รีวิวโครงการ
The Sneak EP.130 : Habitia Prime ราชพฤกษ์
24 พฤศจิกายน 2021
…วันนี้เราจะพามาชม ฮาบิเทีย ไพร์ม ราชพฤกษ์ โครงการบ้านเดี่ยวดีไซน์ใหม่ล่าสุดจากแสนสิริ และยังเป็นฮาบิเทียโครงการแรกที่มีคำต่อท้ายว่า “ไพร์ม” ซึ่งจะมีการปรับรูปโฉมใหม่ทั้งหมด และแตกต่างจากฮาบิเทียรุ่นพี่โครงการอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด โดยจะเน้นในเรื่องของดีไซน์และความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ซึ่งจุดที่ผมคิดว่าเป็น Highlights หรือจุดเด่นที่น่าสนใจของโครงการจะมีดังนี้ครับ
- ความเป็นส่วนตัว : เป็นโครงการขนาดเล็ก ที่มีเพื่อนบ้านเพียง 10 ยูนิตเท่านั้น และยังมีการออกแบบช่องแสงภายในบ้าน โดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยอีกด้วย
- ความปลอดภัย : มีการเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยที่มากขึ้นกว่าโครงการรุ่นพี่เยอะมาก ตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้า / Video Door Phone และระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆภายในบ้าน
- ฟังก์ชันบ้าน : ค่อนข้างยืดหยุ่น มีห้องนอนชั้นล่าง เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ หรือมีผู้สูงอายุอยู่ด้วยก็ได้
ข้อมูลโครงการ
Habitia Prime Ratchapruk (ฮาบิเทีย ไพร์ม ราชพฤกษ์) ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564
ชื่อโครงการ | Habitia Prime Ratchapruk (ฮาบิเทีย ไพร์ม ราชพฤกษ์) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถ.สะพานนนทบุรี – บางบัวทอง (ทางหลวง 345) อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี |
ที่ดิน | 2-1-53 ไร่ |
จำนวนยูนิต | จำนวน 10 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | 2.6 เมตร |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | N/A บาท |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปลายปี 2564 |
Pre-Sale | 27 – 28 พ.ย. 2564 |
เว็บไซต์โครงการ | http://siri.ly/y0GhlKB |
Call Center | 1685 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.956390, 100.476844
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
ทำเลโครงการ ฮาบิเทีย ไพร์ม ราชพฤกษ์ น่าสนใจอย่างไร?
โครงการ ฮาบิเทีย ไพร์ม ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่บนถนนสะพานนนทบุรี – บางบัวทอง (หรือทางหลวง 345) ใกล้กับโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ และจุดตัดกับถนนราชพฤกษ์ โดยปัจจุบันเราจะเห็นว่าบนถนนเส้นนี้เริ่มมีโครงการจัดสรรใหม่ๆ เกิดขึ้นหลายโครงการเลยนะครับ ซึ่งเป็นผลมาจากการขยับขยายของโซนที่อยู่อาศัยบนถนนราชพฤกษ์ ที่ส่วนใหญ่ก็มักจะกลายเป็นโครงการบ้านแพงซะเยอะ อันเนื่องมาจากความเจริญและความอุดมสมบูรณ์ที่คึกคักมากขึ้นเรื่อยๆนั่นเอง
โดยทำเลใหม่อย่างถนนทางหลวง 345 ก็ยังคงอิงความอุดมสมบูรณ์ของห้างสรรพสินค้า และคอมมูนิตี้มอลล์แถวๆราชพฤกษ์เป็นหลักอยู่ครับ แต่ถ้าเป็นพวกร้านค้าร้านอาหารแบบง่ายๆ ที่อยู่ใกล้สุดก็จะเป็นร้านค้าในปั๊ม PTT ซึ่งเป็นปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่ก่อนที่จะถึงตัวโครงการครับ รวมถึงยังสามารถขับรถตรงเข้าเมืองโดยข้ามสะพานนนทบุรีได้เลย หรือจะไปใช้ถนนกาญจนาภิเษกก็ได้ด้วย
ที่ตั้งของโครงการจะอยู่ภายในซอยที่เป็นถนนภาระจำยอม ซึ่งด้านในก็จะเป็นโครงการฮาบิเทียรุ่นพี่ของแสนสิริเอง บรรยากาศจึงค่อนข้างเงียบสงบ เป็นส่วนตัว และไม่พลุกพล่านเหมือนซอยสาธารณะทั่วไป รวมถึงถนนเส้นนี้แสนสิริยังได้มีการปรับภูมิทัศน์ ให้ดูสวยงามและร่มรื่นขึ้นอีกด้วยครับ
- ทิศเหนือ : ติดกับ ที่ว่าง
- ทิศใต้ : ติดกับ ที่ว่าง
- ทิศตะวันออก : ติดกับ ถนนภาระจำยอม
- ทิศตะวันตก : ติดกับ อาคารสูง 4 – 5 ชั้น
ภาพบรรยากาศถนนภาระจำยอมด้านหน้าโครงการ มีต้นไม้ขนาดใหญ่ทั้งสองข้างทาง ที่ปลูกมานานแล้วเกือบ 10 ปี ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่นมากๆครับ ซึ่งภายในก็จะเป็นโครงการเก่าๆของแสนสิริที่ขายหมดไปแล้ว ดังนั้นคนที่ใช้งานเข้า-ออกถนนเส้นนี้ ก็จะมีแต่ลูกบ้านของแสนสิริด้วยกันเองทั้งนั้น จึงทำให้ไม่พลุกพล่านเหมือนซอยสาธารณะทั่วไป
อีกทั้งช่วงเย็นๆผมก็เห็นว่ามีลูกบ้านบางส่วน ออกมาวิ่งออกกำลังกายกันด้วยครับ ซึ่งตัวโครงการฮาบิเทีย ไพร์ม ราชพฤกษ์ เค้าเป็นโครงการขนาดไม่ใหญ่มากนัก และไม่ได้เน้นพื้นที่ส่วนกลางสักเท่าไหร่ ดังนั้นหากใครเป็นคนชอบการวิ่งออกกำลังกายกลางแจ้ง ก็สามารถออกมาใช้ประโยชน์จากถนนด้านหน้าตรงนี้ได้เลยครับ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- Chic Republic Ratchaphruek ~ 8.5 กิโลเมตร
- เดอะ คริสตัล พีทีที ชัยพฤกษ์ ~ 8.5 กิโลเมตร
- โรบินสัน ศรีสมาน ~ 13.5 กิโลเมตร
- เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ~ 14.5 กิโลเมตร
- เซ็นทรัล พลาซ่า เวสต์เกต ~ 15.2 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลปากเกร็ด 2 ~ 3.2 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลปากเกร็ด ~ 9 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ ~ 16.5 กิโลเมตร
โรงเรียน
- โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ ~ 1.7 กิโลเมตร
- Denla British School ~ 10 กิโลเมตร
- โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสเซเวียร์ ~ 14.5 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยรังสิต ~ 18 กิโลเมตร
การเดินทาง
- ทางพิเศษอุดรรัถยา ด่านศรีสมาน ~ 11 กิโลเมตร
- รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีปากเกร็ด ~ 11 กิโลเมตร
- รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ ~ 12 กิโลเมตร
- ทางพิเศษศรีรัช ด่านแจ้งวัฒนะ ~ 23 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
การออกแบบโครงการ ฮาบิเทีย ไพร์ม ราชพฤกษ์ น่าสนใจอย่างไร?
อย่างที่ผมเกริ่นเอาไว้ครับว่า โครงการนี้เป็นหนึ่งในตระกูล “ฮาบิเทีย” ที่มีการออกแบบและดีไซน์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งแตกต่างจากโครงการรุ่นพี่อื่นๆที่ผ่านมา รวมถึงยังมีความแตกต่างจากเพื่อนบ้านข้างเคียงอีกด้วย และนอกจากนี้ก็ยังเป็นฮาบิเทียแห่งแรก ที่มีคำว่า “ไพร์ม” ต่อท้ายอีกด้วยนะครับ โดยชื่อของโครงการมีรากศัพท์มาจาก 2 คำคือ
- Habitia (ฮาบิเทีย) หมายถึง ที่อยู่อาศัย
- Prime (ไพร์ม) หมายถึง ความยอดเยี่ยม/ดีงาม
พอมารวมกันแล้วก็หมายถึง “ที่อยู่อาศัยที่ยอดเยี่ยมและดีที่สุด” ซึ่งคำว่าดีที่สุดในที่นี้ผมขอตีความไปถึงจุดเด่นที่สุดของโครงการในเรื่อง “ความเป็นส่วนตัว” และ “ความปลอดภัย” ที่ถือว่าจัดเต็มมาให้แบบสุดๆ มากกว่าโครงการอื่นๆที่ผ่านมาของแสนสิริ แบบยกเครื่องใหม่หมดกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกแบบ และระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ
Master Plan
ก่อนอื่นผมขอชื่นชมในความกล้าของแสนสิริ ที่เค้าทำโครงการจัดสรรเพียง 10 ยูนิตออกมาแบบนี้ เพราะนี่ถือเป็นจำนวนยูนิตขั้นต่ำสุดตามกฎหมาย ที่จะต้องเข้าค่ายเป็นโครงการจัดสรรครับ ซึ่งโดยปกติก็ไม่ค่อยมีใครเค้าทำกันสักเท่าไหร่หรอกนะ เพราะเมื่อกลายเป็นโครงการจัดสรรแล้ว ก็จะต้องถูกกำหนดให้มีการทำ Facilities อื่นๆเพิ่มอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรั้วรอบโครงการ ซุ้มประตูทางเข้า และพื้นที่ส่วนกลาง
ซึ่งในมุมของ Developer แน่นอนว่าเค้าจะต้องลงทุนกับสิ่งเหล่านี้ มากขึ้นกว่าโครงการที่ไม่ได้จัดสรร รวมถึงยังต้องยอมเสียพื้นที่ขายบางส่วน เพื่อทำเป็นพื้นที่ส่วนกลางอีกด้วย (แทนที่จะได้ขายแบบเต็มๆ) แต่ในมุมของผู้ซื้อหรือ Consumer ก็จะได้ประโยชน์ในเรื่องความเป็นส่วนตัว ที่มีเพื่อนบ้านเพียง 10 ครอบครัวเท่านั้น และยังมีรั้วรอบขอบชิด กับ รปภ. ที่คอยช่วยดูแล ทำให้กลายเป็นโครงการที่มีความปลอดภัยมากขึ้นนั่นเองครับ
ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการมีอะไรบ้าง?
- ประตูรั้วเหล็กขนาดใหญ่
- ระบบ Video Door Phone
- ระบบ RFID
- กล้อง CCTV
- รปภ. ดูแลตลอด 24 ชม.
- รั้วรอบโครงการสูง 2.9 m. + รั้วโปร่ง 0.8 m.
เริ่มตั้งแต่ประตูทางเข้าด้านหน้าโครงการ จะเป็นรั้วเหล็กขนาดใหญ่เลยครับ ซึ่งนอกจากจะมีความแข็งแรงและสวยงามแล้ว ก็ยังช่วยบังสายตาจากคนภายนอกได้ดีอีกด้วย โดยจะมีการแบ่งทางเข้า-ออกแยกกันอย่างชัดเจน และมีป้อม รปภ. อยู่ทางซ้ายมือ
ระบบการเข้าออกจะมี 2 อย่างด้วยกันคือ ถ้าเป็นลูกบ้านก็จะใช้ระบบ RFID หรือสัญญาณ Bluetooth ที่ประตูจะเปิดออกให้อัตโนมัติเหมือน Easy Pass บนทางด่วนเลยครับ แต่ถ้าเป็น Visitor จะใช้ระบบ Video Door Phone หรือที่ทางโครงการเรียกว่า Intelligence Access Control เป็นระบบการเข้า-ออกอัจฉริยะ ที่ควบคุมผ่าน Mobile Application เป็นนวัฒตกรรมใหม่ที่นำเข้ามาจากประเทศอิตาลี
สมมุติว่ามีเพื่อนจะมาหาเราที่บ้าน เขาก็สามารถกดเลขหมายตรงแผงควบคุมที่อยู่ด้านหน้าโครงการ เพื่อให้ระบบส่งสัญญาณติดต่อไปที่เจ้าของบ้านได้โดยตรง ซึ่งจะมีฟังก์ชันให้เราสามารถพูดคุยโต้ตอบระหว่างกันได้ด้วยครับ โดยทางฝั่งเจ้าของบ้านจะสามารถมองเห็นภาพวิดีโอของผู้มาเยือน ผ่านทางกล้องเล็กๆที่ติดอยู่ได้ด้วย ซึ่งถ้าใช่คนที่เรานัดไว้จริง ก็สามารถกดเปิดประตูให้ผ่านเข้ามาผ่านจากสมาร์ทโฟนของเราได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลาแลกบัตรกับ รปภ. ให้ยุ่งยาก
นอกจากนี้บริเวณด้านหลังของซุ้มประตูก็ยังมี “ต้นจามจุรีขนาดใหญ่” ตั้งอยู่สวยเด่นเป็นสง่าอยู่กลางโครงการเลยครับ ซึ่งนี่ก็เป็นต้นไม้ดั้งเดิมของที่ดินผืนนี้ ที่ทางแสนสิริยังคงเก็บรักษาไว้อย่างดี โดยต้นไม้นี้จะยังมีรากแก้วอยู่ใต้ดินด้วย นั่นเลยทำให้อนาคตยังสามารถเติบโตกลายเป็นต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านขนาดใหญ่ ได้มากกว่าต้นที่เพิ่งย้ายมาปลูกใหม่ทีหลังซะอีกครับ
Facilities
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางจะเป็นสวนสไตล์อังกฤษ ที่มีคอนเซ็ปต์คือ Secret Garden เป็นสวนเล็กๆที่ซ่อนอยู่ภายในโครงการ และเน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ซึ่งเราสามารถมาเดินหรือนั่งเล่นที่ Pavilion นี้ได้ครับ ซึ่งก็แนะนำเป็นช่วงเย็นๆ พระอาทิตย์ตกดินจะสวยมาก
โดยสวนสไตล์อังกฤษจะไม่ใช่สวนที่เน้นความร่มรื่น หรือมีต้นไม้ใหญ่เยอะๆนะครับ แต่เค้าจะเน้นการปลูกไม้ดอก และพืชสวยงามต่างๆ เช่น ดอกกุหลาบ ต้นโมก และดอกบุษบา เป็นต้น ซึ่งเราก็สามารถมาเดินชมนกชมไม้บริเวณนี้ได้ครับ สาวๆหรือคนที่รักต้นไม้ก็น่าจะชอบกันนะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด ขนาด 70.97 ตร.วา
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- รั้วรอบโครงการสูง 2.9 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 0.8 เมตร
- ถนนภายในโครงการกว้าง 8 ม.
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ ประตูเหล็กเลื่อนไฟฟ้า
- ระบบ RFID หรือสัญญาณ Bluetooth ระยะไกลแบบอัตโนมัติ
- ระบบ Video Door Phone : Intelligence Access Control ควบคุมการเข้า-ออกแบบอัจฉริยะ
- ระบบ Smart Home Security ประกอบด้วย IP Camera / Magnetic Sensor / Motion Sensor ทุกหลัง
- Breeze Panel ช่องระบายอากาศตรงบริเวณประตู/หน้าต่าง
- Giesta Door ประตูเหล็กนิรภัยคุณภาพสูง (สำหรับบ้านหลังใหญ่)
แบบบ้าน
โครงการ ฮาบิเทียร์ ไพร์ม ราชพฤกษ์ มีแบบบ้านทั้งหมด 2 Type และก่อสร้างด้วยระบบ Precast หรือผนังคอนกรีตสำเร็จรูป ประกอบด้วย
- Bernina (เบอร์นิน่า) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 51.9 – 58 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 172 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - Cinque Terre (ชิงเคว เทเร) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 57.6 – 79.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
การออกแบบบ้านของ ฮาบิเทียร์ ไพร์ม ราชพฤกษ์ น่าสนใจอย่างไร?
- ดีไซน์บ้านที่เป็นสไตล์ยุโรป
- การออกแบบช่องแสงที่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัว
- ระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน
- ฟังก์ชันยืดหยุ่น มาพร้อมกับห้องนอนชั้นล่าง สามารถอยู่ได้แบบครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่
สำหรับดีไซน์บ้านโครงการนี้จะเป็นสไตล์ Modern European ทั้งหน้าตาภายนอกของตัวบ้าน รวมไปถึงภายในก็ยังมีการใช้ประตู/หน้าต่าง ที่มีช่องลวดลายต่างๆที่เป็นเอกลักษณ์ สื่อถึงความเป็นดีไซน์แบบตะวันตก ที่มีรายละเอียดแฝงอยู่ค่อนข้างเยอะ อีกทั้งยังช่วยสร้างความแตกต่างจากเพื่อนบ้านในย่านนี้ได้อีกด้วยครับ
การออกแบบช่องแสงที่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัว
เมื่อพูดถึงช่องแสงแล้วก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ผมเห็นว่า ผู้ออกแบบเค้าค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก เพราะช่องแสงจะมีผลต่อความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัย ซึ่งถ้าสังเกตจากภายนอกบริเวณหน้าบ้าน ดูเผินๆแล้วหลายๆคนคงจะรู้สึกเหมือนกันว่า บ้านหลังนี้ช่องหน้าต่างดูไม่ได้เยอะเลยใช่มั้ยครับ โดยเฉพาะหน้าต่างบนชั้น 2 ที่นอกจากห้องนอนใหญ่แล้ว ห้องอื่นๆเรียกได้ว่าเป็นหน้าต่างเล็กหมดเลย
ส่วนตัวผมมองว่าเค้าตั้งใจให้เป็นแบบนั้นครับ คือแต่ละห้องอาจไม่ได้มีความโปร่งโล่งอะไรมากนัก แต่ก็มีแสงสว่างที่เพียงพอต่อการใช้งาน ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้ภายในห้องนอนต่างๆ เกิดความเป็นส่วนตัวให้มากที่สุด ซึ่งเวลาที่เรามองจากภายนอกก็แทบจะไม่เห็นด้านในเลยนั่นเอง
รวมถึงจะไม่มีพื้นที่ระเบียงให้ใช้งานเลยครับ เพราะเค้าต้องการเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในเป็นหลัก แต่ก็จะมีการทำ Facade เหมือนระเบียงตกแต่งมาให้ด้วย ซึ่งเราสามารถปลูกต้นไม้กระถางเล็กๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่นแบบบ้านตัวอย่างนี้ก็ได้นะ
แต่กลับกัน…เค้าก็ได้ออกแบบให้บริเวณพื้นที่ชั้น 1 ของบ้าน มีช่องแสงขนาดใหญ่ที่เปิดรับวิวไปยังสวนด้านข้างบ้านและหลังบ้าน เพื่อให้เกิดความโปร่งโล่งของภายใน แต่ก็ไม่เสียความเป็นส่วนตัวจากคนที่อาจผ่านไป-มาหน้าบ้านเลยครับ โดยเราสามารถที่จะเปิดหน้าต่างรับวิวสวนสวยๆ ที่เราจัดไว้รอบบ้านได้ตลอดเวลาเลยนั่นเอง
และนอกจากนี้ตามประตู/หน้าต่างก็จะมี Breeze Panel หรือช่องระบายอากาศเล็กๆ ที่จะช่วยทำให้อากาศภายในบ้านถ่ายเท และระบายความร้อนทำให้บ้านเย็นลงได้อีกด้วยครับ โดยช่องนี้มักจะอยู่ทั้งบริเวณหน้าบ้าน หลังบ้าน และตรงโถงบันได ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมให้ลมสามารถพัดผ่านได้ดีนั่นเอง และเราสามารถเปิด-ปิดด้วยตัวเองง่ายๆ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีแมลงหรือฝุ่นผ่านเข้ามาได้ เพราะจะมีตัวกรองด้านในอยู่อีกชั้นหนึ่งด้วยครับ
ระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่โครงการ ฮาบิเทียร์ ไพร์ม ราชพฤกษ์ ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ ซึ่งตามปกติแล้วบ้านระดับราคานี้มักจะให้ Magnetic Sensor บริเวณประตู/หน้าต่างชั้น 1 เป็นมาตรฐานอยู่แล้วใช่มั้ยครับ แต่สำหรับโครงการนี้จะมีการเพิ่มเติมในส่วนของฟังก์ชันอื่นๆเข้ามาด้วย ได้แก่
- กล้อง CCTV บริเวณพื้นที่จอดรถหน้าบ้าน
- Motion Sensor บริเวณโถงบันได
- IP Camera บริเวณ Living Area
ซึ่งทั้งหมดนี้จะสามารถเชื่อมต่อผ่านระบบ Home Automation ใน Application ของสมาร์ทโฟนได้นั่นเองครับ
และพิเศษสำหรับบ้านหลังใหญ่ ประตูทางเข้าหลักด้านหน้าบ้านจะเป็นประตูเหล็กนิรภัย (Giesta Door) ที่มีความแข็งแรงและปลอดภัย แถมยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับภายในบ้านได้ดีอีกด้วย
แบบบ้าน Bernina (เบอร์นิน่า)
- Bernina (เบอร์นิน่า) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 51.9 – 58 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 172 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
จุดที่ผมชอบในบ้านหลังนี้คือ คนออกแบบเค้ามีความชัดเจนในการให้ลำดับความสำคัญของพื้นที่ได้เป็นอย่างดี อะไรที่เน้นใช้งานเป็นประจำก็จะให้มาขนาดใหญ่ไปเลย เช่น ห้องนอนทุกห้องในบ้านจะมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง สามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุตๆได้สบายๆ อีกทั้งยังมีมุมพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำให้ใช้งานทุกห้องอีกด้วย รวมถึงยังเน้นให้มีพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ เลยทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูโปร่งโล่งมากขึ้นครับ
ส่วนอะไรที่เค้าไม่เน้นมากนัก ก็จะมีพื้นที่ใช้สอยแค่พอดีกับการใช้งานที่จำเป็นเท่านั้น เช่น พื้นที่ครัว และห้องน้ำ ทำให้ภาพรวมจึงเป็นแบบบ้านที่เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ ซึ่งอาจมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วยก็ได้ หรือเป็นครอบครัวที่ต้องการฟังก์ชันยืดหยุ่น มีห้องอเนกประสงค์ให้ใช้งาน ไว้ปรับเป็นห้องทำงานช่วง WFH หรือห้องดูหนังฟังเพลงส่วนตัวก็ได้ และทุกห้องนอนก็ยังมีขนาดกว้างขวางเป็นส่วนตัวมากๆอีกด้วยครับ
และนี่คือมุม Highlight ของบ้านหลังนี้ เป็นบริเวณ Common Area จะเห็นว่ามีความโปร่งโล่งอย่างมาก ซึ่งจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ถึง 3 ด้าน สามารถชมวิวสวนข้างบ้านและหลังบ้านได้อย่างเต็มที่เลยครับ
โดยพื้นที่ข้างบ้านของจริงจะมีบันไดเล็กๆตรงประตูบานเลื่อน และปูเป็นพื้นหญ้ามาให้เป็นมาตรฐานนะครับ ซึ่งถ้าใครที่อยากทำเป็นเฉลียงสวยๆไว้ออกมาใช้งานแบบนี้ ก็สามารถต่อเติมเพิ่มได้ด้วยตัวเอง ทั้งพื้นเฉลียงและหลังคากันสาด
เพื่อให้เราสามารถออกมาใช้งานได้สะดวกทั้งวัน โดยการจัดสวนก็แล้วแต่สไตล์คนชอบ อย่างบ้านตัวอย่างเค้าก็ทำเป็นสวนสไตล์อังกฤษ เน้นพวกไม้ดอกและไม้สวยงาม เหมาะที่จะออกมานั่งจิบชา/กาแฟตอนเช้าหรือช่วงเย็นมากๆเลยครับ
และอีกจุดหนึ่งคือ บริเวณห้องครัวจะมีการเจาะช่องตรงหัวมุมผนัง ทำเป็นกระจกเข้ามุม Bay Window เพื่อทำให้พื้นที่กลางบ้านมีความโปร่งโล่งมากขึ้น แสงสว่างสามารถส่องถึงบริเวณกลางบ้านได้ง่าย แถมยังทำให้เกิดการเชื่อมต่อมุมมองระหว่างฟังก์ชันได้ด้วย
ซึ่งบรรยากาศภายในบ้านตัวอย่างส่วนอื่นๆจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
พื้นที่จอดรถกว้าง 5.15 m. สามารถจอดรถ 2 คันในร่มได้สบายๆ ลงเสาเข็มให้ลึกเท่ากับตัวบ้านจนถึงใต้ชายคาบ้าน ก่อนจะมีการตัด Joint แยกโครงสร้างกันตามปกติ
แบบบ้าน Cinque Terre (ชิงเคว เทเร)
- Cinque Terre (ชิงเคว เทเร) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 57.6 – 79.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
สำหรับบ้านหลังใหญ่จะมีจุดเด่นหลักๆ 2 จุดคือ พื้นที่ Common Area จะอยู่บริเวณหลังบ้าน และเปิดช่องแสงเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนหลังบ้าน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องคนที่ผ่านไป-มาหน้าบ้านเลยครับ อีกทั้งยังมีการทำพื้นที่อเนกประสงค์บริเวณชานพักบันไดเพิ่มขึ้นมา ซึ่งทางโครงการเรียกว่า Conner Window โดยเราสามารถใช้เป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน หรือมุมนั่งทำงานชิลๆ ตามแต่จะออกแบบกันได้เลยครับ รวมถึงตรงโถงบันไดนี้ก็ยังเป็นจุดที่ฝ้าเพดานสูง 4.2 m. เชื่อมต่อกับพื้นที่อเนกประสงค์บนชั้น 2 ด้วยครับ ถือว่าเป็นแบบบ้านที่มีมุมแปลกๆใหม่ๆให้เราได้ใช้สอยหลากหลายดีนะ ส่วนในห้องนอนก็จะยังคงมีขนาดใหญ่ พร้อมมีห้องน้ำในตัวทุกห้องเช่นเดิมครับ
และนี่ก็คือ Common Area ที่อยู่บริเวณโซนหลังบ้าน ถือเป็น Highlight หลักของบ้านหลังนี้เลยครับ คือพื้นที่ค่อนข้างใหญ่มาก (ประมาณ 6.9 x 3.9 m.) และช่องแสงก็เยอะ ตอนที่เดินเข้ามาครั้งแรกก็รู้สึกว้าวและดูน่าใช้งานมากๆเลย ซึ่งเราสามารถเปิดม่าน/ประตู/หน้าต่าง เพื่อเชื่อมต่อกับสวนหลังบ้านได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเสียความเป็นส่วนตัวเหมือนโซนหน้าบ้าน ที่อาจมีคนผ่านไป-มาได้นั่นเองครับ
นอกจากนี้ยังเป็นแบบบ้านที่เราจะได้สวนหลังบ้านที่กว้างกว่าปกติด้วยนะครับ อาจไม่ได้กว้างแบบในภาพนะ เพราะหลังนี้จะเป็นแปลงพิเศษ ขนาดสวนของจริงก็จะอยู่ตรงช่วงประมาณแนวพื้นหินสีเทาครับ
โดยที่ผมบอกว่ากว้างกว่าปกติเป็นเพราะ ตามกฎหมายจะกำหนดให้มีพื้นที่ set back รอบบ้านอยู่ที่ 2 m. ใช่มั้ยครับ ซึ่งเขาจะวัดจากส่วนที่ยื่นออกมาจากผนังอาคารที่มากที่สุดของด้านนั้นๆ และจากบริเวณหลังบ้านก็คือตรงส่วนของโถงบันไดฝั่งโน้น เลยทำให้พื้นที่สวนตรงส่วนอื่นๆจะมีความกว้างมากกว่าปกติอยู่ประมาณ 2.5 m. นั่นเองครับ ทำให้เราสามารถจัดสวนแบบที่ชอบได้เต็มที่มากขึ้นเยอะเลย
อีกหนึ่ง Highlight หลักของบ้านก็คือ Conner Window ตรงบริเวณชานพักบันได ซึ่งมีขนาดประมาณ 1.9 x 1.35 m. พร้อมกับช่องหน้าต่างกระจกเข้ามุม Bay Window ที่เราสามารถมองเชื่อมต่อลงไปยังสวนหลังบ้านได้ด้วยครับ
โดยเราอาจจัดมุมนี้ให้เป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน หรือมุมโต๊ะนั่งทำงานอ่านหนังสือชิลๆก็ได้ ซึ่งฝ้าเพดานตรงนี้ก็จะสูง 4.2 m. เชื่อมต่อไปยังชั้น 2 ของบ้านด้วยครับ และโดยส่วนตัวผมมองว่าเค้าพยายามออกแบบพื้นที่ชานพักบันได ให้กลายเป็นฟังก์ชันที่สามารถใช้ประโยชน์ได้มากกว่าเป็นแค่ทางผ่านเฉยๆนั่นเอง
และถัดขึ้นมาจะมีพื้นที่อเนกประสงค์อยู่บนชั้น 2 มีขนาดประมาณ 2 x 1.7 m. สามารถทำเป็น Family Area หรือมุมหิ้งพระเล็กๆก็ได้ แต่สิ่งที่เป็นข้อสังเกตหรืออาจเรียกว่าข้อจำกัดของพื้นที่นี้ก็คือ ผมรู้สึกว่าช่องแสงค่อนข้างน้อยไปสักหน่อย เพราะถึงแม้จะมีหน้าต่างมาให้ถึง 3 จุด แต่ก็มีขนาดไม่ได้ใหญ่มากนักเมื่อเทียบกับปริมาตรพื้นที่ เลยทำให้รู้สึกว่าชั้น 2 ไม่ดูไม่ค่อยสว่างหรือปลอดโปร่งเท่าที่ควรครับ โดยส่วนตัวผมคิดว่า ถ้ามีการเพิ่มขนาด/จำนวนช่องแสง หรือเพิ่มแสงสว่างให้มากกว่านี้ ก็น่าจะทำให้มีการใช้งานที่เหมาะสมมากขึ้นครับ
ส่วนบรรยากาศภายในบ้านตัวอย่างส่วนอื่นๆจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคา
ฮาบิเทีย ไพร์ม ราชพฤกษ์ ราคา ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564
- Bernina (เบอร์นิน่า) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 51.9 – 58 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 172 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 7.29 ล้านบาท - Cinque Terre (ชิงเคว เทเร) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 57.6 – 79.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 8.49 ล้านบาท - จอง 50,000 บาท
- ทำสัญญา 50,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
- ค่าส่วนกลาง 110 บาท/ตร.วา/เดือน
#Presale 27 – 28 พ.ย.นี้ เปิดจองบ้านเดี่ยวดีไซน์ใหม่ล่าสุดจากแสนสิริ Modern European Style บนทำเลศัพยภาพติดถนนใหญ่ ราชพฤกษ์-345 ในบรรยากาศ Exclusive Village เพียง 10 ครอบครัวเท่านั้น จองวันงานรับข้อเสนอเพิ่ม 50,000 บาท โทร 1685 หรือลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ที่ : http://siri.ly/y0GhlKB
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
บทสรุป
เปรียบเทียบโครงการ ฮาบิเทีย ไพร์ม ราชพฤกษ์ กับโครงการรอบๆแล้วเป็นอย่างไร?
บอกได้เลยว่าย่านนี้มีโครงการใหม่ให้เลือกเยอะมากครับ อย่างที่ผมบอกว่าไปแล้วว่าถนนสะพานนนทบุรี – บางบัวทอง (หรือทางหลวง 345) เป็นทำเลที่อยู่อาศัยใหม่ที่ขยับขยายมาจากโซนราชพฤกษ์อีกที ซึ่งราคาที่เปิดขายกันอยู่ในปัจจุบันก็ไม่ได้หนีห่างกันมากนัก โดยบ้านที่อยู่บนถนนราชพฤกษ์อาจมีราคาเริ่มต้นที่สูงกว่านิดนึง เพราะด้วยความอุดมสมบูรณ์ที่คึกคักก็เลยมีภาษีที่ดีกว่าหน่อย
ในขณะที่ตัวโครงการ ฮาบิเทีย ไพร์ม ราชพฤกษ์ ที่อยู่บนถนนสะพานนนทบุรี – บางบัวทอง จะเป็นฝั่งขาเข้าเมือง ที่เราสามารถตรงข้ามสะพานนนทบุรีไปทางศรีสมาน-ดอนเมืองได้สะดวกมาก ซึ่งต่างจากเพื่อนบ้านในย่านเดียวกันที่มักจะอยู่ฝั่งตรงข้าม และเน้นเข้าเมืองไปทางปากเกร็ด-แจ้งวัฒนะ หรือไปใช้ถนนกาญจนาภิเษกได้สะดวกกว่านั่นเอง เพราะไม่ต้องเสียเวลากลับรถให้ยุ่งยากครับ
โครงการ ฮาบิเทีย ไพร์ ราชพฤกษ์ มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 7 – 9 ล้านบาท แน่นอนว่าถ้าใครที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวที่มีราคาเริ่มต้นจับต้องได้ง่าย ในทำเลใกล้เคียงกันนี้ก็ยังมีอีกหลายตัวเลือกเลยครับ
แต่ส่วนใหญ่บ้านราคาเริ่มต้นเหล่านั้น จะเป็นบ้านไซส์เล็กที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยน้อยกว่าฮาบิเทียอยู่พอสมควร เพราะถ้าเทียบกันดีๆแล้ว แบบบ้านของโครงการนี้อาจเป็นไซส์กลาง-ไซส์ใหญ่ ของบ้านโครงการอื่นๆได้เลย ทำให้จริงๆแล้วราคาของบ้านในทำเลย่านนี้ เค้าก็ค่อนข้างเกาะกลุ่มกันพอสมควรอยู่แล้วครับ
เหตุผลอะไรที่ต้องเลือกโครงการ ฮาบิเทีย ไพร์ม ราชพฤกษ์?
จุดเด่นที่เห็นได้ชัดที่สุดคือเรื่อง “ความเป็นส่วนตัว” โดยโครงการฮาบิเทียจะมีเพื่อนบ้านเพียงแค่ 10 ยูนิตเท่านั้น เรียกได้ว่าน้อยที่สุดในย่านแล้วครับ รวมถึงเรื่อง “ระบบรักษาความปลอดภัย” ก็จัดเต็มมาให้เยอะที่สุดแล้วเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Video Door Phone / Intelligence Access Control / IP Camera / Magnetic Sensor / Motion Sensor ซึ่งผมคิดว่าเค้าให้มาดีกว่าบ้านในระดับราคาเดียวกันของที่อื่นๆพอสมควรเลยทีเดียว
อีกทั้งยังมีในเรื่องของ “การออกแบบฟังก์ชันบ้าน” ที่ผมมองว่าเค้าจัดลำดับความสำคัญของฟังก์ชันได้ชัดเจนดี อะไรที่อยากเน้นหรือใช้งานบ่อยๆ ก็จะทำให้ใหญ่และกว้างขวางไปเลย อย่างเช่น ห้องนอน และ Common Area แต่อะไรที่ไม่เน้นมากนัก ก็ทำแค่พอใช้งานได้สะดวก เช่น ห้องครัว และห้องน้ำ เป็นต้น
ที่สำคัญคือ ผมชอบที่เค้า “ออกแบบช่องแสง” โดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของคนในบ้านเป็นหลัก ซึ่งพื้นที่ชั้นแรกจะเน้นเปิดรับวิวสวนข้างบ้านและหลังบ้าน ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะเสียความเป็นส่วนตัว จากคนที่ผ่านไป-มาหน้าบ้านอีกต่อไป รวมถึงชั้นบนก็จะมีหน้าต่างที่ให้แสงสว่างแค่เพียงพอต่อการใช้งาน เพื่อลดการมองเห็นจากภายนอกให้มากที่สุด
ประเด็นสุดท้ายคือ นี่เป็นโครงการที่เน้นโปรดักส์บ้านพักอาศัย แต่ “ไม่เน้นใช้ส่วนกลาง” เพราะด้วยความที่เป็นโครงการจัดสรรขนาดเล็ก จึงมีพื้นที่ส่วนกลางไม่มากนัก แต่ยังคงมีค่าส่วนกลางที่ต้องรับผิดชอบกันอยู่นะครับ และบางคนก็อาจรู้สึกว่าค่อนข้างสูงอยู่สักหน่อย เนื่องจากเรามีเพื่อนบ้านช่วยแชร์เพียงไม่กี่หลัง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นค่าใช้จ่ายเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ รวมถึงค่าจ้าง รปภ. ที่เค้าจะคอยช่วยดูแลเราตลอด 24 ชม. นั่นเองครับ
ฮาบิเทีย ไพร์ม ราชพฤกษ์ เหมาะกับใคร
โครงการ ฮาบิเทีย ไพร์ม ราชพฤกษ์ เหมาะกับคนที่มองหาบ้านเดี่ยวบนถนนสะพานนนทบุรี – บางบัวทอง ที่เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวมากๆ เป็นโครงการขนาดเล็กที่มีเพื่อนบ้างเพียง 10 ครอบครัวเท่านั้น และต้องการระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเป็นพิเศษ ตั้งแต่ประตูทางเข้าด้านหน้าโครงการไปจนถึงภายในตัวบ้าน ซึ่งฟังก์ชันบ้านก็ค่อนข้างยืดหยุ่น เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ ถ้ามีผู้สูงอายุก็อาศัยอยู่ห้องนอนชั้นล่างได้ และไม่เน้นการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางครับ โดยจะต้องมีงบประมาณเริ่มต้นที่ 7.29 – 8.49 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 51,000 – 59,000 บาทขึ้นไป
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc