สัมมากร รังสิต คลอง 7 บ้านเดี่ยวติดถนนใหญ่รังสิต-นครนายก ติดถนนใหญ่ ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก จาก สัมมากร [รีวิวฉบับที่ 2539]

Sammakorn Rangsit Klong 7 Phase 4 (สัมมากร รังสิต คลอง 7 เฟส 4) ณ วันที่ 17 เมษายน 2566

พิกัด Google Maps : 14.030732, 100.762677
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการสัมมากร รังสิต คลอง 7  ตั้งอยู่บนถนนรังสิต-นครนายก บริเวณช่วงคลองที่ 7 ซึ่งถนนรังสิต-นครนายกจะเป็นถนนสายสำคัญในโซนนี้ จึงเห็นมีโครงการบ้านแนวราบอยู่ตลอดเส้นทาง ถ้าพูดถึงเรื่องอนาคตแล้ว ทำเลนี้คงเป็นอีกทำเลที่โครงการบ้านน่าจะมาเปิดกันมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าความอุดมสมบูรณ์ต่างๆ จะตามกันมาอย่างแน่นอนทั้งแหล่งช้อปปิ้ง ร้านค้า ร้านอาหารที่คึกคักขึ้นค่ะ

ที่ตั้งของโครงการ สัมมากร รังสิต คลอง 7 เป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่ขยายออกมาจากตัวเมือง โดยใช้ “ถนนกาญจนาภิเษก หรือวงแหวนรอบนอก” เชื่อมเข้าออกตัวเมืองโซนรามอินทรา, วัชรพล, เกษตรนวมินทร์, เอกมัย ได้ไม่ยาก หรือบางคนทำงานอิงเส้นรังสิต-นครนายก หรือลำลูกกาตอนปลายๆ ก็สะดวกเช่นกัน เพราะตรงนี้รถไม่ค่อยติดมากเมื่อเทียบกับถนนช่วงต้นๆ ใกล้กับถนนพหลโยธิน โดยตัวโครงการจะอยู่ฝั่งเดียวกับทางไปขึ้นวงแหวนฯ เลยประมาณ 6.6 กิโลเมตรเท่านั้น จึงใช้งานได้สะดวกเลยค่ะ ไม่ต้องไปกลับรถ

ซึ่งราคาบ้านในโซนนี้จะเป็นราคาที่หยิบจับต้องได้ไม่ยาก อย่างใครที่มีงบ 3 ล้านปลายๆ – 4 ล้านบาทและกำลังมองหาบ้านเดี่ยว ก็มาลองขยับมาเลือกดูที่โซนนี้ได้ค่ะ และแม้ว่าจะขยับออกมาจากตัวเมืองสักหน่อยแต่ก็มีความอุดมสมบูรณ์อยู่เช่นกัน เท่าที่เห็นล้อมหน้าล้อมหลังโครงการอยู่ก็มีทั้ง Big C, Lotus’s, Homepro ยังไม่นับร้านค้าร้านอาหารริมทาง ถ้าใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางก็สะดวกเลยค่ะ

จากถนนรังสิต-นครนายกจะมีสะพานข้ามคลองเพื่อเข้าสู่โครงการ

หันซ้ายขวาดูความอุดมสมบูรณ์รอบจะเห็นว่าฝั่งตรงข้ามมีปั๊ม PTT ที่เป็นแหล่งรวมร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้ๆ โครงการเลยค่ะ ติดๆ กันก็มี Lotus’s ให้ไปช้อปปิ้งกันได้

ขึ้นสะพานข้ามคลองมาปุ๊บก็จะเห็นซุ้มประตูหน้าโครงการเลยค่ะ อยู่ติดกับถนนเลียบคลอง 7 ที่ขนานกับถนนรังสิต-นครนายกอีกที เวลาจะเข้าโครงการจึงต้องระวังรถซ้ายขวาด้วยนะคะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการสัมมากร รังสิต-คลอง 7 จะรายล้อมด้วยโครงการหมู่บ้านแนวราบทั้งหมด บรรยากาศค่อนข้างสงบอยู่พอสมควร ส่วนบรรยากาศในโซนนี้จะเป็นที่อยู่อาศัยสลับกับที่ดินเปล่า มีโรงงานขนาดเล็ก-ใหญ่บ้างประปรายค่ะ ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้

• ทิศเหนือ – ติดกับถนนเลียบคลอง 7 และสะพานข้ามคลองเชื่อมไปถนนรังสิต-นครนายก
• ทิศใต้ – หมู่บ้านจัดสรร
• ทิศตะวันออก – หมู่บ้านจัดสรร
• ทิศตะวันตก – หมู่บ้านจัดสรร

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ตัวช่วยในการเดินทาง

• วงแหวนกาญจนาภิเษก ~ 6.6 km.

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• โลตัส รังสิต คลอง 7 ~ 2 km.
• Big C Supercenter รังสิต คลอง 6 ~ 4.7 km.
• ดูโฮม รังสิต ~ 5.5 km.
• Zpell@ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ~ 16.9 km.
• Robinson รังสิต ~ 17 km.
• เซียร์ รังสิต ~ 20.1 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลเปาโล รังสิต ~ 17.6 km.
• โรงพยาบาลแพทย์รังสิต ~ 19.1 km.
• ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ~ 27.5 km.

โรงเรียน

• โรงเรียนสารสาสน์วิเทศรังสิต ~ 950 m.
• มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ~ 6.4 km.
• มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ~ 8.6 km.
• มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต ~ 12.6 km.
• โรงเรียนสวนกุหลาบฯ รังสิต ~ 12.8 km.
• มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ องครักษ์ ~ 26.8 km.

ชาวรังสิตคงเคยเห็นหมู่บ้าน “สัมมากร รังสิต คลอง 7” ผ่านตากันอยู่บ้างใช่มั้ยคะ เพราะโครงการนี้เป็นโครงการดั้งเดิมบนที่ดินขนาดใหญ่ จึงแบ่งการพัฒนาออกเป็นหลายเฟส ปัจจุบันโครงการกำลังเปิดขายเพิ่มเติมในส่วนของเฟส 4 อยู่ค่ะ จุดเด่นของเฟสใหม่นี้คือ ” เป็นโซนหน้าสวน ทำให้ได้บรรยากาศที่ร่มรื่นผ่อนคลาย และมีการปรับโฉมตัวบ้านใหม่ให้ดูทันสมัยขึ้น เอาใจคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาบ้าน” ส่วนตัวเราคิดว่า “ตัวบ้านจัดฟังก์ชันมาดี คุ้มราคาเลยค่ะ” โดยเสนอราคาเริ่มต้น 4.19 ล้านบาท

ดูจาก Master Plan แล้ว เราเห็นว่าโครงการสัมมากร รังสิต-คลอง 7 มีประเด็นที่อยากเล่าถึง 3 เรื่องด้วยกันค่ะ อย่างแรกคือ ตำแหน่งของบ้านเฟส 4 จะอยู่ด้านในสุดของโครงการจึงได้ “ความเป็นส่วนตัวมากที่สุด” และซอยพักอาศัยส่วนใหญ่จะเป็นซอยย่อยมียูนิตประมาณ 10 ยูนิตเท่านั้นค่ะ

ประเด็นที่ 2 คือ “ใกล้สวนหย่อม” เนื่องจากโครงการมีขนาดใหญ่จึงมีการกระจายสวนหย่อมออกเป็น 4 จุดเพื่อให้ลูกบ้านใช้งานได้สะดวก แต่ละจุดมีขนาดใหญ่ใช้พักผ่อนหย่อนใจได้จริง รวมแล้วพื้นที่สวนมีขนาดกว่า 15 ไร่เลยค่ะ โดยสวนหย่อมที่อยู่ใกล้บ้านเฟส 4 จะเป็นจุดที่มีขนาดใหญ่สุดเกือบ 6 ไร่ มีทั้งพื้นที่สนามหญ้า ต้นไม้ใหญ่และมีคูน้ำมาช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูผ่อนคลายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีสวนในจุดอื่นๆ และอาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการให้ใช้งานกันค่ะ

ประเด็นที่ 3 คือ “ทิศของบ้าน” คือบ้านส่วนใหญ่ในโครงการจะหันทางทิศเหนือและใต้ ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมทั้งคู่เลยค่ะ ทิศเหนือจะได้แดดเช้าและร่มหน่อยในตอนบ่าย ส่วนใต้จะได้ลมที่แรงกว่า แต่แดดจะส่องหน้าบ้านหน่อยในช่วงบ่ายค่ะ

ซุ้มประตูทางเข้าโครงการมีการออกแบบให้ดูกลมกลืนกับธรรมชาติด้วยดีไซน์แบบระแนงมาพร้อมพุ่มไม้ตกแต่ง และมีความสูงของรั้วด้านหน้าถึง 3 เมตร จึงช่วยบังสายตาและสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านได้เป็นอย่างดี ในส่วนของต้นไม้ของโครงการจะเป็นต้นที่สมบูรณ์พร้อมให้ร่มเงาแล้วนะคะ

ลูกบ้านจะได้ Key Card สำหรับใช้สแกนเข้า/ออก พร้อมกับมีไม้กั้นกระดก และประตูเหล็กรางเลื่อนเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ด้านข้างก็จะมีประตูเข้า-ออกสำหรับคนเดินแยกไว้ให้เป็นสัดส่วน หรือถ้าใครเป็น Visitors ก็จะต้องแลกบัตรกับพี่ รปภ. ก่อนนะคะ

เข้ามาในโครงการเราจะเจอกับถนนหลักขนาดใหญ่กว้าง 16 เมตร และพื้นที่สวนทั้ง 2 ฝั่งคือสวนจุดแรกของโครงการค่ะ

สวนจุดแรกจะออกแบบมาเพื่อเป็นสวนต้อนรับ ตกแต่งด้วยแนวไม้พุ่มและบ่อน้ำ ก่อนที่จะแจกไปยังบ้านต่างๆ ที่อยู่ในซอยย่อย จึงไม่มีบ้านหลังไหนที่อยู่ใกล้กับซุ้มประตูมากเกินไป ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวให้กับการพักอาศัยค่ะ

เข้ามาด้านในโครงการอีกนิดก็จะถึงสวนหย่อมจุดที่ 2 ซึ่งอยู่ตามแนวถนนหลักด้วยเช่นกัน สวนนี้จะให้บรรยากาศที่ร่มรื่นเป็นธรรมชาติมากๆ ส่วนใหญ่จะเป็นต้นไม้ใหญ่และสนามหญ้าขนาดใหญ่ Highlight คือมีผืนน้ำขนาดใหญ่ให้ได้มองวิวแบบกว้างๆ เลยค่ะ

สวนหย่อมจุดที่ 3 เป็นที่ตั้งของ Clubhouse นะคะ เป็นอาคารชั้นเดียว ซึ่งออกแบบโดยใช้หลังคาทรงสูงช่วยลดความร้อนในอาคารได้ ในอาคารเป็นแบบเปิดโล่งจึงประหยัดค่าไฟในพื้นที่ส่วนกลางได้นะคะ

Fitness จะอยู่ใน Clubhouse เช่นกัน ภายในมีอุปกรณ์ที่เตรียมไว้สำหรับการออกกำลังกายทั้งแบบ Weight Training และ Cardio โดยจะวางตำแหน่งเครื่องออกกำลังกายส่วนใหญ่ไว้ติดหน้าต่างเพื่อรับวิว

อีกฝั่งหนึ่งของอาคาร Clubhouse จะมีห้องน้ำชาย/หญิง ภายในมีทั้งห้องสุขาและห้องอาบน้ำครบครัน

ในส่วนของ Facility Outdoor จะมีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 20×10 เมตร แยกสระเด็กไว้เป็นสัดส่วน ลักษณะเป็นสระทรงกลม ซึ่งตำแหน่งของสระจะถูกโอบล้อมด้วยกำแพงต้นไม้และระแนงบังสายตา จึงใช้งานได้อย่างเป็นส่วนตัวเลย

ด้านข้างสระว่ายน้ำจะมีฝักบัวให้อาบน้ำล่างตัวก่อนลงสระ และมีที่นั่งริมสระให้มารับลมชมวิว/นั่งรอเด็กๆ ว่ายน้ำกันได้

รอบๆ Clubhouse จะมีพื้นที่สวนขนาดใหญ่รองรับการใช้งานของเด็กและผู้ใหญ่เลยนะคะ โดยจะมีเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง, สนามเด็กเล่น และคอร์ทเทนนิส

สวนหย่อมจุดที่ 4 เป็นสวนที่อยู่ด้านในสุดของโครงการและเป็นสวนที่มีขนาดใหญ่สุดเกือบๆ 6 ไร่เลยค่ะ ซึ่งสวนจุดนี้จะใกล้กับบ้านเฟส 4 ที่จะพาไปชมในรีวิวนี้มากที่สุด เรามองว่าสวนนี้เหมาะกับการมาออกกำลังกายเดินเล่นในช่วงเช้าเย็นที่แดดร่มหน่อย หลักๆ และมีคูน้ำที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูผ่อนคลายมากขึ้น

เมื่อขับรถตามถนนหลักเข้ามาจนถึงโซนบ้านเฟส 4 แนวถนนจะเกาะตามแนวสวนมาเลยค่ะ ทำให้ได้วิวต้นไม้ ดูร่มรื่น จากนั้นจึงแยกออกเป็นซอยย่อยๆ ส่วนใหญ่ไม่เกิน 10 หลัง ทำให้แต่ละซอยได้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย

• สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 20×10 เมตร แยกสระเด็กเป็นสัดส่วน
• ห้องออกกำลังกาย

โครงการสัมมากร รังสิต คลอง 7 มีการปรับโฉมให้แตกต่างจากบ้านเฟสอื่นๆ ของโครงการ ดูแล้วทันสมัยขึ้น มีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ คือแบบ Grassy และ Bosky

โดยบ้านแบบ Grassy จะเป็นบ้าน Type เริ่มต้นของเฟส 4 และบ้านแบบ Bosky จะเป็นบ้าน Type ใหญ่ ฟังก์ชันหลักๆ ของบ้านทั้ง 2 แบบเหมือนกันคือ 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ต่างกันที่ขนาดพื้นที่ใช้สอย, ขนาดของที่ดินและราคาที่ต่างกันประมาณ 7 แสนบาทค่ะ

สรุปโครงสร้างและวัสดุของตัวบ้าน

• กระเบื้องหลังคา C-PAC พร้อมแผ่นสะท้อนความร้อน
• โครงสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูน จึงสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้
• พื้นที่จอดรถแบบ On Ground เทพื้นคอนกรีต
• ลานซักล้างลงเสาเข็มเดียวกับตัวบ้าน เทพื้นคอนกรีต
• ประตูไม้สำเร็จรูป และ ประตูกระจกบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียม Powder Coat
• พื้นชั้น 1 ปูกระเบื้องแกรนิตโต้
• พื้นชั้น 2 ปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 8 mm.
• Built-in ในห้องครัวพร้อมตู้บานปิด / วัสดุ Top เคาน์เตอร์ครัวหินจริง
• วัสดุในห้องน้ำของ Englefield
• โครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้ยางพาราอัดประสาน

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

บ้านตัวอย่างแบบ GRASSY

หน้าตาบ้านออกแบบมาให้ดูทันสมัยเอาใจคนรุ่นใหม่มากขึ้น เน้นความเรียบให้บรรยากาศที่สบายตา ใช้สีโทนขาวเทาเป็นหลัก

แปลนบ้าน – ตัวบ้าน Grassy ออกแบบมาให้สามารถอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่แบบ 3 Generations พ่อ,แม่, ลูก และผู้สูงอายุ เพราะตัวบ้านจัดฟังก์ชันมาเป็น 4 ห้องนอน (มีห้องนอนชั้นล่าง) 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน เจ้าห้องนอนในชั้นล่างที่กั้นมาเป็นสัดส่วนนี่แหละค่ะ เป็นจุดขายที่แตกต่างจากหลายๆ โครงการในละแวกเลย ซึ่งหากเป็นครอบครัวขยาย ไม่ได้มีผู้สูงอายุมาอยู่ด้วยก็สามารถจัดเป็นห้องทำงาน ตอบโจทย์ยุค Work From Home ได้เช่นกัน

ชั้นบนแบ่งพื้นที่เป็นห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง โดยที่ห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนลูกๆ อีก 2 ห้องจะต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกัน และมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้ใช้งานได้อีกนิดหน่อย เหมาะกับการจัดเป็นมุมไหว้พระ, มุมสำหรับทำงานอดิเรกหรือมุมนั่งทำการบ้านของเด็กๆ เป็นต้น

ประตูหน้าบ้านเป็นประตูรั้วเหล็กบานเลื่อนจึงเปิดให้งานได้สะดวก เราชอบที่ตำแหน่งของประตูรั้วจะไม่ตรงกับประตูหน้าต่างของตัวบ้านเลย ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวจากสายตาของบ้านข้างเคียงได้ดี

บริเวณรั้วหน้าบ้านจะมีจุดทิ้งขยะที่โครงการออกแบบให้ทิ้งขยะได้จากในตัวบ้านได้เลย และรถเก็บขยะก็สามารถเปิดประตูถังขยะบริเวณหน้าบ้าน เคลียร์ขยะให้เราได้สะดวก โดยไม่ต้องเข้ามาในบ้านเช่นกัน การออกแบบถังขยะลักษณะนี้ช่วยให้บรรยากาศในซอยดูเป็นระเบียบเรียบร้อยนะคะ

เนื่องจากตัวบ้านเป็นบ้านเดี่ยวจึงมีที่ดินรอบบ้านให้สามารถปลูกต้นไม้ได้ แต่ว่าพื้นที่สวนจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับขนาดที่ดินของแต่ละแปลงที่ดินนะคะ โดยโครงการจะให้ต้นไม้หลักๆ มาเป็นต้นไทรเกาหลี และต้นล่ำซำหรือเทียบเท่า รวมถึงปลูกหญ้ามาให้เป็นมาตรฐานค่ะ

พื้นที่จอดรถของบ้านจะสามารถจอดในร่มได้ 2 คัน เราลองวัดดูแล้วกว้าง 5.2 เมตร ลึก 3 เมตร จึงมีส่วนที่รถยนต์จะพ้นหลังคาออกมานิดหน่อย ซึ่งเป็นส่วนที่ลูกบ้านนิยมต่อเติมเพิ่มมากที่สุด แนะนำให้แยกโครงสร้างหลังคาออกจากโครงสร้างหลักของตัวบ้านนะคะ เพื่อป้องกันการทรุดตัวในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นไม่พร้อมกับตัวบ้าน เพราะเป็นโครงสร้างคนละส่วนกัน

บริเวณที่จอดรถไม่ได้จะลงเสาเข็มมาให้นะคะ โครงสร้างของพื้นเป็น Slab on Ground เรียกง่ายๆว่าพื้นวางบนดิน ซึ่งมีการแยกรอยต่อออกจากโครงสร้างหลักของบ้านไว้เรียบร้อย หากในอนาคตเกิดดินทรุดตัวไม่เท่ากัน น้ำหนักของพื้นจอดรถจะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างหลักของตัวบ้านค่ะ

จากที่จอดรถจะเชื่อมกับ Foyer หน้าบ้านโดยมีหลังคาคลุมกันแดดกันฝนมาให้ พอลงรถปุ๊บก็เดินเข้าบ้านได้สะดวกไม่ต้องกังวลเรื่องแดด เรื่องฝนเลยค่ะ

ประตูใกล้ที่จอดรถนี้คิดว่าน่าจะได้ใช้งานประจำนะคะ เพราะสามารถขนของเข้าบ้านได้สะดวก ใกล้ครัวและใกล้บันไดขึ้นชั้น 2 ซึ่งบริเวณหน้าประตูจะมีพื้นที่ที่เหมาะกับการวางเก้าอี้สำหรับนั่งใส่รองเท้าได้เป็นกิจจะลักษณะ

เข้ามาในบ้านจะเจอกับโถงรับแขกก่อนเป็นลำดับแรก เป็นเหมือนโถงกลางก่อนแจกไปยังห้องต่างๆ เราสามารถตกแต่งพื้นที่บริเวณนี้ให้ดูสวยเพื่อโชว์ไลฟ์สไตล์, ความชอบ ของสะสมได้

ส่วนที่เราชอบคือด้านข้างประตูจะมีตู้เก็บของมาให้ ซึ่งเราสามารถดัดแปลงเป็นตู้เก็บรองเท้าตามแบบในบ้านตัวอย่างได้ พื้นบ้านชั้น 1 จะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้เป็นมาตรฐาน ส่วนฝ้าเพดานสูงประมาณ 2.7 เมตรค่ะ

ตู้รองเท้าที่โครงการตกแต่งให้ดูเป็นตัวอย่าง สามารถเก็บรองเท้าได้เยอะพอสมควรนะคะ เกือบ 20 คู่เลย เวลาจะเข้าออกบ้านก็หยิบจับได้สะดวก

เข้ามาด้านในโซนแรกจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่น-รับแขก สามารถวางชุดโซฟา 3-4 ที่นั่งและจะมีระยะดูทีวีตามบ้านตัวอย่างอยู่ที่ 2.7 เมตร สามารถติดทีวีขนาดใหญ่แบบ 60 นิ้วได้ค่ะ

ห้องนั่งเล่นจะเข้าได้จากประตูกระจกบานเลื่อนบริเวณหน้าบ้านได้อีกทางหนึ่งนะคะ นอกจากจะใช้เข้าออกแล้วยังเปิดเพื่อรับลมได้ และเป็นมุมที่สามารถมองออกไปเห็นสวนหน้าบ้านได้ค่ะ วัสดุบานประตูเป็นกระจกบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียม Powder Coat มาพร้อมมือจับขนาดใหญ่ใช้งานได้ง่าย

จากห้องนั่งเล่นมองเข้ามาในตัวบ้าน จะเห็นว่าเป็นพื้นที่โล่งเชื่อมต่อกันระหว่างมุมนั่งเล่น-พื้นที่ทานอาหาร-ห้องนอนชั้นล่าง บ้านจริงที่ส่งมอบจะเป็นบ้านเปล่าที่เราสามารถแบ่งเป็นฟังก์ชันต่างๆ ได้ตาม Lifestyle ของครอบครัวได้เลย หากใครยังนึกไม่ออกว่าจะจัดแบบไหนดี ก็ลองดูตัวอย่างจากบ้านที่เค้าตกแต่งให้ดูก็ได้นะคะ

ในส่วนของโต๊ะทานอาหาร มีขนาดพื้นที่พอเหมาะจะวางโต๊ะทานอาหารแบบ 4-6 ที่นั่งได้พอดีๆ และมุมโต๊ะทานอาหารยังสามารถมองเห็นทีวีและสวนด้านหน้าบ้านได้

ติดกันเป็นห้องนอนชั้นล่าง ซึ่งโครงการจะกั้นห้องมาให้เป็นสัดส่วนพร้อมใช้งาน แต่จะไม่ได้ให้ผนังกระจกมาแบบในบ้านตัวอย่างนะคะ จะได้เป็นผนังทึบ หากใช้เป็นห้องนอนก็จะให้ความเป็นส่วนตัวได้ดี

ห้องนอนชั้นล่างมีขนาด 2.9×3.3 เเมตร เรียกว่ามีพื้นที่เพียงพอให้ใช้เป็นห้องนอนได้ตามมาตรฐานเลย มาพร้อมหน้าต่างที่เป็นช่องรับแสงธรรมชาติและสามารถเปิดระบายอากาศได้

ในบ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นห้องนอนให้เห็นว่าเมื่อวางเตียงขนาด 5 ฟุตแล้วยังเหลือพื้นที่รอบเตียงมากพอที่จะใช้งานได้สะดวก และมีพื้นที่ปลายเตียงเหลือสำหรับทำวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้อีกนะ หรือถ้าใครอยากจะปรับเป็นห้องอื่นๆ ก็ได้ เช่น ห้องทำงาน, ห้องดูหนังเล่นเกมส์ เป็นต้น

อีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้านจัดฟังก์ชันเป็นห้องน้ำ และห้องครัวแบบครัวปิด ใช้ทำอาหารได้จริงจัง

ห้องน้ำชั้นล่างมีขนาดใหญ่พอสมควร จัดฟังก์ชันมาครบ แยกโซนเปียกโซนแห้งมาให้เรียบร้อย หากมีสมาชิกนอนพักในห้องนอนชั้นล่างก็สามารถมาเข้าห้องน้ำนี้ได้สะดวก

อ่างล้างมือและสุขภัณฑ์ของ Englefield หรือใช้ยี่ห้อที่เทียบเท่า

พื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 1.3×0.9 เมตร มาพร้อม Junction box สำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น อีกเรื่องหนึ่งที่ชอบคือ ในห้องน้ำจะมีหน้าต่างใช้รับแสงและเปิดระบายอากาศได้ ทำให้ห้องน้ำไม่อับ

พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงจากพื้นห้องอื่นๆ เล็กน้อย เพื่อป้องกันน้ำไหลย้อนค่ะ

ในส่วนของครัวที่ให้มาจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ สามารถใช้งานได้จริงไม่ต้องต่อเติมเพิ่มเลย ซึ่งโครงการก็จะ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาพร้อมหน้าบานตู้และอ่างล้างจาน ตามแบบในบ้านตัวอย่าง ส่วน Top เคาน์เตอร์จะเป็นหินจริงมีคุณสมบัติทนต่อรอยขีดข่วนและมีลวดลายสวยงาม แต่ต้องระวังเรื่องการเกิดคราบ ควรหมั่นทำความสะอาดนะคะ

อีกฝั่งหนึ่งภายในห้องครัวมีพื้นที่กว้างๆ ให้สามารถ Built-in ตู้เก็บของกินของใช้ในครัวเพิ่มได้ และรองรับการจัดเป็น Laundry Zone ใช้วางเครื่องซักผ้าและอุปกรณ์ทำความสะอาด โดยโครงการจะเดินงานระบบท่อน้ำและปลั๊กไฟรอไว้เรียบร้อย

จากห้องครัวจะมีประตูเปิดสู่ลานซักล้างหลังบ้าน ซึ่งโครงการเทพื้นคอนกรีตมาให้สำหรับใช้ตากผ้า, ซักล้าง พร้อมลงเสาเข็มชุดเดียวกับตัวบ้านมาให้เลย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการทรุดตัวที่ไม่เท่ากับตัวบ้านนะคะ

ห้องสุดท้ายบนชั้น 1 จะเป็นห้องเก็บของที่อยู่ใต้บันได ซึ่งเราสามารถใช้เก็บของชิ้นใหญ่ๆ อย่างเช่น กระเป๋าเดินทาง, เครื่องดูดฝุ่น ได้สบายๆ

มาต่อกันที่บันไดจะเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งค่อนข้างแข็งแรงทนทาน เวลาเดินขึ้น-ลงจะไม่เกิดเสียงดังเหมือนบันไดโครงสร้างเหล็ก

พื้นบันไดปิดผิวด้วยไม้ยางพาราอัดประสาน ในส่วนของชานพักมีขนาดใหญ่ได้มาตรฐานและมีราวจับกันตกให้ตลอดเส้นทาง

ขึ้นมาบนชั้น 2 จะมีโถงทางเดินเชื่อมห้องนอนต่างๆ ห้องแรกที่ขึ้นมาแล้วเจอเลยคือห้องนอน 2 ซึ่งเป็นห้องนอนของลูกๆ อยู่ติดกับห้องน้ำส่วนกลางจึงใช้งานได้สะดวก

ภายในห้องนอน 2 มีพื้นที่กว้างสามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุตได้สบายๆ และยังเหลือที่ให้วางโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าได้ด้วย คิดว่ามีพื้นที่พอเพียงให้อยู่อาศัยได้ตั้งแต่เล็กจนโตได้เลยค่ะ บรรยากาศภายในห้องดูโปร่งโล่ง ได้แสงธรรมชาติและสามารถเปิดหน้าต่างรับลมได้

หากจัดวางเตียงตามแบบในบ้านตัวอย่างจะเหลือพื้นที่ปลายเตียงสำหรับติดตั้งชั้นวางทีวี, โต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าได้ครบถ้วน

ห้องน้ำบนชั้น 2 จะมีฟังก์ชันและสุขภัณฑ์ครบตามมาตรฐานเหมือนห้องน้ำชั้นล่างเลยค่ะ

สิ่งที่แตกต่างกับห้องน้ำชั้นล่างคือ พื้นที่อาบน้ำจะกว้างขึ้นมาอีกนิดนึง ขนาดประมาณ 1.5 x 0.9 เมตร สามารถใช้งานได้สบายๆ

พื้นที่อีกฝั่งหนึ่งบนชั้น 2 จะมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้จัดฟังก์ชันได้ตามความต้องการของเจ้าของบ้าน และโซนนี้จะมีห้องนอนอีก 2 ห้อง โดยห้องฝั่งขวาเป็นห้องนอนใหญ่ของคุณพ่อคุณแม่ และห้องนอน 3 ที่อยู่ฝั่งซ้ายเป็นห้องนอนของลูกๆ อีกห้องหนึ่งค่ะ

พื้นที่อเนกประสงค์มีขนาดประมาณ 1.8×2.5 เมตร สามารถใช้วางหิ้งพระ, หรือ Built-in เป็นตู้เก็บของ, ชั้นวางหนังสือ, มุมทำการบ้านของเด็กๆ ก็เหมาะค่ะ ส่วนตัวเราคิดว่าวางเคาน์เตอร์บาร์ + ตู้เย็นก็ดีนะคะ เผื่อหิวน้ำหิวขนมกลางคืนจะได้ไม่ต้องลงไปครัวชั้นล่าง อิอิ

ภายในห้องนอนใหญ่มีขนาดใหญ่มากเป็น 2 เท่าของห้องนอนลูกๆ เลย ได้หน้าต่างตั้งแต่หน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้าน ทำให้เราสามารถจัดแบ่งฟังก์ชันได้เป็น 3 ส่วนหลักๆ ตามบ้านตัวอย่างคือโซนพักผ่อน, โซนแต่งตัว และห้องน้ำ

โซนพักผ่อนจะสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ 5-6 ฟุต ไว้กลางห้อง ทำให้สามารถเดินขึ้นเตียงได้โดยรอบ และมีพื้นที่ให้ติดตั้งชั้นวางทีวีที่ปลายเตียงได้

ความเก๋ของห้องนี้อยู่ตรงพื้นที่ข้างเตียง ที่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับวางม้านั่งยาวไว้ริมหน้าต่างได้ เป็นมุมนั่งเล่นเปลี่ยนบรรยากาศ และจากมุมนี้เราจะมองเห็นต้นไม้บริเวณหน้าบ้านด้วย

อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นพื้นที่โล่งที่ออกแบบไว้ให้เป็น Walk-in Closet โดยจะอยู่ติดกับห้องน้ำเลย จึงใช้งานเชื่อมต่อกันได้สะดวก

บ้านตัวอย่างออกแบบพื้นที่ Walk-in Closet ไว้เป็น 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งจัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ ใช้นั่งทำงานหรือใช้นั่งแต่งหน้าก็ได้ค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งจะ Built-in ตู้เสื้อผ้าสูงจากพื้นจรดฝ้าทำให้สามารถเก็บของได้เยอะ เหลือทางให้เดินเลือกเสื้อผ้าได้สะดวก โดยพื้นที่ตรงนี้มีขนาดประมาณ 2 x 1.6 เมตร ทำให้ตู้เสื้อผ้าดูเป็นสัดส่วนและรียบร้อยมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องติดหน้าบ้านตู้ก็ได้นะคะ

ด้านในสุดเป็นห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ ซึ่งจัดฟังก์ชันมาครบและแยกส่วนเปียกแห้งมาให้เรียบร้อยเช่นเดียวกับห้องน้ำตำแหน่งอื่นๆ สำหรับพื้นที่อาบน้ำมีขนาดใหญ่กว่าทุกๆ ห้องนะคะ ขนาดประมาณ 1.5 x 1 เมตร

ปิดท้ายด้วยห้องนอน 3 เป็นห้องนอนลูกอีกหนึ่งห้องที่มีขนาดพอๆ กับห้องนอน 2 เลยนะคะ ฟังก์ชันภายในจัดมาครบครันเช่นกันคือ สามารถวางเตียงใหญ่ 5 ฟุตได้ และมีพื้นที่เพียงพอสำหรับติดตั้งชั้นวางทีวีและตู้เสื้อผ้า หรือหากอยากวางโต๊ะเขียนหนังสือก็แนะนำเป็นบริเวณปลายเตียงค่ะ

สำหรับตู้เสื้อผ้าเราแนะนำตำแหน่งเป็นข้างประตูตามบ้านตัวอย่างเลยค่ะจะลงตัวสุด

แบบบ้าน BOSKY

อีกแบบบ้านหนึ่งคือแบบ BOSKY เป็นบ้านขนาดใหญ่ของเฟส 4 นี้ หน้าตาเป็นแบบ Modern เหมือนกัน และยังคุมโทนด้วยสีขาว-เทา

แปลนบ้าน – แบบบ้าน Bosky จะมีฟังก์ชันเท่ากับ Grassy เลยค่ะ แต่พื้นที่ใช้สอยจะใหญ่ขึ้นเป็น 216 ตร.ม. และได้ที่ดินรอบบ้านเยอะขึ้น รองรับครอบครัวสมาชิก 4-5 คน รวมถึงครอบครัวที่มีผู้สูงอายุได้เพราะมีห้องนอนชั้นล่างเช่นกัน

จุดที่แตกต่างกันชัดๆ เลยคือห้องนั่งเล่นที่ได้พื้นที่ขนาดใหญ่ขึ้น ได้หน้าต่างตั้งแต่หน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้าน บริเวณห้องนั่งเล่นจึงดูโปร่งขึ้นกว่าแบบแรกค่ะ

นอกจากแบบบ้านในเฟส 4 ทั้ง 2 แบบแล้ว…โครงการสัมมากร รังสิต คลอง 7 ก็ยังมีแบบบ้านในเฟสอื่นๆ ให้เลือกอีกหลายแบบเลยนะคะ เบื้องต้นเรานำภาพมาฝากอีก 4 แบบบ้าน เหมาะกับครอบครัวที่มองหาบ้านที่ดินใหญ่ค่ะ หากสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โครงการ

สัมมากร รังสิต คลอง 7 ราคา ณ วันที่ 17 เมษายน 2566

• GRASSY บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 168 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 4.19 ล้านบาท
• BOSKY บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 64.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 216 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 4.89 ล้านบาท
• ค่าจอง 10,000 บาท
• ค่าทำสัญญา 20,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 21.40 บาท/ตร.วา/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

ที่ตั้งของโครงการสัมมากร รังสิต คลอง 7 เป็นทำเลพักอาศัยที่ขยายออกมาจากตัวเมือง โดยมี “ถนนกาญจนาภิเษก หรือวงแหวนรอบนอก” ให้ใช้เชื่อมเข้า/ออกตัวเมืองโซนรามอินทรา, วัชรพล, เกษตรนวมินทร์, เอกมัย ได้ไม่ยาก หรือบางคนทำงานอิงเส้นรังสิต-นครนายก หรือลำลูกกาตอนปลายๆ ก็สะดวกเช่นกัน เพราะตรงนี้รถไม่ค่อยติดมากเมื่อเทียบกับถนนช่วงต้นๆ ใกล้กับถนนพหลโยธิน

ราคาบ้านในโซนนี้มีราคาที่หยิบจับต้องได้ไม่ยาก อย่างใครที่มีงบ 3 ล้านปลายๆ – 4 ล้านบาทและกำลังมองหาบ้านเดี่ยวก็ลองมาเลือกดูที่โซนนี้ได้ และแม้ว่าจะขยับออกมาจากตัวเมืองสักหน่อยแต่ก็มีความอุดมสมบูรณ์ทั้ง Big C, Lotus’s, Homepro ยังไม่นับร้านค้าร้านอาหารริมทางต่างๆ ถ้าใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางก็สะดวกเลยค่ะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

ถือว่าให้มาครบตามมาตรฐาน ทั้งไม้กั้นกระดกและประตูเหล็กรางเลื่อน ซึ่งจะใช้ Keycard ในการเข้า/ออก หากเป็น Visitors จะใช้วิธีแลกบัตรเอาค่ะ โดยมีรปภ. ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง และติดตั้ง CCTV ทั้งโครงการ 36 จุดค่ะ

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

ตัวโครงการ – สัมมากร รังสิต คลอง 7 เป็นโครงการหมู่บ้านขนาดใหญ่ที่ทยอยเปิดขายมาเรื่อยๆ โดยเฟสล่าสุดที่เปิดขายคือเฟส 4 จุดเด่นของเฟสนี้คือ “เป็นบ้านโซนหน้าสวน ทำให้ได้บรรยากาศที่ร่มรื่นผ่อนคลาย” และตำแหน่งของบ้านเฟส 4 จะอยู่ด้านในสุดของโครงการจึงได้ “ความเป็นส่วนตัวมากที่สุด” โดยซอยพักอาศัยส่วนใหญ่จะมียูนิตประมาณ 10 ยูนิตเท่านั้น อีกประเด็นหนึ่งคือทิศของบ้านจะหันทางเหนือ/ใต้เป็นหลัก ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมของคนไทยเลยค่ะ

ตัวบ้าน – มีการปรับโฉมให้แตกต่างจากบ้านเฟสอื่นๆ ของโครงการ ดูแล้วทันสมัยขึ้น มีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ คือแบบ Grassy และ Bosky ซึ่งฟังก์ชันหลักๆ ของบ้านทั้ง 2 แบบจะเหมือนกันคือ 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ต่างกันที่ขนาดพื้นที่ใช้สอยและขนาดของที่ดิน …จุดขายอย่างหนึ่งของโครงการคือ มีห้องนอนชั้นล่างในบ้านทุกแบบ ใช้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุหรือใช้เป็นห้องทำงานก็เหมาะกับยุค Work From Home ดีค่ะ ซึ่งโครงการบ้านราคาใกล้ๆ กันในละแวกนี้ ส่วนใหญ่ไม่ได้มีห้องนอนชั้นล่างมาให้นะคะ

วัสดุ : 

วัสดุส่วนใหญ่ได้ตามมาตรฐานราคาเลยค่ะ สิ่งที่ต้องชมคือโครงสร้างบ้านแบบก่ออิฐฉาบปูน ซึ่งทำให้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันตามความต้องการได้ ยืดหยุ่นกว่าโครงสร้างแบบ Precast นะคะ อย่างไรก็ตามหากมีการต่อเติมที่จอดรถ แนะนำให้แยกโครงสร้างหลังคาออกจากโครงสร้างหลักของตัวบ้านนะคะ เพื่อป้องกันการทรุดตัวในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นไม่พร้อมกับตัวบ้าน เพราะเป็นโครงสร้างคนละส่วนกัน

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

เนื่องจากโครงการเป็นโครงการดั้งเดิม บรรยากาศภาพรวมของโครงการอาจจะไม่ได้ดูสดใหม่ซะทั้งหมดนะคะ แต่โครงการลักษณะนี้จะได้ประโยชน์ในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้ใหญ่ ที่พร้อมให้ร่มเงาและความร่มรื่นแล้ว และมีการใช้ผืนน้ำ, คูน้ำ ที่เป็นเอกลักษณ์ของโซนรังสิตมาช่วยสร้างบรรยากาศที่น่าพักผ่อนมากยิ่งขึ้น

สาธารณูปโภค :

โครงการมีสวนหย่อม 4 จุด แต่ละจุดมีขนาดใหญ่ใช้พักผ่อนหย่อนใจได้จริง รวมแล้วพื้นที่สวนมีขนาดกว่า 15 ไร่เลยค่ะ มีทั้งพื้นที่สนามหญ้า, ต้นไม้ใหญ่, สนามเด็กเล่น, พื้นที่ออกกำลังกาย และมีผืนน้ำ+คูน้ำมาช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูผ่อนคลายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมี Clubhouse บริเวณกลางโครงการ โดยภายในประกอบด้วย Fitness, สระว่ายน้ำ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจเริ่มต้น 4.19 ล้านบาท, 17 เมษายน 2566

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก
• ความปลอดภัย 7/10 – รั้วกั้นไม้กระดก, รปภ. 24 ชั่วโมง, CCTV ในโครงการ, Keycard Access
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – ฟังก์ชันดี มีห้องนอนชั้นล่างทุกแบบ
• วัสดุ 8/10 – ก่ออิฐฉาบปูน ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้, อื่นๆ ตามมาตรฐานของระดับราคา
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7/10 – โครงการดั้งเดิม ต้นไม้อุดมสมบูรณ์ให้ร่มเงาได้
• สาธารณูปโภค 8/10 – สวนหย่อม 4 จุดรวม 15 ไร่, Clubhouse, ผืนน้ำขนาดใหญ่
• 7.75 / 10.00

สัมมากร รังสิต คลอง 7 เหมาะกับใคร

โครงการสัมมากร รังสิต คลอง 7 เหมาะกับครอบครัวที่มองหาบ้านติดถนนใหญ่รังสิต-นครนายกและวงแหวนกาญจนาภิเษก ตอบโจทย์ครอบครัวที่มีสมาชิกตั้งแต่ 2 – 6 คน รองรับการอยู่อาศัยแบบ 3 Generationได้ ชอบบ้านเดี่ยวที่มีห้องนอนชั้นล่าง ใช้โครงสร้างก่ออิฐฉาบปูนเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนฟังก์ชันในอนาคต ในราคาเริ่มต้น 4.19 ล้านบาท หรือผ่อนต่อเดือนประมาณ 29,330 บาท

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc