“บางกอก บูเลอวาร์ด” ถือเป็นแบรนด์บ้านที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักแบรนด์หนึ่งจากทาง SC Asset นะคะ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ออกแบบบ้านสไตล์นอร์ดิกมาและได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยในครั้งนี้ได้ปล่อยบ้านซีรีส์ใหม่ที่มีชื่อว่า “LANAI” (ลา-ไน) ออกมา ซึ่งเป็นแบบบ้านที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตหลังจากสถานการณ์ Covid-19 ให้ผู้อยู่อาศัยมีพื้นที่ที่อยู่สบายและสามารถสร้างความสุขภายในบ้านได้ทุกวันค่ะ
บ้านซีรีส์ใหม่ “LANAI” (ลา-ไน) นี้จะเปิดตัวครั้งแรกในโครงการ “บางกอก บูเลอวาร์ด ดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ” ซึ่งเราเองก็ได้เข้าไปเยี่ยมชมมาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าบ้านซีรีส์ “LANAI” นี้จะมีบรรยากาศอย่างไร และมีจุดเด่นอย่างไรกันบ้าง ตามอ่านกันต่อได้เลยค่ะ
ที่มาของการพัฒนาบ้านซีรีส์ใหม่ “LANAI”
การเกิดขึ้นของสถานการณ์ Covid-19 ทำให้ทุกคนต่างต้องปรับตัว ปรับการใช้ชีวิตอย่างมากเลยทีเดียวนะคะ อะไรที่เคยทำเป็นปกติในชีวิตประจำวันก็เปลี่ยนไป จากเดิมที่เคยต้องเดินทางไปเรียน ไปทำงาน หรือว่าไปเที่ยว ตอนนี้ก็เรียกได้ว่าการเดินทางน้อยลงอย่างมาก ทุกกิจกรรมในชีวิตต่างเกิดขึ้นใน “บ้าน” แทบทั้งหมด ดังนั้น ความหมายของบ้านในใจใครหลายๆ คนจึงเปลี่ยนไป จากที่เคยเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อน ก็กลายมาเป็นสถานที่ที่ต้องทำได้ทุกกิจกรรม ทั้งเรียน ทำงาน และพักผ่อนได้ไปในตัว
ในแง่ของกิจกรรมที่ต้องทำหลายอย่างมากขึ้นภายในบ้าน ทำให้พื้นที่ส่วนตัวจึงมีความสำคัญเพิ่มขึ้นมา เช่น พื้นที่ทำงานและ vdo call ได้โดยไม่มีใครรบกวน, พื้นที่ให้ลูกเรียนได้อย่างมีสมาธิ เป็นต้น มุมส่วนตัวของแต่ละคนจึงเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญมากขึ้นในช่วงเวลาแบบนี้
นอกเหนือจากมุมส่วนตัวที่ต้องเอาไว้ทำงานหรือเรียนแล้วนั้น มุมสำหรับผ่อนคลายก็เป็นอีกพื้นที่ที่ใครหลายคนต้องการนะคะ หลายคนโหยหาการได้ออกไปใช้ชีวิตข้างนอกบ้าน ได้สูดอากาศธรรมชาติ ได้สัมผัสลม ได้เจอแสงแดด ได้มีพื้นที่ที่สามารถผ่อนคลายได้ หลายๆ คนจึงให้ความสำคัญกับการตกแต่งบ้านมากขึ้น สร้างพื้นที่ที่สื่อถึงความเป็นตัวเอง ตกแต่งด้วยความชอบส่วนตัวเป็นมุมที่ช่วยให้ตัวเองได้ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นเมื่ออยู่ที่บ้าน
จากความต้องการเหล่านี้ทำให้ทาง SC Asset ได้ออกแบบบ้าน LANAI SERIES ขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการการใช้ชีวิตภายในบ้านที่เปลี่ยนไปของผู้อยู่อาศัยนั่นเองค่ะ
LANAI คืออะไร?
LANAI (ลา-ไน) เกิดจากแนวความคิดของคำ 3 คำคือ space-space-space
- space แรก สื่อถึงพื้นที่ indoor หรือพื้นที่ภายในบ้าน
- “space ที่อยู่ตรงกลางคือ LANAI หรือพื้นที่แบบ semi-outdoor ที่ออกไปนอกห้อง นอกตัวบ้านแล้ว แต่ก็ยังมีหลังคาปกคลุม เป็นพื้นที่ที่เราสามารถใช้งานได้เหมือนกับพื้นที่ภายในบ้าน แต่ก็ยังได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ แสง แดด ลม เช่นเดียวกับพื้นที่ภายนอกบ้านค่ะ”
- ส่วน space สุดท้าย สื่อถึงพื้นที่ outdoor หรือพื้นที่ภายนอกบ้าน
แนวความคิดเรื่องพื้นที่แบบ semi-outdoor นี้จึงเป็นทั้งพื้นที่ที่ได้ความเป็นส่วนตัว เป็นพื้นที่ที่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ เป็นพื้นที่ที่เราสามารถออกแบบตกแต่งใส่ตัวตนของเราเองลงไปได้เต็มที่ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการผู้อยู่อาศัยหลังจากเกิดเหตุการณ์ covid-19 นั่นเอง
LANAI ปรากฏในแบบบ้านใหม่อย่างไรบ้าง?
3 แบบบ้านใหม่จาก LANAI SERIES
ก่อนที่จะไปดูว่า แนวความคิดเรื่อง LANAI ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบบ้านอย่างไร เราขอพาไปดูแบบบ้านใหม่ที่อยู่ภายในซีรีส์นี้กันก่อนนะคะ โดยบ้านแบบใหม่จะมีทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้
- CAPTIVATE : พื้นที่ใช้สอย 360 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องรับประทานอาหาร 1 ห้องพักผ่อนด้านบน 1 ห้องแม่บ้าน และ 3 ที่จอดรถ
- SHADE : พื้นที่ใช้สอย 279 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องรับประทานอาหาร 1 ห้องพักผ่อนด้านบน และ 2 ที่จอดรถ
- CALM : พื้นที่ใช้สอย 231 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว 1 ห้องรับประทานอาหาร 1 ห้องพักผ่อนด้านบน และ 2 ที่จอดรถ
LANAI SERIES แบบบ้าน CAPTIVATE
จะเห็นได้ว่าบ้านทั้ง 3 แบบนี้ยังเป็นบ้านหน้ากว้าง สร้างเต็มที่ดิน มีห้องนอนชั้นล่างทุกห้อง และมีห้องนอนอย่างต่ำ 4 ห้องนอน ถือว่าเป็นดีไซน์ที่สำคัญของบ้านจากบางกอก บูเลอวาร์ดมาโดยตลอด ซึ่งการออกแบบนี้รองรับผู้อยู่อาศัยได้ถึง 3 generations พ่อ แม่ ลูก คุณปู่คุณย่า และเหมาะสำหรับครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับปริมาณพื้นที่ใช้สอยภายใน เพราะแต่ละฟังก์ชันถือว่าออกแบบมาให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย อยู่แล้วไม่อึดอัด ห้องนอนรองต่างๆ ก็ให้ลูกสามารถอยู่ได้ตั้งแต่เล็กจนโตเลยค่ะ
MODERN ELEGANT
ในส่วนของดีไซน์บ้าน เราจะเห็นได้ว่าหน้าตาของบ้านจะถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด (เดิมแบบบ้านของบางกอก บูเลอวาร์ด จะออกแบบมาในสไตล์ nordic) โดยในแบบบ้านใหม่จะมีแนวความคิดในการออกแบบมาจากคำว่า “Modern Elegant”
หน้าตาของบ้านจะออกแบบมาดู Modern อย่างเห็นได้ชัด เน้นความโปร่งโล่งด้วยฝ้าเพดานสูง 3.5 เมตร มีพื้นที่ระเบียงและเฉลียงบ้านหลายจุด ทำให้ผนังที่เป็นกระจกของบ้านอยู่ลึกเข้าไปจากขอบของอาคาร มีหลังคาและกันสาดยื่นเป็นร่มเงาให้กับพื้นที่ดังกล่าว ให้สามารถออกมาใช้งานได้สบาย
LANAI 1 : Terrace หน้าบ้าน
Detail แรกที่ออกแบบมาโดยอิงแนวความคิด LANAI คือ Terrace หรือเฉลียงหน้าบ้านค่ะ เป็นจุดแรกที่เราจะเจอก่อนเข้าประตูบ้านไป ซึ่ง Terrace นี้ถูกออกแบบให้สามารถจัดวางฟังก์ชันใช้งานได้ด้วยค่ะ
โดยพื้นที่ส่วนนี้ก็จะมีขนาดแตกต่างกันไปในแต่ละแบบบ้านนะคะ อย่างในบ้านตัวอย่างของแบบ CAPTIVATE นี้ก็ลองเอาเครื่อง Pilates มาลง ซึ่งตัวเครื่องก็ถือว่ามีขนาดใหญ่อยู่นะ ก็สามารถวางได้และพอเหลือพื้นที่เดินรอบได้ค่ะ มุมนี้จึงสามารถปรับใช้เป็นมุมออกกำลังกายได้เลย จะเอาลู่วิ่งมาวางก็ได้ หรือจะเคลียร์พื้นที่โล่งไว้แล้วนำเสื่อโยคะมาปูเพื่อออกกำลังกายในตอนเช้าก็ไม่ติดนะ
Terrace หน้าบ้านแบบ CAPTIVATE
ในบ้านขนาดรองลงมาอย่าง SHADE ก็ยังได้ Terrace ที่สามารถจัดฟังก์ชันใช้งานได้เช่นกันค่ะ ในบ้านตัวอย่างนี้ลองจัดวางชุดโซฟาเอาไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง เป็นมุมนั่งเล่นสบายๆ เอาหนังสือมานั่งอ่าน หรือ เอางานมานั่งทำได้ค่ะ มีพัดลม 1 ตัวอยู่ได้สบายทั้งวันเลย
Terrace หน้าบ้านแบบ SHADE
สำหรับบ้านแบบ CALM ซึ่งเป็นบ้านขนาดเริ่มต้น จะไม่ได้มี Terrace ที่ใหญ่ขนาดจัดฟังก์ชันได้เหมือนกับบ้าน 2 แบบแรก แต่ก็พอวางของตกแต่งสไตล์ของตัวเองบริเวณทางเดินรอบๆได้ ใครชอบปลูกต้นไม้ก็ลองจัดไม้กระถางหรือแขวนไม้ประดับรอบๆ สร้างบรรยากาศให้บ้านดูร่มรื่นมากขึ้นได้เช่นกันค่ะ
LANAI 2 : Private Balcony ในห้องนอน
นอกจาก Terrace หรือเฉลียงที่อยู่ชั้น 1 ฝั่งหน้าบ้านแล้ว อีกจุดหนึ่งที่มาจากแนวความคิดแบบ LANAI คือระเบียง (Balcony) ในห้องนอน จากแบบบ้านเดิมๆที่ระเบียงมักมีขนาดเล็กๆสามารถปลูกต้นไม้ได้นิดหน่อยหรือออกไปยืนสูดอากาศได้ แต่ในบ้านแบบใหม่นี้จะมีการขยายพื้นที่ระเบียงออกให้สามารถจัดวางฟังก์ชันได้เช่นกันค่ะ โดยพื้นที่ที่อยู่ภายในห้องนอนนั้นก็จัดว่าเป็นพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยากกว่าชั้นล่าง ทำให้เกิดพื้นที่ private ขึ้นมาค่ะ
Balcony ในห้องนอนรองของบ้านแบบ CAPTIVATE
ในบ้านแบบใหญ่สุดหรือ CAPTIVATE จะมีห้องนอนที่ได้พื้นที่ระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ถึง 2 ห้องนอนค่ะ ห้องนอนรองรูปร่างระเบียงจะเป็นแนวยาว แต่สามารถจัดฟังก์ชันนั่งเล่นพักผ่อนได้
ส่วนห้องนอนใหญ่หรือว่า Master Bedroom จะได้ระเบียงที่มีขนาดใหญ่ขึ้น จัดโซฟาพักผ่อน 1-2 คนได้สบายๆ ระเบียงใหญ่เชื่อมต่อได้กับทั้งห้องนอนและห้องแต่งตัว
ในบ้านขนาดรองหรือว่า SHADE ก็ยังได้ระเบียงขนาดใหญ่ใน Master bedroom เช่นกันค่ะ เป็นระเบียงในร่มที่สามารถนั่งเล่นตากอากาศได้ อย่างเช่นเวลากลางคืนก็อาจจะมานั่งอิงแอบชมจันทร์กันตรงนี้ได้นะคะ เป็นมุมที่สร้างความโรแมนติกได้และเป็นส่วนตัวมากค่ะ
ในบ้านแบบ CALM อาจจะได้ระเบียงขนาดกะทัดรัดลงมา แต่เรามองว่ายังสามารถจัดมุมนั่งเล่นได้เช่นกันค่ะ หรือจะจัดวางไม้กระถางเป็นพื้นที่สีเขียวที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้ภายในห้องนอนได้วิวที่สดชื่นขึ้นได้นะคะ
LANAI 3 : Dynamic Facade
ไม่ว่าจะเป็นระเบียงห้องนอนหรือว่าเฉลียงหน้าบ้าน ในช่วงเวลาที่เราเข้าไปใช้งาน บางครั้งเราก็อยากเปิดพื้นที่กว้างรับลม ชมวิวอย่างเต็มที่ แต่บางครั้งเราก็อยากปิดพื้นที่ให้ได้ความเป็นส่วนตัวไม่อยากให้ใครมองเข้ามาเห็นได้ เพื่อที่เวลาใช้งานก็จะได้ไม่เขินอายเพื่อนบ้านใช่ไหมคะ ดังนั้นในบ้านแบบใหม่ซีรีส์ LANAI นี้จึงมีการออกแบบแผงกันแดดหลายๆจุดที่เราสามารถปรับองศา หรือเลื่อนเปิด-ปิดเองได้เต็มที่ตามความสะดวกของเราด้วยค่ะ
1. Facade บริเวณทางเดินหน้าบ้าน จากที่จอดรถไปยังประตูทางเข้าหลักของบ้าน จะมีแผงกันแดดริมทางเดินที่สามารถปรับองศาได้ แผงกันแดดจุดนี้ไม่ได้มีความถี่มากหรือเต็มทางเดิน แต่ก็ช่วยพรางตาไม่ให้คนภายนอกมองเข้ามาเห็นคนเดินเข้า-ออกได้โดยตรง อีกทั้งยังเพิ่มความสวยงามให้ภายในบ้านด้วยค่ะ
บ้านแบบ CAPTIVATE
2. Facade ข้างบ้านฝั่ง Balcony สำหรับพื้นที่อเนกประสงค์แบบ semi-outdoor ที่มีในแบบบ้าน CAPTIVATE และ SHADE จะมีแผงกันแดดแบบบานเลื่อน 3 ตอนให้มาค่ะ
ตัวแผงกันแดดนี้สามารถเลื่อนเปิด-ปิดได้เต็มที่ตามความต้องการของคนที่ใช้พื้นที่นั้นๆอยู่เลย เวลาไหนที่อยากได้ความเป็นส่วนตัวก็สามารถเลื่อนระแนงแผงนี้ปิด ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นในขณะที่ยังได้แสงและลมเหมือนเดิมค่ะ
บ้านแบบ CAPTIVATE เมื่อลองเลื่อน facade นี้ปิด พื้นที่ตรงนี้ก็จะได้บรรยากาศเหมือนห้อง ได้ความเป็นส่วนตัว
บ้านแบบ SHADE ลองเลื่อนปิดเพื่อให้พื้นที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
3. Facade ที่ชั้น 2 หน้าห้องนอนรอง จุดนี้จะมีเฉพาะบ้านแบบใหญ่สุด CAPTIVATE เท่านั้นค่ะ
เนื่องจากห้องนอนรองของบ้านแบบนี้จะได้ระเบียงหน้าห้องที่มีรูปร่างยาวเต็มหน้ากว้างห้อง และสามารถจัดพื้นที่บริเวณระเบียงนี้เป็นมุมพักผ่อนส่วนตัวเพิ่มได้ แต่เพื่อความเป็นส่วนตัวที่มากยิ่งขึ้นจึงมีการออกแบบแผงกันแดดแบบปรับระดับได้เอาไว้ เวลาใช้งานก็สามารถปิด-เปิดได้เองค่ะ เท่าที่ดูถ้าปิดเอาไว้คนที่ผ่านไปมาหน้าบ้านก็แทบมองไม่ออกเลยนะคะว่ามีคนใช้งานอยู่ที่ระเบียงหรือไม่
วันไหนที่อยากชมวิวก็ปรับองศาแผงกันแดดนี้ได้
“Lanai” ตอบโจทย์ความต้องการในการใช้ชีวิตได้อย่างไร?
เมื่อมองย้อนกลับไปยังที่มาของบ้านแบบ LANAI เราจะเจอกับความต้องการที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากการที่เราต้องใช้ชีวิตอยู่ภายในบ้านยาวนานขึ้น เราต้องการทั้งพื้นที่ที่ใหญ่ขึ้น พื้นที่ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น พื้นที่ที่หลากหลายขึ้น ซึ่งตัวพื้นที่อเนกประสงค์อย่าง Terrace หน้าบ้าน หรือ ระเบียงในห้องนอนที่ถูกออกแบบมาจากแนวความคิดเรื่อง LANAI ก็ช่วยตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้ค่ะ
ต้องการพื้นที่ส่วนตัวภายในบ้าน
แน่นอนว่าการใช้ชีวิตภายในบ้านนั้น หลายๆ คนต้องการพื้นที่ส่วนตัวในการทำงาน ซึ่งเราสามารถคิดฉากชีวิตประจำวันของครอบครัวได้ในบ้านหลังนี้นะ ลองนึกภาพคุณพ่อมา vdo call ทำงานที่ระเบียงในห้องนอน ระหว่างที่คุณแม่ออกกำลังกายที่ terrace หน้าบ้าน ส่วนลูกก็เรียนออนไลน์อยู่ที่ living room คุณย่าเตรียมของว่างให้ทุกคนในห้องครัว ช่วงเวลาที่ทุกคนต้องการความเป็นส่วนตัว บ้านหลังนี้ก็สามารถสร้างพื้นที่ส่วนตัวให้แต่ละคนได้ แต่ทว่าเมื่อตกเย็น ทุกคนก็สามารถมารวมตัวกันกินข้าวและต่อด้วยดูหนังพร้อมหน้าที่ family area ชั้น 2 ก่อนนอนได้เช่นกัน
ต้องการใกล้ชิดธรรมชาติ
เมื่อต้องอยู่บ้านนานๆ หลายคนก็เริ่มเบื่อนะคะ ไม่แปลกใจที่ว่าเทรนการปลูกต้นไม้ถึงเป็นที่นิยมมากขึ้นในช่วงนี้ นอกจากจะเป็นงานอดิเรกแก้เบื่อแล้ว ยังเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้เราซึ่งอยู่แต่บ้านได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้นด้วย โดยพื้นที่จากแนวความคิด LANAI ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้เรามีพื้นที่ปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ที่กว้างพอที่เราจะออกไปทำกิจกรรม ใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาตินั้นได้ด้วย เราอาจจะหาไม้กระถาง ต้องไม้ฟอกอากาศมาจัดไว้ที่ระเบียงห้องนอนพร้อมโซฟาแบบ outdoor นั่งสบายซัก 1 ชุด สุดสัปดาห์ก็มานอนพักผ่อนอ่านหนังสือหรือเปิดซีรีส์ดูผ่าน tablet ได้ที่มุมนี้ มีลมพัดเอื่อยๆ มาโดนตัว เห็นพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกได้ที่ตรงนี้ space แบบนี้ก็ช่วยคลายความคิดถึงธรรมชาติได้บ้างเช่นกัน
ต้องการพื้นที่หลากหลาย ไม่จำเจ
ถึงแม้ว่าเราจะเตรียมมุมทำงานที่พร้อมและเป็นส่วนตัวที่สุดในบ้านเอาไว้แล้ว แต่เมื่อต้องทำงานหรือเรียนที่บ้านเป็นเวลานานๆ เราก็ย่อมมีความเบื่อเกิดขึ้นกันบ้างอยู่ดีใช่ไหมคะ? ยิ่งเป็นคนที่ต้องทำงานครีเอทีฟต่างๆ การอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆ ทุกๆ วันอาจทำให้หมดแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานกันบ้างแน่ๆ ดังนั้นถ้าภายในบ้านเรามีหลากหลายมุมที่สามารถสับเปลี่ยนมานั่งทำงานได้ก็คงจะดีไม่น้อย บางมุมตกแต่งเพิ่มเติม ย้ายโซฟาสลับที่สักหน่อยก็กลายเป็นพื้นที่ทำงานใหม่ๆ ที่ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศในการใช้ชีวิตภายในบ้านได้เช่นกัน
ใช้ชีวิตสนุกๆได้ทุกวันในบ้านแบบ LANAI
เพื่อให้เห็นภาพว่าในบ้านแบบ LANAI นั้นสามารถสร้างพื้นที่รองรับทุกกิจกรรมในชีวิตได้ เราเลยจะลองยกตัวอย่างให้ดูกันค่ะว่ามีพื้นที่แบบไหนที่เราสามารถสร้างได้ภายในบ้านกัน
ห้องนอนที่เป็นมากกว่าห้องนอน
บ้านภายในบางกอก บูเลอวาร์ดจะเป็นบ้านที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ใช้สอยภายในอยู่แล้วนะคะ อย่างภายในห้องนอนก็จะมีพื้นที่เผื่อไว้สำหรับจัดเป็นมุมส่วนตัว ให้สามารถใช้ชีวิตทำกิจกรรมอื่นๆได้ภายในตัว ดังนั้นในช่วงที่ต้องอยู่บ้านนานๆกันจึงสามารถปรับมุมภายในห้องนอนให้เป็นมุมทำงานหรือเรียนออนไลน์ได้ด้วย
บรรยากาศห้องนอนใหญ่ บ้านแบบ CAPTIVATE
Multi function
สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานหรือเรียน ก็ยังสามารถออกมานอนห้องนอน หามุมสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆในการทำงานได้อีก เช่น มานั่งเรียนออนไลน์ที่โต๊ะกินข้าว, เพิ่มมุมนั่งทำงานที่ Family area ชั้น 2 หรือจะลองหยิบโน๊ตบุ๊คมานั่งทำงานไปชมสวนไปที่เฉลียงหน้าบ้านก็ได้ค่ะ เปลี่ยนมุมใช้งานได้ทุกวันไม่เบื่อนะ
จัดมุมทำงานเพิ่มเติมได้ที่ family area ชั้น 2
Extra space extra function for living
นอกจากฟังก์ชันหลักแล้วการมีพื้นที่พิเศษเพิ่มขึ้นมาก็ทำให้เราสามารถจัดฟังก์ชันใหม่ๆ เพิ่มเข้าไปภายในบ้านได้ เช่น พื้นที่ออกกำลังกาย ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่หลายๆ คนอยากได้หลังจากเกิดสถานการณ์ Covid-19 มาร่วมปี พอไม่ได้ไปฟิตเนสนานเข้าก็คิดอยากจะลงทุนเปิดยิมภายในบ้านไปเลย ครั้งเดียวจบเพื่อให้ได้สุขภาพที่ดีกลับคืนมา (สุขภาพกายดี สุขภาพใจก็ย่อมดีตาม) ซึ่งบ้านในซีรีส์ LANAI ก็จะมีระเบียงห้อง, เฉลียงหน้าบ้าน, family area หรือว่าห้องนอนชั้นล่าง ที่เราสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันเพิ่มเติมได้ไม่ยากค่ะ
พื้นที่ semi-outdoor ระบายอากาศดี แทนการออกกำลังกายภายในห้องปิดได้ดีนะคะ
พื้นที่พักผ่อน สร้างความบันเทิงสำหรับครอบครัว
ปฏิสัมพันธ์ภายในภายในครอบครัวเป็นอีกสิ่งที่สำคัญนะคะ ดังนั้นพื้นที่ภายในบ้านจึงควรมีห้องหรือว่ามุมที่รองรับการใช้งานร่วมกันได้เช่น พื้นที่ที่เราจะมานั่งดูหนังพร้อมกัน กินข้าวด้วยกัน หรือเล่นเกมส์ร่วมกันเพื่อให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นค่ะ
ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่จัดที่นั่งรองรับทุกคนในครอบครัว
Bangkok boulevard ดอนเมือง–แจ้งวัฒนะ
สำหรับบ้านแบบใหม่ซีรีส์ LANAI นี้จะเปิดตัวครั้งแรกภายในโครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด ดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ ซึ่งโครงการนี้จะอยู่ในโซนสรงประภานะคะ ทำเลตรงนี้ถือว่าเป็นกรุงเทพตอนเหนือที่ใกล้สนามบินดอนเมืองและใกล้กับทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด ใช้ถนนเลียบคลองประปาไปยังถนนแจ้งวัฒนะได้ง่ายค่ะ
โครงการนี้มีขนาดเกือบ 30 ไร่ รวมแล้วมีบ้านพักอาศัยทั้งหมด 103 หลังค่ะ โดยแบบบ้านก็จะเป็นบ้านในซีรีส์ LANAI ทั้งหมด 3 แบบอย่างที่เราเห็นกัน นอกจากนี้ก็จะมีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งาน และมีระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานของบางกอก บูเลอวาร์ดอีกด้วย โดยราคาเริ่มต้นของโครงการนี้จะอยู่ที่ 10-20 ล้านบาทค่ะ
ดูพรีวิวโครงการเพิ่มเติม >> พรีวิวบางกอก บูเลอวาร์ด ดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ
ส่วนตัวโครงการจะเข้ามาจากถนนหลักทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูงนะ มีระบบรักษาความปลอดภัยให้ทั้งตัวโครงการและภายในบ้าน
พื้นที่ส่วนกลางของที่นี่ก็จะตั้งอยู่ตรงทางเข้าเลยค่ะ ออกแบบมาในสไตล์ Futuristic ดูล้ำสมัยเน้นเส้นโค้งมน และมีฟังก์ชันภายในให้มาครบครันนะคะ
ที่ Clubhouse ก็จะมีทั้งฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, Kid’s room และ Co-working space ให้ใช้งาน นอกจากพื้นที่ในบ้านแล้ว ใครเบื่อๆก็มานั่งเล่นริมสระแบบนี้ก็ได้บรรยากาศผ่อนคลายไปอีกแบบนะคะ
ในพื้นที่ส่วนกลางก็จะมีฟังก์ชันสำหรับเด็กอยู่ด้วยค่ะ เหมาะสำหรับโครงการนี้ที่ออกแบบให้อยู่กันได้ถึง 3 Generations เลยนะ
มีโซน Playground ให้เด็กๆได้วิ่งเล่นเสริมสร้างพัฒนาการกลางแจ้งด้วยค่ะ
บทสรุป
สำหรับแบบบ้านใหม่ LANAI ภายในโครงการบางกอก บูเลอวาร์ดนี้ถ้าดูจากหน้าตาตัวบ้านจะเห็นว่าทำออกมาดูทันสมัยมากขึ้น ส่วนรูปแบบบ้านก็จะเป็นบ้านขนาดใหญ่ที่สร้างเต็มที่ดินเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเต็มที่เหมือนเดิมนะ ส่วนตัว concept “LANAI” นั้นจะเป็นพื้นที่พิเศษ (Extra) ขึ้นมาซึ่งออกแบบให้เป็นพื้นที่แบบ semi-outdoor โดยพื้นที่ตรงนี้เองจะมีขนาดใหญ่กว่าระเบียงหรือเฉลียงของโครงการอื่นๆ กลายเป็นพื้นที่ใช้งานรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้คนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บ้านนานๆ คิดถึงการได้ออกไปกลางแจ้ง สัมผัสลม แดดได้นั่นเองค่ะ
ซึ่งการที่ SC Asset นำแนวความคิดนี้มาชูเป็นจุดเด่นเรามองว่าเป็นการเสนอการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ๆให้กับคนที่มองหาบ้านอยู่เช่นกัน จุดนี้เองที่ทำให้เราย้อนคิดกลับไปตอนสมัยเรียนสถาปัตย์อยู่เหมือนกันว่า จริงๆแล้วสถาปัตยกรรมที่เราอยู่เนี่ย จะเป็นสิ่งกำหนดนิสัยการใช้ชีวิตของเราในแบบที่เราไม่รู้ตัวเลย อย่างเช่นถ้าเราอยู่บ้านที่เป็นตึกแถวหรือมีบันไดเยอะๆ เราก็อาจจะเป็นคนที่เดินขึ้น-ลงเก่ง กล้ามเนื้อขาแข็งแรงกว่าคนที่อยู่บ้านสองชั้น หรือว่าถ้าเราอยู่บ้านสวน เราก็จะได้ใกล้ชิดธรรมชาติตลอดเวลาทั้งๆที่เราไม่ได้โหยหาก็ได้ ดังนั้นการที่บ้านแบบ LANAI นี้ได้มีพื้นที่แบบ Semi-outdoor ขึ้นมา เมื่อเราได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังนี้ วิถีชีวิตของเราก็จะมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน ได้ใช้ชีวิตทั้งในบ้านและนอกบ้านมากขึ้น ได้มีพื้นที่หลากหลายให้ทำกิจกรรมมากขึ้น ได้มีพื้นที่ส่วนตัวเมื่อเราต้องการ อาจเป็นบ้านที่อยู่แล้วไม่เบื่อก็ได้นะคะ แล้วคุณผู้อ่านคิดยังไงกับบ้านแบบใหม่นี้บ้าง ลอง Comment มาพูดคุยกันได้นะ
ส่วนใครที่สนใจโครงการนี้สามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ หรือลงทะเบียนเพื่อนัดหมายเข้าชมโครงการก่อนใคร* ได้ที่ >> https://m.scasset.com/5eZh
หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมทาง 065-505-8555
Line: @BBDJ ( https://lin.ee/sJLp4ZG)
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด