รีวิวโครงการ

รีวิว Apitown Suratthani (อภิทาวน์ สุราษฎร์ธานี) พร้อมเจาะลึกแบรนด์บ้านอภิทาวน์ จาก AP

21 มิถุนายน 2024

อ่านรีวิวล่าสุด

..สำหรับพ่อแม่พี่น้องชาวสุราษฎร์ธานี ใครที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวใกล้ห้างเซ็นทรัล และโรงพยาบาลกรุงเทพสุราษฎร์ธานีอยู่ล่ะก็ วันนี้ผมมีโครงการใหม่ อภิทาวน์ สุราษฎร์ธานี (APITOWN SURATTHANI) มาฝากครับ ถือเป็นโครงการแรกของ AP ที่ได้มาเปิดตัวในจังหวัดนี้เลย โดยความน่าสนใจหรือ Highlights ต่างๆของตัวโครงการก็จะมีดังต่อไปนี้

  • ทำเลติดถนนใหญ่ ใกล้โรงพยาบาลกรุงเทพ และห้างเซ็นทรัลสุราษฎร์ธานี
  • มีแบบบ้านให้เลือกเยอะถึง 7 แบบ ฟังก์ชันยืดหยุ่น ตอบโจทย์ครอบครัวตั้งแต่ขนาดเล็ก-ใหญ่
  • ใช้ระบบ KATSAN ซึ่งเป็นระบบรักษาความปลอดภัยจาก AP มาตรฐานเดียวกันทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทำให้อยู่อาศัยได้อย่างปลอดภัย
  • เป็นโครงการขนาดใหญ่ จึงทำให้มีพื้นที่ส่วนกลางเยอะตามสัดส่วนจำนวนยูนิตไปด้วย  และมาพร้อมกับฟังก์ชันที่ครบครันน่าใช้งาน

ข้อมูลโครงการ

APITOWN SURATTHANI (อภิทาวน์ สุราษฎร์ธานี) ณ วันที่ 19 กันยายน 2566

 ชื่อโครงการ   APITOWN SURATTHANI (อภิทาวน์ สุราษฎร์ธานี)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS   MAIN – UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนนเลี่ยงเมือง (420) ต.วัดประดู่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
 ที่ดิน  48-2-04.69 ไร่
 จำนวนยูนิต   199 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • Akiva (เอคิวา) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องนั่งเล่น / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 4.65 ล้านบาท
  • Arris (แอริส) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องนั่งเล่น / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 5.12 ล้านบาท
  • Porter (พอร์ตเตอร์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 52 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องนั่งเล่น / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 5.42 ล้านบาท
  • Pilar (พิลล่าร์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 56 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 6.19 ล้านบาท
  • Cashel (คาเชล) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 6.88 ล้านบาท
  • Shelby (เชลบี้) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 62 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 252 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 7.38 ล้านบาท
  • Quincy (ควินซี่) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 69 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 274 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 8.11 ล้านบาท

 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   2.6 เมตร
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ                      43,000 บาท
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2565
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี n/a
 เว็บไซต์โครงการ   https://www.apthai.com/th/upcountry-projects/apitown-suratthani
 โทร   1623

 

ทำเลที่ตั้ง

Highlights :

  • ติดถนนใหญ่ทางเลี่ยงเมือง สามารถเข้า-ออกเมืองได้สะดวก
  • ใกล้ความอุดมสมบูรณ์ทั้งห้างเซ็นทรัล และโรงพยาบาลกรุงเทพสุราษฎร์ธานี

พิกัด Google Maps : 9.120679, 99.286353
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

โครงการ อภิทาวน์ สุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่ติดถนนเลี่ยงเมือง (420) ซึ่งเป็นเส้นทางระหว่างตัวเมืองสุราษฎร์ และทางไปท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานีครับ โดยการเจริญเติบโตของตัวเมืองก็จะขยายมาทางด้านซ้ายของโครงการ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆก็ได้ขยับเข้ามาใกล้โครงการมากขึ้นด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นห้างเซ็นทรัล โลตัส และโฮมโปร เป็นต้น ส่วนถ้าเป็นตลาดและสถานที่ราชการต่างๆ ก็มักจะอยู่ในตัวเมืองตรงแถวๆเกาะลำพู และถนนตลาดใหม่เป็นหลัก

รวมถึงยังมีโรงพยาบาลขนาดใหญ่อยู่ใกล้ๆอีกหลายแห่ง โดยเฉพาะโรงพยาบาลกรุงเทพก็จะอยู่เยื้องๆกันฝั่งตรงข้ามนี่เอง เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่อยู่ไม่ไกลจากความอุดมสมบูรณ์เลยครับ อย่างเช่น ถ้าเราจะขับรถไปห้างเซ็นทรัลก็ใช้เวลาประมาณ 5 – 10 นาที หรือถ้าจะเข้าเมืองและไปสนามบินก็ประมาณ 20 – 30 นาทีเท่านั้น จึงเป็นทำเลที่สามารถเข้า-ออกเมืองได้สะดวกทีเดียว

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

บริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะยังคงเป็นที่ว่าง และมีหมู่บ้านข้างๆอีกเล็กน้อยครับ ซึ่งที่ตั้งของโครงการจะมีถนนร่นเข้ามาจากถนนใหญ่ประมาณ 180 m. จึงทำให้มีความเงียบสงบและไม่วุ่นวาย โดยจะเป็นถนนส่วนตัวที่เชื่อมต่อเข้ามาสู่โครงการแค่ที่เดียว (ไม่ได้แชร์ร่วมกับเพื่อนบ้านอื่นๆ) ซึ่งทางโครงการก็จะมีการยกให้เทศบาล และกลายเป็นถนนสาธารณะด้วยครับ

  • ทิศเหนือ : เป็นทางเข้าหลักโครงการ ติดกับ ถนนสาธารณะ ที่ว่าง และเชื่อมต่อออกไปยังถนนใหญ่ได้
  • ทิศใต้ : ติดกับ คลองเล็กๆ และที่ว่าง
  • ทิศตะวันออก : ติดกับ  ที่ว่าง
  • ทิศตะวันตก : ติดกับ ที่ว่าง

และนี่เป็นภาพบรรยากาศของถนนเลี่ยงเมืองที่อยู่ปากซอยโครงการครับ ซึ่งปัจจุบันจะมีจุดสังเกตได้ง่ายหน่อยตรงที่จะมีธง Skytube สีแดงเด่นอยู่ทางด้านหน้าเลย

(แต่อนาคตอาจมีการนำออก ดังนั้นจึงอาจสังเกตจากป้ายชื่อโครงการที่อยู่ถัดเข้ามา หรือไม่ก็เปิด Google Map ตามมาได้นะครับ)

ถนนทางเข้าถึงแม้จะถูกยกให้เทศบาลและกลายเป็นถนนสาธารณะ แต่ทางโครงการก็ได้มีการปลูกต้นไม้เพื่อปรับภูมิทัศน์ ให้มีความสวยงามและดูสดชื่นมากขึ้น

ซึ่งจากปากซอยเข้ามาจนถึงซุ้มประตูทางเข้าด้านใน จะมีระยะทางเพียง 180 m. จึงทำให้มีความเงียบสงบเป็นส่วนตัว และยังช่วยปรับอารมณ์หลีกหนีจากความวุ่นวายภายนอก ก่อนที่จะกลับเข้าบ้านได้ดีอีกด้วยครับ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • เซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี ~ 2.3 km.
  • โลตัส ~ 3.8 km.
  • ตลาดสดเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ~ 6.6 km.
  • แม็คโคร ~ 8.6 km.
  • Big C ~ 13.4 km.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลกรุงเทพสุราษฎร์ธานี ~ 2.4 km.
  • โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ~ 4.4 km.
  • โรงพยาบาลศรีวิชัย ~ 4.7 km.

อื่นๆ

  • ท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานี ~ 21.2 km.

รายละเอียดโครงการ

Highlights :

  • มีระบบรักษาความปลอดภัย KATSAN จาก AP ที่ใช้เป็นมาตรฐานร่วมกันทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ช่วยคัดกรองการเข้า-ออกโครงการได้เป็นอย่างดี
  • โครงการมีขนาดค่อนข้างใหญ่ จึงทำให้มี Facilities ที่เยอะตามสัดส่วนไปด้วย
  • บ้านในโซนแรกที่เปิดขายในปัจจุบัน จะเป็นโซนที่ใกล้ Clubhouse สามารถมาใช้งานได้สะดวก
  • มีซอยย่อยสั้นๆ ที่เพื่อนบ้านไม่เยอะให้เลือก เหมาะกับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว

โครงการ อภิทาวน์ สุราษฎร์ธานี เป็นบ้านเดี่ยวจัดสรรบนที่ดินขนาด 48-2-04.69 ไร่ และมีเพื่อนบ้านทั้งหมด 199 ยูนิต ถือเป็นโครงการขนาดค่อนข้างใหญ่พอสมควรครับ แต่นั่นก็เลยทำให้เรามี Facilities ให้ใช้งานได้เยอะด้วยเช่นกัน

โดยปัจจุบันเค้าจะเปิดขายเฟสแรกทางด้านหน้าสุด ซึ่งเป็นโซนที่ใกล้ส่วนกลางอย่างอาคาร Clubhouse จึงเหมาะกับคนที่ต้องการความสะดวกในการใช้งาน Facilities ต่างๆ เช่น สระว่ายน้ำ / ฟิตเนส / Co-Working Space และ Kid’s Room ส่วนถ้าเป็นเฟสต่อไปในอนาคต ก็จะมีพื้นที่สวนสีเขียวขนาดใหญ่อยู่ด้านในให้ใช้งานด้วยครับ

สำหรับแบบบ้านจะค่อนข้างมีตำแหน่งคละกันนะ แต่โดยส่วนมากบ้านหลังใหญ่ๆอย่าง Shelby และ Quincy ก็มักจะอยู่ทางโซนด้านหน้าใกล้กับพื้นที่ส่วนกลาง รวมถึงจะเป็นหลังแปลงมุมที่อยู่ติดถนน Main ได้พื้นที่ดินเยอะอีกด้วย

ส่วนถ้าเป็นหลังเล็กอื่นๆ ก็จะอยู่ถัดเข้าไปภายในซอยต่างๆ แนะนำว่าถ้าเป็นซอยสั้นๆก็จะยิ่งได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น (น้อยสุดคือ 2 – 4 ยูนิตเท่านั้น) แต่ถ้าเป็นซอยยาวๆก็จะมีเพื่อนบ้านร่วมซอยเยอะสักนิดนึงครับ

เริ่มกันที่ซุ้มประตูทางเข้าด้านหน้าสุดจะมีการแบ่งทางเข้า-ออกชัดเจน อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของอาคาร Clubhouse ที่อยู่ด้านบนด้วยครับ

การเข้า-ออกจะใช้การจดจำป้ายทะเบียนรถด้วยระบบ KATSAN จาก AP ที่ใช้กับทุกๆโครงการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จึงค่อนข้างมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานเหมือนกันทั่วประเทศ

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกล้อง CCTV และมี รปภ. ดูแลตลอด 24 ชม. ส่วนถ้าเป็นบุคคลภายนอกหรือ Visitor ก็จะต้องแลกบัตรก่อนตามปกติครับ

‘KATSAN’ เป็นระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานของ AP ที่มีในทุกๆโครงการ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านได้ค่อนข้างดี เช่น

สามารถลงทะเบียนรถของแขกที่จะมาหาไว้ล่วงหน้าได้ หรือถ้ามีใครมาหาแล้วเราไม่สะดวกรับแขก/หรือไม่อยู่บ้านพอดี ก็สามารถกดปฏิเสธผ่าน Application ได้โดยไม่จำเป็นต้องให้คนภายนอกเข้ามาในหมู่บ้านให้เสียความเป็นส่วนตัวครับ

เมื่อเข้ามาภายในโครงการก็จะเจอกับถนน Main ตรงกลาง และทางแยกออกไปตามซอยต่างๆ ซึ่งปัจจุบันโซนด้านในก็กำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้างนะครับ

สำหรับใครที่สนใจมาเยี่ยมชมโครงการ ก็จะมีสำนักงานขายและบ้านตัวอย่างให้ชมกันอยู่ที่ซอยแรกด้านขวามือ (ที่จอดรถลูกค้าชั่วคราวด้านซ้าย จะกลายเป็นยูนิตขายในอนาคต)

ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นที่จอดรถของ Clubhouse ที่มีมาให้ 2 ช่องจอด สำหรับคนที่ซื้อบ้านโซนด้านใน ก็สามารถขับรถมาใช้งานได้สะดวกครับ

อาคาร Clubhouse เป็นสไตล์ Modern 2 ชั้น และยังเป็นส่วนหนึ่งของซุ้มประตูทางเข้าโครงการก่อนหน้านี้อีกด้วย ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่พบเห็นบ่อยของโครงการ AP หลายๆแห่ง

ทางขึ้นอาคารเราสามารถเดินขึ้นบันไดทางด้านหน้าโดยตรงก็ได้ หรือถ้าใครที่ใช้รถเข็นก็จะมีทางลาดให้ใช้งานได้สะดวกแบบนี้เลย

ขึ้นมาบริเวณชั้น 1 เราจะเจอกับโถงทางเดินที่จะแยกไปยังฟังก์ชันต่างๆ โดยจะเป็นการเดินในร่มอยู่ใต้ชายคา จึงไม่ต้องกลัวแดดกลัวฝนครับ

ฟังก์ชันแรกทางขวามือจะเป็นเหมือน Lobby หรือพื้นที่ส่วนต้อนรับ ใช้สำหรับการนั่งเล่นพักผ่อนรับลมเย็นๆ หรือจะใช้รับแขกก็ได้เหมือนกัน

โดยจะตกแต่งด้วยวัสดุจากธรรมชาติ เช่น วัสดุสานจากต้นกกที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น และจะหันหน้ารับวิวออกไปทางสระว่ายน้ำด้านหน้าแบบนี้ครับ

พื้นที่สระว่ายน้ำระบบเกลือส่วนแรกนี้จะเป็น Kid’s Pool หรือสระน้ำตื้นสำหรับเด็ก มีขนาดค่อนข้างใหญ่ และเล่นพร้อมกันได้ทีละหลายๆคน

โดยสระนี้จะมีหลังคาคลุมให้ร่มเงาส่วนหนึ่ง ทำให้กลายเป็นพื้นที่แบบกึ่ง Semi-Outdoor ให้สามารถเล่นน้ำช่วงกลางวันแบบนี้ได้ด้วย

อีกทั้งยังอยู่ในตำแหน่งที่พ่อแม่ผู้ปกครอง สามารถนั่งดูแลบุตรหลานได้อย่างใกล้ชิดและปลอดภัยด้วยครับ

ถัดมาจะเป็นพื้นที่ข้างสระว่ายน้ำ ที่ในอนาคตอาจมี Day Bed มาวางให้เราได้นั่งเล่นพักผ่อนข้างสระกันได้ และตรงสุดทางเดินเราจะเจอ Shower ให้ล้างตัวก่อนลงสระครับ

Swimming Pool จะเป็นสระแบบกลางแจ้ง ที่มีลักษณะเป็นรูปตัว L ขนาดประมาณ 9.85 x 22.85 m. สามารถว่ายออกกำลังกายได้เต็มที่ แต่ก็แนะนำให้มาใช้งานตอนแดดร่มๆหน่อยจะดีครับ

นอกจากนี้บริเวณรอบๆสระก็จะมีการปลูกแนวต้นไม้เอาไว้ด้วย แต่อาจต้องรอดูในอนาคตอีกทีนะครับว่า ต้นไม้พวกนี้จะโตจนสูงขึ้นมาช่วยพรางสายตาจากถนนไหวมั้ย เพราะถ้าเป็นแบบนั้นก็จะช่วยทำให้คนที่มาใช้งานสระมีความเป็นส่วนตัวที่ดีมากขึ้นนั่นเอง

ถัดมาตามโถงทางเดินไปยังบันไดทางขึ้นชั้น 2 เราจะเจอกับห้องน้ำแยกชาย-หญิงอยู่ระหว่างทางแบบนี้ด้วยครับ

ภายในมีโถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำให้ใช้งานครบ รวมถึงยังมีห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ใช้รถเข็นวีลแชร์ให้ใช้งานอีกด้วย

ขึ้นมาบนชั้น 2 เราจะเจอกับฟังก์ชันโซนแรกที่เป็นห้องกระจกทางขวาของบันไดแบบนี้ ประกอบด้วย Co-Working Space / ห้องนิติบุคคล และ Kid’s Room ตามลำดับ

เริ่มกันที่ Co-Working Space ภายในจะเป็นชุดโซฟาขนาดใหญ่ 1 ชุด ซึ่งการใช้งานจะเป็นลักษณะของพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนชิลๆ มากกว่าที่จะเป็นพื้นที่นั่งทำงานตามชื่อฟังก์ชันนะครับ

โดยจากชั้นบนนี้ก็จะสามารถก้มลงไปมองเห็นสระว่ายน้ำชั้นล่างได้แบบนี้ด้วย

และถัดมาจากห้องนิติบุคคลที่อยู่ข้างๆกัน ก็จะเป็น Kid’s Room ที่ภายในจะเน้นเป็นพื้นที่สันทนาการสำหรับเด็ก มากกว่าที่จะเป็นเครื่องเล่นชิ้นใหญ่ ซึ่งน้องๆก็สามารถเข้ามานั่งเล่นหรือทำการบ้านร่วมกับเพื่อนๆวัยเดียวกันได้ครับ

ต่อมาจะเป็นโถงทางเดินที่เชื่อมต่อไปยังโซน Fitness ที่ตั้งอยู่ด้านบนซุ้มประตูทางเข้าพอดีเลย

ภายในมีอุปกรณ์ต่างๆให้ใช้งานครบ ไม่ว่าจะเป็นลู่วิ่ง เครื่องปั่นจักรยาน และดัมเบล โดยจุดเด่นของห้องนี้คือ ผนังทั้ง 3 ด้านจะเป็นกระจกทั้งหมด ทำให้สามารถออกกำลังกายไปและชมวิวไปด้วยได้แบบเกือบ 360 องศาเลยทีเดียว

ซึ่งถ้าเป็นวิวที่อยู่ด้านในโครงการ บรรยากาศก็จะเป็นประมาณนี้ครับ โดยจะเห็นว่ารอบๆโครงการจะเต็มไปด้วยธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นต้นปาล์ม ต้นมะพร้าว และวิวภูเขา ทำให้รู้สึกผ่อนคลายเหมือนได้อยู่บ้านพักตากอากาศเลยนั่นเอง

ภาพบรรยากาศจำลองส่วนกลางของโครงการ

ในส่วนของพื้นที่สวนสีเขียวที่อยู่ด้านใน ปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างก่อสร้างนะครับ ซึ่งเราอาจต้องรอชมของจริงกันอีกทีในอนาคต

โดยฟังก์ชันหลักๆก็จะประกอบด้วยพื้นที่นั่งเล่น / Jogging Track / Palyground และเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งอย่างแป้นบาสเก็ตบอลครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse
  • Lobby
  • Fitness
  • Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 9.85 x 22.85 m.
  • Kid’s Pool
  • Kid’s Room
  • Co-Working Space
  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 1 ไร่ 3 งาน
  • Playground
  • Jogging Track
  • เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • รั้วรอบโครงการสูง 2 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 8.5 ม. และถนนภายในกว้าง 6 – 8 ม.
  • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดกและประตูเหล็กรางเลื่อน ระบบจดจำป้ายทะเบียนรถ ด้วยระบบ KATSAN จาก AP
  • เดินระบบไฟ 3 เฟสทั้งโครงการ (ลูกบ้านสามารถติดตั้ง EV Charger ได้ด้วยตัวเอง)
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor ที่ประตูหน้าต่างชั้น 1 และชั้น 2 + กล้อง CCTV ที่จอดรถ 1 ตัว และ Digital Door Lock ทุกหลัง

แบบบ้าน

Highlights :

  • มีแบบบ้านให้เลือกเยอะถึง 7 แบบ รองรับความต้องการของครอบครัวที่หลากหลายได้
  • มีระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน ที่ให้มาได้มาตรฐานเหมือนทุกโครงการของ AP ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
  • โครงสร้างบ้านเป็นแบบก่ออิฐมวลเบา สามารถทุบ/ต่อเติมได้ง่าย เหมาะกับฟังก์ชันบ้านที่มีความยืนหยุ่นปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย
  • บ้านหลังใหญ่จะสามารถจอดรถได้สูงสุดถึง 3 คัน ซึ่งมากกว่าโครงการส่วนใหญ่ในย่านเดียวกัน พร้อมมีห้องแม่บ้านให้ใช้งานอีกด้วย

แบบบ้านของโครงการ อภิทาวน์ สุราษฎร์ธานี มีให้เลือกเยอะถึง 7 แบบเลยทีเดียวครับ โดยถ้าเป็นโครงการในโซนกรุงเทพฯ ก็จะเป็นแบบบ้านฟังก์ชันเดียวกับแบรนด์ Centro ของ AP นั่นเอง ประกอบด้วย

  • Akiva (เอคิวา) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องนั่งเล่น / 2 ที่จอดรถ
  • Arris (แอริส) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องนั่งเล่น / 2 ที่จอดรถ
  • Porter (พอร์ตเตอร์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 52 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องนั่งเล่น / 2 ที่จอดรถ
  • Pilar (พิลล่าร์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 56 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น / 2 ที่จอดรถ
  • Cashel (คาเชล) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น / 2 ที่จอดรถ
  • Shelby (เชลบี้) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 62 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 252 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น / 3 ที่จอดรถ
  • Quincy (ควินซี่) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 69 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 274 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ

โครงสร้างบ้านเป็นระบบ Conventional ที่ก่อผนังด้วยอิฐมวลเบา จึงมีความแข็งแรงทนทาน แถมยังสามารถทุบ/ต่อเติม และปรับเปลี่ยนได้ง่ายตามต้องการ ซึ่งเข้ากันได้ดีกับฟังก์ชันบ้านที่มีความยืดหยุ่นแบบนี้ โดยภายในก็จะเป็นบ้านเปล่าที่มีการก่อเคาน์เตอร์ครัวแบบปูน และติดตั้ง Wallpaper ที่ผนังมาให้เป็นมาตรฐานครับ ส่วนภายในอื่นๆของจริงจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลย

  • Quincy (ควินซี่) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 69 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 274 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ

เป็นแบบบ้านหลังใหญ่ที่สุดของโครงการ จุดเด่นหลักๆคือ ‘เป็นบ้านหน้ากว้าง’ ที่มีความสว่างโปร่งโล่ง และสามารถรองรับครอบครัวขนาดใหญ่ ที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วยได้สบาย นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มโซนห้องพักแม่บ้านเข้ามาอีกด้วย ซึ่งถ้าใครที่อาจจำเป็นต้องมีแม่บ้านประจำ หรือต้องมีพี่เลี้ยงคอยดูแลคนในบ้าน 24 ชม. ก็จะค่อนข้างเหมาะเลยทีเดียวครับ

แปลนชั้น 1 สามารถจอดรถได้มากถึง 3 คัน พร้อมทั้งยังได้ Common Area ที่ใหญ่มาก แถมยังมีห้องนอนชั้นล่างที่มีห้องน้ำส่วนตัวอีกด้วย จึงเหมาะที่จะใช้เป็นห้องของผู้สูงอายุมากๆ หรือจะปรับเป็นห้องทำงานก็ได้ นอกจากนี้ยังมีครัวไทยขนาดใหญ่ และห้องพักแม่บ้านแยกไปอยู่ทางโซนด้านหลัง ทำให้ไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวของเจ้าของบ้านครับ

แปลนชั้น 2 จะเห็นว่า Master Bedroom มีขนาดใหญ่มาก สามารถจัด Walk-in Closet จริงจัง และยังมีห้องน้ำที่ใหญ่ให้ใช้งานอีกด้วย ส่วนห้องนอนอื่นๆอีก 2 ห้องก็มีห้องน้ำส่วนตัวให้ใช้งานเหมือนกันครับ แต่ที่น่าสนใจจริงๆก็คือ ‘พื้นที่อเนกประสงค์’ ที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งเราสามารถจัดเป็นพื้นที่อะไรก็ได้ หรือจะกั้นผนังเพิ่มเติม และทุบผนังเชื่อมต่อพื้นที่ห้องนอนข้างๆให้ใหญ่ขึ้นไปอีกก็ยังได้

เริ่มกันที่ประตูรั้วหน้าบ้านเราจะได้เป็นแบบเหล็กรางเลื่อน 2 ตอน ซึ่งนอกจากจะใช้งานได้สะดวกแล้ว ยังสามารถเลือกที่จะเปิดแค่ครึ่งเดียว เพื่อนำรถออกแค่บางคันก็ได้

โดยผมแนะนำให้ติดตั้งเป็นประตูเลื่อนไฟฟ้าอัตโนมัติเพิ่มเติม ก็จะทำให้การใช้งานสะดวกมากขึ้นไปอีกนะ รวมถึงด้านหน้าบ้านก็จะมีตู้จดหมาย กริ่ง และถังขยะแบบนี้เป็นมาตรฐานครับ

ที่จอดรถกว้าง 7.3 m. สามารถจอดรถ 3 คันได้แบบพอดีๆ โดยจะเป็นการจอดแบบในร่ม ทำให้ไม่ต้องเสียเงินทำหลังคาเพิ่มเอง รวมถึงยังมีการติดตั้งกล้อง CCTV มาให้เป็นมาตรฐาน 1 จุดด้วยครับ

พื้นจะเป็นการเทคอนกรีตธรรมดา และเป็นแบบ Slab on Ground ไม่ได้ลงเสาเข็ม ซึ่งจะตัด Joint แยกโครงสร้างออกจากตัวบ้าน ทำให้เวลาเกิดการทรุดตัวในอนาคต ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างหลักนั่นเอง

ทางเข้าบ้านจะอยู่ด้านขวามือ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ทางหลักๆครับ

เริ่มกันที่ทางเข้าจากพื้นที่จอดรถ ซึ่งเป็นส่วนที่เจ้าของบ้านน่าจะได้ใช้งานบ่อยๆ จุดเด่นคือเป็นประตูบานเลื่อนที่ทำมาจาก ‘ไม้สักแท้’ สามารถใช้งานได้ง่าย มาพร้อมกับ Digital Door Lock เพื่อความปลอดภัย

และเมื่อเข้ามาด้านในเราก็จะเจอกับโถงทางเดินเล็กๆ ที่ทำหน้าที่เป็นเหมือน Foyer ทำให้พื้นที่ส่วนอื่นๆของบ้านยังคงมีความเป็นส่วนตัว

อย่างเวลาเรากลับมาบ้านก็สามารถตรงขึ้นชั้นบนไปพักผ่อนได้เลย โดยไม่ต้องรบกวนสมาชิกคนอื่นของบ้านที่อาจกำลังดูทีวี หรือรับแขกอีกโซนหนึ่งอยู่นั่นเอง

นอกจากนี้ผมยังชอบเรื่องของ ‘ช่องหน้าต่าง’ ที่ช่วยทำให้โถงภายในบ้านมีความสว่าง ไม่มืดทึบจนเกินไปครับ

ทางเข้าหลักอีกจุดหนึ่งจะอยู่ทางหน้าบ้าน ซึ่งเป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ กรอบเป็น UPVC และกระจกเขียวตัดแสง โดยจะใช้เป็นทางเข้าหลักสำหรับแขกและเจ้าของบ้านครับ

รวมถึงประตูหน้าต่างชั้น 1 และชั้น 2 จะมีระบบ Magnetic Sensor ติดตั้งมาให้ทุกจุดของบ้านอีกด้วย จึงทำให้มีความปลอดภัยในการอยู่อาศัยมากขึ้น เพราะหากมีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้น ระบบก็จะแจ้งเตือนไปยัง รปภ. และโทรศัพท์ของเราได้ทันทีเลยนั่นเอง

นอกจากนี้บริเวณหน้าบ้านก็จะมีพื้นที่สวนสีเขียว ซึ่งทางโครงการจะปูหญ้าและปลูกต้นไม้มาให้เป็นมาตรฐาน (สอบถามโครงการอีกครั้ง)

โดยความกว้างของสวนก็จะขึ้นอยู่กับ ‘ตำแหน่งของบ้านในแต่ละแปลง’ ที่จะไม่เท่ากันนะครับ และเราก็สามารถจัดสวนหรือทำบ่อน้ำได้ในแบบที่ต้องการได้เต็มที่เลย

ส่วนบริเวณ Facade หรือกรอบด้านหน้าตัวบ้าน ที่เราเห็นเป็นลักษณะคล้ายๆกับหินอ่อน จริงๆแล้วคือ ‘แผ่น CONWOOD’ ที่เป็นวัสดุไฟเบอร์ซีเมนต์อย่างหนึ่ง

ซึ่งนอกจากจะมีความสวยงาม และคล้ายวัสดุจากธรรมชาติมากๆแล้ว ยังมีความแข็งแรงและใช้งานได้นานอีกด้วยครับ

เข้ามาภายในบ้านเราจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ ซึ่งจะเชื่อมต่อพื้นที่นั่งเล่นหน้าบ้าน ยาวเข้าไปจนถึงพื้นที่โต๊ะทานอาหารด้านในเลย

นอกจากนี้ยังรู้สึกได้ถึงความสว่างโปร่งโล่งมากๆเลยใช่มั้ยครับ เพราะด้านข้างบ้านจะมีช่องแสงขนาดใหญ่ยาวตลอดแนว จึงทำให้สามารถรับแสงสว่าง มองเห็นพื้นที่สวนและได้สัมผัสกับธรรมชาติข้างบ้านได้ดี

เริ่มกันที่พื้นที่โซนแรกจะเหมาะกับการวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ และใช้เป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนหรือใช้รับแขกก็ได้ ซึ่งเราสามารถชมวิวสวนภายนอกได้ถึง 2 ด้านเลยทีเดียวครับ

โดยจะมีระยะดูทีวีกว้างถึง 5.5 m. สามารถใช้ทีวีจอใหญ่ๆมากกว่า 60 นิ้วได้สบายๆ ส่วนพื้นก็จะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ และฝ้าเพดานฉาบเรียบสูง 2.6 m. เป็นมาตรฐาน

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหาร ซึ่งก็มีความกว้างมากพอที่จะใช้โต๊ะขนาด 6 – 8 ที่นั่งได้สบายๆ อีกทั้งยังมีพื้นที่เหลือให้ Built-in ตู้เก็บของหรือ Pantry เตรียมอาหารเพิ่มเติมได้อีกด้วย

แต่จุดเด่นของฟังก์ชันนี้จริงๆก็คือ บริเวณด้านข้างจะมีประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ที่เราสามารถเปิดเชื่อมต่อออกไปใช้งานสวนข้างบ้านได้ด้วย หรือถ้าเรานั่งอยู่ที่โต๊ะด้านในก็ยังสามารถมองออกไปเห็นสวนสวยๆที่เราจัดไว้ได้เช่นกัน

บริเวณด้านนอกจะมีชานพักเล็กๆให้ใช้งาน รวมถึงสวนข้างบ้านปกติก็จะมีความกว้างประมาณ 2 m. เป็นมาตรฐาน (อาจมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งแปลงที่ดิน) ซึ่งเราสามารถปลูกต้นไม้จัดสวน หรือทำเป็นมุมน้ำตกสวยๆในแบบที่ต้องการได้เลยครับ

ถัดจากพื้นที่ Common Area ก็จะเป็นครัวไทยที่มีประตูแยกออกไปเป็นสัดส่วน โดยตำแหน่งก็จะอยู่ใกล้กับโต๊ะทานอาหารแบบนี้ ทำให้สามารถยกอาหารมาเสิร์ฟได้ง่ายๆเลย

ภายในครัวจะก่อเคาน์เตอร์ปูนแบบไม่มีหน้าบานมาให้เป็นมาตรฐานแบบนี้ Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์สีดำสวยงาม ซึ่งเราสามารถ Built ตู้และเตาเพิ่มเติมเองได้เลยครับ

จุดที่ชอบมากๆก็คือ ‘ช่องหน้าต่าง 2 ด้าน’ ที่นอกจากจะทำให้มีความสว่างโปร่งโล่งมากขึ้นแล้ว ยังช่วยในเรื่องการระบายอากาศได้ดีมากๆอีกด้วย

ส่วนพื้นครัวจะมีการลดระดับลงมาจากพื้นบ้านเล็กน้อย ทำให้สามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้เต็มที่ มีความกว้าง 2.35 x 3.45 m. สามารถใช้งานพร้อมกันหลายคนได้สะดวก

นอกจากนี้ยังมีประตูหลังบ้านที่เปิดเชื่อมต่อไปยังโซนซักล้าง และโซนของแม่บ้านได้ด้วย โดยที่ด้านบนประตูก็จะมีพัดลมดูดอากาศติดตั้งมาให้ เพื่อช่วยในการระบายอากาศแบบนี้เลยครับ

ด้านนอกประตูจะมีการทำชานพักเล็กๆ ขนาด 90 cm. เพื่อให้สามารถวางเครื่องซักผ้าได้พอดีๆ ส่วนพื้นที่ข้างบ้านก็จะเทพื้นปูนแบบ On Ground มาให้ใช้เป็นลานซักล้างตากผ้าแบบนี้เลยครับ

โดยโซนนี้ก็จะเชื่อมต่อไปยังห้องพักแม่บ้านที่อยู่ด้านหลัง ทำให้ตั้งแต่ครัวเป็นต้นมาก็จะเป็นพื้นที่ทำงานของแม่บ้านทั้งหมด และแยกโซนมาจากส่วนพักอาศัยของเจ้าของบ้านได้อย่างเป็นสัดส่วนเลยทีเดียว

ห้องพักแม่บ้านกว้าง 2.95 x 2.05 m. สามารถวางเตียง 3.5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าใบเล็กๆได้พอดีๆ เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 คน อีกทั้งด้านข้างยังมีห้องน้ำให้ใช้งานส่วนตัวอีกด้วย

โดยในที่นี้ก็จะเหมาะกับครอบครัวที่ต้องมีแม่บ้านประจำ หรืออาจเป็นพี่เลี้ยงเด็ก/ผู้สูงอายุ ที่ต้องอยู่ดูแล 24 ชม. แต่ถ้าใครที่ไม่ได้แม่บ้านก็ปรับเป็นห้องเก็บของไปเลยก็ได้ครับ

กลับมาที่โถงหน้าบันไดตรงทางเข้าจากที่จอดรถอีกครั้ง ซึ่งบริเวณนี้ก็จะมีห้องนอนชั้นล่างอยู่แยกออกไปด้านซ้ายมือด้วย

ภายในมีขนาดกว้าง 3 x 3.85 m. สามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุต เพื่อทำเป็นห้องนอนชั้นล่างได้สบายๆเลยครับ เหมาะกับคนที่มีผู้สูงอายุที่อาจขึ้นบันไดไม่สะดวกอาศัยอยู่ด้วยนั่นเอง

หรือจะทำเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆ เช่น ห้องทำงาน หรือห้องดูหนังเล่นเกมส์ก็ได้ โดยที่ภายในยังมีห้องน้ำให้ใช้งานในตัวด้วยครับ

ภายในห้องน้ำมีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน โดยจะได้สุขภัณฑ์จาก Cotto เป็นมาตรฐานเหมือนบ้านตัวอย่าง ซึ่งพื้นที่ส่วนแห้งจะกว้าง 1.75 x 1.45 m. ใช้งานได้สบายๆ

ส่วนพื้นที่ยืนอาบน้ำจะกว้าง 1.45 x 0.9 m. ใช้งานได้แบบพอดีตัว ซึ่งเราอาจต้องติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมเองนะครับ

หรืออาจเพิ่มราวจับและที่นั่งอาบต่างๆ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของผู้สูงอายุมากขึ้นก็ได้ (กรณีเป็นห้องของคุณพ่อคุณแม่นะ)

ถัดมาจะเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 ของบ้าน ซึ่งจะเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ทำให้มีความแข็งแรงและไม่มีเสียงดังเวลาใช้งาน ปิดผิวด้วยไม้ยางพารา และมีราวจับเหล็กให้ตลอดทาง

นอกจากนี้ที่ใต้บันไดยังมีห้องเล็กๆให้ใช้เก็บของได้ ข้างๆกันมีห้องน้ำให้ใช้งาน รวมถึงที่ชานพักด้านบนก็จะมีช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้ตัวบันไดมีความสว่างโปร่งโล่งมากขึ้น

โดยห้องน้ำชั้นล่างจะเป็น Powder Room ที่ไม่มีส่วนอาบน้ำ แต่ก็จะมีสุขภัณฑ์อื่นๆจาก Cotto ให้ใช้งานครบ ภายในกว้าง 2.15 x 1.4 m. ใช้งานได้สะดวก

ขึ้นมาบนชั้น 2 เราจะเจอกับโถงทางเดินขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อไปยังห้องนอนต่างๆ และมีพื้นที่อเนกประสงค์อยู่ตรงกลาง ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้ฟังก์ชันบ้านมีความยืดหยุ่น เพราะเราสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้หลากหลายตามต้องการ

เช่น เราอาจทิ้งเป็นพื้นที่โล่งๆให้มีความโปร่งโล่งแบบนี้ก็ได้ หรือจะกั้นผนังกระจก/ผนังทึบให้เป็นสัดส่วนไปเลยก็ดี โดยพื้นชั้นบนจะเป็นไม้ลามิเนต และมีความสูงฝ้าเพดาน 2.6 m. เป็นมาตรฐานเช่นเดิม

แต่ที่น่าสนใจจริงๆก็คือ เราอาจทุบผนังเชื่อมต่อกับห้องนอนฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เพื่อขยายพื้นที่ใช้สอยในห้องให้กว้างมากขึ้นก็ได้นั่นเองครับ ซึ่งถ้าใครชอบหรือมีความต้องการแบบไหนก็ลองเลือกดูได้ด้วยตัวเองเลยนะ

พื้นที่อเนกประสงค์กว้าง 2.4 x 3.1 m. สามารถจัดเป็นฟังก์ชันต่างๆได้ตามต้องการ อย่างบ้านตัวอย่างนี้ก็ทำเป็น Family Area มาให้ดูเป็นไอเดียครับ

ซึ่งใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นร่วมกันของครอบครัว เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กันให้มากขึ้นนั่นเอง หรือเราจะทำเป็นห้องพระ ห้องทำงาน หรือห้องทำการบ้านของลูกๆก็ได้

ขวามือจะเป็น Master Bedroom ซึ่งมีขนาดใหญ่และกินพื้นที่ตั้งแต่หน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้านเลยทีเดียว จึงทำให้เราสามารถแบ่งฟังก์ชันการใช้งานให้เป็นสัดส่วนได้ตามต้องการ

เริ่มกันที่ซ้ายมือจะเหมาะกับการวางเตียงนอนขนาด King Size ได้สบายๆ และยังมีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้ใช้งานอีกเยอะเลยครับ

ซึ่งเตียงก็จะอยู่ในตำแหน่งติดกับระเบียงหน้าบ้าน ที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทำให้มีความสว่างและรับวิวภายนอกได้เต็มที่

ระเบียงมีขนาด 6.25 x 0.9 m. ซึ่งจะมีความยาวเชื่อมต่อไปจนถึงพื้นที่อเนกประสงค์ข้างๆก่อนหน้านี้ด้วย ส่วนราวกันตกจะเป็นกระจกนิรภัยทั้งหมด ที่เวลาแตกก็จะกลายเป็นเมล็ดข้าวโพด และไม่เป็นอันตรายนั่นเองครับ

อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็น Walk-in Closet และห้องน้ำขนาดใหญ่ครับ

บริเวณนี้ของจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆ ให้เราสามารถกั้นฟังก์ชันและ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ตามต้องการ ซึ่งก็น่าจะเป็นมุมโปรดของสาวๆ หรือคนที่ชอบการแต่งตัวมากๆครับ โดยจะอยู่หน้าห้องน้ำแบบนี้เลย ทำให้พออาบน้ำเสร็จก็สามารถเดินออกมาแต่งตัวได้สะดวก

ภายในห้องน้ำมีขนาดใหญ่ ซึ่งพอเราเข้ามาก็จะเจอกับอ่างล้างหน้าแบบ His and Her ที่ใช้งานพร้อมๆกันได้ 2 คนสบายๆ

ซ้ายมือเป็นอ่างอาบน้ำที่สามารถนอนแช่น้ำได้สบายๆ ซึ่งเราอาจกั้นกระจกใสสักครึ่งบาน เพื่อป้องกันน้ำกระเด็นออกมาบางส่วนเพิ่มก็ได้ครับ ส่วนพื้นที่ขอบอ่างรอบๆก็ใช้วางของได้เต็มที่เลย

อีกด้านหนึ่งจะเป็นโถสุขภัณฑ์และพื้นที่ยืนอาบน้ำ ซึ่งเราจะต้องไปกั้นกระจกเพิ่มเติมเองครับ โดยภายในกว้าง 1 x 1.6 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ มาพร้อมกับ Hand Shower และเจาะช่องวางของที่ผนังให้แบบนี้เลย

อีกด้านหนึ่งของบ้านจะเป็นห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง ซึ่งบริเวณด้านหน้าจะมีพื้นที่โถงขนาดใหญ่เหลือเฟือ ให้เราสามารถวางตู้หรือจัดเป็นมุมใช้สอยเล็กๆน้อยๆได้ตามต้องการ

เริ่มกันที่ห้องนอนทางขวามือ จะเป็นห้องที่อยู่ทางโซนด้านหน้าบ้าน จึงเหมาะเป็นห้องนอนของลูกคนโตครับ

ภายในมีขนาดกว้าง 5.2 x 3.1 m. สามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุต แล้วยังมีพื้นที่เหลือให้ Built-in ตู้เสื้อผ้า กับวางโต๊ะอเนกประสงค์ได้สบายๆ อีกทั้งยังมีห้องน้ำส่วนตัวให้ใช้งานด้วย

ภายในห้องน้ำมีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน ได้สุขภัณฑ์จาก Cotto ครบเช่นเคย โดยพื้นที่ส่วนแห้งจะกว้าง 1.35 x 2.2 m. ส่วนพื้นที่ยืนอาบน้ำจะกว้าง 1.35 x 0.9 m. สามารถใช้งานได้สะดวก และแน่นอนว่าเราจะต้องติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมเองครับ

ติดกันจะเป็นห้องนอนเล็กที่อยู่ทางโซนด้านหลังบ้าน ภายในมีขนาด 4.5 x 2.9 m. สามารถจัดเป็นห้องนอนของลูกอีกคนได้สบายๆ หรือถ้าใครมีลูกคนเดียวก็อาจปรับเป็นฟังก์ชันอื่นๆก็ได้นะ

แน่นอนว่าห้องนอนนี้จะมีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานสะดวกด้วย โดยที่ขนาดและฟังก์ชันจะเท่ากับของห้องนอนก่อนหน้านี้เลยครับ

สำหรับใครที่ต้องการเห็นบ้านเปล่ามาตรฐานว่าของจริงเราจะได้เป็นอย่างไร ก็สามารถคลิกชมใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/18

  • Akiva (เอคิวา) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องนั่งเล่น / 2 ที่จอดรถ

หลังนี้จะเป็น Type ที่เล็กที่สุดของโครงการครับ เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก หรือคนที่มีงบประมาณจำกัดสักหน่อย โดยลักษณะจะเป็นบ้านแบบตอนลึก และมีบันไดเป็นจุดแบ่งฟังก์ชันบ้านอยู่ตรงกลาง ซึ่งเป็นจุดที่ส่วนตัวแล้วผมชอบที่สุดของบ้านหลังนี้เลยครับ เพราะจะมีความกว้างขวางโปร่งโล่งเป็นพิเศษ รวมถึงยังทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อของทุกฟังก์ชันในบ้านอีกด้วย

แปลนชั้น 1 จุดเด่นของบ้านหลังนี้จริงๆคือ Common Area ที่สามารถจัดฟังก์ชันได้หลากหลาย โดยบริเวณด้านหน้าก็เหมาะที่จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นรับแขกแบบปกติ แต่โซนตรงกลางและด้านหลังเราสามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลายตามต้องการ เช่น ตรงกลางเราอาจวางเป็นโต๊ะทานอาหารหน้าโถงบันไดก็ได้ แล้วพื้นที่โซนด้านหลังสุดก็มี Space ให้เรากั้นผนังทำเป็นห้องส่วนตัวเพิ่มได้สบายๆเลย เป็นต้น

แปลนชั้น 2 จะมีห้องนอนอยู่ 3 ห้อง โดยที่ห้องนอนเล็กที่อยู่โซนหลังบ้านอาจต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกันที่ด้านนอก เพื่อที่จะได้ประหยัดพื้นที่ใช้สอยในแต่ละห้อง ให้มีขนาดกว้างขวางมากขึ้นนั่นเอง แต่ถ้าใครมีลูกคนเดียวก็จะได้ใช้ห้องน้ำเป็นส่วนตัวไปเลยครับ ส่วนห้อง Master Bedroom จะกินพื้นที่โซนหน้าบ้านทั้งหมด พร้อมทั้งยังมีห้องน้ำกับระเบียงส่วนตัวให้ใช้งานด้วย

สำหรับใครที่อยากชมภาพบ้านเปล่ามาตรฐานของจริงว่าเป็นอย่างไร ก็สามารถคลิกดูใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/9

  • Arris (แอริส) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องนั่งเล่น / 2 ที่จอดรถ

สำหรับบ้าน Type นี้จะมีฟังก์ชันเพิ่มขึ้นมาเยอะกว่าตัว Akiva (เอคิวา) ก่อนหน้านี้พอสมควร อย่างเช่น จะมีการกั้นห้องอเนกประสงค์ที่ด้านหลังบ้านเพิ่มขึ้นมาให้เลย และห้องน้ำชั้นล่างก็จะมีส่วนอาบน้ำรองรับด้วย เผื่อใครจะทำเป็นห้องนอนแขกหรือห้องผู้สูงอายุก็ได้ครับ

ส่วนห้องนอนชั้นบนทุกห้องก็จะมีห้องน้ำในตัวทั้งหมด รวมถึงที่จอดรถก็จะอยู่ในร่มเลยทั้ง 2 คัน สรุปแล้วบ้านหลังนี้ก็จะเหมาะกับคนที่ต้องการฟังก์ชันเป็นสัดส่วน และมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น รวมถึงยังต้องการประหยัดเวลาในการกั้นห้องอเนกประสงค์ และไม่ต้องทำหลังคาจอดรถเพิ่มเองครับ เพราะทางโครงการจัดมาให้ครบหมดแล้ว

สำหรับใครที่อยากชมภาพบ้านเปล่ามาตรฐานของจริงว่าเป็นอย่างไร ก็สามารถคลิกดูใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/11

  • Porter (พอร์ตเตอร์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 52 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องนั่งเล่น / 2 ที่จอดรถ

จุดเด่นที่ทำให้บ้าน Type นี้มีความน่าสนใจมากๆก็คือ บริเวณด้านข้างจะมีส่วนของฟังก์ชันห้องนอนยื่นออกมาจากตัวบ้าน ส่งผลให้พื้นที่ Common Area ด้านในจะมีขนาดใหญ่ และเชื่อมต่อกันกว้างขวางมากขึ้น รวมถึงยังทำให้เราได้พื้นที่สวนข้างบ้านที่มีขนาดใหญ่กว่าแบบบ้านอื่นๆ ที่ไม่ใช่แปลงมุมอีกด้วยครับ ส่วนแปลนบ้านชั้น 2 ห้องนอนเล็กก็จะต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกันที่ด้านนอกนะ

โดยภาพรวมบ้านหลังนี้จะเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก ถ้าอยู่ด้วยกัน 3 คน พ่อ-แม่-ลูก ก็น่าจะกำลังดีครับ เพราะห้องนอนเล็กก็จะได้ไม่ต้องแชร์กับคนอื่นเลย รวมถึงยังอาจเหมาะกับคนที่ชอบปลูกต้นไม้จัดสวนมากๆด้วย เพราะพื้นที่ข้างบ้านจะมีขนาดใหญ่กว่าปกติ อีกทั้งห้องนอนชั้นล่างที่ยืนออกมาก็น่าใช้งานมากๆครับ เพราะจะมีช่องแสงเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนสวยๆด้วยนั่นเอง สามารถปรับฟังก์ชันเป็นห้องอเนกประสงค์ต่างๆได้หลากหลายตามต้องการ

  • Pilar (พิลล่าร์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 56 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น / 2 ที่จอดรถ

บ้านหลังนี้จะเป็นอีก Type ที่ยังไม่มีบ้านของจริงให้ดูนะครับ แต่ก็เริ่มเป็นบ้านไซส์กลางของโครงการ ที่ลักษณะจะเริ่มเป็นแบบหน้ากว้างชัดเจนมากขึ้น จุดเด่นของบ้านหลังนี้คือเรื่อง ‘ความเป็นส่วนตัว’ สังเกตได้จากการปรับฟังก์ชันที่แตกต่างจากหลังก่อนหน้านี้พอสมควร

โดยเฉพาะตำแหน่งของห้องนอนชั้นล่างจะมีระยะห่างจาก Common Area พอสมควร และยังอยู่ใกล้กับห้องน้ำด้วย จึงทำให้เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบส่วนตัว และใช้งานห้องน้ำได้สะดวกมากขึ้น ส่วนห้อง Master Bedroom ก็จะมีห้องน้ำในตัวด้วยเช่นกัน แต่สิ่งที่เริ่มจะเพิ่มเข้ามาก็คือ ‘มีพื้นที่อเนกประสงค์ชั้นบน’ ทำให้ฟังก์ชันบ้านมีความยืดหยุ่น และจัดสรรได้หลากหลายตามต้องการมากขึ้นครับ

สำหรับใครที่อยากชมภาพบ้านเปล่ามาตรฐานของจริงว่าเป็นอย่างไร ก็สามารถคลิกดูใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/13

 

  • Cashel (คาเชล) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น / 2 ที่จอดรถ

บ้านหลังนี้จะมีลักษณะฟังก์ชันที่เหมือนกับแบบบ้าน Pilar (พิลล่าร์) ก่อนหน้านี้เลยครับ โดยที่ขนาดพื้นที่ใช้สอยในห้องต่างๆจะใหญ่และกว้างขวางมากขึ้น จึงทำให้เราสามารถจัดฟังก์ชันในห้องได้หลากหลายและยืดหยุ่นได้มากกว่า ซึ่งสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาจากหลังเล็กอื่นๆก็คือ ‘อ่างอาบน้ำ’ ที่จะเริ่มปรากฏอยู่ในห้องน้ำของ Master Bedroom นั่นเองครับ

สำหรับใครที่อยากชมภาพบ้านเปล่ามาตรฐานของจริงว่าเป็นอย่างไร ก็สามารถคลิกดูใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/13

  • Shelby (เชลบี้) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 62 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 252 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น / 3 ที่จอดรถ

แบบบ้านหลังนี้จะเป็น Type เกือบใหญ่ที่สุดของโครงการ (รองจากบ้านตัวอย่าง Quincy (ควินซี่) ที่เราได้ดูกันไปก่อนหน้านี้) ฟังก์ชันภายในตอบโจทย์การอยู่อาศัยเป็นครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ โดยจะสามารถ ‘จอดรถได้ถึง 3 คัน’ และ ‘มีห้องนอนชั้นล่างให้ใช้งาน’ ด้วย ซึ่งทุกห้องนอนจะมีห้องน้ำให้ใช้งานส่วนตัว รวมถึงยังมีพื้นที่อเนกประสงค์ชั้นบนเหมือนเดิมครับ

แต่สิ่งที่ลดทอนลงไปจากบ้านหลังใหญ่สุดก็คือ ห้องแม่บ้าน และอ่างอาบน้ำใน Master Bedroom นั่นเอง โดยหากใครที่ไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องมี 2 ฟังก์ชันนี้ให้ใช้งาน ก็อาจเลือกเป็นแบบบ้านนี้แทนหลังใหญ่สุดได้ครับ ซึ่งก็จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้เป็นล้านอยู่เหมือนกัน

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่าครับ

ราคา

อภิทาวน์ สุราษฎร์ธานี ราคา ณ วันที่ 19 กันยายน 2566

  • Akiva (เอคิวา) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องนั่งเล่น / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 4.65 ล้านบาท
  • Arris (แอริส) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องนั่งเล่น / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 5.12 ล้านบาท
  • Porter (พอร์ตเตอร์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 52 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องนั่งเล่น / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 5.42 ล้านบาท
  • Pilar (พิลล่าร์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 56 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 6.19 ล้านบาท
  • Cashel (คาเชล) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 6.88 ล้านบาท
  • Shelby (เชลบี้) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 62 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 252 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 7.38 ล้านบาท
  • Quincy (ควินซี่) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 69 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 274 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 8.11 ล้านบาท
  • ค่าจอง 10,000 บาท
  • ค่าทำสัญญา 20,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 43,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 25 บาท/ตร.วา/เดือน
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • Promotion (วันนี้ – 29 ธ.ค. 66) : ลงทะเบียนรับส่วนลด 100,000 บาท / ฟรีค่าธรรมเนียมการโอน / ฟรีค่าส่วนกลางล่วงหน้า 1 ปี / ฟรีเครื่องปรับอากาศทุกห้องนอน และผ้าม่านทั้งหลัง

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ที่ตั้งของโครงการอยู่ติดถนนเลี่ยงเมือง (420) ที่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ง่าย อีกทั้งยังอยู่ใกล้ความอุดมสมบูรณ์ของย่านอย่าง ห้างเซ็นทรัล โลตัส แม็คโคร และเยื้องๆกันก็จะมีโรงพยาบาลกรุงเทพให้ใช้บริการด้วยครับ ถือเป็นทำเลที่น่าสนใจ เพราะตัวเมืองมีแนวโน้มการเติบโต และขยับขยายมาทางฝั่งที่โครงการตั้งอยู่นั่นเอง

ซึ่งบ้านแนวราบโครงการใหม่ๆของโซนนี้ ในปัจจุบันยังมีตัวเลือกไม่มากนัก เพราะส่วนใหญ่ถ้าไม่อยู่ชานเมืองไกลๆ ก็จะอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำแถวๆโซนเกาะลำพู-บางใบไม้ไปเลย ส่วนถ้าเป็นโครงการในเมืองก็มักจะมีเป็นทาวน์โฮม ที่มีพื้นที่ใช้สอยยังไม่เยอะมากนัก ดังนั้นจึงทำให้โครงการบ้านเดี่ยวเปิดใหม่อย่าง ‘อภิทาวน์ สุราษฎร์ธานี’ มีความน่าสนใจสำหรับชาวสุราษฎร์ฯ ที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวใกล้เมือง ใกล้ห้างสรรพสินค้า และใกล้โรงพยาบาลแบบนี้ครับ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ถือเป็นจุดเด่นที่สุดของโครงการเลยครับ โดยระบบ KATSAN จะเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่ทาง AP มักจะใช้กับทุกๆโครงการ ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งหากเทียบกับเพื่อนบ้านที่เป็นแบรนด์ Local ท้องถิ่นส่วนใหญ่แล้ว ก็ถือว่าให้มามากกว่าพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นกล้อง CCTV / ระบบจดจำป้ายทะเบียนรถยนต์ / ระบบ Pre-Register และระบบห้ามรบกวน เป็นต้น

นอกจากนี้ภายในบ้านก็จะมีการติดตั้ง Magnetic Sensor ไว้ที่ประตูหน้าต่างของบ้านชั้น 1 และชั้น 2 ทุกหลัง พร้อมทั้งกล้อง CCTV ตรงพื้นที่จอดรถหน้าบ้าน และติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ตรงประตูหน้าอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้จึงทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาชมโครงการ จะรู้สึกได้ถึงความปลอดภัยในการอยู่อาศัยมากขึ้นอย่างชัดเจนครับ

การออกแบบโครงการ : เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีเพื่อนบ้านรวมกว่า 199 ยูนิต แต่นั่นก็เลยทำให้มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานเยอะขึ้นตามไปด้วยครับ โดยบ้านโซนแรกที่เปิดขายในปัจจุบันจะเป็นตำแหน่งใกล้ Clubhouse เหมาะกับคนที่ชอบใช้งาน Facilities บ่อยๆ เพราะจะมีความสะดวกในการมาใช้งาน หรือถ้าใครที่เน้นความเป็นส่วนตัว ต้องการเพื่อนร่วมซอยน้อยๆ ก็อาจต้องมองเป็นตำแหน่งบ้านในซอยย่อยๆได้ครับ เพราะบางซอยจะเป็นส่วนตัวมากๆเพียง 2 – 4 ยูนิตก็มี (เป็นโซนที่จะเปิดในอนาคต สอบถามโครงการอีกครั้ง)

การออกแบบตัวบ้านและพื้นที่ใช้สอย : มีบ้านให้เลือกเยอะถึง 7 แบบ สามารถรองรับครอบครัวขนาดเล็ก-ใหญ่ และตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของแต่ละคนได้ ซึ่งเราสามารถเลือกแบบบ้านที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอย และจำนวนฟังก์ชันที่เหมาะกับการใช้งานของครอบครัวได้ครับ แต่จุดเด่นโดยรวมที่บ้านทุกหลังจะมีเหมือนกันก็คือ ‘ความยืดหยุ่นของฟังก์ชัน’ ที่เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ

โดยเฉพาะ ‘พื้นที่อเนกประสงค์ในจุดต่างๆ’ เราสามารถกั้นผนังทำเป็นห้องส่วนตัวใหม่เพิ่มขึ้นมาก็ได้ หรือถ้าเป็นบ้านหลังใหญ่เราก็สามารถทุบผนัง เพื่อเชื่อมต่อและขยายพื้นที่ใช้สอยของห้องนอนที่อยู่ติดกันให้ใหญ่ขึ้นได้นั่นเอง นอกจากนี้บ้านเกือบทุก Type ยังมี ‘ห้องนอนชั้นล่าง’ ให้ใช้งานด้วย ซึ่งหากใครที่ต้องการห้องนอนผู้สูงอายุชั้นล่างอยู่แล้วก็จะเหมาะมากๆ รวมถึงเรายังสามารถ ‘จอดรถได้สูงสุดถึง 3 คัน’ ถือว่ามากกว่าเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ที่อยู่ในย่านเดียวกันครับ

วัสดุ : โครงสร้างบ้านเป็นแบบ Conventional ก่ออิฐมวลเบา สามารถทุบ/เจาะ หรือต่อเติมได้ง่าย ซึ่งเหมาะกับแบบบ้านของโครงการนี้ที่มีฟังก์ชันยืดหยุ่นครับ ส่วนพื้นที่จอดรถจะเป็น Slab on Ground แยกโครงสร้างออกมาจากตัวบ้าน

แต่จุดที่ผมมองว่าให้มาดีก็คือ แบบบ้านที่เป็นการจอดรถในร่มทั้งหมด และบ้านที่มีการกั้นห้องชั้นล่างมาให้เรียบร้อยแล้ว ถือเป็นการช่วยประหยัดเวลาให้เราไม่ต้องปวดหัว ในการทำหลังคาหรือกั้นห้องเองทีหลังครับ

ส่วนวัสดุอื่นๆภายในบ้านก็ให้มาเป็นมาตรฐานตามราคา สิ่งที่ส่วนตัวผมคิดว่าอาจเปลี่ยนหรืออัพเกรดให้ดีขึ้นได้อีกนิดก็คือ พื้นชั้นบนที่เดิมเป็นไม้ลามิเนต อาจเปลี่ยนเป็น SPC ที่มีราคาไม่ต่างกันมากนัก แต่ให้คุณสมบัติที่ทนทานมากกว่าได้ครับ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : ปัจจุบันในวันที่ผมเข้ามาถ่ายรีวิวนี้ จะมีการปลูกต้นไม้ให้ตลอดทางตั้งแต่ถนนใหญ่จนถึงอาคาร Clubhouse ซึ่งก็ถือว่าให้มาพอสมควรเลย และถ้าดูจากแปลนก็จะเห็นว่ามีการปลูกต้นไม้เป็นระยะๆ ตรงริมถนน Main ภายในโครงการด้วยครับ รวมถึงภายในบ้านแต่ละหลังก็จะมีปูหญ้าและปลูกต้นไม้เป็นมาตรฐาน แต่ในอนาคตจะมีการเปิดโซนใหม่ที่มีสวนขนาดกว่า 1 ไร่ 3 งาน ให้ใช้งานด้วย โดยของจริงทำออกมาแล้วจะเป็นอย่างไรอาจต้องรอติดตามชมกันอีกทีนะครับ

สาธารณูปโภค : มีอาคาร Clubouse และฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ ประกอบด้วย Lobby / Swimming Pool / Co-Working Space / Kid’s Room และ Fitness นอกจากนี้ในอนาคตก็จะมีสวนสาธารณะให้ใช้งานด้วยครับ โดยข้อมูลที่ได้มาหลักๆก็จะมีพวก Jogging Track / Playground และแป้นบาสเก็ตบอล ให้เราได้มาเล่นออกกำลังกายกันได้ ซึ่งหากเทียบกับเพื่อนบ้านแล้วก็ถือว่าให้มาเยอะกว่าพอสมควรเลย นั่นเพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องมีการแชร์การใช้งานกันเยอะนั่นเอง

Judgement

เนื่องจากเป็นทำเลต่างจังหวัดที่ Think of Living ไม่คุ้นเคย จึงไม่สามารถให้คะแนนเปรียบเทียบความคุ้มค่าได้ครับ

อภิทาวน์ สุราษฎร์ธานี เหมาะกับใคร

โครงการ อภิทาวน์ สุราษฎร์ธานี (APITOWN SURATTHANI) เหมาะกับคนที่มองหาบ้านเดี่ยวติดถนนใหญ่ ใกล้ห้างเซ็นทรัล และโรงพยาบาลในจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีแบบบ้านให้เลือกเยอะ ฟังก์ชันยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ง่าย รองรับครอบครัวได้ตั้งแต่ขนาดเล็ก-ใหญ่ โดยเน้นในเรื่องความปลอดภัยทั้งตัวโครงการและในตัวบ้านเป็นหลัก ด้วยระบบ KATSAN จาก AP และมาพร้อมกับฟังก์ชันส่วนกลางให้ใช้งานครบ สำหรับคนที่สนใจต้องมีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 4.65 – 8.11 ล้านบาท