รีวิวโครงการ
รีวิว Apitown Chiangrai (อภิทาวน์ เชียงราย) พร้อมเจาะลึกแบรนด์บ้านอภิทาวน์ จาก AP
13 มิถุนายน 2024
รีวิวฉบับที่ 2192 … ช่วง 2-3 ปีมานี้จะเห็นบ้านโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นที่เชียงรายอย่างต่อเนื่องเลยนะคะ ซึ่งก็มีอีก 1 โครงการที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ เมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมากับ โครงการอภิทาวน์ เชียงราย ซึ่งแบรนด์ “อภิทาวน์” นี้เป็นแบรนด์ที่ทาง AP ปล่อยออกมาเพื่อทำตลาดต่างจังหวัดโดยเฉพาะ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มีความน่าสนใจ ดังนี้
- เหมาะกับคนที่เน้นเรื่องพื้นที่ใช้สอยในบ้าน เพราะให้พื้นที่มาเยอะเมื่อเทียบกับโครงการอื่น ที่ราคาพอๆ กัน
- มีห้องนอนชั้นล่างในบ้านทุกแบบ เพื่อรองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ
- ห้องนอนชั้นบนทุกห้องมีห้องน้ำในตัวทั้งหมดจึงได้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยค่ะ
รายละเอียดโครงการนี้จะเป็นอย่างไร ตามไปดูกันค่ะ
ข้อมูลโครงการ
22 February 2021
- Apitown Chiangrai (อภิทาวน์ เชียงราย)
- บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จํากัด (มหาชน)
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านปี 2020 ได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่: อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
- เนื้อที่โครงการ 43-0-78 ไร่ จำนวน 155 ยูนิต
- Luminance : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 255 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 7.49 ล้านบาท - Latitude : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 57 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 6.59 ล้านบาท - Bravo : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 4.49 ล้านบาท - ความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้น 1 – 2.60 เมตร / ชั้น 2 – 2.80 เมตร
- ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 70,000 บาท
- โครงการเริ่มก่อสร้าง ปลายปี 2020
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการเดือนธันวาคม ปี 2021
- เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 1623
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 19.864676, 99.838052
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
โครงการอภิทาวน์ เชียงราย ตั้งอยู่บนถนนทางหลวงสาย 1020 เป็นถนนหลักเส้นหนึ่งที่ชาวบ้านใช้เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองเชียงรายกัน เกริ่นก่อนว่าที่จังหวัดเชียงรายจะมีถนนพหลโยธิน 2 เส้นนะคะ คือถนนพหลโยธินเดิม (เส้นสีน้ำตาล) ที่ตัดผ่านตัวเมือง ตลาด โรงพยาบาล สำนักงานต่างๆ ของรัฐบาลที่กระจุกตัวกันอยู่บริเวณเมืองเก่า กับถนนพหลโยธินใหม่ ซึ่งก็คือทางหลวงหมายเลข 1 (เส้นสีแดง) ที่ตัดคู่ขนานกับเส้นเดิมแต่จะเป็นเส้นใหญ่ขึ้นใช้วิ่งข้ามจังหวัดได้สะดวก ซึ่งบนถนนถนนพหลโยธิน (สายทางหลวงหมายเลข 1) นี้จะถนนยอดนิยมที่มีศูนย์การค้าใหญ่ๆ เกิดขึ้น อย่างเช่น เซ็นทรัลเชียงราย, Big C Super Center เป็นต้น
พอดูจากแผนที่แล้วจะเห็นได้ว่าถนนหน้าโครงการสาย 1020 นี้อยู่ไม่ไกลจากทั้งถนนพหลโยธินสายเดิมและสายใหม่ มีความคึกคักที่ต่อเชื่อมมาจากถนนหลักอย่างพหลโยธินเดิม มี Homepro เชียงรายอยู่บนถนนเส้นนี้และยังอยู่ติดกับโครงการเลยด้วย แถมยังห่างจากสนามบินแม่ฟ้าหลวงแค่ประมาณ 20 – 30 นาทีเท่านั้นค่ะ
การเดินทางมาโครงการวันนี้ เราออกเดินทางจากสนามบินแม่ฟ้าหลวง พอเปิด Google Maps ปุ๊บก็มีเส้นทางขึ้นมาให้เลือกอยู่ 3 ทาง เราเลือกใช้ถนนเส้นเวียงบูรพามาเชื่อมเข้าถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) เพื่อพาทุกคนมาดูความเจริญของเมืองที่เกาะตามถนนสายหลัก จากนั้นก็วิ่งตรงยาวๆ มาจนถึงสี่แยกแม่กรณ์ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนทางหลวงหมายเลข 1020 ตรงมาไม่ไกลโครงการจะอยู่ทางฝั่งซ้ายค่ะ
เริ่มต้นเดินทางจากสนามบินแม่ฟ้าหลวง เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเวียงบูรพาเพื่อพาเข้าไปชมบรรยากาศในเมืองนะคะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
เนื่องจากโครงการ อภิทาวน์ เชียงราย ตั้งอยู่บนถนนทางหลวงจังหวัดสาย 1020 ซึ่งถนนเส้นนี้เปิดให้ใช้งานมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2506 ทำให้ที่ดินบนถนนสายนี้มีการพัฒนามาเรื่อยๆ ทางโครงการแจ้งว่าที่ดินแปลงนี้นั้นได้ถูกถมและปล่อยให้ดิน Set ตัวมาเป็นเวลานาน ก่อนที่จะมีการเริ่มก่อสร้าง ทำให้ดินแน่น ช่วยลดโอกาสที่บ้านจะทรุดตัวได้นะคะ
สภาพแวดล้อมรอบๆ ในบริเวณที่ติดถนนใหญ่จะอยู่ระหว่างโฮมโปร เชียงรายและบริษัท ทีโอที จึงไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับการอยู่อาศัยของโครงการ ยกเว้นอาจมีเสียงจากการจัดงานเลี้ยงตามเทศกาลบ้าง ส่วนที่ดินด้านในยังคงเป็นที่ดินเปล่าไม่ได้มีประเด็นอะไรที่ส่งผลต่อการอยู่อาศัย
รั้วโครงการฝั่งหนึ่งอยู่ติดกับโฮมโปรเลย วันไหนไม่อยากขับรถก็มาเดินช้อปปิ้ง ทานข้าวใกล้ๆ บ้านที่โฮมโปรได้เลย
รั้วอีกฝั่งหนึ่งติดกับบริษัท ทีโอที ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นร้านขายกระเบื้องเซรามิคและที่ดินเปล่าค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Home Pro เชียงราย ~ 30 m.
- ตลาดล้านเมือง ~ 1.7 km.
- โกลบอล เฮ้าส์ เชียงราย ~ 2.2 km.
- ไทวัสดุ ~ 3.3 km.
- เซ็นทรัลพลาซ่าเชียงราย ~ 4.1 km.
- ตลาดป่ากอ ~ 4.4 km.
- รพ. เชียงรายอินเตอร์ ~ 4.8 km.
- บิ๊กซี เชียงราย 4.9 km.
- รร. เตรียมอุดมพัฒนาการจังหวัดเชียงราย ~ 5.4 km.
- รพ. เชียงรายประชานุเคราะห์ ~ 5.8 km.
- รพ. เกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์ ~ 6.2 km.
- ไนท์บาซ่า ~ 6.6 km.
- รร. ดำรงราษฎร์สงเคราะห์ ~ 7.4 km.
- รร. องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ~ 8.1 km.
- สนามบินเชียงราย ~ 12.7 km.
รายละเอียดโครงการ
มาดูที่ตัวโครงการ อภิทาวน์ เชียงราย เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นจำนวน 155 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการกว่า 43 ไร่ ที่ดินของโครงการเป็นรูปร่างยอดฮิตแบบที่ Developer ชอบจัดสรรกัน คือมีส่วนที่ติดถนนเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวไม่กว้างมาก และขยับที่ดินผืนใหญ่เข้าไปอยู่ด้านใน เรามองว่าเป็นลักษณะเหมาะกับโครงการบ้านอยู่อาศัย เพราะบ้านพักอยู่อาศัยที่อยู่ด้านในจะไม่ถูกรบกวนโดยเสียงและควันรถจากริมถนน
เนื่องจากโครงการนี้มีจำนวนยูนิตไม่มากนัก จึงรวม Facilities ไว้ที่ตำแหน่งเดียวอยู่ตรงกลางหมู่บ้านเลย ทำให้ลูกบ้านทั้งโครงการสามารถมาใช้งานได้สะดวก สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการนี้ ใช้ระบบ KATSAN มาเป็นตัวช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกบ้านมากขึ้น เช่น สามารถลงทะเบียนรถของแขกที่จะมาหาไว้ล่วงหน้าได้ เพื่อนๆ ก็จะเข้ามาในโครงการได้เฉพาะรถที่ลงทะเบียนไว้ค่ะ
การเลือกตำแหน่งบ้านของโครงการนี้ เราสังเกตว่าจะแบ่งออกเป็น 3 โซนหลักๆ คือ โซนแรกบริเวณหน้าโครงการ ที่ตัวบ้านติดกับถนนหลัก ได้ประโยชน์เรื่องการเข้า-ออกง่ายแต่ก็อาจเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง จากเพื่อนบ้านที่ขับรถผ่านไปมา โซนที่ 2 จะขยับเข้าไปหน่อย เราชอบโซนนี้ที่สุดเพราะเค้าออกแบบไว้เป็นซอยตัน จะได้ความสงบขึ้น ส่วนโซนที่ 3 จะอยู่ด้านในสุดลักษณะถนนจะวน Loop ซึ่งใช้งานง่าย เข้าออกได้หลายทาง แต่ก็จะไม่ได้ความเป็นส่วนตัวเท่าซอยตันค่ะ
ทิศของบ้านมีให้เลือกครบทั้ง 4 ทิศเลยโดยบ้านโซนแรกจะหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือและทิศตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนบ้านอีก 2 โซนนั้นจะหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ สำหรับประเทศไทยพระอาทิตย์จะอ้อมใต้ แต่ลมส่วนใหญ่ก็จะมาทางทิศใต้ด้วยเช่นกัน หากไม่ชอบแสงแรงนักก็แนะนำให้เลือกบ้านที่หันทางทิศเหนือ หรือหากชอบลมแรงๆ ก็ให้เลือกบ้านทิศใต้แต่แสงก็จะแรงตามมาค่ะ
เนื่องจากโครงการ อภิทาวน์ เชียงราย ตั้งอยู่ในจังหวัดที่มีชื่อเสียงเรื่องงานศิลปะ ทางโครงการจึงออกแบบมาในคอนเซปต์ Modern Heritage แต่จะไม่ได้ออกแนวเรือนล้านนาจ๋าๆ หรือโมเดิร์นสุดๆ เค้าเดินทางสายกลาง ผสมๆ กัน เช่น ดึงรูปแบบฐานเสาปูนย่อมุมมาใช้ รวมถึงการออกแบบช่องลมให้พัดผ่านอาคาร เป็นต้น
เราอาจเคยชินว่าการเข้าออกจะต้องใช้ Easy Pass หรือ Keycard ใช่มั้ยคะ แต่สำหรับโครงการใหม่ๆ ของ AP จะเปลี่ยนเป็นสแกนทะเบียนรถยนต์กันแล้ว จึงไม่ต้องกลัวลืมการ์ดหรือนั่งหา Easy Pass, Keycard กันนะ
โครงการกั้นทางเข้า-ออกด้วยไม้กั้นกระดกที่แยกเป็นฝั่งลูกบ้านและแขกไว้เรียบร้อย ทำให้ลูกบ้านสามารถผ่านเข้าออกได้สะดวก ไม่ต้องรอแขกแลกบัตร สำหรับช่วงกลางคืนจะเปลี่ยนเป็นประตูเหล็กแทน เพื่อเพิ่มระดับรักษาความปลอดภัยให้กับลูกบ้านค่ะ
และสำหรับโครงการนี้ก็จะใช้ระบบรักษาความปลอดภัย KATSAN ที่เป็นมาตรฐานของ AP ทุกๆโครงการ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านได้ค่อนข้างดี เช่น สามารถลงทะเบียนรถของแขกที่จะมาหาไว้ล่วงหน้าได้ หรือถ้ามีใครมาหาแล้วเราไม่สะดวกรับแขก/หรือเราไม่อยู่บ้านพอดี ก็สามารถกดปฏิเสธผ่าน Application ได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้คนภายนอกเข้ามาในหมู่บ้านให้เสียความเป็นส่วนตัว
จากซุ้มประตูโครงการจะมีระยะของพื้นที่สีเขียวประมาณ 20 m. ก่อนที่จะเริ่มบ้านหลังแรก ซึ่งดีนะ เราเคยเห็นหลายๆ โครงการที่เค้าวางบ้านหลังแรกติดกับซุ้มประตูเลย ทำให้ความเป็นส่วนตัวของบ้านลดลงไป
ถนนหลักของโครงการมีความกว้าง 10 – 12 m. ตามมาตรฐานหมู่บ้านจัดสรร มีการปลูกต้นไม้ตามแนวถนนหลักทั้ง 2 ข้าง ทำให้บรรยากาศบนถนนหลักนี้ดูร่มรื่นขึ้น และเมื่อเข้าไปยังซอยด้านในจะเหลือ 8 m.
Clubhouse ของโครงการจะอยู่ตรงกลางโครงการเลยค่ะ ซึ่งแยกพื้นที่สระว่ายน้ำและฟิตเนสไว้คนละชั้นกัน เพื่อให้คนที่เล่นฟิตเนสอยู่ด้านบนไม่ได้เสียงรบกวนจากลูกบ้านที่เล่นน้ำอยู่ด้านล่าง ส่วนคนที่ว่ายน้ำอยู่ชั้นล่างก็ไม่ต้องเขินสายตาจากคนเล่นฟิตเนสนะ
พื้นที่ส่วนกลางที่นี่ออกแบบมาให้เป็นแบบ Universal Design จึงพาคุณตาคุณยายนั่งวีลแชร์มาชมสวน นั่งเล่นข้างสระ ได้สะดวก
ตำแหน่งของสระว่ายน้ำถูกวางตำแหน่งเข้ามาให้อยู่ด้านในของ Clubhouse ซึ่งเราชอบนะ เพราะทำให้สระมี Privacy ดีขึ้น จึงดูน่าใช้งานค่ะ
ตัวสระเป็นระบบ Overflow (น้ำล้น) ทำให้เราสามารถว่ายมาเกาะขอบสระชมวิวได้สะดวก และยังมีเสียงน้ำที่ไหลล้นออกมาตลอดเวลา ฟีลลิ่งเหมือนไปเที่ยวน้ำตก ช่วยสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลายขึ้นด้วย
ตัวสระระบบเกลือมีขนาด 5 x 15 เมตร ลึก 1.2 m.
ภายในแบ่งเป็นพื้นที่สระเด็กไว้เรียบร้อย เพื่อให้เด็กๆ เล่นน้ำได้สนุกขึ้น
พื้นที่ข้างสระออกแบบให้มีมุม Semi-Outdoor สำหรับนั่งเล่น นั่งเฝ้าลูกๆ หลานๆ เป็นมุมที่ร่มดีนะคะ
ก่อนลงสระก็อย่าลืมอาบน้ำที่ Shower ด้านข้างกันก่อน อยู่ติดกับสระว่ายน้ำเลยจึงใช้งานได้สะดวก ส่วนห้องน้ำก็อยู่ไม่ไกลกันแยกไว้ให้ทั้งห้องน้ำหญิง ชายและผู้สูงอายุค่ะ
สำหรับ Fitness จะแยกจากสระว่ายน้ำขึ้นมาอยู่ชั้นบนจึงได้วิวสวนรอบๆ กว่า 1 ไร่
ภายใน Fitness วางเครื่องออกกำลังกายไว้ประมาณ 7 เครื่อง ส่วนที่ชอบคือที่โครงการนี้เค้าติดมุ้งลวดไว้ด้วย ช่วงหน้าหนาวที่อากาศเย็นๆ ก็เปิดหน้าต่างรับลมได้ด้วยค่ะ
เครื่องออกกำลังกายที่ให้มามีทั้งแบบ Cardio และ Weight Training ครบถ้วน
ตำแหน่งของเครื่องออกกำลังกายส่วนใหญ่จะถูกวางให้หันหน้าออกไปรับวิวสวนนะคะ
มาดูพื้นที่สวนรอบๆ Clubhouse กันต่อ ซึ่งสวนส่วนกลางของโครงการนี้มีขนาดประมาณ 1 ไร่
มีเครื่องเล่นเด็ก และชิงช้าสำหรับคุณหนูๆ
นอกจากลานสนามหญ้าโล่งๆ แล้ว ก็มีบริเวณที่จัดเป็นสวนร่มรื่นด้วย
ภายในสวนจะมีม้านั่งให้นั่งเล่น ชมวิว แต่เราว่าเหมาะจะมาใช้งานในช่วงเย็นๆ ที่แดดร่มสักหน่อยนะคะ อากาศของที่เชียงรายนี่ได้ลมเย็นทีเดียวเลยค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือขนาด 5 x 15 เมตร ลึก 1.2 เมตร แบ่งเป็นสระเด็ก
- ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 7 เครื่อง
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 1 ไร่
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- รั้วรอบโครงการสูง n/a เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่ม n/a เมตร
- ถนนหลักกว้าง 10-12 ม. และถนนภายในกว้าง 8 ม.
- เข้า-ออก ด้วยการสแกนป้ายทะเบียนรถ
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดกและประตูล้อเลื่อน
- ระบบรักษาความปลอดภัย KATSAN
แบบบ้าน
โครงการ อภิทาวน์ เชียงราย เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นที่มีโปรดักส์ให้เลือก ดังนี้
Luminance : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 255 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
Latitude : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 57 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
Bravo : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
ขายในรูปแบบบ้านเปล่าไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์ให้นะคะ ข้อดีของที่นี่คือใช้โครงสร้างแบบอิฐมวลเบา ไม่ได้ใช้ Precast ตามที่นิยมกันในปัจจุบัน จึงไม่มีข้อจำกัดในการทุบผนัง หน้าตาจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ
แบบบ้าน BRAVO
บ้านแรกที่พามาชมคือบ้านเดี่ยวแบบ BRAVO มีภาพรวมของการตกแต่งออกมาในสไตล์ Modern แต่ก็ยังมีดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ที่ตกแต่งให้ดูมีความเป็นไทยล้านนามากขึ้น เช่น ราวกันตกบริเวณระเบียง หรือฉากบังสายตาที่ชั้นบน
มาดูที่ผังบ้าน BRAVO เป็นบ้านตอนลึก โดยชั้น 1 จะนำเอาส่วนที่จอดรถ บันได ห้องน้ำ และครัวไว้ฝั่งเดียวกันเลย ซึ่งตรงนี้ก็ถือว่าดีนะคะ เพราะถ้ากลับบ้านมาแล้วไม่อยากรบกวนแขกที่อยู่ห้องนั่งเล่นก็เข้าบ้านมาทางประตูที่จอดรถแล้วขึ้นห้องได้เลย หรือเวลาซื้อของสดกลับบ้านก็เดินไปยังห้องครัวได้ง่ายค่ะ ส่วนอีกฝั่งที่เป็นห้องนั่งเล่นก็ได้พื้นที่ลึกจากหน้าบ้านมาก ด้านในสุดของตัวบ้านก็จะมีห้องนอนที่ชั้นล่างด้วย รองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุหรือครอบครัวที่ต้องการให้มีห้องนอนแขกที่ชั้นล่างค่ะ
ชั้น 2 จะมีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง ซึ่งมีห้องน้ำในตัวทุกห้องเลย สำหรับ Master Bedroom จะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน กินความกว้างของหน้าบ้านทั้งหมดและมีระเบียงในตัว ส่วนห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องจะอยู่ทางฝั่งหลังบ้านเหมาะจะเป็นห้องลูก บ้านนี้จึงเหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 4-5 คนและรองรับผู้สูงอายุด้วยค่ะ
ดีเทลของหลังคาจะสังเกตเห็นว่ามีช่องระแนงระบายความร้อน ซึ่งนอกจากจะช่วยให้บ้านเย็นขึ้นแล้วยังช่วยกันแมลงด้วยค่ะ และใต้หลังคาจะติดตั้งแผ่นสะท้อนความร้อนไว้ให้อีกชั้นหนึ่ง
พื้นที่จอดรถมีความกว้างพอสำหรับ 2 คัน แต่จะลงเสาเข็มเท่าตัวบ้านมาให้เฉพาะส่วนที่คลุมหลังคามานะคะ เราจึงแนะนำว่าหากมีการต่อเติมหลังคาที่จอดรถก็แนะนำให้ลงเสาเข็มเพิ่มอีกหน่อย หากมีการทรุดตัวของดินก็จะได้ทรุดในระดับที่เท่าๆ กับตัวบ้าน
ที่จอดรถมีความกว้างประมาณ 4.8 m. จอดรถ 2 คันได้และมีความลึกมาตรฐานให้สามารถจอดรถใหญ่อย่างพวก SUV ได้
ส่วนที่อยากให้สังเกตคือ มีดีเทลเซาะร่องระหว่างพื้นในส่วนที่ลงเสาเข็มและไม่ลงเสาเข็มแยกไว้ให้ด้วย การเซาะร่องมาให้นั้นดีนะคะ เพราะพื้นที่ที่ลงเสาเข็มและไม่ลงเสาเข็มมักจะทรุดไม่เท่ากันอยู่แล้ว หากมีการทรุดตัวก็จะไม่ดึงโครงสร้างหลักของบ้านให้ทรุดตามมาค่ะ
เนื่องจาก อภิทาวน์ เชียงราย เป็นบ้านเดี่ยวจึงมีสวนรอบบ้านให้ได้ปลูกต้นไม้กันด้วย พื้นที่รอบบ้านมีระยะ Set Back เริ่มต้นประมาณ 2 m. ตามกฎหมาย
ใครไปดูบ้านบ่อยๆ อาจจะคุ้นเคยกับห้องเก็บของเล็กๆ ที่อยู่ด้านหน้าบ้าน แต่สำหรับหลังนี้จะอยู่ข้างบ้าน ข้อดีคือ ได้ประตูบานใหญ่ ทำให้เก็บของชิ้นใหญ่ๆ เข้าไปได้ค่ะ
การวางตำแหน่งบ้านบนแปลงที่ดินของที่นี่ จะวางชิดไปด้านใดด้านหนึ่งเพื่อให้เหลือพื้นที่สวนกว้างๆ เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับต่อเติมห้องเพิ่มได้ในอนาคต
รั้วข้างบ้านสูงประมาณ 1.55 m. หากเราต้องการความเป็นส่วนตัวจะทำแนวต้นไม้ริมรั้วเพื่อบังสายตาเพิ่มได้ เช่น ต้นโมก ต้นไผ่ ต้นสน นะคะ
บ้านหลังนี้สามารถเข้าได้ 2 ทาง คือทางประตูจากที่จอดรถและประตูบานเลื่อนที่อยู่ตรงกับห้องรับแขก เวลากลับบ้านดึกๆ ก็เข้าประตูจากที่จอดรถแล้วขึ้นบันไดไปชั้นบนได้เลย ไม่ต้องเดินอ้อมมาทางหน้าบ้าน หรือเวลาที่ไปช้อปปิ้งซื้อของสดมาก็หิ้วของเข้าครัวไปได้สะดวก
พื้นที่หน้าบ้านของที่นี่ก็เป็นตามทรงมาตรฐานของบ้านเดี่ยว ส่วนที่ชอบคือมีเฉลียงให้หลบแดด หลบฝน เวลาไขประตูบ้าน และยังใช้เป็นพื้นที่ให้นั่งใส่รองเท้าได้ด้วย
กรอบประตูและหน้าต่างของบ้านโครงการนี้จะเลือกใช้แบรนด์ Windsor ซึ่งมีความทนทานและราคาสูงกว่ากรอบ UPVC ปกตินะคะ เป็นบานเลื่อนกระจกตัดแสง ช่วยลดความร้อนเข้าบ้าน
ประตูจะมีตัวล็อก 2 จุดคือที่มือจับและตรงกลางระหว่างบานเลื่อนอีกชั้นหนึ่งค่ะ
เข้ามาด้านเป็นพื้นที่โล่งที่เชื่อมต่อ Living&Dining Area เข้าด้วยกัน ฝ้าเพดานชั้นนี้สูง 2.6 m. สังเกตว่าตัวบ้านของที่นี่จะมีความลึกเป็นพิเศษ ซึ่งบ้านก็ยังดูโปร่งด้วยหน้าต่างตลอดแนวกำแพงข้างบ้านเลยค่ะ
Living Area มีตำแหน่งอยู่หน้าบ้านเลยนะคะ พื้นที่ตรงนี้วางชุดโซฟาขนาดประมาณ 3-4 ที่นั่งได้ลงตัว มีระยะดูทีวีพอให้สามารถติดทีวีขนาดใหญ่แบบ 60 นิ้วขึ้นไปได้ ซึ่งโครงการขายแบบบ้านเปล่า เจ้าของบ้านสามารถออกแบบจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้ตามใจชอบเลยค่ะ
ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่ทานอาหาร ส่วนด้านหลังบ้านจะเป็นตำแหน่งของห้องนอนชั้นล่าง ห้องน้ำและห้องครัว
พื้นที่ทานอาหารสามารถตั้งโต๊ะทานอาหารแบบ 4-6 ที่นั่งได้แบบไม่อึดอัด ซึ่งจะได้แสงธรรมชาติจากประตูบานเลื่อนข้างบ้าน
เจ้าประตูบานเลื่อนนี้ทำให้พื้นที่ทานอาหารมีความน่าใช้งานนะคะ เพราะสามารถเปิดประตูบานเลื่อนเชื่อมออกไปสวนข้างบ้านได้เลย
บ้านตัวอย่างเค้าจัดสวนข้างบ้านมาให้ดูเป็นตัวอย่าง หากต่อเติมทำหลังคาเพิ่มก็จะช่วยบังแดดบังฝน ให้นั่งใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
เข้ามาที่ห้องนอนชั้นล่างมีพื้นที่กว้างแบบที่วางเตียงใหญ่ 5-6 ฟุต อยู่กัน 2 คนแบบคุณตาคุณยายได้เลย และห้องนี้ก็ดูโปร่งด้วยหน้าต่างทั้ง 2 ฝั่งค่ะ
ปลายเตียงยังมีพื้นที่เหลือพอสำหรับวางตู้เสื้อผ้าและชั้นวางทีวี เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ของใช้ไม่เยอะมาก
มาต่อกันที่ห้องครัว ให้มาเป็นครัวปิดจึงไม่จำเป็นต้องกั้นห้องเพิ่มก็พร้อมใช้งานได้เลย
ภายในห้องครัวจะให้เคาน์เตอร์ปูนมาแบบในรูป ง่ายต่อการทำตู้บานปิดเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย
ภายในห้องมีหน้าต่างและประตูหลังบ้านให้เปิดระบายกลิ่น ควัน จากการทำอาหารค่ะ
พื้นที่ซักล้างหลังบ้านจะถูกลดระดับลงไปจากพื้นห้องครัว เพื่อให้น้ำจากลานซักล้างไม่ไหลเข้าไปในตัวบ้าน ลานซักล้างที่นี่ไม่ได้ลงเสาเข็มไว้ แค่เทปูนไว้ให้ตามแบบในบ้านตัวอย่าง หากจะมีการต่อเติมอะไรก็ระวังเรื่องการทรุดตัวของดินด้วยค่ะ
ห้องน้ำที่ชั้นล่างออกแบบมาให้อาบน้ำได้ ภายในติดตั้งสุขภัณฑ์และของใช้มาให้ตามแบบในบ้านตัวอย่าง มีหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศได้ด้วย สุขภัณฑ์หลักๆ จะได้ของ Kohler ค่ะ
อ่างล้างมือรุ่นนี้มีความลึกเป็นพิเศษขึ้นมา จึงใช้งานได้สะดวก
โถสุขภัณฑ์ห้องนี้จะได้ของ Kohler พร้อมสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่
บริเวณที่อาบน้ำมีขนาดกะทัดรัดหน่อยประมาณ 90 x 90 cm. ถูกลดระดับลงไปเพื่อให้น้ำไม่ไหลมาโดนส่วนแห้งและโครงการติดฝักบัวมาให้เรียบร้อย
ตำแหน่งของบันไดขึ้นชั้น 2 จะอยู่ติดกับประตูที่จอดรถเลย เวลากลับบ้านมาก็สามารถเดินขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำที่ชั้นบนได้สะดวก หรือเวลาที่มีคุณพ่อคุณแม่คุยธุระอยู่ที่ห้องรับแขกก็มีทางให้เลี่ยงได้ ไม่จำเป็นต้องเดินผ่านค่ะ
ด้านข้างประตูมีพื้นที่ในกรอบสีเหลืองที่เราคิดว่าเหมาะจะทำเป็นชั้นวางรองหรือตู้เก็บของที่ต้องใช้บ่อยๆ เช่น กุญแจรถ หมวก ร่ม เวลาเข้าออกบ้านจะได้หยิบใช้สะดวกค่ะ
ตัวบันไดเป็นโครงเหล็กปูพื้นด้วยไม้ยางพาราอัดประสาน เป็นสเปกมาตรฐานของบ้านระดับราคานี้ แต่ในบ้าน Type ใหญ่ขึ้นจะได้อัพเกรดเป็นโครงสร้างคอนกรีตแทน ก็เป็นไปตามราคาของตัวบ้านนะคะ
นอกจากนี้บริเวณโถงบันไดยังมีการติด Motion Sensor มาให้ ซึ่งไฟดวงนี้จะสว่างขึ้นเวลาที่มีคนเดินผ่านโดยอัตโนมัติ แต่จะทำงานเฉพาะช่วงที่ไม่มีแสงเข้า ภายในบ้านเริ่มมืด อย่างในช่วงเวลากลางคืนเท่านั้น
บันไดจะมีราวกันตกอยู่ตลอด วัสดุเป็นลูกกรงเหล็กทาสีดำ มือจับเป็นไม้สำเร็จรูป
ลักษณะบันไดถูกออกแบบไว้ตามมาตรฐาน มีพื้นที่ชานพักให้สามารถใช้งานได้สะดวก
โถงบันไดได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างข้างบ้าน ทำให้ไม่มืดจนเกินไป ซึ่งหน้าต่างนี้มีบานกระทุ้งให้เปิดระบายอากาศได้ด้วย
สำหรับชั้นบนจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ห้อง โดยห้องนอนใหญ่ของบ้านนี้จะได้พื้นที่ทางด้านหน้าของตัวบ้านทั้งหมด ส่วนห้องนอนอีก 2 ห้องจะได้พื้นที่โซนด้านหลัง ซึ่งมีห้องน้ำในตัวทุกห้องเลยนะ
ฝ้าในชั้นนี้มีความสูง 2.8 m. สูงกว่าชั้นล่างเล็กน้อย วัสดุพื้นชั้นบนจะได้เป็นพื้นลามิเนตพร้อมบัวไม้ตกแต่งเพิ่มความเรียบร้อยสวยงาม
ห้องนอน 1 มีขนาดที่เราคิดว่าอยู่คนเดียวกำลังสบายๆ มีพื้นที่ให้พอใช้เก็บของได้ตั้งแต่เล็กจนโต และมีห้องน้ำในตัวด้วย
จากขนาดพื้นที่ภายในห้อง เราว่าเหมาะที่จะวางเตียงเดี่ยวนะคะ เพราะจะได้เหลือพื้นที่รอบๆ สำหรับวางโต๊ะและตู้เพิ่มได้
อย่างพื้นที่ข้างประตูก็สามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะเขียนหนังสือได้
ปลายเตียงมีพื้นที่ให้ทำชั้นวางของและติดทีวี
สำหรับห้องน้ำมีฟังก์ชันครบ มีพื้นที่อาบน้ำ ภายในให้สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ของ Kohler มาครบ ขาดแค่ติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มสักหน่อยก็ใช้งานได้สบายแล้วค่ะ
มาดูห้องนอน 2 กันต่อ ห้องนี้จะมีโถงทางเดินด้านหน้าด้วยทำให้พื้นที่พักผ่อนได้ความเป็นส่วนตัวขึ้นนะคะ
เราขอเรียกห้องนอน 2 ว่าเป็นห้องนอนของลูกคนโปรด เพราะเป็นห้องนอนเล็กที่สามารถวางเตียงใหญ่ 5-6 ฟุต ได้เลย ห้องนี้สามารถใช้อยู่อาศัย 2 คนได้ มีพื้นที่ให้จัดฟังก์ชันได้ครบ หรือหากเลือกวางเตียงเดี่ยวก็มีพื้นที่เหลือพอสำหรับจัดเป็นมุมทำงาน มุมแต่งตัวได้ค่ะ
ปลายเตียงยังมีพื้นที่พอสำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานได้ด้วย
อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นตำแหน่งของห้องน้ำ
พื้นที่ภายในห้องน้ำจะพอๆ กันทุกห้อง ให้ฟังก์ชันครบพร้อมแยกส่วนเปียกส่วนแห้งค่ะ
ถัดมาที่ห้องนอนใหญ่ เรามองว่าการออกแบบของบ้านนี้ให้ความสำคัญกับห้องนอนใหญ่มากเลย เพราะห้องนอนใหญ่ของบ้านนี้จะได้พื้นที่ในส่วนหน้าบ้านทั้งหมด ได้ช่องแสงยาวตลอดแนวทำให้ห้องดูโปร่งมาก และมีพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet ด้วย
ปลายเตียงเป็นพื้นที่โล่ง ซึ่งเราสามารถ Built-in ชั้นวางทีวีขึ้นมา เพื่อให้นอนดูทีวีได้สะดวก และยังเป็นการกั้นโซนแต่งตัวออกจากโซนเตียงนอนด้วยค่ะ
พื้นที่สำหรับทำเป็น Walk-in Closet มีตำแหน่งที่อยู่ใกล้ห้องน้ำ และได้แสงสว่างจากประตูระเบียงและหน้าต่างด้วย ถ้าวางโต๊ะเครื่องแป้งไว้โซนนี้ก็จะได้แสงธรรมชาติที่เหมาะกับการแต่งหน้าค่ะ
พื้นที่ระเบียงกว้างพอสมควรให้ออกไปยืนรับลม ชมวิว หรือวางกระถางต้นไม้ได้
สำหรับห้องน้ำในห้องนอนใหญ่มีฟังก์ครบเช่นเดียวกับห้องน้ำเมื่อสักครู่นี้ แต่มีสเปกของสุขภัณฑ์บางอย่างที่อัพเกรดขึ้นนะคะ
อย่างเช่น อ่างล้างหน้าของห้องน้ำนี้จะมีพื้นที่เก็บของข้างใต้เพิ่มขึ้นมา
รวมถึงสุขภัณฑ์ของห้องน้ำนี้ก็จะได้รุ่นที่มีขนาดใหญ่ขึ้นด้วยค่ะ
แบบบ้าน LATITUDE
เราขยับมาดูแบบบ้านที่ใหญ่ขึ้นอย่าง LATITUDE มีราคาเพิ่มขึ้นจากบ้านไซส์แรกประมาณ 2 ล้านบาท หลังนี้เป็นบ้านไซส์กลางของโครงการ ลักษณะเป็นบ้านหน้ากว้าง คุมโทนด้วยสีขาว-น้ำตาล และมีดีเทลตกแต่งให้ดูมีความเป็นไทยล้านนามากขึ้น เช่น ฉากบังสายตา แต่ก็มีดีเทลบางอย่างที่เปลี่ยนให้บ้านดูหรูหราขึ้น เช่น ราวกันตกที่ให้มาเป็นกระจกค่ะ
แบบบ้านนี้มีฟังก์ชันหลักๆ เหมือนกับบ้านแบบแรกแต่ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้นเป็น 225 ตร.ม. ทำให้พื้นที่ในแต่ละห้องกว้างขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ทานข้าวชั้นล่างที่มีโซน Pantry เพิ่มขึ้นมา และมีพื้นที่ Relax (นั่งเล่น) ที่ชั้นบนเพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง บ้านหลังนี้จึงเหมาะกับครอบครัวใหญ่ 4 – 6 คน ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยเยอะๆ มีมุมนั่งเล่นหลายตำแหน่งค่ะ
บ้านหลังนี้เป็นบ้านหน้ากว้าง ทำให้มีพื้นที่เฉลียงหน้าบ้านกว้าง + ลึกขึ้นไปด้วย เราจึงใช้งานสะดวกและมีพื้นที่วางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ขึ้นได้
แบบบ้านนี้สามารถจอดรถในร่มได้ 2 คันเช่นเดียวกับหลังแรกและมีพื้นที่จอดรถก็กว้างขึ้นเป็น 5 m. ใช้จอดรถได้สะดวกขึ้น
ประตูบ้านของหลังนี้จะมี 2 ทางเช่นเดียวกันคือ จากทางที่จอดรถและจากประตูหลักหน้าบ้าน เราชอบประตูหน้าบ้านโครงการนี้เพราะวัสดุเป็นไม้สักแท้จึงมีคุณลักษณะพิเศษที่ดี คือ แข็งแรงทนทานมาก ยืดหยุ่นต่ำ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ไม่ต้องกังวลเรื่องปลวกและแมลงมารบกวนไม้สักค่ะ
Common Area ของบ้านหลังนี้จะพิเศษกว่า Type แรกตรงที่ได้มาเป็นตัว L เชื่อมระหว่างพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร และ Pantry ครัว โดยโซนนี้จะโปร่งโล่งมาก เพราะมีหน้าต่างและประตูกระจกต่อเนื่องตลอดตั้งแต่หน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้าน เรียกได้ว่าชมวิวสวนได้จากทุกมุมเลย
โซนนั่งเล่นหน้าบ้านมีพื้นที่พอให้วางชุดโซฟาขนาด 3 – 4 ที่นั่งได้พอดีๆ หรือหากมีสมาชิกครอบครัวมากกว่านี้ ก็มีโซนอื่นให้จัดเป็นมุมนั่งเล่นกันได้อีกหลายมุมนะคะ
ถัดเข้ามาด้านในเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่แบบ 6 ที่นั่ง ด้านข้างและด้านหลังมีช่องแสงที่เปิดรับวิวสวนรอบบ้าน ช่วยสร้างบรรยากาศได้ดี และยังสามารถเปิดระบายอากาศได้ด้วย
ติดกับโต๊ะทานอาหารมีพื้นที่สำหรับทำ Pantry ครัวฝรั่งด้วย เผื่อยามเช้าอยากปิ้งขนมปังง่ายๆ ก็ทำที่มุมนี้ได้ สะดวกดี ไม่ต้องเดินเข้าไปถึงห้องครัวค่ะ
ภายในห้องครัวมีพื้นที่ไม่ได้เยอะนัก แต่ก็พอสำหรับฟังก์ชันหลักๆ อย่างเตาไฟฟ้าและซิงค์ล้างจาน ห้องนี้มีทั้งหน้าต่างและประตูทางด้านหลังบ้าน ทำให้เปิดระบายอากาศได้
อีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้านจะเป็น Corridor ยาวเชื่อมไปยังห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำและประตูฝั่งที่จอดรถ
สำหรับห้องน้ำที่ได้จะติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์มาครบถ้วนตามบ้านตัวอย่าง แบ่งโซนอาบน้ำมาเป็นสัดส่วนเพื่อรองรับห้องนอนที่ชั้นล่าง
ห้องนอนชั้นล่างเป็นห้องที่สามารถจัดเป็นห้องนอนผู้สูงอายุหรือห้องนอนแขกก็ได้ ซึ่งวางตำแหน่งไว้ด้านในสุดจึงได้ความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อน และเลือกใช้พื้นก็เป็นไม้ลามิเนต จึงให้อารมณ์ที่ Homey ขึ้น
ภายในห้องมีพื้นที่พอให้วางเตียง 5 – 6 ฟุตได้นะคะ รอบรับการอยู่อาศัย 2 คนได้เลย
จากตำแหน่งของห้องที่อยู่มุมจึงได้หน้าต่าง 2 ฝั่ง แบบนี้ดีนะคะ เพราะลมจะสามารถพัดผ่านทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
อีกฝั่งหนึ่งของห้องมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าหรือตู้เก็บของใช้ได้ด้วย
บันไดขึ้นชั้นบนของบ้านแบบนี้จะใช้โครงสร้างเป็นคอนกรีต ซึ่งมีขนาดทางขึ้นลงและลูกตั้ง ลูกนอน ได้มาตรฐาน
ชานพักของบ้านนี้ก็ได้เป็นขั้นสี่เหลี่ยมแบบที่ควรจะเป็น ใช้งานได้สะดวกดี
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ส่วนแรกที่เราเห็นคือ Relax Area ด้านบน ซึ่งมุมนี้จะจัดให้เป็นพื้นที่นั่งเล่น หรือมุมทำงาน/ทำการบ้านของเด็กๆ ก็ได้ ส่วนห้องที่อยู่ติดกันเป็นตำแหน่งของห้องนอนใหญ่ค่ะ
เรามองว่าพื้นที่ส่วนนี้ดีกับครอบครัวที่มีเด็กๆ นะ เพราะแทนที่พวกเค้าจะเข้าไปนั่งเล่นในห้องของตัวเอง ก็มีพื้นที่ให้เจอกัน นั่งเล่น นั่งทำการบ้านด้วยกันได้
ห้องนอนรองของบ้านหลังนี้จะถูกจัดไว้ในโซนเดียวกัน ซึ่งทั้ง 2 ห้องมีห้องน้ำในตัวทั้งคู่ ทำให้ชั้นนี้ไม่มีห้องน้ำส่วนกลางนะคะ
ห้องนอน 1 จะได้ตำแหน่งทางหน้าบ้าน เป็นห้องนอนรองที่มีพื้นที่พอให้วางเตียง 5-6 ฟุตได้ ถือว่ามีขนาดใหญ่เลยนะ
แต่ก็มีข้อจำกัดของพื้นที่อยู่นิดหน่อย คือ ต้องเผื่อพื้นที่ไว้สำหรับเป็นทางเดินตรงประตูหน้าห้อง ทำให้เตียงและชั้นวางทีวีไม่สามารถวางตำแหน่งให้ตรงกันแบบพอดีได้ จะเยื้องๆ กันเล็กน้อย แนะนำให้ใช้เฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in จะช่วยให้พื้นที่ลงตัวขึ้นได้
ปลายเตียงเป็นตำแหน่งของห้องน้ำ ซึ่งตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าจะถูกวางไว้หน้าห้องน้ำพอดี ทำให้อาบน้ำแต่งตัวได้สะดวก
ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชันและวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ ครบเหมือนห้องน้ำอื่นๆ
ถัดมาที่ห้องนอน 2 ตำแหน่งของห้องนี้จะอยู่ทางฝั่งหลังบ้าน ได้หน้าต่าง 2 ฝั่งจึงเปิดระบายอากาศ รับลมได้ดี
หากวางเตียงเดี่ยวแบบในบ้านตัวอย่างก็จะเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะเขียนหนังสือ โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้าได้อีกเยอะเลยค่ะ
ส่วนที่ชอบของห้องนี้ก็คือ มีพื้นที่สำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้าให้เข้ามุมได้พอดี ไม่ต้องเสียพื้นที่ใช้สอยด้านหน้าประตูห้องไปเลย
อีกฝั่งหนึ่งของชั้นนี้เป็น Master Bedroom ซึ่งได้พื้นที่ใช้สอยแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ตั้งแต่หน้าบ้านจนถึงหลังบ้านเลยค่ะ
ห้องนอนใหญ่ของบ้าน Type นี้มีช่องแสงตลอดแนวของห้องเลย ภายในห้องมีพื้นที่ให้วางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบาย ปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับทำชั้นวางทีวี และติดกับประตูระเบียง จึงนอนชมวิวภายนอกได้ แต่ถ้าฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยก็อาจเสียความเป็นส่วนตัวไปได้เหมือนกันนะคะ
ระเบียงในห้องนี้มีความกว้างให้ออกไปใช้งานได้อย่างแท้จริง โครงการเลือกวัสดุกันตกมาเป็นบานกระจก จึงไม่มีราวระเบียงมาให้เกะกะสายตา หากใครเลือกบ้านติดสวน ก็สามารถเอาเก้าอี้มาวางไว้นั่งชมวิวได้
สำหรับ Walk-in Closet ในห้องนี้จะอยู่หน้าทางเข้าห้องน้ำเลย จึงใช้งานต่อเนื่องกันได้สะดวก แต่มุมนี้มีหน้าต่างเยอะ ทำให้พื้นที่สำหรับ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้านั้นมีจำกัด หากอยากได้ตู้ผ้าใหญ่ๆ เราแนะนำให้ Built-in ปิดหน้าต่างด้านในไปเลยก็ได้ค่ะ เพราะแสงยังเข้าผ่านหน้าต่างโต๊ะเครื่องแป้งได้อีกตำแหน่งนึง
ความพิเศษของห้องน้ำ Master Bedroom คือมีอ่างอาบน้ำเพิ่มมาให้ด้วย
อีกฝั่งหนึ่งของห้องก็มีฟังก์ชันครบและได้สเปกวัสดุที่เหมือนๆ กับห้องน้ำอื่นในบ้านค่ะ
แบบ LUMINANCE
สำหรับแบบบ้านใหญ่สุดคือแบบ LUMINANCE ที่มีราคาเพิ่มขึ้นจากบ้านไซส์กลางประมาณ 1 ล้านบาท หน้าตาอาคารดูคล้ายๆ กับบ้านไซส์กลางเลยแต่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาก
ฟังก์ชันของบ้านใหญ่สุดจะเป็น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ซึ่งห้องน้ำที่เพิ่มขึ้นทำให้ห้องนอนชั้นล่างมีห้องน้ำในตัวเพิ่มขึ้นมา และมีห้องสำหรับแม่บ้านด้วยค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
22 February 2021
- Luminance : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 255 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 7.49 ล้านบาท - Latitude : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 57 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 6.59 ล้านบาท - Bravo : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 4.49 ล้านบาท - จอง 50,000 บาท
- ทำสัญญา 100,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 70,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 25 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการอภิทาวน์ เชียงราย ตั้งอยู่บนถนนทางหลวงสาย 1020 เป็นถนนหลักเส้นหนึ่งที่ใช้เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองเชียงราย จัดอยู่ในโซนที่ยังคงมีความสงบแต่ก็ใกล้กับแหล่งช้อปปิ้งหลักของจังหวัดอย่างกาดหลวง เซ็นทรัล พลาซ่า เชียงราย สามารถเดินทางเข้าสู่โรงพยาบาลและสำนักงานราชการต่างๆ ในตัวเมืองได้สะดวก และห่างจากสนามบินแม่ฟ้าหลวงแค่ประมาณ 20 – 30 นาทีเท่านั้น
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : โครงการอภิทาวน์ เชียงราย จะมีระบบที่ชื่อว่า KATSAN ออกแบบมาให้มีการดูแลที่เข้มข้นกว่าระบบแบบมาตรฐาน เช่น ไม้กั้นกระดกจะใช้การสแกนป้ายทะเบียนรถ และมีการใช้งานเชื่อมต่อกับ Application ในโทรศัพท์มือถือ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานและติดต่อกับ รปภ. ได้ง่ายขึ้น เช่น ระบบ E Stamp, ลงทะเบียนสำหรับแขกล่วงหน้า, ปฏิเสธการเข้าพบเมื่อไม่สะดวก เป็นต้น ทำให้คนภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้อง ไม่ต้องเข้ามาในโครงการโดยไม่จำเป็นค่ะ
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย : อภิทาวน์ เชียงราย เป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตไม่มากนักแค่ 155 ยูนิตเท่านั้นจึงน้อยกว่าหลายโครงการในละแวกนี้ เรามองว่าการออกแบบไม่ได้หวือหวาเท่าไหร่นัก แต่ได้ตามมาตรฐานของโครงการบ้านจัดสรรที่ดี เช่นถนนหลักกว้าง 10 – 12 m. ถนนซอยกว้าง 8 m. จัดวางสวนส่วนกลางและ Clubhouse ไว้ตรงกลางโครงการเพื่อให้ลูกบ้านทุกคนเข้ามาใช้งานได้สะดวก
ส่วนที่เราชอบคือรูปแบบโปรดักส์ที่ทำออกมาให้เลือกหลากหลาย ซึ่งจุดขายของบ้านที่นี่ก็คือ ขนาดพื้นที่ใช้สอย ซึ่งพอหาดูบ้านที่เรทราคาเดียวกันในโครงการละแวกนี้ ที่นี่ถือว่าให้พื้นที่ใช้สอยมามากสุดและทุกบ้านมีห้องนอนผู้สูงอายุที่ชั้นล่าง รอบรับครอบครัวขนาดกลาง – ใหญ่ แบบสมาชิก 4-6 คน ได้ทุกหลัง และหากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าแต่ละแปลงจะมีที่ดินรอบบ้านเหลือไว้เพื่อรองรับการต่อเติมเพิ่มได้อีกด้วย
วัสดุ : สำหรับบ้านเดี่ยวในโครงการนี้จะใช้ระบบก่อสร้างแบบ Conventional ก่อด้วยอิฐมวลเบา จึงเป็นข้อได้เปรียบในการต่อเติม ทุบ เจาะมากกว่าโครงการที่ใช้ระบบ Precast หรือ Tunnel Form นะคะ ส่วนวัสดุอื่นๆ ภายในบ้านจะได้ตามมาตรฐานเลย
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : เนื่องจากเป็นโครงการขนาดเล็กที่มีจำนวนยูนิตไม่มากนัก จึงไม่ได้เน้นจัดบรรยากาศให้ดูโอ่อ่า จะเน้นไปที่การใช้งานมากกว่า เช่น มีพื้นที่สวนหย่อมเล็กๆ และมีการจัดLandscape ให้ทั้งสองข้างของถนนอยู่หลายจุด ทำให้เรามั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่าเมื่อเข้าไปภายในโครงการจะไม่ดูแห้งแล้ง แต่ด้วยความที่โครงการยังใหม่ต้นไม้ก็อาจจะยังไม่ได้เขียวชอุ่มนัก คงต้องให้เวลาสัก 2-3 ปีค่ะ สำหรับพื้นที่ Clubhouse จะแทรกตัวอยู่ในสวน เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวในการใช้งานมากขึ้น และยังได้วิวสวนไปในตัวด้วย
สาธารณูปโภค : สำหรับ Facilities ของโครงการจะมี Clubouse และสวนรวมทั้งโครงการขนาดประมาณ 1 ไร่ ภายใน Clubhouse ประกอบด้วยสระว่ายน้ำ และ Fitness ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็ใช้แชร์กับลูกบ้านจำนวนไม่เยอะนัก เทียบกับค่าส่วนกลาง 25 บาท/ตร.วาแล้วก็ถือว่าสมเหตุสมผล
Judgement
เนื่องจากโครงการ อภิทาวน์ เชียงราย เป็นโครงการบ้านเดี่ยวในทำเลที่ทาง Think of Living ไม่คุ้นเคยจึงไม่สามารถให้คะแนนเปรียบเทียบความคุ้มค่ากับโครงการอื่นๆในทำเลเดียวกันได้นะคะ
BOTTOM LINE
อภิทาวน์ เชียงราย เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ที่มองหาบ้าน 2 ชั้น 4 ห้องนอน ที่มีห้องชั้นล่างสำหรับรองรับผู้สูงอายุ ชอบทำเลที่ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์แต่ก็ยังเป็นพื้นที่ที่มีความสงบ มีพื้นที่ใช้สอยในบ้านเยอะเมื่อเทียบโครงการอื่น มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 4.49 – 7.49 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 31,430-52,430 บาท
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะคะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc