอดรถ เป็นไซส์ที่ขยับขึ้นมาจากแบบบ้านเริ่มต้นและมีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการ ซึ่งลักษณะจะเป็นบ้านหน้ากว้าง แยกทางเข้า – ออกเป็น 2 ทาง คือประตูหลักที่ซุ้มทางเข้า และประตู Service ที่หลังโรงจอดรถ
โดยแบบบ้านนี้เริ่มมีห้องแม่บ้านแยกใช้งานมาให้เป็นสัดส่วนที่ด้านหลังบ้าน การจัดผังเป็นแบบ Open Plan ทำให้บรรยากาศไม่อึดอัด ห้องนอนชั้นล่างอยู่ติดกับห้องน้ำกลาง เดินใช้งานได้อย่างสะดวก พื้นที่เตรียมอาหารแยกเป็น Pantry ด้านนอกและครัวไทยที่อยู่ถัดเข้ามาด้านใน ซึ่งทางโครงการก็ทำ Built – in เคาน์เตอร์มาให้ทั้งหมด
ชั้น 2 ประกอบด้วย Master Bedroom ที่ยาวเท่ากับหน้ากว้างตัวบ้าน ได้พื้นที่อเนกประสงค์ Walk – in Closet และห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนอีก 2 ห้อง มีห้องน้ำแยกใช้งานภายใน ไม่ต้องกังวลเรื่องความสะดวกและเป็นส่วนตัวเลย
บรรยากาศด้านหน้าตัวบ้าน
โรงจอดรถกว้าง 7.86 เมตร จอดรถได้ 3 คันกำลังดี พื้นปูด้วยหินกรวดล้าง โครงสร้าง Slab on Beam ส่วนกลางแจ้งลงเข็มสั้นมาลึก 6 เมตร สามารถต่อเติมหลังคาเพิ่มได้แบบสบายๆ สำหรับลูกบ้านที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ทางโครงการได้ติดตั้ง EV Charger ขนาด 22 KW มาให้จากยี่ห้อ ABB
ประตูทางเข้าจากโรงจอดรถมี Digital Door Lock มาด้วย ใช้ได้ทั้งแบบกดรหัสและสแกนคีย์การ์ด ช่องเก็บของได้มาขนาดกว้าง 0.60×2.00 เมตร มาพร้อมบานเปิดทรงสูง หยิบ – เก็บของชิ้นใหญ่ๆได้เลย
ส่วนทางเข้าบ้านเป็นประตูบานเปิดคู่
ทางเข้าออกแบบมาให้ดู Grand ด้วยซุ้มทรงสูง ด้านบนมีหลังคาคลุมคอยบังแดด บังฝนได้ ประตูเป็นบานเปิดกระจกคู่กว้าง 1.54 เมตร สูง 2.33 เมตร ในบ้านมาตรฐานรอบๆพื้นจะปูหญ้ามาให้ สามารถตกแต่งสวนเพิ่มบรรยากาศได้ตามสไตล์ที่ชอบ
เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับส่วนนั่งเล่นอันดับแรก จัดเป็นพื้นที่พักผ่อนร่วมกันของครอบครัว ติดกันเป็นส่วนรับประทานอาหารที่เดินเชื่อมต่อกันได้ ทำให้บรรยากาศภายในดูโปร่งโล่ง เพื่อความปลอดภัย ประตู – หน้าต่างจะได้ Magnetic Sensor ติดตั้งมาให้ทั้งหลังจากทางโครงการ
พื้นที่ใช้งานส่วนห้องนั่งเล่น
ชั้น 1 ฝ้าเพดานสูง 2.70 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนขนาด 0.80×0.80 เมตร ตรงกลางวางโซฟา 4 -5 ที่นั่งได้แบบสบายๆ พร้อมโต๊ะด้านหน้า ระยะดูทีวีได้มากว้างประมาณ 4 เมตร ติดตั้งทีวี 60 – 70 นิ้วได้เลย
ขยับมาที่ส่วนรับประทานอาหาร วางโต๊ะ 6 – 8 ที่นั่งได้กำลังดี ติดกันจากมุมโต๊ะสามารถมองเห็นวิวสวนข้างบ้านได้ด้วย และด้านหลังยังมีบานเลื่อนกระจก ทำให้ได้แสงจากธรรมชาติเข้ามาหลายจุดทีเดียวค่ะ
พื้นที่ใช้งานส่วนรับประทานอาหาร
นอกจากเคาน์เตอร์ในครัวแล้ว ด้านนอกยังมี Pantry ที่โครงการ Built – in มาให้พร้อมหน้าบาน โดยในบ้านมาตรฐาน Lawrence จะได้เป็นบานเปิดสีครีม สามารถใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารแบบเบาๆได้
ถัดเข้ามาจะเจอกับโถงบันได ห้องนอนชั้นล่างหรือห้องอเนกประสงค์ และพื้นที่ Service ที่จัดมาให้เป็นสัดส่วน โดยจุดเด่นอยู่ที่พื้นที่เก็บของ ซึ่งได้มาค่อนข้างเยอะเลย
โถงทางเข้าจากประตูโรงจอดรถ
ประตูทางเข้าจากโรงจอดรถ ด้านข้างมีตู้ Built – in มาให้ 2 จุด ใช้เป็นพื้นที่เก็บของ หรือตู้วางรองเท้าก็ได้ โดยภายในมีชั้นวางติดตั้งมาพร้อมใช้งาน ส่วนด้านข้างบันไดยังมีช่องเก็บของขนาดใหญ่มาให้อีก 1 จุด
พื้นที่ใช้งานภายในห้องครัว
ห้องครัวเป็นแบบปิด ได้เคาน์เตอร์ Built – in จากโครงการเหมือนบ้านตัวอย่าง ลักษณะแยกเป็น 2 ฝั่ง ได้ทั้งส่วนทำอาหารและเตรียมอาหาร ท็อปเคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์ หน้าบานสีน้ำเงิน ได้อ่างล้างจานแบบ 2 หลุม เตาแก๊สและเครื่องดูดควันจากยี่ห้อ TEKA
ลานซักล้างด้านหลังบ้านลงเข็มมาให้ ลดความกังวลเรื่องพื้นทรุดในอนาคตได้เลย ส่วนห้องแม่บ้านเดินเข้า – ออกได้ผ่านห้องครัว มีห้องนอนและห้องน้ำแยกใช้งาน ได้ทั้งความสะดวกและเป็นส่วนตัวค่ะ
ถัดมาที่ห้องอเนกประสงค์หรือห้องนอนชั้นล่าง ในบ้านตัวอย่างจัดฟังก์ชันมาเป็นห้องทำงานส่วนตัว นอกจากวางโต๊ะทำงานแล้ว ยังมีพื้นที่ให้วางตู้เก็บของและจัดเป็นมุมนั่งเล่นได้ ด้านข้างมีประตูบานเลื่อนกระจก ช่วยเปิดรับแสงจากธรรมชาติได้แบบเต็มที่ และมีเฉลียงให้ออกไปใช้งานสวนด้านนอกได้ด้วย
ติดกับห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างเป็นห้องน้ำ สำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุแล้วจัดฟังก์ชันห้องชั้นล่างเป็นห้องนอน ก็สามารถเดินเข้าห้องน้ำได้ง่าย และมีส่วนอาบน้ำมาให้ด้วย
อุปกรณ์ภายในห้องน้ำ
ห้องน้ำแยกพื้นที่ส่วนเปียก – ส่วนแห้งมาให้ อ่างล้างมือได้เป็นแบบฝังเคาน์เตอร์ ติดตั้งพร้อมก็อกน้ำจาก KOHLER ด้านล่างได้ช่องเก็บของและบานเปิด ด้านหลังมี Low Wall ไว้วางของใช้เล็กๆได้ โถสุขภัณฑ์เป็นแบบอัตโนมัติจาก COTTO
พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องลายไม้สีอ่อน บริเวณส่วนยืนอาบมีการทำขอบขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำไหลย้อนออกสู่ภายนอก ได้มาขนาด 0.79×1.48 เมตร ฝักบัวเป็นแบบ Hand Shower จากยี่ห้อ KOHLER เช่นเดียวกัน
ก่อนขึ้นชั้นบนต้องผ่านโถงบันได ได้ขนาดมาตามมาตรฐานกว้างประมาณ 1 เมตร ลูกตั้งสูง 17 และลูกนอนกว้าง 27 เซนติเมตร ราวกันตกเป็นลูกกรงเหล็ก มือจับเป็นไม้สำเร็จรูป ทำสีเหมือนตัวบันได ด้านข้างมีไฟติดผนังติดตั้งมาให้ด้วย
พื้นที่ใช้งานบริเวณห้องนอน
ชั้น 2 ประกอบด้วยห้อง Master Bedroom และห้องนอนอีก 2 ห้อง ได้ห้องน้ำในตัว สำหรับครอบครัวที่มีเด็กๆอยู่ด้วย ก็จัดให้เป็นห้องนอนลูก ได้ฟังก์ชันครบครันทั้งพื้นที่วางเตียงนอนขนาด 5 – 6 ฟุต มุมแต่งตัว ส่วนนั่งเล่นหรือทำการบ้าน ใช้งานได้ตั้งแต่เด็กจนโตเลย
ห้องน้ำส่วนตัวในห้องนอนรอง
ห้องน้ำได้เป็นแบบหน้ากว้างเหมือนห้องชั้นล่าง ได้สุขภัณฑ์ครบชุดเหมือนในบ้านตัวอย่าง พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้ง ช่วยระบายกลิ่นและความชื้นได้ดี ส่วนอาบน้ำขนาด 0.89×1.46 เมตร มี Junction Box เตรียมไว้ให้ สำหรับติดเครื่องทำน้ำอุ่นภายหลังได้
พื้นที่ใช้งานบริเวณห้องนอน
ห้องนอนห้องที่ 2 ได้มุมแต่งตัวเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นมาหน่อย ในบ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นโทนสีหวานๆจัดเป็นห้องของลูกสาว บริเวณหัวเตียงได้หน้าต่างขนาดใหญ่มา 2 จุด และส่วนแต่งตัวอีก 1 จุด ช่วยเปิดระบายอากาศและรับแสงจากธรรมชาติได้ดี
ห้องน้ำส่วนตัวในห้องนอนรอง
ห้องน้ำแยกการใช้งานออกเป็น 2 ฝั่ง แบ่งพื้นที่ส่วนเปียก ส่วนแห้งชัดเจน ง่ายต่อการใช้งานและทำความสะอาด กระจกเงาได้แบบเต็มบาน ทำให้ห้องดูกว้างมากขึ้น ส่วนอาบน้ำขนาด 0.88×1.46 เมตร สุขภัณฑ์และก็อกน้ำได้จากยี่ห้อ COTTO และ KOHLER
ในห้อง Master Bedroom ได้มาขนาดใหญ่ รองรับเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้ โดยยังสามารถแบ่งสัดส่วนเป็นฟังก์ชันย่อยในห้องได้อีก เช่น มุมโซฟานั่งเล่นด้านข้าง , ตู้วางทีวีปลายเตียง , Walk – in Closet ที่เชื่อมต่อกับส่วนห้องน้ำ
พื้นที่ใช้งานบริเวณห้องนอน
ด้านข้างเตียงเป็นหน้าต่างบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ ระเบียงด้านนอกกว้างประมาณ 30 เซนติเมตร มีราวกันตกที่สามารถนำไม้กระถางเล็กๆมาแขวนช่วยเพิ่มบรรยากาศได้
มุมนั่งเล่นด้านข้างเตียงนอน
Walk – in Closet สามารถ Built – in เป็นตู้เสื้อผ้าแบบเต็มผนังได้ ภายในห้องน้ำได้ฉากกั้นกระจกติดตั้งมาให้จากทางโครงการ โถสุขภัณฑ์เป็นแบบอัตโนมัติ ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานจากยี่ห้อ COTTO
แบบบ้าน Austen (ออสเทน)
เป็นแบบบ้านไซส์กลางของโครงการ ที่มีความน่าสนใจหลายจุดทีเดียวค่ะ ทั้งยังเป็นแบบเริ่มต้นที่ได้โถงทางเข้าเป็น Double Volume ได้พื้นที่ใช้สอย 308 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ โดยแบบบ้านนี้จะแยกพื้นที่ Service และพักผ่อนออกจากกันชัดเจน ห้องนอนชั้นล่างที่อยู่ติดกับส่วนนั่งเล่น ก็ได้ห้องน้ำแยกใช้งานในตัว ส่วนรับประทานอาหารขนาดใหญ่ ติดกันมีประตูบานเลื่อนกระจก สามารถเปิดออกไปใช้งานเฉลียงด้านหลังได้
ส่วนชั้น 2 ได้ Family Area เพิ่มขึ้นมาอีกจุดติดกับโถงบันได ห้องนอน Master Bedroom ได้อ่างล้างมือแบบ His&Her , อ่างอาบน้ำและฉากกั้นกระจกติดตั้งมาให้ด้วย ห้องนอนรองได้พื้นที่เยอะ จัดเป็นมุม Walk – in Closet ส่วนตัวได้เลยทั้ง 2 ห้อง
ด้านหน้า เป็นซุ้มทางเข้าทรงสูง มาพร้อมประตูที่ด้านบนเป็นช่องแสงกระจก Fix ดีไซน์ Arch โค้งได้กลิ่นอายคลาสสิค หลังคาและเสามีการย่อมุมทำให้ตัวบ้านดูมีมิติ และทางเข้าดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
พื้นที่จอดรถกว้าง 7.79 เมตร
พื้นที่จอดรถกว้าง 7.79 เมตร สามารถจอดพร้อมกัน 3 คันได้แบบพอดีๆ สำหรับแปลนบ้านที่ได้เนื้อที่ด้านหน้าเยอะ อาจจะพอขยับขยายให้จอดแบบซ้อนคันเพิ่มได้ โดยในบ้าน Type นี้ไม่มีลานซักล้าง แต่มีพื้นที่ Service หลังครัว จัดเป็นมุมวางเครื่องซักผ้าด้านนอกได้
จุดเด่นของแบบบ้าน Austen (ออสเทน) อย่างแรกคือเมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอ Foyer ส่วนต้อนรับ เป็น Double Volume สูง 6.5 เมตร หากใครอยากเพิ่มลูกเล่นให้กับบ้านก็สามารถซื้อแชนเดอเรีย หรือโคมไฟระย้ามาตกแต่งตามสไตล์ที่ชอบได้เลย
พื้นที่ใช้งานส่วนนั่งเล่น
ส่วนนั่งเล่นอยู่ติดกับโถงทางเข้า แต่ตำแหน่งจะอยู่ถัดมาที่ด้านข้างทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ระยะจากโซฟาถึงหน้าทีวีกว้าง 3.69 เมตร ติดตั้งทีวีขนาด 50″ขึ้นไปได้ ฝ้าเพดานได้ความสูง 2.9 เมตร
โถงบันไดเชื่อมต่อกับ Double Volume ขึ้นไปที่ชั้น 2 เป็นที่ทางเดิน กั้นด้วยราวลูกกรงเหล็ก ทำบรรยากาศดูโปร่งโล่ง เพราะแสงจากบาน Fix กระจกขนาดใหญ่ ส่องเข้ามาได้ทั่วถึง
พื้นที่ใช้งานส่วนรับประทานอาหาร
ส่วนรับประทานอาหารจะอยู่บริเวณกลางบ้าน ได้ขนาดมาค่อนข้างใหญ่ รองรับโต๊ะ 6 – 8 ที่นั่งได้ ติดกันเป็นส่วน Pantry ที่ในบ้านมาตรฐานจะ Built – in เคาน์เตอร์มาให้ เป็นรูปตัว L ด้านหลังเป็นประตูบานเลื่อนกระจกคู่ เปิดออกไปเป็นเฉลียง จัดเป็นมุมนั่งเล่นชมสวนหลังตัวบ้านได้
ห้องน้ำ Powder Room ที่ชั้น 1
ห้องน้ำชั้น 1 จะเป็นแบบ Powder Room คือไม่ได้มีพื้นที่อาบน้ำมาให้ เพราะสมาชิกในบ้านจะมีห้องอาบน้ำในตัวทุกห้องนอนอยู่แล้ว จึงเหมาะสำหรับใช้รับแขกภายนอก อุปกรณ์ได้มาครบครันเหมือนในบ้านตัวอย่าง ชักโครกเป็นแบบอัตโนมัติจากยี่ห้อ COTTO
ห้องครัวแบบไทย
ส่วนครัวเป็นแบบปิด ได้เคาน์เตอร์ Built – in เข้ามุมจากทางโครงการ ติดตั้งหน้าบานมาให้พร้อมใช้งาน ได้อ่างล้างจาน , เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันจากยี่ห้อ TEKA ด้านหลังมีประตูเชื่อมต่อออกไปยังลานซักล้าง มีมุมให้วางเครื่องซักผ้าด้านนอกมาให้ด้วย
ห้องนอนชั้นล่าง สะดวกกับครอบครัวที่มีผู้พิการหรือผู้สูงอายุที่ไม่สะดวกจะเดินขึ้น – ลงบันได โดยในแบบบ้านนี้จะได้ห้องน้ำมาในตัวด้วย วัสดุพื้นปูด้วย Absorption Floor ที่รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุได้ดีกว่าพื้นทั่วไป เพราะช่วยลดแรงกระแทกได้
ห้องน้ำภายในห้องนอนชั้นล่าง
ห้องน้ำแยกโซนเปียก โซนแห้งมาให้ อ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ สายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่จากยี่ห้อ COTTO ส่วนอาบน้ำได้ขนาด 0.77×1.47 เมตร ได้ฉากกั้นอาบน้ำติดตั้งมาให้ฝักบัวแบบ Hand Shower จาก KOHLER ด้านข้างมีช่องไว้ใส่อุปกรณ์อาบน้ำได้ด้วย
โถงบันไดบริเวณกลางบ้าน
โถงบันไดบริเวณชั้น 1 และชั้น 2 เมื่อขึ้นมาจะมีพื้นที่อเนกประสงค์อยู่ด้านข้าง จัดเป็นมุมวางโซฟานั่งเล่นหรือโต๊ะทำงาน วัสดุพื้นปูด้วย Engineering Wood หนา 14 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 3.1 เมตร
ติดกันเป็นห้องนอนรอง ซึ่งได้ขนาดมาค่อนข้างกว้าง ใกล้เคียงกับ Master Bedroom ของบ้านไซส์เล็กสุดเลยทีเดียว ภายในสามารถจัดเป็นมุมแต่งตัวขนาดใหญ่แยกเป็นสัดส่วนได้
ห้องน้ำส่วนตัวในห้องนอนรอง
ห้องน้ำ ลักษณะการตกแต่งเหมือนกับห้องน้ำชั้นล่าง ได้อุปกรณ์และสุขภัณฑ์ครบชุดเหมือนในบ้านตัวอย่างจากยี่ห้อ COTTO และ KOHLER
พื้นที่ใช้งานบริเวณห้องนอน
ภายในห้องนอนอีกห้อง ได้ขนาดมาไม่แตกต่างกันมาก ตรงกลางวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้ หัวเตียงมีช่องแสงมาให้ 2 จุด และด้านข้างมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ใช้เปิดรับแสงและลมจากธรรมชาติได้ดี
ส่วนแต่งตัวอยู่ติดกับห้องน้ำซื้อเป็นตู้เสื้อผ้าแบบสำเร็จ หรือ Built – in แบบเข้ามุมก็เหมาะสมกับการใช้งาน และยังถือว่าได้ออกแบบพื้นที่เก็บของให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ได้ด้วย
ห้องน้ำส่วนตัวในห้องนอนรอง
ห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนวางโถสุขภัณฑ์และส่วนอาบน้ำได้มาขนาด 0.89×1.47 เมตร ได้ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปิดกระจกเปลือย ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน
พื้นที่ใช้งานบริเวณห้องนอน
Master Bedroom เป็นแบบหน้ากว้าง ข้อดีคือทำให้ได้ช่องแสงมาหลายตำแหน่ง จึงทำให้บรรยากาศในห้องดูโปร่งโล่ง บริเวณหัวเตียงมีหน้าต่างบาน Fix กระจก 1 จุด สามารถมองลงไปเห็นโถงต้อนรับที่ชั้น 1 ได้
ห้องน้ำภายใน Master Bedroom
ห้องน้ำในห้อง Master Bedroom ได้อ่างล้างมือฝังเคาน์เตอร์มาเป็นแบบ His&Her ทำให้สามารถใช้งานพร้อมกันได้ โดยข้างล่างมีช่องไว้ให้เก็บของติดตั้งมาพร้อมหน้าบาน ใช้งานสะดวก
โดยจุดเด่นในห้องน้ำนี้ก็คือ อ่างอาบน้ำแบบลอยตัวขนาด 0.60×1.50 เมตร วางอยู่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่ ซึ่งเป็นกระจกฝ้า สามารถช่วยพรางสายตา แต่ก็ยังได้แสงจากธรรมชาติ
ห้องน้ำภายใน Master Bedroom
ส่วนอาบน้ำได้เป็นแบบ Shower Box ขนาด 0.98×1.38 เมตร ฝักบัว Hand Shower ปรับน้ำร้อน – นำ้เย็นได้ ติดกันเป็นส่วนวางโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติจากยี่ห้อ COTTO ค่ะ
แบบบ้าน Monro (มอนโร)
เป็นแบบบ้านขนาดเริ่มต้นของโครงการ พื้นที่ใช้สอย 205 ตร.ม. ได้ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ ซึ่งในแบบบี้ห้องครัวจะอยู่ติดกับส่วนรับประทานอาหาร โดยทางโครงการจะกั้นประตูบานเลื่อนกระจกมาให้ ห้องนอนชั้นล่างอยู่ติดกับห้องน้ำกลางที่ชั้น 1 ไม่มีห้องแม่บ้าน ที่ชั้น 2 ห้องนอนทุกห้องจะได้ห้องน้ำในตัว รองรับครอบครัว 4 – 5 คนได้สบายๆ
สำหรับบรรยากาศภายในของบ้าน Type อื่นๆจะเป็นยังไงบ้าง เราได้รวมภาพมาให้ชมกันดังนี้ค่ะ
แบบบ้าน Monro (มอนโร) พื้นที่ใช้สอย 205 ตร.ม.
แบบบ้าน Masefield (เมสฟิลด์)
พื้นที่ใช้สอย 383 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องแม่บ้านและ 3 ที่จอดรถ
แบบบ้าน Masefield (เมสฟิลด์) พื้นที่ใช้สอย 383 ตร.ม.
บรรยากาศภายในแบบบ้าน Masefield ( เมสฟิลด์) บริเวณชั้น 1 จุดเด่นคือส่วนพักผ่อนที่ได้มา 2 จุด แบ่งเป็นพื้นที่รับแขกด้านหน้า และส่วนนั่งเล่นของครอบครัวที่บริเวณโถงกลาง เวลามีแขกมาบ้าน สมาชิกคนอื่นๆก็ยังย้ายมาใช้งานที่ส่วนด้านในได้
แบบบ้าน Masefield (เมสฟิลด์) พื้นที่ใช้สอย 383 ตร.ม.
ชั้น 2 ได้โถงอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ห้องนอนแบ่งเป็น 4 ห้อง ได้ห้องน้ำและมุม Walk – in Closet แยกใช้งานในตัวทุกห้อง
แบบบ้าน Rosenberg (โรเซนเบิร์ก)
เป็นแบบบ้านไซส์ใหญ่สุดในโครงการ ได้พื้นที่ใช้สอยมาถึง 462 ตร.ม. และที่ดินเริ่มต้นเกิน 100 ตร.วา ซึ่งถือว่าเป็นบ้านไซส์ใหญ่ที่หาได้ยากบนทำเลย่านดอนเมืองเลยนะคะ ฟังก์ชันแบ่งเป็น 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องแม่บ้าน และ 4 ที่จอดรถ
จุดเด่นอยู่ที่ซุ้มประตูทางเข้า ที่ดีไซน์มาได้ Grand มากๆ ด้วยเสาทรงสูง 4 เสา แตกต่างกับแบบบ้าน Type อื่นๆ ทางเข้ามีการทำ Ramp หรือทางลาดเพื่อรองรับการใช้งานของรถเข็นและผู้สูงอายุ ภายในได้พื้นที่มาเยอะมาก จึงสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้หลากหลาย
หากใครที่สนใจบ้านเดี่ยวซีรี่ส์ใหม่ ไซส์ใหญ่ ราคา 20 – 40 ล้านบาท* ก็สามารถเข้าไปชมโครงการ เศรษฐสิริ ดอนเมือง กันได้เลยค่ะ
ราคา
เศรษฐสิริ ดอนเมือง (Setthasiri Don mueang) ราคา ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2566
- Monro (มอนโร) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 205 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 13.99 ล้านบาท* - Lawrence (ลอเรนซ์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 59 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 249 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท* - Austen (ออสเทน) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 75 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 308 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 22 ล้านบาท* - Masefield (เมสฟิลด์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 90 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 383 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 27 ล้านบาท* - Rosenberg (โรเซนเบิร์ก) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 124 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 462 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 38 ล้านบาท* - จอง 30,000 บาท ทำสัญญา 20% ของราคาบ้าน
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 100,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 36 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
เศรษฐสิริ ดอนเมือง (Setthasiri Don mueang) จัดเป็นโครงการแนวราบที่มีศักยภาพในการเดินทางค่อนข้างสูง อยู่บนทำเลเมืองติดถนนเชิดวุฒากาศ ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักที่เชื่อมต่อเข้า – ออกเมืองได้อย่างหลากหลาย ทั้งถนนสรงประภา , ถนนวิภาวดี – รังสิต , ถนนแจ้งวัฒนะ , ถนนรังสิต – ปทุมธานี ใกล้จุดกลับรถและจุดขึ้นทางด่วน นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้าสายสีแดงเป็นตัวเลือกในการเดินทาง โดยด้านหน้าโครงการมีบันไดเชื่อมต่อขึ้น – ลงสถานีได้เลย นับเป็นจุดเด่นของโครงการแนวราบที่หาได้ยากค่ะ
และทำเลนี้ยังจัดเป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง เพราะรอบโครงการเป็นแหล่งชุมชนเดิม มีทั้งบ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน สถานที่ราชการ และโรงแรมขึ้นอยู่ค่อนข้างเยอะ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องหาของกินเลย โดยเฉพาะบนถนนสรงประภา มีทั้งตลาด ร้านค้า Community Mall และห้างสรรพสินค้าขึ้นอยู่หลายแห่ง ใกล้กันก็มีโรงเรียน โรงพยาบาล เหมาะเป็นทำเลที่สามารถอยู่อาศัยร่วมกันได้แบบครอบครัว
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
ระบบรักษาความปลอดภัยได้ตามมาตรฐาน ซุ้มประตูโครงการเป็นแบบ Double Gate ใช้ระบบ Bluetooth ควบคู่กับประตูรางเลื่อนไฟฟ้าทั้ง 2 จุด มีเจ้าหน้าที่รปภ. และกล้อง CCTV ที่ Main Gate 8 จุด ถนนภาระจำยอม 8 จุด และภายในโครงการ 32 จุด ที่สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้แบบ 24 ชั่วโมง ภายในบ้านติดตั้ง Digital Door Lock และ Magnetic Sensor ทั้งหลัง ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยเลยค่ะ
การออกแบบโครงการ :
โครงการ เศรษฐสิริ ดอนเมือง (Setthasiri Don mueang) เป็นบ้านเดี่ยวระดับ Luxury จำนวน 262 ยูนิตบนเนื้อที่ 79 ไร่ จุดเด่นอยู่ที่พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ เมื่อรวมกับอาคาร Clubhouse จะได้พื้นที่มากว่า 3 ไร่ ออกแบบมาเป็นสวนสไตล์อังกฤษ เข้ากับ Concept ของโครงการ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสไตล์จอร์เจียน โดยพื้นที่สวนจะวางเป็นแนวยาวต่อเนื่องตั้งแต่ด้านหน้าจนถึงกลางโครงการ ทำให้ลูกบ้านเดินมาใช้งานได้ง่าย ส่วนการวางผังตัวบ้าน ด้านหน้าจะหันขนานกับทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันตกเฉียงใต้เป็นส่วนใหญ่ ข้อดีคือเป็นทิศที่ไม่โดนแดดตรงๆ ทำให้หน้าบ้านไม่ร้อนค่ะ
การออกแบบพื้นที่ใช้สอย :
ตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์จอร์เจียน ซึ่งเป็นแบบบ้านซีรี่ส์ใหม่ เปิดตัวครั้งแรกที่เศรษฐสิริ ดอนเมือง (Setthasiri Don mueang) เลย หน้าตาจะได้กลิ่นอายแบบคลาสสิค เน้นความโอ่อ่า หรูหราแต่เรียบง่ายด้วยรูปทรงที่ดูสมมาตร โดยจุดเด่นอยู่ที่ขนาดพื้นที่ใช้สอยที่ได้มาเยอะมาก เมื่อเทียบโครงการอื่นบนทำเลเดียวกัน ซึ่งรูปแบบมีให้เลือกด้วยกันถึง 5 แบบ พื้นที่ใช้สอย 205 – 462 ตร.ม. รองรับครอบครัวขนาดใหญ่ 5 – 6 คนขึ้นไปสบายๆเลย สำหรับคนที่ชอบบ้านหน้ากว้าง ได้ห้องนอนชั้นล่างทุกยูนิต ในบ้านมีพื้นที่แบบ Double Volume โครงการนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์เลยค่ะ
วัสดุ :
ได้ตามมาตรฐานราคา ซึ่งก็มีความแตกต่างกันไปในแต่ละ Type แต่โดยรวมก็ถือว่าเหมาะสมกับโครงการในระบบ Luxury ค่ะ โครงสร้างบ้านเป็นแบบ Precast ที่จอดรถและลานซักล้างลงเข็มมาให้เรียบร้อย ส่วนตัวชอบที่โครงการ Built – in เคาน์เตอร์มาให้ ทั้งในครัวไทย และส่วน Pantry ทำให้ช่วยประหยัดงบในการตกแต่งไปได้พอสมควร อีกทั้งยังได้เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และชุดครัวจากยี่ห้อ Starmark นอกจากนี้ยังมีการติดตั้ง Solar Panel มาให้ 4 แผง และ EV Charger เข้ากับรูปแบบการใช้ชีวิตในปัจจุบันทีเดียวค่ะ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
บรรยากาศของโครงการทำออกมาได้ดูร่มรื่นน่าใช้งานทีเดียวค่ะ ตั้งแต่ซุ้มทางเข้าโครงการจุดแรกผ่านถนนภาระจำยอม ตลอด 2 ข้างทางก็ตกแต่งด้วยไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่ เพิ่มความสดชื่น เมื่อเข้ามาในโครงการจะเจอผืนน้ำเป็นอันดับแรก ซึ่งถือเป็น First Impression ที่น่าสนใจเลย สำหรับใครที่ชอบสวนขนาดใหญ่ มากกว่าการกระจายพื้นที่สวนออกเป็นหลายจุด น่าจะถูกใจค่ะ
สาธารณูปโภค :
ถือเป็นจุดเด่นของโครงการ นอกจากจะมีพื้นที่สวนขนาดใหญ่ ยังมีอาคาร Clubhouse 2 ชั้น ที่ออกแบบมาได้ดูสวยงามอลังการ ฟังก์ชันภายในจัดมาได้ครบตามมาตรฐาน รองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย มี Kid’s Club สำหรับเด็ก Meeting Room และ Gym ที่เปิดใช้งานได้ 24 ชั่วโมง ซึ่งลูกบ้านสามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางนี้ในรับรองแขกได้ ด้านหน้ามีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ เปิดมุม Take View เชื่อมต่อกับผืนน้ำธรรมชาติด้านนอกได้ด้วย
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 20 – 40 ล้านบาท , 31 พฤษภาคม 2566
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้าสายสีแดง
- ความปลอดภัย 8/10 – ซุ้มทางเข้า Double Gate ใช้ระบบ Bluetooth ในบ้านได้ Magnetic Sensor ทั้งหลัง
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – บ้านซีรี่ส์ใหม่ ไซส์ใหญ่ ห้องนอนชั้นล่างทุกยูนิต
- วัสดุ 8.5/10 – ได้เคาน์เตอร์ Built – in ครัวและ Pantry , EV Charger และ Solar Panel
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 9/10 – โครงการใหญ่ ได้พื้นที่สีเขียวกว่า 2 ไร่
- สาธารณูปโภค 9/10 – บ่อน้ำด้านหน้า อาคาร Clubhouse 2 ชั้น
- 8.50 / 10.00
เศรษฐสิริ ดอนเมือง เหมาะกับใคร
โครงการ เศรษฐสิริ ดอนเมือง (Setthasiri Don mueang) เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ที่มองหาบ้าน 2 ชั้น 4 ห้องนอน มีห้องชั้นล่างรองรับผู้สูงอายุ ชอบทำเลที่เดินทางสะดวก ไม่ไกลจากแหล่งความอุดมสมบูรณ์มีพื้นที่ใช้สอยในบ้านเยอะเมื่อเทียบโครงการอื่น มีงบประมาณ 20 – 40 ล้านบาท*
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc