รีวิวโครงการ
คิดเรื่องอยู่ Ep.661 : สราญสิริ บางนา จาก แสนสิริบ้านเดี่ยวใกล้ถนนบางนาตราด ราคา 6-15 ล้าน
6 พฤศจิกายน 2022
รีวิวฉบับที่ 2402 โครงการ สราญสิริ บางนา เป็นอีกหนึ่งโครงการใหม่จากแสนสิริ เปิดตัวบนทำเลย่านถนนบางนา-ตราด ความน่าสนใจของโครงการนี้ นอกจากเรื่องทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับทางด่วนพิเศษบูรพาวิถี ทำให้เดินทางเข้า-ออกเมืองได้อย่างสะดวกแล้ว ยังเปิดตัวพร้อมกับดีไซน์ใหม่ในซีรี่ส์ Urban Farmhouse ได้กลิ่นอายย้อนยุคแบบยุโรปนิดๆ สำหรับใครที่ชื่นชอบ แสนสิริก็ได้จัดรูปแบบบ้านมาให้เลือกด้วยกันถึง 5 แบบ ซึ่งจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปติดตามชมกันได้เลยค่ะ
- ทำเล : เดินทางง่าย เข้า-ออกโครงการได้หลายเส้นทาง สามารถเชื่อมต่อไปยังทางด่วนและถนนมอเตอร์เวย์ได้ สะดวกทั้งเข้าตัวเมืองและออกไปยังต่างจังหวัด
- การออกแบบบ้าน : มาใน Concept Urban Farmhouse ได้บรรยากาศของอาคารย้อนยุคอย่างบ้านไร่หรือโรงนาในยุโรป โดยเน้นไปที่รูปทรงของหน้าจั่วและ Arch ในส่วนของทางเข้า ประตูและหน้าต่างใช้วัสดุกระจกเป็นส่วนใหญ่ มีการออกแบบดีเทลเล็กๆอย่างมุม Bay Window ไว้ภายในตัวบ้านทุกรูปแบบ
- ฟังก์ชันบ้าน : มีให้เลือกหลากหลายถึง 5 รูปแบบ เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กไปจนถึงครอบครัวขยายที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วย การแบ่งสัดส่วนบ้านค่อนข้างดี ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ ได้ครัวแบบปิดมีห้องเก็บของ ในส่วนของห้องนอนก็ได้พื้นที่ห้องน้ำในตัวด้วย
- วัสดุ : พื้นชั้น 1 ปูด้วยกระเบื้องยางพื้น SPC ซึ่งมีความทนทานมากกว่ากระเบื้องยางทั่วไป เพราะผสมผงหินมาด้วย ทำให้โครงสร้างพื้นแข็งแรงขึ้น บริเวณหน้าต่างมีการติดตั้งช่องระบายอากาศช่วยให้อากาศภายในถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้น
ข้อมูลโครงการ
SARANSIRI BANG NA (สราญสิริ บางนา) ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2565
ชื่อโครงการ | SARANSIRI BANG NA (สราญสิริ บางนา) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | UPPER – HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนรัตนราช (เลี่ยงเมืองบางบ่อ) ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ |
ที่ดิน | 66-2-7 ไร่ |
จำนวนยูนิต | จำนวน 246 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | 2.65-3 เมตร |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | 50,000 บาท |
เริ่มก่อสร้าง | 2564 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | 2566 |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
โทร | 1685 |
Call Center | 1685 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.580944, 100.829806
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
จากแผนที่จะเห็นได้ว่า ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ สราญสิริ บางนา อยู่ติดกับถนนรัตนราช ซึ่งอยู่ห่างจากถนนบางนา-ตราด กม.26 ประมาณ 1 กม. โดยเส้นทางนี้สามารถเดินทางไปยังถนนเทพารักษ์ และสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนกิ่งแก้ว-บางพลี มุ่งหน้าสู่ลาดกระบังได้
โครงการ สราญสิริ บางนา จัดว่าตั้งอยู่ในเขตพื้นที่บางบ่อ โดยเส้นทางหลักที่ใช้ในการเข้า-ออกคือถนนบางนา-ตราด ซึ่งถือว่าเป็นเส้นที่มีความคึกคักเป็นอย่างมาก เพราะเป็นย่านที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก ทั้งยังเป็นทำเลที่อยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรมและสถานศึกษาหลายแห่ง รอบข้างจึงมีทั้งห้างสรรพสินค้าและ Community Mall เปิดตัวเพิ่มขึ้นอีกหลายแห่ง ยกตัวอย่างเช่น ห้าง Mega Bangna , เซ็นทรัลพลาซ่า บางนา , Market Village หรือตลาดสดชุมชนที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการอย่างตลาดเสริมสุขก็มีให้เลือกจับจ่ายใช้สอยค่ะ โดยเฉพาะโลตัส บางบ่อที่อยู่ใกล้มาก จากถนนหน้าโครงการสามารถเข้าทางด้านหลังของห้างได้เลย
สำหรับการเดินทางเข้า-ออกโครงการ สามารถใช้เส้นทางหลักๆได้ 4 เส้นทางดังนี้
1) จากทางพิเศษบูรพาวิถี ลงด่านบางบ่อขึ้นสะพานกลับรถ ขับตรงต่อมาอีก 1 กม. แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรัตนราช 400 ม. เลี้ยวขวา ขับตรงต่อมาโครงการจะอยู่ขวามือก่อนขึ้นสะพานข้ามคลองสำโรงค่ะ
2) จากถนนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าชลบุรี-บางนา ขับขึ้นไปตามทางพิเศษบูรพาวิถี แล้วลงตรงทางออกบางบ่อ/บางเสาธงค่ะ ขับต่อมาขึ้นสะพานกลับรถเพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนรัตนราช
3) จากชลบุรีมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพ ให้ถนนเส้นบางนา-ตราด กม.26 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนรัตนราช ขับตรง 400 ม.แล้วเลี้ยวขวา โครงการจะอยู่ขวามือก่อนขึ้นสะพานข้ามคลองสำโรงค่ะ
4) จากถนนกิ่งแก้ว-บางพลี วิ่งเข้าถนนเทพารักษ์ มุ่งหน้าบางบ่อผ่านเคหะบางพลี ขับตรงต่อมาอีก 5 กม. เลี้ยวซ้ายสามแยกไฟแดงเข้าถนนรัตนราช ขับตรงต่อมาจนข้ามสะพานสำโรง โครงการก็จะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ
โดยในวันนี้เราได้เลือกใช้เส้นทางที่ 1 คือขับมาตามทางพิเศษบูรพาวิถี ก่อนจะไปกลับรถเพื่อเลี้ยวเข้าถนนรัตนราช บรรยากาศระหว่างทางจะเป็นยังไงกันบ้าง ไปติดตามชมได้เลยค่ะ
เมื่อลงจากทางพิเศษบูรพาวิถี เบี่ยงซ้ายเพื่อที่จะขึ้นสะพานกลับรถ จะเห็นปั๊มน้ำมันบางจากอยู่ซ้ายมือค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นอาคารแนวราบสลับกับที่ดินเปล่า ซึ่งก็เป็นหมู่บ้านพักอาศัยซะส่วนใหญ่ ทั้งยังเป็นโครงการในเครือของแสนสิริเองด้วย ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องทัศนวิสัยและความเป็นส่วนตัวเลยค่ะ เหมาะสำหรับใครที่ไม่ชอบความพลุกพล่าน วุ่นวาย แต่ยังมีปัจจัยสำคัญเรื่องการเดินทางที่ยังต้องการเน้นความสะดวกสบาย โครงการนี้ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว ส่วนพื้นที่ด้านหลังที่ติดกับคลองสำโรงนั้น อาจจะมองเห็นได้จากชั้น 2 ของโครงการที่อยู่ติดกับขอบที่ดินค่ะ
- ทิศเหนือ : ติดกับ โครงการอณาสิริ บางนา และที่ดินโครงการในอนาคตของแสนสิริ
- ทิศใต้ : ติดกับ โครงการ บุราสิริ บางนา
- ทิศตะวันออก : เป็นทางเข้าหลักด้านหน้า ติดกับถนนส่วนกลางของโครงการในเครือแสนสิริ
- ทิศตะวันตก : ติดกับ คลองสำโรง ที่ดินเปล่าและชุมชนแนวราบ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
สถานศึกษา
- มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ บางนา ~ 5 กม.
- โรงเรียนนวมินทราชูทิศ เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ~ 9.2 กม.
- โรงเรียนบดินทร์เดชา 4 (สิงห์สิงหเสนี) ~ 9.3 กม.
- มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ~ 11 กม.
ห้างสรรพสินค้า, Super Market, Community Mall
- ตลาดเสริมสุข ~ 1 กม.
- บิ๊กซี บางพลี ~ 14 กม.
- Mega Bangna ~ 15 กม.
- Market Village สุวรรณภูมิ ~ 15 กม.
- เซ็นทรัลพลาซ่า บางนา ~ 24 กม.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลบางบ่อ ~ 1.3 กม.
- โรงพยาบาลบางนา 2 ~ 1.3 กม.
- โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 ~ 13 กม.
- โรงพยาบาลศิครินทร์ ~ 22 กม.
- โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ~ 24 กม.
การเดินทาง
- ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนบูรพาวิถี ~ 1 กม.
- ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ~ 9 กม.
รายละเอียดโครงการ
สราญสิริ บางนา เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 246 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 6 ไร่ ด้านหน้ามีพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Lake 26 เป็นทะเลสาบเปิดโล่ง เพื่อให้สอดคล้องกับพื้นที่ของโครงการที่มีคลองสำโรงอยู่ด้านหลัง ในส่วนของการออกแบบมีการดึงเอาจุดเด่นของสถาปัตยกรรมแบบ Cape Dutch มาใช้ เช่น หลังคามุงกระเบื้องที่มีหน้าจั่วแบบโค้งมน หน้าต่างบานกระจกยาว และวัสดุผนังสีขาว ซึ่งจะเห็นได้ในรูปแบบบ้านของโครงการ
โดยจุดเด่นนี้จึงทำให้โครงการ สราญสิริ บางนา ถูกออกแบบมาให้แตกต่างกับอีก 2 โครงการที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน โดยเริ่มจากแสนสิริได้เข้ามาพัฒนาที่ดินขนาดใหญ่นี้ให้เป็นโครงการบ้านพักอาศัยที่มีความหลากหลาย ทั้งประเภท รูปแบบบ้าน และระดับราคา เพื่อให้ผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยสามารถเข้าถึงได้ทุกกลุ่ม จึงเป็นที่มาของ Bang Bo District ด้วยศักยภาพของพื้นที่บนถนนเส้นบางนา-ตราด สามารถเข้าถึงและเชื่อมต่อกับถนนหลักอื่นๆได้หลายสาย เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดชลบุรี และยังอยู่ใกล้นิคมหลายแห่งโดยรอบ ทำให้ความต้องการในการซื้อบ้านนั้นมีหลากหลาย โปรเจค Bang Bo District นี้จึงมีทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ให้เลือกเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า และต่อไปก็ยังมีแผนพัฒนาเฟสในอนาคตเพิ่มขึ้นอีกด้วยค่ะ
กลับมาที่ Master Plan ของโครงการ จะเห็นได้ว่ารูปร่างของที่ดินโครงการจะมีลักษณะเป็นแนวยาวเข้าไปแล้วไปขยายเป็นพื้นที่ใหญ่ด้านใน โดยมีจุดเริ่มต้นจากถนนหลักเข้ามาเจอวงเวียนแล้วแยกไปโครงการต่างๆ โดยที่ตั้งของโครงการ สราญสิริ บางนา จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Lake 26 เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้ามาจะเจอกับ Main Park 1 ซึ่งเป็นสวนหย่อมจุดแรกของโครงการ สามารถใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนของครอบครัวโดยเฉพาะในช่วงเย็นๆแดดร่มแล้วก็มานั่งพักผ่อนหรือพาหลานๆมาวิ่งเล่น ก็ให้ความรู้สึกผ่อนคลายไปอีกแบบค่ะ
ถัดเข้ามาตามถนนเส้นหลักของโครงการ ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 2 เลน กว้าง 19 เมตร คั่นด้วยเกาะกลางที่มีต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ความร่มรื่น ส่วนบ้านพักอาศัยบริเวณด้านหน้าโครงการจะได้ความเป็นส่วนตัว เพราะแต่ละซอยย่อยจะมีบ้านเพียง 8-10 หลังเท่านั้น จึงเหมาะสำหรับใครที่ไม่ชอบความวุ่นวาย ก็สามารถเลือกโซนด้านหน้าได้นะคะ
เข้ามาด้านในจะมี Clubhouse ตั้งอยู่ตรงกลางของพื้นที่โครงการ มีส่วนหย่อมทางด้านหน้าหรือ Main Park 2 หากใครชอบใช้ส่วนกลางแบบเดินมาใช้งานง่ายๆ ก็จะเหมาะกับบ้านในโซนนี้ หรือถ้าชอบความเป็นส่วนตัวหน่อย ด้านในสุดก็เป็นโซนที่น่าสนใจเช่นกันค่ะ โดยบ้านส่วนใหญ่ในโครงการจะหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งข้อดีก็คือเป็นทิศทางของลมธรรมชาติ ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดีค่ะ
ในส่วนของบ้านที่มีให้เลือกด้วยกันถึง 5 แบบ ก็จะอยู่คละกันไปในแต่ละซอย สำหรับซอยที่ลึกหน่อยก็จะมีพื้นที่ให้สำหรับกลับรถ ไม่ต้องกังวลเรื่องการเข้าออกค่ะ เพิ่มเติมในส่วนด้านหลังที่อยู่ติดกับคลองสำโรงก็มีสวนหย่อมเล็กๆอย่าง Sun Set Park ไว้ให้ด้วยนะคะ
ภาพจำลองบรรยากาศส่วน Clubhouse หน้าตายังคงรูปแบบความเป็น Cape Dutch ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในอาคารย้อนยุคท่ามกลางสวนสวยหรือไร่ในยุโรป ตรงตาม Concept Urban Farm house เลยทีเดียว โดยใน Club house นี้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆเช่น สระว่ายน้ำระบบเกลือพร้อมสระเด็กและพื้นที่ Play Pool ห้องออกกำลังกาย พร้อมอุปกรณ์คาดิโอและเวทเทรนนิ่ง Multi Purpose Room และ Co-Working Space
เริ่มที่ทางเข้าโครงการกันเลยค่ะ เมื่อขับมาจากถนนรัตนราชโครงการจะอยู่ทางขวามือ โดยมีป้ายให้เห็นขนาดใหญ่แบบนี้เลย
ถนนด้านหน้าเป็นถนน 2 เลน โครงการจะอยู่ก่อนขึ้นสะพาน บริเวณรอบข้างส่วนใหญ่เป็นอาคารแนวราบ
จุดเด่นด้านหน้าคือวงเวียนต้นไม้ขนาดใหญ่ การออกแบบ Landscape เน้นพื้นที่สีเขียวและเส้นโค้งตาม Concept วิถีชีวิตที่เชื่อมโยงกับสายน้ำ
โดยสราญสิริ เป็นโครงการที่อยู่ในพื้นที่ร่วมกับ บุราสิริและอณาสิริ บางนาค่ะ ถ้าเลี้ยวเข้ามาแล้วยังไม่เห็นป้าย ก็ไม่ต้องตกใจนะคะ ขับผ่านวงเวียนเข้าไปได้เลย
ถัดมาจะเป็นสะพานข้ามคลอง โดยถนนในโครงการจะเป็นแบบ 2 เลน มีทางเข้า- ออก คั่นด้วยเกาะกลางที่เป็นพุ่มไม้ขนาดเล็ก ด้านข้างมีทางเท้าสำหรับคนไว้เดินได้ค่ะ
สองข้างทางเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ รวมถึงบริเวณเกาะกลาง พอให้ร่มเงาและความรู้สึกร่มรื่น เป็นธรรมชาติค่ะ
มาถึงบริเวณนี้จะเป็นวงเวียนที่เป็นทางแยกไปโครงการต่างๆ ถ้าขับเลี้ยวไปทางซ้ายจะเจอซุ้มประตูทางเข้าของโครงการ บุราสิริ ส่วนโครงการของเราวันนี้ ขับตรงไปทางทะเลสาบได้เลยค่ะ
จากมุมนี้จะเห็นทางเข้าของโครงการแล้วค่ะ ส่วนอาคารทรงจั่วแบบ Modern ที่อยู่เลยไปจะเป็นโครงการของอณาสิริ บางนาค่ะ
โครงการอณาสิริ บางนา มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่บริเวณริมทะเลสาบ หรือที่เรียกว่า Lake 26
ส่วน Sale Gallery ของสราญสิริ บางนา จะอยู่ที่อีกฝั่งนึงค่ะ ตรงข้ามกับซุ้มทางเข้าโครงการเลย
มาถึงแล้วค่ะ โครงการ สราญสิริ บางนา เริ่มจากซุ้มประตูด้านหน้าให้ความรู้สึกแบบอาคารทรงยุโรป ตามสไตล์สถาปัตยกรรมแบบ Cape Dutch โดยมีเอกลักษณ์คือความโค้งมนและวิจิตรของหน้าจั่ว การใช้ Arch และเส้นโค้งเป็นหลังคาคลุมทางเข้า โดยหน้าทางเข้านี้จะมีสวนหย่อมขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางเพื่อพักผ่อนหย่อนใจอีกแห่งหนึ่งของโครงการค่ะ
บริเวณทางเข้า-ออก แยกจากกันด้วยป้อมรปภ. เป็นแบบ Double Gate แยกในส่วนของลูกบ้านและผู้ที่มาติดต่อ ซึ่งในส่วนของลูกบ้านนั้นจะใช้ Key Card Access ด้วยระบบอัตโนมัติแบบ RFID เพื่อเข้าโครงการได้เลยค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 6×30 เมตร พร้อมสระเด็ก
- Play Pool
- ฟิสเนต ห้องออกกำลังกาย พร้อมอุปกรณ์คาดิโอและเวทเทรนนิ่ง
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 2 จุด รวมประมาณ 3 ไร่
- Multi Purpose Room
- Co-Working Space
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- รั้วรอบโครงการสูง 2.9 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 12-19 ม. และถนนภายในกว้าง 10 ม.
- Key Card Access ระยะไกลด้วยระบบอัตโนมัติ RFID
- ประตู Double Gate แยกส่วนลูกบ้านและผู้มาติดต่อ
- ระบบตรวจเช็คและบันทึกข้อมูลด้วยระบบ VMS (Visitor Management System)
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
แบบบ้าน
โครงการ สราญสิริ บางนา เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Modern Farmhouse ที่มีแบบให้เลือกด้วยกันถึง 5 รูปแบบ พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 153-333 ตร.ม. โดยมีรายละเอียดที่แตกต่างกันดังนี้ค่ะ
- Zinnia ที่ดินมาตรฐาน 50.75 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 153 ตร.ม. 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- Daisy ที่ดินเริ่มต้น 50.75 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- Camilia ที่ดินเริ่มต้น 50.75 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 188 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- Freesia ที่ดินเริ่มต้น 65.20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 243 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
- Peony ที่ดินเริ่มต้น 96.50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 333 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ และ 1 ห้องแม่บ้าน
แบบแรกที่เราจะพามาดูกันก็คือแบบบ้าน Daisy พื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม. ฟังก์ชันการใช้งานประกอบด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถค่ะ ซึ่งถือว่าเป็นบ้านไซส์ S ของโครงการ ปัจจุบันมีจำนวนยูนิตอยู่ที่ 56 ยูนิต
ลักษณะของตัวบ้านเป็นทรงหน้ากว้าง ประกอบกับได้ช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้ภายในบ้านดูโปร่งโล่ง ในส่วนของพื้นที่ครัว ห้องน้ำและซักล้าง ซึ่งถือว่าเป็นส่วน Service ถูกจัดไว้อยู่ในฝั่งเดียวกันทั้งหมด ช่วยให้เกิดความสะดวกในการใช้งาน นอกจากจะได้ลานด้านข้างแล้วยังมีห้องเก็บของใต้บันไดอีกด้วย ส่วนครัวที่ได้เป็นครัวแบบปิด ข้อดีคือ เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหารหนักๆ กลิ่นจะไม่เข้าไปรบกวนในตัวบ้านค่ะ
เมื่อเปิดประตูเข้ามาในตัวบ้านก็จะเจอกับโถงเล็กด้านหน้า อาจจะไว้สำหรับถอดรองเท้าหรือวางข้าวของได้ก่อนจะเข้าส่วนพักผ่อนอย่างห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารด้านใน ซึ่งก็ถือว่าทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวพอสมควรค่ะ จุดเด่นของฟังก์ชั่นนอกจากมี Bay Window แล้ว ยังมีห้องอเนกประสงค์ที่ด้านหน้า ซึ่งเราสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องต่างๆได้ตามความชอบเลยค่ะ จะทำเป็นห้องทำงาน หรือห้องนอนชั้นล่าง สำหรับบ้านที่มีผู้สูงอายุที่เดิน-ขึ้นลงบันไดไม่สะดวก ก็มีห้องน้ำที่มีส่วนอาบน้ำในตัวรองรับการใช้งานเตรียมไว้ให้แล้ว
ขึ้นมาที่บริเวณชั้น 2 จะเจอกับโถงอเนกประสงค์ ที่ใช้จัดเป็นพื้นที่ทำงานหรือนั่งเล่นเล็กๆในชั้น 2 ได้ ก่อนจะแจกเข้าห้องนอนในส่วนต่างๆค่ะ ซึ่งถ้าดูจากภาพแล้วจะเห็นว่า พื้นที่ใช้สอยของห้องนอนได้ค่อนข้างมาก ทำให้มีส่วนห้องแต่งตัวและห้องน้ำแยกเป็นส่วนตัวเลยทีเดียว โดยในส่วนของห้องนอน 1 หรือห้อง Master Bedroom ก็มีประตูที่สามารถเปิดเชื่อมออกสู่ระเบียงด้านนอกได้อีกด้วย
เริ่มจากมาดูรอบตัวบ้านกันก่อนนะคะ โดยเริ่มจากส่วนด้านหน้าที่จะเป็นโรงจอดรถค่ะ โดยมีเฉลียงทางเข้าเป็นตัวแยกฟังก์ชันระหว่าง โซน Service กับส่วนพักผ่อน เห็นได้จากหน้าต่างขนาดเล็กจะเป็นช่องระบายอากาศของห้องน้ำค่ะ ตัวที่จอดรถมีขนาดกว้าง 5.3×6.3 ม. จอดได้ 2 คันแบบสบายๆเลย
ทางฝั่งของส่วนพักผ่อนอย่างห้องอเนกประสงค์และห้องนั่งเล่น มีการใช้ประตูและหน้าต่างที่เป็นกระจกค่อนข้างมาก สวนรอบตัวบ้านที่มีทั้งต้นไม้ขนาดใหญ่และพุ่มไม้ประดับสวยงาม ก็ถือว่าช่วยให้ร่มเงาได้ดีทีเดียวค่ะ
ฝั่งห้องครัวที่อยู่ติดกับโรงรถจะมีลานซักล้างอยู่ด้านข้าง สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้เลยนะคะ
ขนาดทางเดินบริเวณซักล้างค่อนข้างกว้าง มีการลดระดับลงเพื่อการระบายน้ำที่ดี ด้านข้างยังเหลือพื้นที่ไว้ให้สนามหญ้าและปลูกต้นไม้ริมรั้วๆได้ ซึ่งประตูตู้เก็บของห้องใต้บันได จะเปิดออกได้จากฝั่งนี้ค่ะ
ในส่วนของทางเข้าบ้าน พื้นเฉลียงจะยกระดับขึ้นไปจากทั้งทางด้านหน้าและด้านข้าง เพื่อให้เดินเข้าได้ทั้ง 2 ฝั่งค่ะ จุดเด่นของตัวบ้านยังคงเป็นซุ้ม Arch โค้งนะคะ
ประตูทางเข้าจะเป็นบานเปิดเดี่ยวและมีบาน fix กระจกที่ด้านข้าง ทำให้โถงทางเข้าได้แสงจากธรรมชาติ ด้านข้างมีมุมที่เหมาะจัดเป็นตู้สำหรับเก็บของหรือวางรองเท้า ส่วนทางด้านซ้ายเป็นห้องอเนกประสงค์ค่ะ ภายในตัวบ้านที่ชั้น 1 ปูพื้นด้วยกระเบื้องยาง SPC
กรอบบานประตูและหน้าต่างที่บิรเวณชั้น 1 จะมี Magnetic & Shock Sensor ติดไว้ให้ด้วยนะคะ ถือว่าช่วยให้อุ่นใจเรื่องความปลอดภัยได้มากทีเดียวค่ะ
เมื่อเข้ามาในตัวบ้านก็จะเจอกับส่วน Common Area ประกอบด้วยพื้นที่ที่ใช้งานร่วมกันอย่างส่วนนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร พื้นที่ชั้น 1 ปูด้วยกระเบื้อง SPC
ระยะจากหลังโซฟาถึงหน้าทีวีประมาณ 3.30 เมตร บรรยากาศบริเวณนี้ค่อนข้างปลอดโปร่งค่ะ เพราะมีประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน และหน้าต่างทางด้านหลังแบบเต็มบาน โดยที่บานล่างเป็นส่วนบาน Fix ตัวกรอบเป็นอลูมิเนียมสีดำอบสี Powder Coat
บริเวณหน้าต่างมีส่วนที่น่าสนใจคือ ช่องระบายอากาศ BREEZE PANEL ด้านล่าง สามารถเปิดปิดได้ ช่วยให้อากาศถ่ายเทและระบายความร้อนในตัวบ้าน ทำให้บรรยากาศปลอดโปร่งไม่อึดอัด เหมาะสำหรับเมื่อเราไม่อยู่บ้าน แต่ไม่อยากให้บ้านอับหรืออบอ้าวจนเกินไปค่ะ
พื้นที่รับประทานอาหารจะอยู่ในบริเวณ Bay Window ซึ่งเป็นหน้าต่างกระจกบานสูง ทางด้านซ้ายและขวาในส่วนที่ยื่นออกไปเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง เปิดระบายอากาศได้ มีความกว้าง 80 เซนติเมตรค่ะ
ห้องอเนกประสงค์ที่ด้านหน้า สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ สำหรับใครที่อยากจะจัดเป็นห้องนอนก็สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ โดยวางชิดที่ริมหน้าต่างเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการใช้งาน
อีกฝั่งจะเป็นส่วน Service ของบ้าน ห้องครัวที่ได้เป็นแบบครัวปิด มีบานเลื่อนกระจก 3 ตอนกั้นที่ทางโครงการจะติดตั้งมาให้กับตัวบ้าน ทางซ้ายมือจะเป็นประตูห้องน้ำค่ะ
ห้องน้ำเป็นแบบหน้ากว้าง ตัวพื้นจะลดระดับลงต่ำกว่าพื้นในบ้าน โดยภายในแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งออกจากกัน ในส่วนพื้นที่อาบน้ำจะไม่มีฉากกั้นมาให้นะคะ
อ่างล้างหน้าเป็นแบบแขวนลอยติดตั้งกับ Low Wall ยี่ห้อ BathLine ก็อกน้ำเป็นแบบก้านโยกเดี่ยวของยี่ห้อ Novabath ด้านหลังมีพื้นที่ไว้สำหรับวางของได้เล็กน้อย
โถสุขภัณฑ์ใช้ของ Bathline เช่นเดียวกัน สายฉีดชำระและอุปกรณ์เสริมในห้องน้ำใช้ยี่ห้อ Novabath ลักษณะการใช้งานจะต้องเอี้ยวตัวไปทางด้านหลัง ถือว่ายังอยู่ในระยะที่พอหยิบจับใช้งานได้
ส่วน Shower มีการทำช่องที่ผนังไว้สำหรับเก็บของ ตัวฝักบัวเป็นของยี่ห้อ Bathline มีถาดเล็กๆไว้สำหรับวางสบู่ได้ ด้านล่างมีก็อกน้ำ Service เสริมให้อีกจุดหนึ่ง
พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1.27×0.80 ม. มีการยกขอบธรณีขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำไหลออกไปด้านนอก
ตรงกลางมีหน้าต่างบานกระทุ้งสำหรับระบายอากาศ ฝ้าเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาว ติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 2 จุดค่ะ
ห้องครัวแบบปิด แยกการใช้งานออกเป็น 2 ฝั่ง ท็อปเคาน์เตอร์ปูด้วยหินแกรนิต ช่องเก็บของด้านล่าง ติดตั้งหน้าบานเปิดมาให้แล้วเรียบร้อย พื้นที่ด้านข้างฝั่งซ้ายของเคาน์เตอร์เว้นไว้สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าขนาด 1.0×0.60 ม. ฝั่งขวาใส่ตู้เย็นขนาด 0.77×0.60 ม. ภายในส่วนครัวปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิก ข้อดีคือทนทานและทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ
ประตูด้านข้างสามารถเปิดออกสู่ลานซักล้างได้ ตัวอ่างล้างจานใช้ยี่ห้อ Franke เป็นทรงก้นลึก ทำให้น้ำไม่ประเด็นขึ้นมา และมีพื้นที่พักด้านข้างไว้สำหรับวางภาชนะที่เปียกด้วย เหนืออ่างขึ้นไปเป็นหน้าต่างบานเลื่อนกระจก ได้รับทั้งแสงธรรมชาติและการระบายอากาศที่ดี
ลานซักล้างด้านหลังเป็นพื้นคอนกรีตลดระดับลงไปค่ะ สามารถทำเป็นส่วนตากผ้าได้ ไม่รบกวนสายตา
บันไดหลักของบ้านเป็นบันได คสล. ปิดท็อปด้วยไม้สังเคราะห์กว้าง 1 ม. ลูกนอนกว้าง 25.50 ซม. ลูกตั้งสูง 18 ซม. ด้านข้างเป็นราวจับแนวยาวไปตลอดแนวผนัง อีกฝั่งเป็นผนังสีขาวฉาบเรียบทาสีค่ะ
ชานพักบันไดเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม ขึ้น-ลงได้ง่ายถือว่าปลอดภัยในระดับนึงค่ะ ส่วนหน้าต่างด้านบนเป็นบาก Fixยาว ได้แสงธรรมชาติในเวลากลางวัน ส่วนตรงกลางมีช่องระบายอากาศ ส่วนด้านล่างเป็นบานกระทุ้งเปิดออกเพื่อระบายอากาศได้
เมื่อขึ้นบันไดมาก็จะเจอกับโถงอเนกประสงค์เป็นอย่างแรก ซึ่งมีขนาดค่อนข้างกว้าง สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นเล็กๆตามใจชอบได้เลย ในส่วนของวัสดุพื้นชั้น 2 จะปูด้วยลามิเนตค่ะ
เริ่มกันที่ห้องนอน 1 หรือห้อง Master Bedroom สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตไว้ตรงกลางได้ โดยที่ยังเหลือพื้นที่ไว้สำหรับโต๊ะข้างเตียงเล็กๆได้อีกด้วย บรรยากาศในห้องดูกว้างและโล่งสบาย เพราะมีช่องแสงให้ทั้งทางฝั่งหัวเตียงและด้านข้าง
ช่องแสงที่ด้านข้างคือประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอนที่เปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัวภายนอกได้ โดยผ่านทางเดินที่หน้าเตียงที่มีขนาดกว้าง 0.78 ม.
ระเบียงมีขนาด 3.3×2.7 ม. สามารถวางเก้าอี้ 2 ชุดและโต๊ะน้ำชาเล็กๆไว้นั่งเล่นผ่อนคลาย ก็ได้บรรยากาศในตอนที่แดดร่มไปอีกแบบ
อีกฝั่งนึงของห้องเป็นส่วนพื้นที่แต่งตัว ที่สามารถเดินเชื่อมต่อเข้าสู่ห้องน้ำภายในได้
ด้านข้างมีระเบียงกั้นด้วยบานเลื่อนกระจก 2 ตอน พื้นที่ระเบียงขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถเปิดระบายอากาศ รับลมได้ หรือจัดให้เป็นส่วนพื้นที่สีเขียวตกแต่งเล็กๆก็ได้ค่ะ
ตัวอย่างไอเดียการตกแต่งพื้นที่ใช้งาน ในส่วนห้องแต่งตัวจากทางโครงการ โดยด้านหลังโต๊ะเครื่องแป้งยังมีหน้าต่างบานเปิดที่ช่วยทำให้ห้องสว่าง และถ่ายเทอากาศได้ดีค่ะ
อ่างล้างมือชนิดฝังกับเคาน์เตอร์ กระจกด้านหลังเป็นแบบเต็มบาน ทำให้ห้องน้ำยิ่งดูกว้าง
ห้องน้ำเป็นแบบหน้ากว้าง ประตูเปิดเข้าตรงกาลาง พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิก
ห้องนอน 2 นำเสนอไอเดียที่ตกแต่งเป็นห้องสำหรับเด็ก มีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้าง
ห้องนอน 2 จัดไว้เป็นห้องสำหรับเด็กเป็นไอเดียจากบ้านตัวอย่าง ซึ่งเราสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ รูปแบบบ้านนี้ค่อนข้างเหมาะสมกับครอบครัวขนาดเล็ก ตั้งแต่ 2-3 คนขึ้นไป ก็จัดได้ว่าอบอุ่นกำลังดีค่ะ
สวิตช์ไฟใช้ของยี่ห้อ Haco ค่ะ
ห้องนั่งเล่นและส่วนพื้นที่รับประทานอาหาร
ภาพตัวบ้านจริงจากในโครงการ
ต่อมาเป็นบ้านไซส์ M ของโครงการอย่าง Freezia พื้นที่ใช้สอย 243 ตร.ม. ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ มีทั้งหมด 68 ยูนิต ถือว่ามากที่สุดในโครงการเลยค่ะ จากรูปจะเห็นได้ว่าตัวบ้านในแต่ละรูปแบบจะคง Concept ของหลังคา 3 Layers ที่ลดหลั่นกัน และซุ้มทางเข้าด้านหน้าบ้านจะเป็น Arch โค้ง ตัวผนังด้านนอกทาด้วยสีขาว ซึ่งก็ถือเป็นจุดเด่นของสถาปัตยกรรมแบบ Cape Dutch นั่นเอง
หน้าตาแปลนของบ้านรูปแบบ Daisy และ Freezia จะค่อนข้างคล้ายกัน แต่แบบ Freezia จะได้พื้นที่ที่กว้างและลึกมากกว่า จะเห็นได้จากห้องด้านหน้าที่สามารถเพิ่มห้องน้ำเข้ามาได้ด้วย เหมาะกับบ้านที่มีผู้สูงอายุและต้องการที่จะพักผ่อนด้านล่างเพื่อความสะดวก ในส่วนของห้องนอนและครัวแบบปิดมีโถงคั่นอยู่ตรงกลาง มีหน้าต่างบานเลื่อนกระจก ทำให้ได้ช่องแสงและพื้นที่ระบายอากาศเพิ่มมากขึ้น ในครัวที่ Counter ที่ถูกแยกเป็น 2 ฝั่ง สามารถวางไอส์แลนด์เล็กๆไว้สำหรับเก็บของหรือเป็นพื้นที่เตรียมอาหารได้ค่ะ
ที่ชั้น 2 จะมีห้องนอนอยู่ทั้งหมด 3 ห้อง โดยทุกห้องมีห้องน้ำในตัวทั้งหมด ถือว่าสะดวกต่อการใช้งานมากค่ะ เมื่อเดินขึ้นบนไดมาจะเจอกับโถงอเนกประสงค์และ Corridor ยาวๆ แต่พื้นที่ในส่วนนี้จัดว่าไม่ได้ทึบเกินไป เพราะมีช่องแสงจากโถงบันไดและด้านข้างค่ะ ในส่วนห้องนอน 1 พื้นที่ห้องแต่งตัว สามารถเดินเข้าได้ทั้ง 2 ทางจากฝั่งหัวเตียง ด้านข้างมีระเบียงขนาดเล็กสามารถเปิดให้อากาศช่วยถ่ายเทได้ นอกจากนี้ยังมีโซนไว้สำหรับจัดเป็นมุมพักผ่อนหรือทำงานเพิ่มได้อีกด้วย
บริเวณด้านหน้าคือโรงจอดรถที่มีขนาด 7.90×5.60 ม. ด้วยสแปนของอาคารที่มีหน้ากว้างทำให้ต้องมีเสามารับตรงกลาง จึงแบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็น 2 ฝั่งคือจอดได้ 2 คันและ 1 คัน
เพิ่มเติมสำหรับใครที่มีความสนใจหรือใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอยู่แล้ว ทางโครงการนี้ก็ได้ทำการต่อ Junction Box ไว้สำหรับ EV Charger ด้วยนะ โดยจะมีแค่ในรูปแบบบ้านขนาด 243 ตร.ม. และ 333 ตร.ม. เท่านั้นค่ะ แต่ก็ถือว่าเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจทีเดียว
ประตูห้องครัวเปิดออกมาสู่ลานซักล้าง ได้พื้นที่ๆเป็นสนามหญ้าค่อนข้างกว้าง ตัวพื้นจะมีสเต็ปลดลงมา ทำให้สามารถเดินลงมาใช้งานได้
พื้นที่ด้านหลังจะเห็นส่วน Bay Window ที่ยื่นออกมา 80 ซม. ซึ่งโดยปกติแล้วด้านหลังที่ติดกับอาคารข้างเคียงจะได้พื้นที่ประมาณ 2 เมตร แต่ในโครงการนี้ จะได้พื้นที่ด้านหลังที่มีขนาดถึง 3 เมตรค่ะ
สวนด้านข้างที่ติดกับห้องนั่งเล่น สามารถต่อเติมออกมาเป็นเฉลียงไว้สำหรับนั่งเล่นพักผ่อน สำหรับใครที่อยากสูดอากาศ รอบข้างก็มีทั้งไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่ที่ช่วยให้ร่มเงาได้ด้วยค่ะ
ลักษณะของบ้านยังคงมีซุ้มโค้งทางเข้าที่เป็นตัวแบ่งฟังก์ชันระหว่างส่วน Service และส่วนพักผ่อนเอาไว้เช่นเคย
เมื่อเข้ามาด้านในก็จะเจอกับห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ด้านหน้าค่ะ ภายในตัวบ้านปูพื้นด้วยกระเบื้องยาง SPC ค่ะ
มีช่องแสงทั้งทางด้านข้างที่เป็นบานเลื่อนกระจกและหน้าต่างที่อยู่ด้านหลัง ในไอเดียจากบ้านตัวอย่างก็สามารถปรับเปลี่ยนออกมาเป็นห้องทำงาน ที่มีมุมพักผ่อนเล็กๆอยู่ภายในด้วยได้ หรือจะจัดเป็นห้องนอน ก็ถือว่าสะดวกมาก เพราะมีห้องน้ำอยู่ภายในตัวค่ะ
ประตูห้องน้ำเปิดเข้าจากทางด้านข้าง มี Low Wall ด้านหลังสามารถวางของใช้เล็กน้อยได้ ส่วนเปียกและส่วนแห้งแยกกันชัดเจนเป็นสัดส่วน มีหน้าต่างบานกระทุ้งที่สามารถเปิดทิ้งไว้เพื่อให้ระบายอากาศได้
โถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าใช้ของยี่ห้อ Bathline ก็อกน้ำ สายฉีดชำระและที่เก็บกระดาษทิชชู่ใช้ของยี่ห้อง Novabath ค่ะ
พื้นและผนังของห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิก โดยในส่วนเปียกมีการยกขอบขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำไหลออกภายนอก
ผนังมีช่องเก็บของ 2 ตำแหน่งอยู่ในระยะที่เอื้อมหยิบได้ง่าย ก็อก Service ด้านล่างกับฝักบัวอาบน้ำใช้ของยี่ห้อ Bathline ค่ะ
ระยะจากหลังโซฟาถึงหน้าทีวีประมาณ 3.40 ม. สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้ตั้งแต่ 2-3 ที่นั่ง และสามารถวางชุดเก้าอี้เพิ่มเติมได้อีกด้วย ด้านข้างมีประตูบานเลื่อนกระจกเชื่อมต่อกับส่วนระเบียง และพื้นที่สวนทางด้านหน้าของตัวบ้านได้
ในส่วนของพื้นที่รับประทานอาหารที่เชื่อมต่อกัน หน้าต่างบาน Fix กระจกตรง Bay window เป็นแบบ Fameless หรือไร้ขอบ ทำให้เปิดมุมมองได้กว้างมากยิ่งขึ้น
อีกฝั่งคือพื้นที่ส่วน Service ออกแบบคล้ายกับรูปบ้านแบบอื่นๆ แต่จะได้พื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มมากขึ้น
มีโถงคั่นระหว่างห้องครัวและห้องน้ำ ทำให้พื้นที่บ้านมีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น เราสามารถจัดชั้นหรือตู้ขนาดเล็กมาวางไว้เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของได้อีกนะคะ
ห้องน้ำในส่วนนี้เป็นแบบ Powder Room เพราะในส่วนห้องอเนกประสงค์ด้านหน้าได้มีพื้นที่ส่วนอาบน้ำไปแล้ว การใช้งานส่วนใหญ่จึงใช้รับแขกเป็นสำคัญ
อ่างล้างหน้าเป็นแบบฝังครึ่งเคาน์เตอร์ ใช้ยี่ห้อ Bathline และก็อกน้ำของยี่ห้อ Novabath ตัวเคาน์เตอร์มีลักษณะเป็นแนวยาวทำให้มีพื้นที่วางของได้เยอะเลยค่ะ
โถสุขภัณฑ์ใช้ยี่ห้อ Bathline มีฝารองนั่งอัตโนมัติของยี่ห้อ Novita ติดตั้งมาให้ด้วย ส่วนสายฉีดชำระและที่เก็บกระดาษทิชชู่ใช้ของยี่ห้อ Novabath ค่ะ
ด้านบนมีการติดตั้งหน้าต่างบานกระทุ้งไว้สำหรับระบายอากาศ ฝ้าเป็นฝ้าฉาบเรียบสีขาว ติดตั้งไฟดาวน์ไลท์ไว้ให้ค่ะ
พื้นที่ครัวแบ่งลักษณะการใช้งานออกเป็น 2 ฝั่ง เคาน์เตอร์เป็นแบบก่อ ปูท็อปด้วยหินแกรนิต ฝั่งขวาเว้นช่องไว้สำหรับใส่ตู้เย็นขนาด 0.60×0.75 ม. มีประตูที่เปิดออกไปลานซักล้างได้ และมีหน้าต่างบานเปิดทั้ง 2 ฝั่งที่ช่วยระบายอากาศเวลาทำอาหารได้ดีค่ะ ภายในส่วนครัวปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิกเช่นเดียวกันค่ะ
อ่างล้างจานติดตั้งไว้ตรงกลางเคาน์เตอร์ มีพื้นที่ด้านซ้าย-ขวาสำหรับวางของได้ มีหน้าต่างบานเลื่อนอลูมิเนียมไว้ใช้เพื่อเปิดระบายอากาศ ตัวช่องด้านล่างมีบานเปิดติดตั้งมาให้ครบชุด รวมถึงชั้นวางของด้านบนด้วย
ลานซักล้างภายนอก ติดตั้งท่อเตรียมไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้า
ต่อมาเราจะขึ้นไปที่บริเวณชั้น 2 ของบ้านกันค่ะ โดยความกว้างของบันไดก็จะมีขนาด 1 ม. เท่ากันทุกหลัง โดยมีราวจับอยู่ทางขวามือ
พื้นชั้น 2 ปูด้วยลามิเนต มีโถงอเนกประสงค์และทางเดินยาว ซึ่งชั้นนี้จะประกอบด้วยห้องนอน ทั้งหมด 3 ห้องค่ะ
ห้องนอน 1 ในบ้านตัวอย่างได้จัดตำแหน่งของเตียงนอนให้อยู่ตรงกลางและมีทางเดิน 2 ฝั่ง โดยกั้นผนังด้านหนึ่งไว้ แล้วใช้ทางเดินเพียงฝั่งเดียวเดินเข้าสู่ส่วนแต่งตัว แต่ในบ้านหลังจริงจะเป็นห้องเปล่ากว้างๆให้เราจัดแบ่งการใช้งาน ได้เองตามความชอบเลยนะคะ ส่วนด้านข้างเตียงมีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานเปิดและประตูบานเลื่อนกระจกค่ะ
ฝั่งปลายเตียงจัดเป็นมุมพักผ่อนส่วนตัว วาง Daybed หรือโต๊ะข้างเล็กๆได้ตามความชอบ ด้านข้างมีหน้าต่างบานกระทุ้งช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดีค่ะ
ส่วนห้องแต่งตัวเดินเชื่อมกับห้องน้ำภายในได้ โดยมีขนาด 1.00×4.45 ม.
ประตูเปิดเข้าตรงกลางห้องน้ำ ฝั่งขวาเป็นเคาน์เตอร์วางอ่างล้างหน้า ฝั่งซ้ายเป็นส่วนอาบน้ำ
ห้องนอน 3 มีหน้าต่างบานเลื่อนทางด้านหลัง และประตูที่เปิดเชื่อมกับระเบียงภายนอก
ห้องนอนเป็นแบบหน้ากว้าง ประตูเปิดเข้าตรงกลาง สามารถกั้นห้องเพิ่มเติมสำหรับเป็นส่วนแต่งตัวได้
รั้วด้านหน้าเป็นแบบเลื่อน 2 ตอน
Zinnia คือแบบบ้านที่มีขนาดเล็กที่สุดในโครงการ มีพื้นที่ใช้สอย 153 ตร.ม. ซึ่งเมื่อเทียบกับบ้านเดี่ยว 2 ชั้นทั่วไป ก็ไม่ถือว่าเล็กเลยนะคะ โดยแบบบ้านนี้ประกอบไปด้วย 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำและ 2 ที่จอดรถ มีจำนวนทั้งหมด 40 ยูนิตค่ะ
เริ่มจากโรงจอดรถสามารถจอดรถได้ 2 คัน มีเฉลียงด้านหน้าเป็นทางเดินยาว เมื่อลงจากรถแล้ว สามารถเข้าจากด้านข้างที่เป็นพื้นที่ในร่มได้เลย ติดกับอีกฝั่งเป็นพื้นที่สวน สามารถปรับแต่งเป็นมุมนั่งเล่นได้ ลักษณะบ้านเป็นแบบหน้ากว้าง เน้นพื้นที่ใช้สอย ห้องนั่งเล่นมีประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน เปิดออกสู่เฉลียงด้านข้างได้ ส่วนรับประทานอาหารยังคงมีฟังก์ชัน Bay Window ถึงจะไม่ได้ยื่นออกไปเหมือนแบบบ้านอื่นๆ แต่ก็ยังมีหน้าต่างทรงสูงที่ทำให้บ้านดูโล่งและโปร่งมากขึ้น ห้องครัวได้เป็นแบบครัวปิด เหมาะกับการทำอาหารโดยไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นและควันจะรบกวนภายในตัวบ้าน ลานซักล้างอยู่ด้านนอกและมีห้องเก็บของใต้บันได
ชั้น 2 ของตัวบ้าน ฟังก์ชันการใช้งานประกอบประกอบด้วย 2 ห้องนอน และ 2 ห้องน้ำ ซึ่งมีพื้นที่แต่งตัวแยกและห้องน้ำอยู่ภายในตัว โดยใช้โถงอเนกประสงค์เป็นตัวแจกเข้าสู่พื้นที่ห้องต่างๆ
พื้นที่จำลองการตกแต่งสวนด้านหน้าตัวบ้าน
Camelia พื้นที่ใช้สอย 188 ตร.ม. แบบบ้านไซส์ S ของโครงการ ที่มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 66 ยูนิต ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำและ 2 ที่จอดรถ โดยรูปแบบตัวบ้านยังคงดูสวยงามกลมกลืนไปด้วยกันค่ะ สังเกตได้จากช่องแสงทั้ง 3 บานตรงหน้าจั่ว จะเหมือนกับรูปแบบอื่นๆเลยนะคะ
ชั้น 1 ของตัวบ้าน จะมีห้องอเนกประสงค์อยู่ด้านหน้า ติดกับห้องน้ำชั้นล่างที่มีเพียงห้องเดียว แต่ก็ถือว่าใช้งานได้อย่างสะดวก แถมตำแหน่งยังอยู่ลึกเข้ามา ไม่ถือว่าสะดุดตาหรือรบกวนเวลาคนเข้า-ออก ส่วนนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหารเดินเชื่อมถึงกันได้ ด้านหลังยังคงมี Bay Window ที่จัดไว้เป็นมุมนั่งเล่น ชมวิวสวนแบบสบายๆ ส่วนห้องครัวยังคงได้เป็นแบบครัวปิด ในส่วนของซักล้างจะเหมือนกับบ้านแบบ Freezia คือ มีการต่อท่อไว้สำหรับเครื่องซักผ้าที่ด้านนอก ไม่ได้อยู่ในครัวเหมือนแบบอื่นๆ ซึ่งถ้าใครที่ค่อนข้างกังวลเรื่องความปลอดภัยก็สามารถต่อเติมเป็นประตูกั้นภายหลังได้ค่ะ
ชั้น 2 ประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ 3-4 คน โดยมีเพียงห้องนอน 1 เท่านั้นที่จัดเป็น Master Bedroom ถึงจะมีห้องน้ำอยู่ภายในตัว ส่วนอีก 2 ห้องนั้น สามารถใช้ห้องน้ำร่วมกันที่ตรงกลางได้ ส่วนระเบียงด้านนอกเองก็จะเปิดเชื่อมกันที่ห้องนอน 1 ค่ะ
โรงจอดรถด้านหน้าขนาด 5.3x6.3 ม.
มาถึงแบบบ้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ คือ Peony มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 333 ตร.ม. ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ และห้องแม่บ้านที่มีห้องน้ำในตัว มีจำนวน 8 ยูนิตจากทั้งโครงการ
แปลนชั้น 1 ได้เฉลียงด้านหน้าเป็นแนวกว้าง มีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างมาก เมื่อเข้ามาจะเจอกับห้องรับแขกและห้องรับประทานอาหารแบบ Open Plan ด้วยช่องแสงและหน้าต่างกระจกที่มีทั้ง 2 ฝั่ง นอกจากจะได้วิวและแสงธรรมชาติแล้ว ยังทำให้บ้านดูกว้าง ปลอดโปร่งและถ่ายเทอากาศได้ดี ในส่วนห้องนอนที่ด้านล่าง จัดเป็นมุมโซฟานั่งเล่นที่สามารถเปิดประตูบานเลื่อนกระจกออกสู่เฉลียงด้านหน้าได้ เป็นห้องที่ออกแบบมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมเพื่อ Universal Design ห้องน้ำมีขนาดใหญ่กว่าปกติ เข็นรถเข็นเข้าออกได้ เหมาะสำหรับครอบครัวขยายที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย
โถงทางเดินมีขนาดหน้ากว้างเท่ากับบันได ได้ห้องเก็บของใหญ่ สามารถเปิดเข้า-ออกได้ทั้งจากภายในและภายนอก ห้องครัวเป็น Counter 2 ฝั่งแบบหน้ายาว ที่ประตูเปิดออกไปที่ลานซักล้างด้านหลัง ถือว่าเป็นช่องระบายอากาศไปในตัว ส่วนห้องแม่บ้านจะเข้าได้จากภายนอก มีห้องน้ำส่วนตัวแยกออกมาต่างหาก ใช้งานได้สะดวกค่ะ
บริเวณชั้น 2 ประกอบไปด้วย 3 ห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัว สำหรับห้องนอน 1 หรือ Master Bedroom มีพื้นที่ระเบียงที่ออกมาใช้งานได้ ห้องนอนอื่นๆก็มีพื้นที่แต่งตัวที่แยกออกมาเป็นสัดส่วนได้อย่างลงตัว โถงทางเดินมีขนาดกว้าง มีพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่นหรือพื้นที่พักผ่อนที่คนในบ้านจะสามารถมาใช้ร่วมกันได้
โรงจอดรถขนาด 7.90x5.90 ม.
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
สราญสิริ บางนา ราคา ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2565
- Zinnia บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50.75 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 153 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6 ล้านบาท*
- Daizy บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50.75 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.49 ล้านบาท*
- Camilia บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50.75 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 188 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท*
- Freesia บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 65.20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 243 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 8.69 ล้านบาท*
- Peony บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 96.50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 333 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 13.99 ล้านบาท*
- Promotion ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน
- จองและทำสัญญา 30,000-10,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 50,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 39 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง
โครงการตั้งอยู่ในช่วงถนนบางนา-ตราด. กม.26 ถือว่าเป็นโซนพื้นที่ที่กำลังพัฒนาขยับขยายออกมาจากตัวเมือง บรรยากาศตลอดเส้นทางจึงเป็นชุมชนที่ค่อนข้างคึกคัก เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของกลุ่มคนทำงานที่ใหญ่อีกแห่งหนึ่งเลยทีเดียว ทั้งยังอยู่ใกล้กับสถานศึกษาหลายแห่ง โรงเรียน โรงพยาบาลและห้างสรรพสินค้า ก็มีรองรับอยู่อย่างครบครัน เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ในการเดินทางเป็นหลัก มีถนนบางนา-ตราด และทางพิเศษบูรพาวิถี สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าเมือง หรือสำหรับใครที่อยากออกไปพักผ่อนหย่อนใจก็สามารถใช้เส้นทางมุ่งหน้าออกสู่ชลบุรี-พัทยาได้
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน
โครงการนี้มีการออกแบบให้มีทางเข้า 2 ชั้นหรือเรียกว่า Double Gate แยกในส่วนของลูกบ้านและผู้มาติดต่อ ซึ่งลูกบ้านจะใช้ Key Card Access ระบบอัตโนมัติแบบ RFID เพื่อเข้า-ออก และรอบโครงการจะมีกล้องวงจรปิดพร้อมรปภ.ดูแล 24 ชั่วโมง ส่วนในตัวบ้านจะมี Magnetic Sensor ติดตั้งไว้ที่ประตู-หน้าต่างชั้น 1 ให้ ซึ่งถือว่ามีการออกแบบที่คำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยในระดับนึงเลยค่ะ
การออกแบบโครงการ : แนวคิดการออกแบบภาพรวมของโครงการชัดเจน ทั้งซุ้มทางเข้า อาคาร Clubhouse สวนหย่อมส่วนกลาง และตัวบ้านรูปแบบต่างๆ สอดคล้องกันและได้บรรยากาศบ้านสวนแนวยุโรป การจัดวางผังโครงการไม่ซับซ้อน ใช้งานได้ง่าย
การออกแบบบ้าน : มีรูปแบบให้เลือกหลากหลาย ในสไตล์ Urban Farmhouse ซึ่งความแตกต่างหลักๆจะอยู่ที่ขนาดและจำนวนห้อง ด้วยลักษณะของบ้านที่เป็นหน้ากว้าง ทำให้ได้ช่องแสงและการระบายอากาศที่ดี ส่วนตำแหน่งของห้องต่างๆค่อนข้างคล้ายกัน การแบ่งสัดส่วนจัดได้ลงตัว มีส่วนครัวแบบปิด ลานซักล้างและห้องเก็บของแยกส่วนไว้ใช้งานในทุกหลัง และห้องนอนส่วนใหญ่จะได้ห้องน้ำในตัวด้วย
วัสดุ
วัสดุส่วนใหญ่เป็นไปตามมาตรฐานของโครงการ บริเวณพื้นบ้านชั้น 1 ปูด้วยกระเบื้องยาง SPC ที่มีความแข็งแรงมากกว่ากระเบื้องยางทั่วไป อัตราการยืดหดตัวน้อยกว่า จึงใช้งานได้ทนทานมากกว่า รวมถึงนวัตกรรมของช่องระบายอากาศที่ติดมากับหน้าต่างช่วยให้อากาศสามารถถ่ายเทได้ดีขึ้น ส่วนครัวได้เคาน์เตอร์แบบก่อ ปูท็อปด้วยแกรนิต พร้อมติดตั้งหน้าบานครบชุด ห้องน้ำได้สุขภัณฑ์ครบตามมาตรฐาน ฝารองนั่งอัตโนมัติพร้อมใช้งานในบางห้อง
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ
พื้นที่สีเขียวของโครงการมีขนาดรวมกันประมาณ 3 ไร่ โดยแบ่งเป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่ 2 จุด และยังมีทะเลสาบหรือ Lake 26 ที่เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการ ซึ่งในวันที่ไปเก็บข้อมูล ทางโครงการนั้นยังก่อสร้างได้ไม่เสร็จสมบูรณ์ดี แต่จากรายละเอียดที่ได้รับมารวมกับบรรยากาศหน้างานโดยรอบ คาดว่าเมื่อก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะได้พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจที่มีกลิ่นอายแบบยุโรป ด้วยลักษณะของพืชพรรณไม้และ Hardscape โดยรอบ ซึ่งสามารถรองรับกิจกรรมของลูกบ้านได้ทุกเพศทุกวัย
สาธารณูปโภค
Facility หลักๆของโครงการจะอยู่ที่อาคาร Clubhouse ของโครงการ ซึ่งได้มารับมาอย่างครบครันตามมาตรฐานนะคะ โดยตำแหน่งที่ตั้งจะอยู่ตรงกลาง สามารถมาใช้งาน เข้าถึงได้ง่าย ฟังก์ชันด้านในก็จะมีทั้งสระว่ายน้ำระบบเกลือ สระสำหรับเด็กและพื้นที่ Play Pool ห้องออกกำลังกาย พร้อมทั้งอุปกรณ์คาดิโอและเวทเทรนนิ่ง Multi-Purpose Room และ Co-Working Space ค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 6 – 12 ล้านบาท* , 5 กรกฎาคม 2565
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7/10 – อยู่บนถนนรอง แต่สามารถเดินทางเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง
- ความปลอดภัย 8/10 – Double Gate เข้า-ออก IRFD พร้อมสัญญาณกันขโมย
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – จัดสัดส่วนของฟังก์ชันได้ดี รองรับผู้ใช้งานได้หลากหลาย
- วัสดุ 8/10 – มาตรฐานของราคา เหมาะสมกับการใช้งาน
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ แนวคิดในการออกแบบสอดคล้องกับการใช้งานได้ดี
- สาธารณูปโภค 8/10 – สวนหย่อม 2 แห่งในโครงการ อาคาร Clubhouse และ ทะเลสาบ
- 7.8 / 10.00
สราญสิริ บางนา เหมาะกับใคร
โครงการ สราญสิริ บางนา เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มมีครอบครัวไปจนถึงผู้ที่มีครอบครัวขนาดใหญ่ มีฟังก์ชันห้องนอนชั้นล่างเอาไว้สำหรับรองรับผู้สูงอายุ คนทำงานอยู่ในละแวกบางนา-ตราด เทพารักษ์ มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 6 – 12* ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 37,060-74,120 บาท
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc